SlideShare a Scribd company logo
1 of 91
บทที่ 1
บทนำำ
ควำมเป็นมำของปัญหำ
นวนิยำยที่สนุกสนำนประทับใจผู้อ่ำนนั้นมักจะมีจุดเด่นอยู่ที่
โครงเรื่อง โครงเรื่องที่ดีต้องประกอบด้วยควำมขัดแย้ง ควำมไม่
รำบรื่น เพื่อให้ตัวละครได้ฝ่ำฟันอุปสรรคจะสร้ำงควำมสนใจให้ผู้
อ่ำนติดตำมเรื่องได้
รตชำ (2547. หน้ำ 165) กล่ำวถึงลักษณะควำมสัมพันธ์
ของโครงเรื่องกับปมปัญหำไว้ว่ำ
พล็อตคือกำรดำำเนินเรื่องที่ประกอบด้วยกำร
เปลี่ยนแปลง และกำรเปลี่ยนแปลงที่
สำำคัญในโลกของ’นิยำย’ นั้นเกิดขึ้นได้จำก ‘ปัญหำหรือ
ควำมขัดแย้ง’ เท่ำนั้น ถ้ำคุณเขียน
นิยำยโดยให้สิ่งที่เกิดขึ้นทุกสิ่งทำำให้ตัวละครเอกของคุณมี
แต่ควำมสุข ไม่นำนคนอ่ำนจะ
เบื่อ และถ้ำมีกำรเปลี่ยนแปลงที่สำำคัญของเรื่อง แต่กำร
เปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้สร้ำงปัญหำ
ให้กับตัวเอก คนอ่ำนก็จะหมดควำมสนใจเพรำะไม่มีเรื่อง
ให้ตัวละครต้องตัดสินใจ
กุหลำบ มัลลิกะมำส (2521. หน้ำ 101) กล่ำวว่ำ “โครง
เรื่องที่ดี และที่ผู้อ่ำนนิยมนั้น คือโครงเรื่องที่มีปัญหำหรือ ควำมขัด
แย้ง (Conflict) ที่สำำคัญเกิดขึ้นกับตัวเอกของเรื่อง เป็นปัญหำ
หรือควำมขัดแย้งที่มีควำมเข้มข้นรุนแรง มีอิทธิพลที่ทำำให้เกิดกำร
เปลี่ยนแปลงหรือมีผลกระทบอย่ำงแรงต่อวิถีชีวิตของตัวเอกของ
”เรื่อง
นอกจำกปมปัญหำจะมีส่วนสัมพันธ์กับโครงเรื่องแล้ว ผู้
เขียนมักนำำกลวิธีกำรสร้ำงปมปัญหำนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของกำร
สร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ (Suspense) ของผู้อ่ำนอีกด้วย ตำมทัศนะ
ของวนิดำ บำำรุงไทย (2544. หน้ำ 121) ที่ว่ำ “โดยทั่วๆ ไป
นวนิยำยแต่ละเรื่องจะต้องมีปมปัญหำสำำคัญของเรื่องอยู่แล้ว แต่
สำำหรับนวนิยำยขนำดยำวนั้น มักจะมีกำรสร้ำงปมย่อยๆเพื่อเร้ำใจ
ผู้อ่ำนระหว่ำงดำำเนินเรื่องด้วย โดยเฉพำะนวนิยำยบำงประเภท
เช่น เรื่องผจญภัย เรื่องลึกลับสยองขวัญ ... ก็จะมีกำรสร้ำงปม
ย่อยๆ เพื่อดึงดูดใจผู้อ่ำนให้ติดตำมตอนต่อไป”
กำรสร้ำงปมปัญหำย่อยๆเพื่อดึงดูดควำมสนใจใคร่รู้ของผู้
อ่ำนนี้เป็นวิธีที่นักเขียนหลำยท่ำนนิยม เช่น ยำขอบ เป็นต้น
มัทนำ นำคะบุตร (2523. หน้ำ 216) กล่ำวว่ำ “ยำขอบมีกลวิธี
สร้ำงปัญหำให้ปรำกฏอยู่ทุกระยะเหตุกำรณ์ ซึ่งถ้ำพิจำรณำถึงกำร
สร้ำงปัญหำในผู้ชนะสิบทิศโดยตลอดเรื่องแล้วจะพบว่ำ ยำขอบมี
”กลวิธีสร้ำงปัญหำเร้ำใจผู้อ่ำนได้อย่ำงมำกมำย
กิ่งฉัตร ถือเป็น “นักเขียนคลื่นลูกใหม่ไฟแรงที่ประสบควำม
สำำเร็จอย่ำงสูงในกำรเขียน
นวนิยำย”(ปกวรรณกรรม, 2546. เว็บไซต์) ทั้งนี้เพรำะผลงำน
ของเธอได้รับควำมนิยมทั้งด้ำนชื่อเสียงและยอดขำยเป็นอย่ำงมำก
ดังข้อควำมต่อไปนี้
ในแวดวงนวนิยำยไทย กิ่งฉัตรได้สร้ำงประวัติกำรณ์
อันน่ำทึ่ง จำกปี พ.ศ.
2535 จนถึงเดือนธันวำคมปี พ.ศ. 2545 เธอมีผลงำนรวม
เล่ม 20 เล่ม เป็นนวนิยำย 18
เล่ม นวนิยำยขนำดสั้น 1 เล่ม และรวมเรื่องสั้น 1 เล่ม ผล
งำนทุกเล่มของเธอจะตีพิมพ์ซำ้ำ
2 ครั้งขึ้นไป เรื่องที่มียอดจำำหน่ำยสูงสุด คือ เสรำดำรัล
พิมพ์ซำ้ำถึง 8 ครั้ง นวนิยำยเรื่อง
แรก คือ พรพรหมอลเวง ได้สร้ำงเป็นละครโทรทัศน์ และ
แทบทุกเรื่องต่อมำก็เช่นกัน
ขณะนี้กิ่งฉัตรมีนวนิยำย 3 เรื่อง คือ ในเรือนใจ ฟ้ำ
กระจ่ำงดำว และรหัสหัวใจ โดยพิมพ์
เป็นตอนๆ ในนิตยสำร 3 ฉบับ (ELLE THAILAND,
2546. หน้ำ 137)
ควำมสำำเร็จที่กิ่งฉัตรได้รับนั้น น่ำจะมำจำกควำมสำมำรถ
ในกำรเขียนนวนิยำยให้เป็นที่ถูกใจผู้อ่ำน มีผู้แสดงทัศนะเกี่ยวกับ
งำนเขียนของเธอ ดังนี้
2
สิ่งที่น่ำชื่นชมนั้นก็คือ เธอมีควำมคิดสร้ำงสรรค์เป็น
ของตนเอง บำงเรื่องซึ่งได้แรง
บันดำลใจจำกผลงำนของนักเขียนต่ำงชำติหรือแหล่งอื่นใด
เธอก็บอกไว้ชัดเจน สำำนวน
กำรเขียนของเธอสละสลวย โดยที่’วรรณศิลป์’ นั้นมิได้
‘ข่ม’ เนื้อเรื่องหรือตัวละครสำำคัญ
ทุกเรื่อง ทุกตอนที่เธอเขียนนั้นเข้มข้น ดำำเนินเรื่องอย่ำงไม่
ถ่วงเวลำ และมีกำรค้นคว้ำ
ข้อมูลอย่ำงรอบคอบ
นอกจำกคุณสมบัติที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น ในผลงำนของกิ่ง
ฉัตรยังมีกลวิธีกำรเร้ำใจผู้อ่ำนที่เป็นลักษณะเด่นอีกด้วย เพรำะกิ่ง
ฉัตรนำำไปเป็นส่วนเร้ำควำมสนใจของผู้อ่ำนในแทบทุกเรื่อง กลวิธี
ดังกล่ำวนี้คือ กลวิธีหนีตำยของตัวละครเอกขณะประสบอันตรำย
โดยมำกกิ่งฉัตรมักกำำหนดให้ตัวละครเอกมีช่วงเหตุกำรณ์ตอนใด
ตอนหนึ่งในเรื่องที่ต้องตกอยู่ในอันตรำย เพื่อให้ตัวละครได้คิดหำ
หนทำงหลบหนีเอำตัวรอด แต่เหตุกำรณ์เหล่ำนั้นมักจะเกี่ยวข้อง
กับควำมเป็นควำมตำยของตัวละครด้วยเสมอ ดังนั้น กลวิธีเร้ำ
ควำมสนใจที่มักปรำกฏในงำนของกิ่งฉัตร จึงเป็นกลวิธีหนีตำย ดัง
ที่ได้กล่ำวมำแล้ว
จึงเป็นเหตุที่น่ำสนใจศึกษำเพื่อค้นหำควำมหลำกหลำยในวิธี
กำรหนีตำยของตัวละครเหล่ำนั้น เนื่องจำกในกรณีที่ผู้เขียนมักนำำ
เสนอกลวิธีหนีตำยในลักษณะนี้ ย่อมต้องพยำยำมคิดหำวิธีไม่ให้ผู้
อ่ำนเกิดควำมรู้สึกซำ้ำซำกจำำเจ ควำมพยำยำมที่จะค้นหำควำม
หลำกหลำยในกลวิธีกำรหนีตำยนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำมำรถบ่งบอกถึง
ควำมเอำใจใส่ในงำนของผู้เขียนได้เป็นอย่ำงดี
ทั้งนี้ ในกำรใช้กลวิธีหนีตำยดังกล่ำว ผู้เขียนกำำหนดขึ้น
เพื่อเป็นจุดเร้ำควำมสนใจของผู้อ่ำน จึงมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับกำร
ศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ภำษำ เพรำะกำรใช้ภำษำที่ดีนั้นก็จะส่งผล
ให้ผู้อ่ำนคล้อยตำมได้โดยง่ำย นอกจำกนี้แล้วเธอยังได้กล่ำวยำ้ำถึง
ควำมพิถีพิถันเรื่องกำรใช้ภำษำในงำนเขียนของเธอว่ำ “ดิฉันระวัง
มำกเรื่องกำรใช้ภำษำ ”จะไม่ใช้ภำษำที่หยำบ (ELLE THAI
LAND.2546. หน้ำ 137) กำรศึกษำในส่วนของศิลปะกำรเขียน
จึงเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ไม่อำจมองข้ำมได้
3
จำกที่กล่ำวมำแล้ว ผู้วิจัยจึงเห็นสมควรที่จะศึกษำกลวิธีกำร
หนีตำยของกิ่งฉัตรควบคู่ไปกับกำรศึกษำด้ำนศิลปะกำรใช้ภำษำ
เพื่อให้เห็นถึงลักษณะเด่นบำงประกำรในกลวิธีกำรแต่งรวมไปถึง
ฝีมือในด้ำนกำรประพันธ์นวนิยำยด้วย
จุดมุ่งหมำยของกำรวิจัย
1. ศึกษำกลวิธีกำรหนีตำยของตัวละครเอกในนวนิยำย
ของกิ่งฉัตร
2. ศึกษำด้ำนศิลปะกำรใช้ภำษำ
ควำมสำำคัญของกำรวิจัย
1. เพื่อเป็นแนวทำงในกำรศึกษำกลวิธีหนีตำยซึ่งเป็นองค์
ประกอบหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้
2. เพื่อควำมเข้ำใจในศิลปะกำรใช้ภำษำของผู้แต่งอันจะ
เป็นประโยชน์ต่อกำรเข้ำถึงท่วงทำำนองแต่ง (Style) ของผู้เขียน
ขอบเขตของกำรวิจัย
ในกำรวิเครำะห์กลวิธีหนีตำยของตัวละครเอกในนวนิยำย
ของกิ่งฉัตรนี้จะแบ่งขอบเขตของข้อมูลเป็น 2 ด้ำน คือ
1. ขอบเขตด้ำนข้อมูล
ในกำรศึกษำกลวิธีหนีตำยของตัวละครนั้น จะวิเครำะห์
จำกนวนิยำยของกิ่งฉัตรจำำนวน 13 เล่ม ดังนี้
1. ดั่งไฟใต้นำ้ำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ.
2542 สำำนักพิมพ์อรุณ.
2. ตำมรักคืนใจ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.
2542 สำำนักพิมพ์อรุณ
3. มำยำตวัน ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.
2542 สำำนักพิมพ์อรุณ
4. พรพรหมอลเวง ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.
2543 สำำนักพิมพ์อรุณ.
5. รอยพรหม ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.
2543 สำำนักพิมพ์อรุณ.
6. เสรำดำรัล ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 พ.ศ.
2543 สำำนักพิมพ์อรุณ
7. ดวงใจพิสุทธิ์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.
2544 สำำนักพิมพ์อรุณ
4
8. ด้วยแรงอธิษฐำน ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ.
2544 สำำนักพิมพ์อรุณ
9. สืบลับรหัสรัก ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3
พ.ศ. 2545 สำำนักพิมพ์อรุณ
10. ในเรือนใจ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3
พ.ศ. 2546 สำำนักพิมพ์อรุณ
11. พรำยปรำรถนำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.
2546 สำำนักพิมพ์อรุณ
12. ฟ้ำกระจ่ำงดำว ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ.
2547 สำำนักพิมพ์อรุณ
13. มนต์จันทรำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 9
พ.ศ. 2547 สำำนักพิมพ์อรุณ
2. ขอบเขตด้ำนกำรวิเครำะห์
ผู้วิจัยจะใช้เกณฑ์เบื้องต้นในกำรวิเครำะห์นวนิยำย
ด้ำนกลวิธีและศิลปะกำรใช้ภำษำ ดังนี้
1. ด้ำนกำรศึกษำกลวิธีหนีตำย จะวิเครำะห์ตำม
หัวข้อต่อไปนี้
1.1 กลวิธีหนีตำยโดยใช้อุบำย
1.2 กลวิธีหนีตำยโดยใช้ไหวพริบหรือควำมรู้สึก
ของตัวละคร
1.3 กลวิธีหนีตำยโดยใช้เหตุประจวบหรือเหตุ
บังเอิญ
2. ด้ำนกำรศึกษำศิลปะกำรใช้ภำษำ จะ
วิเครำะห์ตำมหัวข้อต่อไปนี้
2.1 ศิลปะกำรใช้ถ้อยคำำ
2.2 ศิลปะกำรใช้ประโยค
2.3 ศิลปะกำรใช้โวหำร
ข้อตกลงเบื้องต้น
นวนิยำยที่นำำมำใช้วิเครำะห์นี้ ต้องมีโครงเรื่องที่เกี่ยวกับ
กำรหนีตำยของตัวละครเอกปรำกฏอยู่ และเป็นนวนิยำยที่ตีพิมพ์
มำแล้วจนกระทั่งถึงเดือนตุลำคมปี พ.ศ.2547
นิยำมศัพท์เฉพำะ
5
กำรวิจัย ได้ใช้ศัพท์ทำงวรรณกรรมที่มีควำมหมำย ดังนี้
กลวิธี (Techniques) หมำยถึง วิธีที่ผู้เขียนเลือกนำำ
มำใช้ในงำนของตนเพื่อให้ผลงำนนั้นเกิดควำมสมบูรณ์แบบ
หนีตำย หมำยถึง กำรกระทำำของตัวละครที่แสดงออก
มำเพื่อให้หลุดพ้นจำกควำมตำย
กลวิธีหนีตำย หมำยถึง วิธีกำรที่ผู้เขียนนำำมำใช้เพื่อ
เร้ำใจผู้อ่ำนโดยกำรกำำหนดให้ตัวละครต้องเอำตัวรอดจำกภำวะ
เสี่ยงตำยด้วยวิธีกำรต่ำงๆ
ศิลปะกำรใช้ภำษำ หมำยถึง ภำษำที่ผู้เขียนเลือกสรร
มำใช้เพื่อให้เหมำะกับเหตุกำรณ์หรือเรื่องรำว และสำมำรถให้ผลอ
ย่ำงใดอย่ำงหนึ่งแก่ผู้อ่ำนได้
วิธีดำำเนินกำรวิจัย
ในกำรวิเครำะห์กลวิธีที่เกี่ยวกับกำรหนีเพื่อเอำตัวรอดของ
ตัวละครเพื่อสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ให้กับผู้อ่ำนนั้น จะดำำเนินกำร
วิจัย ดังนี้
1. ขั้นรวบรวมข้อมูล
1.1 รวบรวมนวนิยำยของกิ่งฉัตรทั้ง 13 เล่ม และ
ศึกษำเนื้อหำโดยละเอียด
1.2 รวบรวมเอกสำรที่เกี่ยวข้องกับผลงำนของกิ่งฉัตร
1.3 รวบรวมเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวกับกลวิธีกำร
แต่งและศิลปะกำรใช้ภำษำ
2. ขั้นวิเครำะห์ข้อมูล
2.1 ศึกษำและวิเครำะห์เนื้อหำในส่วนที่ปรำกฏ
เหตุกำรณ์ตัวละครเอกหนีตำยจำก
นวนิยำยทั้ง 13 เรื่อง
2.2 วิเครำะห์ศิลปะกำรใช้ภำษำของผู้เขียนว่ำมี
ลักษณะอย่ำงไรในกำรสร้ำงอำรมณ์ให้กับผู้อ่ำน
3. ขั้นสรุปผล
3.1 สรุปผลกำรวิจัยแล้วนำำเสนอในรูปพรรณนำ
วิเครำะห์ อภิปรำยผล พร้อมกับข้อเสนอแนะ
6
บทที่ 2
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
นวนิยำยที่นำำมำวิเครำะห์นั้นจะใช้หลักประกอบกำร
พิจำรณำดังนี้
1. เอกสำรและงำนวิจัยเกี่ยวกับกลวิธีหนีตำย
2. เอกสำรและงำนวิจัยเกี่ยวกับศิลปะกำรใช้ภำษำ
3. เอกสำรเกี่ยวกับผลงำนของกิ่งฉัตร
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกลวิธีหนีตำย
ในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทำงบันเทิงคดีนั้น นอกจำกรูป
แบบ (Form) เนื้อหำ (Content) ภำษำ (Language) ที่ประกอบ
กันขึ้นมำเป็นชิ้นงำนแล้ว กลวิธี (Techniques) ก็เป็นองค์
ประกอบอีกส่วนหนึ่งที่จะทำำให้ผลงำนนั้นมีควำมสมบูรณ์ทำง
วรรณศิลป์ ผู้รู้หลำยท่ำนได้ให้นิยำมเกี่ยวกับกำรศึกษำเรื่องกลวิธี
ไว้ ดังนี้
กุหลำบ มัลลิกะมำส (2517. หน้ำ 29) กล่ำวว่ำ “เทคนิค
คือ วิธีกำรหรือกลวิธีซึ่งผู้แต่งนำำมำใช้ในกำรถ่ำยทอดควำมรู้สึก
นึกคิด หรืออำรมณ์สะเทือนใจเป็นกำรแสดงให้เห็นว่ำ ผู้แต่งมี
‘ฝีมือ’ ขนำดไหน
