งานนำเสนอPPTตัวอย่างในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดทำโดย กลุ่ม 1 ม.5 ห้อง 652 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 เสนอ ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตำแหน่ง ครู คศ.1 สาขาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

1. งานนาเสนอพืชตัวอย่างในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตามโครงการอนุรักษ์
พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พืชตัวอย่างที่ศึกษา คือ ไพล
รายวิชาชีววิทยา 3 (ว 30243) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561

2. ครูที่ปรึกษา
อาจารย์วิชัย ลิขิตพรรักษ์

3. สมาชิกกลุ่ม
นางสาวพัณณิตา กาจรพานิชเจริญ เลขที่11
นางสาวพิมพ์ณดา สุริยะสิริฉัตร เลขที่ 12
นางสาวภีมสิริ เกิดสว่าง เลขที่ 18
นางสาววัชรภัทร ธิติวัชรเดช เลขที่ 20
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 652
สายการเรียน วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ แผนการเรียน บริหาร

4. รูปสมาชิกกลุ่ม

5. คานา
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีววิทยา (ว 30243) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ในหัวข้อการทาเฮอร์บาเรียม(Herbarium)โดยวิธีการอัดพรรณไม้ให้แห้งด้วยแผงอัด ซึ่งมี
จุดประสงค์เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการวิเคราะห์พรรณไม้หรือจาแนกหมวดหมู่
การศึกษาลักษณะพรรณไม้ และข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บไว้
เป็นตัวอย่างสาหรับผู้ที่สนใจศึกษาค้นคว้าได้อีกด้วย

6. สารบัญ
รายละเอียดเกี่ยวกับไพล หน้า 7-8
การขยายพันธุ์ หน้า 9
ลักษณะทั่วไป หน้า 10-11
ประโยชน์ของต้นไพล หน้า 12
สรรพคุณของต้นไพล หน้า 13
ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับของต้นไพล หน้า 14-16
แหล่งอ้างอิง หน้า 17
กิตติกรรมประกาศ หน้า 18
ภาคผนวก หน้า 19-22

7. รายละเอียดเกี่ยวกับไพล
• ชื่อสามัญ ไพล Cassumunar ginger,
Bengal root
• ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber cassumunar
• อาณาจักร Plantae
• หมวด Magnoliophyta
• ชั้น Liliopsida
• อันดับ Zingiberales
• วงศ์Zingiberceae
• สกุล Zingiber
• สปีชีส์ Z. casssumunar
ผลเหง้า

8. • มีถิ่นกาเนิดอยู่ในเอเชียแถบประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย
• ปลูกกันมากในจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และสระแก้ว
ต้น
ราก
ใบ

9. การขยายพันธุ์
• สามารถขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด แง่งหรือเหง้าซึ่งเป็นส่วนของลาต้นใต้ดิน
• ชอบดินร่วนซุย ไม่ชอบน้าขังหรือดินที่มีการระบายน้าไม่ดี
• สามารถปลูกกลางแจ้งจนถึงมีแสงแดดพอควร
• ส่วนต้นเหนือดินมักจะยุบหรือแห้งเมื่อเข้าฤดูแล้ง

10. ลักษณะทั่วไป
ลาต้น
• มีความสูงประมาณ 0.7-1.5 เมตร
• มีเหง้าอยู่ใต้ดิน
ใบ
• เป็นรูปขอบขนานแกมรูปหอก
• เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ
• กว้างประมาณ 3.5-5.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 18-35 เซนติเมตร

11. ดอก
• ออกดอกเป็นช่อ แทงจากเหง้าใต้ดิน
• กลีบดอกมีสีนวล
• มีใบประดับสีม่วง
ผล
• เป็นผลแห้งรูปกลม
เหง้า
• เปลือกมีสีน้าตาลแกมเหลือง
• เนื้อด้านในมีสีเหลืองถึงสีเหลืองแกมเขียว

12. ประโยชน์ของต้นไพล
1. ช่วยทาให้ผิวหนังชุ่มชื่น ด้วยการใช้เหง้าสด 1 แง่ง นามาฝานเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วต้มรวมกับสมุนไพรชนิด
อื่น ๆ เนื่องจากไพลจะมีน้ามันหอมระเหย (เหง้าสด)
2.ช่วยไล่แมลง ฆ่าแมลง (เหง้า)
3.ช่วยกันยุงและไล่ยุง น้ามันจากหัวไพลผสมกับแอลกอฮอล์นามาใช้ทาผิวสามารถช่วยกันยุงและไล่ยุงได้
(หัวไพล)
4.สามารถนามาทาเป็น ครีมไพล, น้ามันไพล, ไพลผง, ไพลขัดผิว, ไพลทาหน้าได้
5.ช่วยกันยุง ไล่ยุง
6.ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการเสบ เส้นตึง เส้นยึด

