Word20071. -1-
บทที่ 1
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
โปรแกรมนี้ใช้สาหรับพิมพ์งานเอกสารต่างๆ เช่น จดหมาย รายงาน หนังสื อ วิทยานิพนธ์ และ
จัดรู ปแบบให้ดูสวยงาม นอกจากนี้ยงสามารถสร้างงานพิมพ์แบบคอลัมน์ (คล้ายงานหนังสื อพิมพ์) ได้
ั
ด้วย
การเริ่มต้ นใช้ งานโปรแกรม
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถเริ่ มใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ได้
สามารถรู ้จกส่ วนประกอบของหน้าจอโปรแกรมได้
ั
สามารถใช้งานแถบ Ribbon ได้
สามารถพิมพ์ขอความ และการตกแต่งข้อความได้
้
สามารถบันทึกเอกสารลงใน disk ได้
สามารถปิ ดแฟ้ มงาน การเปิ ดแฟ้ มงานใหม่ การเปิ ดแฟ้ มงานใน disk ได้
เริ่ มใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Word
1. คลิกปุ่ ม Start บนแถบ Task bar
2. เลือก All Programs Microsoft Office
3. เลือก Microsoft Office Word 2007 จะเปิ ดให้ใช้งานได้ทนที
ั
ส่ วนประกอบของหน้ าจอโปรแกรม
ก่อนที่จะทางานกับโปรแกรม Microsoft Office Word คุณจะต้องรู ้จกกับส่ วนประกอบของหน้าจอ
ั
โปรแกรมก่อน เพื่อจะได้เข้าใจถึงส่ วนต่างๆ ที่จะกล่าวอ้างถึงในหนังสื อเล่มนี้ได้ง่ายขึ้น
Quick Access
Office Button Title bar
Toolbar
แถบ Ribbon
2. -2-
Office Button เป็ นปุ่ มคาสังเกี่ยวกับการทางานของแฟ้ มงาน เช่น New, Open, Save, Save
่
As, Print, Close, ฯลฯ
Quick Access Toolbar Status bar ่ องมือให้คุณเรี ยกใช้งานได้อย่างรวดเร็ ว ผูใช้สามารถเพิมปุ่ ม
เป็ นแถบเครื View bar ้ ่
คาสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ ไว้ในแถบเครื่ องมือนี้ได้
Title bar แถบแสดงชื่อโปรแกรมและชื่อไฟล์ปัจจุบนที่คุณเปิ ดใช้งานอยู่
ั
แถบ Ribbon เป็ นแถบที่รวบรวมคาสั่งต่างๆ ของเมนูหรื อทูลบาร์ เพื่อให้ผใช้เลือกใช้งาน
ู้
ง่ายขึ้น
Status bar แถบแสดงสถานะการทางานปัจจุบนบนหน้าจอ
ั
View bar แถบแสดงมุมมองเอกสารในแบบต่างๆ
การใช้ งาน Ribbon
แถบ Ribbon เป็ นแถบที่รวบรวมคาสั่งหรื อทูลบาร์ ต่างๆ ให้คุณเลือกใช้งานได้ นอกจากการใช้งานปกติ
แล้ว คุณยังสามารถเรี ยกใช้เมนูลดของแถบ Ribbon ขึ้นมาใช้งานได้ โดยมีข้ นตอนดังนี้
ั ั
1. คลิกขวาที่ปุ่มใดก็ได้บนแถบ Ribbon
2. จะปรากฏเมนูคาสั่งให้เลือกดังนี้
เพิ่มปุ่ มที่เลือกไปไว้บน Quick Access Toolbar
กาหนดรายละเอียดของ Quick Access Toolbar เพิ่มเติม
แสดง Quick Access Toolbar ไว้ใต้แถบ Ribbon
ยุบแถบ Ribbon ชัวคราว ทาให้หน้าจอการทางานกว้างขึ้น
่
3. -3-
การพิมพ์ข้อความ
เมื่อคุณเปิ ดโปรแกรม Microsoft Office Word ขึ้นมาแล้ว ต้องการพิมพ์งานในเอกสาร คุณสามารถทาได้
โดยมีข้ นตอนดังนี้
ั
1. คลิกเป็ น cursor ตาแหน่งที่ตองการในเอกสาร
้
2. พิมพ์ขอความได้เลย
้
การตกแต่ งข้ อความ
เมื่อคุณพิมพ์ขอความในเอกสารเรี ยบร้อยแล้ว เพื่อให้ขอความนั้นดูสวยงามขึ้น คุณสามารถจัดตกแต่ง
้ ้
เพิ่มได้ โดยมีข้ นตอนต่อไปนี้
ั
1. Drag เมาส์คลุมข้อความที่ตองการตกแต่ง จะปรากฏทูลบาร์ ข้ ึนโดยอัตโนมัติให้คุณเลือกใช้ได้เลย
้
2. คลิกปุ่ มเครื่ องมือบนทูลบาร์
Shrink Font
Font Font size Grow Font
Font style
Format Painter
Bold Bullet
Italic Center Font Indent Right
Highlight Indent Left
Color
หรื อคลิกปุ่ ม
จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Font ให้
กาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
4. -4-
ทีแท็บ Font ใช้กาหนดชนิดของตัวอักษรโดยมีรายละเอียดดังนี้
่
ั
ช่อง Latin text : เลือกชื่อ Font ที่ตองการ ใช้กบ Font ภาษาอังกฤษ
้
ั
ช่อง Complex Script : เลือกชื่อ Font ที่ตองการ ใช้กบ Font ภาษาไทย
้
Font style : เลือกรู ปแบบของตัวอักษร
Size : เลือกขนาดของตัวอักษร
Font color : สี ของตัวอักษร
Underline style : เลือกรู ปแบบของตัวขีดเส้นใต้
Underline color : สี ของเส้นใต้
Effects : เทคนิคพิเศษของตัวอักษร
Strikethrough ขีดกลางตัวอักษร
Double Strikethrough ขีดกลางตัวอักษร 2 เส้น
Superscript ตัวยกขึ้น
Subscript ตัวห้อย
Shadow ตัวอักษรแบบมีเงา
Outline ตัวอักษรแบบโปร่ ง
Emboss ตัวนูน