ม.ล. บุญเหลือ เทพยสุวรรณ (2517. หน้ำ 115) กล่ำวว่ำ
“กลวิธี คือ กำรกระทำำ’อย่ำงไร’
จึงจะให้เนื้อเรื่องดำำเนินไปตำมโครงเรื่องที่ผูกไว้ และให้บรรลุจุด
มุ่งหมำยของเรำ “
สมพร มันตะสูตร (2525. หน้ำ 54) กล่ำวว่ำ “กลวิธี หมำย
ถึง วิธีกำรต่ำงๆ ที่ใช้ในกำรแต่งหนังสือ เพื่อเรียกร้องควำมสนใจ
ให้ผู้อ่ำนติดตำมงำนเขียนของตนตั้งแต่ต้นจนจบ และยังหมำยรวม
ถึง วิธีกำรที่จะทำำให้ผู้อ่ำนจับใจในงำนเขียนชิ้นนั้น กล่ำวคือ
กลวิธีสร้ำงควำมประทับใจให้เกิดในงำนเขียนของตนนั่นเอง
สำยทิพย์ นุกูลกิจ (2525. หน้ำ 120) กล่ำวว่ำ “เทคนิค
หรือกลวิธีที่ผู้แต่งนำำมำใช้ในกำรแต่งหนังสือ ได้แก่ วิธีกำรต่ำงๆที่
7
ผู้แต่งนำำมำใช้ในกำรถ่ำยทอดอำรมณ์สะเทือนใจ ควำมนึกคิดหรือ
จินตนำกำร เพื่อให้ผู้อ่ำนพลอยเกิดอำรมณ์สะเทือนใจ ควำม
นึกคิดหรือจินตนำกำรตำมไปด้วข
วนิดำ บำำรุงไทย (2544. หน้ำ 116) กล่ำวว่ำ “กลวิธีใน
เชิงกำรประพันธ์นั้น หมำยถึง วิธีที่ผู้แต่งเลือกใช้ในกำรสร้ำงสรรค์
บทประพันธ์แต่ละเรื่องเพื่อให้บรรลุผลที่ดีที่สุดในเชิงวรรณศิลป์”
ดังนั้น จึงอำจสรุปได้ว่ำ กลวิธี คือ วิธีที่ผู้เขียนเลือกนำำมำ
ใช้ในงำนของตนเพื่อให้ผลงำนนั้นเกิดควำมสมบูรณ์แบบ
กลวิธีที่ใช้ในงำนบันเทิงคดีอย่ำงนวนิยำยนั้น ประกอบด้วย
กลวิธีเกี่ยวกับโครงเรื่อง กลวิธีเกี่ยวกับตัวละคร กลวิธีเกี่ยวกับบท
สนทนำ และกลวิธีเกี่ยวกับฉำก ตำมทัศนะของสำยสร้อย สุดหอม
(2530. หน้ำ 56) ที่ว่ำ “กลวิธีเสนอเรื่อง หมำยถึง วิธีกำรอันมีชั้น
เชิงที่นักประพันธ์แต่ละคนนำำมำใช้ในกำรสร้ำงงำนประพันธ์ของ
ตน ให้มีคุณค่ำเป็นที่น่ำสนใจและมีประสิทธิผลยิ่งกว่ำกำรบอกเล่ำ
ตำมธรรมดำ ได้แก่ กลวิธีเกี่ยวกับโครงเรื่อง ตัวละคร บทสนทนำ
”และฉำก
สำำหรับกลวิธีหนีตำยนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลวิธีเกี่ยวกับ
โครงเรื่อง ในแง่ของกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ เนื่องจำกในกำร
เขียนนวนิยำย ผู้เขียนจำำเป็นจะต้องเร้ำควำมสนใจของผู้อ่ำนให้
เกิดขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง นอกจำกปมปัญหำที่เป็นหลักของเรื่องแล้ว
ยังต้องประกอบด้วยวิธีกำรอื่นเพื่อให้ผู้อ่ำนอยำกติดตำมต่อ กำร
สร้ำงควำมรู้สึกสนใจใคร่รู้นั้น มีอยู่หลำยประกำร ได้แก่ กำรสร้ำง
ปมปัญหำ กำรใช้ลำงบอกเหตุ กำรใช้สัญลักษณ์และบุคลำธิษฐำน
และกำรใช้เหตุบังเอิญหรือเหตุประจวบ (วนิดำ บำำรุงไทย, 2544.
หน้ำ 122)
นวนิยำยของกิ่งฉัตรนั้น มีลักษณะของกำรสร้ำงควำมสนใจ
ใคร่รู้ในหลำยวิธีกำรเช่นกัน แต่ที่มักปรำกฏให้เห็นเป็นลักษณะ
เด่นในผลงำน คือ กำรใช้ปมปัญหำย่อย ซึ่งก็เป็นกลวิธีที่นิยมใช้
โดยทั่วกัน แต่ควำมพิเศษนั้นอยู่ตรงที่ กิ่งฉัตรจะนำำเสนอปมปัญหำ
ในแบบที่ตัวละครต้องประสบกับอันตรำยร้ำยแรงที่อำจถึงแก่ชีวิต
ได้อยู่เสมอในกำรเร้ำควำมสนใจผู้อ่ำน ดังนั้น กลวิธีกำรสร้ำง
ควำมสนใจใคร่รู้แบบที่กำำหนดให้ตัวละครเอกหนีตำยของกิ่งฉัตร
จึงกลำยเป็นลักษณะเด่นเฉพำะที่ควรศึกษำเพื่อหำควำมหลำก
หลำยด้ำนควำมคิดสร้ำงสรรค์ อย่ำงไรก็ดี ยังไม่มีผู้กล่ำวถึงกำร
8
สร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ในแง่นี้มำก่อน กำรศึกษำกลวิธีหนีตำย จึง
อำจนิยำมสรุปได้โดยสังเขปว่ำ
กลวิธีหนีตำย หมำยถึง วิธีกำรที่ผู้เขียนนำำมำใช้
เพื่อเร้ำใจผู้อ่ำนโดยกำรกำำหนดให้ตัวละครต้องเอำตัว
รอดจำกภำวะเสี่ยงตำยด้วยวิธีกำรต่ำงๆ
ในส่วนของงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกำรศึกษำเรื่องกลวิธีหนี
ตำยโดยตรงนั้น ยังไม่มีปรำกฏ อย่ำงไรก็ดี เนื่องจำกกลวิธีหนีตำย
เป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำเรื่องกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ ดังนั้น
ควำมเข้ำใจเบื้องต้นเกี่ยวกับกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้จำกงำน
วิจัยต่ำงๆ จึงน่ำจะเป็นข้อมูลพื้นฐำนบำงประกำรในกำรทำำควำม
เข้ำใจเรื่องกลวิธีหนีตำยได้พอสังเขป
มัทนำ นำคะบุตร (2523. หน้ำ 235 -245) ผู้ทำำกำร
ศึกษำเรื่อง ศิลปะกำรแต่งผู้ชนะสิบทิศของยำขอบในด้ำน
ท่วงทำำนองแต่งและกลวิธีเสนอเรื่อง และสำยสร้อย สุดหอม
(2530. หน้ำ 111-122) ผู้ทำำกำรศึกษำเรื่อง นวนิยำยอิง
ประวัติศำสตร์เรื่องเศวตฉัตรน่ำนเจ้ำ : กำรศึกษำในด้ำนกลวิธี
เสนอเรื่องและท่วงทำำนองกำรแต่ง ได้กล่ำวถึงกลวิธีกำรสร้ำงควำม
สนใจใคร่รู้ของผู้ประพันธ์ไว้สรุปได้ ดังนี้
1. กำรกำำหนดชื่อตอน ผู้ประพันธ์มักจะตั้งชื่อตอนให้มี
ควำมน่ำสนใจเพื่อให้ผู้อ่ำนอยำกติดตำม โดยชื่อตอนนั้นอำจมี
ลักษณะบอกเล่ำเรื่องรำวในแต่ละตอน บอกลักษณะนิสัยตัวละคร
ชื่อตอนที่สร้ำงควำมสงสัยชวนคิด หรือเป็นปริศนำ
2. กำรใช้นิมิตและลำงต่ำงๆ ผู้ประพันธ์จะใช้นิมิตและ
ลำงเป็นตัวบอกผลล่วงหน้ำว่ำเรื่องจะเป็นเช่นไร แล้วดำำเนินไปตำม
นั้น
3. กำรสร้ำงปัญหำให้ตัวละครต้องหำวิธีกำรแก้ไข
ปัญหำ กำรสร้ำงปัญหำให้ตัวละครนั้น จะสร้ำงควำมน่ำติดตำมได้
ก็ตรงวิธีกำรที่ตัวละครใช้แก้ปัญหำ ซึ่งในที่นี้ ผู้ประพันธ์กำำหนด
ให้ตัวละครใช้วิธีกำรต่ำงๆ ดังนี้
3.1. กำรใช้อุบำย อุบำยที่ตัวละครใช้ในกำรแก้ปัญหำ
นั้นแบ่งออกเป็นอุบำยที่เกี่ยวกับควำมรัก และกำรศึก ซึ่งนับว่ำมี
ประสิทธิภำพอย่ำงมำก “จนอำจกล่ำวได้ว่ำกำรแก้ปัญหำของตัว
”ละครนั้นเต็มไปด้วยอุบำย (มัทนำ นำคะบุตร, 2523. หน้ำ 230)
3.2. กำรใช้ไหวพริบและควำมรู้สึกนึกคิดของตัว
ละคร ผู้เขียนมักกำำหนดให้ตัวละครรู้เท่ำทันกำรออกอุบำยต่ำงๆ
9
และใช้ไหวพริบปฏิภำณของตนแก้ปัญหำเฉพำะหน้ำอย่ำงฉับพลัน
“กำรใช้สิ่งเหล่ำนี้ จึงเป็นกำรเสริมให้เนื้อเรื่องมีสีสันและสนุกสนำน
ยิ่งขึ้น (สำยสร้อย สุดหอม, 2530. หน้ำ 118)
3.3. กำรใช้เหตุประจวบหรือเหตุบังเอิญ สำำหรับ
ลพบุรี ผู้เขียนเรื่องเศวตฉัตรน่ำนเจ้ำนั้น ได้แบ่งประเภทของกำร
ใช้เหตุประจวบออกเป็น 2 ประเภท คือ กำรใช้เหตุประจวบเพื่อ
สร้ำงปัญหำให้ตัวละครหำวิธีแก้ไข และใช้เหตุประจวบเพื่อ
คลี่คลำยปัญหำซึ่งไม่ว่ำจะใช้เพื่อเหตุผลใด เหตุประจวบก็สำมำรถ
ช่วยให้เรื่องมีควำมเข้มข้นขึ้นอย่ำงได้อรรถรส
จำกกำรศึกษำงำนวิจัยดังกล่ำว พบว่ำ กำรสร้ำงปัญหำเพื่อ
สร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ให้กับงำนประพันธ์นั้นสอดคล้องกับกำร
กำำหนดสถำนกำรณ์ให้ตัวละครต้องหนีตำยของกิ่งฉัตร และกำร
สร้ำงปัญหำนั้นก็สำมำรถประยุกต์เข้ำกับกลวิธีในข้อที่ 3 ได้ กล่ำว
คือ กำรสร้ำงปัญหำเทียบได้กับ
สถำนกำรณ์เสี่ยงตำย ส่วนกำรแก้ไขปัญหำเทียบได้กับกำรหนีตำย
ของตัวละคร ซึ่งกำรแก้ไขปัญหำนั้น ในที่นี้ได้สรุปไว้ 3 ประกำร
คือ กำรใช้อุบำย กำรใช้ไหวพริบ และกำรใช้เหตุประจวบ ผู้วิจัย
จึงนำำแนวทำงกำรแก้ปัญหำที่เทียบได้กับกลวิธีหนีตำยนั้น มำเป็น
แนวทำงเบื้องต้นในกำรวิเครำะห์หำควำมหลำกหลำยในกำรหนี
ตำยของตัวละครเอกในนวนิยำยของกิ่งฉัตร ดังนี้
1. กลวิธีหนีตำยโดยใช้อุบำย
2. กลวิธีหนีตำยโดยใช้ไหวพริบหรือควำมรู้สึกของตัว
ละคร
3. กลวิธีหนีตำยโดยใช้เหตุประจวบหรือเหตุบังเอิญ
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับศิลปะกำรใช้ภำษำ
กำรสร้ำงสรรค์วรรณกรรมนั้น ต้องอำศัยภำษำเป็นสื่อควำม
คิดเพื่อควำมเข้ำใจของผู้อ่ำน
กำรเลือกสรรคำำมำใช้เพื่อให้ตรงกับควำมต้องกำรที่จะสื่อมำกที่สุด
จึงเป็นสิ่งสำำคัญ เพรำะนวนิยำย
เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ในบำงครั้งต้องบรรยำยรำยละเอียดที่ให้ทั้งภำพ
และอำรมณ์ควำมรู้สึก กำรใช้ภำษำที่ดีอย่ำงมีศิลปะ จึงเป็นสิ่ง
สำำคัญที่ไม่อำจมองข้ำม
10
กำรศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ถ้อยคำำนั้น บำงครั้งมีผู้ใช้คำำที่
แตกต่ำงกันไป แต่โดยรวมแล้วควำมหมำยก็มำจำกแหล่งเดียวกัน
ตำมทัศนะของมุทิกำญจน์ จิวำลักษณ์ (2547. หน้ำ 1) ที่ว่ำ
ศิลปะกำรสร้ำงสรรค์ถ้อยคำำหรือข้อควำมเหล่ำนี้รวม
เรียกว่ำ “ศิลปะกำรใช้
”ภำษำ ซึ่งมีผู้ใช้ต่ำงกัน เช่น สำำนวนท่ำทีที่แสดงออก
ท่วงทำำนองกำรเขียน ท่วงทำำนอง
กำรแต่ง และท่วงทำำนองกำรประพันธ์ คำำเหล่ำนี้มีควำม
หมำยในทำำนองเดียวกัน เป็นคำำที่
บัญญัติมำจำกคำำว่ำ Style ในภำษำอังกฤษทั้งสิ้น
ดังนั้น เอกสำรและงำนวิจัยที่จะยกมำเพื่อเป็นแนวทำงกำร
ศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ภำษำต่อไปนี้ จะรวบรวมผลงำนภำยใต้คำำ
ว่ำ Style ในภำษำอังกฤษเป็นหลักซึ่งประกอบด้วย
วนิดำ บำำรุงไทย (2544. หน้ำ 155) “กล่ำวว่ำ
ท่วงทำำนองกำรแต่ง คือ ลักษณะ
อันเป็นสิ่งเฉพำะตนที่ผู้เขียนแสดงออกมำในเรื่องที่เกี่ยวกับ
กำรสรรคำำ และแนวนิยมใน
กำรใช้โวหำร กลวิธีเกี่ยวกับท่วงทำำนองเขียนอันเป็น
ลักษณะเฉพำะบุคคลนั้น มีควำม
สำำคัญในฐำนะเป็นสื่อหรือเครื่องมือที่นักเขียนใช้แสดงออก
หรือนำำเสนอควำมรู้สึกนึกเห็น
ตลอดจนถ่ำยทอดอำรมณ์ควำมสะเทือนใจสู่ผู้อ่ำน ในกำร
บรรยำยหรือพรรณนำภำพ
หรือเหตุกำรณ์เดียวกันของนักเขียนที่มีชั้นเชิงกำรใช้ภำษำ
แตกต่ำงกัน ย่อมจะได้ภำพ
… ”และผลทำงอำรมณ์ที่แตกต่ำงกันด้วย
สำยทิพย์ นุกูลกิจ (2537. หน้ำ 139) กล่ำวถึง ลักษณะ
ของท่วงทำำนองกำรแต่งไว้ ดังนี้
ท่วงทำำนองในกำรแต่งวรรณกรรมของผู้แต่งแต่ละคน
นั้นย่อมมีลักษณะเฉพำะตัว
ไม่ซำ้ำ แบบกัน ทั้งนี้เพรำะผู้แต่งแต่ละคนต่ำงก็มีแบบแผน
ในกำรเลือกสรรคำำ กำรเลือกใช้
11
สำำนวนโวหำรและกำรเรียบเรียงประโยคจึงต่ำงกัน
นอกจำกนี้ผู้แต่งแต่ละคนยังมีทัศนคติหรือ
ท่ำที(Tone) ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งแตกต่ำง
กันอีกด้วย ดังนั้น กำรที่ผู้อ่ำนหลำยคนสำมำรถรู้ได้ว่ำ ตน
กำำลังอ่ำนงำนของผู้แต่งคนใด
โดยไม่ต้องดูชื่อนั้นเป็นเพรำะผู้อ่ำนเหล่ำนั้นรู้จักและสังเกต
สไตล์กำรแต่งของนักเขียนได้
นั่นเอง
ท่วงทำำนองกำรแต่งของนักเขียนแต่ละคนนั้น อำจสังเกตได้
จำกลักษณะต่อไปนี้ คือ (สำยทิพย์ นุกูลกิจ, 2537. หน้ำ 139-
141)
1. กำรเลือกสรรคำำ วิธีกำรเลือกหำคำำมำใช้เขียน
วรรณกรรม โดยคำำนึงถึงทั้ง
ทำงด้ำนรูปศัพท์ เสียงและควำมหมำยของคำำที่เหมำะสมกับ
เนื้อเรื่อง เช่น ในขณะที่ผู้
แต่งบำงคนนิยมคำำง่ำย บำงคนกลับชอบศัพท์สูงหรือใส่
ควำมหมำยพิเศษให้ผู้อ่ำนต้อง
ขบคิด
กำรเลือกสรรคำำ ช่วยทำำให้ภำษำที่ใช้ในกำรเขียน
วรรณกรรมของผู้แต่งมีสำำนวน
โวหำรดี ไพเรำะสละสลวย
เนื่องจำกผู้แต่งเลือกใช้ถ้อยคำำที่ประกอบด้วย
คุณสมบัติ 4 ประกำร คือ ควำม
ชัดเจน ควำมกระชับ ควำมมีอำำนำจในกำรให้ควำมรู้สึก
ทำงอำรมณ์และควำมไพเรำะ
2. กำรเลือกใช้สำำนวนโวหำร กำรที่ผู้แต่ง
พยำยำมคิดหำวิธีกำรต่ำงๆที่จะช่วย
ทำำให้งำนเขียนของตนมีคุณค่ำ น่ำอ่ำน โดยทั่วไปนอกจำก
บอกอย่ำงตรงไปตรงมำแล้ว
อำจใช้
2.1 กำรสร้ำงภำพในจิต ใช้ภำษำเป็นสื่อ
กระตุ้นควำมรู้สึกของผู้อ่ำน ไม่เน้น
ควำมสมจริง แต่เน้นภำพที่ปรำกฏแก่ใจผู้อ่ำน จะเกิดขึ้น
เมื่อผู้อ่ำนมีจินตนำกำร
12
2.2 กำรสร้ำงภำพพจน์ ใช้ถ้อยคำำเปรียบเทียบ
ให้เกิดเป็นภำพ
3. วิธีกำรเรียบเรียงประโยค กำรสร้ำงประโยค
อันเป็นลักษณะเฉพำะตัวบ้ำงก็
ง่ำย สั้น กะทัดรัด บ้ำงก็แบบยำว สละสลวย ประโยค 4
แบบที่นิยมใช้ คือ
3.1 ประโยคสั้น (Attic Sentence) หรือ
ประโยคควำมเดียว
3.2 ประโยคยำวขึ้น (Isocratic Sentence)
หรือประโยคควำมรวม
3.3 ประโยคยำวแบบโวหำร (Cieronian
Sentence) ประโยคที่ผู้แต่งจะต้อง
กล่ำวรำยละเอียดแต่ละอย่ำงไปจนจบประโยค จึงจะมีเนื้อ
ควำมสมบูรณ์เป็นที่เข้ำใจ อำจ
เป็นประโยคคำำถำมที่ไม่ต้องกำรคำำตอบหรือประโยคที่กล่ำว
แบบให้ผู้อ่ำนต้องคิดตีควำม
3.4 ประโยคบำโร้ก (Baroque Sentence)
ประโยคที่มีโครงสร้ำงขำดดุลหรือ
ขำดลักษณะคู่ขนำน โดยคำำนึงถึงควำมผิดถูกทำง
