More Related Content
Similar to โครงการหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ
Similar to โครงการหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ (20)
โครงการหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ
- 2. • หญ้ าแฝก มีรากยาว หยังลึก ทีแผ่ กระจายลงดินในแนวดิง จึงช่ วยอุ้มนาและยึดเหนี่ยวดินได้
่ ่ ่ ้
มันคง และเมือนามาปลูกเป็ นแถวชิดติดกันอย่ างแน่ นหนา จะช่ วยดักตะกอนดิน รักษาหน้ าดินได้
่ ่
ดี คุณลักษณะสองประการนีทาให้ หญ้ าแฝกไม่ เพียงช่ วยอนุรักษ์ ดนเท่ านั้น แต่ ยงช่ วยฟื้ นฟู
้ ิ ั
โครงสร้ างดินทีสูญเสี ยธาตุอาหารให้ กลับคืนสู่ ความสมบูรณ์ เป็ นการเพิมคุณภาพดินและอนุรักษ์
่ ่
นา ซึ่งเป็ นองค์ ประกอบสาคัญในการเพาะปลูกเพิมผลผลิตจากการเกษตรของประเทศ หญ้ าแฝก
้ ่
จึงเป็ น “หญ้ ามหัศจรรย์ ” ดังทีพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว ทรงรับสั่ งเปรียบเปรย
่
ทรัพยากรธรรมชาติน้ันมีความสาคัญกับทุกชีวต ถ้ าดินเสี ยหาย ชีวตก็อยู่ไม่ ได้ การปลูก
ิ ิ
หญ้ าแฝกตามแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว จึงเป็ นการฟื้ นฟูอนุรักษ์ ดน ิ
และนาอย่ างมีประสิ ทธิภาพ การร่ วมแรงร่ วมใจของพวกเรา ไม่ เพียงแต่ ช่วยกันรักษาแผ่ นดิน
้
ไว้ เท่ านั้น แต่ ยงเป็ นการดาเนินตามรอยพระยุคลบาทของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็ นทีเ่ คารพยิง
ั ่
ของปวงชนชาวไทย
- 3. • หญ้ าแฝกมีชื่อสามัญเป็ นภาษาอังกฤษว่ า “Vetiver Grass” มีด้วยกัน ๒ สายพันธุ์ คือ
หญ้ าแฝกดอน(Vetiver nemoralis A. Camus) และหญ้ าแฝกหอม (Vetiveria ziznioides
Nash) เป็ นพืชทีมอายุได้ หลายปี ขึนเป็ นกอแน่ น มีใบรู ปขอบขนานแคบปลายสอบแหลม ยาว
่ ี ้
๓๕-๘๐ ซม. มีส่วนกว้ างประมาณ ๕-๙ มม.สามารถขยายพันธุ์ได้ ท้งแบบไม่ อาศัยเพศ โดยการ
ั
แตกหน่ อจากส่ วนลาต้ นใต้ ดนหรือแบบอาศัยเพศโดยการให้ ดอกและเมล็ดได้ เช่ นกัน ช่ อดอกที่
ิ
พบในประเทศไทยสู งประมาณ ๒๐-๓๐ซม. แต่ การขยายพันธุ์โดยดอกและเมล็ดเป็ นไปค่ อนข้ าง
ยาก หญ้ าแฝกจึงไม้ ใช้ วชพืชเช่ นหญ้ าคา
ั
• ปกติหญ้ าแฝกจะมีการขยายพันธุ์ที่ได้ ผลรวดเร็วโดยการแตกหน่ อจากลาต้ นใต้ ดน นอกจากนี้
ิ
จากการศึกษาพบว่ า หญ้ าแฝกในบางโอกาสสามารถแตกแขนงและรากออกในส่ วนของก้ านช่ อ
ดอกได้ เมือแขนงดังกล่ าวมีการเจริญเติบโตจะเพิมนาหนักมากขึน ทาให้ หญ้ าแฝกโน้ มลงดินและ
่ ่ ้ ้
สามารถเจริญเติบโตเป็ นกอหญ้ าแฝกใหม่ ได้
