More Related Content
Similar to 2558 project (20)
2558 project
- 1. 1
โครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง 33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
บอกลาความขี้ลืม
Good bye Forgetful
ผู้ทำาโครงงาน
นายรถทพล บุญเป็ง
เลขที่ 32 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/6
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดำาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการ
ศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สำานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 34
ข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
- 2. 2
สมาชิกในกลุ่ม
นายรถทพล บุญเป็ง เลขที่ 32 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/6
ชื่อโครงงานภาษาไทย :บอกลาความขี้ลืม
ชื่อโครงงาน ภาษาอังกฤษ : Good bye Forgetful.
ประเภทโครงงาน : โครงงานประเภทจำาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
ผู้ทำาโครงงาน : นายรถทพล บุญเป็ง
ที่ปรึกษา : ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ที่ปรึกษาร่วม : นางสาวธัญชนก อธิจิต
ระยะเวลาดำาเนินงาน : 1 เดือน
ที่มาและความสำาคัญของโครงงาน
อาการหลงลืมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งถือเป็น
เรื่องปกติหากว่านานๆ จะลืมกันสักครั้ง แต่ถ้าเกิดการขี้ลืมบ่อยๆ สมองไม่จดจำาอะไรเลย
แม้ในเรื่องสำาคัญที่อยู่ใกล้ตัว อย่างนี้ก็น่าเป็นห่วงว่าสมองของคนๆ นั้นอาจจะเริ่มเสื่อม
ผมได้เลือกทำาโครงงานนี้เพื่อเป็นการศึกษาและให้ความรู้แก่คนขี้ลืม ที่ไม่อยากให้สมอง
แก่ก่อนวัย ทำาให้เป็นคนขี้หลงขี้ลืมซึ่งเป็นบุคลิกที่ไม่ดี เป็นคนไม่มีเสน่ห์ ไม่มี
ประสิทธิภาพ รวมไปถึงมีวิธีฝึกฝนใช้สมอง เพื่อที่จะให้สมองก็พร้อมที่จะใช้การได้ดี
ตามสภาพ ถ้ามีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุของการขี้ลืม
2.เพื่อศึกษาวิธีการแก้ปัญหาความขี้ลืม
3.เพื่อใช้เป็นแนวทางการศึกษา
ขอบเขตโครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์บอกลาความขี้ลืม(Good bye Forgetful.) เป็นโครงงานเพื่อ
ศึกษา โดยจะศึกษาภาพรวมของการขี้ลืม คือ สาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาความขี้ลืม
หลักการและทฤษฎี
- สาเหตุของการขี้ลืม
ขี้ลืม เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น สมาธิไม่ดี ไม่ได้ใส่ใจ ภาวะรีบเร่ง ทำาหลาย
- 3. 3
อย่างในเวลาเดียวกัน นอนไม่พอ หรือแม้การทานยานอนหลับ ยาลดนำ้ามูก ก็อาจทำาให้
ลืมได้ง่าย
- วิธีการแก้ปัญหาความขี้ลืม
1. วางข้าวของให้เป็นที่เป็นทาง จะสังเกตได้ว่าคนที่มีระเบียบในชีวิตมักจะเป็นคน
ไม่ค่อยขี้ลืมเท่าไรนัก ดังนั้น เราจึงควรจัดระเบียบชีวิตให้ง่ายขึ้นโดยการเก็บสิ่งของให้
อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่เสมอ จะช่วยให้เราไม่ต้องมาคิดว่าเราวางของต่างๆ ไว้ที่ตรงไหน
บ้าง เช่น เก็บสมุดบัญชีไว้ในลิ้นชักชั้นบน เก็บกุญแจต่างๆ เช่น กุญแจบ้าน กุญแจรถ
กุญแจลิ้นชักไว้ในโต๊ะข้างเตียง นอน เก็บเอกสารต่างๆ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้ง
ชำาระหนี้เอาไว้ในซองใส่เอกสารที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น หรือมีตู้สำาหรับเก็บยาทุกชนิด
ถ้าเราทำาให้เป็นนิสัย รับรองว่าจะไม่มีปัญหาว่าหาของไม่เจอหรือจะไม่รู้ว่าเอาของไป
วางไว้ที่ไหนอย่างแน่นอน
2. จดบันทึก แท้จริงแล้วทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนขี้ลืมหรือไม่ก็ตาม ควรที่จะต้องมีสมุด
บันทึกประจำาวันเพื่อจดบันทึกถึงสิ่งที่ต้องทำาในแต่ละวันเอาไว้ (หรือสมัยนี้อาจจะจดไว้
ในโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต) รวมทั้งสมุดจดที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนและ
บุคคลสำาคัญ อีกทั้งการจดบันทึกแผนการที่ต้องทำาในแต่ละสัปดาห์หรือในเดือนถัดไป
การมีสมุดบันทึกเป็นสิ่งที่จำาเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนความจำาได้อย่าง
