SlideShare a Scribd company logo
1 of 45
Download to read offline
นักจัดการ
(โครงสร้ างมั่งคัง)
่
มีประสิ ทธิภาพ มั่นใจ
ตัดสิ นใจเด็ดขาด

~1~
เผิงโหย่ ว

~2~
บุคลิกภาพ

บทนา
นักจัดการ (โครงสร้ างมั่งคัง)
่
คนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง รู ้ จ ัก กัน ในนาม นัก จัด การ เป็ นหนึ่ ง ในบรรดาผูที่ เ ปี่ ยมด้ว ยพลัง
้
ขับ เคลื่ อ นและมุ่ ง ผลลัพ ธ์ รวมทั้ง ทะเยอทะยาน ชอบแข่ ง ขัน และมี ค วามมัน ใจสู ง คนที่ มี
่
โครงสร้ างนี้ มก มี แรงขับเคลื่ อนและชอบมุ่ งเน้นไปที่ ภารกิ จในมื อ พวกเขาแก้ปัญหาและความ
ั
ท้าทายต่างๆ ได้ดี และจะยิงแสดงความสามารถที่ดีได้โดดเด่นมากขึ้นไปอีกเมื่อมีอุปสรรคกีดขวาง
่
พูดอีกนัยหนึ่งคือ อุปสรรคและความยากลาบากทาให้พวกเขายิ่งฮึกเหิ ม พวกเขาต้องการอิสระที่จะ
ทาตามวิธีแก้ปัญหาของตนเองและใช้ความสามารถในการควบคุม
คนโครงสร้างมังคังชอบควบคุมทุกคนและทุกสิ่ งทุกอย่าง เพราะพวกเขาเชื่ อว่าตนเองรู้วิธี
่ ่
ที่ถูกต้องหรื อวิธีที่ดีที่สุดในการกระทาอะไรบางอย่าง เมื่อทาอะไรด้วยพลังเต็มเปี่ ยม พวกเขามี
แนวโน้มที่จะเป็ นคนทะเยอทะยานซึ่ งมี มาตรฐานสู ง และคาดหวังคนอื่นว่าจะทาได้เทียบเท่าพวก
เขาพร้อมเสมอที่จะรับผิดชอบในฐานะหัวเรื อใหญ่ และเป็ นนักคิดอิสระที่มีสมรรถนะในการแก้ไข
เกือบทุกปัญหาที่ถูกโยนมาให้

~3~
อย่างไรก็ตาม เมื่อแผนภูมิโครงสร้ างมังคังไม่ได้สมดุ ลหรื อไม่ดี พวกเขามีแนวโน้มที่จะ
่ ่
กลายเป็ นพวกตัวประหลาดจอมบงการ ใช้กลวิธีที่เร่ งเร้าดุดนเพื่อเร่ งให้สิ่งต่างๆ เร็ วขึ้น และเร่ งรัด
ั
ผลลัพธ์ ที่เร็ วกว่าและดี กว่า บางครั้ งก็กระโดดข้ามรายละเอี ยดสาคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ เหล่ านั้น
พวกเขายังไม่ยอมทนต่อความโง่คนอื่ นด้วย และบางครั้ งก็แสดงอารมณ์ ร้ายหรื อความหงุ ดหงิ ด
ออกมาเมื่ อต้องตอบคาถามเดี ยวกันซ้ าแล้วซ้ าอี ก หรื อเมื่ อถู กบังคับให้ตองทาภารกิ จเดี ยวกันซ้ า
้
โดยไม่มีอะไรดีข้ ึน หรื อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

~4~
ด้ านดี
แสงนาทาง
“ฉันจะบอกวิธีให้ คุณ...”
คนโครงสร้ างมังคังสนุกกับการทาอะไรน่ะหรื อ? ก็สนุ กกับการบอกผูคนให้ทาโน่นทานี่
้
่ ่
ไง และแน่ นอน ต้องทาตามวิธีน้ นเป๊ ะๆ เลยนะ! พวกเขามักเป็ นฝ่ ายริ เริ่ มและอยากรู้ไปหมดทุก
ั
เรื่ อง เพื่อที่จะได้ตดสิ นใจอย่างดีที่สุด ดังนั้นความเชื่ อมันอย่างแรงกล้าในความรู้ของตัวเองจึงทา
ั
่
ให้พวกเขามุ่งมันที่จะคอยแนะนาคนอื่น เพื่อที่คนอื่นๆ จะสามารถทาสิ่ งที่ถูกต้องเช่นกัน
่
ั
คนโครงสร้ างมังคังยังอยากให้อะไรๆ ดาเนิ นไปด้วยดี พวกเขาทนไม่ได้กบแผนการที่
่ ่
ครึ่ งๆ กลางๆ หรื อความหย่อนยานไร้ ประสิ ทธิ ภาพ พวกเขาอยากก้าวเข้าไปช่ วยคนอื่นทาอะไรๆ
ด้วยวิธี ที่ เป็ นประโยชน์และมี ป ระสิ ทธิ ภาพมากขึ้ น ความสนใจมุ่ งมันของพวกเขาที่ จะบริ หาร
่
จัดการและแนะนาผูคนนั้นแตกแขนงมาจากความต้องการนี้
้
พวกเขาเป็ นคนที่ผคนจะไปหาในยามที่ตองการความคิดเห็นหรื อ เสี ยงสะท้อนที่จริ งใจและ
ู้
้
ซื่ อ สั ต ย์ ถ้า อยากได้รั บ ค ายกยอปอปั้ นแล้ว ละก็ ไม่ ค วรมองหาจากคนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง คน
โครงสร้ างมังคังอยากแสดงให้คนอื่นเห็ นวิธีทาอะไรๆ บนพื้นฐานวิธีการของพวกเขาเอง เพราะ
่ ่
พวกเขาเชื่ออย่างแท้จริ งว่าตัวเองรู้ดีที่สุด ด้วยเหตุที่ได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อค้นหามันมาแล้ว
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ชอบแนะนาเพื่อนๆ
 ให้ความคิดเห็นที่ซื่อสัตย์
 อยากปรับปรุ งประสิ ทธิ ภาพของคนอื่นให้ดีข้ ึน
 ชอบที่จะบริ หารจัดการให้ทุกอย่างดาเนิ นไปด้วยดี

~5~
ขอเอียวด้ วยคน
่
“ติดหล่ม”
คนโครงสร้ างมังคังอาจถูกมองว่าใจกว้างโดยธรรมชาติ เพราะความที่อยากบอกคนอื่นว่า
่ ่
ให้ทาอะไรๆ พวกเขาไม่ชอบนังเฉยๆ แล้วเอาแต่มองดูคนอื่นล้มเหลวด้วยความเหลาะแหละ อันที่
่
่
จริ งบางคน อาจพบว่าคนโครงสร้างมังคังแทรกแซงหรื อวุนวายเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป แต่นนเป็ น
ั่
่ ่
วิธีแสดงความเป็ นห่วงเป็ นใยของพวกเขา
ดังนั้นคนโครงสร้างมังคังจึงมักเล่นบท “เจ๊ใหญ่” หรื อ “พี่เบิ้ม” ในหมู่เพื่อน พวกเขาอาจ
่ ่
เป็ นคนที่ใครๆ อยากมาปรึ กษาเรื่ องโน้นเรื่ องนี้ เช่น จะไปกินอาหารค่าที่ไหนดีหรื อจะหาช่างตัด
เสื้ อที่ดีที่สุดได้ที่ไหน และเพราะเหตุที่พวกเขาชอบแข่งขันและมีการวางตัวดีน่าเชื่ อถือ ผูคนจึงพา
้
กันหันไปหาพวกเขา เพื่อขอคาแนะนาทางธุ รกิจหรื อทางการเงิน อาทิ ลงทุนอะไรดี ซื้ อทรัพย์สิน
ที่ดีที่สุดได้ที่ไหน ฯลฯ
ทีแรกคนโครงสร้ างมังคังอาจดูเย็นชาและชอบบังคับมากเกิ นไป รวมทั้งอาจขู่ขวัญคนที่
่ ่
คิดว่าพวกเขาวางตัวเหิ นห่ าง แต่คนโครงสร้ างมังคังชอบควบคุม รวมทั้งเป็ นนักปฏิ บติที่ตื่นตัว
ั
่ ่
กระฉับกระเฉงและทางานเก่ง พวกเขาจะเข้าไปเกี่ ยวข้องกับเรื่ องราวของคนอื่ นๆ เพื่อพยายาม
ขับเคลื่อนให้คนเหล่านั้นมุ่งไปสู่ สิ่งที่ดีที่สุด และทาสิ่ งต่างๆ ด้วยวิธีที่ให้ผลสู งสุ ดหรื อด้วยวิธีที่ดี
ที่สุด
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อาจถูกมองว่าเป็ นคนใจกว้าง
 ชอบเข้าไปมีส่วนร่ วม
 ลงไปลุยเอง
 ชอบเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่ องของคนอื่น

~6~
นักเสี่ยง
“ทะยานไปเพือให้ ได้ สิ่งทีดีทสุด”
่
่ ี่
คนโครงสร้ างมังคังมีแรงขับเคลื่ อนรุ นแรงสาหรั บการเปลี่ ยนแปลง พวกเขาทนกับเรื่ อง
่ ่
เดิ ม ๆ ที่ น่า เบื่ อไม่ไ ด้ จึ งมักมุ่ง มันที่ จะหยิบเรื่ องนั้นเรื่ องนี้ ม าผสมมาเขย่าเพื่ อให้ผลลัพธ์ ใ หม่ ๆ
่
หรื อการเปลี่ ยนแปลงแม้เล็กๆ น้อยๆ ก็ยงดี พวกเขาอยากเห็นการพัฒนา และอยากให้แน่ ใจว่า
ั
ผลสุ ดท้ายที่เกิดขึ้นนั้นมีประโยชน์และคุมค่า
้
ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้างมังคังจึงเต็มใจเสี่ ยงที่จะทาให้ตนเองได้รับสิ่ งที่ดีที่สุด หรื อแน่ ใจ
่ ่
่
ได้วาจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิ ทธิ ผลที่สุด พวกเขาจะไม่ลงเลในการตัดสิ นใจแม้จะเป็ นทางเลือกที่ยาก
ั
ก็ตาม คนโครงสร้ างมังคังเป็ นพวกที่ทาอะไรก็จะทาจนถึ งที่สุด พวกเขามุ่งมันกับการยอมเหนื่ อย
่ ่
่
ยากเพิมขึ้นเพื่อให้เพื่อนได้พฒนาก้าวหน้าและทาสิ่ งต่างๆ ได้ดีข้ ึน
ั
่
คนโครงสร้ างมังคังมองโลกในแง่ ดี เชื่ อว่าทุ ก สิ่ งสามารถเปลี่ ยนแปลงได้ และควรถู ก
่ ่
เปลี่ยนแปลงให้ดีข้ ึน พวกเขาจะไม่เอาแต่นงเอกเขนกเสนอทางเลือกแย่ๆ หรื อย้อนแย้งในทางลบ
ั่
พวกเขาไม่ ใ ช่ ค นนิ่ ง ดู ดาย และเพราะถู ก ขับ เคลื่ อ นด้ว ยความต้องการที่ จะท าอะไรๆ ให้ ดีข้ ึ น
จึงเหมาะที่จะเสี่ ยงทาอะไรสักอย่างสองอย่าง เพื่อให้รู้ว่าตัวเองอยู่ ณ จุดไหนและทาความฝันของ
ตนเองให้เป็ นจริ งขึ้นมา

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีแรงผลักดันที่จะเปลี่ยนแปลง
 อยากให้สิ่งต่างๆ ดีข้ ึน
 มุ่งมันกับการสารวจดาแดนใหม่ที่ยงไม่มีใครเข้าถึง
ั
่
 ยอมเสี่ ยงเพื่อให้อะไรๆ ดีข้ ึน

~7~
ด้ านไม่ ดี
ครอบงา
“ภาคภูมใจกับการเป็ นคนชอบออกคาสั่ งโดยธรรมชาติ”
ิ
เนื่องจากคนโครงสร้างมังคังสนุ กกับการบอกผูคนให้ทาโน่ นทานี่ ลักษณะเช่นนี้ จะแสดง
้
่ ่
ตัวในรู ปของความเจ้ากี้เจ้าการหรื อความก้าวร้าว เมื่อแผนภูมิมีลกษณะไม่ดีหรื อไม่สมดุล บางครั้ง
ั
คนโครงสร้างมังคังลืมว่ามีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างการโน้มน้าวจูงใจหรื อการให้กาลังใจคนบางคน
่ ่
ให้ทาตามสิ่ งที่พวกเขาบอกให้ทา กับการบังคับพวกเขาให้ทา
บางครั้งคนโครงสร้ างมังคังอาจค่อนข้างทาตัวแบบ “รู้ดีไปหมด” ในยามที่พวกเขาทาให้
่ ่
เกิ ดความอยากรู ้ ซึ่ ง ทาให้พวกเขามี อานาจและพลัง ในการตัดสิ นใจที่ ดีที่สุด และกระตุนให้เกิ ด
้
การเปลี่ยนแปลงนั้น พวกเขาก็อาจไม่ตระหนักว่าได้ทาให้คนอื่นรู ้สึกอึดอัดคับข้องใจกันไปทัวหน้า
่
ถึงแม้ผคนจะไม่มาขอคาแนะนาหรื อความเห็ น แต่คนโครงสร้ างมังคังก็จะไม่สามารถยืน
ู้
่ ่
เฉยๆ ดูใครบางคนทาผิดพลาด หรื อทาอะไรช้าๆ และไร้ประสิ ทธิ ภาพได้ พวกเขาเป็ นต้องยื่นมือ
เข้า ไปเกี่ ย วข้องและเริ่ ม ผลักดัน ให้คนพวกนั้นท าหรื อแสดงพฤติ ก รรมอะไรสั ก อย่า ง และเป็ น
ธรรมดาอยูเ่ องที่บางครั้งการทาแบบนี้ก็ตองขัดอกขัดใจคนอื่นบ้าง
้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ก้าวร้าว
 ตัดสิ นใจแทนคนอื่น
 อาจบังคับให้คนอื่นทาโน่ นทานี่
 อยากเป็ นคนชี้ ขาด

~8~
เป็ นเจ้ าข้ าวเจ้ าของ
“เธอเป็ นของฉัน...ตลอดกาล”
ในแผนภู มิ ที่ไ ม่ดีหรื อไม่ สมดุ ล คนโครงสร้ างมัง คังบางคนอาจก้า วร้ า วได้มาก เพราะ
่ ่
แรงขับ เคลื่ อนและการมุ่ ง เน้น งานของพวกเขา ท าให้พ วกเขาไม่ ค่ อยมี เวลาและแนวโน้มที่ จ ะ
เอนอิ ง พิ งหลังพัก ผ่อน พวกเขามี เพื่ อนไม่ มากนัก เพราะความเป็ นคนชอบความสมบูรณ์ แบบ
แถมยัง เที่ ย วคาดหวัง คนอื่ นให้เป็ นคนสมบู รณ์ แบบเหมื อนตัวเอง รวมทั้ง มี ปัญหาเรื่ องไม่ ย อม
ไว้ใจใครง่ายๆ อีกด้วย
ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาหาเพื่อนได้ ก็จะมีแนวโน้มที่จะแสดงความเป็ นเจ้าข้าวเจ้าของ
และเกาะติด แต่โดยทัวไปแล้วคนโครงสร้ างมังคังมักไม่ใช่ คนประเภทโอนอ่อนผ่อนตาม แต่มี
่
่ ่
แนวโน้มที่จะบังคับเพื่อนให้ติดตามพวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง
คนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง ยัง เคยชิ น ที่ จ ะติ ด ต่ อ กับ ผู ้ค นแบบตรงไปตรงมาและอย่ า งทื่ อ ๆ
ั
(โดยเฉพาะในเรื่ องงาน) จนกระทังอาจพลอยทาแบบเดี ยวกันนี้ กบเพื่อนๆ ด้วย โดยละเลยวิธี
่
ปฏิบติที่อ่อนโยนกว่าและใส่ ใจกับอารมณ์มากขึ้น ซึ่ งอาจทาให้ชนะใจเพื่อนได้ดีข้ ึน แต่กลับหลง
ั
ทิ ศ ผิด ทางโดยท าให้ เ พื่ อ นรู ้ สึ ก ผิ ดหรื อบงการให้เ พื่ อนมาติ ดอยู่ก ับ ตัว เองจนอาจท าให้ เ พื่ อ นๆ
หนีห่างโดยไม่ได้ต้ งใจ
ั
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ชอบควบคุม
 อยากได้รับความสนใจทั้งหมดจากเพื่อน
 ไม่เป็ นที่ชื่นชอบ ดังนั้นจึงเกาะติดเพื่อน
 พยายามหาเพื่อนด้วยการบังคับเอา

~9~
เจ้ าเล่ห์
“ใช้ คนอืนด้ วยเพทุบาย”
่
่
สิ่ งหนึ่งที่คนโครงสร้างมังคังลงทุนกับมันมากที่สุดคืออะไร? คือผลลัพธ์ ไม่วาจะทาอะไร
่ ่
พวกเขาอยากท าให้ดี และเชื่ อ มันว่า ตนเองท าได้ดีก ว่า คนอื่ น พวกเขามี เป้ าหมายบางอย่า งที่
่
ั
พยายามจะทาให้สาเร็ จอยู่เสมอ และสิ่ งนี้ ผกพันพวกเขาไว้กบมาตรฐานของนักนิยมความสมบูรณ์
ู
แบบของตนเอง
ดัง นั้นบางครั้ ง คนโครงสร้ า งมัง คัง จึ ง มี แนวโน้ม ที่ จะมองคนอื่ นว่าเป็ นคุ ณค่ า อย่า งหนึ่ ง
่ ่
่ ั
สาหรับพวกเขาแล้ว คุ ณค่าผูกอยูกบผลลัพธ์ ถ้าไม่มีคุณค่าให้เห็ น ก็ถือว่าไม่มีผลหรื อประโยชน์
บางครั้งในกรณี สุดโต่ง คนโครงสร้างมังคังบางคนอาจเลือกที่จะยุติความเป็ นเพื่อนที่ไม่ได้มีคุณค่า
่ ่
ให้
คนโครงสร้างมังคังมักไม่ค่อยมองเห็นว่าบางครั้งความสนใจของตนเองนั้นอาจไม่ใช่ความ
่ ่
สนใจของคนอื่น พวกเขามีแนวโน้มที่จะคาดหวังว่าเป้ าหมายของคนอื่นเป็ นเป้ าหมายเดียวกับของ
พวกเขา เพราะเหตุ น้ ี จึงอาจหลอกใช้คนอื่นเพื่อบรรลุ ผลสุ ดท้ายเหล่านั้นโดยไม่ได้ต้ งใจ โดยไม่
ั
ตระหนักว่าอาจทาให้คนอื่นๆ หันมาต่อต้านตนเอง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 วิสัยทัศน์คบแคบมองด้านเดียว
ั
 หยาบกระด้าง
 มุ่งเน้นคุณค่าที่จะได้จากเพื่อน
 ห่วงผลลัพธ์มากเกินไป
 ไม่คานึงถึงความรู ้สึก

