Publishing Research Manuscripts

การตีพิมพ์บทความวิจัย :
มุมมองจากบรรณาธิการวารสารวิชาการ
Publishing research manuscripts :
Academic journal editor’s viewpoints
ดร.สินศักดิ์ชนม์ อุ่นพรมมี
MPH, Ph.D. (Health Promotion and Education)
นักวิชาการสาธารณสุขชานาญการพิเศษ ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา
บรรณาธิการวารสารศูนย์อนามัยที่ 9

Why publish?
•การตีพิมพ์บทความวิจัยเป็นการเผยแพร่ข้อค้นพบทางวิชาการจากงานวิจัย
สิ่งที่ได้เรียนรู้ และข้อเสนอแนะในการพัฒนาต่อยอดทั้งการวิจัย นโยบาย และ
การปฏิบัติ (Research, Policy & Practical Recommendations)
•เพื่อบรรลุข้อตกลงของการรับทุนวิจัย การศึกษา การปฏิบัติงาน
•เพื่อเข้าสู่ตาแหน่งทางวิชาการ (ผศ. รศ. ศ.) ตาแหน่งสายวิชาการ (ระดับ
ชานาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ ทรงคุณวุฒิ)
•เพื่อรักษาตาแหน่งทางวิชาการ
Last updated: Jul. 12, 2020 Sinsakchon Aunprom-me, MPH, Ph.D.

Manuscripts VS Articles
•Manuscripts (ต้นฉบับ) คือบทความวิจัย บทความทบทวน ฯลฯ ที่ผู้เขียน
หรือคณะผู้เขียนเขียนขึ้น เพื่อเตรียมส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ใน
วารสารวิชาการ
•Articles (บทความ) คือ Manuscript ที่ผ่านกระบวนการพิจารณาและ
ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการแล้ว

บทความวิชาการประเภทต่าง ๆ
• บทความวิจัย (Research articles) / นิพนธ์ต้นฉบับ (Original articles) *PR*
• บทความวิชาการ (Academic articles) / บทความปริทัศน์หรือบทความทบทวน
(Review articles) *PR*
• บทความพิเศษและข้อคิดเห็น (Special articles and commentaries) *PR* (+/-)
• รายงานผู้ป่วย (Case reports) *PR* (+/-)
• ปกิณกะ (Miscellaneous)
• จดหมายถึงบรรณาธิการ (Letters to editor)
• ทบทวนหนังสือ (Book reviews) *PR* = Peer-Review

ประเภทบทความที่ถูกนับในกรณีต่าง ๆ
•กรณีเข้าสู่ตาแหน่งสายวิชาการ (ชานาญการพิเศษ/เชี่ยวชาญ/ทรงคุณวุฒิ) ใช้
บทความวิจัยหรือนิพนธ์ต้นฉบับ เท่านั้น
•กรณีเข้าสู่ตาแหน่งทางวิชาการ (ผศ. รศ. ศ.) ใช้บทความวิจัยเป็นหลัก
บทความวิชาการและผลงานอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ
•กรณีตีพิมพ์เพื่อจบการศึกษา ใช้บทความวิจัยหรือนิพนธ์ต้นฉบับ เท่านั้น
PUBLISH OR PARISH!!!

Peer-review VS Non-peer-review
•Peer-Review Process เป็นกระบวนการพิจารณาหรือประเมินคุณภาพของ
บทความวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือ Peer-Reviewers ซึ่งมีความรู้ในสาขา
ที่ตรงกับบทความนั้น
•Peer-review Journals คือวารสารที่ใช้กระบวนการ Peer-review ในการ
พิจารณาคุณภาพบทความวารสาร ว่าสมควรรับตีพิมพ์หรือไม่ หรือควรแก้ไข
ในประเด็นใดบ้างก่อนตีพิมพ์
*บทความที่ต้องผ่านกระบวนการ Peer-review คือบทความวิจัยและวิชาการ*

ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ (Peer-reviewers)
•Peer หมายถึง เพื่อนผู้ร่วมวิชาชีพหรือร่วมสาขา เพราะการตีพิมพ์วารสาร
ในต่างประเทศ ใช้กลุ่มเพื่อนเหล่านี้เป็นผู้พิจารณา ในประเทศไทย นิยมใช้คา
ว่าผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมักเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความ
•การเป็น Peer-reviewers ถือว่าเป็นงานที่มีเกียรติ เป็นการสนับสนุนการ
พัฒนางานวิจัย นับเป็นผลงานบริการวิชาการ (Services to academic
community) ดังนั้น peer-reviewers จึงประเมินและวิพากษ์บทความ
วิชาการอย่างเต็มที่ อิงตามหลักการวิจัยและองค์ความรู้ในสาขา

Blinded VS Double-blinded Review Process
•เป็นกระบวนการที่บรรณาธิการวารสารจะไม่เปิดโอกาสให้ผู้เขียนและ
ผู้ทรงคุณวุฒิที่พิจารณาบทความวิจัยได้รู้ข้อมูลซึ่งกันและกัน ทาให้การ
ประเมินและวิจารณ์บทความปราศจากอคติ (Biases) มากที่สุด
•Blinded หมายถึง การปิดข้อมูลฝ่ายเดียว เช่น ผู้ประเมินรู้ว่าใครเป็นผู้เขียน
แต่ผู้เขียนไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ประเมิน หรือในทางกลับกัน
•Double-blinded หมายถึง การปิดข้อมูลทั้งสองด้าน ทั้งผู้เขียนและผู้
ประเมินไม่รู้ข้อมูลซึ่งกันและกัน วิธีการนี้นิยมใช้ใน Peer-review process

ข้อมูลที่นาออกใน Double-blinded Review Process
•ชื่อผู้เขียนบทความ รวมถึง ตาแหน่ง สถานที่ทางาน ข้อมูลการติดต่อ
•กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgements) ซึ่งสามารถคาดเดาได้ว่าผู้เขียน
คือใคร
•ข้อมูลที่อยู่ใน MS Words® ในส่วนของ Document properties &
Personal information

ข้อมูลที่ต้องนาออกก่อนส่งให้ Peer-reviewers

องค์ประกอบของบทความวิจัยที่มีคุณภาพ
งาน
วิจัย
การ
นา
เสนอ
วาร
สาร

Where to publish?
•Peer-review or Nonpeer-review Journals?
•International or Regional or National Journals?
•Where is the journal indexed?
•Open Access or Not?
•Time to spend?
•Money to spare?

Peer-review or Nonpeer-review Journals?
•This is out of question!!!
•ควรตีพิมพ์ในวารสารที่ประกาศว่าใช้กระบวนการ Peer-review เท่านั้น และ
ควรสังเกตด้วยว่า วารสารนั้นใช้กระบวนการ Peer-review จริงหรือไม่ จาก
บทวิจารณ์ที่ได้รับ ระยะเวลาสมเหตุสมผล การโต้ตอบต่าง ๆ

International or Regional or National Journals?
•ขึ้นอยู่กับคุณภาพและผลกระทบ (Impact) ของงานวิจัย ศักยภาพของผู้วิจัย
ระยะเวลาที่ต้องการใช้บทความ งบประมาณในการตีพิมพ์บทความ

Where is the journal indexed?
•Journal Indexing หรือ Journal Database เป็นการรวบรวมวารสารไว้
เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่ ค้นคว้า อ้างอิง และตรวจสอบคุณภาพ
•ฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จะรวมวารสารที่มีคุณภาพไว้ บทความที่ตีพิมพ์ใน
วารสารเหล่านี้จะถูกอ่านและอ้างอิงโดยงานวิจัยอื่น ๆ มากขึ้นด้วย
•ฐานข้อมูลวารสารของต่างประเทศที่เป็นที่นิยม เช่น MEDLINE, PubMed
Web of Science, JSTOR, CINAHL, PsycINFO, Google Scholar
•ฐานข้อมูลวารสารในประเทศไทย คือ Thai-Journal Citation Index (TCI)