ไวยำกรณ์
4. หำงเสียงของผู้แต่ง (Tone) ทัศนคติหรือท่ำที
ของผู้แต่งที่มีอยู่ต่อสิ่งหนึ่ง
สิ่งใด มีลักษณะใกล้เคียงกับนำ้ำเสียงซึ่งอำจเป็นทำำนอง
ประชด แสดงอำรมณ์ขัน ล้อเลียน
เยำะเย้ย จริงจัง กรำดเกรี้ยว อ่อนหวำน ขมขื่น ฯลฯ หรือผู้
แต่งมีพื้นอำรมณ์อย่ำงไร
บรรยำกำศก็เป็นอย่ำงนั้น ช่วยให้ผู้อ่ำนรู้จักผู้แต่งดีขึ้น ทั้ง
ในด้ำนบุคลิกภำพและนิสัย
ใจคอ และควรพิจำรณำควำมคิดริเริ่มและควำมจริงใจ
ควบคู่ไปด้วย
พรรณนพ สิกกะ (2541. หน้ำ 68) กล่ำวถึงควำมสำำคัญ
“ของภำษำที่มีศิลป์ไว้ว่ำ กำรใช้ภำษำเป็นสิ่งสำำคัญยิ่งในกำร
สร้ำงสรรค์งำนวรรณกรรม ซึ่งนักประพันธ์จะต้องเลือกเฟ้นถ้อยคำำ
สำำนวนโวหำร เพื่อถ่ำยทอดเรื่องรำว ประสบกำรณ์ และควำมรู้สึก
13
นึกคิดของตนให้ผู้อ่ำนรับรู้ เกิดควำมซำบซึ้ง จินตนำกำรและ
”อำรมณ์ต่ำงๆได้ ตรงตำมประสงค์ที่ต้องกำรจะสร้ำงสรรค์
สำำหรับแนวทำงกำรศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ภำษำนั้น มีผู้
ทำำกำรวิจัยไว้แล้ว ดังนี้
สุวรรณ เชื้อนิล (2523. หน้ำ 128 -142) ศึกษำเรื่อง
วิเครำะห์นวนิยำยเรื่องขุนศึกของไม้ เมืองเดิม ใช้เกณฑ์กำรใช้คำำ
สำำนวนภำษำ และสำำนวนโวหำร สรุปได้ว่ำ ผู้ประพันธ์ใช้สำำนวน
ภำษำเรียบง่ำยแบบลูกทุ่งชนบท โวหำรที่ใช้ให้อำรมณ์คึกคัก
ฮึกเหิม และคะนอง เหมำะกับบุคลิกภำพของตัวละคร มีกำรเล่นคำำ
เหมือนสัมผัสอักษรเพื่อให้เกิดจังหวะในนำ้ำเสียง
มัทนำ นำคะบุตร (2523. หน้ำ 146 – 193) ศึกษำเรื่อง
ศิลปะกำรแต่งผู้ชนะสิบทิศของ
ยำขอบในด้ำนท่วงทำำนองแต่งและกลวิธีเสนอเรื่อง ใช้เกณฑ์กำร
ใช้คำำ กำรใช้ประโยค กำรใช้โวหำรและกำรบรรยำยควำม สรุปได้
ว่ำ กำรใช้คำำของยำขอบจะเลือกคำำไพเรำะ และให้ควำมหมำยลึก
ซึ้ง เหมำะกับเนื้อเรื่อง นิยมกำรเล่นคำำด้วยวิธีกำรต่ำงๆ โดยมำกจะ
เลือกคำำที่สำมำรถสร้ำงภำพ สร้ำงควำมรู้สึก และสร้ำงควำมประทับ
ใจแก่ผู้อ่ำน ประโยคที่ใช้เป็นประโยคยำวแบบโวหำร และประโยค
ยำวขึ้น ส่วนกำรใช้โวหำรนั้น เน้นทั้งกำรสร้ำงภำพในจิตและกำร
ใช้ภำพพจน์ กำรบรรยำยควำมนิยมใช้ภำษำง่ำยๆ ที่มีโวหำร
เปรียบเทียบประกอบ
จินตนำ ปรีชำศิลป์ (2530. หน้ำ 183 -243) ศึกษำเรื่อง
วิเครำะห์จินตนิยำยของพนมเทียนใช้เกณฑ์กำรใช้คำำ กำรใช้
สำำนวนโวหำร สรุปได้ว่ำ กำรใช้คำำของพนมเทียน มีทั้งคำำที่เป็น
แบบเก่ำ เข้ำใจยำกและง่ำยประสมกัน เล่นเสียง เล่นคำำ เพื่อทำำให้
เกิดควำมรู้สึก สำำนวนที่ใช้มีทั้งภำพในจิต และภำพพจน์ ศิลปะกำร
ใช้ภำษำของพนมเทียนจึงมีควำมไพเรำะสละสลวย ประทับใจผู้
อ่ำน
สำยสร้อย สุดหอม (2530. หน้ำ 191-211) ศึกษำเรื่อง
นวนิยำยอิงประวัติศำสตร์เรื่องเศวตฉัตรน่ำนเจ้ำ : กำรศึกษำใน
ด้ำนกลวิธีกำรเสนอเรื่องและท่วงทำำนองกำรแต่ง ใช้เกณฑ์กำรใช้
คำำ กำรใช้ประโยค กำรใช้โวหำรและกำรบรรยำยควำม สรุปได้ว่ำ
ลพบุรีเน้นกำรเลือกเสียงของคำำและกำรใช้คำำให้เหมำะสมกับเนื้อ
เรื่อง รวมไปถึงเลือกใช้คำำที่สำมำรถสร้ำงควำมรู้สึก จินตนำกำร
และควำมประทับใจแก่ผู้อ่ำน กำรใช้ประโยคมีทั้งประโยคยำวแบบ
14
โวหำร ประโยคยำวขึ้น และประโยคสั้น โวหำรที่ปรำกฏ คือ กำร
สร้ำงภำพในจิตและภำพพจน์
ปรำณี พรหมจรรย์ (2531. หน้ำ 154-204) ศึกษำเรื่อง
“วิเครำะห์เรื่องสั้นของ ร. ”จันทพิมพะ ในแง่กลวิธีกำรแต่ง ศิลปะ
กำรใช้ภำษำและแนวคิด ใช้เกณฑ์กำรใช้คำำ กำรใช้ประโยค กำร
ใช้สำำนวนโวหำร และภำพพจน์ สรุปได้ว่ำ ร.จันทพิมพะจะ
เลือกสรรคำำอย่ำงประณีตเพื่อให้คำำนั้นมีควำมไพเรำะสละสลวย
และแสดงภำพได้อย่ำงชัดเจน กำรใช้คำำมีศักดิ์ นับเป็นสำำนวน
โวหำรที่เด่นที่สุด กำรนำำเสนอภำพพจน์ใช้โวหำรอุปมำเป็นส่วน
ใหญ่ ตำมด้วยอุปลักษณ์ ทำำให้กำรใช้ภำษำนั้นเหมำะสม
สอดคล้องและเห็นภำพได้อย่ำงชัดเจน
มุทิกำญจน์ จิวำลักษณ์ (2547. หน้ำ 4-5) ศึกษำเรื่อง
ศิลปะกำรใช้ภำษำในงำนสำรคดีของศศิวิมล ใช้เกณฑ์ศิลปะกำร
สรรคำำ และศิลปะกำรใช้ภำพพจน์ สรุปได้ว่ำ ศิลปะกำรใช้ภำษำ
ของศศิวิมลนั้นมีลักษณะเฉพำะตัว และสำมำรถสรรคำำที่ให้ภำพ
ชัดเจนมำถ่ำยทอดอำรมณ์ควำม
รู้สึกและจินตนำกำรได้เป็นอย่ำงดี
จำกงำนวิจัยดังกล่ำว สำมำรถสรุปแนวทำงกำรศึกษำเรื่อง
ศิลปะกำรใช้ภำษำได้ดังนี้
1. ศิลปะด้ำนกำรใช้ถ้อยคำำ
2. ศิลปะด้ำนกำรใช้ประโยค
3. ศิลปะด้ำนกำรใช้โวหำร
“ ”เอกสำรที่เกี่ยวข้องกับผลงำนของ กิ่งฉัตร
“ ” ’ ‘ปำริฉัตร ศำลิคุปต์ คือ นำมจริงของ กิ่งฉัตร ที่อดีต
เคยเป็นผู้สื่อข่ำว
หนังสือพิมพ์ผู้จัดกำรรำยสัปดำห์ประมำณปีกว่ำ ขณะ
เดียวกันใช้ช่วงเวลำที่เคยศึกษำ
อยู่ในชั้นมัธยมศึกษำตอนต้น-ปลำย โรงเรียนสตรีวิทยำ
–ด้วยกำรเขียนเรื่องสั้น
ประสบกำรณ์ในวำรสำรของโรงเรียน และเขยิบฐำนะได้รับ
กำรตีพิมพ์ลงในคอลัมน์เด็ก
และคอลัมน์ วัยหนุ่ม-สำว นิตยสำรสตรีสำรำยสัปดำห์ เรื่อง
“ ” “ศิลปินทอมทอม กินเจที่
15
” “ ” “ภูเก็ต กับ คุณสุกคุณใส นิตยสำรแพรวสุดสัปดำห์ บ้ำน
”อัญชัน นิตยสำรขวัญเรือน
รำยปักษ์ ตั้งแต่กำำลังศึกษำอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะ
วำรสำรศำสตร์และสื่อสำรมวลชน
มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ เวลำเดียวกันก็ได้เริ่มลองหัด
เขียนนวนิยำยเรื่องยำว 30 ตอน
“ ”จบ คือ พรพรหมอลเวง พร้อมไปกับสำำเร็จกำรศึกษำเป็น
วำรสำรศำสตรบัณฑิตปี 2532
และปี 2534 “ ”เรื่อง พรพรหมอลเวง ก็ได้รับกำรตีพิมพ์ใน
นิตยสำรโลกวลี แล้วยังได้รับกำร
รวมเล่มเป็นครั้งแรก เรื่องแรกในชีวิตคนขำยฝันพร้อมทั้ง
ได้ถูกนำำไปทำำเป็นละครโทรทัศน์
สถำนีโทรทัศน์สีช่อง 7 2535 ผสำนกับกำรลำออกจำก
อำชีพผู้สื่อข่ำวในปีนั้นด้วยเช่นกัน
หลังจำกนั้นต่อมำจึงได้มีนวนิยำยทยอยออกมำเป็นระยะ
“ ” “คือ มำยำตวัน ละครเล่ห์
” “ ” “ ” “เสน่หำ เสรำดำรัล ด้วยแรงอธิษฐำน และ ดวงใจ
”พิสุทธิ์ เป็นต้น...” (สุธำทิพย์ โมรำ
ลำย, 2538. หน้ำ 45-46 อ้ำงอิงจำกพินิจ หุตะจินดำ,
2537. ไม่มีเลขหน้ำ)
กิ่งฉัตร เป็นนักเขียนที่ประสบควำมสำำเร็จมำกคนหนึ่ง
ดังจะเห็นได้จำกกำรที่มี
ผู้อ่ำนยอมรับผลงำนของเธออย่ำงมำกมำย นวนิยำยหลำย
เล่มของเธอตีพิมพ์มำกกว่ำ 3
“ครั้ง และอีกในหลำยๆเรื่องก็ถูกนำำไปสร้ำงเป็นละคร
โทรทัศน์ ไม่ว่ำจะเป็นเสรำดำรัล,
ตำมรักคืนใจ, พรพรหมอลเวง, ด้วยแรงอธิษฐำน, บ่วง
หงส์, มนต์จันทรำ, แสงดำวฝั่ง
”ทะเล (คุยกับกิ่งฉัตร, 2544. เว็บไซด์)
“ ’จำกกำรให้สัมภำษณ์ กิ่งฉัตร ได้กล่ำวถึงควำมเป็นมำและ
ทัศนะเกี่ยวกับวิธีผลิตผลงำนของตัวเองไว้ซึ่งสรุปได้ดังนี้ (คุยกับ
กิ่งฉัตร,2544. เว็บไซด์)
กิ่งฉัตร เริ่มเขียนนวนิยำยเมื่อตอนเรียนปริญญำตรีปี
สุดท้ำย แต่ผลงำนที่คิดว่ำทำำให้ผู้อ่ำนรู้จักเธอคือ เสรำดำรัล เพรำะ
16
เป็นเรื่องที่ตีพิมพ์ลงนิตยสำร สกุลไทย ซึ่งมีผู้อ่ำนจำำนวนมำก ส่วน
วิธีกำรเขียนและสร้ำงตัวละครในมีควำมต่อเนื่องนั้น กิ่งฉัตรอำศัย
กำรจดรำยละเอียดของตัวละครแต่ละตัวไว้ในตอนต้นเพื่อให้เกิด
ควำมชัดเจนและแม่นยำำ อย่ำงไรก็ดี เมื่อจะมีกำรรวมเล่มผู้เขียนจะ
ทำำกำรตรวจทำนอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดควำมรำบรื่นของเนื้อเรื่อง
ระยะเวลำในกำรผลิตผลงำนมักจะเท่ำกับเวลำที่ใช้ตีพิมพ์ลงใน
นิตยสำร โดยเฉลี่ยเขียนปีละ 2-3 เรื่อง กำรสร้ำงพล็อตเรื่องมักนำำ
มำจำกประสบกำรณ์ช่วงเวลำ 2 ปีที่เป็นนักข่ำว ประกอบกับกำรนำำ
เรื่องรำวใกล้ตัวมำเขียนเป็นเรื่องแม้แต่เรื่องเกี่ยวกับสัมผัสพิเศษ
ของตัวละคร กิ่งฉัตรก็นำำประสบกำรณ์จำกของเพื่อนมำเป็น
วัตถุดิบในกำรเขียน กลวิธีกำรตั้งชื่อตัวละคร มักจะใช้ชื่อที่เปิด
จำกตำำรำตั้งชื่อลูกเพื่อค้นหำควำมหมำยของชื่อที่เหมำะสมกับตัว
ละคร แต่หำกเป็นกำรตั้งชื่อเรื่องมักจะพิถีพิถันให้สำมำรถ
ครอบคลุมประเด็นที่ต้องกำรนำำเสนอให้ได้มำกที่สุด กลวิธีที่เกี่ยว
กับกำรให้ตัวละครในเรื่องหนึ่งไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับนวนิยำยอีก
เรื่องหนึ่ง กิ่งฉัตรให้สัมภำษณ์ไว้ ดังนี้
เพรำะชอบอ่ำนสไตล์นี้ กำรเขียนหนังสือเนี่ยต้อง
ถือว่ำคนเขียนคือคนอ่ำนคนแรก
อ่ำนแล้วมีควำมสุขกับสิ่งนั้นไม่ใช่ว่ำเรำอยำกจะได้ซีไรท์
มำกเลยแต่เรำเป็นคนที่โรแมนติก
หวำนแหววมำกเลยแล้วต้องมำฝืนเขียนเพื่อให้เป็นซีไรท์
คงไม่ได้ อ่ำนแล้วมันจะฝืน
เพรำะไม่ใช่ตัวตนของเรำ ไม่ใช่ประสบกำรณ์ ไม่ใช่ควำม
รู้สึกของเรำ ที่จะถ่ำยทอดออกไป
งำนคงไปไม่ดีเท่ำไหร่ เพรำะ ฉะนั้น เขียนหนังสือที่เรำ
ชอบ เขียนหนังสือที่เรำถนัด พอเรำ
อ่ำน แล้วเรำมีควำมสุข เอ๊ะ…สนุกดีนะ ในผู้อ่ำนร้อยคน
อำจจะมีซัก 50 คน หรือ 20 คน
ที่มีรสนิยมเหมือนเรำ เรำก็ต้องกำรคนกลุ่มนั้น แค่นั้นเองค่ะ
ที่จะมำเป็นคนอ่ำนของเรำ
คือยึดที่คนเขียนก่อน ถ้ำใครอ่ำน “ปริศนำ” “เจ้ำสำวของ
อำนนท์” “รัตนำวดี” ชอบนิยำย
พวกนี้มำก เพรำะอ่ำนแล้วเหมือนเรำเปิดประตูออกไปแล้ว
เจอะเพื่อนเก่ำ ได้รู้เรื่องของเค้ำ
17
รู้สำรทุกข์สุขดิบ คนนี้แต่งงำนมีลูกแล้วเหมือนได้ข่ำวจำก
เพื่อนเก่ำ เป็นควำมชอบส่วนตัว
ก็เลยใช้กลวิธีนี้ นักเขียนต่ำงประเทศมีเยอะมำก ของไทยก็
มี อย่ำงคุณพนมเทียน จะมีตัว
ละครตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องไปทุกเรื่อง สกำวเดือน รัศมีแข จะ
มีท่ำนชำยสดำยุ คุณพนมเทียน
บอกว่ำแค่จั่วหัวว่ำมีท่ำนชำยสดำยุ ก็มีคนอยำกอ่ำน นั่นคือ
ควำมผูกพันของผู้อ่ำนกับตัว
ละคร และควำมรู้สึกนั้นจะเป็นแรงบันดำลใจให้เขียนเรื่อง
แนวนี้ออกมำแต่ก็ไม่ทุกเรื่องนะ
คะ ต้องดูว่ำเรื่องนั้นมีตัวละครเด่นขึ้นมำ ที่ทุกคนทิ้งไป เรำ
ก็เอำเข้ำมำเป็นตัวเอกอีกเรื่อง
หนึ่ง เหมือนทุกคนมีเรื่องรำวของตัวเอง เหมือนกับว่ำทำำไม
คุณพูดถึงคนนี้ แล้วทำำไมไม่
พูดถึงคนนี้ล่ะ ทั้งๆ ที่เค้ำก็มีชีวิตของเค้ำนะ นี่คือจุดเริ่มต้น
จำกกำรเขียนนิยำยแบบนี้
จำกเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้กล่ำวมำ จะ
นำำมำเป็นหลักในกำรวิเครำะห์นวนิยำยของกิ่งฉัตร เพื่อหำข้อสรุป
เกี่ยวกับกลวิธีกำรหนีตำยของตัวละครเอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำร
สร้ำงแรงจูงใจในกำรอ่ำนนวนิยำย รวมทั้งใช้เป็นหลักในกำร
วิเครำะห์ศิลปะกำรใช้ภำษำของผู้เขียนด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิด
ประโยชน์โดยรวมในกำรเข้ำถึงอรรถรสของงำนประพันธ์
18
บทที่ 3
วิเครำะห์กลวิธีหนีตำยของตัวละครเอก
และศิลปะกำรใช้ภำษำ
ในกำรวิเครำะห์กลวิธีหนีตำยนั้นจะยกตัวอย่ำงเหตุกำรณ์
ในตอนที่ตัวละครเอกตกอยู่ในอันตรำยก่อนเป็นลำำดับแรก แล้วจึง
ค่อยวิเครำะห์กลวิธีหนีตำยและศิลปะกำรใช้ภำษำ
จำกกำรศึกษำนวนิยำยทั้งหมดที่คัดเลือกมำนั้น พบว่ำมีกำร
ปรำกฏฉำกหนีตำยของตัวละครเอกในนวนิยำยเรื่องต่ำงๆ ดังนี้
1. ดั่งไฟใต้นำ้ำ
เรื่องรำวของหญิงสำวชื่อรุจรวีที่สูญเสียควำมทรงจำำของ
ตนเองในอดีตไปเพรำะอุบัติเหตุ วันหนึ่งเธอได้ทรำบว่ำตนเอง
แต่งงำนแล้ว และกำำลังจะหย่ำขำดจำกสำมี คือ พลิศ ในขณะที่เธอ
ยังจำำควำมในอดีตไม่ได้นั้น พลิศ ไม่ต้องกำรจะทำำร้ำยจิตใจเธอ
จึงยังไม่ยอมหย่ำ เขำรับเธอกลับมำบ้ำนเพื่อฟื้นควำมทรงจำำ แต่
เพียงแค่คืนแรกที่กลับมำ รุจรวีก็พบว่ำมีคนพยำยำมจะฆ่ำตนและ
คนร้ำยนั้นก็ลงมือทุกครั้งที่มีโอกำส
เหตุที่มีฉำกพยำยำมฆ่ำตัวละครเอกหลำยครั้ง เนื่องจำกรุจ
รวีเป็นผู้ที่รู้ควำมลับเรื่องกำรขนสินค้ำหนีภำษีของน้องสำมี
เหตุกำรณ์ต่ำงๆมีดังนี้
เหตุกำรณ์ที่ 1
19
เกือบตีหนึ่งถึงเริ่มง่วงงุน...รุจรวีหลับตำลงผ่อนลม
หำยใจยำว ทว่ำอึดใจถัดมำ
ในควำมรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นหล่อนคล้ำยได้ยินเสียงประตู
เปิดอย่ำงแผ่วเบำ เหมือนมี
ควำมเคลื่อนไหว...มีเงำเข้ำมำใกล้กำำลังจะลืมตำขึ้นดูก็
