More Related Content
Similar to ตำนานบั้งไฟพญานาค
Similar to ตำนานบั้งไฟพญานาค (16)
ตำนานบั้งไฟพญานาค
- 2. ช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี โดยเฉพาะคืนวันเพ็ญขึ้น 15
คา เดือน 11 ซึ่งเป็ นวันออกพรรษา (ปี ใดมีเดือนแปดสองหน
่
จะเลื่อนไปอีก 1 วัน คือ วันแรม 1 คา เดือน 11 ซึ่งตรงกับวัน
่
ขึ้น 15 คาของประเทศสปป.ลาว) มหาชนจากทัวทุกสารทิศจะ
่ ่
เดินทางหลัง่ ไหลมาที่อาเภอโพนพิสย , กิ่งอาเภอรัตนวาปี และ
ั
ที่แก่งอาฮง หน้าวัดอาฮงศิลาวาส อาเภอบึงกาฬ จังหวัด
หนองคาย อย่างเนื องแน่ นชนิ ดที่หาที่จอดรถไม่ได้ หรือแทบ
จะเดินไม่ได้ มหาชนเหล่านั้นมาเพื่อที่จะร่วมงานประเพณี
ไหลเรือไฟและจุดมุ่งหมายที่สาคัญคือมาชมปรากฏการณ์
้
“บังไฟพญานาค”
- 4. เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพระมารดาที่
้ั
สวรรค์ชนดาวดึงส์ จนครบ 1 พรรษา
(3 เดือน) และเสด็จกลับโลกมนุ ษย์ในวันขึ้น
15 คา เดือน 11 ด้วยบันไดแก้ว บันไดเงิน
่
และบันไดทอง ที่เหล่าเทวดาทาถวาย ส่วน
มนุ ษย์โลกก็จะทาบุญตักบาตร นาดอกไม้ธูป
เทียนไปกราบไหว้บูชา ความนี้ เมื่อรูถง
้ึ
พญานาคที่อยู่เมืองบาดาล จึงได้จดทา “บังไฟ
ั ้
พญานาค” และจุดเฉลิมฉลองเช่นกัน และได้
กลายเป็ นประเพณี มาจนทุกวันนี้
- 5. ้ั
ปรากฏการณ์บงไฟพญานาค เป็ นลูกไฟ
มหัศจรรย์ท่พงขึ้นจากลาน้ าโขง ที่เรียกว่า
ี ุ่
มหัศจรรย์น้น เพราะยังเป็ นการยากที่จะพิสูจน์
ั
ว่าสิงนั้นเป็ นอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และ
่
ทาไมจึงเกิดขึ้นเฉพาะวันออกพรรษาเท่านั้น
แม้ว่าวันออกพรรษาของแต่ละปี จะ
คลาดเคลื่อนไปไม่ตรงกับวันเดิม “บังไฟ ้
พญานาค” ก็จะเคลื่อนไปตามวันออกพรรษา
ของปี น้นๆ
ั
- 6. บังไฟพญานาคเป็ นลูกไฟที่พงขึ้นสูอากาศแล้ว
้ ุ่ ่
ก็หายไป เกิดขึ้นทังกลางแม่น้ าโขงและบริเวณ
้
ใกล้ๆ ฝัง ขึ้นสูงประมาณ 30-50 เมตร บาง
่
แห่งขึ้นสูงเป็ น 100 เมตร ใช้เวลาประมาณ
้
5-10 วินาที แล้วจะดับหายไปในอากาศทังๆที่
ดวงไฟยังโตอยู่ และไม่มีลกษณะโค้งตกลงมา
ั
เหมือนดอกไม้ไฟ ขนาดของลูกไฟที่เกิดขึ้นนั้น
มีขนาดโตเท่าผลส้ม ขนาดกลางเท่าไข่ไก่
ขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือ
- 7. มีสแดงอมชมพูออกสีบานเย็น หรือสีแดง
ี
ทับทิม ไม่มีเสียง ไม่มีเปลวเหมือนลูกไฟ
ทัวๆไป ไม่มีควัน ไม่มีกลิ่นและไม่มีเขม่า เวลา
่
ที่เกิดไม่แน่ นอนแต่ตองมืดคาก่อนจึงจะเกิด
้ ่
้ ั ่
บางปี เกิดตังแต่หวคา เวลา 18.00 น. บางปี
