SlideShare a Scribd company logo
1 of 48
ค.ศ. 1914 – 1918 
พ.ศ. 2457- 2461
สงคราม 
 
สงคราม คือ ... 
สิ่งเลวร้ายที่สุดที่มนุษย์กระทา ต่อ 
กัน เพราะเมื่อใดที่เกิดภาวะ 
สงคราม ย่อมหมายถึง การสูญเสีย 
ความเสียหายและความทุกข์ 
ทรมานของทุกฝ่าย ไม่ว่าสุดท้าย 
ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะก็ 
ตาม 
สงครามโลกครั้งที่ 1... 
สงครามครั้งใหญ่ที่เกิดจากความ 
ขัดแย้งของประเทศในทวปียุโรป 
และลุกลามไปมากกว่า 30 
ประเทศทั่วโลก สร้างความ 
เสียหายให้กับสังคมโลกย่าง 
ร้ายแรง จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็น 
มหาสงคราม (Great War)
 
1. ลัทธิชาตินิยม 
หลังจากสงครามที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ให้แก่ปรัสเซีย 
ซึ่งอยู่ภายใต้การนา ของบิสมาร์ก 
ทา ให้เกิดการรวมตัวกันของลัทธิชาตินิยมต่างๆ 
ใน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี 
ฝรั่งเศสเปลี่ยนการปกครองจากระบบจักรวรรดิ 
เป็นระบบสาธารณรัฐ 
ภายในคาบสมุทรบอลข่านก็เช่นกัน ชาวสลาฟ 
ต้องการรวมตัวกันเป็นแคว้นอิสระ 
แต่ละประเทศต้องการแสดงแสนยานุภาพเพื่อให้ 
ชาติตนยิ่งใหญ่ Otto von Bismarck
 
1. ลัทธิชาตินิยม 
เมื่อรบชนะฝรั่งเศส จึงแสดงความ 
เป็นสัมพันธมิตรกับออสเตรีย- 
ฮังการี และรัสเซีย เพื่อป้องกันการ 
แก้แค้นของฝรั่งเศส 
Otto von Bismarck 
อัครเสนาบดีของพระเจ้าวิลเลียมที่1 
แห่งปรัสเซีย 
William Frederick Louis 
(Wilhelm Friedrich Ludwig)
 
1. ลัทธิชาตินิยม 
ครั้นบิสมาร์กหมดอา นาจลง 
จักรพรรดิเยอรมันทรงเลิกนโยบาย 
เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และสร้าง 
ความไม่พอใจให้อังกฤษ 
ฝรั่งเศสจึงได้โอกาสสร้าง 
สัมพันธไมตรี กับรัสเซียและ 
อังกฤษ 
Otto von Bismarck
2. การแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคม 
 
ในระยะปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 19 มี 
การแข่งขันแบบ การค้าเสรี (free 
trade) ที่สูง ทา ให้ต้องมีการใช้กา ลัง 
ทหารเข้ายึดครองดินแดนที่ต้องการ และตั้ง 
กา แพงภาษีให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันการตีตลาด 
เยอรมันและรัสเซียตั้งกา แพงภาษีสูงมากทั้งคู่ 
จึงทา ให้เกิดการขัดแย้งกันใน ค.ศ. 1891 
เยอรมันยังแข่งขันกับอังกฤษในด้าน 
อุตสาหกรรมหนัก เคมี และไฟฟ้า 
An electric horse race track
2. การแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคม 
 
เจริญที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่20 
ทา ให้หลายชาติกลายเป็น 
จักรวรรดินิยมทา ให้ดินแดนบาง 
แห่งตกเป็นอาณานิคม 
การมีอาณานิคมจึงเป็นเครื่องวัด 
ความยิ่งใหญ่ของประเทศ 
การล่าอาณานิคมของสหรัฐอเมริกา
3. ความไม่มั่นคงในคาบสมุทรบอลข่าน 
 
ความต่างกันทางด้านศาสนา ภาษาและ 
วัฒนธรรม ทา ให้เมื่อมีการพยายามเพื่อ 
รวมกา ลังตั้งชาติใหม่เป็นไปได้ยาก 
ดินแดนที่ใกล้ชิดกับมหาสมุทรบอลข่า 
นพยายามรักษาอา นาจตนไว้ 
ออสเตรีย-ฮังการี ต้องการรักษาไว้เป็น 
ตลาดการค้า 
อิตาลี ไม่ต้องการให้ออสเตรีย-ฮังการี 
ขยายอา นาจอีก 
รัสเซียต้องการออกทะเลเมดิเตอร์ 
เรเนียนโดยผ่านดินแดนนี้ 
มหาอา นาจต้องการเป็นใหญ่ในคาบสมุทรบอลข่าน
3. ความไม่มั่นคงในคาบสมุทรบอลข่าน 
 
