SlideShare a Scribd company logo
1 of 105
Download to read offline
การตื่นรู้
อนาคตของ
มนุษยชาติ
ที่กําลังผุดบังเกิด
ศาสตราจารยนายแพทยประเวศ วะสี
การตื่นรู้
อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
AWAKENING
ISBN 978-616-7680-07-1
ผูŒเขียน
ศาสตราจารยนายแพทยประเวศ วะสี
พิมพครั้งที่ 1 ธันวาคม 2559
จํานวนพิมพ 1,000 เล‹ม
สนับสนุนการจัดพิมพโดย
มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ (มสส.)
1168 ซอยพหลโยธิน 22 ถนนพหลโยธิน
แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท 0 2511 5855
โทรสาร 0 2939 2122
www.thaissf.org
www.facebook.com/thaissf.org
พิมพที่
หŒางหุŒนส‹วนจํากัด ภาพพิมพ
ดําเนินการผลิต
เปนไท พับลิชชิ่ง
โทรศัพท 0 2736 9918
โทรสาร 0 2736 8891
e-mail: waymagazine@yahoo.com
website: www.waymagazine.org
facebook: www.facebook.com/waymagazine
twitter: www.twitter.com/way_magazine
การตื่นรูŒ ศักยภาพของความเปšนมนุษย >>> ๙
ตัวอย‹างของการตื่นรูŒ >>> ๑๕
สมองของมนุษย
ธรรมชาติที่รอการตื่นรูŒมา ๒๐๐,๐๐๐ ป‚ >>> ๓๓
วิกฤตอารยธรรมและทางออก >>> ๔๑
พหุบท: เสŒนทางอันหลากหลายสู‹การตื่นรูŒ >>> ๕๑
สารบัญ
การเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ (Interactive Learning
Through Action) กับการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน
(Transformation) >>> ๖๕
การสรŒางสรรคสังคมขึ้นใหม‹
บุคคลวิวัฒน – กลุ‹มวิวัฒน – สังคมวิวัฒน >>> ๗๗
การศึกษากับการตื่นรูŒควรอยู‹ในกันและกัน >>> ๘๗
องคกรเจริญสติ – การเจริญสติของคนทั้งมวล อนาคต
ของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด >>> ๙๕
๑.
การตื่นรู้
ศักยภาพของความ
เป็นมนุษย์
การตื่นรูŒเปšนธรรมชาติอีกอย‹างหนึ่งของมนุษย ที่เกิด
จากการเขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวกัน ความจริงตาม
ธรรมชาติอันกวŒางใหญ‹ไพศาลไม‹มีที่สิ้นสุด หลุดเปšน
อิสระจากการติดอยู‹ในความบีบคั้นความคับแคบ เกิด
ความสว‹างไสวและป‚ติสุขอันลํ้าลึกอย‹างไม‹เคยมีมาก‹อน
มีมิตรภาพอันไพศาลต‹อเพื่อนมนุษยและสรรพสิ่ง อัน
เปšนไปเพื่อการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติ
9AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
มนุษยอยู‹ในธรรมชาติของการปรุงแต‹ง ซึ่งแยก
เปšนส‹วนๆ เปšนเขาเปšนเรา เปšนสิ่งที่ไม‹มีชีวิต สิ่งมีชีวิต
นานัปการโดยเอาตัวเองเปšนศูนยกลางเปšนสมมติสัจจะ
ไม‹ใช‹ความจริงตามธรรมชาติ เพราะความจริงตาม
ธรรมชาติไม‹มีตัวตนของใครเปšนศูนยกลาง การเอา
ตัวเองเปšนศูนยกลางจึงเปšนมายาคติ ตัวเองนั้นคับแคบ
และขัดแยŒงกับความเปšนจริงตามธรรมชาติ มนุษยจึง
ตกอยู‹ในความบีบคั้นไม‹เปšนอิสระ ขัดแยŒงในตนเอง
และกับคนอื่นและสิ่งอื่น แมŒมนุษยจะสามารถศึกษา
กฎเกณฑทางฟสิกสและนํามาประดิษฐเทคโนโลยีและ
โลกทางวัตถุต‹างๆแต‹สภาพความขัดแยŒงในตนเองและ
กับคนอื่นและสิ่งอื่นก็ยังดํารงอยู‹ หรือกลับมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งสรŒางสภาวะวิกฤตทั้งวิกฤตชีวิตวิกฤตสังคม
และวิกฤตสิ่งแวดลŒอมแก‹โลกทั้งใบ มนุษยชาติคง
ไม‹สามารถจะหลุดออกจากสภาวะวิกฤตในป˜จจุบัน
ดŒวยการอยู‹ในสภาพของการปรุงแต‹งแยกส‹วนในแบบเดิม
แต‹มนุษยไม‹ไดŒมีธรรมชาติการปรุงแต‹งแยกส‹วน
แต‹เพียงอย‹างเดียว มนุษยยังมีธรรมชาติที่ซ‹อนเรŒนอยู‹
อีกอย‹างหนึ่ง ดังที่กล‹าวขŒางตŒน คือธรรมชาติของการ
10 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
เขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวกับความจริงตามธรรมชาติ
ซึ่งก‹อใหŒเกิดการเปลี่ยนแปลงความรูŒสึกนึกคิด เหมือน
เปšนคนใหม‹โดยสิ้นเชิงมีผูŒเรียกสภาพใหม‹นี้ว‹าการตื่นรูŒ
บŒางและในชื่ออื่นๆอีกหลายอย‹างตามที่จะกล‹าวต‹อไป
มนุษยเปšนสัตวประเภทหนึ่งที่มีชีวิตทางวัตถุ กิน
นอน สืบพันธุ มีความชอบ ความไม‹ชอบ ความเกลียด
ความกลัวการต‹อสูŒการหลบภัยและความบีบคั้นนานา
ชนิด อันเปšนความรูŒสึกนึกคิดตามสติสามัญ
แต‹มนุษยบางคนบางขณะมีประสบการณที่ทําใหŒ
ความรูŒสึกนึกคิดเปลี่ยนไป มีความเปšนอิสระ เบาเนื้อ
เบาตัว มีความสุขอย‹างลึกลํ้าซึมซ‹านไปทั้งเนื้อทั้งตัว
ไม‹รูŒจะเรียกสภาวะอย‹างนี้ว‹าอะไร เรียกว‹า ความรูŒสึก
อันเปšนทิพยบŒาง การเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒาบŒาง การเกิด
จิตสํานึกใหม‹บŒาง การตื่นรูŒบŒาง การรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน
บŒาง ฯลฯ
วิธีอธิบายสภาวะอันเปšนทิพยนี้อย‹างหนึ่งก็คือเกิด
ขึ้นจากจิตไปเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่ไม‹ปรุงแต‹ง ซึ่ง
เชื่อมโยงเปšนหนึ่งเดียวกัน และใหญ‹โตอย‹างไม‹มีที่สิ้น
11AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
สุดเปšนอนันตกาลทําใหŒจิตสํานึกซึ่งเคยติดอยู‹ในความ
คับแคบของตัวเองไปเชื่อมโยงกับความจริงที่ใหญ‹ที่สุด
จึงเปšนอิสระหลุดพŒนจากความบีบคั้นอิสรภาพจากความ
บีบคั้นเปšนความสุขอิสรภาพจึงเปšนอีกชื่อหนึ่งของความ
สุข จิตสํานึกใหม‹เปšนจิตที่ใหญ‹ จิตสํานึกเก‹าเล็กติดอยู‹
ในความคับแคบ เสมือนติดอยู‹ในคุกที่มองไม‹เห็น การ
ออกจากคุกทําใหŒมีความสุขฉันใด การที่จิตออกจากที่
คับแคบไปสู‹ธรรมชาติที่กวŒางใหญ‹ไพศาลแลŒวมีความสุข
อย‹างมหาศาลก็เช‹นเดียวกัน
การออกจากมายาคติคือการเอาตัวเองอันคับแคบ
ไปเขŒาถึงความจริงของธรรมชาติ บางครั้งจึงเรียกว‹า
ป˜ญญา หรือวิชชา และเรียกการติดอยู‹ในความไม‹รูŒ
(ความจริง) ว‹าอวิชชา หรือความหลงไป (โมหะ)
ธรรมชาติที่ใหญ‹สุดประมาณนั้นบางทีก็เรียกว‹า
พระพรหมบŒาง ปรมาตมันบŒาง หรือพระผูŒเปšนเจŒาบŒาง
ฉะนั้นการที่บางคติพูดถึงการเขŒาถึงพระพรหม หรือ
ปรมาตมัน หรือพระผูŒเปšนเจŒา ก็มีความหมายทํานอง
เดียวกับการเขŒาถึงธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุด
12 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
ฉะนั้น คําว‹า การเขŒาถึงความจริงหรือธรรมชาติ
ที่ใหญ‹ที่สุด จึงเปšนคํากลางๆ ซึ่งอาจมีทางเขŒาถึงอัน
หลากหลาย ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับศาสนาหรือไม‹เกี่ยวกับ
ศาสนาก็ไดŒ
การตื่นรูŒ (Awakening) ก็เช‹นเดียวกัน ที่หมายถึง
ตื่นรูŒเพราะเขŒาถึงความจริงโดยวิธีใดๆก็ไดŒซึ่งอาจเกี่ยว
หรือไม‹เกี่ยวกับศาสนาใดๆ ก็ไดŒ มีความเปšนสากล ที่
ทุกคนไปเจอกันไดŒหมด เปšนอนาคตที่กําลังผุดบังเกิด
ของมนุษยชาติ
เพราะมนุษยมีธรรมชาติของสมองเพื่อการตื่นรูŒ
ซึ่งสัตวไม‹มี
13AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
๒.
ตัวอย่างของการตื่นรู้
(๑) มนุษย์อวกาศชื่อ Edgar Mitchell
ไปยืนอยู‹บนดวงจันทร มองมาเห็นโลกทั้งใบลอยฟ†อง
อยู‹ในอวกาศ เขากลับมายังโลกเปšนคนที่เปลี่ยนไปโดย
สิ้นเชิง เขากล‹าวว‹า “I came back to Earth, a totally
changed man” (ผมกลับมายังโลก เปšนคนที่เปลี่ยน
ไปโดยสิ้นเชิง)
โดยมีความรูŒสึกนึกคิดใหม‹มีความเบาสบายเปšน
อิสระจากความบีบคั้นมีความสุขอย‹างลํ้าลึกมีความรัก
อันไพศาลต‹อเพื่อนมนุษยและสรรพสิ่ง
15AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
เขาเกิดจิตสํานึกใหม‹ (New Consciousness) ซึ่ง
เกิดจากการเขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวของโลกทั้งใบ
กล‹าวคืออยู‹บนโลกก็เห็นแบบแยกส‹วนเปšนสิ่งนั้นสิ่ง
นี้ แต‹อยู‹บนดวงจันทรเห็นโลกทั้งใบเปšนหนึ่งเดียวกัน
ธรรมชาติมีความเปšนหนึ่งเดียวกัน เมื่อจิตเราเขŒาถึง
ความจริงอันเปšนหนึ่งเดียวกันก็เกิดจิตสํานึกใหม‹ อัน
เปšนจิตสํานึกใหญ‹ ซึ่งทําใหŒความรูŒสึกนึกคิดเปลี่ยน
ไปหมดที่เขากล‹าวว‹า “ผมกลับมายังโลกเปšนคนที่
เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง”
เอ็ดการมิทเชลลรูŒแลŒวว‹าจิตสํานึกเปลี่ยนแปลงไดŒ
และจิตสํานึกใหม‹นี้ดีเหลือเกินเพราะทําใหŒเกิดความสุข
อย‹างลŒนเหลือ และความรักอันไพศาลต‹อเพื่อนมนุษย
และสรรพสิ่งจักเปšนไปเพื่อการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติเขา
จึงตั้งสถาบันที่มีชื่อว‹า Institute of Noetic Sciences
(IONS) ที่แคลิฟอรเนีย ทําหนŒาที่ศึกษาวิจัย ฝƒกอบรม
และเผยแพร‹ เกี่ยวกับจิตสํานึกใหม‹
16 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
(๒) Eckhart Tolle ชาวแคนาดา
เปšนผูŒมีความทุกขมากจนคิดจะฆ‹าตัวตายอยู‹หลายครั้ง
เชŒาวันหนึ่งคิดว‹าวันนี้ตŒองเอาแน‹ เขาพูดกับตัวเองว‹า
“I cannot live with myself any longer” (ฉันอยู‹กับ
ตัวเองคนนี้ต‹อไปไม‹ไดŒแลŒว) การพูดกับตัวเองเช‹นนั้น
กระตุกความคิดเขาว‹า ที่ว‹า I cannot live with myself
นั้น I กับ myself มันเปšนคนละคนกันหรืออย‹างไร
ตัวเอง (ร‹างกาย) มันเต็มไปดŒวยความทุกข
ฉัน (จิต) อยู‹กับมันจะไม‹ไดŒอีกแลŒว
จิตเลยหลุดจากอํานาจกาย เขากลายเปšนคนไม‹มี
ความทุกขอีกต‹อไป เขาก็ไม‹เขŒาใจเหมือนกันว‹ามีอะไร
เกิดขึ้น อยู‹ต‹อมาอีกเปšนสัปดาหๆ เขาก็ไม‹มีความทุกข
กลายเปšนคนมีความสุขอย‹างถาวร กลายเปšนครูสอน
เรื่องความสุข เขาเขียนหนังสือขายดีเล‹มหนึ่งชื่อว‹า
‘The Power of Now’ อํานาจแห‹งป˜จจุบันขณะ
การรูŒอยู‹กับป˜จจุบันขณะคือการมีสติ ถŒามีสติก็
ไม‹มีความทุกข
17AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
เพราะความทุกขเกิดจากการคิดขณะที่คิดไม‹รูŒอยู‹
กับป˜จจุบัน เช‹น เดินคิดโน‹นคิดนี่ ไม‹รูŒว‹าป˜จจุบันกําลัง
จะชนแลŒว จึงถูกรถชนตาย ขณะที่รูŒอยู‹กับป˜จจุบัน จะ
เปลี่ยนจากคิดเปšนรูŒ จิตจะสงบจากความคิดรูŒอยู‹กับ
ป˜จจุบัน สงบอย‹างยิ่ง สุขอย‹างยิ่ง เพราะฉะนั้นชื่อหนึ่ง
ของความสุขคือความสงบ สงบจากความคิด แมŒไปอยู‹
ในที่สงัดแต‹ถŒาการคิดยังคุกรุ‹นก็ไม‹สงบ
การมีสติก็คือการตื่นรูŒ คือการไม‹ประมาท
ถŒาเราอยู‹ในโลกของการคิดปรุงแต‹งเราไม‹สามารถ
สัมผัสธรรมชาติความเปšนจริงไดŒ แต‹เมื่อมีสติรูŒกับ
ป˜จจุบันจิตสงบจึงสัมผัสความจริงตามธรรมชาติหรือ
เขŒาถึงความจริง เรียกว‹าสติทําใหŒเกิดป˜ญญา (เขŒาถึง
ความจริงตามธรรมชาติ)กล‹าวมาแลŒวขŒางตŒนว‹าป˜ญญา
อิสรภาพ ความสุข-เปšนเรื่องเดียวกัน
เอ็คฮารท โทลเล จึงเขียนเรื่องพลังอํานาจแห‹ง
ป˜จจุบันขณะหรือพลังอํานาจแห‹งการมีสติรูŒอยู‹กับ
ป˜จจุบันนั่นเอง
ที่ว‹าจิตของ เอ็คฮารท (I) แยกหลุดจากอํานาจ
18 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
ของกาย (myself) นั้นอธิบายดังนี้
ตามปรกติจิตตกอยู‹ในอํานาจของกาย เช‹น กาย
เจ็บป†วยไม‹สบาย จิตก็เจ็บป†วยไม‹สบายไปดŒวย ดังที่
พูดว‹าไม‹สบายกายไม‹สบายใจหรือกายกับใจเปšนคู‹แฝด
ติดกัน กายนั้นโดยธรรมชาติเจ็บป†วยอยู‹เปšนประจํา ใจ
จึงเจ็บป†วยไปดŒวย
แต‹บางคนสามารถแยกใจไม‹ใหŒเจ็บป†วยไปกับกาย
ไดŒ คือกายป†วย แต‹ใจไม‹ป†วยไปดŒวย ดังที่ท‹านอาจารย
พุทธทาสสอนว‹า
19AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
หรืออย‹างที่พระพรหมคุณาภรณ (ป.อ.ปยุตฺโต)
สอนไวŒในเรื่อง
รักษาศีลจิตไว้ เมื่อกายป่วย
จะทําอย‹างไร เมื่อร‹างกายเจ็บป†วย จิตใจจะไม‹
แปรปรวนตาม พระพุทธเจŒาไดŒทรงคŒนควŒาเรื่องของ
ชีวิตไวŒมากมายแลŒวหนทางช‹วยใหŒคนทั้งหลายมีความ
สุข พระองคเคยพบท‹านที่ร‹างกายไม‹สบาย เจ็บไขŒไดŒ
ป†วย พระองคเคยตรัสสอนว‹า ใหŒทําในใจ ตั้งใจไวŒว‹า
ถึงร‹างกายของเราจะป†วย แต‹ใจของเราไม‹ป†วยไปดŒวย
การตั้งใจอย‹างนี้เรียกว‹า มีสติ ทําใหŒจิตใจไม‹ตกอยู‹ใน
อํานาจครอบงําของความแปรปรวนในร‹างกายนั้น
เอ็คฮารท โทลเล เมื่อตั้งคําถามว‹า “เอะ ฉัน (I)
(ซึ่งคือจิต)กับตัวเอง(myself)(ซึ่งคือกาย)มันคนละ
คนกันหรืออย‹างไร?”เกิดกระตุกทางป˜ญญาจิตพŒนจาก
20 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
อํานาจกาย เปšนอิสระ ตื่นรูŒ หมดทุกข ทํานองเดียวกัน
ในนิกายเซนที่มีการตั้งคําถามเพื่อกระตุกทางป˜ญญา
เพื่อตีประเด็นแตกก็ซาโตริบรรลุธรรมทันทีซึ่งเขามีชื่อ
เรียกว‹าเปšนพวกSuddenSchoolหรือพวกฉับพลันทันที
(๓) หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ
หลวงพ‹อเทียนเปšนพระแบบชาวบŒาน ไม‹มีความรูŒทาง
ปริยัติมากมายแต‹ประการใด คราวหนึ่งท‹านคŒนพบว‹า
เมื่อทํามือเคลื่อนไหวไปในท‹าต‹างๆ แลŒวใหŒจิตตามรูŒไป
กับการเคลื่อนไหวของแขนและมือ เมื่อตามรูŒไปสักพัก
หนึ่ง ปรากฏว‹าสงบจากการคิด ท‹านก็ฝƒกทําไปเรื่อยๆ
และก็ฝƒกตามรูŒ ความรูŒสึกนึกคิด เมื่อรูŒความคิด ความ
ที่กําลังคิดก็สงบไป ทําไปๆ ก็กลายเปšนว‹ารูŒกายรูŒใจต‹อ
เนื่องวันหนึ่งขณะที่กําลังเดินอย‹างรูŒตัวต‹อเนื่องท‹านว‹า
จู‹ๆ มันก็ “ขาดผึง” ไปเลย กลายเปšนคนใหม‹ มีความ
รูŒสึกนึกคิดใหม‹คงจะทํานองเดียวกับที่เอ็ดการมิทเชลล
กล‹าวว‹าเขาเปšนคนที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง (กรณีที่ ๑
ขŒางตŒน)
21AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
การตามรูŒ ก็คือ การมีสติ รูŒอยู‹กับป˜จจุบันนั่นเอง
สติทําใหŒจิตสงบและเขŒาถึงป˜ญญาซึ่งจะเรียกว‹าการตื่นรูŒ
การตื่นรูŒดŒวยวิธีต‹างๆซึ่งจะกล‹าวถึงต‹อไปอาจกล‹าวว‹า
มีสติ เปšนฐานทั้งสิ้นก็ไดŒ พระพุทธองคจึงตรัสว‹า
สติเปšนทางอันเอก (เอกะมัคโค)
(๔) อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์
อาจารยประมวลเรียนปรัชญาที่ประเทศอินเดียและเปšน
อาจารยสอนปรัชญาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม‹ปรัชญา
นั้นว‹าดŒวยการคิดและการตั้งคําถามว‹าอะไรเปšนอะไร
วิธีการหาคําตอบต‹อคําถามที่ตั้งเปšนวิทยาศาสตร
คําตอบที่ไดŒคือความรูŒ การนําความรูŒไปประยุกตใชŒ
เรียกว‹าเทคโนโลยี
ปรัชญา วิทยาศาสตร เทคโนโลยี
จึงเปšนกระบวนการต‹อเนื่องกันไปอันเปšนวิสัยของ
วิชาการในโลกในป˜จจุบัน
อาจารยประมวลซึ่งสอนปรัชญาอยู‹ในมหาวิทยาลัย
22 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
อาจจะยังรูŒสึกไม‹มีความสมบูรณในตัวเองและแสวงหา
วันหนึ่งเกิดทําสิ่งที่แปลกประหลาด คือออกเดินดŒวย
เทŒาจากเชียงใหม‹ไปบŒานเกิดของท‹านที่เกาะสมุย โดย
ในตัวเองไม‹มีเงินสักบาทเดียว ใครใหŒกินก็กิน ไม‹มีใคร
ใหŒกินก็ไม‹กิน พักตามศาลาวัดหรืออะไรก็แลŒวแต‹ที่จะ
พักไดŒ ดุ‹มเดินไปตามทาง สัมผัสอยู‹กับธรรมชาติอย‹าง
ที่เปšนไปลŒวนๆ โดยไม‹มีมายาคติอะไรมาขวางกั้น เช‹น
เงิน หรือฐานะความเปšนอาจารยมหาวิทยาลัย
จากคนที่คิด (เชิงปรัชญา) มาเปšนสัมผัสอยู‹กับ
ธรรมชาติความเปšนจริงลŒวนๆ ของภูมิประเทศ ดิน ฟ‡า
อากาศ ชีวิตของผูŒคน โดยเฉพาะของชาวบŒานที่ยากไรŒ
หรือแมŒแต‹สุนัขขี้เรื้อน ที่มาอิงแอบหาไออุ‹นขณะนอน
ในศาลาวัด
เมื่อเปลี่ยนจากคนที่คิด (ดŒวยสมอง) มาเปšนคนที่
รูŒ (ความจริงตามธรรมชาติ) ดŒวยใจ
ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transforma-
tion) ในตนเอง
ความรูŒสึกนึกคิดก็เปลี่ยนไปเหมือนเปšนคนใหม‹คือ
23AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
มีความสงบมีอิสรภาพดื่มดํ่าอยู‹กับความสุขและความ
เมตตามหาศาล
เมื่อออกเดินทางจากเชียงใหม‹อาจารยประมวลเปšน
คนหนึ่งแต‹เมื่อถึงเกาะสมุย‘เปšนคนที่เปลี่ยนไปโดยสิ้น
เชิง’ เปลี่ยนจากคนที่อยู‹ในความคิดปรุงแต‹งไปเปšนคน
ที่สัมผัสอยู‹กับความจริงตามธรรมชาติ
เมื่ออาจารยประมวลกลับไปเยือนอินเดีย สถาน
ที่เคยศึกษามาแต‹เก‹าก‹อน สัมผัสอินเดียคราวแรกกับ
คราวหลังไม‹เหมือนกัน
คราวแรกสัมผัสดŒวยความคิดเพราะเรียนปรัชญา
ในการคิดย‹อมมีชอบมีชัง มีความคาดหวัง สมหวังและ
ผิดหวัง อาจเรียกว‹าจิตมีความดิ้นรนทุรนทุรายก็ไดŒ
แต‹ไปคราวหลังดŒวยจิตที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
สัมผัสอยู‹กับความเปšนจริงว‹ามันเปšนเช‹นนั้นเองมีความ
สงบเห็นความงามและคุณค‹าของผูŒคนและสรรพสิ่งทุก
อย‹างกลายเปšนความงามและความสุขต‹างกันราวฟ‡ากับ
ดินจากเมื่อมาศึกษาที่อินเดียคราวก‹อน
24 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
มนุษยอยู‹ในการคิดเปšนวิสัย จะหŒามไม‹ใหŒคิดไม‹
ไดŒการคิดมีประโยชนในแง‹ที่ทําใหŒเกิดความรูŒแต‹ขณะ
เดียวกันก็มีดŒานที่เปšนโทษกล‹าวคือทําใหŒเกิดความทุกข
ความทุกขเกิดจากการคิด
