SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
• โครงการพระราชดาริฝนหลวง เป็ นโครงการทีก่อกาเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณ ทีทรง
                                                ่                             ่
  ห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถินทุรกันดาร ทีตองประสบปญ
                                              ่           ่ ้        ั
• หาขาดแคลนน้า เพืออุปโภคบริโภค และเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้งซึงมี
                     ่                                                          ่
  สาเหตุมาจาก ความผันแปร และคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝน
  เริมต้นล่าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติหรือฝนทิงช่วงยาวในช่วงฤดูฝน จากพระราชกรณียกิจ
      ่                                           ้
  ในการเสด็จพระราชดาเนินเยียมพสกนิกร ในทุกภูมภาคอย่างต่อเนื่อง สม่าเสมอนับแต่เสด็จ
                              ่                       ิ
  ขึนเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ จนตราบเท่าทุกวันนี้ ทรงพบเห็นว่าภาวะแห้งแล้ง ได้ทวีความถี่
    ้
  และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงยิงขึนตามลาดับ เพราะนอกจากความผันแปร และคลาดเคลื่อน
                            ่ ้
                                                    ่
  ของฤดูกาลตามธรรมชาติแล้ว การตัดไม้ทาลายปา ยังเป็ นสาเหตุให้สภาพแวดล้อมทาง
  ธรรมชาติเปลียนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึงสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร ในทุกภาคของ
                ่                      ่
  ประเทศ ทาความเสียหายแก่เศรษฐกิจโดยรวมของชาติเป็ นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี
• ตามเส้นทางทีเคยเสด็จพระราชดาเนิน ทังภาคพืนดิน ทางอากาศยานดังกล่าว ทรง
                  ่                    ้        ้
  สังเกตเห็นว่ามีเมฆปริมาณมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่สามารถก่อรวมตัวกัน จนเกิดเป็ นฝนได้
  เป็ นเหตุให้เกิดภาวะฝนทิงช่วงระยะยาวทัง ๆ ทีเป็ นช่วงฤดูฝน ทรงคิดคานึงว่า น่าจะมี
                          ้              ้    ่
  มาตรการทางวิทยาศาสตร์ ทีจะช่วยให้เมฆเหล่านันก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็ นฝนได้ ทรง
                              ่                   ้
  เชือมันว่า ด้วยลักษณะของกาลอากาศ ภูมอากาศ และภูมประเทศของประเทศไทยซึงตังอยู่
     ่ ่                                   ิ            ิ                        ่ ้
  ในภูมภาคเขตร้อน และอยูในอิทธิพลของฤดูมรสุมของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฤดูมรสุม
         ิ                  ่
  ตะวันตกเฉียงใต้ซงเป็ นฤดูฝน และเป็ นฤดูเพาะปลูกประจาปีของประเทศไทย จะสามารถดัด
                    ่ึ
  แปรสภาพอากาศ ให้เกิดเป็ นฝนตกได้ อย่างแน่นอน
• ตามทีทรงเล่าไว้ใน RAINMAKING STORY จาก พ.ศ. 2498 เป็ นต้นมา ทรง
         ่
  ศึกษาค้นคว้า และวิจยทางเอกสาร ทังด้านวิชาการอุตุนิยมวิทยา และมีการดัดแปรสภาพ
                     ั             ้
  อากาศ ซึงทรงรอบรู้ และเชียวชาญ เป็ นทียอมรับทังใน และต่างประเทศ จนทรงมันพระทัย
           ่               ่            ่        ้                           ่
  จึงพระราชทานแนวคิดนี้แก่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ ์ เทวกุล ผูเ้ ชียวชาญในการวิจยประดิษฐ์ทางด้าน
                                                         ่            ั
  เกษตรวิศวกรรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขณะนัน ในปีถดมา และทรงพระกรุณา
                                                           ้   ั
  โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หาลู่ทางทีจะทาให้เกิดการทดลองปฏิบตการในท้องฟ้าให้
                                      ่                           ั ิ
  เป็ นไปได้
• จนกระทังถึงปี พ.ศ. 2512 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จดตังหน่วยบิน ปราบศัตรูพชกรมการข้าว
              ่                                               ั ้               ื
  และพร้อมทีจะให้การสนับสนุ น ในการสนองพระราชประสงค์ ม.ร.ว.เทพฤทธิ ์ เทวกุล จึงได้นาความ
                   ่
  ขึนกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบว่า พร้อมทีจะดาเนินการ ตามพระราชประสงค์แล้ว ดังนันในปี
    ้                                          ่                                       ้
  เดียวกันนันเอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทาการทดลองปฏิบตการจริงในท้องฟ้าเป็ นครังแรก เมือ
                ้                                                  ั ิ               ้      ่
  วันที่ 1-2 กรกฎาคม 2512 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตังให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ ์ เทวกุล เป็ น
                                                                    ้
  ผูอานวยการโครงการ และหัวหน้าคณะปฏิบตการทดลอง เป็ นคนแรก และเลือกพืนทีวนอุทยานเขา
      ้                                    ั ิ                          ้ ่
  ใหญ่เป็ นพืนทีทดลองเป็ นแห่งแรก โดยทดลองหยอดก้อนน้ าแข็งแห้ง (dry ice หรือ solid
                  ้ ่
  carbondioxide) ขนาดไม่เกิน 1 ลูกบาศก์น้ิว เข้าไปในยอดเมฆสูงไม่เกิน 10,000 ฟุต ที่
  ลอยกระจัดกระจายอยูเหนือพืนทีทดลองในขณะนัน ทาให้กลุมเมฆ ทดลองเหล่านัน มีการ
                          ่   ้ ่                ้             ่         ้
  เปลียนแปลงทางฟิสกส์ของเมฆอย่างเห็นได้ชดเจน เกิดการกลันรวมตัวกันหนาแน่น และก่อยอด
          ่             ิ                    ั                   ่
  สูงขึนเป็ นเมฆฝนขนาดใหญ่ ในเวลาอันรวดเร็วแล้วเคลือนตัวตามทิศทางลม พ้นไปจากสายตา ไม่
            ้                                           ่
  สามารถสังเกตได้ เนื่องจากยอดเขาบัง แต่จากการติดตามผลโดยการสารวจทางภาคพืนดิน และได้รบ
                                                                              ้           ั
  รายงานยืนยันด้วยวาจาจากราษฎรว่า เกิดฝนตกลงสูพนทีทดลองวนอุทยานเขาใหญ่ในทีสด นับเป็ น
                                                    ่ ้ื ่                        ุ่
  นิมตหมายบ่งชีให้เห็นว่า การบังคับเมฆให้เกิดฝนเป็ นสิงทีเป็ นไปได้
        ิ             ้                                   ่ ่
•   วิธการทาฝนหลวง
       ี

