1. “นวัตกรรมและ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อการเรียนรู้”
Innovat i on and
i nf ormat i on
t echnol ogy f or
l earni ng
241203

2. สมาชิกในกลุ่ม
น.ส. อัจฉริยา หวายเครือ
553050114-6
น.ส. กฤติญา แก้วโอ่ง
553050272-8
น.ส. รมย์รวินท์ ประสงใด
553050314-8
Sec. 1

3. สถานการณ์ปัญหาภารกิจผู้
ช่วยวิทยากร
บทที่ 1

4. 1. สรุปสาระสำาคัญเกี่ยวกับ ความ
หมายของเทคโนโลยี และสื่อการ
ศึกษา พร้อมทั้งเปรียบเทียบ
พัฒนาการทางเทคโนโลยีทางการ
ศึกษาในช่วงยุคต่างๆ

5. เทคโนโลยีมาใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาขา
วิชาชีพของตนอย่างเต็มที่อันจะเอื้ออำานวยในด้าน
ต่างๆ ดังนี้
1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) ช่วยให้การทำางานนั้น
ถูกต้องและรวดเร็ว มีปริมาณผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น
2.
ประสิทธิผล (Effectiveness) ช่วยให้การทำางานบรรลุ
ผลตามเป้าหมายที่กำาหนดไว้อย่างมีคุณภาพ
3. ประหยัด (Economy) จะช่วย
ประหยัดเวลา ทรัพยากร และก่อให้เกิดประโยชน์
สูงสุด

6. ทฤษฎี และการปฏิบัติเกี่ยวกับ การออกแบบ การ
พัฒนา การใช้ การจัดการ และการ ประเมิน
ของ
กระบวนการและแหล่งเรียนรู้ ครอบคลุมถึง
การนำา
เทคนิค วิธีการ ตลอดจนทั้งสิ่งประดิษฐ์
มาใช้เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
สื่อการศึกษา หมายถึงสิ่งที่จะช่วย
ให้การศึกษา
และการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิ่ง
ขึ้น
ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วมี
ประสิทธิผลสูงกว่าเดิม เกิดแรงจูงใจในการเรียน

7. ยาวนานโดยเริ่มจากสมัยกรีก
ช่วง ค.ศ. 1592-1670 ช่วงเวลาดังกล่าวมีการพัฒนาการที่
ช้ามาก การสื่อสารยังไม่เจริญ มีการใช้วัสดุ สิ่งของที่เป็นของจริง
และรูปภาพ เข้ามาช่วยในการสอนอย่างจริงจัง รวมทั้งแนวคิดใน
เรื่องวิธีการสอนใหม่ที่ให้ความสำาคัญต่อการใช้วัสดุ ของจริงมาใช้
ในการสอน
ต้นทศวรรษที่ 1900 ใช้สื่อการสอนประเภทต่างๆ เช่น ใช้
สื่อภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี สไลด์ ฟิล์ม วัตถุ และแบบจำาลอง
ต่างๆ และแบบจำาลองต่างๆ เพื่อเสริมการบอกเล่าทางคำาพูด
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีการใช้เครื่องฉายภาพแบบข้าม
ศีรษะ (overhead projector) เครื่องบันทึกเสียง วิทยุกระจายเสียง
และภาพยนตร์ เข้ามาเสริมการเรียนการสอนวิทยุกระจายเสียงจึง
เป็นสื่อใหม่ที่ได้รับความนิยม และมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี
การศึกษาในด้านการออกแบบการสอน
ช่วงปี 1950 – 1960 เป็นช่วง
ที่สำาคัญของสาขาวิชาออกแบบการสอน (Instructional design) สื่อ
กลายเป็นสิ่งที่ถูกมองว่าไม่สามารถเป็นส่วนที่แยกตัวออกมาอย่าง
โดดเดี่ยวได้ แต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางเทคโนโลยี
การศึกษา ซึ่งกว้างขวางกว่าแนวคิดเดิม เช่นเดียวกับการออกแบบ