ตัวอย‹างนิทานโบราณมีว‹า พระกับเณรเดินทาง
ไปดŒวยกันในป†า มาถึงลําธารแห‹งหนึ่ง มีผูŒหญิงจะขŒาม
แต‹ขŒามไม‹ไดŒ พระก็เลยสงเคราะหอุŒมผูŒหญิงขŒามส‹งไป
แลŒวพระกับเณรก็เดินกันต‹อไปเณรคิดมาตลอดทางว‹า
ทําไมหลวงพี่จึงไปอุŒมผูŒหญิง (ขŒามลําธาร)ๆๆ เมื่อถึง
วัดจนล‹วงเวลาคํ่าคืนเณรก็ยังนอนไม‹หลับเฝ‡าแต‹คิดว‹า
‘ทําไมหลวงพี่ไปอุŒมผูŒหญิง’จนดึกทนไม‹ไหวจึงไปเคาะ
หŒองหลวงพี่ซึ่งหลับไปแลŒวถามเสียงเครียดว‹า“หลวงพี่
วันนี้ทําไมถึงไปอุŒมผูŒหญิง” พระตอบว‹า
“เราอุŒมเราก็วางไปแลŒวที่ฝ˜›งตรงขŒามลําธารแต‹เณร
สิอุŒมมาตลอดเวลา (ในความคิด) วางไม‹ลง”
หรืออย‹างที่มีผูŒหญิงผูŒหนึ่งคิดมากมีความทุกข
ต‹อเนื่องอยู‹หลายวันหลายคืนบ‹นว‹า“นี่ถŒาฉันหยุดคิดไดŒ
ฉันก็หายทุกข”
25AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
ขณะที่มีสติรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน ขณะนั้นความคิดสงบ
ไป ความทุกขจึงทําอะไรไม‹ไดŒ
ในการคิดถŒาไม‹รูŒตัวจะตกเปšนเหยื่อของความชอบ
หรือไม‹ชอบ ซึ่งจะพาเราไปไกลแสนไกลในอกุศลมูล
เช‹น ความโลภอันไม‹มีที่สิ้นสุด ความโกรธที่ไม‹ไดŒตั้งใจ
พาไปสู‹พยาบาท วิหิงสา คิดทํารŒายผูŒอื่น ท‹านกฤษณะ
มูรติซึ่งเปšนศาสดาร‹วมสมัยที่ทําการสอนอยู‹ในอินเดีย
ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ไดŒพูดและเขียนเกี่ยวกับโทษ
ของการคิด ไวŒมาก ว‹าความรุนแรงทั้งหลายที่เกิดขึ้น
ในโลกเกิดจากการคิด ในหนังสือเล‹มหนึ่งของท‹านชื่อ
Beyond Violence ซึ่งท‹านจะพรํ่าสอนซํ้าแลŒวซํ้าอีกว‹า
โลกจะมีสันติไดŒก็ต‹อเมื่อมนุษยพากันออกจากการคิด
ไปสู‹การรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน ซึ่งก็คือการมีสตินั่นเอง
(๕) นายกําพล ทองบุญนุ่ม
กําพลเปšนเด็กที่ยากจนใฝ†ฝ˜นที่จะมีโอกาสไดŒเขŒาไปเรียน
ในมหาวิทยาลัย ไดŒพบผูŒอุปถัมภไดŒเขŒาเรียนพลศึกษา
สมใจนึกไดŒทํางานเปšนครูพลศึกษามีความสุขอย‹างยิ่ง
26 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
แลŒววันหนึ่งอนาคตก็ดับวูบลงทันที เมื่อเขาสอนการ
พุ‹งหลาวลงนํ้าแลŒวหัวไปกระแทกพื้น กระดูกตŒนคอหัก
กดไขสันหลังทําใหŒเปšนอัมพาตแขนขาทั้ง๒ขŒางที่เรียก
ว‹าอัมพาตทั้งสี่(Tetraplegia)แลŒวชีวิตจะทําอย‹างไรต‹อ
ไปกําพลขวนขวายฝƒกเจริญสติดŒวยวิธีต‹างๆจนจิตตื่นรูŒ
กับป˜จจุบันตลอดเวลาความทุกขหายไปหมดเขากล‹าว
ว‹า“ความทุกขน‹ะหรือลาจากกันโดยสิ้นเชิง”กลายเปšน
ครูสอนความสุขใหŒคนอื่นๆ
(๖) พระคิริมานนท์
ในครั้งพุทธกาล สมัยหนึ่งเมื่อพระพุทธองคประทับอยู‹
27AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
ณ วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี พระรูปหนึ่งชื่อคิริมานนท
อาพาธมีอาการทุกขทรมานอย‹างมาก พระอานนท
เขŒาไปกราบทูลพระพุทธองคขอใหŒเสด็จไปเยี่ยม
พระคิริมานนทถึงที่อยู‹ พระพุทธองคตรัสสัญญา ๑๐
ประการ ใหŒพระอานนทไปสวดใหŒพระคิริมานนทฟ˜ง
พระคิริมานนทฟ˜งก็หายป†วยทันที สัญญา ๑๐ เกี่ยวกับ
ความเปšนจริงของชีวิตว‹าเปšนอนิจจัง อนัตตา อสุภะ
ความเปšนรังโรค … เรื่อยไปจนถึงวิราคะ นิโรธ และ
อานาปานสติ
คิริมานนทสูตร นิยมใชŒสวดรักษาโรคคู‹กันกับ
โพชฌงค ๗
ทั้ง๒พระสูตรนี้เปšนการกระตุกทางสติและป˜ญญา
ทําใหŒเกิดการตื่นรูŒ ซึ่งทําใหŒหลุดจากอํานาจความเจ็บ
ป†วยทางกายไดŒ
(๗) ปรมหังสาโยคานันทะ
หนังสือ อัตตชีวประวัติของโยคี โดย ปรมหังสา โยคา
นันทะผูŒนําโยคะศาสตรไปเผยแพร‹ในสหรัฐอเมริกาใหŒ
28 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
คนตะวันตกไดŒเขŒาใจเรื่องการตื่นรูŒ โดยการเขŒาถึงพระ
ผูŒเปšนเจŒามีเรื่องราวของสวามีโยคีนักบุญคนธรรมดา
สามัญที่เขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒาดŒวยโยควิธีโยคะหมายถึง
วิธีการที่ช‹วยใหŒเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา อันเปšนสภาพของ
การตื่นรูŒเปšนเอกภาพกับธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุด ศานติ
และเอิบอาบเป‚›ยมลŒนไปดŒวยอิสรภาพและความสุข
(๘) A World Waiting To Be Born
เปšนชื่อหนังสือของจิตแพทยอเมริกันชื่อ Scott Peck
เขารักษาคนเอมริกันที่มีความทุกขจํานวนมากจนรักษา
ไม‹ไหวต‹อมาเขาพบว‹าตัวเองตŒองช‹วยส‹งเสริมใหŒมีการ
29AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
รวมตัวร‹วมคิดร‹วมทํา การรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทําเขา
เรียกว‹าสรŒางความเปšนชุมชน (Community Building)
คําว‹าชุมชนไม‹จําเปšนตŒองหมายถึงหมู‹บŒานเสมอไป
เมื่อมีการรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทํากันเรื่องอะไรก็ถือว‹ามี
ความเปšนชุมชนในเรื่องนั้น สก็อต เพ็ค พบว‹าเมื่อสรŒาง
ความเปšนชุมชนไดŒสําเร็จทุกคนมีความสุขประดุจบรรลุ
นิพพาน เพราะในความเปšนชุมชนมีการลดความเห็น
แก‹ตัว มีความเสมอภาค ภราดรภาพ ความเอื้ออาทร
ความเปดเผยและจริงใจต‹อกันเรียกว‹าเกิดจิตสํานึก
ใหม‹ ซึ่งเปšนจิตสํานึกที่ใหญ‹กว‹าตนเอง อาจเรียกว‹า
เปšนการบรรลุธรรมทางสังคมก็ไดŒ เรื่องนี้ดูเพิ่มเติมไดŒ
ในตอนที่ ๖
30 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
สําหรับผูŒที่คุŒนเคยเรื่องการตื่นรูŒ หรือเรื่องการ
เจริญสติ หรือเรื่องการเกิดจิตสํานึกใหม‹ จะคุŒนเคยกับ
เรื่องทํานองกรณีตัวอย‹างที่กล‹าวมาขŒางตŒนเปšนอย‹างดี
สําหรับผูŒที่ยังใหม‹ต‹อเรื่องนี้ ก็เปšนทํานองเรื่องเล‹า พอ
ใหŒเห็นภาพของการเกิดการตื่นรูŒหรือจิตสํานึกใหม‹ใน
หนทางที่แตกต‹างหลากหลายเพื่อปูทางไปสู‹พหุบทแห‹ง
การตื่นรูŒ ในบทหลังๆ
31AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
๓.
สมองของมนุษย์
ธรรมชาติที่รอการ
ตื่นรู้มา ๒๐๐,๐๐๐ ปี
สมองของมนุษยเปšนสุดยอดวิวัฒนาการของธรรมชาติ
เพราะสมองมนุษยเปšนโครงสรŒางที่วิจิตรที่สุดใน
จักรวาล สามารถเรียนรูŒใหŒบรรลุอะไรก็ไดŒ
เนื่องจากมนุษยพัฒนามาจากสัตว จึงมีส‹วนที่
เปšนสัตวอยู‹ในตัวมนุษย ทั้งทางรูปธรรมและนามธรรม
ดีเอ็นเอของมนุษยกับลิงชิมแปนซีต‹างกันไม‹ถึง ๕
33AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
เปอรเซ็นตสมองมนุษยเมื่อผ‹าซีกก็สามารถเห็นไดŒดŒวย
ตาเปล‹าว‹าแบ‹งเปšน ๓ ชั้น คือ
ชั้นในสุดอยู‹ขŒางหลังเรียกว‹าสมองสัตวเลื้อยคลาน
(Reptilian brain)
ชั้นกลาง เรียกว‹าสมองสัตวเลี้ยงลูกดŒวยนํ้านม
(Mammalian brain)
ชั้นนอกสุด อยู‹ขŒางหนŒา เปšนสมองมนุษย เรียกว‹า
ส‹วนนอกใหม‹ (Neo-cortex)
สมองมนุษย์
= สติป˜ญญา
วิจารณญาณ
ศีลธรรม
สมอง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
= อารมณ
สมอง
สัตว์เลื้อยคลาน
= ความอยู‹รอด
34 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
สมองส‹วนที่เปšนธรรมชาติของสัตวก็ทําหนŒาที่อย‹าง
ตามธรรมชาติของสัตว เช‹น การกิน การสืบพันธุ การ
ต‹อสูŒ การหลบภัย
สมองส‹วนหนŒาหรือสมองมนุษยนั้น ทําหนŒาที่
ในเรื่องนามธรรมที่สูงขึ้นไปจากวัตถุ เช‹น สติป˜ญญา
วิจารณญาณ ศีลธรรม ความเห็นใจผูŒอื่น การอยาก
ช‹วยเหลือเพื่อนมนุษย เปšนส‹วนที่ทําใหŒมนุษยต‹างไป
จากสัตวคือเปšนผูŒมีจิตใจสูงสัตวนั้นมีแต‹สัญชาตญาณ
ลŒวนๆไม‹มีบุญไม‹มีบาปเช‹นเสือไปกัดกวางตายก็ไม‹มี
ใครว‹าเปšนบาป
มนุษยมีสมองส‹วนที่เปšนศีลธรรมอยู‹ตรงหลังหนŒา
ผาก เคยมีผูŒป†วยเกิดอุบัติเหตุรถชนกันแลŒวหนŒาผาก
ยุบ พฤติกรรมที่เคยมีศีลธรรมหายไป ในสมัยป˜จจุบัน
มีเครื่องที่ทําใหŒเห็นภาพสมองที่เรียกว‹า Brain Imag-
ing ที่สามารถเห็นว‹าเมื่อมีความรูŒสึกนึกคิดอย‹างไร
ส‹วนใดของสมองที่ตื่นตัวขึ้น เช‹น เมื่อมีการนําพระ
ธิเบตที่บําเพ็ญสมาธิภาวนามานานมาเขŒาเครื่องตรวจ
ก็พบว‹าสมองส‹วนหนŒาปลายสุดของซŒายแดงขึ้น และ
มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในสมอง การตรวจคลื่นสมอง
35AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
พบว‹าการเจริญสติทําใหŒส‹วนต‹างๆ ของสมองทํางาน
ประสานกัน (harmony) เหมือนเครื่องดนตรีทุกชิ้นใน
วงบรรเลงเพลงเดียวกัน
ในคนธรรมดาทั่วไปสมองจะวุ‹นดŒวยการคิดโน‹น
คิดนี่ และความรูŒสึกต‹างๆ ดังที่คําเรียกว‹าจิตวุ‹น ลอง
นึกถึงว‹าเครื่องดนตรีแต‹ละชิ้นบรรเลงไปคนละเพลงคง
วุ‹นวายสับสนไม‹น‹าฟ˜งแต‹เมื่อจิตสงบสมองเกิดharmony
เหมือนทุกส‹วนร‹วมเล‹นเพลงเดียวกันเกิดความไพเราะ
สุดประมาณ
เมื่อสมองเกิด harmony จะมีการหลั่งสารต‹างๆ
ออกมาหลายชนิดที่ก‹อใหŒเกิดความสุข อาจเรียกรวมๆ
กันว‹าสารสุข ป˜จจุบันไดŒมีการศึกษาจนมีความรูŒว‹าอณู
ของสารเหล‹านี้เปšนอะไร และไปออกฤทธิ์อย‹างไร จึง
ทําใหŒเกิดความสุขไปทั้งเนื้อทั้งตัวเพราะฉะนั้นผูŒที่เจริญ
สติเจริญสมาธิจนจิตสงบจึงเกิดความสุขเกิดซาบซ‹านไป
ทั้งเนื้อทั้งตัว (bliss) นี้ก็เปšนอานิสงสของการมีจิตสงบ
จากความคิดปรุงแต‹ง
หรืออย‹างที่บรรยายกันว‹าพระอรหันตทั้งหลาย
36 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
เพราะหมดกิเลสโดยสิ้นเชิงเสวยวิมุตติสุขหรือความสุข
หรือความสุขอย‹างยิ่งหรือบรมสุขเช‹นเดียวกับการเกิด
ทิพยสุขของผูŒเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา
มนุษยอย‹างที่เปšนมนุษยในป˜จจุบันที่เรียกว‹าHomo
sapiensนี้มีอายุประมาณ๒๐๐,๐๐๐ป‚จึงกล‹าวว‹าสมอง
ส‹วนหนŒาของมนุษยที่ทําใหŒมนุษยบรรลุสภาพการตื่นรูŒ
หรือการเกิดจิตสํานึกใหม‹ หรือการบรรลุธรรมนั้นรอ
การใชŒมา ๒๐๐,๐๐๐ ป‚แลŒว
แต‹การทํางานของสมองนั้นขึ้นอยู‹กับสัมพันธภาพ
ระหว‹างมนุษยและระหว‹างมนุษยกับสิ่งแวดลŒอม
ในสมัยดึกดําบรรพมนุษยตŒองยุ‹งอยู‹กับการ
แสวงหาอาหารต‹อสูŒและหลบภัยจากภยันตรายต‹างๆ
ตลอดเวลาก็ตŒองใชŒสมองส‹วนหลังหรือสมองสัตวเลื้อย-
คลานเปšนส‹วนใหญ‹ มีปฏิกิริยาตอบโตŒกับธรรมชาติไป
เยี่ยงสัตวหรือเปšนสัตวนั้นเองสมองส‹วนหนŒาซึ่งเปšนที่อยู‹
ของนามธรรมอันสูงส‹งไม‹มีโอกาสไดŒพัฒนา
ในช‹วงประมาณ๔,๐๐๐-๑,๕๐๐ป‚ที่ผ‹านมาตŒองมี
ความประจวบเหมาะทางเรื่องความสมบูรณของอาหาร
37AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
และสภาพสังคมที่เกิดป˜ญญาใหญ‹ๆขึ้นจะเปšนอุปนิษัท
ก็ดีพระพุทธเจŒาก็ดีเหล‹าจื้อแห‹งลัทธิเตŽาก็ดีพระคริสต
ก็ดีพระมะหะหมัดก็ดีลŒวนเกิดในช‹วงนี้เสมือนเปšนBig
Bang ทางจิตสํานึก
ประมาณ ๕๐๐ ป‚ ที่มีการคŒนหาทางวิทยาศาสตร
และนํามาสรŒางเปšนเทคโนโลยี โลกก็เอียงมาทาง
วัตถุนิยมมากขึ้นๆ จนมากที่สุด ซึ่งทําใหŒเสมือนปด
สมองส‹วนที่เปšนนามธรรม ซึ่งเกี่ยวกับการตื่นรูŒ หรือ
การมีจิตสํานึกใหม‹หรือการบรรลุธรรมไปเสียและเมื่อ
โลกประสบสภาวะวิกฤตเนื่องจากอารยธรรมวัตถุนิยม
ก็จะตŒองหันมาพัฒนาสมองส‹วนที่เปšนศักยภาพสูงสุด
ของความเปšนมนุษยเพื่อการตื่นรูŒเพื่อการเกิดจิตสํานึก
ใหม‹ ซึ่งรอการใชŒงานมา ๒๐๐,๐๐๐ ป‚แลŒว
38 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
39AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
๔.
วิกฤตอารยธรรม
และทางออก
มนุษยอย‹างที่เปšนมนุษยป˜จจุบันที่เรียกว‹า Homo sa-
piens มีอายุประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ป‚ ซึ่งสั้นมากถŒาเทียบ
กับอายุของโลกประมาณ๔,๕๐๐ลŒานป‚และสรรพชีวิต
ต‹างๆ ที่มีวิวัฒนาการมาประมาณ ๓,๕๐๐ ลŒานป‚ และ
จะยิ่งสั้นมากถŒาพิจารณาถึงในช‹วง๒๐๐,๐๐๐ป‚นั้นเปšน
ชีวิตแบบล‹าสัตวเก็บของป†าเสีย๑๙๐,๐๐๐ป‚เพิ่งตั้งเปšน
ชุมชนเกษตรกรรมก็แค‹๑๐,๐๐๐ป‚เท‹านั้นเองและเปšน
สังคมใหม‹ก็ประมาณ ๕๐๐ ป‚เท‹านั้น
41AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
แต‹ในช‹วงเวลาอันสั้น มนุษยก‹อใหŒเกิดการ
เปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้มากที่สุดอย‹างที่ไม‹มีธรรมชาติ
ซึ่งรวมถึงสรรพสัตวชนิดอื่นๆ ทั้งหมดทําใหŒเกิดขึ้นมา
ก‹อนก‹อนมีมนุษยสรรพธรรมชาติทั้งหลายมีปฏิสัมพันธ
กันแบบรักษาสมดุล และปรับคืนสู‹สมดุล ถึงสัตวใหญ‹
จะกินสัตวเล็กก็ทําไปตามธรรมชาติของความอยู‹รอด
เท‹านั้น ธรรมชาติของโลกจึงอยู‹ในสมดุล และยั่งยืนมา
นับดŒวยพันลŒานป‚
แต‹มนุษย โดยเฉพาะใน ๕๐๐ ป‚หลัง อยู‹เหนือ
ความสัมพันธตามธรรมชาติดังกล‹าวขŒางตŒน เปšนตŒน
เหตุของการทําลายชีวิตของพันธุพืชและสัตวจนสูญพันธุ
ไปจากโลกนับหมื่นนับแสนสป‚ชีสทําลายป†าไมŒหนŒาดิน
สรŒางมลพิษในสิ่งแวดลŒอม ปล‹อยวัตถุธาตุบางอย‹าง
สู‹ชั้นบรรยากาศ จนทําใหŒเกิดสภาวะโลกรŒอน และ
ก‹อใหŒเกิดหายนะภัยต‹างๆ รุนแรงมากขึ้น ฯลฯ จนมี
ผูŒกล‹าวว‹าธรรมชาติสิ้นสุดแลŒว (The end of Nature)
ถŒาธรรมชาติสิ้นสุดมนุษยก็สิ้นสุดดŒวยเพราะธรรมชาติ
เปšนประดุจมารดาของสรรพชีวิต ดังที่เรียกขานกันว‹า
พระแม‹ธรรมชาติ (Mother Nature)
42 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
แมŒอารยธรรมสมัยใหม‹ไดŒสรŒางความรูŒและ
เทคโนโลยีอันมหัศจรรยต‹างๆ ที่อํานวยความสะดวก
แก‹ชีวิต เช‹น เครื่องยนตกลไกต‹างๆ เทคโนโลยีการ
คมนาคมและการสื่อสารยารักษาโรคสามารถเดินทาง
ไปลงดวงจันทรและดวงดาวอื่นๆ ฯลฯ แต‹ไม‹สามารถ
สรŒางการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติความเหลื่อมลํ้ามีมากขึ้น
อันนําไปสู‹ป˜ญหาต‹างๆ มีความขัดแยŒง ความรุนแรง
สงคราม การอพยพ หลบภัยความยากจน และความ
รุนแรงของมนุษยจํานวนมากอย‹างไม‹เคยมีมาก‹อนผูŒคน
มีความกดดันและความเครียดมากขึ้นทําใหŒเกิดการฆ‹า
ตัวตาย ฆ‹าผูŒอื่นตาย เช‹น การกราดยิงโดยไม‹มีเหตุผล
เกิดการก‹อการรŒายสากล ฯลฯ
ทําไมในเมื่อมนุษยก็มีสติป˜ญญาสูง มีการคŒนพบ
ความรูŒที่อัศจรรยต‹างๆที่ไดŒรับรางวัลโนเบลกันก็จํานวน
มาก แต‹ดูไม‹มีความหวังว‹ามนุษยชาติจะสามารถสรŒาง
ระบบการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติ ทั้งระหว‹างคนกับคน
และระหว‹างคนกับธรรมชาติแวดลŒอม จนกระทั่งมี
ผูŒเรียกสภาวะป˜จจุบันว‹าเปšนวิกฤตอารยธรรม (Civi-
lization Crisis)
43AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
นักปราชญฝรั่ง๓คนคือLaslo,GrafและRussell
คุยกันที่ชายฝ˜›งแคลิฟอรเนีย ๓ วัน ๓ คืน ถึงวิกฤตของ
อารยธรรมป˜จจุบัน เห็นว‹าอารยธรรมตะวันตก กําลัง
ก‹อใหŒเกิดสภาวะวิกฤตอย‹างรุนแรงทั่วโลกและไม‹มีทาง
ที่จะไปต‹อไปในแนวทางเดิมโดยไม‹วิกฤต เพราะเปšน
อารยธรรมวัตถุนิยมบริโภคนิยม ทั้ง ๓ ท‹าน เห็นว‹า
มีทางเดียวที่จะพŒนวิกฤตไดŒคือ การปฏิวัติจิตสํานึก
(Consciousness Revolution)
ท‹านดาไลลามะ เห็นว‹าโลกวิกฤตเพราะเปšนโรค
พร‹องทางจิตวิญญาณ(SpiritualDeficiency)การแกŒไข
จึงตŒองปฏิวัติทางจิตวิญญาณ (Spiritual Revolution)
มีคนไทยที่กล‹าวถึงเรื่องนี้ก‹อนทั้งสองขŒางตŒนเนิ่น
นาน คือท‹านอาจารยพุทธทาสภิกขุ ซึ่งไปก‹อตั้งสวน
โมกขพลาราม ตั้งแต‹ พ.ศ. ๒๔๗๕ และเริ่มพูดตั้งแต‹
ครั้งกระนั้นว‹าวัตถุนิยมพาไปสู‹โลกาวินาศ และท‹านไดŒ
ฝากปณิธานไวŒ ๓ ขŒอ คือ
(๑) ขอใหŒศาสนิกของศาสนาต‹างๆ เขŒาถึงหัวใจ
ของศาสนาของตน
44 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
(๒) ขอใหŒมีความร‹วมมือกันระหว‹างศาสนา
(๓) ขอใหŒช‹วยมนุษยถอนตัวออกจากวัตถุนิยม
หัวใจของทุกศาสนาคือจิตวิญญาณ (spiritual)
หรือความสูงส‹งทางจิตใจเหนือวัตถุฉะนั้นท‹านอาจารย
พุทธทาสจึงมั่นใจว‹าถŒาศาสนิกของทุกศาสนาเขŒาถึงหัวใจ
ของศาสนาของตนๆก็จะไปเจอสิ่งเดียวกันคือพัฒนาการ
ทางจิตวิญญาณที่อยู‹เหนือวัตถุหรือการถอนตัว
ออกจากวัตถุนิยม
การปฏิบัติจิตสํานึกที่ลาสโลกับคณะเสนอ การ
ปฏิวัติทางจิตวิญญาณที่ท‹านดาไลลามะกล‹าว และการ
ถอนตัวจากวัตถุนิยมที่ท‹านอาจารยพุทธทาสสั่งเสีย
ไวŒ ลŒวนมีความหมายไปทางเดียวกันอาจรวมเรียกเสีย
ว‹าการเกิดจิตสํานึกใหม‹ เพื่อพิจารณาว‹าจิตสํานึกใหม‹
จะช‹วยใหŒมนุษยพŒนวิกฤตอารยธรรมป˜จจุบันไดŒอย‹างไร
45AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
การแย่งชิงทําลาย
สิ่งแวดล้อม
ทรัพยากรธรรมชาติ
ความขัดแย้ง
และความรุนแรง
ความเหลื่อมลํ้าสุดๆ
อารยธรรม
วัตถุนิยม
รูปที่ ๒ สรุปปรากฏการณของวิกฤตอารยธรรม จจุบัน
วงกลมขŒางใน เปšนปฏิสัมพันธระหว‹างความเห็น
แก‹ตัว – ความรูŒทางวิทยาศาสตรเทคโนโลยี - ความ
โลภอันไม‹มีที่สิ้นสุด ดังนี้
46 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
สัตวทําไปตามความตŒองการทางสรีรวิทยามีความ
