SlideShare a Scribd company logo
1 of 31
แบบทดสอบโรงเรียนวรัญญาวิทย์ 
เรื่อง คำ สรรพนำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย 
ระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๗ 
เวลำ ๒๐ นำที ๑๐ คะแนน 
ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย  ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 
๑. ข้อใดเป็นควำมหมำยของคำ นำม 
ก. คำ ที่ทำ หน้ำที่ใช้แสดงควำมรู้สึกของคน 
ข. คำ ที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ 
ค. คำ ที่ใช้แทนชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ 
ง. คำ ที่ทำ หน้ำที่ขยำยคำ 
๒. คำ ในข้อใดเป็นคำ นำมทุกคำ 
ก. ทำ ดี ที่ไหน 
ข. ปรึกษำ หำรือ 
ค. ภูเขำ กอไผ่ 
ง. น้ำ ท่วม น้ำ ใจ 
๓. วิสำมำนยนำม หมำยถึง 
ก. คำ นำมบอกอำกำร 
ข. คำ นำมที่บอกลักษณะของนำมที่อยู่ข้ำงหน้ำ 
ค. คำ นำมที่ใช้เรียกชื่อทั่ว ๆไป 
ง. คำ นำมที่เป็นชื่อเฉพำะ 
๔. คณะทูตกำ ลังเดินทำงมำประเทศไทย คำ ว่ำ “คณะ” เป็น คำ นำมประเภทใด 
ก. สมุหนำม 
ข. ลักษณะนำม 
ค. สำมำนยนำม 
ง. วสิำมำนยนำม 
๕. คำ ในข้อใดเป็นคำ นำมทั่วไปหรือสำมำนยนำม 
ก. ประเทศไทย
ข. นักกีฬำ 
ค. ดวงจันทร์ 
ง. พระรำม 
๖. คำ ว่ำ “ขัน” ในข้อใดเป็นคำ นำม 
ก. นกเขำขันไพเรำะ 
ข. คุณป้ำกำ ลังเช็ดขันน้ำ 
ค. พ่อขันน็อตรถจักรยำน 
ง. เขำทำ ตัวน่ำขันเสียจริง 
๗. คำ นำมในข้อใดมีลักษณะนำมว่ำ “เล่ม” เหมือนกันทุกคำ 
ก. หนังสือ กรรไกร เกวียน 
ข. หนังสือ ช้อน เทียน 
ค. เข็ม ร่ม นำฬิกำ 
ง. บ้ำน เข็ม ตะปู 
๘. ข้อใดไม่ใช่หน้ำที่ของคำ นำม 
ก. เป็นส่วนขยำย 
ข. เป็นกรรมของประโยค 
ค. เป็นประธำนของประโยค 
ง. เป็นคำ ที่ทำ หน้ำที่เชื่อมประโยค 
๙. ข้อใดมีลักษณะนำมของคำ ว่ำ “เลำ” 
ก. แห อวน 
ข. เกวียน เทียน 
ค. ขลุ่ย ปี่ 
ง. บ้ำน มุ้ง 
๑๐. คำ ในข้อใดเป็นคำ นำมบอกอำกำรหรืออำกำรนำม 
ก. กำรบ้ำน 
ข. ควำมสำมัคคี 
ค. ควำมรัก 
ง. กำรจรำจร 
แบบทดสอบโรงเรียนวรัญญาวิทย์ 
เรื่อง คำ สรรพนำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย 
ระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๗ 
เวลำ ๒๐ นำที ๑๐ คะแนน
ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย  ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว 
๑. ข้อใด คือควำมหมำยของคำ สรรพนำม 
ก. คน สัตว์ และสิ่งของ 
ข. คำ ชนิดหนึ่งที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม 
ค. คำ นำมชี้เฉพำะ เช่น ผู้หญิงใส่เสื้อสีแดง 
ง. บอกหมวดหมู่ หรือสิ่งที่มีจำ นวนมำก 
๒. คำ สรรพนำม มีประโยชน์อย่ำงไร 
ก. เพื่อให้ใช้ได้ง่ำย 
ข. เพื่อช่วยให้เนื้อควำมสละสลวยไพเรำะมำกขึ้น 
ค. บอกหมวดหมู่ หรือสิ่งที่มีจำ นวนมำก 
ง. บอกเวลำและสถำนที่ 
๓. คำ สรรพนำม สำมำรถแบ่งออกเป็นกี่ประเภท 
ก. ๓ ประเภท คำ ที่ใช้แทน คน 
ข. ๔ ประเภท คำ ที่ใช้แทน สัตว์ สิ่งของ 
ค. ๕ ประเภท คำ ที่ใช้แทน คน - สัตว์ สิ่งของ 
ง. ๖ ประเภท คำ ที่ใช้แทน คน- สัตว์ สิ่งของ -ธรรมชำติ 
๔. ข้อใด คือควำมหมำยของ บุรุษสรรพนำม 
ก. คำ สรรพนำมใช้เชื่อมประโยค ทำ หน้ำที่แทนคำ นำม 
ข. เป็นคำ สรรพนำมที่ใช้แทนผู้พูด ผู้ฟัง 
ค. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมเพื่อแยกออกเป็นส่วนๆ เป็นคนๆ หรือเป็นพวกๆ 
ง. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง 
๕. บุรุษสรรพนำม สำมำรถแบ่งออกได้เป็นกี่ชนิด 
ก. ๑ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ 
ข. ๒ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ สรรพนำมบุรุษที่ ๒ 
ค. ๓ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ สรรพนำมบุรุษที่ ๒ สรรพนำมบุรุษที่ ๓ 
ง. ๓ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ สรรพนำมบุรุษที่ ๒ สรรพนำมบุรุษที่๓ สรรพนำมบุรุษที่ ๔ 
๖. คำ สรรพนำมที่ใช้เชื่อมข้อควำมเรียกว่ำอะไร 
ก. วิภำคสรรพนำม 
ข. ประพันธสรรพนำม 
ค. ปฤจฉำสรรพนำม 
ง. นิยมสรรพนำม 
๗. ข้อใดเป็นปฤจฉำสรรพนำม
ก. ใครจะมำหำก็เข้ำมำ 
ข. อะไรๆก็ใส่ไว้ในตู้หมด 
ค. เธอชอบอะไร 
ง. ท่ำนอยู่ในห้อง 
๘. นำมบอกระยะเรียกว่ำ… 
ก. อนิยมสรรพนำม 
ข. นิยมสรรพนำม 
ค. ปฤจฉำสรรพนำม 
ง. วิภำคสรรพนำม 
๙. คำ ว่ำ กัน ข้อใดเป็นวิภำคสรรพนำม 
ก. นักเรียนคุยกัน 
ข. แม่เธอกีดกันผม 
ค. แล้วกันจะมำหำแกที่หลัง 
ง. ตำ รวจกันฝูงชนออกไป 
๙. ข้อใด คือควำมหมำยของ อนิยมสรรพนำม 
ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน 
ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น 
ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน 
ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป 
๑๐. "ใคร"ในข้อใดเป็นสรรพนำมชนิดที่แตกต่ำงจำกข้ออื่น 
ก. ใครจะไปเที่ยวกับเรำบ้ำง 
ข. ไม่มีใครอยู่ในบ้ำนเลย 
ค. ใครก็ไม่สำมำรถช่วยเธอได้ 
ง. ใครจะทำ อะไรก็ตั้งใจทำ 
1. ถ้วย....นั้นรำคำย่อมเยำน่ำใช้ ข้อใดเหมำะสมนำ มำเติมในช่องว่ำง 
ก. ใบ ข. อัน ค.ถ้วย ง. พวก 
2. เด็ก ๆ เห็นม้ำ......หนึ่งที่กำ ลังวิ่งขวักไขว่อยู่ชำยป่ำ ข้อใดเหมำะสมนำ มำเติมในช่องว่ำง 
ก. ตัว ข. ฝูง ค. กลุ่ม ง. โขลง 
3. “โรงเรียนนี้ เรำไม่เคยได้ยินชื่อ” คำ ที่ขีดเส้นใต้เป็นคำ นำมที่ทำ หน้ำที่อะไร 
ก. เป็นภำคแสดง ข. เป็นภำคประธำน
ค. เป็นกรรมของประโยค ง. เป็นประธำนของประโยค 
4. วิธีทดสอบว่ำคำ ใดทำ หน้ำที่เป็นกรรมรองทำ ได้อย่ำงไร 
ก. ตัดคำ นำมออก 
ข. แยกประโยคออกทีละประโยค 
ค. แทรกคำ บุพบทเข้ำไปในประโยค 
ง. แทรกคำ “ให้แก่” เข้ำไปในประโยค 
5. ข้อใดใช้ลักษณะนำมผิด 
ก. ขลุ่ย – เลำ ข. สวิง – ปำก 
ค. งำช้ำง – งำ ง. สักวำ - บท 
6. ข้อใดเป็นอำกำรนำม 
ก. กำรงำน ข. กำรเมือง ค. กำรกิน ง. กำรพำณิชย์ 
7. “นักกีฬำของโรงเรียนบ้ำนลำ แก่น ชนะใจคนดู” คำ ที่ขีดเส้นใต้เป็นคำ นำมชนิดใด 
ก. คำ นำมสำมัญ ข. คำ ชื่อเฉพำะ 
ค. คำ นำมรวมหมู่ ง. คำ นำมธรรม 
8. ข้อใดให้คำ จำ กัดควำม “คำ นำม” ได้ถูกต้องที่สุด 
ก. คำ ที่ทำ หน้ำที่แทนบุคคล 
ข. คำ ที่แสดงควำมหมำยของกำรกระทำ 
ค. คำ ที่แสดงควำมหมำยถึงบุคคล สัตว์ และสิ่งของ 
ง. คำ ที่แสดงควำมหมำยเฉพำะสิ่งมีชีวิตเท่ำนั้น 
9. ข้อใดมีคำ นำมที่ทำ หน้ำที่เป็นนำมเรียกขำน 
ก. ฉันคือนำฬิกำดำ แล้ว 
ข เขำชอบดื่มนมมำกกว่ำสิ่งอื่น 
ค. เขำชอบดื่มนำมมำก ๆ เวลำกลำงคืน 
ง. นักเรียนฟังครูอธิบำยให้เข้ำใจก่อน 
10. ข้อใดไม่ใช่หน้ำที่ของคำ นำม 
ก. เป็นกรรม ข. เป็นประธำน 
ค. ขยำยกริยำ ง. เป็นคำ เรียกขำน 
11. ข้อใดเป็นสรรพนำมบุรุษที่ ๒ 
ก. ทูลกระหม่อม 
ข. พระองค์ท่ำน 
ค. เกล้ำกระหม่อม 
ง. ใต้ฝ่ำละอองธุลีพระบำท
ข้อใด คือควำมหมำยของ ปฤจฉำสรรพนำม 
ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน 
ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น 
ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน 
ง. ใช้แทนคำ นำม ที่มีเนื้อควำมเป็นคำ ถำม เช่น ใคร อะไร ผู้ใด ไหน 
1. ข้อใด คือควำมหมำยของ ประพันธสรรพนำม 
ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน 
ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น 
ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน 
ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป 
2. ข้อใด คือควำมหมำยของ วิภำคสรรพนำม 
ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน 
ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น 
ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน 
ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป 
3. ข้อใด คือควำมหมำยของ นิยมสรรพนำม 
ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน 
ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น 
ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน 
ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป 
ข้อที่ 1) 
คาว่า ท่าน ในข้อใดเป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 
ท่ำนอยู่ไหนครับ 
ท่ำนครับผมมำหำ
ท่ำนค่ะตื่นเถอะค่ะ 
ท่ำนผู้ฟังที่เคำรพ 
ข้อที่ 2) 
คาว่า ต่าง ข้อใดเป็นวิภาคสรรพนาม 
ฝำแฝดสองคนต่ำงกันมำก 
เขำให้รูปไว้ดูต่ำงหน้ำ 
เธอเดินไปที่หน้ำต่ำง 
นักเรียนต่ำงคนต่ำงเรียน 
ข้อที่ 3) 
ข้อที่ 4) 
ข้อใดเป็นนิยมสรรพนาม 
ใครรำนใครรุกด้ำว แดนไทย 
โน่นแน่ะนกเขำคู 
เด็กคนนี้เป็นคนดี 
ท่ำนผู้ใดทรำบข้อมูล 
ข้อที่ 5) 
ข้อใดเป็นอนิยมสรรพนาม 
ใครมำหำแม่ 
แม่ทำ อะไร 
อะไรๆแม่ก็ทำ เป็น 
แม่ชอบไปไหน
ข้อที่ 6) 
คาว่า ที่ ข้อใดไม่ใช่ประพันธสรรพนาม 
เขำมำหำฉันที่ตลำด 
ครูรักนักเรียนที่ตั้งใจเรียน 
คนที่ยืนอยู่เป็นครู 
เขำทำสีบ้ำนที่ตั้งอยู่บนเนิน 
ข้อที่ 7) 
ข้อใดไม่มีบุรุษสรรพนาม 
จะล่วงได้ยินเรำพำที 
ข้ำนี้ลืมพวงบุปผำ 
ลับตำหำมีใครเห็นไม่ 
ท่ำนผู้เรืองฤทธำดังเพลิงกรด 
ข้อที่ 8) 
ข้อใดไม่ใช่สรรพนามเน้นความรู้สึก 
ท่ำนมำหำใคร 
คุณแม่ท่ำนใจดี 
ตำบัวแกขี้โมโห 
ไอ้แดงมันขี้ขโมย 
ข้อที่ 9) 
ข้อที่ 10) 
ข้อที่ 1) 
ข้อใดไม่ใช่สรรพนำมใช้แทนผู้พูด 
ผม
ท่ำน 
ฉัน 
ข้ำพเจ้ำ 
ข้อที่ 2) 
ข้อใดมีสรรพนำมใช้ชี้ระยะ 
เสื้อสีนี้สวยมำก 
ไหนเสื้อเธอล่ะ 
นั่นคือบ้ำนของสมชำย 
เวลำนั้นเกิดพำยุพัดอื้ออึง 
ข้อที่ 3) 
ข้อที่ 4) 
"ครูถำมนักเรียนที่นั่งหลังห้อง" ข้อใดคือสรรพนำมใช้เชื่อมประโยค 
ที่ 
ถำม 
นั่ง 
หลัง 
ข้อที่ 5) 
คำ ว่ำ"ข้ำพระพุทธเจ้ำ"ใช้กับใคร 
เจ้ำนำยชั้นผู้ใหญ่ 