คาบสมุทรบอลข่าน
3. ความไม่มั่นคงในคาบสมุทรบอลข่าน 
 
หลังจากชาวสลาฟภายใต้การสนับสนุน 
ของเซฮร์เบียได้เอกราชและแยกตัวออก 
จากจักวรรดิออตโตมันทา ให้สถานภาพ 
ทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่านไม่ 
มั่นคง 
เซอร์เบีย บัลแกเรีย และกรีซ ได้ทา 
สงครามกัน ผลคือบัลแกเรียต้องเสีย 
ดินแดนให้แก่เซอร์เบียและกรีซ 
เซอร์เบียจึงเป็นที่เกรงกลัวของ 
ออสเตรีย-ฮังการี 
Europe in 1914
4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย 
 
ในปีค.ศ. 1914 อาร์คดยุค ฟราน 
ซิส เฟอร์ดินัลด์มกุฎราชกุมารแห่ง 
ออสเตรีย-ฮังการี และพระชายาถูก 
ลอบปลงพระชนม์ในแคว้น 
บอสเนีย โดยชาวเซอร์เบีย (กราฟ 
ริโล พรินซิป) รัฐบาลออสเตรีย- 
ฮังการีเชื่อว่ารัฐบาลเซอร์เบียอยู่ 
เบื้องหลังการกระทา ดังกล่าว จึงทา 
ให้เกิดความขัดแย้งกัน 
อาร์คดยุค ฟรานซิส เฟอร์ดินัลด์มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี และพระชายา 
Gavrilo Printsip
4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย 
 
Triple Entente 
ฝรั่งเศส 
รัสเซีย 
อังกฤษ 
Triple Alliances 
จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี 
เยอรมนี 
รัสเซีย 
อิตาลี 
สนธิสัญญาพันธไมตรี 
ฝรั่งเศส-รัสเซีย
4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย 
 
การแบ่งแยกฝ่าย
4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย 
 
ทั้งนี้ ตัวเร่งไฟสงครามให้โหม 
กระหน่า มาจากปมปัญหาเรื่อง 
สมดุลอา นาจที่สั่งสมมานานของ 
หลายประเทศในภาคพื้นยุโรป แต่ 
ละประเทศอาณานิคมจึงถูกดึงให้ 
เข้าร่วมในสงคราม ทา ให้ความ 
ขัดแย้งลุกลามไปทั่วโลกอย่าง 
รวดเร็ว จึงก่อให้เกิด สงคราม 
ภาพ การรบของทหารเยอรมันในแผนการรบชลีฟเฟ่น
 
การเปิดฉากสงคราม 
สงครามโลกครั้งที่ 1 เปิดฉากในวันที่ 28 กรกฎาคม ปี ค.ศ.1914 และสิ้นสุดลง 
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1918 
ประเทศที่วางตัวเป็นกลาง 
เนเธอร์แลนด์ 
สเปน 
ประเทศตามคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก 
 
กองทัพเยอรมันได้บุกฝรั่งเศสผ่าน 
เบลเยี่ยมอย่างรวดเร็วตาม 
Schlieffen Plan 
สามารถยึดเบลเยี่ยมและตอน 
เหนือของฝรั่งเศสได้แต่ไม่ 
สามารถรุกไปยังกรุงปารีส โดย 
ยันทัพกันเป็นเวลานานถึง 3 ปี 
เป็นการรบรูปแบบ สนามเพลาะ 
และป้อมปราการ 
แนวการรบที่ชายแดนตอนเหนือของฝรั่งเศส
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก 
 
ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 19 
ธันวาคม 1916 อังกฤษและ 
ฝรั่งเศสวางแผนโจมตีกลับเยอรมัน 
ทา ให้ทหารเยอรมันต้องร่นถอยไป 
ที่แนวฮินเดิร์นเบิร์ก ซึ่งก่อให้เกิด 
ความสูญเสียชีวิตของพลทหารเป็น 
อย่างมาก 
Battle of Verdun
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก 
 
Schlieffen Plan 
การบุกโจมตีฝรั่งเศสครั้งแรกของเยอรมันในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1914 
โดยผ่านเบลเยี่ยม
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก 
 
Battle of Somme 
1 กรกฏาคม – 18 พฤศจิกายน 1916 โดยรวมแล้วฝรั่งเศสและ 
อังกฤษสูญเสียพลทหารไปจา นวนมาก และเหมือนจะพ่ายแพ้ในสงคราม
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันออก 
 
รัสเซียส่งกองทัพเข้าโจมตีเยอรมัน 
และออสเตรีย-ฮังการี ระยะแรก 
รัสเซียชนะ แต่หลังจาก ค.ศ. 
1915 เยอรมันสามารถเข้ายึด 
เมืองวอร์ซอและวิลนาในโปแลนด์ 
ได้ รัสเซียต้องสูญเสียทหารและ 
ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ 
The ruined buildings of Warsaw
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบบอลข่าน 
 
เมื่อตุรกีและบัลแกเรียได้ยื่นมือเข้า 
ช่วยมหาอา นาจฝ่ายกลาง ใน ค.ศ. 
1915 ทา ให้กองทัพออสเตรีย- 
ฮังการีสามารถเข้ายึดครองประเทศ 
เซอร์เบีย แอลเบเนียและมอนเตเน 
โกรได้ 
Map of Balkan
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบกลางทะเล 
 