พอดีกับมีอะไรบำงอย่ำงนิ่มๆโปะ
ลงมำเต็มหน้ำอำจจะเป็นเพรำะควำมที่รู้ตัวอยู่บ้ำงทำำให้รุจ
รวีพลิกหน้ำไปทำงด้ำนหนึ่ง
โดยสัญชำตญำณ พร้อมๆกับดิ้นรนสุดแรงเกิด
โชค...เป็นของหล่อน เพรำะเลือกนอนอยู่เกือบชิดริม
ด้ำนหนึ่งของเตียง พอถีบ
เตะเอำชีวิตรอดเต็มที่ร่ำงก็เลยไถลกลิ้งตกลงจำกเตียง
หมอนหรืออะไรที่กดทับลงบน
ใบหน้ำหลุดออกในจังหวะที่ตัวหล่อนตกกระทบพื้นโครม
ใหญ่ (กิ่งฉัตร,2542. หน้ำ 125)
กลวิธีที่ใช้
ในเหตุกำรณ์นี้ เมื่อตัวละครเอกรู้ตัวว่ำถูกลอบทำำร้ำยโดยที่
ไม่สำมำรถจะร้องขอควำมช่วยเหลือได้ จึงอำศัยกำรเอำตัวรอด
ด้วยวิธีดิ้นรนต่อสู้ซึ่งก็สำมำรถรักษำชีวิตไว้ได้ในที่สุด แต่ตัวละคร
เอกก็ได้รับบำดเจ็บจำกกำรต่อสู้ครั้งนี้ด้วย
ศิลปะกำรใช้ภำษำ
ถ้อยคำำที่ปรำกฏในกำรบรรยำยเหตุกำรณ์นี้ เป็นถ้อยคำำสั้น
ง่ำย ได้ใจควำม และไพเรำะ เช่น ง่วงงุน ให้เสียงสัมผัส ครึ่ง
หลับครึ่งตื่น ดิ้นรนสุดแรงเกิด ให้ภำพในจิตด้วยสำำนวน
โวหำร เป็นต้น ผู้เขียนใช้ประโยคสั้นที่ได้ใจควำมในกำร
บรรยำยเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นตำมลำำดับ
เหตุกำรณ์ที่ 2
ในเหตุกำรณ์นี้ เป็นกำรเล่ำผ่ำนกระแสสำำนึกของตัวละคร
รุจรวี นึกถึงอดีตที่ผ่ำนมำของตนได้ทันทีที่เธอถูกน้องสะใภ้จ่อปืนที่
ศีรษะเพื่อบังคับหำยออกไปจำกบ้ำนอีกครั้ง ควำมทรงจำำที่ซำ้ำรอย
เดิมจึงกลับมำและเธอก็ได้รู้ว่ำ ครั้งที่แล้ว เธอถูกกระทำำอย่ำงไร
ก่อนที่จะกลำยเป็นคนสูญเสียควำมทรงจำำ
20
หญิงสำวฟื้นลืมตำขึ้นมำอีกครั้งท่ำมกลำงควำมมืด
คับแคบร้อนอ้ำวอย่ำง
ประหลำดและควำมสั่นสะเทือน ศีรษะของหล่อนปวดเหมือน
จะระเบิดและมองอะไรไม่
เห็น ได้แต่คลำำเปะปะ...แปลกที่เพดำนห้องเตี้ยขนำดที่
หล่อนไม่สำมำรถเอื้อมมือจนสุด
ได้ และเตียงของหล่อนก็สั่นเหมือนเครื่องยนต์...
ไม่...นี่ไม่ใช่ห้อง หล่อนกำำลังอยู่ท้ำยรถต่ำงหำก
ท้ำยรถที่กำำลังแล่นเสียด้วย
ด้วยควำมหวำดกลัว รุจรวีทั้งทุบ ถีบ และร้องเสียง
หลงเนิ่นนำนจนกระทั่งมือ
เท้ำหล่อนระบมและลำำคอแห้งผำกเหมือนทะเลทรำย กว่ำ
ควำมสั่นสะเทือนจะหยุดลงใน
ที่สุด หญิงสำวแทบจะร้องออกมำด้วยควำมยินดีเมื่อใคร
บำงคนเปิดกระโปรงท้ำยรถขึ้น
หล่อนรีบกระเสือกกระสนสูดอำกำศบริสุทธิ์ของยำมคำ่ำคืน
เข้ำเต็มปอดจนแทบสำำลัก
ยศวินมองพี่สะใภ้ผู้อ่อนวัยกว่ำด้วยสีหน้ำเหมือนถูก
ผีหลอก รุจรวีคิดว่ำเขำคง
ไม่รู้มำก่อนว่ำหล่อนอยู่ในท้ำยรถ...จึงตกใจเมื่อได้ยินเสียง
เคำะเรียก
“ช่วยด้วยค่ะ คุณวินช่วยรวีด้วย...” หล่อนละลำ่ำละ
ลักบอกเมื่อพยำยำมปีน
ออกมำจำกท้ำยรถอย่ำงทุลักทุเล แทบจะหล่นลงกองกับพื้น
ด้วยซำ้ำโดยที่อีกฝ่ำยไม่ได้ยื่น
มือเข้ำมำช่วยเลย
“พี่อิน พี่อินพยำยำมจะฆ่ำรวี จริงๆนะคะ พี่อินขน
ของเถื่อนพอรวีรู้เรื่องเข้ำ พี่
อินก็เลยจะฆ่ำรวีปิดปำก”
“มันเป็นอุบัติเหตุ” ชำยหนุ่มเอ่ยเบำๆ
หำกคำำพูดเบำๆนั้นกระทบใจรุจรวีอย่ำงรุนแรง ยิ่ง
เมื่อเขำหยิบกวำงทองเหลือง
ขึ้นจำกมุมหนึ่งของท้ำยรถ เช็ดอย่ำงดีจนหมดจดก่อนจะ
โยนทิ้งลงข้ำงทำง หญิงสำวก็เริ่ม
เอะใจ หำกสมองยังพอปะติดปะต่อเรื่องได้
21
กำรขนของหนีภำษีต้องใช้เรือ ต้องมีกำรติดต่อกับ
ผู้คนมำกมำยทั้งคนขำยและ
คนซื้อ อินทิรำอยู่แต่ในบ้ำนตลอดเวลำ หล่อนจะเอำเวลำ
ที่ไหนไปดูแลสินค้ำ เอำเรือที่
ไหนไปขนของ แน่ละ...เรื่องนี้จะต้องมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง
อีก คนที่สะดวกในกำรขนถ่ำย
สินค้ำ คนที่คุมเรือ คนที่สำมำรถติดต่อทั้งคนซื้อและคนขำย
ได้ตลอดเวลำ...
ยศวิน!
“คุณ คุณก็ร่วมมือกับพี่อินด้วย!“ รุจรวีหลุดปำกเบำ
หวิว ดวงตำเบิกกว้ำงด้วย
ควำมหวำดกลัว
“พี่อินเป็นนำยทุนให้ผม“ ชำยหนุ่มรับอย่ำงไม่เดือด
ร้อน
“ทำำไม ในเมื่อคุณกับคุณอินก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่อง
เงิน คุณลิศบอกว่ำคุณมีเงิน มี
มรดก...”
“ไอ้เงินล้ำนกว่ำๆในธนำคำรน่ะหรือ... ผมใช้มัน
หมดไปนำนแล้วและไอ้ผมมันก็
มือเติบเสียด้วย จะให้ประหยัดตอนนี้ คงไม่ไหว เรำเลยต้อง
แก้ปัญหำด้วยกำรขนของนิด
หน่อย”
“มันผิดกฎหมำย” หญิงสำวว่ำ หันรีหันขวำงด้วย
ควำมหวำดกลัว
แม้จะดูไม่ดึกมำกนัก แต่ถนนที่ยศวินจอดรถอยู่
เปลี่ยวเหลือเกิน นอกจำกรถคัน
ดำำของพลิศที่หล่อนเพิ่งปีนออกมำแล้ว ไม่มีรถอื่นสวนไปมำ
อีกแม้แต่คันเดียว เขำคงคิด
ว่ำหล่อนตำยแล้วและกำำลังจะเอำศพหล่อนมำทิ้งไว้บนถนน
เปลี่ยว
“ก็ไม่หนักหนำอะไรหรอก จับได้อย่ำงมำกก็แค่ถูก
ยึดถูกปรับ”เขำยักไหล่ “แต่พี่
อินกลัวเกินไป...ลงมือกับคุณเสียจนหมอบ ทีนี้เลยกลำย
เป็นเรื่องใหญ่ ...ฆ่ำคนตำยไป”
22
“แต่รวียังไม่...”
“นั่นสิ” ยศวินยิ้ม “และผมก็คงจะปล่อยคุณไปไม่ได้
เสียด้วย ถึงจะเปลี่ยนจำก
ฆำตกรมำเป็นพยำยำมฆ่ำ มันก็ยังเป็นข้อหำที่หนักอยู่ดี
...ไม่ละ...ผมไม่อยำกให้พี่อิน
ต้องมำเสี่ยงกับคุณ”
สีหน้ำเหี้ยมเกรียมของเขำทำำให้รุจรวีผงะถอยหลังไป
ก้ำวหนึ่งอย่ำงไม่รู้ตัว หลุด
ปำกวิงวอนไปว่ำ
“คุณวินคะ กรุณำเถอะ ปล่อยรวีไปเถอะ...รวีสัญญำ
ว่ำจะไม่บอกใครว่ำเกิดอะไร
ขึ้น” หล่อนเนื้อตัวสั่น ยกมือไหว้อ้อนวอนเขำอย่ำงน่ำ
สงสำร นำ้ำตำไหลละลำยเลือดที่แห้ง
กรังบนหน้ำจนแลแดงเปรอะไปหมด
“จะไม่พูดไม่บอกใครทั้งนั้น”
“แม้แต่พี่ลิศ ?” ชำยหนุ่มถำม
“ค่ะ ค่ะ แม้แต่คุณลิศ!” รีบรับคำำพลำงถอยพลำง หำก
เขำยังสืบเท้ำตำมหล่อน
อย่ำงคุกคำม ยิ้มอย่ำงสงสำรแกมสมเพช
“ผมจะเชื่อคำำพูดพี่สะใภ้อย่ำงคุณได้แค่ไหนกัน ดูท่ำ
คนอย่ำงคุณจะไม่รู้จักรักษำ
สัญญำเท่ำไหร่เลยนี่”
“รวีจะทำำค่ะ จะไม่พูดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น คุณวิน
”ปล่อยรวีไปเถอะ
ยศวินเหมือนมีทีท่ำลังเลอยู่ครู่ก่อนถอนใจ
“ควำมจริงผมก็ไม่อยำกให้เรื่องมันเกินเลยแบบนี้
และในเมื่อคุณก็สัญญำ
มั่นคงอย่ำงนี้ผมก็จะปล่อยคุณไป ไปแล้วจำำไว้ให้แม่นนะ
ว่ำ จะอยู่ในสวรรค์หรือนรก
ก็อย่ำได้พูดเรื่องนี้ขึ้นเป็นอันขำดทีเดียว ไม่งั้นผมเอำ
”คุณตำยแน่
พูดจบชำยหนุ่มหันหลังกลับขึ้นรถและขับแล่นออกไป
ทิ้งให้หญิงสำวยืนอยู่กลำง
ถนน แทบจะทรุดลงกองกับพื้นด้วยควำมโล่งอก
23
หล่อนเคว้งคว้างอยู่ในความมืดพักใหญ่ ก่อนรวบรวม
แรงและความกล้าตัดสินใจ
ออกเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่ยศวินไป หวังว่าอีก
ไม่นานคงมีแสงไฟมีรถหรือผู้คน
ที่จะร้องขอความช่วยเหลือได้บ้าง แต่เท้าเปล่าบนถนน
ลาดยางมะตอยที่เต็มไปด้วยกรวด
ทรายและหัวที่ปวดตุบๆทำาให้เดินได้ไม่เร็วนัก
มะงุมมะงาหราอยู่บนถนนมืดๆได้ไม่ถึงห้า
นาที แสงไฟสว่างส่องเป็นลำามาจากเบื้องหลัง รุจรวีแทบจะ
ร้องออกมาด้วยความยินดี…
หล่อนถลากลางถนนเพื่อโบกให้หยุด
หากเมื่อลำาแสงส่องเข้ามาใกล้…ลักษณะดวงไฟที่คุ้น
ตากและความเร็วของรถที่
ดูเหมือนจะเร่งเครื่องขึนทำาเอาคนกลางถนนกลัวจนหัวใจ
แทบหยุดเต้น
ยศวินโกหก!
แม้รุจรวีสัญญาว่าจะไม่พูด แต่ญาติผู้น้องของพลิศไม่
เคยคิดจะปล่อยหล่อนไป
ชายหนุ่มทำาเหมือนจากไป แต่ความจริงแล้วเขาไปกลับรถ
เพื่อมาไล่ล่า หญิงสาวกระตุก
ไปทั้งตัวด้วยความกลัวและความกลัวนั่นเองที่กระตุ้นให้หัน
หลังกลับแล้วเริ่มต้นวิ่งสุดแรง
กำาลัง หากดวงไฟกลมหน้ารถก็พุ่งตรงเข้ามาราวกับปีศาจที่
กระหายเหยื่อ
สิ่งสุดท้ายที่หล่อนจำาได้คือเสียงกรีดร้องและความเจ็บ
ปวดอย่างแสนสาหัส ยาม
เมื่อร่างของตัวเองกระทบเข้ากับหน้าหม้อรถอย่างแรง ไฟ
หน้ารถสว่างจ้า ก่อนทุกสิ่งทุก
อย่างจะดับสนิทลง! (กิ่งฉัตร, 2542.หน้า 362-372)
กลวิธีที่ใช้
ในเหตุการณ์นี้ ตัวละครเอกใช้การต่อรองกับคนร้ายก่อนใน
ครั้งแรก แต่เมื่อทราบว่าไม่สำาเร็จ จึงอาศัยการวิ่งหนีอย่างเต็ม
กำาลัง แต่ยังก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ ตัวละครเอกได้
รับบาดเจ็บมากถึงขั้นสูญเสียความทรงจำา
24
ศิลปะการใช้ภาษา
เหตุการณ์นี้มีลักษณะเด่นที่บทสนทนา ดังนั้น การใช้ถ้อยคำา
ภาษาของผู้เขียนจึงเป็นไปตามลักษณะการพูดจาปกติ แต่เน้นให้
สอดคล้องกับเหตุการณ์ และอาศัยการบรรยายเป็นตัวบอกเล่า
อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในอารมณ์ต่างๆ ซึ่งสามารถ
ถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี เช่น ในตอนนี้ตัวละครเอกเห็นผู้ร้ายทำา
หน้าตกใจเมื่อพบว่าตนเองนอนอยู่หลังรถนั้น ผู้เขียนบรรยาย
ความรู้สึกของตัวละครเอกตามลักษณะของผู้ที่ไม่รู้ว่า ชายตรง
หน้าคือผู้ร้าย การที่เขาแสดงอาการตระหนกตกใจนั้นก็เป็นเพราะ
ไม่คิดว่าตัวละครเอกจะฟื้น แต่เธอกลับมองว่าเป็นเพราะเขาไม่
ทราบมาก่อนว่าเธอถูกจับใส่ไว้หลังรถ ผู้เขียนมักจะใช้การเรียบ
เรียงประโยคแบบยาวขึ้น และประโยคยาวแบบโวหาร โดยไม่ลืมที่
จะแทรกการใช้ความเปรียบไว้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างชัดเจน
เช่น หากดวงไฟกลมหน้ารถก็พุ่งตรงเข้ามาราวกับปีศาจที่
กระหายเหยื่อ
2. ตามรักคืนใจ
เรื่องราวของหญิงสาวชื่อ นารา ที่ต้องการตามหาพ่อของ
ตนเอง จึงไปขอสมัครทำางานในไร่ที่พ่อตนทำางานอยู่ โดยหลอก
คนอื่นว่าเป็นลูกสาวชาวบ้าน แต่ที่จริงแล้วเธอคือหลานสาวของ
นายธนาคารใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยกับการทำางานหนัก ความไม่ถนัดใน
การทำางานไร่ทำาให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว แต่ความไม่เดียงสาของ
นาราก็ทำาให้ นายสิงห์ เจ้าของไร่ หลงรัก เมื่อคู่แข่งทางธุรกิจ
ทราบว่าคนรักของนายสิงห์ คือ นารา จึงวางแผนลักพาตัวเพื่อแก้
แค้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตัวละครเอกต้องเสี่ยงหนีตายจากการ
ถูกลักพาตัวซึ่งแม้ว่าหนทางที่ถูกลักพาไปนั้นจะเป็นที่ลาดชันเลียบ
เขา แต่เมื่อรู้ว่าจะถูกฆ่าปิดปาก เธอก็ตัดสินใจกระโดดหน้าผาหนี
ทันที โดยหวังว่าอย่างน้อยก็อาจจะยังพอมีโอกาสรอดชีวิต
หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆพยายามสงบจิตใจไม่ให้
กลัวจนขาดสติ สายตากวาด
มอง หาทางหนีทีไล่อย่างรวดเร็ว ผู้ชายสามคนยืนอยู่เข้า
มุมในลักษณะสามเหลี่ยมแคบๆ
25
ตัวนายเรืองบังหล่อนไว้เกือบมิด ถ้าขยับตัวเร็วๆหล่อนอาจ
จะโดดลงจากตรงนี้ลงไปยัง
พื้นข้างล่าง แม้จะชันมากกว่าลาดเอียง แต่โอกาสรอดอาจ
จะมี…
ระหว่างที่นาราพยายามขยับถอยให้ชิดด้านสันเขา
มากที่สุด นายเรืองซึ่งหน้า
เผือดสีลงเหงื่อกาฬแตกพลั่ก มองมือที่กุมด้ามปืนของคน
ตรงหน้าเขม็ง ยังกลั้นใจถาม
เสียงสั่นว่า
“เอามาให้ฉันทำาไมล่ะพี่”
“อยากรู้เดี๋ยวไปถามนังผู้หญิงดูในนรกแล้วกัน ผู้หญิง
ก็อย่างงี้แหละมึง ชอบคิด
มาก ขี้ระแวง …แต่แปลกที่มันมักคิดถูกเสียด้วย”
ปืนด้ามสั้นถูกชักออกมา นาราตัดสินใจวินาทีนั้น…
ไหนๆจะตายแล้ว ขอตายด้วย
ตัวเองดีกว่างอมืองอเท้าให้เขาส่องเอาง่ายๆ
หญิงสาวหมุนตัววิ่งดิ่งลงไปในความชันของลาดเขา
ทันที !
(กิ่งฉัตร, 2542. หน้า 480)
กลวิธีที่ใช้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภาวะอย่างที่คาดการณ์ไว้แล้ว ตัวละคร
เอกก็ตั้งสติแล้วตัดสินใจเสี่ยงตายเอง ด้วยการกระโดดลงหน้าผา
แทนที่จะยอมให้โจรลักพาตัวฆ่าโดยหวังพึ่งโชคชะตาว่าอาจทำาให้
รอดชีวิตได้
ศิลปะการใช้ภาษา
ยังคงใช้คำาง่ายๆ และประโยคความเดียวต่อเนื่องกัน มักใช้
กลวิธีการเล่าเรื่องแบบสลับ ระหว่างแบบรู้แจ้ง กับแบบบุคคลที่ 1
เช่น ปืนด้ามสั้นถูกชักออกมา นาราตัดสินใจวินาทีนั้น…
ไหนๆจะตายแล้ว ขอตายด้วยตัวเองดีกว่างอมืองอเท้าให้
เขาส่องเอาง่ายๆ
3. มายาตวัน
เรื่องราวการติดตามทำาข่าวระหว่างนักข่าวสาวและดาราดัง
มัทนากับเขตต์ตวัน ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกพบ เพ
26
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร
กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร

More Related Content

Similar to กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร

นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52panneem
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52panneem
 
หนังสืออ้างอิง...
หนังสืออ้างอิง...หนังสืออ้างอิง...
หนังสืออ้างอิง...krujee
 
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5ปวริศา
 
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5ปวริศา
 
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1vanichar
 
งานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบ
งานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบงานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบ
งานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบToantaku Srimongkol
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนkrubuatoom
 

Similar to กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร (10)

นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
 
หนังสืออ้างอิง...
หนังสืออ้างอิง...หนังสืออ้างอิง...
หนังสืออ้างอิง...
 
Short film2012
Short film2012Short film2012
Short film2012
 
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
บทเรียน เรื่อง คำกริยา ป.5
 
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
 
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
 
งานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบ
งานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบงานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบ
งานวิเคราะห์คุณภาพข้อสอบ
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียน
 

More from Kun Cool Look Natt

การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ
การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ
การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ Kun Cool Look Natt
 
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง Kun Cool Look Natt
 
บรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
บรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่างบรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
บรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่างKun Cool Look Natt
 
คำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่าง
คำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่างคำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่าง
คำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่างKun Cool Look Natt
 
แนวการสอน ทักษะการอ่าน
แนวการสอน ทักษะการอ่านแนวการสอน ทักษะการอ่าน
แนวการสอน ทักษะการอ่านKun Cool Look Natt
 
แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี)
แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี) แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี)
แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี) Kun Cool Look Natt
 
พัฒนาการวรรณกรรมไทย
พัฒนาการวรรณกรรมไทย พัฒนาการวรรณกรรมไทย
พัฒนาการวรรณกรรมไทย Kun Cool Look Natt
 
สรุปย่อ หลักภาษาไทย
สรุปย่อ หลักภาษาไทย สรุปย่อ หลักภาษาไทย
สรุปย่อ หลักภาษาไทย Kun Cool Look Natt
 
รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553
รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553
รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553Kun Cool Look Natt
 
รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล
รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล
รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล Kun Cool Look Natt
 
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...Kun Cool Look Natt
 
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...Kun Cool Look Natt
 

More from Kun Cool Look Natt (12)

การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ
การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ
การใช้ภาษาไทย สำหรับชาวต่างประเทศ
 
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
งานวิจัยเรื่อง การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
 
บรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
บรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่างบรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
บรรณานุกรม การศึกษาโครงเรื่องในนวนิยายแนวสลับร่าง
 
คำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่าง
คำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่างคำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่าง
คำนำ สารบัญ-บทคัดย่อ สลับร่าง
 
แนวการสอน ทักษะการอ่าน
แนวการสอน ทักษะการอ่านแนวการสอน ทักษะการอ่าน
แนวการสอน ทักษะการอ่าน
 
แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี)
แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี) แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี)
แบบฝึก พัฒนาทักษะการอ่านสำหรับชาวต่างประเทศ (ปริญญาตรี)
 
พัฒนาการวรรณกรรมไทย
พัฒนาการวรรณกรรมไทย พัฒนาการวรรณกรรมไทย
พัฒนาการวรรณกรรมไทย
 
สรุปย่อ หลักภาษาไทย
สรุปย่อ หลักภาษาไทย สรุปย่อ หลักภาษาไทย
สรุปย่อ หลักภาษาไทย
 
รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553
รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553
รายงานการปฏิบัติงานสอนที่ยูนนานนอร์มอล 2552 - 2553
 
รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล
รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล
รายงานผลการปฏิบัติการแลกเปลี่ยนการสอนที่ยูนนานนอร์มอล
 
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
 
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
รายงานการวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบองค์ประกอบและภาพสะท้อนทางสังคมเพื่อศึกษากา...
 

