SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน โรคภูมิแพ้กาเริบจนทนไม่ได้
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.บดินทร์ชัย สุทธิภิการัตน์ เลขที่ 29 ชั้น ม.6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1 นายบดินทร์ชัย สุทธิภิการัตน์ เลขที่ 29
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคภูมิแพ้กำเริบจนทนไม่ได้
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The allergy increased
ประเภทโครงงาน โครงงำนเพื่อกำรศึกษำ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นำยบดินทร์ชัย สุทธิภิกำรัตน์
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือนเต็ม
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบำยถึงที่มำ แนวคิด และเหตุผล ของกำรทำโครงงำน)
เนื่องจำกในปัจจุบันสภำพอำกำศที่เปลี่ยนไป ไม่ว่ำจะเป็นอำกำศที่หนำวหรือร้อนจัด และอำกำศที่
เปลี่ยนแปลงไปอย่ำงรวดเร็ว รวมไปถึงมลภำวะที่เกิดจำกโรงงำนอุตสำหกรรมต่ำงๆ กำรสูบบุหรี่ กำรเผำขยะ ตลอด
จนถึงกำรใช้รถส่วนตัวที่มำกขึ้นทำให้เกิดแก๊สที่เป็นพิษในปริมำณมำก ส่งผลให้สภำพอำกำศในปัจจุบันไม่บริสุทธิ์อีก
ต่อไป ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่ำเรำไม่สำมำรถหลีกเลี่ยงปัจจัยข้ำงต้นได้เลย ทำให้มีปริมำณของผู้เป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มมำกขึ้น
ทั้งในสังคมไทยและต่ำงประเทศ โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจำกกำรตอบสนองของร่ำงกำยต่อสำรกระตุ้น ในคนที่ปกติ
นั้นจะไม่ก่อให้เกิดอันตรำยกับร่ำงกำย เช่น ไรฝุ่น แต่ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้จะเกิดกำรตอบสนองที่มำกผิดปกติต่อสำร
เหล่ำนี้ จึงทำให้เกิดอำกำรอักเสบกับอวัยวะที่สัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้ เมื่อสำรก่อภูมิแพ้เข้ำสู่ร่ำงกำย ไม่ว่ำจะด้วยวิธี
ไหน เช่น กำรสูดดม กำรสัมผัสกับผิวหนัง หรือจำกกำรรับประทำน ระบบภูมิคุ้มกันของร่ำงกำยจะตอบสนองสำรก่อ
ภูมิแพ้เหล่ำนั้นด้วยกำรหลั่งสำรก่อกำรอักเสบต่ำงๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้มีกำรพัฒนำเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่สำมำรถผลิต
แอนติบอดี (antibody) ต่อสำรก่อภูมิแพ้นั้น ๆ เมื่อภำยในร่ำงกำยมีแอนติบอดีแล้ว ก็จะทำให้ร่ำงกำยมีควำมไว
(sensitive) ต่อสำรก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นเพิ่มมำกขึ้น
ดังนั้นทำงคณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นควำมสำคัญของโรคภูมิแพ้ และได้เริ่มศึกษำเพื่อจัดทำโครงงำนเกี่ยวกับโรคนี้
ให้เป็นแนวทำงสำคัญในกำรป้องกัน รักษำ รู้และเข้ำใจถึงสำเหตุสำคัญต่ำงๆของโรคนี้เพื่อลดปริมำณของผู้ป่วยโรค
ดังกล่ำวให้มำกยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษำสำเหตุ แนวทำงกำรป้องกัน และวิธีกำรรักษำโรคภูมิแพ้
2.เพื่อศึกษำชนิดของโรคภูมิแพ้ และผลข้ำงเคียงที่เกิดขึ้น
3.เพื่อในข้อมูลมำปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
3
ขอบเขตโครงงาน
ศึกษำชนิดของโรคภูมิแพ้และผลข้ำงเคียงที่ตำมมำ โดยเจำะลึกในรำยละเอียดของโรคภูมิแพ้อำกำศ สำเหตุ
แนวทำงกำรป้องกันและวิธีกำรรักษำโรคภูมิแพ้
หลักการและทฤษฎี
โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่สำมำรถพบเห็นได้บ่อยในทุกที่ทั่วโลก โดยเป็นโรคที่เกิดจำกกำรตอบสนอง
ของร่ำงกำยต่อสำรกระตุ้น ที่ในคนที่ปกตินั้นจะไม่ก่อให้เกิดอันตรำยกับร่ำงกำย เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรของพืช แต่ใน
คนที่เป็นโรคภูมิแพ้จะเกิดกำรตอบสนองที่มำกผิดปกติต่อสำรเหล่ำนี้ จึงทำให้เกิดอำกำรอักเสบกับอวัยวะที่สัมผัสกับ
สำรก่อภูมิแพ้ ระยะเวลำที่อำกำรจะแสดงออกมำหลังจำกสัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้อำจจะใช้เวลำก่อนเกิดอำกำรเป็น
