More Related Content
Similar to โครงงานหนึ่งเสียงเปิดโลกกว้าง
Similar to โครงงานหนึ่งเสียงเปิดโลกกว้าง (20)
โครงงานหนึ่งเสียงเปิดโลกกว้าง
- 1. โครงการ หนึ่งเสียงเปิดโลกกว้าง
จัดทาโดย
1. นางสาวณัฐณิชา จันทร์สนอง เลขที่ 14
2. นางสาวธนพร หนูเกตุ เลขที่ 15
3. นางสาวเนตรนรินทร์ สืบกลัด เลขที่ 16
4. นางสาวกัญญกมนต์ วณิชพัฒนกุล เลขที่ 17
5. นางสาวพิมพ์นิภา วิศิษฏ์รัฐพงศ์ เลขที่ 23
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2
เสนอ
ครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา
วิชา IS3 (130903)
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
- 3. ข
คานา
รายงานเล่มนี้จัดทาขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา IS3 (130903) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมี
จุดประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งรายงานเล่มนี้มี
เนื้อหาเกี่ยวกับการอ่านหนังสือให้คนพิการทางสายตาโดยอ่านผ่าน App Read for the Blind โดยส่งไปยัง
มูลนิธิคนตาบอดฯ โดยทุกคนสามารถทาได้แค่มีแอพพลิเคชั่นนี้
ทั้งนี้ ผู้จัดทาหวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน นักเรียน นักศึกษาที่กาลังจะใช้เวลาว่าง
ให้เป็นประโยชน์ หากมีข้อแนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทาขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้
ด้วย
ผู้จัดทา
- 5. ง
สารบัญ
เนื้อหา หน้า
เกี่ยวกับโครงการ ก
คานา ข
กิตติกรรมประกาศ ค
บทที่ 1 โครงการ 1
หลักการและเหตุผล 1
การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1
เงื่อนไข 2
วัตถุประสงค์ของโครงการ 2
สถานที่ดาเนินการ 2
วิธีการดาเนินงาน 2
ระยะเวลาดาเนินงาน 3
รายละเอียดงบประมาณของโครงการ 3
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 4
ความหมายของคนพิการ 4
คนพิการกับการมีงานทา 5
การสนับสนุนการจ้างงานคนพิการในสถานประกอบการ 6
การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในด้านการจ้างงาน 6
บทที่ 3วิธีการดาเนินงาน 11
- 7. ฉ
สารบัญภาพ
รูปภาพที่ หน้า
รูปภาพที่ 3.1 โทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 11
รูปภาพที่ 3.2 app Read for the Blind 12
รูปภาพที่ 3.3 ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น 14
รูปภาพที่ 3.4 เลือกประเภทหนังสือ 14
รูปภาพที่ 3.5 สร้างหนังสือเล่มใหม่ 15
รูปภาพที่ 3.6 sign in กับ facebook 15
รูปภาพที่ 3.7 เลือกปก ข้อมูลหนังสือ 16
รูปภาพที่ 3.8 กดปุ่มเริ่มบันทึกเสียง 16
รูปภาพที่ 3.9 กด ok เมื่ออ่านหนังสือเสร็จแล้วระบบจะบันทีกข้อมูล 17
- 9. 1
บทที่ 1
หนึ่งเสียงเปิดโลกกว้าง
1.หลักการและเหตุผล
จากข้อมูลสถิติจาก มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย มีคนไทยตาบอดกว่า 7 แสนคน และจานวน
