SlideShare a Scribd company logo
1 of 82
ท่องทั่วไทย 77 จังหวัด
ท่องทั่วไทย 77 จังหวัดนำเสนอประวัติคำขวัญวัฒนธรรมวังวัดธรรมชำติ
และของดีของจังหวัดต่ำงๆแยกตำมภำคเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐำนเบื้องต้นของจังหวัดนั้นๆ
ภาคตะวันออก
1.จันทบุรี เมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยำกรธรรมชำติทั้งในดินและในน้ำ
คาขวัญ“น้ำตกลือเลื่องเมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดีอัญมณีมำกเหลือเสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชำติ
สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชรวมญำติกู้ชำติที่จันทบุรี”
ประวัติ
จังหวัดจันทบุรีตั้งอยู่ในพื้นที่ชำยฝั่งทะเลภำคตะวันออกของประเทศไทย
เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยำกรธรรมชำติทั้งในดินและในน้ำ
มีสภำพภูมิประเทศและภูมิอำกำศที่เอื้ออำนวยต่อกำรทำกำรเกษตรโดยเฉพำะกำรเพำะปลูกผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด
ได้แก่ ทุเรียนเงำะมังคุด ลำงสำดและพืชผลทำงกำรเกษตรอื่นๆเช่นพริกไทยและยำงพำรำ
ส่วนบริเวณชำยฝั่งก็มีทำกำรประมงจึงเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอำหำรทะเลนำนำชนิดและในอีกแง่มุมหนึ่ง
จันทบุรีคือศูนย์กลำงธุรกิจด้ำนอัญมณีที่มีชื่อเสียงแพร่หลำยไปทั่วโลก
เป็นแหล่งรวมช่ำงฝีมือในกำรเจียระไนอัญมณีและทำเครื่องประดับต่ำงๆ
ทั้งยังมีสถำนที่ท่องเที่ยวทำงธรรมชำติที่สวยงำมหลำยแห่งและมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่ำสนใจมำกมำยทั้งศำสนสถำน
โบรำณสถำนและโบรำณวัตถุจึงทำให้จันทบุรีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศในปัจจุบัน
จังหวัดจันทบุรีมีเนื้อที่ประมำณ6,338 ตำรำงกิโลเมตรหรือ3,961,250ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนำดใหญ่เป็นอันดับ34
ของประเทศ สภำพพื้นที่ทำงด้ำนทิศเหนือและทิศตะวันออกโดยทั่วไปเป็นป่ำไม้ ภูเขำและที่รำบสูง
มีควำมสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำงประมำณ30-190เมตรเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำจันทบุรี
แม่น้ำสำยสำคัญของจังหวัดที่ไหลลงสู่อ่ำวไทยทำงทิศใต้ ส่วนทำงทิศใต้เป็นที่รำบลุ่มริมฝั่งทะเล
และบริเวณชำยฝั่งมีลักษณะเป็นอ่ำวแหลมและหำดทรำยจันทบุรีเป็นเมืองเก่ำแก่เมืองหนึ่งของภูมิภำค
เคยมีมนุษย์อำศัยอยู่ตั้งแต่ในยุคก่อนประวัติศำสตร์ ดังหลักฐำนกำรค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ยุคหินขัดอำยุประมำณ2,000
ปี ในเขตอำเภอมะขำมอำเภอท่ำใหม่ และที่รำบเชิงเขำที่บ้ำนคลองบอนอำเภอโป่งน้ำร้อน
โดยสันนิษฐำนว่ำเริ่มมีกำรตั้งเป็นชุมชนเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงประมำณพุทธศตวรรษที่18ที่บริเวณหน้ำเขำสระบำป
โดยชนพื้นเมืองกลุ่มแรกเป็นชนเผ่ำในตระกูลมอญ-เขมรหรือเรียกว่ำ“ชำวชอง”ดำรงชีพด้วยกำรเก็บของป่ำขำย
แต่ปัจจุบันพื้นที่ป่ำลดน้อยลงไปมำกเพรำะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่ทำงกำรเกษตร
และที่ดินส่วนมำกถูกจับจองโดยคนไทยและคนจีนอีกทั้งกำรเก็บของป่ำกลำยเป็นสิ่งผิดกฎหมำย
นำยพรำนชำวชองจึงต้องเปลี่ยนวิถีกำรดำรงชีพไปเป็นแรงงำนต่ำงๆในเมือง
และมีบำงส่วนที่ยังคงยึดอำชีพทำสวนทำนำอยู่ปัจจุบันชำวชองรวมตัวกันอยู่ที่บ้ำนคลองพลูกิ่งอำเภอเขำคิชฌกูฏในปี
พ.ศ. 2200ได้มีกำรย้ำยเมืองมำอยู่ที่บ้ำนลุ่มทำงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี
ต่อมำเมื่อกรุงศรีอยุธยำพ่ำยสงครำมและตกเป็นเมืองขึ้นของพม่ำ
สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นพระยำวชิร
-2-
ปรำกำรก็ได้นำกำลังพลประมำณ500คนตีฝ่ ำวงล้อมพม่ำออกมำทำงทิศตะวันออก
และจัดตั้งเมืองจันทบุรีเป็นแหล่งสะสมเสบียงอำหำรและกำลังพลเป็นเวลำถึง5เดือน
ก่อนนำทัพที่ประกอบด้วยไพร่พลทั้งชำวไทยและจีนจำนวนรำว5,000คนกลับไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยำในปี พ.ศ.2310
ซึ่งกำรมีบทบำทในกำรช่วยกอบกู้เอกรำชของชำติในครั้งนั้นนับเป็นเหตุกำรณ์ที่เป็นควำมภำคภูมิใจของชำวจันทบุรี
ปัจจุบันจึงมีโบรำณสถำนและอนุสรณ์สถำนหลำยแห่งที่เกี่ยวข้องหรือจัดสร้ำงขึ้นเพื่อเป็นกำรน้อมรำลึกถึงพระมหำกรุณำธิ
คุณของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชในครั้งนั้นต่อมำในสมัยพระบำทสมเด็จพระนั่งเกล้ำเจ้ำอยู่หัวรัชกำลที่3
ได้โปรดให้ย้ำยเมืองจันทบุรีไปตั้งบนพื้นที่สูงที่บ้ำนเนินวงเพื่อให้เป็นที่มั่นในกำรป้ องกันกำรถูกรุกรำนจำกชำวญวน
จนกระทั่งสมัยพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่รัชกำลที่5โปรดให้ย้ำยหัวเมืองจันทบุรีกลับมำตั้งที่บ้ำนลุ่มตำมเดิม
เนื่องจำกบ้ำนเนินวงนั้นอยู่ไกลจำกแหล่งน้ำในปี พ.ศ.2436 เกิดกรณีพิพำทระหว่ำงไทยกับประเทศฝรั่งเศส
ชำวฝรั่งเศสได้เข้ำมำยึดครองเมืองจันทบุรีไว้นำนถึง11ปี จนไทยต้องยอมยกดินแดนฝั่งซ้ำยของแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศสไป
เพื่อแลกเอำเมืองจันทบุรีกลับคืนมำต่อมำในปี พ.ศ. 2476 มีกำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดินขึ้นใหม่
เมืองจันทบุรีจึงมีฐำนะเป็นจังหวัดมำจนถึงปัจจุบันชื่อเมืองจันทบุรี หรือ “เมืองจันท์” นั้นมีควำมหมำยว่ำ
“เมืองที่สงบร่มเย็นเช่นเดียวกับเมื่ออยู่ใต้แสงจันทร์”โดยมีตรำประจำจังหวัดเป็นดวงจันทร์กำลังส่องแสง
มีกระต่ำยน้อยอยู่ตรงกลำงจังหวัดจันทบุรีแบ่งเขตกำรปกครองออกเป็น9อำเภอ และ1 กิ่งอำเภอได้แก่
อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอท่ำใหม่ อำเภอขลุง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอโป่งน้ำร้อนอำเภอมะขำมอำเภอสอยดำว
อำเภอนำยำยอำมอำเภอแก่งหำงแมวและกิ่งอำเภอเขำคิชฌกูฏ
วัฒนธรรม
ศาลหลักเมือง ศำลเจ้ำพ่อหลักเมืองถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองจันท์เคียงคู่กับศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ
เป็นศำลหลักเมืองที่สร้ำงอย่ำงสวยงำมศำลเดิมนั้นสันนิษฐำนว่ำสมเด็จพระเจ้ำตำกสินทรงสร้ำงขึ้นในปี พ.ศ.2310
ต่อมำมีสภำพทรุดโทรมชำวจันทบุรีจึงร่วมกันก่อสร้ำงศำลใหม่รวมทั้งหล่อองค์เจ้ำพ่อหลักเมืองขึ้นใหม่ด้วย
โดยวำงศิลำฤกษ์เมื่อปี พ.ศ.2524ก่อสร้ำงแล้วเสร็จปี พ.ศ.2526 หลักเมืองเป็นแท่งศิลำสูง3ม..
ส่วนเจ้ำพ่อหลักเมืองเป็นเทพเจ้ำจีน
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯเป็นสถำนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองจันท์
บ่งบอกถึงควำมผูกพันของชำวเมืองนี้ที่มีต่อพระเจ้ำ:ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ
เดิมเป็นศำลไม้อยู่ข้ำงศำลเจ้ำพ่อหลักเมืองต่อมำในปี 2463 สมัยม.จ. สฤษดิเดชชยำงกูร
เป็นสมุหเทศำภิบำลมณฑลจันทบุรี ได้สร้ำงศำลขึ้นใหม่บริเวณด้ำนหน้ำค่ำยทหำรกองพันนำวิกโยธิน
คนละฝั่งถนนกับศำลเจ้ำพ่อหลักเมืองโดยอำศัยอำคำรเป็นศำลำคอนกรีตสี่เหลี่ยมจตุรมุข
มีบันไดด้ำนหน้ำและด้ำนข้ำงรวม3ด้ำน
กรมศิลปำกรเป็นผู้ออกแบบ ภำยในเป็นที่ประดิษฐำนเทวรูปซึ่งเป็นเทพเจ้ำประจำพระองค์พระเจ้ำตำก
ขณะนั้นยังไม่มีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ ประดิษฐำนเช่นปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2534
ชำวจันทบุรีได้ร่วมกันบริจำคเงินสร้ำงศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯขึ้นใหม่อีกหลังเป็นศำลทรงเก้ำเหลี่ยมคู่กับศำลเดิม
ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯเป็นศำลทรงเก้ำเหลี่ยมหลังคำเป็นรูปพระมำลำ เป็นที่ประดิษฐำนพระบรมรูปสมเด็จพระ
-3-
เจ้ำตำกสินมหำรำชซึ่งหล่อด้วยทองเหลืองรมดำผนังภำยในเขียนลำยพุ่มข้ำวบิณฑ์ไว้อย่ำงสวยงำม
ชำวจันทบุรีถือว่ำสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชทรงมีพระมหำกรุณำธิคุณ ทำให้จันทบุรีเป็นที่รู้จัก
และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศำสตร์กำรกอบกู้เอกรำชครำวเสียกรุงครั้งที่ 2
ในฐำนะเป็นฐำนที่มั่นของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯในระหว่ำงกำรรวบรวมพลรวมถึงเสบียงอำหำร
และสถำปนำอำนำจขึ้นใหม่กล่ำวคือในปี พ.ศ. 2310 ขณะที่พม่ำล้อมกรุงศรีอยุธยำอยู่
สมเด็จพระเจ้ำตำกสินหรือพระยำวชิรปรำกำร (สิน)ในขณะนั้น
เล็งเห็นว่ำกรุงศรีอยุธยำต้องแตกพ่ำยและตกเป็นของพม่ำแน่นอนจึงรวบรวมพลทหำรไทยจีนได้ 500 คน
ตีฝ่ ำวงล้อมพม่ำทำงทิศตะวันออกโดยต่อสู้กับข้ำศึกในระหว่ำงทำงและได้ชัยชนะสำมำรถรวบรวมไพร่พลได้มำกขึ้น
พระยำวชิรปรำกำรเห็นว่ำจันทบุรีมีชัยภูมิที่เหมำะสมในทำงยุทธศำสตร์ เป็นหัวเมืองชำยทะเลที่ปลอดจำกสงครำม
ทั้งมีควำมอุดมสมบูรณ์ด้ำนพืชพันธุ์ธัญญำหำรรวมทั้งยังเป็นชุมชนชำวจีนแต้จิ๋ว
พระยำวชิรปรำกำรมีเชื้อสำยจีนแต้จิ๋วและเคยเป็นพ่อค้ำมำก่อนจึงมุ่งหวังว่ำจะได้รับควำมช่วยเหลือจำกชำวจีนเหล่ำนี้
ดังนั้นจึงใช้เมืองจันท์เป็นที่มั่น และรวบรวมหัวเมืองชำยฝั่งทะเลตะวันออกได้ทั้งหมดสำมำรถต่อเรือรบได้ 100ลำ
มีผู้สวำมิภักดิ์มำกขึ้นถึง5,000คนแล้วกลับไปตีทัพพม่ำขับไล่ออกไปจำกอยุธยำได้สำเร็จ
นับเป็นกำรกอบกู้เอกรำชของชำติกลับคืนมำได้อีกครั้ง
ศำลหลักเมือง เจ้ำพ่อศำลหลักเมือง ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ พระบรมรูปพระเจ้ำตำกฯ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี เกิดมำจำกกำรที่กรมศิลปำกร
ได้ตั้งฐำนปฏิบัติกำรโบรำณคดีใต้น้ำขึ้นที่ท่ำแฉลบและตั้งศูนย์กำรอนุรักษ์โบรำณวัตถุใต้ทะเลขึ้นที่แห่งนี้
ด้วยควำมที่มีโบรำณวัตถุใต้ทะเลอยู่เป็นปริมำณมำกนับหมื่นๆชิ้น
กรมศิลป์ จึงดำเนินกำรสร้ำงพิพิธภัณฑสถำนแห่งชำติพำณิชย์นำวีขึ้นในปี พ.ศ.2537 บริเวณค่ำยเนินวงตำบลบำงกะจะ
ออกแบบเป็นอำคำรแฝด2 ชั้นภำยในจัดแสดงนิทรรศกำรเกี่ยวกับกำรค้ำทำงเรือของไทย
มีกำรรวบรวมหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์ที่ได้จำกกำรดำเนินงำนด้ำนกำรศึกษำค้นคว้ำวิจัยทำงโบรำณคดีใต้น้ำมำเป็นเวล
ำกว่ำ20ปี
ห้องจัดแสดง แบ่งเป็นห้องแสดงหลักกับห้องย่อยๆอื่นๆ ห้องแสดงหลักอยู่ที่ชั้น2
ซึ่งได้จัดสร้ำงเรือสำเภำขนำดเท่ำของจริงที่ผู้ชมสำมำรถเดินเข้ำไปชมภำยในลำเรือได้
เพื่อบอกถึงเรื่องรำวกำรเดินเรือและกำรค้ำขำยระหว่ำงประเทศมีหลำยห้องเช่น ห้องแนะนำปฏิบัติกำรโบรำณคดีใต้น้ำ
ให้ควำมรู้และจำลองกำรศึกโบรำณคดีใต้น้ำห้องแสดงเรือและชีวิตชำวเรือจัดแสดงเรือประเภทต่ำงๆ
ที่หำดูได้ยำกในปัจจุบันห้องคลังเก็บโบรำณวัตถุจัดแสดงโบรำณวัตถุโดยไม่กั้นกระจก
ให้เรำได้สัมผัสกลิ่นอำยวันเก่ำก่อนได้มำกขึ้น ต่อมำคือห้องบุคคลสำคัญจัดแสดงวีรกรรมของพระเจ้ำตำกสินในครำวกู้
-4-
กรุงศรีอยุธยำและห้องของดีเมืองจันท์เป็นสถำนที่ที่จัดแสดงของดีต่ำงๆของจังหวัดจันทบุรี อำทิ กำรทำเหมืองพลอย
กำรทำสวนผลไม้แหล่งท่องเที่ยวทำงธรรมชำติและเรื่องรำวของชำวชองซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของจันทบุรีอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ผู้สนใจสำมำรถเข้ำชมได้ทุกวันพุธ-อำทิตย์หยุดวันนักขัตฤกษ์เวลำ09.00-16.00น.
วังสวนบ้านแก้ว และพิพิธภัณฑ์วังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่เลขที่41 หมู่5 ตำบลท่ำช้ำงอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
ในสมัยก่อนเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณี พระบรมรำชินีในรัชกำลที่7
ซึ่งประกอบไปด้วยตำหนักและอำคำรหลำยหลัง
ปัจจุบันวังสวนบ้ำนแก้วอยู่ในควำมดูแลของมหำวิทยำลัยรำชภัฎรำไพพรรณี
ควำมเป็นมำของวังสวนบ้ำนแก้วย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2492สมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯ
ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัวจำกประเทศอังกฤษกลับสู่ประเทศไทย
หลังจำกนั้นสมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯทรงมีพระรำชประสงค์ที่จะมีที่ประทับสำหรับพักผ่อนพระรำชอิริยำบถ
จึงได้ทรงสร้ำงวังบ้ำนสวนแก้วขึ้นในจังหวัดจันทบุรี
สมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯทรงกู้เงินจำกธนำคำรเพื่อซื้อที่ดินสองฝั่งคลองบ้ำนแก้วรวมเนื้อที่ทั้งหมด687ไร่
และพระรำชทำนนำมสถำนที่แห่งนี้ตำมชื่อคลองว่ำ “สวนบ้ำนแก้ว”
ในระยะแรกนั้นสวนบ้ำนแก้วยังมีสภำพเป็นป่ำจึงโปรดเกล้ำฯให้ทำกำรปรับที่ดิน
พร้อมกับสร้ำงที่ประทับชั่วครำวทำด้วยไม้ไผ่หลังคำมุงจำกและได้เสด็จพระรำชดำเนินไปประทับแรมครั้งแรกเมื่อวันที่20
มิถุนำยนพ.ศ.2493 ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีไฟฟ้ ำและน้ำประปำใช้
ต่อมำโปรดเกล้ำฯให้สร้ำงเรือนไม้หลังเล็กขึ้น2หลัง คือเรือนเทำ
ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯส่วนเรือนแดงเป็นที่พักของข้ำหลวงผู้ติดตำม
และมีเรือนอีกหลังหนึ่งสร้ำงแบบบังกะโลเรียกว่ำเรือนเขียวเป็นที่พักของรำชเลขำนุกำร
เรือนทั้งสำมหลังนี้นับเป็นอำคำรถำวรชุดแรกของสวนบ้ำนแก้ว
ต่อมำในปี พุทธศักรำช2515พระองค์ทรงมีพระชมมำยุสูงขึ้นและพระพลำนำมัยไม่สมบูรณ์นักดังนั้น
เมื่อรัฐบำลได้กรำบบังคมทูลพระกรุณำขอรับพระรำชทำนที่ดินสวนบ้ำนแก้วเพื่อจัดตั้งวิทยำลัยครูจันทบุรี
พระองค์จึงได้พระรำชทำนสวนบ้ำนแก้วแก่กระทรวงศึกษำธิกำรเพื่อเป็นกำรพระรำชทำนโอกำสทำงกำรศึกษำแก่ประชำชน
ในจังหวัดจันทบุรี และได้ย้ำยไปประทับณวังศุโขทัยจวบจนวำระสุดท้ำยของพระองค์
-5-
พิพิธภัณฑ์สถำนแห่งชำติพำณิชย์นำวี วังสวนบ้ำนแก้วและพิพิธภัณฑ์วังสวนบ้ำนแก้ว
โบราณสถานค่ายเนินวงเป็นค่ำยเก่ำแก่สร้ำงในรัชสมัยรัชกำลที่3ที่โปรดเกล้ำฯให้เจ้ำพระยำพระคลังสร้ำงขึ้น
เมื่อวันที่ 9 มกรำคมพ.ศ. 2377 โดยรื้อศิลำแลงและอิฐของกำแพงจำกเมืองจันทบุรีไปสร้ำง
เพื่อป้ องกันกำรรุกรำนของชำวญวนบนกำแพงค่ำยวำงปืนใหญ่เรียงรำยอยู่โดยรอบหลำยสิบกระบอก
ภำยในค่ำยเป็นที่ตั้งของสำนักงำนโบรำณคดีใต้น้ำกรมศิลปำกรและพิพิธภัณฑ์สถำนแห่งชำติพำณิชย์นำวี
พื้นที่ภำยในกำแพงเมืองมีขนำด270ไร่เศษสร้ำงเป็นกำแพงสูงประมำณ6เมตรมีป้ อม คู และประตูสี่ทิศ
รวมทั้งมีปืนใหญ่แบบโบรำณตั้งเรียงรำยตำมช่องใบเสมำแต่เดิมมีหญ้ำขึ้นรกทึบบำงส่วนพังทลำยลง
ปัจจุบันแนวกำแพงและตัวป้ อมได้บูรณะขึ้นใหม่
โบราณสถานเมืองเพนียด เพนียดเป็นชุมชนโบรำณที่พบหลักฐำนทำงโบรำณคดี
ประวัติศำสตร์ที่สำคัญจำกจำรึกภำษำขอมอำยุรำวพ.ศ.800-1000ได้กล่ำวว่ำบริเวณที่ตั้งโบรำณสถำนเพนียดนั้น
เดิมเป็นที่ตั้งเมืองจันทบุรีในยุคแรก ซึ่งขอมถือเป็นแหล่งอำรยธรรมที่สำคัญเมืองหนึ่งของอำณำจักรกัมพูชำ
โดยมีเจ้ำผู้ครองนครทำกำรปกครองอย่ำงอิสระ
ได้มีกำรติดต่อกับอินเดียและรับเอำวัฒนธรรมของอินเดียเข้ำมำใช้ในวิถีชีวิตเนื่องจำกเป็นบริเวณที่มีเรือสำเภำ
ผ่ำนเป็นไปมำค้ำขำยกับจีนและอินเดีย ดังนั้นชำวพื้นเมืองคือชำวชองและชำวขอม
โบรำณสถำนเพนียด โบรำณสถำนค่ำยเนินวง แนวกำแพงโบรำณสถำนค่ำยเนินวง
-6-
อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก หรือ อู่ต่อเรือเสม็ดงาม ตั้งอยู่ที่บ้ำนเสม็ดงำมตำบลหนองบัวอำเภอเมือง
ห่ำงจำกอำเภอเมือง 11 กิโลเมตร
สันนิษฐำนว่ำเป็นสถำนที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชใช้เป็นอู่ต่อเรือเมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่ำเพื่อกู้เอกรำชชำติไ
ทย เมื่อ พ.ศ. 2310 หน่วยโบรำณคดีใต้น้ำ กองโบรำณคดี กรมศิลปำกร
ได้ขุดค้นซำกเรือและตรวจสอบชั้นดินทำงโบรำณคดีตำมริมฝั่งอ่ำว
พบแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ำลักษณะคล้ำยอู่เรืออยู่หลำยแห่ง พร้อมทั้งส่วนประกอบต่ำง ๆ ของเรือโบรำณ