~ 10 ~
นักท่ องไพรผู้โดดเดียว
่
“ปัดป้ องผู้คนรอบตัวให้ ออกห่ าง”
คนโครงสร้างมังคังรักอิสระอย่างยิง ส่ วนใหญ่เป็ นเพราะพวกเขามีปัญหาไม่ยอมวางใจใคร
่
่ ่
ง่ายๆ เพียงเพราะไม่คิดว่าคนอื่นก็สามารถทางานได้เหมือนที่ตวเองทา เพราะเหตุน้ ี พวกเขาจึงริ เริ่ ม
ั
ทาอะไรๆ เอง และก้าวมุ่งไปข้างหน้าอย่างอิสระไม่พ่ ึงพาใคร
การเป็ นอิสระและการเป็ นตัวของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่ องผิด แต่คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้ม
่ ่
ที่จะมีบรรยากาศน่ าอึดอัดอยู่รอบตัว รวมทั้งชอบฝ่ าฟั นอุปสรรคต่างๆ และต้านทานลมแรงเพียง
ลาพังด้วยความทรหดโดยไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาได้
เพราะเหตุ ที่คนโครงสร้ างมังคังแสดงออกทางอารมณ์ ไม่เป็ น และไม่ยอมให้คนอื่ นเห็ น
่ ่
จุดอ่อนของตน ผูคนจึงรู้ สึกราวกับว่าไม่มีวนที่จะรู ้ จกคนโครงสร้ างมังคังได้แท้จริ ง พวกเขายังมี
้
ั
ั
่ ่
ปั ญหาในการพูดคาว่าเสี ยใจ คนโครงสร้างมังคังไม่ค่อยหันไปขอคาแนะนาคนอื่น เพราะไม่อยาก
่ ่
รบกวนเพื่อน และไม่อยากจะเสี ยเวลามากขึ้นผ่านช่ องทางอื่นในเมื่อก็สามารถทาได้ดวยตัวเองอยู่
้
แล้ว
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เป็ นอิสระอย่างเด็ดเดี่ยว
 รักษาระยะห่างจากเพื่อน
 ไม่ยอมรับจุดอ่อนหรื อความผิดพลาด
 มีปัญหาในการพูดคาว่าเสี ยใจ
 ไม่อยากรบกวนคนอื่นหรื อไม่อยากเสี ยเวลาเปล่า

~ 11 ~
บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่
ด้ านดี
หัวหน้ าครอบครัว
“เข้ าควบคุมสถานการณ์ ”
ในบทบาทของการเป็ นพ่อแม่ คนโครงสร้ า งมัง คั่ง มี ท้ ง ประสิ ท ธิ ภาพและการควบคุ ม
ั
่
พอๆ กัน พวกเขาเป็ นพ่อแม่ แบบผูนาและเป็ นคนตัดสิ นใจเรื่ องเป้ าหมายต่ า งๆ พึ่ ง พาตนเอง
้
มากอย่างไม่ น่าเชื่ อ และไม่ย อมให้คุ ณค่าและเป้ าหมายของครอบครั วหายหกตกหล่ นไปเพราะ
ความปล่อยปละหละหลวมหรื อสบายๆ เกินไป สิ่ งสาคัญพวกเขาคือ ลูกๆ ของพวกเขาต้องเติบโต
เป็ นคนที่เห็นคุณค่าของเวลาและทรัพยากร รวมทั้งรู ้และเข้าใจเรื่ องการทางานหนัก
ดังนั้น คนโครงสร้างมังคังจึงเป็ นพ่อแม่ประเภทที่ชอบควบคุมทั้งหมด เมื่อใดก็ตามที่เกิด
่ ่
เรื่ อ งขึ้ น ในครอบครั ว ไม่ ว่ า จะเป็ นเรื่ อ งร้ า ยแรงหรื อ เรื่ องเล็ ก น้ อ ย พวกเขาจะเข้า สู่ ส ภาวะ
“การ-ทา-งาน” และคิดหาทางแก้ไขปั ญหาอย่างรวดเร็ ว พวกเขาไม่ใช่คนประเภทที่เอาแต่นงบีบมือ
ั่
อย่างกระวนกระวายใจ และตั้งคาถามไม่รู้จกจบจักสิ้ นว่า “ทาไมต้องเป็ นฉันด้วย?”
ั
คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะแสดงวิธีทาสิ่ งต่างๆ ให้ลูกเห็ น และแนะแนวพวกเขา
่ ่
ให้มุ่งสู่ การบรรลุ ความสาเร็ จ พวกเขาควบคุมสถานการณ์ และสอนลูกว่าจะทาอย่างไรจึงจะได้ใน
สิ่ งที่ตองการ ในกรณี น้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังเก่งในการเป็ นผูนาโดยทาตัวเป็ นแบบอย่าง
้
้
่ ่
พวกเขาตั้งเป้ าหมายและช่วยลูกให้จดโครงสร้างชีวตเพื่อไปสู่ การประสบความสาเร็ จ
ั
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ตั้งเป้ าหมาย
 กาหนดแนวทางสาหรับครอบครัว
 นาลูกโดยทาตัวเป็ นแบบอย่าง
 ควบคุมสถานการณ์

~ 12 ~
เป็ นพลังขับเคลือน
่
“ปลูกฝังทัศนคติ ‘ทาได้ ’ ให้ ลูก”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้างมังคังเป็ นนักจูงใจตัวยง พวกเขาส่ งเสริ มลูกให้เพลิดเพลิ น
่ ่
กับการแสวงหาความรู ้และทากิจกรรมอยูเ่ สมอ รวมทั้งสอนลูกว่าในทุกสิ่ งทุกอย่างที่ลูกทาได้ดีน้ น
ั
ยังสามารถทาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้ สิ่ งสาคัญสาหรับคนโครงสร้ างมังคังคือ ลูกๆ ของพวกเขาเกิ ด
่ ่
แรงบันดาลใจและมีแรงจูงใจที่จะทาให้ดียงๆ ขึ้นไป
ิ่
คนโครงสร้างมังคังมักพยายามอย่างหนักที่จะทาเช่นนี้ ดวยการทาตัวเป็ นแบบอย่างพวกเขา
้
่ ่
จูงใจให้ครอบครัวลงมือทาอะไรๆ อยูเ่ สมอ และไม่สนับสนุ นการอยูเ่ ฉยๆ เรื่ อยเปื่ อยไปวันๆ พวก
เขาวางแผนร่ วมกันทาโน่นทานี่ โดยสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วก็จดการกับมันจนมันทางานได้
ั
ถ้ามีคาแนะนาอะไรที่ตองทาตาม หรื อมีอะไรที่ตองทาให้เสร็ จ คนโครงสร้างมังคังจะเป็ นคนแรกที่
้
้
่ ่
ริ เริ่ มลงมือทา
ดังนั้น พวกเขาจึงมักถูกมองว่าเคร่ งครัดเรื่ องระเบียบ หรื อเข้มงวดกับภารกิจและไม่ปล่อย
ให้ เ วลาผ่ า นไปอย่ า งสู ญ เปล่ า รวมทั้ง ไม่ อ ดกลั้น ต่ อ ความหย่อ นยานหรื อ ความเฉื่ อ ยเนื อ ยใน
การพยายามทาให้ครอบครัวของพวกเขามุ่งหน้าไปสู่ ทิศทางที่ถูกต้อง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ปลูกฝังให้ลูกสานึกถึงความเป็ นเลิศ
 เจ้าระเบียบ
 พยายามจูงใจด้วยการทาตัวเป็ นแบบอย่าง
 ผลักดันครอบครัวให้ลงมือทา

~ 13 ~
จัดระเบียบเก่ง
“ทาให้ แน่ ใจว่ าทุกอย่ างในบ้ านเป็ นไปอย่างราบรื่น”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างมังคังจัดระเบียบเก่งและเคร่ งครัดในวิธีการ พวกเขามีวินย
ั
่ ่
ในการดาเนิ นชี วิต ในขณะเดี ยวกันก็ส่งเสริ มให้ลูกมีสานึ กเรื่ องโครงสร้างของชี วิต พวกเขาให้
่
่
คุณค่าเองการบริ หารเวลาและสานึ กแห่ งความเป็ นระเบียบ ไม่ชอบให้อะไรๆ ยุงเหยิงวุนวาย ไม่มี
่
่
อะไรทาให้พอแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังราคาญมากไปกว่าวันเวลาที่ผานไปเสี ยเปล่าโดยไม่ได้ทา
่ ่
อะไร!
พ่อแม่ที่ เป็ นคนโครงสร้ างมัง คัง ดู แลบ้านเรื อนได้เรี ยบร้ อย และทาตามตารางกิ จกรรม
่ ่
ประจาบ้านอย่างเรี ยบร้ อยด้วยเช่นกัน พวกเขาใส่ ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยความพิถีพิถน
ั
และทาให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรมาขัดกับกิจวัตรของลูกๆ และกิจกรรมประจาวันของที่บาน พวกเขา
้
ยึดมันจริ งจังกับการทาตามตารางกิจกรรมในบ้าน ไม่ชอบความล่าช้าและความเปลี่ยนปุบปั บที่ไม่
่
รู ้ตวล่วงหน้า
ั
่
คนโครงสร้างมังคังยังไม่ชอบอยูในสภาวะที่ตองวุนวายตลอดเวลา ดังนั้นจึงพยายามทาให้
้ ่
่ ่
่
บรรยากาศในบ้านและการใช้ชีวิตของลูกๆ อยูในสภาพที่สะอาดสะอ้านและเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตและใช้ความคิดในสภาพแวดล้อมที่รกรุ งรังหรื อไร้ระเบียบชอบให้ทุก
อย่างดาเนิ นไปอย่างราบรื่ น พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังค่อนข้างจะเป็ นพวกตัวประหลาดที่
่ ่
ชอบความเนี้ยบ

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ยึดมันกับวิธีการ
่
 วางโครงสร้างชีวตของลูก
ิ
 ไม่ชอบปล่อยเวลาเสี ยเปล่า
 ชอบสภาพแวดล้อมที่สะอาดและเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย

~ 14 ~
รู้มาก
“มีคาตอบของทุกคาถาม”

ตลอดชี วิตของพ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งมัง คัง พวกเขาต้องการเป็ นฝ่ ายถู ก เสมอและ
่ ่
มี แ นวโน้ ม ที่ จ ะรวบรวมความรู ้ ไ ว้ก ับ ตัว ค่ อ นข้า งมาก ไม่ ว่ า จะเป็ นความรู ้ ที่ ไ ด้จ ากหนัง สื อ
่
หรื อความรู ้ ที่เก็บตกจากท้องถนน คนโครงสร้างมังคังที่ไม่รู้วาจะทาอะไรดีน้ นค่อนข้างหาได้ยาก
ั
่ ่
่
พวกเขามีสมรรถนะสู งและเก่งจัดสรรทรัพยากรรู ้วาจะหาอะไรได้จากไหน ถ้ามีช่องโหว่ที่ตองหา
้
ให้เจอ พนันได้เลยว่าคนโครงสร้างมังคังต้องหาเจอจนได้
่ ่
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ า งมัง คัง สอนลู ก เก่ ง พวกเขาจะสอนลู ก ให้พ่ ึ งตัวเอง โดย
่ ่
ปลูกฝังคุณค่าของการยืนบนลาแข้งตัวเองให้ลูก และสอนลูกให้แสวงหาสิ่ งต่างๆ ในลักษณะที่เป็ น
ประโยชน์และมีประสิ ทธิภาพ
พวกเขายังเก่งในการบริ หารจัดการลูกของตัวเองอีกด้วย เด็กๆ ต้องการความเป็ นผูนาที่
้
เข้มแข็งจากพ่อแม่ นี่ เป็ นสิ่ งที่ดี การมีพ่อแม่ที่มีความรู ้ และมันใจในความรู ้ ของตนจะทาให้ลูกมี
่
โครงสร้างและระเบียบชีวตในระดับที่เหมาะสม
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 รู ้คาตอบของเกือบทุกคาถาม
 รู ้มากเป็ นที่สุด
 มีความสามารถและเก่งจัดสรรทรัพยากร
 ส่ งเสริ มลูกให้เรี ยนรู ้ดวยตนเอง
้

~ 15 ~
ด้ านไม่ ดี
จอมบงการ
“ไม่ ว่าพ่อแม่ บอกอะไร...ทาซะ”
่
ตอนนี้ เรารู ้แล้วว่าคนโครงสร้างมังคังรักแนวคิดที่วาตัวเองเป็ นฝ่ ายควบคุม การมีพลังและ
่ ่
อานาจทาให้พวกเขามีความสุ ขมาก และพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มา พวกเขาอยากให้ทุกสิ่ ง
สาเร็ จด้วยวิธีของพวกเขา เพราะคิดว่าวีของพวกเขาเป็ นวิธีที่ดีที่สุด!
อย่างไรก็ตาม ในฐานะพ่อแม่ บางครั้งลักษณะเช่นนี้ สามารถให้ผลทางลบได้ พวกเขาอาจ
เป็ นพ่อแม่จอมบงการหรื อจอมครอบงา และเพราะเหตุที่ถือว่าตัวเองเป็ นผูมีอานาจ จึงคาดหวังว่า
้
ทุกคาสังและทุกความต้องการของตนจะได้รับการเชื่อฟัง
่
ภาษิตจีนโบราณที่ ว่า “พ่อแม่กินเกลื อมากกว่าเจ้ากิ นข้าว” (คล้ายๆ กับสานวนไทยที่ ว่า
“พ่อแม่อาบน้ าร้อนมาก่อนลูก” -- ผูแปล) แสดงถึงทัศนะคติต่อลูกของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้าง
้
มังคังได้ดีที่สุด พวกเขาเชื่ อว่าเพราะตนเองทามาแล้วมากกว่าและมีประสบการณ์มากกว่า มุมมอง
่ ่
และการรับรู ้ของพวกเขาจึงเป็ นประโยชน์มากกว่า และควรได้รับการเชื่อฟัง
่ ั
ดังนั้นบางครั้งการอยูกบพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังจึงน่าเหน็ดเหนื่ อย พวกเขาบริ หาร
่ ่
จัดการลูกใน “ระดับรายละเอียด” ด้วยวิธีเดียวกับที่ทากับลูกจ้างในที่ทางาน โดยคอยสอดส่ องลูก
ทุกฝี ก้าว และตะเบ็งเสี ยงสั่งในยามที่เห็นว่าเหมาะสม พวกเขาเห็ นว่าการบงการและสั่งการว่าลูก
ควรกินอะไร และควรแต่งตัวอย่างไรเป็ นสิ่ งที่เหมาะสม
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ครอบงา
 เป็ นผูมีอานาจ
้
 ออกกฎ
 ต้องการการเชื่ อฟัง

~ 16 ~
ชอบความสมบูรณ์ แบบ
“คาดหวังความไม่ ผดพลาดในทุกขณะ”
ิ
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังห่วงเรื่ องผลลัพธ์สุดท้ายเอามากๆ จึงมักกังวลกับการมีลูกที่
่ ่
สมบูรณ์แบบ ซึ่ งเป็ น “ความสมบูรณ์แบบ” ตามอุดมคติของพวกเขาเอง อันที่จริ งพวกเขาเองนัน
่
แหละที่เป็ นพวกชอบความสมบูรณ์แบบ และคาดหวังสิ่ งที่ดีที่สุดจากทุกสิ่ งทุกอย่าง รวมทั้งลูกๆ
ของตัวเองด้วย ซึ่ งบางครั้งก็อาจมากเกินไปจนมองข้ามความรู้สึกของลูก
ดังนั้นพวกเขาอาจตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินจะทาได้ และเรี ยกร้องจากลูกมากเกินไป เมื่อลูก
แสดงลักษณะบุคลิกภาพในทางลบ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังก็จะหมกมุ่นกับการเฝ้ าค้นหา
่ ่
ความผิดพลาด พวกเขาคาดหวังสู ง และต้องการแค่ความสมบูรณ์แบบเท่านั้น ซึ่ งเป็ นอุดมคติที่สูง
เกินไป
่ ้
เพราะเหตุน้ ี ลูกๆ ของพวกเขาจึงอาจรู ้สึกถูกกดดันอยูบาง พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคัง
่ ่
มีแนวโน้มที่มุ่งเน้นผลลัพธ์มากเกินไป และให้ความสาคัญน้อยเกิ นไปกีบการเดินทางสู่ เป้ าหมาย
พวกเขาอาจรู ้สึกกลัวหรื อกังวลเรื่ องลูก เพราะความต้องการที่จะดาเนิ นชี วิตตามความคาดหวังที่สูง
เหลือเชื่ออยูเ่ สมอนี้เอง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ตั้งมาตรฐานไว้สูง
 คาดหวังมากเกินไป
 อยากให้ลูกสมบูรณ์แบบ
 มีแนวคิดที่ไม่เป็ นจริ งเกี่ยวกับสิ่ งที่ยอมรับได้
 มุ่งเน้นผลลัพธ์สุดท้ายมากเกินไป

~ 17 ~
เรียกร้ องทางอารมณ์
“บางครั้งมากเกินไปก็ยงไม่ พอ”
ั

เมื่อแผนภูมิของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ดีหรื อไม่สมดุ ล พวกเขามีแนวโน้มที่
่ ่
จะเป็ นช่ างเรี ยกร้องเอามากๆ ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างมังคังคาดหวังและอยากได้จากลูกมาก
่ ่
เกินไปจนถึงจุดที่น่าอึดอัดอย่างยิง รวมทั้งไม่ค่อยข่มอารมณ์หรื อผ่อนคลาย
่
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ค่อยมีความสามารถที่จะแสดงออกทางอารมณ์ ว่าพวก
่ ่
เขารู ้สึกอย่างไร ดังนั้นจึงแสดงความเป็ นห่วงลูกด้วยการเอาแต่หมกมุ่นกับเป้ าหมายและวิถีชีวิตของ
ลูก ใส่ ใจกับลูกโดยหวังให้ลูกมีความปรารถนาที่จะประสบชัยชนะและความสาเร็ จแบบเดียวกับตน
โดยไม่ตระหนักว่าลูกๆ อาจมุ่งหวังความสาเร็ จในด้านอื่นหรื อในจังหวะก้าวที่แตกต่างออกไป
การไร้ ค วามสามารถที่ จะมองเห็ นว่า ลู ก ๆ แตกต่ า งไปจากตนเองและเป็ นคนละคนกับ
ตนเอง รวมทั้งความเป็ นเจ้าข้าวเจ้า ของซึ่ งเป็ นปกติวิสัย ของพวกเขา ทาให้พวกเขาเป็ นคนช่ า ง
เรี ยกร้องสู ง บางครั้งความกดดันไม่ผ่อนปรนและความมุ่งมันทางอารมณ์ที่มีต่อลูกอาจเป็ นสาเหตุ
่
ทาให้ลูกๆ ของพวกเขาหดหู่และมีความเครี ยดแบบอ่อนๆ ในบางรู ปแบบได้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 แสดงออกทางอารมณ์ได้ไม่ดี
 แสดงความเป็ นห่ วงมากเกินไป
 คาดหวังสิ่ งตอบแทนมากเกินไป
 ไม่แยกแยะว่าลูกแตกต่างจากตนเอง

