SlideShare a Scribd company logo
1 of 87
สื่อ การเรีย นการสอน


  วิช าหลัก การจัด การ
       รหัส วิช า 3200-1003
ระดับ ประกาศนีย บัต รวิช าชีพ ชั้น สูง
                             1
2
จัด การ
   เรื่อ ง
  การจัด
องค์ก าร 3
   ความหมาย ความสำา คัญ

ลัก ษณะ ขององค์ก าร
   ความหมาย ความสำา คัญ
 ลัก ษณะของการจัด
 หลักก าร ด องค์ก าร
   องค์ การจั
โครงสร้า งองค์ก าร
                    4
ขั้น ตอนการจัด
องค์ก าร
โครงสร้า ง
ขององค์ก าร
           5
วัต ถุป ระสงค์
   การเรีย นรู้
    บอกความหมายของ
องค์ก ารและการจัด องค์ก าร
            ได้
อธิบ ายหลัก การจัด องค์ก าร
            ได้
บอกขั้น ตอนการจัด องค์ก าร
                          6
1. องค์ก าร
2 การจัด
องค์ก าร
3 โครงสร้า ง
ขององค์ก าร
           7
ความหมาย
    องค์ก าร
ความหมายตาม
พจนานุก รม
“ศูน ย์ก ลางของ
กิจ กรรมที่ร วม
              8
ความหมาย
    องค์ก าร
ดร .สุพ ร ศรีพ หล
“กลุ่ม คนร่ว มกัน
ดำา เนิน การอย่า งใด
อย่า งหนึ่ง โดยมีเ ป้า
               9
ความหมาย
      องค์ก าร
ดร.นิพ นธ์ ศศิธ ร “คณะ
 บุค คลที่ม ารวมตัว กัน
 แล้ว แบ่ง หน้า ที่ก ัน ตาม
 ความเหมาะสมและ
 สร้า งสายสัม พัน ธ์10
Amitai Etzioni
“หน่ว ยสัง คมหรือ กลุ่ม
บุค คลทีต ั้ง ขึ้น อย่า ง
        ่
จงใจเพื่อ ให้งาน บรรลุ
                 ง าน
เป้า หมายที่แ น่น อน 11
องค์ก าร
      Organization
 ประกอบด้ว ยบุค คล
  ตัง แต่ 2 คนขึ้น ไป
    ้
 แต่ล ะบุค คลใน
  องค์ก ารมีค วาม
  เกี่ย วข้อ งกัน ใน 12
องค์ก าร
        Organization
ความเกี่ย วข้อ งหรือ
 ความเกี่ย วพัน นี้
สามารถจัด ลำาม า รวม
 กลุ่ม บุค คลที่ ดับ ออกมา
 เป็น โครงร่า งได้
กัน แต่ล ะคน ต่า งก็ม ีจ ุด
                       13
©©องค์ก าร เป็น
โครงสร้า งที่ถ ก จัด ทำา
               ู
ขึ้น ตามกระบวนการ
โดยให้บ ุค คลเข้า มามี
ส่ว นร่ว มกัน ปฏิบ ัต ิ
งานจนงานบรรลุ
วัต ถุป ระสงค์ไ ด้
                 14
©องค์ก ารเป็น ที่ร วม
ของคนกลุ่ม ใหญ่ท ม ี  ี่
จิต ใจแน่แ น่ว ที่จ ะ
ร่ว มมือ กัน จัด ระบบ
งานต่า ง ๆเพื่อ ให้ใ ห้
                  15
Frank
กล่าวถึงองค์การว่า รูป
แบบการรวมบุคคลจำานวน
มากเข้ามาร่วมมือกัน
ทำางานที่ซับซ้อนให้บรรลุ
ผลสำาเร็จ มีความมุ่งหมาย
                 16
Barnard กล่า วว่า
คือ ระบบการ
ประสานงานร่ว ม
กัน ระหว่า งบุค คล 2
คนขึ้น ไปอย่า ง
              17
องค์ก ารคือ
 กระบวนการจัด
โครงสร้า งให้ก ลุ่ม
บุค คลทำา งานร่ว ม
       กัน เพื่อ
 วัต ถุป ระสงค์ร ่ว ม
               18
ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า ง
      บุค คลกับ องค์ก าร
งค์ก ารทางราชการ             องค์ก ารทางสัง คม
ureaucracy                   - ครอบครัว
กระทรวง                      - โรงเรีย น
ทบวง              บุคคล      - สถาบัน ศาสนา
กรม                          - สมาคม ฯลฯ
เขต
            องค์ก ารทางเอกชน
            - บริษ ัท
            - ร้า นค้า ต่า ง ๆ     19
ความหมายของ
Bernard,
            Org.
        Hicks,Urwick Katz ,
Mooney,- เป็น กระบวนการ Kahn
           จัด โครงสร้า ง หรือ - ระบบ
Sherwood
           การแบ่ง งานเป็น
- บุค คล 2ประเภทต่า ง ๆ แล้วเปิด ทีม ี  ่
คนขึ้น ไป มอบหมายความรับ การ
มาทำา งานผิด ชอบให้แ ก่ส มาชิก ย นแป
                                  เปลี่
            ่
           ดำ                     ลงให้
ร่ว มกัน เพือา เนิน การปฏิบ ัต ิใ ห้
ให้บ รรลุ บรรลุเ ป้า หมาย         สอดคล้อ ง
                                     20
ลัก ษณะของ Org.              - การติดต่อสื่อสาร
                                   - การร่วมมือร่วมใจ
                                   - การมีเป้าหมายร่วมกัน
       การจัดการ       กลุ่มของบุคคลการมีกฏระเบียบ
                                   -
แบ่งงานกันทำาตาม
ความสามารถ                             โครงสร้างของ
กำาหนดอำานาจหน้าที่,       Org.        ความสัมพันธ์
ความรับผิดชอบ
                                       ระบบ
                 กระบวนการ
                        สภาพแวดล้อม
การดำาเนินงานอย่างมีความต่อเนื่อง, Process
                         Input-->                     -->   Out
ดเร็ว,ถูกต้อง,ประหยัด - แรงงาน              - เทคนิค         - ผล
    * กำาหนดเป้าหมาย - ทุน          - วิธีการ        - การบริการ
    * การแบ่งงาน         - ข้อมูล
    (หลีกเลี่ยงความซำ้าซ้อน) ่องมือ
                         - เครื                Feedback
                                                21
เป้า หมายของ Org.
        (Org.Goal)
เปรีย บเหมือ นวิถ ีท าง
 (Means) ให้ไ ปถึง จุด
 หมายปลายทาง (Ends)
จุด หมายปลายทางที่
 กำา หนดขึ้น เพื่อ ให้ก าร
 จัด สรรทรัพ ยากรและ
                      22
วัต ถุป ระสงค์ข อง
      องค์ก าร
สร้า งสรรค์ส ิน ค้า
 และบริก าร
สนองตอบความ
 ต้อ งการของ
                 23
วัต ถุป ระสงค์ข อง Org.
 (Org. Objective) นสัง คม
  ทาง      การให้ ทางด้า
  เศรษ         บริก าร - ช่ว ยเหลือ สัง คม
                        สงเคราะห์
  ฐกิจ         - สร้า ง - ให้ท น ต่า ง ๆ
                               ุ
  -            ความพึง สร้า งโรงเรีย น
                        -
  กำา ไร       พอใจให้บำา รุง ศิล ปะ
                        -
  สูง สุด      ลูก ค้า ** ก่อ ให้เ กิด จริย ธรร
               - อยู่   ทางธุร กิจ
(ธุร กิจ ) (ราชการ,ธุร กิจ ) 24
               เหนือ คู่ (ราชการ,ธุร กิจ
ลัก ษณะของ
องค์ก าร
1. องค์ก ารต้อ ง
   ประกอบด้ว ยกลุ่ม
   บุค คลตั้ง แต่ 2 คน
   ขึน ไป
     ้
2. บุค คลจะต้อ งมี 25
ลัก ษณะของ
องค์ก าร
3. การปฏิส ัม พัน ธ์อ ธิบ าย
   ได้โ ดยโครงสร้า งว่า
   ใครอยู่ท ี่ไ หน หน้า ที่
4. ทุก คนในองค์ก ารมี
   อะไร ขึ้น อยู่ก ับ ใครา ง
จุด มุ่ง หมายที่แ ตกต่
ออกไปแต่เ ป้า หมาย
                 26
ลัก ษณะของ
องค์ก าร ส ่ว นตัว
5. วัต ถุป ระสงค์
  มีค วามสัม พัน ธ์ก บั
  วัต ถุป ระสงค์ส ่ว นรวม
6. องค์ก ารเป็น กระบวน
  การ                  27
เหตุผ ลที่บ ุค คลต้อ งเข้า
   ร่ว มในองค์ก าร
เหตุผ ลทาง
สัง คม ++++
+องค์ก ารเป็น
แหล่ง ของการ        28
เหตุผ ลทางวัต ถุ++++
+++++การมี
องค์ก ารเกิด ขึ้น จะ
ช่ว ยให้บ ุค คลใน
องค์ก ารมีพ ลัง ความ
               29
การเพิ่ม พลัง ความ
สามารถ ++++
+มนุษ ย์แ ต่ล ะคนมี
ความสามารถ มี
ความรู้ท ี่แ ตกต่า งกัน
                 30
เหตุผ ลที่ค นต้อ งเข้า ร่ว ม
กับ องค์ก าร (ต่อ )
เพิ่ม ความรวดเร็ว ใน
  การทำา งาน ++++งาน
  บางอย่า งต้อ งใช้
  เวลากับ การปฏิบ ัต ิ
  งาน งานบางอย่า ง
                 31
เพิ่ม ความรอบรู้ใ น
ศาสตร์แ ขนงต่า ง ๆ
++++คนใน
องค์ก ารจะต้อ งเรีย น
รู้ ศึก ษาสิ่ง ใหม่ ๆ
                32
การมีส ่ว นร่ว มของกลุ่ม
   คนในองค์ก าร
เหตุผ ลทางสัง คม Social Reasons
  เหตุผ ลทางวัต ถุ Material
           Reasons

