More Related Content
Similar to ประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาว
Similar to ประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาว (20)
More from วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ
More from วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ (20)
ประเพณีและวัฒนธรรม 5 ภาค สีขาว
- 1. ประเพณีว ัฒ นธรรมสัง คมไทย
สัง คมไทยในภาคกลาง
ลักษณะภูมศาสตร์ของภาคกลางเป็นปัจจัยสำาคัญ
ิ
ทำาให้บริเวณภาคกลางเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ เป็นที่
ตั้งของชุมชนทังในระดับหมูบ้าน และระดับเมืองมา
้ ่
เป็นเวลาช้านาน
ภาคกลางพืนทีส่วนใหญ่ เป็นบริเวณ
้ ่
ดินดอนสามเหลี่ยม อันเกิดจากการทับถมของแม่นำ้า
หลายสายทีไหลลงสู่มาจากภูเขา และทีสูงทางภาค
่ ่
เหนือ ซึ่งได้แก่ ลำานำ้าปิง วัง ยม นาน ที่มารวมกันเป็น
ลำานำ้าเจ้าพระยา และพื้นทีส่วนใหญ่เป็นเทือกเขา
่
และแม่นำ้า ทำาให้เหมาะแก่การปลูกข้าวเป็นอย่างมาก
เพราะสามารถปลูกได้ทงข้าวนาดำา และนาหว่าน นั่น
ั้
1
ก็คือ บริเวณใดทีเป็นทีค่อนข้างดอน หรือทีไม่ลุ่มจน
่ ่ ่
- 3. ความลัก ษณะเชื่อ
เป็นการทำาบุญตลอดจนบูชาและอุทิศส่วน
กุศลให้พระภูมิเจ้าที่ เจ้ากรรมนายเวร เพื่อขอ
ความคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุขและประสบความ
เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขับไล่สงเลวร้าย
ิ่
ต่าง ๆ ที่ผ่านมาให้หมดสิ้นไปด้วยการสะเดาะ
เคราะห์ และขอให้ฝนตกตามฤดูกาล อันจะทำาให้
พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์
3
- 4. การประกอบอาชีพ
เนื่องจากภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มขนาด
ใหญ่มีนำ้าท่วมประชาชนส่วนใหญ่จึงมีอาชีพ
ทางเกษตรกรรม เช่น การทำานา การทำาไร่
ทำาสวน เลี้ยงสัตว์ ทำาประมง โดยเฉพาะการ
ทำาประมงนำ้าจืด เพราะมีแม่นำ้าหลายสาย
ปัจจุบนประชาชนส่วนใหญ่หันไปประกอบอุ
ั
สาหกรรมมากขึ้น
4
- 5. การประกอบอาชีพ
เนื่องจากภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มขนาดใหญ่
มีนำ้าท่วมประชาชนส่วนใหญ่จึงมีอาชีพทาง
เกษตรกรรม เช่น การทำานา การทำาไร่ ทำาสวน
เลี้ยงสัตว์ ทำาประมง โดยเฉพาะการทำาประมงนำ้า
จืด เพราะมีแม่นำ้าหลายสาย ปัจจุบันประชาชน
ส่วนใหญ่หันไปประกอบอุสาหกรรมมากขึ้น
ที่อ ยูอ าศัย
่
เนื่องจากพื้นที่ภาคกลางเป็นที่ราบลุ่ม เมื่อถึง
หน้านำ้าจะมีนำ้าหลากมาท่วมขัง ชาวภาคกลางจึง
นิยมสร้างเรือนที่มีใต้ถุนสูงมากเพื่อไม่ให้นำ้าท่วม
ถึงตัวเรือน ลักษณะหลังคาเป็นจั่วแหลมเพื่อให้นำ้า 5
ฝนไหลลงได้เร็ว ไม่รั่วซึมเข้าตัวเรือน
- 6. อาหารการกิน
ชาวภาคกลางนิยมบริโภคข้าวเจ้าเป็นอาหาร
หลัก เนื่องจากภาคกลางเป็นแหล่งปลูกข้าว
ส่วนอาหารต่างๆ
มีมากมายหลายชนิด เพราะเป็นแหล่งที่มีความ
อุดมสมบูรณ์ อาหารที่คนนิยมรับประทาน เช่น
นำ้าพริกปลาทู แกงจืด แกงส้ม แกงเผ็ด อาหาร
ประเภทผัด ทอด
ภาษาและการแต่ง กาย
ภาษาของชาวภาคกลางมีสำาเนียงใกล้เคียง
กับภาษาของทางราชการ ลักษณะการแต่งกาย
นิยมใช้ผาฝ้ายสีเข้ม ซึ่งระบายความร้อนได้ดี
้ 6
- 7. ประเพณี
ชาวภาคกลางจะมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวพ้นกับนำ้า จึง
มีประเพณีเกี่ยวข้องกับนำ้า เช่น ประเพณีแข่งเรือที่
จังหวัดพิษณุโลก
ประเพณีงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟที่ จังหวัด
สุโขทัย นอกจากนี้ยังมีประเพณีที่สำาคัญๆ เช่นงาน
ประเพณีตักบาตรดอกไม้ที่ จ.สระบุรี งานประเพณี
บวชช้าง จ. สุโขทัย งานตักบาตรเทโวที่ จ.