กองทัพเรืออังกฤษสามารถเอาชนะ 
เยอรมันได้ และสามารถตัดขาด 
เส้นทางคมนาคมทางทะเลของ 
เยอรมันได้สาเร็จ 
ต่อมาเยอรมันใช้ยุทธการเรือดา น้า 
ทา ลายเรือทุกชนิดที่เข้าไปรอบๆ 
เกาะอังกฤษใน ค.ศ. 1915 เรือรบของอังกฤษ
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบกลางทะเล 
 
เยอรมันได้จมเรือโดยสารอังกฤษ 
ชื่อ Lusitania ส่งผลให้ชาว 
อเมริกันที่โดยสารมาด้วยเสียชีวิต 
ทา ให้อเมริกาตัดสินใจเข้าช่วยฝ่าย 
สัมพันธมิตร โดยประกาศสงคราม 
กับเยอรมนี ในวันที่ 6 เมษายน 
1917 
RMS Lusitania
การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบกลางทะเล 
 
แผนที่การโจมตีทางทะเล
 
การปิดฉากสงคราม 
Hundred Days Offensive 
นับเป็นจุดพลิกผันของสงครามที่กองทัพอเมริกาเข้าร่วมฝ่ายสัมพันธมิตร และ 
ปราบปรามกองทัพของเยอรมนีได้อย่างดีในทุกด้าน จนกระทั่งฝ่ายมหาอา นาจ 
กลางเริ่มพ่ายแพ้ให้แก่สงคราม
 
การปิดฉากสงคราม 
Battle of Marne 
ทหารอเมริกาจึงเพิ่มกองกา ลังและได้รับชัยชนะในการรบที่แม่น้า มาร์น ครั้งที่ 2
 
เยอรมันต้องการที่จะรักษาชาติของ 
ตน จึงขอทา สัญญาสงบศึกกับ 
สหรัฐอเมริกา โดยมีการลงนาม 
เมื่อวันที่ 11พฤศจิกายน 1918 
เวลา 05.00 น. ตามเวลา 
ฝรั่งเศสแต่สงครามยังไม่หยุด 
จนกระทั่งเวลา 11.00 น. 
การปิดฉากสงคราม 
ในภาพ จอมพลฟอซเป็นคนที่สองนับจากทางขวา 
ด้านหลังเป็นตู้โดยสารรถไฟในป่าคองเปียญอันเป็นสถานที่ลงนามการสงบศึก
 
การปิดฉากสงคราม 
 ฝ่ายประเทศมหาอา นาจกลาง 
ที่เป็นพันธมิตรกับประเทศเยอรมนี 
มักประสบความพ่ายแพ้ ส่งผล 
กระทบต่อแนวรบเยอรมนี 
เยอรมนีจึงอ่อนล้า และเกิดการ 
จลาจลทั่วประเทศ 
การจลาจลในเยอรมนี
 
หลังจากการรบที่ยาวนาน รวม 
เวลากว่า 4 ปี 4 เดือน ในที่สุด ฝ่าย 
ที่ได้รับชัยชนะคือ ฝ่ายพันธมิตร 
ภายหลังสงครามได้มีการเซ็น 
สนธิสัญญาแวร์ซายส์ซึ่งเป็นการ 
ยุติสถานะสงครามระหว่างฝ่าย 
สัมพันธมิตรและจักรวรรดิเยอรมัน 
การปิดฉากสงคราม 
Soldiers celebrated the end of WWI
ไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 1 
 
สยามประกาศเข้าร่วมสงครามกับ 
ฝ่ายพันธมิตรเมื่อวันที่ 22 
กรกฎาคม ค.ศ. 1917 โดยได้มี 
การเปลี่ยนธงชาติจากธงช้างเผือก 
เป็นธงไตรรงค์เพื่อเข้าร่วมทา 
สงคราม 
กองทัพทหารไทยในสงครามโลกครั้งที่ 1
 
ปืนกล 
เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมาก 
สามารถใช้ในการขุดสนามเพลาะ 
เป็นแนวยาวเพื่อซุ่มซ่อนตัวได้ 
ทหารกาลังใช้ปืนกล
 
เครื่องบิน 
เป็นเครื่องบินใบพัดซึ่งบิน 
ไม่ได้เร็วนัก ใช้บิน 
ลาดตระเวนหรือหย่อน 
ระเบิดในพื้นที่เป้าหมาย 
เครื่องบิน
 
เรือดา น้า 
เยอรมนีเป็นผู้นา มาใช้เพื่อการยุทธ์เป็นจา นวนมาก คนไทยในสมัยนั้นเรียก 
เรือดา น้า นี้ว่า เรืออู 
ภาพเรือดา น้า ของเยอรมนี
 
รถถัง 
อังกฤษเป็นผู้นา ริเริ่มมาใช้ ทา ให้การบุกฝ่าเข้าไปในแดนข้าศึกสะดวกขึ้น 
รถถังที่ใช้ในการทา สงคราม
 
แก๊สพิษ 
เป็นสารเคมีที่มีความรุนแรงตั้งแต่ 
ทา ให้ระคายเคือง อาเจียน ผิวหนัง 
ปริแตก หายใจไม่ออก จนกระทั่ง 
ทา ให้เสียชีวิตภายในไม่กี่นาที เป็น 
อาวุธร้ายแรงที่ผลิตง่าย ใช้เวลา 
น้อยและราคาถูก 
ภาพผู้คนเสียชีวิตจากแก๊สพิษ
 