โลภจํากัดมาก เพราะไม‹มีเทคโนโลยีที่จะสะสม มนุษย
เดิมก็เปšนเช‹นนั้น ไม‹มีประโยชนอะไรที่จะล‹าสัตวมา
เกินกินและปล‹อยใหŒเน‹าเสีย ต‹อมามนุษยมีความรูŒและ
เทคโนโลยีมากขึ้นมีความสามารถที่จะสนองตอบความ
โลภความโลภก็เพิ่มขึ้นเมื่อคŒนพบระบบการเงินความ
โลภก็เพิ่มขึ้นอย‹างไม‹มีที่สิ้นสุด เพราะเงินเปšนสมบัติที่
เพิ่มไดŒอย‹างไม‹มีที่สิ้นสุด สามารถเติมตัวเลขลงไปไดŒ
เรื่อยๆ 100000000000000… จึงมีคนมีเงินเปšนแสน
เปšนลŒานเปšนลŒานลŒาน และมีเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่จะ
ไปโค‹นทําลายป†า จับปลาในมหาสมุทร ขุดแร‹ธาตุ และ
นํ้ามันจากใตŒดิน
ความเห็นแก‹ตัว - ความรูŒทางวิทยาศาสตรและ
เทคโนโลยี - ความโลภอันไม‹มีที่สิ้นสุด จึงเปšนวงจรที่
ขับเคลื่อนอารยธรรมวัตถุนิยม
สามเหลี่ยมขŒางนอกคือผลของการพัฒนาตามแรง
ขับเคลื่อนของวงกลมขŒางใน กล‹าวคือ
47AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
• ความเหลื่อมลํ้าสุดๆ หรือการขาดความเปšน
ธรรม
• การแย‹งชิงและทําลายทรัพยากรธรรมชาติ จน
โลกเสียสมดุล และคุกคามต‹อความอยู‹รอดของสรรพ
ชีวิตบนโลกใบนี้ ซึ่งรวมถึงเกิดสภาวะโลกรŒอนซึ่งนํา
ไปสู‹หายนภัยต‹างๆ เช‹น ลมแรง นํ้าท‹วม แผ‹นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด คลื่นสึนามิ
• ความขัดแยŒงความรุนแรงและสงคราม
จากภาพวงกลมและสามเหลี่ยมขŒางบนนี้จะเห็น
ว‹า การสรŒางความรูŒทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
เพิ่มขึ้น ไม‹มีทางที่จะช‹วยใหŒมนุษยหลุดออกจากวิกฤต
อารยธรรมในป˜จจุบัน เพราะมันจะไปทําใหŒวัฏจักรของ
ความโลภและความเห็นแก‹ตัว มีกําลังมากขึ้น ส‹งแรง
เหวี่ยงไปสู‹สามเหลี่ยมแห‹งวิกฤตการณมากขึ้น
ฉะนั้นการที่จะออกจากวิกฤตการณป˜จจุบันไดŒจึง
จําเปšนตŒองตัดวงจรในวัฏจักรของความเห็นแก‹ตัวนั่นคือ
ตŒองปฏิวัติจิตสํานึก
48 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
จิตสํานึกเก‹าเปšนจิตสํานึกที่เล็กคับแคบเอาความ
เห็นแก‹ตัวเปšนที่ตั้งทําใหŒโลกวิกฤตไม‹ว‹าจะสรŒางความรูŒ
และเทคโนโลยีขึ้นมาเท‹าใดๆ ถŒายังเห็นแก‹ตัว (Ego-
centric) โลกไม‹หายวิกฤตหรือยิ่งวิกฤตมากขึ้น
จิตสํานึกใหม‹ซึ่งเปšนจิตสํานึกใหญ‹ที่คํานึงถึงคนอื่น
และสิ่งอื่นหรือคํานึงถึงทั้งหมด (Wholeness-centric)
เพราะแต‹ละคนเปšนส‹วนหนึ่งของทั้งหมด ถŒาไม‹คํานึง
ทั้งหมด ทั้งหมดย‹อมเสียสมดุลดุจเดียวกับร‹างกาย
ของเราที่มี เซลลและอวัยวะอันหลากหลาย ทุกเซลล
ทุกอวัยวะมี ‘จิต’ ที่คํานึงถึงทั้งหมด เพื่อทําใหŒร‹างกาย
ทั้งหมดมีบูรณภาพและดุลยภาพ ถŒาเซลลพวกใด
พวกหนึ่งเอาตัวเองเปšนที่ตั้งไม‹คํานึงถึงส‹วนรวมนั่นคือ
เปšนมะเร็ง ทําใหŒระบบรวนและเสียสมดุล นั่นคือ
เจ็บป†วยและวิกฤตอย‹างยิ่ง
โลกที่เจ็บป†วยและวิกฤตก็เหมือนคนเปšนโรคมะเร็ง
เกิดขึ้นเพราะมนุษยมีจิตเล็กแยกส‹วนเอาตัวของตัวเอง
เปšนที่ตั้ง ขาดจิตสํานึกของส‹วนรวม
49AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
เพราะฉะนั้นจิตสํานึกใหม‹จึงเปšนเครื่องมือของการ
ไปพŒนวิกฤตการณของอารยธรรมป˜จจุบัน นั่นเปšนเหตุ
ว‹าทําไมลาสโล และคณะจึงกล‹าวว‹ามีทางเดียวเท‹านั้น
ที่จะพŒนวิกฤต คือการปฏิวัติจิตสํานึก
ท‹านดาไลลามะจึงกล‹าวว‹าจําเปšนตŒองมีการปฏิวัติ
ทางจิตวิญญาณ
ท‹านอาจารยพุทธทาสจึงฝากปณิธานไวŒว‹าใหŒช‹วย
ใหŒมนุษยถอนตัวออกจากวัตถุนิยม
ทั้งหมดลŒวนเปšนเรื่องเดียวกัน และเรื่องเดียวกัน
กับ ‘การตื่นรูŒ’ (Awakening) ตื่นรูŒจากการหลับใหลอยู‹
ในจิตสํานึกเก‹าไปสู‹การมีจิตสํานึกใหม‹ซึ่งเปšนจิตสํานึก
ของทั้งหมดร‹วมกัน
50 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
๕.
พหุบท
เส้นทางอันหลากหลาย
สู่การตื่นรู้
มนุษยแต‹โบราณมาไดŒคŒนพบเสŒนทางอันหลากหลายสู‹
การตื่นรูŒ ภายใตŒสิ่งแวดลŒอม และวัฒนธรรมอันหลาก
หลาย ทั้งที่เกี่ยวกับศาสนาและไม‹เกี่ยวกับศาสนา ทั้ง
แบบสมัยโบราณและสมัยใหม‹ ทุกคนมีเสรีภาพที่จะ
เลือกทางที่เหมาะกับจริตและสภาพของคนๆ ไม‹มีใคร
ผูกขาดวิธีการใดวิธีการหนึ่งเดียว
51AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
แผนภาพขŒางล‹างสรุปประเภทของเสŒนทางสู‹การ
ตื่นรูŒหรือการเกิดจิตสํานึกใหม‹ ดังนี้
การตื่นรูŒ=การเขŒาถึงความจริงสูงสุด(พระผูŒเปšนเจŒา
หรือสภาวะอนันตกาล หรือ อนัตตา)
เข้าถึงความ
เป็นหนึ่งเดียว
กับความจริง
สูงสุด
จิตสงบ สมาธิสติ
สัมผัส กาย วาจา ใจ ภาวนา สังคม ศิลปะ การกระตุก
ทางปัญญา
Theory U
รูปที่ ๓ แผนภาพสรุปพหุบทสู‹การตื่นรูŒ
52 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
การเขŒาถึงความจริงสูงสุด = ป˜ญญาอันยิ่ง (อภิ
ป˜ญญา)
ดŒวยจิตที่สงบจึงจะเขŒาถึงความจริงสูงสุดไดŒ จิต
วุ‹นเขŒาถึงไม‹ไดŒ
จิตที่มีสติหรือสมาธิเปšนจิตที่สงบทําใหŒเขŒาถึงความ
จริงไดŒ
พหุบทในการทําใหŒจิตสงบและเขŒาถึงความจริงที่
มี เช‹น
(๑) ทางการสัมผัสธรรมชาติ ธรรมชาติที่สงบ
เช‹น ป†า ทะเล ภูเขา ทะเลทราย หรืออื่นๆ ช‹วยใหŒ
จิตสงบ ธรรมชาตินั้นเชื่อมโยงกันเปšนหนึ่งเดียวทั้ง
จักรวาล การเขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
ทําใหŒเกิดจิตสํานึกใหม‹ ดังในกรณีของมนุษยอวกาศ
เอ็ดการ มิทเชลล ที่กล‹าวมาในกรณีตัวอย‹างหรือการ
เขŒาถึงธรรมชาติที่ไม‹ปรุงแต‹งอันเปšนสภาวะอนันตกาล
เปšนธรรมชาติที่ไม‹มีตัวตน โดยนัยพระผูŒเปšนเจŒาก็คือ
ธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุดไรŒขอบเขตการเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา
หรือเขŒาถึงธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุดจึงหลุดพŒนจากความ
53AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
บีบคั้นของความคับแคบในตัวตนไดŒ นั่นคือบรรลุ
อิสรภาพ หรือบรรลุความจริง ความดี ความงาม และ
ความสุขอันเปšนทิพย หรือการตื่นรูŒ หรือการบังเกิดขึ้น
ของจิตสํานึกใหม‹
(๒) ทางกิริยาทางกาย การเคลื่อนไหวร‹างกาย
โดยมีสติกํากับเปšนทางสรŒางการตื่นรูŒ ไม‹ว‹าจะเปšน
โยคะไทเกกหรือการเคลื่อนไหวมือแบบหลวงพ‹อเทียน
จิตตสุโภ การทํางานทุกชนิดไม‹ว‹าจะเปšนการลŒางชาม
กวาดบŒาน ลŒางสŒวม ฯลฯ ถŒามีสติกํากับอยู‹กับการ
เคลื่อนไหวของร‹างกายภายในการทํางานนั้นๆ จิตจะ
สงบและเขŒาถึงความสุขอันเปšนทิพย เปšนกําไรชีวิตอัน
มหาศาลเพราะการงานเปšนสิ่งที่ตŒองทําในชีวิตประจําวัน
ถŒาทําไปหงุดหงิดรําคาญหรือโกรธที่ตŒองทําสิ่งนั้นงาน
ก็จะเปšนความทุกข แต‹ถŒาฝƒกใหŒรูŒตัวในการทํางาน การ
ทํางานก็จะกลายเปšนความสุขไป เมื่องานเปšนความสุข
ก็จะไม‹ย‹อทŒอ อดทน ทําไดŒมาก ทําไดŒดี เปšนอิสระจาก
ความบีบคั้นดŒวยประการทั้งปวง
(๓)ทางวาจาคนเราตŒองพูดคุยในชีวิตประจําวัน
และหนŒาที่การงานถŒาใชŒการพูดคุยมาสรŒางความตื่นรูŒ
54 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
หรือจิตสํานึกใหม‹ก็จะเปšนกําไรชีวิตตามปรกติอารมณ
ความรูŒสึกชอบไม‹ชอบ และความยึดมั่นในตัวตนจะเขŒา
มาเปšนเจŒาเรือนในการพูดคุย ทําใหŒสัมมาวาจาเปšนไป
ไม‹ไดŒ สัมมาวาจาตามที่พระพุทธเจŒาสอนประกอบดŒวย
(๑) จะพูดอะไรตŒองเปšนความจริงมีที่มามีที่อŒางอิง
(๒)พูดเปšนปยวาจาไม‹พูดจาส‹อเสียดเหยียดหยาม
ดูหมิ่นดูแคลน หรือพูดใหŒเกิดความโกรธ ความเกลียด
(๓) พูดถูกกาละเทศะ
(๔) พูดแลŒวเกิดประโยชน
จะเห็นไดŒว‹าที่ผูŒคนพูดจากันยากที่จะมีคุณลักษณะ
ครบทั้ง ๔ ขŒอ มักจะพูดแพลŒบๆ โดยไม‹คํานึงถึงว‹าจริง
หรือไม‹ มีประโยชนหรือมีโทษยุติธรรมต‹อผูŒอื่นหรือ
ไม‹ พูดเพราะตŒองการยกตัวหรือเพื่อประโยชนจริงๆ ที่
เปšนบริภาษวิทยาเสียก็มาก จึงมักเปšนอกุศลกรรมนํา
ไปสู‹ผลรŒายต‹างๆแกŒป˜ญหาไม‹ไดŒกลับซํ้าเติมใหŒป˜ญหา
เพิ่มพูนขึ้น
55AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
สุนทรียสนทนา (Dialogue)
ไม‹เนŒนการพูดโตŒเถียงกันไปมาแต‹เนŒนการฟ˜งอย‹าง
ลึก (deep listening) การฟ˜งอย‹างลึกก็คือการฟ˜งดŒวย
สติ ทําใหŒเขŒาถึงความจริง เกิดป˜ญญา หรือจิตสํานึก
ใหม‹ซึ่งเปšนจิตที่ใหญ‹กว‹าตัวตนทําใหŒเขŒาถึงและเห็นใจ
คู‹สนทนาคลี่คลายความขัดแยŒงและยกระดับสติป˜ญญา
ของทั้งสองฝ†ายหรือหลายฝ†ายไดŒ
OttoScharmerแห‹งMITไดŒสรŒางทฤษฎีตัวยูหรือ
Theory U ตามรูปขŒางล‹าง ดังนี้
(๑) เมื่อรับรูŒอะไรเขŒามา แทนที่จะตอบโตŒทันที
ดŒวยการพูดเปรี้ยงทําเปรี้ยงซึ่งเปšนอารมณไม‹ใช‹ป˜ญญา
(๒)อย‹าเพิ่งตัดสินใจว‹าชอบหรือไม‹ชอบใหŒแขวน
ไวŒก‹อนพิจารณาอย‹างเงียบๆดŒวยจิตที่สงบ(ตรงนี้คงจะ
ตŒองมีสติ) ลงไปตามขาหนŒาของตัว U
(๓) ที่กŒนตัว U เปšนสภาพที่เขาเรียกว‹า ‘presen-
cing’ เปšนคําใหม‹ที่เขาสรŒางขึ้น หมายถึงจิตนิ่งรูŒอยู‹กับ
ป˜จจุบันทําใหŒความจริงแสดงตัวออกมาผมคิดว‹าตรงนี้
น‹าจะใกลŒเคียงกับการรับรูŒอยู‹กับป˜จจุบันและป˜ญญา
56 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
(๔) เมื่อขึ้นไปตามขาหลังของตัว U คือกิริยาที่
ตอบโตŒออกไปโดยผ‹านป˜ญญามาแลŒว ไม‹ไดŒทําดŒวย
อารมณ
นี้ก็จะคลŒายกับสุนทรียสนทนาที่กล‹าวขŒางตŒนและ
ตรงกับที่พระพุทธเจŒาสอนว‹าเมื่อใครพูดอะไร เธออย‹า
เพิ่งเชื่อแต‹ก็อย‹าเพิ่งปฏิเสธ(=แขวนไวŒก‹อน)พิจารณา
ดŒวยโยนิโสมนสิการ ว‹าสมเหตุสมผล หรือมีประโยชน
รูปที่ ๔ Theory U ของ Otto Scharmer
57AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
มีโทษอย‹างไร ทั้งหมดก็มีสติเปšนตัวกลางนั่นเอง ที่นํา
ไปสู‹ป˜ญญา
(๔) ทางใจ ใจที่เจริญเมตตาอันไม‹มีประมาณไป
สู‹สรรพสิ่งทุกทิศทุกทาง ทําใหŒเกิดความสุขแผ‹ซ‹านไป
ทั่วสรรพทางกาย และเปšนทางบรรลุธรรมหรือบรรลุ
ความจริงสูงสุดไดŒ ทุกศาสนาจึงเนŒนเรื่องความกรุณา
(Compassion) ว‹าเปšนทางเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา หรือ
ถึงสภาวะอนัตตา การมีจิตอาสาหรือเกื้อกูลอื่นก็อยู‹ใน
ตระกูลเดียวกัน ความรักของแม‹กวŒางใหญ‹ไพศาลดุจ
ดินฟ‡ามหาสมุทร เปšนธรรมชาติอันยิ่งใหญ‹ การเขŒาถึง
ความรักของแม‹ขยายจิตสํานึกใหŒใหญ‹ไดŒ
(๕) การภาวนา การภาวนามีในทุกศาสนา การ
สวดมนตทําใหŒจิตสงบเมื่อจิตสงบก็สามารถสัมผัสความ
จริงตามธรรมชาติในทางพุทธภาวนาหมายถึงการเจริญ
ศีล สมาธิ ป˜ญญา เรื่องนี้มีโดยพิสดาร ในตําราและ
คําสอนต‹างๆ ที่หาอ‹านไดŒโดยไม‹ยาก
(๖) ทางสังคม การรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทําที่เรียก
ว‹าสรŒางความเปšนชุมชนนั้น Scott Peck จิตแพทย
58 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
ชาวอเมริกันกล‹าวว‹าทําใหŒเกิดความสุข ประดุจบรรลุ
นิพพาน เพราะในการรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทํานั้นมีการ
ลดความเห็นแก‹ตัวขยายการเห็นแก‹ส‹วนรวมมีเมตตา
จิตต‹อกันเปšนการพัฒนาทางจิตวิญญาณและทําใหŒเกิด
จิตสํานึกใหม‹ไดŒ พูดอีกนัยหนึ่งกระบวนการทางสังคม
ทําใหŒบรรลุธรรมไดŒ
ตามปกติความไม‹เท‹าเทียมกัน และมายาคติ
ต‹างๆทําใหŒสัมพันธภาพระหว‹างบุคคลไม‹เปšนไปในเชิง
กัลยาณมิตร และการเรียนรูŒจากกันถŒามีการปฏิวัติ
สัมพันธภาพ (Associational Revolution) คือผูŒคน
สัมพันธกันดŒวยความเสมอภาคภราดรภาพมีเมตตาจิต
ต‹อกันและมีการเรียนรูŒระหว‹างกัน(InteractiveLearn-
ing) เช‹น ระหว‹างพ‹อแม‹กับลูก ครูกับนักเรียน ผูŒคนใน
องคกร และในสังคม จะเกิดการเขŒาถึงสูงสุด คือความ
จริง ความดี ความงาม เกิดความสุขอันลŒนเหลืออย‹าง
ขนานใหญ‹เต็มสังคม การปฏิวัติสัมพันธภาพควรจะไดŒ
รับความสนใจและนําเสนอต‹อสังคมทดลองปฏิบัติเรียน
รูŒจากการปฏิบัติ และต‹อยอดขยายตัวออกไปใหŒเต็ม
สังคมเพราะเปšนทางใหญ‹ที่จะสรŒางสังคมจิตสํานึกใหม‹
59AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
(๗)ทางศิลปะศิลปะเปšนความงามโดยที่สูงสุดนั้น
ความจริง ความดี ความงาม อยู‹ดŒวยกัน เพราะฉะนั้น
โดยผ‹านทางความงาม บุคคลสามารถเขŒาถึง ความจริง
และความดีไดŒ ถŒาใครไดŒอ‹านคีตาญชลี ของมหากวี
รพินทรนาถ ฐากูร อันเปšนสุนทรียธรรมที่ไดŒรับรางวัล
โนเบล โดยชื่อก็บอกว‹าเปšนการอัญชลีดŒวยดนตรี จะ
รูŒสึกว‹าเปšนคํากลอนที่สื่อสารกับพระผูŒเปšนเจŒาตลอดเวลา
กวีนิพนธ บทเพลง ดนตรี จิตรกรรมสถาป˜ตยกรรม
ประติมากรรมไดŒรับการนํามาสื่อสารเพื่อนํามนุษยเขŒา
สู‹ความจริงสูงสุด
สมัยนี้เทคโนโลยีการสื่อสารชนิดต‹างๆอาจเขŒาถึง
มนุษยทุกคนควรมีการนําศิลปะทุกแขนงมาเปšนเครื่องมือ
สรŒางจิตสํานึกใหม‹ถŒวนหนŒา
อันที่จริง ความงามไม‹ไดŒมีอยู‹ในงานศิลปะอย‹างที่
เรียกกันทั่วๆ ไปเท‹านั้น ถŒาเจริญสติใหŒรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน
ในงานทุกชนิดที่ทํา จิตสงบจากการปรุงแต‹ง งานทุก
ชนิดจะกลายเปšนความงาม ทุกสิ่งทุกอย‹างกลายเปšน
ความงามไม‹ว‹านํ้าสักหยดใบไมŒสักใบแมลงสักตัวหรือ
ผูŒคนอันหลากหลายสรรพสิ่งกลายเปšนศิลปะหรือความ
60 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
งาม ทําใหŒเขŒาใจว‹าความงามมีอยู‹ในทุกสิ่งทุกอย‹าง ถŒา
จิตใจเราสงบ ปราศจากการปรุงแต‹งและมายาคติ และ
จะเขŒาใจที่ว‹าในสภาวะสูงสุดนั้นความจริงความดีความ
งามอยู‹ที่เดียวกันและในความเปšนมนุษยนั้นมีศักยภาพ
ที่จะเขŒาถึงสิ่งสูงสุด
(๘) การกระตุกทางปัญญา มีการตื่นรูŒชนิด
ฉับพลันทันที มีผูŒตั้งชื่อเรียกว‹าลัทธิฉับพลัน (Sudden
School) เช‹น เกิดขึ้นขณะที่กําลังฟ˜งธรรม หรือตนเอง
แสดงธรรม หรือตีปริศนาธรรมแตก แบบพวกลัทธิ
เซน เมื่อตีปริศนาธรรมแตกเรียกว‹าบรรลุซาโตริ หรือ
ไดŒรับการนําเขŒาโดยครูอาจารยผูŒทรงธรรมขั้นสูง หรือ
โดยพระศาสดาเอง ในครั้งพุทธกาลมีเหตุการณเปšน
อันมากที่พระสงฆสาวกไดŒสดับธรรมจากพระศาสดา
แลŒวบรรลุธรรมทันที
หนทางสู‹การตื่นรูŒคงจะไม‹ไดŒมีเพียงเท‹านี้ พหุบท
แห‹งการตื่นรูŒที่นําเสนอขŒางตŒนพอใหŒเห็นหนทางอัน
หลากหลาย และไม‹ไดŒตั้งใจจะใหŒเปšนคู‹มือสู‹การตื่นรูŒ
เพราะหนทางแต‹ละบทนั้นมีผูŒสรŒางตํารับตําราไวŒมากมาย
ซึ่งผูŒที่สนใจจะคŒนควŒาศึกษาไดŒการมีจิตสงบเปšนทางเขŒา
61AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
สู‹ความจริงอันสูงสุดการเจริญสติน‹าจะเปšนเครื่องมือของ
เสŒนทางต‹างๆ ที่นําบุคคลไปสัมผัสความจริงสูงสุดเกิด
การตื่นรูŒและจิตสํานึกใหม‹
62 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
63AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
๖.
การเรียนรู้ร่วมกันในการ
ปฏิบัติ (Interactive
Learning Through
Action) กับการ
เปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน
(Transformation)
ป˜จจุบันเต็มไปดŒวยป˜ญหาที่สลับซับซŒอนและยากต‹อการ
แกŒไขเช‹นความยากจนและความเหลื่อมลํ้าการแย‹งชิง
ทรัพยากรการขาดความยุติธรรมเครื่องมือเดิมๆเช‹น
65AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
การใชŒอํานาจ ใชŒเงิน ใชŒความรุนแรง ใชŒการวิพากษ
วิจารณ การประทŒวง ใชŒความรูŒสําเร็จรูป ลŒวนไม‹ไดŒผล
ในรูป ๕ ขŒางล‹าง
ปัญหาที่ซับซ้อนและยาก
ต้องใช้การเรียนรู้ร่วมกัน
รูปที่ ๕ จจัยที่ซับซŒอนและยาก
ตŒองใชŒการเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ
66 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
การใชŒความรูŒสําเร็จรูปก็เช‹น เคยเรียนวิชา
นิติศาสตร รัฐศาสตร เศรษฐศาสตร ฯลฯ ก็นําความรูŒ
นั้นๆมาใชŒโดยไม‹เรียนรูŒเพราะป˜ญหาซับซŒอนหลายแง‹
หลายมุมหลายมิติมีความจําเพาะกรณีซึ่งถŒาไม‹เรียนรูŒ
จากสถานการณจริง เพียงแต‹เอาความรูŒมาใชŒโดย
ไม‹เขŒาใจความจริงจึงไม‹ไดŒผล นี้เปšนเหตุใหŒการพัฒนา
ทั้งหลายในโลกไม‹ไดŒผล เปšนวิธีการเก‹าๆ เปšน
กระบวนทัศนเก‹าในการพัฒนา
กระบวนทัศนใหม‹ในการพัฒนา(NewDevelop-
ment Paradigm) คือการเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ
ในสถานการณจริง
ในป˜ญหาแต‹ละเรื่องมีบุคคล องคกร สถาบัน
เกี่ยวขŒองอยู‹ดŒวยจํานวนมาก ทุกคนมีความสําคัญต‹อ
ความสําเร็จหรือความลŒมเหลวใครจะเก‹งไปคนเดียวก็จะ
แกŒป˜ญหาไม‹ไดŒจึงตŒองมีการเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ
การปฏิบัติเปšนสถานการณจริง
การปฏิบัติโดยไม‹เรียนรูŒหรือเรียนรูŒโดยไม‹ปฏิบัติ
ก็ไม‹สําเร็จ
67AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้
ตื่นรู้

