SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรไทย
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาวสโรชา สมบุญ เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 6
นางสาวณัฏณิชา เหล่าชุมแพ เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 6
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2
ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นางสาว สโรชา สมบุญ เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 6
2.นางสาวณัฏฐณิชา เหล่าชุมแพ เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 6
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพร
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The Development of Utilization of Herbs.
ประเภทโครงงาน จาลองทฤษฎี
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสโรชา สมบุญ
นางสาวณัฏฐณิชา เหล่าชุมแพ
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบัน สมุนไพรถูกนามาใช้มากขึ้นในรูปแบบของยา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
แสดงให้เห็นว่าผู้คนเล็งเห็นถึงความสาคัญและสรรพคุณของสมุนไพรกันมาก
ขึ้น นอกจากจะทายารักษาโรคแล้วยังมี การทาครีมทาผิวจากกวาวเครือขาว
สบู่ขมิ้นชันผสมมะขาม แชมพูสระผมจากมะกรูด และอื่นๆ โดยผลิตภัณฑ์
เหล่านี้ผสมสารสกัดจากสมุนไพรที่มีประโยชน์และสรรพคุณต่างๆนานา แต่
อย่างไรก็ตาม สมุนไพรก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก การแพทย์แผนไทยได้นา
สมุนไพรไทยมาใช้ประโยชน์มากขึ้น สมุนไพรจึงกลับมาได้รับความนิยมอีก
ครั้งหนึ่ง ผู้จัดทาจึงมีความสนใจในหัวข้อนี้ เพราะ สมุนไพรเป็นพืชที่หาได้
ตามท้องถิ่นและมีในประเทศไทยจานวนมาก มีผู้นามาใช้อย่างแพร่หลาย แต่
ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ทาให้เกิดความสงสัยว่า เพราะ
เหตุใดสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายและรักษาโรคได้จึงไม่ได้รับความนิยม
ผู้คนไม่ค่อยให้ความสาคัญ ประกอบกับต้องการศึกษาสรรพคุณสมุนไพรเพื่อ
เป็นความรู้เพิ่มเติมและต่อยอดในอนาคตได้
3
วัตถุประสงค์
1.เผยแพร่ การใช้ประโยชน์และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร
2.นาเสนอแนวทางการนาสมุนไพรไปใช้ในการรักษาโรคและบารุงร่างกาย
3.ต้องการให้บุคคลทั่วไปรู้จักสมุนไพรมากขึ้นและเห็นความสาคัญของ
สมุนไพร
ขอบเขตโครงงาน
1.ความหมาย ประเภทและสรรพคุณของสมุนไพร ตัวที่มีการใช้ในปัจจุบัน
2.การนาสมุนไพรมาใช้และวิธีการใช้ที่ถูกต้อง
3.การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรในด้านต่างๆ เช่น รักษาโรค บารุงร่างกาย
4.การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทาเป็น
ผลิตภัณฑ์หลายชนิดมากขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ยารักษาโรค หรือ ทาให้ผลิตภัณฑ์
จากสมุนไพรน่าสนใจ ดึงจุดเเด่นของสมุนไพรออกมาให้ผู้คนได้ทราบมากขึ้น
เป็นต้น
หลักการและทฤษฎี
การจาแนกรูปแบบของสมุนไพรที่ใช้เป็นยา
สมุนไพรไม่ว่าจะเป็นส่วนที่มาจากพืชวัตถุ สัตว์วัตถุ หรือธาตุวัตถุก็ตาม เวลา
จะนามาใช้เพื่อบริโภค หรือเพื่อการรักษาตามกรรมวิธีจาเพาะอันใดก็ตาม
พอจะจาแนกรูปแบบของสมุนไพรที่ใช้เป็นยาได้ดังนี้คือ
1. รูปแบบที่เป็นของเหลว ยาเหล่านี้มักได้จากกรรมวิธีต่างๆ กันเช่น ยาต้ม
คือหั่นต้นยาแล้วต้มกับน้า ยาชงเป็นยาแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั่วแล้วนาไปชง
กับน้า น้าคั้นสมุนไพรเตรียมโดยการเอาต้นสมุนไพรสดๆ ตาให้ละเอียด เติม
น้าแล้วคั้นเอาน้ายามารับประทาน และยาดองเตรียมโดยบดสมุนไพรให้แห้ง
ห่อด้วยผ้าขาวบาง ดองในสุรา
4
2. รูปแบบที่เป็นของแข็ง ยาปั้ นลูกกลอน เตรียมโดยหั่นต้นไม้ยาสดให้เป็น
แว่นบางๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง ผสมกับน้าผึ้งหรือน้าเชื่อม 1 ส่วน ปั้ น
เป็นลูกกลมๆ เล็กๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ปั้ นเสร็จผึ่งแดดจน
แห้ง
3. รูปแบบกึ่งแข็งกึ่งเหลว สมุนไพรเหล่านี้จะทาให้อยู่ในลักษณะพอทรงตัว
ได้ มักใช้เพื่อการรักษาภายนอก เช่น ยาพอก เตรียมโดยใช้ต้นสดตาให้แหลก
หรือเหลว
4. รูปแบบอื่นๆ ที่มีลักษณะการใช้พิเศษ เช่นใช้วิธีรมควัน เพื่อรักษาโรคของ
ทางเดินหายใจ หรือการรมควันเพื่อรักษาแผล และให้มดลูกเข้าอู่ในสตรี
ภายหลังคลอด
● ประเภทของสมุนไพร
สาหรับการแบบประเภทของสมุนไพรไทย นั้น เราใช้การแบ่งประเภทของ
สมุนไพร ออกเป็น 2 ประเภท คือ สมุนไพรแผนโบราณ และสมุนไพรแผน
ปัจจุบัน ซึ่ง รายละเอียด แตกต่างกันอย่างไร มีรายละเอียดดังนี้
สมุนไพรแผนโบราณ คือ สิ่งที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้จาก พืช
สัตว์ หรือแร่ธาตุ ซึ่งลักษณะการใช้งานในการรักษา เช่น ใช้ทาเป็น
ส่วนประกอบของอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรือเครื่องสาอาง ซึ่งสมุนไพรแผน
โบราณ เป็นความรู้และภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอด จากอดีตสู่ปัจจุบัน
สาหรับสมุนไพรไทย ตามแบบฉบับแพทย์แผนไทย นั้น สามารถแบ่งเป็น 2
ลักษณะ คือ สมุนไพรไทยแผนโบราณ และสมุนไพรจีนแผนโบราณ
รายละเอียดดังต่อไปนี้
● สมุนไพรไทยแผนโบราณ คือ พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่สามารถหาได้ใน
ท้องถิ่นของประเทศไทย ซึ่งแพทย์ใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นส่วนประกอบของ
ยารักษาโรค อาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสาอาง
● สมุนไพรจีนแผนโบราณ คือ พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่ใช้ในการรักษาโรค
โดยเป็นสมุนไพร ที่มีอยู่ในประเทศจีน เป็นความรู้และภูมิปัญญาการ
5
รักษาโรคที่ได้จากชนชาติจีน และสมุนไพรเหล่านี้ ส่วนใหญ่หาได้ที่
ประเทศจีน หรือประเทศที่มีภูมิอากาศใกล้เคียงกับประเทศจีน
สมุนไพรแผนปัจจุบัน คือ พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่ทางการแพทย์และเภสัชกร
สมัยใหม่ ได้ศึกษา และทดลองแล้ว ให้การยอมรับถึงผลของสมุนไพร เพื่อใช้
ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งสมุนไพรแผนปัจจุบัน สามารถสกัดพืช สัตว์หรือแร่
ธาตุต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบผง เม็ด น้า หรือ ครีม เป็นต้น เรียกลักษณะนี้ว่าการ
สกัดเอาสารบางชนิดจากสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
● ประเภทของสมุนไพรตามหลักเภสัชกรรม
สาหรับประเภทของสมุนไพร ตามแบบเภสัชกร นั้น เราแบ่งสมุนไพรออกเป็น
ชนิดต่างๆ ตามความแตกต่างของวัตถุดิบ ประกอบด้วย พืช สุตว์และแร่ธาตุ
รายละเอียดของสมุนไพรที่แบ่งตามหลักเภสัชศาสตร์ มี ดังนี้
❖ พืชสมุนไพร
สมุนไพรชนิดพืช สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ซึ่งประกอบด้วย แบ่ง
ออกเป็น 5 ประเภท คือ
● ชนิดต้นไม้ อาทิ เช่น ต้นพิกุล ต้นขี้เหล็ก ต้นมะตูม เป็นต้น
● ชนิดเถาหรือเครือ อาทิ เช่น บอระเพ็ด เถาคันแดง เป็นต้น
● ชนิดหัวหรือเหง้า อาทิ เช่น ข่า ขิง กระชาย กวาวเครือ เป็นต้น
● ชนิดผัก อาทิ เช่น ผักบุ้ง ผักชี ผักกาด เป็นต้น
● ชนิดหญ้า อาทิ เช่น หญ้าแพรก หญ้าคา ตะไคร้ เป็นต้น
❖ สัตว์สมุนไพร
สมุนไพรที่ได้จากสัตว์ต่างๆ สามารถแบ่งประเภทของสัตว์สมุนไพรออกเป็น
3 ประเภท คือ สัตว์บกสมุนไพร สัตว์น้าสมุนไพร และสัตว์ปีกสมุนไพร
รายละเอียด ดังนี้
● สัตว์บกสมุนไพร อาทิ เช่น ควายเผือก หมีควาย เสือ ตุ๊กแก งู เป็นต้น
● สัตว์น้าสมุนไพร อาทิ เช่น ปลาฉลาม เต่า ปลาหมึก หอยสังข์ เป็นต้น
● สัตว์ปีกสมุนไพร อาทิ เช่น นกนางแอ่น ผึ้ง เป็นต้น
6
❖ แร่ธาตุสมุนไพร
สมุนไพร ที่ได้จากแร่ธาตุต่างๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สมุนไพร
แร่ธาตุที่สลายตัวยาก และสมุนไพรแร่ธาตุที่สลายตัวเร็ว รายละเอียด ดังนี้
● ชนิดสลายตัวยาก อาทิ เช่น เหล็ก ทองคา เงิน เป็นต้น
● ชนิดสลายตัวเร็ว อาทิเช่น สารส้ม พิมเสน เกลือ เป็นต้น
ประเภทสมุนไพรแบ่งตามคุณสมบัติของสมุนไพร
การแบ่งชนิดของสมุนไพร ยังมีการแบ่งตามรสชาติของสมุนไพร ชนิดนั้นๆ
ด้วย ซึ่ง สมุนไพร ที่มีรสชาติต่างกัน ให้สรรพคุณในการรักษาโรคที่ต่างกัน
รสชาติจึงสามารถบ่งบอกประโยชน์ด้านการรักษาโรคได้ด้วย ซึ่งรายละเอียด
ของสมุนไพรรสชาติ ต่างๆ สามารถแบ่งได้ มี 9 รสชาติ ประกอบด้วย รสฝาด
รสหวาน รสเมา รสขม รสเผ็ด รสมัน รสหอม รสเค็ม และรสเปรี้ยว
รายละเอียดดังนี้
● รสฝาด จะมีประโยชน์ด้านการรักษาแผล ช่วยสมานแผล ได้ดี
● รสหวาน จะมีประโยชน์ช่วยบารุงร่างกาย ช่วยเพิ่มกาลังวังชา ให้
กระชุ่มกระชวย เป็นต้น
● รสเมาเบื่อ จะช่วยให้ขัยของเสียออกจากร่างกายได้ดี แก้พิษ ได้
● รสขม สมุนไพรรสขม ช่วยทาให้เจริญอาหาร กระตุ้นน้าลาย แก้กระหาย
น้า และบารุงเลือด เป็นต้น
● รสเผ็ดร้อน จะมีประโยชน์ช่วยบารุงธาตุขัน ช่วยขับลม บารุงระบบ
ทางเดินอาหาร เป็นต้น
● รสมัน ช่วยในการแก้อาการปวดเมื่อย บารุงเส้นเอ็น แก้ปวดเข่าปวดข้อ
เป็นต้น
● รสหอมเย็น ช่วยบารุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้กระหาย
น้า เป็นต้น
● รสเค็ม ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้ลมพิษ ได้ดี เป็นต้น
● รสเปรี้ยว ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ บารุงระบบการทางานของเลือด ได้ดี
เป็นต้น
7
การแปรรูปพืชเพื่อนามาใช้เป็นสมุนไพร
สาหรับ สมุนไพร สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งสดๆ และการแปรรูป การแปรรูป
ประโยชน์เพื่อการเก็บไว้ได้นานๆและในปริมาณมากๆ รูปแบบการแปรรูป
สมุนไพร มีหลายรูปแบบ รายละเอียด ดังนี้
● ตากแห้ง เป็นการเก็บรักษาสมุนไพรให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีทีสุด ทั้งในแง่
ของคุณภาพ ปริมาณและน้าหนัก
● ทาให้ขนาดเล็กลง เป็นการนาเอาสมุนไพรมาทาให้ขนาดเล็กลง และ
นาไปตากแห้ง เพื่อให้ปริมาณน้าของสมุนไพรลดลง นิยมใช้กับ ราก
เปลือก ลาต้น
