Anphilak
- 1. 1
บทที่ 1 บทนำ
1. ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของโครงงำน
จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เราได้ประสบปัญหากนันั้น หลายทา่นคงทราบวา่
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ดิ่งตัวลงอยา่งน่าตกใจนั้นได้ส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคในตล
าดได้ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ทา ให้เหลา่พอ่ค้าและประชาชนต้องประสบปัญหาสินค้าแพง
และสินค้าขายไมไ่ด้ แถมยังต้องประสบกบัปัญหาสินค้าขาดตลาดซึ่งก็คือ น้ามนัปาล์มอีกด้วย
ทา ให้ราคาสินค้ายิ่งขยับตัวแพงขึ้นไปอีก
ซึ่งทา่นพอ่บ้านแมบ่้านอาจจะกา ลังกลุ้มใจกับรายจา่ยภายในครัวเรือนที่ต้องมีรายจา่ยเพิ่มขึ้น
แตร่ายรับยังมีเทา่เดิม ดังนั้นพวกเราจึงได้ปรึกษาและหาทางออกเพื่อชว่ยทา่นพอ่บ้านและแมบ่้านทั้งหลาย
ให้มีรายจา่ยภายในครัวเรือนลดน้อยลงบ้าง ซึ่งต้องเริ่มจากสิ่งที่เราใช้ทุกวนั และสิ้นเปลืองอยา่งมาก เชน่
น้ายาล้างจาน ที่ได้ขยับราคาขึ้นสูงอีกเหมือนกนัเราจึงได้คิดค้นวิธีศึกษา
และวิธีทา น้ายาล้างจานใช้เองซึ่งจะทา ให้ได้ลดรายจา่ยภายในครัวเรือนได้อีกนิดนึงก็ยังดี
น้ายาล้างจานที่เราได้ศึกษาและนามาเสนอนี้
ล้วนมีวตัถุดิบที่มาจากธรรมชาติหาได้ภายในครัวเรือนและท้องถิ่น ไมอั่นตราย แถมยังไมต่้องซื้อหา
ทา ให้ประหยัดเงินไปได้อีกมากมาย วิธีการทา น้ายาล้างจานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแคท่า่นพอ่บ้านแมบ่้าน
หรือผู้ที่สนใจจะศึกษา และน้าไปทา ก็สามารถทา ได้ด้วยตัวเอง
แถมเมื่อเรามีความรู้ความสามารถทา ได้สาเร็จแล้วนั้นเราอาจจะแบง่ปันความรู้ให้กบัผู้ที่สนใจแตไ่มค่อ่ยมีเว
ลาศึกษาเอกสารเองก็ได้ หรืออาจจะตอ่ยอดความรู้ให้เป็นธุรกิจเสริม หรือ
ธุรกิจหลักทา รายได้ให้ครอบครัวและชุมชนของตัวเองก็ได้
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อศึกษาวิธีการทา น้ายาล้างจาน
2.2 เพื่อศึกษาวา่น้ายาล้างจานจากน้ามะกรูดจะล้างสิ่งสกปรก และคราบมนั กลิ่นคาวได้หรือไม่
3. ขอบเขตของโครงงำน
ศึกษาน้ายาล้างจานจากธรรมชาติ คือ น้ายาล้างจานจากมะกรูด
4. สถำนทศีึ่กษำโครงงำน
- 2. 2
บ้านเลขที่ 353 หมู่9 ตา บลหนองไผ่อา เภอชุมแพ จังหวดัขอนแกน่
5. ประโยชน์ทคี่ำดว่ำจะได้รับ
5.1 ได้น้ายาล้างจานที่มีคุณภาพและใช้ได้จริง
5.2 สามานาสิ่งที่มีอยูต่ามธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้
5.3 เพื่อประหยัดคา่ใช้จา่ย
5.4 เพื่อใช้เวลาวา่งให้เกิดประโยชน์
6. สมมุติฐำนโครงงำน
น้ายาเอนกประสงค์จากส่วนผสมของสมุนไพรใช้ได้ดี มีคุณภาพและราคาถูก
- 3. 3