•   1. เทคโนโลยีฝนหลวง
•           เทคโนโลยีฝนหลวงเป็ นเทคนิค หรือ วิชาการทีเกียวกับการดัดแปลงสภาพอากาศ โดยเน้นการทาฝน เพือ
                                                      ่ ่                                                   ่
    เพิมปริมาณฝนตก (Rain enhancement) และ/หรือ เพือให้ฝนตกกระจายอย่างสม่าเสมอ (Rain
       ่                                                              ่
    redistribution) สาหรับป้องกันหรือบรรเทาภาวะแห้งแล้งทีเกิดจากฝนแล้ง หรือฝนทิงช่วงนัน เป็ นวิชาการที่
                                                                    ่                       ้   ้
    ใหม่สาหรับประเทศไทยและของโลก ข้อมูลหลักฐาน (evidence) ทีใช้พสจน์ยนยัน เพือให้เกิดการยอมรับใน
                                                                        ่ ิู ื                ่
    ระดับนักวิชาการและผูบริหารระดับสูง ถึงผลปฏิบตการฝนหลวงทังทางด้านกาย -
                        ้                       ั ิ             ้
•   ภาพ (Physic) และด้านสถิติ (Statistic) มีน้อยมาก ดังนัน ในระยะแรกเริมของการทดลองและวิจย กรรมวิธี
                                                                  ้             ่                        ั
    การปฏิบตการฝนหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหว จึงได้ทรงติดตามผลการวางแผนการทดลองปฏิบตการ การ
            ั ิ                                   ่ ั                                               ั ิ
    สังเกตจากรายงานแทบทุกครังโดยใกล้ชด ทรงหาความรูและประสบการณ์จากนักวิชาการทีทรงคุณวุฒทางด้านอุตุนิ -
                               ้         ิ             ้                                ่         ิ
•   ยมวิทยา โดยได้รบสังให้เชิญ พล.ร.ท.สนิท เวสารัชนันท์ ร.น. อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา พล.ร.ต.พิณ พันธุทวี ร.น.
                    ั ่
    พร้อมด้วยนักวิชาการอื่นๆ มาเป็ นคณะทางานถวาย -ความคิดเห็น วิเคราะห์ผลปฏิบตการทีทางคณะปฏิบตการฝน
                                                                                  ั ิ     ่             ั ิ
    หลวง ได้ทดลองสังเกตผลการเปลียนแปลงแล้ว ทารายงานเสนอเป็ นประจา
                                    ่

•   2. กรรมวิธการทาฝนหลวง
              ี
•                                                      ั ั
         กรรมวิธการทาฝนหลวงในประเทศไทยทีใช้เป็ นหลักในปจจุบน สรุปได้ ดังนี้
                ี                       ่
• ขันตอนทีหนึ่ง : ก่อเมฆ
    ้     ่

•          เป็ นการดัดแปรสภาพอากาศเพือเร่งหรือเสริมการเกิดเมฆ โดยการโปรยสารเคมีผล
                                       ่
    ละเอียดของเกลือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ทีระดับความสูง 7,000 ฟุต ในท้องฟ้าโปร่งใส
                                                  ่
    ทีมความชืนสัมพัทธ์ไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ผงของเกลือโซเดียมคลอไรด์ ซึงมีคุณสมบัติ
      ่ ี      ้                                                            ่
    ในการดูดความชืนได้ดี จะทาหน้าทีเสริมประสิทธิภาพของแกนกลันตัวในบรรยากาศ
                     ้              ่                            ่
    (Cloud Condensation Nuclei) เรียกย่อว่า CCN ทาให้กระบวนการ
    ดูดซับความชืนในอากาศให้กลายเป็ นเม็ดน้าเกิดเร็วขึนกว่าธรรมชาติ และเกิดกลุ่มเมฆ
                 ้                                   ้
    จานวนมาก ซึงเมฆเหล่านี้จะพัฒนาเป็ นเมฆก้อนใหญ่ในเวลาต่อมา
                   ่
•   ขันตอนทีสอง : เลียงให้อวน
      ้     ่        ้     ้

•             เป็นการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อเร่งหรือเสริมการเพิมขนาดของเมฆและขนาดของเม็ดน้ าในก้อนเมฆ จะปฏิบตการเมือเมฆทีก่อตัว
                                                                   ่                                                 ั ิ     ่         ่
    จากขันตอนที่ 1 หรือเมฆเดิมทีมอยูตามธรรมชาติ ก่อยอดสูงถึงระดับ 10,000 ฟุต โดยการโปรยสารเคมีผลแคลเซียมคลอไรด์ (
            ้                              ่ ี ่
    เข้าไปในกลุ่มเมฆทีระดับ 8,000 ฟุต ผงแคลเซียมคลอไรด์ซงมีคุณสม
                               ่                           ่         ่ึ
•   บัตดดความชืนได้ดี จะดูดซับความชืนและเม็ดน้ าขนาดเล็กในก้อนเมฆให้กลายเป็นเม็ดน้ าขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกันจะเกิดปฏิกรยาคาย
        ิ ู             ้                        ้                                                                              ิิ
    ความร้อน ซึงเป็นคุณสมบัตเฉพาะของสารแคลเซียมคลอไรด์เมือละลายน้ า ความร้อนทีเกิดขึนจะเพิมอัตราเร็วของกระแสอากาศไหลขึน
                      ่                ิ                     ่          ่                  ่ ้       ่                                   ้
    (                                    ้                ่ ้                               ้ ่ ่ ้          ั
                            ในก้อนเมฆ ทังขนาดเม็ดน้ าทีโตขึนและความเร็วของกระแสอากาศไหลขึนทีเพิมขึน จะเป็ นปจจัยเร่งกระบวนการชนกันและ
    รวมตัวกัน (                                                            ของเม็ดน้า ทาให้เม็ดน้าขนาดใหญ่จานวนมากเกิดขึนในก้อนเมฆ
                                                                                                                          ้
    และยอดเมฆพัฒนาตัวสูงขึน          ้
•                   ในขันนี้ เมฆจะมีขนาดใหญ่ขนและก่อยอดสูงขึนไปได้มากน้อยแค่ไหน ขึนอยูกบการทรงตัวของบรรยากาศในแต่ละวัน ซึงแบ่ง
                          ้                        ้ึ            ้                    ้ ่ ั                                        ่
    ออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ ในบางวันเมฆจะไม่สามารถก่อยอดสูงเกินระดับอุณหภูมจุดเยือกแข็ง ( 0 องศาเซลเซียส) หรือประมาณ 18,000
                                                                                       ิ
    ฟุต เรียกว่า เมฆอุ่น (                             ในบางวันเมฆจะสามารถก่อยอดขึนไปสูงกว่าระดับอุณหภูมจุดเยือกแข็ง เช่น ถึงระดับ 20,000
                                                                                  ้                     ิ
    ฟุต เรียกว่า เมฆเย็น (                            ซึงภายในยอดเมฆจะประกอบด้วยเม็ดน้ าเย็นจัด (
                                                        ่                                                                          ทีม ี
                                                                                                                                     ่
    อุณหภูมต่าถึง - 8 องศาเซลเซียส
                ิ
•   ขันตอนทีสาม : โจมตี
      ้           ่

