SlideShare a Scribd company logo
1 of 154
จัดทำำโดย......
    นำงกนิตนันท์         บุญ
   มำวงค์
      กลุ่ม สำระกำรเรีย นรู้
    วิท ยำศำสตร์
     โรงเรีย นมวกเหล็ก
             วิท ยำ
ผลกำรเรีย นรู้ท ี่
               คำดหวัง
มำตรฐำน ว 1.1.3.6 สืบ ค้น ข้อ มูล ทดสอบ
และอธิบ ำยเกี่ย วกับ สำรอำหำรบำงประเภท
ในอำหำร ควำมสำำ คัญ ของอำหำรที่ม ต ่อ
                                   ี
ร่ำ งกำยตลอดจนสำมำรถเลือ กรับ ประทำน
อำหำร ที่ม ส ำรอำหำรครบถ้ว นได้ส ด ส่ว น
           ี                     ั
เหมำะสมกับ เพศและวัย
จุด ประสงค์ก ำรเรีย นรู้

บอกควำมหมำยของอำหำรและสำรอำหำรได้

     2. บอกควำมสัม พัน ธ์ข องปริม ำณ
     พลัง งำนที่ร ่ำ งกำยต้อ งกำร กับ ประเภท
     ของงำนที่ท ำำ ได้
     3.สรุป ได้ว ่ำ โปรตีน เป็น สำรอำหำรชนิด
     หนึง ที่จ ำำ เป็น ต่อ กำรสร้ำ งพลัง งำน
        ่
       ตลอดจนสำมำรถคำำ นวณหำพลัง งำน
     และปริม ำณโปรตีน ที่ร ่ำ งกำยต้อ ง
       กำรใน 1วัน ได้
อำหำรกับ
กำรดำำ รง
  ชีว ิต
อำหำร
   หมำยถึง สิ่ง ต่ำ ง ๆ ที่ร บ
                             ั
ประทำนเข้ำ สู่ร ำ งกำยแล้ว
                  ่
ไม่เ ป็น พิษ และมีป ระโยชน์
ต่อ ร่ำ งกำย ทำำ ให้เ กิด
พลัง งำนที่ช ่ว ยในกำร
ดำำ เนิน กิจ กรรมต่ำ งๆ ใน
ชีว ิต ประจำำ วัน และให้ค วำม
อำหำรแต่ล ะชนิด จะมี
ส่ว นประกอบที่เ ป็น สำรเคมี
อยู่ห ลำยประเภท ได้แ ก่
คำร์โ บไฮเดรต โปรตีน ไข
มัน แร่ธ ำตุ และวิต ำมิน สำร
เคมีป ระเภทต่ำ ง ๆ ที่เ ป็น
ส่ว นประกอบในอำหำร
รวมเรีย กว่ำ สำรอำหำร
อำหำรแต่ล ะชนิด จะ
จะมีก ระบวนกำรสลำย
สำรอำหำร แปรเปลี่ย น
เป็น พลัง งำน เพื่อ นำำ ไป
ใช้ใ นกิจ กรรมต่ำ ง ๆ
ของร่ำ งกำย
พลัง งำนที่ไ ด้
  จำกอำหำร
  อำหำรที่ถ ูก ย่อ ยให้ม ีโ มเลกุล
ขนำดเล็ก จนกลำยเป็น สำรอำหำร
แล้ว จะถูก ดูด ซึม เข้ำ สู่ร ะบบไหล
เวีย นเลือ ด ซึ่ง เลือ ดจะนำำ สำร
อำหำรไปยัง เซลล์ต ่ำ ง ๆ ทั่ว
ร่ำ งกำย ปฏิก ิร ิย ำเคมีท เ กิด ขึ้น
                            ี่
ภำยในเซลล์ โดยกำรสัน ดำปด้ว ย
ออกซิเ จนจะทำำ ให้ส ำรอำหำร
แตกตัว ให้พ ลัง งำน
ควบคุม พลัง งำนที่ป ล่อ ย
 ออกมำจำกอำหำร สำร
 อำหำรประเภท
 คำร์โ บไฮเดรต ไขมัน และ
 โปรตีน เท่ำ นั้น ที่ใ ห้พ ลัง งำน
 ออกมำดังออกซิเเจน 
           สมกำร 
สำรอำหำร + ออกซิ จน
สำรอำหำร +
คำร์บ อนไดออกไซด์ + นำ้ำ + พลัง งำน
คำร์บ อนไดออกไซด์ + นำ้ำ + พลัง งำน
พลัง งำนที่
       ร่ำ งกำย
      พลัง งำนที่ร ำ งกำย
                   ่
       ต้องงกำริต
ต้อ งกำรในกำรประกอบ
กิจ กรรมต่ำ ๆ ในชีว
ประจำำ วัน ขึ้น อยู่ก บ ประเภท
                      ั
ของงำนที่ท ำำ เช่น นัก เรีย น
อยู่ใ นวัย เจริญ เติบ โต (อำยุ
ระหว่ำ ง 12-15 ปี) ต้อ งกำร
พลัง งำน 1,600 กิโ ลแคลอรี
ต่อ วัน ส่ว นในวัย ผู้ใ หญ่
ปริม ำณพลัง งำน
                                           ชำย      หญิง
        ประเภทของงำนที่ท ำำ

    งำนเบำ ได้แ ก่ ผู้ท ี่ท ำำ งำนใน       1,800    1,600
สำำ นัก งำน ผู้ช ำำ นำญกำรทำงวิช ำชีพ
เช่น ครู แพทย์ นัก บัญ ชี สถำปนิก
เสมีย นหน้ำ ร้ำ น ผู้ก ำำ ลัง หำงำนทำำ
แม่บ ้ำ นที่ท ำำ งำนโดยอำศัย เครื่อ ง
ช่ว ยผ่อ นแรง
    งำนหนัก ปำนกลำง ได้แ ก่ ผู้            2,000    1,800
ทำำ งำนในโรงงำนอุต สำหกรรม
ประเภทเบำ นัก ศึก ษำ พนัก งำน
ก่อ สร้ำ งที่ไ ม่ไ ด้ใ ช้แ รงงำนหนัก ชำว
ประมง พนัก งำนหญิง ในห้ำ งสรรพ
สิน ค้ำ แม่บ ้ำ นที่ท ำำ งำนโดยไม่อ ำศัย
เครื่อ งผ่อ นแรง
ทัง นี้น ำ้ำ หนัก ของร่ำ งกำยจะ
      ้
เป็น เครื่อ งบ่ง ชี้อ ย่ำ งกว้ำ ง ๆ ให้
ทรำบถึง ปริม ำณของพลัง งำนและ
ปริม ำณของโปรตีน ที่ร ่ำ งกำย
ต้อ งกำรในแต่ล ะวัน กล่ำ วคือ
ร่ำ งกำยต้อ งกำรโปรตีน ประมำณ
1 กรัม ต่อ นำ้ำ หนัก ร่ำ งกำย 1
กิโ ลกรัม ต่อ วัน และต้อ งกำร
พลัง งำน 1,600 กิโ ลแคลอรีต ่อ วัน
ข้ำ วผัด
ผัด ผัก รวม
ต้ม จืด ตำำ ลึง
นำ้ำ พริก ผัก ต้ม
ผลไม้
สำรอำหำร
  สำรอำหำรแบ่ง ได้เ ป็น 2
กลุ่ม ใหญ่ ๆ คือ สำรอำหำรที่
ให้พ ลัง งำน ได้แ ก่ ไขมัน จะให้
พลัง งำน 9 กิโ ลแคลอรีห รือ
ประมำณ 38 กิโ ลจูล ต่อ 1 กรัม
โปรตีน ให้พ ลัง งำน 4 กิโ ล
แคลอรีห รือ ประมำณ 17 กิโ ล
จูล ต่อ   1 กรัม ส่ว น
สำรอำหำร

- สำรอำหำรที่   - สำรอำหำรที่ไ ม่
ให้พ ลัง งำน    ให้พ ลัง งำน
เรื่อ งที่ 1    เรื่อ งที่ 4
คำร์โ บไฮเดร    วิต ำมิน
เรื่อ งที่ 2
ต               เรื่อ งที่ 5
โปรตีน          แร่ธ ำตุ
เรื่อ งที่ 3    เรื่อ งที่ 7
ไขมัน           เส้น ใย
                เรื่อ งที่ 6
                นำ้ำ
สำรอำหำร
   ที่ใ ห้
 พลัง งำน
คำร์โ บไฮเ
  ดรต
คำร์โ บไฮเดร
            ต เป็น
 คำร์โ บไฮเดรต
สำรประกอบอิน ทรีย ์เ คมี ซึ่ง มี
ธำตุค ำร์บ อน ไฮโดรเจน และ
ออกซิเ จนเป็น ส่ว นประกอบ
พืช ใช้พ ลัง งำนจำกแสงแดดใน
กำรสัง เครำะห์ค ำร์โ บไฮเดรต
จำกก๊ำ ซคำร์บ อนไดออกไซด์ใ น
1. นำ้ำ ตำลชั้น เดีย ว (โมโนแซคคำ
 ไรด์) มีโ มเลกุล เล็ก ที่ส ุด มีร สหวำน
 และละลำยนำ้ำ ได้ เช่น กลูโ คส ฟรุก
 โตส(ได้ม ำจำกผลไม้) กำแลค
 โตส(ได้ม ำจำกกำรสลำยตัว ของ
 แลกโตสในนม)
2. นำ้ำ ตำล
          2 ชั้น (ไดแซคคำไรด์)
ประกอบด้ว ยนำ้ำ ตำลชั้น เดีย ว
     2โมเลกุล มำรวมกัน จึง จัด เป็น
นำ้ำ ตำล2ชั้น มีร สหวำน
      ละลำย นำ้ำ ได้เ ช่น
ซูโ ครส(กลูโ คส+ฟรุก โตส)
                          แลก
โตส(กลูโ คส+กำแลกโตส)
                มอล
โตส(กลูโ คส+กลูโ คส)
3. นำ้ำ ตำลหลำยชั้น (โพลี
แซคคำไรด์)
  ประกอบด้ว ยนำ้ำ ตำล
โมเลกุล เดีย วมำกกว่ำ สองง
โมเลกุล มำรวมกัน ไม่ม ร ส
                       ี
หวำนและไม่ล ะลำยนำ้ำ พืช
และสัต ว์ม ก เก็บ
           ั
คำร์โ บไฮเดรตในรูป นำ้ำ ตำล
นำ้ำ ตำลชั้น
เดีย ว(Monosaccharid
                  e)
• มีส ต รโมเลกุล C6 H12 O6 เป็น
      ู
  คำร์โ บไฮเดรตที่ม ข นำดโมเลกุล เล็ก
                    ี
  ร่ำ งกำยย่อ ยสลำย และดูด ซึม ได้ง ่ำ ย
  เช่น
• glucose เดกซ์โ ทรส นำ้ำ ตำลองุ่น
• fructose หรือ นำ้ำ ตำลผลไม้ เป็น
  นำ้ำ ตำลธรรมชำติท ี่ห วำนที่ส ด พบในผล
                                ุ
  ไม้ และนำ้ำ ผึง
                ้
• galactose ได้จ ำกกำรสลำยตัว ของ
  นำ้ำ นม
กำรทดสอบนำ้ำ ตำล
          กลูำรละลำยเบเนดิก ซ์
- ทดสอบโดยใช้ส
               โ คส
  (Benedict ) เติม ลงในสำรที่ท ดสอบ
  นำำ ไปต้ม ถ้ำ เป็น กลูโ คส จะเปลี่ย นสี
  จำกสีฟ ้ำ เป็น ตะกอนสีส ม แดง หรือ
                            ้
  ส้ม อิฐ นำ้ำ ตำล
- กลูโ คส + สำรละลำยเบเนดิก ซ์ ( สี
  ฟ้ำ )

                                ( ต้ม )
นำ้ำ ตำล 2
ชั้น (Disacchari
•         de)
• มีส ต รโมเลกุล C12 H22 O11
      ู
     - เมือ ได้ร ับ จะไม่ส ำมำรถใช้ไ ด้ท ัน ที
           ่
  ต้อ งเปลี่ย นเป็น นำ้ำ ตำลเชิง เดี่ย ววก่อ น
  ได้จ ำกกำรรวม          ตัว ของนำ้ำ ตำล
  เชิง เดี่ย ว 2 โมเลกุล และเกิด กำร
  ควบแน่น ได้น ำ้ำ 1 โมเลกุล ดัง สมกำร