         ◊ เพิ่ม พลัง ความสามารถ
      ◊ เพิ่ม ความรวดเร็ว ในการทำา งาน
       ◊ เพิ่ม ความรอบรู้ใ นศาสตร์ต ่า ง
                                     33
ประเภทของ Org.
- Primary Org.         - Informal Org.
องค์การแบบปฐมภูมิ
* เกิดขึนโดยธรรมชาติ
        ้
                       องค์การไร้รูปแบบ
* มีความคุนเคย
          ้            องค์การที่ไม่เป็น
* มีความเป็นส่วนตัว    ทางการ
Ex: ครอบครัว           * ไม่มระเบียบกฏ
                             ี
- Secondary Org.
                       เกณฑ์ที่แน่นอน
องค์การทุติยภูมิ
* มีการกำาหนดบทบาท     * ไม่มสายการ
                               ี
และหน้าที่ชัดเจน       บังคับบัญชา
                                 34
ชนิด ของ
    องค์ก าร
เป็น ทีท ราบกัน แล้ว
        ่
ว่า องค์ก าร สิ่ง ต่า ง
ๆ ทีอ ยู่ล ้อ มรอบตัว
    ่
เรา ดัง นั้น เรา
สามารถแยก 35
ชนิด ของ
    องค์ก าร
1 องค์ก ารทาง
สัง คม ได้แ ก่
ครอบครัว โรงเรีย น
มหาวิท ยาลัย
ศาสนา สมาคม 36
ชนิด ของ
2. องค์ารทาง
    องค์ก ก าร
ราชการ ได้แ ก่
หน่ว ยงานราชการ
ต่า ง ๆ
            37
ปัญ หาขององค์ก าร
        THESETS
 TECHNOLOGY PROBLEM

 HUMAN RESOURSE PROBLEM
 ECONOMIC PROBLEM

 STRUSTURE PROBLEM

 ENVIRONMENT PROBLEM

 TECHNICAL PROBLEM

 SYSTEM PROBLEM
                    38
การบริห ารจัด การ
 เกีย วกับ องค์ก าร
    ่
เป้า ประสงค์ค ือ
 เพือ ให้อ งค์ก ารมี
    ่
ประสิท ธิภ าพในการ
บริห าร ใช้ท รัพ ยากร
แรงงาน คน เงิน วัส ดุ
ให้ม ีป ระสิท ธิภ าพ  39
การบริห าร
 จัด การทำา ได้
 โดย
   1. วิเ คราะห์
               40
3. สรรหาวิธ ีก าร
 ต่า ง ๆ
4. จัด วางผัง ที่
 ทำา งานให้ม ี
   ความเหมาะสม41
จบเรื่อ ง องค์ก าร
   เบรกสัก ครู่
เดี๋ย วมาต่อ ตอน
  ที่ 2 เรื่อ ง
                 42
การจัด
   องค์ก าร
 การสร้า งความ
 สัม พัน ธ์ร ะหว่า ง
บุค คลกับ งานเข้า
ด้ว ยกัน เป็น หน่ว ย
                   43
ความหมายของการ
   จัด องค์ก าร
Hicks  ≥
กระบวนการจัด
โครงร่า งให้ก ลุม
                ่
บุค คลทำา งาน 44
ความหมายของการ
   จัด องค์ก าร

Edwin    B. Flippo ≥
การจัด ความสัม พัน ธ์
ระหว่า งบุค คลกับ งาน
เข้า ด้ว ยกัน เป็น หน่ว ย
                   45
ความหมายของการ
    จัด องค์ก าร
Louis A. Allen ≥ การ
 ทำา งานหลัง จากวางแผน
 แล้ว จะต้อ งจัด กลุ่ม
 กิจ กรรมที่จ ำา เป็น เพื่อ ให้
 งานบรรลุว ัต ถุป ระสงค์
                       46
ลัก ษณะของการ
   จัด องค์ก าร
เป็น กิจ กรรมที่
กระทำา ต่อ จาก
การวางแผน
                  47
ลัก ษณะของการจัด
       องค์ก าร
    มีก ารกำา หนด
 ขอบเขตและมอบ
หมายอำา นาจหน้า ที่
                 48
ความสำา คัญ ของ
 การจัด องค์ก าร
1. มีค วามสำา คัญ ต่อ
      องค์ก ารเอง
2. มีค วามสำา คัญ ต่อ
                    49
ความสำา คัญ ของการจัด
  แสดงให้เองค์ก าร
           ห็น ถึง กระแสการไหลของงาน
  ช่ว ยให้ผ ู้ป ฏิบ ัต ง านทราบถึง ขอบเขตของ
                        ิ
 งาน น กรอบทีช ่ว ยเชือ มโยงการทุม เทความ
  เป็            ่        ่          ่
 พยายามจากขั้น ตอน การวางแผนไปสู่ผ ล
 สำา เร็ด วางช่อ งทางเพือ การติด ต่อม ่อ สารและ
  จั จ ในขั้น ตอนของการควบคุ สื
                        ่
 การตัด สิน ใจ
  ป้อ งกัน การทำา งานซำ้า ซ้อ นและขจัด ข้อ ขัด
 แย้ง ในหน้า ทีง าน
                 ่
  ช่ว ยให้ก ำา ลัง ความพยายามมีจ ด หมาย
                                      ุ
 ชัด เจน โดยการจัด กิจ กรรมให้ส ม พัน ธ์ก ับ เป้า
                                    ั
 หมายต่า ง ๆ
                                        50
หลัก การจัด
  องค์ก าร
  หลัก
OSCAR ของ
               51
หลัก การจัด
  องค์ก าร
O หมายถึง
Objective
 การกำา หนด   52
หลัก การจัด
  องค์ก าร
  S หมายถึง
Specialization
 ความชำา นาญ     53
หลัก การจัด
  องค์ก าร
  C หมายถึง
 Co-ordinating
การประสานงาน   54
หลัก การจัด
   องค์ก าร
 A หมายถึง
Authority
อำา นาจหน้า ที่   55
หลัก การจัด
 องค์ก าร
 R หมายถึง
Responsibility
ความรับ ผิด ชอบ
                  56
หลัก DARHC ของ อาจารย์ส ุว ิช
         แย้ม เผื่อ น
          1. Division of Work
         หลัก การแบ่ง งานกัน ทำา
    2. Authority and Responsibility
   หลัก การมอบอำา นาจหน้า ที่แ ละความ
                รับ ผิด ชอบ
   3. Hierarchy and Span of Control
   หลัก การกำา หนดสายการบัง คับ บัญ ชา
         และช่ว งการบัง คับ บัญ ชา
            4. Coordination              57
1. Division of Work
   หลัก การแบ่ง งาน
กัน ทำา



                58
2. Authority and Responsibility
   หลัก การมอบอำา นาจหน้า ที่
    และความรับ ผิด ชอบ




                       59
3. Hierarchy and Span of Control
      หลัก การกำา หนดสายการ
บัง คับ บัญ ชาและช่ว งการบัง คับ
              บัญ ชา