- 4. • ๑. การปลูกหญ้ าแฝกเป็ นแถวตามระดับขวางความลาดชัน
การปลูกแบบนีจะเห็นผลดียง เมือหญ้ าแฝกมีความเจริญและแตกกอขึนเต็มตลอดแนวจนไม่ มี
้ ิ่ ่ ้
ช่ องว่ าง ซึ่งถือว่ ามีประโยชน์ สูงสุ ด เพราะเมือมีนาไหลบ่ าหรือมีการพัดพาดินไปกระทบแถวกอ
่ ้
หญ้ าแฝก ซึ่งจะทาหน้ าทีชะลอ ความเร็วของนาลงและดักเก็บตะกอนดินไว้ ส่ วนนาจะไหลบ่ าซึม
่ ้ ้
ลงไปสู่ ดนชั้นล่ างได้ มากขึนอันจะเป็ นการเพิมความชุ่ มชื้นให้ แก่ ดนเบืองล่ างและนาทีผวดินก็
ิ ้ ่ ิ ้ ้ ่ ิ
ไหลผ่ านแนวต้ นหญ้ าแฝกไปได้ ส่ วนรากหญ้ าแฝกนั้นก็หยังลึกลงไปในดินอาจลึกถึง ๓ เมตร ซึ่ง
่
สามารถยึดดิน ป้ องกันการชะล้ างได้ เป็ นอย่ างดีไม่ ว่าจะเป็ นการชะล้ างแบบเป็ นหน้ ากระดาน
หรือเป็ นร่ องลึก และแบบอุโมงค์ เล็กใต้ ดน เมือแถวหญ้ าแฝกทาหน้ าทีดกตะกอนดินเป็ นระยะ
ิ ่ ่ ั
เวลานานขึน ก็จะเกิดการสะสมทับถมกันเป็ นระยะเวลานานขึน ก็จะเกิดการสะสมทับถมกันของ
้ ้
ตะกอนดินบริเวณหน้ าแถวหญ้ าแฝกเพิมขึนทุกๆ ปี กลายเป็ นคันดินธรรมชาติไปในทีสุด ดัง
่ ้ ่
พระราชดาริที่ได้ พระราชทานไว้ ดงนี้ ั
• “...การปลูกหญ้ าแฝก ควรปลูกเป็ นแถวเดียว ระยะระหว่ างต้ นห่ างกัน ๑๐-๑๕ ซม.ทาให้ ไม่
่
เปลืองพืนทีการดูแลรักษาง่ าย ควรทาการทดลองปลูกในร่ องนา และบนพืนทีลาดชันให้ มากเพือ
้ ่ ้ ้ ่ ่
ช่ วยป้ องกันการชะล้ างพังทลายของดิน...”
- 5. • ๒. การปลูกหญ้ าแฝกเพือแก้ ปัญหาการพังทลายของดินทีเ่ ป็ นร่ องนาลึก
่ ้
เทคนิคการปลูกหญ้ าแฝกเพือแก้ ปัญหาบริเวณร่ องนาลึกโดยการปลูกหญ้ าแฝกในแนวขวาง ๑
่ ้
แถว เหนือบริเวณร่ องลึก และใช้ ถุงทรายหรือดินเรียงเป็ นแนวเพือช่ วยชะลอความเร็วของนาที่
่ ้
ไหลบ่ าในระยะทีแฝกเริ่มตั้งตัว
่
• ๓. การปลูกในพืนทีทมความลาดชัน
้ ่ ี่ ี
โดยเฉพาะทางแถบภาคเหนือและภาคใต้ มาตรการทีเ่ หมาะสม คือการปลูกหญ้ าแฝกให้ เป็ นแนว
รั้วบริเวณคันคูขอบเขา หรือริมขั้นบันไดดินด้ านนอกโดยควรปลูกหญ้ าแฝกเป็ นแถวตามแนว
ขวางความลาดเทในต้ นฤดูฝน โดยการไถพรวนดินนาร่ องแล้ วปลูกหญ้ าแฝกลงในร่ องไถ ระยะ
ปลูกระหว่ างต้ นต่ อหลุม ๓-๕ เหง้ า
ต่ อหลุม ระยะห่ างระหว่ างแถวแฝกจะไม่ เกิน ๒ เมตรตามแนวตั้ง หญ้ าแฝกจะเจริญเติบโตแตก
กอชิดกันภายใน ๕-๖ เดือนในพืนทีแห้ งแล้ งควรตัดหญ้ าแฝกให้ สูงประมาณ ๓๐-๕๐ ซม.เพือเร่ ง
้ ่ ่
ให้ มการแตกกอ ควรตัด ๑-๒ เดือน
ี
ต่ อครั้ง การตัดหญ้ าแฝกต้ องกระทาในทุกพืนทีและใช้ ใบคลุมดินด้ วย
้ ่
