More Related Content
Similar to ข้าวผัดกะเพรา (20)
More from Silver Bullet (10)
ข้าวผัดกะเพรา
- 1. โครงงานคอมพิวเตอร์
เรื่อง ข้าวผัดกระเพรา
โดย
1) นาย จิรโชติ สุวิสุทธิเกษม ม.5/2 เลขที่ 1
2) นาย ธนกร เหลืองเลิศไพบูลย์ ม.5/2 เลขที่ 2
3) นาย วิชญ์นนท์ โอมี ม.5/2 เลขที่7
4) นาย กฤตพล ญาติจันทร์ ม.5/2 เลขที่13
5) นาย วรัตถ์ อู่ทรงธรรม ม.5/2 เลขที่17
6) นาย ธนกฤต สิงห์สา ม.5/2 เลขที่33
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
ครูที่ปรึกษา
มิสเขมจิรา ปลงไสว
- 2. ก
โครงงาน เรื่อง : ข้าวผัดกระเพรา
ประเภทของโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
ผู้จัดทาโครงงาน : 1) นาย จิรโชติ สุวิสุทธิเกษม ม.5/2 เลขที่ 1
2) นาย ธนกร เหลืองเลิศไพบูลย์ ม.5/2 เลขที่ 2
3) นาย วิชญ์นนท์ โอมี ม.5/2 เลขที่7
4) นาย กฤตพล ญาติจันทร์ ม.5/2 เลขที่13
5) นาย วรัตถ์ อู่ทรงธรรม ม.5/2 เลขที่17
6) นาย ธนกฤต สิงห์สา ม.5/2 เลขที่33
ปีการศึกษา 2560
- 4. ข
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้ประกอบด้วยการดาเนินงานหลากหลายขั้นตอนนับตั้งแต่การศึกษาข้อมูลการทดลอง การวิเคราะห์ผล
การทดลอง การจัดทาโครงงานเป็นรูปเล่ม จนกระทั่งโครงงานนี้สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตลอดระยะเวลาดังกล่าว คณะ
ผู้จัดทาโครงงานได้รับความช่วยเหลือและคาแนะนาในด้านต่างๆ ทางคณะผู้จัดทารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากในการช่วยเหลือ
ของทุกๆท่าน และใน ณ โอกาสนี้ขอขอบคุณทุกๆท่านดังนี้
ขอขอบพระคุณผู้ปกครองของสมาชิกในกลุ่มที่ให้การสนับสนุนในเรื่องสถานที่ประกอบอาหาร ตลอดจนวัตถุดิบใน
การทาอาหาร และขอขอบคุณเว็บไซต์ต่างๆที่มีข้อมูลสาคัญให้เราศึกษาจนทาโครงงานออกมาสาเร็จ
ขอขอบพระคุณ มิสเขมจิรา ปลงไสว ครูที่ปรึกษากลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีของโรงเรียนอัสสัมชัญ
ระยอง ผู้ให้คาปรึกษาและการช่วยเหลือในทุกๆด้าน ตลอดจนการแนะวิธีการทาโครงงานว่าควรทายังไงให้เข้าใจได้ง่าย
ทาให้โครงงาน ข้าวผัดกระเพรา สาเร็จไปได้ด้วยดี
คณะผู้จัดทา
- 7. บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์พัฒนาเพื่อการศึกษา เว็บไซต์ การทาอาหารจากเครื่องปรุงตามธรรมชาติ ให้ความรู้กับ
การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ คณะผู้จัดทาได้ศึกษาข้อมูล ดังนี้
1.การทาอาหาร
2.กระเพรา
3.วิธีการสร้างบล็อกเกอร์
ความรู้ทั่วไปของกะเพรา
กะเพรา เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา สูง 30-60 เซนติเมตร นิยมนาใบมาประกอบอาหารคือ ผัดกะเพรา กะเพรามี 3
พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และ กะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว
รูปที่ 1 ต้นกะเพราะ
ต้น กะเพราเป็นพืชสวนครัว ไม้ล้มลุกทรงพุ่มขนาดเล็ก ต้นสูง 30-60 เซนติเมตร มีอยู่ 2 พันธุ์ คือ กะเพราขาวและกะเพรา