กลวิธีหนีตาย ในนวนิยายของกิ่งฉัตร

  • 1. บทที่ 1 บทนำำ ควำมเป็นมำของปัญหำ นวนิยำยที่สนุกสนำนประทับใจผู้อ่ำนนั้นมักจะมีจุดเด่นอยู่ที่ โครงเรื่อง โครงเรื่องที่ดีต้องประกอบด้วยควำมขัดแย้ง ควำมไม่ รำบรื่น เพื่อให้ตัวละครได้ฝ่ำฟันอุปสรรคจะสร้ำงควำมสนใจให้ผู้ อ่ำนติดตำมเรื่องได้ รตชำ (2547. หน้ำ 165) กล่ำวถึงลักษณะควำมสัมพันธ์ ของโครงเรื่องกับปมปัญหำไว้ว่ำ พล็อตคือกำรดำำเนินเรื่องที่ประกอบด้วยกำร เปลี่ยนแปลง และกำรเปลี่ยนแปลงที่ สำำคัญในโลกของ’นิยำย’ นั้นเกิดขึ้นได้จำก ‘ปัญหำหรือ ควำมขัดแย้ง’ เท่ำนั้น ถ้ำคุณเขียน นิยำยโดยให้สิ่งที่เกิดขึ้นทุกสิ่งทำำให้ตัวละครเอกของคุณมี แต่ควำมสุข ไม่นำนคนอ่ำนจะ เบื่อ และถ้ำมีกำรเปลี่ยนแปลงที่สำำคัญของเรื่อง แต่กำร เปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้สร้ำงปัญหำ ให้กับตัวเอก คนอ่ำนก็จะหมดควำมสนใจเพรำะไม่มีเรื่อง ให้ตัวละครต้องตัดสินใจ กุหลำบ มัลลิกะมำส (2521. หน้ำ 101) กล่ำวว่ำ “โครง เรื่องที่ดี และที่ผู้อ่ำนนิยมนั้น คือโครงเรื่องที่มีปัญหำหรือ ควำมขัด แย้ง (Conflict) ที่สำำคัญเกิดขึ้นกับตัวเอกของเรื่อง เป็นปัญหำ หรือควำมขัดแย้งที่มีควำมเข้มข้นรุนแรง มีอิทธิพลที่ทำำให้เกิดกำร เปลี่ยนแปลงหรือมีผลกระทบอย่ำงแรงต่อวิถีชีวิตของตัวเอกของ ”เรื่อง นอกจำกปมปัญหำจะมีส่วนสัมพันธ์กับโครงเรื่องแล้ว ผู้ เขียนมักนำำกลวิธีกำรสร้ำงปมปัญหำนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของกำร สร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ (Suspense) ของผู้อ่ำนอีกด้วย ตำมทัศนะ ของวนิดำ บำำรุงไทย (2544. หน้ำ 121) ที่ว่ำ “โดยทั่วๆ ไป
  • 2. นวนิยำยแต่ละเรื่องจะต้องมีปมปัญหำสำำคัญของเรื่องอยู่แล้ว แต่ สำำหรับนวนิยำยขนำดยำวนั้น มักจะมีกำรสร้ำงปมย่อยๆเพื่อเร้ำใจ ผู้อ่ำนระหว่ำงดำำเนินเรื่องด้วย โดยเฉพำะนวนิยำยบำงประเภท เช่น เรื่องผจญภัย เรื่องลึกลับสยองขวัญ ... ก็จะมีกำรสร้ำงปม ย่อยๆ เพื่อดึงดูดใจผู้อ่ำนให้ติดตำมตอนต่อไป” กำรสร้ำงปมปัญหำย่อยๆเพื่อดึงดูดควำมสนใจใคร่รู้ของผู้ อ่ำนนี้เป็นวิธีที่นักเขียนหลำยท่ำนนิยม เช่น ยำขอบ เป็นต้น มัทนำ นำคะบุตร (2523. หน้ำ 216) กล่ำวว่ำ “ยำขอบมีกลวิธี สร้ำงปัญหำให้ปรำกฏอยู่ทุกระยะเหตุกำรณ์ ซึ่งถ้ำพิจำรณำถึงกำร สร้ำงปัญหำในผู้ชนะสิบทิศโดยตลอดเรื่องแล้วจะพบว่ำ ยำขอบมี ”กลวิธีสร้ำงปัญหำเร้ำใจผู้อ่ำนได้อย่ำงมำกมำย กิ่งฉัตร ถือเป็น “นักเขียนคลื่นลูกใหม่ไฟแรงที่ประสบควำม สำำเร็จอย่ำงสูงในกำรเขียน นวนิยำย”(ปกวรรณกรรม, 2546. เว็บไซต์) ทั้งนี้เพรำะผลงำน ของเธอได้รับควำมนิยมทั้งด้ำนชื่อเสียงและยอดขำยเป็นอย่ำงมำก ดังข้อควำมต่อไปนี้ ในแวดวงนวนิยำยไทย กิ่งฉัตรได้สร้ำงประวัติกำรณ์ อันน่ำทึ่ง จำกปี พ.ศ. 2535 จนถึงเดือนธันวำคมปี พ.ศ. 2545 เธอมีผลงำนรวม เล่ม 20 เล่ม เป็นนวนิยำย 18 เล่ม นวนิยำยขนำดสั้น 1 เล่ม และรวมเรื่องสั้น 1 เล่ม ผล งำนทุกเล่มของเธอจะตีพิมพ์ซำ้ำ 2 ครั้งขึ้นไป เรื่องที่มียอดจำำหน่ำยสูงสุด คือ เสรำดำรัล พิมพ์ซำ้ำถึง 8 ครั้ง นวนิยำยเรื่อง แรก คือ พรพรหมอลเวง ได้สร้ำงเป็นละครโทรทัศน์ และ แทบทุกเรื่องต่อมำก็เช่นกัน ขณะนี้กิ่งฉัตรมีนวนิยำย 3 เรื่อง คือ ในเรือนใจ ฟ้ำ กระจ่ำงดำว และรหัสหัวใจ โดยพิมพ์ เป็นตอนๆ ในนิตยสำร 3 ฉบับ (ELLE THAILAND, 2546. หน้ำ 137) ควำมสำำเร็จที่กิ่งฉัตรได้รับนั้น น่ำจะมำจำกควำมสำมำรถ ในกำรเขียนนวนิยำยให้เป็นที่ถูกใจผู้อ่ำน มีผู้แสดงทัศนะเกี่ยวกับ งำนเขียนของเธอ ดังนี้ 2
  • 3. สิ่งที่น่ำชื่นชมนั้นก็คือ เธอมีควำมคิดสร้ำงสรรค์เป็น ของตนเอง บำงเรื่องซึ่งได้แรง บันดำลใจจำกผลงำนของนักเขียนต่ำงชำติหรือแหล่งอื่นใด เธอก็บอกไว้ชัดเจน สำำนวน กำรเขียนของเธอสละสลวย โดยที่’วรรณศิลป์’ นั้นมิได้ ‘ข่ม’ เนื้อเรื่องหรือตัวละครสำำคัญ ทุกเรื่อง ทุกตอนที่เธอเขียนนั้นเข้มข้น ดำำเนินเรื่องอย่ำงไม่ ถ่วงเวลำ และมีกำรค้นคว้ำ ข้อมูลอย่ำงรอบคอบ นอกจำกคุณสมบัติที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น ในผลงำนของกิ่ง ฉัตรยังมีกลวิธีกำรเร้ำใจผู้อ่ำนที่เป็นลักษณะเด่นอีกด้วย เพรำะกิ่ง ฉัตรนำำไปเป็นส่วนเร้ำควำมสนใจของผู้อ่ำนในแทบทุกเรื่อง กลวิธี ดังกล่ำวนี้คือ กลวิธีหนีตำยของตัวละครเอกขณะประสบอันตรำย โดยมำกกิ่งฉัตรมักกำำหนดให้ตัวละครเอกมีช่วงเหตุกำรณ์ตอนใด ตอนหนึ่งในเรื่องที่ต้องตกอยู่ในอันตรำย เพื่อให้ตัวละครได้คิดหำ หนทำงหลบหนีเอำตัวรอด แต่เหตุกำรณ์เหล่ำนั้นมักจะเกี่ยวข้อง กับควำมเป็นควำมตำยของตัวละครด้วยเสมอ ดังนั้น กลวิธีเร้ำ ควำมสนใจที่มักปรำกฏในงำนของกิ่งฉัตร จึงเป็นกลวิธีหนีตำย ดัง ที่ได้กล่ำวมำแล้ว จึงเป็นเหตุที่น่ำสนใจศึกษำเพื่อค้นหำควำมหลำกหลำยในวิธี กำรหนีตำยของตัวละครเหล่ำนั้น เนื่องจำกในกรณีที่ผู้เขียนมักนำำ เสนอกลวิธีหนีตำยในลักษณะนี้ ย่อมต้องพยำยำมคิดหำวิธีไม่ให้ผู้ อ่ำนเกิดควำมรู้สึกซำ้ำซำกจำำเจ ควำมพยำยำมที่จะค้นหำควำม หลำกหลำยในกลวิธีกำรหนีตำยนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำมำรถบ่งบอกถึง ควำมเอำใจใส่ในงำนของผู้เขียนได้เป็นอย่ำงดี ทั้งนี้ ในกำรใช้กลวิธีหนีตำยดังกล่ำว ผู้เขียนกำำหนดขึ้น เพื่อเป็นจุดเร้ำควำมสนใจของผู้อ่ำน จึงมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับกำร ศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ภำษำ เพรำะกำรใช้ภำษำที่ดีนั้นก็จะส่งผล ให้ผู้อ่ำนคล้อยตำมได้โดยง่ำย นอกจำกนี้แล้วเธอยังได้กล่ำวยำ้ำถึง ควำมพิถีพิถันเรื่องกำรใช้ภำษำในงำนเขียนของเธอว่ำ “ดิฉันระวัง มำกเรื่องกำรใช้ภำษำ ”จะไม่ใช้ภำษำที่หยำบ (ELLE THAI LAND.2546. หน้ำ 137) กำรศึกษำในส่วนของศิลปะกำรเขียน จึงเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ไม่อำจมองข้ำมได้ 3
  • 4. จำกที่กล่ำวมำแล้ว ผู้วิจัยจึงเห็นสมควรที่จะศึกษำกลวิธีกำร หนีตำยของกิ่งฉัตรควบคู่ไปกับกำรศึกษำด้ำนศิลปะกำรใช้ภำษำ เพื่อให้เห็นถึงลักษณะเด่นบำงประกำรในกลวิธีกำรแต่งรวมไปถึง ฝีมือในด้ำนกำรประพันธ์นวนิยำยด้วย จุดมุ่งหมำยของกำรวิจัย 1. ศึกษำกลวิธีกำรหนีตำยของตัวละครเอกในนวนิยำย ของกิ่งฉัตร 2. ศึกษำด้ำนศิลปะกำรใช้ภำษำ ควำมสำำคัญของกำรวิจัย 1. เพื่อเป็นแนวทำงในกำรศึกษำกลวิธีหนีตำยซึ่งเป็นองค์ ประกอบหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ 2. เพื่อควำมเข้ำใจในศิลปะกำรใช้ภำษำของผู้แต่งอันจะ เป็นประโยชน์ต่อกำรเข้ำถึงท่วงทำำนองแต่ง (Style) ของผู้เขียน ขอบเขตของกำรวิจัย ในกำรวิเครำะห์กลวิธีหนีตำยของตัวละครเอกในนวนิยำย ของกิ่งฉัตรนี้จะแบ่งขอบเขตของข้อมูลเป็น 2 ด้ำน คือ 1. ขอบเขตด้ำนข้อมูล ในกำรศึกษำกลวิธีหนีตำยของตัวละครนั้น จะวิเครำะห์ จำกนวนิยำยของกิ่งฉัตรจำำนวน 13 เล่ม ดังนี้ 1. ดั่งไฟใต้นำ้ำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2542 สำำนักพิมพ์อรุณ. 2. ตำมรักคืนใจ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2542 สำำนักพิมพ์อรุณ 3. มำยำตวัน ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2542 สำำนักพิมพ์อรุณ 4. พรพรหมอลเวง ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2543 สำำนักพิมพ์อรุณ. 5. รอยพรหม ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2543 สำำนักพิมพ์อรุณ. 6. เสรำดำรัล ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2543 สำำนักพิมพ์อรุณ 7. ดวงใจพิสุทธิ์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544 สำำนักพิมพ์อรุณ 4
  • 5. 8. ด้วยแรงอธิษฐำน ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2544 สำำนักพิมพ์อรุณ 9. สืบลับรหัสรัก ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2545 สำำนักพิมพ์อรุณ 10. ในเรือนใจ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2546 สำำนักพิมพ์อรุณ 11. พรำยปรำรถนำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2546 สำำนักพิมพ์อรุณ 12. ฟ้ำกระจ่ำงดำว ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2547 สำำนักพิมพ์อรุณ 13. มนต์จันทรำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 9 พ.ศ. 2547 สำำนักพิมพ์อรุณ 2. ขอบเขตด้ำนกำรวิเครำะห์ ผู้วิจัยจะใช้เกณฑ์เบื้องต้นในกำรวิเครำะห์นวนิยำย ด้ำนกลวิธีและศิลปะกำรใช้ภำษำ ดังนี้ 1. ด้ำนกำรศึกษำกลวิธีหนีตำย จะวิเครำะห์ตำม หัวข้อต่อไปนี้ 1.1 กลวิธีหนีตำยโดยใช้อุบำย 1.2 กลวิธีหนีตำยโดยใช้ไหวพริบหรือควำมรู้สึก ของตัวละคร 1.3 กลวิธีหนีตำยโดยใช้เหตุประจวบหรือเหตุ บังเอิญ 2. ด้ำนกำรศึกษำศิลปะกำรใช้ภำษำ จะ วิเครำะห์ตำมหัวข้อต่อไปนี้ 2.1 ศิลปะกำรใช้ถ้อยคำำ 2.2 ศิลปะกำรใช้ประโยค 2.3 ศิลปะกำรใช้โวหำร ข้อตกลงเบื้องต้น นวนิยำยที่นำำมำใช้วิเครำะห์นี้ ต้องมีโครงเรื่องที่เกี่ยวกับ กำรหนีตำยของตัวละครเอกปรำกฏอยู่ และเป็นนวนิยำยที่ตีพิมพ์ มำแล้วจนกระทั่งถึงเดือนตุลำคมปี พ.ศ.2547 นิยำมศัพท์เฉพำะ 5
  • 6. กำรวิจัย ได้ใช้ศัพท์ทำงวรรณกรรมที่มีควำมหมำย ดังนี้ กลวิธี (Techniques) หมำยถึง วิธีที่ผู้เขียนเลือกนำำ มำใช้ในงำนของตนเพื่อให้ผลงำนนั้นเกิดควำมสมบูรณ์แบบ หนีตำย หมำยถึง กำรกระทำำของตัวละครที่แสดงออก มำเพื่อให้หลุดพ้นจำกควำมตำย กลวิธีหนีตำย หมำยถึง วิธีกำรที่ผู้เขียนนำำมำใช้เพื่อ เร้ำใจผู้อ่ำนโดยกำรกำำหนดให้ตัวละครต้องเอำตัวรอดจำกภำวะ เสี่ยงตำยด้วยวิธีกำรต่ำงๆ ศิลปะกำรใช้ภำษำ หมำยถึง ภำษำที่ผู้เขียนเลือกสรร มำใช้เพื่อให้เหมำะกับเหตุกำรณ์หรือเรื่องรำว และสำมำรถให้ผลอ ย่ำงใดอย่ำงหนึ่งแก่ผู้อ่ำนได้ วิธีดำำเนินกำรวิจัย ในกำรวิเครำะห์กลวิธีที่เกี่ยวกับกำรหนีเพื่อเอำตัวรอดของ ตัวละครเพื่อสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ให้กับผู้อ่ำนนั้น จะดำำเนินกำร วิจัย ดังนี้ 1. ขั้นรวบรวมข้อมูล 1.1 รวบรวมนวนิยำยของกิ่งฉัตรทั้ง 13 เล่ม และ ศึกษำเนื้อหำโดยละเอียด 1.2 รวบรวมเอกสำรที่เกี่ยวข้องกับผลงำนของกิ่งฉัตร 1.3 รวบรวมเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวกับกลวิธีกำร แต่งและศิลปะกำรใช้ภำษำ 2. ขั้นวิเครำะห์ข้อมูล 2.1 ศึกษำและวิเครำะห์เนื้อหำในส่วนที่ปรำกฏ เหตุกำรณ์ตัวละครเอกหนีตำยจำก นวนิยำยทั้ง 13 เรื่อง 2.2 วิเครำะห์ศิลปะกำรใช้ภำษำของผู้เขียนว่ำมี ลักษณะอย่ำงไรในกำรสร้ำงอำรมณ์ให้กับผู้อ่ำน 3. ขั้นสรุปผล 3.1 สรุปผลกำรวิจัยแล้วนำำเสนอในรูปพรรณนำ วิเครำะห์ อภิปรำยผล พร้อมกับข้อเสนอแนะ 6
  • 7. บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง นวนิยำยที่นำำมำวิเครำะห์นั้นจะใช้หลักประกอบกำร พิจำรณำดังนี้ 1. เอกสำรและงำนวิจัยเกี่ยวกับกลวิธีหนีตำย 2. เอกสำรและงำนวิจัยเกี่ยวกับศิลปะกำรใช้ภำษำ 3. เอกสำรเกี่ยวกับผลงำนของกิ่งฉัตร เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกลวิธีหนีตำย ในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนทำงบันเทิงคดีนั้น นอกจำกรูป แบบ (Form) เนื้อหำ (Content) ภำษำ (Language) ที่ประกอบ กันขึ้นมำเป็นชิ้นงำนแล้ว กลวิธี (Techniques) ก็เป็นองค์ ประกอบอีกส่วนหนึ่งที่จะทำำให้ผลงำนนั้นมีควำมสมบูรณ์ทำง วรรณศิลป์ ผู้รู้หลำยท่ำนได้ให้นิยำมเกี่ยวกับกำรศึกษำเรื่องกลวิธี ไว้ ดังนี้ กุหลำบ มัลลิกะมำส (2517. หน้ำ 29) กล่ำวว่ำ “เทคนิค คือ วิธีกำรหรือกลวิธีซึ่งผู้แต่งนำำมำใช้ในกำรถ่ำยทอดควำมรู้สึก นึกคิด หรืออำรมณ์สะเทือนใจเป็นกำรแสดงให้เห็นว่ำ ผู้แต่งมี ‘ฝีมือ’ ขนำดไหน ม.ล. บุญเหลือ เทพยสุวรรณ (2517. หน้ำ 115) กล่ำวว่ำ “กลวิธี คือ กำรกระทำำ’อย่ำงไร’ จึงจะให้เนื้อเรื่องดำำเนินไปตำมโครงเรื่องที่ผูกไว้ และให้บรรลุจุด มุ่งหมำยของเรำ “ สมพร มันตะสูตร (2525. หน้ำ 54) กล่ำวว่ำ “กลวิธี หมำย ถึง วิธีกำรต่ำงๆ ที่ใช้ในกำรแต่งหนังสือ เพื่อเรียกร้องควำมสนใจ ให้ผู้อ่ำนติดตำมงำนเขียนของตนตั้งแต่ต้นจนจบ และยังหมำยรวม ถึง วิธีกำรที่จะทำำให้ผู้อ่ำนจับใจในงำนเขียนชิ้นนั้น กล่ำวคือ กลวิธีสร้ำงควำมประทับใจให้เกิดในงำนเขียนของตนนั่นเอง สำยทิพย์ นุกูลกิจ (2525. หน้ำ 120) กล่ำวว่ำ “เทคนิค หรือกลวิธีที่ผู้แต่งนำำมำใช้ในกำรแต่งหนังสือ ได้แก่ วิธีกำรต่ำงๆที่ 7
  • 8. ผู้แต่งนำำมำใช้ในกำรถ่ำยทอดอำรมณ์สะเทือนใจ ควำมนึกคิดหรือ จินตนำกำร เพื่อให้ผู้อ่ำนพลอยเกิดอำรมณ์สะเทือนใจ ควำม นึกคิดหรือจินตนำกำรตำมไปด้วข วนิดำ บำำรุงไทย (2544. หน้ำ 116) กล่ำวว่ำ “กลวิธีใน เชิงกำรประพันธ์นั้น หมำยถึง วิธีที่ผู้แต่งเลือกใช้ในกำรสร้ำงสรรค์ บทประพันธ์แต่ละเรื่องเพื่อให้บรรลุผลที่ดีที่สุดในเชิงวรรณศิลป์” ดังนั้น จึงอำจสรุปได้ว่ำ กลวิธี คือ วิธีที่ผู้เขียนเลือกนำำมำ ใช้ในงำนของตนเพื่อให้ผลงำนนั้นเกิดควำมสมบูรณ์แบบ กลวิธีที่ใช้ในงำนบันเทิงคดีอย่ำงนวนิยำยนั้น ประกอบด้วย กลวิธีเกี่ยวกับโครงเรื่อง กลวิธีเกี่ยวกับตัวละคร กลวิธีเกี่ยวกับบท สนทนำ และกลวิธีเกี่ยวกับฉำก ตำมทัศนะของสำยสร้อย สุดหอม (2530. หน้ำ 56) ที่ว่ำ “กลวิธีเสนอเรื่อง หมำยถึง วิธีกำรอันมีชั้น เชิงที่นักประพันธ์แต่ละคนนำำมำใช้ในกำรสร้ำงงำนประพันธ์ของ ตน ให้มีคุณค่ำเป็นที่น่ำสนใจและมีประสิทธิผลยิ่งกว่ำกำรบอกเล่ำ ตำมธรรมดำ ได้แก่ กลวิธีเกี่ยวกับโครงเรื่อง ตัวละคร บทสนทนำ ”และฉำก สำำหรับกลวิธีหนีตำยนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลวิธีเกี่ยวกับ โครงเรื่อง ในแง่ของกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ เนื่องจำกในกำร เขียนนวนิยำย ผู้เขียนจำำเป็นจะต้องเร้ำควำมสนใจของผู้อ่ำนให้ เกิดขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง นอกจำกปมปัญหำที่เป็นหลักของเรื่องแล้ว ยังต้องประกอบด้วยวิธีกำรอื่นเพื่อให้ผู้อ่ำนอยำกติดตำมต่อ กำร สร้ำงควำมรู้สึกสนใจใคร่รู้นั้น มีอยู่หลำยประกำร ได้แก่ กำรสร้ำง ปมปัญหำ กำรใช้ลำงบอกเหตุ กำรใช้สัญลักษณ์และบุคลำธิษฐำน และกำรใช้เหตุบังเอิญหรือเหตุประจวบ (วนิดำ บำำรุงไทย, 2544. หน้ำ 122) นวนิยำยของกิ่งฉัตรนั้น มีลักษณะของกำรสร้ำงควำมสนใจ ใคร่รู้ในหลำยวิธีกำรเช่นกัน แต่ที่มักปรำกฏให้เห็นเป็นลักษณะ เด่นในผลงำน คือ กำรใช้ปมปัญหำย่อย ซึ่งก็เป็นกลวิธีที่นิยมใช้ โดยทั่วกัน แต่ควำมพิเศษนั้นอยู่ตรงที่ กิ่งฉัตรจะนำำเสนอปมปัญหำ ในแบบที่ตัวละครต้องประสบกับอันตรำยร้ำยแรงที่อำจถึงแก่ชีวิต ได้อยู่เสมอในกำรเร้ำควำมสนใจผู้อ่ำน ดังนั้น กลวิธีกำรสร้ำง ควำมสนใจใคร่รู้แบบที่กำำหนดให้ตัวละครเอกหนีตำยของกิ่งฉัตร จึงกลำยเป็นลักษณะเด่นเฉพำะที่ควรศึกษำเพื่อหำควำมหลำก หลำยด้ำนควำมคิดสร้ำงสรรค์ อย่ำงไรก็ดี ยังไม่มีผู้กล่ำวถึงกำร 8