- 6. • ๔. การปลูกหญ้ าแฝกเพือการอนุรักษ์ ความชุ่ มชื้นในดิน
่
เป็ นการปลูกไม้ ผลร่ วมกับแถวหญ้ าแฝกในระยะแรกเริ่ม หรือปลูกแฝกสลับกับต้ นไม้ ทต้องการใช้
ี่
ประโยชน์ เช่ น ในมาเลเซียมีการปลูกหญ้ าแฝกเป็ นแถวในระหว่ างแถวปลูกยางพาร้ า เมือต้ นหญ้ า
่
แฝกเจริญเติบโตประมาณ ๑ ปี ก็สามารถตัดใบใช้ ประโยชน์ ในการเป็ นวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้ น
ยางพาราเพือรักษาความชุ่ มชื้น โดยทีเ่ ศษใบแฝกจะไม่ เป็ นพาหะของโรคและแมลง
่
• ๕. การปลูกหญ้ าแฝกเพือป้ องกันการเสี ยหายของขั้นบันไดดินหรือคันคูรับนารอบ
่ ้
เขา
ในพืนทีลาดชันมักนิยมปลูกบนขั้นบันไดหรือมีการก่ อสร้ างคันคูดนรอบเขา ซึ่งเป็ นการลงทุนสู ง
้ ่ ิ
การป้ องกันการเสี ยหายก็โดยการปลูกหญ้ าแฝกเป็ นแนวในบริเวณขอบขั้นบันได หรือคันคูดน ิ
- 7. • ๖. การปลูกเพือควบคุมร่ องน้า
่
โดยการนาหญ้ าแฝกไปปลูกในร่ องนาด้ วยการขุดหลุมปลูกขวางร่ องนาเป็ นแนวตรงหรือแนวหัวลูกศรย้ อน
้ ้
ทางกับทิศทางไหล ในลักษณะตัว V ควาซึ่งทรงเรียกว่ า “บั้งจ่ า” เพือควบคุมการเกิดร่ องนาแบบลึกหรือ
่ ่ ้
การปลูกในร่ องนาล้ น โดยปลูกตามแนวระดับเพือกักนาและช่ วยกระจายนาไปใช้ ในพืนที่เพาะปลูกผลของ
้ ่ ้ ้ ้
การปลูกหญ้ าแฝกแบบนีจะช่ วยดักตะกอนและสามารถชะลอความเร็วของนาให้ ลดลงด้ วย
้ ้
• ๗. การปลูกหญ้ าแฝกในการป้ องกันตะกอนดินทับถมลงสู่ คลองส่ งน้า ระบายน้า และอ่ าง
เก็บน้า ในไร่ นาตลอดจนปลูกรอบสระเพือกรองตะกอนดิน
่
โดยการปลูกหญ้ าแฝกเป็ นแถวบริเวณสองข้ างทางคลองส่ งนา จะช่ วยกันตะกอนดินที่ไหลลงมาซึ่งในส่ วน
้
ของการปลูกขอบสระเพือกรองตะกอนดินนั้น ใช้ วธีการปลูกตามแนวระดับนาสู งสุ ดท่ วมถึง ๑ แนวและ
่ ิ ้
ควรปลูกเพิมขึนอีก ๑-๒ แนวเหนือแนวแรก ซึ่งขึนอยู่กบความลึกของขอบสระ ในระยะแรกควรดูแลปลูก
่ ้ ้ ั
แซมให้ แถวหญ้ าแฝกเจริญเติบโตหนาแน่ น เมื่อนาไหลบ่ าลงมาตะกอนดินจะติดค้ างอยู่บนแถวหญ้ าแฝก
้
ส่ วนนาจะค่ อยๆ ไหลซึมลงสระและรากหญ้ าแฝกจะช่ วยยึดดินรอบๆ สระ มิให้ พงทลายได้ เป็ นการลด
้ ั
ค่ าใช้ จ่ายในการขุดลอกสระด้ วย
- 8. • ๘. การปลูกเพือฟื้ นฟูที่ดนเสื่ อมโทรม
่ ิ
ดาเนินการในโครงการฟื้ นฟูที่ดินเสื่ อมโทรมเขาชะงุ้ม จังหวัดราชบุรี และตาบลหนองพลับ อาเภอหัวหิน
จังหวัดประจวบคีรีขนธ์ โดยการปลูกหญ้ าแฝกเป็ นแถวขนานความลาดเทในดินลูกรังที่เสื่ อมโทรมจากการ
ั
ถูกชะล้ างของผิวหน้ าดิน จนกระทั่งเกิดความแห้ งแล้ งและมีผิวหน้ าดินแข็ง ขาดพืชพรรณธรรมชาติปก