เจ้ำนำยเสมอกัน 
ต่ำ กว่ำเจ้ำนำย 
เจ้ำนำยชั้นสูง
๑. คำ นำมคืออะไร 
ก. คำ ที่เป็นชื่อของคน สัตว์ สถำนที่ สิ่งของ 
ข. คำ ที่ใช้เรียกคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ 
ค. คำ ที่สร้ำงมำจำกคำ กริยำ โดยใช้คำ ว่ำ “กำร” และ “ควำม” นำ หน้ำ 
ง. คำ ที่แสดงลักษณะของคำ อื่นว่ำเป็นอย่ำงไรรวมทั้งบอกกำรกระทำ ว่ำ ทำ อะไร 
๒. คำ ที่ขีดเส้นใต้ต่อไปนี้คำ ใดเป็นคำ นำม 
ก. พี่เป็นคนภำคใต้ 
ข. เขำมำอย่ำงรวดเร็ว 
ค. มยุรำเดินบนถนนสำยนี้ 
ง. ภูเขำสูงแค่ไหนก็ยังวัดได้ 
๓. ข้อควำมต่อไปนี้ข้อใดไม่มีคำ นำมปรำกฏอยู่เลย 
ก. หมำวิ่งไล่แมว 
ข. ฉันยังจำ เธอได้ 
ค. นกตัวนี้เกำะบนกิ่งไม้ 
ง. กำรกระทำ เป็นเครื่องส่อเจตนำ 
๔. ประโยคต่อไปนี้ประโยคใดมีคำ นำมมำกที่สุด 
ก. คนเดินบนถนน 
ข. ฟ้ำมืดท่ำทำงฝนจะตก 
ค. เดือนดำวกำ ลังจะลับจำกฟ้ำ 
ง. สำยันต์ไม่เคยลืมสัญญำของเขำเลย 
๕. ข้อควำมในข้อใดมีคำ นำมสำมัญประกอบอยู่ด้วย 
ก. เธอมำตำมหำเขำ 
ข. ควำมรักทำ ให้ลุ่มหลง 
ค. ถนนลื่นเพรำะฝนตก 
ง. ใคร ๆ ก็รักคุณทองแดง
๖. ข้อควำมในข้อใดมีคำ นำมสำมัญประกอบอยู่ด้วย 
ก. ท้องฟ้ำวันนี้มีแดดอบอุ่น 
ข. พวกเรำภูมิใจต่อคุณสมชำย 
ค. กำรเดินทำ ให้เขำแข็งแรงขึ้น 
ง. ผิดหวังทีสองที่ไม่เห็นน่ำกลัวเลย 
๗. ข้อควำมในข้อใดมีคำ นำมวิสำมัญประกอบอยู่ด้วย 
ก. เรำมำโรงเรียนทุกวัน 
ข. โรงเรียนของเรำชื่อฉวำงรัชดำภิเษก 
ค. มีพื้นที่กว้ำงขวำงมำกว่ำโรงเรียนอื่น ๆ 
ง. เด็กนักเรียนทุกคนต้องใจเรียนเรำจึงรักโรงเรียนของเรำ 
๘. ข้อควำมในข้อใดมีคำ ลักษณนำมประกอบอยู่ด้วย 
ก. วันนี้อำกำศดีมำก 
ข. ฝนไม่ตกเหมือนวันก่อนๆ 
ค. ท้องฟ้ำสว่ำงไสวด้วยแสงตะวันอ่อน ๆ 
ง. นำน ๆ ครั้งที่เรำจะพบกับบรรยำกำศเช่นนี้ 
๙. ข้อควำมในข้อใดมีคำ ลักษณะนำมที่ใช้ตำมหลังคำ กริยำ 
ก. เรำสองคนเดินไปตำมทำงสำยด่วน 
ข. แมวสองตัววิ่งหนีสุนัขอย่ำงไม่คิดชีวิต 
ค. หยุดอยู่ตรงนั้นตรงที่ฉันเคยเห็นเธอทุกวัน 
ง. คอยจนหลับไป ๒ ตื่นแล้ว เพื่อนก็ยังไม่มำ 
๑๐. ข้อควำมในข้อใดมีคำ อำกำรนำมประกอบด้วยอยู่ด้วย 
ก. กำรประปำนครหลวงสั่งประกำศว่ำ 
ข. พนักงำนทุกคนอย่ำงประท้วง 
ค. เพรำะถ้ำทำ เช่นนั้น 
ง. ก็จะเป็นควำมผิดอย่ำงใหญ่หลวง
๒. คำ สรรพนำม 
๑๑. คำ สรรพนำมคืออะไร 
ก. คำ ที่ใช้แทนคำ นำม 
ข. คำ ที่ใช้เรียกคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ 
ค. คำ ที่เป็นชื่อคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ 
ง. คำ ที่แสดงกำรกระทำ ของคน สัตว์ ว่ำ ทำ อะไร 
๑๒. คำ ที่ขีดเส้นใต้ข้อใดเป็นคำ สรรพนำม 
ก. พี่เป็นคนภำคใต้ 
ข. เขำมำอย่ำงรวดเร็ว 
ค. มยุรำเดินบนถนนสำยนี้ 
ง. ภูเขำสูงแค่ไหนก็ยังวัดได้ 
๑๓. “เค้ำบอกว่ำอำทิตย์หน้ำจะมำเยี่ยม” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ สรรพนำม 
ก. เค้ำ 
ข. ว่ำ 
ค. จะ 
ง. มำ 
๑๔. ประโยคใดมีคำ บุรุษสรรพนำมประกอบอยู่ด้วย 
ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก 
ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน 
ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู
ง. หนูเองก็ไม่ชอบหนูเหมือนกัน 
๑๕. ประโยคใดมีคำ สรรพนำมถำมประกอบอยู่ด้วย 
ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร 
ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ 
ค. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ 
ง. อะไรงำนแค่นี้ยังทำ ไม่ได้ 
๑๖. คำ ในข้อใดมีคำ สรรพนำมชี้เฉพำะ 
ก. ไหนคนไหนที่สอบได้ที่หนึ่ง 
ข. เด็กนี่ซนจังเลยมีท่ำทีว่ำจะฉลำด 
ค. ใครเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกบ้ำง 
ง. นี้โรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกที่มีเด็กเก่ง ๆ มำก 
๑๗. “เรื่องนี้เขำไม่ได้บอกใครเลย” 
คำ ใดในประโยคนี้เป็นคำ สรรพนำมไม่ชี้เฉพำะ 
ก. นี้ 
ข. เขำ 
ค. ไม่ได้ 
ง. ใคร 
๑๘. คำ ในข้อใดมีคำ สรรพนำมแยกฝ่ำย 
ก. กันมำหำแกด้วยควำมคิดถึง 
ข. ตำ รวจต้องกันตัวเขำออกเป็นพยำน 
ค. นักเรียนทุกคนช่วยกันทำ ควำมสะอำด 
ง. เรำทุกคนต้องป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโรค
๑๙. คำ สรรพนำมประเภทใดที่ใช้คำ เหมือนกับคำ สรรพนำมคำ ถำม 
ก. บุรุษสรรพนำม 
ข. สรรพนำมชี้เฉพำะ 
ค. สรรพนำมแยกฝ่ำย 
ง. สรรพนำมไม่ชี้เฉพำะ 
๒๐. ประโยคใดมีคำ สรรพนำมมำกที่สุด 
ก. นี่เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง 
ข. ใครไม่ได้เรียนโรงเรียนนั่นจะต้องเสียใจ 
ค. เพรำะฉะนั้นเรำต้องพยำยำมเรียนให้มำก ๆ เข้ำไว้ 
ง. พวกเรำต่ำงก็เป็นนักเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษก 
๓. คำ กริยำ 
๒๑. คำ กริยำคืออะไร 
ก. คำ ที่ใช้แทนคำ นำม 
ข. คำ ที่ใช้เรียกคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ 
ค. คำ ที่เป็นชื่อคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ 
ง. คำ ที่แสดงกำรกระทำ และสภำพควำมมีควำมเป็น 
๒๒. คำ ที่ขีดเส้นใต้ข้อใดเป็นคำ กริยำ 
ก. พี่เป็นคนภำคใต้ 
ข. เขำมำอย่ำงรวดเร็ว 
ค. มยุรำเดินบนถนนสำยนี้ 
ง. ภูเขำสูงแค่ไหนก็ยังวัดได้
๒๓. “เค้ำบอกว่ำอำทิตย์หน้ำจะมำเยี่ยม” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ กริยำที่มีหน่วยกรรม 
ก. เค้ำ 
ข. บอก 
ค. ว่ำ 
ง. มำ 
๒๔. ประโยคใดมีกริยำที่ไม่มีหน่วยกรรมประกอบอยู่ด้วย 
ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก 
ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน 
ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู 
ง. หนูเองก็ไม่ชอบหนูเหมือนกัน 
๒๕. ประโยคใดมีคำ กริยำคุณสรรพประกอบอยู่ด้วย 
ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร 
ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ 
ค. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ 
ง. อะไรงำนแค่นี้ยังทำ ไม่ได้ 
๒๖. คำ ในข้อใดมีคำ กริยำทวิกรรมประกอบอยู่ด้วย 
ก. ไหนคนไหนที่สอบได้ที่หนึ่ง 
ข. เธอส่งกำรบ้ำนให้ครูแล้วหรือยัง 
ค. ใครเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกบ้ำง 
ง. ผู้ปกครองทุกคนชอบให้ลูกมำเรียนโรงเรียนนี้ 
๒๗. “เรื่องนี้เขำไม่ได้บอกใครเลย”
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ กริยำ 
ก. นี้ 
ข. เขำ 
ค. ไม่ได้ 
ง. บอก 
๒๘. คำ ในข้อใดมีคำ กริยำนำ ประกอบอยู่ด้วย 
ก. กันมำหำแกด้วยควำมคิดถึง 
ข. ตำ รวจต้องกันตัวเขำออกเป็นพยำน 
ค. นักเรียนทุกคนทำ ควำมสะอำดห้องเรียน 
ง. เรำทุกคนป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโรคร้ำย 
๒๙. “อำรีย์เรียนจบไปแล้ว” 
คำ ใดเป็นคำ กริยำตำม 
ก. เรียน 
ข. จบ 
ค. ไป 
ง. แล้ว 
๓๐. ประโยคใดมีคำ กริยำต้องเติมเต็ม 
ก. นี่เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง 
ข. ใครไม่ได้เรียนโรงเรียนนั่นจะต้องเสียใจ 
ค. เพรำะฉะนั้นเรำต้องพยำยำมเรียนให้มำก ๆ เข้ำไว้ 
ง. พวกเรำต่ำงก็เป็นนักเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษก 
๔. คำ ช่วยกริยำ
๓๑. คำ ช่วยกริยำคืออะไร 
ก. คำ ที่ใช้นำ หน้ำคำ กริยำ 
ข. คำ ที่ใช้ตำมหลังคำ กริยำ 
ค. คำ ที่แสดงควำมเข้มข้นของคำ กริยำ 
ง. คำ ที่บอกลักษณะทำงไวยำกรณ์ของคำ กริยำ 
๓๒. คำ ช่วยกริยำมักจะเกิดในตำ แหน่งใดของประโยค 
ก. หน้ำคำ กริยำ 
ข. หลังคำ กริยำ 
ค. หน้ำบทกรรม 
ง. หลังบทกรรม 
๓๓. “เค้ำบอกว่ำอำทิตย์หน้ำจะมำเยี่ยม” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ ช่วยกริยำ 
ก. เค้ำ 
ข. บอก 
ค. จะ 
ง. มำ 
๓๔. ประโยคใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย 
ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก 
ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน 
ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู 
ง. หนูชอบอยู่ในสถำนที่ไม่ค่อยสะอำดนัก 
๓๕. ประโยคใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย 
ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร 
ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ 
ค. อะไรงำนแค่นี้ทำ ไม่ได้ 
ง. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ
๓๖. คำ ในข้อใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย 
ก. ไหนคนไหนที่สอบได้ที่หนึ่ง 
ข. เธอเคยทำ ควำมดีอะไรมำบ้ำง 
ค. ใครเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกบ้ำง 
ง. ผู้ปกครองทุกคนชอบให้ลูกมำเรียนโรงเรียนนี้ 
๓๗. “เรื่องนี้ยังไม่บอกให้ใครรู้” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ ช่วยกริยำ 
ก. ยัง 
ข. ไม่ 
ค. บอก 
ง. รู้ 
๓๘. คำ ในข้อใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย 
ก. กันมำหำแกด้วยควำมคิดถึง 
ข. ตำ รวจกันตัวเขำออกเป็นพยำน 
ค. เรำทุกคนป้องกันตัวเองจำกโรคร้ำย 
ง. นักเรียนกำ ลังทำ ควำมสะอำดห้องเรียน 
๓๙. “เจ้ำเก่งถูกนักเรียนรังแก” 
คำ ใดเป็นคำ ช่วยกริยำ 
ก. เก่ง 
ข. ถูก 
ค. นักเรียน 
ง. รังแก
๔๐. ประโยคใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย 
ก. นี่เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง 
ข. ใครไม่ได้เรียนโรงเรียนนั่นจะต้องเสียใจ 
ค. เพรำะฉะนั้นเรำต้องพยำยำมเรียนให้มำก ๆ เข้ำไว้ 
ง. พวกเรำต่ำงก็เป็นนักเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษก 
๕. คำ วิเศษณ์ 
๔๑. คำ วิเศษณ์คืออะไร 
ก. คำ ที่ใช้ขยำยคำ กริยำ 
ข. คำ ที่เป็นคำ หลักของกริยำ 
