SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
กฎหมาย
นางจันทราเคยมีเรื่องกับนายโฉลกและนายสุรชัย โดยนางจันทราเคยใช้
ค้อนเคาะกะโหลกศีรษะของนายโฉลกจนบาดเจ็บ กับร้องด่าว่าดื่มสุราส่งเสียง
เอะอะ ซึ่งขณะนั้นนายสุรชัยก็นั่งร่วมโต๊ะดื่มสุราด้วย วันรุ่งขึ้นนายโฉลก
จึงถือไม้เป็นอาวุธไปที่บ้านของนางจันทราพร้อมกับนายสุรชัย และร้องท้าทาย
นางจันทราให้ออกไปตีกันเล่นแก้กลุ้ม
	 “แน่จริงก็ออกมาซิโว้ย ! หดหัวอยู่แต่ในบ้านท�ำไม ออกมาเลยมาตีกัน
ให้แหลกไปข้างหนึ่ง ถ้าไม่ออกมาจะถือว่าเป็นลูกตัวเมีย”
	 “เขาเป็นลูกตัวเมียอยู่แล้วนี่พี่ ด่าเขาอย่างนี้เขาไม่เจ็บแสบหรอก”
	 “เออ ! ช่างกู กูจะด่าอย่างนี้แหละ”
ยิงด้วยความกลัว
2 3
โดยชอบด้วยกฎหมาย จ�ำเลยไม่มีความผิด
	 ส่วนข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้
รับอนุญาตนั้น เมื่อปรากฏว่าอาวุธดังกล่าวเป็นของสามีจ�ำเลย ซึ่งได้รับอนุญาต
ให้มีและใช้จากนายทะเบียนท้องที่ จ�ำเลยหยิบอาวุธมาป้องกันตัวโดยชอบ
ด้วยกฎหมาย จึงไม่ถือว่าจ�ำเลยมีเจตนาครอบครองอาวุธปืนดังกล่าว จ�ำเลย
จึงหามีความผิดฐานนี้ไม่ พิพากษายืน
	 (ค�ำพิพากษาฎีกาที่ 182/2532)
	 ว่าแล้วนายโฉลกก็ด่าต่อไป พร้อมกับขยับไม้ที่อยู่ในมือด้วยท่าทาง
ที่เอาจริงเอาจัง เล่นเอานางจันทราถึงกับตกใจกลัวจนตัวสั่น แต่สั่นสู้นะครับ
ไม่ใช่สั่นถอย ในขณะที่นายโฉลกเดินเข้าหานางจันทรานั้นเอง ท�ำให้
นางจันทราตกใจเกรงว่านายโฉลกเดินเข้าหาท�ำร้ายอย่างแน่นอน จึงวิ่งเข้าไป
หยิบอาวุธปืนสั้นของนายอาทิตย์สามีที่เก็บไว้ที่หัวนอนแล้วยิงไปที่ขานายโฉลก
3 นัด โดยเจตนาท�ำร้ายนายโฉลก เมื่อกระสุนถูกขาแล้ว นางจันทราก็หยุด
ไม่ยิงอีกต่อไป
	 นางจันทราจึงถูกจับมาฟ้องในข้อหาพยายามฆ่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า
นางจันทรามีเจตนาเพียงท�ำร้ายนายโฉลก จึงลงโทษฐานท�ำร้ายร่างกาย
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จ�ำคุก 1 ปี และลงโทษฐานมีอาวุธ
ปืนโดยไม่รับอนุญาต จ�ำคุก 6 เดือน รวมจ�ำคุก 1 ปี 6 เดือน จ�ำเลยรับสารภาพ
ชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษ 1 ใน 3 คงจ�ำคุก 1 ปี
ของกลางริบ พอถึงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
	 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จ�ำเลยยิงนายโฉลกเพียงเพื่อยับยั้งมิให้เขามาท�ำร้าย
จ�ำเลยในบ้านเท่านั้น เพราะนายโฉลกซึ่งอยู่หน้าบ้านสามารถก้าวเข้าไปท�ำร้าย
จ�ำเลยในบ้านได้โดยง่าย จ�ำเลยเป็นหญิง นายโฉลกมีไม้เป็นอาวุธและมากับ