บทที่ 2 ทฤษฏีและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1. ทฤษฎีทเี่กี่ยวข้อง
มะกรูด เป็นพืชในสกุลส้ม (Citrus) เป็นไมยื้นต้นขนาดเล็ก เป็นไมเ้นื้อแข็ง
ลา ต้นและกิ่งมีหนามยาวเล็กน้อยใบเป็นใบประกอบชนิดลดรูป มีใบยอ่ย 1 ใบเรียงสลับรูปไข่
คือมีลักษณะคล้ายกับใบไม้2 ใบตอ่กนัอยูค่อดกิ่วที่กลางใบเป็นตอน ๆ
มีกา้นแผอ่อกใหญเ่ทา่กบัแผน่ใบ ทา ให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กวา้ง 2.5 - 4 เซนติเมตร ยาว 4 - 7
เซนติเมตร ใบสีเขียวแกพื่้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมนั คอ่นข้างหนา
มีกลิ่นหอมมากเพราะมีตอ่มน้ามนัอยู่ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีออ่น ดอกออกเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก
กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง ร่วงง่าย มีกลิ่นหอม
มีผลสีเขียวเข้มคล้ายมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ขั้วหัวท้ายของผลเป็นจุก ผลออ่นมีเป็นสีเขียวแก่
เมอื่ผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พันธุ์ที่มีผลเล็ก ผิวจะขรุขระน้อยกวา่และไมมี่จุกที่ขั้ว
ภายในมีเมล็ดจา นวนมาก
ชื่อสามญั : Porcupine Orange, Kiffir Lime, Leech Lime
ชื่อวิทยำศำสตร์ : Citrus hystrix DC.
ชื่อท้องถิ่น : มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ) มะหูด (หนองคาย) ส้มกรูด ส้มมวั่ผี (ภาคใต้) โกรยเซียด
(เขมร) มะขู (กะเหรี่ยง – แมฮ่อ่งสอน)
- 4. 4
ลักษณะ
มะกรูดเป็นพืชที่ใช้เป็นเครื่องเทศมานานแล้ว
โดยใช้ผิวของผลเป็นส่วนผสมในเครื่องแกงหลายชนิด ใช้เข้าเครื่องหอมโดยเป็นส่วนผสมในเทียนอบ
ใบมะกรูดมีกลิ่นหอมใช้แตง่กลิ่นในอาหารคาวหลายชนิด เชน่ ต้มยา แกงเผ็ด
น้ามะกรูดใช้ปรุงอาหารเพื่อให้มีรสเปรี้ยวและดับกลิ่นคาวปลา คนโบราณนิยมสระผมด้วยน้ามะกรูด
เพราะชว่ยให้ผมดำเป็นมัน ไม่แห้งกรอบ คนไทยนิยมปลูกมะกรูดไว้ตามบ้านและในสวน
มะกรูดเป็นไมพุ้ม่ยืนต้นขนาดเล็ก ใบมีกลิ่นหอม ผลคอ่นข้างกลม ผิวขรุขระมีปุ่มนูน
และมีจุกที่หัวของผล ส่วนที่ใช้ คือ ผล ผิวของผล น้าของผล ใบ และราก
สำระสำคัญ
ในใบและผลมะกรูด เมื่อนามากลั่นด้วยไอน้าจะให้น้ามนัหอมระเหย ในปริมาณ 0.08 % และ 4 %
ตามลา ดับ น้ามนัหอมระเหยจากผิวมะกรูดมกัประกอบด้วยเบต้า – ไพนีน , ไลโมนีนและซาบินีน
เป็นสารหลัก ส่วนน้ามนัหอมระเหยจากใบจะประกอบด้วย ซีโทรเนลลาล , ไอโซพูลิโกล และไลนาลูออล
เป็นสารหลัก ส่วนในน้ามะกรูดมีกรดซิตริก ไวตามินซี และกรดอินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ
คุณสมบัติ
1. ใช้เป็นยาหรือส่วนผสมของยาตา่ง ๆ คือ น้าในผลแกอ้าการท้องอืด ชว่ยให้เจริญอาหาร