อุทัยธานี
7
- 8. ภูม ิป ญ ญาท้อ งถิ่น
ั
มีการทำาโอ่งที่ จ. ราชบุรี การทำามีดอรัญญิก
ที่ จ.ระนครศรีอยุธยา หัตถกรรมเครื่องจักรสานพื้น
บ้านการทำากลองยาว การทอผ้า การทำาเรือและ
ด้วยเบญจรงค์
8
- 10. วัฒ นธรรมครอบครัว และสัง คมใต้
ชาวภาคใต้ส่วนใหญ่อยู่ในสังคม
เกษตรกรรม ที่ต้องพึ่งพาแรงงานครอบครัวชาว
ใต้จึงมักเป็นครอบครัวใหญ่ มีความสัมพันธ์กันดี
ระหว่างผู้สูงอายุ และบุตรหลาน มีวัฒนธรรมการ
ผูกญาติผกมิตร รักพวกพ้องและญาติอย่าง
ู
เหนียวแน่น เป็นสังคมที่อบอุ่น มีนิสยเอื้อเฟื้อต่อ
ั
กัน เนื่องจากภาคใต้เคยชินต่อการพบกับคน
แปลกหน้า ซึ่งผ่านเข้ามาติดต่อค้าขาย จึงเป็นผู้
มีนิสยนักเลง กล้าได้กล้าเสีย
ั 10
- 11. มีค วามเชื่อ
เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการห้ามเดินทางใน
เวลาก่อนยำ่าคำ่าต้องรอให้มืดเสียก่อนจึงจะเดิน
ทางต่อไป เพราะเชือว่าเวลาดังกล่าวเป็นยำ่ายาม
่
ของภูตผีปีศาจ ความเชือของชาวบ้านในเรื่องนี้
่
ผูกพันกับเรื่องราวของโชคลาง
การประกอบอาชีพ
เนื่องจากนี้มีฝนตกชุก ประชาชนส่วนใหญ่
จึงประกอบอาชีพในการทำาสวนยางพารา ทำา
สวนมะพร้าว ทำาสวนผลไม้ ทำาเหมืองแร่ ทำา
ประมง ประชาชนในภาคนี้จึงมีเศรษฐกิจดี แต่
ก็มักประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติอยู่บอยๆ่
เช่น พายุ นำ้าท่วม 11
- 12. ทีอ ยูอ าศัย
่ ่
ภาคใต้เป็นภาคทีฝนตกชุกและบางครั้งคราวอาจ
่
ประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุ ทำาให้เรือนที่
ปลูกทางภาคใต้นี้มหลังคาทรงเตี้ยและลาดชัน เพื่อไม่ให้
ี
ต้านลมมากเกินไป เสาเรือนจะไม่นิยมฝังลงดิน แต่จะวาง
บนฐานทีทำาจากไม้เนือแข็ง หรือแท่งซีเมนต์หล่อ เพือไม่
่ ้ ่
ให้เสาผุผังเร็ว
อาหารการกิน
ชาวภาคใต้นิยมบริโภคข้าวเจ้า กับอาหารต่างๆ เช่น
แกงไตปลา แกงเหลือง นอกจากนียงมีอาหารพืนเมือง
้ ั ้
เช่น ข้าวยำา บูดูหลน ผัดสะตอ ลูกเนียง อาหารทะเลชนิด
ต่างๆ
ภาษาและการแต่ง กาย
ภาษาทีใช้เป็นภาษาถินทีเรียกว่า ภาษาปักษ์ใต้ ซึ่งมี
่ ่ ่
สำาเนียงสั้นๆเร็ว และกระชับ การแต่งกายแตกต่างกันไป
12
- 13. ประเพณี
ภาคใต้มีสมโภชหลักเมืองที่ จ.ยะลา
งานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่ จ. ปัตตานี