                       60
4. Coordination
 หลัก การประสานงาน
การสร้า งสายสัม พัน ธ์



                61
1. กำา หนดราย
ละเอีย ดของงาน
2. แบ่ง งานให้
    บุค คลใน
องค์ก ารทำา ตาม
  ความรู้ค วาม    62
โครงสร้าง/แผนภูมิ
     องค์การ
Organization Structure and Organization Chart
  คือ รูป แบบความสัม พัน ธ์
    ระหว่า งบุค ลากรกับ
     ตำา แหน่ง ต่า ง ๆ ใน
  องค์ก ารที่แ สดงให้เ ห็น
                                 63
การจัด แผนกงานใน
   องค์ก าร เช่น
       ประธาน
  รองปราน ฝ่า ย
ปฏิบ ัต ิ ฝ่า ยการเงิน
  ฝ่า ยตรวจสอบ
       เป็น ต้น 64
โครงสร้า ง / แผนภูม ิ
จะช่ว ยให้เ ข้า ใจการ
ทำา งานขององค์ก ารได้
ง่า ยขึน โดยแสดง
       ้
หน่ว ยงานต่า ง ๆ
ภายในองค์ก ารและ
แสดงความสัม พัน65  ธ์
ทำา ให้พ นัก งานใน
 องค์ก ารทราบว่า ตน
 อยู่ ณ ตำา แหน่ง ใด ทำา
 หน้า ที่อ ะไร
ทำา ให้ท ราบว่า สายการ
                66
67
เจ้า ข     ผู้             ผู้                    ผู้
 อง      จัด กา          จัด กา                 จัด กา
            ร               ร                      ร


         ผลิต
                  ผลิต    ตลา     การ    ผลิต    ตลา     การ
                                  เงิน                   เงิน
                           ด                      ด




             แสดง Line
            Organization
                       68
ผู้จัดการ
                               เจ้าหน้าที่
                                  ฝ่าย
                                วางแผน


จัดซื้อ     ผลิต    ตลาด        การ               บริหาร
                                เงิน              บุคคล




            แสดง Line and
          Staff Organization
                                             69
การจัด
แผนกงาน ง การพิจ ารณากลุ่ม
       หมายถึ
          กิจ กรรมต่า ง ๆ เข้า ด้ว ยกัน
หลัก เกณฑ์ส ำา หรับ การแบ่ง แผนกงาน
(Bases forดDepartmentation) แ บ่ง
   1. การจั แผนกงานโดยเพีย งแต่
   งานออกเท่า ๆ กัน
   2. การใช้ห น้า ที่ (function)
   เป็น หลัก เกณฑ์
   3. การใช้ผ ลิต ภัณ ฑ์ (product)
   เป็น หลัก เกณฑ์
   4. การใช้พ น ที่ (territory) เป็น
                ื้
   หลัก เกณฑ์
   5. การใช้ล ูก ค้า (customer)
   เป็น หลัก เกณฑ์
                                 70
การรวมกลุม เป็น
          ่
โครงสร้า งขององค์ก าร
1. การจัด โครงสร้า งองค์ก ารแบบแยกตาม
หน้า ที่ (functional structure)
                  ผู้จัดการ
                     ใหญ่




 จัดซื้อ   ผลิต    การ        การเงินและ    การบริหาร
                  ตลาด         การบัญชี       บุคคล


ผัง โครงสร้า งองค์ก ารแบบ
                                           71
2. การจัด โครงสร้า งแบบแบ่ง ส่ว นงานออกเป็น
   หน่ว ยต่า งหาก (divisional structure)
                               ผู้จัดการ
                                  ใหญ่

          การเงิน         บริหาร       การ           การ
                          บุคคล        ผลิต         ตลาด

         ผู้จัดการ                                 ผู้จัดการ
      หน่วยค้าเสาเข็ม                           หน่วยค้าวัตถุ
         คอนกรีต                                ก่อสร้างอื่น ๆ
 บริหาร    ผลิ      ขาย     บัญ            บริหาร    ผลิ    ขาย   บัญ
 บุคคล     ต                 ชี            บุคคล     ต             ชี


แสดงโครงสร้า งแบบที่ม ก ารแบ่ง ออกเป็น หน่ว ย
                      ี         72
ผู้จัดการ
                                     ใหญ่

                บริหาร     การ            การ         การ
                บุคคล      เงิน           ผลิต       ตลาด

        ผู้จัดการ              ผู้จัดการ                        ผู้จัดการ
           ภาค               ภาคตะวันออก                        ภาคใต้
         เหนือ                เฉียงเหนือ
บุคค   ผลิ    ขา    บัญ   บุคค      ผลิ       ขา   บัญ   บุคค      ผลิ      ขา   บัญ
  ล    ต      ย      ชี     ล       ต         ย     ชี     ล       ต        ย     ชี




แสดงโครงสร้า งองค์ก ารแบบที่ม ก73
                              ี ารแบ่ง ออก
3. การจัด       ผู้จ ัด การ
   โครงสร้า งแบบผสม ใหญ่
                     การ         การ            การ            การ         แบ่ง
                     ผลิต        ผลิต           ผลิต          ตลาด         ตาม
                                                                          หน้าที่

                 ผูจัดการ
                   ้                  ผู้จดการ
                                          ั                 ผู้จัดการ        แบ่ง
                  หน่วย              หน่วยค้าปุ๋ย            หน่วย           ตาม
                 ค้าแก๊ส                                  ค้าปราบศัตรู      ผลิตภั
                                                                พืช          ณฑ์
                  ผลิต      บริหาร      การเงินและ          ขาย         แบ่ง
                            บุคคล         บัญชี                         ตาม
                                                                       หน้าที่

        โรงงาน      โรงงาน                สำานักงา       สำานักงา     สำานักงา
          ผลิต        ผลิต                 นขาย           นขาย          นขาย
          ปุ๋ย       ปุ๋ยอนิ                 เขต            เขต        เขตใต้
        อินทรีย์ งตาม
              แบ่    นทรีย์                เหนือ           กลาง
             ผลิตภัณฑ์                               ตัวแทน        ตัวแทน            แบ่ง
                                                       ขาย           ขาย             ตาม
                                                        แก่       ให้ร้านค้า        ลูกค้า
แสดงโครงสร้า งองค์ก าร                               สหกรณ์   74 ปลีก
การแบ่ง และจัด กลุ่ม กิจ กรรมโดยเน้น จุด สนใจที่
    โครงการ (Matrix Organization)
                        ประธาน
                                     บริษัท



              ฝ่ายวิจัย      ฝ่าย             ฝ่าย    ฝ่ายจัด
                            วิศวกร            ผลิต      ซื้อ

       ผู้จัดการ นักวิจัย                ผู้จัดทำา
                            วิศวกร                   เจ้าหน้าที่
       โครงกา                           ตารางการ
          ร ก.                                         จัดซื้อ
                                          ผลิต
       ผู้จัดการ นักวิจัย                ผู้จัดทำา




                                                     ชอบ



                                                     หน้า
                                                     อำาน
                            วิศวกร                   เจ้าหน้าที่




                                                     มรับ




                                                     ตาม
                                                     ควา



                                                     และ
                                                     ผิด



                                                      าจ

                                                      ที่
       โครงกา                           ตารางการ       จัดซื้อ
          ร ข.                            ผลิต

       ผู้จัดการ นักวิจัย                ผู้จัดทำา   เจ้าหน้าที่
                            วิศวกร      ตารางการ
       โครงกา                                          จัดซื้อ
          ร ค.                            ผลิต

                      แสดงโครงสร้า งตาม 75
การจัด โครงสร้า งองค์ก ารให้
          เหมาะสมกับ สถานการณ์
                                      ข้อ แตกต่า งของหน่ว ยงาน
ความมั่น คงของ
                                      ย่อ ยในองค์ก าร
สภาพแวดล้อ ม
                      โครงสร้า ง
                        ของ
                      องค์ก ารที่
                      เหมาะสม
ลัก ษณะของงานที่        ที่ส ุด      แบบและวิธ ก าร
                                               ี
เกีย วข้อ ง
   ่                                 จัด การ
                   ลัก ษณะของกลุ่ม
                   พนัก งาน




                                             76
อำา นาจหน้า ที่แ ละ
ความรับา ที่ ชอบ
อำา นาจหน้ ผิด มีลักษณะ
สำาคัก. เป็น สิ่ง แสดงให้เ ห็น ถึง ความเป็น
     ญ 2 ประการ คือ
    เจ้า นายและลูก น้อ งห็น ถึง ความสามารถ
    ข. เป็น สิ่ง แสดงให้เ
    ทีผ ู้บ ริห ารสูง สุด จะใช้บ ัง คับ ให้เ กิด การ
      ่
    ประสานได้                   ผู้บริหารระดับสูง


                                ผู้บริหารระดับกลาง


                                หัวหน้าผู้ควบคุมงาน


                                 คนงาน


  แสดงส่ว นของอำา นาจหน้า ทีท77 ง เรื่อ ยไป
                            ่ แ บ่
                              ี่
แนวความคิด เกี่ย วกับ
  อำา นาจหน้า ที่
1. กลุ่ม แนวความคิด ว่า ด้ว ยอำา นาจ
หน้า ที่ท ี่เ กิด ขึน อย่า งเป็น ทางการ
                    ้
2. กลุ่ม แนวความคิด
ว่า ด้ว ยการยอมรับ
3. กลุ่ม แนวความคิด ว่า
ด้ว ยความสามารถ