•          เป็นการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อเร่งให้เมฆเกิดเป็นฝน ซึงสามารถกระทาได้ 3 วิธ ี ขึนอยูกบคุณสมบัตของเมฆ และชนิดของ
                                                              ่                         ้ ่ ั         ิ
    เครืองบินทีมอยู่ ดังนี้
       ่       ่ ี
•   วิธท่ี 1 "โจมตีเมฆอุ่น แบบแซนด์วช"
       ี                             ิ

•        ถ้าเป็นเมฆอุ่น เมือเมฆแก่ตว ยอดเมฆจะอยูทระดับ 10,000 ฟุต หรือสูงกว่าเล็กน้อย และเคลื่อนตัวเข้าสูพนทีเป้าหมาย จะทาการ
                          ่        ั                ่ ่ี                                                 ่ ้ื ่
    โจมตีโดยวิธ ี               คือ ใช้เครือง บิน 2 เครือง เครืองหนึ่งโปรยผงโซเดียมคลอไรด์ (
                                          ่              ่    ่                                     ทับยอดเมฆ หรือไหล่เมฆทีระดับ
                                                                                                                           ่
    9,000 ฟุต หรือ ไม่เกิน 10,000 ฟุต อีกเครืองหนึ่งโปรยผงยูเรีย (
                                             ่                             ทีฐานเมฆ ทามุมเยืองกัน 45 องศา เมฆจะเริมตกเป็นฝนลงสู่
                                                                             ่               ้                    ่
    พืนดิน
      ้

•   วิธท่ี 2 "โจมตีเมฆเย็น แบบธรรมดา"
       ี

•        ถ้าเป็นเมฆเย็นและมีเครืองบินเมฆเย็นเพียงเครืองเดียว เมือเมฆเย็นพัฒนายอดสูงขึนเลยระดับ 20,000 ฟุต ไปแล้ว จะทาการโจมตี
                                   ่                     ่           ่                     ้
    โดยการยิงพลุสารเคมี ซิลเวอร์ไอโอไดด์ (           เข้าสู่ยอดเมฆ ทีระดับความสูงประมาณ 21,500 ฟุต ซึงมีอุณหภูมระหว่าง -8 ถึง 12 องศา
                                                                       ่                                   ่       ิ
    เซลเซียส มีกระแสอากาศไหลขึนสูงกว่า 1,000 ฟุตต่อนาที และมีปริมาณน้าเย็นจัดไม่ตากว่า 1 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึงเป็นเงือนไข
                                     ้                                                                                 ่      ่
    เหมาะสม อนุภาคของสาร               จะทาหน้าทีเป็นแกนเยือกแข็ง (
                                                ่                                   และเมือสัมผัสกับเม็ดน้าเย็นจัดในบอดเมฆ จะทาให้เม็ด
                                                                                             ่
    น้าเหล่านันกลายเป็ นน้ าแข็งและคายความร้อนแฝงออกมา ซึงความร้อนดังกล่าวจะเป็ นพลังงานผลักดันให้ยอดเมฆเจริญสูงขึนไปอีก และมี
              ้                                                  ่                                                          ้
    การชักนาอากาศชืนเข้าสู่ฐานเมฆเพิมขึน ในขณะเดียวกันเม็ดน้าทีกลายเป็นน้าแข็ง จะมีความดันไอทีผวต่ากว่าเม็ดน้ าเย็นจัด ทาให้ ไอน้า
                     ้                   ่ ้                             ่                             ่ ิ
    ระเหยจากเม็ดน้ าไปเกาะทีเม็ดน้ าแข็ง และเม็ดน้าแข็งจะเจริญเติบโตได้เร็วเป็ นก้อนน้ าแข็งทีมน้ าหนักเพิมขึน และจะล่วงหล่นลงสู่ เบืองล่าง
                              ่                                                                ่ ี           ่ ้                    ้
    ซึงจะละลายเป็นเม็ดน้ าฝน เมือผ่านชันอุณหภูมเิ ยือกแข็งลงมาทีฐานเมฆ และเกิดเป็นฝนตกลงสู่พนดิน
      ่                          ่        ้                        ่                                ้ื

•   วิธท่ี 3 "โจมตีเมฆเย็น แบบซูเปอร์แซนด์วช"
       ี                                    ิ
• หากเป็ นเมฆเย็น และมีเครืองบินครบทังชนิดเมฆอุนและเมฆเย็น เมือเมฆเย็นพัฒนายอดสูงขึนเลย
                           ่           ้        ่               ่                      ้
  ระดับ 20,000 ฟุต ไปแล้ว จะทาการโจมตีโดยการผสมผสานวิธท่ี 1 และ 2 ในเวลาเดียวกัน กล่าวคือ
                                                            ี
  เครืองบินเมฆเย็นจะยิงพลุสารเคมี ซิลเวอร์ไอโอไดด์ (
     ่                                                  เข้าสูยอดเมฆ ทีระดับความสูงประมาณ
                                                              ่           ่
  21,500 ฟุต ส่วนเครืองบินเมฆอุน 1 เครือง จะโปรยสารเคมีโซเดียมคลอไรด์ทระดับไหล่เมฆ
                    ่            ่         ่                                ่ี
  (ประมาณ 9,000 - 10,000 ฟุต) และเครืองบินเมฆอุนอีก 1 เครือง จะโปรยสารเคมีผงยูเรียทีระดับชิด
                                         ่        ่       ่                          ่
  ฐานเมฆ ทามุมเยืองกัน 45 องศา วิธการนี้จะทาให้ประสิทธิภาพในการเพิมปริมาณน้ าฝนสูงยิงขึน
                  ้                  ี                               ่                   ่ ้
  และเทคนี้โปรดเกล้าฯ ให้เรียกชือว่า
                               ่                                ขันตอนทีส่ี : เพิมฝน
                                                                  ้     ่        ่