Engrave ตัวบุ๋ม
Small caps ตัวพิมพ์ใหญ่ที่มีขนาดเล็ก
All caps ตัวพิมพ์ใหญ่ที่มีขนาดเท่ากัน
Hidden ซ่อนตัวอักษร
5. -5-
Preview : แสดงตัวอย่าง
ทีแท็บ Character Spacing ใช้กาหนดระยะห่างระหว่างตัวอักษรโดยมีรายละเอียดดังนี้
่
Scale : ปรับอัตราส่ วนของตัวอักษร ปกติเป็ น 100%
Spacing : ปรับระยะห่างระหว่างตัวอักษร
Normal แบบปกติ
Expanded ขยายระยะห่างระหว่างตัวอักษรให้กว้างขึ้น
ปรับที่ช่อง By
Condensed บีบระยะห่างระหว่างตัวอักษรให้แคบลง
Position : ตาแหน่งของการวางข้อความ
Normal วางแบบปกติ
Raised วางแบบเหลื่อมขึ้น
ปรับที่ช่อง By
Lowered วางแบบเหลื่อมลง
3. เมื่อกาหนดรายละเอียดต่างๆ เสร็ จแล้ว คลิกปุ่ ม OK
6. -6-
การบันทึกเอกสาร
เมื่อคุณพิมพ์งานเอกสารและตกแต่งเรี ยบร้อยแล้ว ก็ตองทาการบันทึกข้อมูลลงใน disk โดยมีข้ นตอน
้ ั
ดังนี้
1. คลิก ปุ่ ม Save บนแถบ Quick Access Toolbar หรื อคลิกปุ่ ม
Office Button เลือกคาสั่ง Save หรื อ Save As ก็ได้
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Save As ให้กาหนดรายละเอียด
3. ที่ช่อง Save in เลือกตาแหน่งไดร์ ฟและโฟลเดอร์ ที่ตองการเก็บข้อมูล
้
4. ที่ช่อง File name พิมพ์ชื่อไฟล์ จากตัวอย่างนี้ให้ชื่อว่า First Job คลิกปุ่ ม Save จะได้ไฟล์
นามสกุล .docx
7. -7-
การเก็บบันทึกเอกสารเป็ นชื่อไฟล์อนหรือไดร์ ฟอืน
ื่ ่
เมื่อคุณทาการเพิ่มเติมรายละเอียดในแฟ้ มงาน หรื อทาการแก้ไขข้อมูลในเอกสาร แล้วคลิก
ปุ่ ม Save บน Quick Access Toolbar จะทาการบันทึกลงแฟ้ มงานเดิมทันที ถ้าต้องการ Save เป็ นแฟ้ ม
งานอื่นหรื อไดร์ ฟอื่น มีข้ นตอนดังนี้
ั
1. คลิก ปุ่ ม Office Button เลือกคาสั่ง Save As Word Document
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Save As ให้กาหนดรายละเอียดตามต้องการ
เป็ นการ Save ไฟล์ ปกติ นามสกุล .docx
บันทึกไฟล์เป็ นแบบ Template นามสกุล
.dotx
บันทึกไฟล์เพื่อใช้ กบ Word 97-2003 ได้
ั
เปิ ด Help เพื่ออธิบายเพิ่มความสามารถใหม่
ในการ Save ไฟล์เป็ นแบบ PDF
เป็ นการเปิ ดไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Save As ให้
เลือก Save As Type ในรูปแบบอื่นๆ
การปิ ดแฟมงานเอกสาร
้
เมื่อคุณทาการบันทึกแฟ้ มงานเสร็ จแล้ว ต้องการปิ ดงานนั้น มีข้ นตอนดังนี้
ั
คลิก ปุ่ ม Office Button เลือกคาสั่ง Close
การเปิ ดแฟ้ มงานใหม่
เมื่อคุณ ต้องการสร้างงานเอกสารใหม่ มีข้ นตอนดังนี้
ั
1. คลิก ปุ่ ม Office Button เลือกคาสัง New
่
8. -8-
2. เลือกแบบ Blank document เสร็ จแล้ว คลิกปุ่ ม Create
การเปิ ดแฟ้ มงานใน disk
1. คลิก ปุ่ ม Office Button เลือกคาสั่ง Open
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ของ Open ให้กาหนดรายละเอียด
3. ช่อง Look in เลือกไดร์ ฟและโฟลเดอร์ ที่เก็บข้อมูล
4. คลิกชื่อไฟล์ที่ตองการเปิ ด ในตัวอย่างเลือกไฟล์ชื่อ First Job.docx แล้วคลิกปุ่ ม Open
้
9. -9-
คาถามท้ ายบทที่ 1
1. แถบ Ribbon เป็ นแถบทีรวบรวมคาสั่ งหรือทูลบาร์ ต่างๆให้ คุณเลือกใช้ งานได้ นอกจาก
่
การใช้ งานปกติแล้ว คุณยังสามารถเรียกใช้ เมนูลดของแถบ Ribbon ขึนมาใช้ งานได้ โดยมีกี่
ั ้
ขั้นตอน อะไรบ้ าง
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
2.เมือคุณพิมพ์งานเอกสารและตกแต่ งเรียบร้ อยแล้ ว ก็ต้องทาการบันทึกข้ อมูลลงใน disk
่
โดยมีกข้นตอนอะไรบ้ าง
ี่ ั
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
10. - 10 -
1. บทที่ 2
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การทางานเกียวกับ Paragraph
่
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถเลือกช่วงข้อมูลในเอกสารได้
สามารถเลื่อนตาแหน่งในเอกสารได้
สามารถจัดย่อหน้าเอกสาร , กาหนดการเยื้องได้
สามารถกาหนดระยะห่างระหว่างย่อหน้าและระยะห่างระหว่างบรรทัดได้
สามารถใช้งานแท็ปได้
สามารถใส่ สัญลักษณ์หวข้อย่อยและลาดับเลขได้
ั
สามารถสร้างงานพิมพ์แบบคอลัมน์ได้
การเลือกช่ วงข้ อมูลในเอกสาร
่
การเลือกช่วงข้อมูลมีความสาคัญมาก เพราะไม่วาคุณจะทาอะไรก็ตามในไฟล์เอกสาร จะต้องทาการ
