unit15

1. การเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา และการสร้างเครือข่ายข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศ ข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งของระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ การจัดการฐานข้อมูลจึงเป็นกลยุทธหนึ่ง ในการบริหารองค์การให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยีข่าวสาร การจัดการและบริหารองค์การ ให้ประสบความสำเร็จนั้น การตัดสินใจที่ถูกต้อง รวดเร็ว และ ทันเหตุการณ์ ถือเป็นหัวใจของการดำเนินงานและการบริหารองค์การ ในยุคปัจจุบัน

2. การเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา และการสร้างเครือข่ายข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศ แยกเป็น 2 ประเด็นหลัก ดังนี้ 1. การเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ ( Database ) ของสถานศึกษา 2. การสร้างเครือข่ายข้อมูล ( Network ) ด้วยระบบสารสนเทศ

3. การเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ ของสถานศึกษา และการสร้างเครือข่ายข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศ การเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ ( Database ) ของสถานศึกษา สามารถพิจารณาได้ดังนี้ 1. การเก็บข้อมูล ต้องเก็บเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในภายหลัง 2. การจัดข้อมูล ต้องจัดข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. การปรับปรุงข้อมูล ต้องปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องสมบูรณ์เสมอ 4. การป้องกันข้อมูล ต้องป้องกันข้อมูลจากการทำลาย ลักลอบใช้ หรือแก้ไข โดยมิชอบ รวมทั้งปกป้องจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากวินาศภัยหรือความบกพร่องภายในระบบคอมพิวเตอร์

4. ฐานข้อมูล ฐานข้อมูลที่ดีต้องมีลักษณะดังนี้ 1. มีความรวดเร็วในการตอบสนองต่อความต้องการ 2. มีความสมดุลระหว่างอุปกรณ์ ซอฟแวร์ และผู้ใช้ 3. สามารถจัดการและปรับปรุงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และตรงตามความต้องการ 4. ความปลอดภัยของข้อมูลข้อมูล ระบบฐานข้อมูลที่ดีต้องสร้างความมั่นใจแก้ผู้ใช้

5. โครงสร้างของข้อมูล โครงสร้างของข้อมูล ( Data Structure ) เป็นพื้นฐานความเข้าใจในเรื่องของการจัดการฐานข้อมูล และเพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นถึงความสัมพันธ์ ของข้อมูลและการจัดการเก็บข้อมูลในระบบได้เข้าใจมากขึ้น ซึ่งสามารถ อธิบายได้โดยแบบจำลอง 3 ประเภทดังนี้

6. โครงสร้างของข้อมูล 1. แบบจำลองการจัดเก็บข้อมูลเชิงลำดับชั้น ( Hierarchical Data Model ) สถาบัน คณะ โปรแกรม หน่วย

7. โครงสร้างของข้อมูล 2. แบบจำลองการจัดข้อมูลแบบเครือข่าย ( Network Data Model ) อาจารย์ วิชา เพศ การศึกษา เงินเดือน ประวัติการทำงาน นักเรียน

8. โครงสร้างของข้อมูล 3. แบบจำลองการจัดข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Data Model ) รหัสประจำตัว ชื่อ นามสกุล คณะ วิชาเอก 42123654 ปราณี เปรมปรีดิ์ วิทยาการจัดการ การตลาด 42139852 สายพิณ อณุหะมาน มนุษย์ศาสตร์ ภาษาอังกฤษ 43112058 พิมพ์ สวยงาม วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ 45712541 พรพิมล รักบุญ วิทยาการจัดการ การจัดการทั่วไป

9. หน้าที่ของการบริหารฐานข้อมูลข้อมูล 1. กำหนดและจัดระเบียบโครงสร้างฐานข้อมูล 2. พัฒนาขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูล 3. จัดทำหลักฐานอ้างอิงของระบบฐานข้อมูล 4. ดูแลรักษาระบบฐานข้อมูลให้ทำงานอย่างปกติ 5. ประสานงานกับผู้ใช้

10. ระบบฐานข้อมูลในอนาคต ระบบฐานข้อมูลที่ใช้กันอย่างต่อเนื่องและนิยมใช้กันใน ปัจจุบัน คือระบบฐานข้อมูลแบบศูนย์รวม ( Centralized Data System ) ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลและประมวลผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ศูนย์กลางอย่างเดียว เนื่องจากสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า เมื่อการโทรคมนาคมแบบเครือข่ายได้มีการพัฒนาขึ้น ทำให้การสื่อสารข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องทำการเก็บข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป จึงทำให้เกิดแนวคิดของ “ระบบฐานข้อมูลแบบกระจาย” ( Distributed Database System )

11. ระบบฐานข้อมูลแบบกระจาย ระบบฐานข้อมูลแบบกระจาย มีคุณสมบัติดังนี้ 1. สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่อยู่ในระบบเครือข่ายได้ 2. สามารถจัดระบบและบริหารข้อมูลจากส่วนต่าง ๆในระบบเครือข่ายได้ 3. สามารถปรับปรุงแก้ไข และฟื้นฟูฐานข้อมูลในความรับผิดชอบของตน

12. การสร้างเครือข่ายข้อมูล ( Network ) ด้วยระบบสารสนเทศ องค์การที่ประสบความสำเร็จในอนาคต จะต้องสามารถประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ต่อองค์การอย่างสูงสุด การสร้างเครือข่ายข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์การจะทำให้ผู้บริหารสามารถบริหารข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนประกอบสำคัญของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีดังนี้ 1. คอมพิวเตอร์ 2. สถานี ( Terminal ) 3. ช่องทางการติดต่อสื่อสาร 4. อุปกรณ์สนับสนุนการติดต่อสื่อสาร 5. ซอฟแวร์สำหรับการติดต่อสื่อสาร

13. ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์จำแนกตามระยะห่างและการเชื่องโยงอุปกรณ์ ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1. ระบบเครือข่ายเฉพาะพื้นที่ ( Local Area Network : LAN ) 2. ระบบเครือข่ายเฉพาะเขตเมือง ( Metropolitan Area Network : MAN ) 3. ระบบเครือข่ายระยะไกล ( Wide Area Network :WAN ) 4. ระบบเครือข่ายระหว่างประเทศ ( International Network )