• นำ้ำ ตำลเชิง เดี่ย ว + นำ้ำ ตำลเชิง เดี่ย ว
             นำ้ำ ตำลเชิง คู่ + นำ้ำ
1. Sucrose or นำ้ำ ตำลทรำย นำ้ำ ตำลอ้อ ย
       - ใช้ท ำำ ลูก อม เป็น สำรถนอมอำหำร
           กลูโ คส + ฟรุก โตส
      ซูโ ครส + นำ้ำ
2.    Maltose มีใ นข้ำ วบำร์เ ลย์ หรือ ข้ำ ว
   มอลต์
        - ใช้ท ำำ เบีย ร์ เครื่อ งดื่ม และอำหำร
   เด็ก
           กลูโ คส + กลูโ คส             มอลโตส
    + นำ้ำ
3.    lactose นำ้ำ ตำลนม
นำ้ำ ตำลหลำยชั้น
   (Polysaccharide)
- เช่น แป้ง ไกลโคเจน เซลลูโ ลส ไคติน
      แป้ง      พบในเมล็ด รำก หรือ หัว และใบ
 ของพืช เช่น ข้ำ ว
               มัน เผือ ก กลอย
      ไกลโคเจน มีใ นร่ำ งกำยมนุษ ย์ ถูก สะสมไว้
 ทีต ับ และกล้ำ มเนือ
   ่                 ้
               เมือ ร่ำ งกำยขำดแคลนเปลี่ย นเป็น
                   ่
 กลูโ คสได้
      เซลลูโ ลส พบทีผ นัง เซลล์ข องพืช ทุก ชนิด
                         ่
 เอนไซม์ใ นร่ำ งกำย
               มนุษ ย์ย ่อ ยไม่ไ ด้ แต่ช ่ว ยเพิ่ม กำก
 อำหำร ส่ว นสิง มีช ีว ิต พวก
                 ่
กำรทดสอบ
         แป้งส ำรละลำย
1. ทดสอบแป้ง โดยใช้
   ไอโอดีน ที่ม ีส ีเ หลือ งนำ้ำ ตำล
2. ถ้ำ มีแ ปงผสมอยู่ จะเปลีย นเป็น
                                 ่
   สีน ำ้ำ เงิน เข้ม หรือ ม่ว งดำำ แป้ง +
   สำรละลำยไอโอดีน ( สีเ หลือ ง
   นำ้ำ ตำล )
คำร์โ บไฮเดร
       ต
1. ให้พ ลัง งำนและควำมร้อ น
  คำร์โ บไฮเดรต 1 กรัม ให้พ ลัง งำน
  ประมำณ 4 แคลอรี
2. ช่ว ยให้ก ำรใช้ไ ขมัน ในร่ำ งกำย
  ดำำ เนิน ไปอย่ำ งปกติ ถ้ำ
  คำร์โ บไฮเดรตมีไ ม่เ พีย งพอใน
  อำหำร กำรใช้ไ ขมัน ในร่ำ งกำยจะไม่
  สมบูร ณ์ด ้ว ย
3. คำร์โ บไฮเดรตบำงชนิด เช่น
4. โมเลกุล ของกลูโ คส ใช้
ในกำรสัง เครำะห์
  กรดอะมิโ นในร่ำ งกำย
5. ร่ำ งกำยสำมำรถเปลี่ย น
คำร์โ บไฮเดรตที่
  เหลือ เป็น ไขมัน ได้ และ
จะถูก สะสมใน
  ร่ำ งกำย ดัง นัน ไม่ค วรได้
                 ้
โปรตีน
โปรตีน
  เป็น ส่ว นประกอบของเซลล์
และเนื้อ เยื่อ ต่ำ งๆ มีธ ำตุ
คำร์บ อน ไฮโดรเจน
ออกซิเ จน และไนโตรเจน
เป็น ส่ว นประกอบในปริม ำณ
มำก ส่ว นธำตุท ี่ป ระกอบใน
ปริม ำณน้อ ยได้แ ก่ กำำ มะถัน
โปรตีน
• เป็นสำรประกอบอินทรีย์ที่พบมำกในเซลล์ หรือ
  เนื้อเยื่อ เป็นอันดับ 2 รองจำกนำ้ำ
• ถือว่ำเป็นสำรประกอบที่มีควำมสำำคัญยิ่ง ใน
  ฐำนะเป็นโครงสร้ำงของเซลล์ และเนื้อเยื่อทุก
  ชนิด เช่น ในกล้ำมเนือ เลือด เอนไซม์ และ
                         ้
  ฮอร์โมนต่ำงๆ
• ประกอบด้วย หน่วยย่อยๆ คือ amino acid
  ยึดติดกันด้วย peptide bond
• เป็นสำรอำหำรที่มีขนำดโมเลกุลใหญ่ที่สุด
• ธำตุที่เป็นองค์ประกอบ สำำคัญของโปรตีน คือ C
  , H , O และ N
กรดอะมิโ น           เป็น สำร
อำหำรที่ม ค วำมสำำ คัญ กับ
           ี
สุข ภำพของมนุษ ย์แ ละสัต ว์
กรดอะมิโ นได้ม ำจำกกำรที่
โปรตีน ถูก ย่อ ย เพือ นำำ ไป
                     ่
ใช้ใ นกำรสร้ำ งเนื้อ เยือ ่
ต่ำ งๆรวมทัง นำำ ไปเป็น
             ้
พลัง งำน กรดอะมิโ นที่
สำำ คัญ ได้แ ก่ ธรีโ อ
ไม่ม ส มำธิใ นกำรทำำ งำน
      ี
อำกำรเช่น นี้จ ะหมดไป
เมือ เติม กรดอะมิโ นชนิด นี้
   ่
ลงไปในอำหำร จะเห็น ได้
ว่ำ กรดอะมิโ นมีผ ลต่อ
ร่ำ งกำยและสมอง
เมื่อ อำหำรในโปรตีน ถูก ย่อ ย จะ
 กลำยเป็น กรดอะมิโ น กรดอะมิ
                     โน
       แบ่ง เป็น่จ ำำ เป็น ต่อ ร่ำได้แ ก่ น กรด
  1.กรดอะมิโ นที
                    2 พวก งกำย เป็
  อะมิโ นที่ร ่ำ งกำยไม่ส ำมำรถ
      สัง เครำะห์ไ ด้ จำำ เป็น ต้อ งได้ร ับ จำก
  อำหำรเท่ำ นัน   ้
กรดอะมิโ นจำำ เป็น
( Essential amino acid )
   หมำยถึง กรดอะมิโ นที่
  จำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำย แต่
  ร่ำ งกำยไม่ส ำมำรถ
  สัง เครำะห์ข น ได้เ อง หรือ
                  ึ้
  เปลี่ย นแปลงมำจำกกรดอะ
  มิโ นชนิด อืน ได้ (ต้อ งได้
                ่
  รับ จำกอำหำรโดยตรง )
**โปรตีน ประเภทสมบูร ณ์         เป็น
โปรตีน ที่ม ีก รดอะมิโ นจำำ เป็น
ต่อ ร่ำ งกำยทุก ชนิด และอยู่ใ น
สัด ส่ว นที่พ อเหมำะกับ ร่ำ งกำย
โปรตีน ชนิด นี้ม ีอ ยู่ใ นเนื้อ สัต ว์
ไข่ นม และถั่ว เหลือ ง **
2.กรดอะมิโ นที่ไ ม่จ ำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำย
ได้แ ก่ก รดอะมิโ นที่ร ่ำ งกำย
 สำมำรถสัง เครำะห์ข ึ้น เองได้
 โปรตีน ประเภทสมบูร ณ์ เป็น โปรตีน
 ที่ม ีก รดอะมิโ นจำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำยทุก
 ชนิด และอยู่ใ นสัด ส่ว นที่พ อเหมำะ
 กับ ร่ำ งกำย โปรตีน ชนิด นี้ม ีอ ยู่ใ น
 เนื้อ สัต ว์ ไข่ นม และถั่ว เหลือ ง **
กรดอะมิโ นไม่จ ำำ เป็น
  ( Nonessential amino
          acid )
- กรดอะมิโ นทีร ่ำ งกำยสัง เครำะห์
                  ่
  ขึ้น ได้เ พีย งพอกับ ควำมต้อ งกำร
  ของร่ำ งกำย ( ไม่จ ำำ เป็น ต้อ งได้
  รับ จำกอำหำร )
  - จงอย่ำ เข้ำ ใจผิด ว่ำ กรดอะมิ
  โนไม่จ ำำ เป็น คือ กรดอะมิโ นที่
  ร่ำ งกำยไม่จ ำำ เป็น ต้อ งใช้ ควำม
  จริง แล้ว ร่ำ งกำยต้อ งใช้ก รดอะมิ
  โนทั้ง 2 พวกในกำรสร้ำ ง
รตรวจสอบหำโปร
 จะใช้ก ำรทดสอบที่เ รีย กว่ำ กำร
   ทดสอบไบยูเ ร็ต คือ กำรเติม
   สำรละลำยโซเดีย มไฮดรอกไซด์
   และสำรละลำยคอปเปอร์ซ ัล เฟต
   ลงในอำหำร ถ้ำ สีข อง
   สำรละลำยเปลี่ย นจำกสีฟ ้ำ เป็น สี
   ม่ว ง หรือ สีช มพูอ มม่ว ง หรือ
   สีน ำ้ำ เงิน แสดงว่ำ อำหำรนั้น มี
หน้ำ ที่ข อง
          โปรตีน
1. สร้ำ งเนื้อ เยื่อ ต่ำ งๆและซ่อ มแซม
   ส่ว นที่ส ก หรอ ในอวัย วะต่ำ งๆ
             ึ
2. เป็น ส่ว นประกอบของนำ้ำ ย่อ ย
   และฮอร์โ มน
3. เป็น ส่ว นประกอบของสำรเคมีท ี่
   สำมำรถต้ำ นทำนโรค
4. ให้พ ลัง งำน คือ โปรตีน 1 กรัม
   ให้พ ลัง งำนประมำณ 4 แคลอรี
เด็ก ขำดโปรตีน จะ
        เป็น โรค
1. โรคควำชิอ อร์เ คอร์
 ( Kwashiorkor ) - พบเด็ก ที่
 หย่ำ นมใหม่ๆ มือ เท้ำ บวม ท้อ ง
 ป่อ ง หน้ำ แบน ( 1 – 4 ปี )
2. โรคมำรำสมัส ( Marasmus )
 เกิด กับ เด็ก อำยุต ำ่ำ กว่ำ 1 ปี
 -    ผอมแห้ง ไม่ม ีก ล้ำ มเนื้อ
 ผิว หนัง เหี่ย วย่น คล้ำ ยคน
ไขมัน
ไขมัน
  ประกอบด้ว ย คำร์บ อน
ไฮโดรเจน และออกซิเ จน
โมเลกุล ของไขมัน
ประกอบด้ว ยกรีเ ซอรีน 1
โมเลกุล และกรดไขมัน 3
โมเลกุล ซึง อำจเป็น กรดไข
            ่
มัน ชนิด เดีย วกัน หรือ ต่ำ ง
กรดไขมัน มีอ ยู่ 2
1.ชนิด ดัน ที่จ้ ำำ เป็น ต่อ
  กรดไขมั ง นี
ร่ำ งกำย เป็น กรด
ไขมัน ที่ร ำ งกำยไม่ส ำมำรถ
           ่
สังกรดไขมัน ที่ไ ม่จ ำำ เป็น
2.  เครำะห์เ องได้ เช่น กรด
ไลโนเลอิค มีมน กรดไขมัน
ต่อ ร่ำ งกำย เป็ ำกในนำ้ำ มัน
พื่ร ำ งกำยสำมำรถ
ที ช่
ไขมัน แบ่ง เป็น 2
       ชนิดหำกร่ำนี้ ไ ข
1. ไขมัน อิ่ม ตัว
                  ดัง งกำยมี
มัน ชนิด นี้ม ำกเกิน ไป จะ
       ทำำ ให้ม ีโ อกำสเสี่ย งต่อ กำร
เป็น โรคหลอดเลือ ดหัว ใจตีบ
       ตัน ไขมัน ชนิด อิ่ม ตัว จะพบ
มำกในเนื้อ สัต ว์ท ี่ม ีส ีแ ดง
       มัน สัต ว์ หนัง สัต ว์ เครื่อ งใน
สัต ว์ ไข่แ ดง กุ้ง ปู หอย
2. ไขมัน ไม่อ ิ่ม ตัว เป็น ไขมัน ที่
ช่ว ยลดกำรดูด ซึม ไขมัน
   อิ่ม ตัว ได้ และยัง ช่ว ยป้อ งกัน
โรคหลอดเลือ ดหัว ใจ
   ตีบ ตัน พบมำกในถั่ว เต้ำ หู้
เห็ด และนำ้ำ มัน พืช
   (ยกเว้น นำ้ำ มัน มะพร้ำ ว นำ้ำ มัน
ปำล์ม )
หน้ำ ที่ข องไข
              มัน ๆ คือ ไขมัน
1. ให้พ ลัง งำนมำกกว่ำ สำร
 อำหำรประเภทอื่น
 1 กรัม จะให้พ ลัง งำน 9 แคลอรี่
2. ไขมัน ในอำหำรช่ว ยให้
 อำหำรนุ่ม ขึ้น และอร่อ ยขึ้น
3. ช่ว ยละลำยวิต ำมิน ( เอ ดี อี
 เค) และช่ว ยดูด ซึม วิต ำมิน ดัง
4. ไขมัน ย่อ ยได้ช ้ำ กว่ำ
คำร์โ บไฮเดรตและ
  โปรตีน  ทำำ ให้อ ยู่ใ น
กระเพำะอำหำรเป็น
  เวลำนำนกว่ำ ทำำ ให้ร ส ึก อิม
                           ู้ ่
ได้น ำน
5. ไขมัน ในร่ำ งกำยช่ว ย
ป้อ งกัน กำรกระทบ
สำรอำหำร
 ที่ไ ม่ใ ห้
 พลัง งำน
วิต ำมิน
วิต ำมิน
   เป็น สำรอำหำรที่ไ ม่ใ ห้
พลัง งำน ร่ำ งกำยต้อ งกำร
วิต ำมิน ในปริม ำณน้อ ยมำก
เมื่อ เทีย บกับ ควำมต้อ งกำรสำร
อำหำรประเภทที่ใ ห้พ ลัง งำน
แต่ร ่ำ งกำยจะขำดไม่ไ ด้ ถ้ำ
ร่ำ งกำยขำดวิต ำมิน แต่ล ะชนิด
จะทำำ ให้ม ีค วำมผิด ปกติแ ตก
จำกกำรทดสอบสมบัต ิใ น
กำรละลำย วิต ำมิน สำมำรถ
ละลำยได้ใ นตัว ทำำ ละลำยต่ำ ง
กัน ดัง นั้น เรำจึง แบ่ง วิต ำมิน
ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ
คือ
   1. วิต ำมิน ที่ล ะลำยได้ใ นไข
มัน ได้แ ก่
วิต ำมิน ที่
ละลำยในไข
     มัน
วิต ำมิน ที่
ละลำยใน
    นำ้ำ
วิต ำมิน ที่ม ีค วำม
สำำ คัญ ต่อ ร่ำ งกำย
   สำรอำหำรประเภท
วิต ำมิน มีผ ลต่อ ร่ำ งกำย
หำกได้ร ับ ในปริม ำณที่
เหมำะสม โดยวิต ำมิน แต่ล ะ
ตัว มีผ ลต่อ สำำ คัญ แตกต่ำ ง
กัน ออกไปดัง นี้
พรรณเปล่ง ปลั่ง เส้น ผมเป็น เงำงำม
แข็ง แรง พบใน ผัก สีเ ขีย ว เหลือ งจัด
ตับ ไข่ ถั่ว เมล็ด แห้ง
      วิต ำมิน B1 (Thiamine) : ป้อ งกัน
โรคควำมดัน โลหิต ตำ่ำ ช่ว ยกระตุ้น
ระบบขับ ถ่ำ ย บำำ รุง สุข ภำพให้พ ้น จำก
อำกำรผอมแห้ง แรงน้อ ย พบในยีส ต์
เนื้อ หมู ปลำทะเลตัว เล็ก เช่น ปลำกระ
ตัก
วิต ำมิน B2 (Riboflavin) : ช่ว ยรัก ษำ
สุข ภำพตับ ให้ผ ว พรรณและดวงตำสดใส
                  ิ
ป้อ งกัน อำกำรปวดศรีษ ะเนือ งมำจำก
                              ่
ควำมเครีย ด พบใน นมสด ไข่ ยีส ต์ เครื่อ ง
ในสัต ว์ และปลำ
     วิต ำมิน B3 : ป้อ งกัน แก้ไ ขอำกำรปวด
ศรีษ ะ ไมเกรน ช่ว ยในกำรทำำ งำนของระบบ
ย่อ ยอำหำร ช่ว ยลดปริม ำณคอเรสเตอรอล
พบใน ตับ ปลำ ไก่ ถั่ว เมล็ด แห้ง
วิต ำมิน B5 : ป้อ งกัน ผมหงอกก่อ นวัย
บรรเทำอำกำรปวดศรีษ ะ มีน งงจำก
ควำมเครีย ด โรคภูม ิแ พ้ ช่ว ยสมำนแผล พบ
ใน ผัก ใบเขีย ว ผลไม้ อำหำรทะเล
       วิต ำมิน B6 (Pyridoxine) : ป้อ งกัน
ปัญ หำต่ำ งๆในช่อ งปำก โดยเฉพำะฟัน ผุ
บำำ รุง สำยตำให้เ ห็น ได้ช ด เจน และดวงตำ
                            ั
แจ่ม ใส ช่ว ยลดปริม ำณคอเรสเตอรอลใน
เลือ ดพบใน อำหำรทะเล กล้ว ยหอม ข้ำ ว
ซ้อ มมือ ถั่ว แดง
วิต ำมิน B12 (Cyanocobalamin) : บำำ รุง
สมอง ระบบประสำท ทำำ ให้ค วำมจำำ ดี ลด
อำกำรเบือ อำหำร
          ่
พบใน อำหำรทะเล แครอท
วิต ำมิน C (Ascorbic acid) : ช่ว ยทำำ ให้
สุข ภำพเหงือ กและฟัน สมบูร ณ์แ ข็ง แรงดี
แก้ป ญ หำระบบทำงเดิน ปัส สำวะ โรคภูม ิแ พ้
     ั
และลดควำมเสีย งจำกกำรเป็น มะเร็ง พบใน
               ่
ผลไม้ท ุก ชนิด ผัก สดทุก ชนิด
ป้อ งกัน กำรเกิด สิว เพิม ควำมแข็ง แรง
                         ่
ของกระดูก และฟัน
พบใน นำ้ำ มัน ตับ ปลำ นมสด ไข่
      วิต ำมิน E (Tocopherol) : ช่ว ย
บำำ รุง ผิว พรรณให้ส ดใส กล้ำ มเนื้อ มี
ควำมยืด หยุ่น บรรเทำอำกำรปวดร้อ น
จำกแผลไฟไหม้ นำ้ำ ร้อ นลวก ทำำ ให้
แผลสมำนตัว เร็ว ขึ้น และไม่เ กิด รอย
แผลเป็น พบใน นำ้ำ มัน พืช ถั่ว เมล็ด แห้ง
ไข่ ผัก ใบเขีย ว นำ้ำ มัน ตับ ปลำ
แร่ธ ำตุ
แร่ธ ำตุ       เป็น สำรอำหำร
อีก ประเภทหนึ่ง ที่ไ ม่ใ ห้พ ลัง งำน
ร่ำ งกำยต้อ งกำรในปริม ำณน้อ ย
แต่ข ำดไม่ไ ด้เ พรำะเกลือ แร่เ ป็น
ส่ว นประกอบของอวัย วะและ
เนื้อ เยื้อ ของร่ำ งกำย เช่น ฟัน
กระดูก เลือ ด
ประโยชน์
- ช่ว ยควบคุม กำรทำำ งำนของ
อวัย วะต่ำ งๆของ
  ร่ำ งกำยเช่น เนื้อ เยื้อ ระบบ
ประสำท
- ช่ว ยควบคุม ควำมสมดุล ของ
นำ้ำ กำรไหลเวีย น
  ของเหลวในร่ำ งกำย
นำ้ำ
เปอร์เ ซ็น ต์ข องนำ้ำ หนัก ตัว นำ้ำ
ทำำ หน้ำ ที่ล ำำ เลีย งงอำหำรและ
สำรต่ำ ง ๆ ไปทั่ว ร่ำ งกำย
ควบคุม แรงดัน เลือ ด ถ้ำ
ร่ำ งกำยขำดนำ้ำ จะทำำ ให้
อุณ หภูม ิข องร่ำ งกำยยสูง เกิด
ตะคริว หมดแรง หน้ำ มืด วิง
เวีย น จนเสีย ชีว ิต ได้ ดัง นั้น ใน
แต่ล ะวัน เรำจึง ควรดื่ม นำ้ำ อย่ำ ง
น้อ ย 6-8 แก้ว หรือ รับ ประทำน
ผัก หรือ ผลไม้ท ี่ม ีน ำ้ำ สะสมอยู่
เส้น ใย
ประโยชน์ข องเส้น ใยอำหำรมีห ลำย
ประเภทได้แ ก่
      - ช่ว ยลดนำ้ำ หนัก เพรำะเส้น ใยอำหำร
จะจับ ไขมัน จำกอำหำร
      - ป้อ งกัน โรคริด สีด วงทวำร เนือ งจำก
                                        ่
เส้น ใยอำหำรอุ้ม นำ้ำ
              จึง ช่ว ยให้ก ำรขับ ถ่ำ ยสะดวก
      - ช่ว ยลดระดับ ไขมัน ในเลือ ด เป็น กำร
ป้อ งกัน โรคหลอดเลือ ด
              หัว ใจตีบ ตัน ด้ว ย
      - ป้อ งกัน กำรดูด ซึม สำรก่อ มะเร็ง ใน
ลำำ ไส้ใ หญ่ เพรำะกำกอำหำร
             จะไม่ค ้ำ งในลำำ ไส้ใ หญ่น ำนเกิน
ผู้ใ หญ่ค วรจะได้ร ับ เส้น ใย
อำหำรวัน ละ 25 กรัม ส่ว นใน
เด็ก คิด จำกอำยุบ วกด้ว ย 5
กรัม เช่น นัก เรีย นอำยุ 12 ปี
ต้อ งรับ ประทำนอำหำรที่ม ี
เส้น ใย = 12 + 5 = 17 กรัม
ต่อ วัน
สิ่ง ปนเปือ น
          ้
 ในอำหำร
 เป็น สำรพิษ ทีเ กิด ขึน จำก
                  ่    ้
ธรรมชำติแ ละจำกกำรกระ
ทำำ ของมนุษ ย์  ซึง มีผ ล
                    ่
ทำำ ให้เ กิด อัน ตรำยต่อ
ร่ำ งกำยจนถึง เสีย ชีว ิต ได้
 สำรปนเปือ นในอำหำรแบ่ง
              ้
ตำมลัก ษณะกำรเกิด ได้ 2
ประเภทคือ
                                       