More Related Content

What's hot

Basic mechanical ventilation sep 2552 with reference
Basic mechanical ventilation sep 2552 with referenceBasic mechanical ventilation sep 2552 with reference
Basic mechanical ventilation sep 2552 with referenceLoveis1able Khumpuangdee
 
หน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยี
หน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยีหน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยี
หน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยีJanchai Pokmoonphon
 
34การเย็บฝีเย็บ
34การเย็บฝีเย็บ34การเย็บฝีเย็บ
34การเย็บฝีเย็บMy Parents
 
คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปี
คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปีคู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปี
คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปีUtai Sukviwatsirikul
 
27การตรวจครรภ์
27การตรวจครรภ์27การตรวจครรภ์
27การตรวจครรภ์Papawee Laonoi
 
ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์
ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์
ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์Ballista Pg
 
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา camping
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา campingการปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา camping
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา campingVai2eene K
 
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิตเซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิตPopeye Kotchakorn
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfMaytinee Beudam
 
Presentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครอง
Presentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครองPresentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครอง
Presentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครองkamolwantnok
 
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dnaMicrosoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dnaThanyamon Chat.
 
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every dayใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every dayสมใจ จันสุกสี
 
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...Dr.Suradet Chawadet
 
แผลกดทับ
แผลกดทับแผลกดทับ
แผลกดทับtechno UCH
 
จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้Aoun หมูอ้วน
 
พินัยกรรมชีวิต
พินัยกรรมชีวิตพินัยกรรมชีวิต
พินัยกรรมชีวิตSutthiluck Kaewboonrurn
 
118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)
118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)
118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)Prachoom Rangkasikorn
 

What's hot (20)

Basic mechanical ventilation sep 2552 with reference
Basic mechanical ventilation sep 2552 with referenceBasic mechanical ventilation sep 2552 with reference
Basic mechanical ventilation sep 2552 with reference
 
หน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยี
หน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยีหน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยี
หน่วยที่ 3-ระบบทางเทคโนโลยี
 
34การเย็บฝีเย็บ
34การเย็บฝีเย็บ34การเย็บฝีเย็บ
34การเย็บฝีเย็บ
 
คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปี
คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปีคู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปี
คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอนวัยอนุบาล 3 6 ปี
 
27การตรวจครรภ์
27การตรวจครรภ์27การตรวจครรภ์
27การตรวจครรภ์
 
ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์
ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์
ทันตสุขภาพสำหรับผู้พิการ ทพ.วรพจน์
 
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา camping
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา campingการปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา camping
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชา camping
 
CPG for hepatocellular carcinoma
CPG for hepatocellular carcinomaCPG for hepatocellular carcinoma
CPG for hepatocellular carcinoma
 
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิตเซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เซลล์หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
การพยาบาลDhf
การพยาบาลDhfการพยาบาลDhf
การพยาบาลDhf
 
Presentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครอง
Presentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครองPresentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครอง
Presentation นำเสนอความรู้ให้ผู้ปกครอง
 
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dnaMicrosoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
 
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every dayใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
ใบงานและใบความรู้ วิชาภาษาอังกฤษ DLTV เรื่อง Things to do every day
 
ชุดการสอนที่ 3 มุมภายนอกกับมุมภายใน
ชุดการสอนที่ 3  มุมภายนอกกับมุมภายในชุดการสอนที่ 3  มุมภายนอกกับมุมภายใน
ชุดการสอนที่ 3 มุมภายนอกกับมุมภายใน
 
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
การประเมินสมรรถภาพในเชิงปฏิบัติ การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาวันขั้นพื้นฐาน...
 