นายสุรชัย การกระท�ำของจ�ำเลยจึงเป็นการป้องกันตนให้พ้นภยันตรายซึ่ง
เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
ทั้งเป็นการกระท�ำพอสมควรแก่เหตุการกระท�ำของจ�ำเลย จึงเป็นการป้องกัน
4 5
เมียก็มีหัวใจ
	 สามีประเภทที่ชอบตบตีท�ำร้ายภริยา เห็นภริยาเป็นกระสอบทราย
เคลื่อนที่ ไม่ได้นึกถึงหัวอกของผู้หญิง นึกจะท�ำอะไรก็ท�ำตามใจชอบ ลองฟัง
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจบ้างว่าผู้หญิงเขาก็โกรธเป็นเหมือนกัน เมื่อเขา
ถูกซ้อมจนทนไม่ได้ขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น แน่นอน สามีก็เดดสะมอเร่น่ะซีครับ
จะมีอะไรแล้วแถมยังตายฟรีเสียอีกด้วยก็นับว่าสาสมกับความร้ายกาจของสามี
	 นายอ�ำนาจเป็นสามีของนางอ�ำนวยแต่เป็นสามีชนิดเลวหนึ่งประเภทหนึ่ง
คือชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ ประพฤติตัวเป็นนักเลงเกะกะเกเร ส่วนนางอ�ำนวย
เป็นภริยาชนิดดีหนึ่งประเภทหนึ่ง คือเป็นแม่บ้านแม่เรือนสงบเสงี่ยมเจียมตัว
เป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน นี่แหละที่เขาเรียกว่ากิ่งทองกับใบต�ำแย ไม่น่า
จะมาอยู่เคียงคู่กันได้เลย แต่ก็เป็นไปแล้วซึ่งก็มักมีอยู่เสมอ
	 ครับนายอ�ำนาจเมื่อเป็นสามีชั้นเลวเสียแล้ว ก็ย่อมประพฤติตนเลว
ทั้งนอกบ้านและในบ้าน กล่าวคือ นอกบ้านก็เที่ยวพาลเกะกะเกเรเขาเรื่อยไป
ส่วนในบ้านก็หาเรื่องทะเลาะกับนางอ�ำนวยอยู่บ่อย ๆ และชอบเตะตีนางอ�ำนวย
เป็นประจ�ำ แล้วแถมไปมีเมียใหม่ให้นางอ�ำนวยช�้ำใจยิ่งขึ้นอีก หนัก ๆ เข้า
ก็อพยพตัวเองไปอยู่กับเมียใหม่เสียเลย
	 วันเกิดเหตุนายอ�ำนาจเสพสุรามึนเมามาที่บ้านของนางอ�ำนวย เพื่อ
จะเอาลูกไปอยู่กับเมียใหม่ ใครจะยอมได้จริงไหมครับ ดังนั้นจึงเกิดทะเลาะ
กันขึ้น โดยนายอ�ำนาจก็เข้าตบตีนางอ�ำนวยอย่างที่เคยปฏิบัติมาเป็นประจ�ำ
นั่นแหละ แต่คราวนี้นายอ�ำนาจถึงคราวชะตาขาด เพราะนางอ�ำนวยเลือดเดือด
บันดาลโทสะขึ้นมาฉับพลัน กูไม่ยอมมึงแล้วไอ้ชาติชั่ว ว่าแล้วก็คว้ามีดพร้าได้
ฟันศีรษะนายอ�ำนาจในทันที 1 ฉับ ผลก็คือนายอ�ำนาจนอนดิ้นกระแด่ว ๆ
ลาโลกนี้ไปสู่ปรโลกโดยไม่รอช้า
	 ต�ำรวจจับนางอ�ำนวยมาด�ำเนินคดี และอัยการก็ฟ้องนางอ�ำนวยเป็น
จ�ำเลยในข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นการป้องกันพอสมควร
แก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง พอมาถึงศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจ�ำเลย
มีความผิด ให้จ�ำคุกถึง 20 ปี
	 เรื่องก็ถึงศาลฎีกา ซึ่งวินิจฉัยว่าการที่จ�ำเลยฆ่าผู้ตายเป็นการกระท�ำโดย
บันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ให้จ�ำคุก 2 ปี จ�ำเลย
เป็นหญิง มีบุตรเป็นผู้เยาว์จะต้องอุปการะถึง 2 คน ไม่เคยต้องโทษจ�ำคุก
มาก่อน ส่วนผู้ตายเป็นฝ่ายประพฤติตนไม่ชอบ จึงให้รอการลงโทษจ�ำคุกไว้มี
ก�ำหนด 3 ปี
	 (ค�ำพิพากษาฎีกาที่ 138/2532)
6 7
ศึกแย่งพระเครื่อง
	 ศึกแย่งพระเครื่องระหว่างวัดกับชาวบ้านกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต
ถึงขนาดสู้กันถึงศาลฎีกา เป็นที่เอิกเกริกเกรียวกราว บรรดาผู้ที่ติดตามข่าว
ต่างก็เสมอนอกเสมอในกันอุตลุด ผลที่สุดใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่ ต้อง
ติดตามเรื่องราวกันต่อไปครับ
	 เรื่องนี้ก็เปิดฉากขึ้นที่วัดสุนทรประดิษฐ์ จังหวัดพิษณุโลก มีพระเครื่อง
ชื่อดังรุ่นเก่าชื่อพระฝักไม้ด�ำและพระฝักไม้ขาว มีข่าวใหญ่ของจังหวัดว่า
กรุพระวัดสุนทรประดิษฐ์แตก พบพระเครื่องชื่อพระฝักไม้ด�ำและพระฝักไม้ขาว
บรรจุอยู่ที่ยอดเจดีย์ข้างพระอุโบสถ
	 ข่าวได้เข้าไปถึงหูของจ�ำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งทราบมาก่อน
แล้วว่านายเหยี่ยน สามีของจ�ำเลยที่ 2 และเป็นบิดาของจ�ำเลยที่ 1 ที่ 3 และ
ที่ 4 ได้สร้างเจดีย์บรรจุกระดูกของนางจู มารดานายเหยี่ยนเอาไว้ในบริเวณ
พระอุโบสถวัดสุนทรประดิษฐ์ และทราบด้วยว่า นายเหยี่ยนได้น�ำพระเครื่อง
ฝักไม้ด�ำและฝักไม้ขาวที่เช่าบูชามาจากวัดโจทก์ประมาณ 500 องค์ บรรจุ
ไว้ในเจดีย์นั้นด้วย แล้วเหตุไฉนหนอจึงเกิดกรุแตก พระชนิดเดียวกันทะลัก
ออกมาจากเจดีย์ได้ ชักสงสัยตงิด ๆ
	 เมื่อพากันไปดูอย่างใกล้ชิดก็พบว่า เจดีย์ถูกลักลอบขุดเอาพระเครื่อง
ไปเสียแล้ว จึงพากันยกขบวนไปหาท่านพระครูผู้เป็นเจ้าอาวาส บอกว่า
พระเครื่องเหล่านั้นเป็นของที่คุณพ่อของพวกข้าพเจ้าใส่ไว้ในเจดีย์ เพราะ
ฉะนั้นท่านเอาไปย่อมจะเป็นการไม่ชอบ เอามาให้พวกข้าพเจ้าเสียเถิด
ท่านเจ้าอาวาสก็ยอมคืนพระเครื่องเหล่านั้นให้กับบรรดาทายาทของนายเหยี่ยน
แต่แล้วก็กลับหวนคิดขึ้นมาได้ว่า เอ๊ะ ! พระเครื่องเมื่ออยู่ในวัดก็ควรจะเป็น
ของวัด เหตุไฉนจึงจะยกให้ทายาทนายเหยี่ยนไปโดยง่ายดายเช่นนั้น นึกได้
ดังนั้นก็ไม่รอช้า จัดแจงให้ทนายความฟ้องร้องจ�ำเลยทั้ง 4 คนในข้อหาละเมิด
เอาพระของวัดไป คือพระฝักไม้ด�ำ จ�ำนวน 210 องค์ และพระฝักไม้ขาว
จ�ำนวน 58 องค์ รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท ท�ำให้วัดไม่อาจน�ำ
พระเครื่องดังกล่าวออกจ�ำหน่ายได้ เป็นเหตุให้ต้องขาดประโยชน์จากเงิน