ธรรมชำติ  แบ่ง ออกตำมชนิด
ของสำรพิษ ได้ด ัง นี้
      1.1  สำรพิษ จำกเชื้อ
จุล ิน ทรีย ์ เช่น สำรอะฟลำทอก
ซิน (aflagoxin)  ซึ่ง เป็น สำร
สร้ำ งจำกเชื้อ รำพวกแอสเพอร์
จิล ลัส (aspergillus spp)  รำนี้
เจริญ ได้ด ีใ นถั่ว ลิส งและเมล็ด
พืช ที่ช ื้น  ซึ่ง ควำมร้อ นสูง ไม่
สำมำรถทำำ ลำยสำรอะฟลำทอก
ซิน ได้ส ่ว นใหญ่ส ำรนี้จ ะตกค้ำ ง
1.2  สำรพิษ จำกเห็ด บำงชิด
 ทำำ ให้เ มำ  มีอ ำกำร
     คลื่น ไส้  และอำเจีย น



1.3   สำรพิษ ในพืช ผัก
                     
            
มนุษ ย์   เป็น ผลมำจำกควำมเจริญ ทำง
ด้ำ นวิท ยำศำสตร์แ ละเทคโนโลยีท ี่เ รำ
นำำ มำใช้ใ น
ชีว ิต ประจำำ วัน  มีด ัง นี้
  2.1  สำรตกค้ำ งจำกกำรเกษตร
 เช่น  ดีด ีท ี  ปุย  ยำปรำบศัต รูพ ืช
                   ๋
 ซึ่ง อำจสะสมในอำหำร  เมื่อ รับ
ประทำน
เข้ำ ไปจะเกิด อัน ตรำยต่อ สิ่ง มีช ีว ิต
เป็น 3 ประเภทคือ
                1.  สำรกัน อำหำรเสีย  เป็น
สำรที่ช ว ยให้อ ำหำร
          ่
                   คงสภำพ  รส  กลิ่น
 เหมือ นเมื่อ แรกผลิต และ
                   เก็บ ไว้ไ ด้น ำน  เช่น  สำร
กัน บูด  สำรกัน
                   หืน  เป็น ต้น
                 
2.สำรแต่ง กลิน หรือ รส  เป็น สำรที่
             ่
ช่ว ยให้อ ำหำรมีร สและกลิ่น ถูก ใจผู้
บริโ ภค  หรือ ใช้แ ต่ง กลิ่น รส   ผู้
บริโ ภคเข้ำ ใจคิด ผิด ว่ำ เป็น ของแท้
หรือ มีส ่ว นผสมอยูม ำกหรือ น้อ ยทั้ง ที่
                   ่
เป็น ของเทีย มสำรเหล่ำ นี้ไ ด้แ ก่
- เครื่อ งเทศ  
- สำรกลิ่น ผลไม้  
- สำรรสหวำนประเภทนำ้ำ ตำลเทีย ม ซึ่ง
เป็น สำรที่ใ ห้ค วำม
  หวำนแต่ไ ม่ใ ช่น ำ้ำ ตำล
- ผงชูร สเป็น สำรประกอบที่เ รีย กว่ำ มอ
นอโซเดีย มกลูต ำเมต
   ถ้ำ เป็น ผงชูร สปลอมจะใส่ส ำร
โซเดีย ม เมตำฟอสเฟตและ
  บอแรกซ์  ซึ่ง เป็น อัน ตรำยต่อ ชีว ิต มำก
ช่ว ยแต่ง เติม ให้อ ำหำรน่ำ รับ ประทำน
ยิง ขึ้น  มีท ั้ง สีจ ำกธรรมชำติซ ึ่ง เป็น สีท ี่
    ่
ได้จ ำกพืช และสัต ว์ไ ม่เ ป็น อัน ตรำยต่อ
สิง มีช ีว ิต    เช่น     สีด ำำ จำกถ่ำ น
  ่
     สีแ ดงจำกครั่ง       เป็น ต้น
       และ สีส ง เครำะห์ส ่ว นมำกจะเป็น
                 ั
สำรพิษ ที่ร ้ำ ยแรงต่อ ร่ำ งกำย มัก มีต ะกั่ว
และโครเมีย มอยู่ เช่น สีย อ มผ้ำ
                              ้
สำรพิ1.ดิน ประสิ้อ นในอำหำร
              ษ ปนเปื ว (โพแทกเซีย ม
ที่ค วรรูจ ส ูต รเคมีนีMO3 นิย มใส่
ไนเตรต)มี ัก มีด ัง K ้
            ้
ในอำหำรประเภทเนื้อ หมู  เนื้อ
ปลำ เนื้อ วัว    ทำำ เนือ เปื่อ ย  สี
                            ้
สวย  รสดี  และเก็บ ไว้ไ ด้น ำน
 ซึ่ง เป็น สำรที่ก ่อ ให้เ กิด สำรไนโตร
ซำมีน (nitrosamine)ซึ่ง เป็น สำร
ก่อ ให้เ กิด มะเร็ง
                
2.ปรอท  พิษ ของสำรปรอทที่ไ ป
สะสมในสมอง  ทำำ ให้
ประสำทหลอน  ควำมจำำ เสือ ม     ่
 เป็น อัม พำต เด็ก ในครรภ์ป ระสำท
จะถูก ทำำ ลำย  นิ้ว มือ หงิก งอ
 ปัญ ญำอ่อ น  และอำจตำยได้
 อำกำรเช่น นี้เ รีย กว่ำ  โรคมิน ำมำ
ตะ
         
      จะทำำ ลำยเซลล์ส มอง  ทำำ ลำย
เม็ด เลือ ดแดง
      ปวดศีร ษะและอำจตำยได้
  4. โครเมีย ม  สำรประกอบของ
โครเมีย มใช้ท ำำ สีย ้อ ม
      พิษ ของโคเมีย มเป็น อัน ตรำย
ต่อ ผิว หนัง และปอด
  5. แคดเมีย ม  มีพ ษ ต่อ ปอดและ
                          ิ
ไต  ทำำ ให้เ กิด โรคอิไ ต-อิไ ต
6.สำรหนู  ทำำ ให้เ กิด โรคไข้ด ำำ  มี
อำกำรเจีย น  ปวด
  ท้อ งรุน แรง  เป็น ตะคริว
7.สำรกัน บูด  สำรทีน ิย มใช้เ ป็น
                      ่
สำรกัน บูด  ได้แ ก่  
 กรดซำลิว ำลิก กรอดบอริก และดำ
เดีย มเบนโซเอต
 
 มีช ื่อ ทำงเคมีว ่ำ
 “โซเดีย มบอเรต (sodium
borate)”  
ชำวบ้ำ น  เรีย กว่ำ  “ผงกรอบ”
 หรือ คนจีน เรีย กว่ำ  “เพ่ง แช”
 ใช้ใ ส่ล ูก ชิ้น  แป้ง กรอบ
 ทำำ ให้ไ ตอัก เสบได้
              
8.ผงเนื้อ นุ่ม  คือ บอแรกซ์ผ สม
โซเดีย มไฮโดรเจนคำร์บ อเนต  สำร
นี้ซ ึม เข้ำ สูผ ิว หนัง ได้  ทำำ ให้เ กิด
               ่
อำกำรคล้ำ ยเยื่อ หุ้ม สมองอัก เสบ  มี
พิษ ต่อ ไตและเซลล์ต ่ำ งๆของ
ร่ำ งกำย
นำ้ำ ตำล  เช่น
-       ซอร์บ ิท อล  หวำนกว่ำ
นำ้ำ ตำลทรำย 2 ใน 3 เท่ำ
-       ไซคลำเมต  หวำนกว่ำ
นำ้ำ ตำลทรำย 30 เท่ำ
-       แอสพำร์เ ทม  หวำน
กว่ำ นำ้ำ ตำลทรำย 180 เท่ำ  ใช้
แทน
       นำ้ำ ตำลในเครื่อ งดื่ม  ลูก
กวำด  หมำกฝรั่ง
- ขัณ ฑสกรหรือ แช็ก คำริน  หวำน
กว่ำ นำ้ำ ตำลทรำย 550 เท่ำ
   เป็น นำ้ำ ตำลเทีย ม  ถ้ำ รับ
ประทำนมำกจะเกิด อำกำร
   คลืน ไส้  อำเจีย น  ท้อ งเดิน  ชัก
        ่
 ใช้แ ทนนำ้ำ ตำลทรำย
   สำำ หรับ ผู้ป ่ว ยเป็น โรคเบำหวำน
และผู้ท ี่อ ้ว นมำก              
ซึ่ง อำกำรที่เ กิด จำกสำรพิษ
    อำหำรบำงชนิด เป็น
แต่ล ะชนิด จำำ แนกได้
 พิษ ต่อก ษณะ โคือ  
      2 ลั ผู้บ ริ  ภค
1.  อำกำรเป็น พิษ แบบเฉีย บพลัน
 คือ กำรเกิด อำกำรเป็น พิษ ภำย
หลัง จำกรับ ประทำนอำหำรนั้น ๆ
เข้ำ ไปไม่น ำนนัก ภำยในเวลำ 2-6
ชัว โมง  ลัก ษณะอำกำรที่พ บ  คือ
  ่
 ท้อ งเสีย รุน แรง  คลื่น ไส้
 หำยใจไม่อ อก  เป็น อัม พำตใน
2. อำกำรเป็น พิษ แบบเรื้อ รัง
 คือ กำรเกิด อำกำรเป็น
พิษ เนื่อ งจำกรับ ประทำน
อำหำรที่ม ีส ิ่ง เป็น พิษ
ปะปนอยู่ใ นปริม ำณน้อ ย
และมีก ำรสะสมอย่ำ งต่อ
เนื่อ งมำกขึ้น ทุก วัน จนมี
ปริม ำณสำรพิษ ใน
ร่ำ งกำยมำกขึ้น  อำกำร
สำรปนเปือ นในอำหำร  ดัง นี้
        ้
1.  เลือกซื้ออำหำรที่มั่นใจว่ำไม่มีสำรพิษ
เจือปน
2.  แช่ผักและผลไม้ในสำรละลำยนำ้ำส้ม
สำยชูหรือสำรละลำยด่ำงง
    ทับทิมก่อนนำำมำรับประทำนทุกครั้ง
3.  เลือกรับประทำนอำหำรที่ใช้สปรุงแต่ง
                                  ี
จำกธรรมชำติ
4.  เลือกซื้อสินค้ำที่ได้รับอนุญำตจำก
องค์กำรอำหำรและ
    ยำ  กระทรวงสำธำรณสุข เพื่อรับรอง
ควำมปลอดภัยของอำหำร
กำรรับ
ประทำน
 อำหำร
        ในแต่ล ะวัน ร่ำ งกำยของ
 มนุษ ย์เ รำต้อ งกำรพลัง งำน
 จำกอำหำรเพือ นำำ ไปใช้ใ น
                   ่
 กิจ กรรมต่ำ งๆในปริม ำณที่
แตกต่ำ งกัน  ซึง พลัง งำนทีใ ช้
                 ่             ่
 ในกิจ กรรมแต่ล ะอย่ำ งแตก
  ต่ำ งกัน ขึน อยูก ับ เพศ  วัย
             ้       ่
 สภำพร่ำ งกำย  และกิจ กรรม
    ของแต่ล ะบุค คล  ดัง นี้
1.  ควำมแตกต่ำ งของเพศ
 เพศชำยต้อ งกำรปริม ำณอำหำร
มำกกว่ำ เพศหญิง  เนื่อ งจำกกำร
ทำำ กิจ กรรมและกำรใช้พ ลัง งำน
ของเพศชำยมำกกว่ำ เพศหญิง
        2.  ควำมแตกต่ำ งของวัย  วัย
ต่ำ งกัน ต้อ งกำรปริม ำณอำหำรที่
แตกต่ำ งกัน  เนื่อ งจำกกำรเจริญ
เติบ โตและกำรทำำ กิจ กรรมต่ำ งกัน
        