13. สรรพคุณของต้นไพล
1. ช่วยแก้ธาตุพิการ (ต้นไพล)
2. ดอกไพล สรรพคุณช่วยขับโลหิตและกระจายเลือดเสีย กระจายเลือดที่เป็นลิ่มเป็นก้อน (ดอก)
3. สรรพคุณสมุนไพรไพล ใบช่วยแก้ไข้(ใบ)
4. ช่วยแก้อาเจียน อาการอาเจียนเป็นโลหิต (หัวไพล)
5. ช่วยแก้อาการปวดฟัน (หัวไพล)
6. ไพลกับสรรพคุณทางยา เหง้าช่วยขับโลหิต (เหง้า)
7. ช่วยแก้เลือดกาเดาไหลออกทางจมูก (ราก)
8. ช่วยรักษาโรคที่บังเกิดแต่โลหิตออกทางปากและจมูก (เหง้า)

14. ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับของต้นไพล

15. ไพลมีโทษต่อร่างกายอย่างไร
1. หากรับประทานไพลหรือใช้ติดต่อกันนานๆ อาจจะเป็นพิษต่อตับได้
2. หากจะนาไพลมารักษาโรคหอบหืด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากไม่ควรนามาใช้เดี่ยว
เพราะยังไม่มีวิจัยที่ชัดเจนเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน
3. เครื่องสาอางที่มีส่วนผสมจากไพล ไม่ควรทาในบริเวณที่เป็นเนื้อเยื่ออ่อนเช่น เปลือกตา
รอบริมฝีปาก
4. เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน

16. ไพลกับความงาม
สามารถใช้ไพลได้กับทั้งใบหน้าและผิวหนัง ไพลจะช่วยทาให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ช่วยปกป้องผิว
จากมลภาวะและอันตรายจากแสงแดด ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดาสามารถทาได้ดังนี้
1. นาเหง้าไพลที่แก่จัดมาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วนาไปปั่นให้ละเอียด
2. จากนั้นใส่ดินสอพองลงไปแล้วปั่นให้ผสมเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง
3. เติมน้าสุกลงไปและปั่นให้เข้ากัน
4. นาครีมที่ได้มาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ตากแดดให้แห้งสนิท เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด
จะได้แป้งไพลที่สามารถนาออกมาใช้ได้สะดวก เพียงแค่นามาผสมน้าหรือผสมกับวัตุดิบ
อย่างอื่น เช่น นมสด น้าผึ้ง โยเกิร์ต แล้วพอกหรือขัดถูตามร่างกายแล้วล้างกออก

17. แหล่งอ้างอิง
http://th.wikipidia.org/wiki/ไพล.com
https://medthai.com/ไพล.com
สานักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล
หนังสือแกงป่า-ผัดเผ็ด.พิมพ์ครั้งที่2.กทม.แสงแดด.255
ข้อมูลเครื่องยา : www.thaicrudedrug.com
ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง : www.thaiherbarium.com
รายงานผลการวิจัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผลผลิตระหว่างหัวพันธุ์ที่แตกต่างกันของไพล

18. กิตติกรรมประกาศ
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพราชสุดา สยาม
บรมราชกุมารี พืชตัวอย่างที่ศึกษา: ต้นไพลหรือ Zingiber cassumunar คณะกรรมการผู้จัดทา
ขอขอบคุณ อาจารย์วิชัย ลิขิตพรรักษ์ ที่ให้คาชี้แนะแนวทางในการทาโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อ
การศึกษาในครั้งนี้ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการศึกษาค้นคว้าโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อ
การศึกษาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจและสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันให้เกิด
ประโยชน์สูงสุด

19. ผนวก
• การเลือกพืชตัวอย่าง
• การเลือกเก็บตัวอย่าง

20. • การตรวจครั้งที่ 1
• การตรวจครั้งที่ 2

21. • การจัดทางานนาเสนอ
• การจัดทาเล่มรายงาน

22. • การนาพืชที่แห้งแล้วมาจัดทาชิ้นงานด้วยตัวเอง