More Related Content
More from Pannathat Champakul
More from Pannathat Champakul (20)
2 2
- 1. 2.2 ภาพช่วย (auxiliary view)
คาจากัดความ
ในการเขียนแบบนั้นจะต้องให้รายละเอียดที่ชัดเจนและมีขนาดเป็นจริงแต่มีงานบางประเภทที่มีลักษณะ ผิวเอียง
(inclines Surface)ซึ่งมีผลทาให้ขนาดและรูปร่างของชิ้นงานเปลี่ยนแปลงไปจากความเป็นจริง จึงต้องเขียนภาพช่วยโดยการ
หมุนภาพที่เอียง ทามุม 90 ให้ตั้งฉากกับระดับสายตา
รูป A เป็นการมองภาพแต่ละด้านโดยใช้หลักการ Glass Box คือใช้กล่องใสครอบชิ้นงานแล้วมองภาพแต่ละด้าน
รูป B เป็นการฉายภาพช่วยออกจากภาพด้านบนและด้านข้างซึ่งจะได้ความสูงจริงและความยาวจริงของชิ้นงาน
รูปที่ 2.10 แสดงการเขียนภาพช่วยด้วยระบบ A-TYPE
2.2.1 ชนิดของภาพช่วย
ขึ้นอยู่กับลักษณะการฉายภาพ มี 3 ชนิด คือ
1. ฉายจากด้านบน (top view) แสดงส่วนสูงจริงคือชิ้นงานจะมีผิวเอียงทางด้านบน
2. ฉายจากด้านหน้า(front view) แสดงความหนาจริงคือชิ้นงานจะมีผิวเอียงทางด้านหน้า
3. ฉายจากด้านข้าง (side view) แสดงความยาวจริงคือชิ้นงานจะมีผิวเอียงทางด้านข้าง
- 2. รูปร่างลักษณะภาพช่วย มี 4 แบบ คือ
1. งานตั้งฉาก (perpendicular) หมายถึงชิ้นงานมีลักษณะตั้งฉากกันและมีผิวเอียง
2. งานกลม (round) หมายถึงชิ้นงานที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอก เช่น ท่อตัดปากเฉียง
3. งานเป็นมุม (angular) หมายถึงงานที่มีลักษณะเป็นมุมฉากแต่มีพื้นผิวที่เอียง
4. งานโค้ง (curved) หมายถึงชิ้นงานที่มีลักษณะโค้งและมีผิวเอียง
ขั้นตอนการเขียนภาพ มี 4 ขั้นตอน
1. เขียนภาพฉาย (orthographic) ทั้ง 3 ด้าน
2. ฉายเส้นตั้งฉากกับพื้นผิวที่เอียง
3. ลากเส้นอ้างอิง (reference line) ขนานกับผิวเอียงและตั้งฉากกับเส้นฉายหรือสร้างกรอบให้มีขนาดความกว้างเท่า
งานจริงและมีความยาวเท่ากับผิวเอียง
4. ถ่ายขนาดความหนาของชิ้นงานจะได้ภาพช่วยที่สมบูรณ์
รูปที่ 2.11 แสดงขั้นตอนการเขียนภาพช่วยด้วยระบบ A-TYPE
- 3. ขั้นตอนการเขียนภาพช่วย
- เขียนภาพฉาย(orthographic)
- ฉายเส้นตั้งฉากกับพื้นผิวที่เอียง
- ลากเส้นอ้างอิง(reference line)ขนานกับผิวเอียง
- ถ่ายขนาดความหนาของชิ้นงาน
จากรูปเป็นขั้นตอนการเขียนภาพช่วยซึ่งมีอยู่ 4 ขั้นตอนและเป็นการเขียนภาพช่วยออกจากภาพด้านหน้าจะแสดงความหนา
จริงของชิ้นงาน
รูปที่ 2.12 แสดงขั้นตอนการเขียนภาพช่วยด้วยระบบ A-TYPE
การเขียนภาพช่วยสามารถเขียนได้3 วิธี
- การเขียนภาพช่วยแบบเต็ม(Full Auxiliary)หมายถึงการมองภาพให้ตั้งฉากกับผิวเอียงเห็นส่วนไหนของชิ้นงานต้อง
เขียนภาพทั้งหมด
- การเขียนภาพช่วยแบบครึ่ง(Half Auxiliary)หมายถึงการเขียนบริเวณพื้นผิวที่เอียงครึ่งเดียวเพื่อประหยัดเวลา เช่นงาน
หน้าแปลนของท่อ
- การเขียนภาพช่วยเฉพาะส่วน(Partial Auxiliary)หมายถึงการเขียนภาพเฉพาะส่วนที่เป็นผิวเอียงเท่านั้น
รูปที่ 2.13 แสดงการเขียนภาพไอโซเมตริกและภาพฉายของผิวหน้าที่ไม่ใช่ขนาดจริง
- 5. รูปที่ 2.14 แสดงการเขียนภาพช่วยแบบเต็ม แบบครึ่งและแบบเฉพาะส่วนด้วยระบบ A-TYPE
การเขียนภาพช่วยสามารถเขียนได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับชิ้นงานมีความเอียงจากภาพด้านใดต้องเขียนภาพช่วยออกจาก
ภาพด้านนั้นและขึ้นอยู่กับลักษณะของภาพช่วยในกรณีที่ชิ้นงานมีลักษณะตั้งฉากกันและมีผิวเอียงต้องเขียนภาพช่วยจากด้าน