เลือกช่วงข้อมูลนั้นๆ ก่อน ดังนั้นมาทาความรู ้จกกับการเลือกช่วงข้อมูลแบบต่างๆ ดังนี้
ั
สัญลักษณ์ของเมาส์ วิธีทา ผลลัพธ์
เป็ นรู ปตัว I นาเมาส์ไปวางในข้อมูลที่ตองการ้ เป็ นการเลือกข้อมูลแบบเป็ นช่วง
เป็ นรู ปตัว I แล้ว drag คลุมช่วง
ข้อมูลนั้น
เป็ นรู ป นาเมาส์ไปวางหน้าบรรทัดของ เป็ นการเลือกข้อมูลแบบทั้งบรรทัด
ข้อมูลที่ตองการ ให้เป็ นรู ป แล้ว
้
คลิก
เป็ นรู ป นาเมาส์ไปวางหน้าบรรทัดของ เป็ นการเลือกข้อมูลแบบทั้งย่อหน้า
ข้อมูลที่ตองการ ให้เป็ นรู ป แล้ว
้
ดับเบิ้ลคลิก
เป็ นรู ป นาเมาส์ไปวางหน้าบรรทัดของ เป็ นการเลือกข้อมูลแบบทั้งหลาย
ข้อมูลที่ตองการ ให้เป็ นรู ป แล้ว
้ บรรทัด
11. - 11 -
drag
เป็ นรู ป นาเมาส์ไปวางหน้าบรรทัดของ เป็ นการเลือกข้อมูลหมดทั้งเอกสาร
ข้อมูลที่ตองการ ให้เป็ นรู ป แล้ว
้
กดเมาส์ปุ่มซ้าย 3 ครั้ง ติดต่อกัน
การเลือนตาแหน่ งในเอกสาร
่
ถ้าคุณต้องการเลื่อน cursor ไปทางานยังตาแหน่งต่างๆ ในเอกสาร การใช้ปุ่มบนคียบอร์ ดสามารถทาให้
์
เลื่อน cursor ได้อย่างรวดเร็ ว ดังนี้
ปุ่ มบนคียบอร์ ด
์ ผลลัพธ์
Home เป็ นการเลื่อน cursor ไปตาแหน่งแรกสุ ดของ
บรรทัดนั้น
End เป็ นการเลื่อน cursor ไปตาแหน่งท้ายสุ ดของ
บรรทัดนั้น
Ctrl+Home เป็ นการเลื่อน cursor ไปตาแหน่งแรกสุ ดของ
เอกสาร
Ctrl+End เป็ นการเลื่อน cursor ไปตาแหน่งท้ายสุ ดของ
เอกสาร
กดปุ่ ม F5 แล้วพิมพ์หมายเลข เป็ นการเลื่อน cursor ไปยังหน้าที่ระบุไว้
หน้าที่ตองการ เสร็ จแล้วกดปุ่ ม
้
Enter
12. - 12 -
การจัดย่ อหน้ าเอกสาร (Paragraph)
โปรแกรม Microsoft Office Word จะสามารถทาการจัดรู ปแบบย่อหน้า กั้นหน้า กั้นหลัง ได้ 2 วิธี คือ
วิธีที่ 1 จัดรู ปแบบโดยกาหนดจากเส้นไม้บรรทัด (Ruler)
วิธีที่ 2 จัดรู ปแบบโดยการใช้เมนูคาสั่ง
การจัดรู ปแบบ Paragraph โดยกาหนดจากเส้นไม้บรรทัด (Ruler)
เป็ นวิธีที่ทาให้งานเอกสารสามารถปรับตั้งระยะกั้นหน้า ย่อหน้า และกั้นหลัง ได้อย่างรวดเร็ ว โดยมี
ขั้นตอนดังนี้
1. เลือกช่วงข้อมูลที่ตองการจัดรู ปแบบ
้
2. นาเมาส์ไปชี้ที่สัญลักษณ์บนไม้บรรทัด แล้ว drag ไปวางตาแหน่งที่ตองการ
้
First Line Indent - ปรับย่อหน้ า
Left Indent - ปรับกันหน้ า
้ Right Indent - ปรับกันหลัง
้
การจัดรู ปแบบ Paragraph โดยใช้เมนูคาสัง
่
นอกจากการปรับตั้งค่าจากเส้นไม้บรรทัด คุณยังสามารถกาหนดรายละเอียดจากแถบ Ribbon ได้ มี
ขั้นตอนดังนี้
1. เลือกช่วงข้อมูลที่ตองการจัดรู ปแบบ
้
คลิกแท็บ Page Layout กาหนดรายละเอียดในแท็บ Paragraph
ส่ วนของ Indent กาหนดกั้นหน้าที่ช่อง Left , กาหนดกั้นหลังที่ช่อง Right
ส่ วนของ Spacing กาหนดระยะห่างระหว่างย่อหน้า ที่ช่อง Before (ก่อนย่อหน้าที่เลือก) , After (หลัง
ย่อหน้าที่เลือก)
2. หรื อคลิกปุ่ ม
13. - 13 -
Alignment: การจัดวางข้ อความ
Indentation: กาหนดกันหน้ า (Left) ,
้
กันหลัง (Right) , ในส่วนของ Special
้
กาหนดย่อหน้ า ที่ช่อง First line , กาหนด
กันหน้ าลอย ที่ช่อง Hanging
้
Spacing: กาหนดระยะห่างระหว่างย่อ
หน้ า ช่อง Before กับ After
Line spacing: กาหนดระยะห่างระหว่าง
บรรทัด
การใช้ งานแท็ป
ในงานเอกสารที่ตองเว้นระยะแต่ละช่วงให้เท่ากัน คุณสามารถกาหนดระยะการพิมพ์ (TAB) ได้ มี
้
ขั้นตอนดังนี้
1. เปิ ดแฟ้ มงานเอกสารใหม่
่ ้
2. ที่เส้นไม้บรรทัด (Ruler) มีสัญลักษณ์ของ TAB อยูดานซ้าย
3. คลิกเลือกแบบของ TAB ที่ตองการ แล้วคลิกวางตาแหน่งบนเส้นไม้บรรทัด
้
สัญลักษณ์ของ TAB
Left Tab แท็บชิดซ้าย Center Tab แท็บกึ่งกลาง
Right Tab แท็บชิดขวา Decimal Tab แท็บทศนิยม
4. หลังจากตั้งระยะของ TAB แล้ว พิมพ์ขอมูล ต้องการเลื่อนไปยังตาแหน่งที่ต้ งไว้ กดปุ่ ม TAB ที่
้ ั
คียบอร์ด
์
14. - 14 -
การใส่ สัญลักษณ์หวข้อย่อยและลาดับเลข
ั
ถ้างานเอกสารของคุณต้องกาหนดหัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อย ให้ทาตามขั้นตอนดังนี้
1. เลือกช่วงข้อมูลที่ตองการ
้
2. แท็บ Home หัวข้อ Paragraph คลิกเลือกปุ่ มทูลบาร์ที่จะใช้งาน
Increase Indent เลื่อนข้อมูลเข้าไป ทาเป็ นหัวข้อย่อย
Decrease Indent เลื่อนข้อมูลออก ทาเป็ นหัวข้อใหญ่
Bullets กาหนดสัญลักษณ์นาหน้าหัวข้อ