3.  ควำมแตกต่ำ งของสภำพ
ร่ำ งกำย  หญิง ในระยะตั้ง
ครรภ์ห รือ ระยะให้น มบุต ร
 ต้อ งกำรสำรอำหำรทุก
ประเภทในปริม ำณสูง กว่ำ ปกติ
 โดยเฉพำะแคลเซีย มและ
ฟอสฟอรัส  เป็น แร่ธ ำตุท ี่
ต้อ งกำรในปริม ำณสูง เพรำะ
สำรอำหำรที่ร ีบ ประทำนเข้ำ ไป
ส่ว นหนึ่ง จะถูก นำำ ไปใช้ใ นกำร
แบบ
         ทดสอบ
1. นำ้ำ นมจัด เป็น อำหำร
กลุ่ม ใด
ก . โปรตีน          ข . ไขมัน

ค . คำร์โ บไฮเดรตง . วิต ำมิน
ทำำ ข้อ ต่อ ไปค
่่ะ
ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
2. แป้ง และนำ้ำ ตำลจัด เป็น อำหำรใน
กลุ่ม ทีใ ห้ส ำรอำหำรประเภทใด
        ่

  ก . แร่ธ ำตุ       ข . วิต ำมิน


  ค . คำร์โ บไฮเดรต ง . เกลือ แร่
ทำำ ข้อ ต่อ ไป
ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
3. วิต ำมิน ในข้อ ใดที่ส ำมำรถละลำยใน
ไขมัน แต่ไ ม่ล ะลำยในนำ้ำ

 ก. A D K           ข. A B C


 ค. B C D           ง. E D C
ทำำ ข้อ ต่อ ไปค่ะ
ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
4. สำรอำหำรในข้อ ใดทีใ ห้
                          ่
     พลัง งำนทัง หมด
               ้

ก . ไขมัน โปรตีน วิต ำมิข . ไขมัน โปรตีน คำร์โ บ
                        น


ค . คำร์โ บไฮเดรต โปรตีน. คำร์โ บไฮเดรต แร่ธ ำตุ
                       ง แร่ธ ำตุ
ทำำ ข้อ ต่อ ไปค่ะ
ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
5. สำรอำหำรประเภทใดอยู่ใ นกลุ่ม ที่ไ ม่
ให้พ ลัง งำน
 ก . ไขมัน         ข . วิต ำมิน


 ค . โปรตีน
                  ง . คำร์โ บไฮเดรต
ทำำ ข้อ ต่อ ไปค่ะ
ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
6. อำหำรประเภทเส้น ใยช่ว ย
ป้อ งกัน และรัก ษำโรคใด

 ก . โรคริด สีด วงทวำร   ข . โรคหัว ใจ



 ค . โรคตับ แข็ง         ง . โรคเอดส์
ทำำ ข้อ
ต่อ ไปค่ะ
ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
สำรเสพติด
   และ
กำรป้อ งกัน
สำรเสพติด หมำยถึง สิ่ง ที่
เสพเข้ำ ไปในร่ำ งกำยแล้ว ทำำ ให้
ร่ำ งกำยต้อ งกำรสำรนั้น ใน
ปริม ำณที่เ พิ่ม ขึ้น ไม่ส ำมำรถหยุด
ได้ มีผ ลทำำ ให้ร ่ำ งกำยทรุด
โทรมและสภำวะจิต ใจผิด ปกติ
ประเภทของสำรเสพติด ประเภท
ของสำรเสพติด แบ่ง ได้ 2 ประเภท
ดัง นี้
1. สิ่ง เสพติด ตำมธรรมชำติ ส่ว น
ใหญ่ไ ด้ม ำจำกพืช เช่น
    ฝิ่น กัญ ชำ กระท่อ ม เป็น ต้น
2 สิ่ง เสพติด สัง เครำะห์ เกิด จำก
มนุษ ย์จ ัด ทำำ ขึ้น เช่น
    เฮโรอีน ยำนอนหลับ ยำระงับ
ประสำท ยำบ้ำ
วัต ถุอ อกฤทธิ์
แบ่ง ออกเป็น 4 ประเภท ดัง นี้
   ยำเสพติด ประเภทออกฤทธิ์ก ด
 ประสำท  จะออกฤทธิต ่อ ระบบประสำท
                  ์
 ส่ว นกลำงในสมองที่ค วบคุม ควำมรู้ส ก  ึ
  ซึ่ง สำมำรถช่ว ยบรรเทำอำกำรเจ็บ ปวด
 ลงได้  แต่ก ำรนำำ ยำกลุ่ม นีไ ปใช้ใ นทำงที่
                             ้
 ผิด จะเป็น กำรเสพติด เพรำะใช้ม ำกเกิน
 กว่ำ ปริม ำณ  ยำเสพติด ในกลุม นีไ ด้แ ก่
                                ่ ้
 ฝิน  มอร์ฟ ีน  เฮโรอีน  สำรระเหย  
   ่
ยำเสพติด ประเภทกระตุ้น
ประสำท  มีผ ลต่อ ระบบประสำททำำ ให้
ประสำทตึง เครีย ด ควำมคิด สับ สน เกิด
ภำพหลอน  เพ้อ คลัง คล้ำ ยคนเป็น โรคจิต
                        ่
ชนิด หวำดระแวงหรือ เป็น บ้ำ ได้ต ื่น เต้น
ง่ำ ย  พูด มำก  มือ สัน  เหงื่อ ออกมำก  นอน
                      ่
ไม่ห ลับ  กลิ่น ตัว แรง  ปำกและจมูก แห้ง
 ริม ฝีป ำกแตก รูม ่ำ นตำเบิก กว้ำ ง  หัว ใจ
เต้น แรงและเร็ว  ปวดศีร ษะ  เบือ อำหำร
                                   ่
 คลื่น ไส้  อำเจีย น  ท้อ งเดิน  ปวดท้อ ง
อย่ำ งรุน แรง ยำเสพติด ประเภทนี้ไ ด้แ ก่
 ยำบ้ำ  โคเคน  เอ็ค ตำซี  กระท่อ ม
ยำเสพติด ประเภทหลอนประสำท
ได้แ ก่ เห็ด ขี้ค วำย  แอลเอสดี ฯลฯ  สำำ หรับ
แอลเอสดีจ ะมีล ก ษณะเป็น ผลึก สีข ำว ไม่ม ี
                     ั
กลิ่น  มัก พบอยู่ใ นรูป ของกระดำษเคลือ บ
ในลัก ษณะแสตมป์  (magicpaper) เม็ด กลม
แบน   กลมรี   แคปซูล  ส่ว นเห็ด ขี้ค วำยมี
สำรที่อ อกฤทธิท ำำ ลำยประสำทอย่ำ ง
                   ์
รุน แรงเมื่อ บริโ ภคเข้ำ ไปจะเกิด อำกำรเมำ
 เคลิบ เคลิ้ม และถึง ขนำดบ้ำ คลัง ในที่ส ด
                                  ่      ุ
 ฤทธิ์ข องยำเสพติด กลุ่ม นีม ีผ ลต่อ ระบบ
                            ้
ประสำทสมองส่ว นสัม ผัส ทั้ง 5 โดยฤทธิ์
ของยำเสพติด กลุ่ม นี้จ ะไปบิด เบือ นทำำ ให้
เปลี่ย นแปลงไปจำกที่เ ป็น จริง เห็น
ภำพลวงตำเป็น จิน ตนำกำร
ที่ม ีท ั้ง ทีด ี  สวยงำมและน่ำ กลัว จนไม่
              ่
สำมำรถควบคุม ได้  และถ้ำ ฤทธิห ลอน    ์
ประสำทเกิด ขึ้น มำก ๆ จะทำำ ให้ผ ู้เ สพ
กลำยเป็น คนบ้ำ ได้ใ นที่ส ด   ุ
ยำเสพติด ประเภทผสม
ผสำน    ผูเ สพจะมีอ ำกำรโดยเบือ งต้น
          ้                   ้
จะกระตุ้น ประสำทให้ผ ู้เ สพตืน ตัว  ร่ำ เริง
                                 ่
 ช่ำ งพูด  หัว เรำะ  ตลอดเวลำต่อ มำจะกด
ประสำททำำ ให้ร ู้ส ก คล้ำ ยเมำเหล้ำ  มี
                   ึ
อำกำรง่ว งนอน เซื่อ งซึม  เมือ เสพมำกขึน
                               ่            ้
จะหลอนประสำท  อำจเห็น ภำพลวงตำ  หู
แวว  หรือ มีก ำรหวำดระแวง  ควำมคิด
สับ สนควบคุม ตนเองไม่ไ ด้  ผูเ สพกัญ ชำ
                                   ้
ส่ว นใหญ่ม ัก ป่ว ยเป็น โรคจิต ในภำยหลัง  
ประเทศไทยเสพติด ที่พ บใน
ประเทศไทยแบ่ง ออกได้ด ัง นี้
     1. สิง เสพติด ประเภทฝิน และ
           ่                  ่
อนุพ ัน ธ์ข องฝิ่น ได้แ ก่
     1.1 ฝิ่น เป็น พืช ล้ม ลุก สำรเสพ
ติด ได้จ ำกยำงฝิ่น ดิบ ซึ่ง กรีด จำกผล มี
ลัก ษณะเหนีย ว สีน ำ้ำ ตำลไหม้   
1.2 มอร์ฟ ีน เป็น สำรแอลคำลอยด์ส กัด
จำกฝิ่น เป็น ผลึก สีข ำวนวล
   มีฤ ทธิ์ร ุน แรงกว่ำ ฝิ่น 10 เท่ำ
1.3 เฮโรอีน เป็น สำรที่ส ัง เครำะห์ไ ด้
จำกมอร์ฟ น มีพ ิษ รุน แรงกว่ำ
            ี
   มอร์ฟ น 10 เท่ำ
         ี
กัญชำ
                 ฝิ่น




        มอร์ฟน
             ิ
2. สิง เสพติด ประเภทยำนอน
         ่
หลับ และยำระงับ
       ประสำท ได้แ ก่
     2.1 เชกโคนำล เป็นแคปซูลสีแดง
เรียกว่ำ เหล้ำ แห้ง
     2.2 อโมบำร์บ ท อล เป็นยำนอนหลับ
                      ิ
บรรจุในแคปซูลสีฟ้ำ
         ที่เรียกว่ำ นกสีฟ ้ำ
     2.3 เพนโทบำร์บ ิท อล เป็นยำนอน
หลับบรรจุในแคปซูลสี
         เหลืองที่เรียกว่ำ เสื้อ สีเ หลือ ง
มีน
       เป็น ยำประเภทกระตุ้น ประสำท
มีช ื่อ เรีย กหลำยชื่อ เช่น ยำแก้ง ว ง
                                   ่
ยำขยัน ยำบ้ำ เป็น ต้น ยำบ้ำ หรือ
แอมเฟตำมีน มีล ัก ษณะเป็น ผง มีผ ลึก สี
ขำว บรรจุใ นแคปซูล หรือ อัด เม็ด อำจ
พบปลอมปนในยำคลอร์เ ฟนิร ำมีน
พำรำเซตำมอล


                            ยำเค
โทษของยำ
  เสพติด
ติด ทำำ ลำยทัง ร่ำ งกำยและจิต ใจ
             ้
เช่น ทำำ ให้ส มองถูก ทำำ ลำย
ควำมจำำ เสื่อ ม ดวงตำพร่ำ มัว นำ้ำ
                             ่
หนัก ลด ร่ำ งกำยซูบ ผอม ตำแห้ง
 เหม่อ ลอย ริม ฝีป ำกเขีย วคลำ้ำ
เครีย ด เป็น ต้น
     2. โทษต่อ ผูใ กล้ช ด ทำำ ลำย
                    ้   ิ
ควำมหวัง ของพ่อ แม่แ ละทุก คนใน
ครอบครัว ทำำ ให้ว งศ์ต ระกูล เสื่อ ม
เสีย
3.โทษต่อ สัง คม เกิด ปัญ หำทำงด้ำ น
  อำชญำกรรม สูญ เสีย แรงงำน
   สิ้น เปลือ งค่ำ ใช้จ ่ำ ยในกำรปรำบปรำม
  และกำรบำำ บัด รัก ษำ
4. โทษต่อ ประเทศไทย ทำำ ลำย
  เศรษฐกิจ ของชำติ
กำรป้อ งกัน
เสพติด มีด ัง ต่อ ไปนี้
   
     1. กำรป้อ งกัน ตนเอง ต้อ ง
ออกกำำ ลัง กำยสมำ่ำ เสมอรับ ประทำน
อำหำรที่ม ีป ระโยชน์ และพัก ผ่อ น
ให้เ พีย งพอ เลือ กคบเพือ นที่ไ ม่ม ั่ว
                           ่
สมสิ่ง เสพติด
     2. กำรป้อ งกัน ในครอบครัว
ต้อ งให้ค วำมรัก ควำมเข้ำ ใจ และ
อบรมสั่ง สอนให้ร ู้ถ ึง โทษของสิ่ง
เสพติด
3.กำรป้อ งกัน ในสถำนศึก ษำ ควรให้
  ควำมรู้ซ ึ่ง สิ่ง เสพติด จัด
   นิท รรศกำรและกำรรณรงค์ต ่อ ต้ำ น
  สิง เสพติด ไปศึก ษำดุง ำน
    ่
   ณ สถำนบำำ บัด ผู้ต ิด ยำเสพติด
4. กำรป้อ งกัน ในชุม ชน ควรจัด สถำน
  ที่อ อกกำำ ลัง กำย และจัด กลุ่ม แม่บ ้ำ น
  ให้ค วำมรู้เ รื่อ งสิง เสพติด
                       ่
คดีใ นกำรสอบนะจ๊ะ เด็ก ๆ
        สู้ๆ ๆๆๆ

More Related Content

Viewers also liked

Viewers also liked (12)

Fiesta de navidad 19 de diciembre de 2014
Fiesta de navidad 19 de diciembre de 2014Fiesta de navidad 19 de diciembre de 2014
Fiesta de navidad 19 de diciembre de 2014
 
Manual de Pontif. Univ. de Valparaiso
Manual de Pontif. Univ. de ValparaisoManual de Pontif. Univ. de Valparaiso
Manual de Pontif. Univ. de Valparaiso
 
Welcome12 charity slide
Welcome12 charity slideWelcome12 charity slide
Welcome12 charity slide
 
Los Delfines Y Tiburones
Los Delfines  Y TiburonesLos Delfines  Y Tiburones
Los Delfines Y Tiburones
 
Amistad
AmistadAmistad
Amistad
 
Ing Civil
Ing CivilIng Civil
Ing Civil
 
Snatch analysis
Snatch analysisSnatch analysis
Snatch analysis
 
Hw feb 18 2114
Hw feb 18 2114Hw feb 18 2114
Hw feb 18 2114
 
Presentation about Japan
Presentation about JapanPresentation about Japan
Presentation about Japan
 