•               การโจมตีเมฆในขันตอนที่ 3 ทังสามวิธี อาจจะทาให้ฝนใกล้จะตกหรือเริมตกแล้ว ขันตอนที่ 4
                               ้             ้                                 ่         ้
    นี้ จะเร่งการตกของฝนและเพิมปริมาณน้ าโดยการโปรยเกล็ดน้ าแข้งแห้ง (
                                 ่                                                   ทีระดับใต้ฐาน
                                                                                       ่
    เมฆประมาณ 1,000 ฟุต เกล็ดน้ าแข็งแห้งซึงมีอุณหภูมต่าถึง -78 องศาเซลเซียส จะปรับอุณหภูมของ
                                                 ่       ิ                                      ิ
    บรรยากาศระหว่างฐานเมฆกับพืนดินให้เย็นลง ทาให้ฐานเมฆยิงลดระดับต่าลง ฝนจะตกในทันที หรือ
                                   ้                            ่
    ทีตกอยูแล้ว จะมีอตราการตกของฝนสูงขึน ลดอัตราการระเหยของเม็ดฝนขณะล่วงหล่นลงสูพนดิน
       ่      ่          ั                     ้                                           ่ ้ื
    และทาให้ฝนตกต่อเนื่องเป็ นเวลานานขึนและหนาแน่นยิงขึน
                                           ้               ่ ้
•   ขันตอนทีส่ี : เพิมฝน
      ้     ่        ่

•          การโจมตีเมฆในขันตอนที่ 3 ทังสามวิธ ี อาจจะทาให้ฝนใกล้จะตกหรือเริมตกแล้ว ขันตอนที่ 4 นี้ จะเร่งการตกของฝนและเพิม
                          ้           ้                                    ่         ้                                    ่
    ปริมาณน้าโดยการโปรยเกล็ดน้ าแข้งแห้ง (            ทีระดับใต้ฐานเมฆประมาณ 1,000 ฟุต เกล็ดน้าแข็งแห้งซึงมีอุณหภูมต่าถึง -78
                                                        ่                                                   ่       ิ
    องศาเซลเซียส จะปรับอุณหภูมของบรรยากาศระหว่างฐานเมฆกับพืนดินให้เย็นลง ทาให้ฐานเมฆยิงลดระดับต่าลง ฝนจะตกในทันที หรือที่
                               ิ                                  ้                         ่
    ตกอยูแล้ว จะมีอตราการตกของฝนสูงขึน ลดอัตราการระเหยของเม็ดฝนขณะล่วงหล่นลงสู่พนดิน และทาให้ฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลานานขึน
         ่         ั                    ้                                              ้ื                                     ้
    และหนาแน่นยิงขึน
                 ่ ้

•   3. กรรมวิธการทาฝนหลวง
              ี

•         การออกปฏิบตการแต่ละครัง จะดาเนินการเมือได้รบการร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกร, สมาชิกสภาผูแทนราษฎร, ผูว่าราชการจังหวัด
                    ั ิ         ้              ่ ั                                            ้           ้
    หรือประสานงานโดยตรงกับคณะปฏิบตการฝนหลวง
                                   ั ิ

•    ภาคเหนือ สนามบิน จ.แพร่, สนามบิน จ.เชียงใหม่
•    ภาคอีสาน สนามบินกองบิน 1 จ.นครราชสีมา, สนามบิน จ.ขอนแก่น
•    ภาคกลาง สนามบินกองบิน 2 จ.ลพบุร,ี สนามบินกองบิน 4 จ.นครสวรรค์
•    ภาคใต้ตอนบน สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน, สนามบินค่ายธนัรตน์ อ.ปราณบุร ี หรือสนามบินกองบิน 53 จ.ประจวบคีรขนธ์
                                                         ั                                               ี ั

More Related Content

What's hot

New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNattanaree
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงPongsa Pongsathorn
 
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงโครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงTanwalai Kullawong
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงPinocchio_Bua
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงChutikan Mint
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินLittleZozind
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินWaristha Meepechdee
 
เพาเวอพ้อยภัยพิบัติ
เพาเวอพ้อยภัยพิบัติเพาเวอพ้อยภัยพิบัติ
เพาเวอพ้อยภัยพิบัติJune Fghijklmnopqrsteovl
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1mindda_honey
 
ภัยพิบัติทางธรมมชาติ
ภัยพิบัติทางธรมมชาติภัยพิบัติทางธรมมชาติ
ภัยพิบัติทางธรมมชาติPookyoon Soshi'girl
 
ภัยพิบัติ
ภัยพิบัติภัยพิบัติ
ภัยพิบัติnaleesaetor
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินlalipat
 
โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวโครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวnam--nam-thanaporn
 
โครงการปลูกหญ้าแฝก1
โครงการปลูกหญ้าแฝก1โครงการปลูกหญ้าแฝก1
โครงการปลูกหญ้าแฝก1Nuttayaporn2138
 
Ch 2 disaster informatics
Ch 2 disaster informaticsCh 2 disaster informatics
Ch 2 disaster informaticsfreelance
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินlalipat
 

What's hot (19)

New งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power pointNew งานนำเสนอ microsoft office power point
New งานนำเสนอ microsoft office power point
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวงโครงการในพระราชดำริฝนหลวง
โครงการในพระราชดำริฝนหลวง
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
SMMS ฝนหลวง
SMMS ฝนหลวงSMMS ฝนหลวง
SMMS ฝนหลวง
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดิน
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดิน
 