Numbering กาหนดเลขลาดับนาหน้าหัวข้อ
Multilevel List กาหนดสัญลักษณ์หรื อเลขลาดับแบบหลายระดับ
การสร้างงานพิมพ์แบบคอลัมน์
เป็ นการจัดรู ปแบบงานเอกสารคล้ายงานหนังสื อพิมพ์ มีการแบ่งข้อมูลในเอกสารออกเป็ นหลายๆ
คอลัมน์ นอกจากงานหนังสื อพิมพ์แล้ว จะเห็นลักษณะงานแบบนี้ในนิ ตยสาร หรื อจะใช้ในการทา
็
โปรชัวร์ กได้ มีข้ นตอนดังนี้
ั
1. เลือกช่วงข้อมูลที่ตองการจัดรู ปแบบ หรื อถ้ายังไม่มีขอมูล ให้คลิกเป็ น cursor ตาแหน่งที่ตองการ
้ ้ ้
จัดรู ปแบบ
2. ที่แท็บ Page Layout คลิกลูกศรลงของปุ่ มทูล บาร์ เลือกจานวน
คอลัมน์ที่ตองการ
้
3. การกาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลือก คาสั่ง
More Columns
15. - 15 -
Presets: เลือกแบบของคอลัมน์
Number of columns: กาหนดจานวนคอลัมน์
Width and spacing: กาหนดความกว้างของคอลัมน์และระยะห่างระหว่างคอลัมน์
Equal column width: กาหนดให้ความกว้างทุกคอลัมน์เท่ากัน
Apply to: การนาไปใช้
Whole document หมดทั้งเอกสาร
This point forward นับจากจุดที่ cursor อยูเ่ ป็ นต้นไป
Selected text ั ่
เฉพาะช่วงข้อมูลที่เลือก ใช้กบงานเอกสารที่มีขอมูลอยูแล้ว Line
้
between กาหนดเส้นแบ่งระหว่างคอลัมน์ OK
16. - 16 -
คาถามท้ ายบทที่ 2
1. ถ้ างานเอกสารของคุณต้ องกาหนดหัวข้ อใหญ่ หัวข้ อย่ อย ให้ ทาตามกีข้นตอน
่ ั
อะไรบ้ าง
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………
2. การจัดรู ปแบบงานเอกสารคล้ายงานหนังสื อพิมพ์ มีการแบ่ งข้ อมูลในเอกสาร
ออกเป็ นหลายๆ คอลัมน์ นอกจากงานหนังสื อพิมพ์ แล้ว จะเห็นลักษณะงานแบบ
นีในนิตยสาร หรือจะใช้ ในการทาโปรชัวร์ กได้ มีกข้นตอนอะไรบ้ าง
้ ็ ี่ ั
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
17. - 17 -
1.
บทที่ 3
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การสร้ างงานด้ านกราฟฟิ ก
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถแทรกรู ปภาพ และการจัดการรู ปภาพได้
สามารถใช้เครื่ องมือในการวาดรู ปได้
สามารถสร้างแผนผังองค์กรได้
สามารถสร้างกราฟได้
สามารถสร้างตาราง และการตกแต่งตารางได้
การแทรกรูปภาพ และ Object ต่ างๆ
การนารู ปภาพและวัตถุ (Object) ต่างๆ มาใส่ ในงานเอกสารของคุณ จะทาให้งานนั้นมีความสวยงามและ
สมบูรณ์แบบมากขึ้น มีข้ นตอนดังนี้
ั
4. คลิกแท็บ Insert จะปรากฏหัวข้อ Illustrations
5. เลือกประเภทของรู ปภาพที่ตองการ
้
Picture เป็ นการแทรกรู ปภาพจากแฟ้ มงานอื่น
่
ClipArt เป็ นการแทรกรู ปภาพจากโปรแกรมที่มีอยูแล้ว คือ Microsoft ClipArt Gallery
Shapes เป็ นการวาดรู ปเองโดยเลือกปุ่ มเครื่ องมือต่างๆ
SmartArt เป็ นการสร้างไดอะแกรมและแผนผังโครงสร้างองค์กร (Organization Chart)
Chart เป็ นการสร้างกราฟแบบต่างๆ
การแทรกรู ปภาพจากแฟ้ มงานอื่น
1. คลิกแท็บ Insert เลือกคาสั่ง Picture
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Insert Picture
18. - 18 -
3. เลือกไดร์ ฟและโฟลเดอร์ ที่เก็บข้อมูลรู ปภาพ จากนั้นดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อไฟล์รูปภาพที่ตองการ
้
การแทรกรู ปภาพจาก ClipArt
1. คลิกแท็บ Insert เลือกคาสัง
่ ClipArt
2. ที่แถบ Task Pane ด้านขวา จะปรากฏกรอบ ClipArt ให้กาหนดรายละเอียด
Search for : ระบุชื่อไฟล์ นามสกุล หรื อ
ประเภทของไฟล์ที่ต้องการค้ นหา (ถ้ าไม่
กาหนด จะเป็ น all)
Search in : เลือกตาแหน่งทีต้องการค้ นหา
่
Results should be: ผลลัพธ์ ที่ต้องการ
แสดง
ปกติโปรแกรมจะกาหนดค่า default ให้ แล้ ว
ถ้ าไม่ได้ เปลียนแปลงอะไร ให้ คลิกปุ่ ม Go
่
เพื่อเริ่ มค้ นหา
3. ภายในกรอบ ClipArt จะแสดงรู ปภาพทั้งหมด คลิกเลือกรู ปที่ตองการได้เลย
้
การวาดรู ปเองโดยใช้ปุ่มเครื่ องมือต่างๆ
1. คลิกแท็บ Insert เลือกคาสั่ง Shapes
2. คลิกเลือกรู ปที่ตองการวาด แล้ว drag ลงบนพื้นที่ในงานเอกสาร
้
ของคุณ
การจัดการกับรู ปภาพ
ดับเบิ้ลคลิกที่รูปภาพที่สร้างไว้ จะปรากฏแถบ Ribbon ให้กาหนด
รายละเอียด
19. - 19 -
การสร้ างไดอะแกรมและแผนผังโครงสร้ างองค์ กร (Organization chart)
1. คลิกแท็บ Insert เลือกคาสั่ง SmartArt