น้ามะกรูดใช้ดองยา เพื่อใช้ฟอกเลือด และบา รุงโลหิตสตรี เนื้อของผลใช้เป็นยาแกอ้าการปวดศีรษะ
ใบมะกรูดใช้เป็นยาขับลมในลา ไส้ แกจุ้กเสียด
ผลมะกรูดที่ควา้นไส้ออกนามหาหิงส์ใส่แทนใช้เป็นยาขับลมแก้ปวดท้องในเด็กออ่น
2. ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสาอางตา่ง ๆ
3. กรด Citric ชว่ยขจัดคราบสบู่(ดา่ง) ที่หลงเหลืออยู่ ทา ให้ผมหวีง่าย
น้ามนัจากผิวมะกรูดชว่ยให้ผมดกเป็นเงางาม
4. ใช้ปรุงแตง่กลิ่น รสอาหาร ดับกลิ่นคาวของอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงตา่ง ๆ
- 5. 5
ลักษณะทำงพฤกษศำสตร์
มะกรูดเป็นไมยื้นต้นขนาดเล็ก ต้นสูง 2 – 8 เมตร ประกอบไปด้วย
1. ใบ มีใบยอ่ยเพียงใบเดียว ใบคอ่นข้างหนา มีสีเขียวแก่ มีกลิ่นหอม
2. ดอกมีสีขาว ออกเดี่ยว ๆ อยูเ่ป็นกระจุก 3 - 5 ดอก กลีบดอกร่วงง่าย
3. ผล เป็นผลเดี่ยวคอ่นข้างกลม บางพันธุ์มีผิวขรุขระ มีจุกที่หัวผล
สรรพคุณทำงยำ
ขับลมแกจุ้กเสียด
วิธีใช้
1. ตัดจุกผลมะกรูด ควา้นไส้กลางออก เอามหาหิงส์ใส่แล้วปิดจุก นาไปเผาไฟจนดา เกรียม
บดเป็นผงละลายกบัน้าผึ้งรับประทาน จะชว่ยขับลม แกป้วดท้องหรือป้ายลิ้นเด็กอ่อน เป็นยาขับขี้เทาได้
2. น้ามะกรูดใช้ถูฟัน แกเ้ลือดออกตามไรฟัน
3. เอาผลมะกรูดมาดอง เป็นยาดองเปรี้ยวรับประทานขับลมขับระดู
4. เปลือกผลฝานบาง ๆ ชงน้าเดือด ใส่การะบูรเล็กน้อย รับประทานแกล้มวิงเวียน
5. เปลือกฝนใช้ผสมในเครื่องสาอางบางชนิด เชน่ แชมพู สบู่
ขนำดกำรใช้และผลทไี่ด้รับจำกกำรรักษำโรค
1. แกล้ม บา รุงหัวใจ ใช้ผิวสดหั่นเป็นชิ้น ผสมการะบูรหนึ่งหยิบมือ ชงน้าเดือด คนให้ละลาย
ปิดฝาทิ้งไว้ 3 – 5 นาที ดื่มเอาแตน่้า ชว่ยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดี
2. ยาขับเสมหะ แกไ้อ ใช้ผลมะกรูดผา่ซีกเติมเกลือ ลนไฟให้เปลือกนิ่ม บีบน้ามะกรูดลงในคอทีละน้อย ๆ
3. เป็นยาสระผม หรืออาบ นามะกรูดผา่ซีกลงในหมอ้ ต้มอาบได้น้ามนัหอมระเหยอยู่บนผิว
ทา ให้ผิวไมแ่ห้ง และรสเปรี้ยวของมะกรูดชว่ยให้อาบสะอาด นอกจากนี้ใช้มะกรูดผา่ซีกเอาน้ามาสระผม
- 6. 6
วิธีกำรปลูก
ควรปลูกด้วยกิ่งตอน กอ่นจะปลูกควรนาปุ๋ยคอกมาใส่ผสมกบัดิน
เพื่อให้ดินมีอาหารอุดมสมบูรณ์ดี หลุมที่ปลูกมีขนาดกวา้ง x ยาว x ลึก ประมาณ 80
เซนติเมตรกอ่นที่จะวางพืชลงปลูกในหลุมควรหาใบไมใ้บหญ้าแห้งที่เน่าเปื่อยผุพังใส่รองกน้หลุมระยะปลูก
ประมาณ 5 x 5 เมตร
กำรปฏิบัติดูแลรักษำ
1. การให้น้าในระยะที่ปลูกมะกรูดใหม่ๆ ต้องหมนั่รดน้าให้ความชุม่ชื้นแกพื่ช จะทา ให้พืชตั้งตัวได้เร็ว
แตกใบออ่นกิ่งออ่นดี
2. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มธาตุอาหารให้พืชเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์