● บดปั่ นให้เป็นผง เป็นวิธีที่สะดวกในการใช้งานมาก สมันโบราณนิยม
นามาตากแห้งและใช้ครกโขรกให้ละเอียด
● สกัดน้ามันหอมระเหย ในสมุนไพรบางชนิดที่มีกลิ่นหอม นามาต้มสกัด
นาน้ามันจากสมุนไพร มาปรุงเป็นยาดม ยาหอม ยาทา เป็นต้น
โทษและอันตรายจากการใช้ยาสมุนไพร
สมุนไพรนอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ในทางตรงกัน
ข้าม ถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็อาจมีโทษและอันตรายได้เช่นกัน อันตรายจากสมุนไพร
นั้นอาจแยกออกเป็น 3 ประการคือ
ประการที่หนึ่ง อันตรายที่เกิดจากโรคที่ขาดการรักษาเช่น โรคความดันโลหิต
สูง โรคเบาหวาน หรือโรคหืด ซึ่งการแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้
หายขาดได้ การให้ยานั้นเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันโรคแทรกซ้อนที่
อาจจะเกิดขึ้น ถ้าไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ถูกต้องอาจจะเบื่อก็เลยหยุดยา แล้ว
รักษาด้วยสมุนไพร มียาสมุนไพรหลายชนิดที่อาจจะไม่มีประสิทธิภาพในการ
รักษาโรค นอกจากนั้นโรคที่ท่านเป็นอยู่บางครั้งก็อาจจะไม่มีอาการเด่นชัด
ทาให้เข้าใจผิดคิดว่าโรคหายแล้วก็ละเลยกับการรักษาที่ถูกต้อง นานๆ ไปโรค
เดิมอาจจะกาเริบเช่น เป็นความดันโลหิตสูงมากๆ ไม่ได้รักษาก็อาจจะทาให้
เส้นเลือดแตกในสมองเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
8
ประการที่สอง เป็นอันตรายที่เกิดจากฤทธิ์ของสมุนไพรโดยตรง มีสมุนไพร
หลายชนิดที่มีสารเคมีที่เป็นพิษร้ายแรง ถ้าได้รับเข้าไปจะทาให้เกิดอาการจาก
พิษของสารชนิดนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น มะเกลือ (มะเกลือเป็นไม้ยืนต้นขนาด
กลาง) เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่าผลมะเกลือมีสารเคมีที่สาคัญหลายชนิดที่
มีสรรพคุณในการขับถ่ายพยาธิ ตารับยากลางบ้านได้แนะนาให้ใช้ผลมะเกลือ
สดตาคั้นผสมกะทิ ได้มีรายงานผู้ป่วยหลายรายที่ได้รับพิษจากมะเกลือ ผู้ป่วย
มีอาการไข้ อาเจียน ท้องเดิน หลังจากนั้นจะมีอาการตามัว ตามองไม่เห็น ตา
บอดได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผลมะเกลือที่แก่เต็มที่จนมีสีดานั้น อาจจะมี
สาร nepthalene ซึ่งเป็นพิษต่อประสาทตาโดยตรง
ยี่โถ ไม้พุ่มประดับที่นิยมปลูกกันตามบ้านเรือน
เคยมีผู้แนะนาให้เอาใบยี่โถต้มน้ารับประทาน
เพื่อแก้โรคพิษสุราเรื้อรัง หลังจากรับประทาน
เข้าไป มีอาการอาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ และ
ปวดท้อง ถ้ารับประทานมากพิษของสารเคมีใน
ใบยี่โถจะกดการเต้นของหัวใจ ทาให้หัวใจเต้นช้า
ลง และอาจจะหยุดได้ ดังนั้นจึงควรจะต้อง
ระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก อาจ
รับประทานเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
นอกจากนี้พืชอื่นๆ อีกหลายชนิดก็อาจจะมีพิษ เช่น
ลาโพง มีพิษต่อระบบประสาทโดยตรง ถ้าได้รับเข้าไป
มากคนไข้จะมีอาการตาพร่ามัว ปากแห้ง กระหายน้า
ม่านตาขยาย ไม่สู้แสง ผิวหนังร้อนแดง ถ้าเป็นมาก
อาจถึงขั้นสับสน จิตประสาทหลอน และคลุ้มคลั่ง
ประการที่สาม อันตรายจากสารเจือปนในสมุนไพร ทางคณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ทาการตรวจวิเคราะห์ยาสมุนไพร เพื่อจะหาสารเจือ
ปนที่อาจจะเป็นอันตรายจากตัวอย่างจานวนร่วมร้อย พบว่ามี arsenic 60%
มีสาร steroids 30% นอกจากนั้นมีสารปรอทและตะกั่วประปราย
 สารปรอท ปรอทที่ผสมในสมุนไพร อาจจะทาให้เป็นพิษ โดยมีอาการ
ปากเปื่ อย เหงือกอักเสบ ฟันหลุด น้าลายไหลมากผิดปกติ และไตวาย
เป็นต้น
9
 สารตะกั่ว พิษของสารตะกั่วเป็นที่รู้จักกันดี ตะกั่วเป็นพิษทาให้มีอาการ
ปวดท้อง โลหิตจาง กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากปลายประสาทผิดปกติ เป็น
ต้น
 Arsenic ในสมัยก่อนนิยมใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังเรื้อนกวาง และ
รักษาโรค syphilis ในปัจจุบันเลิกใช้เพราะเป็นยาอันตราย ในตารา
แพทย์โบราณทั้งของไทยและจีนเชื่อว่า arsenic มีคุณสมบัติกระตุ้นให้
กระชุ่มกระชวย แต่ถ้าผู้ป่วยได้รับมากเกินไปก็อาจจะเกิดพิษของ
arsenic ได้ ในระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย
ต่อมาผู้ป่วยมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณปลายประสาทแปร๊บๆ
แบบถูกไฟฟ้าช๊อต ระยะหลังจะมีผื่นตามตัวสีดา ผิวหนังหนาขึ้น ผู้ป่วย
ที่ได้รับ arsenic อาจจะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้มากขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งปอด เป็นต้น
 Steroids มีคุณสมบัติบรรเทาอาการของโรคหลายชนิด จึงนิยมเจือปน
ในสมุนไพร ทาให้โรคบางอย่างดูเหมือนดีขึ้น เช่น โรคหืด โรคไขข้อ
อักเสบ แต่ถ้าใช้นานๆ จะมีอาการข้างเคียงและอันตรายอย่างมาก
ผู้ป่วยมีหน้าบวมฉุ เป็นสิว ลาตัวอ้วนกลม ผิวหนังลายเป็นจ้าเลือดได้
ง่าย และกระดูกผุ เป็นต้น ถ้าใช้ติดต่อกันนานทาให้ติดยาและถ้าหยุดยา
เฉียบพลัน อาจทาให้ช็อคได้
คาแนะนาในการใช้สมุนไพร
สมุนไพรเป็นดาบสองคม พึงระลึกเสมอว่าอะไรก็ตามที่มีประโยชน์มาก ก็อาจ
มีโทษได้เช่นกัน การใช้สมุนไพรควรจะต้องระมัดระวัง
หลักการในการใช้สมุนไพรคือ
1. ถ้าเป็นโรคที่ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่ารักษาด้วยสมุนไพรได้ผลดี ก็ไม่ควร
รักษาด้วยสมุนไพร เช่น งูพิษกัด สุนัขบ้ากัด โรคบาดทะยัก กระดูกหัก วัณโรค
เบาหวาน เป็นต้น
2. กลุ่มอาการบางอย่างที่บ่งชี้ว่า อาจจะเป็นโรคร้ายแรงที่จาเป็นต้องรักษา
อย่างรีบด่วนเช่น ไข้สูง ซึม ไม่รู้สึกตัว ปวดอย่างรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด ตก
เลือดจากช่องคลอด ท้องเดินอย่างรุนแรง หรือคนไข้เป็นเด็กและสตรีมีครรภ์
ควรรีบนาปรึกษาแพทย์ แทนที่จะรักษาด้วยสมุนไพร
3. การใช้ยาสมุนไพรนั้น ควรค้นคว้าจากตารา หรือปรึกษาท่านผู้รู้ โดยใช้ให้
ถูกต้อง ใช้ให้ถูกส่วน ใช้ให้ถูกขนาด ใช้ให้ถูกวิธี ใช้ให้ถูกโรค ใช้ให้ถูกคน
10
4. ไม่ควรใช้สมุนไพรติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพราะพิษอาจจะสะสมได้ เมื่อ
ใช้ยาหลายสัปดาห์ อาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
5. ถ้ามีอาการพิษที่เกิดขึ้นจากยาสมุนไพร ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ควรรีบหยุด
ยาโดยเร็ว
ประโยชน์ของการใช้ยาสมุนไพร
1. ราคาถูกกว่ายาแผนใหม่ (ยาแผนปัจจุบัน) มาก
2. มีพิษและผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแผนใหม่
3. สมุนไพรบางชนิดเป็นทั้งอาหารและยาด้วย
4. ไม่ต้องซื้อหา สามารถปลูกได้เองในบ้าน
5. เหมาะกับคนส่วนใหญ่ เพราะสามารถนามาใช้ได้เอง เมื่อรู้จักวิธีใช้
6. ช่วยลดดุลการค้า ในการสั่งยาจากต่างประเทศ
7. ทาให้คนเห็นคุณค่า และกลับมาดาเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
8. ทาให้เกิดความภูมิใจ ในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทยเพื่อ
เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยในการสนับสนุนให้ประชาชนช่วยตนเองใน
การใช้ยาสมุนไพรตามแบบแผนโบราณ
ปฏิรูปแพทย์แผนไทย ควบคู่กับพัฒนาสมุนไพรไทย
ผ.ศ. ยุพา เต็งวัฒนโชติ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงการปฏิรูปแพทย์แผนไทย ในรายการวิสดอม
ทอล์กของอาร์เอสยู วิสดอม ทีวี ว่า “แพทย์แผนไทยจะมองคนแบบองค์
รวมทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อระบบการทางานส่วนหนึ่งส่วนใดเสียก็จะไป
กระทบอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งแพทย์แผนไทยจะเหมาะสมกับโรคเรื้อรังทั้งหลาย
เพราะแพทย์แผนปัจจุบันจะบรรเทาอาการ แต่ต้องกินยาควบคุมอาการ
ต่อเนื่อง เมื่อกินไปนานๆจะไปมีผลกระทบต่อตับไต ซึ่งจะพาโรคอื่นๆมาอีก”
เห็นควรอย่างยิ่งว่าควรเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้ใช้หลักการ
แพทย์แผนไทย โดยการรักษาที่ต้นเหตุ อาการที่จะสืบเนื่องไปอาการต่างๆ
11
ก็จะน้อยลง สุขภาพจะดีขึ้น ไม่ต้องกินยาตลอดชีวิตซึ่งต้องแก้ที่ต้นเหตุ
คือระบบในร่างกาย
การผลิตยาสมุนไพร ในตารับหนึ่งจะมีสมุนไพรมากกว่า 10 ชนิดต้องใช้
องค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยเลือกตารายาที่ดีแล้วพัฒนาให้ทันสมัย
แทนที่จะกินยาต้มนามาปรับให้สะดวกขึ้น ผลิตในโรงงานมาตรฐาน มีการ
ควบคุมตามมาตรฐานGMP (Good Manufacturing Practice หรือหลักเกณฑ์
และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร จัดทาขึ้นโดยหน่วยงานมาตรฐานอาหาร
ระหว่างประเทศ)
การยกระดับแพทย์แผนไทยขึ้นมาให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นและ
ทางานร่วมกันกับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยมีค่าทางวิทยาศาสตร์มารองรับว่า
เมื่อให้ยาไปแล้วผลการรักษาดีขึ้นหรือไม่ก็จะเป็นการยืนยันอย่างหนึ่ง แพทย์
แผนปัจจุบันก็จะช่วยยืนยันว่ารักษาแล้วดีขึ้นจริงทาให้ได้รับการเชื่อถือมาก
ขึ้น
การพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก ไทยมีความพร้อมในการเข้าร่วม
แข่งขันหรือไม่ ?
รองศาสตราจารย์ ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของ
สหประชาชาติ และอาจารย์ประจาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ประเทศไทยมีการใช้สมุนไพรเพื่อการรักษามา
นาน บรรพบุรุษได้สั่งสมองค์ความรู้ด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวง
สาธารณสุขได้มีการออกประกาศ กระทรวงฯ คุ้มครองตาราการแพทย์แผน
ไทยของชาติ 198 ตารา และตารับยาแผนไทยของชาติ 30,000 ตารับ ตารา
ยาสมุนไพรที่สาคัญ เช่น “แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์” ซึ่งเป็นตาราที่ล้นเกล้า
รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดาริให้รวบรวมไว้กว่า 1,200 ตารับ และยังมีตารา
ยาวัดโพธิ์ที่รวบรวมจากจารึก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า
เจ้าอยู่หัว เป็นต้น ซึ่งจากเอกสารและจารึกเหล่านี้เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี
ว่า ประเทศไทยมีการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรมานาน
12
แต่เมื่อยาเคมีจากต่างชาติเริ่มมามีบทบาทในวิถีชีวิตคนไทย ทาให้ความนิยม
ใช้ยาสมุนไพรลดลง ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ กล่าวว่า ประเทศไทยขาดโอกาส
ทางการแข่งขันในตลาดยารักษาโรคไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ประเทศไทยมี
วัตถุดิบคือ สมุนไพรที่มีคุณภาพ มีสารสาคัญที่จะสกัดออกมา แปรรูปเป็นยา
สมุนไพร ที่มีมูลค่าสูง
ปัญหาคือ การขาด Know-How เทคโนโลยีสมุนไพรขั้นสูง ซึ่งทาให้ไม่
สามารถสร้างนวัตกรรมยาสมุนไพรได้ ตั้งแต่ต้นน้าคือ การคุมการปลูกพืช
สมุนไพรให้ได้คุณภาพ ตัวยาสม่าเสมอ การขาดเทคโนโลยีการสกัดและการ
ผลิตที่ทันสมัยเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามมาตรฐานสากล อัน
จะทาให้สามารถส่งไปจาหน่ายได้ทั่วโลก
“เวลานี้กระแสความต้องการสมุนไพรเพิ่มขึ้นสูงมากในตลาดโลกเพราะ
สมุนไพรช่วยทั้งการรักษาโรคป้องกันและส่งเสริมสุขภาพประเทศเรามี
สมุนไพรมากมายและหลากหลายแต่ขาดการสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ได้
ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ในขณะที่การผลิตผลิตภัณฑ์ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการปลูก
สมุนไพรต้องปลอดจากสารเคมีหากต้องการแข่งขันในตลาดโลกจะต้องเร่ง
พัฒนานวัตกรรมทั้งการปลูกสมุนไพรให้ได้คุณภาพสม่าเสมอ ปลอดสารพิษ
ไม่ใช้สารเคมี และต้องมีกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพเป็นที่ยอมรับมีการวิจัย
เพื่อยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ดีจริงๆ หากทาได้ก็จะสร้างรายได้ให้แก่
ประเทศอย่างมหาศาล”
13
ส่วนเหตุที่ทาให้ความต้องการใช้ยาสมุนไพรเพิ่มมากขึ้นนั้น
ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เวลานี้ยาเคมีกาลังประสบปัญหาหลาย
ประการ กล่าวคือ การวิจัยและพัฒนายาใหม่แต่ละตัวนั้นต้องสูงทุนสูงมาก
และต้องใช้เวลานานยาเคมีบางชนิดก็จะมีอาการข้างเคียงที่เป็นพิษ
ไม่สามารถนาวัตถุดิบเคมีในกระบวนการสังเคราะห์ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้
โรงงานที่สังเคราะห์ตัวยาเคมีอาจก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ยาเคมีมีราคาแพง
ทาให้ประชาชนเข้าถึงยากโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกาลังพัฒนา
นอกจากนั้นมีข้อจากัดในประสิทธิภาพการรักษาโดยเฉพาะการรักษากลุ่มโรค
ไม่ติดต่อเรื้อรังบางชนิดที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น โรคหัวใจหลอด
เลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น
การที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นเรื่อง
ที่ดี ทาให้เปิดโอกาสให้มีการศึกษาวิจัย ค้นคว้าสมุนไพรมากขึ้น แต่อย่างไรก็
ตาม การพัฒนาจะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วนมาทางานร่วม
และปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ต้องเรียนรู้ว่าตลาดโลกต้องการอะไร แล้ว
ดาเนินการกาหนดกฎเกณฑ์เพื่อผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีการขึ้นทะเบียน
ตารับยาสมุนไพรไทยเพื่อการส่งออกหากทาสาเร็จและได้ผลจริงก็จะ
ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงเพราะประชาชนทุกภาคส่วน
ได้ประโยชน์เป็นการต่อยอดสร้างเศรษฐกิจของประเทศบนพื้นฐานที่เป็นจุด
แข็งของประเทศเรา จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นาของโลกด้าน
ยาสมุนไพรต่อไป
14
แผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพร ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560-2564
เป้าหมาย
● ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ
และผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนาของภูมิภาคอาเซียน
● มูลค่าวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ภายในประเทศเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 1 เท่าตัว
พันธกิจ
● พัฒนาสมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับ
● ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้มาตรฐานมีคุณภาพและสร้าง
มูลค่าเพิ่ม
● เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรไทย
● ส่งเสริมให้เกิดความรู้ คามเข้าใจ และการใช้สมุนไพรไทย
ยุทธศาสตร์
➔ส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรที่มีศักยภาพตามความต้องการ
ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
❏ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
❏ การวิจัยและการจัดทาข้อกาหนดมาตรฐานวัตถุดิบ
สมุนไพร
❏ การอนุรักษ์และการใช้พืชสมุนไพรจากป่าที่ยั่งยืน
15
➔พัฒนาอุตสาหกรรมและการตลาดสมุนไพรให้มีคุณภาพ
ระดับสากล
❏ การพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย
❏ การพัฒนาการตลาดสมุนไพรไทย
❏ การวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทย
➔ส่งเสริมการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคและการสร้างเสริม
สุขภาพ
❏ การพัฒนาโครงสร้าง ส่งเสริมการจัดบริการและการใช้
สมุนไพรในสถานบริการสาธารณสุข
❏ การวิจัย เสริมสร้างองค์ความรู้ มาตรฐาน คุณภาพ
และความเสี่ยง
❏ พัฒนาความเข้มแข็งทางวิชาการของการแพทย์แผน
ไทย
❏ การจัดการและการเข้าถึงยาจากสมุนไพรในบัญชียา
หลักแห่งชาติ
❏ การใช้สมุนไพรในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกัน
โรคในชุมชนและบทบาทของหมอพื้นบ้าน
❏ การสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ที่ถูกต้อง
ความเข้าใจ ความเชื่อมั่น
➔สร้างความเข้มแข็งของการบริหารและนโยบายภาครัฐเพื่อ
การขับเคลื่อนสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน
❏ พัฒนาโครงสร้างการบริหารสมุนไพรไทย
❏ พัฒนากฎหมายด้านการส่งเสริมและควบคุม
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย
❏ พัฒนาระบบฐานข้อมูลสมุนไพรและระบบประเมินขีด
ความสามารถในการแข่งขันด้านสมุนไพร
❏ การเสริมสร้างกลไกบริหารงานวิจัยและพัฒนา
สมุนไพร
❏ การเสริมสร้างและพัฒนาสมุนไพร Product Champion
16
❏ การพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City)
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.เลือกหัวข้อที่สงสัยและปรึกษากับครูผู้สอน
2.ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.จัดทารายงาน
4.นาเสนอครูผู้สอน
5.ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จัดทา
-คอมพิวเตอร์
-โทรศัพท์มือถือ
งบประมาณ
50-150 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลา
ดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อ
โครงงาน
x
2 ศึกษาและ
ค้นคว้าข้อมูล
x x x x
3 จัดทาโครงร่าง
งาน
x x x
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
x x x x x
5 ปรับปรุงทดสอบ x x x
6 การทา
เอกสารรายงาน
x x
17
7 ประเมินผลงาน x x
8 นาเสนอ
โครงงาน
x
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรมากขึ้น ทาให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จัก
มีความสาคัญมากขึ้นในสังคมไทย
2.เผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้ทราบถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทยอย่างคร่าวๆ
3.ทาให้เรารู้จักสมุนไพรไทยที่มีในประเทศของเราเองมากขึ้น ทราบสรรพคุณ
เนื่องจากสมุนไพรไทยนั้นมีหลายชนิด สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละตัว
สามารถใช้รักษาโรคได้อย่างดี และที่สาคัญไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากเท่า
ยาจากสารเคมี สามารถใช้เป็นความรู้รอบตัวไว้ใช้ในยามจาเป็น
สถานที่ดาเนินการ
1.ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
2.ห้องสมุด โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2.กลุ่มสาระการเรียนรู้คอมพิวเตอร์
3.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
บรรณานุกรม
-สารรังสิตONLINE : การพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก ไทยมีความพร้อมใน
การเข้าร่วมแข่งขันหรือไม่?.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://www2.rsu.ac.th/sarnrangsit-online-detail/herb01
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 26 สิงหาคม 2562)
-รูปแบบและประเภทของสมุนไพร.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
จาก https://beezab.com/สมุนไพร-มีอะไรบ้าง/
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 24 สิงหาคม 2562)
-ประโยชน์ของการใช้สมุนไพร.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
จาก http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs1-11.htm
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 23 สิงหาคม 2562)
18
-คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี : สมุนไพร .[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://med.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/pois-cov/Herbal
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 23 สิงหาคม 2562)
-โพสต์ทูเดย์ สุขภาพ : สมุนไพรแห่งชาติ .[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
จาก https://www.posttoday.com/life/healthy/498479
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 26 สิงหาคม 2562)
-กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก : หนังสือแผนแม่บทแห่งชาติ ว่า
ด้วยการพัฒนาสมุนไพร ฉบับที่ 1 พ.ศ 2560-2564.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://www.dtam.moph.go.th/index.php?option=com_content&view
=article&id=1672:dl0021&catid=42&Itemid=334&lang=th
(วันที่สืบค้นข้อมูล: 26 สิงหาคม 2562)

