SlideShare a Scribd company logo
1 of 15
1 
บทที่ 1 บทนำ 
1. ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของโครงงำน 
จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เราได้ประสบปัญหากนันั้น หลายทา่นคงทราบวา่ 
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ดิ่งตัวลงอยา่งน่าตกใจนั้นได้ส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคในตล 
าดได้ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ทา ให้เหลา่พอ่ค้าและประชาชนต้องประสบปัญหาสินค้าแพง 
และสินค้าขายไมไ่ด้ แถมยังต้องประสบกบัปัญหาสินค้าขาดตลาดซึ่งก็คือ น้ามนัปาล์มอีกด้วย 
ทา ให้ราคาสินค้ายิ่งขยับตัวแพงขึ้นไปอีก 
ซึ่งทา่นพอ่บ้านแมบ่้านอาจจะกา ลังกลุ้มใจกับรายจา่ยภายในครัวเรือนที่ต้องมีรายจา่ยเพิ่มขึ้น 
แตร่ายรับยังมีเทา่เดิม ดังนั้นพวกเราจึงได้ปรึกษาและหาทางออกเพื่อชว่ยทา่นพอ่บ้านและแมบ่้านทั้งหลาย 
ให้มีรายจา่ยภายในครัวเรือนลดน้อยลงบ้าง ซึ่งต้องเริ่มจากสิ่งที่เราใช้ทุกวนั และสิ้นเปลืองอยา่งมาก เชน่ 
น้ายาล้างจาน ที่ได้ขยับราคาขึ้นสูงอีกเหมือนกนัเราจึงได้คิดค้นวิธีศึกษา 
และวิธีทา น้ายาล้างจานใช้เองซึ่งจะทา ให้ได้ลดรายจา่ยภายในครัวเรือนได้อีกนิดนึงก็ยังดี 
น้ายาล้างจานที่เราได้ศึกษาและนามาเสนอนี้ 
ล้วนมีวตัถุดิบที่มาจากธรรมชาติหาได้ภายในครัวเรือนและท้องถิ่น ไมอั่นตราย แถมยังไมต่้องซื้อหา 
ทา ให้ประหยัดเงินไปได้อีกมากมาย วิธีการทา น้ายาล้างจานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแคท่า่นพอ่บ้านแมบ่้าน 
หรือผู้ที่สนใจจะศึกษา และน้าไปทา ก็สามารถทา ได้ด้วยตัวเอง 
แถมเมื่อเรามีความรู้ความสามารถทา ได้สาเร็จแล้วนั้นเราอาจจะแบง่ปันความรู้ให้กบัผู้ที่สนใจแตไ่มค่อ่ยมีเว 
ลาศึกษาเอกสารเองก็ได้ หรืออาจจะตอ่ยอดความรู้ให้เป็นธุรกิจเสริม หรือ 
ธุรกิจหลักทา รายได้ให้ครอบครัวและชุมชนของตัวเองก็ได้ 
2. วัตถุประสงค์ 
2.1 เพื่อศึกษาวิธีการทา น้ายาล้างจาน 
2.2 เพื่อศึกษาวา่น้ายาล้างจานจากน้ามะกรูดจะล้างสิ่งสกปรก และคราบมนั กลิ่นคาวได้หรือไม่ 
3. ขอบเขตของโครงงำน 
ศึกษาน้ายาล้างจานจากธรรมชาติ คือ น้ายาล้างจานจากมะกรูด 
4. สถำนทศีึ่กษำโครงงำน
2 
บ้านเลขที่ 353 หมู่9 ตา บลหนองไผ่อา เภอชุมแพ จังหวดัขอนแกน่ 
5. ประโยชน์ทคี่ำดว่ำจะได้รับ 
5.1 ได้น้ายาล้างจานที่มีคุณภาพและใช้ได้จริง 
5.2 สามานาสิ่งที่มีอยูต่ามธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้ 
5.3 เพื่อประหยัดคา่ใช้จา่ย 
5.4 เพื่อใช้เวลาวา่งให้เกิดประโยชน์ 
6. สมมุติฐำนโครงงำน 
น้ายาเอนกประสงค์จากส่วนผสมของสมุนไพรใช้ได้ดี มีคุณภาพและราคาถูก
3 
บทที่ 2 ทฤษฏีและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 
1. ทฤษฎีทเี่กี่ยวข้อง 
มะกรูด เป็นพืชในสกุลส้ม (Citrus) เป็นไมยื้นต้นขนาดเล็ก เป็นไมเ้นื้อแข็ง 
ลา ต้นและกิ่งมีหนามยาวเล็กน้อยใบเป็นใบประกอบชนิดลดรูป มีใบยอ่ย 1 ใบเรียงสลับรูปไข่ 
คือมีลักษณะคล้ายกับใบไม้2 ใบตอ่กนัอยูค่อดกิ่วที่กลางใบเป็นตอน ๆ 
มีกา้นแผอ่อกใหญเ่ทา่กบัแผน่ใบ ทา ให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กวา้ง 2.5 - 4 เซนติเมตร ยาว 4 - 7 
เซนติเมตร ใบสีเขียวแกพื่้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมนั คอ่นข้างหนา 
มีกลิ่นหอมมากเพราะมีตอ่มน้ามนัอยู่ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีออ่น ดอกออกเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก 
กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง ร่วงง่าย มีกลิ่นหอม 
มีผลสีเขียวเข้มคล้ายมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ขั้วหัวท้ายของผลเป็นจุก ผลออ่นมีเป็นสีเขียวแก่ 
เมอื่ผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พันธุ์ที่มีผลเล็ก ผิวจะขรุขระน้อยกวา่และไมมี่จุกที่ขั้ว 
ภายในมีเมล็ดจา นวนมาก 
ชื่อสามญั : Porcupine Orange, Kiffir Lime, Leech Lime 
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Citrus hystrix DC. 
ชื่อท้องถิ่น : มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ) มะหูด (หนองคาย) ส้มกรูด ส้มมวั่ผี (ภาคใต้) โกรยเซียด 
(เขมร) มะขู (กะเหรี่ยง – แมฮ่อ่งสอน)
4 
ลักษณะ 
มะกรูดเป็นพืชที่ใช้เป็นเครื่องเทศมานานแล้ว 
โดยใช้ผิวของผลเป็นส่วนผสมในเครื่องแกงหลายชนิด ใช้เข้าเครื่องหอมโดยเป็นส่วนผสมในเทียนอบ 
ใบมะกรูดมีกลิ่นหอมใช้แตง่กลิ่นในอาหารคาวหลายชนิด เชน่ ต้มยา แกงเผ็ด 