แดง กะเพราขาวจะมีใบและส่วนต่างๆ เป็นสีเขียวอ่อน กะเพราแดงจะมีส่วนต่างๆ และใบเป็นสีเขียวอมม่วงแดง มีกลิ่นแรง
กว่ากะเพราขาว
รูปที่ 2 ใบกะเพรา
- 8. ใบ สีเขียวขนาดเล็กมากมายเต็มต้น เป็นใบเลี้ยงเดี่ยวรูปกลม ค่อนข้างรี กว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร ใบอ่อนนุ่ม
ขอบหยัก ออกตรงข้ามกัน มีขนเล็กๆ ปกคลุมไปหมดที่ใบและก้านใบมีกลิ่นหอม ยอดและใบอ่อนมีกลิ่นหอมกว่าส่วนอื่น
ควรตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ ด้วยมีดคมเพื่อให้กะเพราแตกยอดมากขึ้น
รูปที่ 3 ดอกกะเพรา
ดอกเป็นช่อสูงขึ้นไปเป็นชั้นๆ คล้ายฉัตร ช่อยาว 8-14 เซนติเมตร มีดอกติดอยู่โดยรอบของช่อ ก้านดอกมีขน กลีบเลี้ยงมี
ข้างบนและข้างล่าง กะเพราขาวมีดอกสีขาว กะเพราแดงมีดอกสีแดง
รูปที่ 4 ผลกะเพรา
ผล ขนาดเล็กมี 4 ผลอยู่ด้วยกัน ผลแก่แห้งเป็นสีน้าตาล ภายในมีเมล็ดเล็กสีดาอยู่มากมาย
การทาอาหาร
ความหมายของการประกอบอาหาร การทาอาหารดิบให้สุกด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ต้ม นึ่ง ผัด ทอด อบ ตุ๋น ฯลฯ
รวมถึงการปรุงอาหารให้มีรสชาติต่าง ๆ เช่น เปี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ตามความนิยมของครอบครัวและท้องถิ่น
ประโยชน์การทาอาหาร
ทาให้อาหารสุก สะอาด ปราศจากเชื้อโรค อาหารที่สุกด้วยการปรุงผ่านความร้อนสูง และเป็นเวลานาพอสมควร เป็นที่
แน่ใจว่า เชื้อโรคและพยาธิถูกทาลายไปแล้ว จึงจะสะอาดเพียงพอ สาหรับการรับประทานอาหารที่ปลอดภัย ถูก
สุขลักษณะ
- 9. สงวนคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร ส่วนมากสารอาหารที่มักจะสูญเสียไปในขั้นตอนการประกอบอาหารก็คือ
วิตามิน โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในน้า ได้แก่ วิตามินบีและวิตามินซี ดังนั้นในระหว่างประกอบอาหารจึงต้องใช้
เทคนิควิธีต่างๆ เพื่อสงวนคุณค่าของอาหารไว้ให้มากที่สุด
ทาให้อาหารย่อยง่ายขึ้น เครื่องปรุงรสที่ใช้ในการประกอบอาหาร และการทาให้อาหารสุกมีผลต่อความนุ่มและย่อย
ง่ายของอาหาร
ทาให้สะอาดมีรสชาติและกลิ่นดีขึ้น การประกอบอาหารด้วยวิธีต่าง ๆ ทาให้รสชาติและกลิ่นของอาหารเปลี่ยนไป
ในทางที่ดีขึ้นเมื่ออาหารสุก จึงทาให้รับประทานอาหารมากขึ้น
ป้องกันการเน่าเสีย จึงทาให้เก็บอาหารได้นานขึ้นเอนไซม์และแบคทีเรียเป็นตัวการสาคัญที่ทาให้อาหารเน่าเสีย ดังนั้น
เมื่อต้องการยับยั้งการทางานของเอนไซม์และแบคทีเรีย และทาให้อาหารเก็บได้นานมากขึ้น ก็สามารถทาได้โดยประกอบ
อาหาร
ให้สุกด้วยความร้อนโดยวิธีการต่าง ๆ เช่น ต้ม ทอด กวน เป็นต้น
วิธีการสร้างบล็อกเกอร์
ความหมายของคาว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog
นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้อง
ถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทาให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของ
ตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน
บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง หรือ เรียกง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ
Blog คือเว็บไซต์ที่มีรูปแบบเนื้อหาเป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บ
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วยบล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคาว่า blog ย่อมา
จากคาว่า weblog หรือ web log โดยคาว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน
หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง
ขั้นตอนการสร้าง
ขั้นตอนการสร้างบล็อก
1.ให้เราทาการพิมพ์ในช่อง URL ด้านบนว่า www.blogspot.com หรือการเข้าสู่เว็บ blogspot นั้นเอง ตามภาพด้านบน
- 10. 2.ก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้เราทาการล๊อกอินเข้าไป โดยใช้ Gmail ของเรา
3.พอทาการล๊อกอินเสร็จก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บล๊อกใหม่
4.พอมาถึงหน้านี้
– ในช่องหัวข้อ ให้เราทาการตั้งชื่อหัวข้อของบล๊อกของเรา(เรื่องที่เราจะเขียนบล๊อก หรือ Title)
– ในช่องที่อยู่ ให้เราทาการตั้งชื่อ URL ของเรา อาทิเช่น gunoob.blogspot.com , cnx-it.blogspot.com เป็นต้น (.
blogspot.com จะมาการเติมให้โดยอัตโนมัติ ให้พิมพ์แค่ gunoob หรือ cnx-it)
- 11. – ในช่องแม่แบบ ให้เราทาการเลือก รูปแบบของบล๊อกหรือ Theme นั้นเอง (แนะนาให้ใช้แบบง่าย ธีมสามารถเปลี่ยน
ภายหลังได้)
5.จะได้อกมาเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกเข้าไปเลย (ของผมได้ทาการสร้างใว้ก่อนแล้ว)
6.จะได้หน้าต่างเป็นแบบนี้ให้ทาการคลิกที่ บมความใหม่ เพื่อทาการเขียนบทความหรือ blog
7.พอได้หน้าตาแบบนี้ให้เราทาการเขียนบล๊อก หรือบทความที่เราต้องการได้เลย
– ในช่องโพสต์ด้านบนตัวหนังสือสีส้ม ให้เราทาการเขียนหัวข้อหรือหัวเรื่อง บทความที่เราต้องการเขียน
– การเขียนบทความ ข้อมูล หรือบล๊อกนั้นสามารถทาการเขียนได้ใช้ กระดาษ ตรงกลางหน้า
– ด้านขวามือจะมีป้ายกากับ ให้เราทาการคลิกเพื่อพิมพ์ คา ที่ผู้อื่นสามารถค้นบทความของเราเจอได้
– การใส่ลิ้งให้ทาการคลิกที่ ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ เพื่อทาการใส่ URL ที่เราต้องการลิ้ง
- 12. – การใส่รูปภาพ สามารถทาได้โดยการคลิกที่ แทกรูปภาพ ด้านขวา ลิ้ง ในแทบเครื่องมือ แล้วทาการเลือกไฟล์เพื่ออัพ
โหลดรูปภาพแล้ว คลิกรูปภาพที่ต้องการเลือก แล้วกดเพิ่มรายการที่เลือก
– ถ้าทาการเขียนบทความเสร็จ ให้ทาการคลิกที่ เผยแพร่ เพื่อทาการเผยแพร่บทความที่สามารถให้ผู้อื่นได้อ่าน หรือเข้าชม
บทที่3
วิธีการดาเนินโครงงาน
3.1 โปรแกรมที่ใช้ในการทาโครงงานบทที่3
3.1.1 โปรแกรม Power Point
3.1.2 โปรแกรม Microsoft Word 2007
3.1.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/
3.1.4 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com , www.gmail.com ,
www.google.com