More Related Content
Similar to 2561 project thitichaya (20)
More from thitichaya2442 (6)
2561 project thitichaya
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน ความสุขของเด็กมัธยมปลายคืออะไร
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาวฐิติชญา ดาวงษ์ เลขที่ 9 ชั้น ม.6 ห้อง 9
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นางสาวฐิติชญา ดาวงษ์ เลขที่9
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ความสุขของเด็กมัธยมปลายคืออะไร
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
What is the happiness of a high school student?
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวฐิติชญา ดาวงษ์
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจะเกิดฮอร์โมนต่างๆที่เปลี่ยนแปลงทาให้ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจหลายๆอย่าง
หนึ่งในนั้นคือเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก นักเรียนมัธยมปลายนั้นนอกจากเรื่องภายในร่างกายแล้วยังมีเรื่อง
ภายนอกที่เปลี่ยนแปลงและต้องปรับตัวเช่น การเรียน การใช้ชีวิต เพื่อน ครอบครัว ส่งผลให้เกิดอารมณ์ต่างๆ
มากมายไม่ว่าจะอารมณ์ทางบวกเช่น สนุกสนาน มีความสุข ร่าเริง หรืออารมณ์ทางลบเช่น เศร้า สันโดษ โกรธ เกลียด
โดยอารมณ์ทางลบนี้ส่งผลต่อจิตใจและร่างกายเป็นอย่างมากทาให้เกิดปัญหาซึมเศร้าซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมตอนนี้
ผลเสียที่สุดคือการคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีความรู้สึกซึมเศร้า จากปัญหาที่ผ่านมาทางผู้จัดทาจึงสนใจที่จะศึกษาว่า
ความสุขของเด็กมัธยมปลายว่าส่วนมากนั้นมาจากสิ่งใด และปัจจัยต่างๆที่ทาให้เกิดความสุข แนวโน้มของความสุข
เพื่อที่จะนาไปเป็นข้อมูลในการหา แนวคิด การปฏิบัติ การทากิจกรรมต่างๆของเด็กมัธยมศึกษาตอนปลายให้ห่างไกล
จากความเครียด ความซึมเศร้าและสามารถลดแนวโน้มโรคซึมเศร้าของเด็กมัธยมปลายได้ โดยความสุขของเรานั้น
ไม่ได้เกิดจากความร่ารวย การมีหน้ามีตาในสังคม หรือการทางานอย่างหนักแบบที่หลากหลายคนชอบคิดกันแต่
อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อตนเองและคนรอบข้าง ซึ่งเป็นที่ละเอียดอ่อนและต้องใช้การดูแลเอาใจใส่อย่างมากโดย
เราอาจพบวิธีสร้างความสุขแบบง่ายๆเช่น การเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์มาพูดคุยกับคนข้างหน้า การชวน
ออกไปทากิจกรรมต่างๆร่วมกันซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือปฏิบัติได้ยากเลย โดยแต่ละบุคคลอาจมีที่มาของ
ความสุขที่แตกต่างกันแต่สิ่งที่ทุกคนจะรู้สึกเหมือนกันคือความรู้สึกดีๆ การมองโลกในแง่บวก อยากใช้ชีวิตนี้ต่อไปให้ดี
ที่สุด และที่สาคัญที่สุดคือการอยากแบ่งความสุขให้กับคนรอบข้างอีกด้วย
- 3. 3
วัตถุประสงค์
1.พบปัจจัยความสุขของเด็กมัธยมปลาย
2.มีวิธีคิดหรือวิธีการที่ทาให้เกิดความสุขที่แท้จริงได้
ขอบเขตโครงงาน
เด็กระดับมัธยมปลาย(มัธยมศึกษาปีที่4-มัธยมศึกษาปีที่6)
หลักการและทฤษฎี
เริ่มตั้งแต่ปี 1938 ที่งานวิจัยจาก Harvard นี้ได้ศึกษาชีวิตของอาสาสมัครกว่า 724 คน รวมถึงคู่สมรสและ
ลูกหลานอีกกว่า 2000 คน ได้รวบรวมข้อมูลและสรุปอย่างชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดช่วยให้คนมีสุขภาพดี
และมีความสุข
งานวิจัยได้เริ่มต้นจากการศึกษาชีวิตของนักศึกษาใน Harvard และเด็กที่มาจากครอบครัวยากไร้ในชุมชุน
Boston ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป คนเหล่านั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หนึ่งในนั้นกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ John F.