นำทีหรือเป็นชั่วโมงก็ได้ และคนที่เป็นภูมิแพ้ยังมีกำรตอบสนองไวกว่ำปกติต่อสิ่งที่ไม่ใช่สำรกระตุ้น หรือสำรก่อภูมิแพ้
เช่น ควำมเย็น ควำมร้อน ควำมชื้น ฝน ควำมกดอำกำศต่ำ ซึ่งภำวกำรณ์ตอบสนองนี้อำจจะอยู่นำนเป็นวัน หรือเป็น
เดือน และสำมำรถเกิดอำกำรได้โดยไม่ต้องสัมผัสสำรก่อภูมิแพ้
สำเหตุของกำรเกิดโรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้สำมำรถเกิดได้จำกทั้งเรื่องของพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม โดยมีกำรค้นพบว่ำ ถ้ำใครมีบิดำหรือมำรดำป่วย
เป็นโรคภูมิแพ้ บุคคลนั้นก็มีโอกำสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน โดยมีโอกำสเป็นประมำณ 30 - 50% แต่ถ้ำเป็นโรค
ภูมิแพ้กันทั้งบิดำมำรดำ บุคคลนั้นก็จะมีโอกำสเป็นมำกขึ้นประมำณ 50 - 70% ในขณะที่ คนที่มีบิดำมำรดำไม่ได้เป็น
โรคภูมิแพ้เลยจะมีโอกำสเป็นอยู่ที่ 10% เท่ำนั้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหนทำงที่จะแก้ไขปัจจัยทำงพันธุกรรมได้ ดังนั้น
จึงควรป้องกันตัวเองไม่ให้โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นด้วยกำรหลีกเลี่ยงสำรก่อภูมิแพ้และสำรระคำยเคืองต่ำงๆ เช่น ควันบุหรี่
ไรฝุ่น เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดกำรเป็นภูมิแพ้ และป้องกันไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นได้
เริ่มต้นด้วยกำรสัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้ เมื่อสำรก่อภูมิแพ้เข้ำสู่ร่ำงกำย ไม่ว่ำจะด้วยวิธีไหน เช่น กำรสูดดม
กำรสัมผัสกับผิวหนัง หรือจำกกำรรับประทำน ระบบภูมิคุ้มกันของร่ำงกำยจะตอบสนองสำรก่อภูมิแพ้เหล่ำนั้นด้วย
กำรหลั่งสำรก่อกำรอักเสบต่ำงๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้มีกำรพัฒนำเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่สำมำรถผลิตแอนติบอดี
(antibody) ต่อสำรก่อภูมิแพ้นั้น ๆ เมื่อภำยในร่ำงกำยมีแอนติบอดีแล้ว ก็จะทำให้ร่ำงกำยมีควำมไว (sensitive) ต่อ
สำรก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นเพิ่มมำกขึ้น จำกนั้นในครั้งต่อไปที่ร่ำงกำยได้รับหรือมีกำรสัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกัน
และแอนติบอดีก็จะตอบสนอง และก่อให้เกิดกำรกระตุ้นของเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่ำแมสต์เซลล์ (mast cell) ซึ่งจะ
หลั่งสำรที่เรียกว่ำฮีสตำมีน (histamine) ซึ่งเป็นตัวกำรสำคัญของอำกำรที่ไม่พึงประสงค์ของโรคภูมิแพ้
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- ศึกษำข้อมูลและประเภทของภูมิแพ้
- เสนอหัวข้อกับอำจำรย์ที่ปรึกษำโครงงำน
- รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลตำมเนื้อหำของเรื่องที่ต้องกำรจะศึกษำ
- ริเริ่มทำโครงงำนตำมแผนงำนที่ร่ำงไว้
- นำเสนอโครงงำน
- นำข้อเสนอแนะต่ำงๆมำปรับปรุงแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
- อินเทอร์เน็ต
- กระดำษ A4
- เครื่องพิมพ์
งบประมาณ
- ประมำณ 100 บำท
4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงำน
2 ศึกษำและค้นคว้ำข้อมูล
3 จัดทำโครงร่ำงงำน
4 ปฏิบัติกำรสร้ำงโครงงำน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 กำรทำเอกสำรรำยงำน
7 ประเมินผลงำน
8 นำเสนอโครงงำน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ได้ทรำบถึงสำเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ แนวทำงกำรป้องกันและกำรรักษำ และได้นำไปปรับใช้ในกำรใช้
ชีวิตประจำวันของตน อีกทั้งยังได้เผยแพร่ข้อมูลและควำมรู้ไปยังผู้คนต่ำงๆได้อีกด้วย
สถานที่ดาเนินการ
ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย
ห้องสมุด โรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย
บ้ำนของตนเอง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสำระวิชำวิทยำศำสตร์
กลุ่มสำระวิชำสุขศึกษำ
แหล่งอ้างอิง (เอกสำร หรือแหล่งข้อมูลต่ำง ๆ ที่นำมำใช้กำรทำโครงงำน)
https://www.honestdocs.co/allergies-causes-and-treatment

