SlideShare a Scribd company logo
โครงการฝนหลวง
    "เงยหน้าดูทองฟ้ ามีเมฆ ทาไมมีเมฆอย่างนี้
               ้
 ทาไมจะดึงเมฆนี่ ลงมาให้ได้ ก็เคยได้ยินเรื่องทาฝน
  ก็มาปรารภกับคุณเทพฤทธิ์ ฝนทาได้ มีหนั งสือ
             เคยอ่านหนั งสือ ทาได้..."
กล่าวนา
ปี พ.ศ. 2551 – 2552 สภาพอากาศโดยทัวไปทาให้ประชาชนคนไทยได้ตื่นเต้นจากที่
                                             ่
เคยเป็ นอยู่ ในปี ที่ผ่าน ๆ มา ฤดูหนาวในปี นี้ พฤศจิกายน – มกราคม ความหนาวเย็น
ได้ล่วงยาวมาถึง กุมภาพันธ์ ก็เป็ นสิ่งซึ่งทุกคนชื่นชอบ แต่บนความชื่นชอบนั้นมีสิ่งที่
ตามมา คือ ฤดูแล้ง ที่จะมาเยือนในเร็ววันนี้ ทาให้นึกถึงประชาชนชาวไทยซึ่งเป็ นชน
กลุ่มใหญ่ของประเทศที่มีอาชีพทางการเกษตร และอาศัยน้ าเป็ นปั จจัยการผลิตที่สาคัญ
ปั จจุบันมีการผลิตกันตลอดทั้งปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว เสด็จออก ณ พระ
                                                            ั
ตาหนั กเปี่ ยมสุข พระราชวังไกลกังวล โดยมีนายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธาน
กรรมการบริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ า และการเกษตรกระทรวงวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี และนายรอยล จิตรดอน กรรมการและเลขานุ การคณะกรรมการบริหาร
สถาบันฯ กราบบังคมทูลถวายงานสรุปสถานการณ์ประเทศไทยปี 2551 และรับ
พระราชทานพระราชดาริเพื่อเป็ นแนวทางในการดาเนิ นงานของสถาบันฯ ทาให้ผูเขียน     ้
นึ กถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ที่ได้ทรงมีพระราชดาริ
                                                          ั
โครงการฝนหลวง และพระราชทานตาราฝนหลวง แด่พสกนิ กรของพระองค์ได้มีน้ าใช้
อุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพเกษตรกรรมในการดารงวิถีชีวิตได้สมบูรณ์
ทฤษฎีว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรแหล่งน้ าใน
                                บรรยากาศ ฝนหลวง
ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว เสด็จพระราชดาเนิ นเพื่อทรงเยี่ยม พสก
                                             ั
นิ กรในภาคตะวันออกเฉียงเหนื อ ย่านบริเวณเทือกเขาภูพานทรงสังเกตว่า มีปริมาณ
เมฆมากปกคลุมเหนื อพื้ นที่ระหว่างเส้นทางบินแต่ไมสามารถรวมตัวจนเกิดเป็ นฝนตกได้
ทั้งที่เป็ นช่วงฤดูฝน และทรงพบเห็นว่าหลายแห่งประสบปั ญหา พื้ นดินแห้งแล้งขาด
แคลนน้ าเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูเพาะปลูก
เกษตรกรมักประสบความเดือดร้อนจากภาวะฝนแล้ง ฝนทิ้ งหรืออาจไม่มีผลผลิตเลย
และอาจทาให้ผลผลิตที่มีอยู่เสียหายได้ จึงเป็ นความเดือดร้อนอย่างสาหัส และก่อให้เกิด
ความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ ามีมากขึ้ น เพราะการขยายตัว
ทางด้านอุตสาหกรรมเกษตรกรรม ซึ่งมีผลให้ปริมาณน้ าต้นทุนจากทรัพยากรน้ าที่มีอยู่
ไม่เพียงพอ ซึ่งเห็นได้ชดจากปริมาณ ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล และทรงความ