เพาเวอพ้อยภัยพิบัติ
เพาเวอพ้อยภัยพิบัติเพาเวอพ้อยภัยพิบัติ
เพาเวอพ้อยภัยพิบัติ
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ภัยพิบัติทางธรมมชาติ
ภัยพิบัติทางธรมมชาติภัยพิบัติทางธรมมชาติ
ภัยพิบัติทางธรมมชาติ
 
ภัยพิบัติ
ภัยพิบัติภัยพิบัติ
ภัยพิบัติ
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดิน
 
hazard_53
hazard_53hazard_53
hazard_53
 
โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวโครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
โครงการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว
 
โครงการปลูกหญ้าแฝก1
โครงการปลูกหญ้าแฝก1โครงการปลูกหญ้าแฝก1
โครงการปลูกหญ้าแฝก1
 
Ch 2 disaster informatics
Ch 2 disaster informaticsCh 2 disaster informatics
Ch 2 disaster informatics
 
โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
โครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดินโครงการแกล้งดิน
โครงการแกล้งดิน
 

Similar to งานนำเสนอ1

โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงWannaporn Sukthawee
 
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31eeveaeef
 
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวงPitchapa Manajanyapong
 
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงchaiing
 
นักสืบสายลม
นักสืบสายลมนักสืบสายลม
นักสืบสายลมTaweesak Poochai
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำsedwong Pam
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำsedwong Pam
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำsedwong Pam
 
โครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัส
โครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัสโครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัส
โครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัสLuksika
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำsavokclash
 
โครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริโครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริAommy_18
 
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์Aungkana Na Na
 
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนการวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนdnavaroj
 
โครงการชลประทาน ใหม่
โครงการชลประทาน ใหม่โครงการชลประทาน ใหม่
โครงการชลประทาน ใหม่Chanapun Kongsomnug
 
การพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศการพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศdnavaroj
 
การสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียมการสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียมSutisa Tantikulwijit
 
โครงการชลประทาน
โครงการชลประทานโครงการชลประทาน
โครงการชลประทานChanapun Kongsomnug
 
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14Nattakan Wuttipisan
 

Similar to งานนำเสนอ1 (20)

โครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวงโครงการฝนหลวง
โครงการฝนหลวง
 
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
เศรษฐกิจพอเพียง ม.4 7 เลขที่31
 
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียง ฝนหลวง
 
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวงเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
เศรษฐกิจพอเพียงเรื่องโครงการฝนหลวง
 
นักสืบสายลม
นักสืบสายลมนักสืบสายลม
นักสืบสายลม
 
บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)บทที่ 1 (1)
บทที่ 1 (1)
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
 
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำPowerpoint ทรัพยากรน้ำ
Powerpoint ทรัพยากรน้ำ
 
โครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัส
โครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัสโครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัส
โครงการฝายชะลอน้ำ ตามพระราชดำรัส
 
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำวัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
 
โครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริโครงการพระราชดำริ
โครงการพระราชดำริ
 
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
รายงานผลการวิจัย ปี 2553 การจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์โครงงาน แบงค์
โครงงาน แบงค์
 
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝนการวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน
 
โครงการชลประทาน ใหม่
โครงการชลประทาน ใหม่โครงการชลประทาน ใหม่
โครงการชลประทาน ใหม่
 
การพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศการพยากรณ์อากาศ
การพยากรณ์อากาศ
 
การสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียมการสำรวจปิโตรเลียม
การสำรวจปิโตรเลียม
 
โครงการชลประทาน
โครงการชลประทานโครงการชลประทาน
โครงการชลประทาน
 
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14นัฐกานต์ วุฒิพิศาล  ม. 4.10 เลขที่ 14
นัฐกานต์ วุฒิพิศาล ม. 4.10 เลขที่ 14
 

