Uploaded byDr.Kridsanapong Lertbumroongchai
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ
ใช้เพื่อการศึกษาในรายวิชา 08-888-206 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสื่อสารมวลชน
More Related Content
Similar to บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ
- 1. 08-888-206 เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสื่อสารมวลชน Information Technology forMass Communication ผู้สอน อ.กฤษณพงศ์ เลิศบำรุงชัย อ.ธนะภูมิ สงค์ธนำพิทักษ์ สำขำเทคโนโลยีมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสื่อสำรมวลชน มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี
- 2. บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ Information Technology ผู้สอน อ.กฤษณพงศ์เลิศบำรุงชัย อ.ธนะภูมิ สงค์ธนำพิทักษ์ สำขำเทคโนโลยีมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสื่อสำรมวลชน มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี
- 3. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกประเภทของระบบสำรสนเทศแบบต่ำงๆ ได้ 2.บอกระดับของผู้ใช้ระบบสำรสนเทศขั้นต่ำงๆ ได้ 3. อธิบำยพัฒนำกำรของเทคโนโลยีสำรสนเทศได้ 4. ยกตัวอย่ำงของกำรนำเอำเทคโนโลยีสำรสนเทศไปใช้ในกำรพัฒนำประเทศได้ 5. อธิบำยถึงนโยบำยเทคโนโลยีสำรสนเทศของประเทศไทยในปัจจุบันได้
- 4.
- 5. เทคโนโลยีและสารสนเทศ เทคโนโลยี + สารสนเทศTechnologyInformation กำรนำเอำควำมรู้ทำงด้ำนวิทยำศำสตร์มำพัฒนำเป็น องค์ควำมรู้ใหม่ เพื่อนำมำประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ อำจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทำงด้ำนคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีทำงกำรสื่อสำรและโทรคมนำคม เป็นต้น กำรนำข้อมูลมำผ่ำนกระบวนกำรต่ำงๆ ได้แก่ กำร วิเครำะห์ กำรคำนวณ และกำรแปลควำมหมำย เพื่อให้ เกิดประโยชน์ในด้ำนต่ำงๆ
- 6. เทคโนโลยีและสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศInformation Technology: IT กำรประยุกต์เอำควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์มำจัดกำรสำรสนเทศที่ต้องกำรโดยอำศัยเครื่องมือทำงเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยี ด้ำนคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้ำนเครือข่ำยโทรคมนำคมและกำรสื่อสำร เป็นต้น โดยใช้ตั้งแต่กำรค้นหำข้อมูล กำรวิเครำะห์ กำร จัดเก็บ และกำรเผยแพร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภำพ ควำมถูกต้อง ควำมแม่นยำ และควำมรวดเร็วต่อกำรนำไปใช้ประโยชน์
- 7. ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศInformation System ระบบสำรสนเทศ (InformationSystem) หมำยถึง ระบบที่อำศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ำมำจัดกำรกับข้อมูลในองค์กร เพื่อให้ บรรลุเป้ำหมำยที่ต้องกำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ ประกอบด้วยบุคลำกร ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครือข่ำยกำรสื่อสำรและทรัพยำกร ด้ำนข้อมูล สำหรับจัดเก็บ รวบรวม ปรับเปลี่ยนและเผยแพร่สำรสนเทศหรือเพื่อกำรนำมำใช้ประโยชน์ภำยในองค์กร