More Related Content

What's hot

กากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิวกากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิวJitrapron Tongon
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร Wichitchai Buathong
 
ใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
ใบงานที่5 โครงร่างโครงานใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
ใบงานที่5 โครงร่างโครงานPopeye Kotchakorn
 
เค้าโครงร่างอีฟ
เค้าโครงร่างอีฟเค้าโครงร่างอีฟ
เค้าโครงร่างอีฟJah Jadeite
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
เค้าโครงร่างคู่
เค้าโครงร่างคู่เค้าโครงร่างคู่
เค้าโครงร่างคู่Jah Jadeite
 
รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2
รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2
รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2Sircom Smarnbua
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...Suricha Phichan
 
แบบเสนอร่างโครงงาน
แบบเสนอร่างโครงงานแบบเสนอร่างโครงงาน
แบบเสนอร่างโครงงานjokercoke
 
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์jokercoke
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
ศาสดาของพระพุทธศาสดา
ศาสดาของพระพุทธศาสดาศาสดาของพระพุทธศาสดา
ศาสดาของพระพุทธศาสดาPhattiya Wievn
 
งานคอมสาว
งานคอมสาวงานคอมสาว
งานคอมสาวChatika Ruankaew
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีอาภัสรา ยิ่งคำแหง
 
ความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหาร
ความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหารความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหาร
ความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหารrisa021040
 
การฟื้นฟูปะการัง
การฟื้นฟูปะการังการฟื้นฟูปะการัง
การฟื้นฟูปะการังNichaphat Sanguthai
 

What's hot (20)

กากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิวกากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิว
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
โครงงานคอมพิวเตอร์ ยาดมสมุนไพร
 
ใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
ใบงานที่5 โครงร่างโครงานใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
ใบงานที่5 โครงร่างโครงาน
 
เค้าโครงร่างอีฟ
เค้าโครงร่างอีฟเค้าโครงร่างอีฟ
เค้าโครงร่างอีฟ
 
คอม1
คอม1คอม1
คอม1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
เค้าโครงร่างคู่
เค้าโครงร่างคู่เค้าโครงร่างคู่
เค้าโครงร่างคู่
 
รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2
รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2
รายงานโครงการเครื่องจักสานงานไม้ไผ่ภูมิปัญญาไทอีสาน2558ศพว2
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
 
แบบเสนอร่างโครงงาน
แบบเสนอร่างโครงงานแบบเสนอร่างโครงงาน
แบบเสนอร่างโครงงาน
 
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
รายงานคอม
รายงานคอมรายงานคอม
รายงานคอม
 
ศาสดาของพระพุทธศาสดา
ศาสดาของพระพุทธศาสดาศาสดาของพระพุทธศาสดา
ศาสดาของพระพุทธศาสดา
 
