Stress Disorder

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน Stress Disorder
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวพิชญา จันทรังษี เลขที่31 ชั้นม.6 ห้อง7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวพิชญา จันทรังษี เลขที่31
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคเครียด
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Stress Disorder
ประเภทโครงงาน สารวจ รวบรวมข้อมูล
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพิชญา จันทรังษี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันเยาวชนต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมายเช่น ปัญหาการเรียน การศึกษาต่อ ปัญหาด้านเศรษฐกิจ
ของครอบครัว ปัญหาด้านร่างกายที่กาลังเปลี่ยนแปลง ปัญหาด้านเพศ ปัญหายาเสพติด และปัญหาสังคมต่างๆซึ่ง
ล้วนส่งผลต่อจิตใจและทาให้เกิดภาวะเครียด ซึ่งภาวะเครียดที่เกิดขึ้นมีทั้งผลดีและผลเสีย โดยหากภาวะเครียดอยู่ใน
ระดับพอดีก็จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายตอบสนองในเชิงกระตือรือร้น ตื่นเต้น ท้าทายแต่หากมีภาวะเครียดมากก็จะ
ทาให้ส่งผลในทางกลับกัน ความเครียดจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางร่างกาย จิตใจและพฤติกรรม โดยความ
ผิดปกติทางร่างกาย ได้แก่ ปวดศีรษะ ท้องเสียหรือท้องผูก นอนไม่หลับหรือง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา เบื่ออาหาร
หรือกินมากกว่าปกติ ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ประจาเดือนมาไม่ปกติ ใจสั่น เป็นหวัดบ่อย ๆ แพ้อากาศง่าย ความ
ผิดปกติทางจิตใจ ได้แก่ ความวิตกกังวล คิดมาก คิดฟุ้งซ่าน หลงลืมง่าย ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด โกรธง่าย ใจน้อย เบื่อ
หน่าย ซึมเศร้า เหงา ว้าเหว่ สิ้นหวัง หมดความรู้สึกสนุกสนาน และความผิดปกติทางพฤติกรรม ได้แก่ สูบบุหรี่ ดื่ม
สุรามากขึ้น ใช้สารเสพติด ใช้ยานอนหลับ จู้จี้ขี้บ่น ชวนทะเลาะ มีเรื่องขัดแย้งกับผู้อื่นบ่อย ๆ ดึงผม กัดเล็บ กัดฟัน
ผุดลุกผุดนั่ง เงียบขรึม เก็บตัว หรืออาจถึงขั้นเกิดภาวะเศร้าซึม และนาไปสู่การฆ่าตัวตายได้ จากที่กล่าวมาจะเห็นได้
ว่าภาวะความเครียดเป็นสาเหตุที่ทาให้เกิดผลไม่ดีตามมามากมาย ดังนั้นจึงสนใจที่จะจัดทาโครงงาน เพื่อศึกษาภาวะ
เครียดและปัจจัยที่ทาให้เกิดความเครียด ซึ่งจะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่บ่งบอกถึงโอกาสเสี่ยงต่อสิ่งไม่ดีที่อาจเข้ามาในชีวิต

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเครียด
2.เพื่อทาความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย
3.เพื่อเป็นการกระจายความรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเครียด
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ศึกษาความหมาย สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
โรคเครียด (Acute Stress Disorder) คือ ภาวะที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากเหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งภาวะ
ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตอบสนองของร่างกายและจิตใจ ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ซึ่งก่อให้เกิดความเครียด จะเกิดอาการ
เครียดประมาณหนึ่งเดือน หากเกิดอาการนานกว่านั้นจะกลายเป็นโรคเครียดหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ
(Posttraumatic Stress Disorder: PTSD)
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตราย ร่างกายจะหลั่งสารสื่อประสาทที่ทาให้ร่างกาย
ตอบสนองด้วยการสู้หรือหนี (Fight-or-Flight) ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ขึ้น กล้ามเนื้อหดตัว และความดันโลหิต
สูงขึ้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเครียดจะรู้สึกกลัว หวาดระแวง หรือตื่นตระหนกหลังเผชิญสถานการณ์อันตราย ทั้งนี้ อาจรู้สึก
วิตกกังวล ว้าวุ่น และฟุ้งซ่าน หรือฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม มนุษย์เราจะประสบ
ภาวะเครียดจากสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป กล่าวคือ สถานการณ์บางอย่างอาจทาให้คนหนึ่งเกิดความเครียดได้
ในขณะที่อีกคนอาจรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และไม่รู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเครียดมักเกิดอาการของโรคทันทีที่เผชิญสถานการณ์ที่ทาให้เกิดความเครียด โดยจะเกิด
อาการของโรคเป็นเวลานานหลายวันหรือหลายสัปดาห์ อาการโรคเครียด มีดังนี้
- เห็นภาพเหตุการณ์ร้ายแรงซ้า ๆ
- อารมณ์ขุ่นมัว
- มีพฤติกรรมแยกตัวออกมา ผู้ป่วยจะเกิดหลงลืมมึนงง ไม่มีสติหรือไม่รับรู้การมีอยู่ของตัวเอง
- หลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ ผู้ป่วยจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทาให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ทาให้เกิดความเครียด
- ไวต่อสิ่งเร้า ผู้ป่วยจะนอนหลับยาก โมโหหรือก้าวร้าว ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
วิธีรักษาโรคเครียดคือการรับมืออาการของโรคที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ที่ทาให้เกิดความเครียด
ผู้ป่วยควรเข้าใจสาเหตุที่ทาให้เกิดอาการดังกล่าว และพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนเพื่อระบายความเครียดอย่างไรก็
ตาม ผู้ป่วยที่เกิดอาการรุนแรงหรือเกิดความเครียดเรื้อรัง จาเป็นต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อที่ต้องการศึกษา
2. ศึกษา รวบรวมข้อมูล
3. จัดทาโครงร่างโครงงาน
4. จัดทาโครงงานเพื่อการนาเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. อินเตอร์เน็ต
งบประมาณ
-

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเครียด
2.สามารถเข้าใจเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยโรคเครียดที่อาจพบเจอในชีวิตประจาวันได้
3.ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับโรคเครียดได้รับความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตั้งอยู่เลขที่ 238 ถนนพระปกเกล้า ตาบลศรีภูมิ อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์
50200
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. กลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1. โรคเครียด (Stress Disorder) โดย pobpad
แหล่งที่มา : www.pobpad.com/โรคเครียด
2. โรคเครียด (Stress Disorder) โดย โรงพยาบาลบารุงราษฎร์
แหล่งที่มา : www.bumrungrad.com/th/mental-health-center-bangkok-thailand/conditions/stress