ซีดีหนังสือเสียง ที่เปิดให้คนตาบอดฟังตอนนี้มีเพียง 7,000 แผ่น พวกเราสามารถช่วยคนตาบอดได้โดยอ่าน
หนังสือให้คนตาบอดฟัง ผ่านการสร้างหนังสือเสียง
เราโชคดีที่เกิดมาอยู่ในโลก ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ได้สัมผัส ได้เรียนรู้ และมีความสุขกับทุกๆสิ่งใน
โลกที่เรามองเห็น แต่สาหรับคนอีกกลุ่ม ที่ไม่มีโอกาสเหมือนเรา อย่างคนตาบอดที่มองเห็นแค่สีดาสนิท
อยู่ในโลกมืด เค้าต้องเรียนรู้ผ่านทางเสียง กลิ่น และการสัมผัส ต่างๆ เราในฐานะคนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ได้
เห็นสิ่งต่างๆมากกว่า จะมีส่วนช่วยให้ความรู้ สร้างความบันเทิงให้กับคนตาบอดได้ โดยช่วยกันอ่านหนังสือ
ให้คนตาบอดฟัง
กลุ่มข้าพเจ้าจึงเข้าร่วมโครงการ โดยผ่าน App Read for the Blind อ่านหนังสือให้คนตาบอด ซึ่งใน
อดีตกว่าจะได้หนังสือเสียง ต้องเดินทางไป มูลนิธิคนตาบอดฯ และข้อจากัดเกี่ยวกับห้องบันทึกเสียง และ
การใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ในการสร้างหนังสือเสียงด้วย
2. การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. ความพอประมาณ ไม่ต้องเสียงค่าใช้จ่ายในการเดินทางและซื้ออุปกรณ์ เพราะสามารถนาสื่อเทคโนโลยี
มาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่สังคม
2. ความมีเหตุมีผล ทาให้เรามีจิตสาธารณะ รู้จักการเอื้อเฟื้องเผื่อแผ่การเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว มีการวางแผนเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่ตนเอง และได้แบ่งปันความรู้
ให้แก่น้องๆที่ไม่มีโอกาส
- 10. 2
เงื่อนไข
1. เงื่อนไขความรู้ พัฒนาการอ่านของตัวเองและสามารถช่วยให้คนอื่นได้รับสิ่งใหม่ๆ
2. เงื่อนไขคุณธรรม ปลูกจิตใต้สานึกในการรักการอ่านและการดูแลเอาใจใส่ผู้อื่น เห็นถึงความเป็นเพื่อน
มนุษย์
3. วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. เพื่อช่วยทาหนังสือเสียงให้แก่คนตาบอด จานวน 5 เล่ม
2. เพื่อเปิดโอกาสให้คนตาบอดได้รับสิ่งใหม่ๆ
4. สถานที่ดาเนินการ
ที่บ้านและโรงเรียน
5. วิธีการดาเนินงาน
1. ติดตั้ง App Read for Blind โดย App ตัวนี้จะรองรับระบบ Android Version 2.2 เป็นต้นไป
2. เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครั้งแรกที่เราเข้า App ตัวนี้ เราก็จะพบกับหน้าจะมีการแนะนาการใช้งาน ซึ่ง
เพื่อนๆ จะต้องทาการ Login เข้าระบบของ Read for Blind ด้วยใช้ Facebook Login ก่อนจึงจะสามารถเข้า
ไปใช้งานได้
3. เลือกหนังสือที่เราต้องการอ่านให้คนตาบอดจานวน 1 เล่มแล้วบันทึกเสียง [นอกจากการอัดเสียงหนังสือ
ต่อจากคนอื่นแล้ว เราก็สามารถเพิ่มหนังสือ (หรือบทความที่น่าสนใจ) เล่มอื่นๆ ที่เราต้องการได้เช่นกัน ด้วย
การกดที่เครื่องหมาย + ในส่วนของเมนู โดยตัว App จะให้เรากรอกข้อมูลเบื้องต้นของหนังสือเล่มนั้น
พร้อมกับให้เราใช้กล้องบนสมาร์ทโฟนหรือแท๊บเล็ต ทาการถ่ายภาพ “หน้าปก” หนังสือเล่มนั้นเข้ามาเก็บ
