More Related Content
Similar to 5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new)
Similar to 5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new) (20)
More from Jitjaree Lertwilaiwittaya
More from Jitjaree Lertwilaiwittaya (19)
5.3 5.5 ปฏิรูปศาสนา-ปฏิวัติอุตสาหกรรม(new)
- 1. หน่ วยการเรียนรู้ที่ 5 พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่
การปฏิรูปศาสนา
กาเนิดรัฐชาติ
การปฏิวตทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิวตอตสาหกรรม
ั ิ
ั ิุ
- 5. การปฏิรูปศาสนา (Religious Reformation) เกิดขึ้นในคริ สต์ศตวรรษที่ 16 มี
สาเหตุสาคัญมาจากความเสื่ อมความนิยมในผูนาทางศาสนาและการเกิดแนวคิดใหม่
้
เกี่ยวกับศาสนา เนื่องจากมีการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและแปลออกเป็ นภาษาต่างๆ เช่น
ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ทาให้คริ สต์ศาสนิกชนมีความรู ้ความเข้าใจใหม่
การปฏิรูปศาสนาจึงเกิดขึ้นในหลายๆประเทศ โดยมีผนาการปฏิรูปหลายคนและใช้ชื่อ
ู้
แตกต่างกัน
การปฏิรูปคริสต์ ศาสนา หมายถึง ขบวนการในยุโรปตะวันตกที่ปัจเจกชนและ
สถาบันต่างๆ แสดงความเห็นคัดค้านการปฏิบติที่ไม่ถูกต้องตามหลักในคัมภีร์ไบเบิล
ั
การปฏิรูปเป็ นไปอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดคริ สต์ศาสนาในยุโรปได้แตกแยกเป็ น
2 นิกาย คือโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์
- 6. 1.1 สาเหตุของการปฏิรูปศาสนา
่
1. ความเป็ นอยูของสันตะปาปาและพระชั้นสู งบางองค์มีความฟุ่ มเฟื อย สะสมทรัพย์
สมบัติไว้ให้ลก และยังเรี ยกเก็บภาษีสูงขึ้นเพื่อนาเงินไปใช้จ่ายในคริ สตจักร มีการซื้ อ
ู
ขายตาแหน่งกัน รวมทั้งชาวยุโรปมีการศึกษาที่สูงขึ้นจึงไม่เชื่อคาสั่งสอนของ
ฝ่ ายศาสนจักร และเกิดความคิดที่จะปรับปรุ งศาสนาให้บริ สุทธิ์
- 7. 1.1 สาเหตุของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
2. สันตะปาปาทรงมีฐานะเป็ นเจ้าผูปกครองฝ่ ายศาสนจักร มีส่วนร่ วมทางการเมืองของ
้
ยุโรปและเข้าไปครอบงารัฐต่างๆ ทาให้เจ้าผูครองแคว้นต่างๆต้องการเป็ นอิสระต้องการ
้
ปฏิรูปศาสนา
3. ศาสนจักรมุ่งเน้นพิธีกรรมมากจนเกินไป ทาให้ประชาชนต้องการทาความเข้าใจใน
หลักธรรมทางศาสนามากขึ้น จนมีนกคิดเสนอว่ามนุษย์ควรเข้าถึงพระเจ้าและทาความ
ั
เข้าใจในคัมภีร์ไบเบิลด้วยตนเองมากกว่าผ่านทางพิธีกรรมของศาสนจักร
- 8. 1.1 สาเหตุของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
4. สันตะปาปาจูเลียสที่ 2 และสันตะปาปาลีโอที่ 10 ต้องการงบประมาณในการก่อสร้าง
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ จึงส่ งสมณทูตมาขายใบยกบาปในดินแดนเยอรมัน ด้วยภาวะ
ทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ทาให้เกิดกลุ่มต่อต้านคริ สตจักรทั้งขุนนาง นักคิด
และปัญญาชนในเยอรมัน
http://www.bloggang.com/viewdiary.php
มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์
จากภาพเขียนโดยวิเวียโน โคดาซซี (Viviano Codazzi)
เมือ ค.ศ. 1630 หอสองหอทีเ่ ห็นในภาพถูกรี้อภายหลัง
่
http://en.wikipedia.org/wiki/Indulgence
การขายใบไถ่ บาป The selling of
indulgencies
- 9. 1.2 การเริ่ มปฏิรูปศาสนา
มาร์ ตนลูเทอร์ นักบวชชาวเยอรมันทาการประท้วง
ิ
การขายใบยกโทษบาปด้วยการปิ ดประกาศคาประท้วง 95 ข้อ