งานประเพณีสารทเดือนสิบและงานแห่ผ้าขึ้นพระ
ธาตุที่ จ.นครศรีธรรมราช
งานประเพณีของดีเมืองนรา และแข่งเรือกอที่
จ.นราธิวาส
งานท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทรที่ จ.ภูเก็ต
งานประเพณีชกพระและ ทอดผ้าป่าที่
ั
จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
ภูมิปญญาท้องถิ่น
ั
ภาคใต้มีงานหัตถกรรมที่มีชอเสียง เช่น เครื่อง
ื่ 13
- 15. สัง คมไทยในภาคตะวัน ออก
ภาคตะวันออกเฉียเฉียอ หรือภาคอีสาน เป็น
งเหนื งเหนือ
ภาคที่กว้างใหญ่มาก มีพื้นที่ 160 ล้านไร่ มี
ประชากร 20 ล้านคน (พ.ศ. 2538)
ทั้งพื้นที่และประชากรคิดเป็น 1 ใน 3 ของ
ความเชือ ่
ประเทศ ประกอบด้วย 18 จังหวัด
ชาวอีสานยังคงเชือถือเรื่องผีต่างๆ อยู่มาก เช่น
่
ผีบรรพบุรุษ ผีนา ผีไร่ ผีปู่ตา (รักษาหมู่บ้าน) ทุก
หมู่บ้านต้องสร้างศาลปูตา และประกอบพิธี เซ่น
่
ไหว้ อยู่เป็นประจำา
15
- 16. เนื่องจากเชื่อผีมอิทธิฤทธิ์ในให้คุณให้โทษทัวไปยัง
ี ่
ปฏิบัติกันอยูในวิถีประจำาวัน
่
ตัวอย่างพิธีบายศรีสขวัญในโอกาสสำาคัญ เช่น การ
ู่
แต่งงาน การบวช การเจ็บป่วย การต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ความเชื่อในพุทธศาสนา ชาวบ้านเชื่อในเรื่องบาปบุญ
คุณโทษ กฎแห่งกรรม
ประเพณี และพิธ ก รรมต่า งๆ
ี
มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความเชื่อดังกล่าว ในการ
ประกอบพิธีกรรมต่างๆ
ชาวบ้านมุงให้เกิดความสุขความสบายใจเป็นหลัก เช่น
่
ประเพณีแห่ผีตาโขน
บั้งไฟ แห่เทียนพรรษา และไหลเรือไฟ เป็นต้น
16
- 17. ขนบประเพณี
ชาวอีสานยึดมันและปฏิบัติตามฮีตสิบสองอย่างมันคง
่ ่
ฮีตสิบสอง หมายถึงจารีตประเพณี ที่ชาวอีสานปฏิบัติกน ั
ในโอกาสต่างๆ ทิงสิบสองเดือนของแต่ละปี จารีตประเพณี
้
ทังสิบสิงเดือนทีชาวอีสานทำาบุญต่างๆ มีดังนี้
้ ่
1. เดือนอ้าย บุญเข้ากรรม เป็นการทำาบุญตักบาตรถวาย
ภัตตาหารและฟังเทศน์ เนื่องในโอกาสทีพระสงฆ์อาบติขึ้น
่
รองจากปาราชิก ให้เข้าไปอยู่ในทีอันจำากัด เพือทรมาน
่ ่
ร่างกายให้หายจากกรรม ชำาระจิตใจให้หายมัวหมอง และ
พ้นจากอาบัติ
2. เดือนยี่ บุญคูณลาน เป็นการทำาบุญสู่ขวัญทีนวดเสร็จ
่
แล้ว และกองไว้ในลานข้าว
3. เดือนสาม บุญข้าวจี่ ทำาบุญตักบาตร
4. เดือนสี่ บุญผะเหวดาหรือบุญมหาชาติ ทำาบุญฟังเทศน์17