และสันนิษฐำนว่ำ น่ำจะเป็นเรือสำเภำจีนแบบฟูเจียนขนำดเล็กใช้สำหรับบรรทุกสินค้ำ มีใบสำมเสำใช้หำงเสือเรือ
ขนำดเรือยำว 24 เมตร กว้ำง 5 เมตร บริเวณใกล้เคียงมีโรงเก็บเรือจำลองและเรือของชำวบ้ำนที่เคยใช้กันในอดีต
ตึกแดง ตั้งอยู่ที่ตำบลปำกน้ำแหลมสิงห์อำเภอแหลมสิงห์บริเวณท่ำเรือแหลมสิงห์ใกล้กับคุกขี้ไก่
ห่ำงจำกตัวเมืองจันทบุรี 30กิโลเมตรสร้ำงขึ้นเมื่อพ.ศ.2436 เดิมเป็นที่ตั้งของป้ อมพิฆำตปัจจำมิตร
ซึ่งสร้ำงขึ้นในสมัยรัชกำลที่3ต่อมำเมื่อฝรั่งเศสเข้ำยึดเมืองจันทบุรีได้รื้อป้ อมแห่งนี้ลง
และสร้ำงตึกแดงขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักและกองบัญชำกำรทหำรฝรั่งเศสเป็นตึกชั้นเดียว สีแดงหลังคำมุงกระเบื้อง
คุกขี้ไก่ สร้ำงขึ้นในสมัยร.ศ.๑๑๒หรือพ.ศ.๒๔๓๖ โดยชำว"ฝรั่งเศส"สร้ำงเพื่อใช้ขังคนไทยที่จัดขืนคำสั่ง
เมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสเข้ำยึดครอง"เมืองจันทบุรี"เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ (ร.ศ.๑๑๒) ไทยกับฝรั่งเศสยกกองทหำรเข้ำสู่เมืองจันทบุรี
รวมทั้งสิ้น๖๐๐คนเศษ แยกกันอยู่๒แห่ง ฝ่ ำยไทยตั้งอยู่ที่เมืองจันทบุรีในบริเวณที่เป็น"ค่ำยตำกสิน"ส่วนฝรั่งเศสรื้อ
"ป้ อมพิฆำตปัจจำมิตร" ริมปำกน้ำแหลมสิงห์สร้ำงตึกแถวที่พักและกองบัญชำกำรเรียกว่ำ "ตึกแดง"และ
"คุกขี้ไก่"โดยฝรั่งเศสจะจับนักโทษขังไว้ในป้ อมนี้แล้วเลี้ยงไก่ไว้ข้ำงบนให้ไก่ขี้รดหัวนักโทษจึงเรียกว่ำ"คุกขี้ไก่"
อู่ต่อเรือพระเจ้ำตำก ตึกแดง คุกขี้ไก่
-7-
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้าอ่าวคุ้งกระเบน จันทบุรีตั้งอยู่ที่ ศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำอ่ำวคุ้งกระเบน
อันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ ก่อสร้ำงเนื่องในวโรกำสที่พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ทรงมีพระชนมำยุครบ72พระชันษำในปี พ.ศ. 2542 กรมประมง
โดยศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำประมงอ่ำวคุ้งกระเบนและสำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพื่อประสำนงำนโครงกำรอันเนื่องมำจำ
กพระรำชดำริ (กปร.)
ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวโดยดำเนินกำรก่อสร้ำงสถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในบริเวณพื้นที่โครงกำรศู
นย์ศึกษำกำรพัฒนำอ่ำวคุ้งกระเบนอันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ กำรก่อสร้ำงสถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำดังกล่ำว
ควำมทรำบฝ่ ำละอองธุลีพระบำทพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวทรงพระรำชทำนนำมสถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้เพื่อเป็น
ศิริมงคลว่ำ“สถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ6รอบพระชนมพรรษำ”
สถำนที่แห่งมีภำยในอำคำรมีตู้ปลำแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทำงทะเลที่น่ำสนใจจำกท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงนำมำจัดแสดง มี
พันธุ์สัตว์น้ำแสดงทั้งหมด36ตู้ ในพื้นที่ระยะที่1 และพื้นที่ระยะที่2จำนวน 17 ตู้
และมีอุโมงค์ปลำขนำดใหญ่ให้เรำได้เดินชมแม้ควำมยำวไม่มำกแต่ก็สร้ำงควำมเพลิดเพลิดได้ดี
นอกจำกนี้ยังมีจุดแสดงอุปกรณ์ของใช้เครื่องใช้ในยุคก่อน และมีตู้แสดงซำกฟอสซิลของหอยนำนำๆชนิดอีกมำกมำย
ให้เรำได้ชมศึกษำหำควำมรู้
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอ่ำวคุ้งกระเบน ซำกฟอสซิลหอยนำนำชนิด
-8-
ชมวัด
วัดพลับพลา ตั้งอยู่บนถนนตรีรัตน์ห่ำงจำกโรงแรมเค.พี.แกรนด์ประมำณ 500เมตร
จำกรูปแบบทำงสถำปัตยกรรมสันนิษฐำนว่ำพระอุโบสถเป็นลักษณะอำคำรในสมัยรัชกำลที่3ลงมำ
มีกำแพงแก้วล้อมรอบทั้ง4ด้ำนแต่ละด้ำนมีช่องทำงเข้ำฉนวนด้ำนหลังมีเสำรองรับ5ต้นไม่มีบัวหัวเสำ
ฐำนอำคำรเป็นเส้นตรงมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองขนำดเล็กอยู่ภำยในกำแพงแก้ว
ภำพจิตรกรรมฝำผนังเป็นภำพต้นไม้ประเภทบอนไซและดอกไม้แบบจีนเรื่องทศชำติและพุทธประวัติ
ลักษณะกำรเขียนน่ำจะเป็นจิตรกรรมที่เขียนขึ้นหลังรัชกำลที่ 3
ลงมำเนื่องจำกมีชำวต่ำงชำติปรำกฏเป็นจำนวนมำกในภำพวำด
วัดไผ่ล้อม เป็นวัดเก่ำของเมืองจันทบุรี สิ่งก่อสร้ำงต่ำงๆที่เหลืออยู่ภำยในวัดเช่นกุฏิพระและศำลำกำรเปรียญ
มีไม้ฉลุแบบขนมปังขิงประดับตกแต่งอย่ำงสวยงำมล้วนแล้วแต่เป็นของเก่ำอำยุเกือบร้อยปีทั้งนั้น
ที่ไม่ควรพลำดชมเห็นจะเป็นพระอุโบสถซึ่งสร้ำงมำตั้งแต่สมัยอยุธยำตอนปลำยเป็นอย่ำงน้อย
ทั้งนี้จะเห็นได้จำกฐำนโบสถ์ที่โค้งอย่ำงที่เรียกว่ำ"ตกท้องช้ำงหรือท้องเชือก"
อันเป็นสถำปัตยกรรมในสมัยอยุธยำตอนปลำยและภำยในพระอุโบสถยังมีภำพจิตรกรรมโบรำณ
เรื่องทศชำติและพุทธประวัติที่ยังคงสภำพสมบูรณ์อยู่ซึ่งเขียนขึ้นโดยช่ำงสมัยอยุธยำ
นอกจำกนี้ยังมีพระพุทธรูปปำงไสยำสน์ที่มีขนำดใหญ่ที่สุดในภำคตะวันออก ประดิษฐำนอยู่ภำยในวิหำรอีกด้วย
วัดทองทั่ว ตำแหน่งที่ตั้งวัดซึ่งไม่ห่ำงจำกโบรำณสถำนเมืองเพนียดมำกนัก
วัดทองทั่วมีโบสถ์หลังเก่ำซึ่งเป็นสถำปัตยกรรมแบบต้นรัตนโกสินทร์ สร้ำงทับไปบนศำสนสถำนแบบขอมทำงทิศตะวันออก
หน้ำโบสถ์มีสิงห์นั่งแกะสลักด้วยหินทรำยสีแดงสูง90ซม. หน้ำประตูมีชิ้นส่วนธรณีประตูหินทรำยสีขำวในโบสถ์เก่ำหลังนี้
ปัจจุบันเป็นที่เก็บทับหลังหินทรำยสีขำวและสลักเป็นศิลปแบบถำลำบริวัตรต่อสมโบรไพรกุก (พ.ศ.1150)อีกชิ้นคือ
ทับหลังหินทรำยสีขำวเช่นเดียวกันและสลักเป็นรูปลำยพันธุ์พฤกษำและพวงมำลัยลักษณะศิลปแบบไพรกเมง(พ.ศ.1180-
1250) และยังมีเสำประดับกรอบประตูเทวสถำนลักษณะศิลปะละครวัดมีโกลนพระคเณศแกะไม่เสร็จ
ยังกำหนดรูปแบบศิลปะไม่ได้แต่ร่องรอยด้ำนหลังที่เป็นรอยเศียรนำคคือกำรดัดแปลงพระพุทธรูปนำคปรกให้เป็นเทวรูป
แสดงให้เห็นถึงลักษณะศิลปะทวำรวดีที่ปะปนกับขอมซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ครองนคร จะเลื่อมใสศำสนำใดมำกกว่ำกัน
ลักษณะแบบนี้พบในเมืองโบรำณหลำยแห่งทำงภำคตะวันออกนี้เช่นเมืองพระรถเมืองศรีมโหสถ
เมืองดงละครและโคกกระโดนอยู่ริมถนนสุขุมวิทห่ำงจำกตัวเมืองรำว 4กิโลเมตร
วัดพลับพลำ วัดไผ่ล้อม วัดทองทั่ว
-9-
วัดเขาสุกิม ประวัติเดิมเป็นสถำนปฏิบัติธรรมบนเขำซึ่งเรียกกันในท้องถิ่นว่ำเขำอีกิมต่อมำในปี พ.ศ. 2507
ชำวบ้ำนได้นิมนต์พระอำจำรย์สมชำยฐิตวิริโยและภิกษุสำมเณรจำกสำนักสงฆ์เนินดินแดงซึ่งอยู่ไม่ไกล
มำจำพรรษำบนเขำอีกิมพระอำจำรย์สมชำยได้พัฒนำวัดจนเป็นวัดใหญ่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเปลี่ยนชื่อเป็นเขำสุกิม
นอกจำกนี้ยังได้สร้ำงโรงเรียนมัธยมวัดเขำสุกิมและโรงพยำบำลวัดเขำสุกิมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสำธำรณะด้วย
พิพิธภัณฑ์วัดเขำสุกิมอยู่บนชั้น3 ของตึก 60 ปีเฉลิมพระเกียรติเป็นที่เก็บรวบรวมโบรำณวัตถุจำนวนมำก
เช่นพระพุทธรูปปำงต่ำงๆทั้งที่ด้วยศิลำและสำริดเครื่องถ้วยกระเบื้องจีนทั้งขนำดเล็กและใหญ่ นอกจำกนี้ก็มีขวำนหิน
ฆ้อง หม้อ ไห มีด ดำบเครื่องประดับสำริดกระต่ำยขูดมะพร้ำวเป็นต้น
วัดมังกรบุปผาราม หรือวัด “เล่งฮัวยี่”ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทเส้นทำงสำยจันทบุรี-ขลุงห่ำงจำกตัวเมืองจันทบุรี 16
กิโลเมตรสร้ำงขึ้นในปี พ.ศ. 2520 เป็นวัดในพุทธศำสนำนิกำยมหำยำน
มีศำลำและพระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นลวดลำยต่ำงๆอย่ำงงดงำม ภำยในวัดมีบรรยำกำศที่เงียบสงบ
และร่มรื่นเหมำะสำหรับผู้ที่สนใจในกำรปฏิบัติธรรมซึ่งทำงวัดยินดีจะอำนวยควำมสะดวกในด้ำนที่พัก
วัดแห่งนี้มีงำนประจำปีที่สำคัญ2งำนคืองำนบุญกฐินจะจัดขึ้นหลังช่วงเทศกำลออกพรรษำ
และงำนทำบุญประจำปีของวัดซึ่งจะจัดขึ้นหลังวันตรุษจีน21วันซึ่งจะมีประชำชนเดินทำงมำร่วมทำบุญถือศีล
และพำนักที่วัดตลอดช่วงกำรจัดงำนนำน7-10วัน
โบสถ์คอทอลิค เป็นโบสถ์คริสต์นิกำยคำทอลิกตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมำรดำพิทักษ์ตำบลจันทนิมิตร
สำมำรถเข้ำทำงเดียวกับวัดไผ่ล้อมเมื่อถึงวัดไผ่ล้อมแล้วเดินทำงต่อไปอีกรำว 1กม.
หรือจำกตัวเมืองเดินทำงข้ำมสะพำนวัดจันท์ไปตำมถนนจันทนิมิตรจะพบทำงแยกขวำไปโบสถ์คำทอลิก
สถำนที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่ำงหนึ่งว่ำวัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ได้ชื่อว่ำเป็นโบสถ์คำทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
มีรูปทรงทำงสถำปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เรียกว่ำศิลปะแบบโกธิค ตบแต่งด้วยกระจกสีติดผนังเป็นภำพทำงคริสต์ศำสนำ
สวยงำมมำก
เจดีย์ยอดเขาพลอยแหวน วัดเขำพลอยแหวนเป็นวัดเล็กๆตั้งอยู่บนเนินเขำพลอยแหวน
บริเวณนี้เดิมเคยเป็นแหล่งขุดพลอยแห่งแรกของจันทบุรี
ภำยในวัดมีบันไดขึ้นสู่ยอดเขำอันเป็นที่ตั้งของเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสำรีริกธำตุและมณฑปพระพุทธบำท
วันนี้ได้รับกำรขึ้นทะเบียนเป็นโบรำณสถำนเมื่อปี พ.ศ.2530
เจดีย์บรรจุพระบรมสำรีริกธำตุและมณฑปพระพุทธบำทพระยำไกรโกษำข้ำหลวงเมืองจันทบุรี
สร้ำงองค์รัตนคีรีเจดีย์เมื่อปี พ.ศ.2379 เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกำก่ออิฐถือปูนกว้ำง4 วำสูง 6 วำ 3 ศอก
ภำยในบรรจุพระบรมสำรีริกธำตุต่อมำปี พ.ศ.2495 มีกำรบูรณะเจดีย์โดยขยำยควำมกว้ำงและควำมสูงของฐำน
เป็นกว้ำง4 วำ2 ศอก สูง7 วำ บริเวณด้ำนหน้ำเจดีย์เป็นที่ตั้งของมณฑปซึ่งก่อสร้ำงค้ำงไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2471
ภำยในประดิษฐำนพรพุทธรูปปำงมำรวิชัยขนำดหน้ำตัก1ศอกหนึ่งองค์ฐำนมณฑปประดิษฐำนรอยพระพุทธบำทจำลอง
ยอดเขำพลอยแหวนเป็นจุดชมทิวทัศน์รอบเมืองจันท์ต้องเดินขึ้นบันไดไปรำว600ขั้น
ทำงขึ้นแวดล้อมด้วยป่ำดงดิบเขียวชอุ่มและมีนกหลำยชนิดให้ดูโดยเฉพำะในฤดูฝนจะมีนกแต้วแล้วธรรมดำจำนวนมำกอพ
ยพเข้ำมำสร้ำงรัง
-10-
วัดเขำสุกิม วัดมังกรบุปผำรำม โบสถ์คำทอลิค ยอดเขำพลอยแหวน
ธรรมชาติ
วนอุทยานแหลมสิงห์ ตั้งที่ตำบลบำงกะไชยอำเภอแหลมสิงห์
สำรถเดินทำงไปถึงได้โดยเช่ำเรือจำกหำดแหลมสิงห์ไปรำว 400เมตรแล้วเดินเท้ำอีก400เมตรแต่เส้นทำงที่สะดวกคือ
เดินทำงจำกอำเภอท่ำใหม่ทำงรถยนต์ไปตำมเส้นทำงท่ำใหม่-บำงกะไชยระยะทำง25กม.
เส้นทำงนี้จะผ่ำนวัดเขำแหลมสิงห์ตัดขึ้นภูเขำไปจนถึงที่ทำกำรวนอุทยำนซึ่งตั้งอยู่บนที่สูงมองเห็นทิวทัศน์ชำยทะเลได้กว้ำง
ไกลและยังเป็นจุดที่สำมำรถชมพระอำทิตย์อัสดงได้อย่ำงสวยงำม
เขำแหลมสิงห์เป็นภูเขำขนำดเล็กสูงจำกระดับน้ำทะเลรำว 172เมตรเหตุที่เรียกว่ำเขำแหลมสิงห์
เนื่องจำกด้ำนหน้ำเขำมีหินเป็นแก่งเกำะยื่นล้ำออกไปในทะเลเป็นรูปคล้ำยสิงห์หมอบมีหัว ลำตัวหำงเท้ำ
และดวงตำบริเวณใกล้กันมีป้ อมปืนที่สร้ำงในสมัยรัชกำลที่3คือป้ อมไพรีพินาศจำกที่ทำกำรบนเนินเขำมีทำงเดินลงไปยัง
หาดอ่าวกระทิงซึ่งเป็นชำยหำดเล็กๆหำดทรำยสีเหลืองนวลบรรยำกำศเงียบสงบและสวยงำม
สำมำรถขออนุญำตตั้งเต๊นท์พักแรมได้
ด้ำนหน้ำอ่ำวกระทิงมีเกาะนมสาวซึ่งมีหำดทรำยและแนวปะกำรังสวยงำม
ถัดจำกเกำะนมสำวไปทำงทิศตะวันออกเป็นเกำะจุฬำเป็นเกำะเล็กๆ
ที่มีหำดทรำยเช่นกันสำมำรถเช่ำเรือจำกหำดแหลมสิงห์ไปเที่ยวชมได้
อุทยานแห่งชาติน้าตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมืองอำเภอแหลมสิงห์อำเภอขลุง และอำเภอมะขำม
จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมำณ134.50 ตำรำงกิโลเมตรหรือ84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่ำที่สมบูรณ์
เทือกเขำสูงสลับซับซ้อนทำให้มีอำกำศจะเย็นสบำยตลอดทั้งปี ยอดเขำสลับซับซ้อนสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำงตั้งแต่
20-924 เมตรจุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ยอดเขำมำบหว้ำกรอกมีควำมสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำง 924เมตร
และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธำรหลำยสำยอยู่ห่ำงจำกจังหวัดจันทบุรีประมำณ 14กิโลเมตร น้ำตกพลิ้ว
เป็นน้ำตกขนำดใหญ่และสวยงำมมีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสำยธำร 2สำยสำยหนึ่งไหลลดหลั่นผ่ำนซอกหินผำ
อีกสำยหนึ่งมีขนำดเล็กกว่ำแต่ทิ้งตัวลงมำจำกผำสูง20เมตรทั้งสองสำยไหลมำรวมกันในแอ่งน้ำใสสะอำด
มำกสำมำรถมองเห็นพื้นล่ำงซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรำยในระดับลึกกว่ำ 2เมตรภำยในบริเวณน้ำตกและลำคลอง
มีปลำใหญ่น้อยหลำยชนิดอำศัยอยู่เป็นจำนวนมำก เป็นที่ตื่นตำตรึงใจกับฝูงปลำแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
โดยเฉพำะ"ปลำพลวงหิน"เหล่ำนี้
-11-
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌ-กูฏหรือที่ใครๆเรียกกันจนติดปำกว่ำ "เขำคิชฌกูฏ"มี พื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขำม
และกิ่งอำเภอเขำคิชฌกูฏจังหวัดจันทบุรีและยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภำพป่ำในบริเวณนี้มีทั้งป่ำดิบชื้น
ป่ำดิบเขำ และป่ำไม้ผลัดใบมีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่ำนำนำชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หำยำกคือไม้กฤษณำ
เด่นในเรื่องของกำรขึ้นไปสักกำระรอยพระบำทเขำคิชฌกูฏหรือพระบำทพลวง
โดยประชำชนจะนิยมไปนมัสกำรเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองในช่วงเทศกำลตรุษจีนถึงช่วงวันมำฆบูชำของทุกปี
นอกจำกนี้ที่นี่ยังมีสถำนที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่ำสนใจเช่นน้ำตกกระทิง,น้ำตกคลองช้ำงเซ,ยอดเขำพระบำท
วนอุทยำนแหลมสิงห์ อุทยำนแห่งชำติน้ำตกพลิ้ว อุทยำนแห่งชำติเขำคิชฌกูฏ
หาดแหลมเสด็จ เป็นหำดทรำยละเอียดสีขำวหม่นมีควำมยำว2–3 กิโลเมตร
ร่มรื่นไปด้วยเงำของสนทะเลและพันธุ์ไม้ชำยหำดนำนำชนิดในช่วงเดือนพฤศจิกำยน –เมษำยนคลื่นลมสงบ
เมื่อเข้ำสู่ฤดูมรสุมน้ำทะเลค่อนข้ำงขุ่นและคลื่นแรงไม่เหมำะจะเล่น
หาดเจ้าหลาวสถำนที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในจังหวัดจันทบุรี
โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในระหว่ำงเทศกำลงำนประเพณีขึ้นเขำคิชฌกูฎประมำณมกรำคม -มีนำคมของทุกปี
ซึ่งเมื่อเดินทำงมำทำบุญก็จะหำสถำนที่ท่องเที่ยวแวะระหว่ำงทำงและที่นี่ก็จะได้รับกำรเลือกเป็นอันดับต้นๆ
โดยหำดเจ้ำหลำวจะอยู่ห่ำงจำกอำเภอท่ำใหม่17กิโลเมตรถัดมำจำกหำดแหลมเสด็จมีบรรยำกำศเงียบสงบ
เป็นหำดทรำยสีนวลยำวเหยียดสุดสำยตำร่มรื่นด้วยทิวมะพร้ำวเป็นหำดทรำยขำวสะอำดปนสีเทำยำวเหยียดสุดสำยตำ
มีบรรยำกำศสงบเงียบเหมำะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
น้าตกคลองนารายณ์ เป็นน้ำตกขนำดกลำงสูงรำว25ม.สำยน้ำไหลจำกผำสูงชันลดหลั่นลงมำผ่ำนโขดหิน
น้ำใสสะอำดและมีน้ำมำกตลอดปี
บรรยำกำศโดยรอบค่อนข้ำงเงียบสงบอยู่ท่ำมกลำงป่ำดงดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธ์ไม้หลำกชนิด เช่นพนอง กฤษณำ
สัตบรรณเป็นต้น น้าตกคลองนารายณ์ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์1ใน 18 แห่งทั่วประเทศ
ซึ่งนำน้ำมำใช้ในพระรำชพิธีบรมรำชำภิเษก คือพระรำชพิธีในกำรสถำปนำซึ่งเป็นพระมหำกษัตริย์
ไม่มีประวัติระบุว่ำมีกำรนำน้ำจำกน้ำตกแห่งนี้มำเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยใด
พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวและพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวเคยลงสรงน้ำในธำรน้ำตกแห่งนี้
-12-
หำดแหลมเสด็จ หำดเจ้ำหลำว น้ำตกคลองนำรำยณ์
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ตั้งอยู่บริเวณอ่ำวคุ้งกระเบน
มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดประมำณ 4,000ไร่ เป็นไปตำมพระรำชประสงค์ในพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว
เพื่อทำกำรฟื้นฟูและจัดกำรทรัพยำกรชำยฝั่งอย่ำงยั่งยืน
ทั้งยังเป็นศูนย์กลำงในกำรอบรมเผยแพร่ควำมรู้ที่ได้จำกกำรศึกษำวิจัย
นำมำพัฒนำด้ำนกำรประมงและกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงยังเป็นกำลังสำคัญในกำรอนุรักษ์สภำพแวดล้อมพร้อมๆ
ไปกับกำรรักษำสมดุลของระบบนิเวศให้มีควำมอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้พื้นที่โดยรอบของป่ำชำยเลนนักท่องเที่ยวสำมำรถใช้
สะพำนเดินศึกษำธรรมชำติและป่ำชำยเลนอ่ำวคุ้งกระเบนในกำรเที่ยวชมตำมจุดต่ำงๆ
พร้อมกับข้อมูลควำมรู้เกี่ยวกับป่ำชำยเลนที่ติดอยู่ตรงศำลำเล็กๆให้ได้ทรำบอยู่เป็นระยะ
น้ำตกเขำสอยดำว เป็นน้ำตกที่มีทั้งหมด16ชั้น กำรเดินชมน้ำตกเขำสอยดำวแบ่งเป็น2ระดับซึ่งระดับที่1 คือ
ชั้นที่1-6 เป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสำมำรถปีนป่ำยเดินเท้ำขึ้นไปชมเองได้ ระดับ2 คือชั้นที่ 7-16
ต้องมีเจ้ำหน้ำที่นำทำเพรำะดีไม่ดีอำจเกิดอันตรำยได้ ท่ำมกลำงป่ำลึกที่ยังคงควำมเป็นธรรมชำติ
ตลอดเส้นทำงเดินชมน้ำตกมีทั้งควำมงำมและควำมตื่นเต้นท้ำทำยและถ้ำใครที่ชื่นชอบกำรดูผีเสื้อต้องห้ำมพลำด
เพรำะที่นี่ในบริเวณธำรน้ำจะมีผีเสื้อจำนวนมำก อีกทั้งยังถือเป็นที่ศึกษำพรรณไม้ พื้นที่เขตรักษำ
พันธุ์สัตว์ป่ำเขำสอยดำวนั้นมีสภำพป่ำเบญจพรรณป่ำเต็งรังและสมุนไพรเช่นกระชำยป่ำกระวำนสัตว์ป่ำไก่ฟ้ ำ
นกสำริกำเขียวหำงสั้นสภำพภูมิประเทศเป็นภูเขำสลับซับซ้อนโดยมียอดเขำสูง 2ยอด คือ
ยอดสอยดำวเหนือและสอยดำวใต้ ควำมสูงของยอดสูงสุดคือยอดสอยดำวใต้ อยู่ที่ประมำณ 1,675เมตร
จำกระดับน้ำทะเล
ถนนเฉลิมบูรพำชลทิต ไม่มีอะไรดีไปกว่ำกำรได้ขับรถเพลินๆ
ไปบนถนนที่ด้ำนหนึ่งเป็นภูเขำและอีกด้ำนเป็นทะเลเป็นแน่ถนนที่ชมวิวได้อย่ำงต่อเนื่องสำยนี้มีจุดเริ่มตั้งแต่จ.ชลบุรี ผ่ำน
จ.ระยอง จ.จันทบุรี ไปจนถึง จ.ตรำด เป็นเส้นทำงที่เรียกได้ว่ำมีทัศนียภำพที่สวยงำมที่สุดในภำคตะวันออก
มำชวนเพื่อนครอบครัวหรือคนรักเปิดหน้ำต่ำงฟังเสียงคลื่นสัมผัสกลิ่นไอทะเลในอำรมณ์ “ScenicRoute”บน
“ถนนเฉลิมบูรพำชลทิต” เสน่ห์ของกำรเดินทำงอันสวยงำมน่ำประทับใจเลำะเลี้ยวไปกับฝั่งทะเลและชำยเขำ
ผ่ำนเส้นทำงที่หำไม่ได้จำกที่ไหนๆซึ่งนอกจำกจะเป็นทำงรถยนต์สวยๆ
ยังมีช่องทำงสำหรับจักรยำนให้นักปั่นได้สัมผัสควำมรื่นรมย์อย่ำงช้ำๆที่ได้ทั้งกำรท่องเที่ยวและสุขภำพ
-13-
อ่ำวกระทิง เป็นชำยหำดขนำดเล็กที่สวยงำมและเงียบสงบอย่ำงยิ่งตั้งอยู่ในเขตวนอุทยำนแห่งชำติเขำแหลมสิงห์
ซึ่งด้วยกฎของวนอุทยำนที่ห้ำมส่งเสียงดังทำให้ที่นี่เหมำะสำหรับกำรพักผ่อนอย่ำงแท้จริงเล่นน้ำได้
ศูนย์ศึกษำฯอ่ำวคุ้งกระเบน น้ำตกเขำสอยดำว ถนนเฉลิมบูรพำชลทิต อ่ำวกระทิง
ของดี
ผลไม้แปรรูป
สินค้ำแปรรูปที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป ทำจำกผลไม้ เช่นทุเรียนเงำะ มังคุด ระกำ สละ
มีกลิ่นหอม รสชำติหวำนกลมกล่อมตำมรสชำติของผลไม้แต่ละชนิด
ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงและเนื้อเลียง
ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงและเนื้อเลียงมีรสชำติของน้ำก๋วยเตี๋ยวต่ำงจำกก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ คือ
มีรสหวำนและเปรี้ยว เพรำะต้มด้วยเครื่องเทศหลำยชนิด ทำให้มีกลิ่นหอมของเร่วหอม
เวลำรับประทำนจะปรุงด้วยน้ำตำลอ้อย และน้ำส้มพริกขี้หนูสด
สารอง
ลูกสำรองถือเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ถูกนำมำใช้เป็นอำหำรตั้งแต่สมัยโบรำณ
โดยทำนเป็นขนมหวำนใส่น้ำเชื่อมรับประทำน รับรองชื่นใจ
ก๋วยเตี๋ยวผัดปู
มีลักษณะคล้ำยก๋วยเตี๋ยวผัดไท
แต่ใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดกับเครื่องแกงใส่ปูทะเลและสับปะรดซอยมีรสเข้มข้นทั้งเปรี้ยว เผ็ด
หวำน
-14-
หมูชะมวง
เนื้อหมูสำมชั้นปรุงกับหอมเผำ ข่ำเผำ และพริกเผำ โขลกละเอียดใส่น้ำปรุงรสออกหวำนและเค็ม
ไม่ต้องเติมเปรี้ยว เพรำะควำมเปรี้ยวเกิดจำกใบชะมวงที่แกออกเป็นชิ้นๆ และนำไปเคี่ยวจนได้ที
ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์
นับเป็นสินค้ำพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์สิ่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรีเหมำะที่จะซื้อหำเป็นของระลึ
ก เมื่อมำเที่ยวจังหวัดจันทบุรี
อัญมณี
เป็นสินค้ำที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี
นักท่องเที่ยวสำมำรถที่จะเลือกซื้อหำได้ตำมร้ำนจำหน่ำยอัญมณี บนถนนอัญมณี
เสื่อจันทบูร
หัตถกรรมพื้นบ้ำนอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี
ผลิตจำกกกปัจจุบันได้เอำเสื่อกกมำดัดแปลงเป็นเครื่องใช้ เครื่องประดับต่ำง ๆ มำกมำย
ผลไม้
ทุเรียนเงำะ มังคุด ระกำหวำนสละ
ลองกองเป็นผลไม้เมืองร้อนจะหำซื้อผลรสอร่อยรำคำย่อมเยำว์มีคุณภำพดีได้เป็นจำนวนมำก
--------------------------------------------------------------------------------------------------
-15-
2.ฉะเชิงเทรา หรือที่มักเรียกว่ำเมืองแปดริ้วเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯที่ยังดกดื่นร่มรื่นไปด้วยสวนผลไม้
โดยเฉพำะมะม่วงพันธุ์ดีโดดเด่นด้วยกำรเป็นเมืองเก่ำริมแม่น้ำบำงปะกงมีวัดหลวงพ่อโสธรเป็นศูนย์รวมจิตใจ
ประวัติ
ฉะเชิงเทรำหรือที่หลำยคนมักเรียกว่ำเมืองแปดริ้วคือจังหวัดใกล้กรุงที่ยังดกดื่นร่มรื่นด้วยสวนผลไม้
โดยเฉพำะมะม่วงพันธุ์ดีนอกจำกนี้ยังโดดเด่นด้วยกำรเป็นเมืองเก่ำแก่ริมน้ำบำงปะกงซึ่งมีวัดหลวงพ่อโสธร
หรือวัดโสธรวรำรำมวรวิหำรเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชำชนแหล่งธรรมชำติในฉะเชิงเทรำนั้น
นับว่ำอุดมด้วยสรรพชีวิตไม่น้อยหน้ำใครผืนป่ำสำคัญของที่นี่คือเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำเขำอ่ำงฤำไน
ซึ่งเป็นแหล่งอำศัยสุดท้ำยของจระเข้น้ำจืดในเมืองไทยส่วนในแม่น้ำบำงปะกงช่วงปำกอ่ำว
ก็เป็นแหล่งชมโลมำหลำยสำยพันธุ์ที่ว่ำยเวียนเข้ำมำทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกำยน-มกรำคมด้วยเหตุนี้
ฉะเชิงเทรำซึ่งอยู่ห่ำงจำกกรุงเทพฯไม่ถึง100กิโลเมตรจึงเป็นอีกจังหวัดที่น่ำเที่ยวน่ำชม
เพรำะที่นี่ยังมีของดีซุกซ่อนอยู่มำกมำยชนิดที่หลำยคนก็คำดไม่ถึง
ฉะเชิงเทรำเป็นจังหวัดหนึ่งในภำคกลำงมีพื้นที่ประมำณ5,351ตำรำงกิโลเมตร
เป็นดินแดนเก่ำแก่ซึ่งไม่ปรำกฏหลักฐำนชัดเจนว่ำถือกำเนิดขึ้นเมื่อไร
แต่จำกกำรสำรวจและขุดค้นตำมแหล่งอำรยธรรมสำคัญโดยนักโบรำณคดี
ทำให้รู้ว่ำพื้นที่นี้เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศำสตร์ในช่วงหลำยพันปีที่ผ่ำนมำสันนิษฐำนว่ำในยุคนั้น
ฉะเชิงเทรำเป็นดินแดนสำคัญแห่งหนึ่งทำงด้ำนชำยฝั่งทะเลตะวันตะวันออก
ชื่อฉะเชิงเทรำปรำกฏเป็นครั้งแรกในพระรำชพงศำวดำรสมัยกรุงศรีอยุธยำ
โดยเป็นเมืองเก่ำแก่ตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนำถมีฐำนะเป็นเมืองจัตวำหรือหัวเมืองชั้นใน
จนถึงรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหำรำชพระองค์ทรงใช้ฉะเชิงเทรำเป็นที่รวบรวมไพร่พล
นอกจำกนี้ยังทรงใช้เป็นเมืองหน้ำด่ำนอีกด้วยครั้นล่วงมำถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ฉะเชิงเทรำก็เป็นเมืองที่ขึ้นอยู่ในสังกัดกรมพระกลำโหมและย้ำยมำอยู่ในสังกัดกรมมหำดไทย
จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวมีกำรเปลี่ยนแปลงระบบกำรปกครองแผ่นดิน
ฉะเชิงเทรำจึงเปลี่ยนฐำนะเป็นเมืองเมืองหนึ่งในมณฑลปรำจีนบุรี ร่วมกับเมืองนครนำยกพนมสำรคำมพนัสนิคมชลบุรี
และบำงละมุงจนถึงพ.ศ. 2459 ก็ได้ยกรับกำรฐำนะขึ้นเป็นจังหวัด จำกยุคก่อนประวัติศำสตร์ล่วงเลยมำจนถึงทุกวันนี้
ฉะเชิงเทรำนับว่ำเป็นดินแดนแห่งกำรเพำะปลูกเพรำะมีดินตะกอนอันสมบูรณ์ด้วยแร่ธำตุรวมทั้งอุดมด้วยแหล่งน้ำ
โดยมีแม่น้ำบำงปะกงเป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัด
ชำวบ้ำนส่วนใหญ่ตั้งบ้ำนเรือนอยู่ริมแม่น้ำและริมลำคลองสำขำย่อยโดยประกอบอำชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่
สำหรับชื่อ“ฉะเชิงเทรำ”นั้นสันนิษฐำนว่ำเพี้ยนมำจำกภำษำเขมร
ซึ่งเคยมีอำนำจกำรปกครองในพื้นที่นี้ในช่วงอำณำจักรลพบุรี โดยมำจำกคำว่ำ“สตรึงเตรำ”แปลว่ำ“คลองลึก”
แต่ก็มีข้อสันนิษฐำนอื่นว่ำน่ำจะมำจำกชื่อเมือง“แสงเซรำ”หรือ“แซงเซำ”
ที่สมเด็จพระบรมรำชำธิรำชแห่งอำณำจักรอยุธยำ
เสด็จไปตีเมืองได้ตำมที่ปรำกฏในพระรำชพงศำวดำรฉบับหลวงประเสริฐ ส่วนชื่อ“แปดริ้ว”
คำดว่ำน่ำจะมำจำกขนำดตัวอันใหญ่โตของปลำช่อนที่เมื่อนำมำแล่แล้วได้จำนวนถึง8ริ้ว
มำกกว่ำปลำช่อนในพื้นที่อื่นที่แล่ได้แค่4-6ริ้วเท่ำนั้นอีกที่มำหนึ่งเล่ำว่ำชื่อแปดริ้วได้มำจำกนิทำนพื้นบ้ำนเรื่อง “พระรถ-
เมรี” ที่ยักษ์ฆ่ำนำงสิบสองแล้วชำแหละศพเป็นชิ้นๆรวม8 ริ้วก่อนนำไปทิ้งในลำน้ำท่ำลำด
จังหวัดฉะเชิงเทรำแบ่งกำรปกครองออกเป็น11อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง.
-16-
ฉะเชิงเทรำอำเภอบำงคล้ำอำเภอบำงน้ำเปรี้ยวอำเภอบำงปะกงอำเภอบ้ำนโพธิ์อำเภอพนมสำรคำม
อำเภอสนำมชัยเขตอำเภอแปลงยำวอำเภอรำชสำส์นอำเภอท่ำตะเกียบและอำเภอคลองเขื่อน
คาขวัญ “แม่น้ำบำงปะกงแหล่งชีวิตพระศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโสธรพระยำศรีสุนทรปรำชญ์ภำษำไทย อ่ำงฤำไนป่ำสมบูรณ์”
วัฒนธรรม
แม่น้าบางปะกงมีต้นกำเนิดจำกทิวเขำสันกำแพงบนที่รำบสูงโครำช ไหลผ่ำนจังหวัดปรำจีนบุรี
(เรียกว่ำแม่น้ำปรำจีนบุรี)ผ่ำนอำเภอบำงน้ำเปรี้ยว(เรียกว่ำแม่น้ำแปดริ้ว)ผ่ำนอำเภอบำงคล้ำอำเภอเมืองฉะเชิงเทรำ
และออกสู่อ่ำวไทยที่อำเภอบำงปะกงระยะทำง230กิโลเมตรกำรท่องเที่ยวทำงเรือในลำน้ำบำงปะกง
เริ่มจำกตัวเมืองฉะเชิงเทรำเพื่อชมธรรมชำติสองฝั่งน้ำชมบ้ำนเรือนซึ่งยังคงสภำพควำมเป็นอยู่อย่ำงไทย
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่หน้ำศำลำกลำงจังหวัดริมแม่น้ำบำงปะกง
เป็นสวนสำธำรณะที่มีสระน้ำขนำดใหญ่อยู่กลำงสวน มีทำงเดินโดยรอบสระและต้นไม้ขึ้นร่มรื่น
เหมำะเป็นสถำนที่พักผ่อนหย่อนใจ
ป้ อมเมืองฉะเชิงเทรา อยู่ที่ถนนมรุพงษ์สร้ำงในสมัยรัชกำลที่3ในปีพ.ศ. 2337 เพื่อป้ องกันข้ำศึกศัตรูมำรุกรำน
ในสมัยรัชกำลที่5ใช้เป็นที่ตั้งมั่นกองทัพในกำรปรำบกบฏอั้งยี่
ซึ่งเป็นพ่อค้ำฝิ่นเถื่อนชำวจีนที่ก่อควำมวุ่นวำยปล้นสะดมชำวเมืองบริเวณหน้ำป้ อมจัดเป็นสวนสำธำรณะ
สำหรับพักผ่อนหย่อนใจชมทิวทัศน์แม่น้ำบำงปะกงมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตำมกำแพงเมือง
ศาลมณฑลปราจีนบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนมรุพงษ์ใกล้กับศำลำกลำงจังหวัดหลังเก่ำ
ในอดีตเป็นที่ตั้งของศำลมณฑลปรำจีน
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวอำนันทมหิดลและพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช
ขณะทรงเป็นสมเด็จพระเจ้ำน้องยำเธอฯได้เสด็จประทับเป็นองค์ประธำนคณะผู้พิพำกษำ เมื่อวันที่24พฤษภำคมพ.ศ.
2489ปัจจุบันใช้เป็นอำคำรพุทธมณฑลฉะเชิงเทรำ โดยกรมศิลปำกรประกำศขึ้นทะเบียนเป็นโบรำณสถำนแห่งชำติ
สวนสมเด็จพระศรีฯฉะเชิงเทรำ ป้ อมเมืองฉะเชิงเทรำ แม่น้ำบำงปะกง
-17-
พระสถูปเจดีย์พระเจ้าตากสินมหาราช
ในสมัยกรุงศรีอยุธยำถูกพม่ำโอบล้อมเมืองไว้ ก่อนที่จะเสียกรุงพระเจ้ำตำกสินได้ตีฝ่ ำวงล้อมของพม่ำออกมำจนมำถึงบริเ
วณที่เรียกว่ำปำกน้ำโจโล้ กองทัพพม่ำมีกำลังเหนือกว่ำตำมตีกองกำลังของพระเจ้ำตำกสินเกิดปะทะและสู้รบกันบริเวณพื้
นที่ตำบลปำกน้ำโจ้โล้
ในขณะที่พักทัพอยู่ได้สั่งให้สร้ำงพระเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในกำรสู้รบกับพม่ำจนมีชัยชนะตรงบริเวณปำกน้ำโจ้โล้ (คลองท่
ำลำด) ต่อเหนือจำกบริเวณดังกล่ำวเป็นแหลมที่มีกระแสน้ำจำกคลองท่ำลำดไหลบรรจบกับแม่น้ำบำงปะกง ทำให้กระแส
น้ำกัดเซำะจนบริเวณแหลมปำกน้ำที่พระเจดีย์พระเจ้ำตำกสินตั้งอยู่พังทลำยเมื่อประมำณ พ.ศ.
2491 และได้ดำเนินกำรก่อสร้ำงพระสถูปเจดีย์พระเจ้ำตำกสินขึ้นมำบริเวณเดิมแล้วเสร็จเมื่อพ.ศ.2542
อนุสาวรีย์พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร) ตั้งอยู่บริเวณสำมแยกถนนศรีโสธรตัดใหม่
สร้ำงขึ้นเพื่อยกย่องปูชนียบุคคลด้ำนภำษำไทยเป็นปรำชญ์ชำวฉะเชิงเทรำที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชกำลที่ 5
เป็นผู้มีควำมรู้แตกฉำนทั้งภำษำไทยภำษำขอมบำลีสันสฤต และกำรแต่งคำประพันธ์ฉันทลักษณ์เป็นอย่ำงดี
ผลงำนสำคัญที่เป็นคุณเอนกอนันต์แก่ประเทศชำติคือท่ำนได้แต่งแบบเรียนภำษำไทยไว้หลำยเล่มได้แก่ มูลบทบรรพกิจ
วำหนิติ์นิกรอักษรประโยคสังโยคพิธำนไวพจน์พิจำรณ์ พิศำลกำรันต์อนันตวิภำคเขมรำกษมำลำ ปกีรณพจนำดถ์
พรรณพฤกษำสัตวำภิธำนและนิติสำรสำธกสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯสยำมบรมรำชกุมำรี
ได้เสด็จพระรำชดำเนินประกอบพิธีเปิดอนุสำวรีย์เมื่อวันที่ 9มิถุนำยนพ.ศ. 2542
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดาริ
ศูนย์แห่งนี้ได้รับสถำปนำจำกพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 8สิงหำคมพ.ศ.2522
เนื่องมำจำกพื้นที่บริเวณดังกล่ำวมีสภำพเสื่อมโทรมดินขำดควำมอุดมสมบูรณ์ เนื้อดินเป็นทรำย
มีกำรชะล้ำงพังทลำยของดินสูง ในหลวงได้ทรงพัฒนำพื้นที่สภำพแวดล้อมและระบบนิเวศน์บริเวณศูนย์ทั้งแหล่งน้ำ
ฟื้นฟูสภำพป่ำกำรพัฒนำดินกำรวำงแผนกำรปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์
ด้วยวิธีกำรเกษตรแผนใหม่ตำมปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง
รวมทั้งมีกำรจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชำติที่มีชีวิตและเป็นศูนย์รวมกำรพัฒนำแบบเบ็ดเสร็จเพื่อให้เป็นต้นแบบแนวทำงและตั
วอย่ำงกำรพัฒนำให้แก่พื้นที่อื่น
ศูนย์พัฒนำเขำหินซ้อน อนุสำวรีย์พระศรีสุนทรโวหำร พระสถูปเจดีย์พระเจ้ำตำกสินมหำรำช
-18-
มหกรรมปั้นทรายโลกประติมำกรรมทรำยในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกและแห่งเดียวในประเทศไทยบนพื้นที่กว่ำ12ไร่
ในรูปแบบต่ำงๆที่ถูกนำมำร้อยเรียงเป็นเรื่องรำวได้อย่ำงน่ำอัศจรรย์
ตลาดบ้านใหม่ หรือตลาดร้อยปีบ้านใหม่ในอดีตมีชุมชนชำวไทย-จีนอำศัยอยู่บริเวณนี้
และทุกคนอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอำศัยซึ่งกันและกันตลอดสองฝั่งริมแม่น้ำบำงปะกง จำกอดีตจนถึงปัจจุบัน
ที่แห่งนี้มีประวัติศำสตร์มำยำวนำนกว่ำ100ปี
ตลาดคลองสวน 100 ปี ตั้งอยู่ อำเภอบ้ำนโพธิ์ถือเป็นตลำดเก่ำแก่ที่เปิดบริกำรมำอย่ำงยำวนำน
เป็นสถำนที่ผสมผสำนวิถีชีวิตของชำวคลองสวนทั้งชำวไทยจีน,ชำวไทยพุทธ,ชำยไทยมุสลิม
ผสมผสำนวัฒนธรรมและกำรดำรงชีวิตประจำวันชมของเก่ำและสถำปัตยกรรมรวมทั้งยังมีกิจกรรมล่องเรือเที่ยว
คุ้มวิมานดินเป็นแหล่งผลิตงำนปั้นดินเผำในรูปแบบกำรปั้นมือล้วนๆแล้ว
ยังมีกำรเปิดโอกำสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ำมำร่วมทำกิจกรรมกำรปั้นดินด้วยตัวเอง,กำรชมบ้ำนดิน
พร้อมทั้งเรียนรู้กำรเกษตรแนวธรรมชำติ
ตลำดบ้ำนใหม่ มหกรรมปั้นทรำยโลก คุ้มวิมำนดิน
ชมวัด
วัดโสธรวรำรำมวรวิหำรเดิมชื่อว่ำวัดหงษ์สร้ำงในสมัยกรุงศรีอยุธยำตอนปลำย
ปัจจุบันเป็นสถำนที่ประดิษฐำนของพระพุทธรูปคู่บ้ำนคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของฉะเชิงเทรำ คือ"หลวงพ่อพุทธโสธร"
พระพุทธรูปปูนปั้นปำงสมำธิภำยในพระอุโบสถประกอบด้วยศิลปะภำพจิตรกรรมฝำผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ
เสำผนัง และเพดำนที่บรรจุเรื่องรำวให้เป็นแดนแห่งทิพย์เป็นเรื่องรำวของสีทันดรมหำสมุทรจตุโลกบำล
สวรรค์ชั้นดำวดึงส์พรหมโลกดวงดำว และจักรวำล
สำหรับสถำนที่ประดิษฐำนหลวงพ่อโสธรจะเปิดให้เข้ำชมเฉพำะในส่วนของวิหำรจำลอง
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว

More Related Content

Viewers also liked

standard Showcases sizes and dimensions
standard Showcases sizes and dimensionsstandard Showcases sizes and dimensions
standard Showcases sizes and dimensionsCuishan He
 
Bi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioi
Bi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioiBi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioi
Bi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioiĐặng Vui
 
Microsoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイド
Microsoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイドMicrosoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイド
Microsoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイドkumo2010
 
Патент на полезную модель Республики Беларусь
Патент на полезную модель Республики БеларусьПатент на полезную модель Республики Беларусь
Патент на полезную модель Республики БеларусьИван Иванов
 
Lubcar oil service treinamentos 001
Lubcar oil service   treinamentos 001Lubcar oil service   treinamentos 001
Lubcar oil service treinamentos 001lubcaroilservice
 
50 cong ty lam thay doi the gioi
50 cong ty lam thay doi the gioi50 cong ty lam thay doi the gioi
50 cong ty lam thay doi the gioiĐặng Vui
 
SCRAase
SCRAaseSCRAase
SCRAase6988
 

Viewers also liked (11)

standard Showcases sizes and dimensions
standard Showcases sizes and dimensionsstandard Showcases sizes and dimensions
standard Showcases sizes and dimensions
 
Bi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioi
Bi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioiBi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioi
Bi quyet thanh cong 100 thuong hieu hang dau the gioi
 
Microsoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイド
Microsoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイドMicrosoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイド
Microsoft Outlook 2010 ファースト ステップ ガイド
 
Звуки в словах
Звуки в словахЗвуки в словах
Звуки в словах
 
Патент на полезную модель Республики Беларусь
Патент на полезную модель Республики БеларусьПатент на полезную модель Республики Беларусь
Патент на полезную модель Республики Беларусь
 
Lubcar oil service treinamentos 001
Lubcar oil service   treinamentos 001Lubcar oil service   treinamentos 001
Lubcar oil service treinamentos 001
 
50 cong ty lam thay doi the gioi
50 cong ty lam thay doi the gioi50 cong ty lam thay doi the gioi
50 cong ty lam thay doi the gioi
 
Sexua
Sexua Sexua
Sexua
 
Zor - Dyn - 11
Zor - Dyn - 11Zor - Dyn - 11
Zor - Dyn - 11
 
Da vinci
Da vinciDa vinci
Da vinci
 
SCRAase
SCRAaseSCRAase
SCRAase
 

Similar to ภาคตะวันออก เที่ยว

เที่ยวตราดกันค่ะ
เที่ยวตราดกันค่ะเที่ยวตราดกันค่ะ
เที่ยวตราดกันค่ะguestcfc22b
 
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22Nongruk Srisukha
 
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22Nongruk Srisukha
 
ประเพณีภาคใต้
ประเพณีภาคใต้ประเพณีภาคใต้
ประเพณีภาคใต้Nattapakwichan Joysena
 
สถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวArinrada Jabthong
 
งานคนไทยภาคกลาง
งานคนไทยภาคกลางงานคนไทยภาคกลาง
งานคนไทยภาคกลางorawan155
 
ภูมิภาคชายฝั่ง
ภูมิภาคชายฝั่งภูมิภาคชายฝั่ง
ภูมิภาคชายฝั่งjumjaP
 
“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”
“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”
“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”Tum Meng
 
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรีผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรีPrincess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
 
เหนือ-เที่ยว1.docx
เหนือ-เที่ยว1.docxเหนือ-เที่ยว1.docx
เหนือ-เที่ยว1.docxpinglada1
 