โดยลูเทอร์ ได้ประกาศว่า สันตะปาปาไม่ควรเก็บภาษีใน
เยอรมันเพื่อไปสร้างมหาวิหาร และสันตะปาปาไม่ได้เป็ น
บุคคลเพียงผูเ้ ดียวที่นาพามนุษย์ไปสู่ พระเจ้า ประกาศดังกล่าว
ถือว่าเป็ นที่มาของนิกายโปรเตสแตนต์ คาประกาศของเขา
ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างในเยอรมัน
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph
p?id=vinitsiri&month=022010&date=15&group=45&gblog=75
มาร์ ตินลูเทอร์
- 10. 1.2 การเริ่ มปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
ค.ศ. 1521 มาร์ตินลูเทอร์ ได้รับคาสั่งจากจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิ
่
โรมันให้เข้าไปประชุมสภาแห่ งเวิร์ม เขาถูกกล่าวหาจากจักรพรรดิวามีท่าทีเป็ น
ปฏิปักษ์ต่อคริ สต์ศาสนาและเป็ นบุคคลนอกศาสนา แต่เจ้าผูครองแคว้นแซกโซนีได้
้
อุปถัมภ์เขาไว้ และเขาได้แปลคัมภีร์ไบเบิลจากภาษาละตินมาเป็ นภาษาเยอรมัน ทาให้
ความรู ้ทางศาสนาเป็ นที่แพร่ หลายในหมู่ประชาชนเพิมมากขึ้น
่
https://th.m.wikipedia.org/wiki
จักรพรรดิชาลส์ ที่ 5
- 11. 1.2 การเริ่ มปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
หลังจากนั้น พวกเจ้านายในเยอรมันได้แบ่งเป็ น 2 ฝ่ าย คือ ฝ่ ายเหนือ ซึ่ งสนับสนุน
มาร์ตินลูเทอร์ กับฝ่ ายใต้ ซึ่ งสนับสนุนคริ สตจักรโรมันคาทอลิกที่กรุ งโรม ทาให้เกิด
สงครามกลางเมืองขึ้นใน ค.ศ. 1546 ในที่สุดก็มีการสงบศึก โดยการทาสนธิสัญญา
สันติภาพแห่งเอากส์บูร์กใน ค.ศ. 1555 โดยให้เจ้าชายเยอรมันและแคว้นของพระองค์มี
สิ ทธิ ที่จะเลือกนับถือนิกายลูเทอร์ หรื อนิกายโรมันคาทอลิกก็ได้
- 12. 1.2 การเริ่ มปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
การปฏิรูปคริ สต์ศาสนาได้ขยายตัวจาก
เยอรมันไปยังประเทศอื่นๆ ผลการปฏิรูปทาง
ศาสนาได้ก่อให้เกิดนิ กายโปรเตสแตนต์ข้ ึน
แบ่งเป็ น 3 นิกายสาคัญคือ
1.นิกายลูเทอร์ แพร่ หลายในเยอรมันและประเทศ
กลุ่มสแกนดิเนเวีย
2.นิกายคาลวิน แพร่ หลายในสวิตเซอร์ แลนด์
ฝรั่งเศส เนเธอร์ แลนด์ และสกอตแลนด์
3.นิกายอังกฤษหรือแองกลิกน เป็ นนิกายประจา
ั
ประเทศอังกฤษ
http://users.humboldt.edu/ogayle/hist110/expl.html
การปฏิรูปคริสต์ ศาสนา
- 13. 1.3 การปฏิรูปศาสนจักร
เมื่อเกิดการปฏิรูปศาสนาในดินแดนส่ วนต่างๆของยุโรป คริ สตจักรที่กรุ งโรมได้
พยายามต่อต้านปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยวิธีต่างๆได้แก่
1.ศาสนจักรได้จดการประชุมสังคายนาพระศาสนาที่เมืองเทรนต์ ในค.ศ.1545
ั
โดยมีบทสรุ ปคือ
1) สันตะปาปาทรงเป็ นประมุขของคริ สต์ศาสนา
2) การประกาศหลักธรรมทางศาสนาต้องให้ศาสนจักรเป็ นผูประกาศแก่
้
ศาสนิกชน
3) คัมภีร์ไบเบิลต้องเป็ นภาษาละติน
4) ยกเลิกการขายใบยกโทษบาปและตาแหน่งทางศาสนา มีการกาหนดระเบียบ
วินยมาตรฐานการศึกษาของพระและให้ใช้ภาษาพื้นเมืองในการสอนศาสนา
ั
- 14. 1.3 การปฏิรูปศาสนจักร(ต่อ)
2.ศาสนจักรได้ต้ งศาลศาสนาเพื่อลงโทษพวกนอกศาสนา โดยมีการลงโทษ
ั
โดยการเผาคนทั้งเป็ นการต่อต้านการปฏิรูปศาสนาของคริ สตจักรที่กรุ งโรมนั้นได้ผล
คือ นิกายโรมันคาทอลิกสามารถป้ องกันไม่ให้ศาสนิกชนโรมันคาทอลิกหันไปนับถือ
นิกายโปรเตสแตนต์เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถดึงศาสนิกชนโปรเตสแตนต์ให้กลับมานับ
ถือนิกายโรมันคาทอลิกได้
