More Related Content
More from Warunee Somnual
More from Warunee Somnual (13)
K3
- 1. ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ ายและประเภทของโครงงาน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ประเภท
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพือการศึกษา
่
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการผลิต
สื่ อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรี ยนหรื อหน่วยการเรี ยน ซึ่ งอาจจะต้องมีภาค
แบบฝึ กหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อ
รายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์ เป็ นอุปกรณ์การสอน ซึ่ ง
อาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ผเู ้ รี ยนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน
ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผูเ้ รี ยนอาจคัดเลือก
เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่ อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การ
เคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุ ริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลัก
ภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้น
2.โครงงานประเภทการประยุกต์ ใช้ งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง
ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริ งในชีวตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการ
ิ
ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์
สาหรับการระบุคนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่ งอาจเป็ นการคิดสร้างสิ่ งของขึ้นใหม่
่
หรื อปรับปรุ งเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้วให้มีประสิ ทธิ ภาพ
สู งขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผูใช้ ้
ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่ งของนั้นๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่ งประดิษฐ์
แล้วปรับ ปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผเู ้ รี ยนต้องใช้ความรู ้
เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 2. 3.โครงงานพัฒนาเกม
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์ เกมเพื่อความรู ้หรื อเพื่อความ เพลิดเพลิน เกม
ที่พฒนาควรจะเป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึ กคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมี
ั
การออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผเู ้ ล่น พร้อมทั้งให้ความรู ้สอดแทรกไป
ด้วย ผูพฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยูทวไป และนามา
้ ั ่ ั่
ปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผเู ้ ล่นกลุ่มต่างๆ
4.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่ องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่ วนใหญ่จะอยูใน
่
รู ปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรู ป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็ นต้น
สาหรับซอฟต์แวร์ เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็ นโปรแกรมประมวลคา ซึ่ งจะเป็ นเครื่ องมือให้เราใช้ในการพิมพ์
งานต่างๆบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่ วนซอฟต์แวร์ การวาดรู ป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรู ปบน
เครื่ องคอมพิวเตอร์ ให้เป็ นไปได้ โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการ
่
ออกแบบสิ่ งของ อาทิเช่น ผูใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูวาด้านบนและด้านข้างเป็ นอย่างไร ก็ให้
้
ซอฟต์แวร์ คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็ นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 3. 5. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่ ง
เป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ นโครงงานที่ผทาต้อง ู้
ศึกษารวบรวมความรู ้ หลักการ ข้อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้ งในเรื่ องที่ตองการศึกษาแล้วเสนอ
้
่
เป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่ งอาจอยูในรู ปของสู ตร สมการ หรื อคาอธิ บาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏี
ด้วยคอมพิวเตอร์ ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสู ตรหรื อสมการนั้น ซึ่ งจะทาให้ผเู ้ รี ยนมี
่ ู้
ความเข้าใจได้ดียงขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยูที่ผทาต้องมีความรู ้ในเรื่ องนั้นๆ เป็ นอย่างดี
ิ่
ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของ
ปลาปิ รันย่า และการทดลองเรื่ องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น
ขอบข่ ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ดาเนินงานโดยนักเรี ยน เป็ นผูริเริ่ มสร้างสรรค์ และครู อาจารย์ เป็ นผูให้คาแนะนาปรึ กษา
้ ้
มีองค์ ประกอบดังนี้
1. เป็ นกิจกรรมการเรี ยนให้นกเรี ยนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบติดวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหา
ั ั ั
โครงงานนั้นๆ หรื อจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรี ยนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรื อเป็ นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็ นภาคเรี ยน หรื อ
มากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรื อใหญ่
- 4. 3. นักเรี ยนเป็ นผูพิจารณาริ เริ่ มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบติดวยตนเองตามความถนัด
้ ั ้
สนใจ และความพร้อม
4. นักเรี ยนเป็ นผูเ้ สนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบติงานและการแปลผล รายงานผลต่อ
ั
อาจารย์ที่ปรึ กษา เพื่อดาเนินงานร่ วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู ้ ความสามารถของนักเรี ยนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงิน
ดาเนินงานด้วย
ความสามารถในการแก้ปัญหา
เกิดจากการที่ผเู ้ รี ยนวิเคราะห์ปัญหา ความเข้าใจ และอธิ บายปั ญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์
ความรู ้ ทักษะ และการใช้เครื่ องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปั ญหา
ความสามารถในการใช้ทกษะชีวต ั ิ
เกิดจากการที่ผเู ้ รี ยนได้นาความรู ้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้
ในชีวตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรี ยนรู ้ดวยตัวเอง
ิ ้
อันนาไปสู่ การเรี ยนรู ้ตลอดชีวต ิ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
เกิดจากการที่ผเู ้ รี ยนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และมี
คุณธรรม
แหล่งอ้างอิง http://www.gotoknow.org/blogs/posts/314100
http://grimgusher.blogspot.com/2012/07/3-from-phkphoom-httpwww.html