เหนือ -เที่ยว ต.ค..docx
เหนือ -เที่ยว ต.ค..docxเหนือ -เที่ยว ต.ค..docx
เหนือ -เที่ยว ต.ค..docxpinglada1
 
เหนือ เที่ยว
เหนือ   เที่ยวเหนือ   เที่ยว
เหนือ เที่ยวleemeanshun minzstar
 

Similar to ภาคตะวันออก เที่ยว (20)

presentation
presentationpresentation
presentation
 
เที่ยวตราดกันค่ะ
เที่ยวตราดกันค่ะเที่ยวตราดกันค่ะ
เที่ยวตราดกันค่ะ
 
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
 
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย22
 
ประเพณีภาคใต้
ประเพณีภาคใต้ประเพณีภาคใต้
ประเพณีภาคใต้
 
สถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว
 
ราชบุรี
ราชบุรีราชบุรี
ราชบุรี
 
สุราฎร์ธานี
สุราฎร์ธานีสุราฎร์ธานี
สุราฎร์ธานี
 
สุราฎร์ธานี
สุราฎร์ธานีสุราฎร์ธานี
สุราฎร์ธานี
 
งานคนไทยภาคกลาง
งานคนไทยภาคกลางงานคนไทยภาคกลาง
งานคนไทยภาคกลาง
 
อุทัยธานี
อุทัยธานีอุทัยธานี
อุทัยธานี
 
สุโขทัย1
สุโขทัย1สุโขทัย1
สุโขทัย1
 
ภูมิภาคชายฝั่ง
ภูมิภาคชายฝั่งภูมิภาคชายฝั่ง
ภูมิภาคชายฝั่ง
 
ราชบุรี
ราชบุรีราชบุรี
ราชบุรี
 
“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”
“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”
“พลังบ้านขวาง พลังผู้สูงวัย หัวใจละอ่อน”
 
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรีผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงานนักเรียนชั้น ม.6/4 เรื่องเศรษฐกิจสมัยสุโขทัย อยุธยาและธนบุรี
 
สระบุรี
สระบุรีสระบุรี
สระบุรี
 
เหนือ-เที่ยว1.docx
เหนือ-เที่ยว1.docxเหนือ-เที่ยว1.docx
เหนือ-เที่ยว1.docx
 
เหนือ -เที่ยว ต.ค..docx
เหนือ -เที่ยว ต.ค..docxเหนือ -เที่ยว ต.ค..docx
เหนือ -เที่ยว ต.ค..docx
 
เหนือ เที่ยว
เหนือ   เที่ยวเหนือ   เที่ยว
เหนือ เที่ยว
 

More from leemeanshun minzstar

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลักใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลักleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากลleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากลleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากลleemeanshun minzstar
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากลleemeanshun minzstar
 
โฮมเพจวารสาร
โฮมเพจวารสารโฮมเพจวารสาร
โฮมเพจวารสารleemeanshun minzstar
 
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ  ท่องเที่ยวเหนือ  ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยวleemeanshun minzstar
 
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ   ท่องเที่ยวเหนือ   ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยวleemeanshun minzstar
 
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานครโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานครleemeanshun minzstar
 
ภาคเหนือ เที่ยว
ภาคเหนือ เที่ยวภาคเหนือ เที่ยว
ภาคเหนือ เที่ยวleemeanshun minzstar
 
การท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวleemeanshun minzstar
 
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชleemeanshun minzstar
 
กลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพ
กลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพกลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพ
กลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพleemeanshun minzstar
 
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)leemeanshun minzstar
 

More from leemeanshun minzstar (20)

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลักใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
 
โฮมเพจวารสาร
โฮมเพจวารสารโฮมเพจวารสาร
โฮมเพจวารสาร
 
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ  ท่องเที่ยวเหนือ  ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยว
 
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ   ท่องเที่ยวเหนือ   ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยว
 
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานครโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
 
ภาคเหนือ เที่ยว
ภาคเหนือ เที่ยวภาคเหนือ เที่ยว
ภาคเหนือ เที่ยว
 
การท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยว
 
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
 
กลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพ
กลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพกลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพ
กลยุทธ์การจัดการความรู้สำหรับการรับประกันคุณภาพ
 
Wiki
WikiWiki
Wiki
 
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
 
Rm tqm1
Rm tqm1Rm tqm1
Rm tqm1
 
Rm tqm1.
Rm tqm1.Rm tqm1.
Rm tqm1.
 