ค. คำ ที่แสดงควำมเข้มข้นของคำ กริยำ 
ง. คำ ที่บอกลักษณะทำงไวยำกรณ์ของคำ กริยำ 
๔๒. คำ วิเศษณ์มักจะเกิดในตำ แหน่งใดของประโยค 
ก. หน้ำคำ กริยำ 
ข. หลังคำ กริยำ 
ค. หน้ำบทกรรม 
ง. หลังบทกรรม 
๔๓. “นกตัวนี้บินสูง” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ วิเศษณ์ 
ก. ตัว 
ข. นี้ 
ค. บิน 
ง. สูง
๔๔. ประโยคใดมีคำ วิเศษณ์ประกอบอยู่ด้วย 
ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก 
ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน 
ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู 
ง. หนูชอบอยู่ในสถำนที่ไม่ค่อยสะอำดนัก 
๔๕. ประโยคใดมีคำ วิเศษณ์สำมัญประกอบอยู่ด้วย 
ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร 
ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ 
ค. อะไรงำนแค่นี้ทำ ไม่ได้ 
ง. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ 
๔๖. คำ วิเศษณ์ขยำยเฉพำะของคำ ว่ำ “แดง” คือคำ อะไร 
ก. ปี๋ 
ข. อื๋อ 
ค. แจ๋ 
ง. ปรี๋ด 
๔๗. คำ วิเศษณ์ในประโยคใดที่แสดงกำรถำม 
ก. ใครจริงใจกับฉันบ้ำง 
ข. ไม่มีใครจริงใจกับฉันเลย 
ค. ใคร ๆ มำแล้วก็ผ่ำนไปทุกคน 
ง. ถึงฉันจะช้ำ แค่ไหนก็ไม่บอกใคร 
๔๘. คำ ในข้อใดมีคำ วิเศษณ์บอกเวลำประกอบอยู่ด้วย 
ก. เมื่อวำนผมเจอเธอหน้ำโรงเรียน
ข. เรำช่วยกันทำ กำรบ้ำนที่ครูสั่งไว้ 
ค. เมื่อทำ กำรบ้ำนเสร็จเรำก็ไปกินข้ำว 
ง. เรำจึงสำมำรถส่งกำรบ้ำนตำมที่คุณครูสั่งไว้ 
๔๙. “นักเรียนทุกคนรักเจ้ำเก่งมำก ๆ ” 
คำ ใดเป็นคำ วิเศษณ์ 
ก. ทุกคน 
ข. รัก 
ค. เก่ง 
ง. มำก ๆ 
๕๐. “เขำขยันที่สุด” 
ประโยคนี้มีคำ วิเศษณ์ประเภทใดประกอบอยู่ด้วย 
ก. คำ วิเศษณ์สำมัญ 
ข. คำ วิเศษณ์ขยำยเฉพำะ 
ค. คำ วิเศษณ์แสดงคำ ถำม 
ง. คำ วิเศษณ์บอกเวลำ 
๖. คำ บอกกำ หนด 
๕๑. คำ บอกกำ หนดคืออะไร 
ก. คำ ที่ใช้ขยำยคำ นำม 
ข. คำ ที่ใช้ขยำยคำ กริยำ 
ค. คำ ที่ใช้ขยำยคำ อุทำน 
ง. คำ ที่ใช้ขยำยคำ วิเศษณ์ 
๕๒. คำ บอกกำ หนดมักจะเกิดในตำ แหน่งใดในนำมวลี
ก. หน้ำคำ นำม 
ข. หลังคำ นำม 
ค. หน้ำบทกริยำ 
ง. หลังบทกริยำ 
๕๓. “นกตัวนี้บินสูง” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ บอกกำ หนด 
ก. ตัว 
ข. นี้ 
ค. บิน 
ง. สูง 
๕๔. ประโยคใดมีคำ บอกกำ หนดประกอบอยู่ด้วย 
ก. เรำทุกคนรักโรงเรียนนี้มำก 
ข. เรำต้องทำ ดีที่สุดเท่ำที่เรำจะทำ ได้ 
ค. นี่โรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง 
ง. เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนและตัวเรำ 
๕๕. ประโยคใดมีคำ บอกกำ หนดประกอบอยู่ด้วย 
ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร 
ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ 
ค. อะไรงำนแค่นี้ทำ ไม่ได้ 
ง. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ 
๕๖. คำ ใดแสดงกำรบอกกำ หนดที่ไกลที่สุด 
ก. นี้
ข. นั้น 
ค. นู้น 
ง. โน่น 
๕๗. คำ ใดที่บอกกำ หนดที่ใกล้ที่สุด 
ก. นี่ 
ข. นี้ 
ค. นั่น 
ง. นั้น 
๕๘. คำ ในข้อใดมีคำ บอกกำ หนดบอกเวลำประกอบอยู่ด้วย 
ก. เมื่อวำนผมเจอเธอหน้ำโรงเรียน 
ข. เรำช่วยกันทำ กำรบ้ำนที่ครูสั่งไว้ 
ค. เมื่อทำ กำรบ้ำนเสร็จเรำก็ไปกินข้ำว 
ง. เรำจึงสำมำรถส่งกำรบ้ำนนี้ตำมที่คุณครูสั่งไว้ 
๕๙. “นักเรียนคนไหนส่งงำนทุกชิ้นเขำก็จะไม่ติด ร” 
คำ ใดเป็นคำ บอกกำ หนด 
ก. คน 
ข. ไหน 
ค. ทุก 
ง. ไม่ 
๖๐. “เด็กโรงเรียนนี้มำจำกสถำนที่ต่ำง ๆ หลำยพื้นที่” 
คำ ใดเป็นคำ บอกกำ หนดไม่ชี้เฉพำะ 
ก. นี้ 
ข. จำก 
ค. ที่ 
ง. ต่ำง ๆ
๗. คำ เกี่ยวกับจำ นวน 
๖๑. คำ เกี่ยวกับจำ นวนคืออะไร 
ก. คำ ที่ใช้บอกเวลำ 
ข. คำ ที่ใช้บอกสถำนที่ 
ค. คำ ที่ใช้บอกลักษณะ 
ง. คำ ที่ใช้บอกปริมำณ 
๖๒. คำ เกี่ยวกับจำ นวนมักจะเกิดในตำ แหน่งใดในนำมวลี 
ก. หน้ำคำ นำม 
ข. หลังคำ นำม 
ค. หน้ำคำ กริยำ 
ง. หลังคำ กริยำ 
๖๓. “โรงเรียนนี้มีนักเรียนพันกว่ำคน” 
ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ เกี่ยวกับจำ นวน 
ก. ตัว 
ข. นี้ 
ค. พัน 
ง. คน 
๖๔. ประโยคใดมีคำ เกี่ยวจำ นวนประกอบอยู่ด้วย 
ก. เรำทุกคนรักโรงเรียนนี้มำก 
ข. เรำต้องทำ ดีที่สุดเท่ำที่เรำจะทำ ได้ 
ค. นี่โรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง 
ง. เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนและตัวเรำ 
๖๕. ประโยคใดมีคำ เกี่ยวกับจำ นวนประกอบอยู่ด้วย
ก. เด็กคนนี้เก่งที่สุด 
ข. ปกติจะขยันเรียน 
ค. รวมทั้งชอบช่วยงำนโรงเรียน 
ง. เวลำสอบก็มักจะได้ที่หนึ่งเสมอ 
๖๖. คำ ใดแสดงกำรบอกจำ นวน 
ก. ห้ำ 
ข. ที่ห้ำ 
ค. รำว 
ง. กว่ำ 
๖๗. ประโยคใดมีคำ บอกลำ ดับประกอบอยู่ด้วย 
ก. ฉันจะรักเธอเป็นคนสุดท้ำย 
ข. แม้ว่ำเธอจะดีหรือร้ำย 
ค. ฉันก็หมำยรักเธอแน่นอน 
ง. ถึงคนจะประณำมเหยียดหยำมเธอ 
๖๘. คำ ในข้อใดมีคำ หน้ำจำ นวนประกอบอยู่ด้วย 
ก. ในโรงเรียนเรำมีเพื่อนมำกมำย 
ข. แต่ละวันมีนักเรียนรำว ๆ พันคน 
ค. เรำได้พบปะกับเขำพูดคุยและเล่นหัวด้วยกัน 
ง. เรำจึงรักที่ได้มำโรงเรียนและเรียนในโรงเรียนนี้
1. ข้อใดคือคานาม 
ก พระคุณท่ำน 
ข ข้ำพเจ้ำ 
ค กระผม 
ง สุนทรภู่ 
ข้อที่ 2) 
คาว่า ขัน ในข้อใดเป็นคานาม 
ก หยิบขันตักน้ำ ให้พี่ 
ข ไก่ขันตอนเช้ำ 
ค เขำทำ งำนแข็งขัน 
ง ขันเชือกให้แน่น 
ข้อที่ 3) 
บุตรเศรษฐีได้เป็นผู้จัดการกองมรดกของพ่อแม่แต่ผู้เดียว กอง เป็นคานามชนิดใด 
ก สำมำนยนำม 
ข วิสำมำนยนำม 
ค สมุหนำม 
ง ลักษณนำม 
ข้อที่ 4) 
เสื่อม้วนนี้มีหลายผืน ม้วน เป็นลักษณนามชนิดใด 
ก ลักษณนำมบอกอำกำร 
ข ลักษณนำมบอกจำ นวนและมำตรำ 
ค ลักษณนำมบอกสันฐำน 
ง ลักษณนำม 
ข้อที่ 5) 
ข้อใดใช้ลักษณนามผิด 
ก พระภิกษุ 2 องค์ 
ข ศำลเจ้ำ 2 หลัง
ค เลื่อย 2 ปื้น 
ง หนังสือ 2 เล่ม 
ข้อที่ 6) 
ข้อใดไม่มีคาสมุหนาม 
ก คณะอำจำรย์ประชุมเสร็จแล้ว 
ข ปลำฝูงใหญ่อยู่ในลำ ธำร 
ค คณะรัฐบำลทำ งำนได้ผล 
ง วงดนตรี รับสมัครนักร้อง 
ข้อที่ 7) 
แถวนี้มีที่ทา การธนาคารไทยพาณิชย์อยู่หลาย..........และสาหรับที่บริการเงินด่วนอยู่ถึง 2 ....... 
ข้อความนี้ควรเติมคาใดจึงจะถูกต้อง 
ก ที่, อัน 
ข หลัง, ธนำคำร 
ค สำขำ, แห่ง 
ง แห่ง, เครื่อง 
ข้อที่ 8) 
ข้อใดไม่มีคาอาการนาม 
ก ควำมคิดของคนเรำมีหลำยลักษณะ 
ข ในยำมเย็นนี้ คนไกลบ้ำนมักจะเกิดควำมอ้ำงว้ำง 
ค ควำมใดที่ไม่ดีงำมก็ควรช่วยกันปิดบัง 
ง ควำมตำยเป็นเรื่องธรรมดำของสิ่งมีชีวิต 
ข้อที่ 9) 
ยายป้อนข้าวหลานมีคานามกี่คา 
ก 2 คำ 
ข 3 คำ 
ค 4 คำ 
ง 5 คำ
ข้อที่ 10) 
ข้อใดใช้ลักษณะนามผิด 
ก อิฐบนทำงเท้ำแตกหลำยแผ่น 
ข พระสงฆ์วันนี้มีไม่กี่รูป 
ค ซื้อหน้ำต่ำงสักบำนหนึ่งเถอะ 
ง งำนนี้มีแขกผู้ใหญ่มำหลำยท่ำน 
1. ข้อใดเป็นสำมำนยนำม 
1. มังคุด 
2. ลำ ไย 
3. ผลไม้ 
4. เงำะ 
2. ข้อใดเป็นวิสำมำนยนำม 
1. ขุนช้ำงขุนแผน 
2. โรงเรียน 
3. ดอกไม้ 
4. วรรณคดี 
3. ข้อใดเป็นอำกำรนำม 
1. ทัศนีย์ทำ กำรบ้ำน 
2. กำรไฟฟ้ำแห่งประเทศไทย 
3. กำรเมืองทุกวันนี้วุ่นวำย 
4. คนไทยเจอหน้ำกันต้องมีกำรไหว้ 
4. ข้อใดมีกำรใช้สมุหนำม 
1. มำลีถือดอกไม้มำ ๑ ช่อ 
2. สมชำยเห็นทรำย ๑ กอง 
3. โขลงช้ำงเดินอยู่ในป่ำ 
4. ถูกทุกข้อ 
5. ข้อใดใช้ลักษณะนำมไม่ถูกต้อง 
1. รัศมีให้เพื่อนยืมร่ม ๑ คัน 
2. อริยะใส่แหวน ๑อัน
3. หิมะซื้อหนังสืแ ๑ เล่ม 
4. นำใิิกำรที่บ้ำนมี ๕ เรือน
รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) หมำยถึง 
รำยงำนสัมฤทธ์ิผลกำรดำ เนินงำนของคณะ/หน่วยงำน ที่ใช้รำยงำนต่อหน่วยงำนต้นสังกัด หรือหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง 
และสำธำรณชน เพื่อนำ ไปสู่กำรพัฒนำคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำ และมำตรฐำนกำรปฏิบัติงำน 
ซึ่งรำยงำนกำรประเมินตนเองนอกจำกจะทำ ในระดับสถำบันแล้ว 
อำจทำ ในระดับคณะ/หน่วยงำนเพื่อให้สอดคล้องกัน 
โดยมีองค์ประกอบของกำรรำยงำนกำรประเมินตนเอง มีส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ 
ส่วนที่ 1 สภำพปัจจุบันของคณะ/หน่วยงำน 
ส่วนที่ 2 ผลกำรประเมินกำรดำ เนินงำนของคณะ/หน่วยงำน 
ส่วนที่ 3 สรุปผลกำรวิเครำะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ข้อเสนอแนะและแนวทำงในกำรพัฒนำ 
ส่วนที่ 4 ภำคผนวก 
กำรเขียนรำยงำนกำรประเมินตนเองควรมีควำมยำวไม่เกิน 30 หน้ำ (ไม่รวมภำคผนวก) 
Self Assessment Report : SAR คืออะไร 
เอกสารรายงานผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา 
เพื่อให้สำธำรณชนรับทรำบประสิทธิภำพและประสิทธิผล ตำมมำตรฐำน ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ที่กำ หนด 
รวมถึงวิเครำะห์จุดเด่นจุดที่ควรพัฒนำและระบุแนวทำงกำรพัฒนำ 
วัตถุประสงค์ของการเขียน SAR 
 เพื่อสรุปผลกำรจัดกำรศึกษำประจำ ปีกำรศึกษำให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทรำบซึ่งเป็นกำรสรุปผลกำรดำ เนินงำนตำมข้ 
อเสนอแนะตำมที่ 
ผู้ประเมินภำยนอก/ผู้ประเมินภำยในโดยต้นสังกัดและข้อกำ หนดในแผนปฏิบัติกำรประจำ ปีของสถำนศึกษำ 
ในรอบ 1 ปี 
 เพื่อระบุทิศทำงกำรพัฒนำสถำนศึกษำในอนำคต 
 เพื่อรำยงำนผลให้ต้นสังกัดและสำธำรณชนได้ทรำบถึง 
ผลกำรดำ เนินงำนของสถำนศึกษำในรอบปีที่ผ่ำนมำ 
 เพื่อเตรียมควำมพร้อมของสถำนศึกษำในกำรรับ กำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบต่อไป 
สาระเนื้อหาของ SAR 
 บทสรุปสำ หรับผู้บริหำร 
 ตอนที่ 1. สภำพทั่วไปของสถำนศึกษำ 
 ตอนที่ 2. ผลกำรประเมินตำมมำตรฐำน 
 ตอนที่ 3. สรุปผลกำรประเมิน 
 ภำคผนวก
เก็บคะแนน คำนาม