~ 18 ~
บ้ างาน
“มีธุระยุ่งวุ่นวายอยู่เสมอ”
อย่างที่พอเดาได้นนแหละ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ค่อยรู ้ จกแบ่งเวลาพักผ่อน
ั่
ั
่ ่
่ ่
่
ชีวตพวกเขามีธุระยุงวุนวายยุงเหยิงด้วยการไล่ตามแต่ละเป้ าหมายในรายการเป้ าหมายทั้งหลายแหล่
ิ
ของตน แถมยัง มองว่า การมี เวลาว่า งเป็ นจุ ดอ่ อนเสี ย อี ก นี่ คื อคนประเภทที่ ไ ม่ คุ ้นเคยกับ ค าว่า
“ช่วงพัก”
เมื่อคนโครงสร้างมังคังเป็ นพ่อแม่ ก็มกยุงตัวเป็ นเกลียว เป็ นพวกทาอะไรพร้อมกันทีเดียว
ั ่
่ ่
หลายๆ อย่าง และตื่นเต้นกับการสามารถโผจากเรื่ องหนึ่ งไปทาอีกเรื่ องได้ ทาอะไรๆ พร้ อมกัน
ทีเดียวได้หลายอย่างเหมือนผูเ้ ชี่ยวชาญ แต่ไม่ตระหนักว่าสิ่ งที่ลูกๆ อยากได้คือความใส่ ใจทั้งหมด
จากพ่อแม่ ไม่ใช่แค่เจียดเศษเสี้ ยวเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีมาให้
่ ่
ดังนั้นคนโครงสร้างมังคังจึงมักเป็ นพ่อแม่ประเภทหายตัวไปเพราะมีธุระยุงวุนวายอยูเ่ สมอ
่ ่
จึงอาจพลาดโอกาสที่ จะมีส่วนร่ วมในเหตุ การณ์ ครั้งสาคัญของชี วิตลูก พวกเขาไม่ได้เจตนาที่จะ
ละเลยเช่ น นั้น แต่ ก ารหายตัว ไปนั้น มี ผ ลกระทบในระดับ พื้ น ฐานต่ อชี วิต ลู ก พ่อ แม่ ที่ เ ป็ นคน
โครงสร้ า งมังคัง รั ก ลู ก ๆ ก็จริ ง แต่ ไ ม่ ถนัดที่ จะให้เวลามากๆ กับลู ก พวกเขากลับ ชอบเน้นที่
่ ่
คุณภาพของเวลาที่ให้แทน ทว่าบางครั้งลูกๆ ก็อาจเข้าใจผิดหรื อมองไม่เห็นแง่มุมนี้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
่ ่
 มีธุระยุงวุนวายเกินกว่าจะมีเวลาให้ลูก
่
 ไปยุงกับหลายๆ เรื่ องมากเกินไป
ั
 ไม่ให้เวลาเต็มที่กบลูกๆ
 ความคิดมักแซงหน้าไปหาเรื่ องอื่นๆ
 ไม่มีช่วงเวลาที่จะว่างได้นานๆ

~ 19 ~
ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างมังคัง
่ ่

ด้ านสว่ าง


มุ่งมั่น
ไม่มีเรื่ องไหนที่คนอื่นทาได้แล้วคุณทาให้ดีกว่าไม่ได้! คุณเชื่ อในเรื่ องนี้ แบบสุ ดใจขาดดิ้น
ดัง นั้นคุ ณจึ ง สามารถพัฒนาปรั บ ปรุ ง รู ป แบบวิธีท าสิ่ ง ต่ างๆ ที่ มี อยู่แล้วให้ดีข้ ึ น เพื่ อให้
สิ่ งนั้นสาเร็ จลุล่วงอย่างถูกต้องเหมาะสม คุณเชื่ อว่าทุกสิ่ งทุกอย่างจะกลับดีข้ ึนได้ถาทาด้วย
้
วิธีของคุณ โดยเฉพาะถ้าทาทันที



เชื่อมั่น
คุณเชื่ อมันในตัวเองอย่างมหาศาล และไม่ตองการนังเฉยๆ รอใครมาประทับตราให้ความ
้
่
่
เห็ นชอบให้ ถ้าคุ ณเชื่ อตัวเองและคิดว่ากาลังทาสิ่ งที่ ถูกต้อง นันแหละคือความเห็ นชอบ
่
ทั้งหมดที่คุณต้องการ



ตัดสิ นใจเด็ดขาด
คุ ณ ไม่ ใ ช่ ค นลัง เลที่ ช อบถามตัว เองว่ า “ใช่ ?” หรื อ “ไม่ ใ ช่ ?” “เอา ?” หรื อ “ไม่ เ อา ?”
คุ ณตัดสิ นใจเร็ วแล้วคุ ณก็ยึดมันกับมัน คุ ณเข้าใจคุ ณค่าของเวลา เข้าใจอานาจของการ
่
ตัดสิ นใจที่ดีและรวดเร็ ว คุณไม่ค่อยเข้าใจว่าทาไมผูคนจึงดูเหมือนไม่รู้ใจตัวเอง!
้

~ 20 ~


เปี่ ยมด้ วยพลวัต
่
คุณเป็ นคนที่ใครๆ ก็รู้วาชอบทาโน่นทานี่ ไม่หยุดมากที่สุดคนหนึ่ ง คุณไม่ใช่ คนประเภท
ที่ เอาแต่นั่ง นิ่ ง ๆ และปล่ อยเวลาผ่านไปวันๆ สิ่ งสาคัญสาหรั บ คุ ณคื อการลงมื อทาและ
ลงไปคลุ กกับมัน ในขณะที่คุณต้องการความสมบูรณ์ แบบ คุ ณก็ไม่กลัวที่ จะตรงเข้าไป
ลุยงานด้วยตัวเอง



มีเหตุผล
คุณไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ตวเองถูกพัดพาไปด้วยพลังของอารมณ์และความอ่อนไหว คุณรู ้
ั
กาละและเทศะสาหรับทุกๆ เรื่ อง และชอบคิดหาเหตุผลของเรื่ องราวต่างๆ โดยไม่ด่วนสรุ ป
คุณไม่ใช่คนประเภทที่ตอบสนองด้วยอารมณ์รุนแรงสุ ดโต่ง



มีวสัยทัศน์
ิ
คุณมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่ งในการเติมเต็มสิ่ งที่คุณต้องการ คุ ณมุ่งมันที่จะบอกคนอื่นให้ทา
่
โน่นทานี่และแนะแนวพวกเขา ถ้าจะมีสักบทบาทหนึ่ งที่ไม่เหมาะกับตัวคุณมันคือการเป็ น
ผูตามที่ ย อมสยบหรื อเฉื่ อยเนื อย คุ ณไม่ ช อบยึดติ ดกับ ทิ ศทางของคนอื่ นในเมื่ อคุ ณรู ้ ว่า
้
ทิศทางของคุณดีกว่าเยอะ



ปรับตัวเก่ง
คุ ณ อดไม่ ไ ด้ที่ จ ะอยากเปลี่ ย นแปลงทุ ก อย่ า งที่ คุ ณ ท า คุ ณ จึ ง พร้ อ มที่ จ ะท าสิ่ ง ทุ ก อย่า ง
เมื่อลูกบอลถูกตีโด่งจากทิศไหนก็ไม่รู้มาทางคุณ คุณก็จะเอื้อมไปคว้ามันไว้ได้อย่างง่ายดาย
คุณมีความยืดหยุ่นสู งและไม่ค่อยต่อต้านแนวคิดที่แตกต่างหรื อไอเดี ยใหม่ๆ อันที่จริ งคุณ
ยินดีตอนรับมันด้วยซ้ า เพราะความจาเจซ้ าซากเป็ นเรื่ องน่าเบื่อย่างยิงสาหรับคุณ
้
่



ชอบแข่ งขัน
เมื่ อใดก็ตามที่ มีใครบอกคุ ณว่าอะไรบางอย่างทาไม่ได้ มันจะทาให้คุณอยู่เฉยไม่ได้ ต้อง
ออกไปข้างนอกและทามันให้เสร็ จไปเลย คุณสนุ กกับความท้ายทายและเพลิดเพลินกับการ
ทาอะไรค้านความเชื่ อที่คิดกันไปเองเพื่อพิสูจน์ว่าคนอื่ นผิด คุ ณเป็ นคนมุ่งเป้ าหมายและ
ทะเยอทะยานมากและจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะบรรลุผลสาเร็ จ

~ 21 ~
ด้ านมืด


ครอบงา
่
คุณชอบให้สิ่งต่างๆ อยูภายใต้การควบคุม ไม่ค่อยไว้วางใจคนอื่นๆ และความสามารถของ
พวกเขาที่จะทางานให้เสร็ จ เพราะเหตุน้ ี คุณจึงไม่เป็ นที่ชื่นชอบ และอาจทาให้คนอื่นถอย
ห่างโดยไม่ต้ งใจ
ั



จุกจิก
คุ ณกระหายความสมบูรณ์ แบบและอยากให้ทุ กสิ่ งส าเร็ จลงด้วยวิธีของคุ ณ เพราะเหตุ น้ ี
บางครั้ ง คุ ณจึ ง เข้าไปจุ กจิ ก กับคนอื่ นแม้ใ นเรื่ องหยุมหยิมที่ สุ ด คุ ณไม่ ไ ว้ใจว่า คนอื่ นจะ
ทางานให้เสร็ จได้ดีเท่า คุ ณ ดัง นั้นจึ ง รู ้ สึก ว่า ต้องคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลาและเข้าไป
จัดการสิ่ งที่พวกเขาทาเสมอ



หงุดหงิดง่ าย
การทาอะไรไม่รู้จกหยุดของคุ ณมี แนวโน้มที่ จะทาให้เกิ ดสารพัดปั ญหาความเครี ยดทาง
ั
จิตใจและปั ญหาสุ ขภาพปล่อยสบายกับเรื่ องราวต่างๆ สักพัก คุณบีบคั้นตัวเองและคนอื่น
มากเสี ยจนบางครั้งลืมที่จะนังพักและผ่อนคลายเสี ยบ้าง
่



เรียกร้ องจัด
คุ ณ รู ้ ว่า คุ ณ มี แ นวโน้ม ที่ จ ะต าหนิ ห รื อ ดุ ด่ า ว่ า กล่ า วคนที่ ไ ม่ ป ฏิ บ ัติ ต ามมาตรฐานความ
สมบูรณ์ แ บบของคุ ณ จงคิ ดถึ งความรู ้ สึก ของคนอื่ นบ้าง เป็ นครั้ ง คราวก็ย งดี ไม่ ใช่ ว่า
ั
ทุกคนจะเก่งเหมือนคุณในการแยกเยอะอารมณ์จากเหตุผล และความเป็ นมืออาชีพจากชีวิต
ส่ วนตัว คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เรี ยกร้องมากจนเกินไป

~ 22 ~


ไม่ อดทน
คุณไม่อดทนเพราะคุ ณอยากได้ผลลัพธ์เร็ วๆ และไม่ชอบที่จะต้องคอยเฝ้ ารอผลแห่ งความ
พยายามของคุณ ประสิ ทธิภาพสาหรับคุณหมายถึงการทาสิ่ งต่างๆ อย่างรวดเร็ ว แต่บางครั้ง
การไม่อดทนก็หมายความว่าคุณไม่สนใจความผิดพลาด ซึ่ งอาจกลับทาให้อะไรๆ ช้าลงใน
ระยะยาวโดยที่คุณไม่ได้ต้ งใจ
ั



โดดเดี่ยว
คุณภาคภูมิใจกับความสามารถที่จะทาอะไรๆ ให้เสร็ จด้วยตัวเอง คุ ณไม่ได้ต้ งใจอย่างนั้น
ั
แต่คนอื่นยากที่จะตามทันคุณ คุณพยายามมอบหมายงานให้คนอื่นทาก็จริ งแต่สุดท้ายมักลง
เอยด้วยการตรากตราทาเอง คุณมักขึ้นไปสู่ จุดสู งสุ ด แต่ที่นนเงียบเหงา เนื่ องจากไม่ค่อยมี
ั่
คนเข้าใจคุณหรื อคุยกับคุณรู ้เรื่ อง



อารมณ์ร้าย
เมื่ ออะไรๆ ไม่เป็ นไปอย่า งที่ คิ ดไว้ คุ ณจะหงุ ดหงิ ดและโมโห อารมณ์ ของคุ ณอาจเป็ น
จุ ดอ่อนอย่างหนึ่ งของคุ ณเช่ นเดี ยวกับความหุ นหันพลันแล่ นของคุ ณ คุ ณอาจพูดหรื อทา
อะไรบ้างอย่างที่ ตองมานึ กเสี ยใจทีหลัง เป็ นไปได้ว่าคุ ณมีแนวโน้มที่จะชอบบังคับ และ
้
ครอบง ามากเกิ นไปและเมื่ อผูคนปฏิ เสธที่ จะท าตามคาสั่ ง คุ ณก็ไ ม่ ส ามารถที่ จะรั บมื อ
้
กับสถานการณ์ได้อย่างสง่างาม

~ 23 ~
สื้อเยีย
่

บุคลิกภาพในทีทางาน
่

~ 24 ~
ด้ านดี
รักอิสระ
“แผ้ วถางเส้ นทางของตัวเอง”
คนโครงสร้ างมังคังรักอิสระและเป็ นตัวของตัวเอง จึงไม่ค่อยยอมรับคาสั่งของใคร ถ้าคุ ณ
่ ่
อยากรับคาสั่งจากใครสักคน คุณต้องรู ้จกและไว้ใจว่าคนคนนั้นฉลาดกว่าและมีคุณค่าสาหรับการที่
ั
จะทาตามคาสั่งนั้น คนโครงสร้างมังคังรู ้วาตัวเองอยากได้อะไรและพยายามทุกวิถีทางที่จะคว้ามัน
่ ่ ่
มาให้ได้ ด้วยความเชี่ ย วชาญในงานที่ ทา หากเขาอยากจะได้อะไรสักอย่างจึ งมักไม่ใช่ เรื่ องยาก
คนโครงสร้างมังคังมักเป็ นผูกาหนดจังหวะก้าว ไม่ใช่รอให้คนอื่นเป็ นผูกาหนด
้
้
่ ่
พวกเขามีมาตรฐานที่ สูงมากเกี่ ยวกับวิธีทางานให้เสร็ จ ด้วยเหตุน้ ี จึงทนทางานกับคนโง่
ไม่ ไ ด้และไม่ ต้อ งการตกอยู่ใ นสภาพที่ ต้อ งพึ่ ง พาใครในการท าอะไรๆ ให้เสร็ จ พวกเขาเชื่ อว่า
“วิธีเดียวที่จะทาอะไร ให้เสร็ จคือการลงมือทาเอง” พวกเขามีเจตจานงแรงกล้า และจะไม่ยอมให้
สิ่ งใดมากีดขวางเส้นทางของตน
คุ ณ (คนโครงสร้ า งมั่ง คัง ) ยัง สนุ ก กับ การต่ อ ต้า นและความท้า ทายต่ า งๆ อี ก ด้ว ย จึ ง มี
่
แนวโน้ม ที่ จะท าสิ่ ง ต่ า งๆ ด้ว ยวิธี ของตัวเอง และด้วยเหตุ น้ ี คุ ณจึ ง เป็ นคนมุ่ ง เน้น เป้ าหมายและ
แสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่ทาได้จริ งอยูเ่ สมอ รวมทั้งมักมีแผนการที่ชดเจนว่าดาเนิ นการอย่างไร แล้วก็
ั
อยากจะมุ่งไปตามนั้น
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เป็ นอิสระ
 ไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าต้องทาอะไร
 มันใจในตนเอง
่
 พึ่งตัวเองและดูแลตัวเองได้

~ 25 ~
มีประสิทธิภาพ
“เหมือนเครื่องจักร...แต่ แท้ จริงแล้วพวกเขาเป็ นคน”
ในบรรดาโครงสร้ างทุ กประเภท คนโครงสร้ างมังคังเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูคนทั้งหลายที่
้
่ ่
ลงทุนกับแนวคิดเรื่ องประสิ ทธิ ภาพมากที่สุด ไม่มีอะไรทาให้พวกเขาเป็ นบ้าได้มากไปกว่าแนวคิด
่
ที่วาให้นงเฉยๆ และปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ หรื อทาอะไรครึ่ งๆ กลางๆ ซึ่ งไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่
ั่
ปรารถนา คนโครงสร้างมังคังมุ่งเน้นเรื่ องผลลัพธ์มาก รวมทั้งการขยายผลลัพธ์น้ นให้เกิดผลสู งสุ ด
ั
่ ่
และทาให้มนมีผลิตภาพสู งสุ ดเท่าที่จะเป็ นไปได้
ั
ถ้าจะพูดด้วยคาๆ เดี ยว คานั้นก็คือประสิ ทธิ ภาพ คนโครงสร้ างมังคังมีความสามารถใน
่ ่
การใช้ประโยชน์จากเวลา ทรัพยากร และแรงงานด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เป็ นไปได้ (และเป็ นวิธีที่
ฉลาดที่สุดด้วย) เป็ นคนมีความสามารถและเก่งจัดสรรทรัพยากร
มองเห็นปั ญหาเป็ นความท้าทายเป็ นอีกอุปสรรคที่ตองฝ่ าฟั น เป็ นอีกรั้วที่ตองกระโดดข้าม
้
้
่
พวกเขาจึงไม่รู้สึกยุงยากหรื องุนงงสับสนกับประเด็นหรื อปั ญหาใด การเผชิ ญกับปั ญหาที่ตองแก้ก็
้
เหมือนเอากระดูกไปวางไว้หน้า
เจ้าตูบ เพราะคนโครงสร้ างมังคังก็จะแค่พบว่าตัวเองน้ าลาย
่ ่
สออยากคิดหา “วิธีแก้ปัญหา” ที่ดีที่สุด
พวกเขาหัวเสี ยกับการผลาญเวลา ทรัพย์สินเงิ นทอง ทรัพยากรและแรงงานไปอย่างเปล่า
่
ประโยชน์ เรื่ องแบบนี้ ปล่อยให้คนโครงสร้ างมังคังจัดการก็จะมันใจได้วาพวกเขาจะพลิกก้อนหิ น
่ ่
่
ทุ กก้อนขึ้ นมาสารวจตรวจสอบ ทดสอบด้วยทุ กกรรมวิธี ด้วยความหวังที่ จะค้นพบวิธีบรรลุ ผล
สาเร็ จของผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริ ง
พวกเขารับมือกับประเด็นต่างๆ ด้วยรู ปแบบวิธีคิดที่ ทาได้จริ ง และไม่ปล่อยให้ความคิ ด
ไขว้เขวหรื ออารมณ์ต่างๆ เข้ามาเป็ นอุปสรรคขัดขวาง เพราะเหตุน้ ีพวกเขาจึงเก่งในการแยกเรื่ องงาน
ออกจากชี วิตด้วยเช่ นกัน เป็ นไปได้ว่านี่ เป็ นหนึ่ งในจุ ดแข็งของพวกเขาที่ ช่วยให้พวกเขาทางาน
ต่างๆ ได้อย่างเป็ นระบบและด้วยความละเอียดถี่ถวน
้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีความสามารถ
 เก่งจัดสรรทรัพยากร
 ไม่ชอบผลาญเวลาและแรงงานโดยเปล่าประโยชน์
 ไม่ไร้สาระ
 ยอมรับความเป็ นจริ ง