คางทูม
คางทูมคางทูม
คางทูม
 
แผลกดทับ
แผลกดทับแผลกดทับ
แผลกดทับ
 
จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้จิตวิทยาการเรียนรู้
จิตวิทยาการเรียนรู้
 
พินัยกรรมชีวิต
พินัยกรรมชีวิตพินัยกรรมชีวิต
พินัยกรรมชีวิต
 
118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)
118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)
118+heap4+dltv54+550209+a+สไลด์ การปฐมพยาบาล (1 หน้า)
 

Similar to ตื่นรู้

Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011 Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011 Wat Thai Washington, D.C.
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตTaweedham Dhamtawee
 
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดpentanino
 
พุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียนพุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียนniralai
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีTaweedham Dhamtawee
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrailTongsamut vorasan
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrailTongsamut vorasan
 
กลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิด
กลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิดกลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิด
กลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิดfreelance
 
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรหยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรPanda Jing
 

Similar to ตื่นรู้ (12)

Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011 Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
Saeng Dhamma Vol. 37 No. 437 September 2011
 
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011 Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
Saeng Dhamma Vol. 36 No. 434 June 2011
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ธรรมะเสวนา หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
 
17-cit-mano-vinna.pdf
17-cit-mano-vinna.pdf17-cit-mano-vinna.pdf
17-cit-mano-vinna.pdf
 
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
 
พุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียนพุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียน
 
Saengdhamma in august 2010
Saengdhamma in august 2010Saengdhamma in august 2010
Saengdhamma in august 2010
 
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสีธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ธรรมะเสวนา หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
 
กลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิด
กลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิดกลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิด
กลุ่มทับทิมกรอบ --เรื่องมนุษย์กับความคิด
 
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทรหยั่งลงก้นมหาสมุทร
หยั่งลงก้นมหาสมุทร
 

More from Pattie Pattie

สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567Pattie Pattie
 
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินรูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินPattie Pattie
 
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิรAIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิรPattie Pattie
 
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิชการบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิชPattie Pattie
 
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...Pattie Pattie
 
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganizationคณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganizationPattie Pattie
 
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสีการประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสีPattie Pattie
 
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567Pattie Pattie
 
ResearchfoundationPro.pdf
ResearchfoundationPro.pdfResearchfoundationPro.pdf
ResearchfoundationPro.pdfPattie Pattie
 
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdfPMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdfPattie Pattie
 
KrungthepThaonUniv.pptx
KrungthepThaonUniv.pptxKrungthepThaonUniv.pptx
KrungthepThaonUniv.pptxPattie Pattie
 
จาก KM สู่ SLC.pptx
จาก KM สู่ SLC.pptxจาก KM สู่ SLC.pptx
จาก KM สู่ SLC.pptxPattie Pattie
 
20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf
20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf
20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdfPattie Pattie
 

More from Pattie Pattie (20)

สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
 
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินรูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
 
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิรAIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
 
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิชการบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
 
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
 
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganizationคณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
 
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสีการประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
 
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
 
ResearchfoundationPro.pdf
ResearchfoundationPro.pdfResearchfoundationPro.pdf
ResearchfoundationPro.pdf
 
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdfPMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
 
670111_PDF.pdf
670111_PDF.pdf670111_PDF.pdf
670111_PDF.pdf
 
NoteMemoCare.pdf
NoteMemoCare.pdfNoteMemoCare.pdf
NoteMemoCare.pdf
 
KrungthepThaonUniv.pptx
KrungthepThaonUniv.pptxKrungthepThaonUniv.pptx
KrungthepThaonUniv.pptx
 
จาก KM สู่ SLC.pptx
จาก KM สู่ SLC.pptxจาก KM สู่ SLC.pptx
จาก KM สู่ SLC.pptx
 
Udom_Pdf.pdf
Udom_Pdf.pdfUdom_Pdf.pdf
Udom_Pdf.pdf
 
Kregrit_Pdf.pdf
Kregrit_Pdf.pdfKregrit_Pdf.pdf
Kregrit_Pdf.pdf
 
Phuket_sandbox.pdf
Phuket_sandbox.pdfPhuket_sandbox.pdf
Phuket_sandbox.pdf
 
Surin_ppt.pptx
Surin_ppt.pptxSurin_ppt.pptx
Surin_ppt.pptx
 
Nakornsawan.pdf
Nakornsawan.pdfNakornsawan.pdf
Nakornsawan.pdf
 
20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf
20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf
20230119-ar-พุทธวิธีตอนที่11.pdf
 