การแบ่งแยกอาณาเขต 
ภาพแผนที่แสดงอาณาเขตของยุโรปในปี 1914 และ 1918
 
ทางด้านเศรษฐกิจ 
ประเทศที่ทา สงครามต่างฝ่ายต่างทุ่มทุน 
ในการผลิตอาวุธเพื่อชัยชนะ 
ฝ่ายแพ้ต้องจ่าย ค่าปฏิกรรมสงคราม 
ฝ่ายชนะต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู 
ผู้ประสบภัย 
ประเทศที่แพ้และชนะจะตกอยู่ในยุค 
ข้าวยากหมากแพง 
ผู้ประสบภัย
 
ทางด้านการเมือง 
ประเทศมหาอา นาจในปี 1918 
เกิดประเทศมหาอา นาจใหม่ขึ้น นั่นก็คือ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
 
ทางด้านการเมือง 
ประธานาธิบดีวิลสันของ 
สหรัฐอเมริกา ได้ทา การ 
แถลงการณ์และจัดตั้งองค์กร 
สันนิบาตขึ้น 
President of America
Leage of 
Nation 
 เดือนมกราคม ค.ศ. 1919 ประธานาธิบดีวูดโรว์ 
วิลสัน (Woodrow Wilson)แห่ง 
สหรัฐอเมริกา ได้เสนอหลักการ เพื่อใช้เป็นหลัก 
ในการเจรจาทา สนธิสัญญาสันติภาพต่อผู้นา ของ 
ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งเป็น 
แนวความคิดที่จะป้องกันมิให้เกิดสงคราม 
ร้ายแรง ที่จะทา ลายล้างประชาชาติขึ้นอีก โดยให้ 
สถาปนาองค์การสันนิบาตชาติขึ้นเพื่อเป็น 
องค์กรกลางที่จะใช้แก้ปัญหากรณีพิพาทระหว่าง 
ประเทศ โดยสันติวิธีเพื่อดา รงรักษาสันติภาพอัน 
ถาวรไว้ 
องค์กรสันนิบาต
 
ทางด้านการเมือง 
สนธิสัญญาแห่งความสงบ 
มีการทา สนธิสัญญากับประเทศมหาอา นาจเดิมซึ่งเป็นฝ่ายแพ้สงคราม
 
ทางด้านสังคม 
มีการสูญเสียพลทหารทั้งสิ้น 
ประมาณ 8.6 ล้านคน เจ็บ 20 
ล้านคน และพิการตลอดชีวิต 7 
ล้านคน 
สุญเสียชีวิตพลเรือนนับล้านคน 
เกิดปัญหาชนพลัดถิ่น 
โรคจิตเพราะกลัวภัยจากสงคราม 
ผู้คนทุพพลภาพจา นวนมาก 
การรบในสงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1

More Related Content

What's hot

สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1Suksawat Sanong
 
เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2
เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2
เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2280125399
 
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2Phonlawat Wichaya
 
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2Taraya Srivilas
 
สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1supasit2702
 
สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2social602
 
สงครามโลก เปรียบเทียบ แจก
สงครามโลก เปรียบเทียบ แจกสงครามโลก เปรียบเทียบ แจก
สงครามโลก เปรียบเทียบ แจกTaraya Srivilas
 
สงครามเย็น
สงครามเย็นสงครามเย็น
สงครามเย็นTaraya Srivilas
 
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลางเหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลางPannaray Kaewmarueang
 
สมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยมสมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยมFemale'PiAtip BoOn Paeng
 
เหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลางเหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลางSherry Srwchrp
 
สงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามโลกครั้งที่ 2สงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามโลกครั้งที่ 2namfon17
 
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศการประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศPannaray Kaewmarueang
 
สงครามเย็น
สงครามเย็นสงครามเย็น
สงครามเย็นBeau Pitchaya
 
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออกJitjaree Lertwilaiwittaya
 
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1Omm Suwannavisut
 
พัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
พัฒนาการยุโรปสมัยกลางพัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
พัฒนาการยุโรปสมัยกลางPannaray Kaewmarueang
 

What's hot (20)

สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1
 
เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2
เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2
เฉลยแบบฝ กห ดสงครามโลกคร__งท__ 2
 
ลัทธิจักรวรรดินิยม Imperialism
ลัทธิจักรวรรดินิยม Imperialismลัทธิจักรวรรดินิยม Imperialism
ลัทธิจักรวรรดินิยม Imperialism
 
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2
 
สงครามเย็น
สงครามเย็นสงครามเย็น
สงครามเย็น
 
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
 
สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1
 
สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2
 
สงครามโลก เปรียบเทียบ แจก
สงครามโลก เปรียบเทียบ แจกสงครามโลก เปรียบเทียบ แจก
สงครามโลก เปรียบเทียบ แจก
 
สงครามเย็น
สงครามเย็นสงครามเย็น
สงครามเย็น
 
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลางเหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโปสมัยกลาง
 
สมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยมสมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยม
 
เหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลางเหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลาง
เหตุการณ์สำคัญในยุโรปสมัยกลาง
 
สงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามโลกครั้งที่ 2สงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามโลกครั้งที่ 2
 
สงครามโลก..[2]
สงครามโลก..[2]สงครามโลก..[2]
สงครามโลก..[2]
 
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศการประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
การประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
 
สงครามเย็น
สงครามเย็นสงครามเย็น
สงครามเย็น
 
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
2.3 อิทธิพลอารยธรรมตะวันออก
 
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง ม.6.1
 
พัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
พัฒนาการยุโรปสมัยกลางพัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
พัฒนาการยุโรปสมัยกลาง
 

Similar to สงครามโลกครั้งที่ 1

7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,27.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2Jitjaree Lertwilaiwittaya
 
สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1 สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1 Suchawalee Buain
 
สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1ppompuy pantham
 
สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1tanut lanamwong
 
สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2social602
 
สงครามโลกครั้งที่ 1-
สงครามโลกครั้งที่ 1-สงครามโลกครั้งที่ 1-
สงครามโลกครั้งที่ 1-Kasidet Srifah
 
68141 สงครามโลกครั้งที่ 2
68141 สงครามโลกครั้งที่ 268141 สงครามโลกครั้งที่ 2
68141 สงครามโลกครั้งที่ 2supasit2702
 
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-i
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-iสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-i
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-iNew Nan
 
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)Panda Jing
 
สงครามโลก ครั้งที่ 2
สงครามโลก ครั้งที่ 2สงครามโลก ครั้งที่ 2
สงครามโลก ครั้งที่ 2Waciraya Junjamsri
 
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งtanut lanamwong
 
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7Taraya Srivilas
 
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7Taraya Srivilas
 

Similar to สงครามโลกครั้งที่ 1 (18)

7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,27.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
7.1 ความขัดแย้ง world war 1,2
 
สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1 สงครามโลกครั้งที่1
สงครามโลกครั้งที่1
 
World War I
World War IWorld War I
World War I
 
สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่  1สงครามโลกครั้งที่  1
สงครามโลกครั้งที่ 1
 
สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1
 
Ww2 Work
Ww2 WorkWw2 Work
Ww2 Work
 
สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1สงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่ 1
 
อ31101
อ31101อ31101
อ31101
 
สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2สงครามโลกครั้งที่1.2
สงครามโลกครั้งที่1.2
 
สงครามโลกครั้งที่ 1-
สงครามโลกครั้งที่ 1-สงครามโลกครั้งที่ 1-
สงครามโลกครั้งที่ 1-
 
68141 สงครามโลกครั้งที่ 2
68141 สงครามโลกครั้งที่ 268141 สงครามโลกครั้งที่ 2
68141 สงครามโลกครั้งที่ 2
 
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-i
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-iสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-i
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง World-war-i
 
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World war i)
 
สงครามโลก..[1]
สงครามโลก..[1]สงครามโลก..[1]
สงครามโลก..[1]
 
สงครามโลก ครั้งที่ 2
สงครามโลก ครั้งที่ 2สงครามโลก ครั้งที่ 2
สงครามโลก ครั้งที่ 2
 
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
 
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
 
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
สถานการณ์ความขัดแย้งจากสังคมโลกสู่รากหญ้า สสสส7
 