                          ั
อัจฉริยะของพระองค์ดวยคุณลักษณะของนั กวิทยาศาสตร์ ทรงสังเกต วิเคราะห์ขอมูลใน
                        ้                                                 ้
ขั้นต้น และได้มีพระราชดาริครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2498
แก่หม่อมราชวงศ์ เทพฤทธิ์ เทวกุล ว่าจะทรงค้นหา วิธีการที่จะทาให้เกิดฝนตก
นอกเหนื อจากที่จะได้รับจากธรรมชาติโดยการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ กับ
ทรัพยากร ภายใต้การพระราชทานข้อแนะนาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวอย่าง           ั
ใกล้ชิดพร้อมกันนี้ ได้มีการจัดตั้ง "สานั กงานปฏิบัติการฝนหลวง" ขึ้ น เพื่อรับผิดชอบการ
ดาเนิ นงานฝนหลวงในระยะต่อ มาจนถึงปั จจุบัน พระบรมราโชบายในการพัฒนา
โครงการพระราชดาริ "ฝนหลวง“
 ทรงเน้นความจาเป็ นในด้านพัฒนาการ และปรับปรุงวิธีการทาฝนในแนวทางของการ
ออกแบบการปฏิบัติการเพื่อศึกษารูปแบบเมฆและการปฏิบัติการทาฝนให้บรรลุตาม
วัตถุประสงค์ของโครงการ ทรงยาถึงบทบาทของการดัดแปรสภาพอากาศ หรือการทาฝน
                                   ้
ว่าเป็ นองค์ประกอบที่สาคัญอันหนึ่ งในกระบวน การจัดการทรัพยากรแหล่งน้ า ทรงเน้น
ความร่วมมือประสานงานของหน่ วยงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จะเป็ นกุญแจ
สาคัญในอันที่จะทา ให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้ พระบาทสมเด็จ พระ
เจ้าอยู่หว ทรงวิเคราะห์การทาฝนหลวงว่ามี 3 ขั้นตอน
         ั
แนวพระราชดาริในการแก้ปัญหา
แนวพระราชดาริในการแก้ปัญหาความผันแปรไม่แน่ นอนของฝนธรรมชาติในเวลานั้ นที่
จะจัดการทรัพยากรน้ าใน 2 วิธี คือ1. การสร้างเขื่อน (Check – dam) ชะลอการไหลบ่า
ของน้ าไม่ให้ท่วม และเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้ง 2. หาวิธีทาฝนเทียม (Rainmaking) บังคับ
เมฆให้ตกเป็ นฝนในพื้ นที่ตองการนั บจากนั้ นเป็ นต้นมา พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าและ
                          ้
วิจยทางเอกสารทั้งด้านวิชาการ อุตุนิยมวิทยาและการดัดแปรสภาพอากาศ ทรงรอบรู ้
   ั
และเชี่ยวชาญ จากเอกสารที่เป็ นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ จนทรงมัน พระทัยจึง
                                                                     ่
พระราชทานแนวคิดแด่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ผูเชี่ยวชาญในการวิจยประดิษฐ์
                                                 ้               ั
ทางด้านวิศวกรรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขณะนั้ น และพร้อมกันนั้ นพระองค์
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หาลู่ทางที่จะทาให้เกิดการทดลอง
ปฏิบัติการในท้องฟาให้เป็ นไปได้ ดังพระราชดารัส
                   ้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวกับ
                                                  ั
                                ขั้นตอนการทาฝนหลวง
ปั จจัยสาคัญประการแรกนั้ นที่ทาให้เกิดฝน คือ ความร้อนชื้ นปะทะความเย็น และมี
แกนกลันตัวที่มีประสิทธิภาพในปริมาณที่เหมาะสม กล่าวคือ เมื่อมวลอากาศร้อนชื้ น
         ่
ระดับผิวพื้ นขึ้ นสู่อากาศทางเบื้ องบนแล้วอุณหภูมิของมวลอากาศที่บนท้องฟาจะลด
                                                                       ้
ตาลงจนถึงความสูงที่ระดับหนึ่ ง หากแม้นอุณหภูมิที่ลดตาลงนั้ นมากพอ จะเกิดการ
   ่                                                    ่
ทาให้ไอน้ าในมวลอากาศอิ่มตัว เมื่อกระบวนการกลันตัวของไอน้ าในมวลอากาศขึ้ น
                                                    ่
บนแกนกลันตัว ก่อกาเนิ ดเกิดเป็ นฝนตกลงมา ฉะนั้ นสารเคมีที่ใช้จึงประกอบด้วย
             ่
“สูตรร้อน” เพื่อใช้กระตุนเร่งเร้ากลไกหมุนเวียนของบรรยากาศ “สูตรเย็น” ใช้เพื่อ
                           ้
กระตุนกลไกการรวมตัวของละอองเมฆให้โตขึ้ นเป็ นเม็ดฝน และสูตรที่ใช้เป็ นแกนดูด
       ้
ซับความชื้ น เพื่อใช้กระตุนกลไกระบบการกลันตัวให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้ น
                             ้                ่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ทรงกาหนดขั้นตอนกรรมวิธีการทาฝนหลวงขึ้ น เพื่อให้
                               ั
เกิดความเข้าใจได้อย่างง่าย ๆ ตามลาดับขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่หนึ่ ง : ก่อกวน
ขั้นตอนที่หนึ่ ง : ก่อกวน คือ การที่เมฆธรรมชาติเริ่มก่อตัวทางแนวตั้ง การ
ปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนนี้ จะมุ่งใช้สารเคมีกระตุน ปรากฏให้มวลอากาศเกิด
                                                      ้
การลอยตัวขึ้ นสู่เบื้ องบน เพื่อให้เกิดกระบวนการชักไอน้ า หรือการชักนาความชื้ น
ให้เข้าสู่ระบบการเกิดเมฆ ในแต่ละวัน โดยการใช้สารเคมีที่สามารถดูดซับไอน้ า
จากมวลอากาศได้ถึงแม้ว่าจะมีเปอร์เซ็นต์ความชื้ นสัมพัทธ์ท่ีตา (มีค่า Critical
                                                              ่
relative humidity ตา) ทั้งนี้ ก็เพื่อกระตุนให้กลไกกระบวนการกลันตัวไอน้ าในมวล
                       ่                  ้                     ่
อากาศ (คือ เป็ นการสร้าง Surrounding เพื่อให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของ
เมฆ) ทางด้านเหนื อลมของพื้ นที่เปาหมายที่ตองการให้ฝนโปรยปราย เมื่อเมฆเริ่ม
                                      ้         ้
เกิดการก่อตัวเริ่มขึ้ น และการเจริญเติบโตเป็ นไปในทางตั้ง แล้วจึงใช้สารเคมีท่ีให้
ปฏิกิริยาความร้อนโปรยเป็ นวงกลม หรือเป็ นแนวถัดมาทางใต้ลมเป็ นระยะทางสั้น
ๆ เข้าสู่กอนเมฆ เพื่อกระตุนให้เกิดกลุ่มแกนร่วม (main cloud core) ในบริเวณ
           ้                  ้