More Related Content

What's hot

แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4Chutima Muangmueng
 
ใบงานเสียงในภาษาไทย
ใบงานเสียงในภาษาไทยใบงานเสียงในภาษาไทย
ใบงานเสียงในภาษาไทยssuser456899
 
แบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษาแบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษาPiyarerk Bunkoson
 
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5ปวริศา
 
สำนวนไทย พร้อมระบายสี
สำนวนไทย พร้อมระบายสีสำนวนไทย พร้อมระบายสี
สำนวนไทย พร้อมระบายสีariga sara
 
โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6WijittraSreepraram
 
โครงงานคำควบกล้ำ
โครงงานคำควบกล้ำโครงงานคำควบกล้ำ
โครงงานคำควบกล้ำkruying pornprasartwittaya
 
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศssuser456899
 
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานแบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานKhemjira_P
 
แบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการ
แบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการแบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการ
แบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการKittiphat Chitsawang
 
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความsripayom
 
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจTongsamut vorasan
 
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตแผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตyaowarat Lertpipatkul
 
เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552
เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552
เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552Duangjai Boonmeeprasert
 
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4Sasiprapha Srisaeng
 
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2iberryh
 

What's hot (20)

แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4
 
ใบงานเสียงในภาษาไทย
ใบงานเสียงในภาษาไทยใบงานเสียงในภาษาไทย
ใบงานเสียงในภาษาไทย
 
คำนาม
คำนามคำนาม
คำนาม
 
แบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษาแบบทดสอบเสียงในภาษา
แบบทดสอบเสียงในภาษา
 
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำสรรพนาม ป.5
 
เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทานเล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
 
สำนวนไทย พร้อมระบายสี
สำนวนไทย พร้อมระบายสีสำนวนไทย พร้อมระบายสี
สำนวนไทย พร้อมระบายสี
 
โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6
 
โครงงานคำควบกล้ำ
โครงงานคำควบกล้ำโครงงานคำควบกล้ำ
โครงงานคำควบกล้ำ
 
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
 
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานแบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
 
คำวิเศษณ์
คำวิเศษณ์คำวิเศษณ์
คำวิเศษณ์
 
แบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการ
แบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการแบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการ
แบบฟอร์มบันทึกการรายงานผลการดำเนินโครงการ
 
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
 
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
154517 บทพิธีกรงานฌาปนกิจ
 
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตแผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
 
เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552
เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552
เรียงความ ชนะเลิศ วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2552
 
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
 
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย ป.2
 
ใบงานที่ 1 เรื่องคำนาม
ใบงานที่ 1  เรื่องคำนามใบงานที่ 1  เรื่องคำนาม
ใบงานที่ 1 เรื่องคำนาม
 

Similar to เก็บคะแนน คำนาม

คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)Nongkran Jarurnphong
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6thaneerat
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1Sivagon Soontong
 
คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]
คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]
คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]Nongkran_Jarurnphong
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1Sivagon Soontong
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยthaneerat
 
บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5ปวริศา
 
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖baicha1006
 
เนื้อหาเล่ม 1
เนื้อหาเล่ม 1เนื้อหาเล่ม 1
เนื้อหาเล่ม 1Aon Narinchoti
 
ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕
ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕
ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕อร ครูสวย
 
คำในภาษาไทย
คำในภาษาไทยคำในภาษาไทย
คำในภาษาไทยSiraporn Boonyarit
 
คำในภาษาไทย (1)
คำในภาษาไทย (1)คำในภาษาไทย (1)
คำในภาษาไทย (1)perunruk
 
การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์kruthai40
 
แบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำLadawan Munchit
 
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสมชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสมkrupanida sornkheang
 

Similar to เก็บคะแนน คำนาม (20)

คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)คำซ้อน (งานกลุ่ม)
คำซ้อน (งานกลุ่ม)
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยป6
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย (Key)_ม.1
 
คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]
คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]
คำวิเศษณ์2 [โหมดความเข้ากันได้]
 
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ภาษาไทย_ม.1
 
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย
 
บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5
บทเรียน เรื่อง คำนาม ป.5
 
หน่วยที่ 6
หน่วยที่  6หน่วยที่  6
หน่วยที่ 6
 
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
บทเรียนสำเร็จรูปกาพย์ฉบัง๑๖
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่  2หน่วยที่  2
หน่วยที่ 2
 
เนื้อหาเล่ม 1
เนื้อหาเล่ม 1เนื้อหาเล่ม 1
เนื้อหาเล่ม 1
 
ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕
ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕
ข้อสอบปลายภาค ๑ ๒๕๕๕
 
คำในภาษาไทย
คำในภาษาไทยคำในภาษาไทย
คำในภาษาไทย
 
หน่วยที่ 3
หน่วยที่  3หน่วยที่  3
หน่วยที่ 3
 
แผ่นพับ
แผ่นพับแผ่นพับ
แผ่นพับ
 
คำในภาษาไทย (1)
คำในภาษาไทย (1)คำในภาษาไทย (1)
คำในภาษาไทย (1)
 
การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์การแต่งคำประพันธ์
การแต่งคำประพันธ์
 
แบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำแบบเรียนชนิดของคำ
แบบเรียนชนิดของคำ
 
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสมชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
 