                              78
การพิจ ารณากำา หนดอำา นาจหน้า ที่
        ให้เ ป็น ที่ย อมรับ
 1. การพิจ ารณาจากปัจ จัย ทางด้า น
 วัฒ นธรรม
 2. การกำา หนดให้ม อ ำา นาจหน้า ทีโ ดยใช้ว ิธ ี
                      ี              ่
 การให้ร างวัล และการลงโทษ
 3. การเสริม สร้า งความสามารถส่ว นตัว บุค คล
 และความเป็น ผู้น ำา ทีด ี
                        ่
 4. การใช้ป ระโยชน์จ ากการพยายามหลีก เลี่ย ง
 ความรับ ผิด ชอบของผู้อ ยูใ ต้บ ัง คับ บัญ ชา
                           ่
 5. การใช้อ ำา นาจหน้า ทีใ ห้ถ ก ต้อ งตาม
                         ่     ู
 ทำา นองคลองธรรม
                                      79
การพิจ ารณากำา หนดขนาด
 ของการมอบหมายงาน
  1. สภาพการณ์ข อง
  บรรยากาศขององค์ก าร
  2. ลัก ษณะของ
  กิจ กรรมที่ท ำา
  3. ขึ้น อยู่ก ับ ผูบ ริห าร
                     ้
  แต่ล ะคน


                                80
การควบคุม งานทีไ ด้ม อบ
                   ่
        หมายไปแล้ว
1. จะต้อ งมิใ ช่เ ป็น การมอบหมายงานใน
ลัก ษณะที่ข าดลอยไป
2. การใช้ว ิธ น ำา ด้ว ยการปรึก ษาในเบือ งต้น
              ี                        ้
ก่อ นการมอบหมายงาน
3. การใช้ว ิธ ก ารปรึก ษาเป็น ครั้ง คราวและตั้ง
                ี
คำา ถามในระหว่า งกระบวนการ
4. ให้ม ีก ารเสนอรายงานเป็น ครั้ง
คราว
5. การสัง ให้ท ำา รายงานในขึ้น
          ่
สุด ท้า ย
                               81
ประโยชน์ข องการมอบ
     หมายงาน
 1. ช่ว ยลดภาระของผู้
 บริห ารระดับ สูง
 2. ช่ว ยในการพัฒ นาผู้
 อยู่ใ ต้บ ง คับ บัญ ชา
           ั
 3. เป็น การสร้า งขวัญ ที่
 ดีใ ห้แ ก่ค นงาน


                        82
การกระจา
    การกระจา
               ยอำา นาจ การรวม
    ยอำานาจ                  อำานาจ
    (decentral               (centraliz
    ization)                 ation)
 มีการมอบหมาย               มีการสงวนและคง
 หน้าที่ อำานาจ             ไว้ซึ่งหน้าที่
 และอำานาจ                  อำานาจ และ
 หน้าทีไปยัง
        ่                   อำานาจหน้าทีไว้ที่
                                           ่
 ระดับตำ่าของ               ตัวผู้บริหารสูงสุด
แสดงเปรียนอัน ย บการกระจายอำา นาจอย่า งเต็ม ที่
 องค์การเป็ บเที            เกือบทังหมด
                                    ้
 มาก       และการรวมอำา นาจอย่า งเต็ม ที่
                                   83
การรวมอำา นาจ
หมายถึง
 การสงวนหรือ รัก ษาอำา นาจไว้ท ส ว นกลางของ
                                          ี่ ่
 องค์ก ารอย่า งมีร ะบบและสมำ่า เสมอ จะแสดงให้
 เห็น ว่า การตัด สิน ใจส่ว นใหญ่ท เ กีย วกับ
                                        ี่ ่
 กิจ กรรมต่า ง ๆ นั้น มิไ ด้ก ระทำา โดยปฏิบ ัต จ ริง ๆ
                                                 ิ
 แต่จ ะขึน อยูก ับ ผู้บ ัง คับ บัญ ชาทีอ ยูใ นระดับ ทีส ูง
          ้   ่                        ่ ่            ่
 กว่า ขึ้น ไปเป็น ผู้ต ัด สิน ใจเอง
การกระจายอำา นาจ
 หมายถึง
ความพยายามทีจ ะมอบหมายอำา นาจหน้า ที่
            ่
ทั้ง หมด ไปยัง ผู้บ ริห ารในระดับ ต่า ง ๆ ทีอ ยู่ร อง
                                            ่
ลงมาให้ม ากทีส ด เท่า ทีจ ะทำา ได้
               ่ ุ        ่
                                         84
ปัจ จัย ที่ก ำา หนดขนาดของ
       การกระจายอำา นาจ
1. ความสำา คัญ ของ          6. จำา นวนของผู้
ปัญ หาทีจ ะต้อ งทำา การ
          ่                 บริห ารที่ม อ ยู่
                                        ี
ตัด สิน ใจ อ งการทีจ ะให้
2. ความต้            ่      7. เทคนิค การ
เป็น แบบอย่า งเดีย วกัน     ควบคุม
ทางด้า นนโยบาย              8. การกระจา
3. ขนาดของ
องค์ก าร                    ยการปฏิบ ัต ง าน
                                         ิ
4. ประวัต ิค วามเป็น        9. อัต ราการ
มาของธุร กิจ                เปลี่ย นแปลงทาง
5. ปรัช ญาของ               10. จ ท ธิพ ลจากสภาพ
                            ธุร กิ อิ
ฝ่า ยบริห าร                แวดล้อ มภายนอก
                                    85
สรุ
ป
การกระจายอำา นาจนั้น มัก จะเกิด ขึ้น เมื่อ
มอบหมายงานได้ด ำา เนิน ไปอย่า งมาก
และกระทำา ตลอดทั่ว ทั้ง องค์ก าร การก
ระจายอำา นาจมัก จะเกิด ขึน ควบคูก ับ การ
                             ้       ่
จัด โครงสร้า งที่ม ก ารแบ่ง ออกเป็น หน่ว ย
                     ี
ต่า งหาก การกระจายอำา นาจมี
ประโยชน์ส ำา คัญ คือ อำา นวยให้ธ ร กิจ
                                   ุ
สามารถแบ่ง ควบคุม งาน โดยการจัด ให้
มี “ศูน ย์ก ำา ไร ” และช่ว ยให้ก ารตัด สิน
ใจดีข ึ้น กว่า เดิม ด้ว ยการอนุญ86
                                 าตให้
THE
END
  87

More Related Content

What's hot

ทฤษฎีทางการบริหาร
ทฤษฎีทางการบริหารทฤษฎีทางการบริหาร
ทฤษฎีทางการบริหารPrapaporn Boonplord
 
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)Ritthiporn Lekdee
 
Chapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การ
Chapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การChapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การ
Chapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การwanna2728
 
Organization Culture
Organization CultureOrganization Culture
Organization CultureKomsun See
 
บทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนา
บทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนาบทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนา
บทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนาSaiiew
 
ภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชน
ภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชนภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชน
ภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชนathapol anunthavorasakul
 
ภาวะผู้นำทางการศึกษา
ภาวะผู้นำทางการศึกษาภาวะผู้นำทางการศึกษา
ภาวะผู้นำทางการศึกษาJack Hades Sense
 
2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา
2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา
2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนาSaiiew
 
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำบทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำAj.Mallika Phongphaew
 
ทฤษฏีการบริหาร
ทฤษฏีการบริหารทฤษฏีการบริหาร
ทฤษฏีการบริหารguest6b6fea3
 
Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้
Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้
Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้maruay songtanin
 
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้Nona Khet
 
Chapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การ
Chapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การChapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การ
Chapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การwanna2728
 
Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้
Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้
Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้maruay songtanin
 
Borai organizational culture
Borai organizational cultureBorai organizational culture
Borai organizational cultureKomsun See
 
Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้
Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้
Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้maruay songtanin
 
ภาวะผู้นำ
ภาวะผู้นำภาวะผู้นำ
ภาวะผู้นำklarharn
 

What's hot (20)

Oganization Culture
Oganization CultureOganization Culture
Oganization Culture
 
ทฤษฎีทางการบริหาร
ทฤษฎีทางการบริหารทฤษฎีทางการบริหาร
ทฤษฎีทางการบริหาร
 
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational culture)
 
Chapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การ
Chapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การChapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การ
Chapter 3 พฤติกรรมศาสตร์กับการพัฒนาองค์การ
 
Organization Culture
Organization CultureOrganization Culture
Organization Culture
 
บทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนา
บทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนาบทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนา
บทที่ 1 ความหมายของการบริหารการพัฒนา
 
ภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชน
ภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชนภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชน
ภาวะผู้นำการศึกษากับชุมชน
 
ภาวะผู้นำทางการศึกษา
ภาวะผู้นำทางการศึกษาภาวะผู้นำทางการศึกษา
ภาวะผู้นำทางการศึกษา
 
2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา
2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา
2แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา
 
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำบทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
 
ทฤษฏีการบริหาร
ทฤษฏีการบริหารทฤษฏีการบริหาร
ทฤษฏีการบริหาร
 
บทที่ 3 แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับภาวะผู้นำ
บทที่ 3  แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับภาวะผู้นำบทที่ 3  แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับภาวะผู้นำ
บทที่ 3 แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับภาวะผู้นำ
 
Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้
Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้
Km systems and processes กระบวนการและระบบการจัดการความรู้
 
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
 
Workplace Spirituality
Workplace Spirituality Workplace Spirituality
Workplace Spirituality
 
Chapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การ
Chapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การChapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การ
Chapter 4 แนวคิดการพัฒนาองค์การ
 
Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้
Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้
Successes and failures of km ความสำเร็จและความล้มเหลวของการจัดการความรู้
 
Borai organizational culture
Borai organizational cultureBorai organizational culture
Borai organizational culture
 
Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้
Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้
Basic km พื้นฐานการจัดการความรู้
 
ภาวะผู้นำ
ภาวะผู้นำภาวะผู้นำ
ภาวะผู้นำ
 

Similar to (Organization)

660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx
660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx
660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptxPattie Pattie
 
การบริหาร&การจัดการ
การบริหาร&การจัดการการบริหาร&การจัดการ
การบริหาร&การจัดการchonlataz
 
Chapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การ
Chapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การChapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การ
Chapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การwanna2728
 
การจัดการการเรียนรู้
การจัดการการเรียนรู้การจัดการการเรียนรู้
การจัดการการเรียนรู้uncasanova
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมPhakawat Owat
 
Chapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การ
Chapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การChapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การ
Chapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การwanna2728
 
Technology Of Participation(Top)
Technology Of Participation(Top)Technology Of Participation(Top)
Technology Of Participation(Top)Mickey Toon Luffy
 
คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้
คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้  คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้
คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้ Walaiporn Mahamai
 
บริหารราชการไทย 1
บริหารราชการไทย 1บริหารราชการไทย 1
บริหารราชการไทย 1Saiiew
 
การจัดบริการแนะแนว
การจัดบริการแนะแนวการจัดบริการแนะแนว
การจัดบริการแนะแนวkoy2514
 
Chapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การ
Chapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การChapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การ
Chapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การwanna2728
 

Similar to (Organization) (20)

Learning Organization
Learning OrganizationLearning Organization
Learning Organization
 
660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx
660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx
660316_ปัญญาจักรวาล_HA 23 (1).pptx
 
Organization and Management (OM) overview (ch.1)
Organization and Management (OM) overview (ch.1)Organization and Management (OM) overview (ch.1)
Organization and Management (OM) overview (ch.1)
 
การบริหาร&การจัดการ
การบริหาร&การจัดการการบริหาร&การจัดการ
การบริหาร&การจัดการ
 
Chapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การ
Chapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การChapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การ
Chapter1 องค์การและการพัฒนาองค์การ
 
การจัดการการเรียนรู้
การจัดการการเรียนรู้การจัดการการเรียนรู้
การจัดการการเรียนรู้
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
 
Chapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การ
Chapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การChapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การ
Chapter 5 กระบวนการพัฒนาองค์การ
 
Technology Of Participation(Top)
Technology Of Participation(Top)Technology Of Participation(Top)
Technology Of Participation(Top)
 
Km cream
Km creamKm cream
Km cream
 
06 ตอนที่ 2 หน่วย 5
06 ตอนที่ 2 หน่วย 506 ตอนที่ 2 หน่วย 5
06 ตอนที่ 2 หน่วย 5
 
Introduction to Knowledge Management
Introduction to Knowledge ManagementIntroduction to Knowledge Management
Introduction to Knowledge Management
 
คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้
คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้  คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้
คู่มือการจัดทำแผนการจัดการความรู้
 
Ba.453 ch8
Ba.453 ch8 Ba.453 ch8
Ba.453 ch8
 
Week 1
Week 1Week 1
Week 1
 
บริหารราชการไทย 1
บริหารราชการไทย 1บริหารราชการไทย 1
บริหารราชการไทย 1
 
การจัดบริการแนะแนว
การจัดบริการแนะแนวการจัดบริการแนะแนว
การจัดบริการแนะแนว
 
Chapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การ
Chapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การChapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การ
Chapter7 เทคนิคพัฒนาองค์การระดับกลุ่มและองค์การ
 
523
523523
523
 
4 ปี สุเมธี
4 ปี สุเมธี4 ปี สุเมธี
4 ปี สุเมธี
 

(Organization)