ตื่นรู้

  • 1.
  • 2.
  • 3.
  • 5. การตื่นรู้ อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด AWAKENING ISBN 978-616-7680-07-1 ผูŒเขียน ศาสตราจารยนายแพทยประเวศ วะสี พิมพครั้งที่ 1 ธันวาคม 2559 จํานวนพิมพ 1,000 เล‹ม สนับสนุนการจัดพิมพโดย มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ (มสส.) 1168 ซอยพหลโยธิน 22 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท 0 2511 5855 โทรสาร 0 2939 2122 www.thaissf.org www.facebook.com/thaissf.org พิมพที่ หŒางหุŒนส‹วนจํากัด ภาพพิมพ
  • 6. ดําเนินการผลิต เปนไท พับลิชชิ่ง โทรศัพท 0 2736 9918 โทรสาร 0 2736 8891 e-mail: waymagazine@yahoo.com website: www.waymagazine.org facebook: www.facebook.com/waymagazine twitter: www.twitter.com/way_magazine
  • 7. การตื่นรูŒ ศักยภาพของความเปšนมนุษย >>> ๙ ตัวอย‹างของการตื่นรูŒ >>> ๑๕ สมองของมนุษย ธรรมชาติที่รอการตื่นรูŒมา ๒๐๐,๐๐๐ ป‚ >>> ๓๓ วิกฤตอารยธรรมและทางออก >>> ๔๑ พหุบท: เสŒนทางอันหลากหลายสู‹การตื่นรูŒ >>> ๕๑ สารบัญ
  • 8. การเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ (Interactive Learning Through Action) กับการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) >>> ๖๕ การสรŒางสรรคสังคมขึ้นใหม‹ บุคคลวิวัฒน – กลุ‹มวิวัฒน – สังคมวิวัฒน >>> ๗๗ การศึกษากับการตื่นรูŒควรอยู‹ในกันและกัน >>> ๘๗ องคกรเจริญสติ – การเจริญสติของคนทั้งมวล อนาคต ของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด >>> ๙๕
  • 9.
  • 10. ๑. การตื่นรู้ ศักยภาพของความ เป็นมนุษย์ การตื่นรูŒเปšนธรรมชาติอีกอย‹างหนึ่งของมนุษย ที่เกิด จากการเขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวกัน ความจริงตาม ธรรมชาติอันกวŒางใหญ‹ไพศาลไม‹มีที่สิ้นสุด หลุดเปšน อิสระจากการติดอยู‹ในความบีบคั้นความคับแคบ เกิด ความสว‹างไสวและป‚ติสุขอันลํ้าลึกอย‹างไม‹เคยมีมาก‹อน มีมิตรภาพอันไพศาลต‹อเพื่อนมนุษยและสรรพสิ่ง อัน เปšนไปเพื่อการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติ 9AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 11. มนุษยอยู‹ในธรรมชาติของการปรุงแต‹ง ซึ่งแยก เปšนส‹วนๆ เปšนเขาเปšนเรา เปšนสิ่งที่ไม‹มีชีวิต สิ่งมีชีวิต นานัปการโดยเอาตัวเองเปšนศูนยกลางเปšนสมมติสัจจะ ไม‹ใช‹ความจริงตามธรรมชาติ เพราะความจริงตาม ธรรมชาติไม‹มีตัวตนของใครเปšนศูนยกลาง การเอา ตัวเองเปšนศูนยกลางจึงเปšนมายาคติ ตัวเองนั้นคับแคบ และขัดแยŒงกับความเปšนจริงตามธรรมชาติ มนุษยจึง ตกอยู‹ในความบีบคั้นไม‹เปšนอิสระ ขัดแยŒงในตนเอง และกับคนอื่นและสิ่งอื่น แมŒมนุษยจะสามารถศึกษา กฎเกณฑทางฟสิกสและนํามาประดิษฐเทคโนโลยีและ โลกทางวัตถุต‹างๆแต‹สภาพความขัดแยŒงในตนเองและ กับคนอื่นและสิ่งอื่นก็ยังดํารงอยู‹ หรือกลับมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งสรŒางสภาวะวิกฤตทั้งวิกฤตชีวิตวิกฤตสังคม และวิกฤตสิ่งแวดลŒอมแก‹โลกทั้งใบ มนุษยชาติคง ไม‹สามารถจะหลุดออกจากสภาวะวิกฤตในป˜จจุบัน ดŒวยการอยู‹ในสภาพของการปรุงแต‹งแยกส‹วนในแบบเดิม แต‹มนุษยไม‹ไดŒมีธรรมชาติการปรุงแต‹งแยกส‹วน แต‹เพียงอย‹างเดียว มนุษยยังมีธรรมชาติที่ซ‹อนเรŒนอยู‹ อีกอย‹างหนึ่ง ดังที่กล‹าวขŒางตŒน คือธรรมชาติของการ 10 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 12. เขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวกับความจริงตามธรรมชาติ ซึ่งก‹อใหŒเกิดการเปลี่ยนแปลงความรูŒสึกนึกคิด เหมือน เปšนคนใหม‹โดยสิ้นเชิงมีผูŒเรียกสภาพใหม‹นี้ว‹าการตื่นรูŒ บŒางและในชื่ออื่นๆอีกหลายอย‹างตามที่จะกล‹าวต‹อไป มนุษยเปšนสัตวประเภทหนึ่งที่มีชีวิตทางวัตถุ กิน นอน สืบพันธุ มีความชอบ ความไม‹ชอบ ความเกลียด ความกลัวการต‹อสูŒการหลบภัยและความบีบคั้นนานา ชนิด อันเปšนความรูŒสึกนึกคิดตามสติสามัญ แต‹มนุษยบางคนบางขณะมีประสบการณที่ทําใหŒ ความรูŒสึกนึกคิดเปลี่ยนไป มีความเปšนอิสระ เบาเนื้อ เบาตัว มีความสุขอย‹างลึกลํ้าซึมซ‹านไปทั้งเนื้อทั้งตัว ไม‹รูŒจะเรียกสภาวะอย‹างนี้ว‹าอะไร เรียกว‹า ความรูŒสึก อันเปšนทิพยบŒาง การเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒาบŒาง การเกิด จิตสํานึกใหม‹บŒาง การตื่นรูŒบŒาง การรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน บŒาง ฯลฯ วิธีอธิบายสภาวะอันเปšนทิพยนี้อย‹างหนึ่งก็คือเกิด ขึ้นจากจิตไปเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่ไม‹ปรุงแต‹ง ซึ่ง เชื่อมโยงเปšนหนึ่งเดียวกัน และใหญ‹โตอย‹างไม‹มีที่สิ้น 11AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 13. สุดเปšนอนันตกาลทําใหŒจิตสํานึกซึ่งเคยติดอยู‹ในความ คับแคบของตัวเองไปเชื่อมโยงกับความจริงที่ใหญ‹ที่สุด จึงเปšนอิสระหลุดพŒนจากความบีบคั้นอิสรภาพจากความ บีบคั้นเปšนความสุขอิสรภาพจึงเปšนอีกชื่อหนึ่งของความ สุข จิตสํานึกใหม‹เปšนจิตที่ใหญ‹ จิตสํานึกเก‹าเล็กติดอยู‹ ในความคับแคบ เสมือนติดอยู‹ในคุกที่มองไม‹เห็น การ ออกจากคุกทําใหŒมีความสุขฉันใด การที่จิตออกจากที่ คับแคบไปสู‹ธรรมชาติที่กวŒางใหญ‹ไพศาลแลŒวมีความสุข อย‹างมหาศาลก็เช‹นเดียวกัน การออกจากมายาคติคือการเอาตัวเองอันคับแคบ ไปเขŒาถึงความจริงของธรรมชาติ บางครั้งจึงเรียกว‹า ป˜ญญา หรือวิชชา และเรียกการติดอยู‹ในความไม‹รูŒ (ความจริง) ว‹าอวิชชา หรือความหลงไป (โมหะ) ธรรมชาติที่ใหญ‹สุดประมาณนั้นบางทีก็เรียกว‹า พระพรหมบŒาง ปรมาตมันบŒาง หรือพระผูŒเปšนเจŒาบŒาง ฉะนั้นการที่บางคติพูดถึงการเขŒาถึงพระพรหม หรือ ปรมาตมัน หรือพระผูŒเปšนเจŒา ก็มีความหมายทํานอง เดียวกับการเขŒาถึงธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุด 12 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 14. ฉะนั้น คําว‹า การเขŒาถึงความจริงหรือธรรมชาติ ที่ใหญ‹ที่สุด จึงเปšนคํากลางๆ ซึ่งอาจมีทางเขŒาถึงอัน หลากหลาย ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับศาสนาหรือไม‹เกี่ยวกับ ศาสนาก็ไดŒ การตื่นรูŒ (Awakening) ก็เช‹นเดียวกัน ที่หมายถึง ตื่นรูŒเพราะเขŒาถึงความจริงโดยวิธีใดๆก็ไดŒซึ่งอาจเกี่ยว หรือไม‹เกี่ยวกับศาสนาใดๆ ก็ไดŒ มีความเปšนสากล ที่ ทุกคนไปเจอกันไดŒหมด เปšนอนาคตที่กําลังผุดบังเกิด ของมนุษยชาติ เพราะมนุษยมีธรรมชาติของสมองเพื่อการตื่นรูŒ ซึ่งสัตวไม‹มี 13AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 15.
  • 16. ๒. ตัวอย่างของการตื่นรู้ (๑) มนุษย์อวกาศชื่อ Edgar Mitchell ไปยืนอยู‹บนดวงจันทร มองมาเห็นโลกทั้งใบลอยฟ†อง อยู‹ในอวกาศ เขากลับมายังโลกเปšนคนที่เปลี่ยนไปโดย สิ้นเชิง เขากล‹าวว‹า “I came back to Earth, a totally changed man” (ผมกลับมายังโลก เปšนคนที่เปลี่ยน ไปโดยสิ้นเชิง) โดยมีความรูŒสึกนึกคิดใหม‹มีความเบาสบายเปšน อิสระจากความบีบคั้นมีความสุขอย‹างลํ้าลึกมีความรัก อันไพศาลต‹อเพื่อนมนุษยและสรรพสิ่ง 15AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 17. เขาเกิดจิตสํานึกใหม‹ (New Consciousness) ซึ่ง เกิดจากการเขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวของโลกทั้งใบ กล‹าวคืออยู‹บนโลกก็เห็นแบบแยกส‹วนเปšนสิ่งนั้นสิ่ง นี้ แต‹อยู‹บนดวงจันทรเห็นโลกทั้งใบเปšนหนึ่งเดียวกัน ธรรมชาติมีความเปšนหนึ่งเดียวกัน เมื่อจิตเราเขŒาถึง ความจริงอันเปšนหนึ่งเดียวกันก็เกิดจิตสํานึกใหม‹ อัน เปšนจิตสํานึกใหญ‹ ซึ่งทําใหŒความรูŒสึกนึกคิดเปลี่ยน ไปหมดที่เขากล‹าวว‹า “ผมกลับมายังโลกเปšนคนที่ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง” เอ็ดการมิทเชลลรูŒแลŒวว‹าจิตสํานึกเปลี่ยนแปลงไดŒ และจิตสํานึกใหม‹นี้ดีเหลือเกินเพราะทําใหŒเกิดความสุข อย‹างลŒนเหลือ และความรักอันไพศาลต‹อเพื่อนมนุษย และสรรพสิ่งจักเปšนไปเพื่อการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติเขา จึงตั้งสถาบันที่มีชื่อว‹า Institute of Noetic Sciences (IONS) ที่แคลิฟอรเนีย ทําหนŒาที่ศึกษาวิจัย ฝƒกอบรม และเผยแพร‹ เกี่ยวกับจิตสํานึกใหม‹ 16 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 18. (๒) Eckhart Tolle ชาวแคนาดา เปšนผูŒมีความทุกขมากจนคิดจะฆ‹าตัวตายอยู‹หลายครั้ง เชŒาวันหนึ่งคิดว‹าวันนี้ตŒองเอาแน‹ เขาพูดกับตัวเองว‹า “I cannot live with myself any longer” (ฉันอยู‹กับ ตัวเองคนนี้ต‹อไปไม‹ไดŒแลŒว) การพูดกับตัวเองเช‹นนั้น กระตุกความคิดเขาว‹า ที่ว‹า I cannot live with myself นั้น I กับ myself มันเปšนคนละคนกันหรืออย‹างไร ตัวเอง (ร‹างกาย) มันเต็มไปดŒวยความทุกข ฉัน (จิต) อยู‹กับมันจะไม‹ไดŒอีกแลŒว จิตเลยหลุดจากอํานาจกาย เขากลายเปšนคนไม‹มี ความทุกขอีกต‹อไป เขาก็ไม‹เขŒาใจเหมือนกันว‹ามีอะไร เกิดขึ้น อยู‹ต‹อมาอีกเปšนสัปดาหๆ เขาก็ไม‹มีความทุกข กลายเปšนคนมีความสุขอย‹างถาวร กลายเปšนครูสอน เรื่องความสุข เขาเขียนหนังสือขายดีเล‹มหนึ่งชื่อว‹า ‘The Power of Now’ อํานาจแห‹งป˜จจุบันขณะ การรูŒอยู‹กับป˜จจุบันขณะคือการมีสติ ถŒามีสติก็ ไม‹มีความทุกข 17AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 19. เพราะความทุกขเกิดจากการคิดขณะที่คิดไม‹รูŒอยู‹ กับป˜จจุบัน เช‹น เดินคิดโน‹นคิดนี่ ไม‹รูŒว‹าป˜จจุบันกําลัง จะชนแลŒว จึงถูกรถชนตาย ขณะที่รูŒอยู‹กับป˜จจุบัน จะ เปลี่ยนจากคิดเปšนรูŒ จิตจะสงบจากความคิดรูŒอยู‹กับ ป˜จจุบัน สงบอย‹างยิ่ง สุขอย‹างยิ่ง เพราะฉะนั้นชื่อหนึ่ง ของความสุขคือความสงบ สงบจากความคิด แมŒไปอยู‹ ในที่สงัดแต‹ถŒาการคิดยังคุกรุ‹นก็ไม‹สงบ การมีสติก็คือการตื่นรูŒ คือการไม‹ประมาท ถŒาเราอยู‹ในโลกของการคิดปรุงแต‹งเราไม‹สามารถ สัมผัสธรรมชาติความเปšนจริงไดŒ แต‹เมื่อมีสติรูŒกับ ป˜จจุบันจิตสงบจึงสัมผัสความจริงตามธรรมชาติหรือ เขŒาถึงความจริง เรียกว‹าสติทําใหŒเกิดป˜ญญา (เขŒาถึง ความจริงตามธรรมชาติ)กล‹าวมาแลŒวขŒางตŒนว‹าป˜ญญา อิสรภาพ ความสุข-เปšนเรื่องเดียวกัน เอ็คฮารท โทลเล จึงเขียนเรื่องพลังอํานาจแห‹ง ป˜จจุบันขณะหรือพลังอํานาจแห‹งการมีสติรูŒอยู‹กับ ป˜จจุบันนั่นเอง ที่ว‹าจิตของ เอ็คฮารท (I) แยกหลุดจากอํานาจ 18 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 20. ของกาย (myself) นั้นอธิบายดังนี้ ตามปรกติจิตตกอยู‹ในอํานาจของกาย เช‹น กาย เจ็บป†วยไม‹สบาย จิตก็เจ็บป†วยไม‹สบายไปดŒวย ดังที่ พูดว‹าไม‹สบายกายไม‹สบายใจหรือกายกับใจเปšนคู‹แฝด ติดกัน กายนั้นโดยธรรมชาติเจ็บป†วยอยู‹เปšนประจํา ใจ จึงเจ็บป†วยไปดŒวย แต‹บางคนสามารถแยกใจไม‹ใหŒเจ็บป†วยไปกับกาย ไดŒ คือกายป†วย แต‹ใจไม‹ป†วยไปดŒวย ดังที่ท‹านอาจารย พุทธทาสสอนว‹า 19AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 21. หรืออย‹างที่พระพรหมคุณาภรณ (ป.อ.ปยุตฺโต) สอนไวŒในเรื่อง รักษาศีลจิตไว้ เมื่อกายป่วย จะทําอย‹างไร เมื่อร‹างกายเจ็บป†วย จิตใจจะไม‹ แปรปรวนตาม พระพุทธเจŒาไดŒทรงคŒนควŒาเรื่องของ ชีวิตไวŒมากมายแลŒวหนทางช‹วยใหŒคนทั้งหลายมีความ สุข พระองคเคยพบท‹านที่ร‹างกายไม‹สบาย เจ็บไขŒไดŒ ป†วย พระองคเคยตรัสสอนว‹า ใหŒทําในใจ ตั้งใจไวŒว‹า ถึงร‹างกายของเราจะป†วย แต‹ใจของเราไม‹ป†วยไปดŒวย การตั้งใจอย‹างนี้เรียกว‹า มีสติ ทําใหŒจิตใจไม‹ตกอยู‹ใน อํานาจครอบงําของความแปรปรวนในร‹างกายนั้น เอ็คฮารท โทลเล เมื่อตั้งคําถามว‹า “เอะ ฉัน (I) (ซึ่งคือจิต)กับตัวเอง(myself)(ซึ่งคือกาย)มันคนละ คนกันหรืออย‹างไร?”เกิดกระตุกทางป˜ญญาจิตพŒนจาก 20 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 22. อํานาจกาย เปšนอิสระ ตื่นรูŒ หมดทุกข ทํานองเดียวกัน ในนิกายเซนที่มีการตั้งคําถามเพื่อกระตุกทางป˜ญญา เพื่อตีประเด็นแตกก็ซาโตริบรรลุธรรมทันทีซึ่งเขามีชื่อ เรียกว‹าเปšนพวกSuddenSchoolหรือพวกฉับพลันทันที (๓) หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ หลวงพ‹อเทียนเปšนพระแบบชาวบŒาน ไม‹มีความรูŒทาง ปริยัติมากมายแต‹ประการใด คราวหนึ่งท‹านคŒนพบว‹า เมื่อทํามือเคลื่อนไหวไปในท‹าต‹างๆ แลŒวใหŒจิตตามรูŒไป กับการเคลื่อนไหวของแขนและมือ เมื่อตามรูŒไปสักพัก หนึ่ง ปรากฏว‹าสงบจากการคิด ท‹านก็ฝƒกทําไปเรื่อยๆ และก็ฝƒกตามรูŒ ความรูŒสึกนึกคิด เมื่อรูŒความคิด ความ ที่กําลังคิดก็สงบไป ทําไปๆ ก็กลายเปšนว‹ารูŒกายรูŒใจต‹อ เนื่องวันหนึ่งขณะที่กําลังเดินอย‹างรูŒตัวต‹อเนื่องท‹านว‹า จู‹ๆ มันก็ “ขาดผึง” ไปเลย กลายเปšนคนใหม‹ มีความ รูŒสึกนึกคิดใหม‹คงจะทํานองเดียวกับที่เอ็ดการมิทเชลล กล‹าวว‹าเขาเปšนคนที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง (กรณีที่ ๑ ขŒางตŒน) 21AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 23. การตามรูŒ ก็คือ การมีสติ รูŒอยู‹กับป˜จจุบันนั่นเอง สติทําใหŒจิตสงบและเขŒาถึงป˜ญญาซึ่งจะเรียกว‹าการตื่นรูŒ การตื่นรูŒดŒวยวิธีต‹างๆซึ่งจะกล‹าวถึงต‹อไปอาจกล‹าวว‹า มีสติ เปšนฐานทั้งสิ้นก็ไดŒ พระพุทธองคจึงตรัสว‹า สติเปšนทางอันเอก (เอกะมัคโค) (๔) อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ อาจารยประมวลเรียนปรัชญาที่ประเทศอินเดียและเปšน อาจารยสอนปรัชญาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม‹ปรัชญา นั้นว‹าดŒวยการคิดและการตั้งคําถามว‹าอะไรเปšนอะไร วิธีการหาคําตอบต‹อคําถามที่ตั้งเปšนวิทยาศาสตร คําตอบที่ไดŒคือความรูŒ การนําความรูŒไปประยุกตใชŒ เรียกว‹าเทคโนโลยี ปรัชญา วิทยาศาสตร เทคโนโลยี จึงเปšนกระบวนการต‹อเนื่องกันไปอันเปšนวิสัยของ วิชาการในโลกในป˜จจุบัน อาจารยประมวลซึ่งสอนปรัชญาอยู‹ในมหาวิทยาลัย 22 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 24. อาจจะยังรูŒสึกไม‹มีความสมบูรณในตัวเองและแสวงหา วันหนึ่งเกิดทําสิ่งที่แปลกประหลาด คือออกเดินดŒวย เทŒาจากเชียงใหม‹ไปบŒานเกิดของท‹านที่เกาะสมุย โดย ในตัวเองไม‹มีเงินสักบาทเดียว ใครใหŒกินก็กิน ไม‹มีใคร ใหŒกินก็ไม‹กิน พักตามศาลาวัดหรืออะไรก็แลŒวแต‹ที่จะ พักไดŒ ดุ‹มเดินไปตามทาง สัมผัสอยู‹กับธรรมชาติอย‹าง ที่เปšนไปลŒวนๆ โดยไม‹มีมายาคติอะไรมาขวางกั้น เช‹น เงิน หรือฐานะความเปšนอาจารยมหาวิทยาลัย จากคนที่คิด (เชิงปรัชญา) มาเปšนสัมผัสอยู‹กับ ธรรมชาติความเปšนจริงลŒวนๆ ของภูมิประเทศ ดิน ฟ‡า อากาศ ชีวิตของผูŒคน โดยเฉพาะของชาวบŒานที่ยากไรŒ หรือแมŒแต‹สุนัขขี้เรื้อน ที่มาอิงแอบหาไออุ‹นขณะนอน ในศาลาวัด เมื่อเปลี่ยนจากคนที่คิด (ดŒวยสมอง) มาเปšนคนที่ รูŒ (ความจริงตามธรรมชาติ) ดŒวยใจ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transforma- tion) ในตนเอง ความรูŒสึกนึกคิดก็เปลี่ยนไปเหมือนเปšนคนใหม‹คือ 23AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 25. มีความสงบมีอิสรภาพดื่มดํ่าอยู‹กับความสุขและความ เมตตามหาศาล เมื่อออกเดินทางจากเชียงใหม‹อาจารยประมวลเปšน คนหนึ่งแต‹เมื่อถึงเกาะสมุย‘เปšนคนที่เปลี่ยนไปโดยสิ้น เชิง’ เปลี่ยนจากคนที่อยู‹ในความคิดปรุงแต‹งไปเปšนคน ที่สัมผัสอยู‹กับความจริงตามธรรมชาติ เมื่ออาจารยประมวลกลับไปเยือนอินเดีย สถาน ที่เคยศึกษามาแต‹เก‹าก‹อน สัมผัสอินเดียคราวแรกกับ คราวหลังไม‹เหมือนกัน คราวแรกสัมผัสดŒวยความคิดเพราะเรียนปรัชญา ในการคิดย‹อมมีชอบมีชัง มีความคาดหวัง สมหวังและ ผิดหวัง อาจเรียกว‹าจิตมีความดิ้นรนทุรนทุรายก็ไดŒ แต‹ไปคราวหลังดŒวยจิตที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สัมผัสอยู‹กับความเปšนจริงว‹ามันเปšนเช‹นนั้นเองมีความ สงบเห็นความงามและคุณค‹าของผูŒคนและสรรพสิ่งทุก อย‹างกลายเปšนความงามและความสุขต‹างกันราวฟ‡ากับ ดินจากเมื่อมาศึกษาที่อินเดียคราวก‹อน 24 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 26. มนุษยอยู‹ในการคิดเปšนวิสัย จะหŒามไม‹ใหŒคิดไม‹ ไดŒการคิดมีประโยชนในแง‹ที่ทําใหŒเกิดความรูŒแต‹ขณะ เดียวกันก็มีดŒานที่เปšนโทษกล‹าวคือทําใหŒเกิดความทุกข ความทุกขเกิดจากการคิด