kumprasom
kumprasomkumprasom
kumprasom
 

เก็บคะแนน คำนาม

  • 1. แบบทดสอบโรงเรียนวรัญญาวิทย์ เรื่อง คำ สรรพนำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๗ เวลำ ๒๐ นำที ๑๐ คะแนน ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย  ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว ๑. ข้อใดเป็นควำมหมำยของคำ นำม ก. คำ ที่ทำ หน้ำที่ใช้แสดงควำมรู้สึกของคน ข. คำ ที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ ค. คำ ที่ใช้แทนชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ ง. คำ ที่ทำ หน้ำที่ขยำยคำ ๒. คำ ในข้อใดเป็นคำ นำมทุกคำ ก. ทำ ดี ที่ไหน ข. ปรึกษำ หำรือ ค. ภูเขำ กอไผ่ ง. น้ำ ท่วม น้ำ ใจ ๓. วิสำมำนยนำม หมำยถึง ก. คำ นำมบอกอำกำร ข. คำ นำมที่บอกลักษณะของนำมที่อยู่ข้ำงหน้ำ ค. คำ นำมที่ใช้เรียกชื่อทั่ว ๆไป ง. คำ นำมที่เป็นชื่อเฉพำะ ๔. คณะทูตกำ ลังเดินทำงมำประเทศไทย คำ ว่ำ “คณะ” เป็น คำ นำมประเภทใด ก. สมุหนำม ข. ลักษณะนำม ค. สำมำนยนำม ง. วสิำมำนยนำม ๕. คำ ในข้อใดเป็นคำ นำมทั่วไปหรือสำมำนยนำม ก. ประเทศไทย
  • 2. ข. นักกีฬำ ค. ดวงจันทร์ ง. พระรำม ๖. คำ ว่ำ “ขัน” ในข้อใดเป็นคำ นำม ก. นกเขำขันไพเรำะ ข. คุณป้ำกำ ลังเช็ดขันน้ำ ค. พ่อขันน็อตรถจักรยำน ง. เขำทำ ตัวน่ำขันเสียจริง ๗. คำ นำมในข้อใดมีลักษณะนำมว่ำ “เล่ม” เหมือนกันทุกคำ ก. หนังสือ กรรไกร เกวียน ข. หนังสือ ช้อน เทียน ค. เข็ม ร่ม นำฬิกำ ง. บ้ำน เข็ม ตะปู ๘. ข้อใดไม่ใช่หน้ำที่ของคำ นำม ก. เป็นส่วนขยำย ข. เป็นกรรมของประโยค ค. เป็นประธำนของประโยค ง. เป็นคำ ที่ทำ หน้ำที่เชื่อมประโยค ๙. ข้อใดมีลักษณะนำมของคำ ว่ำ “เลำ” ก. แห อวน ข. เกวียน เทียน ค. ขลุ่ย ปี่ ง. บ้ำน มุ้ง ๑๐. คำ ในข้อใดเป็นคำ นำมบอกอำกำรหรืออำกำรนำม ก. กำรบ้ำน ข. ควำมสำมัคคี ค. ควำมรัก ง. กำรจรำจร แบบทดสอบโรงเรียนวรัญญาวิทย์ เรื่อง คำ สรรพนำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ ๖ ปีกำรศึกษำ ๒๕๕๗ เวลำ ๒๐ นำที ๑๐ คะแนน
  • 3. ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย  ทับตัวอักษรหน้าคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว ๑. ข้อใด คือควำมหมำยของคำ สรรพนำม ก. คน สัตว์ และสิ่งของ ข. คำ ชนิดหนึ่งที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม ค. คำ นำมชี้เฉพำะ เช่น ผู้หญิงใส่เสื้อสีแดง ง. บอกหมวดหมู่ หรือสิ่งที่มีจำ นวนมำก ๒. คำ สรรพนำม มีประโยชน์อย่ำงไร ก. เพื่อให้ใช้ได้ง่ำย ข. เพื่อช่วยให้เนื้อควำมสละสลวยไพเรำะมำกขึ้น ค. บอกหมวดหมู่ หรือสิ่งที่มีจำ นวนมำก ง. บอกเวลำและสถำนที่ ๓. คำ สรรพนำม สำมำรถแบ่งออกเป็นกี่ประเภท ก. ๓ ประเภท คำ ที่ใช้แทน คน ข. ๔ ประเภท คำ ที่ใช้แทน สัตว์ สิ่งของ ค. ๕ ประเภท คำ ที่ใช้แทน คน - สัตว์ สิ่งของ ง. ๖ ประเภท คำ ที่ใช้แทน คน- สัตว์ สิ่งของ -ธรรมชำติ ๔. ข้อใด คือควำมหมำยของ บุรุษสรรพนำม ก. คำ สรรพนำมใช้เชื่อมประโยค ทำ หน้ำที่แทนคำ นำม ข. เป็นคำ สรรพนำมที่ใช้แทนผู้พูด ผู้ฟัง ค. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมเพื่อแยกออกเป็นส่วนๆ เป็นคนๆ หรือเป็นพวกๆ ง. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ๕. บุรุษสรรพนำม สำมำรถแบ่งออกได้เป็นกี่ชนิด ก. ๑ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ ข. ๒ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ สรรพนำมบุรุษที่ ๒ ค. ๓ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ สรรพนำมบุรุษที่ ๒ สรรพนำมบุรุษที่ ๓ ง. ๓ ประเภท สรรพนำมบุรุษที่ ๑ สรรพนำมบุรุษที่ ๒ สรรพนำมบุรุษที่๓ สรรพนำมบุรุษที่ ๔ ๖. คำ สรรพนำมที่ใช้เชื่อมข้อควำมเรียกว่ำอะไร ก. วิภำคสรรพนำม ข. ประพันธสรรพนำม ค. ปฤจฉำสรรพนำม ง. นิยมสรรพนำม ๗. ข้อใดเป็นปฤจฉำสรรพนำม
  • 4. ก. ใครจะมำหำก็เข้ำมำ ข. อะไรๆก็ใส่ไว้ในตู้หมด ค. เธอชอบอะไร ง. ท่ำนอยู่ในห้อง ๘. นำมบอกระยะเรียกว่ำ… ก. อนิยมสรรพนำม ข. นิยมสรรพนำม ค. ปฤจฉำสรรพนำม ง. วิภำคสรรพนำม ๙. คำ ว่ำ กัน ข้อใดเป็นวิภำคสรรพนำม ก. นักเรียนคุยกัน ข. แม่เธอกีดกันผม ค. แล้วกันจะมำหำแกที่หลัง ง. ตำ รวจกันฝูงชนออกไป ๙. ข้อใด คือควำมหมำยของ อนิยมสรรพนำม ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป ๑๐. "ใคร"ในข้อใดเป็นสรรพนำมชนิดที่แตกต่ำงจำกข้ออื่น ก. ใครจะไปเที่ยวกับเรำบ้ำง ข. ไม่มีใครอยู่ในบ้ำนเลย ค. ใครก็ไม่สำมำรถช่วยเธอได้ ง. ใครจะทำ อะไรก็ตั้งใจทำ 1. ถ้วย....นั้นรำคำย่อมเยำน่ำใช้ ข้อใดเหมำะสมนำ มำเติมในช่องว่ำง ก. ใบ ข. อัน ค.ถ้วย ง. พวก 2. เด็ก ๆ เห็นม้ำ......หนึ่งที่กำ ลังวิ่งขวักไขว่อยู่ชำยป่ำ ข้อใดเหมำะสมนำ มำเติมในช่องว่ำง ก. ตัว ข. ฝูง ค. กลุ่ม ง. โขลง 3. “โรงเรียนนี้ เรำไม่เคยได้ยินชื่อ” คำ ที่ขีดเส้นใต้เป็นคำ นำมที่ทำ หน้ำที่อะไร ก. เป็นภำคแสดง ข. เป็นภำคประธำน
  • 5. ค. เป็นกรรมของประโยค ง. เป็นประธำนของประโยค 4. วิธีทดสอบว่ำคำ ใดทำ หน้ำที่เป็นกรรมรองทำ ได้อย่ำงไร ก. ตัดคำ นำมออก ข. แยกประโยคออกทีละประโยค ค. แทรกคำ บุพบทเข้ำไปในประโยค ง. แทรกคำ “ให้แก่” เข้ำไปในประโยค 5. ข้อใดใช้ลักษณะนำมผิด ก. ขลุ่ย – เลำ ข. สวิง – ปำก ค. งำช้ำง – งำ ง. สักวำ - บท 6. ข้อใดเป็นอำกำรนำม ก. กำรงำน ข. กำรเมือง ค. กำรกิน ง. กำรพำณิชย์ 7. “นักกีฬำของโรงเรียนบ้ำนลำ แก่น ชนะใจคนดู” คำ ที่ขีดเส้นใต้เป็นคำ นำมชนิดใด ก. คำ นำมสำมัญ ข. คำ ชื่อเฉพำะ ค. คำ นำมรวมหมู่ ง. คำ นำมธรรม 8. ข้อใดให้คำ จำ กัดควำม “คำ นำม” ได้ถูกต้องที่สุด ก. คำ ที่ทำ หน้ำที่แทนบุคคล ข. คำ ที่แสดงควำมหมำยของกำรกระทำ ค. คำ ที่แสดงควำมหมำยถึงบุคคล สัตว์ และสิ่งของ ง. คำ ที่แสดงควำมหมำยเฉพำะสิ่งมีชีวิตเท่ำนั้น 9. ข้อใดมีคำ นำมที่ทำ หน้ำที่เป็นนำมเรียกขำน ก. ฉันคือนำฬิกำดำ แล้ว ข เขำชอบดื่มนมมำกกว่ำสิ่งอื่น ค. เขำชอบดื่มนำมมำก ๆ เวลำกลำงคืน ง. นักเรียนฟังครูอธิบำยให้เข้ำใจก่อน 10. ข้อใดไม่ใช่หน้ำที่ของคำ นำม ก. เป็นกรรม ข. เป็นประธำน ค. ขยำยกริยำ ง. เป็นคำ เรียกขำน 11. ข้อใดเป็นสรรพนำมบุรุษที่ ๒ ก. ทูลกระหม่อม ข. พระองค์ท่ำน ค. เกล้ำกระหม่อม ง. ใต้ฝ่ำละอองธุลีพระบำท
  • 6. ข้อใด คือควำมหมำยของ ปฤจฉำสรรพนำม ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน ง. ใช้แทนคำ นำม ที่มีเนื้อควำมเป็นคำ ถำม เช่น ใคร อะไร ผู้ใด ไหน 1. ข้อใด คือควำมหมำยของ ประพันธสรรพนำม ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป 2. ข้อใด คือควำมหมำยของ วิภำคสรรพนำม ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป 3. ข้อใด คือควำมหมำยของ นิยมสรรพนำม ก. คำ นำมหรือคำ สรรพนำมได้แก่ ต่ำง บ้ำง กัน ข. คำ นำม เพื่อชี้เฉพำะ เจำะจง ให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้ำใจกัน ได้แก่ นั่น นี่ โน่น นี้ นั้น ค. ใช้เชื่อมประโยค ได้แก่ ผู้ ที่ ซึ่ง อัน ง. ใช้แทนคำ นำมบอกควำมไม่ชี้เฉพำะเจำะจง ที่แน่ นอนลงไป ข้อที่ 1) คาว่า ท่าน ในข้อใดเป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 ท่ำนอยู่ไหนครับ ท่ำนครับผมมำหำ
  • 7. ท่ำนค่ะตื่นเถอะค่ะ ท่ำนผู้ฟังที่เคำรพ ข้อที่ 2) คาว่า ต่าง ข้อใดเป็นวิภาคสรรพนาม ฝำแฝดสองคนต่ำงกันมำก เขำให้รูปไว้ดูต่ำงหน้ำ เธอเดินไปที่หน้ำต่ำง นักเรียนต่ำงคนต่ำงเรียน ข้อที่ 3) ข้อที่ 4) ข้อใดเป็นนิยมสรรพนาม ใครรำนใครรุกด้ำว แดนไทย โน่นแน่ะนกเขำคู เด็กคนนี้เป็นคนดี ท่ำนผู้ใดทรำบข้อมูล ข้อที่ 5) ข้อใดเป็นอนิยมสรรพนาม ใครมำหำแม่ แม่ทำ อะไร อะไรๆแม่ก็ทำ เป็น แม่ชอบไปไหน
  • 8. ข้อที่ 6) คาว่า ที่ ข้อใดไม่ใช่ประพันธสรรพนาม เขำมำหำฉันที่ตลำด ครูรักนักเรียนที่ตั้งใจเรียน คนที่ยืนอยู่เป็นครู เขำทำสีบ้ำนที่ตั้งอยู่บนเนิน ข้อที่ 7) ข้อใดไม่มีบุรุษสรรพนาม จะล่วงได้ยินเรำพำที ข้ำนี้ลืมพวงบุปผำ ลับตำหำมีใครเห็นไม่ ท่ำนผู้เรืองฤทธำดังเพลิงกรด ข้อที่ 8) ข้อใดไม่ใช่สรรพนามเน้นความรู้สึก ท่ำนมำหำใคร คุณแม่ท่ำนใจดี ตำบัวแกขี้โมโห ไอ้แดงมันขี้ขโมย ข้อที่ 9) ข้อที่ 10) ข้อที่ 1) ข้อใดไม่ใช่สรรพนำมใช้แทนผู้พูด ผม
  • 9. ท่ำน ฉัน ข้ำพเจ้ำ ข้อที่ 2) ข้อใดมีสรรพนำมใช้ชี้ระยะ เสื้อสีนี้สวยมำก ไหนเสื้อเธอล่ะ นั่นคือบ้ำนของสมชำย เวลำนั้นเกิดพำยุพัดอื้ออึง ข้อที่ 3) ข้อที่ 4) "ครูถำมนักเรียนที่นั่งหลังห้อง" ข้อใดคือสรรพนำมใช้เชื่อมประโยค ที่ ถำม นั่ง หลัง ข้อที่ 5) คำ ว่ำ"ข้ำพระพุทธเจ้ำ"ใช้กับใคร เจ้ำนำยชั้นผู้ใหญ่ เจ้ำนำยเสมอกัน ต่ำ กว่ำเจ้ำนำย เจ้ำนำยชั้นสูง