Kennedy ตลอดเวลาที่ผ่านไปหลายปี นักวิจัยได้สัมภาษณ์อาสาสมัครและคนในครอบครัว ล้วงลึกถึงชีวิตความ
เป็นอยู่ รวมถึงประวัติการเข้ารับการรักษาพยาบาล ติดตามชีวิตของคนเหล่านี้มาโดยตลอด เวลาผ่านไปจึงได้
พบว่า บางคนป่วยเป็นโรคทางสมอง บางคนติดเหล้า บางคนไต่เต้าสูงขึ้นมา ในขณะที่บางคนมีชีวิตที่ตกต่าลง
งานวิจัยนี้ได้ข้อสรุปเป็นข้อคิดได้คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตโดดเดี่ยว ความสัมพันธ์ที่
ดีและใกล้ชิดจะช่วยยืดเวลาให้เราแก่ช้าลง กลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวจะทาให้สุขภาพเริ่มแย่ลงในวัย
กลางคน ทาให้สมองทางานผิดปกติและทางานแย่ลงและมีชีวิตที่สั้นกว่าคนทั่วไป ความสัมพันธ์และการมีส่วน
ร่วมในสังคมเป็นสิ่งที่จาเป็นสาหรับการมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและกว้างขวาง
รู้จักคนรอบข้างมากมาย จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวและเหงา คุณภาพของความสัมพันธ์
สาคัญกว่าปริมาณ ในสังคมที่มีคนเยอะมากมายแต่ก็ยังเหงาและรู้สึกโดดเดี่ยว ถึงแม้ว่าจะมีเพื่อนเยอะ ก็ไม่
สาคัญเท่าความใกล้ชิดและคุณภาพของความสัมพันธ์ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่รักและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
จะมีชีวิตยืนยาวกว่าคนที่อยู่ในครอบครัวที่ขัดแย้งและบาดหมางกัน ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นไม่เคยนอกใจและอยู่
ด้วยกันนานแค่ไหนก็ตามความสัมพันธ์ที่ดีช่วยป้องกันโรคทางสมอง คนที่อยู่ในครอบครัวที่ช่วยเหลือซึ่งกันและ
กันจะมีโอกาสน้อยกว่าที่จะเป็นโรคความจาเสื่อม ในเวลาที่รู้สึกว่ามีที่พึ่ง สามารถพึ่งพาอาศัยคนอื่นๆ
ได้ ถึงแม้ว่าจะมีความทุกข์ยาก คนกลุ่มนี้ก็ยังมีสุขภาพจิตที่ดีและจาได้แม่น
- 4. 4
นิยามความสุขสามารถเเบ่งออกได้เป็นสามกลุ่มใหญ่ๆ อย่างเเรกก็คือ ความพึงพอใจ (satisfaction) ไม่ว่าจะเป็นความ
พึงพอใจในชีวิต หรือกับงาน กับชีวิตเเต่งงาน เป็นต้น ความพึงพอใจตัวนี้มีความสัมพันธ์หลักๆ กับเป้าหมายในชีวิตที่
เรามีบวกลบกับความเป็นจริงที่เราเจอ ถ้าเราคาดหวังอะไรไว้มากๆ เเล้วไม่ได้ตามที่เราหวังเอาไว้ ความพึงพอใจของ
เราก็จะลดน้อยลงกว่าเดิม ความพึงพอใจตัวนี้มีตัวเเปรเป็นอดีต ปัจจุบัน เเละอนาคตอย่างที่สองก็คือ ประสบการณ์ที่
เป็นอารมณ์ของเราในเเต่ละวัน ตัวนี้เป็นปัจจัยส่งผลซึ่งมีได้ทั้งอารมณ์ที่ดี และไม่ดี (negative emotional
experiences) สามารถปรับตัวขึ้นลงได้ตามเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเรากาลังใช้เวลาทาอะไรอยู่ในขณะนั้น อารมณ์ตัวนี้มี
ตัวเเปรที่ไม่ค่อยเกี่ยวกันกับความคาดหวังหรือเเม้เเต่สถานะต่างๆ นานา ของเรา (พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่ต้องตกจากรวย