งานคอมสาว
งานคอมสาวงานคอมสาว
งานคอมสาว
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
 
Bathbomb
BathbombBathbomb
Bathbomb
 
ความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหาร
ความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหารความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหาร
ความพึ่งพอใจในการใช้บริการโรงอาหาร
 
การฟื้นฟูปะการัง
การฟื้นฟูปะการังการฟื้นฟูปะการัง
การฟื้นฟูปะการัง
 
ดอกแก้วไล่แมลง
ดอกแก้วไล่แมลงดอกแก้วไล่แมลง
ดอกแก้วไล่แมลง
 

Similar to 2562 final project 26,31

2561 project
2561 project 2561 project
2561 project asirwa04
 
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้KuNg Pw
 
กิจกรรมที่5
กิจกรรมที่5กิจกรรมที่5
กิจกรรมที่5Manop Amphonyothin
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Sk'b Methasith
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Sk'b Methasith
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Sk'b Methasith
 
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้KuNg Pw
 
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลกไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลกkuanjai saelee
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)Thanarak Karunyarat
 
2557 โครงงาน 3-
2557 โครงงาน  3-2557 โครงงาน  3-
2557 โครงงาน 3-Milk MK
 
2557 โครงงาน 2-
2557 โครงงาน  2-2557 โครงงาน  2-
2557 โครงงาน 2-Milk MK
 
10657065 747554985324701 2086860594_n
10657065 747554985324701 2086860594_n10657065 747554985324701 2086860594_n
10657065 747554985324701 2086860594_nMilk MK
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ rujira plumjit
 

Similar to 2562 final project 26,31 (20)

2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
 
กิจกรรมที่5
กิจกรรมที่5กิจกรรมที่5
กิจกรรมที่5
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานคอมพ
งานคอมพ งานคอมพ
งานคอมพ
 
สบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพรสบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพร
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
โครงงาน สุดยอดว่านหางจระเข้
 
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลกไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
ไส้เดือนเพื่อนกู้โลก
 
ใบงานคอม
ใบงานคอมใบงานคอม
ใบงานคอม
 
ใบงานคอม
ใบงานคอมใบงานคอม
ใบงานคอม
 
Achi
AchiAchi
Achi
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
โครงงานคอมพิวเตอร์ (1)
 
Projectm6 2-2556
Projectm6 2-2556Projectm6 2-2556
Projectm6 2-2556
 
2557 โครงงาน 3-
2557 โครงงาน  3-2557 โครงงาน  3-
2557 โครงงาน 3-
 
2557 โครงงาน 2-
2557 โครงงาน  2-2557 โครงงาน  2-
2557 โครงงาน 2-
 
Corn Snake
Corn SnakeCorn Snake
Corn Snake
 
10657065 747554985324701 2086860594_n
10657065 747554985324701 2086860594_n10657065 747554985324701 2086860594_n
10657065 747554985324701 2086860594_n
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 