จ�ำนวนดังกล่าว ขอให้จ�ำเลยทั้งสี่ส่งมอบพระเครื่องดังกล่าวพร้อมค่าเสียหาย
8 9
	 จ�ำเลยทั้งสี่ให้การว่า พระเครื่องเป็นของที่นายเหยี่ยนบรรจุไว้ในเจดีย์
เพื่อบูชาร่วมกับกระดูกนางจู ไม่ได้อุทิศให้แก่วัดโจทก์ นายเหยี่ยนกับจ�ำเลย
ทั้งสี่ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา เจ้าอาวาสกับพวกร่วมกันลักลอบ
เจาะเจดีย์และลักพระเครื่อง จ�ำเลยทราบเรื่องจึงไปขอดู เมื่อเห็นว่าเป็นของ
นายเหยี่ยนจึงน�ำพระเครื่องไปแจ้งความที่สถานีต�ำรวจ และน�ำพระเครื่อง
ไปเก็บไว้ที่ธนาคารด้วยความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียก
ค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
	 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จ�ำเลยทั้งสี่คืนพระเครื่องให้วัดโจทก์พร้อมกับ
ชดใช้ค่าเสียหาย จ�ำเลยทั้งสี่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า
ให้ยกค�ำขอเรื่องค่าเสียหาย โจทก์และจ�ำเลยทั้งสี่ฎีกา
	 ศาลฎีกา โดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า กรณีเช่นนี้พระเครื่องพิพาท
ซึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์บรรจุกระดูกของนางจูยังเป็นของจ�ำเลยทั้งสี่อยู่ จ�ำเลย
ทั้งสี่หาได้สละสิทธิครอบครองพระเครื่องพิพาทให้วัดโจทก์ไม่ ดังนั้น จ�ำเลย
ทั้งสี่จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในพระเครื่องพิพาทจากโจทก์ที่ไม่มีสิทธิจะยึดถือ
ไว้ได้ การกระท�ำของจ�ำเลยทั้งสี่จึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ และไม่ท�ำให้โจทก์
เสียหาย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
	 [ค�ำพิพากษาฎีกาที่ 1305/2531 (ประชุมใหญ่)]
	 ก็เป็นอันว่าจ�ำเลยทั้งสี่มีสิทธิในพระเครื่องดีกว่าโจทก์ โจทก์หมดหวัง
ที่จะเอาพระไปจ�ำหน่ายเสียแล้ว เรียกว่าฝันสลายครับ
คนใจบาป
	 นายจ�ำลองย่องเข้าไปหาพระภิกษุชื่น ซึ่งจ�ำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ โดยมี
นายสนั่นกับนายสนุก เพื่อนคู่หูติดตามไปด้วย แล้วก็เอ่ยปากกับพระภิกษุชื่น
ขอซื้อพระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารจากพระภิกษุชื่นซึ่งพ�ำนักอยู่ใน
วิหารนั้น พระภิกษุชื่นก็ตอบโอเคซิกาแรต ทั้ง ๆ ที่พระพุทธรูปนั้นเป็นของวัด
ไม่ใช่ของพระภิกษุชื่น เมื่อจ่ายเงินให้พระภิกษุชื่นไป 1,000 บาทเรียบร้อยแล้ว
ทั้ง 3 คนก็จัดการงัดพระพุทธรูปองค์งามออกจากแท่นที่ประดิษฐานของ
องค์พระพุทธรูป พร้อมกับนึกในใจว่าหวานคอแร้งตูล่ะ จากนั้นก็น�ำพระพุทธรูป
ไปจ�ำหน่ายให้แก่นายสนับเป็นเงิน 6,000 บาท