มหาชาติ
- 18. 7. เดือนเจ็ด บุญซำาฮะ ทำาบุญชำาระล้างสิ่งที่เป็นเสนียด
จัญไร อันจะทำาให้เกิดความเดือดร้อน แก่บ้านเมือง มีการ
เลี้ยงผีปู่ตาและผีตาแฮก (ผีรักษาไร่นา)
8. เดือนแปด บุญเข้าพรรษา
9. เดือนเก้า บุญข้าวประดับดิน ทำาบุญอุทศส่วนกุศลให้
ิ
แก่เปรตและญาติมตรทีตายไปแล้ว
ิ ่
10. เดือนสิบ บุญข้าสาก (ข้าวกระยาสารท) ทำาบุญอุทศ ิ
ให้แก่ผู้ตายและเปรต มีการแลกเปลี่ยนข้าวกระยาสารท
กันระหว่างญาติพน้อง และชาวบ้านใกล้เรือนเคียง
ี่
11. เดือนสิบเอ็ด บุญออกพรรษา มีการถวายปราสาท
ผึ้ง(ขี้ผึ้งประดิษฐ์เป็นปราสาท) การล่องเรือไฟ (ไหลเรือ
ไฟ) และการแข่งเรือพาย
12. เดือนสิบสอง บุญกฐิน
18
- 19. ลัก ษณะความเชือ ภาคอีส าน
่
คนโบราณมักจะเชื่อในเรื่องต่างๆ ว่าจะดี หรือร้าย หรือ
เจริญรุ่งเรืองอยู่เย็นเป็นสุข มีคนเกรงขาม นับหน้าถือตาขึ้น
อยู่กบว่าในบ้านต้องมีสิ่งต่างๆที่ชื่อเป็นมงคลนาม เช่น ต้นไม้
ั
ที่ปลูกในบ้าน ,การก่อสร้างบ้าน การจัดสิ่งของเครื่องใช้
เครื่องนอนภายในบ้าน การแต่งกาย เป็นต้น
ความสำาคัญความเชื่อ ถ้าคนที่เชื่อแล้วปฏิบัติ หรือทำาตาม
ความเชื่อดังกล่าวแล้วจะทำาให้เกิดความสบายใจ
พิธ ีก รรม
การปลูกต้นไม้ในบ้าน
- ปลูกต้นมะขามหน้าบ้าน เชื่อว่าคนจะเกรงขาม
- ปลูกต้นมะยม เชื่อว่าคนจะนิยมชมชอบ
- ปลูกต้นเงิน ต้นทอง เชื่อว่าจะมีเงิน มีทอง ฯลฯ
19
- 20. การจัด ที่น อน - การจัดทีนอน หรือการนอน
่
ต้องวางหมอน หรือศีรษะไปทางทิศตะวันออกสิ่ง
ศักดิสิทธิ์ในบ้าน ในบ้านต้องมีพระพุทธรูปกราบไหว้
์
เพือเป็นศิริมงคลสำาหรับชาวพุทธทุกครัวเรือน
่
การประกอบอาชีพ -เนื่องจากพื้นทีเป็น
่
ทีราบสูงจึงเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ มีการทำานาและ
่
การเพราะปลูกในแถบลุ่มแม่นำ้ามูลและแม่นำ้าชี
นอกจากนียังมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทำาอุ
้
สาหกรรมในครัวเรือน เช่น การทอผ้าไหม ผ้าฝ้าย
เป็นต้น
ที่อ ยู่อ าศัย - การสร้างบ้านส่วนใหญ่มลักษณะเปิด
ี
โล่งมีฝากั้นในส่วนทีเป็นพืนทีนอน และใต้ถุนยกสูง
่ ้ ่ 20
- 21. อาหารการกิน - ชาวอีสานนิยมบริโภคข้าว
เหนียวเป็นอาหารหลัก เหมือนชาวเหนือโดยรับ
ประทานกับแจ่ว อาหารอื่นๆ เช่น ส้มตำา ลาบ