More Related Content

What's hot

2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun SungkabunchooKTPH2348
 
2560 project .pdf1
2560 project .pdf12560 project .pdf1
2560 project .pdf1achirayaRchi
 
2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22ssuser8b25961
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์isaka123
 
2562 final-project 30
2562 final-project 302562 final-project 30
2562 final-project 30teerathai
 
โครงงานเปรม
โครงงานเปรมโครงงานเปรม
โครงงานเปรมThanakorn Intrarat
 
โครงงานกล้วยไม้ไทย
โครงงานกล้วยไม้ไทยโครงงานกล้วยไม้ไทย
โครงงานกล้วยไม้ไทยGuy Prp
 
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกselenagomezz
 

What's hot (20)

2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
2562 final-project-605 from Tun Sungkabunchoo
 
2560 project .pdf1
2560 project .pdf12560 project .pdf1
2560 project .pdf1
 
Kittapad
KittapadKittapad
Kittapad
 
สารคดี
สารคดีสารคดี
สารคดี
 
2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22
 
RUN FOR HEALTH
RUN FOR HEALTHRUN FOR HEALTH
RUN FOR HEALTH
 
5
55
5
 
2561 project 04
2561 project 042561 project 04
2561 project 04
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
45 604
45 60445 604
45 604
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
2562 final-project 30
2562 final-project 302562 final-project 30
2562 final-project 30
 
11111
1111111111
11111
 
615 35 wpdf
615 35 wpdf615 35 wpdf
615 35 wpdf
 
โครงงานเปรม
โครงงานเปรมโครงงานเปรม
โครงงานเปรม
 
604 36 เคป่ะ
604 36 เคป่ะ 604 36 เคป่ะ
604 36 เคป่ะ
 
โครงงานกล้วยไม้ไทย
โครงงานกล้วยไม้ไทยโครงงานกล้วยไม้ไทย
โครงงานกล้วยไม้ไทย
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
Rice soup 604
Rice soup 604Rice soup 604
Rice soup 604
 
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
 

Similar to Chel

615 28 namthip
615 28 namthip615 28 namthip
615 28 namthipportgasjan
 
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์nuttanansaiutpu
 
The benefits of carrots
The benefits of carrotsThe benefits of carrots
The benefits of carrotsPPhumin
 