เอาไว้ในระบบด้วย]
4. กดส่งไปทางแอพ โดยทางแอพจะกระจายข้อมูลของเราให้แก่คนตาบอดได้ฟัง
หมายเหตุ : การอ่านหนังสือใน App นี้ จาเป็นต้องอ่านให้จบเป็นบทๆ หรือเป็นเล่ม จึงสามารถอ่านเล่มอื่น
ได้
- 12. 4
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในประเทศไทยห้องสมุดคนตาบอดแห่งชาติเป็นห้องสมุดที่มีหนังสือเสียงให้บริการแก่ผู้ใช้
ห้องสมุด จานวนมากทั้งหนังสือเสียงที่เป็นเทปคาสเซ็ทและที่อยู่ในรูปของแผ่นซีดี ส่วนในต่างประเทศ
ห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันและห้องสมุด CNIB ในแคนาดาให้บริการหนังสือเสียงฟรีแก่ผู้ที่บกพร่องด้านการ
มองเห็น
1. ความหมายของคนพิการ
Hammerman และ Maikowski (1981) ได้สรุปความหมายของ “ความพิการ” ไว้ดังนี้ ว่าหมายถึง ความ
เสียเปรียบ (Handicap), ความพิการ (Disability), และความบกพร่อง (Impairment)สามารถอธิบายได้ว่า
บุคคลหนึ่งอาจมีความบกพร่อง โดยไม่พิการและพิการโดยไม่เกิดการเสียเปรียบก็ได้หากได้รับการ
สนับสนุนจากครอบครัวหรือมีสิ่งอานวยความสะดวกทางกายภาพ สิ่งเหล่านี้สามารถเยียวยาความบกพร่อง
ที่มีอยู่ได้และจะไม่ส่งผลทาให้บุคคลนั้นเกิดความเสียเปรียบในการดารงชีวิตเช่น คนตาบอดทางานที่ใช้
สายตาไม่ได้แต่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่มีเสียงประกอบได้สามารถเล่นดนตรีเป็นนักกีฬาได้เป็นต้น
องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความหมายความพิการว่าคนพิการ หมายถึง เป็นความเสียเปรียบของ
บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่เกิดจากความชารุด หรือความสามารถบกพร่อง เป็นผลทาให้บุคคลนั้นไม่สามารถ
แสดงบทบาท หรือกระทาอะไรให้เหมาะสมสอดคล้องตามวัย สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมได้
ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ พุทธศักราช 2541 ให้ความหมาย คนพิการหรือทุพพลภาพ เป็นทรัพยากร
มนุษย์ที่มีคุณค่าสมควรที่จะได้รับสิทธิและโอกาสในการพัฒนาให้เต็มศักยภาพ ได้รับการปกป้องคุ้มครอง
จากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ได้เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองด้วยความ
เสมอภาค ได้รับข้อมูลข่าวสารสื่อต่างๆ ที่เหมาะสมกับความพิการ และได้รับการยอมรับในศักดิ์ศรีแห่ง
ความเป็นมนุษย์ องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้ให้คาจากัดความจากมุมมองด้านฟื้นฟูสมรรถภาพ
ด้านอาชีพและการจ้างงานคนพิการ ว่าคนพิการ (Disabled Persons) คือ “บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีโอกาสด้าน
ความมั่นคงในชีวิต สถานภาพการจ้างงาน หรือความก้าวหน้าในอาชีพอย่างเหมาะสมถูกจากัดหรือลดอย่าง
เห็นได้ชัด อันเป็นผลจากความบกพร่องร่างกายหรือทางจิตใจ
- 13. 5
จากการศึกษาข้างต้น จึงสรุปได้ว่า “คนพิการ” หมายถึง ความเสียเปรียบ ความพิการ และความ