~ 26 ~
เล่นบทนา
“แสดงวิธีแก่คนอืน”
่
คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะสนุ กกับการออกคังและจัดการเรื่ องต่างๆ พวกเขาเป็ น
่ ่
่
นักจัดการที่มีประสิ ทธิภาพ และอยากเป็ นผูแนะนาสั่งการมากกว่าที่จะฟั งคนอื่น หากเขาจะยอมรับ
้
ใครสักคนในฐานผูนา พวกเขาก็จะต้องมีความนับถือในตัวคนคนนั้นเสี ยก่อน
้
พวกเขามีแนวโน้มที่จะก้าวพรวดเข้ามาและรับผิดชอบไปหมดทุกเรื่ อง โดยเฉพาะในยามที่
เห็นว่าคนอื่นเงอะงะหรื อทาอะไรๆ อย่างเชื่ องช้า คนโครงสร้ างมังคังให้คุณค่าแก่ความสาคัญของ
่ ่
เวลาและแทนที่จะรอคอยให้คนอื่นเป็ นคนคุม พวกเขาจะทาหน้าที่สาคัญในการควบคุมเรื อและเป็ น
กัปตันเรื อเสี ยเอง
คนโครงสร้างมังคังเป็ นคนชอบลงมือทา ไม่ใช่คนที่เอาแต่คิดใคร่ ครวญและใช้เวลาหลาย
่ ่
ชัวโมงคิดทบทวนซ้ าไปซ้ ามากับเรื่ องอะไรสักอย่าง พวกเขามันใจมากพอที่จะเสี่ ยงและลงมือใน
่
่
จังหวะที่เหมาะ ไม่มีอะไรที่ทาให้พวกเขาสนุกมากไปกว่าการบอกผูคนให้ทาโน่นทานี่ โดยเฉพาะ
้
ถ้าคนเหล่านั้นไม่รู้ความนัยหรื อหัวช้า

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เป็ นจ่าฝูง
 แสดงวิธี
 บอกให้คนอื่นทาโน่นทานี่
 ชอบควบคุม

~ 27 ~
ตัดสินใจเด็ดขาด
“ไม่ มการเงอะงะซุ่มซ่ ามสาหรับคนโครงสร้ างมังคัง”
ี
่ ่
ในขณะที่ ค นอื่ นๆ ในโลกพากันถอนใจและครุ่ นคิ ด พิ นิจพิ จารณาและไตร่ ตรองราพึ ง
ราพันและกัง ขา คนโครงสร้ า งมัง คัง จะอยู่ที่ ก ลางแถวหน้า กล้า ตัดสิ นใจเด็ ดขาด พวกเขาไม่ มี
่ ่
แนวโน้ม ที่ จะหนี เข้าสู่ โลกแห่ ง ความคิ ดฟุ้ งฝั น หรื อเอาแต่ นัง ซึ ม กระทื อเป็ นชั่วโมงๆ เมื่ อต้อง
่
ตัดสิ นใจ คนโครงสร้ างมังคังจะทากับมันเหมือนเป็ นปั ญหาอีกเรื่ องที่ตองแก้ พวกเขาจะลงมือทา
้
่ ่
และตัดสิ นใจ และมี แนวโน้ม ที่ จะท าอย่า งรวดเร็ วด้วย เพราะพวกเขาคิ ดว่าการเอาแต่ ล ังเลไม่
ตัดสิ นใจก็เป็ นแค่การเสี ยเวลาและพลังงานอีกรู ปแบบหนึ่งเท่านั้น
บ่อยครั้ งที่ พวกเขาตัดสิ นใจถูกเพราะรู้ ทางเลื อกทั้งหมดและรู ้ ผลลัพธ์ ที่จะตามมาอยู่แล้ว
เพราะพวกเขาไม่ใช่คนไร้สาระ แต่มีประสบการณ์และมีความเชื่อมันที่จะคิดอย่างแน่วแน่
่
พวกเขาไม่ปล่อยให้ตวเองคิดมากเกินไป เพราะการคิดมากเกินไปอาจนาไปสู่ การไม่ลงมือ
ั
ทา ด้วยความรู้ ที่สามารถทาได้จริ งที่พวกเขามีอยู่ พวกเขาก็เพียงแค่บุกตะลุยไปข้างหน้า แล้วค่อย
คิดเรื่ อง “ถ้าหาก...” ทีหลัง
พวกเขามีวิธีคิดแบบ “ค่อยเป็ นค่อยไปทีละขั้น” ค่อนข้างมาก และไม่มวกังวลกับผลที่จะ
ั
เกิดขึ้นตามมาจากการตัดสิ นใจจนกว่าจะเผชิญกับมัน ดังนั้นจึงไม่ปล่อยให้ความกลัวและความรู ้สึก
ไม่มนคงในจินตนาการมาสกัดกั้น พวกเขามีเจตจานงแรงกล้า และไม่ปล่อยให้ความเห็นหรื อคา
ั่
วิพ ากษ์วิจ ารณ์ ข องคนอื่ น มาท าให้ เกิ ด ความพะวงสงสั ย คนโครงสร้ า งมั่ง คัง ไม่ ค่ อ ยใส่ ใ จกับ
่
ความรู้สึกหรื อความคิดของคนอื่น แต่ใสใจกับผลลัพธ์สุดท้ายมากกว่า วิสัยทัศน์ที่คบแคบแบบนี้
ั
ช่วยพวกเขาได้ดีมากในยามที่จาเป็ นต้องตัดสิ นใจ

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีความสามารถ
 ไม่ละล้าละลัง
 ไม่คิดมากจนเกิดไป
 ยึดมันกับการลงมือทา
่
 มีเจตจานงแรงกล้า

~ 28 ~
ด้ านไม่ ดี
ชอบควบคุม
“ทาตามทีฉันบอก ไม่ ง้ันก็...”
่
อีกด้านหนึ่ งของแนวโน้มแห่ งความเป็ นผูนาของคนโครงสร้ างมังคังคือ ความโน้มเอียง
้
่ ่
ในทางชอบควบคุ ม คนโครงสร้ างมังคัง ชอบเป็ นคนรั บผิดชอบในฐานะหัวเรื อใหญ่ ในทุกเรื่ อง
่ ่
อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจไม่ได้ถูกเสมอไป และสิ่ งนี้อาจนาไปสู่ ปัญหาได้
ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของพวกเขาคือ เข้าควบคุมทุกสิ่ งทุกอย่างเพราะคนอื่นกีดขวาง
เส้นทางของพวกเขา ที่จริ งแล้วเมื่อลักษณะที่ดีของพวกเขาเริ่ มอ่อนแอลงและกลายเป็ นลักษณะที่ไม่
ดี พวกเขาจะมี ค วามเป็ นผูนาน้อยลง และกลายเป็ นคนเจ้า กี้ เจ้า การที่ รู้ดีไปหมดทุ ก เรื่ อง หรื อที่
้
เลวร้ายกว่านั้นคือเป็ นพวกหัวกบฏที่ชอบสั่งในการควบคุมที่เบ็ดเสร็ จเด็ดขาด
พวกเขามีแนวโน้มที่จะลบล้างคาแนะนาต่างๆ ของคนอื่นๆ ซึ่ งที่จริ งแล้วอาจพิสูจน์ได้ว่า
น่าจะเป็ นประโยชน์หรื อสร้างสรรค์ นอกจากนี้ พวกเขายังไม่มอบหมายงานและอาจแบกรับทุกสิ่ ง
ทุกอย่างไว้เอง ซึ่ งเป็ นสู ตรสาเร็ จแห่งความหายนะ
คนโครงสร้างมังคังทางานกับคนที่เชื่องช้าหรื อคนคิดช้าได้ไม่ดีนก ขาดความอดทนที่จะรอ
ั
่ ่
“รอดูไปก่อน” พวกเขาพบว่าเป็ นเรื่ องยากที่จะร่ วมมือกับคนที่ไม่ยึดมันในแผนการ แน่นอนเว้นแต่
่
คนเหล่านั้นจะมีแผนการที่ดีกว่า

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อยากเป็ นซูเปอร์ ผจดการ
ู้ ั
 ควบคุมวิธีทางานของคนอื่น
 มอบหมายงานไม่เป็ น
 เป็ นนักนิยมความสมบูรณ์แบบที่สุดโต่ง

~ 29 ~
ก้าวร้ าว
“ใช้ กลยุทธ์ ระรานในบางครั้ง”

่
ตอนนี้ไม่จาต้องบอกก็ได้วาคนอื่นๆ คิดว่าคนโครงสร้างมังคังก้าวร้าว ซึ่ งอันที่จริ งก็ถูกของ
่ ่
ั ่
เขา เป็ นที่รู้กนดีวาคนโครงสร้างมังคังชอบใช้วธีบงคับด้วยเจตจานงแรงกล้า ในยามที่อะไรๆ เป็ นไป
ิ ั
่ ่
ด้วยดี ก็มกถูกแปลความว่าเป็ นความสามารถในการตัดสิ นใจและสมรรถนะของพวกเขา แต่เวลาที่
ั
อะไรๆ ไม่เป็ นไปอย่างที่ตองการ พวกเขาก็จะก้าวร้าวและหงุดหงิดขึ้นมาทันที
้
วิธีที่เจ้ากี้ เจ้าการบังคับสามารถทาให้ผูคนกลัวจนถอยหนี หรื อขู่ขวัญให้นิ่งเงี ยบสยบยอม
้
แต่ก็ด้วยความชิ งชัง คนโครงสร้ างมังคังอาจแปลกแยกกับคนอื่ นเพราะพวกเขาไม่เห็ นประโยชน์
่ ่
หรื อความคุมค่าใดในการแก้ไขปั ญหาเดียวเป็ นเวลายาวนาน และความซ้ าซากจาเจใดๆ ที่ไม่มีการ
้
พัฒนาไปในทางที่ดีข้ ึนก็ทาให้พวกเขาจะเป็ นบ้าตาย
นอกจากนั้นแนวโน้มความเป็ นคนก้าวร้าวของคนโครงสร้างมังคังยังกีดกันให้เขาหรื อเธอ
่ ่
อยู่นอกวงของสิ่ ง ที่ ก าลังเกิ ดขึ้ นอย่างแท้จริ ง ผูคนจะไม่ เข้ามาหาเพื่อบอกปั ญหา สิ่ งที่ อาจเป็ น
้
อุปสรรค ประเด็นต่างๆ ซึ่ งขยายไปถึงข้อมูลข่าวสาร การใช้วิธีบงคับและหยาบกระด้างกับคนอื่น
ั
ทาให้ผคนเหิ นห่ างและทาให้เกิดสุ ญญากาศแห่ งความรู ้ ข้ ึนรอบตัวพวกเขา โดยที่ ความรู้ น้ ี มีแต่คน
ู้
อื่นเท่านั้นที่สามารถให้ได้
พฤติกรรมของพวกเขาอาจทาให้คนอื่นรู้สึก อึดอัดคับข้อง พวกเขาอาจแปลกแยกหรื อผลัก
ั
ไสคนอื่น เพราะเหตุที่กงวลเรื่ องตรรกะของสิ่ งต่างๆ มากเกินไป

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เจ้ากี้เจ้าการและชอบบังคับเอามากๆ
 อาจเป็ นคน “แข็ง” มาก
 แปลกแยกกับคนอื่นเพราะชอบต่อสู ้เอาชนะ
 ต่อต้านคนอื่น

~ 30 ~
หุนหันพลันแล่น
“ไม่ อดทนต่ อข้ อผิดพลาด”

คนโครงสร้างมังคังไม่ชอบที่ถูกทาให้ตองรอ และลักษณะแบบนี้เป็ นตัวอย่างของแผนภูมิที่
้
่ ่
เป็ นลบสุ ดโต่งหรื อแผนภูมิที่ไม่ดีของคนโครงสร้างมังคัง นี่คือคนประเภทที่จะขอให้คนอื่นทางาน
่ ่
ให้ทนที เป็ นคนประเภท “อยากให้มนเสร็ จตั้งแต่เมื่อวาน” ดังนั้นความอดทนจึงไม่ใช่ จุดแข็งของ
ั
ั
พวกเขา พวกเขาห่วงเรื่ องผลลัพธ์เป็ นหลักและต้องได้ผลลัพธ์เร็ วๆ ด้วย
พวกเขาจึ ง มี แ นวโน้ม ที่ จะเป็ นคนหุ นหันพลันแล่ น และจะรี บ รุ ด เข้า หาสิ่ ง ต่ า งๆ อย่า ง
บ้าระห่ าและรี บร้ อน ซึ่ งนาไปสู่ โอกาสที่จะทาผิดพลาดในรู ปแบบต่างๆ เพราะความสะเพร่ าหรื อ
การมองข้า มไป ซึ่ ง เมื่ อผสมผสานกับความเชื่ อมันที่ เ กื อบจะเป็ นความยโสของพวกเขาแล้ว ยิ่ง
่
ทาให้พวกเขารู ้สึกว่าตนเองอยูเ่ หนือการตรวจสอบหรื อการแก้ไขในทุกกรณี
เนื่องจากคนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะวัดคุณค่าของทุกสิ่ งด้วยผลลัพธ์ จึงทุ่มเทความ
่ ่
สนใจทั้งหมดไปที่ผลลัพธ์โดยไม่คานึ งถึ งสิ่ งอื่นใดทั้งสิ้ น ในขณะที่คนอื่นอาจใช้เวลามากกว่าใน
การบรรลุผลสาเร็ จบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ งประสบการณ์การเรี ยนรู ้ที่ดีที่สุดนั้น คนโครงสร้างมังคัง
่ ่
มัก ยุ่ง วุ่นวายอยู่ก ับ ความเสี ย หายของคุ ณภาพที่ แท้จริ ง ของงานหรื อผลลัพ ธ์ ข องตน พวกเขาไม่
สามารถรอคอยได้ และจะร้อนใจและโมโหมาก เมื่ออะไรๆ ไม่เป็ นไปตามแผนหรื อกรอบเวลาของ
พวกเขา

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 รี บร้ อนและรี บเร่ ง
 วัดผลลัพธ์เชิงปริ มาณ ไม่ใช่คุณภาพ
 การลงมือทาที่รวดเร็ วเท่านั้นที่เป็ นการลงมือทา
 ขาดเครื่ องวัดและความชัดเจน
 หุ นหันพลันแล่นและไม่รอบคอบ

~ 31 ~
ชอบตัดสินคนอืน
่
“ช่ างวิพากษ์ วจารณ์ คนอืนเป็ นทีสุด”
ิ
่
่

ในบรรดาโครงสร้างทุกประเภท คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่ชอบตัดสิ นมากที่สุดเวลา
่ ่
ใครทาอะไรไม่ได้ตามมาตรฐานของพวกเขาก็มกจะเก็บเอามาเป็ นอารมณ์ นอกจากนั้นยังทนความ
ั
โง่ของคนอื่นไม่ได้ และดังนั้นทุกคนจึงดูเป็ นคนโง่ไปหมด เพราะไม่สามารถเข้าใจอะไรๆ ได้เร็ ว
เท่ า พวกเขา พวกเขาไม่ ช อบการสอนซ้ า ๆ ซากๆ และการสั่ ง ซ้ า แล้วซ้ า อี ก ไม่ ช อบตอบปั ญหา
เดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นจึงช่างวิพากษ์วจารณ์และดูถูกคนที่พวกเขาคิดว่าด้อยกว่า
ิ
เป็ นการยากที่จะทางานกับคนรู ้มากที่ชอบตัดสิ นคนอื่น โดยเฉพาะเป็ นคนที่มีมาตรฐานที่
ไม่สมเหตุสมผล ยิงกว่านั้นการเป็ นคนชอบตัดสิ นและชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเป็ นที่สุดนี้ ยงส่ งผล
ั
่
กระทบต่อขวัญและกาลังใจในที่ทางาน รวมทั้งกัดกร่ อนความไว้วางใจและบรรยากาศการทางาน
เป็ นทีมด้วย เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้างมังคังที่แสดงลักษณะของแนวโน้มเหล่านี้ มากสุ ดโต่งจึงอาจ
่ ่
ทาให้เกิ ดบรรยากาศที่ตึงเครี ยดและน่ าอึดอัดอย่างมาก และมีแนวโน้มที่คนอื่ นจะเกลี ยดขี้หน้าได้
มาก
การเป็ นคนชอบตัดสิ นคนอื่นมากเกินไปยังขวางกั้นพวกเขาจากการเปิ ดใจรับฟังคาแนะนา
และพิจารณาวิธีแก้ไขปั ญหาที่คนอื่ นเสนอแนะด้วย ถึ งแม้พวกเขาจะมีความสามารถ ทว่าก็ไม่ได้
เชี่ยวชาญไปหมดทุกด้าน ดังนั้นการช่างวิพากษ์วิจารณ์หรื อเรี ยกร้ องมากเกินไปจึงกีดขวางพวกเขา
ไม่ให้เปิ ดกว้างและรับแนวคิดซึ่ งนาเสนอโดยคนในทีมหรื อผูใต้บงคับบัญชาของพวกเขาเอง สิ่ งนี้ ยง
้ ั
ั
ส่ งผลกระทบต่อคุณภาพของงานและผลผลิตของพวกเขาในระยะยาวอีกด้วย

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เยาะเย้ยถากถางความคิดของคนอื่น
 ทนความโง่ของคนอื่นไม่ได้
 ไม่ชอบสอนซ้ าซาก
 อาจคอย “ตรวจจับ” คนที่ทางานไม่ได้มาตรฐาน

~ 32 ~
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)

More Related Content

Similar to นักจัดการ (Manager)

Kamjorn tuntaned
Kamjorn tuntanedKamjorn tuntaned
Kamjorn tuntaned
KamjornT
 
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนาศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
pentanino
 
การนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหาร
การนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหารการนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหาร
การนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหาร
pentanino
 