2561 project
2561 project2561 project
2561 projectMayureept
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32ssuser7d15e1
 
2562 final-project 30-peerawat.com
2562 final-project  30-peerawat.com2562 final-project  30-peerawat.com
2562 final-project 30-peerawat.comMotherYukker
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32ssuser7d15e1
 
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานKittinan42
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project ssuser71dcde
 
2561 project-pichaya
2561 project-pichaya 2561 project-pichaya
2561 project-pichaya apisarajk
 
2560 project ใบงานที่5
2560 project ใบงานที่52560 project ใบงานที่5
2560 project ใบงานที่5Chanin Monkai
 
2562 final-project 605-37
2562 final-project 605-372562 final-project 605-37
2562 final-project 605-37naiizu
 

Similar to Chel (20)

615 28 namthip
615 28 namthip615 28 namthip
615 28 namthip
 
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
 
The benefits of carrots
The benefits of carrotsThe benefits of carrots
The benefits of carrots
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
2561 project
2561 project2561 project
2561 project
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32
 
2562 final-project 30-peerawat.com
2562 final-project  30-peerawat.com2562 final-project  30-peerawat.com
2562 final-project 30-peerawat.com
 
Bipolar
BipolarBipolar
Bipolar
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32
 
T1 67 62
T1 67 62T1 67 62
T1 67 62
 
2562final-project 38
2562final-project 382562final-project 38
2562final-project 38
 
2561 project
2561 project 2561 project
2561 project
 
Phosis
PhosisPhosis
Phosis
 
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
At1
At1At1
At1
 
2561 project 605new
2561 project  605new2561 project  605new
2561 project 605new
 
2561 project-pichaya
2561 project-pichaya 2561 project-pichaya
2561 project-pichaya
 
2560 project ใบงานที่5
2560 project ใบงานที่52560 project ใบงานที่5
2560 project ใบงานที่5
 
2562 final-project 605-37
2562 final-project 605-372562 final-project 605-37
2562 final-project 605-37
 