  • 9. สร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ในแง่นี้มำก่อน กำรศึกษำกลวิธีหนีตำย จึง อำจนิยำมสรุปได้โดยสังเขปว่ำ กลวิธีหนีตำย หมำยถึง วิธีกำรที่ผู้เขียนนำำมำใช้ เพื่อเร้ำใจผู้อ่ำนโดยกำรกำำหนดให้ตัวละครต้องเอำตัว รอดจำกภำวะเสี่ยงตำยด้วยวิธีกำรต่ำงๆ ในส่วนของงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกำรศึกษำเรื่องกลวิธีหนี ตำยโดยตรงนั้น ยังไม่มีปรำกฏ อย่ำงไรก็ดี เนื่องจำกกลวิธีหนีตำย เป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำเรื่องกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ ดังนั้น ควำมเข้ำใจเบื้องต้นเกี่ยวกับกำรสร้ำงควำมสนใจใคร่รู้จำกงำน วิจัยต่ำงๆ จึงน่ำจะเป็นข้อมูลพื้นฐำนบำงประกำรในกำรทำำควำม เข้ำใจเรื่องกลวิธีหนีตำยได้พอสังเขป มัทนำ นำคะบุตร (2523. หน้ำ 235 -245) ผู้ทำำกำร ศึกษำเรื่อง ศิลปะกำรแต่งผู้ชนะสิบทิศของยำขอบในด้ำน ท่วงทำำนองแต่งและกลวิธีเสนอเรื่อง และสำยสร้อย สุดหอม (2530. หน้ำ 111-122) ผู้ทำำกำรศึกษำเรื่อง นวนิยำยอิง ประวัติศำสตร์เรื่องเศวตฉัตรน่ำนเจ้ำ : กำรศึกษำในด้ำนกลวิธี เสนอเรื่องและท่วงทำำนองกำรแต่ง ได้กล่ำวถึงกลวิธีกำรสร้ำงควำม สนใจใคร่รู้ของผู้ประพันธ์ไว้สรุปได้ ดังนี้ 1. กำรกำำหนดชื่อตอน ผู้ประพันธ์มักจะตั้งชื่อตอนให้มี ควำมน่ำสนใจเพื่อให้ผู้อ่ำนอยำกติดตำม โดยชื่อตอนนั้นอำจมี ลักษณะบอกเล่ำเรื่องรำวในแต่ละตอน บอกลักษณะนิสัยตัวละคร ชื่อตอนที่สร้ำงควำมสงสัยชวนคิด หรือเป็นปริศนำ 2. กำรใช้นิมิตและลำงต่ำงๆ ผู้ประพันธ์จะใช้นิมิตและ ลำงเป็นตัวบอกผลล่วงหน้ำว่ำเรื่องจะเป็นเช่นไร แล้วดำำเนินไปตำม นั้น 3. กำรสร้ำงปัญหำให้ตัวละครต้องหำวิธีกำรแก้ไข ปัญหำ กำรสร้ำงปัญหำให้ตัวละครนั้น จะสร้ำงควำมน่ำติดตำมได้ ก็ตรงวิธีกำรที่ตัวละครใช้แก้ปัญหำ ซึ่งในที่นี้ ผู้ประพันธ์กำำหนด ให้ตัวละครใช้วิธีกำรต่ำงๆ ดังนี้ 3.1. กำรใช้อุบำย อุบำยที่ตัวละครใช้ในกำรแก้ปัญหำ นั้นแบ่งออกเป็นอุบำยที่เกี่ยวกับควำมรัก และกำรศึก ซึ่งนับว่ำมี ประสิทธิภำพอย่ำงมำก “จนอำจกล่ำวได้ว่ำกำรแก้ปัญหำของตัว ”ละครนั้นเต็มไปด้วยอุบำย (มัทนำ นำคะบุตร, 2523. หน้ำ 230) 3.2. กำรใช้ไหวพริบและควำมรู้สึกนึกคิดของตัว ละคร ผู้เขียนมักกำำหนดให้ตัวละครรู้เท่ำทันกำรออกอุบำยต่ำงๆ 9
  • 10. และใช้ไหวพริบปฏิภำณของตนแก้ปัญหำเฉพำะหน้ำอย่ำงฉับพลัน “กำรใช้สิ่งเหล่ำนี้ จึงเป็นกำรเสริมให้เนื้อเรื่องมีสีสันและสนุกสนำน ยิ่งขึ้น (สำยสร้อย สุดหอม, 2530. หน้ำ 118) 3.3. กำรใช้เหตุประจวบหรือเหตุบังเอิญ สำำหรับ ลพบุรี ผู้เขียนเรื่องเศวตฉัตรน่ำนเจ้ำนั้น ได้แบ่งประเภทของกำร ใช้เหตุประจวบออกเป็น 2 ประเภท คือ กำรใช้เหตุประจวบเพื่อ สร้ำงปัญหำให้ตัวละครหำวิธีแก้ไข และใช้เหตุประจวบเพื่อ คลี่คลำยปัญหำซึ่งไม่ว่ำจะใช้เพื่อเหตุผลใด เหตุประจวบก็สำมำรถ ช่วยให้เรื่องมีควำมเข้มข้นขึ้นอย่ำงได้อรรถรส จำกกำรศึกษำงำนวิจัยดังกล่ำว พบว่ำ กำรสร้ำงปัญหำเพื่อ สร้ำงควำมสนใจใคร่รู้ให้กับงำนประพันธ์นั้นสอดคล้องกับกำร กำำหนดสถำนกำรณ์ให้ตัวละครต้องหนีตำยของกิ่งฉัตร และกำร สร้ำงปัญหำนั้นก็สำมำรถประยุกต์เข้ำกับกลวิธีในข้อที่ 3 ได้ กล่ำว คือ กำรสร้ำงปัญหำเทียบได้กับ สถำนกำรณ์เสี่ยงตำย ส่วนกำรแก้ไขปัญหำเทียบได้กับกำรหนีตำย ของตัวละคร ซึ่งกำรแก้ไขปัญหำนั้น ในที่นี้ได้สรุปไว้ 3 ประกำร คือ กำรใช้อุบำย กำรใช้ไหวพริบ และกำรใช้เหตุประจวบ ผู้วิจัย จึงนำำแนวทำงกำรแก้ปัญหำที่เทียบได้กับกลวิธีหนีตำยนั้น มำเป็น แนวทำงเบื้องต้นในกำรวิเครำะห์หำควำมหลำกหลำยในกำรหนี ตำยของตัวละครเอกในนวนิยำยของกิ่งฉัตร ดังนี้ 1. กลวิธีหนีตำยโดยใช้อุบำย 2. กลวิธีหนีตำยโดยใช้ไหวพริบหรือควำมรู้สึกของตัว ละคร 3. กลวิธีหนีตำยโดยใช้เหตุประจวบหรือเหตุบังเอิญ เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับศิลปะกำรใช้ภำษำ กำรสร้ำงสรรค์วรรณกรรมนั้น ต้องอำศัยภำษำเป็นสื่อควำม คิดเพื่อควำมเข้ำใจของผู้อ่ำน กำรเลือกสรรคำำมำใช้เพื่อให้ตรงกับควำมต้องกำรที่จะสื่อมำกที่สุด จึงเป็นสิ่งสำำคัญ เพรำะนวนิยำย เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ในบำงครั้งต้องบรรยำยรำยละเอียดที่ให้ทั้งภำพ และอำรมณ์ควำมรู้สึก กำรใช้ภำษำที่ดีอย่ำงมีศิลปะ จึงเป็นสิ่ง สำำคัญที่ไม่อำจมองข้ำม 10
  • 11. กำรศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ถ้อยคำำนั้น บำงครั้งมีผู้ใช้คำำที่ แตกต่ำงกันไป แต่โดยรวมแล้วควำมหมำยก็มำจำกแหล่งเดียวกัน ตำมทัศนะของมุทิกำญจน์ จิวำลักษณ์ (2547. หน้ำ 1) ที่ว่ำ ศิลปะกำรสร้ำงสรรค์ถ้อยคำำหรือข้อควำมเหล่ำนี้รวม เรียกว่ำ “ศิลปะกำรใช้ ”ภำษำ ซึ่งมีผู้ใช้ต่ำงกัน เช่น สำำนวนท่ำทีที่แสดงออก ท่วงทำำนองกำรเขียน ท่วงทำำนอง กำรแต่ง และท่วงทำำนองกำรประพันธ์ คำำเหล่ำนี้มีควำม หมำยในทำำนองเดียวกัน เป็นคำำที่ บัญญัติมำจำกคำำว่ำ Style ในภำษำอังกฤษทั้งสิ้น ดังนั้น เอกสำรและงำนวิจัยที่จะยกมำเพื่อเป็นแนวทำงกำร ศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ภำษำต่อไปนี้ จะรวบรวมผลงำนภำยใต้คำำ ว่ำ Style ในภำษำอังกฤษเป็นหลักซึ่งประกอบด้วย วนิดำ บำำรุงไทย (2544. หน้ำ 155) “กล่ำวว่ำ ท่วงทำำนองกำรแต่ง คือ ลักษณะ อันเป็นสิ่งเฉพำะตนที่ผู้เขียนแสดงออกมำในเรื่องที่เกี่ยวกับ กำรสรรคำำ และแนวนิยมใน กำรใช้โวหำร กลวิธีเกี่ยวกับท่วงทำำนองเขียนอันเป็น ลักษณะเฉพำะบุคคลนั้น มีควำม สำำคัญในฐำนะเป็นสื่อหรือเครื่องมือที่นักเขียนใช้แสดงออก หรือนำำเสนอควำมรู้สึกนึกเห็น ตลอดจนถ่ำยทอดอำรมณ์ควำมสะเทือนใจสู่ผู้อ่ำน ในกำร บรรยำยหรือพรรณนำภำพ หรือเหตุกำรณ์เดียวกันของนักเขียนที่มีชั้นเชิงกำรใช้ภำษำ แตกต่ำงกัน ย่อมจะได้ภำพ … ”และผลทำงอำรมณ์ที่แตกต่ำงกันด้วย สำยทิพย์ นุกูลกิจ (2537. หน้ำ 139) กล่ำวถึง ลักษณะ ของท่วงทำำนองกำรแต่งไว้ ดังนี้ ท่วงทำำนองในกำรแต่งวรรณกรรมของผู้แต่งแต่ละคน นั้นย่อมมีลักษณะเฉพำะตัว ไม่ซำ้ำ แบบกัน ทั้งนี้เพรำะผู้แต่งแต่ละคนต่ำงก็มีแบบแผน ในกำรเลือกสรรคำำ กำรเลือกใช้ 11
  • 12. สำำนวนโวหำรและกำรเรียบเรียงประโยคจึงต่ำงกัน นอกจำกนี้ผู้แต่งแต่ละคนยังมีทัศนคติหรือ ท่ำที(Tone) ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งแตกต่ำง กันอีกด้วย ดังนั้น กำรที่ผู้อ่ำนหลำยคนสำมำรถรู้ได้ว่ำ ตน กำำลังอ่ำนงำนของผู้แต่งคนใด โดยไม่ต้องดูชื่อนั้นเป็นเพรำะผู้อ่ำนเหล่ำนั้นรู้จักและสังเกต สไตล์กำรแต่งของนักเขียนได้ นั่นเอง ท่วงทำำนองกำรแต่งของนักเขียนแต่ละคนนั้น อำจสังเกตได้ จำกลักษณะต่อไปนี้ คือ (สำยทิพย์ นุกูลกิจ, 2537. หน้ำ 139- 141) 1. กำรเลือกสรรคำำ วิธีกำรเลือกหำคำำมำใช้เขียน วรรณกรรม โดยคำำนึงถึงทั้ง ทำงด้ำนรูปศัพท์ เสียงและควำมหมำยของคำำที่เหมำะสมกับ เนื้อเรื่อง เช่น ในขณะที่ผู้ แต่งบำงคนนิยมคำำง่ำย บำงคนกลับชอบศัพท์สูงหรือใส่ ควำมหมำยพิเศษให้ผู้อ่ำนต้อง ขบคิด กำรเลือกสรรคำำ ช่วยทำำให้ภำษำที่ใช้ในกำรเขียน วรรณกรรมของผู้แต่งมีสำำนวน โวหำรดี ไพเรำะสละสลวย เนื่องจำกผู้แต่งเลือกใช้ถ้อยคำำที่ประกอบด้วย คุณสมบัติ 4 ประกำร คือ ควำม ชัดเจน ควำมกระชับ ควำมมีอำำนำจในกำรให้ควำมรู้สึก ทำงอำรมณ์และควำมไพเรำะ 2. กำรเลือกใช้สำำนวนโวหำร กำรที่ผู้แต่ง พยำยำมคิดหำวิธีกำรต่ำงๆที่จะช่วย ทำำให้งำนเขียนของตนมีคุณค่ำ น่ำอ่ำน โดยทั่วไปนอกจำก บอกอย่ำงตรงไปตรงมำแล้ว อำจใช้ 2.1 กำรสร้ำงภำพในจิต ใช้ภำษำเป็นสื่อ กระตุ้นควำมรู้สึกของผู้อ่ำน ไม่เน้น ควำมสมจริง แต่เน้นภำพที่ปรำกฏแก่ใจผู้อ่ำน จะเกิดขึ้น เมื่อผู้อ่ำนมีจินตนำกำร 12
  • 13. 2.2 กำรสร้ำงภำพพจน์ ใช้ถ้อยคำำเปรียบเทียบ ให้เกิดเป็นภำพ 3. วิธีกำรเรียบเรียงประโยค กำรสร้ำงประโยค อันเป็นลักษณะเฉพำะตัวบ้ำงก็ ง่ำย สั้น กะทัดรัด บ้ำงก็แบบยำว สละสลวย ประโยค 4 แบบที่นิยมใช้ คือ 3.1 ประโยคสั้น (Attic Sentence) หรือ ประโยคควำมเดียว 3.2 ประโยคยำวขึ้น (Isocratic Sentence) หรือประโยคควำมรวม 3.3 ประโยคยำวแบบโวหำร (Cieronian Sentence) ประโยคที่ผู้แต่งจะต้อง กล่ำวรำยละเอียดแต่ละอย่ำงไปจนจบประโยค จึงจะมีเนื้อ ควำมสมบูรณ์เป็นที่เข้ำใจ อำจ เป็นประโยคคำำถำมที่ไม่ต้องกำรคำำตอบหรือประโยคที่กล่ำว แบบให้ผู้อ่ำนต้องคิดตีควำม 3.4 ประโยคบำโร้ก (Baroque Sentence) ประโยคที่มีโครงสร้ำงขำดดุลหรือ ขำดลักษณะคู่ขนำน โดยคำำนึงถึงควำมผิดถูกทำง ไวยำกรณ์ 4. หำงเสียงของผู้แต่ง (Tone) ทัศนคติหรือท่ำที ของผู้แต่งที่มีอยู่ต่อสิ่งหนึ่ง สิ่งใด มีลักษณะใกล้เคียงกับนำ้ำเสียงซึ่งอำจเป็นทำำนอง ประชด แสดงอำรมณ์ขัน ล้อเลียน เยำะเย้ย จริงจัง กรำดเกรี้ยว อ่อนหวำน ขมขื่น ฯลฯ หรือผู้ แต่งมีพื้นอำรมณ์อย่ำงไร บรรยำกำศก็เป็นอย่ำงนั้น ช่วยให้ผู้อ่ำนรู้จักผู้แต่งดีขึ้น ทั้ง ในด้ำนบุคลิกภำพและนิสัย ใจคอ และควรพิจำรณำควำมคิดริเริ่มและควำมจริงใจ ควบคู่ไปด้วย พรรณนพ สิกกะ (2541. หน้ำ 68) กล่ำวถึงควำมสำำคัญ “ของภำษำที่มีศิลป์ไว้ว่ำ กำรใช้ภำษำเป็นสิ่งสำำคัญยิ่งในกำร สร้ำงสรรค์งำนวรรณกรรม ซึ่งนักประพันธ์จะต้องเลือกเฟ้นถ้อยคำำ สำำนวนโวหำร เพื่อถ่ำยทอดเรื่องรำว ประสบกำรณ์ และควำมรู้สึก 13
  • 14. นึกคิดของตนให้ผู้อ่ำนรับรู้ เกิดควำมซำบซึ้ง จินตนำกำรและ ”อำรมณ์ต่ำงๆได้ ตรงตำมประสงค์ที่ต้องกำรจะสร้ำงสรรค์ สำำหรับแนวทำงกำรศึกษำเรื่องศิลปะกำรใช้ภำษำนั้น มีผู้ ทำำกำรวิจัยไว้แล้ว ดังนี้ สุวรรณ เชื้อนิล (2523. หน้ำ 128 -142) ศึกษำเรื่อง วิเครำะห์นวนิยำยเรื่องขุนศึกของไม้ เมืองเดิม ใช้เกณฑ์กำรใช้คำำ สำำนวนภำษำ และสำำนวนโวหำร สรุปได้ว่ำ ผู้ประพันธ์ใช้สำำนวน ภำษำเรียบง่ำยแบบลูกทุ่งชนบท โวหำรที่ใช้ให้อำรมณ์คึกคัก ฮึกเหิม และคะนอง เหมำะกับบุคลิกภำพของตัวละคร มีกำรเล่นคำำ เหมือนสัมผัสอักษรเพื่อให้เกิดจังหวะในนำ้ำเสียง มัทนำ นำคะบุตร (2523. หน้ำ 146 – 193) ศึกษำเรื่อง ศิลปะกำรแต่งผู้ชนะสิบทิศของ ยำขอบในด้ำนท่วงทำำนองแต่งและกลวิธีเสนอเรื่อง ใช้เกณฑ์กำร ใช้คำำ กำรใช้ประโยค กำรใช้โวหำรและกำรบรรยำยควำม สรุปได้ ว่ำ กำรใช้คำำของยำขอบจะเลือกคำำไพเรำะ และให้ควำมหมำยลึก ซึ้ง เหมำะกับเนื้อเรื่อง นิยมกำรเล่นคำำด้วยวิธีกำรต่ำงๆ โดยมำกจะ เลือกคำำที่สำมำรถสร้ำงภำพ สร้ำงควำมรู้สึก และสร้ำงควำมประทับ ใจแก่ผู้อ่ำน ประโยคที่ใช้เป็นประโยคยำวแบบโวหำร และประโยค ยำวขึ้น ส่วนกำรใช้โวหำรนั้น เน้นทั้งกำรสร้ำงภำพในจิตและกำร ใช้ภำพพจน์ กำรบรรยำยควำมนิยมใช้ภำษำง่ำยๆ ที่มีโวหำร เปรียบเทียบประกอบ จินตนำ ปรีชำศิลป์ (2530. หน้ำ 183 -243) ศึกษำเรื่อง วิเครำะห์จินตนิยำยของพนมเทียนใช้เกณฑ์กำรใช้คำำ กำรใช้ สำำนวนโวหำร สรุปได้ว่ำ กำรใช้คำำของพนมเทียน มีทั้งคำำที่เป็น แบบเก่ำ เข้ำใจยำกและง่ำยประสมกัน เล่นเสียง เล่นคำำ เพื่อทำำให้ เกิดควำมรู้สึก สำำนวนที่ใช้มีทั้งภำพในจิต และภำพพจน์ ศิลปะกำร ใช้ภำษำของพนมเทียนจึงมีควำมไพเรำะสละสลวย ประทับใจผู้ อ่ำน สำยสร้อย สุดหอม (2530. หน้ำ 191-211) ศึกษำเรื่อง นวนิยำยอิงประวัติศำสตร์เรื่องเศวตฉัตรน่ำนเจ้ำ : กำรศึกษำใน ด้ำนกลวิธีกำรเสนอเรื่องและท่วงทำำนองกำรแต่ง ใช้เกณฑ์กำรใช้ คำำ กำรใช้ประโยค กำรใช้โวหำรและกำรบรรยำยควำม สรุปได้ว่ำ ลพบุรีเน้นกำรเลือกเสียงของคำำและกำรใช้คำำให้เหมำะสมกับเนื้อ เรื่อง รวมไปถึงเลือกใช้คำำที่สำมำรถสร้ำงควำมรู้สึก จินตนำกำร และควำมประทับใจแก่ผู้อ่ำน กำรใช้ประโยคมีทั้งประโยคยำวแบบ 14
  • 15. โวหำร ประโยคยำวขึ้น และประโยคสั้น โวหำรที่ปรำกฏ คือ กำร สร้ำงภำพในจิตและภำพพจน์ ปรำณี พรหมจรรย์ (2531. หน้ำ 154-204) ศึกษำเรื่อง “วิเครำะห์เรื่องสั้นของ ร. ”จันทพิมพะ ในแง่กลวิธีกำรแต่ง ศิลปะ กำรใช้ภำษำและแนวคิด ใช้เกณฑ์กำรใช้คำำ กำรใช้ประโยค กำร ใช้สำำนวนโวหำร และภำพพจน์ สรุปได้ว่ำ ร.จันทพิมพะจะ เลือกสรรคำำอย่ำงประณีตเพื่อให้คำำนั้นมีควำมไพเรำะสละสลวย และแสดงภำพได้อย่ำงชัดเจน กำรใช้คำำมีศักดิ์ นับเป็นสำำนวน โวหำรที่เด่นที่สุด กำรนำำเสนอภำพพจน์ใช้โวหำรอุปมำเป็นส่วน ใหญ่ ตำมด้วยอุปลักษณ์ ทำำให้กำรใช้ภำษำนั้นเหมำะสม สอดคล้องและเห็นภำพได้อย่ำงชัดเจน มุทิกำญจน์ จิวำลักษณ์ (2547. หน้ำ 4-5) ศึกษำเรื่อง ศิลปะกำรใช้ภำษำในงำนสำรคดีของศศิวิมล ใช้เกณฑ์ศิลปะกำร สรรคำำ และศิลปะกำรใช้ภำพพจน์ สรุปได้ว่ำ ศิลปะกำรใช้ภำษำ ของศศิวิมลนั้นมีลักษณะเฉพำะตัว และสำมำรถสรรคำำที่ให้ภำพ ชัดเจนมำถ่ำยทอดอำรมณ์ควำม รู้สึกและจินตนำกำรได้เป็นอย่ำงดี จำกงำนวิจัยดังกล่ำว สำมำรถสรุปแนวทำงกำรศึกษำเรื่อง ศิลปะกำรใช้ภำษำได้ดังนี้ 1. ศิลปะด้ำนกำรใช้ถ้อยคำำ 2. ศิลปะด้ำนกำรใช้ประโยค 3. ศิลปะด้ำนกำรใช้โวหำร “ ”เอกสำรที่เกี่ยวข้องกับผลงำนของ กิ่งฉัตร “ ” ’ ‘ปำริฉัตร ศำลิคุปต์ คือ นำมจริงของ กิ่งฉัตร ที่อดีต เคยเป็นผู้สื่อข่ำว หนังสือพิมพ์ผู้จัดกำรรำยสัปดำห์ประมำณปีกว่ำ ขณะ เดียวกันใช้ช่วงเวลำที่เคยศึกษำ อยู่ในชั้นมัธยมศึกษำตอนต้น-ปลำย โรงเรียนสตรีวิทยำ –ด้วยกำรเขียนเรื่องสั้น ประสบกำรณ์ในวำรสำรของโรงเรียน และเขยิบฐำนะได้รับ กำรตีพิมพ์ลงในคอลัมน์เด็ก และคอลัมน์ วัยหนุ่ม-สำว นิตยสำรสตรีสำรำยสัปดำห์ เรื่อง “ ” “ศิลปินทอมทอม กินเจที่ 15
  • 16. ” “ ” “ภูเก็ต กับ คุณสุกคุณใส นิตยสำรแพรวสุดสัปดำห์ บ้ำน ”อัญชัน นิตยสำรขวัญเรือน รำยปักษ์ ตั้งแต่กำำลังศึกษำอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะ วำรสำรศำสตร์และสื่อสำรมวลชน มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ เวลำเดียวกันก็ได้เริ่มลองหัด เขียนนวนิยำยเรื่องยำว 30 ตอน “ ”จบ คือ พรพรหมอลเวง พร้อมไปกับสำำเร็จกำรศึกษำเป็น วำรสำรศำสตรบัณฑิตปี 2532 และปี 2534 “ ”เรื่อง พรพรหมอลเวง ก็ได้รับกำรตีพิมพ์ใน นิตยสำรโลกวลี แล้วยังได้รับกำร รวมเล่มเป็นครั้งแรก เรื่องแรกในชีวิตคนขำยฝันพร้อมทั้ง ได้ถูกนำำไปทำำเป็นละครโทรทัศน์ สถำนีโทรทัศน์สีช่อง 7 2535 ผสำนกับกำรลำออกจำก อำชีพผู้สื่อข่ำวในปีนั้นด้วยเช่นกัน หลังจำกนั้นต่อมำจึงได้มีนวนิยำยทยอยออกมำเป็นระยะ “ ” “คือ มำยำตวัน ละครเล่ห์ ” “ ” “ ” “เสน่หำ เสรำดำรัล ด้วยแรงอธิษฐำน และ ดวงใจ ”พิสุทธิ์ เป็นต้น...” (สุธำทิพย์ โมรำ ลำย, 2538. หน้ำ 45-46 อ้ำงอิงจำกพินิจ หุตะจินดำ, 2537. ไม่มีเลขหน้ำ) กิ่งฉัตร เป็นนักเขียนที่ประสบควำมสำำเร็จมำกคนหนึ่ง ดังจะเห็นได้จำกกำรที่มี ผู้อ่ำนยอมรับผลงำนของเธออย่ำงมำกมำย นวนิยำยหลำย เล่มของเธอตีพิมพ์มำกกว่ำ 3 “ครั้ง และอีกในหลำยๆเรื่องก็ถูกนำำไปสร้ำงเป็นละคร โทรทัศน์ ไม่ว่ำจะเป็นเสรำดำรัล, ตำมรักคืนใจ, พรพรหมอลเวง, ด้วยแรงอธิษฐำน, บ่วง หงส์, มนต์จันทรำ, แสงดำวฝั่ง ”ทะเล (คุยกับกิ่งฉัตร, 2544. เว็บไซด์) “ ’จำกกำรให้สัมภำษณ์ กิ่งฉัตร ได้กล่ำวถึงควำมเป็นมำและ ทัศนะเกี่ยวกับวิธีผลิตผลงำนของตัวเองไว้ซึ่งสรุปได้ดังนี้ (คุยกับ กิ่งฉัตร,2544. เว็บไซด์) กิ่งฉัตร เริ่มเขียนนวนิยำยเมื่อตอนเรียนปริญญำตรีปี สุดท้ำย แต่ผลงำนที่คิดว่ำทำำให้ผู้อ่ำนรู้จักเธอคือ เสรำดำรัล เพรำะ 16