2. เลือกประเภทและรู ปแบบย่อยของ ไดอะแกรม คลิกปุ่ ม OK
3. คลิกเป็ น cursor แต่ละช่องแล้วพิมพ์ขอความที่ตองการ
้ ้
4. ขณะที่ทางานกับไดอะแกรมหรื อ Organization chart จะปรากฏแถบ Ribbon ชื่อ SmarArt Tools
20. - 20 -
5. การตกแต่งข้อความให้คลิกแท็บ Format และจัดรู ปแบบของไดอะแกรมให้คลิกแท็บ Design จะ
ปรากฏปุ่ มทูลบาร์ ต่างๆ ให้เลือกใช้งานได้ทนที
ั
การสร้ างกราฟ (Chart)
1. คลิกแท็บ Insert เลือกคาสั่ง Chart
2. เลือกประเภทและรู ปแบบย่อยของกราฟ คลิกปุ่ ม OK
3. พิมพ์ขอความและตัวเลขลงในตาราง
้
4. จะได้ผลลัพธ์ดงรู ป
ั
21. - 21 -
25000
20000
15000 Jan
Feb
10000
Mar
5000
0
Income Expense
5. ต้องการแก้ไขกราฟ ดับเบิ้ลคลิกที่รูปกราฟ จะปรากฏแถบ Ribbon ชื่อ Chart Tools คลิกเลือกปุ่ ม
เครื่ องมือจากแท็บ Design , Layout , Format
การสร้างตาราง (Table)
1. คลิกแท็บ Insert เลือกคาสั่ง Table
2. เลือกจานวนคอลัมน์และแถวที่ตองการ ้
3. พิมพ์ขอความแต่ละช่อง แล้วกดปุ่ ม Tab เพื่อเลื่อนช่องถัดไป
้
การตกแต่งตาราง
1. เลือกช่วงข้อมูลในตาราง
2. จะปรากฏแถบ Ribbon ชื่อ Table Tools
3. การตกแต่งตารางให้คลิกแท็บ Design และการปรับโครงสร้างตารางให้คลิกแท็บ Layout จะปรากฏ
ปุ่ มทูลบาร์ ต่างๆ ให้เลือกใช้งานได้ทนที
ั
22. - 22 -
คาถามท้ ายบทที่ 3
1. การวาดรู ปเองโดยใช้ ปุ่มเครื่องมือต่ างๆเราสามารถคลิกเข้ าเครื่องมืออะไร
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………..
2. การสร้ างตาราง (Table) เราจะเลือกใช้ คาสั่ งอะไร
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………….
23. - 23 -
3.
บทที่ 4
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การสร้ างสู ตรหรือสมการ
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถใช้สูตรในรู ปแบบใหม่ได้
สามารถสร้างสู ตร และการแก้ไขสู ตรได้
การใช้สูตรในรู ปแบบใหม่
ในโปรแกรม Microsoft Word 2007 มีเครื่ องมือให้คุณใช้ในเรื่ องของการสร้างสู ตร (สมการ) ทาง
คณิ ตศาสตร์ ได้อย่างรวดเร็ ว โดยมีข้ นตอนดังนี้
ั
6. คลิกแท็บ Insert เลือกลูกศรลงของปุ่ ม Equation
7. จะปรากฏแบบของสมการให้คลิกเลือกใช้ได้เลย
การแก้ไขสู ตร
ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด คลิกตาแหน่งของสมการที่แก้ไข แล้วพิมพ์ขอมูลใหม่
้
หรื อเลือกจากแถบ Ribbon ชื่อ Equation Tools คลิกแท็บ Design เลือกรายละเอียดจากปุ่ มทูลบาร์
24. - 24 -
คาถามท้ ายบทที่ 4
1. ในโปรแกรม Microsoft Word 2007 มีเครื่องมือให้ คุณใช้ ใน
เรื่องของอะไร
ตอบ………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
2. ถ้ าต้ องการเปลียนแปลงรายละเอียด คลิกตาแหน่ งของสมการทีแก้ไข แล้ ว
่ ่
พิมพ์ข้อมูลใหม่ หรือเลือกจากแถบ Ribbon ชื่อ ว่ าอะไร
ตอบ………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
25. - 25 -
บทที่ 5 Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การสร้ าง Quick Parts
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถกาหนดคุณสมบัติของไฟล์ได้
สามารถแทรกฟิ ลด์ได้
สามารถใช้ Building Blocks Organizer ได้
สามารถสร้าง Building Blocks Organizer ขึ้นใช้เองได้
สามารถเรี ยกใช้ Building Blocks Organizer ที่สร้างขึ้นได้
สามารถลบ Building Blocks Organizer ที่ไม่ตองการใช้งานได้
้
การกาหนดคุณสมบัตของไฟล์
ิ
ั
เมื่อคุณสร้างงานเอกสารเสร็ จแล้ว ต้องการกาหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมให้กบไฟล์น้ น มีข้ นตอนดังนี้
ั ั
1. คลิกแท็บ Insert เลือกปุ่ ม
2. นาเมาส์ไปชี้ที่คาสั่ง และคลิกเลือกคุณสมบัติที่ตองการกาหนด
้
ในที่น้ ีเลือก Author (ชื่อผูแต่ง)
้
3. พิมพ์ขอความในกรอบ Author เช่น Somluk
้
การแทรกฟิ ลด์
ในงานเอกสารที่สร้างไว้ แล้ว ถ้าต้องการแทรกหัวข้อฟิ ลด์เพิ่มเติม ให้ทาตาม
ขั้นตอนดังนี้
1. คลิกแท็บ Insert เลือกปุ่ ม
26. - 26 -
2. เลือก คาสั่ง
คลิกชื่อฟิ ลด์ที่ตองการแทรก เช่น Author ก็จะแสดงข้อความที่คุณกาหนดคุณสมบัติ (Property) ไว้
้
การใช้ Building Blocks Organizer
เป็ นแบบสาเร็ จรู ปของส่ วนงานต่างๆ ให้เลือกใช้ เช่น AutoText, Equations, Footer, Page Number, ฯลฯ