สงครามโลกครั้งที่ 1

  • 1. ค.ศ. 1914 – 1918 พ.ศ. 2457- 2461
  • 2. สงคราม  สงคราม คือ ... สิ่งเลวร้ายที่สุดที่มนุษย์กระทา ต่อ กัน เพราะเมื่อใดที่เกิดภาวะ สงคราม ย่อมหมายถึง การสูญเสีย ความเสียหายและความทุกข์ ทรมานของทุกฝ่าย ไม่ว่าสุดท้าย ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะก็ ตาม สงครามโลกครั้งที่ 1... สงครามครั้งใหญ่ที่เกิดจากความ ขัดแย้งของประเทศในทวปียุโรป และลุกลามไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก สร้างความ เสียหายให้กับสังคมโลกย่าง ร้ายแรง จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็น มหาสงคราม (Great War)
  • 3.
  • 4.  1. ลัทธิชาตินิยม หลังจากสงครามที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ให้แก่ปรัสเซีย ซึ่งอยู่ภายใต้การนา ของบิสมาร์ก ทา ให้เกิดการรวมตัวกันของลัทธิชาตินิยมต่างๆ ใน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ฝรั่งเศสเปลี่ยนการปกครองจากระบบจักรวรรดิ เป็นระบบสาธารณรัฐ ภายในคาบสมุทรบอลข่านก็เช่นกัน ชาวสลาฟ ต้องการรวมตัวกันเป็นแคว้นอิสระ แต่ละประเทศต้องการแสดงแสนยานุภาพเพื่อให้ ชาติตนยิ่งใหญ่ Otto von Bismarck
  • 5.  1. ลัทธิชาตินิยม เมื่อรบชนะฝรั่งเศส จึงแสดงความ เป็นสัมพันธมิตรกับออสเตรีย- ฮังการี และรัสเซีย เพื่อป้องกันการ แก้แค้นของฝรั่งเศส Otto von Bismarck อัครเสนาบดีของพระเจ้าวิลเลียมที่1 แห่งปรัสเซีย William Frederick Louis (Wilhelm Friedrich Ludwig)
  • 6.  1. ลัทธิชาตินิยม ครั้นบิสมาร์กหมดอา นาจลง จักรพรรดิเยอรมันทรงเลิกนโยบาย เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และสร้าง ความไม่พอใจให้อังกฤษ ฝรั่งเศสจึงได้โอกาสสร้าง สัมพันธไมตรี กับรัสเซียและ อังกฤษ Otto von Bismarck
  • 7. 2. การแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคม  ในระยะปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 19 มี การแข่งขันแบบ การค้าเสรี (free trade) ที่สูง ทา ให้ต้องมีการใช้กา ลัง ทหารเข้ายึดครองดินแดนที่ต้องการ และตั้ง กา แพงภาษีให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันการตีตลาด เยอรมันและรัสเซียตั้งกา แพงภาษีสูงมากทั้งคู่ จึงทา ให้เกิดการขัดแย้งกันใน ค.ศ. 1891 เยอรมันยังแข่งขันกับอังกฤษในด้าน อุตสาหกรรมหนัก เคมี และไฟฟ้า An electric horse race track
  • 8. 2. การแข่งขันกันแสวงหาอาณานิคม  เจริญที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่20 ทา ให้หลายชาติกลายเป็น จักรวรรดินิยมทา ให้ดินแดนบาง แห่งตกเป็นอาณานิคม การมีอาณานิคมจึงเป็นเครื่องวัด ความยิ่งใหญ่ของประเทศ การล่าอาณานิคมของสหรัฐอเมริกา
  • 9. 3. ความไม่มั่นคงในคาบสมุทรบอลข่าน  ความต่างกันทางด้านศาสนา ภาษาและ วัฒนธรรม ทา ให้เมื่อมีการพยายามเพื่อ รวมกา ลังตั้งชาติใหม่เป็นไปได้ยาก ดินแดนที่ใกล้ชิดกับมหาสมุทรบอลข่า นพยายามรักษาอา นาจตนไว้ ออสเตรีย-ฮังการี ต้องการรักษาไว้เป็น ตลาดการค้า อิตาลี ไม่ต้องการให้ออสเตรีย-ฮังการี ขยายอา นาจอีก รัสเซียต้องการออกทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนโดยผ่านดินแดนนี้ มหาอา นาจต้องการเป็นใหญ่ในคาบสมุทรบอลข่าน
  • 11. 3. ความไม่มั่นคงในคาบสมุทรบอลข่าน  หลังจากชาวสลาฟภายใต้การสนับสนุน ของเซฮร์เบียได้เอกราชและแยกตัวออก จากจักวรรดิออตโตมันทา ให้สถานภาพ ทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่านไม่ มั่นคง เซอร์เบีย บัลแกเรีย และกรีซ ได้ทา สงครามกัน ผลคือบัลแกเรียต้องเสีย ดินแดนให้แก่เซอร์เบียและกรีซ เซอร์เบียจึงเป็นที่เกรงกลัวของ ออสเตรีย-ฮังการี Europe in 1914
  • 12. 4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย  ในปีค.ศ. 1914 อาร์คดยุค ฟราน ซิส เฟอร์ดินัลด์มกุฎราชกุมารแห่ง ออสเตรีย-ฮังการี และพระชายาถูก ลอบปลงพระชนม์ในแคว้น บอสเนีย โดยชาวเซอร์เบีย (กราฟ ริโล พรินซิป) รัฐบาลออสเตรีย- ฮังการีเชื่อว่ารัฐบาลเซอร์เบียอยู่ เบื้องหลังการกระทา ดังกล่าว จึงทา ให้เกิดความขัดแย้งกัน อาร์คดยุค ฟรานซิส เฟอร์ดินัลด์มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี และพระชายา Gavrilo Printsip
