More Related Content
More from นายจักราวุธ คำทวี
More from นายจักราวุธ คำทวี (20)
กศน วินัย 10 มีค 58 นานยรณชิต บุตรภักดีธรรม
- 22. - ไม่ใช่ฐานความผิด
- แต่เป็นเรื่องราว หรือ การกระทา ที่กล่าวอ้างว่าผู้ถูก
กล่าวหากระทาผิด
- ในคาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน การตั้งเรื่อง
กล่าวหาจึงไม่จาต้องระบุฐานความผิด หรือ ระบุมาตรา
1. ลักษณะของเรื่องกล่าวหา
- 34. 3. ข้อเท็จจริง หรือ ข้อมูลเบื้องต้น รวมทั้งพยานหลักฐาน
ต่างๆ อันเกี่ยวกับเรื่องกล่าวหานั้นมีอยู่แล้วอย่างไรบ้าง และผู้
ถูกกล่าวหาได้ให้การเบื้องต้น รับ หรือ ปฏิเสธในข้อใด มี
ข้ออ้างหรือข้อเถียงประการใด ซึ่งทราบได้จากการรวบรวม
ข้อมูลเบื้องต้นจากการแจ้งเรื่องกล่าวหา และจากการสอบสวน
ผู้ถูกกล่าวหาในตอนแรก
ข้อควรคานึงเบื้องต้น ต่อ
- 36. องค์ประกอบความผิด ตามมาตรา ๘๗ วรรคสอง
๑. มีหน้าที่ราชการจะต้องปฏิบัติ
๒.ได้ละทิ้งหน้าที่นั้นไป
๓. ไม่มีเหตุอันสมควร
๔. เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ตัวอย่าง ต่อ
- 37. ในการสอบสวนเบื้องต้น (ในชั้นแจ้ง สว.๒) นาย ก.
ผู้ถูกกล่าวหาได้ยอมรับว่า ตนมีหน้าที่เป็นเวรยามรักษา
สถานที่ราชการ ในวันเกิดเหตุเพลิงไหม้จริง แต่ปฏิเสธว่า
มิได้มีเจตนาทิ้งหน้าที่เวรยามแต่อย่างใด เพราะในวัน
เกิดเหตุผู้บังคับบัญชาได้มอบให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับ
การดูแลการก่อสร้างสถานที่ราชการอีกแห่งหนึ่งด้วย
และขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตนได้ไปปฏิบัติหน้าที่ดูแล
การก่อสร้างอาคารดังกล่าวอยู่
ตัวอย่าง ต่อ
- 38. กรณีดังกล่าว นาย ก. ได้ยอมรับในชั้นสอบสวน
เบื้องต้น แต่มีข้อเท็จจริงว่า นาย ก. ได้ให้การภาคเสธ
ซึ่งจะต้องตั้งประเด็นสอบสวนต่อไปคือ
๑. นาย ก. ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการไม่อยู่ปฏิบัติงานใน
หน้าที่เวรยามจริงหรือไม่
๒. การละทิ้งหน้าที่นั้นมีเหตุอันสมควรประการใด
หรือไม่
๓. การละทิ้งหน้าที่นั้น เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
แก่ ทางราชการอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร (ให้ระบุ
รายละเอียดความเสียหายให้ชัดเจน)
ตัวอย่าง ต่อ
- 40. 2. ต้องสอบสวนให้เป็นยุติว่า ความจริงเป็นอย่างไร และมี
พยานหลักฐานใดซึ่งยืนยันว่าเป็นเช่นนั้น
• ส่วนข้อเท็จจริงที่ผู้ถูกกล่าวหารับแล้ว หรือ มี
พยานหลักฐานเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ก็ไม่จาต้องหยิบ
ยกขึ้นมาเป็นประเด็นที่จะต้องสอบสวนอีก
ประเด็นที่จะต้องสอบสวน
- 44. แบ่งเป็ น ๘ หมวด ดังนี้
หมวด ๑ การแต่งตั้งกรรมการสอบสวน (ข้อ ๒ ถึงข้อ ๖)
หมวด ๒ สิทธิและหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหาและพยาน (ข้อ ๗ ถึงข้อ ๑๓)
หมวด ๓ อานาจหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวน (ข้อ ๑๔ ถึงข้อ ๑๙)
หมวด ๔ วิธีการสอบสวน (ข้อ ๒๐ ถึงข้อ ๓๗)
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. ๒๕๕๐
- 45. หมวด ๕ การทารายงานการสอบสวน (ข้อ ๓๘ ถึงข้อ ๓๙)
หมวด ๖ การพิจารณาสั่งสานวนการสอบสวน (ข้อ ๔๐ ถึงข้อ ๔๒)
หมวด ๗ การสอบสวนที่มิชอบและข้อบกพร่อง (ข้อ ๔๓ ถึงข้อ ๔๖)
หมวด ๘ การนับระยะเวลา (ข้อ ๔๗)
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. ๒๕๕๐
- 46. ระยะเวลา
๑๘๐ วัน
๑๕ วัน ๖๐ วัน ๑๕ วัน ๖๐ วัน ๓๐ วัน
ขั้นตอน
การดาเนินการ
- นับแต่ประธานฯ
รับทราบคาสั่ง
- ประชุม (สว.๒)
- วางแนวทางการ
สอบสวน
- แจ้งและอธิบายข้อ
กล่าวหา (ข้อ ๒๓)
รวบรวม
พยานหลักฐาน
เกี่ยวกับเรื่องที่
กล่าวหา
ประชุม (สว.๓)
สรุป
พยานหลักฐาน
ที่สนับสนุน
ข้อกล่าวหาจัดทา
สว.๓ และ
ดาเนินการแจ้ง
สว.๓
รวบรวม
พยานหลักฐาน
ที่ฝ่ ายผู้ถูก
กล่าวหาอ้าง
ประชุม (สว.๖)
พิจารณาลงมติ
และทารายงาน
การสอบสวน
เสนอผู้สั่งแต่งตั้ง
กรรมการสอบสวน
มีเหตุจาเป็น ขอขยายเวลา
ได้ครั้งละไม่เกิน ๖๐ วัน
การดาเนินการ + ขยายเวลา
ต้องไม่เกิน ๒๔๐ วัน
ถ้ายังไม่แล้วเสร็จ
ให้ประธานฯ รายงาน
ผู้สั่งแต่งตั้ง
เพื่อรายงาน อ.ก.ค.ศ. หรือ ก.ค.ศ.