นำ้าตกเนื่องจากภาคอีสานมีพื้นที่แห้งแล้ง และ
อยู่ห่างไกลทะเลคนในภาคนี้จึงกินอยู่ง่ายและ
นำาพืชและสัตว์ที่หาได้ในท้องถิ่นมาประกอบ
อาหาร
ภาษาและการแต่ง กาย - ภาษาที่ใช้พูด คือ
ภาษถิ่นอีสานซึ่งมีจังหวะการพูดเร็วกว่าภาค
เหนือ การแต่งกายนิยมใช้ผาที่ทำาจากเส้นใย
้
ธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม
21
- 22. สำาคัญ ๆ เช่น
งานสมโภชพระธาตุเชิงชุมและงานแห่ปราสาทผึ้งที่
จ. สกลนคร
งานนมัสการพระธาตุพนมและงานประเพณีไหลเรือ
ไฟที่ จ. นครพนม
งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาที่ อุบลราชธานี
งานแห่ผีตาโขนที่ จ. เลย
งานประเพณีแห่นาคด้วยขบวนช้างที่ จ.สุรินทร์ และ
งานบุญบั้งไฟที่ จ. ยโสธร
ภูม ป ัญ ญาท้อ งถิน - มีการทอผ้าต่างๆ เช่น ผ้าแพร
ิ ่
วาของ จ.กาฬสินธุ์
การทำาหัตถกรรมเครื่องจักรสาน การทำาเครื่องดนตรี
22
- 24. สัง คมไทยในภาคเหนือ
1. สภาพทางภูมิศาสตร์ ภาคเหนือตอนบนเป็นภาคที่มีภเขา และ
ู
เทือกเขาสูง แต่อยู่นอกเขตภูเขาไฟ มีที่ราบแคบๆ ระหว่างภูเขา
มีทมที่เป็ นแอ่ง เช่น ที่ราบลุ างนี้
กลุี่ราบเป็นภาคเหนือตอนล่่มแม่นำ้าปิง วัง ยม น่าน
จะมีลกษณะทางวัฒนธรรมที่แตกต่างจากภาคเหนือตอน
ั
บนลักษณะทางวัฒนธรรมที่เกิดจากสภาพภูมิศาสตร์ อาจ
แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มคนที่อยู่ตามหุบเขา ในที่ราบ
ตำ่าต้องมาร่วมมือกันในการจัดการกับแหล่งนำ้าที่ต้องอาศัย
ในการเพาะปลูกร่วมกันระบบปันนำ้า ระบบการร่วมแรง
ร่วมใจกันทำาเหมืองฝายจึงเกิดขึ้นเพื่อให้แจกจ่ายนำ้าทั่ว
ถึงกันการทำาเหมืองฝาย หมายถึง ทุกคนต้องให้ความร่วม
มือทำางานก่อสร้างเหมืองฝายหากไม่ร่วมมือก็จะไม่ได้การ
ปันนำ้า หรือหากมีการขโมยนำ้าจะถูกลงโทษปรับไหมส่วน
ระบบปันนำ้าทำาให้เกิดการมอบหมายให้ผู้ดูการแจกจ่าย
นำ้าเป็น "แก่นำ้า"ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือว่ามีความ 24
ยุติธรรม
- 25. 2. วิถีชีวิตของชุมชนในภาคเหนือ หนังสือภูมิทัศน์ไทย
ของสำานักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปวิถีชีวิตของสังคมไทย
ในภาคเหนือ ในด้านต่างๆ ให้เป็นิถีชีวิตและความเป็นอยู่
ชาวไทยในภาคเหนือส่วนใหญ่มีว ภาครวมทั้งภูมิภาค