Chel

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6 ปีการศึกษา 2561 ชื่อโครงงาน โรคภูมิแพ้กาเริบจนทนไม่ได้ ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.บดินทร์ชัย สุทธิภิการัตน์ เลขที่ 29 ชั้น ม.6 ห้อง 5 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1 นายบดินทร์ชัย สุทธิภิการัตน์ เลขที่ 29 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) โรคภูมิแพ้กำเริบจนทนไม่ได้ ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) The allergy increased ประเภทโครงงาน โครงงำนเพื่อกำรศึกษำ ชื่อผู้ทาโครงงาน นำยบดินทร์ชัย สุทธิภิกำรัตน์ ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือนเต็ม ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบำยถึงที่มำ แนวคิด และเหตุผล ของกำรทำโครงงำน) เนื่องจำกในปัจจุบันสภำพอำกำศที่เปลี่ยนไป ไม่ว่ำจะเป็นอำกำศที่หนำวหรือร้อนจัด และอำกำศที่ เปลี่ยนแปลงไปอย่ำงรวดเร็ว รวมไปถึงมลภำวะที่เกิดจำกโรงงำนอุตสำหกรรมต่ำงๆ กำรสูบบุหรี่ กำรเผำขยะ ตลอด จนถึงกำรใช้รถส่วนตัวที่มำกขึ้นทำให้เกิดแก๊สที่เป็นพิษในปริมำณมำก ส่งผลให้สภำพอำกำศในปัจจุบันไม่บริสุทธิ์อีก ต่อไป ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่ำเรำไม่สำมำรถหลีกเลี่ยงปัจจัยข้ำงต้นได้เลย ทำให้มีปริมำณของผู้เป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มมำกขึ้น ทั้งในสังคมไทยและต่ำงประเทศ โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจำกกำรตอบสนองของร่ำงกำยต่อสำรกระตุ้น ในคนที่ปกติ นั้นจะไม่ก่อให้เกิดอันตรำยกับร่ำงกำย เช่น ไรฝุ่น แต่ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้จะเกิดกำรตอบสนองที่มำกผิดปกติต่อสำร เหล่ำนี้ จึงทำให้เกิดอำกำรอักเสบกับอวัยวะที่สัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้ เมื่อสำรก่อภูมิแพ้เข้ำสู่ร่ำงกำย ไม่ว่ำจะด้วยวิธี ไหน เช่น กำรสูดดม กำรสัมผัสกับผิวหนัง หรือจำกกำรรับประทำน ระบบภูมิคุ้มกันของร่ำงกำยจะตอบสนองสำรก่อ ภูมิแพ้เหล่ำนั้นด้วยกำรหลั่งสำรก่อกำรอักเสบต่ำงๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้มีกำรพัฒนำเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่สำมำรถผลิต แอนติบอดี (antibody) ต่อสำรก่อภูมิแพ้นั้น ๆ เมื่อภำยในร่ำงกำยมีแอนติบอดีแล้ว ก็จะทำให้ร่ำงกำยมีควำมไว (sensitive) ต่อสำรก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นเพิ่มมำกขึ้น ดังนั้นทำงคณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นควำมสำคัญของโรคภูมิแพ้ และได้เริ่มศึกษำเพื่อจัดทำโครงงำนเกี่ยวกับโรคนี้ ให้เป็นแนวทำงสำคัญในกำรป้องกัน รักษำ รู้และเข้ำใจถึงสำเหตุสำคัญต่ำงๆของโรคนี้เพื่อลดปริมำณของผู้ป่วยโรค ดังกล่ำวให้มำกยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษำสำเหตุ แนวทำงกำรป้องกัน และวิธีกำรรักษำโรคภูมิแพ้ 2.เพื่อศึกษำชนิดของโรคภูมิแพ้ และผลข้ำงเคียงที่เกิดขึ้น 3.เพื่อในข้อมูลมำปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
  • 3. 3 ขอบเขตโครงงาน ศึกษำชนิดของโรคภูมิแพ้และผลข้ำงเคียงที่ตำมมำ โดยเจำะลึกในรำยละเอียดของโรคภูมิแพ้อำกำศ สำเหตุ แนวทำงกำรป้องกันและวิธีกำรรักษำโรคภูมิแพ้ หลักการและทฤษฎี โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่สำมำรถพบเห็นได้บ่อยในทุกที่ทั่วโลก โดยเป็นโรคที่เกิดจำกกำรตอบสนอง ของร่ำงกำยต่อสำรกระตุ้น ที่ในคนที่ปกตินั้นจะไม่ก่อให้เกิดอันตรำยกับร่ำงกำย เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรของพืช แต่ใน คนที่เป็นโรคภูมิแพ้จะเกิดกำรตอบสนองที่มำกผิดปกติต่อสำรเหล่ำนี้ จึงทำให้เกิดอำกำรอักเสบกับอวัยวะที่สัมผัสกับ สำรก่อภูมิแพ้ ระยะเวลำที่อำกำรจะแสดงออกมำหลังจำกสัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้อำจจะใช้เวลำก่อนเกิดอำกำรเป็น นำทีหรือเป็นชั่วโมงก็ได้ และคนที่เป็นภูมิแพ้ยังมีกำรตอบสนองไวกว่ำปกติต่อสิ่งที่ไม่ใช่สำรกระตุ้น