คลุมการปลูกหญ้ าแฝกแบบนีจะช่ วยชะลอความเร็วของนาไหลบ่ า ทาให้ นาซึมลงดินได้ ลกเกิดความชุ่มชื้น
้ ้ ้ ึ
ต้ นไม้ สามารถเจริญเติบโตได้
• ๙. การปลูกในพืนที่ดนดาน
้ ิ
ดาเนินการศึกษาที่ศูนย์ ศึกษาการพัฒนาห้ วยทราย ซึ่งมีทรายแข็ง ดินเหนียว หินปูนและแร่ ธาตุต่าง ๆ
รวมตัวกันเป็ นแผ่ นแข็งคล้ ายหิน ยากที่พชชั้นสู งจะเจริญเติบโต เมื่อทาการปลูกหญ้ าแฝกในดินดานพบว่ า
ื
รากหญ้ าแฝกสามารถหยังลึกลงไปในเนือดินดานทาให้ ดนแตกร่ วนขึน สาหรับหน้ าดินจะมีความชื้น
่ ้ ิ ้
เพิมขึนในแนวของหญ้ าแฝกสามารถปลูกพันธุ์ไม้ ได้ หลายชนิด เช่ น กระถินเทพา สะเดา ประดู่ ฯลฯ เมื่อ
่ ้
มีการปลูกหญ้ าแฝกร่ วมกับไม้ ผลรากของหญ้ าแฝกสามารถหยังลงในดินดาน เป็ นการสลายดินล่ วงหน้ า
่
ก่ อนที่รากไม้ ผลจะหยังลึกลงไปถึง
่
- 9. • ๑๐. การปลูกเพือป้ องกันการพังทลายของดินบริเวณไหล่ ถนน
่
ดาเนินการในพืนทีดนตัดและดินถมข้ างทาง เป็ นการปลูกเพือป้ องกันการพังทลายของดินในส่ วน
้ ่ ิ ่
ของไหล่ ทางทีปิดและไหล่ ทางด้ านข้ าง โดยปลูกหญ้ าแฝกเพือยึดดินและเบียงเบนทางนาไหล
่ ่ ่ ้
บริเวณไหล่ ทาง และปลูกขวางแนวลาดเพือป้ องกันการพังทลายและเลือนไหลของดิน
่ ่
- 10. • ๑๑. การปลูกเพือป้ องกันการปนเปื้ อนของสารพิษในแหล่ งนา
่ ้
ในปัจจุบนได้ มีการใช้ ปุ๋ยเคมีเพือการเจริญเติบโตและเพือการเพิมผลผลิตของพืชกันมากขึน
ั ่ ่ ่ ้
โดยเฉพาะการใช้ ปุ๋ยไนโตรเจนทีดนในประเทศเขตร้ อนมักขาดอยู่เสมอๆ นอกจากนีเ้ กษตรกร
่ ิ
และผู้ประกอบการเกษตรได้ มการนาสารเคมีมาใช้ ในการปลูกพืชมากขึน สารไนเตรททีเ่ กิดจาก
ี ้
การใส่ ปุ๋ยก็ดี โลหะหนักและสารเคมีทเี่ ป็ นพิษอันเนื่องมาจากการฉีดพ่ นสารป้ องกันกาจัดวัชพืช
และศัตรูพชก็ดี สารเหล่ านีหากถูกชะล้ างลงในแหล่ งนา จะทาให้ เกิดมลพิษต่ อสภาพแวดล้ อม
ื ้ ้
การศึกษาทดลองที่ศูนย์ ศึกษาการพัฒนาห้ วยทรายฯ พิสูจน์ ได้ ว่ากอหญ้ าแฝกทีปลูกเป็ นแนว
่
ขวางความลาดเทของพืนทีสามารถจะยับยั้ง และลดการสู ญเสี ยหน้ าดินบนพืนทีลาดชันได้ ระดับ
้ ่ ้ ่
หนึ่ง ขณะเดียวกันรากหญ้ าแฝกที่มการแพร่ กระจายอย่ างหนาแน่ นและหยังลึก จะเป็ นกาแพงกัก
ี ่
กั้นดินและสารพิษทีปะปนมากับนา ไม่ ให้ ไหลลงสู่ แหล่ งนาเบืองล่ างนอกจากนีตัวของรากหญ้ า
่ ้ ้ ้ ้
แฝกเอง น่ าจะมีประสิ ทธิภาพในการที่จะดูดซับธาตุโลหะหนักและสารเคมีบางอย่ างได้ ดกว่ าพืช
ี
ชนิดอืนๆ ทั้งนีเ้ นื่องจากความสามารถของรากหญ้ าแฝกในการหยังลึกและแผ่ กว้ างได้ มากกว่ าราก
่ ่
หญ้ าชนิดอืนๆ ่