้
เกิดในเวลาตังแต่ 3-4 ทุ่ม เกิดจนไปถึงเวลา
เที่ยงคืน ถึง 02.00 น. จานวนที่เกิดขึ้นนั้นมี
จานวนไม่เท่ากัน บางแห่งเกิดขึ้นเพียง 1 ลูก
บางแห่งเกิดขึ้น 20 ลูก หรือบางแห่งก็เกิด
50-100 ลูก หรือมีมากกว่านั้น
- 8. สถานที่เกิดส่วนมากจะเป็ นลาแม่น้ าโขง แต่กมี ็
บ้างที่เกิดขึ้นในห้วยหนองที่อยู่ใกล้ กับแม่น้ า
โขงและอยู่ในท้องที่อาเภอโพนพิสย อาเภอปาก
ั
คาด กิ่งอาเภอรัตนวาปี บริเวณแก่งอาฮง หน้า
วัดอาฮงศิลาวาส อาเภอบึงกาฬ อาเภอศรี
้
เชียงใหม่ (วัดหินหมากเป้ ง) บ้านผาตัง อาเภอ
สังคม เกิดขึ้นเป็ นบางส่วน
- 9. ้
นอกจากปรากฏในรูปของบังไฟพญานาคแล้ว ยังมีหลักฐาน ร่องรอยและ
เรื่องเล่าต่างๆ อย่างเช่น บุญจันทร์ คามุงคุณ ผูใหญ่บานและประธานโฮมสเตย์
้ ้
บ้านน้ าเป อาเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย เล่าให้ฟงว่า ขณะที่กาลังลงเรือหาปลา
ั
อยู่ในบริเวณปากห้วยน้ าเปตอนประมาณสองทุ่ม ก็เห็นสัตว์ชนิ ดหนึ่ ง มีลกษณะ
ั
คล้ายงูอยู่ในน้ า คือตรงส่วนหัวนั้นไม่เหมือนงูทวๆ ไป คือมีลกษณะคล้ายหงอน
ั่ ั
และดวงตามีขนาดเท่าไข่ไก่เห็นเป็ นสีแดง งูน้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
ั
20 เซนติเมตร
- 10. จุมพล สายแวว ก็ได้เห็นรอยขนาดใหญ่เหมือนสัตว์เลื้อยคลานเกิดขึ้นทัว ่
หลังคารถ หรือบางรอยก็เกิดขึ้นบริเวณริมแม่น้ าโขง และได้เกิดเหตุการณ์ ที่เขา
ได้เห็นกับตาและได้ถ่ายภาพวีดีโอไว้ เขาได้เห็นภาพของสิงมีชีวตลักษณะลาตัว
่ ิ
ยาวๆ ที่คาดว่ามีหลายตัว เล่นน้ าอยู่กลางลาน้ าโขง ใกล้ๆ กับพระธาตุกลางน้ า
ซึ่งเหตุการณ์เป็ นข่าวผูให้ความสนใจเป็ นจานวนมาก และเชื่อกันว่า เป็ น
้
เหตุการณ์ท่พญานาคขึ้นมานมัสการพระธาตุ
ี
- 11. สิงมหัศจรรย์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็ นลูกไฟที่พงขึ้นจากกลางแม่น้ าโขง
่ ุ่
ที่เรียกว่า “บังไฟพญานาค” หรือรอยประหลาดที่เกิดขึ้นบนหลังคารถ
้
ของชาวบ้านนั้น เพือแสดงให้เห็นว่าพญานาคนั้นมีจริง เนื่ องจากไม่มี
่
คนเชื่อ จึงเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ให้เห็น ซึ่งรอยประหลาดนี้ มีคนเชื่อว่า
เป็ นรอยพญานาค ซึ่งสิงต่างๆ เหล่านี้ ยังเป็ นเรื่องที่จะต้องหาทางพิสูจน์
่
ต่อไป ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร เชื่ออย่างไร แต่ทกอย่างที่เกิดขึ้นเป็ น
ุ
ประจาในวันขึ้น 15 คา เดือน 11 คือวันออกพรรษา หากใครไม่เชื่อก็ไป
่
พิสูจน์ดวยตนเองได้…
้