ที่เอียงดังภาพ
ภาพช่วยแบบครึ่ง
ภาพช่วยแบบเฉพาะส่วน
- 6. รูปที่ 2.15แสดงการเขียนภาพช่วยแบบเต็ม ด้วยระบบ A-TYPE
การฉายภาพจากด้านบนได้ความสูงจริง
การเขียนภาพช่วยจะต้องเขียนบริเวณผิวเอียงของชิ้นงานเท่านั้น ในกรณีที่ชิ้นงานมีความเอียงจากภาพด้านบนการ
ฉายภาพช่วยจะฉายออกจากภาพด้านบนซึ่งจะได้ขนาดความสูงจริงของชิ้นงานการฉายภาพออกจากผิวเอียงทางด้านข้างจะได้
ขนาดความยาวจริงของชิ้นงานดังภาพ
ภาพช่วยแบบเต็ม
- 7. รูปที่ 2.16 แสดงการฉายภาพช่วยจากด้านบนด้วยระบบ A-TYPE
การฉายภาพจากด้านข้างได้ความยาวจริง
การเขียนภาพช่วยจะต้องเขียนบริเวณผิวเอียงของชิ้นงานเท่านั้น ในกรณีที่ชิ้นงานมีความเอียงจากภาพด้านข้างการ
ฉายภาพช่วยจะฉายออกจากภาพด้านข้างซึ่งจะได้ขนาดความยาวจริงดังภาพ
รูปที่ 2.17 แสดงการฉายภาพช่วยจากด้านข้างด้วยระบบ A-TYPE
- 9. รูปที่ 2.19 แสดงการฉายภาพทางด้านหน้าด้วยระบบ A-TYPE
การเขียนภาพช่วยของชิ้นงานกลมตัดปากเฉียง มีวิธีการเขียนดังนี้
- เขียนภาพฉาย
- แบ่งส่วนวงกลมออกเป็นส่วนๆเท่าๆกัน
- สร้างกรอบสี่เหลี่ยมยาวเท่ากับผิวเอียงกว้างเท่ากับขนาดของวงกลม
- ฉายเส้นจากวงกลมภาพด้านบนลงมาที่ภาพด้านหน้าบริเวณผิวเอียงแล้วฉายให้ตั้งฉากกับผิวเอียงไปยังกรอบสี่เหลี่ยม
- ถ่ายขนาดจากความกว้างของชิ้นงานจากภาพด้านบนลงในกรอบสี่เหลี่ยม
- เขียนส่วนโค้งเป็นรูปวงรี ดังภาพ
รูปที่ 2.20 แสดงการเขียนภาพช่วยแบบกลม ด้วยระบบ A-TYPE
การเขียนภาพช่วยสามารถเขียนได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับชิ้นงานมีความเอียงจากภาพด้านใดต้องเขียนภาพช่วยออกจาก
ภาพด้านนั้นและขึ้นอยู่กับลักษณะของภาพช่วยในกรณีที่ชิ้นงานมีลักษณะเป็นมุมฉากกันและมีผิวเอียงต้องเขียนภาพช่วยจาก
ด้านที่เอียงดังภาพ
- 10. รูปที่ 2.21 แสดงการเขียนภาพช่วยแบบมุมฉากด้วยระบบ A-TYPE
การเขียนภาพช่วยงานรูปโค้ง(curved auxiliary)
1. สร้างกรอบสี่เหลี่ยมมีความกว้างเท่ากับภาพด้านบนมีความยาวเท่ากับผิวเอียง
2. สร้างส่วนที่เกินส่วนโค้งลงในกรอบสี่เหลี่ยม
3. แบ่งส่วนโค้งฉายเส้นหาภาพด้านหน้าและกรอบออกเป็น 7 ส่วนเท่าๆกัน
4. ถ่ายขนาดจากภาพด้านข้างทั้ง 7 เส้นใส่ในกรอบสี่เหลี่ยม
5. ลากเส้นตามจุดตัดจะได้ขนาดภาพช่วยจริง ดังภาพ
- 11. รูปที่ 2.22 การเขียนภาพช่วยงานรูปโค้ง (curved auxiliary)ด้วยระบบ A-TYPE
การเขียนภาพช่วยแบบสองครั้ง(secondary aux.)
การเขียนภาพช่วยโดยวิธีนี้จะเขียนสองครั้งเพราะถ้าเขียนครั้งเดียวจะให้รายละเอียด
ไม่ชัดเจนมีหลักการเขียนดังนี้
- เขียนภาพฉายของภาพด้านหน้า
- ฉายภาพจากภาพด้านหน้าออกไปทางด้านข้าง
- เขียนภาพฉายครั้งที่หนึ่งจะได้ภาพด้านข้างแสดงความยาวจริงของผิวเอียง
- จากภาพด้านข้างฉายภาพออกไปให้ตั้งฉากกับเส้นอ้างอิง
- เขียนภาพฉายครั้งที่สองจะได้ขนาดความกว้างยาวจริง
- จะได้ภาพฉายเฉพาะส่วนดังภาพ
- 12. รูปที่ 2.23 แสดงการเขียนภาพช่วยแบบสองครั้งด้วยระบบ A-TYPE
ภาพช่วยแบบเฉพาะส่วน (partial auxiliary)
การเขียนภาพช่วยโดยวิธีนี้จะเขียนเฉพาะส่วนที่เป็นผิวเอียงของผิวงานเท่านั้นมีวิธีการเขียนดังนี้
รูป A มองภาพแต่ละด้านโดยใช้หลักการ Glass Box
รูป B เขียนภาพฉายทั้งสามด้าน
รูป C ฉายภาพช่วยออกจากภาพด้านข้างบริเวณที่เป็นผิวเอียงให้เส้นฉายตั้งฉากกับผิวเอียงถ่ายขนาดจะได้ขนาดความ
กว้างยาวจริงของภาพช่วยแบบเฉพาะส่วน ดังรูป