- 8. ระบบสารสนเทศ ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ • ระดับสูง (TopLevel Management) • ระดับกลาง (Middle Level Management) • ระดับปฎิบัติการ (Operational Level Management)
- 9. ระบบสารสนเทศ ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ ระดับสูง (Top LevelManagement) ประธำนบริษัท | กรรมกำรผู้จัดกำร | กรรมกำรบริหำร | ผู้จัดกำรทั่วไป
- 10. ระบบสารสนเทศ ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ ระดับกลาง (Middle LevelManagement) ผู้จัดกำรฝ่ำยขำย | ผู้จัดกำรฝ่ำยบัญชี | ผู้จัดกำรฝ่ำยผลิต
- 11. ระบบสารสนเทศ ระดับของผู้ใช้ระบบสารสนเทศ ระดับปฎิบัติการ (Operational LevelManagement) หัวหน้ำงำน | ผู้ควบคุมงำน | พนักงำนทั่วไป
- 12. ประเภทของระบบสารสนเทศ ระบบประมวลผลรายการประจาวัน (Transaction Processing Systems: TPS) เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับกำรประมวลผลข้อมูลทำงธุรกิจที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และปฏิบัติงำนซ้ำๆ ทุกวัน มักใช้กับระดับปฏิบัติกำร • กำรบันทึกรำยกำรยอดขำยประจำวัน • รำยกำรฝำก-ถอนเงิน • รำยกำรคำสั่งซื้อจำกลูกค้ำ • รำยกำรยืม-คืนวัสดุประจำวัน
- 13. ประเภทของระบบสารสนเทศ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems: DSS) เป็นระบบสำรสนเทศที่นำมำใช้ช่วยตัดสินใจของระดับกำรจัดกำรขั้นกลำงและขั้นสูง โดยเฉพำะในเรื่องกำรแข่งขันทำงธุรกิจที่ รุนแรง ควำมได้เปรียบในเรื่องตัดสินใจเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรคำนึงถึง ยิ่งตัดสินใจได้เร็ว ยิ่งมีโอกำสมำกกว่ำ
- 14. ประเภทของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร (Executive Information Systems: EIS) เป็นระบบสนับสนุนกำรตัดสินใจรูปแบบหนึ่งสำหรับผู้บริหำรระดับสูงโดยเฉพำะ มักใช้ตรวจสอบ ควบคุม หรือดูทิศทำง แนวโน้ม ขององค์กรโดยภำพรวม เพื่อให้ปรับเปลีย่นกลยุทธ์ต่ำงๆ ได้ทันท่วงที ข้อมูลมีทั้งภำยในและภำยนอกองค์กร มักถูกนำเสนอใน รูปแบบข้อมูลสรุปที่อ่ำนง่ำย ทำให้ผู้บริหำรทรำบถึงแนวโน้มได้ในเวลำอันรวมดเร็ว
- 15. ประเภทของระบบสารสนเทศ ระบบผู้เชี่ยวชาญ Expert Systems เป็นระบบสำรสนเทศที่อำศัยฐำนควำมรู้มำประยุกต์ใช้วินิจฉัยหรือสั่งกำร มีกำรจัดเก็บควำมรู้และประสบกำรณ์ของผู้เชี่ยวชำญมำ รวบรวมไว้เมื่อผู้ใช้งำนต้องกำรข้อมูลเพื่อตัดสินใจ ฐำนควำมรู้ดังกล่ำวจะถูกนำมำหำข้อสรุป และช่วยในกำรตัดสินใจต่ำงๆ ได้ ทำให้ลดปัญหำกำรขำดแคลนบุคลำกรผู้เชี่ยวชำญลงได้
- 16. ประเภทของระบบสารสนเทศ ระบบสานักงานอัตโนมัติ Office Automation Systems: OAS เป็นระบบที่นำมำใช้ในสำนักงำนเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกำรทำงำนให้มีประสิทธิภำพมำกขึ้น มักอยู่ในรูปแบบอุปกรณ์สำนักงำนทั่วไป เช่น คอมพิวเตอร์ ปรินท์เตอร์ เครื่องถ่ำยเอกสำร สแกนเนอร์ และเทคโนโลยีกำรสื่อสำรต่ำงๆ ภำยในองค์กร เช่น กำรประชุม ทำงไกล กำรใช้ไฟเบอร์ออพติค และปัจจุบันสำมำรถใช้งำนผ่ำนสม์ทโฟนได้ เช่น กำรรำยงำนข่ำว เป็นต้น