น้ามะกรูดใช้ปรุงอาหารเพื่อให้มีรสเปรี้ยวและดับกลิ่นคาวปลา คนโบราณนิยมสระผมด้วยน้ามะกรูด 
เพราะชว่ยให้ผมดำเป็นมัน ไม่แห้งกรอบ คนไทยนิยมปลูกมะกรูดไว้ตามบ้านและในสวน 
มะกรูดเป็นไมพุ้ม่ยืนต้นขนาดเล็ก ใบมีกลิ่นหอม ผลคอ่นข้างกลม ผิวขรุขระมีปุ่มนูน 
และมีจุกที่หัวของผล ส่วนที่ใช้ คือ ผล ผิวของผล น้าของผล ใบ และราก 
สำระสำคัญ 
ในใบและผลมะกรูด เมื่อนามากลั่นด้วยไอน้าจะให้น้ามนัหอมระเหย ในปริมาณ 0.08 % และ 4 % 
ตามลา ดับ น้ามนัหอมระเหยจากผิวมะกรูดมกัประกอบด้วยเบต้า – ไพนีน , ไลโมนีนและซาบินีน 
เป็นสารหลัก ส่วนน้ามนัหอมระเหยจากใบจะประกอบด้วย ซีโทรเนลลาล , ไอโซพูลิโกล และไลนาลูออล 
เป็นสารหลัก ส่วนในน้ามะกรูดมีกรดซิตริก ไวตามินซี และกรดอินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ 
คุณสมบัติ 
1. ใช้เป็นยาหรือส่วนผสมของยาตา่ง ๆ คือ น้าในผลแกอ้าการท้องอืด ชว่ยให้เจริญอาหาร 
น้ามะกรูดใช้ดองยา เพื่อใช้ฟอกเลือด และบา รุงโลหิตสตรี เนื้อของผลใช้เป็นยาแกอ้าการปวดศีรษะ 
ใบมะกรูดใช้เป็นยาขับลมในลา ไส้ แกจุ้กเสียด 
ผลมะกรูดที่ควา้นไส้ออกนามหาหิงส์ใส่แทนใช้เป็นยาขับลมแก้ปวดท้องในเด็กออ่น 
2. ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสาอางตา่ง ๆ 
3. กรด Citric ชว่ยขจัดคราบสบู่(ดา่ง) ที่หลงเหลืออยู่ ทา ให้ผมหวีง่าย 
น้ามนัจากผิวมะกรูดชว่ยให้ผมดกเป็นเงางาม 
4. ใช้ปรุงแตง่กลิ่น รสอาหาร ดับกลิ่นคาวของอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงตา่ง ๆ
5 
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ 
มะกรูดเป็นไมยื้นต้นขนาดเล็ก ต้นสูง 2 – 8 เมตร ประกอบไปด้วย 
1. ใบ มีใบยอ่ยเพียงใบเดียว ใบคอ่นข้างหนา มีสีเขียวแก่ มีกลิ่นหอม 
2. ดอกมีสีขาว ออกเดี่ยว ๆ อยูเ่ป็นกระจุก 3 - 5 ดอก กลีบดอกร่วงง่าย 
3. ผล เป็นผลเดี่ยวคอ่นข้างกลม บางพันธุ์มีผิวขรุขระ มีจุกที่หัวผล 
สรรพคุณทำงยำ 
ขับลมแกจุ้กเสียด 
วิธีใช้ 
1. ตัดจุกผลมะกรูด ควา้นไส้กลางออก เอามหาหิงส์ใส่แล้วปิดจุก นาไปเผาไฟจนดา เกรียม 
บดเป็นผงละลายกบัน้าผึ้งรับประทาน จะชว่ยขับลม แกป้วดท้องหรือป้ายลิ้นเด็กอ่อน เป็นยาขับขี้เทาได้ 
2. น้ามะกรูดใช้ถูฟัน แกเ้ลือดออกตามไรฟัน 
3. เอาผลมะกรูดมาดอง เป็นยาดองเปรี้ยวรับประทานขับลมขับระดู 
4. เปลือกผลฝานบาง ๆ ชงน้าเดือด ใส่การะบูรเล็กน้อย รับประทานแกล้มวิงเวียน 
5. เปลือกฝนใช้ผสมในเครื่องสาอางบางชนิด เชน่ แชมพู สบู่ 
ขนำดกำรใช้และผลทไี่ด้รับจำกกำรรักษำโรค 
1. แกล้ม บา รุงหัวใจ ใช้ผิวสดหั่นเป็นชิ้น ผสมการะบูรหนึ่งหยิบมือ ชงน้าเดือด คนให้ละลาย 
ปิดฝาทิ้งไว้ 3 – 5 นาที ดื่มเอาแตน่้า ชว่ยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดี 
2. ยาขับเสมหะ แกไ้อ ใช้ผลมะกรูดผา่ซีกเติมเกลือ ลนไฟให้เปลือกนิ่ม บีบน้ามะกรูดลงในคอทีละน้อย ๆ 
3. เป็นยาสระผม หรืออาบ นามะกรูดผา่ซีกลงในหมอ้ ต้มอาบได้น้ามนัหอมระเหยอยู่บนผิว 
ทา ให้ผิวไมแ่ห้ง และรสเปรี้ยวของมะกรูดชว่ยให้อาบสะอาด นอกจากนี้ใช้มะกรูดผา่ซีกเอาน้ามาสระผม
6 
วิธีกำรปลูก 
ควรปลูกด้วยกิ่งตอน กอ่นจะปลูกควรนาปุ๋ยคอกมาใส่ผสมกบัดิน 
เพื่อให้ดินมีอาหารอุดมสมบูรณ์ดี หลุมที่ปลูกมีขนาดกวา้ง x ยาว x ลึก ประมาณ 80 
เซนติเมตรกอ่นที่จะวางพืชลงปลูกในหลุมควรหาใบไมใ้บหญ้าแห้งที่เน่าเปื่อยผุพังใส่รองกน้หลุมระยะปลูก 
ประมาณ 5 x 5 เมตร 
กำรปฏิบัติดูแลรักษำ 
1. การให้น้าในระยะที่ปลูกมะกรูดใหม่ๆ ต้องหมนั่รดน้าให้ความชุม่ชื้นแกพื่ช จะทา ให้พืชตั้งตัวได้เร็ว 
แตกใบออ่นกิ่งออ่นดี 
2. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มธาตุอาหารให้พืชเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ 
และปุ๋ยชีวภาพก็ได้ ปกติจะรับประทานใบมะกรูดเป็นอาหารจึงมักใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เชน่ 20 – 14 - 
14 หรือใส่ปุ๋ยพื้น เชน่ 15 – 15 - 15 
3. การป้องกนักา จัดศัตรูพืช จะมีหนอนของผีเสื้อกลางคืนกดักินใบมะกรูดและยอดออ่น 
จึงควรตรวจตราจับหนอนดังกลา่วในเวลาเช้าแล้วทาลายทิ้งเสีย 
กำรนำมำใช้ 
การใช้มะกรูดสระผมน่าจะรู้จักกนัมาตั้งแต่สมยัโบราณ วิธีการสระ 
บ้างก็ใช้ผลดิบผา่แล้วบีบน้าสระโดยตรง บ้างก็นาไปเผา หรือต้มกอ่นสระ 
มะกรูดยังมีใช้ในพระราชพิธีสาคัญ เชน่ พระราชพิธีโสกนัต์ 
ซึ่งระบุไวใ้นพระราชพิธีสิบสองเดือน ไวว้า่จะต้องมีผลมะกรูดและใบส้มป่อย ประกอบในพิธีด้วย 
เข้าใจวา่น่าจะใช้เพื่อการสระผมนั่นเอง และก็สามารถนาไปล้างพื้นได้ด้วย 
ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเชน่กนั น้ามะกรูดมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุนคล้ายใบ 