2562 final project 26,31

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรไทย ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ นางสาวสโรชา สมบุญ เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 6 นางสาวณัฏณิชา เหล่าชุมแพ เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 6 อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1.นางสาว สโรชา สมบุญ เลขที่ 27 ชั้น ม.6 ห้อง 6 2.นางสาวณัฏฐณิชา เหล่าชุมแพ เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 6 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพร ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) The Development of Utilization of Herbs. ประเภทโครงงาน จาลองทฤษฎี ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสโรชา สมบุญ นางสาวณัฏฐณิชา เหล่าชุมแพ ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ปัจจุบัน สมุนไพรถูกนามาใช้มากขึ้นในรูปแบบของยา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ แสดงให้เห็นว่าผู้คนเล็งเห็นถึงความสาคัญและสรรพคุณของสมุนไพรกันมาก ขึ้น นอกจากจะทายารักษาโรคแล้วยังมี การทาครีมทาผิวจากกวาวเครือขาว สบู่ขมิ้นชันผสมมะขาม แชมพูสระผมจากมะกรูด และอื่นๆ โดยผลิตภัณฑ์ เหล่านี้ผสมสารสกัดจากสมุนไพรที่มีประโยชน์และสรรพคุณต่างๆนานา แต่ อย่างไรก็ตาม สมุนไพรก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก การแพทย์แผนไทยได้นา สมุนไพรไทยมาใช้ประโยชน์มากขึ้น สมุนไพรจึงกลับมาได้รับความนิยมอีก ครั้งหนึ่ง ผู้จัดทาจึงมีความสนใจในหัวข้อนี้ เพราะ สมุนไพรเป็นพืชที่หาได้ ตามท้องถิ่นและมีในประเทศไทยจานวนมาก มีผู้นามาใช้อย่างแพร่หลาย แต่ ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ทาให้เกิดความสงสัยว่า เพราะ เหตุใดสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายและรักษาโรคได้จึงไม่ได้รับความนิยม ผู้คนไม่ค่อยให้ความสาคัญ ประกอบกับต้องการศึกษาสรรพคุณสมุนไพรเพื่อ เป็นความรู้เพิ่มเติมและต่อยอดในอนาคตได้
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ 1.เผยแพร่ การใช้ประโยชน์และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร 2.นาเสนอแนวทางการนาสมุนไพรไปใช้ในการรักษาโรคและบารุงร่างกาย 3.ต้องการให้บุคคลทั่วไปรู้จักสมุนไพรมากขึ้นและเห็นความสาคัญของ สมุนไพร ขอบเขตโครงงาน 1.ความหมาย ประเภทและสรรพคุณของสมุนไพร ตัวที่มีการใช้ในปัจจุบัน 2.การนาสมุนไพรมาใช้และวิธีการใช้ที่ถูกต้อง 3.การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรในด้านต่างๆ เช่น รักษาโรค บารุงร่างกาย 4.การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทาเป็น ผลิตภัณฑ์หลายชนิดมากขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ยารักษาโรค หรือ ทาให้ผลิตภัณฑ์ จากสมุนไพรน่าสนใจ ดึงจุดเเด่นของสมุนไพรออกมาให้ผู้คนได้ทราบมากขึ้น เป็นต้น หลักการและทฤษฎี การจาแนกรูปแบบของสมุนไพรที่ใช้เป็นยา สมุนไพรไม่ว่าจะเป็นส่วนที่มาจากพืชวัตถุ สัตว์วัตถุ หรือธาตุวัตถุก็ตาม เวลา จะนามาใช้เพื่อบริโภค หรือเพื่อการรักษาตามกรรมวิธีจาเพาะอันใดก็ตาม พอจะจาแนกรูปแบบของสมุนไพรที่ใช้เป็นยาได้ดังนี้คือ 1. รูปแบบที่เป็นของเหลว ยาเหล่านี้มักได้จากกรรมวิธีต่างๆ กันเช่น ยาต้ม คือหั่นต้นยาแล้วต้มกับน้า ยาชงเป็นยาแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั่วแล้วนาไปชง กับน้า น้าคั้นสมุนไพรเตรียมโดยการเอาต้นสมุนไพรสดๆ ตาให้ละเอียด เติม น้าแล้วคั้นเอาน้ายามารับประทาน และยาดองเตรียมโดยบดสมุนไพรให้แห้ง ห่อด้วยผ้าขาวบาง ดองในสุรา
  • 4. 4 2. รูปแบบที่เป็นของแข็ง ยาปั้ นลูกกลอน เตรียมโดยหั่นต้นไม้ยาสดให้เป็น แว่นบางๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง ผสมกับน้าผึ้งหรือน้าเชื่อม 1 ส่วน ปั้ น เป็นลูกกลมๆ เล็กๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ปั้ นเสร็จผึ่งแดดจน แห้ง 3. รูปแบบกึ่งแข็งกึ่งเหลว สมุนไพรเหล่านี้จะทาให้อยู่ในลักษณะพอทรงตัว ได้ มักใช้เพื่อการรักษาภายนอก เช่น ยาพอก เตรียมโดยใช้ต้นสดตาให้แหลก หรือเหลว 4. รูปแบบอื่นๆ ที่มีลักษณะการใช้พิเศษ เช่นใช้วิธีรมควัน เพื่อรักษาโรคของ ทางเดินหายใจ หรือการรมควันเพื่อรักษาแผล และให้มดลูกเข้าอู่ในสตรี ภายหลังคลอด ● ประเภทของสมุนไพร สาหรับการแบบประเภทของสมุนไพรไทย นั้น เราใช้การแบ่งประเภทของ สมุนไพร ออกเป็น 2 ประเภท คือ สมุนไพรแผนโบราณ และสมุนไพรแผน ปัจจุบัน ซึ่ง รายละเอียด แตกต่างกันอย่างไร มีรายละเอียดดังนี้ สมุนไพรแผนโบราณ คือ สิ่งที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้จาก พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ซึ่งลักษณะการใช้งานในการรักษา เช่น ใช้ทาเป็น ส่วนประกอบของอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรือเครื่องสาอาง ซึ่งสมุนไพรแผน โบราณ เป็นความรู้และภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอด จากอดีตสู่ปัจจุบัน สาหรับสมุนไพรไทย ตามแบบฉบับแพทย์แผนไทย นั้น สามารถแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ สมุนไพรไทยแผนโบราณ และสมุนไพรจีนแผนโบราณ รายละเอียดดังต่อไปนี้ ● สมุนไพรไทยแผนโบราณ คือ พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่สามารถหาได้ใน ท้องถิ่นของประเทศไทย ซึ่งแพทย์ใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นส่วนประกอบของ ยารักษาโรค อาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสาอาง ● สมุนไพรจีนแผนโบราณ คือ พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่ใช้ในการรักษาโรค โดยเป็นสมุนไพร ที่มีอยู่ในประเทศจีน เป็นความรู้และภูมิปัญญาการ
  • 5. 5 รักษาโรคที่ได้จากชนชาติจีน และสมุนไพรเหล่านี้ ส่วนใหญ่หาได้ที่ ประเทศจีน หรือประเทศที่มีภูมิอากาศใกล้เคียงกับประเทศจีน สมุนไพรแผนปัจจุบัน คือ พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่ทางการแพทย์และเภสัชกร สมัยใหม่ ได้ศึกษา และทดลองแล้ว ให้การยอมรับถึงผลของสมุนไพร เพื่อใช้ ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งสมุนไพรแผนปัจจุบัน สามารถสกัดพืช สัตว์หรือแร่ ธาตุต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบผง เม็ด น้า หรือ ครีม เป็นต้น เรียกลักษณะนี้ว่าการ สกัดเอาสารบางชนิดจากสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ● ประเภทของสมุนไพรตามหลักเภสัชกรรม สาหรับประเภทของสมุนไพร ตามแบบเภสัชกร นั้น เราแบ่งสมุนไพรออกเป็น ชนิดต่างๆ ตามความแตกต่างของวัตถุดิบ ประกอบด้วย พืช สุตว์และแร่ธาตุ รายละเอียดของสมุนไพรที่แบ่งตามหลักเภสัชศาสตร์ มี ดังนี้ ❖ พืชสมุนไพร สมุนไพรชนิดพืช สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ซึ่งประกอบด้วย แบ่ง ออกเป็น 5 ประเภท คือ ● ชนิดต้นไม้ อาทิ เช่น ต้นพิกุล ต้นขี้เหล็ก ต้นมะตูม เป็นต้น ● ชนิดเถาหรือเครือ อาทิ เช่น บอระเพ็ด เถาคันแดง เป็นต้น ● ชนิดหัวหรือเหง้า อาทิ เช่น ข่า ขิง กระชาย กวาวเครือ เป็นต้น ● ชนิดผัก อาทิ เช่น ผักบุ้ง ผักชี ผักกาด เป็นต้น ● ชนิดหญ้า อาทิ เช่น หญ้าแพรก หญ้าคา ตะไคร้ เป็นต้น ❖ สัตว์สมุนไพร สมุนไพรที่ได้จากสัตว์ต่างๆ สามารถแบ่งประเภทของสัตว์สมุนไพรออกเป็น 3 ประเภท คือ สัตว์บกสมุนไพร สัตว์น้าสมุนไพร และสัตว์ปีกสมุนไพร รายละเอียด ดังนี้ ● สัตว์บกสมุนไพร อาทิ เช่น ควายเผือก หมีควาย เสือ ตุ๊กแก งู เป็นต้น ● สัตว์น้าสมุนไพร อาทิ เช่น ปลาฉลาม เต่า ปลาหมึก หอยสังข์ เป็นต้น ● สัตว์ปีกสมุนไพร อาทิ เช่น นกนางแอ่น ผึ้ง เป็นต้น
  • 6. 6 ❖ แร่ธาตุสมุนไพร สมุนไพร ที่ได้จากแร่ธาตุต่างๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สมุนไพร แร่ธาตุที่สลายตัวยาก และสมุนไพรแร่ธาตุที่สลายตัวเร็ว รายละเอียด ดังนี้ ● ชนิดสลายตัวยาก อาทิ เช่น เหล็ก ทองคา เงิน เป็นต้น ● ชนิดสลายตัวเร็ว อาทิเช่น สารส้ม พิมเสน เกลือ เป็นต้น ประเภทสมุนไพรแบ่งตามคุณสมบัติของสมุนไพร การแบ่งชนิดของสมุนไพร ยังมีการแบ่งตามรสชาติของสมุนไพร ชนิดนั้นๆ ด้วย ซึ่ง สมุนไพร ที่มีรสชาติต่างกัน ให้สรรพคุณในการรักษาโรคที่ต่างกัน รสชาติจึงสามารถบ่งบอกประโยชน์ด้านการรักษาโรคได้ด้วย ซึ่งรายละเอียด ของสมุนไพรรสชาติ ต่างๆ สามารถแบ่งได้ มี 9 รสชาติ ประกอบด้วย รสฝาด รสหวาน รสเมา รสขม รสเผ็ด รสมัน รสหอม รสเค็ม และรสเปรี้ยว รายละเอียดดังนี้ ● รสฝาด จะมีประโยชน์ด้านการรักษาแผล ช่วยสมานแผล ได้ดี ● รสหวาน จะมีประโยชน์ช่วยบารุงร่างกาย ช่วยเพิ่มกาลังวังชา ให้ กระชุ่มกระชวย เป็นต้น ● รสเมาเบื่อ จะช่วยให้ขัยของเสียออกจากร่างกายได้ดี แก้พิษ ได้ ● รสขม สมุนไพรรสขม ช่วยทาให้เจริญอาหาร กระตุ้นน้าลาย แก้กระหาย น้า และบารุงเลือด เป็นต้น ● รสเผ็ดร้อน จะมีประโยชน์ช่วยบารุงธาตุขัน ช่วยขับลม บารุงระบบ ทางเดินอาหาร เป็นต้น ● รสมัน ช่วยในการแก้อาการปวดเมื่อย บารุงเส้นเอ็น แก้ปวดเข่าปวดข้อ เป็นต้น ● รสหอมเย็น ช่วยบารุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้กระหาย น้า เป็นต้น ● รสเค็ม ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้ลมพิษ ได้ดี เป็นต้น ● รสเปรี้ยว ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ บารุงระบบการทางานของเลือด ได้ดี เป็นต้น