More Related Content

More from CUPress (20)

9789740337096
97897403370969789740337096
9789740337096
 
9789740337072
97897403370729789740337072
9789740337072
 
9789740337027
97897403370279789740337027
9789740337027
 
9789740336914
97897403369149789740336914
9789740336914
 
9789740336907
97897403369079789740336907
9789740336907
 
9789740336686
97897403366869789740336686
9789740336686
 
9789740336457
97897403364579789740336457
9789740336457
 
9789740336440
97897403364409789740336440
9789740336440
 
9789740336389
97897403363899789740336389
9789740336389
 
9789740336280
97897403362809789740336280
9789740336280
 
9789740336365
97897403363659789740336365
9789740336365
 
9789740336303
97897403363039789740336303
9789740336303
 
9789740336242
97897403362429789740336242
9789740336242
 
9789740336235
97897403362359789740336235
9789740336235
 
9789740336099
97897403360999789740336099
9789740336099
 
9789740336419
97897403364199789740336419
9789740336419
 
9789740336402
97897403364029789740336402
9789740336402
 
9789740336334
97897403363349789740336334
9789740336334
 
9789740336327
97897403363279789740336327
9789740336327
 
9789740336181
97897403361819789740336181
9789740336181
 

9789740332763

  • 2. นางจันทราเคยมีเรื่องกับนายโฉลกและนายสุรชัย โดยนางจันทราเคยใช้ ค้อนเคาะกะโหลกศีรษะของนายโฉลกจนบาดเจ็บ กับร้องด่าว่าดื่มสุราส่งเสียง เอะอะ ซึ่งขณะนั้นนายสุรชัยก็นั่งร่วมโต๊ะดื่มสุราด้วย วันรุ่งขึ้นนายโฉลก จึงถือไม้เป็นอาวุธไปที่บ้านของนางจันทราพร้อมกับนายสุรชัย และร้องท้าทาย นางจันทราให้ออกไปตีกันเล่นแก้กลุ้ม “แน่จริงก็ออกมาซิโว้ย ! หดหัวอยู่แต่ในบ้านท�ำไม ออกมาเลยมาตีกัน ให้แหลกไปข้างหนึ่ง ถ้าไม่ออกมาจะถือว่าเป็นลูกตัวเมีย” “เขาเป็นลูกตัวเมียอยู่แล้วนี่พี่ ด่าเขาอย่างนี้เขาไม่เจ็บแสบหรอก” “เออ ! ช่างกู กูจะด่าอย่างนี้แหละ” ยิงด้วยความกลัว
  • 3. 2 3 โดยชอบด้วยกฎหมาย จ�ำเลยไม่มีความผิด ส่วนข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้ รับอนุญาตนั้น เมื่อปรากฏว่าอาวุธดังกล่าวเป็นของสามีจ�ำเลย ซึ่งได้รับอนุญาต ให้มีและใช้จากนายทะเบียนท้องที่ จ�ำเลยหยิบอาวุธมาป้องกันตัวโดยชอบ ด้วยกฎหมาย จึงไม่ถือว่าจ�ำเลยมีเจตนาครอบครองอาวุธปืนดังกล่าว จ�ำเลย จึงหามีความผิดฐานนี้ไม่ พิพากษายืน (ค�ำพิพากษาฎีกาที่ 182/2532) ว่าแล้วนายโฉลกก็ด่าต่อไป พร้อมกับขยับไม้ที่อยู่ในมือด้วยท่าทาง ที่เอาจริงเอาจัง เล่นเอานางจันทราถึงกับตกใจกลัวจนตัวสั่น แต่สั่นสู้นะครับ ไม่ใช่สั่นถอย ในขณะที่นายโฉลกเดินเข้าหานางจันทรานั้นเอง ท�ำให้ นางจันทราตกใจเกรงว่านายโฉลกเดินเข้าหาท�ำร้ายอย่างแน่นอน