Agenda verde
Agenda verdeAgenda verde
Agenda verde
 
Lectura 1er corte
Lectura 1er corteLectura 1er corte
Lectura 1er corte
 
Tema 10 maría
Tema 10 maríaTema 10 maría
Tema 10 maría
 

Similar to นำเสนออาหาร

โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2dumrongsuk
 
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2dumrongsuk
 
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน24LIFEYES
 
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุลบทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุลJariya Jaiyot
 
Samunpai
SamunpaiSamunpai
Samunpaimuisza
 
ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2
ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2
ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2fotofocus1
 
สอบกลางภาคชีวะ51 2
สอบกลางภาคชีวะ51 2สอบกลางภาคชีวะ51 2
สอบกลางภาคชีวะ51 2Wichai Likitponrak
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารBank Kitsana
 
Cm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟัน
Cm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟันCm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟัน
Cm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟัน4LIFEYES
 
สมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงามสมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงามPornpimon Gormsang
 
งานผลไม้ ชื่อศุภกฤต
งานผลไม้ ชื่อศุภกฤตงานผลไม้ ชื่อศุภกฤต
งานผลไม้ ชื่อศุภกฤตFrank Jkg
 
ลุยยยย
ลุยยยยลุยยยย
ลุยยยยguest3494f08
 

Similar to นำเสนออาหาร (20)

โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
 
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
โรคหัวใจ และหลอดเลือด 2
 
Lipid
LipidLipid
Lipid
 
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
 
บทที่ 3
บทที่  3บทที่  3
บทที่ 3
 
Mom knowledge
Mom knowledgeMom knowledge
Mom knowledge
 
Bio physics period2
Bio physics period2Bio physics period2
Bio physics period2
 
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุลบทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
บทที่ 3 สารชีวโมเลกุล
 
อาหารสำหรับสมอง
อาหารสำหรับสมองอาหารสำหรับสมอง
อาหารสำหรับสมอง
 
Samunpai
SamunpaiSamunpai
Samunpai
 
ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2
ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2
ติวเข้ม ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา PAT2
 
Lipid
LipidLipid
Lipid
 
สอบกลางภาคชีวะ51 2
สอบกลางภาคชีวะ51 2สอบกลางภาคชีวะ51 2
สอบกลางภาคชีวะ51 2
 
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหารโครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
โครงงานบล็อกเรื่องอาหาร
 
Cm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟัน
Cm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟันCm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟัน
Cm เพื่อสุขภาพที่ดีของกระดูกและฟัน
 
สมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงามสมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงาม
 
