More Related Content
Similar to ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
Similar to ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก (20)
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2559
ชื่อโครงงาน ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.น.ส.บุษกร สถิตธีรธรรม เลขที่ 4 ชั้น ม.6 ห้อง 9
2.น.ส.สริตา ไพรศาลสุทธิชล เลขที่ 13 ชั้น ม.6 ห้อง9
3.น.ส.ขวัญใจ แซ่ลี เลขที่ 23 ชั้น ม.6 ห้อง9
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.น.ส.บุษกร สถิตธีรธรรม เลขที่ 4 ชั้น ม.6
2.น.ส.สริตา ไพรศาลสุทธิชล เลขที่ 13 ชั้น ม.6
3 น.ส.ขวัญใจ แซ่ลี เลขที่ 23 ชั้น ม.6
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) :ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) : Worms on plant growth
ประเภทโครงงาน : ทดลองและค้นคว้า
ชื่อผู้ทาโครงงาน : 1.น.ส.บุษกร สถิตธีรธรรม
2.น.ส.สริตา ไพรศาลสุทธิชล
3.น.ส.ขวัญใจ แซ่ลี
ครูที่ปรึกษา : ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 1- 2 ปีการศึกษา 2559
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันมูลไส้เดือน เป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี เพราะมูลไส้เดือนมีธาตุอาหารที่พืช
ต้องการจานวนมาก จึงมีการเพาะเลี้ยงไส้เดือน และนามูลไส้เดือนมาจัดจาหน่าย ผู้จัดจึงอยากค้นคว้าธาตุอาหารที่มี
ในมูลไส้เดือนที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ว่ามีธาตุอะไรบ้าง
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาธาตุอาหารที่มีในมูลไส้เดือน
2.เพื่อศึกษาประโยชน์จากการผลิตปุ๋ ย(มูล)ไส้เดือนที่เป็นประโยชน์ต่อพืช
ขอบเขตโครงงาน
1.ทาการศึกษาไส้เดือน สอง สายพันธุ์ คือ
1.1สายพันธุ์ยูคลีลัส ยูจีนิเอ
1.2สายพันธุ์ลัมบริคัส รูเบลคัส
2. การทาการทดลอง มีข้อจากัดคือ พื้นที่ในการเลี้ยงไส้เดือน
- 3. 3
หลักการและทฤษฎี
ธาตุอาหารในมูลไส้เดือน
ปุ๋ ยหมักมูลไส้เดือนดิน จะมีสารประกอบฮิวมิค ซึ่งเป็นตัวกักเก็บธาตุอาหารที่จาเป็นต่อพืชหลายชนิด เช่น
ฟอสฟอรัส (F) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (C) เหล็ก (Fe) และทองแดง (Cu) ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ใน
โมเลกุลของกรดฮิวมิค อยู่ในรูปพร้อมใช้ และจะถูกปลดหล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการ
สายพันธุ์ไส้เดือน
ยูดริลลัส ยูจีนิแอ ( Eudrilus eugeniae )
ชื่อสามัญ African Night Crawler
• ลาตัวมีขนาด 130 – 250 x 5 – 8 มิลลิเมตร
• ลาตัวมีสีน้าตาลแดงปนเทา
• สืบพันธุ์โดยอาศัยเพศ
• จับคู่ผสมพันธุ์ใต้ดิน
• สร้างถุงไข่ได้โดยเฉลี่ยประมาณ 162 – 188 ถุง/ตัว/ปี
• ใช้เวลาในการฟักเป็นตัวประมาณ 13 – 27 วัน โดยเฉลี่ยฟัก 2 ตัว/ถุงไข่
• ใช้เวลาในการเติบโตเต็มวัย 6 – 10 เดือน
• อาศัยอยู่บริเวณผิวดิน กินเศษซากอินทรียวัตถุที่เน่าสลายเป็นอาหาร
• มีอายุยืนยาว 4 – 5 ปี
ไส้เดือนดินสายพันธุ์ African Night Crawler มีขนาดลาตัวค่อนข้างใหญ่ สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วและไต่ขึ้น
ขอบบ่อได้เก่งมาก มีการเลี้ยงไส้เดือนดินสายพันธุ์นี้กันอย่างกว้างขวาง ไส้เดือนดินสายพันธุ์นี้มีความเหมาะสมมาก
ในการนามาผลิตเป็นโปรตีน สาหรับเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ และมีอัตราการแพร่พันธุ์สูงมาก แต่มีข้อเสีย