http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=1491
กองฟื นทีเ่ ตรียมไว้ เผาทั้งเป็ นพวกโปรเตสแตนท์ทยอมตายเพือรักษาความเชื่อของตน
ี่
่
- 15. 1.4 ผลของการปฏิรูปศาสนา
การปฏิรูปก่อให้เกิดผลกระทบ ได้แก่
่
1.คริสตจักรตะวันออกได้ แตกแยกเป็ น 2 นิกาย คือ นิกายโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางอยูที่
กรุ งโรม มีสันตะปาปาเป็ นประมุข กับนิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่ งแยกเป็ นนิกายต่างๆใน
ประเทศทางภาคเหนือของยุโรป ความเป็ นเอกภาพทางศาสนาของยุโรปสิ้ นสุ ดลง
2.เกิดกระแสชาตินิยมในประเทศต่ างๆ เช่น กรณี ที่มาร์ตินลูเทอร์ หนุนให้เจ้าผูครองรัฐ
้
ต่างๆ ในเยอรมันต่อต้านจักรพรรดิแห่ งอาณาจักรโรมัน ผูที่นบถือนิกายคาลวินใน
้ ั
เนเธอร์ แลนด์ ส่ วนที่เป็ นเจ้าของสเปนต่อต้านกษัตริ ยสเปนจะได้รับเอกราช
์
- 16. 1.4 ผลของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
3.เกิดการแข่งขันระหว่างนิกายต่างๆ มีการปรับปรุ งสิ่ งที่บกพร่ องเพื่อเรี ยกศรัทธาและ
่
ก่อให้เกิดขันติธรรมในการอยูร่วมกับผูนบถือนิ กายต่างกัน
้ ั
4.สภาพสังคมเปลี่ยนไป นิกายโปรเตสแตนต์ได้สนับสนุนการประกอบอาชีพ
ด้านการค้าและอุตสาหกรรม ทาให้ระบบทุนนิยมในยุโรปเจริ ญเติบโต
5.ระบบรัฐชาติแข็งแรงขึ้น การเกิดนิกายโปรเตสแตนต์ได้ส่งเสริ มวัฒนธรรมของ
แต่ละท้องถิ่น เช่น การแปลคัมภีร์เป็ นภาษาท้องถิ่น และยังส่ งเสริ มอานาจของ
ผูปกครอง ได้แก่ กษัตริ ยในฐานะตัวแทนของพระเป็ นเจ้าในการปกครองประเทศ
้
์
จึงเท่ากับส่ งเสริ มระบบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชย์
- 17. 1.4 ผลของการปฏิรูปศาสนา(ต่อ)
6.ผลของการแตกแยกทางศาสนา ทาให้เกิดสงครามศาสนาขึ้นในยุโรปหลายครั้ง เช่น
สงครามศาสนาในเยอรมนี(1546-1555) สงครามศาสนาในประเทศฝรั่งเศส (1562-1589)
สงครามสามสิ บปี (1618-1648) การเกิดสงครามศาสนาทาให้สถาบันกษัตริ ยมีอานาจ
์
เหนือคริ สตจักร เพราะสันตะปาปาต้องอาศัยอานาจของกษัตริ ยที่นบถือคาทอลิก
์ ั
ทาการต่อต้านกษัตริ ยที่นบถือโปรเตสแตนด์
์ ั
http://th.wikipedia.org/wiki/
สงครามศาสนาในประเทศฝรั่งเศส เหตุการณ์ สังหารหมู่
วันเซนต์ บาร์ โธโลมิว
- 20. 2.1 ปัจจัยที่ทาให้เกิดรัฐชาติ
2.1.1 การขยายตัวทางเศรษฐกิจการค้ า
การเปิ ดเส้นทางการเดินเรื อใหม่ๆ ทาให้เครื อข่ายการค้าขยายตัวขึ้น โดยเพิ่มทั้ง
ด้านระดับการค้า ปริ มาณและชนิดของสิ นค้า ทาให้ทองคาและเงินได้หลังไหลเข้าสู่
่
ดินแดนยุโรป กษัตริ ยจึงมีเงินนาไปสร้างเป็ นฐานอานาจทางการเมืองและการทหารใน
์
การรวมชาติ
http://jjxxsb.gog.com.cn/system/2008/02/28/010222774.shtml
เงินจากหลายประเทศ
- 21. 2.1 ปัจจัยที่ทาให้เกิดรัฐชาติ(ต่อ)
2.1.2 ความเสื่ อมของขุนนาง
ช่วงต้นสมัยใหม่ ขุนนางในระบบฟิ วดัลอ่อนแอลงและหมดสิ้ นเงินจานวนมาก
จากการรบในสงครามครู เสด ประกอบกับภาวะเงินเฟ้ อทาให้ขนนางต้องขายทรัพย์สิน
ุ
ั
่
ให้กบพ่อค้า ขุนนางจึงยากจนลงจนไม่สามารถสะสมกาลังในการสร้างความวุนวายให้
กษัตริ ย ์ แต่กลับต้องพึ่งการอุปถัมภ์ของกษัตริ ยแทน และได้กลายเป็ นข้าราชบริ พารของ
์
กษัตริ ย ์ ซึ่ งเป็ นการเพิมอานาจของกษัตริ ยให้มากขึ้น
์
่
http://th.wikipedia.org/wiki/
สงครามครู เสด
- 22. 2.1 ปั จจัยที่ทาให้เกิดรัฐชาติ(ต่อ)
2.1.3 ความสานึกในการสร้ างชาติ