  • 17. เป็นเรื่องที่ตีพิมพ์ลงนิตยสำร สกุลไทย ซึ่งมีผู้อ่ำนจำำนวนมำก ส่วน วิธีกำรเขียนและสร้ำงตัวละครในมีควำมต่อเนื่องนั้น กิ่งฉัตรอำศัย กำรจดรำยละเอียดของตัวละครแต่ละตัวไว้ในตอนต้นเพื่อให้เกิด ควำมชัดเจนและแม่นยำำ อย่ำงไรก็ดี เมื่อจะมีกำรรวมเล่มผู้เขียนจะ ทำำกำรตรวจทำนอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดควำมรำบรื่นของเนื้อเรื่อง ระยะเวลำในกำรผลิตผลงำนมักจะเท่ำกับเวลำที่ใช้ตีพิมพ์ลงใน นิตยสำร โดยเฉลี่ยเขียนปีละ 2-3 เรื่อง กำรสร้ำงพล็อตเรื่องมักนำำ มำจำกประสบกำรณ์ช่วงเวลำ 2 ปีที่เป็นนักข่ำว ประกอบกับกำรนำำ เรื่องรำวใกล้ตัวมำเขียนเป็นเรื่องแม้แต่เรื่องเกี่ยวกับสัมผัสพิเศษ ของตัวละคร กิ่งฉัตรก็นำำประสบกำรณ์จำกของเพื่อนมำเป็น วัตถุดิบในกำรเขียน กลวิธีกำรตั้งชื่อตัวละคร มักจะใช้ชื่อที่เปิด จำกตำำรำตั้งชื่อลูกเพื่อค้นหำควำมหมำยของชื่อที่เหมำะสมกับตัว ละคร แต่หำกเป็นกำรตั้งชื่อเรื่องมักจะพิถีพิถันให้สำมำรถ ครอบคลุมประเด็นที่ต้องกำรนำำเสนอให้ได้มำกที่สุด กลวิธีที่เกี่ยว กับกำรให้ตัวละครในเรื่องหนึ่งไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับนวนิยำยอีก เรื่องหนึ่ง กิ่งฉัตรให้สัมภำษณ์ไว้ ดังนี้ เพรำะชอบอ่ำนสไตล์นี้ กำรเขียนหนังสือเนี่ยต้อง ถือว่ำคนเขียนคือคนอ่ำนคนแรก อ่ำนแล้วมีควำมสุขกับสิ่งนั้นไม่ใช่ว่ำเรำอยำกจะได้ซีไรท์ มำกเลยแต่เรำเป็นคนที่โรแมนติก หวำนแหววมำกเลยแล้วต้องมำฝืนเขียนเพื่อให้เป็นซีไรท์ คงไม่ได้ อ่ำนแล้วมันจะฝืน เพรำะไม่ใช่ตัวตนของเรำ ไม่ใช่ประสบกำรณ์ ไม่ใช่ควำม รู้สึกของเรำ ที่จะถ่ำยทอดออกไป งำนคงไปไม่ดีเท่ำไหร่ เพรำะ ฉะนั้น เขียนหนังสือที่เรำ ชอบ เขียนหนังสือที่เรำถนัด พอเรำ อ่ำน แล้วเรำมีควำมสุข เอ๊ะ…สนุกดีนะ ในผู้อ่ำนร้อยคน อำจจะมีซัก 50 คน หรือ 20 คน ที่มีรสนิยมเหมือนเรำ เรำก็ต้องกำรคนกลุ่มนั้น แค่นั้นเองค่ะ ที่จะมำเป็นคนอ่ำนของเรำ คือยึดที่คนเขียนก่อน ถ้ำใครอ่ำน “ปริศนำ” “เจ้ำสำวของ อำนนท์” “รัตนำวดี” ชอบนิยำย พวกนี้มำก เพรำะอ่ำนแล้วเหมือนเรำเปิดประตูออกไปแล้ว เจอะเพื่อนเก่ำ ได้รู้เรื่องของเค้ำ 17
  • 18. รู้สำรทุกข์สุขดิบ คนนี้แต่งงำนมีลูกแล้วเหมือนได้ข่ำวจำก เพื่อนเก่ำ เป็นควำมชอบส่วนตัว ก็เลยใช้กลวิธีนี้ นักเขียนต่ำงประเทศมีเยอะมำก ของไทยก็ มี อย่ำงคุณพนมเทียน จะมีตัว ละครตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องไปทุกเรื่อง สกำวเดือน รัศมีแข จะ มีท่ำนชำยสดำยุ คุณพนมเทียน บอกว่ำแค่จั่วหัวว่ำมีท่ำนชำยสดำยุ ก็มีคนอยำกอ่ำน นั่นคือ ควำมผูกพันของผู้อ่ำนกับตัว ละคร และควำมรู้สึกนั้นจะเป็นแรงบันดำลใจให้เขียนเรื่อง แนวนี้ออกมำแต่ก็ไม่ทุกเรื่องนะ คะ ต้องดูว่ำเรื่องนั้นมีตัวละครเด่นขึ้นมำ ที่ทุกคนทิ้งไป เรำ ก็เอำเข้ำมำเป็นตัวเอกอีกเรื่อง หนึ่ง เหมือนทุกคนมีเรื่องรำวของตัวเอง เหมือนกับว่ำทำำไม คุณพูดถึงคนนี้ แล้วทำำไมไม่ พูดถึงคนนี้ล่ะ ทั้งๆ ที่เค้ำก็มีชีวิตของเค้ำนะ นี่คือจุดเริ่มต้น จำกกำรเขียนนิยำยแบบนี้ จำกเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้กล่ำวมำ จะ นำำมำเป็นหลักในกำรวิเครำะห์นวนิยำยของกิ่งฉัตร เพื่อหำข้อสรุป เกี่ยวกับกลวิธีกำรหนีตำยของตัวละครเอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำร สร้ำงแรงจูงใจในกำรอ่ำนนวนิยำย รวมทั้งใช้เป็นหลักในกำร วิเครำะห์ศิลปะกำรใช้ภำษำของผู้เขียนด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิด ประโยชน์โดยรวมในกำรเข้ำถึงอรรถรสของงำนประพันธ์ 18
  • 19. บทที่ 3 วิเครำะห์กลวิธีหนีตำยของตัวละครเอก และศิลปะกำรใช้ภำษำ ในกำรวิเครำะห์กลวิธีหนีตำยนั้นจะยกตัวอย่ำงเหตุกำรณ์ ในตอนที่ตัวละครเอกตกอยู่ในอันตรำยก่อนเป็นลำำดับแรก แล้วจึง ค่อยวิเครำะห์กลวิธีหนีตำยและศิลปะกำรใช้ภำษำ จำกกำรศึกษำนวนิยำยทั้งหมดที่คัดเลือกมำนั้น พบว่ำมีกำร ปรำกฏฉำกหนีตำยของตัวละครเอกในนวนิยำยเรื่องต่ำงๆ ดังนี้ 1. ดั่งไฟใต้นำ้ำ เรื่องรำวของหญิงสำวชื่อรุจรวีที่สูญเสียควำมทรงจำำของ ตนเองในอดีตไปเพรำะอุบัติเหตุ วันหนึ่งเธอได้ทรำบว่ำตนเอง แต่งงำนแล้ว และกำำลังจะหย่ำขำดจำกสำมี คือ พลิศ ในขณะที่เธอ ยังจำำควำมในอดีตไม่ได้นั้น พลิศ ไม่ต้องกำรจะทำำร้ำยจิตใจเธอ จึงยังไม่ยอมหย่ำ เขำรับเธอกลับมำบ้ำนเพื่อฟื้นควำมทรงจำำ แต่ เพียงแค่คืนแรกที่กลับมำ รุจรวีก็พบว่ำมีคนพยำยำมจะฆ่ำตนและ คนร้ำยนั้นก็ลงมือทุกครั้งที่มีโอกำส เหตุที่มีฉำกพยำยำมฆ่ำตัวละครเอกหลำยครั้ง เนื่องจำกรุจ รวีเป็นผู้ที่รู้ควำมลับเรื่องกำรขนสินค้ำหนีภำษีของน้องสำมี เหตุกำรณ์ต่ำงๆมีดังนี้ เหตุกำรณ์ที่ 1 19
  • 20. เกือบตีหนึ่งถึงเริ่มง่วงงุน...รุจรวีหลับตำลงผ่อนลม หำยใจยำว ทว่ำอึดใจถัดมำ ในควำมรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นหล่อนคล้ำยได้ยินเสียงประตู เปิดอย่ำงแผ่วเบำ เหมือนมี ควำมเคลื่อนไหว...มีเงำเข้ำมำใกล้กำำลังจะลืมตำขึ้นดูก็ พอดีกับมีอะไรบำงอย่ำงนิ่มๆโปะ ลงมำเต็มหน้ำอำจจะเป็นเพรำะควำมที่รู้ตัวอยู่บ้ำงทำำให้รุจ รวีพลิกหน้ำไปทำงด้ำนหนึ่ง โดยสัญชำตญำณ พร้อมๆกับดิ้นรนสุดแรงเกิด โชค...เป็นของหล่อน เพรำะเลือกนอนอยู่เกือบชิดริม ด้ำนหนึ่งของเตียง พอถีบ เตะเอำชีวิตรอดเต็มที่ร่ำงก็เลยไถลกลิ้งตกลงจำกเตียง หมอนหรืออะไรที่กดทับลงบน ใบหน้ำหลุดออกในจังหวะที่ตัวหล่อนตกกระทบพื้นโครม ใหญ่ (กิ่งฉัตร,2542. หน้ำ 125) กลวิธีที่ใช้ ในเหตุกำรณ์นี้ เมื่อตัวละครเอกรู้ตัวว่ำถูกลอบทำำร้ำยโดยที่ ไม่สำมำรถจะร้องขอควำมช่วยเหลือได้ จึงอำศัยกำรเอำตัวรอด ด้วยวิธีดิ้นรนต่อสู้ซึ่งก็สำมำรถรักษำชีวิตไว้ได้ในที่สุด แต่ตัวละคร เอกก็ได้รับบำดเจ็บจำกกำรต่อสู้ครั้งนี้ด้วย ศิลปะกำรใช้ภำษำ ถ้อยคำำที่ปรำกฏในกำรบรรยำยเหตุกำรณ์นี้ เป็นถ้อยคำำสั้น ง่ำย ได้ใจควำม และไพเรำะ เช่น ง่วงงุน ให้เสียงสัมผัส ครึ่ง หลับครึ่งตื่น ดิ้นรนสุดแรงเกิด ให้ภำพในจิตด้วยสำำนวน โวหำร เป็นต้น ผู้เขียนใช้ประโยคสั้นที่ได้ใจควำมในกำร บรรยำยเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นตำมลำำดับ เหตุกำรณ์ที่ 2 ในเหตุกำรณ์นี้ เป็นกำรเล่ำผ่ำนกระแสสำำนึกของตัวละคร รุจรวี นึกถึงอดีตที่ผ่ำนมำของตนได้ทันทีที่เธอถูกน้องสะใภ้จ่อปืนที่ ศีรษะเพื่อบังคับหำยออกไปจำกบ้ำนอีกครั้ง ควำมทรงจำำที่ซำ้ำรอย เดิมจึงกลับมำและเธอก็ได้รู้ว่ำ ครั้งที่แล้ว เธอถูกกระทำำอย่ำงไร ก่อนที่จะกลำยเป็นคนสูญเสียควำมทรงจำำ 20
  • 21. หญิงสำวฟื้นลืมตำขึ้นมำอีกครั้งท่ำมกลำงควำมมืด คับแคบร้อนอ้ำวอย่ำง ประหลำดและควำมสั่นสะเทือน ศีรษะของหล่อนปวดเหมือน จะระเบิดและมองอะไรไม่ เห็น ได้แต่คลำำเปะปะ...แปลกที่เพดำนห้องเตี้ยขนำดที่ หล่อนไม่สำมำรถเอื้อมมือจนสุด ได้ และเตียงของหล่อนก็สั่นเหมือนเครื่องยนต์... ไม่...นี่ไม่ใช่ห้อง หล่อนกำำลังอยู่ท้ำยรถต่ำงหำก ท้ำยรถที่กำำลังแล่นเสียด้วย ด้วยควำมหวำดกลัว รุจรวีทั้งทุบ ถีบ และร้องเสียง หลงเนิ่นนำนจนกระทั่งมือ เท้ำหล่อนระบมและลำำคอแห้งผำกเหมือนทะเลทรำย กว่ำ ควำมสั่นสะเทือนจะหยุดลงใน ที่สุด หญิงสำวแทบจะร้องออกมำด้วยควำมยินดีเมื่อใคร บำงคนเปิดกระโปรงท้ำยรถขึ้น หล่อนรีบกระเสือกกระสนสูดอำกำศบริสุทธิ์ของยำมคำ่ำคืน เข้ำเต็มปอดจนแทบสำำลัก ยศวินมองพี่สะใภ้ผู้อ่อนวัยกว่ำด้วยสีหน้ำเหมือนถูก ผีหลอก รุจรวีคิดว่ำเขำคง ไม่รู้มำก่อนว่ำหล่อนอยู่ในท้ำยรถ...จึงตกใจเมื่อได้ยินเสียง เคำะเรียก “ช่วยด้วยค่ะ คุณวินช่วยรวีด้วย...” หล่อนละลำ่ำละ ลักบอกเมื่อพยำยำมปีน ออกมำจำกท้ำยรถอย่ำงทุลักทุเล แทบจะหล่นลงกองกับพื้น ด้วยซำ้ำโดยที่อีกฝ่ำยไม่ได้ยื่น มือเข้ำมำช่วยเลย “พี่อิน พี่อินพยำยำมจะฆ่ำรวี จริงๆนะคะ พี่อินขน ของเถื่อนพอรวีรู้เรื่องเข้ำ พี่ อินก็เลยจะฆ่ำรวีปิดปำก” “มันเป็นอุบัติเหตุ” ชำยหนุ่มเอ่ยเบำๆ หำกคำำพูดเบำๆนั้นกระทบใจรุจรวีอย่ำงรุนแรง ยิ่ง เมื่อเขำหยิบกวำงทองเหลือง ขึ้นจำกมุมหนึ่งของท้ำยรถ เช็ดอย่ำงดีจนหมดจดก่อนจะ โยนทิ้งลงข้ำงทำง หญิงสำวก็เริ่ม เอะใจ หำกสมองยังพอปะติดปะต่อเรื่องได้ 21
  • 22. กำรขนของหนีภำษีต้องใช้เรือ ต้องมีกำรติดต่อกับ ผู้คนมำกมำยทั้งคนขำยและ คนซื้อ อินทิรำอยู่แต่ในบ้ำนตลอดเวลำ หล่อนจะเอำเวลำ ที่ไหนไปดูแลสินค้ำ เอำเรือที่ ไหนไปขนของ แน่ละ...เรื่องนี้จะต้องมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง อีก คนที่สะดวกในกำรขนถ่ำย สินค้ำ คนที่คุมเรือ คนที่สำมำรถติดต่อทั้งคนซื้อและคนขำย ได้ตลอดเวลำ... ยศวิน! “คุณ คุณก็ร่วมมือกับพี่อินด้วย!“ รุจรวีหลุดปำกเบำ หวิว ดวงตำเบิกกว้ำงด้วย ควำมหวำดกลัว “พี่อินเป็นนำยทุนให้ผม“ ชำยหนุ่มรับอย่ำงไม่เดือด ร้อน “ทำำไม ในเมื่อคุณกับคุณอินก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่อง เงิน คุณลิศบอกว่ำคุณมีเงิน มี มรดก...” “ไอ้เงินล้ำนกว่ำๆในธนำคำรน่ะหรือ... ผมใช้มัน หมดไปนำนแล้วและไอ้ผมมันก็ มือเติบเสียด้วย จะให้ประหยัดตอนนี้ คงไม่ไหว เรำเลยต้อง แก้ปัญหำด้วยกำรขนของนิด หน่อย” “มันผิดกฎหมำย” หญิงสำวว่ำ หันรีหันขวำงด้วย ควำมหวำดกลัว แม้จะดูไม่ดึกมำกนัก แต่ถนนที่ยศวินจอดรถอยู่ เปลี่ยวเหลือเกิน นอกจำกรถคัน ดำำของพลิศที่หล่อนเพิ่งปีนออกมำแล้ว ไม่มีรถอื่นสวนไปมำ อีกแม้แต่คันเดียว เขำคงคิด ว่ำหล่อนตำยแล้วและกำำลังจะเอำศพหล่อนมำทิ้งไว้บนถนน เปลี่ยว “ก็ไม่หนักหนำอะไรหรอก จับได้อย่ำงมำกก็แค่ถูก ยึดถูกปรับ”เขำยักไหล่ “แต่พี่ อินกลัวเกินไป...ลงมือกับคุณเสียจนหมอบ ทีนี้เลยกลำย เป็นเรื่องใหญ่ ...ฆ่ำคนตำยไป” 22
  • 23. “แต่รวียังไม่...” “นั่นสิ” ยศวินยิ้ม “และผมก็คงจะปล่อยคุณไปไม่ได้ เสียด้วย ถึงจะเปลี่ยนจำก ฆำตกรมำเป็นพยำยำมฆ่ำ มันก็ยังเป็นข้อหำที่หนักอยู่ดี ...ไม่ละ...ผมไม่อยำกให้พี่อิน ต้องมำเสี่ยงกับคุณ” สีหน้ำเหี้ยมเกรียมของเขำทำำให้รุจรวีผงะถอยหลังไป ก้ำวหนึ่งอย่ำงไม่รู้ตัว หลุด ปำกวิงวอนไปว่ำ “คุณวินคะ กรุณำเถอะ ปล่อยรวีไปเถอะ...รวีสัญญำ ว่ำจะไม่บอกใครว่ำเกิดอะไร ขึ้น” หล่อนเนื้อตัวสั่น ยกมือไหว้อ้อนวอนเขำอย่ำงน่ำ สงสำร นำ้ำตำไหลละลำยเลือดที่แห้ง กรังบนหน้ำจนแลแดงเปรอะไปหมด “จะไม่พูดไม่บอกใครทั้งนั้น” “แม้แต่พี่ลิศ ?” ชำยหนุ่มถำม “ค่ะ ค่ะ แม้แต่คุณลิศ!” รีบรับคำำพลำงถอยพลำง หำก เขำยังสืบเท้ำตำมหล่อน อย่ำงคุกคำม ยิ้มอย่ำงสงสำรแกมสมเพช “ผมจะเชื่อคำำพูดพี่สะใภ้อย่ำงคุณได้แค่ไหนกัน ดูท่ำ คนอย่ำงคุณจะไม่รู้จักรักษำ สัญญำเท่ำไหร่เลยนี่” “รวีจะทำำค่ะ จะไม่พูดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น คุณวิน ”ปล่อยรวีไปเถอะ ยศวินเหมือนมีทีท่ำลังเลอยู่ครู่ก่อนถอนใจ “ควำมจริงผมก็ไม่อยำกให้เรื่องมันเกินเลยแบบนี้ และในเมื่อคุณก็สัญญำ มั่นคงอย่ำงนี้ผมก็จะปล่อยคุณไป ไปแล้วจำำไว้ให้แม่นนะ ว่ำ จะอยู่ในสวรรค์หรือนรก ก็อย่ำได้พูดเรื่องนี้ขึ้นเป็นอันขำดทีเดียว ไม่งั้นผมเอำ ”คุณตำยแน่ พูดจบชำยหนุ่มหันหลังกลับขึ้นรถและขับแล่นออกไป ทิ้งให้หญิงสำวยืนอยู่กลำง ถนน แทบจะทรุดลงกองกับพื้นด้วยควำมโล่งอก 23
  • 24. หล่อนเคว้งคว้างอยู่ในความมืดพักใหญ่ ก่อนรวบรวม แรงและความกล้าตัดสินใจ ออกเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่ยศวินไป หวังว่าอีก ไม่นานคงมีแสงไฟมีรถหรือผู้คน ที่จะร้องขอความช่วยเหลือได้บ้าง แต่เท้าเปล่าบนถนน ลาดยางมะตอยที่เต็มไปด้วยกรวด ทรายและหัวที่ปวดตุบๆทำาให้เดินได้ไม่เร็วนัก มะงุมมะงาหราอยู่บนถนนมืดๆได้ไม่ถึงห้า นาที แสงไฟสว่างส่องเป็นลำามาจากเบื้องหลัง รุจรวีแทบจะ ร้องออกมาด้วยความยินดี… หล่อนถลากลางถนนเพื่อโบกให้หยุด หากเมื่อลำาแสงส่องเข้ามาใกล้…ลักษณะดวงไฟที่คุ้น ตากและความเร็วของรถที่ ดูเหมือนจะเร่งเครื่องขึนทำาเอาคนกลางถนนกลัวจนหัวใจ แทบหยุดเต้น ยศวินโกหก! แม้รุจรวีสัญญาว่าจะไม่พูด แต่ญาติผู้น้องของพลิศไม่ เคยคิดจะปล่อยหล่อนไป ชายหนุ่มทำาเหมือนจากไป แต่ความจริงแล้วเขาไปกลับรถ เพื่อมาไล่ล่า หญิงสาวกระตุก ไปทั้งตัวด้วยความกลัวและความกลัวนั่นเองที่กระตุ้นให้หัน หลังกลับแล้วเริ่มต้นวิ่งสุดแรง กำาลัง หากดวงไฟกลมหน้ารถก็พุ่งตรงเข้ามาราวกับปีศาจที่ กระหายเหยื่อ สิ่งสุดท้ายที่หล่อนจำาได้คือเสียงกรีดร้องและความเจ็บ ปวดอย่างแสนสาหัส ยาม เมื่อร่างของตัวเองกระทบเข้ากับหน้าหม้อรถอย่างแรง ไฟ หน้ารถสว่างจ้า ก่อนทุกสิ่งทุก อย่างจะดับสนิทลง! (กิ่งฉัตร, 2542.หน้า 362-372) กลวิธีที่ใช้ ในเหตุการณ์นี้ ตัวละครเอกใช้การต่อรองกับคนร้ายก่อนใน ครั้งแรก แต่เมื่อทราบว่าไม่สำาเร็จ จึงอาศัยการวิ่งหนีอย่างเต็ม กำาลัง แต่ยังก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ ตัวละครเอกได้ รับบาดเจ็บมากถึงขั้นสูญเสียความทรงจำา 24
  • 25. ศิลปะการใช้ภาษา เหตุการณ์นี้มีลักษณะเด่นที่บทสนทนา ดังนั้น การใช้ถ้อยคำา ภาษาของผู้เขียนจึงเป็นไปตามลักษณะการพูดจาปกติ แต่เน้นให้ สอดคล้องกับเหตุการณ์ และอาศัยการบรรยายเป็นตัวบอกเล่า อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในอารมณ์ต่างๆ ซึ่งสามารถ ถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี เช่น ในตอนนี้ตัวละครเอกเห็นผู้ร้ายทำา หน้าตกใจเมื่อพบว่าตนเองนอนอยู่หลังรถนั้น ผู้เขียนบรรยาย ความรู้สึกของตัวละครเอกตามลักษณะของผู้ที่ไม่รู้ว่า ชายตรง หน้าคือผู้ร้าย การที่เขาแสดงอาการตระหนกตกใจนั้นก็เป็นเพราะ ไม่คิดว่าตัวละครเอกจะฟื้น แต่เธอกลับมองว่าเป็นเพราะเขาไม่ ทราบมาก่อนว่าเธอถูกจับใส่ไว้หลังรถ ผู้เขียนมักจะใช้การเรียบ เรียงประโยคแบบยาวขึ้น และประโยคยาวแบบโวหาร โดยไม่ลืมที่ จะแทรกการใช้ความเปรียบไว้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างชัดเจน เช่น หากดวงไฟกลมหน้ารถก็พุ่งตรงเข้ามาราวกับปีศาจที่ กระหายเหยื่อ 2. ตามรักคืนใจ เรื่องราวของหญิงสาวชื่อ นารา ที่ต้องการตามหาพ่อของ ตนเอง จึงไปขอสมัครทำางานในไร่ที่พ่อตนทำางานอยู่ โดยหลอก คนอื่นว่าเป็นลูกสาวชาวบ้าน แต่ที่จริงแล้วเธอคือหลานสาวของ นายธนาคารใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยกับการทำางานหนัก ความไม่ถนัดใน การทำางานไร่ทำาให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว แต่ความไม่เดียงสาของ นาราก็ทำาให้ นายสิงห์ เจ้าของไร่ หลงรัก เมื่อคู่แข่งทางธุรกิจ ทราบว่าคนรักของนายสิงห์ คือ นารา จึงวางแผนลักพาตัวเพื่อแก้ แค้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตัวละครเอกต้องเสี่ยงหนีตายจากการ ถูกลักพาตัวซึ่งแม้ว่าหนทางที่ถูกลักพาไปนั้นจะเป็นที่ลาดชันเลียบ เขา แต่เมื่อรู้ว่าจะถูกฆ่าปิดปาก เธอก็ตัดสินใจกระโดดหน้าผาหนี ทันที โดยหวังว่าอย่างน้อยก็อาจจะยังพอมีโอกาสรอดชีวิต หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆพยายามสงบจิตใจไม่ให้ กลัวจนขาดสติ สายตากวาด มอง หาทางหนีทีไล่อย่างรวดเร็ว ผู้ชายสามคนยืนอยู่เข้า มุมในลักษณะสามเหลี่ยมแคบๆ 25
  • 26. ตัวนายเรืองบังหล่อนไว้เกือบมิด ถ้าขยับตัวเร็วๆหล่อนอาจ จะโดดลงจากตรงนี้ลงไปยัง พื้นข้างล่าง แม้จะชันมากกว่าลาดเอียง แต่โอกาสรอดอาจ จะมี… ระหว่างที่นาราพยายามขยับถอยให้ชิดด้านสันเขา มากที่สุด นายเรืองซึ่งหน้า เผือดสีลงเหงื่อกาฬแตกพลั่ก มองมือที่กุมด้ามปืนของคน ตรงหน้าเขม็ง ยังกลั้นใจถาม เสียงสั่นว่า “เอามาให้ฉันทำาไมล่ะพี่” “อยากรู้เดี๋ยวไปถามนังผู้หญิงดูในนรกแล้วกัน ผู้หญิง ก็อย่างงี้แหละมึง ชอบคิด มาก ขี้ระแวง …แต่แปลกที่มันมักคิดถูกเสียด้วย” ปืนด้ามสั้นถูกชักออกมา นาราตัดสินใจวินาทีนั้น… ไหนๆจะตายแล้ว ขอตายด้วย ตัวเองดีกว่างอมืองอเท้าให้เขาส่องเอาง่ายๆ หญิงสาวหมุนตัววิ่งดิ่งลงไปในความชันของลาดเขา ทันที ! (กิ่งฉัตร, 2542. หน้า 480) กลวิธีที่ใช้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภาวะอย่างที่คาดการณ์ไว้แล้ว ตัวละคร เอกก็ตั้งสติแล้วตัดสินใจเสี่ยงตายเอง ด้วยการกระโดดลงหน้าผา แทนที่จะยอมให้โจรลักพาตัวฆ่าโดยหวังพึ่งโชคชะตาว่าอาจทำาให้ รอดชีวิตได้ ศิลปะการใช้ภาษา ยังคงใช้คำาง่ายๆ และประโยคความเดียวต่อเนื่องกัน มักใช้ กลวิธีการเล่าเรื่องแบบสลับ ระหว่างแบบรู้แจ้ง กับแบบบุคคลที่ 1 เช่น ปืนด้ามสั้นถูกชักออกมา นาราตัดสินใจวินาทีนั้น… ไหนๆจะตายแล้ว ขอตายด้วยตัวเองดีกว่างอมืองอเท้าให้ เขาส่องเอาง่ายๆ 3. มายาตวัน เรื่องราวการติดตามทำาข่าวระหว่างนักข่าวสาวและดาราดัง มัทนากับเขตต์ตวัน ทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกพบ เพ 26