หรือสำรก่อภูมิแพ้ เช่น ควำมเย็น ควำมร้อน ควำมชื้น ฝน ควำมกดอำกำศต่ำ ซึ่งภำวกำรณ์ตอบสนองนี้อำจจะอยู่นำนเป็นวัน หรือเป็น เดือน และสำมำรถเกิดอำกำรได้โดยไม่ต้องสัมผัสสำรก่อภูมิแพ้ สำเหตุของกำรเกิดโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้สำมำรถเกิดได้จำกทั้งเรื่องของพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม โดยมีกำรค้นพบว่ำ ถ้ำใครมีบิดำหรือมำรดำป่วย เป็นโรคภูมิแพ้ บุคคลนั้นก็มีโอกำสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ด้วยเช่นกัน โดยมีโอกำสเป็นประมำณ 30 - 50% แต่ถ้ำเป็นโรค ภูมิแพ้กันทั้งบิดำมำรดำ บุคคลนั้นก็จะมีโอกำสเป็นมำกขึ้นประมำณ 50 - 70% ในขณะที่ คนที่มีบิดำมำรดำไม่ได้เป็น โรคภูมิแพ้เลยจะมีโอกำสเป็นอยู่ที่ 10% เท่ำนั้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหนทำงที่จะแก้ไขปัจจัยทำงพันธุกรรมได้ ดังนั้น จึงควรป้องกันตัวเองไม่ให้โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นด้วยกำรหลีกเลี่ยงสำรก่อภูมิแพ้และสำรระคำยเคืองต่ำงๆ เช่น ควันบุหรี่ ไรฝุ่น เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดกำรเป็นภูมิแพ้ และป้องกันไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นได้ เริ่มต้นด้วยกำรสัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้ เมื่อสำรก่อภูมิแพ้เข้ำสู่ร่ำงกำย ไม่ว่ำจะด้วยวิธีไหน เช่น กำรสูดดม กำรสัมผัสกับผิวหนัง หรือจำกกำรรับประทำน ระบบภูมิคุ้มกันของร่ำงกำยจะตอบสนองสำรก่อภูมิแพ้เหล่ำนั้นด้วย กำรหลั่งสำรก่อกำรอักเสบต่ำงๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้มีกำรพัฒนำเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่สำมำรถผลิตแอนติบอดี (antibody) ต่อสำรก่อภูมิแพ้นั้น ๆ เมื่อภำยในร่ำงกำยมีแอนติบอดีแล้ว ก็จะทำให้ร่ำงกำยมีควำมไว (sensitive) ต่อ สำรก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นเพิ่มมำกขึ้น จำกนั้นในครั้งต่อไปที่ร่ำงกำยได้รับหรือมีกำรสัมผัสกับสำรก่อภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกัน และแอนติบอดีก็จะตอบสนอง และก่อให้เกิดกำรกระตุ้นของเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่ำแมสต์เซลล์ (mast cell) ซึ่งจะ หลั่งสำรที่เรียกว่ำฮีสตำมีน (histamine) ซึ่งเป็นตัวกำรสำคัญของอำกำรที่ไม่พึงประสงค์ของโรคภูมิแพ้ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน - ศึกษำข้อมูลและประเภทของภูมิแพ้ - เสนอหัวข้อกับอำจำรย์ที่ปรึกษำโครงงำน - รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลตำมเนื้อหำของเรื่องที่ต้องกำรจะศึกษำ - ริเริ่มทำโครงงำนตำมแผนงำนที่ร่ำงไว้ - นำเสนอโครงงำน - นำข้อเสนอแนะต่ำงๆมำปรับปรุงแก้ไข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ - คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ - อินเทอร์เน็ต - กระดำษ A4 - เครื่องพิมพ์ งบประมาณ - ประมำณ 100 บำท
  • 4. 4 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 1 2 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงำน 2 ศึกษำและค้นคว้ำข้อมูล 3 จัดทำโครงร่ำงงำน 4 ปฏิบัติกำรสร้ำงโครงงำน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 กำรทำเอกสำรรำยงำน 7 ประเมินผลงำน 8 นำเสนอโครงงำน ผลที่คาดว่าจะได้รับ ได้ทรำบถึงสำเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ แนวทำงกำรป้องกันและกำรรักษำ และได้นำไปปรับใช้ในกำรใช้ ชีวิตประจำวันของตน อีกทั้งยังได้เผยแพร่ข้อมูลและควำมรู้ไปยังผู้คนต่ำงๆได้อีกด้วย สถานที่ดาเนินการ ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย ห้องสมุด โรงเรียนยุพรำชวิทยำลัย บ้ำนของตนเอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสำระวิชำวิทยำศำสตร์ กลุ่มสำระวิชำสุขศึกษำ แหล่งอ้างอิง (เอกสำร หรือแหล่งข้อมูลต่ำง ๆ ที่นำมำใช้กำรทำโครงงำน) https://www.honestdocs.co/allergies-causes-and-treatment