แตไ่มค่อ่ยจะได้ประโยชน์กนัมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหาได้ยากกวา่ และได้น้าน้อยกวา่
7 
เพราะมะกรูดมีส่วนเปลือกที่หนา ขณะที่มะนาวหาได้ง่ายกวา่ น้ามากกวา่ และรสชาติที่ถูกปากมากกวา่ 
อยา่งไรก็ตาม มีอาหารบางชนิดที่นิยมใช้น้ามะกรูดเชน่กนั นอกจากนั้น 
ในมะกรูดมีน้ามนัหอมระเหยอยู่มาก มีกลิ่นฉุน ทั้งในใบและผล 
บางครั้งสามารถนาไปใช้ไลแ่มลงบางชนิด 
1. งำนวิจัยทเี่กี่ยวข้อง 
-กรณีศึกษาน้ายาล้างจานและสบูเ่หลว - ระบบคลังข้อมูลงานวิจัยไทย 
-ผลิตภัณฑ์ล้างจานผสมมะกรูด - กรมวิทยาศาสตร์บริการ 
-ตัวอยา่งโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง 
-งานวิจัยตลาดครับผม เกยี่วกบัน้ายาล้างจาน 
-โครงานน้ายาล้างจาน 
2. วิธีดำเนินกำรโครงงำน 
1. ประชุมวางแผนงานวา่จะทา เรื่องอะไร 
2. แบง่หน้าที่แตล่ะคนวา่ใครทา หน้าที่อะไรบ้างแล้วแยกย้ายกนัไปทา ตามที่เราได้รับมอบหมาย 
3. นางานที่แตล่ะคนหาได้มารวมกนัแล้วเรียบเรียงให้สวยงาม 
4. จัดทา เป็นโครงงานขึ้น
8 
บทที่ 3 วิธีกำรดำเนินงำน 
1. ข้อมูลทใี่ช้ในโครงงำน 
น้ำยำล้ำงจำน คือสารชา ระล้าง (detergent) 
ที่ใช้ชว่ยในการล้างจาน มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ที่มีการระคายเคืองต่า 
ประโยชน์หลักของน้ายาล้างจานคือใช้ล้างภาชนะและเครื่องครัวด้วยมือหลังจากประกอบหรือรับประทานอ 
าหารแล้ว น้ายาล้างจานทา ให้สิ่งสกปรกและไขมนัหลุดจากภาชนะและรวมตัวเป็นอีมลัชัน (emulsion) 
อยูใ่นน้าหรือฟอง (foam) 
เนื่องจากโมเลกุลของน้ายาล้างจานประกอบด้วยส่วนที่มีขั้วและไมมี่ขั้วเชน่เดียวกับผงซักฟอก ส่วนที่มีขั้วจะ 
จับกบัโมเลกุลของน้า และส่วนที่ไมมี่ขั้วจะจับกับสิ่งสกปรกให้หลุดออก ในสมยักอ่นมีชื่อเรียกอื่นๆ 
เชน่ สบู่ล้างจาน หรือ ครีมล้างจานเนื่องจากเคยผลิตในรูปของสบูแ่ละครีมมากอ่น 
ปัจจุบันน้ายาล้างจานมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วย 
เชน่ น้ามะนาวหรือชา ซึ่งเชื่อวา่เป็นการชว่ยให้ภาชนะสะอาดมากขึ้นและถนอมมือมากกวา่เดิม 
2. ขั้นตอนกำรทำ โครงงำน 
อุปกรณ์ 
1. ถังสาหรับผสมวตัถุดิบ 2 ถัง 
2. ไมพ้าย 1 อัน 
3. ผงข้น 250 กรัม
9 
4. ผงฟอง 100 กรัม 
5. น้าหอม 10 กรัม 
6. น้าต้มมะกรูด 5 กิโลกรัม 
7. หัวแชมพู ( N 70) 500 กรัม 
8. น้า 5 กิโลกรัม 
9. สารขจัดคราบไขมนั (F 24) 500 กรัม 
วิธีทำ 
ส่วนที่ 1 
1. นาผงข้น 250 กรัม และ หัวแชมพู (N 70) 500 กรัม เทผสมลงไปในถังใบที่ 1 
จากนั้นคนให้เข้ากนั 
ส่วนที่ 2 
2. นาผงฟอง 100 กรัม และน้าต้มมะกรูด 5 กิโลกรัม เทผสมใส่ในถังใบที่ 2 
จากนั้นคนให้เข้ากนั 
3. เติมน้า 5 กิโลกรัม โดยเพิ่มเรื่อยๆ ในระหวา่งการคน 
ส่วนที่ 3 
1. นาส่วนที่ 1 ผสมเข้ากบั ส่วนที่ 2 แล้วคนให้เข้ากนั 
2. เติมสารขจัดคราบไขมนั (F 24) 500 กรัม และน้าหอม 10 กรัม ลงผสม 
จากนั้นคนให้เข้ากนั 
3. เมื่อผสมจนเป็นเนื้อเดียวกนัแล้ว นาน้ายาล้างจานที่ได้เทใส่ขวดบรรจุภัณฑ์ 
แล้วทิ้งไวจ้นน้าเริ่มใสและฟองเริ่มหมด 
4. นาน้ายาล้างจานจากมะกรูดที่ได้ มาใช้ล้างจานได้ทันที
10 
บทที่ 4 ผลโครงงำนและอภิปรำยผล 
เมื่อน้าเอาน้ายาล้างจานจากมะกรูด ที่เราได้ทดลองผลิตขึ้นนั้น 
ไปล้างจานชามที่เราใช้บรรจุอาหารแล้ว ผลปรากฏวา่ จานชามที่มีสิ่งสกปรกติดอยูส่ะอาดขึ้น ไมมี่คราบมนั 
และไมมี่กลิ่นคาว ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจอยา่งมาก 
บทที่ 5 สรุปผลโครงงำน 
จากการที่เราได้ศึกษา และ ได้ผลิตน้ายาล้างจานจากมะกรูดออกมาใช้นั้น 
มีประสิทธิภาพในการชา ระสิ่งสกปรก ซึ่งน้ายาล้างจานของเรามีส่วนผสมของน้าดา่งซึ่งมีฤทธ์ิเป็นเบส 
ชว่ยในการชา ระล้างสิ่งสกปรก ส่วนมะกรูดนั้นมีฤทธ์ิเป็นกรดซึ่งทา ปฏิกิริยากับไขมนั 
จึงชว่ยขจัดความมนัและกลิ่นคาว เกลือชว่ยขจัดสิ่งสกปรก 
ส่วนหัวเชื้อ N70 ชว่ยให้น้ายาล้างจานของเรามีฟองน่าใช้ 
ดังนั้นน้ายางล้างจานที่เราผลิตขึ้นนี้จึงเป็นผลิตภัณฑ์ทา ความสะอาดทางเลือกใหมที่่ดีอีกทางหนึ่ง
11 
บรรณำนุกรม 
มะกรูด.ค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://th.wikipedia.org/wiki/มะกรูด. 
สรรพคุณของมะกรูด . ค้นข้อมูลเมอื่วนัที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://frynn.com. 
มะกรูด(ผิวผล) . ค้นข้อมูลเมอื่วนัที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : 
http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=99.
12 
ภำคผนวก 
อุปกรณ์ 
ถัง ผงข้น
13 
ผงฟอง สารขจัดคราบไขมัน 
หัวแชมพู น้าหอม 
วิธีทำ
14
15

