โครงร่างโครงงาน

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน อาการสภาวะทางจิตอันแปลกประหลาด
ความนึกคิดที่แตกต่างไปจากคนธรรมดา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว เสาวภาพ ใจยาว เลขที่ 34 ชั้น ม.6 ห้อง 14
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาว เสาวภาพ ใจยาว เลขที่ 34
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
10 อาการสภาวะทางจิตอันแปลกประหลาด ความนึกคิดที่แตกต่างไปจากคนธรรมดา
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
10 suffered mental strange. Ideally, different from ordinary people.
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว เสาวภาพ ใจยาว
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
จากสถิติ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งโลกจะมีอาการผิดปกติในเรื่องของจิตใจหรือพฤติกรรม แต่ในความ
ผิดปกติที่มากมายแตกต่างกันไปเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงศึกษาข้อมูลอาการที่ให้ความรู้สึกว่าแปลก พิลึกกว่า
ที่เราเคยได้ยินมาก่อน… กับความผิดปกติทางด้านจิตใจที่ส่งต่อไปยังการทางานของร่างกาย ที่ออกมาใน
รูปแบบของพฤติกรรมความคิดแปลกๆ ทั้ง 10 ความผิดปกติ
เนื่องจากปัจจุบันโลกของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง วิถีชีวิตของคน ภาระหน้าที่และการดิ้นรนเพื่อการ
อยู่รอดทาให้ มนุษย์เกิดความกดดันและมีความเครียด อาจเป็นผลอันเนื่องมาจากการขาดการใส่ใจดูแล
สุขภาพกายรวมไปทั้ง สุขภาพจิตเป็นเหตุให้เกิดความแปลกประหลาดพิสดารในโลกที่เราอาจไม่เคยรับรู้
มาก่อน แม้แต่เรื่องของ “จิต” ของ มนุษย์เราก็ยังมีความซับซ้อนและในบางคนก็มีความ “พิเศษ” ที่ต่าง
ไปจากคนอื่น ความพิเศษของคนบางคนนั้นก็อาจ แปลเป็นความผิดปกติหรือเป็น “อาการทางจิต” ได้
ข้าพเจ้าจะพาไปรู้จักอาการทางจิตที่มาจากความผิดปกติต่างๆ จนเป็นเหตุให้เกิดอาการแปลกๆ เพื่อเป็น
แนวทางในการศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับความผิดปกติและการดูแลเอาใจใส่ ทางด้านจิตของมนุษย์ ที่
ข้าพเจ้าสนใจในเรื่องนี้เพราะข้าพเจ้าเคยคิดอยากที่จะเรียนต่อทางด้านจิตแพทย์จึงสนใจและเลือกที่จะ
ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพื่อทาความเข้าใจและเป็นความรู้เบื้องต้นในการใช้รักษา

3. 3
วัตถุประสงค์
- ศึกษาเพื่อใช้เป็นความรู้ในการศึกษาต่อทางด้านจิตแพทย์
- เพื่อให้เราทราบถึงสาเหตุการเกิดความผิดปกติ
- เพื่อศึกษาอาการที่แตกต่างกันออกไปของความผิดปกติทางจิตแต่ละชนิด
- เพื่อให้เราเกิดความเข้าใจและสามารถป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติทางจิต
- เพื่อทาความเข้าใจผู้ป่วย
ขอบเขตโครงงาน
- จัดทาขึ้นเพื่อคนที่มีความสนใจในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ได้รับความรู้เพิ่มเติม
- จัดทาเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลักการและทฤษฎี
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
พฤติกรรมความผิดปกติ
1.Quasimodo Syndrome
โรคนี้ถือว่ามีอาการที่น่ากลัวอยู่มากเลยทีเดียว เพราะจะคิดว่าตัวเองนั้นมีร่างกายที่ผิดปกติหรือมีความบกพร่องที่เกินจริง จะส่อง
กระจกอยู่ตลอดเพื่อพยายามจับผิดตัวเอง ถึงขนาดไม่ชอบที่จะถ่ายรูปเพราะกลัวว่าจะเห็นในข้อบกพร่องของตัวเองในภาพ มีความ
ภูมิใจในตัวเองน้อยมาก และกลัวการเข้าสังคมเพราะคิดว่าคนอื่นจะหัวเราะเยาะในความผิดปกติที่ตัวเองคิดไว้
2.Erotomania

4. 4
ผู้ป่วยจะคิดว่ามีคนตกหลุมรักตัวเองอยู่ แล้วคนคนนั้นก็คือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมเช่น ดารานักร้อง จินตนาการเอาว่าเหล่าคน
ดังนั้นจะส่งสัญญาณแสดงความรักมาให้อยู่ตลอด และจะพยายามติดต่อกลับไปหาด้วยวิธีต่างๆ เพื่อเป็นการแสดงถึงความรัก
ถึงแม้ว่าคนดังเหล่านั้นจะตอบปฏิเสธ แต่ก็ยังคิดว่านั่นคือการเก็บให้เรื่องของพวกเขาเป็นความลับต่อสาธารณชนเพียงแค่นั้น
3.Capgras Delusion
อาการก็คือจะมีความเชื่อว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวนั้นถูกแทนที่ด้วยร่างฝาแฝด และจะคิดว่าเรื่องแย่ๆ ที่ได้ทาลงไปนั้นไม่ใช่ฝีมือของ
ตน แต่เป็นฝีมือของอีกร่างหนึ่งที่ไม่ใช่ตัวเองแต่มีลักษณะเหมือนกันมากๆ โรคนี้มักจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับโรคจิตเภท
4.Fregoli Delusion
เขาจะเชื่อว่าคนแปลกหน้ารอบตัวคือคนที่พวกเขารู้จัก แต่แค่ปลอมตัวมาเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง ซึ่งโรคดังกล่าวนั้นได้รับ
การอธิบายครั้งแรกในปี 1927 เมื่อเด็กสาวคนหนึ่งเชื่อว่าตัวเองถูกติดตามจากนักแสดงในโรงละครที่เธอไปบ่อยครั้ง ทาการ
ปลอมตัวมาเป็นคนที่เธอรู้จักหรือเคยเห็นหน้า
5.Adele Syndrome