  • 1. สื่อ การเรีย นการสอน วิช าหลัก การจัด การ รหัส วิช า 3200-1003 ระดับ ประกาศนีย บัต รวิช าชีพ ชั้น สูง 1
  • 2. 2
  • 3. จัด การ เรื่อ ง การจัด องค์ก าร 3
  • 4. ความหมาย ความสำา คัญ ลัก ษณะ ขององค์ก าร ความหมาย ความสำา คัญ ลัก ษณะของการจัด  หลักก าร ด องค์ก าร องค์ การจั โครงสร้า งองค์ก าร 4
  • 6. วัต ถุป ระสงค์ การเรีย นรู้ บอกความหมายของ องค์ก ารและการจัด องค์ก าร ได้ อธิบ ายหลัก การจัด องค์ก าร ได้ บอกขั้น ตอนการจัด องค์ก าร 6
  • 7. 1. องค์ก าร 2 การจัด องค์ก าร 3 โครงสร้า ง ขององค์ก าร 7
  • 8. ความหมาย องค์ก าร ความหมายตาม พจนานุก รม “ศูน ย์ก ลางของ กิจ กรรมที่ร วม 8
  • 9. ความหมาย องค์ก าร ดร .สุพ ร ศรีพ หล “กลุ่ม คนร่ว มกัน ดำา เนิน การอย่า งใด อย่า งหนึ่ง โดยมีเ ป้า 9
  • 10. ความหมาย องค์ก าร ดร.นิพ นธ์ ศศิธ ร “คณะ บุค คลที่ม ารวมตัว กัน แล้ว แบ่ง หน้า ที่ก ัน ตาม ความเหมาะสมและ สร้า งสายสัม พัน ธ์10
  • 11. Amitai Etzioni “หน่ว ยสัง คมหรือ กลุ่ม บุค คลทีต ั้ง ขึ้น อย่า ง ่ จงใจเพื่อ ให้งาน บรรลุ ง าน เป้า หมายที่แ น่น อน 11
  • 12. องค์ก าร Organization  ประกอบด้ว ยบุค คล ตัง แต่ 2 คนขึ้น ไป ้  แต่ล ะบุค คลใน องค์ก ารมีค วาม เกี่ย วข้อ งกัน ใน 12
  • 13. องค์ก าร Organization ความเกี่ย วข้อ งหรือ ความเกี่ย วพัน นี้ สามารถจัด ลำาม า รวม กลุ่ม บุค คลที่ ดับ ออกมา เป็น โครงร่า งได้ กัน แต่ล ะคน ต่า งก็ม ีจ ุด 13
  • 14. ©©องค์ก าร เป็น โครงสร้า งที่ถ ก จัด ทำา ู ขึ้น ตามกระบวนการ โดยให้บ ุค คลเข้า มามี ส่ว นร่ว มกัน ปฏิบ ัต ิ งานจนงานบรรลุ วัต ถุป ระสงค์ไ ด้ 14
  • 15. ©องค์ก ารเป็น ที่ร วม ของคนกลุ่ม ใหญ่ท ม ี ี่ จิต ใจแน่แ น่ว ที่จ ะ ร่ว มมือ กัน จัด ระบบ งานต่า ง ๆเพื่อ ให้ใ ห้ 15
  • 17. Barnard กล่า วว่า คือ ระบบการ ประสานงานร่ว ม กัน ระหว่า งบุค คล 2 คนขึ้น ไปอย่า ง 17
  • 18. องค์ก ารคือ กระบวนการจัด โครงสร้า งให้ก ลุ่ม บุค คลทำา งานร่ว ม กัน เพื่อ วัต ถุป ระสงค์ร ่ว ม 18
  • 19. ความสัม พัน ธ์ร ะหว่า ง บุค คลกับ องค์ก าร งค์ก ารทางราชการ องค์ก ารทางสัง คม ureaucracy - ครอบครัว กระทรวง - โรงเรีย น ทบวง บุคคล - สถาบัน ศาสนา กรม - สมาคม ฯลฯ เขต องค์ก ารทางเอกชน - บริษ ัท - ร้า นค้า ต่า ง ๆ 19
  • 20. ความหมายของ Bernard, Org. Hicks,Urwick Katz , Mooney,- เป็น กระบวนการ Kahn จัด โครงสร้า ง หรือ - ระบบ Sherwood การแบ่ง งานเป็น - บุค คล 2ประเภทต่า ง ๆ แล้วเปิด ทีม ี ่ คนขึ้น ไป มอบหมายความรับ การ มาทำา งานผิด ชอบให้แ ก่ส มาชิก ย นแป เปลี่ ่ ดำ ลงให้ ร่ว มกัน เพือา เนิน การปฏิบ ัต ิใ ห้ ให้บ รรลุ บรรลุเ ป้า หมาย สอดคล้อ ง 20
  • 21. ลัก ษณะของ Org. - การติดต่อสื่อสาร - การร่วมมือร่วมใจ - การมีเป้าหมายร่วมกัน การจัดการ กลุ่มของบุคคลการมีกฏระเบียบ - แบ่งงานกันทำาตาม ความสามารถ โครงสร้างของ กำาหนดอำานาจหน้าที่, Org. ความสัมพันธ์ ความรับผิดชอบ ระบบ กระบวนการ สภาพแวดล้อม การดำาเนินงานอย่างมีความต่อเนื่อง, Process Input--> --> Out ดเร็ว,ถูกต้อง,ประหยัด - แรงงาน - เทคนิค - ผล * กำาหนดเป้าหมาย - ทุน - วิธีการ - การบริการ * การแบ่งงาน - ข้อมูล (หลีกเลี่ยงความซำ้าซ้อน) ่องมือ - เครื Feedback 21
  • 22. เป้า หมายของ Org. (Org.Goal) เปรีย บเหมือ นวิถ ีท าง (Means) ให้ไ ปถึง จุด หมายปลายทาง (Ends) จุด หมายปลายทางที่ กำา หนดขึ้น เพื่อ ให้ก าร จัด สรรทรัพ ยากรและ 22
  • 23. วัต ถุป ระสงค์ข อง องค์ก าร สร้า งสรรค์ส ิน ค้า และบริก าร สนองตอบความ ต้อ งการของ 23
  • 24. วัต ถุป ระสงค์ข อง Org. (Org. Objective) นสัง คม ทาง การให้ ทางด้า เศรษ บริก าร - ช่ว ยเหลือ สัง คม สงเคราะห์ ฐกิจ - สร้า ง - ให้ท น ต่า ง ๆ ุ - ความพึง สร้า งโรงเรีย น - กำา ไร พอใจให้บำา รุง ศิล ปะ - สูง สุด ลูก ค้า ** ก่อ ให้เ กิด จริย ธรร - อยู่ ทางธุร กิจ (ธุร กิจ ) (ราชการ,ธุร กิจ ) 24 เหนือ คู่ (ราชการ,ธุร กิจ
  • 25. ลัก ษณะของ องค์ก าร 1. องค์ก ารต้อ ง ประกอบด้ว ยกลุ่ม บุค คลตั้ง แต่ 2 คน ขึน ไป ้ 2. บุค คลจะต้อ งมี 25
  • 26. ลัก ษณะของ องค์ก าร 3. การปฏิส ัม พัน ธ์อ ธิบ าย ได้โ ดยโครงสร้า งว่า ใครอยู่ท ี่ไ หน หน้า ที่ 4. ทุก คนในองค์ก ารมี อะไร ขึ้น อยู่ก ับ ใครา ง จุด มุ่ง หมายที่แ ตกต่ ออกไปแต่เ ป้า หมาย 26
  • 27. ลัก ษณะของ องค์ก าร ส ่ว นตัว 5. วัต ถุป ระสงค์ มีค วามสัม พัน ธ์ก บั วัต ถุป ระสงค์ส ่ว นรวม 6. องค์ก ารเป็น กระบวน การ 27
  • 28. เหตุผ ลที่บ ุค คลต้อ งเข้า ร่ว มในองค์ก าร เหตุผ ลทาง สัง คม ++++ +องค์ก ารเป็น แหล่ง ของการ 28
  • 29. เหตุผ ลทางวัต ถุ++++ +++++การมี องค์ก ารเกิด ขึ้น จะ ช่ว ยให้บ ุค คลใน องค์ก ารมีพ ลัง ความ 29
  • 30. การเพิ่ม พลัง ความ สามารถ ++++ +มนุษ ย์แ ต่ล ะคนมี ความสามารถ มี ความรู้ท ี่แ ตกต่า งกัน 30
  • 31. เหตุผ ลที่ค นต้อ งเข้า ร่ว ม กับ องค์ก าร (ต่อ ) เพิ่ม ความรวดเร็ว ใน การทำา งาน ++++งาน บางอย่า งต้อ งใช้ เวลากับ การปฏิบ ัต ิ งาน งานบางอย่า ง 31
  • 32. เพิ่ม ความรอบรู้ใ น ศาสตร์แ ขนงต่า ง ๆ ++++คนใน องค์ก ารจะต้อ งเรีย น รู้ ศึก ษาสิ่ง ใหม่ ๆ 32
  • 33. การมีส ่ว นร่ว มของกลุ่ม คนในองค์ก าร เหตุผ ลทางสัง คม Social Reasons เหตุผ ลทางวัต ถุ Material Reasons ◊ เพิ่ม พลัง ความสามารถ ◊ เพิ่ม ความรวดเร็ว ในการทำา งาน ◊ เพิ่ม ความรอบรู้ใ นศาสตร์ต ่า ง 33
  • 34. ประเภทของ Org. - Primary Org. - Informal Org. องค์การแบบปฐมภูมิ * เกิดขึนโดยธรรมชาติ ้ องค์การไร้รูปแบบ * มีความคุนเคย ้ องค์การที่ไม่เป็น * มีความเป็นส่วนตัว ทางการ Ex: ครอบครัว * ไม่มระเบียบกฏ ี - Secondary Org. เกณฑ์ที่แน่นอน องค์การทุติยภูมิ * มีการกำาหนดบทบาท * ไม่มสายการ ี และหน้าที่ชัดเจน บังคับบัญชา 34