- 17. ประเภทของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ Management Information Systems: MIS เป็นระบบสำรสนเทศที่เป็นแหล่งประมวลผลรำยกำรประจำวัน (TPS) เพื่อใช้สำหรับกำรจัดทำระบบสำรสนเทศในระดับสูงให้กับ ผู้บริหำรในหน่วยงำนต่ำงๆ จนถึงระดับผู้บริหำรสูงสุดขององค์กร เกี่ยวข้องกับกำรนำไปวำงแผนและควบคุมงำนขององค์กร แทบทุกระดับชั้น และสำมำรถออกรำยงำนได้
- 18. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยแนวโน้มของกำรพัฒนำที่ไม่หยุดยั้ง มีกำรเชื่อมโยงกันอย่ำงทั่วถึงมำกยิ่งขึ้น ช่วยให้กำรติดต่อและแลกเปลี่ยนสำรสนเทศทำ ได้อย่ำงไร้ขีดจำกัดของพรมแดนระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีสำรสนเทศ ก็มีแนวโน้มในกำรพัฒนำที่ สอดคล้องกับเทคโนโลยีสื่อสำรที่เปลี่ยนไปด้วย โดยมีกำรออกแบบและพัฒนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้มีขนำดเล็กและมีประสิทธิภำพ ในกำรประมำลมำกยิ่งขึ้น พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
- 19. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ การรวมตัวกันของเทคโนโลยี Convergence เทคโนโลยีสำรสนเทศ เป็นกำรรวมตัวกันของเทคโนโลยีทำงด้ำนคอมพิวเตอร์ กำรสื่อสำรรวมถึงระบบเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ำไว้ ด้วยกัน เช่น กำรกระจำยเสียง (Broadcasting)
- 20. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ ต้นทุนที่ถูกลง Cost Reduction เทคโนโลยีสำรสนเทศ มีคุณสมบัติที่ทำให้เรำคำและกำรเป็นเจ้ำของอุปกรณ์เทคโนโลยีสำรสนเทศถูกลงเป็นอย่ำงมำกทั้งในส่วน ของอัตรำค่ำบริกำรสื่อสำรโทรคมนำคม เช่น ค่ำโทรศัพท์ ค่ำบริกำรอินเทอร์เน็ต ค่ำเช่ำสัญญำณเครือข่ำย
- 21.
- 22. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ การพกพาและการเคลื่อนที่ Portability / Mobility เทคโนโลยีสำรสนเทศทำให้กำรต่อเชื่อมเครือข่ำยคอมพิวเตอร์เป็นไปได้ง่ำยมำกยิ่งขึ้นอำทิเช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมำร์ทโฟน และอุปกรณ์พกพำอื่นๆ
- 23.
- 24.
- 25. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ การเปลี่ยนจากอะตอมเป็นบิต Bits Versus Atoms ทิศทำงของควำมนิยมในกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศผ่ำนเครือข่ำยอินเทอร์เน็ตนี้นับได้ว่ำเป็นตัวอย่ำงที่ชัดเจนของกำรหันเหจำก กิจกรรมที่ใช้ “อะตอม” เช่น กำรส่งเอกสำรที่เป็นกระดำษ ไปสู่กำรใช้ “บิต” (BIT : Binary Digit) มำกยิ่งขึ้น
- 26. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อผสม Multimedia เป็นระบบสำรสนเทศที่เป็นแหล่งประมวลผลรำยกำรประจำวัน (TPS) เพื่อใช้สำหรับกำรจัดทำระบบสำรสนเทศในระดับสูงให้กับ ผู้บริหำรในหน่วยงำนต่ำงๆจนถึงระดับผู้บริหำรสูงสุดขององค์กร เกี่ยวข้องกับกำรนำไปวำงแผนและควบคุมงำนขององค์กร แทบทุกระดับชั้น และสำมำรถออกรำยงำนได้
- 27. พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ เวลาและภูมิศาสตร์ Time & Distance เป็นระบบสำรสนเทศที่เป็นแหล่งประมวลผลรำยกำรประจำวัน(TPS) เพื่อใช้สำหรับกำรจัดทำระบบสำรสนเทศในระดับสูงให้กับ ผู้บริหำรในหน่วยงำนต่ำงๆ จนถึงระดับผู้บริหำรสูงสุดขององค์กร เกี่ยวข้องกับกำรนำไปวำงแผนและควบคุมงำนขององค์กร แทบทุกระดับชั้น และสำมำรถออกรำยงำนได้
- 28.
- 29.