ปฏิบัติสาหรับใช้เป็ นศูนย์กลางที่จะสร้างกลุ่มเมฆฝนในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่สอง : เลี้ ยงให้อวน
                                                               ้
ขั้นตอนที่สอง : เลี้ ยงให้อวน เป็ นขั้นตอนที่เมฆกาลังก่อตัวเจริญเติบโตเป็ นระยะที่
                           ้
สาคัญมากในการปฏิบัติการฝนหลวง เพราะขั้นตอนนี้ เป็ นการไปเพิ่มพลังให้แก่
updraft ให้ยาวนานออกไป ต้องใช้เทคโนโลยีและประสบการณ์ หรือศิลปะแห่งการ
ทาฝนควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อกาหนดการตัดสินใจโปรยสารเคมี ฝนหลวงชนิ ด
ใด ณ ที่ใด ของกลุ่มก้อนเมฆ และต้องโปรยในอัตราใดจึงเหมาะสม เพราะ
กระบวนการนี้ ต้องให้ละอองเมฆเกิดสมดุลกับความแรงของ updraft มิฉะนั้ นจะทา
ให้เมฆสลายได้
ขั้นตอนที่สาม : โจมตี
ขั้นตอนที่สาม : โจมตี เป็ นขั้นตอนสุดท้ายของกรรมวิธีปฏิบัติการฝนหลวง เมฆหรือ
กลุ่มเมฆฝนในขั้นนี้ มีความหนาแน่ นมากพอที่จะสามารถตกเป็ นฝนได้ ภายในกลุ่ม
เมฆจะต้องมีเม็ดน้ าขนาดใหญ่มากมายหากเครื่องบินบินเข้าไปในกลุ่มเมฆฝนนี้
เครื่องบินจะมีเม็ดน้ าเกาะตามปี ก และกระจังหน้า ขั้นตอนนี้ เป็ นขั้นตอนสาคัญ และ
ฝี มืออาศัประสบการณ์มาก เพราะจะต้องปฏิบัติการเพื่อลดความรุนแรงของ updraft
หรือทาให้อายุของ updraft หมดไป การปฏิบัติการในขั้นตอนนี้ ผูปฏิบติตองพิจารณา
                                                                ้ ั ้
จุดมุ่งหมายของการทาฝนหลวง 2 ประเด็น คือ การเพิ่มปริมาณฝนตก และให้ฝนเกิด
การตกกระจายไป
ผลการดาเนิ นโครงการ “ฝนหลวง”
เมื่อประสบผลสาเร็จในการทดลองศึกษาวิจยและพัฒนากระบวนการและกรรมวิธีฝน
                                           ั
หลวง จนเป็ นที่ยอมรับกันทัวไปแล้ว ความต้องการฝนหลวง เพื่อช่วยพื้ นที่เกษตรกรรม
                             ่
และการขาดแคลนน้ าเพื่อการอุปโภคและบริโภคได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือ
เพิ่มมากขึ้ น อย่างช่วงระหว่าง พ.ศ.2520 – 2534 มีการร้องเรียนขอฝนหลวงแล้วถึงปี
ละ 44 จังหวัด ซึ่งทรงพระเมตตาอนุ เคราะห์ช่วยเหลือเกษตรกรไทย ในการบรรเทา
การสูญเสียทางเศรษฐกิจให้ประสบความเสียหายน้อยที่สุด นอกจากนี้ ประโยชน์ สาคัญ
ที่ควบคู่ไปกับการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเกษตรกรรมและการอุปโภคบริโภคก็คือเป็ น
การช่วยเพิ่มปริมาณน้ าต้นทุนให้แก่อ่างและเขื่อนเก็บกักน้ า เพื่อชลประทานและผลิต
กระแสไฟฟา แหล่งน้ าและต้นน้ าลาธารธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็ นการช่วยทานุ บารุงป่ า
            ้
ไม้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ความชุ่มชื้ นที่ได้รบเพิ่มขึ้ นจากฝนหลวงจะช่วยลดการเกิด
                                              ั
ไฟป่ าได้อย่างมาก พร้อมทั้งบรรเทาปั ญหาสิ่งแวดล้อม มลภาวะที่เกิดขึ้ นในบ้านเมือง
ของเราหลายประการ
นางสาวชุติกาญจน์ ธรรมชาติ
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4/6 เลขที่ 15