More Related Content

What's hot

Advertising literacy
Advertising literacyAdvertising literacy
Advertising literacy
atit604
 
ลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพร
aromdjoy
 
โครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุง
โครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุงโครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุง
โครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุง
Pornthip Nabnain
 
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
tommy
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
Bank Kitsana
 

What's hot (19)

Advertising literacy
Advertising literacyAdvertising literacy
Advertising literacy
 
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้โครงงานประโยชน์ของผลไม้
โครงงานประโยชน์ของผลไม้
 
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
ยาสามัญประจำบ้านแผนปจจุบันและแผนโบราณ
 
โครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงโครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผง
 
ลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพร
 
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพรโครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
 
โครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุง
โครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุงโครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุง
โครงงานเรื่องเทียนหอมตะไคร้ไล่ยุง
 
คู่มือการแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรภายใต้โครงการ Lanna health hub 2013
คู่มือการแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรภายใต้โครงการ Lanna health hub 2013คู่มือการแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรภายใต้โครงการ Lanna health hub 2013
คู่มือการแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรภายใต้โครงการ Lanna health hub 2013
 
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
 
พืชสมุนไพร
พืชสมุนไพรพืชสมุนไพร
พืชสมุนไพร
 
สมุนไพรไม่ใช่ยาขม
สมุนไพรไม่ใช่ยาขม สมุนไพรไม่ใช่ยาขม
สมุนไพรไม่ใช่ยาขม
 
โครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdf
โครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdfโครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdf
โครงงานผลไม เพ _อส_ขภาพpdf
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
บทที่ 3 ยาสามัญประจำบ้าน
บทที่ 3 ยาสามัญประจำบ้านบทที่ 3 ยาสามัญประจำบ้าน
บทที่ 3 ยาสามัญประจำบ้าน
 
ยาเสพติด
ยาเสพติดยาเสพติด
ยาเสพติด
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
 
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือนสมุนไพรไทยในครัวเรือน
สมุนไพรไทยในครัวเรือน
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน
ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน
ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน
 