Journal Impact Factors (JIF)
•เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาถึงคุณภาพของวารสาร
•คานวณโดยนา จานวนการอ้างอิงทั้งหมดในช่วง 2 ปีก่อนหน้า หารด้วย
จานวนบทความทั้งหมดที่ตีพิมพ์ในช่วง 2 ปีก่อนหน้า
𝐽𝐼𝐹
𝑦 =
𝐶𝑖𝑡𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠 𝑦−1+𝐶𝑖𝑡𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠 𝑦−2
𝑃𝑢𝑏𝑙𝑖𝑐𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠 𝑦−1+𝑃𝑢𝑏𝑙𝑖𝑐𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠 𝑦−2
Nature JIF ปี 2017 =
𝐶𝑖𝑡𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠2016+𝐶𝑖𝑡𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠2015
𝑃𝑢𝑏𝑙𝑖𝑐𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠2016+𝑃𝑢𝑏𝑙𝑖𝑐𝑎𝑡𝑖𝑜𝑛𝑠2015
=
32,389+41,701
880+902
= 41.577

Thai-Journal Impact Factors (TJIF)
•ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai-Journal Citation Index Centre)
https://tci-thailand.org/
•พัฒนาและประเมินคุณภาพวารสารวิชาการไทย แบ่งระดับเป็น TCI ฐานที่ 1
(TCI tier 1) ฐานที่ 2 (TCI tier 2) และไม่อยู่ในฐาน
•พัฒนาวารสารต่อยอดเข้าสู่ฐานข้อมูล ACI และ SCOPUS
•ใช้สูตรคานวณ TJIF เดียวกันกับ JIF
•พัฒนาระบบการอ้างอิงบทความให้เข้าถึงได้ง่าย

Open-Access or Not?
•Open-Access เป็นรูปแบบการตีพิมพ์ของวารสารนานาชาติ โดยผู้อ่านทุก
คนสามารถเข้าถึงบทความได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิก (Subscribed) ไม่เสีย
ค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงบทความ ทาให้มีโอกาสได้รับการอ้างอิงสูงขึ้น
•การเลือกตีพิมพ์แบบ Open-Access ต้องเข้าสู่กระบวนการ Peer-review สิ่ง
ที่ต่างคือค่าใช้จ่ายในกระบวนการพิจารณา (Article processing charge) ซึ่ง
สูงกว่าค่าใช้จ่ายกรณีที่ไม่ใช่ Open-Access
•วารสารใน TCI เกือบทั้งหมดเป็น Open-Access

Article Processing Charge ของฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็น Open-Access
ที่มา: https://openscience.com/how-much-do-top-publishers-charge-for-open-access/
1 Euro = 35.38 บาท

Time to spend?
•ระยะเวลาในการตีพิมพ์บทความขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพ
ของบทความ (บทความที่มีคุณภาพสูงและเตรียมบทความตรงตามรูปแบบ
ของวารสารจะใช้เวลาพิจารณารวดเร็วขึ้น) การบริหารจัดการของวารสาร
(สังเกตจากประวัติการตีพิมพ์บทความ) จานวนบทความที่รอตีพิมพ์
(Waiting list) โดยเฉพาะวารสารที่ตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม วารสารมีระบบ
ช่องทางด่วน (Fast-Track) หรือไม่
•วารสารนานาชาติใช้เวลาในการตีพิมพ์แตกต่างกัน หากเป็นช่องทางปกติ จะ
ใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป

ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

Money to spare?
•วารสารนานาชาติมีค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์บทความแตกต่างกัน ควรศึกษาใน
Author’s Guideline หรือคาแนะนาในการตีพิมพ์บทความวารสาร หรือ
สอบถามจากบรรณาธิการ ก่อนตัดสินใจส่งบทความ
•วารสารนานาชาติบางเล่มไม่คิดค่าตีพิมพ์กรณีตีพิมพ์ปกติ เนื่องจากมีรายรับ
จากการเก็บค่าอ่านบทความจากผู้อ่าน หรือการบอกรับเป็นสมาชิกวารสาร
•วารสารในฐาน TCI ส่วนใหญ่ (>90%) มีค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์ บางวารสารมี
ระบบ Fast Track ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