More Related Content

What's hot

โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงโครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงTanwalai Kullawong
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงyeen_28175
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNattanaree
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงyeen_28175
 
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31eveaeef
 
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงchaiing
 
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวงPitchapa Manajanyapong
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Inknaka
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1amloveyou
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา
โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนาโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา
โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนาfrankenjay
 
นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10 เลขที่14
นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10  เลขที่14นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10  เลขที่14
นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10 เลขที่14Nattakan Wuttipisan
 

What's hot (16)

โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงโครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power point
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
 
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
 
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
R maker1 thai
R maker1 thaiR maker1 thai
R maker1 thai
 
R maker4[1]
R maker4[1]R maker4[1]
R maker4[1]
 
R maker3 th
R maker3 thR maker3 th
R maker3 th
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา
โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนาโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา
โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา
 
นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10 เลขที่14
นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10  เลขที่14นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10  เลขที่14
นับกานต์ วุฒิพิศาล 4.10 เลขที่14
 

Similar to โครงการฝนหลวง

โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31eeveaeef
 
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงchaiing
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
sedwong Pam
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำsedwong Pam
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
sedwong Pam
 
โครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริโครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริAommy_18
 
บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)
Pongspak kamonsri
 
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14Nattakan Wuttipisan
 
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14Nattakan Wuttipisan
 
โครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่ม
โครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่มโครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่ม
โครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่ม
Sudarat Sangsuriya
 
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนการวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนdnavaroj
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำsavokclash
 
การพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศการพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศdnavaroj
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำMonticha
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำjirawat191
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำMonticha
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำjintana533
 
การสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียมการสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียมSutisa Tantikulwijit
 

Similar to โครงการฝนหลวง (20)

โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
 
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
 
โครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริโครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริ
 
บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)
 
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14
 
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม.4/10 เลขที่ 14
 
โครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่ม
โครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่มโครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่ม
โครงการปลูกป่าด้อยมือเรา รวมเล่ม
 
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนการวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
การพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศการพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศ
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
การสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียมการสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียม
 