งานนำเสนอ1

  • 1.
  • 2. • โครงการพระราชดาริฝนหลวง เป็ นโครงการทีก่อกาเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณ ทีทรง ่ ่ ห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถินทุรกันดาร ทีตองประสบปญ ่ ่ ้ ั • หาขาดแคลนน้า เพืออุปโภคบริโภค และเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้งซึงมี ่ ่ สาเหตุมาจาก ความผันแปร และคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝน เริมต้นล่าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติหรือฝนทิงช่วงยาวในช่วงฤดูฝน จากพระราชกรณียกิจ ่ ้ ในการเสด็จพระราชดาเนินเยียมพสกนิกร ในทุกภูมภาคอย่างต่อเนื่อง สม่าเสมอนับแต่เสด็จ ่ ิ ขึนเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ จนตราบเท่าทุกวันนี้ ทรงพบเห็นว่าภาวะแห้งแล้ง ได้ทวีความถี่ ้ และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงยิงขึนตามลาดับ เพราะนอกจากความผันแปร และคลาดเคลื่อน ่ ้ ่ ของฤดูกาลตามธรรมชาติแล้ว การตัดไม้ทาลายปา ยังเป็ นสาเหตุให้สภาพแวดล้อมทาง ธรรมชาติเปลียนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึงสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร ในทุกภาคของ ่ ่ ประเทศ ทาความเสียหายแก่เศรษฐกิจโดยรวมของชาติเป็ นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี
  • 3. • ตามเส้นทางทีเคยเสด็จพระราชดาเนิน ทังภาคพืนดิน ทางอากาศยานดังกล่าว ทรง ่ ้ ้ สังเกตเห็นว่ามีเมฆปริมาณมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่สามารถก่อรวมตัวกัน จนเกิดเป็ นฝนได้ เป็ นเหตุให้เกิดภาวะฝนทิงช่วงระยะยาวทัง ๆ ทีเป็ นช่วงฤดูฝน ทรงคิดคานึงว่า น่าจะมี ้ ้ ่ มาตรการทางวิทยาศาสตร์ ทีจะช่วยให้เมฆเหล่านันก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็ นฝนได้ ทรง ่ ้ เชือมันว่า ด้วยลักษณะของกาลอากาศ ภูมอากาศ และภูมประเทศของประเทศไทยซึงตังอยู่ ่ ่ ิ ิ ่ ้ ในภูมภาคเขตร้อน และอยูในอิทธิพลของฤดูมรสุมของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฤดูมรสุม ิ ่ ตะวันตกเฉียงใต้ซงเป็ นฤดูฝน และเป็ นฤดูเพาะปลูกประจาปีของประเทศไทย จะสามารถดัด ่ึ แปรสภาพอากาศ ให้เกิดเป็ นฝนตกได้ อย่างแน่นอน
  • 4. • ตามทีทรงเล่าไว้ใน RAINMAKING STORY จาก พ.ศ. 2498 เป็ นต้นมา ทรง ่ ศึกษาค้นคว้า และวิจยทางเอกสาร ทังด้านวิชาการอุตุนิยมวิทยา และมีการดัดแปรสภาพ ั ้ อากาศ ซึงทรงรอบรู้ และเชียวชาญ เป็ นทียอมรับทังใน และต่างประเทศ จนทรงมันพระทัย ่ ่ ่ ้ ่ จึงพระราชทานแนวคิดนี้แก่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ ์ เทวกุล ผูเ้ ชียวชาญในการวิจยประดิษฐ์ทางด้าน ่ ั เกษตรวิศวกรรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขณะนัน ในปีถดมา และทรงพระกรุณา ้ ั โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หาลู่ทางทีจะทาให้เกิดการทดลองปฏิบตการในท้องฟ้าให้ ่ ั ิ เป็ นไปได้
  • 5. • จนกระทังถึงปี พ.ศ. 2512 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จดตังหน่วยบิน ปราบศัตรูพชกรมการข้าว ่ ั ้ ื และพร้อมทีจะให้การสนับสนุ น ในการสนองพระราชประสงค์ ม.ร.ว.เทพฤทธิ ์ เทวกุล จึงได้นาความ ่ ขึนกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบว่า พร้อมทีจะดาเนินการ ตามพระราชประสงค์แล้ว ดังนันในปี ้ ่ ้ เดียวกันนันเอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทาการทดลองปฏิบตการจริงในท้องฟ้าเป็ นครังแรก เมือ ้ ั ิ ้ ่ วันที่ 1-2 กรกฎาคม 2512 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตังให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ ์ เทวกุล เป็ น ้ ผูอานวยการโครงการ และหัวหน้าคณะปฏิบตการทดลอง เป็ นคนแรก และเลือกพืนทีวนอุทยานเขา ้ ั ิ ้ ่ ใหญ่เป็ นพืนทีทดลองเป็ นแห่งแรก โดยทดลองหยอดก้อนน้ าแข็งแห้ง (dry ice หรือ solid ้ ่ carbondioxide) ขนาดไม่เกิน 1 ลูกบาศก์น้ิว เข้าไปในยอดเมฆสูงไม่เกิน 10,000 ฟุต ที่ ลอยกระจัดกระจายอยูเหนือพืนทีทดลองในขณะนัน ทาให้กลุมเมฆ ทดลองเหล่านัน มีการ ่ ้ ่ ้ ่ ้ เปลียนแปลงทางฟิสกส์ของเมฆอย่างเห็นได้ชดเจน เกิดการกลันรวมตัวกันหนาแน่น และก่อยอด ่ ิ ั ่ สูงขึนเป็ นเมฆฝนขนาดใหญ่ ในเวลาอันรวดเร็วแล้วเคลือนตัวตามทิศทางลม พ้นไปจากสายตา ไม่ ้ ่ สามารถสังเกตได้ เนื่องจากยอดเขาบัง แต่จากการติดตามผลโดยการสารวจทางภาคพืนดิน และได้รบ ้ ั รายงานยืนยันด้วยวาจาจากราษฎรว่า เกิดฝนตกลงสูพนทีทดลองวนอุทยานเขาใหญ่ในทีสด นับเป็ น ่ ้ื ่ ุ่ นิมตหมายบ่งชีให้เห็นว่า การบังคับเมฆให้เกิดฝนเป็ นสิงทีเป็ นไปได้ ิ ้ ่ ่