Beware of Predatory Journals!!!
•Predatory Journals หรือ วารสารนักล่า เป็นกลุ่มวารสารที่ต้องหลีกเลี่ยง
•บทความไม่ได้รับการประเมินอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
•เก็บค่าตีพิมพ์สูง ตีพิมพ์ได้รวดเร็ว (ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หรือวัน)
•ชื่อวารสารน่าเชื่อถือ แต่บทความที่ตีพิมพ์จะไม่ได้รับการยอมรับ
•เป็นการทาธุรกิจที่ฉวยโอกาสกับนักวิชาการที่ต้องหาที่ตีพิมพ์รวดเร็ว
•ดูรายชื่อวารสารกลุ่มนี้ได้ที่ https://predatoryjournals.com/journals

คุณภาพของบทความวิจัยที่ต้องการนาเสนอ
•ต้องนึกเสมอว่า บทความวิจัย ไม่ใช่ รายงานวิจัย/วิทยานิพนธ์ ฉบับย่อ
•บทความวิจัย นาเสนอข้อค้นพบจากการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ตอบ
คาถามการวิจัยที่ตรงประเด็น และที่สาคัญที่สุดคือ ต้องสื่อสารสิ่งใหม่ ข้อ
ค้นพบที่จะพัฒนา ต่อยอด วิชาการในสาขานั้น ๆ
•“สิ่งใหม่” ที่ต้องการสื่อสารในบทความ อาจเป็น ประเด็นที่ยังไม่เคยมีใครทา
เลย ทั้งต่างประเทศและในไทย วิธีการที่ยังไม่เคยมีคนลองทามาก่อน ระเบียบ
วิธีที่ยังไม่เคยมีคนใช้มาก่อน กลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือใหม่ในพื้นที่ เป็นต้น

คุณภาพของบทความวิจัย
•ชื่อบทความภาษาไทย
1) ความสอดคล้องกับสาระสาคัญของการวิจัย
2) การใช้คาศัพท์ทางวิชาการได้ถูกต้องตามศัพท์บัญญัติของแต่ละสาขา
(Discipline)
3) ความสามารถในการสื่อสารได้อย่างชัดเจนในแวดวงวิชาการและวิชาชีพ

•บทคัดย่อภาษาไทย และคาสาคัญ
1) ความครอบคลุมสาระสาคัญของบทคัดย่อเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง วิธีดาเนินการวิจัย ผลการวิจัย
2) กาหนดคาสาคัญสอดคล้องกับประเด็นการวิจัย

•บทนา/ความเป็นมาความสาคัญของปัญหา/หลักการและเหตุผล
1) กระชับและตรงประเด็น
2) อ้างอิงสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบัน
3) อ้างอิงทฤษฎีและแนวคิดที่ชัดเจนและตรงประเด็นการวิจัย

•วัตถุประสงค์การวิจัย คาถามการวิจัย และ/หรือ สมมติฐานการวิจัย
1) มีความชัดเจนและนาไปสู่การกาหนดระเบียบวิธีวิจัย
2) สอดคล้องกับปัญหาวิจัย
3) ไม่ละเมิดสิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มตัวอย่าง

•ระเบียบวิธีดาเนินการวิจัย
1) ความชัดเจนของการกาหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
2) ความชัดเจนของเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล
3) ความชัดเจนของการเก็บรวบรวมข้อมูล
4) ความชัดเจนของการวิเคราะห์ข้อมูล
5) ความชัดเจนของการพิทักษ์สิทธิของอาสาสมัคร/กลุ่มตัวอย่าง

•ผลการวิจัย
1) ความสอดคล้องกันระหว่างผลการวิจัยกับวัตถุประสงค์การวิจัย
2) ความชัดเจนในการนาเสนอผลการวิจัย
3) ความเป็นระบบของการนาเสนอผลการวิจัย

•การอภิปรายผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
1) คามครบถ้วนของประเด็นการอภิปรายผลกับผลการวิจัย
2) การนาแนวคิด ทฤษฎี และผลการวิจัยต่าง ๆ มาสนับสนุนการอภิปราย
3) ความเชื่อมโยงของข้อเสนอแนะกับผลการวิจัย

•การอ้างอิง
1) การอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เป็นปฐมภูมิ
2) การอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
3) การอ้งอิงแหล่งข้อมูลที่เป็นงานวิจัยที่มีความทันสมัย (มีอายุไม่เกิน 5 ปี)

เทคนิคการควบคุมคุณภาพของบทความวิจัย
•มีประเด็นและวัตถุประสงค์การวิจัยที่ต้องการสื่อสารชัดเจน
•พยายามเขียนขึ้นมาใหม่ อย่าตัดแปะจากวิทยานิพนธ์/รายงานวิจัย เพื่อหลีก
จากวังวนความคิดแบบเดิม ข้อความซ้าเดิม
•ให้อาจารย์ที่ปรึกษา ผู้ร่วมเขียน รวมถึงคนที่ไม่อยู่ในสาขาช่วยอ่านและ
วิจารณ์
•ตรวจสอบการคัดลอกวรรณกรรม (โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์)

สิ่งที่ควรทาในการเตรียมบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสาร
•ติดต่อประสานกับบรรณาธิการ เพื่อประเมินว่าบทความวิจัยของตนเองตรงประเด็น
กับวารสารหรือไม่ Timeline ของวารสารสอดคล้องกับเราหรือไม่
•ศึกษารูปแบบการเขียน หัวข้อ จานวนหน้า จานวนคาที่อนุญาตในบทคัดย่อ
Abstract รูปแบบการอ้างอิงของวารสาร (APA, MLA, Vancouver) ให้เข้าใจ และ
ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
•การติดต่อเพื่อ Confirm หรือสอบถามในแต่ละขั้นของการตีพิมพ์แม้ไม่จาเป็น แต่ก็
ช่วยให้กระบวนการราบรื่นยิ่งขึ้น ผู้เขียนไม่ควรกลัวที่จะติดต่อ บก.
•เคร่งครัดในเรื่อง Deadline เพราะผลกระทบโดยตรงเกิดกับตัวเรา และบทความ
อื่น ๆ ที่รอตีพิมพ์ในวารสาร

Things you will NEVER do.
•ห้ามส่งบทความไปหลายวารสารในเวลาเดียวกัน
•หากต้องการเปลี่ยนวารสาร ต้องแจ้งบก.ให้เรียบร้อย และควรต้องรับผิดชอบ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
•Academic community is a small world! ทาอะไรก็ตาม ย่อมมี
ผลกระทบตามมาเสมอ

บทส่งท้าย
•อย่ากลัวการเขียน การจะเติบโตในสายวิชาการ เราดูที่ผลงานทางวิชาการเป็นหลัก
ทั้งปริมาณ คุณภาพ และผลกระทบ (Impact)
•การเขียนบทความวิจัยและบทความวิชาการเป็นการพัฒนาตนเอง และพัฒนา
วิชาการในส่วนรวม
•โดนปฏิเสธอย่าท้อใจ ล้มแล้วลุก หาวารสารที่ใหม่ลง แต่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่
เกิดขึ้น
•โดนแก้ไขมากอย่าท้อใจ ทาความเข้าใจและค่อยๆ แก้ไข หากเวลาไม่พอ ประสาน
กับ บก. Deadline หรือกาหนดส่งเป็นสิ่งสาคัญ แต่มีข้อยกเว้นกรณีจาเป็น

Publishing Research Manuscripts

Recommended

Recommended

More Related Content

What's hot

What's hot (20)

Similar to Publishing Research Manuscripts

Similar to Publishing Research Manuscripts (20)

Publishing Research Manuscripts