  • 7. 7 การแปรรูปพืชเพื่อนามาใช้เป็นสมุนไพร สาหรับ สมุนไพร สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งสดๆ และการแปรรูป การแปรรูป ประโยชน์เพื่อการเก็บไว้ได้นานๆและในปริมาณมากๆ รูปแบบการแปรรูป สมุนไพร มีหลายรูปแบบ รายละเอียด ดังนี้ ● ตากแห้ง เป็นการเก็บรักษาสมุนไพรให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีทีสุด ทั้งในแง่ ของคุณภาพ ปริมาณและน้าหนัก ● ทาให้ขนาดเล็กลง เป็นการนาเอาสมุนไพรมาทาให้ขนาดเล็กลง และ นาไปตากแห้ง เพื่อให้ปริมาณน้าของสมุนไพรลดลง นิยมใช้กับ ราก เปลือก ลาต้น ● บดปั่ นให้เป็นผง เป็นวิธีที่สะดวกในการใช้งานมาก สมันโบราณนิยม นามาตากแห้งและใช้ครกโขรกให้ละเอียด ● สกัดน้ามันหอมระเหย ในสมุนไพรบางชนิดที่มีกลิ่นหอม นามาต้มสกัด นาน้ามันจากสมุนไพร มาปรุงเป็นยาดม ยาหอม ยาทา เป็นต้น โทษและอันตรายจากการใช้ยาสมุนไพร สมุนไพรนอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ในทางตรงกัน ข้าม ถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็อาจมีโทษและอันตรายได้เช่นกัน อันตรายจากสมุนไพร นั้นอาจแยกออกเป็น 3 ประการคือ ประการที่หนึ่ง อันตรายที่เกิดจากโรคที่ขาดการรักษาเช่น โรคความดันโลหิต สูง โรคเบาหวาน หรือโรคหืด ซึ่งการแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้ หายขาดได้ การให้ยานั้นเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันโรคแทรกซ้อนที่ อาจจะเกิดขึ้น ถ้าไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ถูกต้องอาจจะเบื่อก็เลยหยุดยา แล้ว รักษาด้วยสมุนไพร มียาสมุนไพรหลายชนิดที่อาจจะไม่มีประสิทธิภาพในการ รักษาโรค นอกจากนั้นโรคที่ท่านเป็นอยู่บางครั้งก็อาจจะไม่มีอาการเด่นชัด ทาให้เข้าใจผิดคิดว่าโรคหายแล้วก็ละเลยกับการรักษาที่ถูกต้อง นานๆ ไปโรค เดิมอาจจะกาเริบเช่น เป็นความดันโลหิตสูงมากๆ ไม่ได้รักษาก็อาจจะทาให้ เส้นเลือดแตกในสมองเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
  • 8. 8 ประการที่สอง เป็นอันตรายที่เกิดจากฤทธิ์ของสมุนไพรโดยตรง มีสมุนไพร หลายชนิดที่มีสารเคมีที่เป็นพิษร้ายแรง ถ้าได้รับเข้าไปจะทาให้เกิดอาการจาก พิษของสารชนิดนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น มะเกลือ (มะเกลือเป็นไม้ยืนต้นขนาด กลาง) เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่าผลมะเกลือมีสารเคมีที่สาคัญหลายชนิดที่ มีสรรพคุณในการขับถ่ายพยาธิ ตารับยากลางบ้านได้แนะนาให้ใช้ผลมะเกลือ สดตาคั้นผสมกะทิ ได้มีรายงานผู้ป่วยหลายรายที่ได้รับพิษจากมะเกลือ ผู้ป่วย มีอาการไข้ อาเจียน ท้องเดิน หลังจากนั้นจะมีอาการตามัว ตามองไม่เห็น ตา บอดได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผลมะเกลือที่แก่เต็มที่จนมีสีดานั้น อาจจะมี สาร nepthalene ซึ่งเป็นพิษต่อประสาทตาโดยตรง ยี่โถ ไม้พุ่มประดับที่นิยมปลูกกันตามบ้านเรือน เคยมีผู้แนะนาให้เอาใบยี่โถต้มน้ารับประทาน เพื่อแก้โรคพิษสุราเรื้อรัง หลังจากรับประทาน เข้าไป มีอาการอาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ และ ปวดท้อง ถ้ารับประทานมากพิษของสารเคมีใน ใบยี่โถจะกดการเต้นของหัวใจ ทาให้หัวใจเต้นช้า ลง และอาจจะหยุดได้ ดังนั้นจึงควรจะต้อง ระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก อาจ รับประทานเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้พืชอื่นๆ อีกหลายชนิดก็อาจจะมีพิษ เช่น ลาโพง มีพิษต่อระบบประสาทโดยตรง ถ้าได้รับเข้าไป มากคนไข้จะมีอาการตาพร่ามัว ปากแห้ง กระหายน้า ม่านตาขยาย ไม่สู้แสง ผิวหนังร้อนแดง ถ้าเป็นมาก อาจถึงขั้นสับสน จิตประสาทหลอน และคลุ้มคลั่ง ประการที่สาม อันตรายจากสารเจือปนในสมุนไพร ทางคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ทาการตรวจวิเคราะห์ยาสมุนไพร เพื่อจะหาสารเจือ ปนที่อาจจะเป็นอันตรายจากตัวอย่างจานวนร่วมร้อย พบว่ามี arsenic 60% มีสาร steroids 30% นอกจากนั้นมีสารปรอทและตะกั่วประปราย  สารปรอท ปรอทที่ผสมในสมุนไพร อาจจะทาให้เป็นพิษ โดยมีอาการ ปากเปื่ อย เหงือกอักเสบ ฟันหลุด น้าลายไหลมากผิดปกติ และไตวาย เป็นต้น
  • 9. 9  สารตะกั่ว พิษของสารตะกั่วเป็นที่รู้จักกันดี ตะกั่วเป็นพิษทาให้มีอาการ ปวดท้อง โลหิตจาง กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากปลายประสาทผิดปกติ เป็น ต้น  Arsenic ในสมัยก่อนนิยมใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังเรื้อนกวาง และ รักษาโรค syphilis ในปัจจุบันเลิกใช้เพราะเป็นยาอันตราย ในตารา แพทย์โบราณทั้งของไทยและจีนเชื่อว่า arsenic มีคุณสมบัติกระตุ้นให้ กระชุ่มกระชวย แต่ถ้าผู้ป่วยได้รับมากเกินไปก็อาจจะเกิดพิษของ arsenic ได้ ในระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย ต่อมาผู้ป่วยมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณปลายประสาทแปร๊บๆ แบบถูกไฟฟ้าช๊อต ระยะหลังจะมีผื่นตามตัวสีดา ผิวหนังหนาขึ้น ผู้ป่วย ที่ได้รับ arsenic อาจจะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้มากขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด เป็นต้น  Steroids มีคุณสมบัติบรรเทาอาการของโรคหลายชนิด จึงนิยมเจือปน ในสมุนไพร ทาให้โรคบางอย่างดูเหมือนดีขึ้น เช่น โรคหืด โรคไขข้อ อักเสบ แต่ถ้าใช้นานๆ จะมีอาการข้างเคียงและอันตรายอย่างมาก ผู้ป่วยมีหน้าบวมฉุ เป็นสิว ลาตัวอ้วนกลม ผิวหนังลายเป็นจ้าเลือดได้ ง่าย และกระดูกผุ เป็นต้น ถ้าใช้ติดต่อกันนานทาให้ติดยาและถ้าหยุดยา เฉียบพลัน อาจทาให้ช็อคได้ คาแนะนาในการใช้สมุนไพร สมุนไพรเป็นดาบสองคม พึงระลึกเสมอว่าอะไรก็ตามที่มีประโยชน์มาก ก็อาจ มีโทษได้เช่นกัน การใช้สมุนไพรควรจะต้องระมัดระวัง หลักการในการใช้สมุนไพรคือ 1. ถ้าเป็นโรคที่ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่ารักษาด้วยสมุนไพรได้ผลดี ก็ไม่ควร รักษาด้วยสมุนไพร เช่น งูพิษกัด สุนัขบ้ากัด โรคบาดทะยัก กระดูกหัก วัณโรค เบาหวาน เป็นต้น 2. กลุ่มอาการบางอย่างที่บ่งชี้ว่า อาจจะเป็นโรคร้ายแรงที่จาเป็นต้องรักษา อย่างรีบด่วนเช่น ไข้สูง ซึม ไม่รู้สึกตัว ปวดอย่างรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด ตก เลือดจากช่องคลอด ท้องเดินอย่างรุนแรง หรือคนไข้เป็นเด็กและสตรีมีครรภ์ ควรรีบนาปรึกษาแพทย์ แทนที่จะรักษาด้วยสมุนไพร 3. การใช้ยาสมุนไพรนั้น ควรค้นคว้าจากตารา หรือปรึกษาท่านผู้รู้ โดยใช้ให้ ถูกต้อง ใช้ให้ถูกส่วน ใช้ให้ถูกขนาด ใช้ให้ถูกวิธี ใช้ให้ถูกโรค ใช้ให้ถูกคน
  • 10. 10 4. ไม่ควรใช้สมุนไพรติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพราะพิษอาจจะสะสมได้ เมื่อ ใช้ยาหลายสัปดาห์ อาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ 5. ถ้ามีอาการพิษที่เกิดขึ้นจากยาสมุนไพร ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ควรรีบหยุด ยาโดยเร็ว ประโยชน์ของการใช้ยาสมุนไพร 1. ราคาถูกกว่ายาแผนใหม่ (ยาแผนปัจจุบัน) มาก 2. มีพิษและผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแผนใหม่ 3. สมุนไพรบางชนิดเป็นทั้งอาหารและยาด้วย 4. ไม่ต้องซื้อหา สามารถปลูกได้เองในบ้าน 5. เหมาะกับคนส่วนใหญ่ เพราะสามารถนามาใช้ได้เอง เมื่อรู้จักวิธีใช้ 6. ช่วยลดดุลการค้า ในการสั่งยาจากต่างประเทศ 7. ทาให้คนเห็นคุณค่า และกลับมาดาเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น 8. ทาให้เกิดความภูมิใจ ในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทยเพื่อ เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยในการสนับสนุนให้ประชาชนช่วยตนเองใน การใช้ยาสมุนไพรตามแบบแผนโบราณ ปฏิรูปแพทย์แผนไทย ควบคู่กับพัฒนาสมุนไพรไทย ผ.ศ. ยุพา เต็งวัฒนโชติ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงการปฏิรูปแพทย์แผนไทย ในรายการวิสดอม ทอล์กของอาร์เอสยู วิสดอม ทีวี ว่า “แพทย์แผนไทยจะมองคนแบบองค์ รวมทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อระบบการทางานส่วนหนึ่งส่วนใดเสียก็จะไป กระทบอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งแพทย์แผนไทยจะเหมาะสมกับโรคเรื้อรังทั้งหลาย เพราะแพทย์แผนปัจจุบันจะบรรเทาอาการ แต่ต้องกินยาควบคุมอาการ ต่อเนื่อง เมื่อกินไปนานๆจะไปมีผลกระทบต่อตับไต ซึ่งจะพาโรคอื่นๆมาอีก” เห็นควรอย่างยิ่งว่าควรเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้ใช้หลักการ แพทย์แผนไทย โดยการรักษาที่ต้นเหตุ อาการที่จะสืบเนื่องไปอาการต่างๆ
  • 11. 11 ก็จะน้อยลง สุขภาพจะดีขึ้น ไม่ต้องกินยาตลอดชีวิตซึ่งต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือระบบในร่างกาย การผลิตยาสมุนไพร ในตารับหนึ่งจะมีสมุนไพรมากกว่า 10 ชนิดต้องใช้ องค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยเลือกตารายาที่ดีแล้วพัฒนาให้ทันสมัย แทนที่จะกินยาต้มนามาปรับให้สะดวกขึ้น ผลิตในโรงงานมาตรฐาน มีการ ควบคุมตามมาตรฐานGMP (Good Manufacturing Practice หรือหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร จัดทาขึ้นโดยหน่วยงานมาตรฐานอาหาร ระหว่างประเทศ) การยกระดับแพทย์แผนไทยขึ้นมาให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นและ ทางานร่วมกันกับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยมีค่าทางวิทยาศาสตร์มารองรับว่า เมื่อให้ยาไปแล้วผลการรักษาดีขึ้นหรือไม่ก็จะเป็นการยืนยันอย่างหนึ่ง แพทย์ แผนปัจจุบันก็จะช่วยยืนยันว่ารักษาแล้วดีขึ้นจริงทาให้ได้รับการเชื่อถือมาก ขึ้น การพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก ไทยมีความพร้อมในการเข้าร่วม แข่งขันหรือไม่ ? รองศาสตราจารย์ ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของ สหประชาชาติ และอาจารย์ประจาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ประเทศไทยมีการใช้สมุนไพรเพื่อการรักษามา นาน บรรพบุรุษได้สั่งสมองค์ความรู้ด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวง สาธารณสุขได้มีการออกประกาศ กระทรวงฯ คุ้มครองตาราการแพทย์แผน ไทยของชาติ 198 ตารา และตารับยาแผนไทยของชาติ 30,000 ตารับ ตารา ยาสมุนไพรที่สาคัญ เช่น “แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์” ซึ่งเป็นตาราที่ล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดาริให้รวบรวมไว้กว่า 1,200 ตารับ และยังมีตารา ยาวัดโพธิ์ที่รวบรวมจากจารึก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หัว เป็นต้น ซึ่งจากเอกสารและจารึกเหล่านี้เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่า ประเทศไทยมีการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรมานาน
  • 12. 12 แต่เมื่อยาเคมีจากต่างชาติเริ่มมามีบทบาทในวิถีชีวิตคนไทย ทาให้ความนิยม ใช้ยาสมุนไพรลดลง ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ กล่าวว่า ประเทศไทยขาดโอกาส ทางการแข่งขันในตลาดยารักษาโรคไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ประเทศไทยมี วัตถุดิบคือ สมุนไพรที่มีคุณภาพ มีสารสาคัญที่จะสกัดออกมา แปรรูปเป็นยา สมุนไพร ที่มีมูลค่าสูง ปัญหาคือ การขาด Know-How เทคโนโลยีสมุนไพรขั้นสูง ซึ่งทาให้ไม่ สามารถสร้างนวัตกรรมยาสมุนไพรได้ ตั้งแต่ต้นน้าคือ การคุมการปลูกพืช สมุนไพรให้ได้คุณภาพ ตัวยาสม่าเสมอ การขาดเทคโนโลยีการสกัดและการ ผลิตที่ทันสมัยเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามมาตรฐานสากล อัน จะทาให้สามารถส่งไปจาหน่ายได้ทั่วโลก “เวลานี้กระแสความต้องการสมุนไพรเพิ่มขึ้นสูงมากในตลาดโลกเพราะ สมุนไพรช่วยทั้งการรักษาโรคป้องกันและส่งเสริมสุขภาพประเทศเรามี สมุนไพรมากมายและหลากหลายแต่ขาดการสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ได้ ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ในขณะที่การผลิตผลิตภัณฑ์ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการปลูก สมุนไพรต้องปลอดจากสารเคมีหากต้องการแข่งขันในตลาดโลกจะต้องเร่ง พัฒนานวัตกรรมทั้งการปลูกสมุนไพรให้ได้คุณภาพสม่าเสมอ ปลอดสารพิษ ไม่ใช้สารเคมี และต้องมีกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพเป็นที่ยอมรับมีการวิจัย เพื่อยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ดีจริงๆ หากทาได้ก็จะสร้างรายได้ให้แก่ ประเทศอย่างมหาศาล”
  • 13. 13 ส่วนเหตุที่ทาให้ความต้องการใช้ยาสมุนไพรเพิ่มมากขึ้นนั้น ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เวลานี้ยาเคมีกาลังประสบปัญหาหลาย ประการ กล่าวคือ การวิจัยและพัฒนายาใหม่แต่ละตัวนั้นต้องสูงทุนสูงมาก และต้องใช้เวลานานยาเคมีบางชนิดก็จะมีอาการข้างเคียงที่เป็นพิษ ไม่สามารถนาวัตถุดิบเคมีในกระบวนการสังเคราะห์ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ โรงงานที่สังเคราะห์ตัวยาเคมีอาจก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ยาเคมีมีราคาแพง ทาให้ประชาชนเข้าถึงยากโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกาลังพัฒนา นอกจากนั้นมีข้อจากัดในประสิทธิภาพการรักษาโดยเฉพาะการรักษากลุ่มโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังบางชนิดที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น โรคหัวใจหลอด เลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น การที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นเรื่อง ที่ดี ทาให้เปิดโอกาสให้มีการศึกษาวิจัย ค้นคว้าสมุนไพรมากขึ้น แต่อย่างไรก็ ตาม การพัฒนาจะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วนมาทางานร่วม และปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ต้องเรียนรู้ว่าตลาดโลกต้องการอะไร แล้ว ดาเนินการกาหนดกฎเกณฑ์เพื่อผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีการขึ้นทะเบียน ตารับยาสมุนไพรไทยเพื่อการส่งออกหากทาสาเร็จและได้ผลจริงก็จะ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงเพราะประชาชนทุกภาคส่วน ได้ประโยชน์เป็นการต่อยอดสร้างเศรษฐกิจของประเทศบนพื้นฐานที่เป็นจุด แข็งของประเทศเรา จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นาของโลกด้าน ยาสมุนไพรต่อไป
  • 14. 14 แผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพร ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560-2564 เป้าหมาย ● ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนาของภูมิภาคอาเซียน ● มูลค่าวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ภายในประเทศเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 1 เท่าตัว พันธกิจ ● พัฒนาสมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับ ● ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้มาตรฐานมีคุณภาพและสร้าง มูลค่าเพิ่ม ● เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรไทย ● ส่งเสริมให้เกิดความรู้ คามเข้าใจ และการใช้สมุนไพรไทย ยุทธศาสตร์ ➔ส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรที่มีศักยภาพตามความต้องการ ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ❏ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน ❏ การวิจัยและการจัดทาข้อกาหนดมาตรฐานวัตถุดิบ สมุนไพร ❏ การอนุรักษ์และการใช้พืชสมุนไพรจากป่าที่ยั่งยืน
  • 15. 15 ➔พัฒนาอุตสาหกรรมและการตลาดสมุนไพรให้มีคุณภาพ ระดับสากล ❏ การพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ❏ การพัฒนาการตลาดสมุนไพรไทย ❏ การวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทย ➔ส่งเสริมการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคและการสร้างเสริม สุขภาพ ❏ การพัฒนาโครงสร้าง ส่งเสริมการจัดบริการและการใช้ สมุนไพรในสถานบริการสาธารณสุข ❏ การวิจัย เสริมสร้างองค์ความรู้ มาตรฐาน คุณภาพ และความเสี่ยง ❏ พัฒนาความเข้มแข็งทางวิชาการของการแพทย์แผน ไทย ❏ การจัดการและการเข้าถึงยาจากสมุนไพรในบัญชียา หลักแห่งชาติ ❏ การใช้สมุนไพรในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกัน โรคในชุมชนและบทบาทของหมอพื้นบ้าน ❏ การสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ที่ถูกต้อง ความเข้าใจ ความเชื่อมั่น ➔สร้างความเข้มแข็งของการบริหารและนโยบายภาครัฐเพื่อ การขับเคลื่อนสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน ❏ พัฒนาโครงสร้างการบริหารสมุนไพรไทย ❏ พัฒนากฎหมายด้านการส่งเสริมและควบคุม ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ❏ พัฒนาระบบฐานข้อมูลสมุนไพรและระบบประเมินขีด ความสามารถในการแข่งขันด้านสมุนไพร ❏ การเสริมสร้างกลไกบริหารงานวิจัยและพัฒนา สมุนไพร ❏ การเสริมสร้างและพัฒนาสมุนไพร Product Champion
  • 16. 16 ❏ การพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City) วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1.เลือกหัวข้อที่สงสัยและปรึกษากับครูผู้สอน 2.ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 3.จัดทารายงาน 4.นาเสนอครูผู้สอน 5.ปรับปรุงและแก้ไข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -อินเตอร์เน็ต -หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จัดทา -คอมพิวเตอร์ -โทรศัพท์มือถือ งบประมาณ 50-150 บาท ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลา ดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด ชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 1 2 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อ โครงงาน x 2 ศึกษาและ ค้นคว้าข้อมูล x x x x 3 จัดทาโครงร่าง งาน x x x 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน x x x x x 5 ปรับปรุงทดสอบ x x x 6 การทา เอกสารรายงาน x x
  • 17. 17 7 ประเมินผลงาน x x 8 นาเสนอ โครงงาน x ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.ส่งเสริมให้มีการใช้สมุนไพรมากขึ้น ทาให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จัก มีความสาคัญมากขึ้นในสังคมไทย 2.เผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้ทราบถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทยอย่างคร่าวๆ 3.ทาให้เรารู้จักสมุนไพรไทยที่มีในประเทศของเราเองมากขึ้น ทราบสรรพคุณ เนื่องจากสมุนไพรไทยนั้นมีหลายชนิด สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละตัว สามารถใช้รักษาโรคได้อย่างดี และที่สาคัญไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากเท่า ยาจากสารเคมี สามารถใช้เป็นความรู้รอบตัวไว้ใช้ในยามจาเป็น สถานที่ดาเนินการ 1.ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ 2.ห้องสมุด โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2.กลุ่มสาระการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ 3.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ บรรณานุกรม -สารรังสิตONLINE : การพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก ไทยมีความพร้อมใน การเข้าร่วมแข่งขันหรือไม่?.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www2.rsu.ac.th/sarnrangsit-online-detail/herb01 (วันที่สืบค้นข้อมูล: 26 สิงหาคม 2562) -รูปแบบและประเภทของสมุนไพร.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก จาก https://beezab.com/สมุนไพร-มีอะไรบ้าง/ (วันที่สืบค้นข้อมูล: 24 สิงหาคม 2562) -ประโยชน์ของการใช้สมุนไพร.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก จาก http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs1-11.htm (วันที่สืบค้นข้อมูล: 23 สิงหาคม 2562)
  • 18. 18 -คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี : สมุนไพร .[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://med.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/pois-cov/Herbal (วันที่สืบค้นข้อมูล: 23 สิงหาคม 2562) -โพสต์ทูเดย์ สุขภาพ : สมุนไพรแห่งชาติ .[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก จาก https://www.posttoday.com/life/healthy/498479 (วันที่สืบค้นข้อมูล: 26 สิงหาคม 2562) -กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก : หนังสือแผนแม่บทแห่งชาติ ว่า ด้วยการพัฒนาสมุนไพร ฉบับที่ 1 พ.ศ 2560-2564.[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.dtam.moph.go.th/index.php?option=com_content&view =article&id=1672:dl0021&catid=42&Itemid=334&lang=th (วันที่สืบค้นข้อมูล: 26 สิงหาคม 2562)