  • 35. ชนิด ของ องค์ก าร เป็น ทีท ราบกัน แล้ว ่ ว่า องค์ก าร สิ่ง ต่า ง ๆ ทีอ ยู่ล ้อ มรอบตัว ่ เรา ดัง นั้น เรา สามารถแยก 35
  • 36. ชนิด ของ องค์ก าร 1 องค์ก ารทาง สัง คม ได้แ ก่ ครอบครัว โรงเรีย น มหาวิท ยาลัย ศาสนา สมาคม 36
  • 37. ชนิด ของ 2. องค์ารทาง องค์ก ก าร ราชการ ได้แ ก่ หน่ว ยงานราชการ ต่า ง ๆ 37
  • 38. ปัญ หาขององค์ก าร THESETS  TECHNOLOGY PROBLEM  HUMAN RESOURSE PROBLEM  ECONOMIC PROBLEM  STRUSTURE PROBLEM  ENVIRONMENT PROBLEM  TECHNICAL PROBLEM  SYSTEM PROBLEM 38
  • 39. การบริห ารจัด การ เกีย วกับ องค์ก าร ่ เป้า ประสงค์ค ือ เพือ ให้อ งค์ก ารมี ่ ประสิท ธิภ าพในการ บริห าร ใช้ท รัพ ยากร แรงงาน คน เงิน วัส ดุ ให้ม ีป ระสิท ธิภ าพ 39
  • 40. การบริห าร จัด การทำา ได้ โดย 1. วิเ คราะห์ 40
  • 41. 3. สรรหาวิธ ีก าร ต่า ง ๆ 4. จัด วางผัง ที่ ทำา งานให้ม ี ความเหมาะสม41
  • 42. จบเรื่อ ง องค์ก าร เบรกสัก ครู่ เดี๋ย วมาต่อ ตอน ที่ 2 เรื่อ ง 42
  • 43. การจัด องค์ก าร การสร้า งความ สัม พัน ธ์ร ะหว่า ง บุค คลกับ งานเข้า ด้ว ยกัน เป็น หน่ว ย 43
  • 44. ความหมายของการ จัด องค์ก าร Hicks ≥ กระบวนการจัด โครงร่า งให้ก ลุม ่ บุค คลทำา งาน 44
  • 45. ความหมายของการ จัด องค์ก าร Edwin B. Flippo ≥ การจัด ความสัม พัน ธ์ ระหว่า งบุค คลกับ งาน เข้า ด้ว ยกัน เป็น หน่ว ย 45
  • 46. ความหมายของการ จัด องค์ก าร Louis A. Allen ≥ การ ทำา งานหลัง จากวางแผน แล้ว จะต้อ งจัด กลุ่ม กิจ กรรมที่จ ำา เป็น เพื่อ ให้ งานบรรลุว ัต ถุป ระสงค์ 46
  • 47. ลัก ษณะของการ จัด องค์ก าร เป็น กิจ กรรมที่ กระทำา ต่อ จาก การวางแผน 47
  • 48. ลัก ษณะของการจัด องค์ก าร มีก ารกำา หนด ขอบเขตและมอบ หมายอำา นาจหน้า ที่ 48
  • 49. ความสำา คัญ ของ การจัด องค์ก าร 1. มีค วามสำา คัญ ต่อ องค์ก ารเอง 2. มีค วามสำา คัญ ต่อ 49
  • 50. ความสำา คัญ ของการจัด  แสดงให้เองค์ก าร ห็น ถึง กระแสการไหลของงาน  ช่ว ยให้ผ ู้ป ฏิบ ัต ง านทราบถึง ขอบเขตของ ิ งาน น กรอบทีช ่ว ยเชือ มโยงการทุม เทความ  เป็ ่ ่ ่ พยายามจากขั้น ตอน การวางแผนไปสู่ผ ล สำา เร็ด วางช่อ งทางเพือ การติด ต่อม ่อ สารและ  จั จ ในขั้น ตอนของการควบคุ สื ่ การตัด สิน ใจ  ป้อ งกัน การทำา งานซำ้า ซ้อ นและขจัด ข้อ ขัด แย้ง ในหน้า ทีง าน ่  ช่ว ยให้ก ำา ลัง ความพยายามมีจ ด หมาย ุ ชัด เจน โดยการจัด กิจ กรรมให้ส ม พัน ธ์ก ับ เป้า ั หมายต่า ง ๆ 50
  • 51. หลัก การจัด องค์ก าร หลัก OSCAR ของ 51
  • 52. หลัก การจัด องค์ก าร O หมายถึง Objective การกำา หนด 52
  • 53. หลัก การจัด องค์ก าร S หมายถึง Specialization ความชำา นาญ 53
  • 54. หลัก การจัด องค์ก าร C หมายถึง Co-ordinating การประสานงาน 54
  • 55. หลัก การจัด องค์ก าร A หมายถึง Authority อำา นาจหน้า ที่ 55
  • 56. หลัก การจัด องค์ก าร R หมายถึง Responsibility ความรับ ผิด ชอบ 56
  • 57. หลัก DARHC ของ อาจารย์ส ุว ิช แย้ม เผื่อ น 1. Division of Work หลัก การแบ่ง งานกัน ทำา 2. Authority and Responsibility หลัก การมอบอำา นาจหน้า ที่แ ละความ รับ ผิด ชอบ 3. Hierarchy and Span of Control หลัก การกำา หนดสายการบัง คับ บัญ ชา และช่ว งการบัง คับ บัญ ชา 4. Coordination 57
  • 58. 1. Division of Work หลัก การแบ่ง งาน กัน ทำา 58
  • 59. 2. Authority and Responsibility หลัก การมอบอำา นาจหน้า ที่ และความรับ ผิด ชอบ 59
  • 60. 3. Hierarchy and Span of Control หลัก การกำา หนดสายการ บัง คับ บัญ ชาและช่ว งการบัง คับ บัญ ชา 60
  • 61. 4. Coordination หลัก การประสานงาน การสร้า งสายสัม พัน ธ์ 61
  • 62. 1. กำา หนดราย ละเอีย ดของงาน 2. แบ่ง งานให้ บุค คลใน องค์ก ารทำา ตาม ความรู้ค วาม 62
  • 63. โครงสร้าง/แผนภูมิ องค์การ Organization Structure and Organization Chart คือ รูป แบบความสัม พัน ธ์ ระหว่า งบุค ลากรกับ ตำา แหน่ง ต่า ง ๆ ใน องค์ก ารที่แ สดงให้เ ห็น 63
  • 64. การจัด แผนกงานใน องค์ก าร เช่น ประธาน รองปราน ฝ่า ย ปฏิบ ัต ิ ฝ่า ยการเงิน ฝ่า ยตรวจสอบ เป็น ต้น 64
  • 65. โครงสร้า ง / แผนภูม ิ จะช่ว ยให้เ ข้า ใจการ ทำา งานขององค์ก ารได้ ง่า ยขึน โดยแสดง ้ หน่ว ยงานต่า ง ๆ ภายในองค์ก ารและ แสดงความสัม พัน65 ธ์
  • 66. ทำา ให้พ นัก งานใน องค์ก ารทราบว่า ตน อยู่ ณ ตำา แหน่ง ใด ทำา หน้า ที่อ ะไร ทำา ให้ท ราบว่า สายการ 66
  • 67. 67
  • 68. เจ้า ข ผู้ ผู้ ผู้ อง จัด กา จัด กา จัด กา ร ร ร ผลิต ผลิต ตลา การ ผลิต ตลา การ เงิน เงิน ด ด แสดง Line Organization 68
  • 69. ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ ฝ่าย วางแผน จัดซื้อ ผลิต ตลาด การ บริหาร เงิน บุคคล แสดง Line and Staff Organization 69
  • 70. การจัด แผนกงาน ง การพิจ ารณากลุ่ม หมายถึ กิจ กรรมต่า ง ๆ เข้า ด้ว ยกัน หลัก เกณฑ์ส ำา หรับ การแบ่ง แผนกงาน (Bases forดDepartmentation) แ บ่ง 1. การจั แผนกงานโดยเพีย งแต่ งานออกเท่า ๆ กัน 2. การใช้ห น้า ที่ (function) เป็น หลัก เกณฑ์ 3. การใช้ผ ลิต ภัณ ฑ์ (product) เป็น หลัก เกณฑ์ 4. การใช้พ น ที่ (territory) เป็น ื้ หลัก เกณฑ์ 5. การใช้ล ูก ค้า (customer) เป็น หลัก เกณฑ์ 70
  • 71. การรวมกลุม เป็น ่ โครงสร้า งขององค์ก าร 1. การจัด โครงสร้า งองค์ก ารแบบแยกตาม หน้า ที่ (functional structure) ผู้จัดการ ใหญ่ จัดซื้อ ผลิต การ การเงินและ การบริหาร ตลาด การบัญชี บุคคล ผัง โครงสร้า งองค์ก ารแบบ 71
  • 72. 2. การจัด โครงสร้า งแบบแบ่ง ส่ว นงานออกเป็น หน่ว ยต่า งหาก (divisional structure) ผู้จัดการ ใหญ่ การเงิน บริหาร การ การ บุคคล ผลิต ตลาด ผู้จัดการ ผู้จัดการ หน่วยค้าเสาเข็ม หน่วยค้าวัตถุ คอนกรีต ก่อสร้างอื่น ๆ บริหาร ผลิ ขาย บัญ บริหาร ผลิ ขาย บัญ บุคคล ต ชี บุคคล ต ชี แสดงโครงสร้า งแบบที่ม ก ารแบ่ง ออกเป็น หน่ว ย ี 72