ง่ายๆ อีกวิธีหนึ่ง เพียงแต่ว่าอย่าลืมจดแค่นั้นก็พอ
3. เขียนโน้ต เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเตือนความจำาได้เป็นอย่างดี เป็นต้นว่าเขียน
ข้อความลงในกระดาษโน้ตแล้วติดไว้ในสถานที่ที่เราต้องผ่านบ่อยๆ เช่น ตู้เย็นกระจกที่
โต๊ะเครื่องแป้ง กระจกในห้องนำ้า โต๊ะทำางาน ประตูทางออก หรือเราจะใช้บอร์ดเล็กๆ
เขียนเตือนความจำาไว้ในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น การเขียนโน๊ตเป็นวิธีการเตือนความ
จำาง่ายๆ ที่ช่วยคนขี้ลืมได้ดีทีเดียว
4. ไม่ควรทำากิจกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน จุดอ่อนของคนขี้ลืมโดยส่วน
ใหญ่มักจะเป็นคนไม่ค่อยมีสมาธิ ดังนั้น ถ้าเรารู้ตัวว่าเราเป็นคนขี้ลืม สิ่งที่สำาคัญก็คือ
อย่าทำากิจกรรมหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เช่น รดนำ้าต้นไม้ในเวลาเดียวกับที่เปิด
เตาแก๊สอุ่นอาหารเอาไว้ เพราะอาจจะทำาให้อาหารไหม้ได้ถ้าเราลืมไปว่าเราอุ่นอาหาร
ทิ้งเอาไว้ พูดโทรศัพท์หลายสายในเวลาเดียวกัน บางคนมีโทรศัพท์เรียกเข้าพร้อมๆ กัน
แล้วก็เลือกจะรับสายพร้อมๆ กัน แต่เมื่อคุยกับสายหนึ่งอยู่แล้วปล่อยให้อีกสายหนึ่งถือ
สายรอ สายที่รออยู่นั้นอาจจะรอเก้ออยู่หลายนาทีโดยเราลืมไปแล้วว่ามีอีกสายหนึ่งนั้น
รออยู่ก็ได้ ดังนั้น สำาหรับคนขี้ลืมแล้ว ควรจะเลือกทำากิจกรรมเพียงอย่างเดียวในเวลา
เดียว โดยหลีกเลี่ยงการทำากิจกรรมหลายอย่างพร้อมๆกันเพราะจะทำาให้สมาธิในการจำา
ลดลงหรือทำาให้จำาอะไรไม่ได้เลย
5. อาหารบำารุงสมองช่วยคนขี้ลืม ในปัจจุบันทางการแพทย์ได้มีการวิจัยว่ามีอาหาร
เสริมบางชนิดที่ช่วยให้ความจำาดีขึ้นและช่วยป้องกันความจำาเสื่อม เช่น สารสกัดจากใบ
แปะก๊วยที่เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปที่สมอง ซึ่งช่วยให้ความจำาดีขึ้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
อาหารเสริมก็ไม่สำาคัญเท่ากับการที่รับประทานอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่อีกทั้งนอนหลับ
พักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อที่สมองจะแจ่มใสและมีความจำาที่ดีนั่นเอง
6. ฝึกสมองอยู่เสมอ สมองเป็นอวัยวะหนึ่งที่ต้องได้รับการฝึกฝนอยู่เป็นประจำา มิ
ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาเสื่อมแล้วก็จะเสื่อมอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากคนที่มีนิสัยไม่ค่อยใส่ใจ
สิ่งแวดล้อมและใช้ชีวิตเรื่อยเฉื่อยมักจะขี้หลงขี้ลืมมากกว่าคนที่ใช้สมองอยู่เป็นประจำา
กิจกรรมในการฝึกสมองไม่ให้เป็นคนลืมง่าย เช่น เล่นเกม เล่นดนตรี อ่านหนังสือ
- 4. 4
ประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้สมองได้ออกกำาลัง เพิ่มความคิดที่รวดเร็ว
ฉับไวขึ้น ส่งผลให้มีอาการหลงลืมน้อยลง
วิธีดำาเนินงาน
แนวทางการดำาเนินงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.กำาหนดเรื่องที่จะศึกษา 1.คอมพิวเตอร์
2.ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 2.หนังสือ
3.จัดทำาโครงงาน 3.กระดาษและเครื่องเขียน
4.ตรวจสอบผลงาน
5.ปรับปรุงแก้ไข
6.นำาเสนอโครงงาน
งบประมาณ : -
ขั้นตอนและแผนดำาเนินงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.มีความเข้าใจเกี่ยวกับอาการขี้ลืม
2.สามารถแก้ปัญหาความขี้ลืมได้
3.มีความรู้เรื่องความขี้ลืม
4.มีความรู้เรื่องการแก้ปัญหาอาการขั้ลืม
5.สามารถศึกษาเกี่ยวกับอาการขี้ลืมในอนาคต
สถานที่ดำาเนินการ : โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
ลำาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน นายรถทพล
บุญเป็ง
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
นายรถทพล
บุญเป็ง
3 จัดทำาโครงร่างงาน นายรถทพล
บุญเป็ง
4 ปฏิบัติการสร้างโครง
งาน
นายรถทพล
บุญเป็ง
5 ปรับปรุงทดสอบ นายรถทพล
บุญเป็ง
6 การทำาเอกสาร
รายงาน
นายรถทพล
บุญเป็ง
7 ประเมินผลงาน นายรถทพล
บุญเป็ง
8 นำาเสนอโครงงาน นายรถทพล
บุญเป็ง