- 30. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ ด้านเศรษฐกิจ Economy • กำรเงิน |กำรธนำคำร | Online Banking | Mobile Banking • ตลำดหลักทรัพย์ | หุ้นแบบเรียลไทม์
- 31. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ ด้านสังคม Social • ช่วยพัฒนำสังคมให้เกิดกำรเรียนรู้ที่สร้ำงสรรค์ ทำให้คนอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสุข •โครงกำรของสมเด็จพระเทพฯ มอบคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียนในชนบท ผู้ป่วยเรื้อรังในโรงพยำบำล • ให้ควำมรู้กับผู้ต้องขังในด้ำนคอมพิวเตอร์ เมื่อพ้นโทษจะได้มีอำชีพ และสร้ำงควำมภำคภูมิใจ 76 41
- 32. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ ด้านการศึกษา Education • กำรศึกษำทำงไกล |กำรถ่ำยทอดสัญญำณดำวเทียม | E-Learning | Massive Open Online Course (MOOC) • ทำข้อสอบออนไลน์ประมวลผลคะแนนได้ทันที
- 33. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม Communication and Telecommunication •กำรส่งข้อมูลไฟล์ภำพ เสียง เอกสำร • อุปกรณ์เชื่อมต่อกันผ่ำน Bluetooth, Wi-Fi • เครือข่ำยสังคมออนไลน์ Facebook, Twitter, Line, YouTube • กำรแจ้งข่ำวสำร ประชำสัมพันธ์
- 34. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ ด้านสาธารณสุข Public Health • นำเทคโนโลยีมำรักษำผู้ป่วย“โครงกำรแพทย์ทำงไกล” • ระบบปรึกษำแพทย์ทำงไกล • แลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ทำงกำรแพทย์
- 35. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาประเทศ ด้านสิ่งแวดล้อม Environment • กำรวิเครำะห์สภำพพื้นที่ภูมิศำสตร์ (GeographicInformation System : GIS) • ระบบสำรสนเทศทำงภูมิศำสตร์กำหนดตำแหน่งบนผิวโลก (Ground Position System : GPS) • ภำพถ่ำยดำวเทียม แผนที่ทำงอำกำศ
- 36.
- 37. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย • เริ่มประกำศใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ.2539 เตรียมกำรเพื่อรองรับกำรพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมในยุคข่ำวสำรข้อมูล • จัดตั้งคณะกรรมกำรเทคโนโลยีสำรสนเทศแห่งชำติ เพื่อร่วมกันเสนอแนะนโยบำยและแผนพัฒนำเทคโนโลยีสำรสนเทศ • กำรพัฒนำบุคลำกรด้ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศ • กำรสร้ำงบรรยำกำศให้มีกำรนำเทคโนโลยีสำรสนเทศเข้ำมำใช้ในกำรดำเนินงำนต่ำงๆ • กำรพัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำนด้ำนโทรคมนำคม • กำรปรับปรุงกฎหมำย ระเบียบข้อบังคับให้สอดคล้องกับกำรดำเนินธุรกิจสมัยใหม่โดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ • กำรส่งเสริมกำรผลิต กำรบริกำร กำรวิจัย และกำรพัฒนำให้มีเทคโนโลยีด้ำนสำรสนเทศขึ้นในประเทศไทย • เสนอมำตรกำรแก้ไขปัญหำและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในกำรพัฒนำเทคโนโลยีสำรสนเทศของประเทศต่อคณะรัฐมนตรี
- 38. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย กรอบนโยบำยเทคโนโลยีสำรสนเทศแห่งชำติฉบับแรกหรือ IT2000 จึงกำหนดขึ้นเบื้องต้นสำหรับระยะ5 ปี (พ.ศ. 2539-2543) โดยมีสำระสำคัญที่เป็นเสำหลักในกำรพัฒนำ 3 ประกำรคือ • พัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำนสำรสนเทศแห่งชำติ (National Information Infrastructure) • พัฒนำทรัพยำกรมนุษย์ (Human Resource Development) • พัฒนำระบบสำรสนเทศและปรับปรุงบทบำทภำครัฐเพื่อกำรบริกำรที่ดีขึ้น รวมทั้งกำรสร้ำงรำกฐำน ของอุตสำหกรรมสำรสนเทศที่แข็งแกร่ง (IT for Good Governance)