8. 1960 เมื่อโลกได้หันเข้ามาสู่ยุคของคอมพิวเตอร์
ช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 สาขาวิชานี้ได้
มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตมากขึ้น สื่อที่มีรูปแบบ
ใหม่ๆได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น และความ
เคลื่อนไหวต่าง ๆ มาสู่การเปลี่ยนแปลงศาสตร์ทาง
ด้านโสตทัศนศึกษา ต่อมาคอมพิวเตอร์ได้มีการ
พัฒนาโปรแกรมต่างๆ เพื่อให้ใช้ได้ง่ายและสามารถ
ช่วยในการเรียนการสอนได้มากขึ้น คอมพิวเตอร์จึง
เป็นสิ่งที่ครูและนักเรียนคุ้นเคย และมีการใช้กันอย่าง
แพร่หลายจนทุกวันนี้ ดังนั้นคอมพิวเตอร์มีความ
สัมพันธ์เชื่อมโยงกับนวัตกรรมการ
ศึกษา(Innovations) โดยจะมีการสร้างสื่อการสอน
โดยผ่านทางคอมพิวเตอร์
ยุคของมัลติมีเดียเพื่อการศึกษาได้เริ่มขึ้นในปี 1987
การพัฒนามัลติมีเดียเพื่อการศึกษาได้มีการดำาเนินไป

9. ปัจจุบันนี้ อินเทอร์เน็ตมีอัตราการเติบโตอย่าง
รวดเร็ว การติต่อสื่อสาร การที่สามารถสืบค้น
ข้อมูลได้จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ทั่วโลก
อินเทอร์เน็ตจึงเพิ่มบทบาทสำาคัญในการศึกษารูป
แบบใหม่ จะเห็นได้ว่าศาสตร์ของเทคโนโลยีการ
ศึกษา มีพัฒนาการมาเป็นลำาดับขั้น และประยุกต์
ใช้เพื่อทำาให้การศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีการศึกษาจึงถือเป็นเครื่องมือการศึกษา
ที่มุ่งจัดระบบทางการศึกษาด้วยวิธีการแก้ปัญหาที่
มองภาพแบบองค์รวมลักษณะของการดำาเนินการ
แก้ปัญหา จะมุ่งวิเคราะห์สภาพการณ์ทั้งหมด จาก
นั้นจึงเป็นการจัดความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ
ย่อยขึ้นมาใหม่ ให้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน
โดยยึดถือหลักว่าให้แต่ละส่วนประกอบย่อย

10. 2. จำาแนกองค์ประกอบขอบข่ายของ
เทคโนโลยีทางการศึกษาว่ามีความ
สำาคัญต่อการจัดการศึกษาในยุค
ปัจจุบันอย่างไร??
Ans >>>

11. องค์ประกอบขอบข่ายของ
เทคโนโลยีทางการศึกษามีความ
สำาคัญต่อการจัดการศึกษา ดังนี้
ชนิดของ
ขอบข่าย
หลัก
ชนิดของ
ขอบข่ายย่อย
ความสำาคัญต่อการจัดการ
ศึกษา
1.การ
ออกแบบ
การออกแบบระบบ
การสอน
ทำาให้ทราบขอบข่ายของ
เนื้อหา สิ่งที่จะเรียน
การออกแบบ
สาร
ทำาให้ผู้เรียนรับรู้ ใส่ใจ และ
เรียกสารกลับมาใช้ได้เมื่อ
ต้องการ
กลยุทธ์การสอน ทำาให้ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหา
และสามารถทำาความเข้าใจ

12. 2.การพัฒนา เทคโนโลยีสิ่ง
พิมพ์
เป็นแนวทางในการ
ผลิตหรือขนส่ง
เนื้อหาไปยังผู้เรียน
เทคโนโลยีโสต
ทัศนูปกรณ์
การให้ความเป็น
สภาพจริง บริบทใน
การเรียนรู้ สื่อสาร
ง่ายขึ้น
เทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์
ใช้คอมพิวเตอร์เป็น
พื้นฐานในการเรียน
การสอน
เทคโนโลยี
บูรณาการ
เกิดการประยุกต์ใช้
งาน ได้รับความรู้
ต่างๆเพิ่มมากขึ้น

13. 3. การ
ใช้
การใช้สื่อ เป็นขอบข่ายที่
เกี่ยวข้องกับรูป
แบบการนาสื่อที่
พัฒนาแล้วไปใช้
อย่างมี
ประสิทธิภาพ
การแพร่กระจาย
นวัตกรรม
วิธีการนำาไปใช้ และ
การจัดการ
นโยบาย หลักการ
และกฎระเบียบข้อ
บังคับ
4. การ
จัดการ
การจัดการโครงการ เป็นขอบข่าย
หลักสาคัญของการจัดการแหล่ง

14. 5. การ
ประเมิน
การวิเคราะห์
ปัญหา
เพื่อแสดง
ให้เห็นถึง
ประสิทธิภาพ
ตลอดทั้ง
คุณภาพของ
สื่อที่ออกแบบ
ขึ้นมา
เกณฑ์การ
ประเมิน
การประเมิน
ความก้าวหน้า
การประเมิน
ผลสรุป

15. 3. Educational Technology และ
Instructional Technology มีความ
เหมือน ความแตกต่างหรือสัมพันธ์
กันอย่างไร??
Ans >>>