จึงวิ่งเข้าไป หยิบอาวุธปืนสั้นของนายอาทิตย์สามีที่เก็บไว้ที่หัวนอนแล้วยิงไปที่ขานายโฉลก 3 นัด โดยเจตนาท�ำร้ายนายโฉลก เมื่อกระสุนถูกขาแล้ว นางจันทราก็หยุด ไม่ยิงอีกต่อไป นางจันทราจึงถูกจับมาฟ้องในข้อหาพยายามฆ่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นางจันทรามีเจตนาเพียงท�ำร้ายนายโฉลก จึงลงโทษฐานท�ำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จ�ำคุก 1 ปี และลงโทษฐานมีอาวุธ ปืนโดยไม่รับอนุญาต จ�ำคุก 6 เดือน รวมจ�ำคุก 1 ปี 6 เดือน จ�ำเลยรับสารภาพ ชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษ 1 ใน 3 คงจ�ำคุก 1 ปี ของกลางริบ พอถึงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จ�ำเลยยิงนายโฉลกเพียงเพื่อยับยั้งมิให้เขามาท�ำร้าย จ�ำเลยในบ้านเท่านั้น เพราะนายโฉลกซึ่งอยู่หน้าบ้านสามารถก้าวเข้าไปท�ำร้าย จ�ำเลยในบ้านได้โดยง่าย จ�ำเลยเป็นหญิง นายโฉลกมีไม้เป็นอาวุธและมากับ นายสุรชัย การกระท�ำของจ�ำเลยจึงเป็นการป้องกันตนให้พ้นภยันตรายซึ่ง เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ทั้งเป็นการกระท�ำพอสมควรแก่เหตุการกระท�ำของจ�ำเลย จึงเป็นการป้องกัน
  • 4. 4 5 เมียก็มีหัวใจ สามีประเภทที่ชอบตบตีท�ำร้ายภริยา เห็นภริยาเป็นกระสอบทราย เคลื่อนที่ ไม่ได้นึกถึงหัวอกของผู้หญิง นึกจะท�ำอะไรก็ท�ำตามใจชอบ ลองฟัง เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจบ้างว่าผู้หญิงเขาก็โกรธเป็นเหมือนกัน เมื่อเขา ถูกซ้อมจนทนไม่ได้ขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น แน่นอน สามีก็เดดสะมอเร่น่ะซีครับ จะมีอะไรแล้วแถมยังตายฟรีเสียอีกด้วยก็นับว่าสาสมกับความร้ายกาจของสามี นายอ�ำนาจเป็นสามีของนางอ�ำนวยแต่เป็นสามีชนิดเลวหนึ่งประเภทหนึ่ง คือชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ ประพฤติตัวเป็นนักเลงเกะกะเกเร ส่วนนางอ�ำนวย เป็นภริยาชนิดดีหนึ่งประเภทหนึ่ง คือเป็นแม่บ้านแม่เรือนสงบเสงี่ยมเจียมตัว เป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน นี่แหละที่เขาเรียกว่ากิ่งทองกับใบต�ำแย ไม่น่า จะมาอยู่เคียงคู่กันได้เลย แต่ก็เป็นไปแล้วซึ่งก็มักมีอยู่เสมอ ครับนายอ�ำนาจเมื่อเป็นสามีชั้นเลวเสียแล้ว ก็ย่อมประพฤติตนเลว ทั้งนอกบ้านและในบ้าน กล่าวคือ นอกบ้านก็เที่ยวพาลเกะกะเกเรเขาเรื่อยไป ส่วนในบ้านก็หาเรื่องทะเลาะกับนางอ�ำนวยอยู่บ่อย ๆ และชอบเตะตีนางอ�ำนวย เป็นประจ�ำ แล้วแถมไปมีเมียใหม่ให้นางอ�ำนวยช�้ำใจยิ่งขึ้นอีก หนัก ๆ เข้า ก็อพยพตัวเองไปอยู่กับเมียใหม่เสียเลย วันเกิดเหตุนายอ�ำนาจเสพสุรามึนเมามาที่บ้านของนางอ�ำนวย เพื่อ จะเอาลูกไปอยู่กับเมียใหม่ ใครจะยอมได้จริงไหมครับ ดังนั้นจึงเกิดทะเลาะ กันขึ้น โดยนายอ�ำนาจก็เข้าตบตีนางอ�ำนวยอย่างที่เคยปฏิบัติมาเป็นประจ�ำ นั่นแหละ แต่คราวนี้นายอ�ำนาจถึงคราวชะตาขาด