- 39. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย กรอบนโยบำย IT2010 ตั้งอยู่บนพื้นฐำนของกำรสร้ำงสังคมแห่งภูมิปัญญำและกำรเรียนรู้ของประเทศ ไทยที่จะครอบคลุมช่วงเวลำถึง10 ปี (แยกเป็นแผนแม่บท ICT ฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2) ทั้งนี้เพื่อให้ เศรษฐกิจมีควำมเข้มแข็งและยั่งยืน สำมำรถแข่งขันได้ในเวทีสำกล ในขณะเดียวกันเพื่อให้ประชำชนใน สังคมมีคุณภำพชีวิตที่ดี มีควำมเหลื่อมล้ำน้อยที่สุด ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ • ลงทุนในกำรเสริมสร้ำงทรัพยำกรมนุษย์ที่มีควำมรู้เป็นพื้นฐำนสำคัญ (Build Human Capital) • ส่งเสริมให้มีนวัตกรรมในระบบเศรษฐกิจและสังคม (Promote Innovation) • ลงทุนในโครงสร้ำงพื้นฐำนสำรสนเทศและส่งเสริมอุตสำหกรรมสำรสนเทศ (Strengthen Information Infrastructure & Industry)
- 40. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย ต่อมำได้พัฒนำกรอบนโยบำยเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำรของประเทศ หรือ ICT2020เพื่อ กำหนดทิศทำงกำรพัฒนำในระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2554-2563) โดยนำแนวคิดของกรอบนโยบำยเดิมมำเป็น ส่วนประกอบในกำรพัฒนำด้วย ซึ่งมีประเด็นหลักๆ ดังนี้ (ดูรำยละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mict.go.th) • กำรพัฒนำอย่ำงยั้งยืนใน 3 มิติคือ มิติสังคม มิติเศรษฐกิจ และมิติสิ่งแวดล้อม • เปิดโอกำสให้ประชำชนรับประโยชน์จำก ICT ได้อย่ำงเท่ำเทียมกัน เพื่อลดควำมเหลื่อมล้ำ • ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยพัฒนำให้ประเทศก้ำวทันโลกอย่ำงรู้เท่ำทัน ด้วยควำมมีเหตุผลและรู้ ควำมจำเป็นที่จะใช้อย่ำงพอประมำณ • ผลักดันกรอบนโยบำยก่อนหน้ำนี้ให้พัฒนำไปอย่ำงต่อเนื่อง • ส่งเสริมให้ภำคเอกชนและประชำชนมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำด้ำน ICT
- 41. สรุปท้ายบท เทคโนโลยี คือ กำรเอำควำมรู้ทำงด้ำนวิทยำศำสตร์มำพัฒนำเป็นองค์ควำมรู้ใหม่เพื่อ ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เทคโนโลยีสำรสนเทศเป็นอีกหนึ่งแขนงของวิชำทำงด้ำน วิทยำศำสตร์ ซึ่งต้องอำศัยเครื่องมือทำงเทคโนโลยีด้ำนคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีกำร สื่อสำรโทรคมนำคม เพื่อจัดกำรกับสำรสนเทศที่ต้องกำร
- 42. สรุปท้ายบท ระบบสำรสนเทศ เป็นระบบที่นำคอมพิวเตอร์เข้ำมำจัดกำรกับข้อมูลในองค์กร ซึ่งมี ผู้ใช้3 ระดับคือ ระดับสูงซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหำรสูงสุด ระดับกลำงซึ่งเกี่ยวข้องกับ บุคลำกรในระดับบริหำรและจัดกำร เช่น หัวหน้ำแผนก หรือหัวหน้ำฝ่ำย และกลุ่ม สุดท้ำยคือผู้ใช้ระดับปฏิบัติกำร ซึ่งได้แก่ กลุ่มผู้ปฎิบัติงำน
- 43. สรุปท้ายบท เทคโนโลยีสำรสนเทศสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรพัฒนำประเทศได้หลำยด้ำน เช่น เศรษฐกิจ สังคมกำรศึกษำ สำรธำรณสุข สิ่งแวดล้อม และกำรเกษตรกรรม ฯลฯ สำหรับประเทศไทยเองได้เล็งเห็นถึงควำมสำคัญ โดยได้วำงกรอบนโยบำยเทคโนโลยี สำรสนเทศหรือ IT2000 และพัฒนำอย่ำงต่อเนื่องเป็น IT2010 และ IT2020 เพื่อใช้ เทคโนโลยีสำรสนเทศให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชำติ นำไปสู่คุณภำพชีวิต และควำม เป็นอยู่ที่ดีของประชำชน
- 44.