มีข้ นตอนดังนี้
ั
1. คลิกแท็บ Insert เลือก ปุ่ ม
2. เลือกคาสั่ง จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ให้คลิกเลือกแบบที่
ต้องการ แล้วคลิกปุ่ ม Insert
27. - 27 -
การสร้ าง Building Blocks Organizer ขึนใช้ เอง
้
คุณสามารถสร้างแบบสาเร็ จรู ปของส่ วนงานต่างๆ ขึ้นมาใช้เองก็ได้ โดยมีข้ นตอนดังนี้
ั
1. Drag เมาส์คลุมข้อมูลที่ตองการนามาสร้าง Building Block Organizer
้
2. คลิกแท็บ Insert เลือกปุ่ ม
3. เลือกคาสั่ง จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Create New
Building Block ให้พิมพ์ช่ือใหม่ในช่อง Name จาก
ตั
ว
อ
ย่างใช้ชื่อ Chapter 5 เสร็ จแล้วคลิกปุ่ ม OK
การเรียกใช้ Building Blocks Organizer ทีสร้ างขึน
่ ้
หลังจากที่คุณสร้าง Building Blocks Organizer แล้ว ต้องการนามาใช้งาน มีข้ นตอนดังนี้
ั
คลิกแท็บ Insert เลือก ปุ่ ม จะปรากฏแบบที่สร้างในส่ วนของ
General ให้คลิกเลือกใช้ได้เลย
28. - 28 -
การลบ Building Blocks Organizer ที่ไม่ตองการใช้งาน
้
สาหรับ Building Blocks Organizer ที่คุณสร้างขึ้น ถ้าไม่ตองการใช้แล้ว ต้องการลบออก มีข้ นตอนดังนี้
้ ั
1. คลิกแท็บ Insert เลือกปุ่ ม
2. เลือกคาสั่ง จะปรากฏชื่อ Building Blocks Organizer ที่คุณสร้าง
ไว้ ให้คลิกเลือกแบบที่ตองการลบ ในที่น้ ีเลือก Chapter 5 แล้วคลิกปุ่ ม Delete
้
29. - 29 -
คาถามท้ ายบทที่ 5
1. เมือคุณสร้ างงานเอกสารเสร็จแล้ว ต้ องการกาหนดคุณสมบัติเพิมเติมให้ กบไฟล์น้ัน
่ ่ ั
มีข้นตอนอะไรบ้ าง
ั
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
2. หลังจากทีคุณสร้ าง Building Blocks Organizer แล้ว ต้ องการนามาใช้ งาน
่
มีข้นตอนอะไรบ้ าง
ั
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………
30. - 30 -
บทที่ 6
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การสร้ างจดหมายเวียน
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถสร้างจดหมายเวียนได้
ใช้ในกรณี ที่ตองการพิมพ์จดหมายที่มีขอความเหมือนกัน และส่ งให้ผรับหลายคน คุณสามารถสร้าง
้ ้ ู้
แบบฟอร์ มจดหมายและข้อมูลผูรับ โดยให้นางานเอกสารทั้ง 2 ส่ วนมาผนวก (Merge) กัน
้
ขั้นตอนเตรียมงานก่อนสร้ างจดหมายเวียน
ก่อนที่จะสร้างจดหมายเวียน คุณจะต้องเตรี ยมงานเอกสารที่จะใช้ให้เรี ยบร้อยก่อน โดยแบ่งออกเป็ น
ส่ วนหลักๆ ดังนี้
1. ส่ วนเอกสารหลัก เรี ยกว่า Main Document : ให้พิมพ์แบบฟอร์มจดหมาย แล้ว Save ไว้ ในที่น้ ีชื่อ
ไฟล์ Main.doc
้ ้ ่ ู้
2. ส่ วนที่เก็บข้อมูลผูรับ เรี ยกว่า Data Source : ให้พิมพ์ขอมูลชื่อ ที่อยูผรับ เก็บไว้ในตาราง แล้ว Save
ในที่น้ ีใช้ชื่อไฟล์ Data.doc
การสร้ างจดหมายเวียน
1. เปิ ดไฟล์เอกสารหลัก ชื่อ Main.doc
ทาการสร้างจดหมายเวียน ตามขั้นตอนดังนี้
Step 1 : เลือกประเภท ของแฟ้ มงานหลักที่ตองการสร้าง คลิก
้
แท็บ Mailings เลือกปุ่ ม สร้างจดหมาย
เวียน เลือก Letters
Step 2 : เลือกไฟล์ที่เก็บข้อมูลผูรับ คลิกปุ่ ม
้
้ ้ ่
ใช้ไฟล์ขอมูลผูรับที่มีอยูแล้ว เลือกคาสั่ง Use Existing List จะ
ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Select Data Source ในที่น้ ี
31. - 31 -
ให้ดบเบิ้ลคลิกเลือกไฟล์ Data.doc
ั
Step 3: ทาการแทรกฟิ ลด์ขอมูลผูรับ จากไฟล์ Data.doc โดยคลิกเป็ น cursor ตาแหน่งที่จะแทรกฟิ ลด์
้ ้
แล้วคลิกปุ่ ม
แล้วเลือกชื่อฟิ ลด์ที่ตองการ
้
Step 4 : ดูตวอย่างผลลัพธ์โดยคลิกปุ่ ม
ั
จะแสดงไฟล์เอกสารหลักที่มีขอมูลผูรับ
้ ้ ในตาแหน่งของ cursor และถ้าต้องการเลื่อนดูขอมูล
้
ของคนถัดไป ให้คลิกปุ่ ม
32. - 32 -
คาถามท้ ายบทที่ 6
1. ก่อนทีจะสร้ างจดหมายเวียน คุณจะต้ องเตรียมงานเอกสารทีจะใช้ ให้ เรียบร้ อย
่ ่
ก่อน โดยแบ่ งออกเป็ นส่ วนหลักๆ อะไรบ้ าง
ตอบ………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
2. จะแสดงไฟล์เอกสารหลักทีมข้อมูลผู้รับ ในตาแหน่ งของ cursor และถ้ า
่ ี
ต้ องการเลือนดูข้อมูลของคนถัดไป ให้ คลิกปุ่ มอะไร
่
ตอบ………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
33. - 33 -
3.