แล้วแต่กรณี
เพื่อมีมติเร่งรัดการดาเนินการ
แผนภูมิแสดงขั้นตอนการดาเนินการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ตามข้อ ๒๐
- 48. ขั้นตอนที่ ๑
การทาคาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
๑. ต้องระบุ คาว่า “ร้ายแรง” หรือ “ไม่ร้ายแรง”
๒. ชื่อ ตาแหน่ง หรือ ตาแหน่งและวิทยฐานะ สังกัด
๓. เรื่องที่กล่าวหา
๔. ประธานฯ ต้องมีตาแหน่ง หรือตาแหน่งและวิทยฐานะ ต้องไม่ต่ากว่า
หรือเทียบเท่าผู้ถูกกล่าวหา
๕. จานวนคณะกรรมการอย่างน้อย ๓ คน
๖. ต้องมีผู้ดารงตาแหน่งนิติกร หรือผู้ที่ได้รับปริญญาตรีทางกฎหมาย
หรือผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรตามที่ ก.ค.ศ.กาหนด / รับรอง หรือ ผู้
มีประสบการณ์
- 49. การสั่งพักราชการ
• ผล – พ้นจากตาแหน่ง แต่ไม่พ้นจากอัตราเงินเดือน
• หลักเกณฑ์และวิธีการ
กรณีที่อาจสั่งพัก ได้แก่
1. ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
2. ถูกฟ้ องคดีอาญาหรือต้องหาว่ากระทาความผิด
อาญาเว้นแต่ความผิดโดยประมาทหรือลหุโทษ
- 50. เหตุที่จะสั่งพักราชการ ได้แก่
1. ถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือถูกฟ้ องคดีอาญาหรือต้อง
หาว่ากระทาผิดอาญาเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ หรือเกี่ยวกับ
ความประพฤติ หรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ และให้อยู่ใน
หน้าที่อาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ
2. จะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หรือจะก่อให้เกิดความ
ไม่สงบเรียบร้อย
3. อยู่ระหว่างถูกคุมขังหรือจาคุกเกิน 15 วันแล้ว
4. หรือในระหว่างสอบสวนมีคาพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทา
ผิดอาญาในเรื่องที่สอบสวนนั้น
- 51. การให้ออกจากราชการไว้ก่อน
• ผล – พ้นจากตาแหน่งและอัตราเงินเดือน
• หลักเกณฑ์
1. มีเหตุที่อาจถูกสั่งพักราชการได้
2. ผู้มีอานาจพิจารณาเห็นว่า กรณีหรือคดีนั้น
จะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว
- 52. ขั้นตอนการสอบสวน 9 ขั้นตอน
1. ประธานกรรมการ ลงลายมือชื่อ วันเดือนปี ที่รับทราบคาสั่ง
2. ประชุมคณะกรรมการเพื่อวางแนวทางการสอบสวน
3. แจ้งและอธิบายข้อกล่าวหา/แจ้งสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา และถาม
ว่าจะรับสารภาพหรือไม่
4. รวบรวมพยานหลักฐาน/ประชุมเพื่อพิจารณาว่าหลักฐานใด
สนับสนุนข้อกล่าวหา
5. สรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหา และให้โอกาสผู้ถูก
กล่าวหาชี้แจงและนาสืบแก้ข้อกล่าวหา
- 58. มาตรา 99 เมื่อได้ดาเนินการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหา
ตามมาตรา 98 แล้ว ถ้าฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามิได้กระทาผิด
วินัยให้สั่งยุติเรื่อง ถ้าฟังได้ว่ากระทาผิดวินัยให้ดาเนินการ
ตามมาตรา 100 และในกรณีที่กระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ต้องลงโทษปลดออกหรือไล่ออก ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อน
ผ่อนโทษห้ามมิให้ลดโทษต่ากว่าปลดออก
- 60. 60
มาตรา 97 การลงโทษข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา ให้ทาเป็นคาสั่งวิธีการออกคาสั่งเกี่ยวกับ
การลงโทษให้เป็นไปตามระเบียบของ ก.ค.ศ. ผู้สั่งลงโทษ
ต้องสั่งลงโทษให้เหมาะสมกับความผิด และมิให้เป็นไป
โดยพยาบาท โดยอคติ หรือโทสะจริต หรือลงโทษผู้ที่ไม่มี
ความผิด ในคาสั่งลงโทษให้แสดงว่าผู้ถูกลงโทษกระทาผิด
วินัยในกรณีใด ตามมาตราใด และมีเหตุผลอย่างใด
ในการกาหนดสถานโทษเช่นนั้น