นางสาวกรกนก บุญมา เลขที่ 6 นางสาวชัญญานุช มณีวรรณ เลขที่ 8 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/9

1. กิจกรรมที่ 4
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
จัดทาโดย
นางสาวกรกนก บุญมา เลขที่ 6
นางสาวชัญญานุช มณีวรรณ เลขที่ 8
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/9

2. ขั้นตอนการทาโครงงาน
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน
4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
5. การจัดทารายงาน
6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน

3. 1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
มักจะได้มาจากเรื่องทั่วๆ ไป จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ
จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อควรพิจารณาองค์ประกอบสาคัญๆ ดังนี้
- เห็นประโยชน์และความคุ้มค่าของเรื่องที่จะทาโครงงาน
- ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
- สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
- มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษาซึ่งรวมถึง
ผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้คาปรึกษา
- มีเวลาเพียงพอ
- มีงบประมาณเพียงพอ
- มีความปลอดภัย

4. 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล การขอคาปรึกษาจากครูผู้เชี่ยวชาญ
จะช่วยให้ผู้เรียนได้แนวคิด ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้
ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษา
ค้นคว้าผู้เรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ด้วย
ตัวอย่างเว็บไซต์เช่น
http://www. nectec.or.th/ysc เป็นเว็บไซต์ของ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
แห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับโครงงานนักวิทยาศาสตร์
รุ่นเยาว์ที่จัดการแข่งขันคัดเลือกโครงงาน
ของผู้เรียนเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขัน
ในโครงการของบริษัทอินเทล(ที่สหรัฐอเมริกา)

5. 3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน มีขั้นตอนที่สาคัญดังนี้
3.1 กาหนดขอบเขตงาน - กาหนดขอบเขต ลักษณะ และแนวทางในการวางแผน
จัดทาโครงงาน
3.2 การออกแบบการพัฒนา - มีการกาหนดลักษณะของคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์
ตัวแปล ภาษา และวัสดุต่างๆ คุณลักษณะของผลงาน ระบุเทคนิคที่ใช้พร้อมทั้ง
กาหนดตารางการปฏิบัติงาน
3.3 พัฒนาโครงงานขั้นต้น - การลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น
ตามที่ได้ออกแบบไว้โดยนาผลจากการปฏิบัติ ไปปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานที่
ออกแบบไว้ในให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
3.4 จัดทาและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ - เขียนข้อเสนอโครงงาน
นาเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่ออาจารย์ที่ปรึกษาจะได้แนะนาในส่วนที่ยัง
บกพร่องอยู่อีกครั้ง ซึ่งจะทาให้การวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไป
อย่างราบรื่น

6. 4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
4.1 การเตรียมการ
เตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ จัดเตรียมสถานที่สาหรับ
และควรเตรียมสมุดบันทึก หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร
ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่ อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา
4.2.1 ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง และปรับเปลี่ยนตามความ
เหมาะสม
4.2.2 จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญให้แล้วเสร็จก่อน จึง
ค่อยทาส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม
4.2.3 พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่าง
เป็นระบบ
4.2.4 คานึงถึงความประหยัด ความปลอดภัย และระยะเวลาในการทางาน

7. 4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข
เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่
ระบุไว้ในเป้าหมาย และทาด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
จัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้
เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณา
ข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงาน
ที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่น
มาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้เรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญ
หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาหรือใช้
ประโยชน์ต่อไปได้

8. 5. การจัดทารายงาน
ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในการพัฒนา และคู่มือการใช้งานรายงาน เพื่อให้
ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและ
ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานนั้น ผู้เรียนควรใช้ภาษาที่
อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ
ดังต่อไปนี้
1. ส่วนนา 1.1 ปกนอก
1.2 ใบรองปก
1.3 ปกใน
1.4 บทคัดย่อ
1.5 กิตติกรรมประกาศ
1.6 สารบัญ
1.7 คาอธิบายสัญลักษณ์และคาย่อ (ถ้ามี)

9. 2. ส่วนเนื้อเรื่อง 2.1 บทที่ 1 บทนา
2.2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.3 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดาเนินการ
2.4 บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน
2.5 บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน/อภิปรายผลการดาเนินงาน
3. ส่วนอ้างอิง 3.1 รายการอ้างอิงหรือบรรณานุกรม
3.2 ภาคผนวก
3.3 คู่มือการใช้งาน (ถ้ามี คู่มือการใช้งาน สามารถแยกออกจาก
รายงานฉบับสมบูรณ์ หรือใส่ไว้เป็นภาคผนวกของรายงานฉบับสมบูรณ์ก็ได้)
หากโครงงานที่ผู้เรียนจัดทาเป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้ผู้เรียนจัดทาคู่มือ
อธิบายวิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด

10. 6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทางาน และ
เป็นวิธีที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทาได้ใน
หลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงาน การรายงานด้วยคาพูด การจัด
นิทรรศการโดยโปสเตอร์ และอธิบายด้วยคาพูด โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัด
แสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1) ชื่อโครงงาน
2) ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
3) ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4) คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
5) วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6) การสาธิตผลงาน
7) ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน

11. ถ้าเป็นการรายงานด้วยคาพูดต่อที่ประชุม ควรมีการเตรียมการในประเด็นต่อไปนี้
1) จัดลาดับความคิดในการนาเสนออย่างเป็นระบบและนาเสนออย่างตรงไปตรงมาด้วย
ภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย
2) ทาความเข้าใจกับเรื่องที่จะอธิบายให้ดี รวมถึงเตรียมข้อมูลที่อาจต้องใช้ในการตอบ
คาถาม
3) หลีกเลี่ยงการนาเสนอด้วยวิธีอ่านรายงาน
4) ควรมองไปยังผู้ฟังขณะรายงาน
5) ตอบคาถามอย่างตรงไปตรงมา
6) รายงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กาหนด
7) ควรใช้โปรแกรมนาเสนอประกอบการรายงาน
8) ความเหมาะสมของเนื้อหาต่อผู้ฟัง
9) ถ้าเป็นโครงงานพัฒนาผลงาน ผลงานนั้นควรจะอยู่ในสภาพที่ทางาน ได้เป็นอย่างดี

12. อ้างอิง
https://sites.google.com/a/moeipit.ac.th/wirapons/khan-txn-kar-tha-khorng-ngan-khxmphiwtexr
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1074803&chapter=20
https://pixabay.com/th/สัตว์-การ์ตูน-การ์ตูนสัตว์-หญ้า-1292917/
https://pixabay.com/th/หลอดไฟ-กราฟิกทางธุรกิจ-การ์ตูน-แสง-2029707/
https://writer.dek-d.com/story/writer/viewlongc.php?id=51074803&chapter