V532
V532V532
V532
 

โครงการฝนหลวง

  • 1. โครงการฝนหลวง "เงยหน้าดูทองฟ้ ามีเมฆ ทาไมมีเมฆอย่างนี้ ้ ทาไมจะดึงเมฆนี่ ลงมาให้ได้ ก็เคยได้ยินเรื่องทาฝน ก็มาปรารภกับคุณเทพฤทธิ์ ฝนทาได้ มีหนั งสือ เคยอ่านหนั งสือ ทาได้..."
  • 2. กล่าวนา ปี พ.ศ. 2551 – 2552 สภาพอากาศโดยทัวไปทาให้ประชาชนคนไทยได้ตื่นเต้นจากที่ ่ เคยเป็ นอยู่ ในปี ที่ผ่าน ๆ มา ฤดูหนาวในปี นี้ พฤศจิกายน – มกราคม ความหนาวเย็น ได้ล่วงยาวมาถึง กุมภาพันธ์ ก็เป็ นสิ่งซึ่งทุกคนชื่นชอบ แต่บนความชื่นชอบนั้นมีสิ่งที่ ตามมา คือ ฤดูแล้ง ที่จะมาเยือนในเร็ววันนี้ ทาให้นึกถึงประชาชนชาวไทยซึ่งเป็ นชน กลุ่มใหญ่ของประเทศที่มีอาชีพทางการเกษตร และอาศัยน้ าเป็ นปั จจัยการผลิตที่สาคัญ ปั จจุบันมีการผลิตกันตลอดทั้งปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว เสด็จออก ณ พระ ั ตาหนั กเปี่ ยมสุข พระราชวังไกลกังวล โดยมีนายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธาน กรรมการบริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ า และการเกษตรกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และนายรอยล จิตรดอน กรรมการและเลขานุ การคณะกรรมการบริหาร สถาบันฯ กราบบังคมทูลถวายงานสรุปสถานการณ์ประเทศไทยปี 2551 และรับ พระราชทานพระราชดาริเพื่อเป็ นแนวทางในการดาเนิ นงานของสถาบันฯ ทาให้ผูเขียน ้ นึ กถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ที่ได้ทรงมีพระราชดาริ ั โครงการฝนหลวง และพระราชทานตาราฝนหลวง แด่พสกนิ กรของพระองค์ได้มีน้ าใช้ อุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพเกษตรกรรมในการดารงวิถีชีวิตได้สมบูรณ์
  • 3. ทฤษฎีว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรแหล่งน้ าใน บรรยากาศ ฝนหลวง ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว เสด็จพระราชดาเนิ นเพื่อทรงเยี่ยม พสก ั นิ กรในภาคตะวันออกเฉียงเหนื อ ย่านบริเวณเทือกเขาภูพานทรงสังเกตว่า มีปริมาณ เมฆมากปกคลุมเหนื อพื้ นที่ระหว่างเส้นทางบินแต่ไมสามารถรวมตัวจนเกิดเป็ นฝนตกได้ ทั้งที่เป็ นช่วงฤดูฝน และทรงพบเห็นว่าหลายแห่งประสบปั ญหา พื้ นดินแห้งแล้งขาด แคลนน้ าเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูเพาะปลูก เกษตรกรมักประสบความเดือดร้อนจากภาวะฝนแล้ง ฝนทิ้ งหรืออาจไม่มีผลผลิตเลย และอาจทาให้ผลผลิตที่มีอยู่เสียหายได้ จึงเป็ นความเดือดร้อนอย่างสาหัส และก่อให้เกิด ความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ ามีมากขึ้ น เพราะการขยายตัว ทางด้านอุตสาหกรรมเกษตรกรรม ซึ่งมีผลให้ปริมาณน้ าต้นทุนจากทรัพยากรน้ าที่มีอยู่ ไม่เพียงพอ ซึ่งเห็นได้ชดจากปริมาณ ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล และทรงความ ั อัจฉริยะของพระองค์ดวยคุณลักษณะของนั กวิทยาศาสตร์ ทรงสังเกต วิเคราะห์ขอมูลใน ้ ้ ขั้นต้น และได้มีพระราชดาริครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2498