ภาคตะวันออก เที่ยว

  • 1. ท่องทั่วไทย 77 จังหวัด ท่องทั่วไทย 77 จังหวัดนำเสนอประวัติคำขวัญวัฒนธรรมวังวัดธรรมชำติ และของดีของจังหวัดต่ำงๆแยกตำมภำคเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐำนเบื้องต้นของจังหวัดนั้นๆ ภาคตะวันออก 1.จันทบุรี เมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยำกรธรรมชำติทั้งในดินและในน้ำ คาขวัญ“น้ำตกลือเลื่องเมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดีอัญมณีมำกเหลือเสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชำติ สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชรวมญำติกู้ชำติที่จันทบุรี” ประวัติ จังหวัดจันทบุรีตั้งอยู่ในพื้นที่ชำยฝั่งทะเลภำคตะวันออกของประเทศไทย เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยำกรธรรมชำติทั้งในดินและในน้ำ มีสภำพภูมิประเทศและภูมิอำกำศที่เอื้ออำนวยต่อกำรทำกำรเกษตรโดยเฉพำะกำรเพำะปลูกผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ได้แก่ ทุเรียนเงำะมังคุด ลำงสำดและพืชผลทำงกำรเกษตรอื่นๆเช่นพริกไทยและยำงพำรำ ส่วนบริเวณชำยฝั่งก็มีทำกำรประมงจึงเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอำหำรทะเลนำนำชนิดและในอีกแง่มุมหนึ่ง จันทบุรีคือศูนย์กลำงธุรกิจด้ำนอัญมณีที่มีชื่อเสียงแพร่หลำยไปทั่วโลก เป็นแหล่งรวมช่ำงฝีมือในกำรเจียระไนอัญมณีและทำเครื่องประดับต่ำงๆ ทั้งยังมีสถำนที่ท่องเที่ยวทำงธรรมชำติที่สวยงำมหลำยแห่งและมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่ำสนใจมำกมำยทั้งศำสนสถำน โบรำณสถำนและโบรำณวัตถุจึงทำให้จันทบุรีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศในปัจจุบัน จังหวัดจันทบุรีมีเนื้อที่ประมำณ6,338 ตำรำงกิโลเมตรหรือ3,961,250ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนำดใหญ่เป็นอันดับ34 ของประเทศ สภำพพื้นที่ทำงด้ำนทิศเหนือและทิศตะวันออกโดยทั่วไปเป็นป่ำไม้ ภูเขำและที่รำบสูง มีควำมสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำงประมำณ30-190เมตรเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำสำยสำคัญของจังหวัดที่ไหลลงสู่อ่ำวไทยทำงทิศใต้ ส่วนทำงทิศใต้เป็นที่รำบลุ่มริมฝั่งทะเล และบริเวณชำยฝั่งมีลักษณะเป็นอ่ำวแหลมและหำดทรำยจันทบุรีเป็นเมืองเก่ำแก่เมืองหนึ่งของภูมิภำค เคยมีมนุษย์อำศัยอยู่ตั้งแต่ในยุคก่อนประวัติศำสตร์ ดังหลักฐำนกำรค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ยุคหินขัดอำยุประมำณ2,000 ปี ในเขตอำเภอมะขำมอำเภอท่ำใหม่ และที่รำบเชิงเขำที่บ้ำนคลองบอนอำเภอโป่งน้ำร้อน โดยสันนิษฐำนว่ำเริ่มมีกำรตั้งเป็นชุมชนเมืองขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงประมำณพุทธศตวรรษที่18ที่บริเวณหน้ำเขำสระบำป โดยชนพื้นเมืองกลุ่มแรกเป็นชนเผ่ำในตระกูลมอญ-เขมรหรือเรียกว่ำ“ชำวชอง”ดำรงชีพด้วยกำรเก็บของป่ำขำย แต่ปัจจุบันพื้นที่ป่ำลดน้อยลงไปมำกเพรำะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่ทำงกำรเกษตร และที่ดินส่วนมำกถูกจับจองโดยคนไทยและคนจีนอีกทั้งกำรเก็บของป่ำกลำยเป็นสิ่งผิดกฎหมำย นำยพรำนชำวชองจึงต้องเปลี่ยนวิถีกำรดำรงชีพไปเป็นแรงงำนต่ำงๆในเมือง และมีบำงส่วนที่ยังคงยึดอำชีพทำสวนทำนำอยู่ปัจจุบันชำวชองรวมตัวกันอยู่ที่บ้ำนคลองพลูกิ่งอำเภอเขำคิชฌกูฏในปี
  • 2. พ.ศ. 2200ได้มีกำรย้ำยเมืองมำอยู่ที่บ้ำนลุ่มทำงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี ต่อมำเมื่อกรุงศรีอยุธยำพ่ำยสงครำมและตกเป็นเมืองขึ้นของพม่ำ สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นพระยำวชิร -2- ปรำกำรก็ได้นำกำลังพลประมำณ500คนตีฝ่ ำวงล้อมพม่ำออกมำทำงทิศตะวันออก และจัดตั้งเมืองจันทบุรีเป็นแหล่งสะสมเสบียงอำหำรและกำลังพลเป็นเวลำถึง5เดือน ก่อนนำทัพที่ประกอบด้วยไพร่พลทั้งชำวไทยและจีนจำนวนรำว5,000คนกลับไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยำในปี พ.ศ.2310 ซึ่งกำรมีบทบำทในกำรช่วยกอบกู้เอกรำชของชำติในครั้งนั้นนับเป็นเหตุกำรณ์ที่เป็นควำมภำคภูมิใจของชำวจันทบุรี ปัจจุบันจึงมีโบรำณสถำนและอนุสรณ์สถำนหลำยแห่งที่เกี่ยวข้องหรือจัดสร้ำงขึ้นเพื่อเป็นกำรน้อมรำลึกถึงพระมหำกรุณำธิ คุณของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชในครั้งนั้นต่อมำในสมัยพระบำทสมเด็จพระนั่งเกล้ำเจ้ำอยู่หัวรัชกำลที่3 ได้โปรดให้ย้ำยเมืองจันทบุรีไปตั้งบนพื้นที่สูงที่บ้ำนเนินวงเพื่อให้เป็นที่มั่นในกำรป้ องกันกำรถูกรุกรำนจำกชำวญวน จนกระทั่งสมัยพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่รัชกำลที่5โปรดให้ย้ำยหัวเมืองจันทบุรีกลับมำตั้งที่บ้ำนลุ่มตำมเดิม เนื่องจำกบ้ำนเนินวงนั้นอยู่ไกลจำกแหล่งน้ำในปี พ.ศ.2436 เกิดกรณีพิพำทระหว่ำงไทยกับประเทศฝรั่งเศส ชำวฝรั่งเศสได้เข้ำมำยึดครองเมืองจันทบุรีไว้นำนถึง11ปี จนไทยต้องยอมยกดินแดนฝั่งซ้ำยของแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศสไป เพื่อแลกเอำเมืองจันทบุรีกลับคืนมำต่อมำในปี พ.ศ. 2476 มีกำรจัดระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดินขึ้นใหม่ เมืองจันทบุรีจึงมีฐำนะเป็นจังหวัดมำจนถึงปัจจุบันชื่อเมืองจันทบุรี หรือ “เมืองจันท์” นั้นมีควำมหมำยว่ำ “เมืองที่สงบร่มเย็นเช่นเดียวกับเมื่ออยู่ใต้แสงจันทร์”โดยมีตรำประจำจังหวัดเป็นดวงจันทร์กำลังส่องแสง มีกระต่ำยน้อยอยู่ตรงกลำงจังหวัดจันทบุรีแบ่งเขตกำรปกครองออกเป็น9อำเภอ และ1 กิ่งอำเภอได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอท่ำใหม่ อำเภอขลุง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอโป่งน้ำร้อนอำเภอมะขำมอำเภอสอยดำว อำเภอนำยำยอำมอำเภอแก่งหำงแมวและกิ่งอำเภอเขำคิชฌกูฏ วัฒนธรรม ศาลหลักเมือง ศำลเจ้ำพ่อหลักเมืองถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองจันท์เคียงคู่กับศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ เป็นศำลหลักเมืองที่สร้ำงอย่ำงสวยงำมศำลเดิมนั้นสันนิษฐำนว่ำสมเด็จพระเจ้ำตำกสินทรงสร้ำงขึ้นในปี พ.ศ.2310 ต่อมำมีสภำพทรุดโทรมชำวจันทบุรีจึงร่วมกันก่อสร้ำงศำลใหม่รวมทั้งหล่อองค์เจ้ำพ่อหลักเมืองขึ้นใหม่ด้วย โดยวำงศิลำฤกษ์เมื่อปี พ.ศ.2524ก่อสร้ำงแล้วเสร็จปี พ.ศ.2526 หลักเมืองเป็นแท่งศิลำสูง3ม.. ส่วนเจ้ำพ่อหลักเมืองเป็นเทพเจ้ำจีน ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯเป็นสถำนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองจันท์ บ่งบอกถึงควำมผูกพันของชำวเมืองนี้ที่มีต่อพระเจ้ำ:ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ เดิมเป็นศำลไม้อยู่ข้ำงศำลเจ้ำพ่อหลักเมืองต่อมำในปี 2463 สมัยม.จ. สฤษดิเดชชยำงกูร เป็นสมุหเทศำภิบำลมณฑลจันทบุรี ได้สร้ำงศำลขึ้นใหม่บริเวณด้ำนหน้ำค่ำยทหำรกองพันนำวิกโยธิน คนละฝั่งถนนกับศำลเจ้ำพ่อหลักเมืองโดยอำศัยอำคำรเป็นศำลำคอนกรีตสี่เหลี่ยมจตุรมุข
  • 3. มีบันไดด้ำนหน้ำและด้ำนข้ำงรวม3ด้ำน กรมศิลปำกรเป็นผู้ออกแบบ ภำยในเป็นที่ประดิษฐำนเทวรูปซึ่งเป็นเทพเจ้ำประจำพระองค์พระเจ้ำตำก ขณะนั้นยังไม่มีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ ประดิษฐำนเช่นปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2534 ชำวจันทบุรีได้ร่วมกันบริจำคเงินสร้ำงศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯขึ้นใหม่อีกหลังเป็นศำลทรงเก้ำเหลี่ยมคู่กับศำลเดิม ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯเป็นศำลทรงเก้ำเหลี่ยมหลังคำเป็นรูปพระมำลำ เป็นที่ประดิษฐำนพระบรมรูปสมเด็จพระ -3- เจ้ำตำกสินมหำรำชซึ่งหล่อด้วยทองเหลืองรมดำผนังภำยในเขียนลำยพุ่มข้ำวบิณฑ์ไว้อย่ำงสวยงำม ชำวจันทบุรีถือว่ำสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชทรงมีพระมหำกรุณำธิคุณ ทำให้จันทบุรีเป็นที่รู้จัก และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศำสตร์กำรกอบกู้เอกรำชครำวเสียกรุงครั้งที่ 2 ในฐำนะเป็นฐำนที่มั่นของสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯในระหว่ำงกำรรวบรวมพลรวมถึงเสบียงอำหำร และสถำปนำอำนำจขึ้นใหม่กล่ำวคือในปี พ.ศ. 2310 ขณะที่พม่ำล้อมกรุงศรีอยุธยำอยู่ สมเด็จพระเจ้ำตำกสินหรือพระยำวชิรปรำกำร (สิน)ในขณะนั้น เล็งเห็นว่ำกรุงศรีอยุธยำต้องแตกพ่ำยและตกเป็นของพม่ำแน่นอนจึงรวบรวมพลทหำรไทยจีนได้ 500 คน ตีฝ่ ำวงล้อมพม่ำทำงทิศตะวันออกโดยต่อสู้กับข้ำศึกในระหว่ำงทำงและได้ชัยชนะสำมำรถรวบรวมไพร่พลได้มำกขึ้น พระยำวชิรปรำกำรเห็นว่ำจันทบุรีมีชัยภูมิที่เหมำะสมในทำงยุทธศำสตร์ เป็นหัวเมืองชำยทะเลที่ปลอดจำกสงครำม ทั้งมีควำมอุดมสมบูรณ์ด้ำนพืชพันธุ์ธัญญำหำรรวมทั้งยังเป็นชุมชนชำวจีนแต้จิ๋ว พระยำวชิรปรำกำรมีเชื้อสำยจีนแต้จิ๋วและเคยเป็นพ่อค้ำมำก่อนจึงมุ่งหวังว่ำจะได้รับควำมช่วยเหลือจำกชำวจีนเหล่ำนี้ ดังนั้นจึงใช้เมืองจันท์เป็นที่มั่น และรวบรวมหัวเมืองชำยฝั่งทะเลตะวันออกได้ทั้งหมดสำมำรถต่อเรือรบได้ 100ลำ มีผู้สวำมิภักดิ์มำกขึ้นถึง5,000คนแล้วกลับไปตีทัพพม่ำขับไล่ออกไปจำกอยุธยำได้สำเร็จ นับเป็นกำรกอบกู้เอกรำชของชำติกลับคืนมำได้อีกครั้ง ศำลหลักเมือง เจ้ำพ่อศำลหลักเมือง ศำลสมเด็จพระเจ้ำตำกสินฯ พระบรมรูปพระเจ้ำตำกฯ
  • 4. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี เกิดมำจำกกำรที่กรมศิลปำกร ได้ตั้งฐำนปฏิบัติกำรโบรำณคดีใต้น้ำขึ้นที่ท่ำแฉลบและตั้งศูนย์กำรอนุรักษ์โบรำณวัตถุใต้ทะเลขึ้นที่แห่งนี้ ด้วยควำมที่มีโบรำณวัตถุใต้ทะเลอยู่เป็นปริมำณมำกนับหมื่นๆชิ้น กรมศิลป์ จึงดำเนินกำรสร้ำงพิพิธภัณฑสถำนแห่งชำติพำณิชย์นำวีขึ้นในปี พ.ศ.2537 บริเวณค่ำยเนินวงตำบลบำงกะจะ ออกแบบเป็นอำคำรแฝด2 ชั้นภำยในจัดแสดงนิทรรศกำรเกี่ยวกับกำรค้ำทำงเรือของไทย มีกำรรวบรวมหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์ที่ได้จำกกำรดำเนินงำนด้ำนกำรศึกษำค้นคว้ำวิจัยทำงโบรำณคดีใต้น้ำมำเป็นเวล ำกว่ำ20ปี ห้องจัดแสดง แบ่งเป็นห้องแสดงหลักกับห้องย่อยๆอื่นๆ ห้องแสดงหลักอยู่ที่ชั้น2 ซึ่งได้จัดสร้ำงเรือสำเภำขนำดเท่ำของจริงที่ผู้ชมสำมำรถเดินเข้ำไปชมภำยในลำเรือได้ เพื่อบอกถึงเรื่องรำวกำรเดินเรือและกำรค้ำขำยระหว่ำงประเทศมีหลำยห้องเช่น ห้องแนะนำปฏิบัติกำรโบรำณคดีใต้น้ำ ให้ควำมรู้และจำลองกำรศึกโบรำณคดีใต้น้ำห้องแสดงเรือและชีวิตชำวเรือจัดแสดงเรือประเภทต่ำงๆ ที่หำดูได้ยำกในปัจจุบันห้องคลังเก็บโบรำณวัตถุจัดแสดงโบรำณวัตถุโดยไม่กั้นกระจก ให้เรำได้สัมผัสกลิ่นอำยวันเก่ำก่อนได้มำกขึ้น ต่อมำคือห้องบุคคลสำคัญจัดแสดงวีรกรรมของพระเจ้ำตำกสินในครำวกู้ -4- กรุงศรีอยุธยำและห้องของดีเมืองจันท์เป็นสถำนที่ที่จัดแสดงของดีต่ำงๆของจังหวัดจันทบุรี อำทิ กำรทำเหมืองพลอย กำรทำสวนผลไม้แหล่งท่องเที่ยวทำงธรรมชำติและเรื่องรำวของชำวชองซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของจันทบุรีอีกด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ผู้สนใจสำมำรถเข้ำชมได้ทุกวันพุธ-อำทิตย์หยุดวันนักขัตฤกษ์เวลำ09.00-16.00น. วังสวนบ้านแก้ว และพิพิธภัณฑ์วังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่เลขที่41 หมู่5 ตำบลท่ำช้ำงอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ในสมัยก่อนเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณี พระบรมรำชินีในรัชกำลที่7 ซึ่งประกอบไปด้วยตำหนักและอำคำรหลำยหลัง ปัจจุบันวังสวนบ้ำนแก้วอยู่ในควำมดูแลของมหำวิทยำลัยรำชภัฎรำไพพรรณี ควำมเป็นมำของวังสวนบ้ำนแก้วย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2492สมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯ ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัวจำกประเทศอังกฤษกลับสู่ประเทศไทย หลังจำกนั้นสมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯทรงมีพระรำชประสงค์ที่จะมีที่ประทับสำหรับพักผ่อนพระรำชอิริยำบถ จึงได้ทรงสร้ำงวังบ้ำนสวนแก้วขึ้นในจังหวัดจันทบุรี สมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯทรงกู้เงินจำกธนำคำรเพื่อซื้อที่ดินสองฝั่งคลองบ้ำนแก้วรวมเนื้อที่ทั้งหมด687ไร่ และพระรำชทำนนำมสถำนที่แห่งนี้ตำมชื่อคลองว่ำ “สวนบ้ำนแก้ว”
  • 5. ในระยะแรกนั้นสวนบ้ำนแก้วยังมีสภำพเป็นป่ำจึงโปรดเกล้ำฯให้ทำกำรปรับที่ดิน พร้อมกับสร้ำงที่ประทับชั่วครำวทำด้วยไม้ไผ่หลังคำมุงจำกและได้เสด็จพระรำชดำเนินไปประทับแรมครั้งแรกเมื่อวันที่20 มิถุนำยนพ.ศ.2493 ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีไฟฟ้ ำและน้ำประปำใช้ ต่อมำโปรดเกล้ำฯให้สร้ำงเรือนไม้หลังเล็กขึ้น2หลัง คือเรือนเทำ ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนำงเจ้ำรำไพพรรณีฯส่วนเรือนแดงเป็นที่พักของข้ำหลวงผู้ติดตำม และมีเรือนอีกหลังหนึ่งสร้ำงแบบบังกะโลเรียกว่ำเรือนเขียวเป็นที่พักของรำชเลขำนุกำร เรือนทั้งสำมหลังนี้นับเป็นอำคำรถำวรชุดแรกของสวนบ้ำนแก้ว ต่อมำในปี พุทธศักรำช2515พระองค์ทรงมีพระชมมำยุสูงขึ้นและพระพลำนำมัยไม่สมบูรณ์นักดังนั้น เมื่อรัฐบำลได้กรำบบังคมทูลพระกรุณำขอรับพระรำชทำนที่ดินสวนบ้ำนแก้วเพื่อจัดตั้งวิทยำลัยครูจันทบุรี พระองค์จึงได้พระรำชทำนสวนบ้ำนแก้วแก่กระทรวงศึกษำธิกำรเพื่อเป็นกำรพระรำชทำนโอกำสทำงกำรศึกษำแก่ประชำชน ในจังหวัดจันทบุรี และได้ย้ำยไปประทับณวังศุโขทัยจวบจนวำระสุดท้ำยของพระองค์ -5- พิพิธภัณฑ์สถำนแห่งชำติพำณิชย์นำวี วังสวนบ้ำนแก้วและพิพิธภัณฑ์วังสวนบ้ำนแก้ว โบราณสถานค่ายเนินวงเป็นค่ำยเก่ำแก่สร้ำงในรัชสมัยรัชกำลที่3ที่โปรดเกล้ำฯให้เจ้ำพระยำพระคลังสร้ำงขึ้น เมื่อวันที่ 9 มกรำคมพ.ศ. 2377 โดยรื้อศิลำแลงและอิฐของกำแพงจำกเมืองจันทบุรีไปสร้ำง เพื่อป้ องกันกำรรุกรำนของชำวญวนบนกำแพงค่ำยวำงปืนใหญ่เรียงรำยอยู่โดยรอบหลำยสิบกระบอก ภำยในค่ำยเป็นที่ตั้งของสำนักงำนโบรำณคดีใต้น้ำกรมศิลปำกรและพิพิธภัณฑ์สถำนแห่งชำติพำณิชย์นำวี
  • 6. พื้นที่ภำยในกำแพงเมืองมีขนำด270ไร่เศษสร้ำงเป็นกำแพงสูงประมำณ6เมตรมีป้ อม คู และประตูสี่ทิศ รวมทั้งมีปืนใหญ่แบบโบรำณตั้งเรียงรำยตำมช่องใบเสมำแต่เดิมมีหญ้ำขึ้นรกทึบบำงส่วนพังทลำยลง ปัจจุบันแนวกำแพงและตัวป้ อมได้บูรณะขึ้นใหม่ โบราณสถานเมืองเพนียด เพนียดเป็นชุมชนโบรำณที่พบหลักฐำนทำงโบรำณคดี ประวัติศำสตร์ที่สำคัญจำกจำรึกภำษำขอมอำยุรำวพ.ศ.800-1000ได้กล่ำวว่ำบริเวณที่ตั้งโบรำณสถำนเพนียดนั้น เดิมเป็นที่ตั้งเมืองจันทบุรีในยุคแรก ซึ่งขอมถือเป็นแหล่งอำรยธรรมที่สำคัญเมืองหนึ่งของอำณำจักรกัมพูชำ โดยมีเจ้ำผู้ครองนครทำกำรปกครองอย่ำงอิสระ ได้มีกำรติดต่อกับอินเดียและรับเอำวัฒนธรรมของอินเดียเข้ำมำใช้ในวิถีชีวิตเนื่องจำกเป็นบริเวณที่มีเรือสำเภำ ผ่ำนเป็นไปมำค้ำขำยกับจีนและอินเดีย ดังนั้นชำวพื้นเมืองคือชำวชองและชำวขอม โบรำณสถำนเพนียด โบรำณสถำนค่ำยเนินวง แนวกำแพงโบรำณสถำนค่ำยเนินวง -6- อู่ต่อเรือพระเจ้าตาก หรือ อู่ต่อเรือเสม็ดงาม ตั้งอยู่ที่บ้ำนเสม็ดงำมตำบลหนองบัวอำเภอเมือง ห่ำงจำกอำเภอเมือง 11 กิโลเมตร สันนิษฐำนว่ำเป็นสถำนที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชใช้เป็นอู่ต่อเรือเมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่ำเพื่อกู้เอกรำชชำติไ ทย เมื่อ พ.ศ. 2310 หน่วยโบรำณคดีใต้น้ำ กองโบรำณคดี กรมศิลปำกร ได้ขุดค้นซำกเรือและตรวจสอบชั้นดินทำงโบรำณคดีตำมริมฝั่งอ่ำว พบแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ำลักษณะคล้ำยอู่เรืออยู่หลำยแห่ง พร้อมทั้งส่วนประกอบต่ำง ๆ ของเรือโบรำณ และสันนิษฐำนว่ำ น่ำจะเป็นเรือสำเภำจีนแบบฟูเจียนขนำดเล็กใช้สำหรับบรรทุกสินค้ำ มีใบสำมเสำใช้หำงเสือเรือ ขนำดเรือยำว 24 เมตร กว้ำง 5 เมตร บริเวณใกล้เคียงมีโรงเก็บเรือจำลองและเรือของชำวบ้ำนที่เคยใช้กันในอดีต ตึกแดง ตั้งอยู่ที่ตำบลปำกน้ำแหลมสิงห์อำเภอแหลมสิงห์บริเวณท่ำเรือแหลมสิงห์ใกล้กับคุกขี้ไก่ ห่ำงจำกตัวเมืองจันทบุรี 30กิโลเมตรสร้ำงขึ้นเมื่อพ.ศ.2436 เดิมเป็นที่ตั้งของป้ อมพิฆำตปัจจำมิตร