และปุ๋ยชีวภาพก็ได้ ปกติจะรับประทานใบมะกรูดเป็นอาหารจึงมักใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เชน่ 20 – 14 -
14 หรือใส่ปุ๋ยพื้น เชน่ 15 – 15 - 15
3. การป้องกนักา จัดศัตรูพืช จะมีหนอนของผีเสื้อกลางคืนกดักินใบมะกรูดและยอดออ่น
จึงควรตรวจตราจับหนอนดังกลา่วในเวลาเช้าแล้วทาลายทิ้งเสีย
กำรนำมำใช้
การใช้มะกรูดสระผมน่าจะรู้จักกนัมาตั้งแต่สมยัโบราณ วิธีการสระ
บ้างก็ใช้ผลดิบผา่แล้วบีบน้าสระโดยตรง บ้างก็นาไปเผา หรือต้มกอ่นสระ
มะกรูดยังมีใช้ในพระราชพิธีสาคัญ เชน่ พระราชพิธีโสกนัต์
ซึ่งระบุไวใ้นพระราชพิธีสิบสองเดือน ไวว้า่จะต้องมีผลมะกรูดและใบส้มป่อย ประกอบในพิธีด้วย
เข้าใจวา่น่าจะใช้เพื่อการสระผมนั่นเอง และก็สามารถนาไปล้างพื้นได้ด้วย
ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเชน่กนั น้ามะกรูดมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุนคล้ายใบ
แตไ่มค่อ่ยจะได้ประโยชน์กนัมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหาได้ยากกวา่ และได้น้าน้อยกวา่
- 7. 7
เพราะมะกรูดมีส่วนเปลือกที่หนา ขณะที่มะนาวหาได้ง่ายกวา่ น้ามากกวา่ และรสชาติที่ถูกปากมากกวา่
อยา่งไรก็ตาม มีอาหารบางชนิดที่นิยมใช้น้ามะกรูดเชน่กนั นอกจากนั้น
ในมะกรูดมีน้ามนัหอมระเหยอยู่มาก มีกลิ่นฉุน ทั้งในใบและผล
บางครั้งสามารถนาไปใช้ไลแ่มลงบางชนิด
1. งำนวิจัยทเี่กี่ยวข้อง
-กรณีศึกษาน้ายาล้างจานและสบูเ่หลว - ระบบคลังข้อมูลงานวิจัยไทย
-ผลิตภัณฑ์ล้างจานผสมมะกรูด - กรมวิทยาศาสตร์บริการ
-ตัวอยา่งโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง
-งานวิจัยตลาดครับผม เกยี่วกบัน้ายาล้างจาน
-โครงานน้ายาล้างจาน
2. วิธีดำเนินกำรโครงงำน
1. ประชุมวางแผนงานวา่จะทา เรื่องอะไร
2. แบง่หน้าที่แตล่ะคนวา่ใครทา หน้าที่อะไรบ้างแล้วแยกย้ายกนัไปทา ตามที่เราได้รับมอบหมาย
3. นางานที่แตล่ะคนหาได้มารวมกนัแล้วเรียบเรียงให้สวยงาม
4. จัดทา เป็นโครงงานขึ้น
- 8. 8
บทที่ 3 วิธีกำรดำเนินงำน
1. ข้อมูลทใี่ช้ในโครงงำน
น้ำยำล้ำงจำน คือสารชา ระล้าง (detergent)
ที่ใช้ชว่ยในการล้างจาน มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ที่มีการระคายเคืองต่า
ประโยชน์หลักของน้ายาล้างจานคือใช้ล้างภาชนะและเครื่องครัวด้วยมือหลังจากประกอบหรือรับประทานอ
าหารแล้ว น้ายาล้างจานทา ให้สิ่งสกปรกและไขมนัหลุดจากภาชนะและรวมตัวเป็นอีมลัชัน (emulsion)
อยูใ่นน้าหรือฟอง (foam)
เนื่องจากโมเลกุลของน้ายาล้างจานประกอบด้วยส่วนที่มีขั้วและไมมี่ขั้วเชน่เดียวกับผงซักฟอก ส่วนที่มีขั้วจะ