เพราะนางอ�ำนวยเลือดเดือด บันดาลโทสะขึ้นมาฉับพลัน กูไม่ยอมมึงแล้วไอ้ชาติชั่ว ว่าแล้วก็คว้ามีดพร้าได้ ฟันศีรษะนายอ�ำนาจในทันที 1 ฉับ ผลก็คือนายอ�ำนาจนอนดิ้นกระแด่ว ๆ ลาโลกนี้ไปสู่ปรโลกโดยไม่รอช้า ต�ำรวจจับนางอ�ำนวยมาด�ำเนินคดี และอัยการก็ฟ้องนางอ�ำนวยเป็น จ�ำเลยในข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นการป้องกันพอสมควร แก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง พอมาถึงศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจ�ำเลย มีความผิด ให้จ�ำคุกถึง 20 ปี เรื่องก็ถึงศาลฎีกา ซึ่งวินิจฉัยว่าการที่จ�ำเลยฆ่าผู้ตายเป็นการกระท�ำโดย บันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ให้จ�ำคุก 2 ปี จ�ำเลย เป็นหญิง มีบุตรเป็นผู้เยาว์จะต้องอุปการะถึง 2 คน ไม่เคยต้องโทษจ�ำคุก มาก่อน ส่วนผู้ตายเป็นฝ่ายประพฤติตนไม่ชอบ จึงให้รอการลงโทษจ�ำคุกไว้มี ก�ำหนด 3 ปี (ค�ำพิพากษาฎีกาที่ 138/2532)
  • 5. 6 7 ศึกแย่งพระเครื่อง ศึกแย่งพระเครื่องระหว่างวัดกับชาวบ้านกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต ถึงขนาดสู้กันถึงศาลฎีกา เป็นที่เอิกเกริกเกรียวกราว บรรดาผู้ที่ติดตามข่าว ต่างก็เสมอนอกเสมอในกันอุตลุด ผลที่สุดใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่ ต้อง ติดตามเรื่องราวกันต่อไปครับ เรื่องนี้ก็เปิดฉากขึ้นที่วัดสุนทรประดิษฐ์ จังหวัดพิษณุโลก มีพระเครื่อง ชื่อดังรุ่นเก่าชื่อพระฝักไม้ด�ำและพระฝักไม้ขาว มีข่าวใหญ่ของจังหวัดว่า กรุพระวัดสุนทรประดิษฐ์แตก พบพระเครื่องชื่อพระฝักไม้ด�ำและพระฝักไม้ขาว บรรจุอยู่ที่ยอดเจดีย์ข้างพระอุโบสถ ข่าวได้เข้าไปถึงหูของจ�ำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งทราบมาก่อน แล้วว่านายเหยี่ยน สามีของจ�ำเลยที่ 2 และเป็นบิดาของจ�ำเลยที่ 1 ที่ 3 และ ที่ 4 ได้สร้างเจดีย์บรรจุกระดูกของนางจู มารดานายเหยี่ยนเอาไว้ในบริเวณ พระอุโบสถวัดสุนทรประดิษฐ์ และทราบด้วยว่า นายเหยี่ยนได้น�ำพระเครื่อง ฝักไม้ด�ำและฝักไม้ขาวที่เช่าบูชามาจากวัดโจทก์ประมาณ 500 องค์ บรรจุ ไว้ในเจดีย์นั้นด้วย แล้วเหตุไฉนหนอจึงเกิดกรุแตก พระชนิดเดียวกันทะลัก ออกมาจากเจดีย์ได้ ชักสงสัยตงิด ๆ เมื่อพากันไปดูอย่างใกล้ชิดก็พบว่า เจดีย์ถูกลักลอบขุดเอาพระเครื่อง ไปเสียแล้ว จึงพากันยกขบวนไปหาท่านพระครูผู้เป็นเจ้าอาวาส บอกว่า พระเครื่องเหล่านั้นเป็นของที่คุณพ่อของพวกข้าพเจ้าใส่ไว้ในเจดีย์ เพราะ ฉะนั้นท่านเอาไปย่อมจะเป็นการไม่ชอบ เอามาให้พวกข้าพเจ้าเสียเถิด ท่านเจ้าอาวาสก็ยอมคืนพระเครื่องเหล่านั้นให้กับบรรดาทายาทของนายเหยี่ยน แต่แล้วก็กลับหวนคิดขึ้นมาได้ว่า เอ๊ะ ! พระเครื่องเมื่ออยู่ในวัดก็ควรจะเป็น ของวัด เหตุไฉนจึงจะยกให้ทายาทนายเหยี่ยนไปโดยง่ายดายเช่นนั้น นึกได้ ดังนั้นก็ไม่รอช้า จัดแจงให้ทนายความฟ้องร้องจ�ำเลยทั้ง 4 คนในข้อหาละเมิด เอาพระของวัดไป คือพระฝักไม้ด�ำ จ�ำนวน 210 องค์ และพระฝักไม้ขาว จ�ำนวน 58 องค์ รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท ท�ำให้วัดไม่อาจน�ำ พระเครื่องดังกล่าวออกจ�ำหน่ายได้ เป็นเหตุให้ต้องขาดประโยชน์จากเงิน จ�ำนวนดังกล่าว ขอให้จ�ำเลยทั้งสี่ส่งมอบพระเครื่องดังกล่าวพร้อมค่าเสียหาย