ความสานึกในการสร้างชาติเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้ภาษาของตนในดินแดนต่างๆ เช่น สเปน
โปรตุเกส ฝรั่งเศส อังกฤษ แทนภาษาละตินที่เคยใช้มาแต่เดิม การมีภาษาของตนเองทา
ให้เกิดความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อชาติของตนในเวลาต่อมา
- 23. 2.2 กาเนิดระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชย์
ประเทศฝรั่งเศส โปรตุเกส สเปนและอังกฤษเกิดการล่มสลายของระบบฟิ วดัล
มีการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชย์ มีระบบการบริ หารรวมศูนย์กลางอานาจ
ไว้ที่ส่วนกลาง ประชาชนก็ยนยอมและจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริ ยที่เป็ นประมุข
ิ
์
http://www.thaigoodview.com/library/c
ontest2552/type2/social04/18/middleages
/feudal_system_i.html
ระบอบฟิ วดัล (Feudalism)
- 25. 3.1 การปฏิวติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)
ั
3.1.1 สภาพภูมหลังของการปฏิวัตทางวิทยาศาสตร์
ิ
ิ
งานด้านวิทยาศาสตร์ เป็ นที่สนใจของชาวตะวันตกมาตั้งแต่สมัยกลางแล้ว วิชา
เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เช่น ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ ได้ถกนามาบรรจุในหลักสู ตรการสอน
ู
ในมหาวิทยาลัยตะวันตกตั้งแต่สมัยคริ สต์ศตวรรษที่ 12-13
- 26. 3.1 การปฏิวติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)(ต่อ)
ั
นอกจากนี้ชาวตะวันตกได้คนพบคุณสมบัติของเลนส์และนามาทาเป็ น
้
ส่ วนประกอบของกล้องส่ องทางไกลและกล้องดูดาวช่วยในการเดินเรื อ
ในที่สุดก็สามารถพัฒนาเครื่ องมือในการวัดและการคานวณอย่างแม่นยาซึ่ งช่วย
แก้ปัญหาในการเดินเรื อ
- 27. 3.1 การปฏิวติทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Revolution)(ต่อ)
ั
วิทยาศาสตร์ ยงทาให้ชาวตะวันตกเริ่ มเป็ นกบฏทางความคิดต่ออานาจเหนือ
ั
ธรรมชาติของพระเป็ นเจ้าตามคาสั่งสอนของคริ สต์ศาสนา วิธีการศึกษาทาง
วิทยาศาสตร์ ทาให้ประชาชนต้องการหาคาตอบให้แก่ความลี้ลบของธรรมชาติที่
ั
สามารถอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ได้
- 28. 3.1.2 นักวิทยาศาสตร์
นิโคเลาส์ โคเพอร์ นิคส ชาวโปแลนด์ ได้ใช้ความรู้ทางคณิ ตศาสตร์อธิบาย
ั
ระบบสุ ริยจักรวาล ว่าโลกไม่ได้หยุดนิ่ งหรื อเป็ นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลแต่
ดาวเคราะห์ทุกดวงรวมทั้งโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่ งทฤษฎีน้ ีเป็ นการล้มล้างคาสอน
ของศาสนจักรในสมัยกลาง และล้มความเชื่อตั้งแต่สมัยกรี กโดยงานของอริ สโตเติลและ
โตเลมี
http://www.thetooi.com/1866-nicolaus-copernicus
นิโคเลาส์ โคเปอร์ นิคส
ั
http://scientistsofworld.blogspot.com/2009/12/nicolaus-copernicus.html
ระบบสุ ริยะจักรวาล
- 29. กาลิเลโอ กาลิเลอิ ชาวอิตาลีได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์เพื่อสังเกตดูการ
เคลื่อนไหวของดวงดาว เขาได้รวบรวมผลการสารวจนับสิ บปี ของเขาพิมพ์หนังสื อ
เผยแพร่ เพื่อโต้แย้งความคิดเกี่ยวกับจักรวาลวิทยาของกรี ก ซึ่ งแนวคิดของเขาขัดกับ
คาสอนของคริ สตจักร เข้าจึงถูกศาสนจักรลงโทษด้วยการประณามและถูกข่มขู่ต่างๆ
นานา
http://www.thaigoodview.com/library/students
how/2549/m6-6/no03-07/person/sec01p32.html
กาลิเลโอ กาลิเลอิ
http://www.oknation.net/blog/buzz/2009/08/25/entry-2