คือ ไส้เดือนดินสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยทนทานต่ออุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม เลี้ยงยาก และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ยากด้วย
สาหรับในด้านการนามาใช้จัดการขยะพบว่า ไส้เดือนสายพันธุ์มีความสามารถในการย่อยสลายขยะในปริมาณมาก
ได้อย่างรวดเร็ว เป็นไส้เดือนดินสายพันธุ์ในเขตร้อน ซึ่งจะชอบอุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อน โดยจะเจริญเติบโตได้ไม่ดี
ในอุณหภูมิที่ต่ากว่า 16 องศาเซลเซียส และจะตายในอุณหภูมิที่ต่ากว่า 10 องศาเซลเซียล ดังนั้นการเลี้ยงไส้เดือนดิน
สายพันธุ์นี้ในประเทศไทยเขตหนาวจะถูกจากัดการเลี้ยงเฉพาะภายในโรงเรือนที่มีการควบคุมอุณหภูมิในช่วงฤดู
หนาวเท่านั้นถึงจะเลี้ยงได้สาหรับการเลี้ยงแบบภายนอกโรงเรือน จะเหมาสมกับเฉพาะพื้นที่ในเขตร้อนหรือกึ่ง
ร้อนเท่านั้น
- 4. 4
ลัมบริคัส รูเบลลัส (Lumbricus rubellus)
ชื่อสามัญ Red worm, Red Marsh worm, Red wriggler
ลักษณะโดยทั่วไป
- ลาตัวมีขนาด 60-150 x 4-6 มิลลิเมตร
- ผิวบริเวณท้องมีสีขาวขุ่น บริเวณด้านหลังมีสีแดงสด ร่องระหว่างปล้องมีสีเหลือง
- เป็นไส้เดือนดินในกลุ่ม อิพิจีนิค อาศัยอยู่บริเวณผิวดิน หรือในกองมูลสัตว์
- กินเศษซากพืชที่เน่าเปื่อย ขยะอินทรีย์และมูลสัตว์เป็นอาหาร
- สืบพันธุ์โดยอาศัยเพศอย่างแท้จริง
- จับคู่ผสมพันธุ์ใต้ดิน
- สามารถผลิตถุงไข่ได้79-106 ถุง/ตัว/ปี
- ใช้เวลาในการฟักเป็นตัวประมาณ 27-45 วัน โดยเฉลี่ยฟัก 2 ตัว/ถุงไข่
- ใช้เวลาเจริญเติบโตเต็มวัย 5-6 เดือน
- มีชีวิตยืนยาว 2-3 ปี
ไส้เดือนดินสายพันธุ์นี้ เป็นไส้เดือนดินที่มีลาตัวสีแดง ตัวไม่ใหญ่มาก และลาตัวแบน โดยจะมีลาตัวใหญ่กว่า
ไส้เดือนดินสายพันธุ๋ อายซิเนีย ฟูทิดา และเล็กว่าไส้เดือนดินสายพันธุ์ แอฟริกัน ไนท์ ครอเลอร์ พบได้ทั่วไปในดิน
ที่มีความชุ่มชื้น หรือบริเวณที่มีมูลสัตว์หรือกากสิ่งปฏิกูล มีความทนทานต่อสภาพอุณหภูมิและความชื้นใน
ช่วงกว้าง ไม่ค่อยเคลื่อนไหวมาก กินเศษซากอินทรียวัตถุได้รวดเร็วมาก และขยายพันธุ์ได้ค่อนข้างเร็ว เป็นไส้เดือน
พันธุ์การค้าที่มีความเหมาะสมในการนามาใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ ยหมักมูลไส้เดือนดิน
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.กาหนดขอบเขตในการศึกษา
2.ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหรือผู้เชี่ยวชาญ
3.จัดทาโครงร่างของโครงงาน
4.ทาการทดลอง
5.บันทึกผลการทดลอง
6.สรุปผลการทดลอง
7.นาเสนอและแก้ไขโครงงาน
- 5. 5
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.ไส้เดือน
2.เศษอาหาร
3.ขวดน้าขนาด 1.5 ลิตร หรือกาหนดตามความเหมาะสม
4.ชุดตรวจหาธาตุอาหารในไส้เดือน
งบประมาณ
ใช้งบประมาณทั้งหมด 500 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ทราบประโยชน์ของมูลไส้เดือน
2.ทราบธาตุอาหารที่จาเป็นของพืชจากมูลไส้เดือน
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
วิทยาศาสตร์ สาขา ชีววิทยา และ เคมี
แหล่งอ้างอิง
http://www.thairath.co.th/content/110865
http://www.sirikitdam.egat.com/dindam/red_worm.php
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน สมาชิกกลุ่ม
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ขวัญใจ,สริตา
3 จัดทาโครงร่างงาน บุษกร
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
สมาชิกกลุ่ม
5 ปรับปรุงทดสอบ สามาชิกกลุ่ม
6 การทาเอกสารรายงาน บุษกร,ขวัญใจ
7 ประเมินผลงาน สริตา
8 นาเสนอโครงงาน สมาชิกกลุ่ม