Similar to Anphilak

สมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงามสมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงาม
Pornpimon Gormsang
 
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยโครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
Nick Nook
 
นำเสนออาหาร
นำเสนออาหารนำเสนออาหาร
นำเสนออาหาร
kanitnun
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1
Noon Pattira
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
ศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้
krunoony
 
ความหมายของสมุนไพร
ความหมายของสมุนไพรความหมายของสมุนไพร
ความหมายของสมุนไพร
Waree Wera
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
ศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
อาชีพในฝัน
อาชีพในฝันอาชีพในฝัน
อาชีพในฝัน
Wanlop Chimpalee
 
Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1
Wichai Likitponrak
 
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผงตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
kasetpcc
 
บทคัดย่อ
บทคัดย่อบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
Wisan Butsaman
 

Similar to Anphilak (20)

นำ้เสาวรส
นำ้เสาวรสนำ้เสาวรส
นำ้เสาวรส
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
สมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงามสมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงาม
 
4 ผลงานภารกิจปลดทุกข์ลุงสำราญ (โสภาพิมพ์)
4 ผลงานภารกิจปลดทุกข์ลุงสำราญ (โสภาพิมพ์)4 ผลงานภารกิจปลดทุกข์ลุงสำราญ (โสภาพิมพ์)
4 ผลงานภารกิจปลดทุกข์ลุงสำราญ (โสภาพิมพ์)
 
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยโครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
 
นำเสนออาหาร
นำเสนออาหารนำเสนออาหาร
นำเสนออาหาร
 
โครงงานคอม1
โครงงานคอม1โครงงานคอม1
โครงงานคอม1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
Banana
BananaBanana
Banana
 
โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้โครงงาน น้ำตะไคร้
โครงงาน น้ำตะไคร้
 
ความหมายของสมุนไพร
ความหมายของสมุนไพรความหมายของสมุนไพร
ความหมายของสมุนไพร
 
การเลี้ยงสัตว์ให้ได้กำไร
การเลี้ยงสัตว์ให้ได้กำไรการเลี้ยงสัตว์ให้ได้กำไร
การเลี้ยงสัตว์ให้ได้กำไร
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
วิจัยร้านอาหารเกาะยอ New
วิจัยร้านอาหารเกาะยอ Newวิจัยร้านอาหารเกาะยอ New
วิจัยร้านอาหารเกาะยอ New
 
อาชีพในฝัน
อาชีพในฝันอาชีพในฝัน
อาชีพในฝัน
 
Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1
 
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทยสมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย
 
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผงตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
ตัวอย่างโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีโดยสรุป เรื่องหัวบุกผง
 