5. 5
ความรักที่ลุ่มหลงคืออาการของโรคนี้ซึ่งที่บอกว่าเป็นอาการผิดปกติ ก็เพราะว่าแพทย์ได้วินิจฉัยว่ามันร้ายแรงเทียบเท่าการติดการ
พนัน ติดเหล้า หรือชอบลักขโมยเลยทีเดียว จะออกมาในรูปแบบของอาการซึมเศร้าแต่อันตรายกว่ามาก จะคอยตามรบกวนคนคน
หนึ่ง หลอกตัวเอง หวังลมๆ แล้งๆ ปฏิเสธคาแนะนาคนรอบข้าง หรือไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว
6.Cryptomnesia
เป็นโรคที่จะทาให้ไม่สามารถจาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะคิดว่านั่นคือสิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น จนถึงขั้นแยกระหว่าง
ความจริงกับความฝันไม่ออก ลืมว่าข้อมูลมาจากแหล่งใดและแยกแยะออกไม่ได้ว่าไอเดียที่มีในหัวนั้นเป็นของตัวเองหรือได้รับมา
จากคนอื่น

6. 6
7.Alice in Wonderland Syndrome
โรคนี้จะมีอาการเปลี่ยนแปลงการรับรู้สิ่งรอบตัว จะเข้าใจว่าตัวเองเล็กหรือใหญ่กว่าขนาดตัวที่เป็นอยู่หรือแม้แต่คิดว่าอยู่ห่างกัน
ไกลแสนไกลทั้งที่อยู่ใกล้แค่นิดเดียว ปัญหาหลักคือพวกเขาจะไม่เข้าใจในเรื่องรูปร่างหรือมิติพื้นที่ต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของดวงตา
หรือสมองแต่อย่างใด แต่เกิดจากจิตใจทั้งสิ้น
8.Obsessive-Compulsive Disorder
นี่คือโรคย้าคิดย้าทาที่จะสร้างความคิดที่พวกเขาสามารถรู้ตัวได้ว่ามันเป็นสิ่งเหลวไหล และจะรู้สึกราคาญต่อความคิดเหล่านั้นจึง
หักล้างออกมาเป็นพฤติกรรมซ้าๆ เช่น หากคิดว่าลืมปิดเตาแกสสก็จะไปคอยเช็คเตาแกสสอยู่เสมอ หรือถ้าคิดว่าไม่ได้ล้างมือก็จะไป
ล้างมืออยู่อย่างนั้น มีความคิดวนไปวนมา เกิดจากความวิตกกังวลต่อความคิดที่ผุดขึ้น

7. 7
9.Paraphrenia
ผู้ป่วยโรคนี้จะมีความคิดว่าตัวเองนั้นคือผู้ที่กาหนดโลกใบนี้ คิดว่าตนเป็นอมตะ ตนเป็นพระเจ้า โดยจะเขียนเรื่องราวเพ้อฝันเหล่านี้
ลงในหนังสือด้วยนามแฝงที่ตัวเองยังคงคิดไปเอง มีบุคลิกที่หยิ่งและลึกลับ
10.Multiple Personality Disorder
โรคนี้จะมีอาการที่แบ่งบุคลิกภาพออกเป็นหลากหลายแบบในคนคนเดียวกัน มีความคิดต่างเพศ ต่างอายุ ต่างเชื้อชาติ ต่างมุมมอง
หรือแม้แต่มีอาการเจ็บป่วยที่ต่างกัน เกิดขึ้นเพราะบาดแผลทางอารมณ์ที่ร้ายแรงในวัยเด็ก จึงเกิดกลไกป้องกันตัวเองเข้าใจว่าสิ่งที่
เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเองแต่เกิดขึ้นกับอีกคนในร่างเดียวกัน เรื่องราวแบบนี้ที่โด่งดังคือเมื่อปี 1970 ในอเมริกาเมื่อผู้ต้องหาคดี
ข่มขืนถูกจับ ซึ่งเขาคนนั้นมีถึง 24 คนในร่างเดียวกัน…

8. 8
แนวทางการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อเรื่องที่สนใจ
2. ศึกษาข้อมูลที่ใช้ทาโครงงาน
3. เตรียมการและรวบรวมข้อมูลที่ใช้ทาโครงงาน
4. ลงมือปฏิบัติ
5. ตรวจเช็คข้อมูลและปรับปรุงแก้ไข
6. อภิปรายและข้อเสนอแนะ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. อินเตอร์เน็ต
2. คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / / เสาวภาพ
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / เสาวภาพ
3 จัดทาโครงร่างงาน / / / เสาวภาพ
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / เสาวภาพ
5 ปรับปรุงทดสอบ / / / เสาวภาพ
6 การทาเอกสารรายงาน / / เสาวภาพ
7 ประเมินผลงาน / เสาวภาพ
8 นาเสนอโครงงาน / เสาวภาพ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้รับความรู้เกี่ยวสาเหตุของการเกิดความผิดปกติ
2. สามารถนาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการศึกษาต่อเฉพาะทาง
สถานที่ดาเนินการ
- โรงเรียน ยุพราชวิยาลัย
- บ้านข้าพเจ้า

9. 9
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- ชีววิทยา
- จิตวิทยา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
- http://www.bkkvariety.com/612
- http://www.catdumb.com/weird-syndrome/