  • 13. 4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย  Triple Entente ฝรั่งเศส รัสเซีย อังกฤษ Triple Alliances จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เยอรมนี รัสเซีย อิตาลี สนธิสัญญาพันธไมตรี ฝรั่งเศส-รัสเซีย
  • 14. 4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย  การแบ่งแยกฝ่าย
  • 15. 4. มหาอา นาจแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย  ทั้งนี้ ตัวเร่งไฟสงครามให้โหม กระหน่า มาจากปมปัญหาเรื่อง สมดุลอา นาจที่สั่งสมมานานของ หลายประเทศในภาคพื้นยุโรป แต่ ละประเทศอาณานิคมจึงถูกดึงให้ เข้าร่วมในสงคราม ทา ให้ความ ขัดแย้งลุกลามไปทั่วโลกอย่าง รวดเร็ว จึงก่อให้เกิด สงคราม ภาพ การรบของทหารเยอรมันในแผนการรบชลีฟเฟ่น
  • 16.
  • 17.  การเปิดฉากสงคราม สงครามโลกครั้งที่ 1 เปิดฉากในวันที่ 28 กรกฎาคม ปี ค.ศ.1914 และสิ้นสุดลง ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1918 ประเทศที่วางตัวเป็นกลาง เนเธอร์แลนด์ สเปน ประเทศตามคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย
  • 18. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก  กองทัพเยอรมันได้บุกฝรั่งเศสผ่าน เบลเยี่ยมอย่างรวดเร็วตาม Schlieffen Plan สามารถยึดเบลเยี่ยมและตอน เหนือของฝรั่งเศสได้แต่ไม่ สามารถรุกไปยังกรุงปารีส โดย ยันทัพกันเป็นเวลานานถึง 3 ปี เป็นการรบรูปแบบ สนามเพลาะ และป้อมปราการ แนวการรบที่ชายแดนตอนเหนือของฝรั่งเศส
  • 19. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก  ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 19 ธันวาคม 1916 อังกฤษและ ฝรั่งเศสวางแผนโจมตีกลับเยอรมัน ทา ให้ทหารเยอรมันต้องร่นถอยไป ที่แนวฮินเดิร์นเบิร์ก ซึ่งก่อให้เกิด ความสูญเสียชีวิตของพลทหารเป็น อย่างมาก Battle of Verdun
  • 20. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก  Schlieffen Plan การบุกโจมตีฝรั่งเศสครั้งแรกของเยอรมันในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1914 โดยผ่านเบลเยี่ยม
  • 21. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันตก  Battle of Somme 1 กรกฏาคม – 18 พฤศจิกายน 1916 โดยรวมแล้วฝรั่งเศสและ อังกฤษสูญเสียพลทหารไปจา นวนมาก และเหมือนจะพ่ายแพ้ในสงคราม
  • 22. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบด้านตะวันออก  รัสเซียส่งกองทัพเข้าโจมตีเยอรมัน และออสเตรีย-ฮังการี ระยะแรก รัสเซียชนะ แต่หลังจาก ค.ศ. 1915 เยอรมันสามารถเข้ายึด เมืองวอร์ซอและวิลนาในโปแลนด์ ได้ รัสเซียต้องสูญเสียทหารและ ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ The ruined buildings of Warsaw
  • 23. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบบอลข่าน  เมื่อตุรกีและบัลแกเรียได้ยื่นมือเข้า ช่วยมหาอา นาจฝ่ายกลาง ใน ค.ศ. 1915 ทา ให้กองทัพออสเตรีย- ฮังการีสามารถเข้ายึดครองประเทศ เซอร์เบีย แอลเบเนียและมอนเตเน โกรได้ Map of Balkan
  • 24. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบกลางทะเล  กองทัพเรืออังกฤษสามารถเอาชนะ เยอรมันได้ และสามารถตัดขาด เส้นทางคมนาคมทางทะเลของ เยอรมันได้สาเร็จ ต่อมาเยอรมันใช้ยุทธการเรือดา น้า ทา ลายเรือทุกชนิดที่เข้าไปรอบๆ เกาะอังกฤษใน ค.ศ. 1915 เรือรบของอังกฤษ
  • 25. การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวรบกลางทะเล  เยอรมันได้จมเรือโดยสารอังกฤษ ชื่อ Lusitania ส่งผลให้ชาว อเมริกันที่โดยสารมาด้วยเสียชีวิต ทา ให้อเมริกาตัดสินใจเข้าช่วยฝ่าย สัมพันธมิตร โดยประกาศสงคราม กับเยอรมนี ในวันที่ 6 เมษายน 1917 RMS Lusitania
  • 27.  การปิดฉากสงคราม Hundred Days Offensive นับเป็นจุดพลิกผันของสงครามที่กองทัพอเมริกาเข้าร่วมฝ่ายสัมพันธมิตร และ ปราบปรามกองทัพของเยอรมนีได้อย่างดีในทุกด้าน จนกระทั่งฝ่ายมหาอา นาจ กลางเริ่มพ่ายแพ้ให้แก่สงคราม