  • 73. ผู้จัดการ ใหญ่ บริหาร การ การ การ บุคคล เงิน ผลิต ตลาด ผู้จัดการ ผู้จัดการ ผู้จัดการ ภาค ภาคตะวันออก ภาคใต้ เหนือ เฉียงเหนือ บุคค ผลิ ขา บัญ บุคค ผลิ ขา บัญ บุคค ผลิ ขา บัญ ล ต ย ชี ล ต ย ชี ล ต ย ชี แสดงโครงสร้า งองค์ก ารแบบที่ม ก73 ี ารแบ่ง ออก
  • 74. 3. การจัด ผู้จ ัด การ โครงสร้า งแบบผสม ใหญ่ การ การ การ การ แบ่ง ผลิต ผลิต ผลิต ตลาด ตาม หน้าที่ ผูจัดการ ้ ผู้จดการ ั ผู้จัดการ แบ่ง หน่วย หน่วยค้าปุ๋ย หน่วย ตาม ค้าแก๊ส ค้าปราบศัตรู ผลิตภั พืช ณฑ์ ผลิต บริหาร การเงินและ ขาย แบ่ง บุคคล บัญชี ตาม หน้าที่ โรงงาน โรงงาน สำานักงา สำานักงา สำานักงา ผลิต ผลิต นขาย นขาย นขาย ปุ๋ย ปุ๋ยอนิ เขต เขต เขตใต้ อินทรีย์ งตาม แบ่ นทรีย์ เหนือ กลาง ผลิตภัณฑ์ ตัวแทน ตัวแทน แบ่ง ขาย ขาย ตาม แก่ ให้ร้านค้า ลูกค้า แสดงโครงสร้า งองค์ก าร สหกรณ์ 74 ปลีก
  • 75. การแบ่ง และจัด กลุ่ม กิจ กรรมโดยเน้น จุด สนใจที่ โครงการ (Matrix Organization) ประธาน บริษัท ฝ่ายวิจัย ฝ่าย ฝ่าย ฝ่ายจัด วิศวกร ผลิต ซื้อ ผู้จัดการ นักวิจัย ผู้จัดทำา วิศวกร เจ้าหน้าที่ โครงกา ตารางการ ร ก. จัดซื้อ ผลิต ผู้จัดการ นักวิจัย ผู้จัดทำา ชอบ หน้า อำาน วิศวกร เจ้าหน้าที่ มรับ ตาม ควา และ ผิด าจ ที่ โครงกา ตารางการ จัดซื้อ ร ข. ผลิต ผู้จัดการ นักวิจัย ผู้จัดทำา เจ้าหน้าที่ วิศวกร ตารางการ โครงกา จัดซื้อ ร ค. ผลิต แสดงโครงสร้า งตาม 75
  • 76. การจัด โครงสร้า งองค์ก ารให้ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ข้อ แตกต่า งของหน่ว ยงาน ความมั่น คงของ ย่อ ยในองค์ก าร สภาพแวดล้อ ม โครงสร้า ง ของ องค์ก ารที่ เหมาะสม ลัก ษณะของงานที่ ที่ส ุด แบบและวิธ ก าร ี เกีย วข้อ ง ่ จัด การ ลัก ษณะของกลุ่ม พนัก งาน 76
  • 77. อำา นาจหน้า ที่แ ละ ความรับา ที่ ชอบ อำา นาจหน้ ผิด มีลักษณะ สำาคัก. เป็น สิ่ง แสดงให้เ ห็น ถึง ความเป็น ญ 2 ประการ คือ เจ้า นายและลูก น้อ งห็น ถึง ความสามารถ ข. เป็น สิ่ง แสดงให้เ ทีผ ู้บ ริห ารสูง สุด จะใช้บ ัง คับ ให้เ กิด การ ่ ประสานได้ ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง หัวหน้าผู้ควบคุมงาน คนงาน แสดงส่ว นของอำา นาจหน้า ทีท77 ง เรื่อ ยไป ่ แ บ่ ี่
  • 78. แนวความคิด เกี่ย วกับ อำา นาจหน้า ที่ 1. กลุ่ม แนวความคิด ว่า ด้ว ยอำา นาจ หน้า ที่ท ี่เ กิด ขึน อย่า งเป็น ทางการ ้ 2. กลุ่ม แนวความคิด ว่า ด้ว ยการยอมรับ 3. กลุ่ม แนวความคิด ว่า ด้ว ยความสามารถ 78
  • 79. การพิจ ารณากำา หนดอำา นาจหน้า ที่ ให้เ ป็น ที่ย อมรับ 1. การพิจ ารณาจากปัจ จัย ทางด้า น วัฒ นธรรม 2. การกำา หนดให้ม อ ำา นาจหน้า ทีโ ดยใช้ว ิธ ี ี ่ การให้ร างวัล และการลงโทษ 3. การเสริม สร้า งความสามารถส่ว นตัว บุค คล และความเป็น ผู้น ำา ทีด ี ่ 4. การใช้ป ระโยชน์จ ากการพยายามหลีก เลี่ย ง ความรับ ผิด ชอบของผู้อ ยูใ ต้บ ัง คับ บัญ ชา ่ 5. การใช้อ ำา นาจหน้า ทีใ ห้ถ ก ต้อ งตาม ่ ู ทำา นองคลองธรรม 79
  • 80. การพิจ ารณากำา หนดขนาด ของการมอบหมายงาน 1. สภาพการณ์ข อง บรรยากาศขององค์ก าร 2. ลัก ษณะของ กิจ กรรมที่ท ำา 3. ขึ้น อยู่ก ับ ผูบ ริห าร ้ แต่ล ะคน 80
  • 81. การควบคุม งานทีไ ด้ม อบ ่ หมายไปแล้ว 1. จะต้อ งมิใ ช่เ ป็น การมอบหมายงานใน ลัก ษณะที่ข าดลอยไป 2. การใช้ว ิธ น ำา ด้ว ยการปรึก ษาในเบือ งต้น ี ้ ก่อ นการมอบหมายงาน 3. การใช้ว ิธ ก ารปรึก ษาเป็น ครั้ง คราวและตั้ง ี คำา ถามในระหว่า งกระบวนการ 4. ให้ม ีก ารเสนอรายงานเป็น ครั้ง คราว 5. การสัง ให้ท ำา รายงานในขึ้น ่ สุด ท้า ย 81
  • 82. ประโยชน์ข องการมอบ หมายงาน 1. ช่ว ยลดภาระของผู้ บริห ารระดับ สูง 2. ช่ว ยในการพัฒ นาผู้ อยู่ใ ต้บ ง คับ บัญ ชา ั 3. เป็น การสร้า งขวัญ ที่ ดีใ ห้แ ก่ค นงาน 82
  • 83. การกระจา การกระจา ยอำา นาจ การรวม ยอำานาจ อำานาจ (decentral (centraliz ization) ation) มีการมอบหมาย มีการสงวนและคง หน้าที่ อำานาจ ไว้ซึ่งหน้าที่ และอำานาจ อำานาจ และ หน้าทีไปยัง ่ อำานาจหน้าทีไว้ที่ ่ ระดับตำ่าของ ตัวผู้บริหารสูงสุด แสดงเปรียนอัน ย บการกระจายอำา นาจอย่า งเต็ม ที่ องค์การเป็ บเที เกือบทังหมด ้ มาก และการรวมอำา นาจอย่า งเต็ม ที่ 83
  • 84. การรวมอำา นาจ หมายถึง การสงวนหรือ รัก ษาอำา นาจไว้ท ส ว นกลางของ ี่ ่ องค์ก ารอย่า งมีร ะบบและสมำ่า เสมอ จะแสดงให้ เห็น ว่า การตัด สิน ใจส่ว นใหญ่ท เ กีย วกับ ี่ ่ กิจ กรรมต่า ง ๆ นั้น มิไ ด้ก ระทำา โดยปฏิบ ัต จ ริง ๆ ิ แต่จ ะขึน อยูก ับ ผู้บ ัง คับ บัญ ชาทีอ ยูใ นระดับ ทีส ูง ้ ่ ่ ่ ่ กว่า ขึ้น ไปเป็น ผู้ต ัด สิน ใจเอง การกระจายอำา นาจ หมายถึง ความพยายามทีจ ะมอบหมายอำา นาจหน้า ที่ ่ ทั้ง หมด ไปยัง ผู้บ ริห ารในระดับ ต่า ง ๆ ทีอ ยู่ร อง ่ ลงมาให้ม ากทีส ด เท่า ทีจ ะทำา ได้ ่ ุ ่ 84
  • 85. ปัจ จัย ที่ก ำา หนดขนาดของ การกระจายอำา นาจ 1. ความสำา คัญ ของ 6. จำา นวนของผู้ ปัญ หาทีจ ะต้อ งทำา การ ่ บริห ารที่ม อ ยู่ ี ตัด สิน ใจ อ งการทีจ ะให้ 2. ความต้ ่ 7. เทคนิค การ เป็น แบบอย่า งเดีย วกัน ควบคุม ทางด้า นนโยบาย 8. การกระจา 3. ขนาดของ องค์ก าร ยการปฏิบ ัต ง าน ิ 4. ประวัต ิค วามเป็น 9. อัต ราการ มาของธุร กิจ เปลี่ย นแปลงทาง 5. ปรัช ญาของ 10. จ ท ธิพ ลจากสภาพ ธุร กิ อิ ฝ่า ยบริห าร แวดล้อ มภายนอก 85
  • 86. สรุ ป การกระจายอำา นาจนั้น มัก จะเกิด ขึ้น เมื่อ มอบหมายงานได้ด ำา เนิน ไปอย่า งมาก และกระทำา ตลอดทั่ว ทั้ง องค์ก าร การก ระจายอำา นาจมัก จะเกิด ขึน ควบคูก ับ การ ้ ่ จัด โครงสร้า งที่ม ก ารแบ่ง ออกเป็น หน่ว ย ี ต่า งหาก การกระจายอำา นาจมี ประโยชน์ส ำา คัญ คือ อำา นวยให้ธ ร กิจ ุ สามารถแบ่ง ควบคุม งาน โดยการจัด ให้ มี “ศูน ย์ก ำา ไร ” และช่ว ยให้ก ารตัด สิน ใจดีข ึ้น กว่า เดิม ด้ว ยการอนุญ86 าตให้