ตัวอย‹างนิทานโบราณมีว‹า พระกับเณรเดินทาง ไปดŒวยกันในป†า มาถึงลําธารแห‹งหนึ่ง มีผูŒหญิงจะขŒาม แต‹ขŒามไม‹ไดŒ พระก็เลยสงเคราะหอุŒมผูŒหญิงขŒามส‹งไป แลŒวพระกับเณรก็เดินกันต‹อไปเณรคิดมาตลอดทางว‹า ทําไมหลวงพี่จึงไปอุŒมผูŒหญิง (ขŒามลําธาร)ๆๆ เมื่อถึง วัดจนล‹วงเวลาคํ่าคืนเณรก็ยังนอนไม‹หลับเฝ‡าแต‹คิดว‹า ‘ทําไมหลวงพี่ไปอุŒมผูŒหญิง’จนดึกทนไม‹ไหวจึงไปเคาะ หŒองหลวงพี่ซึ่งหลับไปแลŒวถามเสียงเครียดว‹า“หลวงพี่ วันนี้ทําไมถึงไปอุŒมผูŒหญิง” พระตอบว‹า “เราอุŒมเราก็วางไปแลŒวที่ฝ˜›งตรงขŒามลําธารแต‹เณร สิอุŒมมาตลอดเวลา (ในความคิด) วางไม‹ลง” หรืออย‹างที่มีผูŒหญิงผูŒหนึ่งคิดมากมีความทุกข ต‹อเนื่องอยู‹หลายวันหลายคืนบ‹นว‹า“นี่ถŒาฉันหยุดคิดไดŒ ฉันก็หายทุกข” 25AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 27. ขณะที่มีสติรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน ขณะนั้นความคิดสงบ ไป ความทุกขจึงทําอะไรไม‹ไดŒ ในการคิดถŒาไม‹รูŒตัวจะตกเปšนเหยื่อของความชอบ หรือไม‹ชอบ ซึ่งจะพาเราไปไกลแสนไกลในอกุศลมูล เช‹น ความโลภอันไม‹มีที่สิ้นสุด ความโกรธที่ไม‹ไดŒตั้งใจ พาไปสู‹พยาบาท วิหิงสา คิดทํารŒายผูŒอื่น ท‹านกฤษณะ มูรติซึ่งเปšนศาสดาร‹วมสมัยที่ทําการสอนอยู‹ในอินเดีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ไดŒพูดและเขียนเกี่ยวกับโทษ ของการคิด ไวŒมาก ว‹าความรุนแรงทั้งหลายที่เกิดขึ้น ในโลกเกิดจากการคิด ในหนังสือเล‹มหนึ่งของท‹านชื่อ Beyond Violence ซึ่งท‹านจะพรํ่าสอนซํ้าแลŒวซํ้าอีกว‹า โลกจะมีสันติไดŒก็ต‹อเมื่อมนุษยพากันออกจากการคิด ไปสู‹การรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน ซึ่งก็คือการมีสตินั่นเอง (๕) นายกําพล ทองบุญนุ่ม กําพลเปšนเด็กที่ยากจนใฝ†ฝ˜นที่จะมีโอกาสไดŒเขŒาไปเรียน ในมหาวิทยาลัย ไดŒพบผูŒอุปถัมภไดŒเขŒาเรียนพลศึกษา สมใจนึกไดŒทํางานเปšนครูพลศึกษามีความสุขอย‹างยิ่ง 26 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 28. แลŒววันหนึ่งอนาคตก็ดับวูบลงทันที เมื่อเขาสอนการ พุ‹งหลาวลงนํ้าแลŒวหัวไปกระแทกพื้น กระดูกตŒนคอหัก กดไขสันหลังทําใหŒเปšนอัมพาตแขนขาทั้ง๒ขŒางที่เรียก ว‹าอัมพาตทั้งสี่(Tetraplegia)แลŒวชีวิตจะทําอย‹างไรต‹อ ไปกําพลขวนขวายฝƒกเจริญสติดŒวยวิธีต‹างๆจนจิตตื่นรูŒ กับป˜จจุบันตลอดเวลาความทุกขหายไปหมดเขากล‹าว ว‹า“ความทุกขน‹ะหรือลาจากกันโดยสิ้นเชิง”กลายเปšน ครูสอนความสุขใหŒคนอื่นๆ (๖) พระคิริมานนท์ ในครั้งพุทธกาล สมัยหนึ่งเมื่อพระพุทธองคประทับอยู‹ 27AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 29. ณ วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี พระรูปหนึ่งชื่อคิริมานนท อาพาธมีอาการทุกขทรมานอย‹างมาก พระอานนท เขŒาไปกราบทูลพระพุทธองคขอใหŒเสด็จไปเยี่ยม พระคิริมานนทถึงที่อยู‹ พระพุทธองคตรัสสัญญา ๑๐ ประการ ใหŒพระอานนทไปสวดใหŒพระคิริมานนทฟ˜ง พระคิริมานนทฟ˜งก็หายป†วยทันที สัญญา ๑๐ เกี่ยวกับ ความเปšนจริงของชีวิตว‹าเปšนอนิจจัง อนัตตา อสุภะ ความเปšนรังโรค … เรื่อยไปจนถึงวิราคะ นิโรธ และ อานาปานสติ คิริมานนทสูตร นิยมใชŒสวดรักษาโรคคู‹กันกับ โพชฌงค ๗ ทั้ง๒พระสูตรนี้เปšนการกระตุกทางสติและป˜ญญา ทําใหŒเกิดการตื่นรูŒ ซึ่งทําใหŒหลุดจากอํานาจความเจ็บ ป†วยทางกายไดŒ (๗) ปรมหังสาโยคานันทะ หนังสือ อัตตชีวประวัติของโยคี โดย ปรมหังสา โยคา นันทะผูŒนําโยคะศาสตรไปเผยแพร‹ในสหรัฐอเมริกาใหŒ 28 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 30. คนตะวันตกไดŒเขŒาใจเรื่องการตื่นรูŒ โดยการเขŒาถึงพระ ผูŒเปšนเจŒามีเรื่องราวของสวามีโยคีนักบุญคนธรรมดา สามัญที่เขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒาดŒวยโยควิธีโยคะหมายถึง วิธีการที่ช‹วยใหŒเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา อันเปšนสภาพของ การตื่นรูŒเปšนเอกภาพกับธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุด ศานติ และเอิบอาบเป‚›ยมลŒนไปดŒวยอิสรภาพและความสุข (๘) A World Waiting To Be Born เปšนชื่อหนังสือของจิตแพทยอเมริกันชื่อ Scott Peck เขารักษาคนเอมริกันที่มีความทุกขจํานวนมากจนรักษา ไม‹ไหวต‹อมาเขาพบว‹าตัวเองตŒองช‹วยส‹งเสริมใหŒมีการ 29AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 31. รวมตัวร‹วมคิดร‹วมทํา การรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทําเขา เรียกว‹าสรŒางความเปšนชุมชน (Community Building) คําว‹าชุมชนไม‹จําเปšนตŒองหมายถึงหมู‹บŒานเสมอไป เมื่อมีการรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทํากันเรื่องอะไรก็ถือว‹ามี ความเปšนชุมชนในเรื่องนั้น สก็อต เพ็ค พบว‹าเมื่อสรŒาง ความเปšนชุมชนไดŒสําเร็จทุกคนมีความสุขประดุจบรรลุ นิพพาน เพราะในความเปšนชุมชนมีการลดความเห็น แก‹ตัว มีความเสมอภาค ภราดรภาพ ความเอื้ออาทร ความเปดเผยและจริงใจต‹อกันเรียกว‹าเกิดจิตสํานึก ใหม‹ ซึ่งเปšนจิตสํานึกที่ใหญ‹กว‹าตนเอง อาจเรียกว‹า เปšนการบรรลุธรรมทางสังคมก็ไดŒ เรื่องนี้ดูเพิ่มเติมไดŒ ในตอนที่ ๖ 30 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 32. สําหรับผูŒที่คุŒนเคยเรื่องการตื่นรูŒ หรือเรื่องการ เจริญสติ หรือเรื่องการเกิดจิตสํานึกใหม‹ จะคุŒนเคยกับ เรื่องทํานองกรณีตัวอย‹างที่กล‹าวมาขŒางตŒนเปšนอย‹างดี สําหรับผูŒที่ยังใหม‹ต‹อเรื่องนี้ ก็เปšนทํานองเรื่องเล‹า พอ ใหŒเห็นภาพของการเกิดการตื่นรูŒหรือจิตสํานึกใหม‹ใน หนทางที่แตกต‹างหลากหลายเพื่อปูทางไปสู‹พหุบทแห‹ง การตื่นรูŒ ในบทหลังๆ 31AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 33.
  • 34. ๓. สมองของมนุษย์ ธรรมชาติที่รอการ ตื่นรู้มา ๒๐๐,๐๐๐ ปี สมองของมนุษยเปšนสุดยอดวิวัฒนาการของธรรมชาติ เพราะสมองมนุษยเปšนโครงสรŒางที่วิจิตรที่สุดใน จักรวาล สามารถเรียนรูŒใหŒบรรลุอะไรก็ไดŒ เนื่องจากมนุษยพัฒนามาจากสัตว จึงมีส‹วนที่ เปšนสัตวอยู‹ในตัวมนุษย ทั้งทางรูปธรรมและนามธรรม ดีเอ็นเอของมนุษยกับลิงชิมแปนซีต‹างกันไม‹ถึง ๕ 33AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 35. เปอรเซ็นตสมองมนุษยเมื่อผ‹าซีกก็สามารถเห็นไดŒดŒวย ตาเปล‹าว‹าแบ‹งเปšน ๓ ชั้น คือ ชั้นในสุดอยู‹ขŒางหลังเรียกว‹าสมองสัตวเลื้อยคลาน (Reptilian brain) ชั้นกลาง เรียกว‹าสมองสัตวเลี้ยงลูกดŒวยนํ้านม (Mammalian brain) ชั้นนอกสุด อยู‹ขŒางหนŒา เปšนสมองมนุษย เรียกว‹า ส‹วนนอกใหม‹ (Neo-cortex) สมองมนุษย์ = สติป˜ญญา วิจารณญาณ ศีลธรรม สมอง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม = อารมณ สมอง สัตว์เลื้อยคลาน = ความอยู‹รอด 34 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 36. สมองส‹วนที่เปšนธรรมชาติของสัตวก็ทําหนŒาที่อย‹าง ตามธรรมชาติของสัตว เช‹น การกิน การสืบพันธุ การ ต‹อสูŒ การหลบภัย สมองส‹วนหนŒาหรือสมองมนุษยนั้น ทําหนŒาที่ ในเรื่องนามธรรมที่สูงขึ้นไปจากวัตถุ เช‹น สติป˜ญญา วิจารณญาณ ศีลธรรม ความเห็นใจผูŒอื่น การอยาก ช‹วยเหลือเพื่อนมนุษย เปšนส‹วนที่ทําใหŒมนุษยต‹างไป จากสัตวคือเปšนผูŒมีจิตใจสูงสัตวนั้นมีแต‹สัญชาตญาณ ลŒวนๆไม‹มีบุญไม‹มีบาปเช‹นเสือไปกัดกวางตายก็ไม‹มี ใครว‹าเปšนบาป มนุษยมีสมองส‹วนที่เปšนศีลธรรมอยู‹ตรงหลังหนŒา ผาก เคยมีผูŒป†วยเกิดอุบัติเหตุรถชนกันแลŒวหนŒาผาก ยุบ พฤติกรรมที่เคยมีศีลธรรมหายไป ในสมัยป˜จจุบัน มีเครื่องที่ทําใหŒเห็นภาพสมองที่เรียกว‹า Brain Imag- ing ที่สามารถเห็นว‹าเมื่อมีความรูŒสึกนึกคิดอย‹างไร ส‹วนใดของสมองที่ตื่นตัวขึ้น เช‹น เมื่อมีการนําพระ ธิเบตที่บําเพ็ญสมาธิภาวนามานานมาเขŒาเครื่องตรวจ ก็พบว‹าสมองส‹วนหนŒาปลายสุดของซŒายแดงขึ้น และ มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในสมอง การตรวจคลื่นสมอง 35AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 37. พบว‹าการเจริญสติทําใหŒส‹วนต‹างๆ ของสมองทํางาน ประสานกัน (harmony) เหมือนเครื่องดนตรีทุกชิ้นใน วงบรรเลงเพลงเดียวกัน ในคนธรรมดาทั่วไปสมองจะวุ‹นดŒวยการคิดโน‹น คิดนี่ และความรูŒสึกต‹างๆ ดังที่คําเรียกว‹าจิตวุ‹น ลอง นึกถึงว‹าเครื่องดนตรีแต‹ละชิ้นบรรเลงไปคนละเพลงคง วุ‹นวายสับสนไม‹น‹าฟ˜งแต‹เมื่อจิตสงบสมองเกิดharmony เหมือนทุกส‹วนร‹วมเล‹นเพลงเดียวกันเกิดความไพเราะ สุดประมาณ เมื่อสมองเกิด harmony จะมีการหลั่งสารต‹างๆ ออกมาหลายชนิดที่ก‹อใหŒเกิดความสุข อาจเรียกรวมๆ กันว‹าสารสุข ป˜จจุบันไดŒมีการศึกษาจนมีความรูŒว‹าอณู ของสารเหล‹านี้เปšนอะไร และไปออกฤทธิ์อย‹างไร จึง ทําใหŒเกิดความสุขไปทั้งเนื้อทั้งตัวเพราะฉะนั้นผูŒที่เจริญ สติเจริญสมาธิจนจิตสงบจึงเกิดความสุขเกิดซาบซ‹านไป ทั้งเนื้อทั้งตัว (bliss) นี้ก็เปšนอานิสงสของการมีจิตสงบ จากความคิดปรุงแต‹ง หรืออย‹างที่บรรยายกันว‹าพระอรหันตทั้งหลาย 36 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 38. เพราะหมดกิเลสโดยสิ้นเชิงเสวยวิมุตติสุขหรือความสุข หรือความสุขอย‹างยิ่งหรือบรมสุขเช‹นเดียวกับการเกิด ทิพยสุขของผูŒเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา มนุษยอย‹างที่เปšนมนุษยในป˜จจุบันที่เรียกว‹าHomo sapiensนี้มีอายุประมาณ๒๐๐,๐๐๐ป‚จึงกล‹าวว‹าสมอง ส‹วนหนŒาของมนุษยที่ทําใหŒมนุษยบรรลุสภาพการตื่นรูŒ หรือการเกิดจิตสํานึกใหม‹ หรือการบรรลุธรรมนั้นรอ การใชŒมา ๒๐๐,๐๐๐ ป‚แลŒว แต‹การทํางานของสมองนั้นขึ้นอยู‹กับสัมพันธภาพ ระหว‹างมนุษยและระหว‹างมนุษยกับสิ่งแวดลŒอม ในสมัยดึกดําบรรพมนุษยตŒองยุ‹งอยู‹กับการ แสวงหาอาหารต‹อสูŒและหลบภัยจากภยันตรายต‹างๆ ตลอดเวลาก็ตŒองใชŒสมองส‹วนหลังหรือสมองสัตวเลื้อย- คลานเปšนส‹วนใหญ‹ มีปฏิกิริยาตอบโตŒกับธรรมชาติไป เยี่ยงสัตวหรือเปšนสัตวนั้นเองสมองส‹วนหนŒาซึ่งเปšนที่อยู‹ ของนามธรรมอันสูงส‹งไม‹มีโอกาสไดŒพัฒนา ในช‹วงประมาณ๔,๐๐๐-๑,๕๐๐ป‚ที่ผ‹านมาตŒองมี ความประจวบเหมาะทางเรื่องความสมบูรณของอาหาร 37AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 39. และสภาพสังคมที่เกิดป˜ญญาใหญ‹ๆขึ้นจะเปšนอุปนิษัท ก็ดีพระพุทธเจŒาก็ดีเหล‹าจื้อแห‹งลัทธิเตŽาก็ดีพระคริสต ก็ดีพระมะหะหมัดก็ดีลŒวนเกิดในช‹วงนี้เสมือนเปšนBig Bang ทางจิตสํานึก ประมาณ ๕๐๐ ป‚ ที่มีการคŒนหาทางวิทยาศาสตร และนํามาสรŒางเปšนเทคโนโลยี โลกก็เอียงมาทาง วัตถุนิยมมากขึ้นๆ จนมากที่สุด ซึ่งทําใหŒเสมือนปด สมองส‹วนที่เปšนนามธรรม ซึ่งเกี่ยวกับการตื่นรูŒ หรือ การมีจิตสํานึกใหม‹หรือการบรรลุธรรมไปเสียและเมื่อ โลกประสบสภาวะวิกฤตเนื่องจากอารยธรรมวัตถุนิยม ก็จะตŒองหันมาพัฒนาสมองส‹วนที่เปšนศักยภาพสูงสุด ของความเปšนมนุษยเพื่อการตื่นรูŒเพื่อการเกิดจิตสํานึก ใหม‹ ซึ่งรอการใชŒงานมา ๒๐๐,๐๐๐ ป‚แลŒว 38 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 40. 39AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 41.
  • 42. ๔. วิกฤตอารยธรรม และทางออก มนุษยอย‹างที่เปšนมนุษยป˜จจุบันที่เรียกว‹า Homo sa- piens มีอายุประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ป‚ ซึ่งสั้นมากถŒาเทียบ กับอายุของโลกประมาณ๔,๕๐๐ลŒานป‚และสรรพชีวิต ต‹างๆ ที่มีวิวัฒนาการมาประมาณ ๓,๕๐๐ ลŒานป‚ และ จะยิ่งสั้นมากถŒาพิจารณาถึงในช‹วง๒๐๐,๐๐๐ป‚นั้นเปšน ชีวิตแบบล‹าสัตวเก็บของป†าเสีย๑๙๐,๐๐๐ป‚เพิ่งตั้งเปšน ชุมชนเกษตรกรรมก็แค‹๑๐,๐๐๐ป‚เท‹านั้นเองและเปšน สังคมใหม‹ก็ประมาณ ๕๐๐ ป‚เท‹านั้น 41AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 43. แต‹ในช‹วงเวลาอันสั้น มนุษยก‹อใหŒเกิดการ เปลี่ยนแปลงบนโลกใบนี้มากที่สุดอย‹างที่ไม‹มีธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงสรรพสัตวชนิดอื่นๆ ทั้งหมดทําใหŒเกิดขึ้นมา ก‹อนก‹อนมีมนุษยสรรพธรรมชาติทั้งหลายมีปฏิสัมพันธ กันแบบรักษาสมดุล และปรับคืนสู‹สมดุล ถึงสัตวใหญ‹ จะกินสัตวเล็กก็ทําไปตามธรรมชาติของความอยู‹รอด เท‹านั้น ธรรมชาติของโลกจึงอยู‹ในสมดุล และยั่งยืนมา นับดŒวยพันลŒานป‚ แต‹มนุษย โดยเฉพาะใน ๕๐๐ ป‚หลัง อยู‹เหนือ ความสัมพันธตามธรรมชาติดังกล‹าวขŒางตŒน เปšนตŒน เหตุของการทําลายชีวิตของพันธุพืชและสัตวจนสูญพันธุ ไปจากโลกนับหมื่นนับแสนสป‚ชีสทําลายป†าไมŒหนŒาดิน สรŒางมลพิษในสิ่งแวดลŒอม ปล‹อยวัตถุธาตุบางอย‹าง สู‹ชั้นบรรยากาศ จนทําใหŒเกิดสภาวะโลกรŒอน และ ก‹อใหŒเกิดหายนะภัยต‹างๆ รุนแรงมากขึ้น ฯลฯ จนมี ผูŒกล‹าวว‹าธรรมชาติสิ้นสุดแลŒว (The end of Nature) ถŒาธรรมชาติสิ้นสุดมนุษยก็สิ้นสุดดŒวยเพราะธรรมชาติ เปšนประดุจมารดาของสรรพชีวิต ดังที่เรียกขานกันว‹า พระแม‹ธรรมชาติ (Mother Nature) 42 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 44. แมŒอารยธรรมสมัยใหม‹ไดŒสรŒางความรูŒและ เทคโนโลยีอันมหัศจรรยต‹างๆ ที่อํานวยความสะดวก แก‹ชีวิต เช‹น เครื่องยนตกลไกต‹างๆ เทคโนโลยีการ คมนาคมและการสื่อสารยารักษาโรคสามารถเดินทาง ไปลงดวงจันทรและดวงดาวอื่นๆ ฯลฯ แต‹ไม‹สามารถ สรŒางการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติความเหลื่อมลํ้ามีมากขึ้น อันนําไปสู‹ป˜ญหาต‹างๆ มีความขัดแยŒง ความรุนแรง สงคราม การอพยพ หลบภัยความยากจน และความ รุนแรงของมนุษยจํานวนมากอย‹างไม‹เคยมีมาก‹อนผูŒคน มีความกดดันและความเครียดมากขึ้นทําใหŒเกิดการฆ‹า ตัวตาย ฆ‹าผูŒอื่นตาย เช‹น การกราดยิงโดยไม‹มีเหตุผล เกิดการก‹อการรŒายสากล ฯลฯ ทําไมในเมื่อมนุษยก็มีสติป˜ญญาสูง มีการคŒนพบ ความรูŒที่อัศจรรยต‹างๆที่ไดŒรับรางวัลโนเบลกันก็จํานวน มาก แต‹ดูไม‹มีความหวังว‹ามนุษยชาติจะสามารถสรŒาง ระบบการอยู‹ร‹วมกันอย‹างสันติ ทั้งระหว‹างคนกับคน และระหว‹างคนกับธรรมชาติแวดลŒอม จนกระทั่งมี ผูŒเรียกสภาวะป˜จจุบันว‹าเปšนวิกฤตอารยธรรม (Civi- lization Crisis) 43AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 45. นักปราชญฝรั่ง๓คนคือLaslo,GrafและRussell คุยกันที่ชายฝ˜›งแคลิฟอรเนีย ๓ วัน ๓ คืน ถึงวิกฤตของ อารยธรรมป˜จจุบัน เห็นว‹าอารยธรรมตะวันตก กําลัง ก‹อใหŒเกิดสภาวะวิกฤตอย‹างรุนแรงทั่วโลกและไม‹มีทาง ที่จะไปต‹อไปในแนวทางเดิมโดยไม‹วิกฤต เพราะเปšน อารยธรรมวัตถุนิยมบริโภคนิยม ทั้ง ๓ ท‹าน เห็นว‹า มีทางเดียวที่จะพŒนวิกฤตไดŒคือ การปฏิวัติจิตสํานึก (Consciousness Revolution) ท‹านดาไลลามะ เห็นว‹าโลกวิกฤตเพราะเปšนโรค พร‹องทางจิตวิญญาณ(SpiritualDeficiency)การแกŒไข จึงตŒองปฏิวัติทางจิตวิญญาณ (Spiritual Revolution) มีคนไทยที่กล‹าวถึงเรื่องนี้ก‹อนทั้งสองขŒางตŒนเนิ่น นาน คือท‹านอาจารยพุทธทาสภิกขุ ซึ่งไปก‹อตั้งสวน โมกขพลาราม ตั้งแต‹ พ.