กล้องดูดาวแบบกาลิเลโอ" (Galileo's Telescope)
- 30. เรื่องน่ ารู้
กาลิเลโอได้รับขนานนามว่าเป็ น "บิดาแห่ง
วิทยาศาสตร์ ยคใหม่“ ได้ทาการทดลองครั้งสาคัญใน
ุ
ปี 1591 (ที่ต่อมาภายหลังได้รับการยอมรับและมีชื่อเสี ยง
่
มาก) เพื่อพิสูจน์วาทฤษฎีการตกของวัตถุที่นาเสนอโดย
อริ สโตเติลนั้นไม่ถกต้อง โดยอริ สโตเติลได้นาเสนอว่า
ู
วัตถุที่มีมวลต่างกัน เมื่อปล่อยให้ตกลงมา วัตถุที่หนัก
จะตกถึงพื้นก่อน
กาลิเลโอได้ทาการปล่อยวัตถุที่มีมวลต่างกัน 2 ชิ้น
จากยอดหอเอนปิ ซา ในเวลาพร้อมกัน ซึ่ งวัตถุดงกล่าว
ั
ดังกล่าว ได้ตกลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงโลก และถึงพื้น
่
เกือบจะพร้อมๆ กัน ซึ่ งเป็ นการพิสูจน์วาความคิดของ
อริ สโตเติลนั้นไม่ถกต้อง
ู
http://www.space.mict.go.th/astronomer.php?name=galileo
การปล่อยวัตถุทมมวลต่ างกัน 2 ชิ้น จากยอดหอเอนปิ ซา
ี่ ี
- 31. เซอร์ ฟรานซิส เบคอน นักปราชญ์ชาวอังกฤษ
ได้วางรากฐานและทัศนคติใหม่ เกียวกับวิทยาศาสตร์
่
ได้กระตุนให้ชาวอังกฤษและรัฐบาลมายอมรับ
้
ความสาคัญของงานด้านวิทยาศาสตร์และเป็ น
แรงบันดาลใจให้ต้ งราชบัณฑิตยสมาคมเพื่อส่ งเสริ ม
ั
งานค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์
http://www.baanjomyut.com/library_2/philosopher/01.html
เซอร์ ฟรานซิส เบคอน
เรอเน เดการ์ ต นักปรัชญาและ
นักคณิ ตศาสตร์ได้นาหลักคณิ ตศาสตร์
โดยเฉพาะเรขาคณิตมาพิสูจน์ และตรวจสอบ
ข้อเท็จจริ งเกี่ยวกับระบบจักรวาล
http://dieulux.exteen.com/20090818/il-pense-donc-il-est
เรอเน เดการ์ ต
- 32. เซอร์ ไอแซก นิวตัน ชาวอังกฤษ ค้นพบกฎแรงดึงดูดของจักรวาล และ
กฎแห่งแรงโน้มถ่วง โดยอาศัยหลักคณิ ตศาสตร์ ของเดการ์ ตและแนวทางการศึกษาของ
เคปเลอร์และกาลิเลโอ หนังสื อของนิวตันเป็ นที่รู้จกในชื่อ The Mathematical Priciples
ั
of Natural Knowledge นอกจากนี้นิวตันได้ทาให้นกวิทยาศาสตร์เข้าใจเรื่ องของจักรวาล
ั
สสาร พลังงานตลอดจนการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่ งต่อมาเป็ นหัวใจแห่ งวิชากลศาสตร์
อีกด้วย
http://www.oknation.net/blog/kanteen/2012/09/20/entry-1
เซอร์ ไอแซก นิวตัน
- 33. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)
ั
ในกลางคริ สต์ศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิธีการและระบบผลิต
ดั้งเดิมจากการใช้แรงงานของคน สัตว์ และพลังงานธรรมชาติ มาเป็ นการใช้เครื่ องมือ
และเครื่ องจักรกลในระบบโรงงานแทนระบบการจ่ายงานให้ไปทาตามบ้าน เพื่อผลิต
สิ นค้าชนิดเดียวกันจานวนมาก
http://www.philadelphia-reflections.com/images/indust.jpg
เครื่องจักรกลในระบบโรงงาน
- 34. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
กระบวนการผลิตแบบโรงงานดังกล่าวนี้ ทาให้เกิดระบบอุตสาหกรรมนิยม
(Industrialism) ขึ้น หรื อเรี ยกว่า การปฏิวตอุตสาหกรรม ซึ่ งเกิดขึ้นอย่างช้าๆ แต่
ั ิ
ต่อเนื่องเป็ นเวลานานนับศตวรรษ โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ และยังคง
เกิดขึ้นจนถึงปั จจุบน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและแบบแผนความเป็ นอยู่
ั
ของมนุษย์ทุกมุมโลกจากสังคมเกษตรกรรมเป็ นสังคมกึ่งเกษตรกรรม กึ่งอุตสาหกรรม
หรื อสังคมอุตสาหกรรม และมีผลกระทบให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและ
รวดเร็ วกว่ายุคใดๆ ในประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ ทั้งทางกายภาพ สิ่ งแวดล้อม และ
ระบบนิเวศ
- 35. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
3.2.1 สาเหตุของการปฏิวติอุตสาหกรรมในอังกฤษเป็ นประเทศแรก
ั
1. การปฏิวติเกษตรกรรม เกิดจากการนาเอาความรู ้ทางวิทยาศาสตร์ และวิทยาการมา
ั
ปรับปรุ งการเกษตรกรรมให้ได้ผลดีข้ ึน โดยเริ่ มต้นประมาณกลางคริ สต์ศตวรรษที่ 16
รัฐบาลออกพระราชบัญญัติลอมเขตที่ดิน มาใช้ในการปรับปรุ งเพิมผลผลิตทางการเกษตร
้
่
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ยงทาให้สามารถนาเอาวิธีการเกษตรกรรมแบบใหม่ๆ
ั
มาช่วยในการปรับปรุ งวิธีการทานาให้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้น
่
- 36. การปฏิวติเกษตรกรรมจึงทาให้องกฤษมี
ั
ั
ความรุ่ งเรื องทางเศรษฐกิจเป็ นอันมาก และมี
อาหารอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะเลี้ยงดู
ประชากรทั้งประเทศ โดยเฉพาะประชากรใน
เขตเมืองที่จะเป็ นแรงงานสาคัญต่อการพัฒนา
ระบบอุตสาหกรรมของประเทศ
http://th.wikipedia.org/wiki
การปฏิวติเกษตรกรรมในอังกฤษ
ั
นอกจากนี้องกฤษได้จดตั้งธนาคารแห่ งอังกฤษขึ้น ทาให้นครลอนดอนเป็ น
ั
ั
ศูนย์กลางทางการเงินที่สาคัญของยุโรป และเป็ นแหล่งระดมเงินทุนของรัฐบาลที่ให้
การสนับสนุนความก้าวหน้าทางวิทยาการ
- 37. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
2. คุณสมบัตเิ ฉพาะตัวของชาวอังกฤษ คือ กล้าได้กล้าเสี ย และกระตือรื อร้นต่อ
ความเปลี่ยนแปลงต่างๆอันเป็ นผลมาจากอิทธิ พลของคริ สต์ศาสนานิ กายอังกฤษ
ชาวอังกฤษโดยทัวไปมีความเชื่อว่า ความมังคังทางโภคทรัพย์เป็ นความสาเร็ จสู งสุ ด
่
่ ่
ของชีวตที่ทุกคนต้องปฏิบติ เพื่อชื่อเสี ยง เกียรติยศของตนเองและครอบครัว ทัศนคติ
ิ
ั
ทางวัตถุธรรมดังกล่าวจึงทาให้ชาวอังกฤษโดยทัวไปเห็นการค้าขายเป็ นงานมีเกียรติ
่
พร้อมจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ถ้าจะทาให้ฐานะทางเศรษฐกิจของตนมังคัง
่ ่
และมันคงยิงขึ้น
่ ่
- 38. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
3. การขยายตัวของตลาดการค้ า นโยบายการค้าแบบเสรี และการยกเลิกการเก็บภาษี
การขนถ่ายสิ นค้าผ่านด่านก่อนประเทศอื่นๆในยุโรปได้กระตุนให้มีการขยายตัวของ
้
ตลาดการค้าภายในอย่างกว้างขวาง ก่อนการปฏิวติอุตสาหกรรมได้มีการออก
ั
พระราชบัญญัติหลายฉบับในการสร้างถนน ท่าจอดเรื อ และขุดคูคลองต่างๆ เป็ น
จานวนมาก เพื่อใช้เป็ นเส้นทางคมนาคมขนส่ งสิ นค้า ให้เป็ นไปด้วยความสะดวกสบาย
และรวดเร็ วยิงขึ้น
่
- 40. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
3.2.2 อุตสาหกรรมทอผ้ ากับความก้ าวหน้ าของการปฏิวัตอุตสาหกรรม
ิ
การปฏิวติอุตสาหกรรมของอังกฤษเกิดจากการนาเครื่ องจักรไอน้ ามาใช้ในงาน
ั
อุตสาหกรรมใน ค.ศ.1721 ทอมัส นิวโคเมน สามารถสร้างเครื่ องจักรที่ใช้พลังงานไอน้ า
ใน ค.ศ.1729 เจมส์ วัตต์ ได้ปรับปรุ งเครื่ องจักรของนิวโคเมนให้ใช้ในอุตสาหกรรม
ทอผ้าได้สาเร็ จ ใน ค.ศ.1764 เจมส์ ฮาร์กรี ฟส์ สร้างเครื่ องปั่ นด้ายชื่อ สปิ นนิงเจนนี
ที่ปั่นด้ายได้พร้อมกันทีละ 16 เส้น
http://neoeu.blogspot.com/2009/11/5_01.html
สปิ นนิง เจนนี ( spinning jenny )
- 41. ต่อมาใน ค.ศ.1769 ริ ชาร์ต อาร์คไรต์ ได้ปรับปรุ งเครื่ องปั่ นด้ายสปิ นนิงเจนนีให้มี
ประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้นโดยพัฒนาเป็ นเครื่ องจักรกลที่ใช้พลังน้ าหมุนแทนแรงคน และเรี ยก
่
วอเตอร์เฟรม นับเป็ นก้าวสาคัญของการเริ่ มต้นการผลิตสิ่ งทอในอังกฤษจากที่ทากัน
ในบ้าน หรื อโรงนา มาเป็ นระบบโรงงานอุตสาหกรรมอย่างแท้จริ ง อุตสาหกรรมการ
ทอผ้าของอังกฤษได้พฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็ ว จนปริ มาณฝ้ ายที่ส่งมาจากทวีปเอเชีย
ั
ไม่เพียงพอ จึงต้องหันไปขยายตลาดค้าฝ้ ายกับทวีปอเมริ กา
http://th.wikipedia.org/wiki
โรงงานปั่นด้ ายในยุคปฏิวติอสาหกรรม
ั ุ
- 42. ในคริ สต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อโรงงานทอผ้าต่างๆได้นาเอาเครื่ องจักรไอน้ าที่
เจมส์ วัตต์ คิดประดิษฐ์ใน ค.ศ.1769 มาใช้ขบเคลื่อนเครื่ องจักรกลแทนพลังงานน้ า
ั
อีก 50 ปี ต่อมาอุตสาหกรรมการทอผ้าส่ วนใหญ่ต่างใช้เครื่ องจักรไอน้ าเป็ น
พลังขับเคลื่อนเครื่ องจักรกล
http://th.wikipedia.org/wiki
เครื่องจักรไอนาของเจมส์ วัตต์ ซึ่งเป็ นจุดเริ่มต้ นการปฏิวติอตสาหกรรม
้
ั ุ
- 43. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
3.2.3 การขยายตัวของการปฏิวัตอุตสาหกรรม
ิ
ในตอนต้นคริ สต์ศตวรรษที่ 18 อังกฤษสามารถผลิตเหล็กได้ไม่เพียงพอต่อการขยายตัว
ของอุตสาหกรรมหนักประเภทต่างๆ เมื่อเครื่ องจักรไอน้ าได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์
่
ขึ้นแล้วก็ได้มีการนาถ่านโค้ก ซึ่ งเป็ นถ่านหิ นที่ผานกระบวนการเผาจนหมดควันแล้ว
มาใช้เป็ นเชื้อเพลิงในการหลอมโลหะ ทาให้อุตสาหกรรมเหล็กของอังกฤษสามารถ
ขยายปริ มาณการผลิตได้อย่างรวดเร็ ว และมีจานวนมากเพียงพอต่อความต้องการขยาย
อุตสาหกรรมภายในประเทศ
http://th.wikipedia.org/wiki
ภาพ เหล็กและถ่ านหิน โดยวิลเลียม เบลล์ สกอตต์ , ค.ศ. 1855-60
- 44. ใน ค.ศ.1784 เฮนรี คอร์ต ได้คนคิดวิธีการหลอมเหล็กให้ได้เหล็กบริ สุทธิ์ ที่มี
้
คุณภาพดีข้ ึนโดยปราศจากโลหะอื่นเจือปน สามารถปรับปรุ งคุณภาพของปื นใหญ่ และ
ปื นคาบศิลา ตลอดจนยุทโธปกรณ์ต่างๆให้มีประสิ ทธิ ภาพยิงขึ้น
่
นอกจากนี้การพัฒนาคุณภาพของเหล็ก ทาให้สังคมตะวันตกโดยทัวไปเจริ ญ
่
รุ ดหน้าอย่างรวดเร็ ว เกิดการปฏิวติทางคมนาคมขนส่ ง มีการสร้างและพัฒนาเรื อกลไฟ
ั
ที่ใช้พลังไอน้ าให้เป็ นพาหนะสาคัญในการคมนาคมขนส่ งทางน้ า โดยเฉพาะอย่างยิง
่
นับตั้งแต่ ค.ศ.1830 โลกได้เข้าสู่ ยคม้าเหล็ก เมื่ออังกฤษได้เปิ ดเส้นทางรถไฟไอน้ า
ุ
สายแรก
http://goldenstate.files.wordpress.com/2009/09/train.jpg
รถไฟไอนา
้
- 46. ระยะของการปฏิวตอุตสาหกรรม
ั ิ
การปฏิวตอุตสาหกรรมระยะแรก เป็ นการใช้พลังไอน้ าในการขับเคลื่อน
ั ิ
เครื่ องจักรในอุตสาหกรรมทอผ้า และต่อมามีการใช้ถ่านหิ นเป็ นเชื้อเพลิง ประเทศ
อังกฤษเป็ นผูนาอุตสาหกรรมประเทศแรกในการปฏิวติอุตสาหกรรม
้
ั
การปฏิวตอุตสาหกรรมระยะทีสอง เป็ นช่วงที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้ า ก๊าซ และ
ั ิ
่
น้ ามันมาใช้แทนถ่านหิ นหรื อเป็ นการปฏิวติอุตสาหกรรมเหล็กกล้า มีกระบวนการ
ั
ผลิตแยกส่ วนแล้วนามาประกอบกัน มีโรงงานขนาดใหญ่ข้ ึน มีจานวนคนทางานใน
เมืองมากขึ้น เกิดเป็ นสังคมเมืองขนาดใหญ่
การปฏิวตอุตสาหกรรมระยะทีสาม เป็ นสมัยเครื่ องอิเล็กทรอนิกส์ มีการ
ั ิ
่