บกพร่อง ซึ่งมีผลทาให้บุคคลที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ทั้งหมดหรือบางส่วน เนื่องจากมีความบกพร่อง
ทางการเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์พฤติกรรมสติปัญญาการเรียนรู้และพิการ
ทางออทิสติก หรือความบกพร่องอื่นใดไม่ว่าจะเป็นมาแต่กาเนิดหรือไม่ก็ตามและมีความจาเป็นพิเศษที่
จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านหนึ่งด้านใดเพื่อให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจาวันหรือเข้าไปมี
ส่วนร่วมทางสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไปโดยได้รับสิทธิโอกาสในการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ และได้รับการ
ยอมรับในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
2. คนพิการกับการมีงานทา
ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบันคนพิการตระหนักและให้ความสาคัญกับ “งาน” ซึ่งเป็น
สิ่งจาเป็นเพื่อการดารงชีวิตอยู่รอดได้ในสังคม ดังนั้นคนพิการเองต้องสร้างหลักประกันให้กับตนเองและ
ครอบครัว โดยการหางานที่มั่นคง เพื่อให้มีรายได้ประจาเลี้ยงครอบครัว ส่งผลให้คนพิการมีความตระหนัใน
คุณค่าของตนเอง เชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพที่ตนมีอยู่ว่าจะสามารถดารงชีวิตอยู่ได้ในสังคมได้จึง
กล่าวได้ว่า “งาน” มีคุณค่าและความสาคัญต่อคนพิการเป็นอย่างมากและยังกล่าวถึงความสาคัญของงากับคน
พิการ (กระทรวงศึกษาธิการ, สานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา, 2543) ดังนี้
2.1) คนพิการและครอบครัวต้องการมีรายได้จากการทางาน คนพิการกับครอบครัวส่วนมากก็เหมือนกับ
ครอบครัวอื่นๆ ที่มีชีวิตอยู่ไม่ได้หากไม่มีรายได้ประจา
2.2) คุณค่าของคนในสังคมอยู่ที่การทางานที่ก่อให้เกิดประโยชน์การทางานนับเป็นคุณค่าอันสูงส่งของคน
ทุกชาติทุกภาษา ทุกวัฒนธรรม ดังนั้น เมื่อคนพิการไม่สามารถทางานได้เขาจะถูกตัดสินว่าเป็นผู้ล้มเหลวใน
ชีวิตที่ไม่อาจเท่าเทียมกับบุคคลอื่นในสังคม
2.3) คนพิการมีความต้องการที่มีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตอย่างปกติในสังคมสถานที่ทางานนับเป็นแหล่งสร้าง
ความสัมพันธ์ทางสังคมและพัฒนาทักษะทางสังคม ถ้าคนพิการขาดโอกาสในการมีส่วนร่วมใน
กระบวนการดังกล่าว ก็เท่ากับถูกขัดขวางอย่างรุนแรงในการอยู่ร่วมกับสังคม
2.4) คุณค่าของการมีงานทาอยู่บนพื้นฐานความจริงที่ว่า งานทาให้ชีวิตอยู่ในกฎเกณฑ์และเป็นรูปร่าง
เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป การมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ โดยปราศจากสิ่งท้าทายจากการทางานเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย
และหงอยเหงา
- 14. 6
3.การสนับสนุนการจ้างงานคนพิการในสถานประกอบการ
หากพิจารณาถึงลักษณะของงานที่คนพิการสามารถทาได้ในสถานประกอบการ ที่กล่าวถึงการศึกษา