จับกบัโมเลกุลของน้า และส่วนที่ไมมี่ขั้วจะจับกับสิ่งสกปรกให้หลุดออก ในสมยักอ่นมีชื่อเรียกอื่นๆ
เชน่ สบู่ล้างจาน หรือ ครีมล้างจานเนื่องจากเคยผลิตในรูปของสบูแ่ละครีมมากอ่น
ปัจจุบันน้ายาล้างจานมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วย
เชน่ น้ามะนาวหรือชา ซึ่งเชื่อวา่เป็นการชว่ยให้ภาชนะสะอาดมากขึ้นและถนอมมือมากกวา่เดิม
2. ขั้นตอนกำรทำ โครงงำน
อุปกรณ์
1. ถังสาหรับผสมวตัถุดิบ 2 ถัง
2. ไมพ้าย 1 อัน
3. ผงข้น 250 กรัม
- 9. 9
4. ผงฟอง 100 กรัม
5. น้าหอม 10 กรัม
6. น้าต้มมะกรูด 5 กิโลกรัม
7. หัวแชมพู ( N 70) 500 กรัม
8. น้า 5 กิโลกรัม
9. สารขจัดคราบไขมนั (F 24) 500 กรัม
วิธีทำ
ส่วนที่ 1
1. นาผงข้น 250 กรัม และ หัวแชมพู (N 70) 500 กรัม เทผสมลงไปในถังใบที่ 1
จากนั้นคนให้เข้ากนั
ส่วนที่ 2
2. นาผงฟอง 100 กรัม และน้าต้มมะกรูด 5 กิโลกรัม เทผสมใส่ในถังใบที่ 2
จากนั้นคนให้เข้ากนั
3. เติมน้า 5 กิโลกรัม โดยเพิ่มเรื่อยๆ ในระหวา่งการคน
ส่วนที่ 3
1. นาส่วนที่ 1 ผสมเข้ากบั ส่วนที่ 2 แล้วคนให้เข้ากนั
2. เติมสารขจัดคราบไขมนั (F 24) 500 กรัม และน้าหอม 10 กรัม ลงผสม
จากนั้นคนให้เข้ากนั
3. เมื่อผสมจนเป็นเนื้อเดียวกนัแล้ว นาน้ายาล้างจานที่ได้เทใส่ขวดบรรจุภัณฑ์
แล้วทิ้งไวจ้นน้าเริ่มใสและฟองเริ่มหมด
4. นาน้ายาล้างจานจากมะกรูดที่ได้ มาใช้ล้างจานได้ทันที
- 10. 10
บทที่ 4 ผลโครงงำนและอภิปรำยผล
เมื่อน้าเอาน้ายาล้างจานจากมะกรูด ที่เราได้ทดลองผลิตขึ้นนั้น
ไปล้างจานชามที่เราใช้บรรจุอาหารแล้ว ผลปรากฏวา่ จานชามที่มีสิ่งสกปรกติดอยูส่ะอาดขึ้น ไมมี่คราบมนั
และไมมี่กลิ่นคาว ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจอยา่งมาก
บทที่ 5 สรุปผลโครงงำน
จากการที่เราได้ศึกษา และ ได้ผลิตน้ายาล้างจานจากมะกรูดออกมาใช้นั้น
มีประสิทธิภาพในการชา ระสิ่งสกปรก ซึ่งน้ายาล้างจานของเรามีส่วนผสมของน้าดา่งซึ่งมีฤทธ์ิเป็นเบส
ชว่ยในการชา ระล้างสิ่งสกปรก ส่วนมะกรูดนั้นมีฤทธ์ิเป็นกรดซึ่งทา ปฏิกิริยากับไขมนั
จึงชว่ยขจัดความมนัและกลิ่นคาว เกลือชว่ยขจัดสิ่งสกปรก
ส่วนหัวเชื้อ N70 ชว่ยให้น้ายาล้างจานของเรามีฟองน่าใช้
ดังนั้นน้ายางล้างจานที่เราผลิตขึ้นนี้จึงเป็นผลิตภัณฑ์ทา ความสะอาดทางเลือกใหมที่่ดีอีกทางหนึ่ง
- 11. 11
บรรณำนุกรม
มะกรูด.ค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://th.wikipedia.org/wiki/มะกรูด.
สรรพคุณของมะกรูด . ค้นข้อมูลเมอื่วนัที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก : http://frynn.com.
มะกรูด(ผิวผล) . ค้นข้อมูลเมอื่วนัที่ 29 มิถุนายน 2557 จาก :
http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=99.