  • 6. วิธการทาฝนหลวง ี • 1. เทคโนโลยีฝนหลวง • เทคโนโลยีฝนหลวงเป็ นเทคนิค หรือ วิชาการทีเกียวกับการดัดแปลงสภาพอากาศ โดยเน้นการทาฝน เพือ ่ ่ ่ เพิมปริมาณฝนตก (Rain enhancement) และ/หรือ เพือให้ฝนตกกระจายอย่างสม่าเสมอ (Rain ่ ่ redistribution) สาหรับป้องกันหรือบรรเทาภาวะแห้งแล้งทีเกิดจากฝนแล้ง หรือฝนทิงช่วงนัน เป็ นวิชาการที่ ่ ้ ้ ใหม่สาหรับประเทศไทยและของโลก ข้อมูลหลักฐาน (evidence) ทีใช้พสจน์ยนยัน เพือให้เกิดการยอมรับใน ่ ิู ื ่ ระดับนักวิชาการและผูบริหารระดับสูง ถึงผลปฏิบตการฝนหลวงทังทางด้านกาย - ้ ั ิ ้ • ภาพ (Physic) และด้านสถิติ (Statistic) มีน้อยมาก ดังนัน ในระยะแรกเริมของการทดลองและวิจย กรรมวิธี ้ ่ ั การปฏิบตการฝนหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหว จึงได้ทรงติดตามผลการวางแผนการทดลองปฏิบตการ การ ั ิ ่ ั ั ิ สังเกตจากรายงานแทบทุกครังโดยใกล้ชด ทรงหาความรูและประสบการณ์จากนักวิชาการทีทรงคุณวุฒทางด้านอุตุนิ - ้ ิ ้ ่ ิ • ยมวิทยา โดยได้รบสังให้เชิญ พล.ร.ท.สนิท เวสารัชนันท์ ร.น. อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา พล.ร.ต.พิณ พันธุทวี ร.น. ั ่ พร้อมด้วยนักวิชาการอื่นๆ มาเป็ นคณะทางานถวาย -ความคิดเห็น วิเคราะห์ผลปฏิบตการทีทางคณะปฏิบตการฝน ั ิ ่ ั ิ หลวง ได้ทดลองสังเกตผลการเปลียนแปลงแล้ว ทารายงานเสนอเป็ นประจา ่ • 2. กรรมวิธการทาฝนหลวง ี • ั ั กรรมวิธการทาฝนหลวงในประเทศไทยทีใช้เป็ นหลักในปจจุบน สรุปได้ ดังนี้ ี ่
  • 7. • ขันตอนทีหนึ่ง : ก่อเมฆ ้ ่ • เป็ นการดัดแปรสภาพอากาศเพือเร่งหรือเสริมการเกิดเมฆ โดยการโปรยสารเคมีผล ่ ละเอียดของเกลือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ทีระดับความสูง 7,000 ฟุต ในท้องฟ้าโปร่งใส ่ ทีมความชืนสัมพัทธ์ไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ผงของเกลือโซเดียมคลอไรด์ ซึงมีคุณสมบัติ ่ ี ้ ่ ในการดูดความชืนได้ดี จะทาหน้าทีเสริมประสิทธิภาพของแกนกลันตัวในบรรยากาศ ้ ่ ่ (Cloud Condensation Nuclei) เรียกย่อว่า CCN ทาให้กระบวนการ ดูดซับความชืนในอากาศให้กลายเป็ นเม็ดน้าเกิดเร็วขึนกว่าธรรมชาติ และเกิดกลุ่มเมฆ ้ ้ จานวนมาก ซึงเมฆเหล่านี้จะพัฒนาเป็ นเมฆก้อนใหญ่ในเวลาต่อมา ่
  • 8. ขันตอนทีสอง : เลียงให้อวน ้ ่ ้ ้ • เป็นการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อเร่งหรือเสริมการเพิมขนาดของเมฆและขนาดของเม็ดน้ าในก้อนเมฆ จะปฏิบตการเมือเมฆทีก่อตัว ่ ั ิ ่ ่ จากขันตอนที่ 1 หรือเมฆเดิมทีมอยูตามธรรมชาติ ก่อยอดสูงถึงระดับ 10,000 ฟุต โดยการโปรยสารเคมีผลแคลเซียมคลอไรด์ ( ้ ่ ี ่ เข้าไปในกลุ่มเมฆทีระดับ 8,000 ฟุต ผงแคลเซียมคลอไรด์ซงมีคุณสม ่ ่ ่ึ • บัตดดความชืนได้ดี จะดูดซับความชืนและเม็ดน้ าขนาดเล็กในก้อนเมฆให้กลายเป็นเม็ดน้ าขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกันจะเกิดปฏิกรยาคาย ิ ู ้ ้ ิิ ความร้อน ซึงเป็นคุณสมบัตเฉพาะของสารแคลเซียมคลอไรด์เมือละลายน้ า ความร้อนทีเกิดขึนจะเพิมอัตราเร็วของกระแสอากาศไหลขึน ่ ิ ่ ่ ่ ้ ่ ้ ( ้ ่ ้ ้ ่ ่ ้ ั ในก้อนเมฆ ทังขนาดเม็ดน้ าทีโตขึนและความเร็วของกระแสอากาศไหลขึนทีเพิมขึน จะเป็ นปจจัยเร่งกระบวนการชนกันและ รวมตัวกัน ( ของเม็ดน้า ทาให้เม็ดน้าขนาดใหญ่จานวนมากเกิดขึนในก้อนเมฆ ้ และยอดเมฆพัฒนาตัวสูงขึน ้ • ในขันนี้ เมฆจะมีขนาดใหญ่ขนและก่อยอดสูงขึนไปได้มากน้อยแค่ไหน ขึนอยูกบการทรงตัวของบรรยากาศในแต่ละวัน ซึงแบ่ง ้ ้ึ ้ ้ ่ ั ่ ออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ ในบางวันเมฆจะไม่สามารถก่อยอดสูงเกินระดับอุณหภูมจุดเยือกแข็ง ( 0 องศาเซลเซียส) หรือประมาณ 18,000 ิ ฟุต เรียกว่า เมฆอุ่น ( ในบางวันเมฆจะสามารถก่อยอดขึนไปสูงกว่าระดับอุณหภูมจุดเยือกแข็ง เช่น ถึงระดับ 20,000 ้ ิ ฟุต เรียกว่า เมฆเย็น ( ซึงภายในยอดเมฆจะประกอบด้วยเม็ดน้ าเย็นจัด ( ่ ทีม ี ่ อุณหภูมต่าถึง - 8 องศาเซลเซียส ิ • ขันตอนทีสาม : โจมตี ้ ่ • เป็นการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อเร่งให้เมฆเกิดเป็นฝน ซึงสามารถกระทาได้ 3 วิธ ี ขึนอยูกบคุณสมบัตของเมฆ และชนิดของ ่ ้ ่ ั ิ เครืองบินทีมอยู่ ดังนี้ ่ ่ ี