ของบาร์บาร่า เมอร์เรย์ (Barbara Marley) ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพประจา
องค์การแรงงานระหว่างประเทศชาวอเมริกัน ได้ให้แนวทางในการจ้างงานคนพิการใน 4 ลักษณะได้แก่การ
จ้างงานคนพิการในโรงงานอารักษ์การจ้างงานคนพิการในระบบสนับสนุน การจ้างงานในระบบเปิดและ
การประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้มี 2 ลักษณะ (สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์, 2544: 37-38)ได้แก่
3.1) การจ้างงานคนพิการในระบบสนับสนุน การจ้างงานในลักษณะนี้เป็นการทางานที่คนพิการจะมีผู้สอน
งาน (Job Coach) ช่วยดูแลหรืออาจจะเป็นในรูปของการทดลองงาน ฝึกงาน (On the JobTraining) เหมาะ
สาหรับคนพิการที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา หรือ การเรียนรู้รวมทั้งคนพิการที่ไม่มีพื้นฐานความรู้หรือ
ประสบการณ์พี่เลี้ยงจะเป็นผู้ประสานงานระหว่างสถานประกอบการและคนพิการเพื่อให้การทางานดาเนิน
ไปตามวัตถุประสงค์ของนายจ้าง งานในลักษณะนี้อาจทาในรูปของคณะทางานซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของพี่
เลี้ยง ซึ่งจะนาคนพิการไปทางานต่างๆ ที่สามารถดูแลและชี้แนะได้อย่างใกล้ชิดข้อดีของการจ้างงานใน
ลักษณะนี้คือ คนพิการจะเกิดการเรียนรู้และพัฒนางานและสามารถที่จะเข้าสู่การจ้างงานในระบบเปิดได้
เนื่องจากสถานการณ์และสภาพแวดล้อมในการทางานเหมือนการทางานในระบบเปิดทุกประการ
3.2) การจ้างงานระบบเปิด จากการศึกษาของวิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์และคณะ (๒๕๔๖) กล่าวว่าการจ้างงาน
ระบบเปิดมีลักษณะของการคัดเลือกคนพิการที่มีความสามารถ ซึ่งจะได้รับการจ้างงานจากสถาน
ประกอบการทั่วไป แต่ปัญหาสาคัญในการทางานของความพิการคือ เจตคติของนายจ้างที่มีต่อคนพิการ ซึ่ง
ไม่ยอมรับความสามารถของคนพิการ จุดมุ่งหมายของการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการก็เพื่อให้คนพิการ
ดารงชีวิตอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีศักดิ์ศรีมีบทบาทในสังคมได้เท่าเทียมบุคคลทั่วไปและ
สามารถประกอบอาชีพมีรายได้ที่มั่นคง ฉะนั้นจึงต้องรณรงค์เพื่อให้สังคมเปลี่ยนเจตคติที่มีต่อคนพิการให้
เป็นไปในทางบวก และยอมรับความสามารถของคนพิการ ถือว่าคนพิการเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคมมี
ส่วนร่วมและบทบาทเช่นบุคคลทั่วไปอย่างมีศักดิ์ศรีและประสิทธิภาพ
4. การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในด้านการจ้างงาน
จากการที่ประเทศไทย เห็นความสาคัญของคุณภาพชีวิตคนพิการ จึงจัดตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และรับผิดชอบในการดูแลคุณภาพชีวิตคนพิการมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๓ อีกทั้งพระราชบัญญัติการฟื้นฟู
สมรรถภาพคนพิการ พ.ศ.2534 ซึ่งต่อมาจึงมีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการพ.ศ.