  • 28.  การปิดฉากสงคราม Battle of Marne ทหารอเมริกาจึงเพิ่มกองกา ลังและได้รับชัยชนะในการรบที่แม่น้า มาร์น ครั้งที่ 2
  • 29.  เยอรมันต้องการที่จะรักษาชาติของ ตน จึงขอทา สัญญาสงบศึกกับ สหรัฐอเมริกา โดยมีการลงนาม เมื่อวันที่ 11พฤศจิกายน 1918 เวลา 05.00 น. ตามเวลา ฝรั่งเศสแต่สงครามยังไม่หยุด จนกระทั่งเวลา 11.00 น. การปิดฉากสงคราม ในภาพ จอมพลฟอซเป็นคนที่สองนับจากทางขวา ด้านหลังเป็นตู้โดยสารรถไฟในป่าคองเปียญอันเป็นสถานที่ลงนามการสงบศึก
  • 30.  การปิดฉากสงคราม  ฝ่ายประเทศมหาอา นาจกลาง ที่เป็นพันธมิตรกับประเทศเยอรมนี มักประสบความพ่ายแพ้ ส่งผล กระทบต่อแนวรบเยอรมนี เยอรมนีจึงอ่อนล้า และเกิดการ จลาจลทั่วประเทศ การจลาจลในเยอรมนี
  • 31.  หลังจากการรบที่ยาวนาน รวม เวลากว่า 4 ปี 4 เดือน ในที่สุด ฝ่าย ที่ได้รับชัยชนะคือ ฝ่ายพันธมิตร ภายหลังสงครามได้มีการเซ็น สนธิสัญญาแวร์ซายส์ซึ่งเป็นการ ยุติสถานะสงครามระหว่างฝ่าย สัมพันธมิตรและจักรวรรดิเยอรมัน การปิดฉากสงคราม Soldiers celebrated the end of WWI
  • 32.
  • 33. ไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 1  สยามประกาศเข้าร่วมสงครามกับ ฝ่ายพันธมิตรเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1917 โดยได้มี การเปลี่ยนธงชาติจากธงช้างเผือก เป็นธงไตรรงค์เพื่อเข้าร่วมทา สงคราม กองทัพทหารไทยในสงครามโลกครั้งที่ 1
  • 34.
  • 35.  ปืนกล เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมาก สามารถใช้ในการขุดสนามเพลาะ เป็นแนวยาวเพื่อซุ่มซ่อนตัวได้ ทหารกาลังใช้ปืนกล
  • 36.  เครื่องบิน เป็นเครื่องบินใบพัดซึ่งบิน ไม่ได้เร็วนัก ใช้บิน ลาดตระเวนหรือหย่อน ระเบิดในพื้นที่เป้าหมาย เครื่องบิน
  • 37.  เรือดา น้า เยอรมนีเป็นผู้นา มาใช้เพื่อการยุทธ์เป็นจา นวนมาก คนไทยในสมัยนั้นเรียก เรือดา น้า นี้ว่า เรืออู ภาพเรือดา น้า ของเยอรมนี
  • 38.  รถถัง อังกฤษเป็นผู้นา ริเริ่มมาใช้ ทา ให้การบุกฝ่าเข้าไปในแดนข้าศึกสะดวกขึ้น รถถังที่ใช้ในการทา สงคราม
  • 39.  แก๊สพิษ เป็นสารเคมีที่มีความรุนแรงตั้งแต่ ทา ให้ระคายเคือง อาเจียน ผิวหนัง ปริแตก หายใจไม่ออก จนกระทั่ง ทา ให้เสียชีวิตภายในไม่กี่นาที เป็น อาวุธร้ายแรงที่ผลิตง่าย ใช้เวลา น้อยและราคาถูก ภาพผู้คนเสียชีวิตจากแก๊สพิษ
  • 40.
  • 42.  ทางด้านเศรษฐกิจ ประเทศที่ทา สงครามต่างฝ่ายต่างทุ่มทุน ในการผลิตอาวุธเพื่อชัยชนะ ฝ่ายแพ้ต้องจ่าย ค่าปฏิกรรมสงคราม ฝ่ายชนะต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู ผู้ประสบภัย ประเทศที่แพ้และชนะจะตกอยู่ในยุค ข้าวยากหมากแพง ผู้ประสบภัย
  • 43.  ทางด้านการเมือง ประเทศมหาอา นาจในปี 1918 เกิดประเทศมหาอา นาจใหม่ขึ้น นั่นก็คือ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
  • 44.  ทางด้านการเมือง ประธานาธิบดีวิลสันของ สหรัฐอเมริกา ได้ทา การ แถลงการณ์และจัดตั้งองค์กร สันนิบาตขึ้น President of America
  • 45. Leage of Nation  เดือนมกราคม ค.ศ. 1919 ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน (Woodrow Wilson)แห่ง สหรัฐอเมริกา ได้เสนอหลักการ เพื่อใช้เป็นหลัก ในการเจรจาทา สนธิสัญญาสันติภาพต่อผู้นา ของ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งเป็น แนวความคิดที่จะป้องกันมิให้เกิดสงคราม ร้ายแรง ที่จะทา ลายล้างประชาชาติขึ้นอีก โดยให้ สถาปนาองค์การสันนิบาตชาติขึ้นเพื่อเป็น องค์กรกลางที่จะใช้แก้ปัญหากรณีพิพาทระหว่าง ประเทศ โดยสันติวิธีเพื่อดา รงรักษาสันติภาพอัน ถาวรไว้ องค์กรสันนิบาต
  • 46.  ทางด้านการเมือง สนธิสัญญาแห่งความสงบ มีการทา สนธิสัญญากับประเทศมหาอา นาจเดิมซึ่งเป็นฝ่ายแพ้สงคราม
  • 47.  ทางด้านสังคม มีการสูญเสียพลทหารทั้งสิ้น ประมาณ 8.6 ล้านคน เจ็บ 20 ล้านคน และพิการตลอดชีวิต 7 ล้านคน สุญเสียชีวิตพลเรือนนับล้านคน เกิดปัญหาชนพลัดถิ่น โรคจิตเพราะกลัวภัยจากสงคราม ผู้คนทุพพลภาพจา นวนมาก การรบในสงครามโลกครั้งที่ 1