  • 6. 8 9 จ�ำเลยทั้งสี่ให้การว่า พระเครื่องเป็นของที่นายเหยี่ยนบรรจุไว้ในเจดีย์ เพื่อบูชาร่วมกับกระดูกนางจู ไม่ได้อุทิศให้แก่วัดโจทก์ นายเหยี่ยนกับจ�ำเลย ทั้งสี่ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา เจ้าอาวาสกับพวกร่วมกันลักลอบ เจาะเจดีย์และลักพระเครื่อง จ�ำเลยทราบเรื่องจึงไปขอดู เมื่อเห็นว่าเป็นของ นายเหยี่ยนจึงน�ำพระเครื่องไปแจ้งความที่สถานีต�ำรวจ และน�ำพระเครื่อง ไปเก็บไว้ที่ธนาคารด้วยความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียก ค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จ�ำเลยทั้งสี่คืนพระเครื่องให้วัดโจทก์พร้อมกับ ชดใช้ค่าเสียหาย จ�ำเลยทั้งสี่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกค�ำขอเรื่องค่าเสียหาย โจทก์และจ�ำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลฎีกา โดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า กรณีเช่นนี้พระเครื่องพิพาท ซึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์บรรจุกระดูกของนางจูยังเป็นของจ�ำเลยทั้งสี่อยู่ จ�ำเลย ทั้งสี่หาได้สละสิทธิครอบครองพระเครื่องพิพาทให้วัดโจทก์ไม่ ดังนั้น จ�ำเลย ทั้งสี่จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในพระเครื่องพิพาทจากโจทก์ที่ไม่มีสิทธิจะยึดถือ ไว้ได้ การกระท�ำของจ�ำเลยทั้งสี่จึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ และไม่ท�ำให้โจทก์ เสียหาย พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ [ค�ำพิพากษาฎีกาที่ 1305/2531 (ประชุมใหญ่)] ก็เป็นอันว่าจ�ำเลยทั้งสี่มีสิทธิในพระเครื่องดีกว่าโจทก์ โจทก์หมดหวัง ที่จะเอาพระไปจ�ำหน่ายเสียแล้ว เรียกว่าฝันสลายครับ คนใจบาป นายจ�ำลองย่องเข้าไปหาพระภิกษุชื่น ซึ่งจ�ำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ โดยมี นายสนั่นกับนายสนุก เพื่อนคู่หูติดตามไปด้วย แล้วก็เอ่ยปากกับพระภิกษุชื่น ขอซื้อพระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารจากพระภิกษุชื่นซึ่งพ�ำนักอยู่ใน วิหารนั้น พระภิกษุชื่นก็ตอบโอเคซิกาแรต ทั้ง ๆ ที่พระพุทธรูปนั้นเป็นของวัด ไม่ใช่ของพระภิกษุชื่น เมื่อจ่ายเงินให้พระภิกษุชื่นไป 1,000 บาทเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 3 คนก็จัดการงัดพระพุทธรูปองค์งามออกจากแท่นที่ประดิษฐานของ องค์พระพุทธรูป พร้อมกับนึกในใจว่าหวานคอแร้งตูล่ะ จากนั้นก็น�ำพระพุทธรูป ไปจ�ำหน่ายให้แก่นายสนับเป็นเงิน 6,000 บาท