บทคัดย่อ
บทคัดย่อบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
 
สุขศึกษา
สุขศึกษาสุขศึกษา
สุขศึกษา
 

Anphilak

  • 1. 1 บทที่ 1 บทนำ 1. ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของโครงงำน จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เราได้ประสบปัญหากนันั้น หลายทา่นคงทราบวา่ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ดิ่งตัวลงอยา่งน่าตกใจนั้นได้ส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคในตล าดได้ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ทา ให้เหลา่พอ่ค้าและประชาชนต้องประสบปัญหาสินค้าแพง และสินค้าขายไมไ่ด้ แถมยังต้องประสบกบัปัญหาสินค้าขาดตลาดซึ่งก็คือ น้ามนัปาล์มอีกด้วย ทา ให้ราคาสินค้ายิ่งขยับตัวแพงขึ้นไปอีก ซึ่งทา่นพอ่บ้านแมบ่้านอาจจะกา ลังกลุ้มใจกับรายจา่ยภายในครัวเรือนที่ต้องมีรายจา่ยเพิ่มขึ้น แตร่ายรับยังมีเทา่เดิม ดังนั้นพวกเราจึงได้ปรึกษาและหาทางออกเพื่อชว่ยทา่นพอ่บ้านและแมบ่้านทั้งหลาย ให้มีรายจา่ยภายในครัวเรือนลดน้อยลงบ้าง ซึ่งต้องเริ่มจากสิ่งที่เราใช้ทุกวนั และสิ้นเปลืองอยา่งมาก เชน่ น้ายาล้างจาน ที่ได้ขยับราคาขึ้นสูงอีกเหมือนกนัเราจึงได้คิดค้นวิธีศึกษา และวิธีทา น้ายาล้างจานใช้เองซึ่งจะทา ให้ได้ลดรายจา่ยภายในครัวเรือนได้อีกนิดนึงก็ยังดี น้ายาล้างจานที่เราได้ศึกษาและนามาเสนอนี้ ล้วนมีวตัถุดิบที่มาจากธรรมชาติหาได้ภายในครัวเรือนและท้องถิ่น ไมอั่นตราย แถมยังไมต่้องซื้อหา ทา ให้ประหยัดเงินไปได้อีกมากมาย วิธีการทา น้ายาล้างจานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแคท่า่นพอ่บ้านแมบ่้าน หรือผู้ที่สนใจจะศึกษา และน้าไปทา ก็สามารถทา ได้ด้วยตัวเอง แถมเมื่อเรามีความรู้ความสามารถทา ได้สาเร็จแล้วนั้นเราอาจจะแบง่ปันความรู้ให้กบัผู้ที่สนใจแตไ่มค่อ่ยมีเว ลาศึกษาเอกสารเองก็ได้ หรืออาจจะตอ่ยอดความรู้ให้เป็นธุรกิจเสริม หรือ ธุรกิจหลักทา รายได้ให้ครอบครัวและชุมชนของตัวเองก็ได้ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อศึกษาวิธีการทา น้ายาล้างจาน 2.2 เพื่อศึกษาวา่น้ายาล้างจานจากน้ามะกรูดจะล้างสิ่งสกปรก และคราบมนั กลิ่นคาวได้หรือไม่ 3. ขอบเขตของโครงงำน ศึกษาน้ายาล้างจานจากธรรมชาติ คือ น้ายาล้างจานจากมะกรูด 4. สถำนทศีึ่กษำโครงงำน
  • 2. 2 บ้านเลขที่ 353 หมู่9 ตา บลหนองไผ่อา เภอชุมแพ จังหวดัขอนแกน่ 5. ประโยชน์ทคี่ำดว่ำจะได้รับ 5.1 ได้น้ายาล้างจานที่มีคุณภาพและใช้ได้จริง 5.2 สามานาสิ่งที่มีอยูต่ามธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้ 5.3 เพื่อประหยัดคา่ใช้จา่ย 5.4 เพื่อใช้เวลาวา่งให้เกิดประโยชน์ 6. สมมุติฐำนโครงงำน น้ายาเอนกประสงค์จากส่วนผสมของสมุนไพรใช้ได้ดี มีคุณภาพและราคาถูก
  • 3. 3 บทที่ 2 ทฤษฏีและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. ทฤษฎีทเี่กี่ยวข้อง มะกรูด เป็นพืชในสกุลส้ม (Citrus) เป็นไมยื้นต้นขนาดเล็ก เป็นไมเ้นื้อแข็ง ลา ต้นและกิ่งมีหนามยาวเล็กน้อยใบเป็นใบประกอบชนิดลดรูป มีใบยอ่ย 1 ใบเรียงสลับรูปไข่ คือมีลักษณะคล้ายกับใบไม้2 ใบตอ่กนัอยูค่อดกิ่วที่กลางใบเป็นตอน ๆ มีกา้นแผอ่อกใหญเ่ทา่กบัแผน่ใบ ทา ให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กวา้ง 2.5 - 4 เซนติเมตร ยาว 4 - 7 เซนติเมตร ใบสีเขียวแกพื่้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมนั คอ่นข้างหนา มีกลิ่นหอมมากเพราะมีตอ่มน้ามนัอยู่ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีออ่น ดอกออกเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง ร่วงง่าย มีกลิ่นหอม มีผลสีเขียวเข้มคล้ายมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ขั้วหัวท้ายของผลเป็นจุก ผลออ่นมีเป็นสีเขียวแก่ เมอื่ผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พันธุ์ที่มีผลเล็ก ผิวจะขรุขระน้อยกวา่และไมมี่จุกที่ขั้ว ภายในมีเมล็ดจา นวนมาก ชื่อสามญั : Porcupine Orange, Kiffir Lime, Leech Lime ชื่อวิทยำศำสตร์ : Citrus hystrix DC. ชื่อท้องถิ่น : มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ) มะหูด (หนองคาย) ส้มกรูด ส้มมวั่ผี (ภาคใต้) โกรยเซียด (เขมร) มะขู (กะเหรี่ยง – แมฮ่อ่งสอน)