  • 7. ซึ่งสร้ำงขึ้นในสมัยรัชกำลที่3ต่อมำเมื่อฝรั่งเศสเข้ำยึดเมืองจันทบุรีได้รื้อป้ อมแห่งนี้ลง และสร้ำงตึกแดงขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักและกองบัญชำกำรทหำรฝรั่งเศสเป็นตึกชั้นเดียว สีแดงหลังคำมุงกระเบื้อง คุกขี้ไก่ สร้ำงขึ้นในสมัยร.ศ.๑๑๒หรือพ.ศ.๒๔๓๖ โดยชำว"ฝรั่งเศส"สร้ำงเพื่อใช้ขังคนไทยที่จัดขืนคำสั่ง เมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสเข้ำยึดครอง"เมืองจันทบุรี"เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ (ร.ศ.๑๑๒) ไทยกับฝรั่งเศสยกกองทหำรเข้ำสู่เมืองจันทบุรี รวมทั้งสิ้น๖๐๐คนเศษ แยกกันอยู่๒แห่ง ฝ่ ำยไทยตั้งอยู่ที่เมืองจันทบุรีในบริเวณที่เป็น"ค่ำยตำกสิน"ส่วนฝรั่งเศสรื้อ "ป้ อมพิฆำตปัจจำมิตร" ริมปำกน้ำแหลมสิงห์สร้ำงตึกแถวที่พักและกองบัญชำกำรเรียกว่ำ "ตึกแดง"และ "คุกขี้ไก่"โดยฝรั่งเศสจะจับนักโทษขังไว้ในป้ อมนี้แล้วเลี้ยงไก่ไว้ข้ำงบนให้ไก่ขี้รดหัวนักโทษจึงเรียกว่ำ"คุกขี้ไก่" อู่ต่อเรือพระเจ้ำตำก ตึกแดง คุกขี้ไก่ -7-
  • 8. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้าอ่าวคุ้งกระเบน จันทบุรีตั้งอยู่ที่ ศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำอ่ำวคุ้งกระเบน อันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ ก่อสร้ำงเนื่องในวโรกำสที่พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมำยุครบ72พระชันษำในปี พ.ศ. 2542 กรมประมง โดยศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำประมงอ่ำวคุ้งกระเบนและสำนักงำนคณะกรรมกำรพิเศษเพื่อประสำนงำนโครงกำรอันเนื่องมำจำ กพระรำชดำริ (กปร.) ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวโดยดำเนินกำรก่อสร้ำงสถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในบริเวณพื้นที่โครงกำรศู นย์ศึกษำกำรพัฒนำอ่ำวคุ้งกระเบนอันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ กำรก่อสร้ำงสถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำดังกล่ำว ควำมทรำบฝ่ ำละอองธุลีพระบำทพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวทรงพระรำชทำนนำมสถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้เพื่อเป็น ศิริมงคลว่ำ“สถำนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ6รอบพระชนมพรรษำ” สถำนที่แห่งมีภำยในอำคำรมีตู้ปลำแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทำงทะเลที่น่ำสนใจจำกท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงนำมำจัดแสดง มี พันธุ์สัตว์น้ำแสดงทั้งหมด36ตู้ ในพื้นที่ระยะที่1 และพื้นที่ระยะที่2จำนวน 17 ตู้ และมีอุโมงค์ปลำขนำดใหญ่ให้เรำได้เดินชมแม้ควำมยำวไม่มำกแต่ก็สร้ำงควำมเพลิดเพลิดได้ดี นอกจำกนี้ยังมีจุดแสดงอุปกรณ์ของใช้เครื่องใช้ในยุคก่อน และมีตู้แสดงซำกฟอสซิลของหอยนำนำๆชนิดอีกมำกมำย ให้เรำได้ชมศึกษำหำควำมรู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอ่ำวคุ้งกระเบน ซำกฟอสซิลหอยนำนำชนิด
  • 9. -8- ชมวัด วัดพลับพลา ตั้งอยู่บนถนนตรีรัตน์ห่ำงจำกโรงแรมเค.พี.แกรนด์ประมำณ 500เมตร จำกรูปแบบทำงสถำปัตยกรรมสันนิษฐำนว่ำพระอุโบสถเป็นลักษณะอำคำรในสมัยรัชกำลที่3ลงมำ มีกำแพงแก้วล้อมรอบทั้ง4ด้ำนแต่ละด้ำนมีช่องทำงเข้ำฉนวนด้ำนหลังมีเสำรองรับ5ต้นไม่มีบัวหัวเสำ ฐำนอำคำรเป็นเส้นตรงมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองขนำดเล็กอยู่ภำยในกำแพงแก้ว ภำพจิตรกรรมฝำผนังเป็นภำพต้นไม้ประเภทบอนไซและดอกไม้แบบจีนเรื่องทศชำติและพุทธประวัติ ลักษณะกำรเขียนน่ำจะเป็นจิตรกรรมที่เขียนขึ้นหลังรัชกำลที่ 3 ลงมำเนื่องจำกมีชำวต่ำงชำติปรำกฏเป็นจำนวนมำกในภำพวำด วัดไผ่ล้อม เป็นวัดเก่ำของเมืองจันทบุรี สิ่งก่อสร้ำงต่ำงๆที่เหลืออยู่ภำยในวัดเช่นกุฏิพระและศำลำกำรเปรียญ มีไม้ฉลุแบบขนมปังขิงประดับตกแต่งอย่ำงสวยงำมล้วนแล้วแต่เป็นของเก่ำอำยุเกือบร้อยปีทั้งนั้น ที่ไม่ควรพลำดชมเห็นจะเป็นพระอุโบสถซึ่งสร้ำงมำตั้งแต่สมัยอยุธยำตอนปลำยเป็นอย่ำงน้อย ทั้งนี้จะเห็นได้จำกฐำนโบสถ์ที่โค้งอย่ำงที่เรียกว่ำ"ตกท้องช้ำงหรือท้องเชือก" อันเป็นสถำปัตยกรรมในสมัยอยุธยำตอนปลำยและภำยในพระอุโบสถยังมีภำพจิตรกรรมโบรำณ เรื่องทศชำติและพุทธประวัติที่ยังคงสภำพสมบูรณ์อยู่ซึ่งเขียนขึ้นโดยช่ำงสมัยอยุธยำ นอกจำกนี้ยังมีพระพุทธรูปปำงไสยำสน์ที่มีขนำดใหญ่ที่สุดในภำคตะวันออก ประดิษฐำนอยู่ภำยในวิหำรอีกด้วย วัดทองทั่ว ตำแหน่งที่ตั้งวัดซึ่งไม่ห่ำงจำกโบรำณสถำนเมืองเพนียดมำกนัก วัดทองทั่วมีโบสถ์หลังเก่ำซึ่งเป็นสถำปัตยกรรมแบบต้นรัตนโกสินทร์ สร้ำงทับไปบนศำสนสถำนแบบขอมทำงทิศตะวันออก หน้ำโบสถ์มีสิงห์นั่งแกะสลักด้วยหินทรำยสีแดงสูง90ซม. หน้ำประตูมีชิ้นส่วนธรณีประตูหินทรำยสีขำวในโบสถ์เก่ำหลังนี้ ปัจจุบันเป็นที่เก็บทับหลังหินทรำยสีขำวและสลักเป็นศิลปแบบถำลำบริวัตรต่อสมโบรไพรกุก (พ.ศ.1150)อีกชิ้นคือ ทับหลังหินทรำยสีขำวเช่นเดียวกันและสลักเป็นรูปลำยพันธุ์พฤกษำและพวงมำลัยลักษณะศิลปแบบไพรกเมง(พ.ศ.1180- 1250) และยังมีเสำประดับกรอบประตูเทวสถำนลักษณะศิลปะละครวัดมีโกลนพระคเณศแกะไม่เสร็จ ยังกำหนดรูปแบบศิลปะไม่ได้แต่ร่องรอยด้ำนหลังที่เป็นรอยเศียรนำคคือกำรดัดแปลงพระพุทธรูปนำคปรกให้เป็นเทวรูป แสดงให้เห็นถึงลักษณะศิลปะทวำรวดีที่ปะปนกับขอมซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ครองนคร จะเลื่อมใสศำสนำใดมำกกว่ำกัน ลักษณะแบบนี้พบในเมืองโบรำณหลำยแห่งทำงภำคตะวันออกนี้เช่นเมืองพระรถเมืองศรีมโหสถ เมืองดงละครและโคกกระโดนอยู่ริมถนนสุขุมวิทห่ำงจำกตัวเมืองรำว 4กิโลเมตร
  • 10. วัดพลับพลำ วัดไผ่ล้อม วัดทองทั่ว -9- วัดเขาสุกิม ประวัติเดิมเป็นสถำนปฏิบัติธรรมบนเขำซึ่งเรียกกันในท้องถิ่นว่ำเขำอีกิมต่อมำในปี พ.ศ. 2507 ชำวบ้ำนได้นิมนต์พระอำจำรย์สมชำยฐิตวิริโยและภิกษุสำมเณรจำกสำนักสงฆ์เนินดินแดงซึ่งอยู่ไม่ไกล มำจำพรรษำบนเขำอีกิมพระอำจำรย์สมชำยได้พัฒนำวัดจนเป็นวัดใหญ่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเปลี่ยนชื่อเป็นเขำสุกิม นอกจำกนี้ยังได้สร้ำงโรงเรียนมัธยมวัดเขำสุกิมและโรงพยำบำลวัดเขำสุกิมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสำธำรณะด้วย พิพิธภัณฑ์วัดเขำสุกิมอยู่บนชั้น3 ของตึก 60 ปีเฉลิมพระเกียรติเป็นที่เก็บรวบรวมโบรำณวัตถุจำนวนมำก เช่นพระพุทธรูปปำงต่ำงๆทั้งที่ด้วยศิลำและสำริดเครื่องถ้วยกระเบื้องจีนทั้งขนำดเล็กและใหญ่ นอกจำกนี้ก็มีขวำนหิน ฆ้อง หม้อ ไห มีด ดำบเครื่องประดับสำริดกระต่ำยขูดมะพร้ำวเป็นต้น วัดมังกรบุปผาราม หรือวัด “เล่งฮัวยี่”ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทเส้นทำงสำยจันทบุรี-ขลุงห่ำงจำกตัวเมืองจันทบุรี 16 กิโลเมตรสร้ำงขึ้นในปี พ.ศ. 2520 เป็นวัดในพุทธศำสนำนิกำยมหำยำน มีศำลำและพระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นลวดลำยต่ำงๆอย่ำงงดงำม ภำยในวัดมีบรรยำกำศที่เงียบสงบ และร่มรื่นเหมำะสำหรับผู้ที่สนใจในกำรปฏิบัติธรรมซึ่งทำงวัดยินดีจะอำนวยควำมสะดวกในด้ำนที่พัก วัดแห่งนี้มีงำนประจำปีที่สำคัญ2งำนคืองำนบุญกฐินจะจัดขึ้นหลังช่วงเทศกำลออกพรรษำ และงำนทำบุญประจำปีของวัดซึ่งจะจัดขึ้นหลังวันตรุษจีน21วันซึ่งจะมีประชำชนเดินทำงมำร่วมทำบุญถือศีล และพำนักที่วัดตลอดช่วงกำรจัดงำนนำน7-10วัน โบสถ์คอทอลิค เป็นโบสถ์คริสต์นิกำยคำทอลิกตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมำรดำพิทักษ์ตำบลจันทนิมิตร สำมำรถเข้ำทำงเดียวกับวัดไผ่ล้อมเมื่อถึงวัดไผ่ล้อมแล้วเดินทำงต่อไปอีกรำว 1กม. หรือจำกตัวเมืองเดินทำงข้ำมสะพำนวัดจันท์ไปตำมถนนจันทนิมิตรจะพบทำงแยกขวำไปโบสถ์คำทอลิก สถำนที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่ำงหนึ่งว่ำวัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ได้ชื่อว่ำเป็นโบสถ์คำทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีรูปทรงทำงสถำปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เรียกว่ำศิลปะแบบโกธิค ตบแต่งด้วยกระจกสีติดผนังเป็นภำพทำงคริสต์ศำสนำ สวยงำมมำก เจดีย์ยอดเขาพลอยแหวน วัดเขำพลอยแหวนเป็นวัดเล็กๆตั้งอยู่บนเนินเขำพลอยแหวน บริเวณนี้เดิมเคยเป็นแหล่งขุดพลอยแห่งแรกของจันทบุรี ภำยในวัดมีบันไดขึ้นสู่ยอดเขำอันเป็นที่ตั้งของเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสำรีริกธำตุและมณฑปพระพุทธบำท วันนี้ได้รับกำรขึ้นทะเบียนเป็นโบรำณสถำนเมื่อปี พ.ศ.2530
  • 11. เจดีย์บรรจุพระบรมสำรีริกธำตุและมณฑปพระพุทธบำทพระยำไกรโกษำข้ำหลวงเมืองจันทบุรี สร้ำงองค์รัตนคีรีเจดีย์เมื่อปี พ.ศ.2379 เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกำก่ออิฐถือปูนกว้ำง4 วำสูง 6 วำ 3 ศอก ภำยในบรรจุพระบรมสำรีริกธำตุต่อมำปี พ.ศ.2495 มีกำรบูรณะเจดีย์โดยขยำยควำมกว้ำงและควำมสูงของฐำน เป็นกว้ำง4 วำ2 ศอก สูง7 วำ บริเวณด้ำนหน้ำเจดีย์เป็นที่ตั้งของมณฑปซึ่งก่อสร้ำงค้ำงไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2471 ภำยในประดิษฐำนพรพุทธรูปปำงมำรวิชัยขนำดหน้ำตัก1ศอกหนึ่งองค์ฐำนมณฑปประดิษฐำนรอยพระพุทธบำทจำลอง ยอดเขำพลอยแหวนเป็นจุดชมทิวทัศน์รอบเมืองจันท์ต้องเดินขึ้นบันไดไปรำว600ขั้น ทำงขึ้นแวดล้อมด้วยป่ำดงดิบเขียวชอุ่มและมีนกหลำยชนิดให้ดูโดยเฉพำะในฤดูฝนจะมีนกแต้วแล้วธรรมดำจำนวนมำกอพ ยพเข้ำมำสร้ำงรัง -10- วัดเขำสุกิม วัดมังกรบุปผำรำม โบสถ์คำทอลิค ยอดเขำพลอยแหวน ธรรมชาติ วนอุทยานแหลมสิงห์ ตั้งที่ตำบลบำงกะไชยอำเภอแหลมสิงห์ สำรถเดินทำงไปถึงได้โดยเช่ำเรือจำกหำดแหลมสิงห์ไปรำว 400เมตรแล้วเดินเท้ำอีก400เมตรแต่เส้นทำงที่สะดวกคือ เดินทำงจำกอำเภอท่ำใหม่ทำงรถยนต์ไปตำมเส้นทำงท่ำใหม่-บำงกะไชยระยะทำง25กม. เส้นทำงนี้จะผ่ำนวัดเขำแหลมสิงห์ตัดขึ้นภูเขำไปจนถึงที่ทำกำรวนอุทยำนซึ่งตั้งอยู่บนที่สูงมองเห็นทิวทัศน์ชำยทะเลได้กว้ำง ไกลและยังเป็นจุดที่สำมำรถชมพระอำทิตย์อัสดงได้อย่ำงสวยงำม เขำแหลมสิงห์เป็นภูเขำขนำดเล็กสูงจำกระดับน้ำทะเลรำว 172เมตรเหตุที่เรียกว่ำเขำแหลมสิงห์ เนื่องจำกด้ำนหน้ำเขำมีหินเป็นแก่งเกำะยื่นล้ำออกไปในทะเลเป็นรูปคล้ำยสิงห์หมอบมีหัว ลำตัวหำงเท้ำ และดวงตำบริเวณใกล้กันมีป้ อมปืนที่สร้ำงในสมัยรัชกำลที่3คือป้ อมไพรีพินาศจำกที่ทำกำรบนเนินเขำมีทำงเดินลงไปยัง หาดอ่าวกระทิงซึ่งเป็นชำยหำดเล็กๆหำดทรำยสีเหลืองนวลบรรยำกำศเงียบสงบและสวยงำม สำมำรถขออนุญำตตั้งเต๊นท์พักแรมได้
  • 12. ด้ำนหน้ำอ่ำวกระทิงมีเกาะนมสาวซึ่งมีหำดทรำยและแนวปะกำรังสวยงำม ถัดจำกเกำะนมสำวไปทำงทิศตะวันออกเป็นเกำะจุฬำเป็นเกำะเล็กๆ ที่มีหำดทรำยเช่นกันสำมำรถเช่ำเรือจำกหำดแหลมสิงห์ไปเที่ยวชมได้ อุทยานแห่งชาติน้าตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมืองอำเภอแหลมสิงห์อำเภอขลุง และอำเภอมะขำม จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมำณ134.50 ตำรำงกิโลเมตรหรือ84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่ำที่สมบูรณ์ เทือกเขำสูงสลับซับซ้อนทำให้มีอำกำศจะเย็นสบำยตลอดทั้งปี ยอดเขำสลับซับซ้อนสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำงตั้งแต่ 20-924 เมตรจุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ยอดเขำมำบหว้ำกรอกมีควำมสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำง 924เมตร และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธำรหลำยสำยอยู่ห่ำงจำกจังหวัดจันทบุรีประมำณ 14กิโลเมตร น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนำดใหญ่และสวยงำมมีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสำยธำร 2สำยสำยหนึ่งไหลลดหลั่นผ่ำนซอกหินผำ อีกสำยหนึ่งมีขนำดเล็กกว่ำแต่ทิ้งตัวลงมำจำกผำสูง20เมตรทั้งสองสำยไหลมำรวมกันในแอ่งน้ำใสสะอำด มำกสำมำรถมองเห็นพื้นล่ำงซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรำยในระดับลึกกว่ำ 2เมตรภำยในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลำใหญ่น้อยหลำยชนิดอำศัยอยู่เป็นจำนวนมำก เป็นที่ตื่นตำตรึงใจกับฝูงปลำแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพำะ"ปลำพลวงหิน"เหล่ำนี้ -11- อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌ-กูฏหรือที่ใครๆเรียกกันจนติดปำกว่ำ "เขำคิชฌกูฏ"มี พื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขำม และกิ่งอำเภอเขำคิชฌกูฏจังหวัดจันทบุรีและยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภำพป่ำในบริเวณนี้มีทั้งป่ำดิบชื้น ป่ำดิบเขำ และป่ำไม้ผลัดใบมีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่ำนำนำชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หำยำกคือไม้กฤษณำ เด่นในเรื่องของกำรขึ้นไปสักกำระรอยพระบำทเขำคิชฌกูฏหรือพระบำทพลวง โดยประชำชนจะนิยมไปนมัสกำรเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองในช่วงเทศกำลตรุษจีนถึงช่วงวันมำฆบูชำของทุกปี นอกจำกนี้ที่นี่ยังมีสถำนที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่ำสนใจเช่นน้ำตกกระทิง,น้ำตกคลองช้ำงเซ,ยอดเขำพระบำท วนอุทยำนแหลมสิงห์ อุทยำนแห่งชำติน้ำตกพลิ้ว อุทยำนแห่งชำติเขำคิชฌกูฏ
  • 13. หาดแหลมเสด็จ เป็นหำดทรำยละเอียดสีขำวหม่นมีควำมยำว2–3 กิโลเมตร ร่มรื่นไปด้วยเงำของสนทะเลและพันธุ์ไม้ชำยหำดนำนำชนิดในช่วงเดือนพฤศจิกำยน –เมษำยนคลื่นลมสงบ เมื่อเข้ำสู่ฤดูมรสุมน้ำทะเลค่อนข้ำงขุ่นและคลื่นแรงไม่เหมำะจะเล่น หาดเจ้าหลาวสถำนที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในระหว่ำงเทศกำลงำนประเพณีขึ้นเขำคิชฌกูฎประมำณมกรำคม -มีนำคมของทุกปี ซึ่งเมื่อเดินทำงมำทำบุญก็จะหำสถำนที่ท่องเที่ยวแวะระหว่ำงทำงและที่นี่ก็จะได้รับกำรเลือกเป็นอันดับต้นๆ โดยหำดเจ้ำหลำวจะอยู่ห่ำงจำกอำเภอท่ำใหม่17กิโลเมตรถัดมำจำกหำดแหลมเสด็จมีบรรยำกำศเงียบสงบ เป็นหำดทรำยสีนวลยำวเหยียดสุดสำยตำร่มรื่นด้วยทิวมะพร้ำวเป็นหำดทรำยขำวสะอำดปนสีเทำยำวเหยียดสุดสำยตำ มีบรรยำกำศสงบเงียบเหมำะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ น้าตกคลองนารายณ์ เป็นน้ำตกขนำดกลำงสูงรำว25ม.สำยน้ำไหลจำกผำสูงชันลดหลั่นลงมำผ่ำนโขดหิน น้ำใสสะอำดและมีน้ำมำกตลอดปี บรรยำกำศโดยรอบค่อนข้ำงเงียบสงบอยู่ท่ำมกลำงป่ำดงดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธ์ไม้หลำกชนิด เช่นพนอง กฤษณำ สัตบรรณเป็นต้น น้าตกคลองนารายณ์ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์1ใน 18 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งนำน้ำมำใช้ในพระรำชพิธีบรมรำชำภิเษก คือพระรำชพิธีในกำรสถำปนำซึ่งเป็นพระมหำกษัตริย์ ไม่มีประวัติระบุว่ำมีกำรนำน้ำจำกน้ำตกแห่งนี้มำเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยใด พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวและพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวเคยลงสรงน้ำในธำรน้ำตกแห่งนี้ -12- หำดแหลมเสด็จ หำดเจ้ำหลำว น้ำตกคลองนำรำยณ์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ตั้งอยู่บริเวณอ่ำวคุ้งกระเบน มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดประมำณ 4,000ไร่ เป็นไปตำมพระรำชประสงค์ในพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว เพื่อทำกำรฟื้นฟูและจัดกำรทรัพยำกรชำยฝั่งอย่ำงยั่งยืน ทั้งยังเป็นศูนย์กลำงในกำรอบรมเผยแพร่ควำมรู้ที่ได้จำกกำรศึกษำวิจัย