บทที่ 7
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การจัดการเนือหา
้
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถสร้าง Bookmark ได้
สามารถใช้งาน Style ได้
สามารถสร้างสารบัญ (Table of content) ได้
สามารถกาหนดหัวและท้ายกระดาษ (Header and Footer) ได้
การสร้ าง Bookmark
เป็ นเหมือนที่คนเอกสาร เวลาที่คุณทางานหรื อตรวจสอบงานค้างไว้แล้วต้องการกลับมาทาใหม่ใน
ั่
ภายหลัง เพื่อป้ องกันการลืมว่างานที่ทาค้างถึงส่ วนไหนแล้ว คุณก็ทาการสร้าง Bookmark โดยมีข้ นตอน
ั
ดังต่อไปนี้
1. เลือกตาแหน่งในงานเอกสารที่ตองการสร้าง Bookmark
้
2.คลิกแท็บ Insert เลือกปุ่ ม
3.จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Bookmark ให้พิมพ์ชื่อ Bookmark ที่ตองการ จากตัวอย่างใช้ชื่อ
้
MyBookmark เสร็ จแล้วคลิกปุ่ ม Add
34. - 34 -
การเลื่อน cursor ไปยัง Bookmark
หลังจากที่คุณสร้าง bookmark แล้ว ต้องการกระโดดไปทางานยัง bookmark นั้น ให้ทาตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิกแท็บ Insert เลือก ปุ่ ม
2. ดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อ bookmark ที่ตองการ หรื อคลิกชื่อ bookmark แล้วคลิกปุ่ ม Go To
้
การใช้ งาน Style
Style คือการกาหนดรู ปแบบข้อความที่ตองการใช้งานบ่อยๆ สะดวกสาหรับงานเอกสารที่มีขอมูล
้ ้
หลายๆ หน้า แล้วต้องการรู ปแบบเหมือนกัน มีข้ นตอนการทางานดังนี้
ั
1. เลือกช่วงข้อมูลที่ตองการ
้
2. แท็บ Home คลิกเลือกแบบ Style จากแถบ Ribbon
การสร้างสารบัญ (Table of content)
การกาหนด Style นอกจากทาให้คุณจัดรู ปแบบข้อมูลได้ง่าย
ขึ้นแล้ว ยังสามารถนาหัวข้อที่กาหนด Style มาทาเป็ น
สารบัญได้ดวย โดยทาตามขั้นตอนดังนี้
้
1. คลิกแท็บ References เลือกปุ่ ม
2. จะปรากฏแบบของสารบัญให้
คลิกเลือกใช้ได้เลย
3. ถ้าต้องการกาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่คาสั่ง
Insert Table of Contents
การกาหนดหัวและท้ายกระดาษ (Header and Footer)
เมื่อคุณทางานกับเอกสารเสร็ จแล้ว ต้องการกาหนด
ข้อความหรื อรู ปภาพ เช่น Logo ของหน่วยงาน ให้ปรากฏ
หัวหรื อท้ายกระดาษของเอกสารทุกหน้า ทาได้โดยใช้เรื่ อง
ของ Header and Footer เข้าทางาน มีข้ นตอนดังนี้
ั
35. - 35 -
1. คลิกแท็บ Insert จะปรากฏแถบ Ribbon หัวข้อ Header & Footer
2. เลือกตาแหน่งของงานเอกสารที่จะใส่ ขอความหรื อรู ปภาพ
้
Header ใส่ข้อความหัวกระดาษ
Footer ใส่ข้อความท้ ายกระดาษ
Page Number ใส่หมายเลขหน้ า
3. ถ้าต้องการกาหนดระยะห่างระหว่างข้อความหัวกระดาษ-ท้ายกระดาษจากขอบกระดาษ ให้คลิก
แท็บ Page Layout ปุ่ ม เลือกคาสั่ง Custom Margins ในส่ วนของ From edge :
Header , Footer (ค่า ปกติ
จะเป็ น 0.5”)
36. - 36 -
คาถามท้ ายบทที่ 7
1. หลังจากทีคุณสร้ าง bookmark แล้ว ต้ องการกระโดดไปทางานยัง bookmark นั้น
่
ให้ ทากีข้นตอน อะไรบ้ าง
่ ั
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
2. เพือป้ องกันการลืมว่ างานทีทาค้ างถึงส่ วนไหนแล้ว คุณก็ทาการสร้ าง Bookmark
่ ่
โดยมีกข้นตอน อะไรบ้ าง
ี่ ั
ตอบ…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………
37. - 37 -
บทที่ 8
Microsoft Office Word 2007
Office Word 2007
การจัดการเอกสาร
จุดประสงค์ การเรี ยนรู้
สามารถกาหนดรู ปแบบการแสดงเอกสารได้
สามารถเปรี ยบเทียบและผนวกเอกสารได้
สามารถป้ องกันเอกสารได้
สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงเอกสารได้
สามารถกาหนดงานแก้ไขครั้งสุ ดท้ายได้
กาหนดรู ปแบบการแสดงเอกสาร
งานเอกสารที่สร้างขึ้น คุณสามารถเปลี่ยนมุมมองเอกสารได้หลายแบบ มีข้ นตอนดังนี้
ั
1.คลิกแท็บ View จะปรากฏส่ วนของหัวข้อ Document Views ให้เลือกมุมมองเอกสารที่ตองการ
้
Print Layout มุมมองแบบเหมือนจริ ง
Full Screen Reading มุมมองแบบเต็มจอ
Web Layout มุมมองแบบเว็บ
Outline มุมมองแบบโครงร่ าง
Draft มุมมองแบบหยาบๆ
มุมมองปกติจะเป็ นแบบ Print Layout
นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ส่วนของหัวข้ออื่นในการดูเอกสารได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
2. ที่แท็บ View หัวข้อ Show/Hide