16. ความเหมือน
1. เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทฤษฎี
และปฏิบัติมาประยุกต์ใช้อย่างมีระบบ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำางานและ
ศักยภาพของมนุษย์ ให้สูงขึ้น
2. มีทรัพยากรในการปฏิบัติการ
เหมือนกันคือ มีบุคลากร วัสดุ อุปกรณ์
เทคนิควิธีการ ความรู้ และสิ่งอำานวย
ความสะดวก

17. ความแตกต่าง
1.แตกต่างกันที่จุดประสงค์ของการใช้เทคโนโลยีการ
ศึกษานำามาใช้ใน การศึกษา ส่วนเทคโนโลยีการสอน
นำามาใช้แก้ปัญหาในการเรียน การสอน
2. เทคโนโลยีการศึกษา เป็นระบบใหญ่ที่นำามาใช้ใน
การบริหาร การ จัดการ และการเรียนการสอนส่วน
เทคโนโลยีการสอนมุ่งเฉพาะ การสอนเท่านั้น และเป็น
เพียงส่วนประกอบย่อยของเทคโนโลยีการศึกษา
3. เทคโนโลยีการศึกษา เป็นบทบาทหน้าที่ และความ
รับผิดชอบของ ผู้บริหาร และผู้สนับสนุน แต่
เทคโนโลยีการสอนเป็นบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ
ของผู้สอนใน การบริหารจัดการ เรื่อง การสอนเพื่อให้
เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน

18. 4. การประยุกต์ความรู้เกี่ยวกับ
เทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้แก้
ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ในยุค
ปฏิรูปการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม
ได้อย่างไร??
Ans >>>

19. เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำามาใช้สำาหรับ
การเรียนการสอน เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลาย
อย่าง สอนด้วยสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย ห้องเรียนสมัยใหม่
มีอุปกรณ์วิดีโอโปรเจคเตอร์ (Video Projector)มีเครื่อง
คอมพิวเตอร์ มีระบบการอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบ
ต่าง ๆ รูปแบบของสื่อที่นำามาใช้ในด้านการเรียนการ
สอน ก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำา
มาใช้ เช่น
1) คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนำาเอาเทคโนโลยี รวม
กับการออกแบบโปรแกรมการสอน มาใช้ช่วยสอน ซึ่ง
เรียกกันโดยทั่วไปว่าบทเรียน CAI ( Computer - Assisted
Instruction ) การจัดโปรแกรมการสอน โดยใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ในปัจจุบันมักอยู่ในรูปของสื่อ
ประสม (Multimedia) ซึ่งหมายถึงนำาเสนอได้ทั้งภาพ
ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวฯลฯ

20. จัดการเรียน ที่มีสภาพการเรียนต่างไปจากรูปแบบ
เดิม การเรียนการสอนแบบนี้ อาศัยศักยภาพและ
ความสามารถของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่ง
เป็นการนำาเอาสื่อการเรียนการสอน ที่เป็น
เทคโนโลยี มาช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน ให้
เกิดการเรียนรู้ การสืบค้นข้อมูล และเชื่อมโยง
เครือข่าย ทำาให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกสถานที่
และทุกเวลา การจัดการเรียนการสอนลักษณะนี้
มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ การเรียนการสอนผ่าน
เว็บ (Web-based Instruction) การฝึกอบรมผ่านเว็บ
(Web-based Trainning) การ
เรียนการสอนผ่านเวิล์ดไวด์เว็บ (www-based
Instruction) การสอนผ่านสื่อทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) เป็นต้น

21. สมัย เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างบุคคล หรือ
คณะบุคคลที่อยู่ต่างสถานที่ และห่างไกลกันโดย
ใช้สื่อทางด้านมัลติมีเดีย ที่ให้ทั้งภาพเคลื่อนไหว
ภาพนิ่ง เสียง และข้อมูลตัวอักษร ในการประชุม
เวลาเดียวกัน และเป็นการสื่อสาร 2 ทาง จึงทำาให้
ดูเหมือนว่าได้เข้าร่วมประชุมร่วมกันตามปกติ
4) การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance
Learning หรือ Tele-Education) เป็นการนำาเอา
เทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคมมา
ประยุกต์ใช้กับงานทางด้าน การศึกษา โดยการส่ง
สัญญาณผ่านสื่อซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณดาวเทียม
หรือใยแก้วนำาแสงควบคู่ ไปกับการใช้งานระบบ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นการยกระดับ

22. …ขอบคุณ
และสวัสดี
ค่ะ ;)))