  • 14. นำมำพัฒนำด้ำนกำรประมงและกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงยังเป็นกำลังสำคัญในกำรอนุรักษ์สภำพแวดล้อมพร้อมๆ ไปกับกำรรักษำสมดุลของระบบนิเวศให้มีควำมอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้พื้นที่โดยรอบของป่ำชำยเลนนักท่องเที่ยวสำมำรถใช้ สะพำนเดินศึกษำธรรมชำติและป่ำชำยเลนอ่ำวคุ้งกระเบนในกำรเที่ยวชมตำมจุดต่ำงๆ พร้อมกับข้อมูลควำมรู้เกี่ยวกับป่ำชำยเลนที่ติดอยู่ตรงศำลำเล็กๆให้ได้ทรำบอยู่เป็นระยะ น้ำตกเขำสอยดำว เป็นน้ำตกที่มีทั้งหมด16ชั้น กำรเดินชมน้ำตกเขำสอยดำวแบ่งเป็น2ระดับซึ่งระดับที่1 คือ ชั้นที่1-6 เป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสำมำรถปีนป่ำยเดินเท้ำขึ้นไปชมเองได้ ระดับ2 คือชั้นที่ 7-16 ต้องมีเจ้ำหน้ำที่นำทำเพรำะดีไม่ดีอำจเกิดอันตรำยได้ ท่ำมกลำงป่ำลึกที่ยังคงควำมเป็นธรรมชำติ ตลอดเส้นทำงเดินชมน้ำตกมีทั้งควำมงำมและควำมตื่นเต้นท้ำทำยและถ้ำใครที่ชื่นชอบกำรดูผีเสื้อต้องห้ำมพลำด เพรำะที่นี่ในบริเวณธำรน้ำจะมีผีเสื้อจำนวนมำก อีกทั้งยังถือเป็นที่ศึกษำพรรณไม้ พื้นที่เขตรักษำ พันธุ์สัตว์ป่ำเขำสอยดำวนั้นมีสภำพป่ำเบญจพรรณป่ำเต็งรังและสมุนไพรเช่นกระชำยป่ำกระวำนสัตว์ป่ำไก่ฟ้ ำ นกสำริกำเขียวหำงสั้นสภำพภูมิประเทศเป็นภูเขำสลับซับซ้อนโดยมียอดเขำสูง 2ยอด คือ ยอดสอยดำวเหนือและสอยดำวใต้ ควำมสูงของยอดสูงสุดคือยอดสอยดำวใต้ อยู่ที่ประมำณ 1,675เมตร จำกระดับน้ำทะเล ถนนเฉลิมบูรพำชลทิต ไม่มีอะไรดีไปกว่ำกำรได้ขับรถเพลินๆ ไปบนถนนที่ด้ำนหนึ่งเป็นภูเขำและอีกด้ำนเป็นทะเลเป็นแน่ถนนที่ชมวิวได้อย่ำงต่อเนื่องสำยนี้มีจุดเริ่มตั้งแต่จ.ชลบุรี ผ่ำน จ.ระยอง จ.จันทบุรี ไปจนถึง จ.ตรำด เป็นเส้นทำงที่เรียกได้ว่ำมีทัศนียภำพที่สวยงำมที่สุดในภำคตะวันออก มำชวนเพื่อนครอบครัวหรือคนรักเปิดหน้ำต่ำงฟังเสียงคลื่นสัมผัสกลิ่นไอทะเลในอำรมณ์ “ScenicRoute”บน “ถนนเฉลิมบูรพำชลทิต” เสน่ห์ของกำรเดินทำงอันสวยงำมน่ำประทับใจเลำะเลี้ยวไปกับฝั่งทะเลและชำยเขำ ผ่ำนเส้นทำงที่หำไม่ได้จำกที่ไหนๆซึ่งนอกจำกจะเป็นทำงรถยนต์สวยๆ ยังมีช่องทำงสำหรับจักรยำนให้นักปั่นได้สัมผัสควำมรื่นรมย์อย่ำงช้ำๆที่ได้ทั้งกำรท่องเที่ยวและสุขภำพ -13- อ่ำวกระทิง เป็นชำยหำดขนำดเล็กที่สวยงำมและเงียบสงบอย่ำงยิ่งตั้งอยู่ในเขตวนอุทยำนแห่งชำติเขำแหลมสิงห์ ซึ่งด้วยกฎของวนอุทยำนที่ห้ำมส่งเสียงดังทำให้ที่นี่เหมำะสำหรับกำรพักผ่อนอย่ำงแท้จริงเล่นน้ำได้ ศูนย์ศึกษำฯอ่ำวคุ้งกระเบน น้ำตกเขำสอยดำว ถนนเฉลิมบูรพำชลทิต อ่ำวกระทิง
  • 15. ของดี ผลไม้แปรรูป สินค้ำแปรรูปที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป ทำจำกผลไม้ เช่นทุเรียนเงำะ มังคุด ระกำ สละ มีกลิ่นหอม รสชำติหวำนกลมกล่อมตำมรสชำติของผลไม้แต่ละชนิด ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงและเนื้อเลียง ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงและเนื้อเลียงมีรสชำติของน้ำก๋วยเตี๋ยวต่ำงจำกก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ คือ มีรสหวำนและเปรี้ยว เพรำะต้มด้วยเครื่องเทศหลำยชนิด ทำให้มีกลิ่นหอมของเร่วหอม เวลำรับประทำนจะปรุงด้วยน้ำตำลอ้อย และน้ำส้มพริกขี้หนูสด สารอง ลูกสำรองถือเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ถูกนำมำใช้เป็นอำหำรตั้งแต่สมัยโบรำณ โดยทำนเป็นขนมหวำนใส่น้ำเชื่อมรับประทำน รับรองชื่นใจ ก๋วยเตี๋ยวผัดปู มีลักษณะคล้ำยก๋วยเตี๋ยวผัดไท แต่ใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดกับเครื่องแกงใส่ปูทะเลและสับปะรดซอยมีรสเข้มข้นทั้งเปรี้ยว เผ็ด หวำน -14- หมูชะมวง เนื้อหมูสำมชั้นปรุงกับหอมเผำ ข่ำเผำ และพริกเผำ โขลกละเอียดใส่น้ำปรุงรสออกหวำนและเค็ม ไม่ต้องเติมเปรี้ยว เพรำะควำมเปรี้ยวเกิดจำกใบชะมวงที่แกออกเป็นชิ้นๆ และนำไปเคี่ยวจนได้ที ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ นับเป็นสินค้ำพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์สิ่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรีเหมำะที่จะซื้อหำเป็นของระลึ ก เมื่อมำเที่ยวจังหวัดจันทบุรี
  • 16. อัญมณี เป็นสินค้ำที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี นักท่องเที่ยวสำมำรถที่จะเลือกซื้อหำได้ตำมร้ำนจำหน่ำยอัญมณี บนถนนอัญมณี เสื่อจันทบูร หัตถกรรมพื้นบ้ำนอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี ผลิตจำกกกปัจจุบันได้เอำเสื่อกกมำดัดแปลงเป็นเครื่องใช้ เครื่องประดับต่ำง ๆ มำกมำย ผลไม้ ทุเรียนเงำะ มังคุด ระกำหวำนสละ ลองกองเป็นผลไม้เมืองร้อนจะหำซื้อผลรสอร่อยรำคำย่อมเยำว์มีคุณภำพดีได้เป็นจำนวนมำก -------------------------------------------------------------------------------------------------- -15- 2.ฉะเชิงเทรา หรือที่มักเรียกว่ำเมืองแปดริ้วเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯที่ยังดกดื่นร่มรื่นไปด้วยสวนผลไม้ โดยเฉพำะมะม่วงพันธุ์ดีโดดเด่นด้วยกำรเป็นเมืองเก่ำริมแม่น้ำบำงปะกงมีวัดหลวงพ่อโสธรเป็นศูนย์รวมจิตใจ ประวัติ ฉะเชิงเทรำหรือที่หลำยคนมักเรียกว่ำเมืองแปดริ้วคือจังหวัดใกล้กรุงที่ยังดกดื่นร่มรื่นด้วยสวนผลไม้ โดยเฉพำะมะม่วงพันธุ์ดีนอกจำกนี้ยังโดดเด่นด้วยกำรเป็นเมืองเก่ำแก่ริมน้ำบำงปะกงซึ่งมีวัดหลวงพ่อโสธร หรือวัดโสธรวรำรำมวรวิหำรเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชำชนแหล่งธรรมชำติในฉะเชิงเทรำนั้น นับว่ำอุดมด้วยสรรพชีวิตไม่น้อยหน้ำใครผืนป่ำสำคัญของที่นี่คือเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำเขำอ่ำงฤำไน ซึ่งเป็นแหล่งอำศัยสุดท้ำยของจระเข้น้ำจืดในเมืองไทยส่วนในแม่น้ำบำงปะกงช่วงปำกอ่ำว ก็เป็นแหล่งชมโลมำหลำยสำยพันธุ์ที่ว่ำยเวียนเข้ำมำทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกำยน-มกรำคมด้วยเหตุนี้
  • 17. ฉะเชิงเทรำซึ่งอยู่ห่ำงจำกกรุงเทพฯไม่ถึง100กิโลเมตรจึงเป็นอีกจังหวัดที่น่ำเที่ยวน่ำชม เพรำะที่นี่ยังมีของดีซุกซ่อนอยู่มำกมำยชนิดที่หลำยคนก็คำดไม่ถึง ฉะเชิงเทรำเป็นจังหวัดหนึ่งในภำคกลำงมีพื้นที่ประมำณ5,351ตำรำงกิโลเมตร เป็นดินแดนเก่ำแก่ซึ่งไม่ปรำกฏหลักฐำนชัดเจนว่ำถือกำเนิดขึ้นเมื่อไร แต่จำกกำรสำรวจและขุดค้นตำมแหล่งอำรยธรรมสำคัญโดยนักโบรำณคดี ทำให้รู้ว่ำพื้นที่นี้เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศำสตร์ในช่วงหลำยพันปีที่ผ่ำนมำสันนิษฐำนว่ำในยุคนั้น ฉะเชิงเทรำเป็นดินแดนสำคัญแห่งหนึ่งทำงด้ำนชำยฝั่งทะเลตะวันตะวันออก ชื่อฉะเชิงเทรำปรำกฏเป็นครั้งแรกในพระรำชพงศำวดำรสมัยกรุงศรีอยุธยำ โดยเป็นเมืองเก่ำแก่ตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนำถมีฐำนะเป็นเมืองจัตวำหรือหัวเมืองชั้นใน จนถึงรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหำรำชพระองค์ทรงใช้ฉะเชิงเทรำเป็นที่รวบรวมไพร่พล นอกจำกนี้ยังทรงใช้เป็นเมืองหน้ำด่ำนอีกด้วยครั้นล่วงมำถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ฉะเชิงเทรำก็เป็นเมืองที่ขึ้นอยู่ในสังกัดกรมพระกลำโหมและย้ำยมำอยู่ในสังกัดกรมมหำดไทย จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวมีกำรเปลี่ยนแปลงระบบกำรปกครองแผ่นดิน ฉะเชิงเทรำจึงเปลี่ยนฐำนะเป็นเมืองเมืองหนึ่งในมณฑลปรำจีนบุรี ร่วมกับเมืองนครนำยกพนมสำรคำมพนัสนิคมชลบุรี และบำงละมุงจนถึงพ.ศ. 2459 ก็ได้ยกรับกำรฐำนะขึ้นเป็นจังหวัด จำกยุคก่อนประวัติศำสตร์ล่วงเลยมำจนถึงทุกวันนี้ ฉะเชิงเทรำนับว่ำเป็นดินแดนแห่งกำรเพำะปลูกเพรำะมีดินตะกอนอันสมบูรณ์ด้วยแร่ธำตุรวมทั้งอุดมด้วยแหล่งน้ำ โดยมีแม่น้ำบำงปะกงเป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัด ชำวบ้ำนส่วนใหญ่ตั้งบ้ำนเรือนอยู่ริมแม่น้ำและริมลำคลองสำขำย่อยโดยประกอบอำชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ สำหรับชื่อ“ฉะเชิงเทรำ”นั้นสันนิษฐำนว่ำเพี้ยนมำจำกภำษำเขมร ซึ่งเคยมีอำนำจกำรปกครองในพื้นที่นี้ในช่วงอำณำจักรลพบุรี โดยมำจำกคำว่ำ“สตรึงเตรำ”แปลว่ำ“คลองลึก” แต่ก็มีข้อสันนิษฐำนอื่นว่ำน่ำจะมำจำกชื่อเมือง“แสงเซรำ”หรือ“แซงเซำ” ที่สมเด็จพระบรมรำชำธิรำชแห่งอำณำจักรอยุธยำ เสด็จไปตีเมืองได้ตำมที่ปรำกฏในพระรำชพงศำวดำรฉบับหลวงประเสริฐ ส่วนชื่อ“แปดริ้ว” คำดว่ำน่ำจะมำจำกขนำดตัวอันใหญ่โตของปลำช่อนที่เมื่อนำมำแล่แล้วได้จำนวนถึง8ริ้ว มำกกว่ำปลำช่อนในพื้นที่อื่นที่แล่ได้แค่4-6ริ้วเท่ำนั้นอีกที่มำหนึ่งเล่ำว่ำชื่อแปดริ้วได้มำจำกนิทำนพื้นบ้ำนเรื่อง “พระรถ- เมรี” ที่ยักษ์ฆ่ำนำงสิบสองแล้วชำแหละศพเป็นชิ้นๆรวม8 ริ้วก่อนนำไปทิ้งในลำน้ำท่ำลำด จังหวัดฉะเชิงเทรำแบ่งกำรปกครองออกเป็น11อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง. -16- ฉะเชิงเทรำอำเภอบำงคล้ำอำเภอบำงน้ำเปรี้ยวอำเภอบำงปะกงอำเภอบ้ำนโพธิ์อำเภอพนมสำรคำม อำเภอสนำมชัยเขตอำเภอแปลงยำวอำเภอรำชสำส์นอำเภอท่ำตะเกียบและอำเภอคลองเขื่อน คาขวัญ “แม่น้ำบำงปะกงแหล่งชีวิตพระศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโสธรพระยำศรีสุนทรปรำชญ์ภำษำไทย อ่ำงฤำไนป่ำสมบูรณ์”
  • 18. วัฒนธรรม แม่น้าบางปะกงมีต้นกำเนิดจำกทิวเขำสันกำแพงบนที่รำบสูงโครำช ไหลผ่ำนจังหวัดปรำจีนบุรี (เรียกว่ำแม่น้ำปรำจีนบุรี)ผ่ำนอำเภอบำงน้ำเปรี้ยว(เรียกว่ำแม่น้ำแปดริ้ว)ผ่ำนอำเภอบำงคล้ำอำเภอเมืองฉะเชิงเทรำ และออกสู่อ่ำวไทยที่อำเภอบำงปะกงระยะทำง230กิโลเมตรกำรท่องเที่ยวทำงเรือในลำน้ำบำงปะกง เริ่มจำกตัวเมืองฉะเชิงเทรำเพื่อชมธรรมชำติสองฝั่งน้ำชมบ้ำนเรือนซึ่งยังคงสภำพควำมเป็นอยู่อย่ำงไทย สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่หน้ำศำลำกลำงจังหวัดริมแม่น้ำบำงปะกง เป็นสวนสำธำรณะที่มีสระน้ำขนำดใหญ่อยู่กลำงสวน มีทำงเดินโดยรอบสระและต้นไม้ขึ้นร่มรื่น เหมำะเป็นสถำนที่พักผ่อนหย่อนใจ ป้ อมเมืองฉะเชิงเทรา อยู่ที่ถนนมรุพงษ์สร้ำงในสมัยรัชกำลที่3ในปีพ.ศ. 2337 เพื่อป้ องกันข้ำศึกศัตรูมำรุกรำน ในสมัยรัชกำลที่5ใช้เป็นที่ตั้งมั่นกองทัพในกำรปรำบกบฏอั้งยี่ ซึ่งเป็นพ่อค้ำฝิ่นเถื่อนชำวจีนที่ก่อควำมวุ่นวำยปล้นสะดมชำวเมืองบริเวณหน้ำป้ อมจัดเป็นสวนสำธำรณะ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจชมทิวทัศน์แม่น้ำบำงปะกงมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตำมกำแพงเมือง ศาลมณฑลปราจีนบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนมรุพงษ์ใกล้กับศำลำกลำงจังหวัดหลังเก่ำ ในอดีตเป็นที่ตั้งของศำลมณฑลปรำจีน พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวอำนันทมหิดลและพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช ขณะทรงเป็นสมเด็จพระเจ้ำน้องยำเธอฯได้เสด็จประทับเป็นองค์ประธำนคณะผู้พิพำกษำ เมื่อวันที่24พฤษภำคมพ.ศ. 2489ปัจจุบันใช้เป็นอำคำรพุทธมณฑลฉะเชิงเทรำ โดยกรมศิลปำกรประกำศขึ้นทะเบียนเป็นโบรำณสถำนแห่งชำติ สวนสมเด็จพระศรีฯฉะเชิงเทรำ ป้ อมเมืองฉะเชิงเทรำ แม่น้ำบำงปะกง -17- พระสถูปเจดีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ในสมัยกรุงศรีอยุธยำถูกพม่ำโอบล้อมเมืองไว้ ก่อนที่จะเสียกรุงพระเจ้ำตำกสินได้ตีฝ่ ำวงล้อมของพม่ำออกมำจนมำถึงบริเ
  • 19. วณที่เรียกว่ำปำกน้ำโจโล้ กองทัพพม่ำมีกำลังเหนือกว่ำตำมตีกองกำลังของพระเจ้ำตำกสินเกิดปะทะและสู้รบกันบริเวณพื้ นที่ตำบลปำกน้ำโจ้โล้ ในขณะที่พักทัพอยู่ได้สั่งให้สร้ำงพระเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในกำรสู้รบกับพม่ำจนมีชัยชนะตรงบริเวณปำกน้ำโจ้โล้ (คลองท่ ำลำด) ต่อเหนือจำกบริเวณดังกล่ำวเป็นแหลมที่มีกระแสน้ำจำกคลองท่ำลำดไหลบรรจบกับแม่น้ำบำงปะกง ทำให้กระแส น้ำกัดเซำะจนบริเวณแหลมปำกน้ำที่พระเจดีย์พระเจ้ำตำกสินตั้งอยู่พังทลำยเมื่อประมำณ พ.ศ. 2491 และได้ดำเนินกำรก่อสร้ำงพระสถูปเจดีย์พระเจ้ำตำกสินขึ้นมำบริเวณเดิมแล้วเสร็จเมื่อพ.ศ.2542 อนุสาวรีย์พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร) ตั้งอยู่บริเวณสำมแยกถนนศรีโสธรตัดใหม่ สร้ำงขึ้นเพื่อยกย่องปูชนียบุคคลด้ำนภำษำไทยเป็นปรำชญ์ชำวฉะเชิงเทรำที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชกำลที่ 5 เป็นผู้มีควำมรู้แตกฉำนทั้งภำษำไทยภำษำขอมบำลีสันสฤต และกำรแต่งคำประพันธ์ฉันทลักษณ์เป็นอย่ำงดี ผลงำนสำคัญที่เป็นคุณเอนกอนันต์แก่ประเทศชำติคือท่ำนได้แต่งแบบเรียนภำษำไทยไว้หลำยเล่มได้แก่ มูลบทบรรพกิจ วำหนิติ์นิกรอักษรประโยคสังโยคพิธำนไวพจน์พิจำรณ์ พิศำลกำรันต์อนันตวิภำคเขมรำกษมำลำ ปกีรณพจนำดถ์ พรรณพฤกษำสัตวำภิธำนและนิติสำรสำธกสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯสยำมบรมรำชกุมำรี ได้เสด็จพระรำชดำเนินประกอบพิธีเปิดอนุสำวรีย์เมื่อวันที่ 9มิถุนำยนพ.ศ. 2542 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ศูนย์แห่งนี้ได้รับสถำปนำจำกพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 8สิงหำคมพ.ศ.2522 เนื่องมำจำกพื้นที่บริเวณดังกล่ำวมีสภำพเสื่อมโทรมดินขำดควำมอุดมสมบูรณ์ เนื้อดินเป็นทรำย มีกำรชะล้ำงพังทลำยของดินสูง ในหลวงได้ทรงพัฒนำพื้นที่สภำพแวดล้อมและระบบนิเวศน์บริเวณศูนย์ทั้งแหล่งน้ำ ฟื้นฟูสภำพป่ำกำรพัฒนำดินกำรวำงแผนกำรปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ด้วยวิธีกำรเกษตรแผนใหม่ตำมปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งมีกำรจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชำติที่มีชีวิตและเป็นศูนย์รวมกำรพัฒนำแบบเบ็ดเสร็จเพื่อให้เป็นต้นแบบแนวทำงและตั วอย่ำงกำรพัฒนำให้แก่พื้นที่อื่น ศูนย์พัฒนำเขำหินซ้อน อนุสำวรีย์พระศรีสุนทรโวหำร พระสถูปเจดีย์พระเจ้ำตำกสินมหำรำช
  • 20. -18- มหกรรมปั้นทรายโลกประติมำกรรมทรำยในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกและแห่งเดียวในประเทศไทยบนพื้นที่กว่ำ12ไร่ ในรูปแบบต่ำงๆที่ถูกนำมำร้อยเรียงเป็นเรื่องรำวได้อย่ำงน่ำอัศจรรย์ ตลาดบ้านใหม่ หรือตลาดร้อยปีบ้านใหม่ในอดีตมีชุมชนชำวไทย-จีนอำศัยอยู่บริเวณนี้ และทุกคนอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอำศัยซึ่งกันและกันตลอดสองฝั่งริมแม่น้ำบำงปะกง จำกอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่แห่งนี้มีประวัติศำสตร์มำยำวนำนกว่ำ100ปี ตลาดคลองสวน 100 ปี ตั้งอยู่ อำเภอบ้ำนโพธิ์ถือเป็นตลำดเก่ำแก่ที่เปิดบริกำรมำอย่ำงยำวนำน เป็นสถำนที่ผสมผสำนวิถีชีวิตของชำวคลองสวนทั้งชำวไทยจีน,ชำวไทยพุทธ,ชำยไทยมุสลิม ผสมผสำนวัฒนธรรมและกำรดำรงชีวิตประจำวันชมของเก่ำและสถำปัตยกรรมรวมทั้งยังมีกิจกรรมล่องเรือเที่ยว คุ้มวิมานดินเป็นแหล่งผลิตงำนปั้นดินเผำในรูปแบบกำรปั้นมือล้วนๆแล้ว ยังมีกำรเปิดโอกำสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ำมำร่วมทำกิจกรรมกำรปั้นดินด้วยตัวเอง,กำรชมบ้ำนดิน พร้อมทั้งเรียนรู้กำรเกษตรแนวธรรมชำติ ตลำดบ้ำนใหม่ มหกรรมปั้นทรำยโลก คุ้มวิมำนดิน ชมวัด วัดโสธรวรำรำมวรวิหำรเดิมชื่อว่ำวัดหงษ์สร้ำงในสมัยกรุงศรีอยุธยำตอนปลำย ปัจจุบันเป็นสถำนที่ประดิษฐำนของพระพุทธรูปคู่บ้ำนคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของฉะเชิงเทรำ คือ"หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปปูนปั้นปำงสมำธิภำยในพระอุโบสถประกอบด้วยศิลปะภำพจิตรกรรมฝำผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสำผนัง และเพดำนที่บรรจุเรื่องรำวให้เป็นแดนแห่งทิพย์เป็นเรื่องรำวของสีทันดรมหำสมุทรจตุโลกบำล สวรรค์ชั้นดำวดึงส์พรหมโลกดวงดำว และจักรวำล สำหรับสถำนที่ประดิษฐำนหลวงพ่อโสธรจะเปิดให้เข้ำชมเฉพำะในส่วนของวิหำรจำลอง