งานผลไม้ ชื่อศุภกฤต
งานผลไม้ ชื่อศุภกฤตงานผลไม้ ชื่อศุภกฤต
งานผลไม้ ชื่อศุภกฤต
 
ลุยยยย
ลุยยยยลุยยยย
ลุยยยย
 
Clu5
Clu5Clu5
Clu5
 
Clu5
Clu5Clu5
Clu5
 

นำเสนออาหาร

  • 1.
  • 2. จัดทำำโดย...... นำงกนิตนันท์ บุญ มำวงค์ กลุ่ม สำระกำรเรีย นรู้ วิท ยำศำสตร์ โรงเรีย นมวกเหล็ก วิท ยำ
  • 3. ผลกำรเรีย นรู้ท ี่ คำดหวัง มำตรฐำน ว 1.1.3.6 สืบ ค้น ข้อ มูล ทดสอบ และอธิบ ำยเกี่ย วกับ สำรอำหำรบำงประเภท ในอำหำร ควำมสำำ คัญ ของอำหำรที่ม ต ่อ ี ร่ำ งกำยตลอดจนสำมำรถเลือ กรับ ประทำน อำหำร ที่ม ส ำรอำหำรครบถ้ว นได้ส ด ส่ว น ี ั เหมำะสมกับ เพศและวัย
  • 4. จุด ประสงค์ก ำรเรีย นรู้ บอกควำมหมำยของอำหำรและสำรอำหำรได้ 2. บอกควำมสัม พัน ธ์ข องปริม ำณ พลัง งำนที่ร ่ำ งกำยต้อ งกำร กับ ประเภท ของงำนที่ท ำำ ได้ 3.สรุป ได้ว ่ำ โปรตีน เป็น สำรอำหำรชนิด หนึง ที่จ ำำ เป็น ต่อ กำรสร้ำ งพลัง งำน ่ ตลอดจนสำมำรถคำำ นวณหำพลัง งำน และปริม ำณโปรตีน ที่ร ่ำ งกำยต้อ ง กำรใน 1วัน ได้
  • 6. อำหำร หมำยถึง สิ่ง ต่ำ ง ๆ ที่ร บ ั ประทำนเข้ำ สู่ร ำ งกำยแล้ว ่ ไม่เ ป็น พิษ และมีป ระโยชน์ ต่อ ร่ำ งกำย ทำำ ให้เ กิด พลัง งำนที่ช ่ว ยในกำร ดำำ เนิน กิจ กรรมต่ำ งๆ ใน ชีว ิต ประจำำ วัน และให้ค วำม
  • 7. อำหำรแต่ล ะชนิด จะมี ส่ว นประกอบที่เ ป็น สำรเคมี อยู่ห ลำยประเภท ได้แ ก่ คำร์โ บไฮเดรต โปรตีน ไข มัน แร่ธ ำตุ และวิต ำมิน สำร เคมีป ระเภทต่ำ ง ๆ ที่เ ป็น ส่ว นประกอบในอำหำร รวมเรีย กว่ำ สำรอำหำร อำหำรแต่ล ะชนิด จะ
  • 8. จะมีก ระบวนกำรสลำย สำรอำหำร แปรเปลี่ย น เป็น พลัง งำน เพื่อ นำำ ไป ใช้ใ นกิจ กรรมต่ำ ง ๆ ของร่ำ งกำย
  • 9. พลัง งำนที่ไ ด้ จำกอำหำร อำหำรที่ถ ูก ย่อ ยให้ม ีโ มเลกุล ขนำดเล็ก จนกลำยเป็น สำรอำหำร แล้ว จะถูก ดูด ซึม เข้ำ สู่ร ะบบไหล เวีย นเลือ ด ซึ่ง เลือ ดจะนำำ สำร อำหำรไปยัง เซลล์ต ่ำ ง ๆ ทั่ว ร่ำ งกำย ปฏิก ิร ิย ำเคมีท เ กิด ขึ้น ี่ ภำยในเซลล์ โดยกำรสัน ดำปด้ว ย ออกซิเ จนจะทำำ ให้ส ำรอำหำร แตกตัว ให้พ ลัง งำน
  • 10. ควบคุม พลัง งำนที่ป ล่อ ย ออกมำจำกอำหำร สำร อำหำรประเภท คำร์โ บไฮเดรต ไขมัน และ โปรตีน เท่ำ นั้น ที่ใ ห้พ ลัง งำน ออกมำดังออกซิเเจน  สมกำร  สำรอำหำร + ออกซิ จน สำรอำหำร + คำร์บ อนไดออกไซด์ + นำ้ำ + พลัง งำน คำร์บ อนไดออกไซด์ + นำ้ำ + พลัง งำน
  • 11. พลัง งำนที่ ร่ำ งกำย พลัง งำนที่ร ำ งกำย ่ ต้องงกำริต ต้อ งกำรในกำรประกอบ กิจ กรรมต่ำ ๆ ในชีว ประจำำ วัน ขึ้น อยู่ก บ ประเภท ั ของงำนที่ท ำำ เช่น นัก เรีย น อยู่ใ นวัย เจริญ เติบ โต (อำยุ ระหว่ำ ง 12-15 ปี) ต้อ งกำร พลัง งำน 1,600 กิโ ลแคลอรี ต่อ วัน ส่ว นในวัย ผู้ใ หญ่
  • 12. ปริม ำณพลัง งำน ชำย หญิง ประเภทของงำนที่ท ำำ งำนเบำ ได้แ ก่ ผู้ท ี่ท ำำ งำนใน 1,800 1,600 สำำ นัก งำน ผู้ช ำำ นำญกำรทำงวิช ำชีพ เช่น ครู แพทย์ นัก บัญ ชี สถำปนิก เสมีย นหน้ำ ร้ำ น ผู้ก ำำ ลัง หำงำนทำำ แม่บ ้ำ นที่ท ำำ งำนโดยอำศัย เครื่อ ง ช่ว ยผ่อ นแรง งำนหนัก ปำนกลำง ได้แ ก่ ผู้ 2,000 1,800 ทำำ งำนในโรงงำนอุต สำหกรรม ประเภทเบำ นัก ศึก ษำ พนัก งำน ก่อ สร้ำ งที่ไ ม่ไ ด้ใ ช้แ รงงำนหนัก ชำว ประมง พนัก งำนหญิง ในห้ำ งสรรพ สิน ค้ำ แม่บ ้ำ นที่ท ำำ งำนโดยไม่อ ำศัย เครื่อ งผ่อ นแรง
  • 13. ทัง นี้น ำ้ำ หนัก ของร่ำ งกำยจะ ้ เป็น เครื่อ งบ่ง ชี้อ ย่ำ งกว้ำ ง ๆ ให้ ทรำบถึง ปริม ำณของพลัง งำนและ ปริม ำณของโปรตีน ที่ร ่ำ งกำย ต้อ งกำรในแต่ล ะวัน กล่ำ วคือ ร่ำ งกำยต้อ งกำรโปรตีน ประมำณ 1 กรัม ต่อ นำ้ำ หนัก ร่ำ งกำย 1 กิโ ลกรัม ต่อ วัน และต้อ งกำร พลัง งำน 1,600 กิโ ลแคลอรีต ่อ วัน
  • 19. สำรอำหำร สำรอำหำรแบ่ง ได้เ ป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ ๆ คือ สำรอำหำรที่ ให้พ ลัง งำน ได้แ ก่ ไขมัน จะให้ พลัง งำน 9 กิโ ลแคลอรีห รือ ประมำณ 38 กิโ ลจูล ต่อ 1 กรัม โปรตีน ให้พ ลัง งำน 4 กิโ ล แคลอรีห รือ ประมำณ 17 กิโ ล จูล ต่อ 1 กรัม ส่ว น
  • 20. สำรอำหำร - สำรอำหำรที่ - สำรอำหำรที่ไ ม่ ให้พ ลัง งำน ให้พ ลัง งำน เรื่อ งที่ 1 เรื่อ งที่ 4 คำร์โ บไฮเดร วิต ำมิน เรื่อ งที่ 2 ต เรื่อ งที่ 5 โปรตีน แร่ธ ำตุ เรื่อ งที่ 3 เรื่อ งที่ 7 ไขมัน เส้น ใย เรื่อ งที่ 6 นำ้ำ
  • 21. สำรอำหำร ที่ใ ห้ พลัง งำน
  • 23. คำร์โ บไฮเดร ต เป็น คำร์โ บไฮเดรต สำรประกอบอิน ทรีย ์เ คมี ซึ่ง มี ธำตุค ำร์บ อน ไฮโดรเจน และ ออกซิเ จนเป็น ส่ว นประกอบ พืช ใช้พ ลัง งำนจำกแสงแดดใน กำรสัง เครำะห์ค ำร์โ บไฮเดรต จำกก๊ำ ซคำร์บ อนไดออกไซด์ใ น
  • 24. 1. นำ้ำ ตำลชั้น เดีย ว (โมโนแซคคำ ไรด์) มีโ มเลกุล เล็ก ที่ส ุด มีร สหวำน และละลำยนำ้ำ ได้ เช่น กลูโ คส ฟรุก โตส(ได้ม ำจำกผลไม้) กำแลค โตส(ได้ม ำจำกกำรสลำยตัว ของ แลกโตสในนม)
  • 25. 2. นำ้ำ ตำล 2 ชั้น (ไดแซคคำไรด์) ประกอบด้ว ยนำ้ำ ตำลชั้น เดีย ว 2โมเลกุล มำรวมกัน จึง จัด เป็น นำ้ำ ตำล2ชั้น มีร สหวำน ละลำย นำ้ำ ได้เ ช่น ซูโ ครส(กลูโ คส+ฟรุก โตส)   แลก โตส(กลูโ คส+กำแลกโตส) มอล โตส(กลูโ คส+กลูโ คส)
  • 26. 3. นำ้ำ ตำลหลำยชั้น (โพลี แซคคำไรด์) ประกอบด้ว ยนำ้ำ ตำล โมเลกุล เดีย วมำกกว่ำ สองง โมเลกุล มำรวมกัน ไม่ม ร ส ี หวำนและไม่ล ะลำยนำ้ำ พืช และสัต ว์ม ก เก็บ ั คำร์โ บไฮเดรตในรูป นำ้ำ ตำล
  • 27. นำ้ำ ตำลชั้น เดีย ว(Monosaccharid e) • มีส ต รโมเลกุล C6 H12 O6 เป็น ู คำร์โ บไฮเดรตที่ม ข นำดโมเลกุล เล็ก ี ร่ำ งกำยย่อ ยสลำย และดูด ซึม ได้ง ่ำ ย เช่น • glucose เดกซ์โ ทรส นำ้ำ ตำลองุ่น • fructose หรือ นำ้ำ ตำลผลไม้ เป็น นำ้ำ ตำลธรรมชำติท ี่ห วำนที่ส ด พบในผล ุ ไม้ และนำ้ำ ผึง ้ • galactose ได้จ ำกกำรสลำยตัว ของ นำ้ำ นม
  • 28. กำรทดสอบนำ้ำ ตำล กลูำรละลำยเบเนดิก ซ์ - ทดสอบโดยใช้ส โ คส (Benedict ) เติม ลงในสำรที่ท ดสอบ นำำ ไปต้ม ถ้ำ เป็น กลูโ คส จะเปลี่ย นสี จำกสีฟ ้ำ เป็น ตะกอนสีส ม แดง หรือ ้ ส้ม อิฐ นำ้ำ ตำล - กลูโ คส + สำรละลำยเบเนดิก ซ์ ( สี ฟ้ำ ) ( ต้ม )
  • 29.
  • 30. นำ้ำ ตำล 2 ชั้น (Disacchari • de) • มีส ต รโมเลกุล C12 H22 O11 ู - เมือ ได้ร ับ จะไม่ส ำมำรถใช้ไ ด้ท ัน ที ่ ต้อ งเปลี่ย นเป็น นำ้ำ ตำลเชิง เดี่ย ววก่อ น ได้จ ำกกำรรวม ตัว ของนำ้ำ ตำล เชิง เดี่ย ว 2 โมเลกุล และเกิด กำร ควบแน่น ได้น ำ้ำ 1 โมเลกุล ดัง สมกำร • นำ้ำ ตำลเชิง เดี่ย ว + นำ้ำ ตำลเชิง เดี่ย ว นำ้ำ ตำลเชิง คู่ + นำ้ำ
  • 31. 1. Sucrose or นำ้ำ ตำลทรำย นำ้ำ ตำลอ้อ ย - ใช้ท ำำ ลูก อม เป็น สำรถนอมอำหำร กลูโ คส + ฟรุก โตส ซูโ ครส + นำ้ำ 2. Maltose มีใ นข้ำ วบำร์เ ลย์ หรือ ข้ำ ว มอลต์ - ใช้ท ำำ เบีย ร์ เครื่อ งดื่ม และอำหำร เด็ก กลูโ คส + กลูโ คส มอลโตส + นำ้ำ 3. lactose นำ้ำ ตำลนม
  • 32. นำ้ำ ตำลหลำยชั้น (Polysaccharide) - เช่น แป้ง ไกลโคเจน เซลลูโ ลส ไคติน แป้ง พบในเมล็ด รำก หรือ หัว และใบ ของพืช เช่น ข้ำ ว มัน เผือ ก กลอย ไกลโคเจน มีใ นร่ำ งกำยมนุษ ย์ ถูก สะสมไว้ ทีต ับ และกล้ำ มเนือ ่ ้ เมือ ร่ำ งกำยขำดแคลนเปลี่ย นเป็น ่ กลูโ คสได้ เซลลูโ ลส พบทีผ นัง เซลล์ข องพืช ทุก ชนิด ่ เอนไซม์ใ นร่ำ งกำย มนุษ ย์ย ่อ ยไม่ไ ด้ แต่ช ่ว ยเพิ่ม กำก อำหำร ส่ว นสิง มีช ีว ิต พวก ่
  • 33. กำรทดสอบ แป้งส ำรละลำย 1. ทดสอบแป้ง โดยใช้ ไอโอดีน ที่ม ีส ีเ หลือ งนำ้ำ ตำล 2. ถ้ำ มีแ ปงผสมอยู่ จะเปลีย นเป็น ่ สีน ำ้ำ เงิน เข้ม หรือ ม่ว งดำำ แป้ง + สำรละลำยไอโอดีน ( สีเ หลือ ง นำ้ำ ตำล )
  • 34.
  • 35. คำร์โ บไฮเดร ต 1. ให้พ ลัง งำนและควำมร้อ น คำร์โ บไฮเดรต 1 กรัม ให้พ ลัง งำน ประมำณ 4 แคลอรี 2. ช่ว ยให้ก ำรใช้ไ ขมัน ในร่ำ งกำย ดำำ เนิน ไปอย่ำ งปกติ ถ้ำ คำร์โ บไฮเดรตมีไ ม่เ พีย งพอใน อำหำร กำรใช้ไ ขมัน ในร่ำ งกำยจะไม่ สมบูร ณ์ด ้ว ย 3. คำร์โ บไฮเดรตบำงชนิด เช่น
  • 36. 4. โมเลกุล ของกลูโ คส ใช้ ในกำรสัง เครำะห์ กรดอะมิโ นในร่ำ งกำย 5. ร่ำ งกำยสำมำรถเปลี่ย น คำร์โ บไฮเดรตที่ เหลือ เป็น ไขมัน ได้ และ จะถูก สะสมใน ร่ำ งกำย ดัง นัน ไม่ค วรได้ ้
  • 38. โปรตีน เป็น ส่ว นประกอบของเซลล์ และเนื้อ เยื่อ ต่ำ งๆ มีธ ำตุ คำร์บ อน ไฮโดรเจน ออกซิเ จน และไนโตรเจน เป็น ส่ว นประกอบในปริม ำณ มำก ส่ว นธำตุท ี่ป ระกอบใน ปริม ำณน้อ ยได้แ ก่ กำำ มะถัน
  • 39.
  • 40. โปรตีน • เป็นสำรประกอบอินทรีย์ที่พบมำกในเซลล์ หรือ เนื้อเยื่อ เป็นอันดับ 2 รองจำกนำ้ำ • ถือว่ำเป็นสำรประกอบที่มีควำมสำำคัญยิ่ง ใน ฐำนะเป็นโครงสร้ำงของเซลล์ และเนื้อเยื่อทุก ชนิด เช่น ในกล้ำมเนือ เลือด เอนไซม์ และ ้ ฮอร์โมนต่ำงๆ • ประกอบด้วย หน่วยย่อยๆ คือ amino acid ยึดติดกันด้วย peptide bond • เป็นสำรอำหำรที่มีขนำดโมเลกุลใหญ่ที่สุด • ธำตุที่เป็นองค์ประกอบ สำำคัญของโปรตีน คือ C , H , O และ N
  • 41. กรดอะมิโ น เป็น สำร อำหำรที่ม ค วำมสำำ คัญ กับ ี สุข ภำพของมนุษ ย์แ ละสัต ว์ กรดอะมิโ นได้ม ำจำกกำรที่ โปรตีน ถูก ย่อ ย เพือ นำำ ไป ่ ใช้ใ นกำรสร้ำ งเนื้อ เยือ ่ ต่ำ งๆรวมทัง นำำ ไปเป็น ้ พลัง งำน กรดอะมิโ นที่ สำำ คัญ ได้แ ก่ ธรีโ อ
  • 42. ไม่ม ส มำธิใ นกำรทำำ งำน ี อำกำรเช่น นี้จ ะหมดไป เมือ เติม กรดอะมิโ นชนิด นี้ ่ ลงไปในอำหำร จะเห็น ได้ ว่ำ กรดอะมิโ นมีผ ลต่อ ร่ำ งกำยและสมอง
  • 43. เมื่อ อำหำรในโปรตีน ถูก ย่อ ย จะ กลำยเป็น กรดอะมิโ น กรดอะมิ โน แบ่ง เป็น่จ ำำ เป็น ต่อ ร่ำได้แ ก่ น กรด 1.กรดอะมิโ นที 2 พวก งกำย เป็ อะมิโ นที่ร ่ำ งกำยไม่ส ำมำรถ สัง เครำะห์ไ ด้ จำำ เป็น ต้อ งได้ร ับ จำก อำหำรเท่ำ นัน ้
  • 44. กรดอะมิโ นจำำ เป็น ( Essential amino acid ) หมำยถึง กรดอะมิโ นที่ จำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำย แต่ ร่ำ งกำยไม่ส ำมำรถ สัง เครำะห์ข น ได้เ อง หรือ ึ้ เปลี่ย นแปลงมำจำกกรดอะ มิโ นชนิด อืน ได้ (ต้อ งได้ ่ รับ จำกอำหำรโดยตรง )
  • 45. **โปรตีน ประเภทสมบูร ณ์ เป็น โปรตีน ที่ม ีก รดอะมิโ นจำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำยทุก ชนิด และอยู่ใ น สัด ส่ว นที่พ อเหมำะกับ ร่ำ งกำย โปรตีน ชนิด นี้ม ีอ ยู่ใ นเนื้อ สัต ว์ ไข่ นม และถั่ว เหลือ ง **
  • 46.
  • 47. 2.กรดอะมิโ นที่ไ ม่จ ำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำย ได้แ ก่ก รดอะมิโ นที่ร ่ำ งกำย สำมำรถสัง เครำะห์ข ึ้น เองได้ โปรตีน ประเภทสมบูร ณ์ เป็น โปรตีน ที่ม ีก รดอะมิโ นจำำ เป็น ต่อ ร่ำ งกำยทุก ชนิด และอยู่ใ นสัด ส่ว นที่พ อเหมำะ กับ ร่ำ งกำย โปรตีน ชนิด นี้ม ีอ ยู่ใ น เนื้อ สัต ว์ ไข่ นม และถั่ว เหลือ ง **