มาจนก็สามารถที่จะมี positive emotional experiences เท่าๆ กันกับคนที่รวยล้นฟ้าได้)เเละตัวที่สามก็คือ
ความหมายของชีวิต (meaningfulness) ความหมายของชีวิตตัวนี้ก็คือการที่เรารู้สึกว่าเรากาลังใช้ชีวิตของเราอย่างมี
คุณค่าหรือเปล่า เรามักจะพบว่าในหลายๆ กิจกรรมที่เราใช้เวลาทากับมันไม่ค่อยให้ผลสุทธิประสบการณ์ของอารมณ์
(net affects) ที่เป็นด้านบวกสักเท่าไหร่ (ยกตัวอย่างคือ เวลาที่เราใช้ในการเลี้ยงลูกประจาวัน เป็นต้น) เเต่กลับมี
ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีต่อความรู้สึกที่ว่าชีวิตเรานี้มีความหมายจริงๆ
ระหว่างสามนิยามของความสุขนี้ คนเรา “อยาก” มีความสุขเเบบไหนมากที่สุด
ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเเปรหลายๆ ตัวของนิยามความสุขทั้งสามนั้นไม่เหมือนกันเสียทีเดียว (ยกตัวอย่างเช่น เงินซื้อความ
พึงพอใจในชีวิตได้ เเต่กลับไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพในการเพิ่มจานวนของอารมณ์ที่ดีในเเต่ละวันของเราได้ เเละถึงเเม้
ว่าการมีลูกจะไม่มีประสิทธิผลต่อความพึงพอใจในชีวิตของเรามากนัก เเต่การมีลูกทาให้เรารู้สึกว่าชีวิตของเรามี
ความหมายขึ้นเยอะมากกว่าเเต่ก่อน) คาถามที่สาคัญสาหรับคนเราทุกคนที่พยายามขวนขวายหาความสุขที่สมดุลใน
เเต่ละเเบบก็คือ “เราควรให้น้าหนักกับนิยามความสุขเเบบไหนมากกว่ากัน”
จากผลการวิจัยของ Andrew Oswald ศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Warwick และ Gus
O’Donnell ในประเทศอังกฤษพบว่า คนเราส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักเศรษฐศาสตร์ ให้น้าหนักกับความพึงพอใจในชีวิต
มากที่สุด รองลงมาก็คือความหมายของชีวิต เเละตามด้วยความมีอารมณ์ที่ดีในเเต่ละวัน
เเต่ในความเป็นจริง ในสังคมปัจจุบันของเรา เราอาจจะไม่ค่อยให้ความหมายกับความสุขที่เป็น meaningfulness
มากนักเท่าไหร่ (ซึ่งก็อาจจะขัดกับน้าหนักของนิยามความสุขที่ Andrew Oswald และ Gus O’Donnell เจอใน
งานวิจัยของเรา) ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายเพราะความสุขที่เป็น meaningfulness เป็นความสุขที่มี virtue หรือ
คุณธรรมที่สุด
- 6. 6
แหล่งอ้างอิง
(2560).ความสุขคืออะไร ข้อคิดดีๆ 3 อย่าง ที่ได้จากงานวิจัยความสุขที่ยาวนานที่สุด.22 พฤศจิกายน, 2561,จาก ชื่อ
เว็บไซต์:https://www.nicetofit.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A
A%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0
%B9%84%E0%B8%A3/
(2559).งานวิจัย Harvard นานที่สุดในโลกเพื่อหา ‘ความสุข’ ที่แท้จริงของมนุษย์ ใช้เวลาทั้งสิ้น 75 ปี!! .22
พฤศจิกายน, 2561,จาก ชื่อเว็บไซต์: https://www.catdumb.com/longest-harvard-study-75-years-290/
ณัฐวุฒิ เผ่าทวี.(2559).นิยามของความสุขคืออะไร.22 พฤศจิกายน, 2561,จาก ชื่อเว็บไซต์:
https://thaipublica.org/2016/12/nattavudh-55/