ประดิษฐ์เครื่ องจักรไดนาโมของไมเคิล ฟาราเดย์ เช่น ภาพยนตร์ โทรเลข โทรศัพท์
การพิมพ์
- 47. 3.2 การปฏิวติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution)(ต่อ)
ั
3.2.4 ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
1. ด้ านสั งคม ผลกระทบพื้นฐานที่สาคัญของการปฏิวติอุตสาหกรรม คือ การเพิ่มจานวน
ั
ประชากรอย่างรวดเร็ วของทัวโลก สาเหตุสาคัญเกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
่
และการแพทย์ ความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ตลอดจนการปรับปรุ งระบบสาธารณสุ ข
และการดูแลสุ ขภาพอนามัยที่ดีข้ ึน ก่อให้เกิดการขยายตัวของสังคมเมือง และการ
เปลี่ยนแปลงทางสังคม ทาให้ชาวชนบทจานวนมากหลังไหลเข้าเมือง ปั ญหาสวัสดิภาพ
่
ของคนงาน การเอารัดเอาเปรี ยบในอัตราค่าจ้าง
- 48. แนวคิดของระบบสังคมนิยม ของคาร์ล มากซ์ ที่เรี ยกร้องให้กรรมกรรวมพลังกัน
เพื่อต่อสู ้โค่นล้มระบบทุนนิยม จึงเริ่ มมีบทบาทและอิทธิ พลมากขึ้น เพื่อสร้างสังคมใหม่
ที่มีความเสมอภาคและปราศจากความเหลื่อมล้ าทางเศรษฐกิจและการเมือง
http://th.wikipedia.org/wiki
คาร์ ล มากซ์
- 49. 2. ด้ านเศรษฐกิจ แอดัม สมิท ได้พิมพ์เผยแพร่ งานเขียนชื่อ Wealth of Nations เพื่อให้
รัฐบาลเห็นด้วยว่าความมันคงของประเทศจะเกิดจากระบบการค้าแบบเสรี ที่รัฐบาลควร
่
ปล่อยให้เอกชนประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเสรี โดยปราศจากการควบคุม
หลักการของระบบการค้าแบบเสรี ดงกล่าวทาให้ชนชั้นกลางของประเทศมีบทบาทสู ง
ั
ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
http://library.cmu.ac.th/faculty/econ/index.php
แอดัม สมิท
http://ideasareimmortal.blogspot.com/2011/09/adam-smiths-wealth-of-nations.html
Wealth of Nations
- 50. 3. ด้ านการเมือง ในกลางคริ สต์ศตวรรษที่ 19 กรรมกรในอังกฤษได้จดตั้งสหภาพแรงงาน
ั
ขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์และให้ความคุมครองแก่พวกตน จนในที่สุดก็สามารถ
้
เรี ยกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งให้เป็ นประชาธิ ปไตยมากขึ้น ทาให้ประชาชน
ทัวไปมีสิทธิ ในการเลือกตั้ง
่
- 51. สรุป
่
กล่าวได้วา การปฏิวติวิทยาศาสตร์ และการปฏิวติอุตสาหกรรมก่อให้เกิดผลกระทบ
ั
ั
อย่างใหญ่หลวงต่อชี วิตความเป็ นอยู่ของชาวตะวันตก โดยการปฏิ วติวิทยาศาสตร์ ทาให้
ั
ชาวตะวัน ตกมองโลกและสั ง คมด้ว ยทัศ นะที่ เ ป็ นจริ งมากขึ้ น นอกจากนี้ การค้น พบ
ทางวิทยาศาสตร์ ก่อให้เกิ ดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาการต่างๆ ได้มีการนา
ความรู้ ท างวิ ท ยาศาสตร์ ไ ปประยุก ต์ใ ช้ใ นการคิ ด ค้น ประดิ ษ ฐ์ เ ครื่ อ งมื อ เครื่ อ งใช้ห รื อ
เครื่ อ งทุ่ นแรงในการดารงชี พ ต่ างๆ ท าให้เกิ ด การปฏิ ว ติอุ ต สาหกรรม และความมั่งคั่ง
ั
บริ บูรณ์ทางวัตถุอย่างไม่ขาดระยะ
- 52. สรุป(ต่ อ)
ส่ งผลให้โ ครงสร้ า งเศรษฐกิ จ และสั งคมที่ ลา หลัง ของยุโ รปเปลี่ ย นแปลงเป็ น
้
ประเทศอุ ต สาหกรรมอั น ทั น สมั ย ท าให้ ช าวยุ โ รปส่ ว นใหญ่ เ ริ่ มมี ส ภาพชี วิ ต ที่
สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การปฏิวติอุตสาหกรรมยังมีผลให้ชนชั้นกลางและชนชั้น
ั
กรรมาชี พ มี บ ทบาทในสั ง คมมากขึ้ น ด้ว ย เกิ ด การรวมตัว กัน และมี บ ทบาทในการ
เรี ยกร้องประชาธิปไตยในนานาประเทศในยุโรป