ในกรอบของวัฒนธรรมท้องถินทีปัจจุบันเรียกว่า
่ ่
วัฒนธรรม "คนเมือง " หรือ "คนล้านนา"
ตามชื่อของอาณาจักรที่มีการปกครองแบบนครรัฐที่ตั้ง
ขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 โดยพญาเม็งราย และมี
ศูนย์กลางอยู่ทเมือง "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่“ ถึง
ี่
แม้ว่า อาณาจักรนี้ยังประกอบด้วยวัฒนธรรมท้องถิน ที่ ่
แยกย่อยออกไป องค์ประกอบที่สำาคัญก็ยังมีความ
คล้ายคลึงกันอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องการดำารงชีวตแบบ
ิ
เกษตรกร
การานับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณของบรรพบุรษ ที่
ุ
เรียกว่า "ผี"
ความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แบบเถรวาท และการ 25
แสดงออกของความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์โดยผ่าน
- 26. การประกอบอาชีพ – เนื่องจากภูมิประเทศใน
ภาคเหนือเป็นภูเขา ทำาให้มอากาศค่อนข้างหนาว
ี
อาชีพทีสำาคัญของคนในภาคนี้คือ การเพราะปลูก
่
การทำาสวนผลไม้ การทำาผลไม้ การทำาป่าไม้
นอกจากนี้ยงมีการทำา อุสาหกรรมในครัวเรือนเช่น
ั
การปั้นถ้วยชาม การแกะสลัก เป็นต้น
ที่อ ยู่อ าศัย – คนในภาคเหนือนิยมปลูกเรือน
ใต้ถุนไม่สูงมากนัก เพราะสร้างเรือนอยูตามทีดอน
่ ่
ช่องหน้าต่างไม่กว้างเพือป้องกันไม่ให้ลมเข้ามาก
่
ตัวเรือนมีลักษณะเด่นทียอดหลังคาทำาเป็นไม้ไขว้
่
กันเป็น 2 แฉก เรียกว่า กาแล ซึงถือเป็นลักษณะ
เฉพาะของเรือนทางภาคเหนือ 26
- 27. อาหารการ กิน - ชาวเหนือนิยมรับประทานข้าว
เหนียวกับนำ้าพริกต่างๆ เช่น นำ้าพริกอ่อง นำ้าพริก
หนุม นอกจากนี้ยงมี แกงฮังเล แกงโฮะ ข้าวซอย
่ ั
ไส้อั่ว แคบหมู รสอาหารจะมีรสเค็มนำา นิยมบริโภค
เนื้อหมูเพราะหาได้ง่ายและราคาถูกส่วนอาหารทะเล
ไม่ค่อยมี เพราะเป็นพืนทีไม่ติดทะเล
้ ่
ภาษาและเครื่อ งแต่ง กาย - ภาษาถิ่นของ
ชาวภาคเหนือ มีลักษณะอ่อนหวานนุมนวล ส่วนการ
่
แต่งกายทั่วไป หญิงสวมเสื้อแขนกระบอกนุ่งผ้าซิ่น
กรอมเท้า
ชายนิยมสวมเสื้อม่อฮ่อม ซึ่งเป็นผ้าฝ้ายสีกรมท่า แต่
ถ้าเป็นชาวเขาจะแต่งกายแตกต่างกันไปตามเผ่า 27
- 28. ประเพณี - ทางภาคเหนือมีประเพณีที่
สำาคัญๆ เช่น
งานนมัสการพระธาตุดอยตุงที่ จ. เชียงราย
งานนมัสการพระบรมธาตุหริภุญชัยที่ จ.