  • 4. 4 ลักษณะ มะกรูดเป็นพืชที่ใช้เป็นเครื่องเทศมานานแล้ว โดยใช้ผิวของผลเป็นส่วนผสมในเครื่องแกงหลายชนิด ใช้เข้าเครื่องหอมโดยเป็นส่วนผสมในเทียนอบ ใบมะกรูดมีกลิ่นหอมใช้แตง่กลิ่นในอาหารคาวหลายชนิด เชน่ ต้มยา แกงเผ็ด น้ามะกรูดใช้ปรุงอาหารเพื่อให้มีรสเปรี้ยวและดับกลิ่นคาวปลา คนโบราณนิยมสระผมด้วยน้ามะกรูด เพราะชว่ยให้ผมดำเป็นมัน ไม่แห้งกรอบ คนไทยนิยมปลูกมะกรูดไว้ตามบ้านและในสวน มะกรูดเป็นไมพุ้ม่ยืนต้นขนาดเล็ก ใบมีกลิ่นหอม ผลคอ่นข้างกลม ผิวขรุขระมีปุ่มนูน และมีจุกที่หัวของผล ส่วนที่ใช้ คือ ผล ผิวของผล น้าของผล ใบ และราก สำระสำคัญ ในใบและผลมะกรูด เมื่อนามากลั่นด้วยไอน้าจะให้น้ามนัหอมระเหย ในปริมาณ 0.08 % และ 4 % ตามลา ดับ น้ามนัหอมระเหยจากผิวมะกรูดมกัประกอบด้วยเบต้า – ไพนีน , ไลโมนีนและซาบินีน เป็นสารหลัก ส่วนน้ามนัหอมระเหยจากใบจะประกอบด้วย ซีโทรเนลลาล , ไอโซพูลิโกล และไลนาลูออล เป็นสารหลัก ส่วนในน้ามะกรูดมีกรดซิตริก ไวตามินซี และกรดอินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ คุณสมบัติ 1. ใช้เป็นยาหรือส่วนผสมของยาตา่ง ๆ คือ น้าในผลแกอ้าการท้องอืด ชว่ยให้เจริญอาหาร น้ามะกรูดใช้ดองยา เพื่อใช้ฟอกเลือด และบา รุงโลหิตสตรี เนื้อของผลใช้เป็นยาแกอ้าการปวดศีรษะ ใบมะกรูดใช้เป็นยาขับลมในลา ไส้ แกจุ้กเสียด ผลมะกรูดที่ควา้นไส้ออกนามหาหิงส์ใส่แทนใช้เป็นยาขับลมแก้ปวดท้องในเด็กออ่น 2. ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสาอางตา่ง ๆ 3. กรด Citric ชว่ยขจัดคราบสบู่(ดา่ง) ที่หลงเหลืออยู่ ทา ให้ผมหวีง่าย น้ามนัจากผิวมะกรูดชว่ยให้ผมดกเป็นเงางาม 4. ใช้ปรุงแตง่กลิ่น รสอาหาร ดับกลิ่นคาวของอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงตา่ง ๆ
  • 5. 5 ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ มะกรูดเป็นไมยื้นต้นขนาดเล็ก ต้นสูง 2 – 8 เมตร ประกอบไปด้วย 1. ใบ มีใบยอ่ยเพียงใบเดียว ใบคอ่นข้างหนา มีสีเขียวแก่ มีกลิ่นหอม 2. ดอกมีสีขาว ออกเดี่ยว ๆ อยูเ่ป็นกระจุก 3 - 5 ดอก กลีบดอกร่วงง่าย 3. ผล เป็นผลเดี่ยวคอ่นข้างกลม บางพันธุ์มีผิวขรุขระ มีจุกที่หัวผล สรรพคุณทำงยำ ขับลมแกจุ้กเสียด วิธีใช้ 1. ตัดจุกผลมะกรูด ควา้นไส้กลางออก เอามหาหิงส์ใส่แล้วปิดจุก นาไปเผาไฟจนดา เกรียม บดเป็นผงละลายกบัน้าผึ้งรับประทาน จะชว่ยขับลม แกป้วดท้องหรือป้ายลิ้นเด็กอ่อน เป็นยาขับขี้เทาได้ 2. น้ามะกรูดใช้ถูฟัน แกเ้ลือดออกตามไรฟัน 3. เอาผลมะกรูดมาดอง เป็นยาดองเปรี้ยวรับประทานขับลมขับระดู 4. เปลือกผลฝานบาง ๆ ชงน้าเดือด ใส่การะบูรเล็กน้อย รับประทานแกล้มวิงเวียน 5. เปลือกฝนใช้ผสมในเครื่องสาอางบางชนิด เชน่ แชมพู สบู่ ขนำดกำรใช้และผลทไี่ด้รับจำกกำรรักษำโรค 1. แกล้ม บา รุงหัวใจ ใช้ผิวสดหั่นเป็นชิ้น ผสมการะบูรหนึ่งหยิบมือ ชงน้าเดือด คนให้ละลาย ปิดฝาทิ้งไว้ 3 – 5 นาที ดื่มเอาแตน่้า ชว่ยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดี 2. ยาขับเสมหะ แกไ้อ ใช้ผลมะกรูดผา่ซีกเติมเกลือ ลนไฟให้เปลือกนิ่ม บีบน้ามะกรูดลงในคอทีละน้อย ๆ 3. เป็นยาสระผม หรืออาบ นามะกรูดผา่ซีกลงในหมอ้ ต้มอาบได้น้ามนัหอมระเหยอยู่บนผิว ทา ให้ผิวไมแ่ห้ง และรสเปรี้ยวของมะกรูดชว่ยให้อาบสะอาด นอกจากนี้ใช้มะกรูดผา่ซีกเอาน้ามาสระผม
  • 6. 6 วิธีกำรปลูก ควรปลูกด้วยกิ่งตอน กอ่นจะปลูกควรนาปุ๋ยคอกมาใส่ผสมกบัดิน เพื่อให้ดินมีอาหารอุดมสมบูรณ์ดี หลุมที่ปลูกมีขนาดกวา้ง x ยาว x ลึก ประมาณ 80 เซนติเมตรกอ่นที่จะวางพืชลงปลูกในหลุมควรหาใบไมใ้บหญ้าแห้งที่เน่าเปื่อยผุพังใส่รองกน้หลุมระยะปลูก ประมาณ 5 x 5 เมตร กำรปฏิบัติดูแลรักษำ 1. การให้น้าในระยะที่ปลูกมะกรูดใหม่ๆ ต้องหมนั่รดน้าให้ความชุม่ชื้นแกพื่ช จะทา ให้พืชตั้งตัวได้เร็ว แตกใบออ่นกิ่งออ่นดี 2. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มธาตุอาหารให้พืชเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และปุ๋ยชีวภาพก็ได้ ปกติจะรับประทานใบมะกรูดเป็นอาหารจึงมักใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เชน่ 20 – 14 - 14 หรือใส่ปุ๋ยพื้น เชน่ 15 – 15 - 15 3. การป้องกนักา จัดศัตรูพืช จะมีหนอนของผีเสื้อกลางคืนกดักินใบมะกรูดและยอดออ่น จึงควรตรวจตราจับหนอนดังกลา่วในเวลาเช้าแล้วทาลายทิ้งเสีย กำรนำมำใช้ การใช้มะกรูดสระผมน่าจะรู้จักกนัมาตั้งแต่สมยัโบราณ วิธีการสระ บ้างก็ใช้ผลดิบผา่แล้วบีบน้าสระโดยตรง บ้างก็นาไปเผา หรือต้มกอ่นสระ มะกรูดยังมีใช้ในพระราชพิธีสาคัญ เชน่ พระราชพิธีโสกนัต์ ซึ่งระบุไวใ้นพระราชพิธีสิบสองเดือน ไวว้า่จะต้องมีผลมะกรูดและใบส้มป่อย ประกอบในพิธีด้วย เข้าใจวา่น่าจะใช้เพื่อการสระผมนั่นเอง และก็สามารถนาไปล้างพื้นได้ด้วย ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเชน่กนั น้ามะกรูดมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุนคล้ายใบ แตไ่มค่อ่ยจะได้ประโยชน์กนัมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหาได้ยากกวา่ และได้น้าน้อยกวา่