  • 10. ๑. คำ นำมคืออะไร ก. คำ ที่เป็นชื่อของคน สัตว์ สถำนที่ สิ่งของ ข. คำ ที่ใช้เรียกคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ ค. คำ ที่สร้ำงมำจำกคำ กริยำ โดยใช้คำ ว่ำ “กำร” และ “ควำม” นำ หน้ำ ง. คำ ที่แสดงลักษณะของคำ อื่นว่ำเป็นอย่ำงไรรวมทั้งบอกกำรกระทำ ว่ำ ทำ อะไร ๒. คำ ที่ขีดเส้นใต้ต่อไปนี้คำ ใดเป็นคำ นำม ก. พี่เป็นคนภำคใต้ ข. เขำมำอย่ำงรวดเร็ว ค. มยุรำเดินบนถนนสำยนี้ ง. ภูเขำสูงแค่ไหนก็ยังวัดได้ ๓. ข้อควำมต่อไปนี้ข้อใดไม่มีคำ นำมปรำกฏอยู่เลย ก. หมำวิ่งไล่แมว ข. ฉันยังจำ เธอได้ ค. นกตัวนี้เกำะบนกิ่งไม้ ง. กำรกระทำ เป็นเครื่องส่อเจตนำ ๔. ประโยคต่อไปนี้ประโยคใดมีคำ นำมมำกที่สุด ก. คนเดินบนถนน ข. ฟ้ำมืดท่ำทำงฝนจะตก ค. เดือนดำวกำ ลังจะลับจำกฟ้ำ ง. สำยันต์ไม่เคยลืมสัญญำของเขำเลย ๕. ข้อควำมในข้อใดมีคำ นำมสำมัญประกอบอยู่ด้วย ก. เธอมำตำมหำเขำ ข. ควำมรักทำ ให้ลุ่มหลง ค. ถนนลื่นเพรำะฝนตก ง. ใคร ๆ ก็รักคุณทองแดง
  • 11. ๖. ข้อควำมในข้อใดมีคำ นำมสำมัญประกอบอยู่ด้วย ก. ท้องฟ้ำวันนี้มีแดดอบอุ่น ข. พวกเรำภูมิใจต่อคุณสมชำย ค. กำรเดินทำ ให้เขำแข็งแรงขึ้น ง. ผิดหวังทีสองที่ไม่เห็นน่ำกลัวเลย ๗. ข้อควำมในข้อใดมีคำ นำมวิสำมัญประกอบอยู่ด้วย ก. เรำมำโรงเรียนทุกวัน ข. โรงเรียนของเรำชื่อฉวำงรัชดำภิเษก ค. มีพื้นที่กว้ำงขวำงมำกว่ำโรงเรียนอื่น ๆ ง. เด็กนักเรียนทุกคนต้องใจเรียนเรำจึงรักโรงเรียนของเรำ ๘. ข้อควำมในข้อใดมีคำ ลักษณนำมประกอบอยู่ด้วย ก. วันนี้อำกำศดีมำก ข. ฝนไม่ตกเหมือนวันก่อนๆ ค. ท้องฟ้ำสว่ำงไสวด้วยแสงตะวันอ่อน ๆ ง. นำน ๆ ครั้งที่เรำจะพบกับบรรยำกำศเช่นนี้ ๙. ข้อควำมในข้อใดมีคำ ลักษณะนำมที่ใช้ตำมหลังคำ กริยำ ก. เรำสองคนเดินไปตำมทำงสำยด่วน ข. แมวสองตัววิ่งหนีสุนัขอย่ำงไม่คิดชีวิต ค. หยุดอยู่ตรงนั้นตรงที่ฉันเคยเห็นเธอทุกวัน ง. คอยจนหลับไป ๒ ตื่นแล้ว เพื่อนก็ยังไม่มำ ๑๐. ข้อควำมในข้อใดมีคำ อำกำรนำมประกอบด้วยอยู่ด้วย ก. กำรประปำนครหลวงสั่งประกำศว่ำ ข. พนักงำนทุกคนอย่ำงประท้วง ค. เพรำะถ้ำทำ เช่นนั้น ง. ก็จะเป็นควำมผิดอย่ำงใหญ่หลวง
  • 12. ๒. คำ สรรพนำม ๑๑. คำ สรรพนำมคืออะไร ก. คำ ที่ใช้แทนคำ นำม ข. คำ ที่ใช้เรียกคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ ค. คำ ที่เป็นชื่อคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ ง. คำ ที่แสดงกำรกระทำ ของคน สัตว์ ว่ำ ทำ อะไร ๑๒. คำ ที่ขีดเส้นใต้ข้อใดเป็นคำ สรรพนำม ก. พี่เป็นคนภำคใต้ ข. เขำมำอย่ำงรวดเร็ว ค. มยุรำเดินบนถนนสำยนี้ ง. ภูเขำสูงแค่ไหนก็ยังวัดได้ ๑๓. “เค้ำบอกว่ำอำทิตย์หน้ำจะมำเยี่ยม” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ สรรพนำม ก. เค้ำ ข. ว่ำ ค. จะ ง. มำ ๑๔. ประโยคใดมีคำ บุรุษสรรพนำมประกอบอยู่ด้วย ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู
  • 13. ง. หนูเองก็ไม่ชอบหนูเหมือนกัน ๑๕. ประโยคใดมีคำ สรรพนำมถำมประกอบอยู่ด้วย ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ ค. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ ง. อะไรงำนแค่นี้ยังทำ ไม่ได้ ๑๖. คำ ในข้อใดมีคำ สรรพนำมชี้เฉพำะ ก. ไหนคนไหนที่สอบได้ที่หนึ่ง ข. เด็กนี่ซนจังเลยมีท่ำทีว่ำจะฉลำด ค. ใครเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกบ้ำง ง. นี้โรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกที่มีเด็กเก่ง ๆ มำก ๑๗. “เรื่องนี้เขำไม่ได้บอกใครเลย” คำ ใดในประโยคนี้เป็นคำ สรรพนำมไม่ชี้เฉพำะ ก. นี้ ข. เขำ ค. ไม่ได้ ง. ใคร ๑๘. คำ ในข้อใดมีคำ สรรพนำมแยกฝ่ำย ก. กันมำหำแกด้วยควำมคิดถึง ข. ตำ รวจต้องกันตัวเขำออกเป็นพยำน ค. นักเรียนทุกคนช่วยกันทำ ควำมสะอำด ง. เรำทุกคนต้องป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโรค
  • 14. ๑๙. คำ สรรพนำมประเภทใดที่ใช้คำ เหมือนกับคำ สรรพนำมคำ ถำม ก. บุรุษสรรพนำม ข. สรรพนำมชี้เฉพำะ ค. สรรพนำมแยกฝ่ำย ง. สรรพนำมไม่ชี้เฉพำะ ๒๐. ประโยคใดมีคำ สรรพนำมมำกที่สุด ก. นี่เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง ข. ใครไม่ได้เรียนโรงเรียนนั่นจะต้องเสียใจ ค. เพรำะฉะนั้นเรำต้องพยำยำมเรียนให้มำก ๆ เข้ำไว้ ง. พวกเรำต่ำงก็เป็นนักเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษก ๓. คำ กริยำ ๒๑. คำ กริยำคืออะไร ก. คำ ที่ใช้แทนคำ นำม ข. คำ ที่ใช้เรียกคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ ค. คำ ที่เป็นชื่อคน สัตว์ สถำนที่สิ่งของ ง. คำ ที่แสดงกำรกระทำ และสภำพควำมมีควำมเป็น ๒๒. คำ ที่ขีดเส้นใต้ข้อใดเป็นคำ กริยำ ก. พี่เป็นคนภำคใต้ ข. เขำมำอย่ำงรวดเร็ว ค. มยุรำเดินบนถนนสำยนี้ ง. ภูเขำสูงแค่ไหนก็ยังวัดได้
  • 15. ๒๓. “เค้ำบอกว่ำอำทิตย์หน้ำจะมำเยี่ยม” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ กริยำที่มีหน่วยกรรม ก. เค้ำ ข. บอก ค. ว่ำ ง. มำ ๒๔. ประโยคใดมีกริยำที่ไม่มีหน่วยกรรมประกอบอยู่ด้วย ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู ง. หนูเองก็ไม่ชอบหนูเหมือนกัน ๒๕. ประโยคใดมีคำ กริยำคุณสรรพประกอบอยู่ด้วย ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ ค. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ ง. อะไรงำนแค่นี้ยังทำ ไม่ได้ ๒๖. คำ ในข้อใดมีคำ กริยำทวิกรรมประกอบอยู่ด้วย ก. ไหนคนไหนที่สอบได้ที่หนึ่ง ข. เธอส่งกำรบ้ำนให้ครูแล้วหรือยัง ค. ใครเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกบ้ำง ง. ผู้ปกครองทุกคนชอบให้ลูกมำเรียนโรงเรียนนี้ ๒๗. “เรื่องนี้เขำไม่ได้บอกใครเลย”
  • 16. ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ กริยำ ก. นี้ ข. เขำ ค. ไม่ได้ ง. บอก ๒๘. คำ ในข้อใดมีคำ กริยำนำ ประกอบอยู่ด้วย ก. กันมำหำแกด้วยควำมคิดถึง ข. ตำ รวจต้องกันตัวเขำออกเป็นพยำน ค. นักเรียนทุกคนทำ ควำมสะอำดห้องเรียน ง. เรำทุกคนป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโรคร้ำย ๒๙. “อำรีย์เรียนจบไปแล้ว” คำ ใดเป็นคำ กริยำตำม ก. เรียน ข. จบ ค. ไป ง. แล้ว ๓๐. ประโยคใดมีคำ กริยำต้องเติมเต็ม ก. นี่เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง ข. ใครไม่ได้เรียนโรงเรียนนั่นจะต้องเสียใจ ค. เพรำะฉะนั้นเรำต้องพยำยำมเรียนให้มำก ๆ เข้ำไว้ ง. พวกเรำต่ำงก็เป็นนักเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษก ๔. คำ ช่วยกริยำ
  • 17. ๓๑. คำ ช่วยกริยำคืออะไร ก. คำ ที่ใช้นำ หน้ำคำ กริยำ ข. คำ ที่ใช้ตำมหลังคำ กริยำ ค. คำ ที่แสดงควำมเข้มข้นของคำ กริยำ ง. คำ ที่บอกลักษณะทำงไวยำกรณ์ของคำ กริยำ ๓๒. คำ ช่วยกริยำมักจะเกิดในตำ แหน่งใดของประโยค ก. หน้ำคำ กริยำ ข. หลังคำ กริยำ ค. หน้ำบทกรรม ง. หลังบทกรรม ๓๓. “เค้ำบอกว่ำอำทิตย์หน้ำจะมำเยี่ยม” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ ช่วยกริยำ ก. เค้ำ ข. บอก ค. จะ ง. มำ ๓๔. ประโยคใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู ง. หนูชอบอยู่ในสถำนที่ไม่ค่อยสะอำดนัก ๓๕. ประโยคใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ ค. อะไรงำนแค่นี้ทำ ไม่ได้ ง. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ
  • 18. ๓๖. คำ ในข้อใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย ก. ไหนคนไหนที่สอบได้ที่หนึ่ง ข. เธอเคยทำ ควำมดีอะไรมำบ้ำง ค. ใครเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษกบ้ำง ง. ผู้ปกครองทุกคนชอบให้ลูกมำเรียนโรงเรียนนี้ ๓๗. “เรื่องนี้ยังไม่บอกให้ใครรู้” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ ช่วยกริยำ ก. ยัง ข. ไม่ ค. บอก ง. รู้ ๓๘. คำ ในข้อใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย ก. กันมำหำแกด้วยควำมคิดถึง ข. ตำ รวจกันตัวเขำออกเป็นพยำน ค. เรำทุกคนป้องกันตัวเองจำกโรคร้ำย ง. นักเรียนกำ ลังทำ ควำมสะอำดห้องเรียน ๓๙. “เจ้ำเก่งถูกนักเรียนรังแก” คำ ใดเป็นคำ ช่วยกริยำ ก. เก่ง ข. ถูก ค. นักเรียน ง. รังแก
  • 19. ๔๐. ประโยคใดมีคำ ช่วยกริยำประกอบอยู่ด้วย ก. นี่เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง ข. ใครไม่ได้เรียนโรงเรียนนั่นจะต้องเสียใจ ค. เพรำะฉะนั้นเรำต้องพยำยำมเรียนให้มำก ๆ เข้ำไว้ ง. พวกเรำต่ำงก็เป็นนักเรียนโรงเรียนฉวำงรัชดำภิเษก ๕. คำ วิเศษณ์ ๔๑. คำ วิเศษณ์คืออะไร ก. คำ ที่ใช้ขยำยคำ กริยำ ข. คำ ที่เป็นคำ หลักของกริยำ ค. คำ ที่แสดงควำมเข้มข้นของคำ กริยำ ง. คำ ที่บอกลักษณะทำงไวยำกรณ์ของคำ กริยำ ๔๒. คำ วิเศษณ์มักจะเกิดในตำ แหน่งใดของประโยค ก. หน้ำคำ กริยำ ข. หลังคำ กริยำ ค. หน้ำบทกรรม ง. หลังบทกรรม ๔๓. “นกตัวนี้บินสูง” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ วิเศษณ์ ก. ตัว ข. นี้ ค. บิน ง. สูง