  • 48. กรดอะมิโ นไม่จ ำำ เป็น ( Nonessential amino acid ) - กรดอะมิโ นทีร ่ำ งกำยสัง เครำะห์ ่ ขึ้น ได้เ พีย งพอกับ ควำมต้อ งกำร ของร่ำ งกำย ( ไม่จ ำำ เป็น ต้อ งได้ รับ จำกอำหำร ) - จงอย่ำ เข้ำ ใจผิด ว่ำ กรดอะมิ โนไม่จ ำำ เป็น คือ กรดอะมิโ นที่ ร่ำ งกำยไม่จ ำำ เป็น ต้อ งใช้ ควำม จริง แล้ว ร่ำ งกำยต้อ งใช้ก รดอะมิ โนทั้ง 2 พวกในกำรสร้ำ ง
  • 49. รตรวจสอบหำโปร จะใช้ก ำรทดสอบที่เ รีย กว่ำ กำร ทดสอบไบยูเ ร็ต คือ กำรเติม สำรละลำยโซเดีย มไฮดรอกไซด์ และสำรละลำยคอปเปอร์ซ ัล เฟต ลงในอำหำร ถ้ำ สีข อง สำรละลำยเปลี่ย นจำกสีฟ ้ำ เป็น สี ม่ว ง หรือ สีช มพูอ มม่ว ง หรือ สีน ำ้ำ เงิน แสดงว่ำ อำหำรนั้น มี
  • 50.
  • 51. หน้ำ ที่ข อง โปรตีน 1. สร้ำ งเนื้อ เยื่อ ต่ำ งๆและซ่อ มแซม ส่ว นที่ส ก หรอ ในอวัย วะต่ำ งๆ ึ 2. เป็น ส่ว นประกอบของนำ้ำ ย่อ ย และฮอร์โ มน 3. เป็น ส่ว นประกอบของสำรเคมีท ี่ สำมำรถต้ำ นทำนโรค 4. ให้พ ลัง งำน คือ โปรตีน 1 กรัม ให้พ ลัง งำนประมำณ 4 แคลอรี
  • 52. เด็ก ขำดโปรตีน จะ เป็น โรค 1. โรคควำชิอ อร์เ คอร์ ( Kwashiorkor ) - พบเด็ก ที่ หย่ำ นมใหม่ๆ มือ เท้ำ บวม ท้อ ง ป่อ ง หน้ำ แบน ( 1 – 4 ปี ) 2. โรคมำรำสมัส ( Marasmus ) เกิด กับ เด็ก อำยุต ำ่ำ กว่ำ 1 ปี - ผอมแห้ง ไม่ม ีก ล้ำ มเนื้อ ผิว หนัง เหี่ย วย่น คล้ำ ยคน
  • 54. ไขมัน ประกอบด้ว ย คำร์บ อน ไฮโดรเจน และออกซิเ จน โมเลกุล ของไขมัน ประกอบด้ว ยกรีเ ซอรีน 1 โมเลกุล และกรดไขมัน 3 โมเลกุล ซึง อำจเป็น กรดไข ่ มัน ชนิด เดีย วกัน หรือ ต่ำ ง
  • 55. กรดไขมัน มีอ ยู่ 2 1.ชนิด ดัน ที่จ้ ำำ เป็น ต่อ กรดไขมั ง นี ร่ำ งกำย เป็น กรด ไขมัน ที่ร ำ งกำยไม่ส ำมำรถ ่ สังกรดไขมัน ที่ไ ม่จ ำำ เป็น 2. เครำะห์เ องได้ เช่น กรด ไลโนเลอิค มีมน กรดไขมัน ต่อ ร่ำ งกำย เป็ ำกในนำ้ำ มัน พื่ร ำ งกำยสำมำรถ ที ช่
  • 56. ไขมัน แบ่ง เป็น 2 ชนิดหำกร่ำนี้ ไ ข 1. ไขมัน อิ่ม ตัว ดัง งกำยมี มัน ชนิด นี้ม ำกเกิน ไป จะ ทำำ ให้ม ีโ อกำสเสี่ย งต่อ กำร เป็น โรคหลอดเลือ ดหัว ใจตีบ ตัน ไขมัน ชนิด อิ่ม ตัว จะพบ มำกในเนื้อ สัต ว์ท ี่ม ีส ีแ ดง มัน สัต ว์ หนัง สัต ว์ เครื่อ งใน สัต ว์ ไข่แ ดง กุ้ง ปู หอย
  • 57.
  • 58. 2. ไขมัน ไม่อ ิ่ม ตัว เป็น ไขมัน ที่ ช่ว ยลดกำรดูด ซึม ไขมัน อิ่ม ตัว ได้ และยัง ช่ว ยป้อ งกัน โรคหลอดเลือ ดหัว ใจ ตีบ ตัน พบมำกในถั่ว เต้ำ หู้ เห็ด และนำ้ำ มัน พืช (ยกเว้น นำ้ำ มัน มะพร้ำ ว นำ้ำ มัน ปำล์ม )
  • 59.
  • 60. หน้ำ ที่ข องไข มัน ๆ คือ ไขมัน 1. ให้พ ลัง งำนมำกกว่ำ สำร อำหำรประเภทอื่น 1 กรัม จะให้พ ลัง งำน 9 แคลอรี่ 2. ไขมัน ในอำหำรช่ว ยให้ อำหำรนุ่ม ขึ้น และอร่อ ยขึ้น 3. ช่ว ยละลำยวิต ำมิน ( เอ ดี อี เค) และช่ว ยดูด ซึม วิต ำมิน ดัง
  • 61. 4. ไขมัน ย่อ ยได้ช ้ำ กว่ำ คำร์โ บไฮเดรตและ โปรตีน  ทำำ ให้อ ยู่ใ น กระเพำะอำหำรเป็น เวลำนำนกว่ำ ทำำ ให้ร ส ึก อิม ู้ ่ ได้น ำน 5. ไขมัน ในร่ำ งกำยช่ว ย ป้อ งกัน กำรกระทบ
  • 62. สำรอำหำร ที่ไ ม่ใ ห้ พลัง งำน
  • 64. วิต ำมิน เป็น สำรอำหำรที่ไ ม่ใ ห้ พลัง งำน ร่ำ งกำยต้อ งกำร วิต ำมิน ในปริม ำณน้อ ยมำก เมื่อ เทีย บกับ ควำมต้อ งกำรสำร อำหำรประเภทที่ใ ห้พ ลัง งำน แต่ร ่ำ งกำยจะขำดไม่ไ ด้ ถ้ำ ร่ำ งกำยขำดวิต ำมิน แต่ล ะชนิด จะทำำ ให้ม ีค วำมผิด ปกติแ ตก
  • 65. จำกกำรทดสอบสมบัต ิใ น กำรละลำย วิต ำมิน สำมำรถ ละลำยได้ใ นตัว ทำำ ละลำยต่ำ ง กัน ดัง นั้น เรำจึง แบ่ง วิต ำมิน ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. วิต ำมิน ที่ล ะลำยได้ใ นไข มัน ได้แ ก่
  • 67.
  • 68.
  • 69.
  • 71.
  • 72.
  • 73.
  • 74. วิต ำมิน ที่ม ีค วำม สำำ คัญ ต่อ ร่ำ งกำย สำรอำหำรประเภท วิต ำมิน มีผ ลต่อ ร่ำ งกำย หำกได้ร ับ ในปริม ำณที่ เหมำะสม โดยวิต ำมิน แต่ล ะ ตัว มีผ ลต่อ สำำ คัญ แตกต่ำ ง กัน ออกไปดัง นี้
  • 75. พรรณเปล่ง ปลั่ง เส้น ผมเป็น เงำงำม แข็ง แรง พบใน ผัก สีเ ขีย ว เหลือ งจัด ตับ ไข่ ถั่ว เมล็ด แห้ง วิต ำมิน B1 (Thiamine) : ป้อ งกัน โรคควำมดัน โลหิต ตำ่ำ ช่ว ยกระตุ้น ระบบขับ ถ่ำ ย บำำ รุง สุข ภำพให้พ ้น จำก อำกำรผอมแห้ง แรงน้อ ย พบในยีส ต์ เนื้อ หมู ปลำทะเลตัว เล็ก เช่น ปลำกระ ตัก
  • 76. วิต ำมิน B2 (Riboflavin) : ช่ว ยรัก ษำ สุข ภำพตับ ให้ผ ว พรรณและดวงตำสดใส ิ ป้อ งกัน อำกำรปวดศรีษ ะเนือ งมำจำก ่ ควำมเครีย ด พบใน นมสด ไข่ ยีส ต์ เครื่อ ง ในสัต ว์ และปลำ วิต ำมิน B3 : ป้อ งกัน แก้ไ ขอำกำรปวด ศรีษ ะ ไมเกรน ช่ว ยในกำรทำำ งำนของระบบ ย่อ ยอำหำร ช่ว ยลดปริม ำณคอเรสเตอรอล พบใน ตับ ปลำ ไก่ ถั่ว เมล็ด แห้ง
  • 77. วิต ำมิน B5 : ป้อ งกัน ผมหงอกก่อ นวัย บรรเทำอำกำรปวดศรีษ ะ มีน งงจำก ควำมเครีย ด โรคภูม ิแ พ้ ช่ว ยสมำนแผล พบ ใน ผัก ใบเขีย ว ผลไม้ อำหำรทะเล วิต ำมิน B6 (Pyridoxine) : ป้อ งกัน ปัญ หำต่ำ งๆในช่อ งปำก โดยเฉพำะฟัน ผุ บำำ รุง สำยตำให้เ ห็น ได้ช ด เจน และดวงตำ ั แจ่ม ใส ช่ว ยลดปริม ำณคอเรสเตอรอลใน เลือ ดพบใน อำหำรทะเล กล้ว ยหอม ข้ำ ว ซ้อ มมือ ถั่ว แดง
  • 78. วิต ำมิน B12 (Cyanocobalamin) : บำำ รุง สมอง ระบบประสำท ทำำ ให้ค วำมจำำ ดี ลด อำกำรเบือ อำหำร ่ พบใน อำหำรทะเล แครอท วิต ำมิน C (Ascorbic acid) : ช่ว ยทำำ ให้ สุข ภำพเหงือ กและฟัน สมบูร ณ์แ ข็ง แรงดี แก้ป ญ หำระบบทำงเดิน ปัส สำวะ โรคภูม ิแ พ้ ั และลดควำมเสีย งจำกกำรเป็น มะเร็ง พบใน ่ ผลไม้ท ุก ชนิด ผัก สดทุก ชนิด
  • 79. ป้อ งกัน กำรเกิด สิว เพิม ควำมแข็ง แรง ่ ของกระดูก และฟัน พบใน นำ้ำ มัน ตับ ปลำ นมสด ไข่ วิต ำมิน E (Tocopherol) : ช่ว ย บำำ รุง ผิว พรรณให้ส ดใส กล้ำ มเนื้อ มี ควำมยืด หยุ่น บรรเทำอำกำรปวดร้อ น จำกแผลไฟไหม้ นำ้ำ ร้อ นลวก ทำำ ให้ แผลสมำนตัว เร็ว ขึ้น และไม่เ กิด รอย แผลเป็น พบใน นำ้ำ มัน พืช ถั่ว เมล็ด แห้ง ไข่ ผัก ใบเขีย ว นำ้ำ มัน ตับ ปลำ
  • 81. แร่ธ ำตุ เป็น สำรอำหำร อีก ประเภทหนึ่ง ที่ไ ม่ใ ห้พ ลัง งำน ร่ำ งกำยต้อ งกำรในปริม ำณน้อ ย แต่ข ำดไม่ไ ด้เ พรำะเกลือ แร่เ ป็น ส่ว นประกอบของอวัย วะและ เนื้อ เยื้อ ของร่ำ งกำย เช่น ฟัน กระดูก เลือ ด
  • 82. ประโยชน์ - ช่ว ยควบคุม กำรทำำ งำนของ อวัย วะต่ำ งๆของ ร่ำ งกำยเช่น เนื้อ เยื้อ ระบบ ประสำท - ช่ว ยควบคุม ควำมสมดุล ของ นำ้ำ กำรไหลเวีย น ของเหลวในร่ำ งกำย
  • 83.
  • 84.
  • 86. เปอร์เ ซ็น ต์ข องนำ้ำ หนัก ตัว นำ้ำ ทำำ หน้ำ ที่ล ำำ เลีย งงอำหำรและ สำรต่ำ ง ๆ ไปทั่ว ร่ำ งกำย ควบคุม แรงดัน เลือ ด ถ้ำ ร่ำ งกำยขำดนำ้ำ จะทำำ ให้ อุณ หภูม ิข องร่ำ งกำยยสูง เกิด ตะคริว หมดแรง หน้ำ มืด วิง เวีย น จนเสีย ชีว ิต ได้ ดัง นั้น ใน แต่ล ะวัน เรำจึง ควรดื่ม นำ้ำ อย่ำ ง น้อ ย 6-8 แก้ว หรือ รับ ประทำน ผัก หรือ ผลไม้ท ี่ม ีน ำ้ำ สะสมอยู่
  • 87.
  • 89. ประโยชน์ข องเส้น ใยอำหำรมีห ลำย ประเภทได้แ ก่ - ช่ว ยลดนำ้ำ หนัก เพรำะเส้น ใยอำหำร จะจับ ไขมัน จำกอำหำร - ป้อ งกัน โรคริด สีด วงทวำร เนือ งจำก ่ เส้น ใยอำหำรอุ้ม นำ้ำ จึง ช่ว ยให้ก ำรขับ ถ่ำ ยสะดวก - ช่ว ยลดระดับ ไขมัน ในเลือ ด เป็น กำร ป้อ งกัน โรคหลอดเลือ ด หัว ใจตีบ ตัน ด้ว ย - ป้อ งกัน กำรดูด ซึม สำรก่อ มะเร็ง ใน ลำำ ไส้ใ หญ่ เพรำะกำกอำหำร จะไม่ค ้ำ งในลำำ ไส้ใ หญ่น ำนเกิน
  • 90. ผู้ใ หญ่ค วรจะได้ร ับ เส้น ใย อำหำรวัน ละ 25 กรัม ส่ว นใน เด็ก คิด จำกอำยุบ วกด้ว ย 5 กรัม เช่น นัก เรีย นอำยุ 12 ปี ต้อ งรับ ประทำนอำหำรที่ม ี เส้น ใย = 12 + 5 = 17 กรัม ต่อ วัน
  • 91.
  • 92. สิ่ง ปนเปือ น ้ ในอำหำร
  • 93.  เป็น สำรพิษ ทีเ กิด ขึน จำก ่ ้ ธรรมชำติแ ละจำกกำรกระ ทำำ ของมนุษ ย์  ซึง มีผ ล ่ ทำำ ให้เ กิด อัน ตรำยต่อ ร่ำ งกำยจนถึง เสีย ชีว ิต ได้  สำรปนเปือ นในอำหำรแบ่ง ้ ตำมลัก ษณะกำรเกิด ได้ 2 ประเภทคือ                                        
  • 94. ธรรมชำติ  แบ่ง ออกตำมชนิด ของสำรพิษ ได้ด ัง นี้ 1.1  สำรพิษ จำกเชื้อ จุล ิน ทรีย ์ เช่น สำรอะฟลำทอก ซิน (aflagoxin)  ซึ่ง เป็น สำร สร้ำ งจำกเชื้อ รำพวกแอสเพอร์ จิล ลัส (aspergillus spp)  รำนี้ เจริญ ได้ด ีใ นถั่ว ลิส งและเมล็ด พืช ที่ช ื้น  ซึ่ง ควำมร้อ นสูง ไม่ สำมำรถทำำ ลำยสำรอะฟลำทอก ซิน ได้ส ่ว นใหญ่ส ำรนี้จ ะตกค้ำ ง
  • 95. 1.2  สำรพิษ จำกเห็ด บำงชิด  ทำำ ให้เ มำ  มีอ ำกำร คลื่น ไส้  และอำเจีย น 1.3   สำรพิษ ในพืช ผัก                                   
  • 96. มนุษ ย์   เป็น ผลมำจำกควำมเจริญ ทำง ด้ำ นวิท ยำศำสตร์แ ละเทคโนโลยีท ี่เ รำ นำำ มำใช้ใ น ชีว ิต ประจำำ วัน  มีด ัง นี้   2.1  สำรตกค้ำ งจำกกำรเกษตร  เช่น  ดีด ีท ี  ปุย  ยำปรำบศัต รูพ ืช ๋  ซึ่ง อำจสะสมในอำหำร  เมื่อ รับ ประทำน เข้ำ ไปจะเกิด อัน ตรำยต่อ สิ่ง มีช ีว ิต
  • 97. เป็น 3 ประเภทคือ                 1.  สำรกัน อำหำรเสีย  เป็น สำรที่ช ว ยให้อ ำหำร ่ คงสภำพ  รส  กลิ่น  เหมือ นเมื่อ แรกผลิต และ เก็บ ไว้ไ ด้น ำน  เช่น  สำร กัน บูด  สำรกัน หืน  เป็น ต้น                  
  • 98. 2.สำรแต่ง กลิน หรือ รส  เป็น สำรที่ ่ ช่ว ยให้อ ำหำรมีร สและกลิ่น ถูก ใจผู้ บริโ ภค  หรือ ใช้แ ต่ง กลิ่น รส   ผู้ บริโ ภคเข้ำ ใจคิด ผิด ว่ำ เป็น ของแท้ หรือ มีส ่ว นผสมอยูม ำกหรือ น้อ ยทั้ง ที่ ่ เป็น ของเทีย มสำรเหล่ำ นี้ไ ด้แ ก่ - เครื่อ งเทศ   - สำรกลิ่น ผลไม้  
  • 99. - สำรรสหวำนประเภทนำ้ำ ตำลเทีย ม ซึ่ง เป็น สำรที่ใ ห้ค วำม หวำนแต่ไ ม่ใ ช่น ำ้ำ ตำล - ผงชูร สเป็น สำรประกอบที่เ รีย กว่ำ มอ นอโซเดีย มกลูต ำเมต  ถ้ำ เป็น ผงชูร สปลอมจะใส่ส ำร โซเดีย ม เมตำฟอสเฟตและ บอแรกซ์  ซึ่ง เป็น อัน ตรำยต่อ ชีว ิต มำก
  • 100. ช่ว ยแต่ง เติม ให้อ ำหำรน่ำ รับ ประทำน ยิง ขึ้น  มีท ั้ง สีจ ำกธรรมชำติซ ึ่ง เป็น สีท ี่ ่ ได้จ ำกพืช และสัต ว์ไ ม่เ ป็น อัน ตรำยต่อ สิง มีช ีว ิต    เช่น     สีด ำำ จำกถ่ำ น ่      สีแ ดงจำกครั่ง       เป็น ต้น และ สีส ง เครำะห์ส ่ว นมำกจะเป็น ั สำรพิษ ที่ร ้ำ ยแรงต่อ ร่ำ งกำย มัก มีต ะกั่ว และโครเมีย มอยู่ เช่น สีย อ มผ้ำ ้
  • 101. สำรพิ1.ดิน ประสิ้อ นในอำหำร             ษ ปนเปื ว (โพแทกเซีย ม ที่ค วรรูจ ส ูต รเคมีนีMO3 นิย มใส่ ไนเตรต)มี ัก มีด ัง K ้ ้ ในอำหำรประเภทเนื้อ หมู  เนื้อ ปลำ เนื้อ วัว    ทำำ เนือ เปื่อ ย  สี ้ สวย  รสดี  และเก็บ ไว้ไ ด้น ำน  ซึ่ง เป็น สำรที่ก ่อ ให้เ กิด สำรไนโตร ซำมีน (nitrosamine)ซึ่ง เป็น สำร ก่อ ให้เ กิด มะเร็ง                 
  • 102. 2.ปรอท  พิษ ของสำรปรอทที่ไ ป สะสมในสมอง  ทำำ ให้ ประสำทหลอน  ควำมจำำ เสือ ม ่  เป็น อัม พำต เด็ก ในครรภ์ป ระสำท จะถูก ทำำ ลำย  นิ้ว มือ หงิก งอ  ปัญ ญำอ่อ น  และอำจตำยได้  อำกำรเช่น นี้เ รีย กว่ำ  โรคมิน ำมำ ตะ          