  • 4. แก่หม่อมราชวงศ์ เทพฤทธิ์ เทวกุล ว่าจะทรงค้นหา วิธีการที่จะทาให้เกิดฝนตก นอกเหนื อจากที่จะได้รับจากธรรมชาติโดยการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ กับ ทรัพยากร ภายใต้การพระราชทานข้อแนะนาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวอย่าง ั ใกล้ชิดพร้อมกันนี้ ได้มีการจัดตั้ง "สานั กงานปฏิบัติการฝนหลวง" ขึ้ น เพื่อรับผิดชอบการ ดาเนิ นงานฝนหลวงในระยะต่อ มาจนถึงปั จจุบัน พระบรมราโชบายในการพัฒนา โครงการพระราชดาริ "ฝนหลวง“ ทรงเน้นความจาเป็ นในด้านพัฒนาการ และปรับปรุงวิธีการทาฝนในแนวทางของการ ออกแบบการปฏิบัติการเพื่อศึกษารูปแบบเมฆและการปฏิบัติการทาฝนให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ของโครงการ ทรงยาถึงบทบาทของการดัดแปรสภาพอากาศ หรือการทาฝน ้ ว่าเป็ นองค์ประกอบที่สาคัญอันหนึ่ งในกระบวน การจัดการทรัพยากรแหล่งน้ า ทรงเน้น ความร่วมมือประสานงานของหน่ วยงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จะเป็ นกุญแจ สาคัญในอันที่จะทา ให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้ พระบาทสมเด็จ พระ เจ้าอยู่หว ทรงวิเคราะห์การทาฝนหลวงว่ามี 3 ขั้นตอน ั
  • 5. แนวพระราชดาริในการแก้ปัญหา แนวพระราชดาริในการแก้ปัญหาความผันแปรไม่แน่ นอนของฝนธรรมชาติในเวลานั้ นที่ จะจัดการทรัพยากรน้ าใน 2 วิธี คือ1. การสร้างเขื่อน (Check – dam) ชะลอการไหลบ่า ของน้ าไม่ให้ท่วม และเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้ง 2. หาวิธีทาฝนเทียม (Rainmaking) บังคับ เมฆให้ตกเป็ นฝนในพื้ นที่ตองการนั บจากนั้ นเป็ นต้นมา พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าและ ้ วิจยทางเอกสารทั้งด้านวิชาการ อุตุนิยมวิทยาและการดัดแปรสภาพอากาศ ทรงรอบรู ้ ั และเชี่ยวชาญ จากเอกสารที่เป็ นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ จนทรงมัน พระทัยจึง ่ พระราชทานแนวคิดแด่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ผูเชี่ยวชาญในการวิจยประดิษฐ์ ้ ั ทางด้านวิศวกรรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขณะนั้ น และพร้อมกันนั้ นพระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หาลู่ทางที่จะทาให้เกิดการทดลอง ปฏิบัติการในท้องฟาให้เป็ นไปได้ ดังพระราชดารัส ้
  • 6. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวกับ ั ขั้นตอนการทาฝนหลวง ปั จจัยสาคัญประการแรกนั้ นที่ทาให้เกิดฝน คือ ความร้อนชื้ นปะทะความเย็น และมี แกนกลันตัวที่มีประสิทธิภาพในปริมาณที่เหมาะสม กล่าวคือ เมื่อมวลอากาศร้อนชื้ น ่ ระดับผิวพื้ นขึ้ นสู่อากาศทางเบื้ องบนแล้วอุณหภูมิของมวลอากาศที่บนท้องฟาจะลด ้ ตาลงจนถึงความสูงที่ระดับหนึ่ ง หากแม้นอุณหภูมิที่ลดตาลงนั้ นมากพอ จะเกิดการ ่ ่ ทาให้ไอน้ าในมวลอากาศอิ่มตัว เมื่อกระบวนการกลันตัวของไอน้ าในมวลอากาศขึ้ น ่ บนแกนกลันตัว ก่อกาเนิ ดเกิดเป็ นฝนตกลงมา ฉะนั้ นสารเคมีที่ใช้จึงประกอบด้วย ่ “สูตรร้อน” เพื่อใช้กระตุนเร่งเร้ากลไกหมุนเวียนของบรรยากาศ “สูตรเย็น” ใช้เพื่อ ้ กระตุนกลไกการรวมตัวของละอองเมฆให้โตขึ้ นเป็ นเม็ดฝน และสูตรที่ใช้เป็ นแกนดูด ้ ซับความชื้ น เพื่อใช้กระตุนกลไกระบบการกลันตัวให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้ น ้ ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว ทรงกาหนดขั้นตอนกรรมวิธีการทาฝนหลวงขึ้ น เพื่อให้ ั เกิดความเข้าใจได้อย่างง่าย ๆ ตามลาดับขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