  • 7. 7 เพราะมะกรูดมีส่วนเปลือกที่หนา ขณะที่มะนาวหาได้ง่ายกวา่ น้ามากกวา่ และรสชาติที่ถูกปากมากกวา่ อยา่งไรก็ตาม มีอาหารบางชนิดที่นิยมใช้น้ามะกรูดเชน่กนั นอกจากนั้น ในมะกรูดมีน้ามนัหอมระเหยอยู่มาก มีกลิ่นฉุน ทั้งในใบและผล บางครั้งสามารถนาไปใช้ไลแ่มลงบางชนิด 1. งำนวิจัยทเี่กี่ยวข้อง -กรณีศึกษาน้ายาล้างจานและสบูเ่หลว - ระบบคลังข้อมูลงานวิจัยไทย -ผลิตภัณฑ์ล้างจานผสมมะกรูด - กรมวิทยาศาสตร์บริการ -ตัวอยา่งโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง -งานวิจัยตลาดครับผม เกยี่วกบัน้ายาล้างจาน -โครงานน้ายาล้างจาน 2. วิธีดำเนินกำรโครงงำน 1. ประชุมวางแผนงานวา่จะทา เรื่องอะไร 2. แบง่หน้าที่แตล่ะคนวา่ใครทา หน้าที่อะไรบ้างแล้วแยกย้ายกนัไปทา ตามที่เราได้รับมอบหมาย 3. นางานที่แตล่ะคนหาได้มารวมกนัแล้วเรียบเรียงให้สวยงาม 4. จัดทา เป็นโครงงานขึ้น
  • 8. 8 บทที่ 3 วิธีกำรดำเนินงำน 1. ข้อมูลทใี่ช้ในโครงงำน น้ำยำล้ำงจำน คือสารชา ระล้าง (detergent) ที่ใช้ชว่ยในการล้างจาน มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ที่มีการระคายเคืองต่า ประโยชน์หลักของน้ายาล้างจานคือใช้ล้างภาชนะและเครื่องครัวด้วยมือหลังจากประกอบหรือรับประทานอ าหารแล้ว น้ายาล้างจานทา ให้สิ่งสกปรกและไขมนัหลุดจากภาชนะและรวมตัวเป็นอีมลัชัน (emulsion) อยูใ่นน้าหรือฟอง (foam) เนื่องจากโมเลกุลของน้ายาล้างจานประกอบด้วยส่วนที่มีขั้วและไมมี่ขั้วเชน่เดียวกับผงซักฟอก ส่วนที่มีขั้วจะ จับกบัโมเลกุลของน้า และส่วนที่ไมมี่ขั้วจะจับกับสิ่งสกปรกให้หลุดออก ในสมยักอ่นมีชื่อเรียกอื่นๆ เชน่ สบู่ล้างจาน หรือ ครีมล้างจานเนื่องจากเคยผลิตในรูปของสบูแ่ละครีมมากอ่น ปัจจุบันน้ายาล้างจานมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วย เชน่ น้ามะนาวหรือชา ซึ่งเชื่อวา่เป็นการชว่ยให้ภาชนะสะอาดมากขึ้นและถนอมมือมากกวา่เดิม 2. ขั้นตอนกำรทำ โครงงำน อุปกรณ์ 1. ถังสาหรับผสมวตัถุดิบ 2 ถัง 2. ไมพ้าย 1 อัน 3. ผงข้น 250 กรัม
  • 9. 9 4. ผงฟอง 100 กรัม 5. น้าหอม 10 กรัม 6. น้าต้มมะกรูด 5 กิโลกรัม 7. หัวแชมพู ( N 70) 500 กรัม 8. น้า 5 กิโลกรัม 9. สารขจัดคราบไขมนั (F 24) 500 กรัม วิธีทำ ส่วนที่ 1 1. นาผงข้น 250 กรัม และ หัวแชมพู (N 70) 500 กรัม เทผสมลงไปในถังใบที่ 1 จากนั้นคนให้เข้ากนั ส่วนที่ 2 2. นาผงฟอง 100 กรัม และน้าต้มมะกรูด 5 กิโลกรัม เทผสมใส่ในถังใบที่ 2 จากนั้นคนให้เข้ากนั 3. เติมน้า 5 กิโลกรัม โดยเพิ่มเรื่อยๆ ในระหวา่งการคน ส่วนที่ 3 1. นาส่วนที่ 1 ผสมเข้ากบั ส่วนที่ 2 แล้วคนให้เข้ากนั 2. เติมสารขจัดคราบไขมนั (F 24) 500 กรัม และน้าหอม 10 กรัม ลงผสม จากนั้นคนให้เข้ากนั 3. เมื่อผสมจนเป็นเนื้อเดียวกนัแล้ว นาน้ายาล้างจานที่ได้เทใส่ขวดบรรจุภัณฑ์ แล้วทิ้งไวจ้นน้าเริ่มใสและฟองเริ่มหมด 4. นาน้ายาล้างจานจากมะกรูดที่ได้ มาใช้ล้างจานได้ทันที
  • 10. 10 บทที่ 4 ผลโครงงำนและอภิปรำยผล เมื่อน้าเอาน้ายาล้างจานจากมะกรูด ที่เราได้ทดลองผลิตขึ้นนั้น ไปล้างจานชามที่เราใช้บรรจุอาหารแล้ว ผลปรากฏวา่ จานชามที่มีสิ่งสกปรกติดอยูส่ะอาดขึ้น ไมมี่คราบมนั และไมมี่กลิ่นคาว ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจอยา่งมาก บทที่ 5 สรุปผลโครงงำน จากการที่เราได้ศึกษา และ ได้ผลิตน้ายาล้างจานจากมะกรูดออกมาใช้นั้น มีประสิทธิภาพในการชา ระสิ่งสกปรก ซึ่งน้ายาล้างจานของเรามีส่วนผสมของน้าดา่งซึ่งมีฤทธ์ิเป็นเบส ชว่ยในการชา ระล้างสิ่งสกปรก ส่วนมะกรูดนั้นมีฤทธ์ิเป็นกรดซึ่งทา ปฏิกิริยากับไขมนั จึงชว่ยขจัดความมนัและกลิ่นคาว เกลือชว่ยขจัดสิ่งสกปรก ส่วนหัวเชื้อ N70 ชว่ยให้น้ายาล้างจานของเรามีฟองน่าใช้ ดังนั้นน้ายางล้างจานที่เราผลิตขึ้นนี้จึงเป็นผลิตภัณฑ์ทา ความสะอาดทางเลือกใหมที่่ดีอีกทางหนึ่ง
  • 11. 11 บรรณำนุกรม มะกรูด.ค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://th.wikipedia.org/wiki/มะกรูด. สรรพคุณของมะกรูด . ค้นข้อมูลเมอื่วนัที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://frynn.com. มะกรูด(ผิวผล) . ค้นข้อมูลเมอื่วนัที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=99.
  • 13. 13 ผงฟอง สารขจัดคราบไขมัน หัวแชมพู น้าหอม วิธีทำ
  • 14. 14
  • 15. 15