- 15. 7
๒๕๕๐ เพราะพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. ๒๕๓๔ ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน
สาระสาคัญและรายละเอียดเกี่ยวกับการสงเคราะห์และการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการไม่เหมาะสมกับสภาพ
สังคมปัจจุบัน สมควรกาหนดแนวทางและปรับปรุงวิธีการในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และกาหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองคนพิการเพื่อมิ
ให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพราะเหตุสภาพทางกายหรือสุขภาพ รวมทั้งให้คนพิการมีสิทธิได้รับ
สิ่งอานวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ ตลอดจนให้รัฐต้องสงเคราะห์คน
พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้ (พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ,
๒๕๕๐: ๗๗)และปัจจุบันเป็นพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๕๖ ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมจากกฎหมายที่ว่าด้วยหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องของการส่งเสริมและ
พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐
เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ดังนั้นในเรื่องของการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
จึงมีวิวัฒนาการตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๓ – ปัจจุบัน ซึ่งมีรายละเอียดตามตารางที่ ๔ ดังนี้
แสดงวิวัฒนาการของการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตั้งแต่ พ.ศ. 2483- 2250 พ.ศ. 2483
- รัฐจัดตั้งกรมประชาสงเคราะห์สังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่ตั้งกรมฯอยู่ในพี้นที่วังสราญรมย์เขตพระนคร
- กรมประชาสงเคราะห์ได้ตั้งหน่วยงานรับผิดชอบดูแลเรื่องคนพิการ ในระดับ กลุ่มงาน เป็นงานคนพิการ
ในฝ่ายสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง กองสวัสดิการสงเคราะห์
- ในระยะเริ่มแรก เน้นการให้บริการ ด้านสวัสดิการสงเคราะห์ให้แก่คนพิการพ.ศ.2493 กรมกรม
ประชาสงเคราะห์ย้ายมาตั้งที่วังสะพานขาว และคงดาเนินงานสวัสดิการสงเคราะห์ให้แก่คนพิการโดย
ยกระดับงานคนพิการเป็นฝ่ายสงเคราะห์คนพิการในกองสวัสดิการสงเคราะห์พ.ศ.2524 กรม
ประชาสงเคราะห์และองค์กรเอกชนด้านคนพิการเล็งเห็นความสาคัญ ในเรื่องสิทธิและโอกาสของการ
พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จึงได้ร่วมกันผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับคนพิการพ.ศ.2534 - รัฐบาลได้
ประกาศใช้พระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพ คนพิการ พ.ศ.2534
- พ.ร.บ. ดังกล่าวให้จัดตั้ง “สานักงานคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ” (สฟก.) ขึ้นเป็นหน่วยงาน
ระดับกอง สังกัด กรมประชาสงเคราะห์กระทรวงมหาดไทย
- 16. 8
- กรมประชาสงเคราะห์ได้โอนงานคนพิการในฝ่ายสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งกองสวัสดิการสังคมมารวมที่
สฟก. โดย สฟก. ทาหน้าที่
-เป็นสานักงานเลขานุการการของคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
-เป็นสานักทะเบียนกลางสาหรับคนพิการ
-ดาเนินการทั้งงานด้านวิชาการการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
-สนับสนับสนุนหน่วยงานสถาบันที่ให้บริการด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
พ.ศ. 2536 มีการปรบโครงสร้างการบริหารราชการเมื่อเดือนกันยายน โดยโอนสานักงานคณะกรรมการ
ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการกรมประชาสงเคราะห์จากสังกัดกระทรวงมหาดไทยไปสังกัดกระทรวงแรงงาน
และสวัสดิการสังคมพ.ศ. 2545 - มีการปฏิรูป ระบบราชการ โดยปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงทบวงกรมขึ้น
ใหม่
- “สานักคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ”(สฟก) ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “สานักส่งเสริมและพิทักษ์คน
พิการ (สทก.)” สังกัดสานักงานส่งเสริมสวัสดิการและพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ
(สท.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
- สทก. ทาหน้าที่เช่นเดียวกับ สฟก. โดยเน้นงานวิชาการและการจดทาองค์ความรู้ด้านคนพิการ สาหรับงาน
การบริการ และการให้สวัสดิการสงเคราะห์แก่คนพิการ ดาเนินการโดย สานักบริการสวัสดิการสังคม กรม
พัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- ย้าย สทก. มาตั้งในบริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีเขตราชเทวีพ.ศ 2550 – พระราชบัญญัติ
ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.