Part 31
Part 31Part 31
Part 31
Aaesah
 
Chinese business leaders ตะวันตกมองจีน
Chinese business leaders ตะวันตกมองจีนChinese business leaders ตะวันตกมองจีน
Chinese business leaders ตะวันตกมองจีน
maruay songtanin
 
Thai Peoples Working Towers The Eyes Of Foreigners
Thai Peoples Working Towers The Eyes Of ForeignersThai Peoples Working Towers The Eyes Of Foreigners
Thai Peoples Working Towers The Eyes Of Foreigners
ngumngim
 

Similar to นักจัดการ (Manager) (20)

Kamjorn tuntaned
Kamjorn tuntanedKamjorn tuntaned
Kamjorn tuntaned
 
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนาศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
ศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำตามแนวพระพุทธศาสนา
 
เรียงความ
เรียงความเรียงความ
เรียงความ
 
Secretary seminar presentation final
Secretary seminar presentation finalSecretary seminar presentation final
Secretary seminar presentation final
 
Secretary seminar presentation final
Secretary seminar presentation finalSecretary seminar presentation final
Secretary seminar presentation final
 
คุณลักษณะผู้บริหารที่ดีพ.พ
คุณลักษณะผู้บริหารที่ดีพ.พคุณลักษณะผู้บริหารที่ดีพ.พ
คุณลักษณะผู้บริหารที่ดีพ.พ
 
4 secretarymanuel
4 secretarymanuel4 secretarymanuel
4 secretarymanuel
 
คุณลักษณะของครูที่ดี
คุณลักษณะของครูที่ดีคุณลักษณะของครูที่ดี
คุณลักษณะของครูที่ดี
 
สรุปบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำ 3 เรื่อง
สรุปบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำ 3 เรื่องสรุปบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำ 3 เรื่อง
สรุปบทความเกี่ยวกับภาวะผู้นำ 3 เรื่อง
 
การนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหาร
การนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหารการนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหาร
การนําหลักสัปปุริสธรรมเพื่อเปนเครื่องมือในการวางแผนการบริหาร
 
ปรัชญาการศึกษา
ปรัชญาการศึกษาปรัชญาการศึกษา
ปรัชญาการศึกษา
 
Part 31
Part 31Part 31
Part 31
 
Administration4 M
Administration4 MAdministration4 M
Administration4 M
 
โหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HRโหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HR
 
Strategic planning
Strategic planningStrategic planning
Strategic planning
 
ตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชาย
ตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชายตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชาย
ตัวอย่างบทที่ 2 พฤติกรรมป้องกันโรคเอดส์ของกลุ่มชายรักชาย
 
Pp
PpPp
Pp
 
Pp
PpPp
Pp
 
Chinese business leaders ตะวันตกมองจีน
Chinese business leaders ตะวันตกมองจีนChinese business leaders ตะวันตกมองจีน
Chinese business leaders ตะวันตกมองจีน
 
Thai Peoples Working Towers The Eyes Of Foreigners
Thai Peoples Working Towers The Eyes Of ForeignersThai Peoples Working Towers The Eyes Of Foreigners
Thai Peoples Working Towers The Eyes Of Foreigners
 

More from Sunny Stong

More from Sunny Stong (7)

Phonetics: Consonants
Phonetics: ConsonantsPhonetics: Consonants
Phonetics: Consonants
 
Coffee 25022557
Coffee 25022557Coffee 25022557
Coffee 25022557
 
Takayama 2
Takayama 2 Takayama 2
Takayama 2
 
Timeline of life 1
Timeline of life 1 Timeline of life 1
Timeline of life 1
 
Tall
Tall Tall
Tall
 
Differences 1
Differences 1 Differences 1
Differences 1
 
Takayama Vocabs
Takayama VocabsTakayama Vocabs
Takayama Vocabs
 

นักจัดการ (Manager)