  • 20. ๔๔. ประโยคใดมีคำ วิเศษณ์ประกอบอยู่ด้วย ก. หนูเป็นสัตว์สกปรก ข. หนูบำงชนิดนำ เชื้อโรคมำสู่คน ค. คนบำงกลุ่มตั้งบริษัทกำ จัดหนู ง. หนูชอบอยู่ในสถำนที่ไม่ค่อยสะอำดนัก ๔๕. ประโยคใดมีคำ วิเศษณ์สำมัญประกอบอยู่ด้วย ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ ค. อะไรงำนแค่นี้ทำ ไม่ได้ ง. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ ๔๖. คำ วิเศษณ์ขยำยเฉพำะของคำ ว่ำ “แดง” คือคำ อะไร ก. ปี๋ ข. อื๋อ ค. แจ๋ ง. ปรี๋ด ๔๗. คำ วิเศษณ์ในประโยคใดที่แสดงกำรถำม ก. ใครจริงใจกับฉันบ้ำง ข. ไม่มีใครจริงใจกับฉันเลย ค. ใคร ๆ มำแล้วก็ผ่ำนไปทุกคน ง. ถึงฉันจะช้ำ แค่ไหนก็ไม่บอกใคร ๔๘. คำ ในข้อใดมีคำ วิเศษณ์บอกเวลำประกอบอยู่ด้วย ก. เมื่อวำนผมเจอเธอหน้ำโรงเรียน
  • 21. ข. เรำช่วยกันทำ กำรบ้ำนที่ครูสั่งไว้ ค. เมื่อทำ กำรบ้ำนเสร็จเรำก็ไปกินข้ำว ง. เรำจึงสำมำรถส่งกำรบ้ำนตำมที่คุณครูสั่งไว้ ๔๙. “นักเรียนทุกคนรักเจ้ำเก่งมำก ๆ ” คำ ใดเป็นคำ วิเศษณ์ ก. ทุกคน ข. รัก ค. เก่ง ง. มำก ๆ ๕๐. “เขำขยันที่สุด” ประโยคนี้มีคำ วิเศษณ์ประเภทใดประกอบอยู่ด้วย ก. คำ วิเศษณ์สำมัญ ข. คำ วิเศษณ์ขยำยเฉพำะ ค. คำ วิเศษณ์แสดงคำ ถำม ง. คำ วิเศษณ์บอกเวลำ ๖. คำ บอกกำ หนด ๕๑. คำ บอกกำ หนดคืออะไร ก. คำ ที่ใช้ขยำยคำ นำม ข. คำ ที่ใช้ขยำยคำ กริยำ ค. คำ ที่ใช้ขยำยคำ อุทำน ง. คำ ที่ใช้ขยำยคำ วิเศษณ์ ๕๒. คำ บอกกำ หนดมักจะเกิดในตำ แหน่งใดในนำมวลี
  • 22. ก. หน้ำคำ นำม ข. หลังคำ นำม ค. หน้ำบทกริยำ ง. หลังบทกริยำ ๕๓. “นกตัวนี้บินสูง” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ บอกกำ หนด ก. ตัว ข. นี้ ค. บิน ง. สูง ๕๔. ประโยคใดมีคำ บอกกำ หนดประกอบอยู่ด้วย ก. เรำทุกคนรักโรงเรียนนี้มำก ข. เรำต้องทำ ดีที่สุดเท่ำที่เรำจะทำ ได้ ค. นี่โรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง ง. เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนและตัวเรำ ๕๕. ประโยคใดมีคำ บอกกำ หนดประกอบอยู่ด้วย ก. พี่กำ ลังอ่ำนอะไร ข. คนอะไรเก่งอย่ำงนี้ ค. อะไรงำนแค่นี้ทำ ไม่ได้ ง. ไหนคนนั้นมำนี่หน่อยซิ ๕๖. คำ ใดแสดงกำรบอกกำ หนดที่ไกลที่สุด ก. นี้
  • 23. ข. นั้น ค. นู้น ง. โน่น ๕๗. คำ ใดที่บอกกำ หนดที่ใกล้ที่สุด ก. นี่ ข. นี้ ค. นั่น ง. นั้น ๕๘. คำ ในข้อใดมีคำ บอกกำ หนดบอกเวลำประกอบอยู่ด้วย ก. เมื่อวำนผมเจอเธอหน้ำโรงเรียน ข. เรำช่วยกันทำ กำรบ้ำนที่ครูสั่งไว้ ค. เมื่อทำ กำรบ้ำนเสร็จเรำก็ไปกินข้ำว ง. เรำจึงสำมำรถส่งกำรบ้ำนนี้ตำมที่คุณครูสั่งไว้ ๕๙. “นักเรียนคนไหนส่งงำนทุกชิ้นเขำก็จะไม่ติด ร” คำ ใดเป็นคำ บอกกำ หนด ก. คน ข. ไหน ค. ทุก ง. ไม่ ๖๐. “เด็กโรงเรียนนี้มำจำกสถำนที่ต่ำง ๆ หลำยพื้นที่” คำ ใดเป็นคำ บอกกำ หนดไม่ชี้เฉพำะ ก. นี้ ข. จำก ค. ที่ ง. ต่ำง ๆ
  • 24. ๗. คำ เกี่ยวกับจำ นวน ๖๑. คำ เกี่ยวกับจำ นวนคืออะไร ก. คำ ที่ใช้บอกเวลำ ข. คำ ที่ใช้บอกสถำนที่ ค. คำ ที่ใช้บอกลักษณะ ง. คำ ที่ใช้บอกปริมำณ ๖๒. คำ เกี่ยวกับจำ นวนมักจะเกิดในตำ แหน่งใดในนำมวลี ก. หน้ำคำ นำม ข. หลังคำ นำม ค. หน้ำคำ กริยำ ง. หลังคำ กริยำ ๖๓. “โรงเรียนนี้มีนักเรียนพันกว่ำคน” ประโยคนี้มีคำ ใดเป็นคำ เกี่ยวกับจำ นวน ก. ตัว ข. นี้ ค. พัน ง. คน ๖๔. ประโยคใดมีคำ เกี่ยวจำ นวนประกอบอยู่ด้วย ก. เรำทุกคนรักโรงเรียนนี้มำก ข. เรำต้องทำ ดีที่สุดเท่ำที่เรำจะทำ ได้ ค. นี่โรงเรียนที่ดีที่สุดในอำ เภอฉวำง ง. เพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนและตัวเรำ ๖๕. ประโยคใดมีคำ เกี่ยวกับจำ นวนประกอบอยู่ด้วย
  • 25. ก. เด็กคนนี้เก่งที่สุด ข. ปกติจะขยันเรียน ค. รวมทั้งชอบช่วยงำนโรงเรียน ง. เวลำสอบก็มักจะได้ที่หนึ่งเสมอ ๖๖. คำ ใดแสดงกำรบอกจำ นวน ก. ห้ำ ข. ที่ห้ำ ค. รำว ง. กว่ำ ๖๗. ประโยคใดมีคำ บอกลำ ดับประกอบอยู่ด้วย ก. ฉันจะรักเธอเป็นคนสุดท้ำย ข. แม้ว่ำเธอจะดีหรือร้ำย ค. ฉันก็หมำยรักเธอแน่นอน ง. ถึงคนจะประณำมเหยียดหยำมเธอ ๖๘. คำ ในข้อใดมีคำ หน้ำจำ นวนประกอบอยู่ด้วย ก. ในโรงเรียนเรำมีเพื่อนมำกมำย ข. แต่ละวันมีนักเรียนรำว ๆ พันคน ค. เรำได้พบปะกับเขำพูดคุยและเล่นหัวด้วยกัน ง. เรำจึงรักที่ได้มำโรงเรียนและเรียนในโรงเรียนนี้
  • 26. 1. ข้อใดคือคานาม ก พระคุณท่ำน ข ข้ำพเจ้ำ ค กระผม ง สุนทรภู่ ข้อที่ 2) คาว่า ขัน ในข้อใดเป็นคานาม ก หยิบขันตักน้ำ ให้พี่ ข ไก่ขันตอนเช้ำ ค เขำทำ งำนแข็งขัน ง ขันเชือกให้แน่น ข้อที่ 3) บุตรเศรษฐีได้เป็นผู้จัดการกองมรดกของพ่อแม่แต่ผู้เดียว กอง เป็นคานามชนิดใด ก สำมำนยนำม ข วิสำมำนยนำม ค สมุหนำม ง ลักษณนำม ข้อที่ 4) เสื่อม้วนนี้มีหลายผืน ม้วน เป็นลักษณนามชนิดใด ก ลักษณนำมบอกอำกำร ข ลักษณนำมบอกจำ นวนและมำตรำ ค ลักษณนำมบอกสันฐำน ง ลักษณนำม ข้อที่ 5) ข้อใดใช้ลักษณนามผิด ก พระภิกษุ 2 องค์ ข ศำลเจ้ำ 2 หลัง
  • 27. ค เลื่อย 2 ปื้น ง หนังสือ 2 เล่ม ข้อที่ 6) ข้อใดไม่มีคาสมุหนาม ก คณะอำจำรย์ประชุมเสร็จแล้ว ข ปลำฝูงใหญ่อยู่ในลำ ธำร ค คณะรัฐบำลทำ งำนได้ผล ง วงดนตรี รับสมัครนักร้อง ข้อที่ 7) แถวนี้มีที่ทา การธนาคารไทยพาณิชย์อยู่หลาย..........และสาหรับที่บริการเงินด่วนอยู่ถึง 2 ....... ข้อความนี้ควรเติมคาใดจึงจะถูกต้อง ก ที่, อัน ข หลัง, ธนำคำร ค สำขำ, แห่ง ง แห่ง, เครื่อง ข้อที่ 8) ข้อใดไม่มีคาอาการนาม ก ควำมคิดของคนเรำมีหลำยลักษณะ ข ในยำมเย็นนี้ คนไกลบ้ำนมักจะเกิดควำมอ้ำงว้ำง ค ควำมใดที่ไม่ดีงำมก็ควรช่วยกันปิดบัง ง ควำมตำยเป็นเรื่องธรรมดำของสิ่งมีชีวิต ข้อที่ 9) ยายป้อนข้าวหลานมีคานามกี่คา ก 2 คำ ข 3 คำ ค 4 คำ ง 5 คำ
  • 28. ข้อที่ 10) ข้อใดใช้ลักษณะนามผิด ก อิฐบนทำงเท้ำแตกหลำยแผ่น ข พระสงฆ์วันนี้มีไม่กี่รูป ค ซื้อหน้ำต่ำงสักบำนหนึ่งเถอะ ง งำนนี้มีแขกผู้ใหญ่มำหลำยท่ำน 1. ข้อใดเป็นสำมำนยนำม 1. มังคุด 2. ลำ ไย 3. ผลไม้ 4. เงำะ 2. ข้อใดเป็นวิสำมำนยนำม 1. ขุนช้ำงขุนแผน 2. โรงเรียน 3. ดอกไม้ 4. วรรณคดี 3. ข้อใดเป็นอำกำรนำม 1. ทัศนีย์ทำ กำรบ้ำน 2. กำรไฟฟ้ำแห่งประเทศไทย 3. กำรเมืองทุกวันนี้วุ่นวำย 4. คนไทยเจอหน้ำกันต้องมีกำรไหว้ 4. ข้อใดมีกำรใช้สมุหนำม 1. มำลีถือดอกไม้มำ ๑ ช่อ 2. สมชำยเห็นทรำย ๑ กอง 3. โขลงช้ำงเดินอยู่ในป่ำ 4. ถูกทุกข้อ 5. ข้อใดใช้ลักษณะนำมไม่ถูกต้อง 1. รัศมีให้เพื่อนยืมร่ม ๑ คัน 2. อริยะใส่แหวน ๑อัน
  • 29. 3. หิมะซื้อหนังสืแ ๑ เล่ม 4. นำใิิกำรที่บ้ำนมี ๕ เรือน
  • 30. รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) หมำยถึง รำยงำนสัมฤทธ์ิผลกำรดำ เนินงำนของคณะ/หน่วยงำน ที่ใช้รำยงำนต่อหน่วยงำนต้นสังกัด หรือหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง และสำธำรณชน เพื่อนำ ไปสู่กำรพัฒนำคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำ และมำตรฐำนกำรปฏิบัติงำน ซึ่งรำยงำนกำรประเมินตนเองนอกจำกจะทำ ในระดับสถำบันแล้ว อำจทำ ในระดับคณะ/หน่วยงำนเพื่อให้สอดคล้องกัน โดยมีองค์ประกอบของกำรรำยงำนกำรประเมินตนเอง มีส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 สภำพปัจจุบันของคณะ/หน่วยงำน ส่วนที่ 2 ผลกำรประเมินกำรดำ เนินงำนของคณะ/หน่วยงำน ส่วนที่ 3 สรุปผลกำรวิเครำะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ข้อเสนอแนะและแนวทำงในกำรพัฒนำ ส่วนที่ 4 ภำคผนวก กำรเขียนรำยงำนกำรประเมินตนเองควรมีควำมยำวไม่เกิน 30 หน้ำ (ไม่รวมภำคผนวก) Self Assessment Report : SAR คืออะไร เอกสารรายงานผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อให้สำธำรณชนรับทรำบประสิทธิภำพและประสิทธิผล ตำมมำตรฐำน ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ที่กำ หนด รวมถึงวิเครำะห์จุดเด่นจุดที่ควรพัฒนำและระบุแนวทำงกำรพัฒนำ วัตถุประสงค์ของการเขียน SAR  เพื่อสรุปผลกำรจัดกำรศึกษำประจำ ปีกำรศึกษำให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทรำบซึ่งเป็นกำรสรุปผลกำรดำ เนินงำนตำมข้ อเสนอแนะตำมที่ ผู้ประเมินภำยนอก/ผู้ประเมินภำยในโดยต้นสังกัดและข้อกำ หนดในแผนปฏิบัติกำรประจำ ปีของสถำนศึกษำ ในรอบ 1 ปี  เพื่อระบุทิศทำงกำรพัฒนำสถำนศึกษำในอนำคต  เพื่อรำยงำนผลให้ต้นสังกัดและสำธำรณชนได้ทรำบถึง ผลกำรดำ เนินงำนของสถำนศึกษำในรอบปีที่ผ่ำนมำ  เพื่อเตรียมควำมพร้อมของสถำนศึกษำในกำรรับ กำรประเมินคุณภำพภำยนอกรอบต่อไป สาระเนื้อหาของ SAR  บทสรุปสำ หรับผู้บริหำร  ตอนที่ 1. สภำพทั่วไปของสถำนศึกษำ  ตอนที่ 2. ผลกำรประเมินตำมมำตรฐำน  ตอนที่ 3. สรุปผลกำรประเมิน  ภำคผนวก