ลำาพูน
งานนมัสการพระธาตุชอแฮที่ จ.แพร่
่
งานพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้าที่ทุ่งยั้ง
งานพระยาพิชยดาบหักที่ จ. อุตรดิตถ์
ั
งานปล่อยส่างลองที่จ.แม่ฮองสอน เป็นต้น
่
28
- 29. ภูม ิป ัญ ญาท้อ งถิ่น - ทางภาคเหนือ
มีการทำาเครื่องเขิน
งานหัตถกรรมประเภทเครื่องจักรสาน
เครื่องปันดินเผา งานแกะสลัก การทำา
้
ร่ม ซึ่งผลงานเหล่านี้ถือเป็นภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับ
ชาวเหนือ
29
- 31. ด้า นสัง คมภาค ตะวันออก
พืนทีส่วนใหญ่ในภาคกลางเป็นทีราบลุ่มและ
้ ่ ่
เป็นแหล่งผลิตเกษตรทีสำาคัญของประเทศคนใน
่
พืนทีเดิมจึงมีพนฐานมาจากสังคมภาคเกษตรเป็น
้ ่ ื้
ส่วนใหญ่แต่เมือพืนที่ปรับเปลี่ยนไปสู่ภาค
่ ้
อุตสาหกรรมมากขึ้น
นอกจากคนในพืนทีจะปรับเปลี่ยนไปเป็นแรงงาน
้ ่
ในภาคอุตสาหกรรมด้วยแล้วยังมีแรงงานทีย้าย ่
ถิ่นเข้ามาในแหล่งอุตสาหกรรม
จึงทำาให้มการขยายตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ี
เช่น อพาร์ทเมนท์ บ้านเช่า หอพัก รวมไปถึงห้าง
สรรพสินค้าเพือรองรับการอุปโภคบริโภคของ
่
คนในพื้นที่ แต่ยงไม่มปัญหาแรงงานต่างด้าว
ั ี 31
- 33. ความเชือและขนบธรรมเนียมประเพณี
่
มนุษย์ในโลกตะวันออกแต่ละชาติแต่ละภาษามี
ความเชือถือทีแตกต่างกันออกไปบ้างและ
่ ่
คล้ายคลึงกันบ้าง ส่วนที่คล้ายคลึงกันนั้น เป็น
เพียงเรื่องของศาสนาซึ่งเป็นสื่อทีปฏิบัติอย่าง
่
เดียวกันเพียงบางส่วนเท่านัน เช่น ศาสนาพุทธ
้
เป็นต้น มีการอุปสมบทกุลบุตร และพิธีกรรมทาง
ศาสนาเหมือนกันแต่การสร้างสรรค์ศิลปะของ
แต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป เช่น
ประเทศไทยกับประเทศพม่า เวียดนาม เป็นต้น
แสดงให้เห็นว่า ขนบธรรมเนียม ประเพณี และ
การประพฤติปฏิบัติทกระทำาอย่างเดียวกันใน
ี่
แต่ละชาตินน ยังแตกต่างกันออกไปด้วยและทุก
ั้ 33
- 34. 1.มนุษย์ในตะวันออกมิได้มศาสนาใดศาสนา
ี
หนึงทีเป็นแกนสำาคัญของสังคมร่วมกันแต่จะ
่ ่
แยกกันออกไปตามความเชื่อถือและแม้ว่าส่วน
หนึงจะนับถือศาสนาพุทธแต่ไม่มศูนย์กลางอัน
่ ี
เป็นแกนสำาคัญร่วมกันเหมือนคริสต์ศาสนาโรมัน
คาทอริกส่วนศาสนาอิสลามแม้ว่าจะมีแหล่ง
ศักดิ์สิทธิ์ร่วมกันทีประเทศซาอุดิอาระเบีย แต่ก็
่
มิได้เป็นไปในรูปองค์กรเหมือนแหล่งกลางทีกรุง่
วาติกันของโรมันคาทอลิกนอกจากนั้นใน
ประเทศยังมีความเชื่อถือทีแตกต่างกันออกไป
่
มากเช่น ในอินเดียมีลัทธิมากมายในญี่ปุ่นก็เช่น
เดียวกันแต่ก็มนบธรรมเนียมทางสังคมทีเข้มแข็ง
ี ่