2550 มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2550
- จัดตั้ง “สานักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ”ขึ้น เป็นส่วนราชการในกระทรวง
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- มีเลขาธิการ ซึ่งมีฐานะเทียบเท่าอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และบุคลากรของสานักงาน
- 17. 9
- สาระสาคัญ ของ พระราชบัญญัติคือ คนพิการได้รับสิทธิตามกฎหมายมากขึ้น อย่างทั่วถึง และเท่าเทียมมี
การลดหย่อนภาษีให้ผู้ดูแลคนพิการ และให้กระทรวงต่างๆ เข้ามาดูแลคนพิการมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ของ
การยกฐานะสานักส่งเสริมและพิทักษ์คนพิการเป็นสานักงานสงเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
แห่งชาติ เป็นส่วนราชการเทียบเท่ากรม ทาให้สานักงานสงเสรริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
ดาเนินงานด้านคนพิการทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น
- บทบาทหน้าที่ของสานักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติคือ
- เสนอนโยบาย แผนหลัก และโครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการต่อ
คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องรับไปดาเนินการ
ตามอานาจหน้าที่ต่อไป
- ประสานงานและร่วมมือในระดับนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนงานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนพิการกับหน่วยงานของรัฐบาลและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ศึกษา วิเคราะห์พัฒนานวัตกรรม สารวจ รวบรวม เก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับคนพิการและสถานการณ์คน
พิการเพื่อก่อประโยชน์ต่อการส่งเสริมและคุณภาพชีวิตคนพิการ
- สนับสนุนให้มีการจัดตั้งการดาเนินงานการสร้างความเข้มแข็งขององค์กรด้านคนพิการเพื่อให้สามารถทา
หน้าที่พิทักษ์สิทธิคนพิการตลอดจนสนับสนุน และประสานงานให้หน่วยงานของรัฐจดงบประมาณ ให้แก่
องค์การด้านคนพิการ เพื่อดาเนินงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
- ศึกษารูปแบบสิทธิและสวัสดิการอื่นๆเพื่อการส่งเสริมศักยภาพ และการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิคนพิการ
ตลอดจนสนับสนุนการขับเคลื่อนทางสังคมในการบูรณาการให้คนพิการเข้าสู่สังคมอย่างเต็มที่และมี
ประสิทธิภาพ
- เสนอ ปรับปรุง พัฒนากฎหมายด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้ทันสมัยรวมทั้งให้คาปรึกษาและ
ดาเนินงานเกี่ยวกับความรับผิดทางแพ่ง อาญา และงานคดีปกครอง รวมถึงงานคดีอื่นที่อยู่ในอานาจหน้าที่
ของสานักงาน
- บริหารจัดการกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
- เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ
- 19. 11
บทที่ 3
วิธีการดาเนินงาน
กลุ่มข้าพเจ้าได้ร่วมกันจัดทาโครงการเพื่อสังคม "Read for the Blind" นี้ขึ้นมา เพื่อชวนเพื่อนๆ ทุก
คนที่มีจิตอาสา สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างหนังสือเสียงผ่าน App ตัวนี้ ได้แบบง่ายๆ ไม่ต่างจาก
การไปเข้าห้องอัดหนังสือเสียงที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย หรือตามร้านหนังสือใหญ่ๆ ที่มีบริการ
เพื่อผู้พิการ ส่วนวิธีการใช้งาน App Read for the Blind ดังนี้
3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา
3.1.1 โทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ tablet i-pod
3.1.2 app Read for the Blind
รูปภาพที่ 3.1 โทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
- 20. 12
รูปที่ 3.2 app Read for the Blind
3.2 ขั้นตอนการดาเนินงาน
3.2.1 คิดหัวข้อโครงงานและนาไปเสนอครูที่ปรึกษา
3.2.2 เริ่มต้นการใช้งาน
3.2.2.1 ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Read for the Blind บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ที่ Google
Play Store หรือ App Store
3.2.2.2 เปิดแอพพลิเคชันและอ่านข้อมูลแนะนาการใช้งานเบื้องต้น จากนั้นคลิ๊ก agree ในหน้า
Disclaimer
3.2.2.3เมื่อต้องการสร้างหนังสือเสียงให้ทาการ Login เข้า Facebook เฉพาะครั้งแรกของการใช้
งานแอพพลิเคชันเท่านั้น
3.2.3 ขั้นตอนการอัดเสียง
3.2.3.1 กดอ่านเพิ่มบทใหม่
3.2.3.2 เริ่มการบันทึกเสียง เมื่อบันทึกเสียงเสร็จสิ้นตามต้องการแล้วให้กดเครื่องหมายถูก
3.2.3.3 ใส่ข้อมูลรายละเอียดข้อมูลของบทที่อ่านและกดปุ่มบันทึกเสียงบนหนังสือ เพื่ออัพโหลด
เสียงขึ้นระบบ
- 21. 13
3.2.3.4 ในระหว่างการอัดเสียง ถ้าต้องการหยุดให้กดปุ่ม หยุด และกด play เมื่อต้องการฟังซ้า
สามารถเลื่อนแถบ สีเขียว เพื่อไปยังจุดที่ต้องการอัดทับและกดอัดเสียงอีกครั้ง เพื่ออัดทับในจุดที่อ่านผิด
3.2.3.5 ในกรณีที่ออกจากแอพพลิเคชั่น ไฟล์เสียงล่าสุดที่เคยอัดไว้ จะถูกเซฟไว้ใน
แอพพลิเคชั่น สามารถกลับมาอ่านหนังสือ หรือบทความต่อจากเดิมได้ แต่ถ้าต้องการอ่านเล่มใหม่ ต้องอ่าน
หนังสือหรือบทความเดิม ให้เสร็จก่อน
3.2.4 การสร้างบทความใหม่
3.2.4.1 กดเลือกบทความ จากเมนูเลือกประเภทหนังสือ
3.2.4.2 เลือกประเภทหรือหัวข้อของบทความที่ต้องการสร้างใหม่ มีทั้งหมด 12 หัวข้อ
3.2.4.3 กดอ่านเพิ่มบทใหม่ เพื่อเริ่มอัดเสียง กดเครื่องหมายถูกเมื่ออัดเสร็จสิ้น
3.2.4.4 ใส่ข้อมูลของบทความที่อ่าน ชื่อบทความ แหล่งที่มา วันเผยแพร่บทความ กดปุ่มบันทึก
ข้อมูลเสียงบนหนังสือเพื่ออัพโหลดขึ้นระบบ
3.2.5 จัดทาโครงร่างเพื่อนาเสนอครูที่ปรึกษาผ่านเว็บบล็อกของตัวเอง โดยนาไฟล์ข้อมูลไปฝาก
ไว้ที่เว็บไซต์ชื่อhttp://www.slideshare.net/
3.2.6 นาเสนอความก้าวหน้าของงานเป็นระยะๆ
3.2.7 จัดทาเอกสารรายงานโครงงาน โดยนาเสนอในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์และนาฝากข้อมูล
ดังกล่าวไว้ที่เว็บ http://www.slideshare.net/ แล้วนามาเชื่อมโยงผ่านเว็บบล็อกที่สร้างขึ้น
3.2.8 ประเมินผลงาน โดยการนาเสนอผ่านเว็บบล็อก
3.2.9 นาเสนอผ่านเว็บบล็อกเพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาต่อไป
- 26. 18
บทที่ 4
ผลการดาเนินงาน
จากการอ่านหนังสือเสียงผ่าน app Read for the Blind สามารถทาได้ง่ายประชาชนทุกคนสามารถ
เข้ามาร่วมอ่านหนังสือเสียงได้แค่มีแอพ เนื่องจากการอ่านหนังสือเสียงสามารถช่วยผู้พิการทางสายตาโดยที่
เราไม่ต้องเดินทางไปยังมูลนิธิคนตาบอดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถอ่านหนังสือเสียงได้เพียงแค่อัดเสียง
แล้วส่งไปในแอพพลิเคชั่นหนังสือเสียงก็สามารถส่งไปผู้พิการทางสายตาดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะ
เข้าร่วมกิจกรรมอ่านหนังสือเสียงให้คนตาบอดจานวน 5 เล่มเผื่อเผยแพร่ไปยังมูลนิธิคนตาบอด
รูปภาพที่ 4.1 ผลงานการอ่านหนังสือเสียงเล่มที่ 1