  • 103.   จะทำำ ลำยเซลล์ส มอง  ทำำ ลำย เม็ด เลือ ดแดง  ปวดศีร ษะและอำจตำยได้   4. โครเมีย ม  สำรประกอบของ โครเมีย มใช้ท ำำ สีย ้อ ม  พิษ ของโคเมีย มเป็น อัน ตรำย ต่อ ผิว หนัง และปอด 5. แคดเมีย ม  มีพ ษ ต่อ ปอดและ ิ ไต  ทำำ ให้เ กิด โรคอิไ ต-อิไ ต
  • 104. 6.สำรหนู  ทำำ ให้เ กิด โรคไข้ด ำำ  มี อำกำรเจีย น  ปวด ท้อ งรุน แรง  เป็น ตะคริว 7.สำรกัน บูด  สำรทีน ิย มใช้เ ป็น ่ สำรกัน บูด  ได้แ ก่   กรดซำลิว ำลิก กรอดบอริก และดำ เดีย มเบนโซเอต  
  • 105.  มีช ื่อ ทำงเคมีว ่ำ  “โซเดีย มบอเรต (sodium borate)”   ชำวบ้ำ น  เรีย กว่ำ  “ผงกรอบ”  หรือ คนจีน เรีย กว่ำ  “เพ่ง แช”  ใช้ใ ส่ล ูก ชิ้น  แป้ง กรอบ  ทำำ ให้ไ ตอัก เสบได้               
  • 106. 8.ผงเนื้อ นุ่ม  คือ บอแรกซ์ผ สม โซเดีย มไฮโดรเจนคำร์บ อเนต  สำร นี้ซ ึม เข้ำ สูผ ิว หนัง ได้  ทำำ ให้เ กิด ่ อำกำรคล้ำ ยเยื่อ หุ้ม สมองอัก เสบ  มี พิษ ต่อ ไตและเซลล์ต ่ำ งๆของ ร่ำ งกำย
  • 107. นำ้ำ ตำล  เช่น -       ซอร์บ ิท อล  หวำนกว่ำ นำ้ำ ตำลทรำย 2 ใน 3 เท่ำ -       ไซคลำเมต  หวำนกว่ำ นำ้ำ ตำลทรำย 30 เท่ำ -       แอสพำร์เ ทม  หวำน กว่ำ นำ้ำ ตำลทรำย 180 เท่ำ  ใช้ แทน นำ้ำ ตำลในเครื่อ งดื่ม  ลูก กวำด  หมำกฝรั่ง
  • 108. - ขัณ ฑสกรหรือ แช็ก คำริน  หวำน กว่ำ นำ้ำ ตำลทรำย 550 เท่ำ  เป็น นำ้ำ ตำลเทีย ม  ถ้ำ รับ ประทำนมำกจะเกิด อำกำร คลืน ไส้  อำเจีย น  ท้อ งเดิน  ชัก ่  ใช้แ ทนนำ้ำ ตำลทรำย สำำ หรับ ผู้ป ่ว ยเป็น โรคเบำหวำน และผู้ท ี่อ ้ว นมำก              
  • 109. ซึ่ง อำกำรที่เ กิด จำกสำรพิษ อำหำรบำงชนิด เป็น แต่ล ะชนิด จำำ แนกได้ พิษ ต่อก ษณะ โคือ   2 ลั ผู้บ ริ  ภค 1.  อำกำรเป็น พิษ แบบเฉีย บพลัน  คือ กำรเกิด อำกำรเป็น พิษ ภำย หลัง จำกรับ ประทำนอำหำรนั้น ๆ เข้ำ ไปไม่น ำนนัก ภำยในเวลำ 2-6 ชัว โมง  ลัก ษณะอำกำรที่พ บ  คือ ่  ท้อ งเสีย รุน แรง  คลื่น ไส้  หำยใจไม่อ อก  เป็น อัม พำตใน
  • 110. 2. อำกำรเป็น พิษ แบบเรื้อ รัง  คือ กำรเกิด อำกำรเป็น พิษ เนื่อ งจำกรับ ประทำน อำหำรที่ม ีส ิ่ง เป็น พิษ ปะปนอยู่ใ นปริม ำณน้อ ย และมีก ำรสะสมอย่ำ งต่อ เนื่อ งมำกขึ้น ทุก วัน จนมี ปริม ำณสำรพิษ ใน ร่ำ งกำยมำกขึ้น  อำกำร
  • 111. สำรปนเปือ นในอำหำร  ดัง นี้ ้ 1.  เลือกซื้ออำหำรที่มั่นใจว่ำไม่มีสำรพิษ เจือปน 2.  แช่ผักและผลไม้ในสำรละลำยนำ้ำส้ม สำยชูหรือสำรละลำยด่ำงง ทับทิมก่อนนำำมำรับประทำนทุกครั้ง 3.  เลือกรับประทำนอำหำรที่ใช้สปรุงแต่ง ี จำกธรรมชำติ 4.  เลือกซื้อสินค้ำที่ได้รับอนุญำตจำก องค์กำรอำหำรและ ยำ  กระทรวงสำธำรณสุข เพื่อรับรอง ควำมปลอดภัยของอำหำร
  • 113.         ในแต่ล ะวัน ร่ำ งกำยของ มนุษ ย์เ รำต้อ งกำรพลัง งำน จำกอำหำรเพือ นำำ ไปใช้ใ น ่ กิจ กรรมต่ำ งๆในปริม ำณที่ แตกต่ำ งกัน  ซึง พลัง งำนทีใ ช้ ่ ่ ในกิจ กรรมแต่ล ะอย่ำ งแตก ต่ำ งกัน ขึน อยูก ับ เพศ  วัย ้ ่  สภำพร่ำ งกำย  และกิจ กรรม ของแต่ล ะบุค คล  ดัง นี้
  • 114. 1.  ควำมแตกต่ำ งของเพศ  เพศชำยต้อ งกำรปริม ำณอำหำร มำกกว่ำ เพศหญิง  เนื่อ งจำกกำร ทำำ กิจ กรรมและกำรใช้พ ลัง งำน ของเพศชำยมำกกว่ำ เพศหญิง         2.  ควำมแตกต่ำ งของวัย  วัย ต่ำ งกัน ต้อ งกำรปริม ำณอำหำรที่ แตกต่ำ งกัน  เนื่อ งจำกกำรเจริญ เติบ โตและกำรทำำ กิจ กรรมต่ำ งกัน         
  • 115. 3.  ควำมแตกต่ำ งของสภำพ ร่ำ งกำย  หญิง ในระยะตั้ง ครรภ์ห รือ ระยะให้น มบุต ร  ต้อ งกำรสำรอำหำรทุก ประเภทในปริม ำณสูง กว่ำ ปกติ  โดยเฉพำะแคลเซีย มและ ฟอสฟอรัส  เป็น แร่ธ ำตุท ี่ ต้อ งกำรในปริม ำณสูง เพรำะ สำรอำหำรที่ร ีบ ประทำนเข้ำ ไป ส่ว นหนึ่ง จะถูก นำำ ไปใช้ใ นกำร
  • 116.
  • 117. แบบ ทดสอบ 1. นำ้ำ นมจัด เป็น อำหำร กลุ่ม ใด ก . โปรตีน ข . ไขมัน ค . คำร์โ บไฮเดรตง . วิต ำมิน
  • 118. ทำำ ข้อ ต่อ ไปค ่่ะ
  • 119. ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
  • 120. 2. แป้ง และนำ้ำ ตำลจัด เป็น อำหำรใน กลุ่ม ทีใ ห้ส ำรอำหำรประเภทใด ่ ก . แร่ธ ำตุ ข . วิต ำมิน ค . คำร์โ บไฮเดรต ง . เกลือ แร่
  • 122. ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
  • 123. 3. วิต ำมิน ในข้อ ใดที่ส ำมำรถละลำยใน ไขมัน แต่ไ ม่ล ะลำยในนำ้ำ ก. A D K ข. A B C ค. B C D ง. E D C
  • 124. ทำำ ข้อ ต่อ ไปค่ะ
  • 125. ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
  • 126. 4. สำรอำหำรในข้อ ใดทีใ ห้ ่ พลัง งำนทัง หมด ้ ก . ไขมัน โปรตีน วิต ำมิข . ไขมัน โปรตีน คำร์โ บ น ค . คำร์โ บไฮเดรต โปรตีน. คำร์โ บไฮเดรต แร่ธ ำตุ ง แร่ธ ำตุ
  • 127. ทำำ ข้อ ต่อ ไปค่ะ
  • 128. ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
  • 129. 5. สำรอำหำรประเภทใดอยู่ใ นกลุ่ม ที่ไ ม่ ให้พ ลัง งำน ก . ไขมัน ข . วิต ำมิน ค . โปรตีน ง . คำร์โ บไฮเดรต
  • 130. ทำำ ข้อ ต่อ ไปค่ะ
  • 131. ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
  • 132. 6. อำหำรประเภทเส้น ใยช่ว ย ป้อ งกัน และรัก ษำโรคใด ก . โรคริด สีด วงทวำร ข . โรคหัว ใจ ค . โรคตับ แข็ง ง . โรคเอดส์
  • 134. ย้อ นกลับ ไปทำำ ใหม่ค ่ะ
  • 135. สำรเสพติด และ กำรป้อ งกัน
  • 136. สำรเสพติด หมำยถึง สิ่ง ที่ เสพเข้ำ ไปในร่ำ งกำยแล้ว ทำำ ให้ ร่ำ งกำยต้อ งกำรสำรนั้น ใน ปริม ำณที่เ พิ่ม ขึ้น ไม่ส ำมำรถหยุด ได้ มีผ ลทำำ ให้ร ่ำ งกำยทรุด โทรมและสภำวะจิต ใจผิด ปกติ
  • 137. ประเภทของสำรเสพติด ประเภท ของสำรเสพติด แบ่ง ได้ 2 ประเภท ดัง นี้ 1. สิ่ง เสพติด ตำมธรรมชำติ ส่ว น ใหญ่ไ ด้ม ำจำกพืช เช่น ฝิ่น กัญ ชำ กระท่อ ม เป็น ต้น 2 สิ่ง เสพติด สัง เครำะห์ เกิด จำก มนุษ ย์จ ัด ทำำ ขึ้น เช่น เฮโรอีน ยำนอนหลับ ยำระงับ ประสำท ยำบ้ำ
  • 138. วัต ถุอ อกฤทธิ์ แบ่ง ออกเป็น 4 ประเภท ดัง นี้ ยำเสพติด ประเภทออกฤทธิ์ก ด ประสำท  จะออกฤทธิต ่อ ระบบประสำท ์ ส่ว นกลำงในสมองที่ค วบคุม ควำมรู้ส ก ึ  ซึ่ง สำมำรถช่ว ยบรรเทำอำกำรเจ็บ ปวด ลงได้  แต่ก ำรนำำ ยำกลุ่ม นีไ ปใช้ใ นทำงที่ ้ ผิด จะเป็น กำรเสพติด เพรำะใช้ม ำกเกิน กว่ำ ปริม ำณ  ยำเสพติด ในกลุม นีไ ด้แ ก่ ่ ้ ฝิน  มอร์ฟ ีน  เฮโรอีน  สำรระเหย   ่
  • 139. ยำเสพติด ประเภทกระตุ้น ประสำท  มีผ ลต่อ ระบบประสำททำำ ให้ ประสำทตึง เครีย ด ควำมคิด สับ สน เกิด ภำพหลอน  เพ้อ คลัง คล้ำ ยคนเป็น โรคจิต ่ ชนิด หวำดระแวงหรือ เป็น บ้ำ ได้ต ื่น เต้น ง่ำ ย  พูด มำก  มือ สัน  เหงื่อ ออกมำก  นอน ่ ไม่ห ลับ  กลิ่น ตัว แรง  ปำกและจมูก แห้ง  ริม ฝีป ำกแตก รูม ่ำ นตำเบิก กว้ำ ง  หัว ใจ เต้น แรงและเร็ว  ปวดศีร ษะ  เบือ อำหำร ่  คลื่น ไส้  อำเจีย น  ท้อ งเดิน  ปวดท้อ ง อย่ำ งรุน แรง ยำเสพติด ประเภทนี้ไ ด้แ ก่  ยำบ้ำ  โคเคน  เอ็ค ตำซี  กระท่อ ม
  • 140. ยำเสพติด ประเภทหลอนประสำท ได้แ ก่ เห็ด ขี้ค วำย  แอลเอสดี ฯลฯ  สำำ หรับ แอลเอสดีจ ะมีล ก ษณะเป็น ผลึก สีข ำว ไม่ม ี ั กลิ่น  มัก พบอยู่ใ นรูป ของกระดำษเคลือ บ ในลัก ษณะแสตมป์  (magicpaper) เม็ด กลม แบน   กลมรี   แคปซูล  ส่ว นเห็ด ขี้ค วำยมี สำรที่อ อกฤทธิท ำำ ลำยประสำทอย่ำ ง ์ รุน แรงเมื่อ บริโ ภคเข้ำ ไปจะเกิด อำกำรเมำ  เคลิบ เคลิ้ม และถึง ขนำดบ้ำ คลัง ในที่ส ด ่ ุ  ฤทธิ์ข องยำเสพติด กลุ่ม นีม ีผ ลต่อ ระบบ ้ ประสำทสมองส่ว นสัม ผัส ทั้ง 5 โดยฤทธิ์ ของยำเสพติด กลุ่ม นี้จ ะไปบิด เบือ นทำำ ให้
  • 141. เปลี่ย นแปลงไปจำกที่เ ป็น จริง เห็น ภำพลวงตำเป็น จิน ตนำกำร ที่ม ีท ั้ง ทีด ี  สวยงำมและน่ำ กลัว จนไม่ ่ สำมำรถควบคุม ได้  และถ้ำ ฤทธิห ลอน ์ ประสำทเกิด ขึ้น มำก ๆ จะทำำ ให้ผ ู้เ สพ กลำยเป็น คนบ้ำ ได้ใ นที่ส ด ุ
  • 142. ยำเสพติด ประเภทผสม ผสำน    ผูเ สพจะมีอ ำกำรโดยเบือ งต้น ้ ้ จะกระตุ้น ประสำทให้ผ ู้เ สพตืน ตัว  ร่ำ เริง ่  ช่ำ งพูด  หัว เรำะ  ตลอดเวลำต่อ มำจะกด ประสำททำำ ให้ร ู้ส ก คล้ำ ยเมำเหล้ำ  มี ึ อำกำรง่ว งนอน เซื่อ งซึม  เมือ เสพมำกขึน ่ ้ จะหลอนประสำท  อำจเห็น ภำพลวงตำ  หู แวว  หรือ มีก ำรหวำดระแวง  ควำมคิด สับ สนควบคุม ตนเองไม่ไ ด้  ผูเ สพกัญ ชำ ้ ส่ว นใหญ่ม ัก ป่ว ยเป็น โรคจิต ในภำยหลัง  
  • 143. ประเทศไทยเสพติด ที่พ บใน ประเทศไทยแบ่ง ออกได้ด ัง นี้ 1. สิง เสพติด ประเภทฝิน และ ่ ่ อนุพ ัน ธ์ข องฝิ่น ได้แ ก่ 1.1 ฝิ่น เป็น พืช ล้ม ลุก สำรเสพ ติด ได้จ ำกยำงฝิ่น ดิบ ซึ่ง กรีด จำกผล มี ลัก ษณะเหนีย ว สีน ำ้ำ ตำลไหม้   
  • 144. 1.2 มอร์ฟ ีน เป็น สำรแอลคำลอยด์ส กัด จำกฝิ่น เป็น ผลึก สีข ำวนวล มีฤ ทธิ์ร ุน แรงกว่ำ ฝิ่น 10 เท่ำ 1.3 เฮโรอีน เป็น สำรที่ส ัง เครำะห์ไ ด้ จำกมอร์ฟ น มีพ ิษ รุน แรงกว่ำ ี มอร์ฟ น 10 เท่ำ ี
  • 145. กัญชำ ฝิ่น มอร์ฟน ิ
  • 146. 2. สิง เสพติด ประเภทยำนอน ่ หลับ และยำระงับ ประสำท ได้แ ก่ 2.1 เชกโคนำล เป็นแคปซูลสีแดง เรียกว่ำ เหล้ำ แห้ง 2.2 อโมบำร์บ ท อล เป็นยำนอนหลับ ิ บรรจุในแคปซูลสีฟ้ำ ที่เรียกว่ำ นกสีฟ ้ำ 2.3 เพนโทบำร์บ ิท อล เป็นยำนอน หลับบรรจุในแคปซูลสี เหลืองที่เรียกว่ำ เสื้อ สีเ หลือ ง
  • 147. มีน เป็น ยำประเภทกระตุ้น ประสำท มีช ื่อ เรีย กหลำยชื่อ เช่น ยำแก้ง ว ง ่ ยำขยัน ยำบ้ำ เป็น ต้น ยำบ้ำ หรือ แอมเฟตำมีน มีล ัก ษณะเป็น ผง มีผ ลึก สี ขำว บรรจุใ นแคปซูล หรือ อัด เม็ด อำจ พบปลอมปนในยำคลอร์เ ฟนิร ำมีน พำรำเซตำมอล ยำเค
  • 149. ติด ทำำ ลำยทัง ร่ำ งกำยและจิต ใจ ้ เช่น ทำำ ให้ส มองถูก ทำำ ลำย ควำมจำำ เสื่อ ม ดวงตำพร่ำ มัว นำ้ำ ่ หนัก ลด ร่ำ งกำยซูบ ผอม ตำแห้ง เหม่อ ลอย ริม ฝีป ำกเขีย วคลำ้ำ เครีย ด เป็น ต้น 2. โทษต่อ ผูใ กล้ช ด ทำำ ลำย ้ ิ ควำมหวัง ของพ่อ แม่แ ละทุก คนใน ครอบครัว ทำำ ให้ว งศ์ต ระกูล เสื่อ ม เสีย
  • 150. 3.โทษต่อ สัง คม เกิด ปัญ หำทำงด้ำ น อำชญำกรรม สูญ เสีย แรงงำน สิ้น เปลือ งค่ำ ใช้จ ่ำ ยในกำรปรำบปรำม และกำรบำำ บัด รัก ษำ 4. โทษต่อ ประเทศไทย ทำำ ลำย เศรษฐกิจ ของชำติ
  • 152. เสพติด มีด ัง ต่อ ไปนี้     1. กำรป้อ งกัน ตนเอง ต้อ ง ออกกำำ ลัง กำยสมำ่ำ เสมอรับ ประทำน อำหำรที่ม ีป ระโยชน์ และพัก ผ่อ น ให้เ พีย งพอ เลือ กคบเพือ นที่ไ ม่ม ั่ว ่ สมสิ่ง เสพติด 2. กำรป้อ งกัน ในครอบครัว ต้อ งให้ค วำมรัก ควำมเข้ำ ใจ และ อบรมสั่ง สอนให้ร ู้ถ ึง โทษของสิ่ง เสพติด
  • 153. 3.กำรป้อ งกัน ในสถำนศึก ษำ ควรให้ ควำมรู้ซ ึ่ง สิ่ง เสพติด จัด นิท รรศกำรและกำรรณรงค์ต ่อ ต้ำ น สิง เสพติด ไปศึก ษำดุง ำน ่ ณ สถำนบำำ บัด ผู้ต ิด ยำเสพติด 4. กำรป้อ งกัน ในชุม ชน ควรจัด สถำน ที่อ อกกำำ ลัง กำย และจัด กลุ่ม แม่บ ้ำ น ให้ค วำมรู้เ รื่อ งสิง เสพติด ่