  • 9. วิธท่ี 1 "โจมตีเมฆอุ่น แบบแซนด์วช" ี ิ • ถ้าเป็นเมฆอุ่น เมือเมฆแก่ตว ยอดเมฆจะอยูทระดับ 10,000 ฟุต หรือสูงกว่าเล็กน้อย และเคลื่อนตัวเข้าสูพนทีเป้าหมาย จะทาการ ่ ั ่ ่ี ่ ้ื ่ โจมตีโดยวิธ ี คือ ใช้เครือง บิน 2 เครือง เครืองหนึ่งโปรยผงโซเดียมคลอไรด์ ( ่ ่ ่ ทับยอดเมฆ หรือไหล่เมฆทีระดับ ่ 9,000 ฟุต หรือ ไม่เกิน 10,000 ฟุต อีกเครืองหนึ่งโปรยผงยูเรีย ( ่ ทีฐานเมฆ ทามุมเยืองกัน 45 องศา เมฆจะเริมตกเป็นฝนลงสู่ ่ ้ ่ พืนดิน ้ • วิธท่ี 2 "โจมตีเมฆเย็น แบบธรรมดา" ี • ถ้าเป็นเมฆเย็นและมีเครืองบินเมฆเย็นเพียงเครืองเดียว เมือเมฆเย็นพัฒนายอดสูงขึนเลยระดับ 20,000 ฟุต ไปแล้ว จะทาการโจมตี ่ ่ ่ ้ โดยการยิงพลุสารเคมี ซิลเวอร์ไอโอไดด์ ( เข้าสู่ยอดเมฆ ทีระดับความสูงประมาณ 21,500 ฟุต ซึงมีอุณหภูมระหว่าง -8 ถึง 12 องศา ่ ่ ิ เซลเซียส มีกระแสอากาศไหลขึนสูงกว่า 1,000 ฟุตต่อนาที และมีปริมาณน้าเย็นจัดไม่ตากว่า 1 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึงเป็นเงือนไข ้ ่ ่ เหมาะสม อนุภาคของสาร จะทาหน้าทีเป็นแกนเยือกแข็ง ( ่ และเมือสัมผัสกับเม็ดน้าเย็นจัดในบอดเมฆ จะทาให้เม็ด ่ น้าเหล่านันกลายเป็ นน้ าแข็งและคายความร้อนแฝงออกมา ซึงความร้อนดังกล่าวจะเป็ นพลังงานผลักดันให้ยอดเมฆเจริญสูงขึนไปอีก และมี ้ ่ ้ การชักนาอากาศชืนเข้าสู่ฐานเมฆเพิมขึน ในขณะเดียวกันเม็ดน้าทีกลายเป็นน้าแข็ง จะมีความดันไอทีผวต่ากว่าเม็ดน้ าเย็นจัด ทาให้ ไอน้า ้ ่ ้ ่ ่ ิ ระเหยจากเม็ดน้ าไปเกาะทีเม็ดน้ าแข็ง และเม็ดน้าแข็งจะเจริญเติบโตได้เร็วเป็ นก้อนน้ าแข็งทีมน้ าหนักเพิมขึน และจะล่วงหล่นลงสู่ เบืองล่าง ่ ่ ี ่ ้ ้ ซึงจะละลายเป็นเม็ดน้ าฝน เมือผ่านชันอุณหภูมเิ ยือกแข็งลงมาทีฐานเมฆ และเกิดเป็นฝนตกลงสู่พนดิน ่ ่ ้ ่ ้ื • วิธท่ี 3 "โจมตีเมฆเย็น แบบซูเปอร์แซนด์วช" ี ิ
  • 10. • หากเป็ นเมฆเย็น และมีเครืองบินครบทังชนิดเมฆอุนและเมฆเย็น เมือเมฆเย็นพัฒนายอดสูงขึนเลย ่ ้ ่ ่ ้ ระดับ 20,000 ฟุต ไปแล้ว จะทาการโจมตีโดยการผสมผสานวิธท่ี 1 และ 2 ในเวลาเดียวกัน กล่าวคือ ี เครืองบินเมฆเย็นจะยิงพลุสารเคมี ซิลเวอร์ไอโอไดด์ ( ่ เข้าสูยอดเมฆ ทีระดับความสูงประมาณ ่ ่ 21,500 ฟุต ส่วนเครืองบินเมฆอุน 1 เครือง จะโปรยสารเคมีโซเดียมคลอไรด์ทระดับไหล่เมฆ ่ ่ ่ ่ี (ประมาณ 9,000 - 10,000 ฟุต) และเครืองบินเมฆอุนอีก 1 เครือง จะโปรยสารเคมีผงยูเรียทีระดับชิด ่ ่ ่ ่ ฐานเมฆ ทามุมเยืองกัน 45 องศา วิธการนี้จะทาให้ประสิทธิภาพในการเพิมปริมาณน้ าฝนสูงยิงขึน ้ ี ่ ่ ้ และเทคนี้โปรดเกล้าฯ ให้เรียกชือว่า ่ ขันตอนทีส่ี : เพิมฝน ้ ่ ่ • การโจมตีเมฆในขันตอนที่ 3 ทังสามวิธี อาจจะทาให้ฝนใกล้จะตกหรือเริมตกแล้ว ขันตอนที่ 4 ้ ้ ่ ้ นี้ จะเร่งการตกของฝนและเพิมปริมาณน้ าโดยการโปรยเกล็ดน้ าแข้งแห้ง ( ่ ทีระดับใต้ฐาน ่ เมฆประมาณ 1,000 ฟุต เกล็ดน้ าแข็งแห้งซึงมีอุณหภูมต่าถึง -78 องศาเซลเซียส จะปรับอุณหภูมของ ่ ิ ิ บรรยากาศระหว่างฐานเมฆกับพืนดินให้เย็นลง ทาให้ฐานเมฆยิงลดระดับต่าลง ฝนจะตกในทันที หรือ ้ ่ ทีตกอยูแล้ว จะมีอตราการตกของฝนสูงขึน ลดอัตราการระเหยของเม็ดฝนขณะล่วงหล่นลงสูพนดิน ่ ่ ั ้ ่ ้ื และทาให้ฝนตกต่อเนื่องเป็ นเวลานานขึนและหนาแน่นยิงขึน ้ ่ ้
  • 11. ขันตอนทีส่ี : เพิมฝน ้ ่ ่ • การโจมตีเมฆในขันตอนที่ 3 ทังสามวิธ ี อาจจะทาให้ฝนใกล้จะตกหรือเริมตกแล้ว ขันตอนที่ 4 นี้ จะเร่งการตกของฝนและเพิม ้ ้ ่ ้ ่ ปริมาณน้าโดยการโปรยเกล็ดน้ าแข้งแห้ง ( ทีระดับใต้ฐานเมฆประมาณ 1,000 ฟุต เกล็ดน้าแข็งแห้งซึงมีอุณหภูมต่าถึง -78 ่ ่ ิ องศาเซลเซียส จะปรับอุณหภูมของบรรยากาศระหว่างฐานเมฆกับพืนดินให้เย็นลง ทาให้ฐานเมฆยิงลดระดับต่าลง ฝนจะตกในทันที หรือที่ ิ ้ ่ ตกอยูแล้ว จะมีอตราการตกของฝนสูงขึน ลดอัตราการระเหยของเม็ดฝนขณะล่วงหล่นลงสู่พนดิน และทาให้ฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลานานขึน ่ ั ้ ้ื ้ และหนาแน่นยิงขึน ่ ้ • 3. กรรมวิธการทาฝนหลวง ี • การออกปฏิบตการแต่ละครัง จะดาเนินการเมือได้รบการร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกร, สมาชิกสภาผูแทนราษฎร, ผูว่าราชการจังหวัด ั ิ ้ ่ ั ้ ้ หรือประสานงานโดยตรงกับคณะปฏิบตการฝนหลวง ั ิ • ภาคเหนือ สนามบิน จ.แพร่, สนามบิน จ.เชียงใหม่ • ภาคอีสาน สนามบินกองบิน 1 จ.นครราชสีมา, สนามบิน จ.ขอนแก่น • ภาคกลาง สนามบินกองบิน 2 จ.ลพบุร,ี สนามบินกองบิน 4 จ.นครสวรรค์ • ภาคใต้ตอนบน สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน, สนามบินค่ายธนัรตน์ อ.ปราณบุร ี หรือสนามบินกองบิน 53 จ.ประจวบคีรขนธ์ ั ี ั