  • 3. บุคลิกภาพ บทนา นักจัดการ (โครงสร้ างมั่งคัง) ่ คนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง รู ้ จ ัก กัน ในนาม นัก จัด การ เป็ นหนึ่ ง ในบรรดาผูที่ เ ปี่ ยมด้ว ยพลัง ้ ขับ เคลื่ อ นและมุ่ ง ผลลัพ ธ์ รวมทั้ง ทะเยอทะยาน ชอบแข่ ง ขัน และมี ค วามมัน ใจสู ง คนที่ มี ่ โครงสร้ างนี้ มก มี แรงขับเคลื่ อนและชอบมุ่ งเน้นไปที่ ภารกิ จในมื อ พวกเขาแก้ปัญหาและความ ั ท้าทายต่างๆ ได้ดี และจะยิงแสดงความสามารถที่ดีได้โดดเด่นมากขึ้นไปอีกเมื่อมีอุปสรรคกีดขวาง ่ พูดอีกนัยหนึ่งคือ อุปสรรคและความยากลาบากทาให้พวกเขายิ่งฮึกเหิ ม พวกเขาต้องการอิสระที่จะ ทาตามวิธีแก้ปัญหาของตนเองและใช้ความสามารถในการควบคุม คนโครงสร้างมังคังชอบควบคุมทุกคนและทุกสิ่ งทุกอย่าง เพราะพวกเขาเชื่ อว่าตนเองรู้วิธี ่ ่ ที่ถูกต้องหรื อวิธีที่ดีที่สุดในการกระทาอะไรบางอย่าง เมื่อทาอะไรด้วยพลังเต็มเปี่ ยม พวกเขามี แนวโน้มที่จะเป็ นคนทะเยอทะยานซึ่ งมี มาตรฐานสู ง และคาดหวังคนอื่นว่าจะทาได้เทียบเท่าพวก เขาพร้อมเสมอที่จะรับผิดชอบในฐานะหัวเรื อใหญ่ และเป็ นนักคิดอิสระที่มีสมรรถนะในการแก้ไข เกือบทุกปัญหาที่ถูกโยนมาให้ ~3~
  • 4. อย่างไรก็ตาม เมื่อแผนภูมิโครงสร้ างมังคังไม่ได้สมดุ ลหรื อไม่ดี พวกเขามีแนวโน้มที่จะ ่ ่ กลายเป็ นพวกตัวประหลาดจอมบงการ ใช้กลวิธีที่เร่ งเร้าดุดนเพื่อเร่ งให้สิ่งต่างๆ เร็ วขึ้น และเร่ งรัด ั ผลลัพธ์ ที่เร็ วกว่าและดี กว่า บางครั้ งก็กระโดดข้ามรายละเอี ยดสาคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ เหล่ านั้น พวกเขายังไม่ยอมทนต่อความโง่คนอื่ นด้วย และบางครั้ งก็แสดงอารมณ์ ร้ายหรื อความหงุ ดหงิ ด ออกมาเมื่ อต้องตอบคาถามเดี ยวกันซ้ าแล้วซ้ าอี ก หรื อเมื่ อถู กบังคับให้ตองทาภารกิ จเดี ยวกันซ้ า ้ โดยไม่มีอะไรดีข้ ึน หรื อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ~4~
  • 5. ด้ านดี แสงนาทาง “ฉันจะบอกวิธีให้ คุณ...” คนโครงสร้ างมังคังสนุกกับการทาอะไรน่ะหรื อ? ก็สนุ กกับการบอกผูคนให้ทาโน่นทานี่ ้ ่ ่ ไง และแน่ นอน ต้องทาตามวิธีน้ นเป๊ ะๆ เลยนะ! พวกเขามักเป็ นฝ่ ายริ เริ่ มและอยากรู้ไปหมดทุก ั เรื่ อง เพื่อที่จะได้ตดสิ นใจอย่างดีที่สุด ดังนั้นความเชื่ อมันอย่างแรงกล้าในความรู้ของตัวเองจึงทา ั ่ ให้พวกเขามุ่งมันที่จะคอยแนะนาคนอื่น เพื่อที่คนอื่นๆ จะสามารถทาสิ่ งที่ถูกต้องเช่นกัน ่ ั คนโครงสร้ างมังคังยังอยากให้อะไรๆ ดาเนิ นไปด้วยดี พวกเขาทนไม่ได้กบแผนการที่ ่ ่ ครึ่ งๆ กลางๆ หรื อความหย่อนยานไร้ ประสิ ทธิ ภาพ พวกเขาอยากก้าวเข้าไปช่ วยคนอื่นทาอะไรๆ ด้วยวิธี ที่ เป็ นประโยชน์และมี ป ระสิ ทธิ ภาพมากขึ้ น ความสนใจมุ่ งมันของพวกเขาที่ จะบริ หาร ่ จัดการและแนะนาผูคนนั้นแตกแขนงมาจากความต้องการนี้ ้ พวกเขาเป็ นคนที่ผคนจะไปหาในยามที่ตองการความคิดเห็นหรื อ เสี ยงสะท้อนที่จริ งใจและ ู้ ้ ซื่ อ สั ต ย์ ถ้า อยากได้รั บ ค ายกยอปอปั้ นแล้ว ละก็ ไม่ ค วรมองหาจากคนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง คน โครงสร้ างมังคังอยากแสดงให้คนอื่นเห็ นวิธีทาอะไรๆ บนพื้นฐานวิธีการของพวกเขาเอง เพราะ ่ ่ พวกเขาเชื่ออย่างแท้จริ งว่าตัวเองรู้ดีที่สุด ด้วยเหตุที่ได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อค้นหามันมาแล้ว ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ชอบแนะนาเพื่อนๆ  ให้ความคิดเห็นที่ซื่อสัตย์  อยากปรับปรุ งประสิ ทธิ ภาพของคนอื่นให้ดีข้ ึน  ชอบที่จะบริ หารจัดการให้ทุกอย่างดาเนิ นไปด้วยดี ~5~
  • 6. ขอเอียวด้ วยคน ่ “ติดหล่ม” คนโครงสร้ างมังคังอาจถูกมองว่าใจกว้างโดยธรรมชาติ เพราะความที่อยากบอกคนอื่นว่า ่ ่ ให้ทาอะไรๆ พวกเขาไม่ชอบนังเฉยๆ แล้วเอาแต่มองดูคนอื่นล้มเหลวด้วยความเหลาะแหละ อันที่ ่ ่ จริ งบางคน อาจพบว่าคนโครงสร้างมังคังแทรกแซงหรื อวุนวายเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป แต่นนเป็ น ั่ ่ ่ วิธีแสดงความเป็ นห่วงเป็ นใยของพวกเขา ดังนั้นคนโครงสร้างมังคังจึงมักเล่นบท “เจ๊ใหญ่” หรื อ “พี่เบิ้ม” ในหมู่เพื่อน พวกเขาอาจ ่ ่ เป็ นคนที่ใครๆ อยากมาปรึ กษาเรื่ องโน้นเรื่ องนี้ เช่น จะไปกินอาหารค่าที่ไหนดีหรื อจะหาช่างตัด เสื้ อที่ดีที่สุดได้ที่ไหน และเพราะเหตุที่พวกเขาชอบแข่งขันและมีการวางตัวดีน่าเชื่ อถือ ผูคนจึงพา ้ กันหันไปหาพวกเขา เพื่อขอคาแนะนาทางธุ รกิจหรื อทางการเงิน อาทิ ลงทุนอะไรดี ซื้ อทรัพย์สิน ที่ดีที่สุดได้ที่ไหน ฯลฯ ทีแรกคนโครงสร้ างมังคังอาจดูเย็นชาและชอบบังคับมากเกิ นไป รวมทั้งอาจขู่ขวัญคนที่ ่ ่ คิดว่าพวกเขาวางตัวเหิ นห่ าง แต่คนโครงสร้ างมังคังชอบควบคุม รวมทั้งเป็ นนักปฏิ บติที่ตื่นตัว ั ่ ่ กระฉับกระเฉงและทางานเก่ง พวกเขาจะเข้าไปเกี่ ยวข้องกับเรื่ องราวของคนอื่ นๆ เพื่อพยายาม ขับเคลื่อนให้คนเหล่านั้นมุ่งไปสู่ สิ่งที่ดีที่สุด และทาสิ่ งต่างๆ ด้วยวิธีที่ให้ผลสู งสุ ดหรื อด้วยวิธีที่ดี ที่สุด ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อาจถูกมองว่าเป็ นคนใจกว้าง  ชอบเข้าไปมีส่วนร่ วม  ลงไปลุยเอง  ชอบเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่ องของคนอื่น ~6~
  • 7. นักเสี่ยง “ทะยานไปเพือให้ ได้ สิ่งทีดีทสุด” ่ ่ ี่ คนโครงสร้ างมังคังมีแรงขับเคลื่ อนรุ นแรงสาหรั บการเปลี่ ยนแปลง พวกเขาทนกับเรื่ อง ่ ่ เดิ ม ๆ ที่ น่า เบื่ อไม่ไ ด้ จึ งมักมุ่ง มันที่ จะหยิบเรื่ องนั้นเรื่ องนี้ ม าผสมมาเขย่าเพื่ อให้ผลลัพธ์ ใ หม่ ๆ ่ หรื อการเปลี่ ยนแปลงแม้เล็กๆ น้อยๆ ก็ยงดี พวกเขาอยากเห็นการพัฒนา และอยากให้แน่ ใจว่า ั ผลสุ ดท้ายที่เกิดขึ้นนั้นมีประโยชน์และคุมค่า ้ ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้างมังคังจึงเต็มใจเสี่ ยงที่จะทาให้ตนเองได้รับสิ่ งที่ดีที่สุด หรื อแน่ ใจ ่ ่ ่ ได้วาจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิ ทธิ ผลที่สุด พวกเขาจะไม่ลงเลในการตัดสิ นใจแม้จะเป็ นทางเลือกที่ยาก ั ก็ตาม คนโครงสร้ างมังคังเป็ นพวกที่ทาอะไรก็จะทาจนถึ งที่สุด พวกเขามุ่งมันกับการยอมเหนื่ อย ่ ่ ่ ยากเพิมขึ้นเพื่อให้เพื่อนได้พฒนาก้าวหน้าและทาสิ่ งต่างๆ ได้ดีข้ ึน ั ่ คนโครงสร้ างมังคังมองโลกในแง่ ดี เชื่ อว่าทุ ก สิ่ งสามารถเปลี่ ยนแปลงได้ และควรถู ก ่ ่ เปลี่ยนแปลงให้ดีข้ ึน พวกเขาจะไม่เอาแต่นงเอกเขนกเสนอทางเลือกแย่ๆ หรื อย้อนแย้งในทางลบ ั่ พวกเขาไม่ ใ ช่ ค นนิ่ ง ดู ดาย และเพราะถู ก ขับ เคลื่ อ นด้ว ยความต้องการที่ จะท าอะไรๆ ให้ ดีข้ ึ น จึงเหมาะที่จะเสี่ ยงทาอะไรสักอย่างสองอย่าง เพื่อให้รู้ว่าตัวเองอยู่ ณ จุดไหนและทาความฝันของ ตนเองให้เป็ นจริ งขึ้นมา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีแรงผลักดันที่จะเปลี่ยนแปลง  อยากให้สิ่งต่างๆ ดีข้ ึน  มุ่งมันกับการสารวจดาแดนใหม่ที่ยงไม่มีใครเข้าถึง ั ่  ยอมเสี่ ยงเพื่อให้อะไรๆ ดีข้ ึน ~7~
  • 8. ด้ านไม่ ดี ครอบงา “ภาคภูมใจกับการเป็ นคนชอบออกคาสั่ งโดยธรรมชาติ” ิ เนื่องจากคนโครงสร้างมังคังสนุ กกับการบอกผูคนให้ทาโน่ นทานี่ ลักษณะเช่นนี้ จะแสดง ้ ่ ่ ตัวในรู ปของความเจ้ากี้เจ้าการหรื อความก้าวร้าว เมื่อแผนภูมิมีลกษณะไม่ดีหรื อไม่สมดุล บางครั้ง ั คนโครงสร้างมังคังลืมว่ามีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างการโน้มน้าวจูงใจหรื อการให้กาลังใจคนบางคน ่ ่ ให้ทาตามสิ่ งที่พวกเขาบอกให้ทา กับการบังคับพวกเขาให้ทา บางครั้งคนโครงสร้ างมังคังอาจค่อนข้างทาตัวแบบ “รู้ดีไปหมด” ในยามที่พวกเขาทาให้ ่ ่ เกิ ดความอยากรู ้ ซึ่ ง ทาให้พวกเขามี อานาจและพลัง ในการตัดสิ นใจที่ ดีที่สุด และกระตุนให้เกิ ด ้ การเปลี่ยนแปลงนั้น พวกเขาก็อาจไม่ตระหนักว่าได้ทาให้คนอื่นรู ้สึกอึดอัดคับข้องใจกันไปทัวหน้า ่ ถึงแม้ผคนจะไม่มาขอคาแนะนาหรื อความเห็ น แต่คนโครงสร้ างมังคังก็จะไม่สามารถยืน ู้ ่ ่ เฉยๆ ดูใครบางคนทาผิดพลาด หรื อทาอะไรช้าๆ และไร้ประสิ ทธิ ภาพได้ พวกเขาเป็ นต้องยื่นมือ เข้า ไปเกี่ ย วข้องและเริ่ ม ผลักดัน ให้คนพวกนั้นท าหรื อแสดงพฤติ ก รรมอะไรสั ก อย่า ง และเป็ น ธรรมดาอยูเ่ องที่บางครั้งการทาแบบนี้ก็ตองขัดอกขัดใจคนอื่นบ้าง ้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ก้าวร้าว  ตัดสิ นใจแทนคนอื่น  อาจบังคับให้คนอื่นทาโน่ นทานี่  อยากเป็ นคนชี้ ขาด ~8~
  • 9. เป็ นเจ้ าข้ าวเจ้ าของ “เธอเป็ นของฉัน...ตลอดกาล” ในแผนภู มิ ที่ไ ม่ดีหรื อไม่ สมดุ ล คนโครงสร้ างมัง คังบางคนอาจก้า วร้ า วได้มาก เพราะ ่ ่ แรงขับ เคลื่ อนและการมุ่ ง เน้น งานของพวกเขา ท าให้พ วกเขาไม่ ค่ อยมี เวลาและแนวโน้มที่ จ ะ เอนอิ ง พิ งหลังพัก ผ่อน พวกเขามี เพื่ อนไม่ มากนัก เพราะความเป็ นคนชอบความสมบูรณ์ แบบ แถมยัง เที่ ย วคาดหวัง คนอื่ นให้เป็ นคนสมบู รณ์ แบบเหมื อนตัวเอง รวมทั้ง มี ปัญหาเรื่ องไม่ ย อม ไว้ใจใครง่ายๆ อีกด้วย ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาหาเพื่อนได้ ก็จะมีแนวโน้มที่จะแสดงความเป็ นเจ้าข้าวเจ้าของ และเกาะติด แต่โดยทัวไปแล้วคนโครงสร้ างมังคังมักไม่ใช่ คนประเภทโอนอ่อนผ่อนตาม แต่มี ่ ่ ่ แนวโน้มที่จะบังคับเพื่อนให้ติดตามพวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง คนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง ยัง เคยชิ น ที่ จ ะติ ด ต่ อ กับ ผู ้ค นแบบตรงไปตรงมาและอย่ า งทื่ อ ๆ ั (โดยเฉพาะในเรื่ องงาน) จนกระทังอาจพลอยทาแบบเดี ยวกันนี้ กบเพื่อนๆ ด้วย โดยละเลยวิธี ่ ปฏิบติที่อ่อนโยนกว่าและใส่ ใจกับอารมณ์มากขึ้น ซึ่ งอาจทาให้ชนะใจเพื่อนได้ดีข้ ึน แต่กลับหลง ั ทิ ศ ผิด ทางโดยท าให้ เ พื่ อ นรู ้ สึ ก ผิ ดหรื อบงการให้เ พื่ อนมาติ ดอยู่ก ับ ตัว เองจนอาจท าให้ เ พื่ อ นๆ หนีห่างโดยไม่ได้ต้ งใจ ั ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ชอบควบคุม  อยากได้รับความสนใจทั้งหมดจากเพื่อน  ไม่เป็ นที่ชื่นชอบ ดังนั้นจึงเกาะติดเพื่อน  พยายามหาเพื่อนด้วยการบังคับเอา ~9~
  • 10. เจ้ าเล่ห์ “ใช้ คนอืนด้ วยเพทุบาย” ่ ่ สิ่ งหนึ่งที่คนโครงสร้างมังคังลงทุนกับมันมากที่สุดคืออะไร? คือผลลัพธ์ ไม่วาจะทาอะไร ่ ่ พวกเขาอยากท าให้ดี และเชื่ อ มันว่า ตนเองท าได้ดีก ว่า คนอื่ น พวกเขามี เป้ าหมายบางอย่า งที่ ่ ั พยายามจะทาให้สาเร็ จอยู่เสมอ และสิ่ งนี้ ผกพันพวกเขาไว้กบมาตรฐานของนักนิยมความสมบูรณ์ ู แบบของตนเอง ดัง นั้นบางครั้ ง คนโครงสร้ า งมัง คัง จึ ง มี แนวโน้ม ที่ จะมองคนอื่ นว่าเป็ นคุ ณค่ า อย่า งหนึ่ ง ่ ่ ่ ั สาหรับพวกเขาแล้ว คุ ณค่าผูกอยูกบผลลัพธ์ ถ้าไม่มีคุณค่าให้เห็ น ก็ถือว่าไม่มีผลหรื อประโยชน์ บางครั้งในกรณี สุดโต่ง คนโครงสร้างมังคังบางคนอาจเลือกที่จะยุติความเป็ นเพื่อนที่ไม่ได้มีคุณค่า ่ ่ ให้ คนโครงสร้างมังคังมักไม่ค่อยมองเห็นว่าบางครั้งความสนใจของตนเองนั้นอาจไม่ใช่ความ ่ ่ สนใจของคนอื่น พวกเขามีแนวโน้มที่จะคาดหวังว่าเป้ าหมายของคนอื่นเป็ นเป้ าหมายเดียวกับของ พวกเขา เพราะเหตุ น้ ี จึงอาจหลอกใช้คนอื่นเพื่อบรรลุ ผลสุ ดท้ายเหล่านั้นโดยไม่ได้ต้ งใจ โดยไม่ ั ตระหนักว่าอาจทาให้คนอื่นๆ หันมาต่อต้านตนเอง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  วิสัยทัศน์คบแคบมองด้านเดียว ั  หยาบกระด้าง  มุ่งเน้นคุณค่าที่จะได้จากเพื่อน  ห่วงผลลัพธ์มากเกินไป  ไม่คานึงถึงความรู ้สึก ~ 10 ~
  • 11. นักท่ องไพรผู้โดดเดียว ่ “ปัดป้ องผู้คนรอบตัวให้ ออกห่ าง” คนโครงสร้างมังคังรักอิสระอย่างยิง ส่ วนใหญ่เป็ นเพราะพวกเขามีปัญหาไม่ยอมวางใจใคร ่ ่ ่ ง่ายๆ เพียงเพราะไม่คิดว่าคนอื่นก็สามารถทางานได้เหมือนที่ตวเองทา เพราะเหตุน้ ี พวกเขาจึงริ เริ่ ม ั ทาอะไรๆ เอง และก้าวมุ่งไปข้างหน้าอย่างอิสระไม่พ่ ึงพาใคร การเป็ นอิสระและการเป็ นตัวของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่ องผิด แต่คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้ม ่ ่ ที่จะมีบรรยากาศน่ าอึดอัดอยู่รอบตัว รวมทั้งชอบฝ่ าฟั นอุปสรรคต่างๆ และต้านทานลมแรงเพียง ลาพังด้วยความทรหดโดยไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาได้ เพราะเหตุ ที่คนโครงสร้ างมังคังแสดงออกทางอารมณ์ ไม่เป็ น และไม่ยอมให้คนอื่ นเห็ น ่ ่ จุดอ่อนของตน ผูคนจึงรู้ สึกราวกับว่าไม่มีวนที่จะรู ้ จกคนโครงสร้ างมังคังได้แท้จริ ง พวกเขายังมี ้ ั ั ่ ่ ปั ญหาในการพูดคาว่าเสี ยใจ คนโครงสร้างมังคังไม่ค่อยหันไปขอคาแนะนาคนอื่น เพราะไม่อยาก ่ ่ รบกวนเพื่อน และไม่อยากจะเสี ยเวลามากขึ้นผ่านช่ องทางอื่นในเมื่อก็สามารถทาได้ดวยตัวเองอยู่ ้ แล้ว ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เป็ นอิสระอย่างเด็ดเดี่ยว  รักษาระยะห่างจากเพื่อน  ไม่ยอมรับจุดอ่อนหรื อความผิดพลาด  มีปัญหาในการพูดคาว่าเสี ยใจ  ไม่อยากรบกวนคนอื่นหรื อไม่อยากเสี ยเวลาเปล่า ~ 11 ~
  • 12. บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่ ด้ านดี หัวหน้ าครอบครัว “เข้ าควบคุมสถานการณ์ ” ในบทบาทของการเป็ นพ่อแม่ คนโครงสร้ า งมัง คั่ง มี ท้ ง ประสิ ท ธิ ภาพและการควบคุ ม ั ่ พอๆ กัน พวกเขาเป็ นพ่อแม่ แบบผูนาและเป็ นคนตัดสิ นใจเรื่ องเป้ าหมายต่ า งๆ พึ่ ง พาตนเอง ้ มากอย่างไม่ น่าเชื่ อ และไม่ย อมให้คุ ณค่าและเป้ าหมายของครอบครั วหายหกตกหล่ นไปเพราะ ความปล่อยปละหละหลวมหรื อสบายๆ เกินไป สิ่ งสาคัญพวกเขาคือ ลูกๆ ของพวกเขาต้องเติบโต เป็ นคนที่เห็นคุณค่าของเวลาและทรัพยากร รวมทั้งรู ้และเข้าใจเรื่ องการทางานหนัก ดังนั้น คนโครงสร้างมังคังจึงเป็ นพ่อแม่ประเภทที่ชอบควบคุมทั้งหมด เมื่อใดก็ตามที่เกิด ่ ่ เรื่ อ งขึ้ น ในครอบครั ว ไม่ ว่ า จะเป็ นเรื่ อ งร้ า ยแรงหรื อ เรื่ องเล็ ก น้ อ ย พวกเขาจะเข้า สู่ ส ภาวะ “การ-ทา-งาน” และคิดหาทางแก้ไขปั ญหาอย่างรวดเร็ ว พวกเขาไม่ใช่คนประเภทที่เอาแต่นงบีบมือ ั่ อย่างกระวนกระวายใจ และตั้งคาถามไม่รู้จกจบจักสิ้ นว่า “ทาไมต้องเป็ นฉันด้วย?” ั คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะแสดงวิธีทาสิ่ งต่างๆ ให้ลูกเห็ น และแนะแนวพวกเขา ่ ่ ให้มุ่งสู่ การบรรลุ ความสาเร็ จ พวกเขาควบคุมสถานการณ์ และสอนลูกว่าจะทาอย่างไรจึงจะได้ใน สิ่ งที่ตองการ ในกรณี น้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังเก่งในการเป็ นผูนาโดยทาตัวเป็ นแบบอย่าง ้ ้ ่ ่ พวกเขาตั้งเป้ าหมายและช่วยลูกให้จดโครงสร้างชีวตเพื่อไปสู่ การประสบความสาเร็ จ ั ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ตั้งเป้ าหมาย  กาหนดแนวทางสาหรับครอบครัว  นาลูกโดยทาตัวเป็ นแบบอย่าง  ควบคุมสถานการณ์ ~ 12 ~