เคร่งครัดอย่างยิ่งจึงทำาให้มการสร้างสรรค์ศิลปะ
ี
34
เพือจรรโลงศาสนาที่แตกต่างกันไปมากและเห็น
่
- 35. 2. ความเชื่อถือในศาสนาของชาวตะวันออก แตก
ต่างกันออกไปแต่ละศาสนา บางศาสนาเชื่อว่า
มนุษย์เกิดมาด้วยกรรมซึ่งตนเองได้กระทำาไว้แต่ใน
ชาติปางก่อนผลอันบังเกิดในชาตินก็เป็นกระแส
ี้
ของกรรมแต่ชาติปางก่อนมีส่วนให้เป็นไปด้วยและ
การกระทำาในชาตินก็ยงมีผลไปถึงชาติหน้าด้วยแต่
ี้ ั
บางศาสนามีความเชือรุนแรงมากกว่านันโดยเชื่อว่า
่ ้
หากกระทำาตนเองให้ตำ่าต้อยหรือกดดันตัวเองให้ทน
ทุกข์ทรมานมากก็จะยิ่งได้บุญกุศลมาก โดยการ
ปล่อยจิตใจให้ลุล่วงพ้นไปสู่ภพทีสูงกว่าและในบาง
่
ศาสนามีความเชื่อในเรื่องวิญญาณบรรพบุรุษอยู่
มากการน้อมเคารพบรรพบุรุษและการควบคุม
จริยธรรมในการประพฤติปฏิบัติเป็นสิ่งสำาคัญมาก 35
ทีสุด ทั้งหมดนีจึงมีส่วนสร้างสรรค์ศิลปะทีแตกต่าง
่ ้ ่
- 36. 3. ชาติตะวันตกให้ความสนใจกับจิตวิญญาณ
มาก ความผูกพันระหว่างคนเป็นกับคนตาย ยัง
เป็นเยือใยทีเคร่งครัด จึงมีการเซ่นไหว้และ
่ ่
บวงสรวงระลึกถึงกัน แม้บางประเทศจะมีการเผา
ศพ เช่น ประเทศไทย แต่บางประเทศก็ยงนิยม ั
นิยมฝังศพ เพือรักษาเรือนร่างไว้ชั่วนิรันดร จะถูก
่
ทำาลายไม่ได้ ในการตกแต่งตามพิธีการเหล่านี้เอง
ทีใช้ศิลปะเข้าช่วยเป็นอย่างมาก ทำาให้เกิดแบบ
่
อย่างศิลปะเป็นพิธีการขึ้นอีกรูปแบบหนึ่ง
4. ขนบประเพณีต่าง ๆ ของชาวตะวันออก เป็น
ขนบธรรมเนียมประเพณีทยึดมันผูกพันอยู่กับ
ี่ ่
ชนชาติในอดีต
36
- 37. การประกอบอาชีพ - อาชีพในภาคนี้ส่วนใหญ่
เป็นพืช สวน พืชไร่ การประมง พืชสวนทีสำาคัญ
่
ได้แก่ เงาะ ส่วนพืชไร่มีอ้อย มันสำาปะหลัง และ
สับปะรด
ทำาการประมงทำากันตามชายฝั่งโดยทั่วไป และมี
การเลี้ยงกุง
้
มีการทำางานเป็นส่วนน้อยทีอยูอาศัย – มีบ้านเป็น
่ ่
หลังๆ และอาคารชุดเป็นจำานวนมาก
อาหารการกิน - ประกอบอาหารขึ้นจากวัตถุดิบที่
มีอยูแล้วในท้องถิน เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เป็นต้น
่ ่
37
- 38. ภาษาและการแต่ง กาย – ประชากรพูด
สำาเนียงไทยภาคกลาง
แต่จะมีเสียงเพียนไปบ้าง การแต่งกายมีลักษณะ
้
เช่นเดียวกับคนภาคกลาง
ประเพณี - ของคนในภาคตะวันออกคือ งานบุญ
เช่นเดียวกับชนในภาคอื่น
ทีวัดทำาบุญในวันสำาคัญทางศาสนามีเทศกาล
่
นมัสการ หลวงพ่อโสธร ที่ จ.
ฉะเชิงเทรา งานสมโภชคันศรีมหาโพธิ 200 ปี ที่
จังหวัดปราจีนบุรี
ภูม ป ญ ญาท้อ งถิ่น - ประดิษฐ์เครื่องมือใช้ที่
ิ ั
ทำาจากวัสดุในท้องถิ่นเช่น 38
เครื่องจักสาน มีกระบุง ตะกร้า และของป่าเอามา