ศ. ๒๔๗๕ และเริ่มพูดตั้งแต‹ ครั้งกระนั้นว‹าวัตถุนิยมพาไปสู‹โลกาวินาศ และท‹านไดŒ ฝากปณิธานไวŒ ๓ ขŒอ คือ (๑) ขอใหŒศาสนิกของศาสนาต‹างๆ เขŒาถึงหัวใจ ของศาสนาของตน 44 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 46. (๒) ขอใหŒมีความร‹วมมือกันระหว‹างศาสนา (๓) ขอใหŒช‹วยมนุษยถอนตัวออกจากวัตถุนิยม หัวใจของทุกศาสนาคือจิตวิญญาณ (spiritual) หรือความสูงส‹งทางจิตใจเหนือวัตถุฉะนั้นท‹านอาจารย พุทธทาสจึงมั่นใจว‹าถŒาศาสนิกของทุกศาสนาเขŒาถึงหัวใจ ของศาสนาของตนๆก็จะไปเจอสิ่งเดียวกันคือพัฒนาการ ทางจิตวิญญาณที่อยู‹เหนือวัตถุหรือการถอนตัว ออกจากวัตถุนิยม การปฏิบัติจิตสํานึกที่ลาสโลกับคณะเสนอ การ ปฏิวัติทางจิตวิญญาณที่ท‹านดาไลลามะกล‹าว และการ ถอนตัวจากวัตถุนิยมที่ท‹านอาจารยพุทธทาสสั่งเสีย ไวŒ ลŒวนมีความหมายไปทางเดียวกันอาจรวมเรียกเสีย ว‹าการเกิดจิตสํานึกใหม‹ เพื่อพิจารณาว‹าจิตสํานึกใหม‹ จะช‹วยใหŒมนุษยพŒนวิกฤตอารยธรรมป˜จจุบันไดŒอย‹างไร 45AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 47. การแย่งชิงทําลาย สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความขัดแย้ง และความรุนแรง ความเหลื่อมลํ้าสุดๆ อารยธรรม วัตถุนิยม รูปที่ ๒ สรุปปรากฏการณของวิกฤตอารยธรรม จจุบัน วงกลมขŒางใน เปšนปฏิสัมพันธระหว‹างความเห็น แก‹ตัว – ความรูŒทางวิทยาศาสตรเทคโนโลยี - ความ โลภอันไม‹มีที่สิ้นสุด ดังนี้ 46 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 48. สัตวทําไปตามความตŒองการทางสรีรวิทยามีความ โลภจํากัดมาก เพราะไม‹มีเทคโนโลยีที่จะสะสม มนุษย เดิมก็เปšนเช‹นนั้น ไม‹มีประโยชนอะไรที่จะล‹าสัตวมา เกินกินและปล‹อยใหŒเน‹าเสีย ต‹อมามนุษยมีความรูŒและ เทคโนโลยีมากขึ้นมีความสามารถที่จะสนองตอบความ โลภความโลภก็เพิ่มขึ้นเมื่อคŒนพบระบบการเงินความ โลภก็เพิ่มขึ้นอย‹างไม‹มีที่สิ้นสุด เพราะเงินเปšนสมบัติที่ เพิ่มไดŒอย‹างไม‹มีที่สิ้นสุด สามารถเติมตัวเลขลงไปไดŒ เรื่อยๆ 100000000000000… จึงมีคนมีเงินเปšนแสน เปšนลŒานเปšนลŒานลŒาน และมีเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่จะ ไปโค‹นทําลายป†า จับปลาในมหาสมุทร ขุดแร‹ธาตุ และ นํ้ามันจากใตŒดิน ความเห็นแก‹ตัว - ความรูŒทางวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยี - ความโลภอันไม‹มีที่สิ้นสุด จึงเปšนวงจรที่ ขับเคลื่อนอารยธรรมวัตถุนิยม สามเหลี่ยมขŒางนอกคือผลของการพัฒนาตามแรง ขับเคลื่อนของวงกลมขŒางใน กล‹าวคือ 47AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 49. • ความเหลื่อมลํ้าสุดๆ หรือการขาดความเปšน ธรรม • การแย‹งชิงและทําลายทรัพยากรธรรมชาติ จน โลกเสียสมดุล และคุกคามต‹อความอยู‹รอดของสรรพ ชีวิตบนโลกใบนี้ ซึ่งรวมถึงเกิดสภาวะโลกรŒอนซึ่งนํา ไปสู‹หายนภัยต‹างๆ เช‹น ลมแรง นํ้าท‹วม แผ‹นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด คลื่นสึนามิ • ความขัดแยŒงความรุนแรงและสงคราม จากภาพวงกลมและสามเหลี่ยมขŒางบนนี้จะเห็น ว‹า การสรŒางความรูŒทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เพิ่มขึ้น ไม‹มีทางที่จะช‹วยใหŒมนุษยหลุดออกจากวิกฤต อารยธรรมในป˜จจุบัน เพราะมันจะไปทําใหŒวัฏจักรของ ความโลภและความเห็นแก‹ตัว มีกําลังมากขึ้น ส‹งแรง เหวี่ยงไปสู‹สามเหลี่ยมแห‹งวิกฤตการณมากขึ้น ฉะนั้นการที่จะออกจากวิกฤตการณป˜จจุบันไดŒจึง จําเปšนตŒองตัดวงจรในวัฏจักรของความเห็นแก‹ตัวนั่นคือ ตŒองปฏิวัติจิตสํานึก 48 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 50. จิตสํานึกเก‹าเปšนจิตสํานึกที่เล็กคับแคบเอาความ เห็นแก‹ตัวเปšนที่ตั้งทําใหŒโลกวิกฤตไม‹ว‹าจะสรŒางความรูŒ และเทคโนโลยีขึ้นมาเท‹าใดๆ ถŒายังเห็นแก‹ตัว (Ego- centric) โลกไม‹หายวิกฤตหรือยิ่งวิกฤตมากขึ้น จิตสํานึกใหม‹ซึ่งเปšนจิตสํานึกใหญ‹ที่คํานึงถึงคนอื่น และสิ่งอื่นหรือคํานึงถึงทั้งหมด (Wholeness-centric) เพราะแต‹ละคนเปšนส‹วนหนึ่งของทั้งหมด ถŒาไม‹คํานึง ทั้งหมด ทั้งหมดย‹อมเสียสมดุลดุจเดียวกับร‹างกาย ของเราที่มี เซลลและอวัยวะอันหลากหลาย ทุกเซลล ทุกอวัยวะมี ‘จิต’ ที่คํานึงถึงทั้งหมด เพื่อทําใหŒร‹างกาย ทั้งหมดมีบูรณภาพและดุลยภาพ ถŒาเซลลพวกใด พวกหนึ่งเอาตัวเองเปšนที่ตั้งไม‹คํานึงถึงส‹วนรวมนั่นคือ เปšนมะเร็ง ทําใหŒระบบรวนและเสียสมดุล นั่นคือ เจ็บป†วยและวิกฤตอย‹างยิ่ง โลกที่เจ็บป†วยและวิกฤตก็เหมือนคนเปšนโรคมะเร็ง เกิดขึ้นเพราะมนุษยมีจิตเล็กแยกส‹วนเอาตัวของตัวเอง เปšนที่ตั้ง ขาดจิตสํานึกของส‹วนรวม 49AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 51. เพราะฉะนั้นจิตสํานึกใหม‹จึงเปšนเครื่องมือของการ ไปพŒนวิกฤตการณของอารยธรรมป˜จจุบัน นั่นเปšนเหตุ ว‹าทําไมลาสโล และคณะจึงกล‹าวว‹ามีทางเดียวเท‹านั้น ที่จะพŒนวิกฤต คือการปฏิวัติจิตสํานึก ท‹านดาไลลามะจึงกล‹าวว‹าจําเปšนตŒองมีการปฏิวัติ ทางจิตวิญญาณ ท‹านอาจารยพุทธทาสจึงฝากปณิธานไวŒว‹าใหŒช‹วย ใหŒมนุษยถอนตัวออกจากวัตถุนิยม ทั้งหมดลŒวนเปšนเรื่องเดียวกัน และเรื่องเดียวกัน กับ ‘การตื่นรูŒ’ (Awakening) ตื่นรูŒจากการหลับใหลอยู‹ ในจิตสํานึกเก‹าไปสู‹การมีจิตสํานึกใหม‹ซึ่งเปšนจิตสํานึก ของทั้งหมดร‹วมกัน 50 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 52. ๕. พหุบท เส้นทางอันหลากหลาย สู่การตื่นรู้ มนุษยแต‹โบราณมาไดŒคŒนพบเสŒนทางอันหลากหลายสู‹ การตื่นรูŒ ภายใตŒสิ่งแวดลŒอม และวัฒนธรรมอันหลาก หลาย ทั้งที่เกี่ยวกับศาสนาและไม‹เกี่ยวกับศาสนา ทั้ง แบบสมัยโบราณและสมัยใหม‹ ทุกคนมีเสรีภาพที่จะ เลือกทางที่เหมาะกับจริตและสภาพของคนๆ ไม‹มีใคร ผูกขาดวิธีการใดวิธีการหนึ่งเดียว 51AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 53. แผนภาพขŒางล‹างสรุปประเภทของเสŒนทางสู‹การ ตื่นรูŒหรือการเกิดจิตสํานึกใหม‹ ดังนี้ การตื่นรูŒ=การเขŒาถึงความจริงสูงสุด(พระผูŒเปšนเจŒา หรือสภาวะอนันตกาล หรือ อนัตตา) เข้าถึงความ เป็นหนึ่งเดียว กับความจริง สูงสุด จิตสงบ สมาธิสติ สัมผัส กาย วาจา ใจ ภาวนา สังคม ศิลปะ การกระตุก ทางปัญญา Theory U รูปที่ ๓ แผนภาพสรุปพหุบทสู‹การตื่นรูŒ 52 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 54. การเขŒาถึงความจริงสูงสุด = ป˜ญญาอันยิ่ง (อภิ ป˜ญญา) ดŒวยจิตที่สงบจึงจะเขŒาถึงความจริงสูงสุดไดŒ จิต วุ‹นเขŒาถึงไม‹ไดŒ จิตที่มีสติหรือสมาธิเปšนจิตที่สงบทําใหŒเขŒาถึงความ จริงไดŒ พหุบทในการทําใหŒจิตสงบและเขŒาถึงความจริงที่ มี เช‹น (๑) ทางการสัมผัสธรรมชาติ ธรรมชาติที่สงบ เช‹น ป†า ทะเล ภูเขา ทะเลทราย หรืออื่นๆ ช‹วยใหŒ จิตสงบ ธรรมชาตินั้นเชื่อมโยงกันเปšนหนึ่งเดียวทั้ง จักรวาล การเขŒาถึงความเปšนหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ทําใหŒเกิดจิตสํานึกใหม‹ ดังในกรณีของมนุษยอวกาศ เอ็ดการ มิทเชลล ที่กล‹าวมาในกรณีตัวอย‹างหรือการ เขŒาถึงธรรมชาติที่ไม‹ปรุงแต‹งอันเปšนสภาวะอนันตกาล เปšนธรรมชาติที่ไม‹มีตัวตน โดยนัยพระผูŒเปšนเจŒาก็คือ ธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุดไรŒขอบเขตการเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา หรือเขŒาถึงธรรมชาติที่ใหญ‹ที่สุดจึงหลุดพŒนจากความ 53AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 55. บีบคั้นของความคับแคบในตัวตนไดŒ นั่นคือบรรลุ อิสรภาพ หรือบรรลุความจริง ความดี ความงาม และ ความสุขอันเปšนทิพย หรือการตื่นรูŒ หรือการบังเกิดขึ้น ของจิตสํานึกใหม‹ (๒) ทางกิริยาทางกาย การเคลื่อนไหวร‹างกาย โดยมีสติกํากับเปšนทางสรŒางการตื่นรูŒ ไม‹ว‹าจะเปšน โยคะไทเกกหรือการเคลื่อนไหวมือแบบหลวงพ‹อเทียน จิตตสุโภ การทํางานทุกชนิดไม‹ว‹าจะเปšนการลŒางชาม กวาดบŒาน ลŒางสŒวม ฯลฯ ถŒามีสติกํากับอยู‹กับการ เคลื่อนไหวของร‹างกายภายในการทํางานนั้นๆ จิตจะ สงบและเขŒาถึงความสุขอันเปšนทิพย เปšนกําไรชีวิตอัน มหาศาลเพราะการงานเปšนสิ่งที่ตŒองทําในชีวิตประจําวัน ถŒาทําไปหงุดหงิดรําคาญหรือโกรธที่ตŒองทําสิ่งนั้นงาน ก็จะเปšนความทุกข แต‹ถŒาฝƒกใหŒรูŒตัวในการทํางาน การ ทํางานก็จะกลายเปšนความสุขไป เมื่องานเปšนความสุข ก็จะไม‹ย‹อทŒอ อดทน ทําไดŒมาก ทําไดŒดี เปšนอิสระจาก ความบีบคั้นดŒวยประการทั้งปวง (๓)ทางวาจาคนเราตŒองพูดคุยในชีวิตประจําวัน และหนŒาที่การงานถŒาใชŒการพูดคุยมาสรŒางความตื่นรูŒ 54 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 56. หรือจิตสํานึกใหม‹ก็จะเปšนกําไรชีวิตตามปรกติอารมณ ความรูŒสึกชอบไม‹ชอบ และความยึดมั่นในตัวตนจะเขŒา มาเปšนเจŒาเรือนในการพูดคุย ทําใหŒสัมมาวาจาเปšนไป ไม‹ไดŒ สัมมาวาจาตามที่พระพุทธเจŒาสอนประกอบดŒวย (๑) จะพูดอะไรตŒองเปšนความจริงมีที่มามีที่อŒางอิง (๒)พูดเปšนปยวาจาไม‹พูดจาส‹อเสียดเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลน หรือพูดใหŒเกิดความโกรธ ความเกลียด (๓) พูดถูกกาละเทศะ (๔) พูดแลŒวเกิดประโยชน จะเห็นไดŒว‹าที่ผูŒคนพูดจากันยากที่จะมีคุณลักษณะ ครบทั้ง ๔ ขŒอ มักจะพูดแพลŒบๆ โดยไม‹คํานึงถึงว‹าจริง หรือไม‹ มีประโยชนหรือมีโทษยุติธรรมต‹อผูŒอื่นหรือ ไม‹ พูดเพราะตŒองการยกตัวหรือเพื่อประโยชนจริงๆ ที่ เปšนบริภาษวิทยาเสียก็มาก จึงมักเปšนอกุศลกรรมนํา ไปสู‹ผลรŒายต‹างๆแกŒป˜ญหาไม‹ไดŒกลับซํ้าเติมใหŒป˜ญหา เพิ่มพูนขึ้น 55AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 57. สุนทรียสนทนา (Dialogue) ไม‹เนŒนการพูดโตŒเถียงกันไปมาแต‹เนŒนการฟ˜งอย‹าง ลึก (deep listening) การฟ˜งอย‹างลึกก็คือการฟ˜งดŒวย สติ ทําใหŒเขŒาถึงความจริง เกิดป˜ญญา หรือจิตสํานึก ใหม‹ซึ่งเปšนจิตที่ใหญ‹กว‹าตัวตนทําใหŒเขŒาถึงและเห็นใจ คู‹สนทนาคลี่คลายความขัดแยŒงและยกระดับสติป˜ญญา ของทั้งสองฝ†ายหรือหลายฝ†ายไดŒ OttoScharmerแห‹งMITไดŒสรŒางทฤษฎีตัวยูหรือ Theory U ตามรูปขŒางล‹าง ดังนี้ (๑) เมื่อรับรูŒอะไรเขŒามา แทนที่จะตอบโตŒทันที ดŒวยการพูดเปรี้ยงทําเปรี้ยงซึ่งเปšนอารมณไม‹ใช‹ป˜ญญา (๒)อย‹าเพิ่งตัดสินใจว‹าชอบหรือไม‹ชอบใหŒแขวน ไวŒก‹อนพิจารณาอย‹างเงียบๆดŒวยจิตที่สงบ(ตรงนี้คงจะ ตŒองมีสติ) ลงไปตามขาหนŒาของตัว U (๓) ที่กŒนตัว U เปšนสภาพที่เขาเรียกว‹า ‘presen- cing’ เปšนคําใหม‹ที่เขาสรŒางขึ้น หมายถึงจิตนิ่งรูŒอยู‹กับ ป˜จจุบันทําใหŒความจริงแสดงตัวออกมาผมคิดว‹าตรงนี้ น‹าจะใกลŒเคียงกับการรับรูŒอยู‹กับป˜จจุบันและป˜ญญา 56 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 58. (๔) เมื่อขึ้นไปตามขาหลังของตัว U คือกิริยาที่ ตอบโตŒออกไปโดยผ‹านป˜ญญามาแลŒว ไม‹ไดŒทําดŒวย อารมณ นี้ก็จะคลŒายกับสุนทรียสนทนาที่กล‹าวขŒางตŒนและ ตรงกับที่พระพุทธเจŒาสอนว‹าเมื่อใครพูดอะไร เธออย‹า เพิ่งเชื่อแต‹ก็อย‹าเพิ่งปฏิเสธ(=แขวนไวŒก‹อน)พิจารณา ดŒวยโยนิโสมนสิการ ว‹าสมเหตุสมผล หรือมีประโยชน รูปที่ ๔ Theory U ของ Otto Scharmer 57AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 59. มีโทษอย‹างไร ทั้งหมดก็มีสติเปšนตัวกลางนั่นเอง ที่นํา ไปสู‹ป˜ญญา (๔) ทางใจ ใจที่เจริญเมตตาอันไม‹มีประมาณไป สู‹สรรพสิ่งทุกทิศทุกทาง ทําใหŒเกิดความสุขแผ‹ซ‹านไป ทั่วสรรพทางกาย และเปšนทางบรรลุธรรมหรือบรรลุ ความจริงสูงสุดไดŒ ทุกศาสนาจึงเนŒนเรื่องความกรุณา (Compassion) ว‹าเปšนทางเขŒาถึงพระผูŒเปšนเจŒา หรือ ถึงสภาวะอนัตตา การมีจิตอาสาหรือเกื้อกูลอื่นก็อยู‹ใน ตระกูลเดียวกัน ความรักของแม‹กวŒางใหญ‹ไพศาลดุจ ดินฟ‡ามหาสมุทร เปšนธรรมชาติอันยิ่งใหญ‹ การเขŒาถึง ความรักของแม‹ขยายจิตสํานึกใหŒใหญ‹ไดŒ (๕) การภาวนา การภาวนามีในทุกศาสนา การ สวดมนตทําใหŒจิตสงบเมื่อจิตสงบก็สามารถสัมผัสความ จริงตามธรรมชาติในทางพุทธภาวนาหมายถึงการเจริญ ศีล สมาธิ ป˜ญญา เรื่องนี้มีโดยพิสดาร ในตําราและ คําสอนต‹างๆ ที่หาอ‹านไดŒโดยไม‹ยาก (๖) ทางสังคม การรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทําที่เรียก ว‹าสรŒางความเปšนชุมชนนั้น Scott Peck จิตแพทย 58 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 60. ชาวอเมริกันกล‹าวว‹าทําใหŒเกิดความสุข ประดุจบรรลุ นิพพาน เพราะในการรวมตัวร‹วมคิดร‹วมทํานั้นมีการ ลดความเห็นแก‹ตัวขยายการเห็นแก‹ส‹วนรวมมีเมตตา จิตต‹อกันเปšนการพัฒนาทางจิตวิญญาณและทําใหŒเกิด จิตสํานึกใหม‹ไดŒ พูดอีกนัยหนึ่งกระบวนการทางสังคม ทําใหŒบรรลุธรรมไดŒ ตามปกติความไม‹เท‹าเทียมกัน และมายาคติ ต‹างๆทําใหŒสัมพันธภาพระหว‹างบุคคลไม‹เปšนไปในเชิง กัลยาณมิตร และการเรียนรูŒจากกันถŒามีการปฏิวัติ สัมพันธภาพ (Associational Revolution) คือผูŒคน สัมพันธกันดŒวยความเสมอภาคภราดรภาพมีเมตตาจิต ต‹อกันและมีการเรียนรูŒระหว‹างกัน(InteractiveLearn- ing) เช‹น ระหว‹างพ‹อแม‹กับลูก ครูกับนักเรียน ผูŒคนใน องคกร และในสังคม จะเกิดการเขŒาถึงสูงสุด คือความ จริง ความดี ความงาม เกิดความสุขอันลŒนเหลืออย‹าง ขนานใหญ‹เต็มสังคม การปฏิวัติสัมพันธภาพควรจะไดŒ รับความสนใจและนําเสนอต‹อสังคมทดลองปฏิบัติเรียน รูŒจากการปฏิบัติ และต‹อยอดขยายตัวออกไปใหŒเต็ม สังคมเพราะเปšนทางใหญ‹ที่จะสรŒางสังคมจิตสํานึกใหม‹ 59AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 61. (๗)ทางศิลปะศิลปะเปšนความงามโดยที่สูงสุดนั้น ความจริง ความดี ความงาม อยู‹ดŒวยกัน เพราะฉะนั้น โดยผ‹านทางความงาม บุคคลสามารถเขŒาถึง ความจริง และความดีไดŒ ถŒาใครไดŒอ‹านคีตาญชลี ของมหากวี รพินทรนาถ ฐากูร อันเปšนสุนทรียธรรมที่ไดŒรับรางวัล โนเบล โดยชื่อก็บอกว‹าเปšนการอัญชลีดŒวยดนตรี จะ รูŒสึกว‹าเปšนคํากลอนที่สื่อสารกับพระผูŒเปšนเจŒาตลอดเวลา กวีนิพนธ บทเพลง ดนตรี จิตรกรรมสถาป˜ตยกรรม ประติมากรรมไดŒรับการนํามาสื่อสารเพื่อนํามนุษยเขŒา สู‹ความจริงสูงสุด สมัยนี้เทคโนโลยีการสื่อสารชนิดต‹างๆอาจเขŒาถึง มนุษยทุกคนควรมีการนําศิลปะทุกแขนงมาเปšนเครื่องมือ สรŒางจิตสํานึกใหม‹ถŒวนหนŒา อันที่จริง ความงามไม‹ไดŒมีอยู‹ในงานศิลปะอย‹างที่ เรียกกันทั่วๆ ไปเท‹านั้น ถŒาเจริญสติใหŒรูŒอยู‹กับป˜จจุบัน ในงานทุกชนิดที่ทํา จิตสงบจากการปรุงแต‹ง งานทุก ชนิดจะกลายเปšนความงาม ทุกสิ่งทุกอย‹างกลายเปšน ความงามไม‹ว‹านํ้าสักหยดใบไมŒสักใบแมลงสักตัวหรือ ผูŒคนอันหลากหลายสรรพสิ่งกลายเปšนศิลปะหรือความ 60 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 62. งาม ทําใหŒเขŒาใจว‹าความงามมีอยู‹ในทุกสิ่งทุกอย‹าง ถŒา จิตใจเราสงบ ปราศจากการปรุงแต‹งและมายาคติ และ จะเขŒาใจที่ว‹าในสภาวะสูงสุดนั้นความจริงความดีความ งามอยู‹ที่เดียวกันและในความเปšนมนุษยนั้นมีศักยภาพ ที่จะเขŒาถึงสิ่งสูงสุด (๘) การกระตุกทางปัญญา มีการตื่นรูŒชนิด ฉับพลันทันที มีผูŒตั้งชื่อเรียกว‹าลัทธิฉับพลัน (Sudden School) เช‹น เกิดขึ้นขณะที่กําลังฟ˜งธรรม หรือตนเอง แสดงธรรม หรือตีปริศนาธรรมแตก แบบพวกลัทธิ เซน เมื่อตีปริศนาธรรมแตกเรียกว‹าบรรลุซาโตริ หรือ ไดŒรับการนําเขŒาโดยครูอาจารยผูŒทรงธรรมขั้นสูง หรือ โดยพระศาสดาเอง ในครั้งพุทธกาลมีเหตุการณเปšน อันมากที่พระสงฆสาวกไดŒสดับธรรมจากพระศาสดา แลŒวบรรลุธรรมทันที หนทางสู‹การตื่นรูŒคงจะไม‹ไดŒมีเพียงเท‹านี้ พหุบท แห‹งการตื่นรูŒที่นําเสนอขŒางตŒนพอใหŒเห็นหนทางอัน หลากหลาย และไม‹ไดŒตั้งใจจะใหŒเปšนคู‹มือสู‹การตื่นรูŒ เพราะหนทางแต‹ละบทนั้นมีผูŒสรŒางตํารับตําราไวŒมากมาย ซึ่งผูŒที่สนใจจะคŒนควŒาศึกษาไดŒการมีจิตสงบเปšนทางเขŒา 61AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 64. 63AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 65.
  • 66. ๖. การเรียนรู้ร่วมกันในการ ปฏิบัติ (Interactive Learning Through Action) กับการ เปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) ป˜จจุบันเต็มไปดŒวยป˜ญหาที่สลับซับซŒอนและยากต‹อการ แกŒไขเช‹นความยากจนและความเหลื่อมลํ้าการแย‹งชิง ทรัพยากรการขาดความยุติธรรมเครื่องมือเดิมๆเช‹น 65AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND
  • 67. การใชŒอํานาจ ใชŒเงิน ใชŒความรุนแรง ใชŒการวิพากษ วิจารณ การประทŒวง ใชŒความรูŒสําเร็จรูป ลŒวนไม‹ไดŒผล ในรูป ๕ ขŒางล‹าง ปัญหาที่ซับซ้อนและยาก ต้องใช้การเรียนรู้ร่วมกัน รูปที่ ๕ จจัยที่ซับซŒอนและยาก ตŒองใชŒการเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ 66 การตื่นรู้: อนาคตของมนุษยชาติที่กําลังผุดบังเกิด
  • 68. การใชŒความรูŒสําเร็จรูปก็เช‹น เคยเรียนวิชา นิติศาสตร รัฐศาสตร เศรษฐศาสตร ฯลฯ ก็นําความรูŒ นั้นๆมาใชŒโดยไม‹เรียนรูŒเพราะป˜ญหาซับซŒอนหลายแง‹ หลายมุมหลายมิติมีความจําเพาะกรณีซึ่งถŒาไม‹เรียนรูŒ จากสถานการณจริง เพียงแต‹เอาความรูŒมาใชŒโดย ไม‹เขŒาใจความจริงจึงไม‹ไดŒผล นี้เปšนเหตุใหŒการพัฒนา ทั้งหลายในโลกไม‹ไดŒผล เปšนวิธีการเก‹าๆ เปšน กระบวนทัศนเก‹าในการพัฒนา กระบวนทัศนใหม‹ในการพัฒนา(NewDevelop- ment Paradigm) คือการเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ ในสถานการณจริง ในป˜ญหาแต‹ละเรื่องมีบุคคล องคกร สถาบัน เกี่ยวขŒองอยู‹ดŒวยจํานวนมาก ทุกคนมีความสําคัญต‹อ ความสําเร็จหรือความลŒมเหลวใครจะเก‹งไปคนเดียวก็จะ แกŒป˜ญหาไม‹ไดŒจึงตŒองมีการเรียนรูŒร‹วมกันในการปฏิบัติ การปฏิบัติเปšนสถานการณจริง การปฏิบัติโดยไม‹เรียนรูŒหรือเรียนรูŒโดยไม‹ปฏิบัติ ก็ไม‹สําเร็จ 67AWAKENING: THE EMERGING FUTURE OF MANKIND