  • 7. ขั้นตอนที่หนึ่ ง : ก่อกวน ขั้นตอนที่หนึ่ ง : ก่อกวน คือ การที่เมฆธรรมชาติเริ่มก่อตัวทางแนวตั้ง การ ปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนนี้ จะมุ่งใช้สารเคมีกระตุน ปรากฏให้มวลอากาศเกิด ้ การลอยตัวขึ้ นสู่เบื้ องบน เพื่อให้เกิดกระบวนการชักไอน้ า หรือการชักนาความชื้ น ให้เข้าสู่ระบบการเกิดเมฆ ในแต่ละวัน โดยการใช้สารเคมีที่สามารถดูดซับไอน้ า จากมวลอากาศได้ถึงแม้ว่าจะมีเปอร์เซ็นต์ความชื้ นสัมพัทธ์ท่ีตา (มีค่า Critical ่ relative humidity ตา) ทั้งนี้ ก็เพื่อกระตุนให้กลไกกระบวนการกลันตัวไอน้ าในมวล ่ ้ ่ อากาศ (คือ เป็ นการสร้าง Surrounding เพื่อให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของ เมฆ) ทางด้านเหนื อลมของพื้ นที่เปาหมายที่ตองการให้ฝนโปรยปราย เมื่อเมฆเริ่ม ้ ้ เกิดการก่อตัวเริ่มขึ้ น และการเจริญเติบโตเป็ นไปในทางตั้ง แล้วจึงใช้สารเคมีท่ีให้ ปฏิกิริยาความร้อนโปรยเป็ นวงกลม หรือเป็ นแนวถัดมาทางใต้ลมเป็ นระยะทางสั้น ๆ เข้าสู่กอนเมฆ เพื่อกระตุนให้เกิดกลุ่มแกนร่วม (main cloud core) ในบริเวณ ้ ้ ปฏิบัติสาหรับใช้เป็ นศูนย์กลางที่จะสร้างกลุ่มเมฆฝนในขั้นตอนต่อไป
  • 8. ขั้นตอนที่สอง : เลี้ ยงให้อวน ้ ขั้นตอนที่สอง : เลี้ ยงให้อวน เป็ นขั้นตอนที่เมฆกาลังก่อตัวเจริญเติบโตเป็ นระยะที่ ้ สาคัญมากในการปฏิบัติการฝนหลวง เพราะขั้นตอนนี้ เป็ นการไปเพิ่มพลังให้แก่ updraft ให้ยาวนานออกไป ต้องใช้เทคโนโลยีและประสบการณ์ หรือศิลปะแห่งการ ทาฝนควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อกาหนดการตัดสินใจโปรยสารเคมี ฝนหลวงชนิ ด ใด ณ ที่ใด ของกลุ่มก้อนเมฆ และต้องโปรยในอัตราใดจึงเหมาะสม เพราะ กระบวนการนี้ ต้องให้ละอองเมฆเกิดสมดุลกับความแรงของ updraft มิฉะนั้ นจะทา ให้เมฆสลายได้
  • 9. ขั้นตอนที่สาม : โจมตี ขั้นตอนที่สาม : โจมตี เป็ นขั้นตอนสุดท้ายของกรรมวิธีปฏิบัติการฝนหลวง เมฆหรือ กลุ่มเมฆฝนในขั้นนี้ มีความหนาแน่ นมากพอที่จะสามารถตกเป็ นฝนได้ ภายในกลุ่ม เมฆจะต้องมีเม็ดน้ าขนาดใหญ่มากมายหากเครื่องบินบินเข้าไปในกลุ่มเมฆฝนนี้ เครื่องบินจะมีเม็ดน้ าเกาะตามปี ก และกระจังหน้า ขั้นตอนนี้ เป็ นขั้นตอนสาคัญ และ ฝี มืออาศัประสบการณ์มาก เพราะจะต้องปฏิบัติการเพื่อลดความรุนแรงของ updraft หรือทาให้อายุของ updraft หมดไป การปฏิบัติการในขั้นตอนนี้ ผูปฏิบติตองพิจารณา ้ ั ้ จุดมุ่งหมายของการทาฝนหลวง 2 ประเด็น คือ การเพิ่มปริมาณฝนตก และให้ฝนเกิด การตกกระจายไป
  • 10. ผลการดาเนิ นโครงการ “ฝนหลวง” เมื่อประสบผลสาเร็จในการทดลองศึกษาวิจยและพัฒนากระบวนการและกรรมวิธีฝน ั หลวง จนเป็ นที่ยอมรับกันทัวไปแล้ว ความต้องการฝนหลวง เพื่อช่วยพื้ นที่เกษตรกรรม ่ และการขาดแคลนน้ าเพื่อการอุปโภคและบริโภคได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เพิ่มมากขึ้ น อย่างช่วงระหว่าง พ.ศ.2520 – 2534 มีการร้องเรียนขอฝนหลวงแล้วถึงปี ละ 44 จังหวัด ซึ่งทรงพระเมตตาอนุ เคราะห์ช่วยเหลือเกษตรกรไทย ในการบรรเทา การสูญเสียทางเศรษฐกิจให้ประสบความเสียหายน้อยที่สุด นอกจากนี้ ประโยชน์ สาคัญ ที่ควบคู่ไปกับการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเกษตรกรรมและการอุปโภคบริโภคก็คือเป็ น การช่วยเพิ่มปริมาณน้ าต้นทุนให้แก่อ่างและเขื่อนเก็บกักน้ า เพื่อชลประทานและผลิต กระแสไฟฟา แหล่งน้ าและต้นน้ าลาธารธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็ นการช่วยทานุ บารุงป่ า ้ ไม้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ความชุ่มชื้ นที่ได้รบเพิ่มขึ้ นจากฝนหลวงจะช่วยลดการเกิด ั ไฟป่ าได้อย่างมาก พร้อมทั้งบรรเทาปั ญหาสิ่งแวดล้อม มลภาวะที่เกิดขึ้ นในบ้านเมือง ของเราหลายประการ