  • 13. เป็ นพลังขับเคลือน ่ “ปลูกฝังทัศนคติ ‘ทาได้ ’ ให้ ลูก” ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้างมังคังเป็ นนักจูงใจตัวยง พวกเขาส่ งเสริ มลูกให้เพลิดเพลิ น ่ ่ กับการแสวงหาความรู ้และทากิจกรรมอยูเ่ สมอ รวมทั้งสอนลูกว่าในทุกสิ่ งทุกอย่างที่ลูกทาได้ดีน้ น ั ยังสามารถทาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้ สิ่ งสาคัญสาหรับคนโครงสร้ างมังคังคือ ลูกๆ ของพวกเขาเกิ ด ่ ่ แรงบันดาลใจและมีแรงจูงใจที่จะทาให้ดียงๆ ขึ้นไป ิ่ คนโครงสร้างมังคังมักพยายามอย่างหนักที่จะทาเช่นนี้ ดวยการทาตัวเป็ นแบบอย่างพวกเขา ้ ่ ่ จูงใจให้ครอบครัวลงมือทาอะไรๆ อยูเ่ สมอ และไม่สนับสนุ นการอยูเ่ ฉยๆ เรื่ อยเปื่ อยไปวันๆ พวก เขาวางแผนร่ วมกันทาโน่นทานี่ โดยสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วก็จดการกับมันจนมันทางานได้ ั ถ้ามีคาแนะนาอะไรที่ตองทาตาม หรื อมีอะไรที่ตองทาให้เสร็ จ คนโครงสร้างมังคังจะเป็ นคนแรกที่ ้ ้ ่ ่ ริ เริ่ มลงมือทา ดังนั้น พวกเขาจึงมักถูกมองว่าเคร่ งครัดเรื่ องระเบียบ หรื อเข้มงวดกับภารกิจและไม่ปล่อย ให้ เ วลาผ่ า นไปอย่ า งสู ญ เปล่ า รวมทั้ง ไม่ อ ดกลั้น ต่ อ ความหย่อ นยานหรื อ ความเฉื่ อ ยเนื อ ยใน การพยายามทาให้ครอบครัวของพวกเขามุ่งหน้าไปสู่ ทิศทางที่ถูกต้อง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ปลูกฝังให้ลูกสานึกถึงความเป็ นเลิศ  เจ้าระเบียบ  พยายามจูงใจด้วยการทาตัวเป็ นแบบอย่าง  ผลักดันครอบครัวให้ลงมือทา ~ 13 ~
  • 14. จัดระเบียบเก่ง “ทาให้ แน่ ใจว่ าทุกอย่ างในบ้ านเป็ นไปอย่างราบรื่น” ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างมังคังจัดระเบียบเก่งและเคร่ งครัดในวิธีการ พวกเขามีวินย ั ่ ่ ในการดาเนิ นชี วิต ในขณะเดี ยวกันก็ส่งเสริ มให้ลูกมีสานึ กเรื่ องโครงสร้างของชี วิต พวกเขาให้ ่ ่ คุณค่าเองการบริ หารเวลาและสานึ กแห่ งความเป็ นระเบียบ ไม่ชอบให้อะไรๆ ยุงเหยิงวุนวาย ไม่มี ่ ่ อะไรทาให้พอแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังราคาญมากไปกว่าวันเวลาที่ผานไปเสี ยเปล่าโดยไม่ได้ทา ่ ่ อะไร! พ่อแม่ที่ เป็ นคนโครงสร้ างมัง คัง ดู แลบ้านเรื อนได้เรี ยบร้ อย และทาตามตารางกิ จกรรม ่ ่ ประจาบ้านอย่างเรี ยบร้ อยด้วยเช่นกัน พวกเขาใส่ ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยความพิถีพิถน ั และทาให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรมาขัดกับกิจวัตรของลูกๆ และกิจกรรมประจาวันของที่บาน พวกเขา ้ ยึดมันจริ งจังกับการทาตามตารางกิจกรรมในบ้าน ไม่ชอบความล่าช้าและความเปลี่ยนปุบปั บที่ไม่ ่ รู ้ตวล่วงหน้า ั ่ คนโครงสร้างมังคังยังไม่ชอบอยูในสภาวะที่ตองวุนวายตลอดเวลา ดังนั้นจึงพยายามทาให้ ้ ่ ่ ่ ่ บรรยากาศในบ้านและการใช้ชีวิตของลูกๆ อยูในสภาพที่สะอาดสะอ้านและเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตและใช้ความคิดในสภาพแวดล้อมที่รกรุ งรังหรื อไร้ระเบียบชอบให้ทุก อย่างดาเนิ นไปอย่างราบรื่ น พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังค่อนข้างจะเป็ นพวกตัวประหลาดที่ ่ ่ ชอบความเนี้ยบ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ยึดมันกับวิธีการ ่  วางโครงสร้างชีวตของลูก ิ  ไม่ชอบปล่อยเวลาเสี ยเปล่า  ชอบสภาพแวดล้อมที่สะอาดและเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ~ 14 ~
  • 15. รู้มาก “มีคาตอบของทุกคาถาม” ตลอดชี วิตของพ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งมัง คัง พวกเขาต้องการเป็ นฝ่ ายถู ก เสมอและ ่ ่ มี แ นวโน้ ม ที่ จ ะรวบรวมความรู ้ ไ ว้ก ับ ตัว ค่ อ นข้า งมาก ไม่ ว่ า จะเป็ นความรู ้ ที่ ไ ด้จ ากหนัง สื อ ่ หรื อความรู ้ ที่เก็บตกจากท้องถนน คนโครงสร้างมังคังที่ไม่รู้วาจะทาอะไรดีน้ นค่อนข้างหาได้ยาก ั ่ ่ ่ พวกเขามีสมรรถนะสู งและเก่งจัดสรรทรัพยากรรู ้วาจะหาอะไรได้จากไหน ถ้ามีช่องโหว่ที่ตองหา ้ ให้เจอ พนันได้เลยว่าคนโครงสร้างมังคังต้องหาเจอจนได้ ่ ่ ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ า งมัง คัง สอนลู ก เก่ ง พวกเขาจะสอนลู ก ให้พ่ ึ งตัวเอง โดย ่ ่ ปลูกฝังคุณค่าของการยืนบนลาแข้งตัวเองให้ลูก และสอนลูกให้แสวงหาสิ่ งต่างๆ ในลักษณะที่เป็ น ประโยชน์และมีประสิ ทธิภาพ พวกเขายังเก่งในการบริ หารจัดการลูกของตัวเองอีกด้วย เด็กๆ ต้องการความเป็ นผูนาที่ ้ เข้มแข็งจากพ่อแม่ นี่ เป็ นสิ่ งที่ดี การมีพ่อแม่ที่มีความรู ้ และมันใจในความรู ้ ของตนจะทาให้ลูกมี ่ โครงสร้างและระเบียบชีวตในระดับที่เหมาะสม ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  รู ้คาตอบของเกือบทุกคาถาม  รู ้มากเป็ นที่สุด  มีความสามารถและเก่งจัดสรรทรัพยากร  ส่ งเสริ มลูกให้เรี ยนรู ้ดวยตนเอง ้ ~ 15 ~
  • 16. ด้ านไม่ ดี จอมบงการ “ไม่ ว่าพ่อแม่ บอกอะไร...ทาซะ” ่ ตอนนี้ เรารู ้แล้วว่าคนโครงสร้างมังคังรักแนวคิดที่วาตัวเองเป็ นฝ่ ายควบคุม การมีพลังและ ่ ่ อานาจทาให้พวกเขามีความสุ ขมาก และพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มา พวกเขาอยากให้ทุกสิ่ ง สาเร็ จด้วยวิธีของพวกเขา เพราะคิดว่าวีของพวกเขาเป็ นวิธีที่ดีที่สุด! อย่างไรก็ตาม ในฐานะพ่อแม่ บางครั้งลักษณะเช่นนี้ สามารถให้ผลทางลบได้ พวกเขาอาจ เป็ นพ่อแม่จอมบงการหรื อจอมครอบงา และเพราะเหตุที่ถือว่าตัวเองเป็ นผูมีอานาจ จึงคาดหวังว่า ้ ทุกคาสังและทุกความต้องการของตนจะได้รับการเชื่อฟัง ่ ภาษิตจีนโบราณที่ ว่า “พ่อแม่กินเกลื อมากกว่าเจ้ากิ นข้าว” (คล้ายๆ กับสานวนไทยที่ ว่า “พ่อแม่อาบน้ าร้อนมาก่อนลูก” -- ผูแปล) แสดงถึงทัศนะคติต่อลูกของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้าง ้ มังคังได้ดีที่สุด พวกเขาเชื่ อว่าเพราะตนเองทามาแล้วมากกว่าและมีประสบการณ์มากกว่า มุมมอง ่ ่ และการรับรู ้ของพวกเขาจึงเป็ นประโยชน์มากกว่า และควรได้รับการเชื่อฟัง ่ ั ดังนั้นบางครั้งการอยูกบพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังจึงน่าเหน็ดเหนื่ อย พวกเขาบริ หาร ่ ่ จัดการลูกใน “ระดับรายละเอียด” ด้วยวิธีเดียวกับที่ทากับลูกจ้างในที่ทางาน โดยคอยสอดส่ องลูก ทุกฝี ก้าว และตะเบ็งเสี ยงสั่งในยามที่เห็นว่าเหมาะสม พวกเขาเห็ นว่าการบงการและสั่งการว่าลูก ควรกินอะไร และควรแต่งตัวอย่างไรเป็ นสิ่ งที่เหมาะสม ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ครอบงา  เป็ นผูมีอานาจ ้  ออกกฎ  ต้องการการเชื่ อฟัง ~ 16 ~
  • 17. ชอบความสมบูรณ์ แบบ “คาดหวังความไม่ ผดพลาดในทุกขณะ” ิ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังห่วงเรื่ องผลลัพธ์สุดท้ายเอามากๆ จึงมักกังวลกับการมีลูกที่ ่ ่ สมบูรณ์แบบ ซึ่ งเป็ น “ความสมบูรณ์แบบ” ตามอุดมคติของพวกเขาเอง อันที่จริ งพวกเขาเองนัน ่ แหละที่เป็ นพวกชอบความสมบูรณ์แบบ และคาดหวังสิ่ งที่ดีที่สุดจากทุกสิ่ งทุกอย่าง รวมทั้งลูกๆ ของตัวเองด้วย ซึ่ งบางครั้งก็อาจมากเกินไปจนมองข้ามความรู้สึกของลูก ดังนั้นพวกเขาอาจตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินจะทาได้ และเรี ยกร้องจากลูกมากเกินไป เมื่อลูก แสดงลักษณะบุคลิกภาพในทางลบ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังก็จะหมกมุ่นกับการเฝ้ าค้นหา ่ ่ ความผิดพลาด พวกเขาคาดหวังสู ง และต้องการแค่ความสมบูรณ์แบบเท่านั้น ซึ่ งเป็ นอุดมคติที่สูง เกินไป ่ ้ เพราะเหตุน้ ี ลูกๆ ของพวกเขาจึงอาจรู ้สึกถูกกดดันอยูบาง พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคัง ่ ่ มีแนวโน้มที่มุ่งเน้นผลลัพธ์มากเกินไป และให้ความสาคัญน้อยเกิ นไปกีบการเดินทางสู่ เป้ าหมาย พวกเขาอาจรู ้สึกกลัวหรื อกังวลเรื่ องลูก เพราะความต้องการที่จะดาเนิ นชี วิตตามความคาดหวังที่สูง เหลือเชื่ออยูเ่ สมอนี้เอง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ตั้งมาตรฐานไว้สูง  คาดหวังมากเกินไป  อยากให้ลูกสมบูรณ์แบบ  มีแนวคิดที่ไม่เป็ นจริ งเกี่ยวกับสิ่ งที่ยอมรับได้  มุ่งเน้นผลลัพธ์สุดท้ายมากเกินไป ~ 17 ~
  • 18. เรียกร้ องทางอารมณ์ “บางครั้งมากเกินไปก็ยงไม่ พอ” ั เมื่อแผนภูมิของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ดีหรื อไม่สมดุ ล พวกเขามีแนวโน้มที่ ่ ่ จะเป็ นช่ างเรี ยกร้องเอามากๆ ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างมังคังคาดหวังและอยากได้จากลูกมาก ่ ่ เกินไปจนถึงจุดที่น่าอึดอัดอย่างยิง รวมทั้งไม่ค่อยข่มอารมณ์หรื อผ่อนคลาย ่ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ค่อยมีความสามารถที่จะแสดงออกทางอารมณ์ ว่าพวก ่ ่ เขารู ้สึกอย่างไร ดังนั้นจึงแสดงความเป็ นห่วงลูกด้วยการเอาแต่หมกมุ่นกับเป้ าหมายและวิถีชีวิตของ ลูก ใส่ ใจกับลูกโดยหวังให้ลูกมีความปรารถนาที่จะประสบชัยชนะและความสาเร็ จแบบเดียวกับตน โดยไม่ตระหนักว่าลูกๆ อาจมุ่งหวังความสาเร็ จในด้านอื่นหรื อในจังหวะก้าวที่แตกต่างออกไป การไร้ ค วามสามารถที่ จะมองเห็ นว่า ลู ก ๆ แตกต่ า งไปจากตนเองและเป็ นคนละคนกับ ตนเอง รวมทั้งความเป็ นเจ้าข้าวเจ้า ของซึ่ งเป็ นปกติวิสัย ของพวกเขา ทาให้พวกเขาเป็ นคนช่ า ง เรี ยกร้องสู ง บางครั้งความกดดันไม่ผ่อนปรนและความมุ่งมันทางอารมณ์ที่มีต่อลูกอาจเป็ นสาเหตุ ่ ทาให้ลูกๆ ของพวกเขาหดหู่และมีความเครี ยดแบบอ่อนๆ ในบางรู ปแบบได้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  แสดงออกทางอารมณ์ได้ไม่ดี  แสดงความเป็ นห่ วงมากเกินไป  คาดหวังสิ่ งตอบแทนมากเกินไป  ไม่แยกแยะว่าลูกแตกต่างจากตนเอง ~ 18 ~
  • 19. บ้ างาน “มีธุระยุ่งวุ่นวายอยู่เสมอ” อย่างที่พอเดาได้นนแหละ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ค่อยรู ้ จกแบ่งเวลาพักผ่อน ั่ ั ่ ่ ่ ่ ่ ชีวตพวกเขามีธุระยุงวุนวายยุงเหยิงด้วยการไล่ตามแต่ละเป้ าหมายในรายการเป้ าหมายทั้งหลายแหล่ ิ ของตน แถมยัง มองว่า การมี เวลาว่า งเป็ นจุ ดอ่ อนเสี ย อี ก นี่ คื อคนประเภทที่ ไ ม่ คุ ้นเคยกับ ค าว่า “ช่วงพัก” เมื่อคนโครงสร้างมังคังเป็ นพ่อแม่ ก็มกยุงตัวเป็ นเกลียว เป็ นพวกทาอะไรพร้อมกันทีเดียว ั ่ ่ ่ หลายๆ อย่าง และตื่นเต้นกับการสามารถโผจากเรื่ องหนึ่ งไปทาอีกเรื่ องได้ ทาอะไรๆ พร้ อมกัน ทีเดียวได้หลายอย่างเหมือนผูเ้ ชี่ยวชาญ แต่ไม่ตระหนักว่าสิ่ งที่ลูกๆ อยากได้คือความใส่ ใจทั้งหมด จากพ่อแม่ ไม่ใช่แค่เจียดเศษเสี้ ยวเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีมาให้ ่ ่ ดังนั้นคนโครงสร้างมังคังจึงมักเป็ นพ่อแม่ประเภทหายตัวไปเพราะมีธุระยุงวุนวายอยูเ่ สมอ ่ ่ จึงอาจพลาดโอกาสที่ จะมีส่วนร่ วมในเหตุ การณ์ ครั้งสาคัญของชี วิตลูก พวกเขาไม่ได้เจตนาที่จะ ละเลยเช่ น นั้น แต่ ก ารหายตัว ไปนั้น มี ผ ลกระทบในระดับ พื้ น ฐานต่ อชี วิต ลู ก พ่อ แม่ ที่ เ ป็ นคน โครงสร้ า งมังคัง รั ก ลู ก ๆ ก็จริ ง แต่ ไ ม่ ถนัดที่ จะให้เวลามากๆ กับลู ก พวกเขากลับ ชอบเน้นที่ ่ ่ คุณภาพของเวลาที่ให้แทน ทว่าบางครั้งลูกๆ ก็อาจเข้าใจผิดหรื อมองไม่เห็นแง่มุมนี้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ ่ ่  มีธุระยุงวุนวายเกินกว่าจะมีเวลาให้ลูก ่  ไปยุงกับหลายๆ เรื่ องมากเกินไป ั  ไม่ให้เวลาเต็มที่กบลูกๆ  ความคิดมักแซงหน้าไปหาเรื่ องอื่นๆ  ไม่มีช่วงเวลาที่จะว่างได้นานๆ ~ 19 ~
  • 20. ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างมังคัง ่ ่ ด้ านสว่ าง  มุ่งมั่น ไม่มีเรื่ องไหนที่คนอื่นทาได้แล้วคุณทาให้ดีกว่าไม่ได้! คุณเชื่ อในเรื่ องนี้ แบบสุ ดใจขาดดิ้น ดัง นั้นคุ ณจึ ง สามารถพัฒนาปรั บ ปรุ ง รู ป แบบวิธีท าสิ่ ง ต่ างๆ ที่ มี อยู่แล้วให้ดีข้ ึ น เพื่ อให้ สิ่ งนั้นสาเร็ จลุล่วงอย่างถูกต้องเหมาะสม คุณเชื่ อว่าทุกสิ่ งทุกอย่างจะกลับดีข้ ึนได้ถาทาด้วย ้ วิธีของคุณ โดยเฉพาะถ้าทาทันที  เชื่อมั่น คุณเชื่ อมันในตัวเองอย่างมหาศาล และไม่ตองการนังเฉยๆ รอใครมาประทับตราให้ความ ้ ่ ่ เห็ นชอบให้ ถ้าคุ ณเชื่ อตัวเองและคิดว่ากาลังทาสิ่ งที่ ถูกต้อง นันแหละคือความเห็ นชอบ ่ ทั้งหมดที่คุณต้องการ  ตัดสิ นใจเด็ดขาด คุ ณ ไม่ ใ ช่ ค นลัง เลที่ ช อบถามตัว เองว่ า “ใช่ ?” หรื อ “ไม่ ใ ช่ ?” “เอา ?” หรื อ “ไม่ เ อา ?” คุ ณตัดสิ นใจเร็ วแล้วคุ ณก็ยึดมันกับมัน คุ ณเข้าใจคุ ณค่าของเวลา เข้าใจอานาจของการ ่ ตัดสิ นใจที่ดีและรวดเร็ ว คุณไม่ค่อยเข้าใจว่าทาไมผูคนจึงดูเหมือนไม่รู้ใจตัวเอง! ้ ~ 20 ~
  • 21.  เปี่ ยมด้ วยพลวัต ่ คุณเป็ นคนที่ใครๆ ก็รู้วาชอบทาโน่นทานี่ ไม่หยุดมากที่สุดคนหนึ่ ง คุณไม่ใช่ คนประเภท ที่ เอาแต่นั่ง นิ่ ง ๆ และปล่ อยเวลาผ่านไปวันๆ สิ่ งสาคัญสาหรั บ คุ ณคื อการลงมื อทาและ ลงไปคลุ กกับมัน ในขณะที่คุณต้องการความสมบูรณ์ แบบ คุ ณก็ไม่กลัวที่ จะตรงเข้าไป ลุยงานด้วยตัวเอง  มีเหตุผล คุณไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ตวเองถูกพัดพาไปด้วยพลังของอารมณ์และความอ่อนไหว คุณรู ้ ั กาละและเทศะสาหรับทุกๆ เรื่ อง และชอบคิดหาเหตุผลของเรื่ องราวต่างๆ โดยไม่ด่วนสรุ ป คุณไม่ใช่คนประเภทที่ตอบสนองด้วยอารมณ์รุนแรงสุ ดโต่ง  มีวสัยทัศน์ ิ คุณมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่ งในการเติมเต็มสิ่ งที่คุณต้องการ คุ ณมุ่งมันที่จะบอกคนอื่นให้ทา ่ โน่นทานี่และแนะแนวพวกเขา ถ้าจะมีสักบทบาทหนึ่ งที่ไม่เหมาะกับตัวคุณมันคือการเป็ น ผูตามที่ ย อมสยบหรื อเฉื่ อยเนื อย คุ ณไม่ ช อบยึดติ ดกับ ทิ ศทางของคนอื่ นในเมื่ อคุ ณรู ้ ว่า ้ ทิศทางของคุณดีกว่าเยอะ  ปรับตัวเก่ง คุ ณ อดไม่ ไ ด้ที่ จ ะอยากเปลี่ ย นแปลงทุ ก อย่ า งที่ คุ ณ ท า คุ ณ จึ ง พร้ อ มที่ จ ะท าสิ่ ง ทุ ก อย่า ง เมื่อลูกบอลถูกตีโด่งจากทิศไหนก็ไม่รู้มาทางคุณ คุณก็จะเอื้อมไปคว้ามันไว้ได้อย่างง่ายดาย คุณมีความยืดหยุ่นสู งและไม่ค่อยต่อต้านแนวคิดที่แตกต่างหรื อไอเดี ยใหม่ๆ อันที่จริ งคุณ ยินดีตอนรับมันด้วยซ้ า เพราะความจาเจซ้ าซากเป็ นเรื่ องน่าเบื่อย่างยิงสาหรับคุณ ้ ่  ชอบแข่ งขัน เมื่ อใดก็ตามที่ มีใครบอกคุ ณว่าอะไรบางอย่างทาไม่ได้ มันจะทาให้คุณอยู่เฉยไม่ได้ ต้อง ออกไปข้างนอกและทามันให้เสร็ จไปเลย คุณสนุ กกับความท้ายทายและเพลิดเพลินกับการ ทาอะไรค้านความเชื่ อที่คิดกันไปเองเพื่อพิสูจน์ว่าคนอื่ นผิด คุ ณเป็ นคนมุ่งเป้ าหมายและ ทะเยอทะยานมากและจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะบรรลุผลสาเร็ จ ~ 21 ~