Document Map แสดงหัวข้อทางแถบด้านซ้าย
ใช้ร่วมกับการกาหนด Heading จาก Style
Thumbnails แสดงงานเอกสารแต่ละหน้า
เป็ นแผ่นเล็กๆ เรี ยงตามลาดับ
38. - 38 -
การเปรียบเทียบและผนวกเอกสาร
ในกรณี ที่คุณสร้างเอกสารหลายไฟล์แล้วต้องการนาข้อมูลในไฟล์เหล่านั้นมาเปรี ยบเทียบและผนวก
รวมกัน มีข้ นตอนดังนี้
ั
1. เปิ ดไฟล์เอกสารหลักก่อน ในที่น้ ีใช้ไฟล์ Meeting.doc
2. คลิกแถบ Ribbon ชื่อ Review คลิก ปุ่ ม
3. จะปรากฏคาสังให้เลือกใช้
่
เป็ นการนาไฟล์เอกสารมาเปรี ยบเทียบกัน
เป็ นการนาไฟล์เอกสารมารวมกัน
4. ในที่น้ ีเลือกคาสั่ง Compare คลิกช่อง Original document เลือกชื่อไฟล์ตนฉบับ จากตัวอย่าง
้
เลือกไฟล์ Meeting.doc
คลิกช่อง Revised document เลือกชื่อไฟล์ที่
ต้องการนามาเปรี ยบเทียบ จากตัวอย่างเลือกไฟล์ Marketting.doc
คลิก ปุ่ ม เพื่อกาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม
เลือกไฟล์เอกสารที่ต้องการแสดงผลลัพธ์
ปกติจะแสดงผลที่ New document
เสร็ จแล้ วคลิกปุ่ ม OK
39. - 39 -
จะแสดงข้อมูลที่ทาการเปรี ยบเทียบ ถ้าต้องการนาไฟล์อื่นมาเปรี ยบเทียบอีก ก็ทาตามขั้นตอนเดิม
5. หลังจากที่ทาการเปรี ยบเทียบไฟล์เอกสารแล้ว คลิกปุ่ ม หรื อ เพื่อเลื่อน
ไปยังตาแหน่งที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นคุณสามารถเลือกว่าต้องการยอมรับหรื อปฏิเสธการ
เปลี่ยนแปลงได้ โดยคลิกปุ่ มบนทูลบาร์
เป็ นการยอมรับการเปลี่ยนแปลง
เป็ นการปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง
ในที่น้ ีคลิกลูกศรลงของปุ่ ม Accept เลือกคาสั่ง Accept Change เป็ นการยอมรับการเปลี่ยนแปลง
เฉพาะตาแหน่งข้อมูลปั จจุบนเท่านั้น ถ้าเลือกคาสั่ง Accept All
ั
Changes in Document เป็ นการยอมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
การป้ องกันเอกสาร (Protect Document)
ในงานเอกสารที่มีขอมูลสาคัญ คุณสามารถป้ องกันการเปลี่ยนแปลง
้
ข้อมูลในเอกสารได้ มีข้ นตอนดังนี้
ั
1. คลิกแท็บ Review เลือก ปุ่ ม
เลือกคาสั่ง Restrict Formatting and
Editing จะปรากฏแถบ Task Pane ด้านขวา ให้คลิกเครื่ องหมาย
ในส่ วนของ Formatting restrictions และ Editing restrictions
40. - 40 -
2. ในส่ วนของ Groups: เลือก Everyone และคลิกปุ่ ม
ขึ้นหน้าจอให้กาหนด
รหัสผ่าน Password จะใส่ หรื อไม่ใส่ ก็ได้ แล้วคลิกปุ่ ม
OK
3. ที่แถบ Task Pane จะแสดงข้อความว่าเอกสารของคุณถูก
Protect เรี ยบร้อยแล้ว
การติดตามการเปลียนแปลงเอกสาร
่
่
เมื่อมีการส่ งงานเอกสารให้คนอื่นแก้ไข คุณสามารถตรวจสอบได้วา ใครทาการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน
เอกสารอะไรบ้าง โดยมีข้ นตอนดังนี้
ั
1. Ribbon คลิกแท็บ Review ปุ่ ม เลือกคาสั่ง Track Changes
2. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล เช่น ทาการลบช่วงข้อมูล (Delete), พิมพ์ขอมูลเพิ่ม (Insert),
้
จัดรู ปแบบ เช่น ตัวหนา ตัวเอียง (Format) จะแสดงเส้นขีดหน้าบรรทัดและบ่งบอกช่วงข้อมูลที่มี
การเปลี่ยนแปลง
41. - 41 -
3. นาเมาส์ไปชี้ช่วงข้อมูลที่มีการเปลี่ยนเปลง จะแสดงชื่ อ user ที่ทาการแก้ไขข้อมูล
4. คลิกปุ่ ม หรื อ เพื่อเลื่อนไปยังตาแหน่งที่มีการแก้ไข จากนั้นคุณสามารถ
เลือกว่าต้องการยอมรับหรื อปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงได้ โดยคลิกปุ่ มบนทูลบาร์
เป็ นการยอมรับการเปลี่ยนแปลง
เป็ นการปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง
การกาหนดงานแก้ ไขครั้งสุ ดท้ าย
คุณสามารถกาหนดให้งานเอกสารเป็ น Final (ไม่มีการเพิ่มเติมหรื อแก้ไขใดๆ อีก) โดยมีข้ นตอนดังนี้
ั
1. เปิ ดแฟ้ มงานที่ตองการกาหนดเป็ น Final
้
2. คลิกปุ่ ม Microsoft Office button (มุมบนสุ ดด้านซ้าย) เลือกคาสั่ง Prepare
3. เลือกคาสั่ง
42. - 42 -
คาถามท้ ายบทที่ 8
1. งานเอกสารทีสร้ างขึน คุณสามารถเปลียนมุมมองเอกสารได้ หลายแบบ มีกี่
่ ้ ่
ขั้นตอน อะไรบ้ าง
ตอบ………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
2. ในกรณีทคุณสร้ างเอกสารหลายไฟล์แล้วต้ องการนาข้ อมูลในไฟล์ เหล่านั้นมา
ี่
เปรียบเทียบและ ผนวกรวมกัน มีกข้นตอน อะไรบ้ าง
ี่ ั
ตอบ………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………