  • 22. ด้ านมืด  ครอบงา ่ คุณชอบให้สิ่งต่างๆ อยูภายใต้การควบคุม ไม่ค่อยไว้วางใจคนอื่นๆ และความสามารถของ พวกเขาที่จะทางานให้เสร็ จ เพราะเหตุน้ ี คุณจึงไม่เป็ นที่ชื่นชอบ และอาจทาให้คนอื่นถอย ห่างโดยไม่ต้ งใจ ั  จุกจิก คุ ณกระหายความสมบูรณ์ แบบและอยากให้ทุ กสิ่ งส าเร็ จลงด้วยวิธีของคุ ณ เพราะเหตุ น้ ี บางครั้ ง คุ ณจึ ง เข้าไปจุ กจิ ก กับคนอื่ นแม้ใ นเรื่ องหยุมหยิมที่ สุ ด คุ ณไม่ ไ ว้ใจว่า คนอื่ นจะ ทางานให้เสร็ จได้ดีเท่า คุ ณ ดัง นั้นจึ ง รู ้ สึก ว่า ต้องคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลาและเข้าไป จัดการสิ่ งที่พวกเขาทาเสมอ  หงุดหงิดง่ าย การทาอะไรไม่รู้จกหยุดของคุ ณมี แนวโน้มที่ จะทาให้เกิ ดสารพัดปั ญหาความเครี ยดทาง ั จิตใจและปั ญหาสุ ขภาพปล่อยสบายกับเรื่ องราวต่างๆ สักพัก คุณบีบคั้นตัวเองและคนอื่น มากเสี ยจนบางครั้งลืมที่จะนังพักและผ่อนคลายเสี ยบ้าง ่  เรียกร้ องจัด คุ ณ รู ้ ว่า คุ ณ มี แ นวโน้ม ที่ จ ะต าหนิ ห รื อ ดุ ด่ า ว่ า กล่ า วคนที่ ไ ม่ ป ฏิ บ ัติ ต ามมาตรฐานความ สมบูรณ์ แ บบของคุ ณ จงคิ ดถึ งความรู ้ สึก ของคนอื่ นบ้าง เป็ นครั้ ง คราวก็ย งดี ไม่ ใช่ ว่า ั ทุกคนจะเก่งเหมือนคุณในการแยกเยอะอารมณ์จากเหตุผล และความเป็ นมืออาชีพจากชีวิต ส่ วนตัว คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เรี ยกร้องมากจนเกินไป ~ 22 ~
  • 23.  ไม่ อดทน คุณไม่อดทนเพราะคุ ณอยากได้ผลลัพธ์เร็ วๆ และไม่ชอบที่จะต้องคอยเฝ้ ารอผลแห่ งความ พยายามของคุณ ประสิ ทธิภาพสาหรับคุณหมายถึงการทาสิ่ งต่างๆ อย่างรวดเร็ ว แต่บางครั้ง การไม่อดทนก็หมายความว่าคุณไม่สนใจความผิดพลาด ซึ่ งอาจกลับทาให้อะไรๆ ช้าลงใน ระยะยาวโดยที่คุณไม่ได้ต้ งใจ ั  โดดเดี่ยว คุณภาคภูมิใจกับความสามารถที่จะทาอะไรๆ ให้เสร็ จด้วยตัวเอง คุ ณไม่ได้ต้ งใจอย่างนั้น ั แต่คนอื่นยากที่จะตามทันคุณ คุณพยายามมอบหมายงานให้คนอื่นทาก็จริ งแต่สุดท้ายมักลง เอยด้วยการตรากตราทาเอง คุณมักขึ้นไปสู่ จุดสู งสุ ด แต่ที่นนเงียบเหงา เนื่ องจากไม่ค่อยมี ั่ คนเข้าใจคุณหรื อคุยกับคุณรู ้เรื่ อง  อารมณ์ร้าย เมื่ ออะไรๆ ไม่เป็ นไปอย่า งที่ คิ ดไว้ คุ ณจะหงุ ดหงิ ดและโมโห อารมณ์ ของคุ ณอาจเป็ น จุ ดอ่อนอย่างหนึ่ งของคุ ณเช่ นเดี ยวกับความหุ นหันพลันแล่ นของคุ ณ คุ ณอาจพูดหรื อทา อะไรบ้างอย่างที่ ตองมานึ กเสี ยใจทีหลัง เป็ นไปได้ว่าคุ ณมีแนวโน้มที่จะชอบบังคับ และ ้ ครอบง ามากเกิ นไปและเมื่ อผูคนปฏิ เสธที่ จะท าตามคาสั่ ง คุ ณก็ไ ม่ ส ามารถที่ จะรั บมื อ ้ กับสถานการณ์ได้อย่างสง่างาม ~ 23 ~
  • 25. ด้ านดี รักอิสระ “แผ้ วถางเส้ นทางของตัวเอง” คนโครงสร้ างมังคังรักอิสระและเป็ นตัวของตัวเอง จึงไม่ค่อยยอมรับคาสั่งของใคร ถ้าคุ ณ ่ ่ อยากรับคาสั่งจากใครสักคน คุณต้องรู ้จกและไว้ใจว่าคนคนนั้นฉลาดกว่าและมีคุณค่าสาหรับการที่ ั จะทาตามคาสั่งนั้น คนโครงสร้างมังคังรู ้วาตัวเองอยากได้อะไรและพยายามทุกวิถีทางที่จะคว้ามัน ่ ่ ่ มาให้ได้ ด้วยความเชี่ ย วชาญในงานที่ ทา หากเขาอยากจะได้อะไรสักอย่างจึ งมักไม่ใช่ เรื่ องยาก คนโครงสร้างมังคังมักเป็ นผูกาหนดจังหวะก้าว ไม่ใช่รอให้คนอื่นเป็ นผูกาหนด ้ ้ ่ ่ พวกเขามีมาตรฐานที่ สูงมากเกี่ ยวกับวิธีทางานให้เสร็ จ ด้วยเหตุน้ ี จึงทนทางานกับคนโง่ ไม่ ไ ด้และไม่ ต้อ งการตกอยู่ใ นสภาพที่ ต้อ งพึ่ ง พาใครในการท าอะไรๆ ให้เสร็ จ พวกเขาเชื่ อว่า “วิธีเดียวที่จะทาอะไร ให้เสร็ จคือการลงมือทาเอง” พวกเขามีเจตจานงแรงกล้า และจะไม่ยอมให้ สิ่ งใดมากีดขวางเส้นทางของตน คุ ณ (คนโครงสร้ า งมั่ง คัง ) ยัง สนุ ก กับ การต่ อ ต้า นและความท้า ทายต่ า งๆ อี ก ด้ว ย จึ ง มี ่ แนวโน้ม ที่ จะท าสิ่ ง ต่ า งๆ ด้ว ยวิธี ของตัวเอง และด้วยเหตุ น้ ี คุ ณจึ ง เป็ นคนมุ่ ง เน้น เป้ าหมายและ แสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่ทาได้จริ งอยูเ่ สมอ รวมทั้งมักมีแผนการที่ชดเจนว่าดาเนิ นการอย่างไร แล้วก็ ั อยากจะมุ่งไปตามนั้น ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เป็ นอิสระ  ไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าต้องทาอะไร  มันใจในตนเอง ่  พึ่งตัวเองและดูแลตัวเองได้ ~ 25 ~
  • 26. มีประสิทธิภาพ “เหมือนเครื่องจักร...แต่ แท้ จริงแล้วพวกเขาเป็ นคน” ในบรรดาโครงสร้ างทุ กประเภท คนโครงสร้ างมังคังเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูคนทั้งหลายที่ ้ ่ ่ ลงทุนกับแนวคิดเรื่ องประสิ ทธิ ภาพมากที่สุด ไม่มีอะไรทาให้พวกเขาเป็ นบ้าได้มากไปกว่าแนวคิด ่ ที่วาให้นงเฉยๆ และปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ หรื อทาอะไรครึ่ งๆ กลางๆ ซึ่ งไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ ั่ ปรารถนา คนโครงสร้างมังคังมุ่งเน้นเรื่ องผลลัพธ์มาก รวมทั้งการขยายผลลัพธ์น้ นให้เกิดผลสู งสุ ด ั ่ ่ และทาให้มนมีผลิตภาพสู งสุ ดเท่าที่จะเป็ นไปได้ ั ถ้าจะพูดด้วยคาๆ เดี ยว คานั้นก็คือประสิ ทธิ ภาพ คนโครงสร้ างมังคังมีความสามารถใน ่ ่ การใช้ประโยชน์จากเวลา ทรัพยากร และแรงงานด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เป็ นไปได้ (และเป็ นวิธีที่ ฉลาดที่สุดด้วย) เป็ นคนมีความสามารถและเก่งจัดสรรทรัพยากร มองเห็นปั ญหาเป็ นความท้าทายเป็ นอีกอุปสรรคที่ตองฝ่ าฟั น เป็ นอีกรั้วที่ตองกระโดดข้าม ้ ้ ่ พวกเขาจึงไม่รู้สึกยุงยากหรื องุนงงสับสนกับประเด็นหรื อปั ญหาใด การเผชิ ญกับปั ญหาที่ตองแก้ก็ ้ เหมือนเอากระดูกไปวางไว้หน้า เจ้าตูบ เพราะคนโครงสร้ างมังคังก็จะแค่พบว่าตัวเองน้ าลาย ่ ่ สออยากคิดหา “วิธีแก้ปัญหา” ที่ดีที่สุด พวกเขาหัวเสี ยกับการผลาญเวลา ทรัพย์สินเงิ นทอง ทรัพยากรและแรงงานไปอย่างเปล่า ่ ประโยชน์ เรื่ องแบบนี้ ปล่อยให้คนโครงสร้ างมังคังจัดการก็จะมันใจได้วาพวกเขาจะพลิกก้อนหิ น ่ ่ ่ ทุ กก้อนขึ้ นมาสารวจตรวจสอบ ทดสอบด้วยทุ กกรรมวิธี ด้วยความหวังที่ จะค้นพบวิธีบรรลุ ผล สาเร็ จของผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริ ง พวกเขารับมือกับประเด็นต่างๆ ด้วยรู ปแบบวิธีคิดที่ ทาได้จริ ง และไม่ปล่อยให้ความคิ ด ไขว้เขวหรื ออารมณ์ต่างๆ เข้ามาเป็ นอุปสรรคขัดขวาง เพราะเหตุน้ ีพวกเขาจึงเก่งในการแยกเรื่ องงาน ออกจากชี วิตด้วยเช่ นกัน เป็ นไปได้ว่านี่ เป็ นหนึ่ งในจุ ดแข็งของพวกเขาที่ ช่วยให้พวกเขาทางาน ต่างๆ ได้อย่างเป็ นระบบและด้วยความละเอียดถี่ถวน ้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีความสามารถ  เก่งจัดสรรทรัพยากร  ไม่ชอบผลาญเวลาและแรงงานโดยเปล่าประโยชน์  ไม่ไร้สาระ  ยอมรับความเป็ นจริ ง ~ 26 ~
  • 27. เล่นบทนา “แสดงวิธีแก่คนอืน” ่ คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะสนุ กกับการออกคังและจัดการเรื่ องต่างๆ พวกเขาเป็ น ่ ่ ่ นักจัดการที่มีประสิ ทธิภาพ และอยากเป็ นผูแนะนาสั่งการมากกว่าที่จะฟั งคนอื่น หากเขาจะยอมรับ ้ ใครสักคนในฐานผูนา พวกเขาก็จะต้องมีความนับถือในตัวคนคนนั้นเสี ยก่อน ้ พวกเขามีแนวโน้มที่จะก้าวพรวดเข้ามาและรับผิดชอบไปหมดทุกเรื่ อง โดยเฉพาะในยามที่ เห็นว่าคนอื่นเงอะงะหรื อทาอะไรๆ อย่างเชื่ องช้า คนโครงสร้ างมังคังให้คุณค่าแก่ความสาคัญของ ่ ่ เวลาและแทนที่จะรอคอยให้คนอื่นเป็ นคนคุม พวกเขาจะทาหน้าที่สาคัญในการควบคุมเรื อและเป็ น กัปตันเรื อเสี ยเอง คนโครงสร้างมังคังเป็ นคนชอบลงมือทา ไม่ใช่คนที่เอาแต่คิดใคร่ ครวญและใช้เวลาหลาย ่ ่ ชัวโมงคิดทบทวนซ้ าไปซ้ ามากับเรื่ องอะไรสักอย่าง พวกเขามันใจมากพอที่จะเสี่ ยงและลงมือใน ่ ่ จังหวะที่เหมาะ ไม่มีอะไรที่ทาให้พวกเขาสนุกมากไปกว่าการบอกผูคนให้ทาโน่นทานี่ โดยเฉพาะ ้ ถ้าคนเหล่านั้นไม่รู้ความนัยหรื อหัวช้า ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เป็ นจ่าฝูง  แสดงวิธี  บอกให้คนอื่นทาโน่นทานี่  ชอบควบคุม ~ 27 ~
  • 28. ตัดสินใจเด็ดขาด “ไม่ มการเงอะงะซุ่มซ่ ามสาหรับคนโครงสร้ างมังคัง” ี ่ ่ ในขณะที่ ค นอื่ นๆ ในโลกพากันถอนใจและครุ่ นคิ ด พิ นิจพิ จารณาและไตร่ ตรองราพึ ง ราพันและกัง ขา คนโครงสร้ า งมัง คัง จะอยู่ที่ ก ลางแถวหน้า กล้า ตัดสิ นใจเด็ ดขาด พวกเขาไม่ มี ่ ่ แนวโน้ม ที่ จะหนี เข้าสู่ โลกแห่ ง ความคิ ดฟุ้ งฝั น หรื อเอาแต่ นัง ซึ ม กระทื อเป็ นชั่วโมงๆ เมื่ อต้อง ่ ตัดสิ นใจ คนโครงสร้ างมังคังจะทากับมันเหมือนเป็ นปั ญหาอีกเรื่ องที่ตองแก้ พวกเขาจะลงมือทา ้ ่ ่ และตัดสิ นใจ และมี แนวโน้ม ที่ จะท าอย่า งรวดเร็ วด้วย เพราะพวกเขาคิ ดว่าการเอาแต่ ล ังเลไม่ ตัดสิ นใจก็เป็ นแค่การเสี ยเวลาและพลังงานอีกรู ปแบบหนึ่งเท่านั้น บ่อยครั้ งที่ พวกเขาตัดสิ นใจถูกเพราะรู้ ทางเลื อกทั้งหมดและรู ้ ผลลัพธ์ ที่จะตามมาอยู่แล้ว เพราะพวกเขาไม่ใช่คนไร้สาระ แต่มีประสบการณ์และมีความเชื่อมันที่จะคิดอย่างแน่วแน่ ่ พวกเขาไม่ปล่อยให้ตวเองคิดมากเกินไป เพราะการคิดมากเกินไปอาจนาไปสู่ การไม่ลงมือ ั ทา ด้วยความรู้ ที่สามารถทาได้จริ งที่พวกเขามีอยู่ พวกเขาก็เพียงแค่บุกตะลุยไปข้างหน้า แล้วค่อย คิดเรื่ อง “ถ้าหาก...” ทีหลัง พวกเขามีวิธีคิดแบบ “ค่อยเป็ นค่อยไปทีละขั้น” ค่อนข้างมาก และไม่มวกังวลกับผลที่จะ ั เกิดขึ้นตามมาจากการตัดสิ นใจจนกว่าจะเผชิญกับมัน ดังนั้นจึงไม่ปล่อยให้ความกลัวและความรู ้สึก ไม่มนคงในจินตนาการมาสกัดกั้น พวกเขามีเจตจานงแรงกล้า และไม่ปล่อยให้ความเห็นหรื อคา ั่ วิพ ากษ์วิจ ารณ์ ข องคนอื่ น มาท าให้ เกิ ด ความพะวงสงสั ย คนโครงสร้ า งมั่ง คัง ไม่ ค่ อ ยใส่ ใ จกับ ่ ความรู้สึกหรื อความคิดของคนอื่น แต่ใสใจกับผลลัพธ์สุดท้ายมากกว่า วิสัยทัศน์ที่คบแคบแบบนี้ ั ช่วยพวกเขาได้ดีมากในยามที่จาเป็ นต้องตัดสิ นใจ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีความสามารถ  ไม่ละล้าละลัง  ไม่คิดมากจนเกิดไป  ยึดมันกับการลงมือทา ่  มีเจตจานงแรงกล้า ~ 28 ~
  • 29. ด้ านไม่ ดี ชอบควบคุม “ทาตามทีฉันบอก ไม่ ง้ันก็...” ่ อีกด้านหนึ่ งของแนวโน้มแห่ งความเป็ นผูนาของคนโครงสร้ างมังคังคือ ความโน้มเอียง ้ ่ ่ ในทางชอบควบคุ ม คนโครงสร้ างมังคัง ชอบเป็ นคนรั บผิดชอบในฐานะหัวเรื อใหญ่ ในทุกเรื่ อง ่ ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจไม่ได้ถูกเสมอไป และสิ่ งนี้อาจนาไปสู่ ปัญหาได้ ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของพวกเขาคือ เข้าควบคุมทุกสิ่ งทุกอย่างเพราะคนอื่นกีดขวาง เส้นทางของพวกเขา ที่จริ งแล้วเมื่อลักษณะที่ดีของพวกเขาเริ่ มอ่อนแอลงและกลายเป็ นลักษณะที่ไม่ ดี พวกเขาจะมี ค วามเป็ นผูนาน้อยลง และกลายเป็ นคนเจ้า กี้ เจ้า การที่ รู้ดีไปหมดทุ ก เรื่ อง หรื อที่ ้ เลวร้ายกว่านั้นคือเป็ นพวกหัวกบฏที่ชอบสั่งในการควบคุมที่เบ็ดเสร็ จเด็ดขาด พวกเขามีแนวโน้มที่จะลบล้างคาแนะนาต่างๆ ของคนอื่นๆ ซึ่ งที่จริ งแล้วอาจพิสูจน์ได้ว่า น่าจะเป็ นประโยชน์หรื อสร้างสรรค์ นอกจากนี้ พวกเขายังไม่มอบหมายงานและอาจแบกรับทุกสิ่ ง ทุกอย่างไว้เอง ซึ่ งเป็ นสู ตรสาเร็ จแห่งความหายนะ คนโครงสร้างมังคังทางานกับคนที่เชื่องช้าหรื อคนคิดช้าได้ไม่ดีนก ขาดความอดทนที่จะรอ ั ่ ่ “รอดูไปก่อน” พวกเขาพบว่าเป็ นเรื่ องยากที่จะร่ วมมือกับคนที่ไม่ยึดมันในแผนการ แน่นอนเว้นแต่ ่ คนเหล่านั้นจะมีแผนการที่ดีกว่า ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อยากเป็ นซูเปอร์ ผจดการ ู้ ั  ควบคุมวิธีทางานของคนอื่น  มอบหมายงานไม่เป็ น  เป็ นนักนิยมความสมบูรณ์แบบที่สุดโต่ง ~ 29 ~
  • 30. ก้าวร้ าว “ใช้ กลยุทธ์ ระรานในบางครั้ง” ่ ตอนนี้ไม่จาต้องบอกก็ได้วาคนอื่นๆ คิดว่าคนโครงสร้างมังคังก้าวร้าว ซึ่ งอันที่จริ งก็ถูกของ ่ ่ ั ่ เขา เป็ นที่รู้กนดีวาคนโครงสร้างมังคังชอบใช้วธีบงคับด้วยเจตจานงแรงกล้า ในยามที่อะไรๆ เป็ นไป ิ ั ่ ่ ด้วยดี ก็มกถูกแปลความว่าเป็ นความสามารถในการตัดสิ นใจและสมรรถนะของพวกเขา แต่เวลาที่ ั อะไรๆ ไม่เป็ นไปอย่างที่ตองการ พวกเขาก็จะก้าวร้าวและหงุดหงิดขึ้นมาทันที ้ วิธีที่เจ้ากี้ เจ้าการบังคับสามารถทาให้ผูคนกลัวจนถอยหนี หรื อขู่ขวัญให้นิ่งเงี ยบสยบยอม ้ แต่ก็ด้วยความชิ งชัง คนโครงสร้ างมังคังอาจแปลกแยกกับคนอื่ นเพราะพวกเขาไม่เห็ นประโยชน์ ่ ่ หรื อความคุมค่าใดในการแก้ไขปั ญหาเดียวเป็ นเวลายาวนาน และความซ้ าซากจาเจใดๆ ที่ไม่มีการ ้ พัฒนาไปในทางที่ดีข้ ึนก็ทาให้พวกเขาจะเป็ นบ้าตาย นอกจากนั้นแนวโน้มความเป็ นคนก้าวร้าวของคนโครงสร้างมังคังยังกีดกันให้เขาหรื อเธอ ่ ่ อยู่นอกวงของสิ่ ง ที่ ก าลังเกิ ดขึ้ นอย่างแท้จริ ง ผูคนจะไม่ เข้ามาหาเพื่อบอกปั ญหา สิ่ งที่ อาจเป็ น ้ อุปสรรค ประเด็นต่างๆ ซึ่ งขยายไปถึงข้อมูลข่าวสาร การใช้วิธีบงคับและหยาบกระด้างกับคนอื่น ั ทาให้ผคนเหิ นห่ างและทาให้เกิดสุ ญญากาศแห่ งความรู ้ ข้ ึนรอบตัวพวกเขา โดยที่ ความรู้ น้ ี มีแต่คน ู้ อื่นเท่านั้นที่สามารถให้ได้ พฤติกรรมของพวกเขาอาจทาให้คนอื่นรู้สึก อึดอัดคับข้อง พวกเขาอาจแปลกแยกหรื อผลัก ั ไสคนอื่น เพราะเหตุที่กงวลเรื่ องตรรกะของสิ่ งต่างๆ มากเกินไป ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เจ้ากี้เจ้าการและชอบบังคับเอามากๆ  อาจเป็ นคน “แข็ง” มาก  แปลกแยกกับคนอื่นเพราะชอบต่อสู ้เอาชนะ  ต่อต้านคนอื่น ~ 30 ~
  • 31. หุนหันพลันแล่น “ไม่ อดทนต่ อข้ อผิดพลาด” คนโครงสร้างมังคังไม่ชอบที่ถูกทาให้ตองรอ และลักษณะแบบนี้เป็ นตัวอย่างของแผนภูมิที่ ้ ่ ่ เป็ นลบสุ ดโต่งหรื อแผนภูมิที่ไม่ดีของคนโครงสร้างมังคัง นี่คือคนประเภทที่จะขอให้คนอื่นทางาน ่ ่ ให้ทนที เป็ นคนประเภท “อยากให้มนเสร็ จตั้งแต่เมื่อวาน” ดังนั้นความอดทนจึงไม่ใช่ จุดแข็งของ ั ั พวกเขา พวกเขาห่วงเรื่ องผลลัพธ์เป็ นหลักและต้องได้ผลลัพธ์เร็ วๆ ด้วย พวกเขาจึ ง มี แ นวโน้ม ที่ จะเป็ นคนหุ นหันพลันแล่ น และจะรี บ รุ ด เข้า หาสิ่ ง ต่ า งๆ อย่า ง บ้าระห่ าและรี บร้ อน ซึ่ งนาไปสู่ โอกาสที่จะทาผิดพลาดในรู ปแบบต่างๆ เพราะความสะเพร่ าหรื อ การมองข้า มไป ซึ่ ง เมื่ อผสมผสานกับความเชื่ อมันที่ เ กื อบจะเป็ นความยโสของพวกเขาแล้ว ยิ่ง ่ ทาให้พวกเขารู ้สึกว่าตนเองอยูเ่ หนือการตรวจสอบหรื อการแก้ไขในทุกกรณี เนื่องจากคนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะวัดคุณค่าของทุกสิ่ งด้วยผลลัพธ์ จึงทุ่มเทความ ่ ่ สนใจทั้งหมดไปที่ผลลัพธ์โดยไม่คานึ งถึ งสิ่ งอื่นใดทั้งสิ้ น ในขณะที่คนอื่นอาจใช้เวลามากกว่าใน การบรรลุผลสาเร็ จบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ งประสบการณ์การเรี ยนรู ้ที่ดีที่สุดนั้น คนโครงสร้างมังคัง ่ ่ มัก ยุ่ง วุ่นวายอยู่ก ับ ความเสี ย หายของคุ ณภาพที่ แท้จริ ง ของงานหรื อผลลัพ ธ์ ข องตน พวกเขาไม่ สามารถรอคอยได้ และจะร้อนใจและโมโหมาก เมื่ออะไรๆ ไม่เป็ นไปตามแผนหรื อกรอบเวลาของ พวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  รี บร้ อนและรี บเร่ ง  วัดผลลัพธ์เชิงปริ มาณ ไม่ใช่คุณภาพ  การลงมือทาที่รวดเร็ วเท่านั้นที่เป็ นการลงมือทา  ขาดเครื่ องวัดและความชัดเจน  หุ นหันพลันแล่นและไม่รอบคอบ ~ 31 ~
  • 32. ชอบตัดสินคนอืน ่ “ช่ างวิพากษ์ วจารณ์ คนอืนเป็ นทีสุด” ิ ่ ่ ในบรรดาโครงสร้างทุกประเภท คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่ชอบตัดสิ นมากที่สุดเวลา ่ ่ ใครทาอะไรไม่ได้ตามมาตรฐานของพวกเขาก็มกจะเก็บเอามาเป็ นอารมณ์ นอกจากนั้นยังทนความ ั โง่ของคนอื่นไม่ได้ และดังนั้นทุกคนจึงดูเป็ นคนโง่ไปหมด เพราะไม่สามารถเข้าใจอะไรๆ ได้เร็ ว เท่ า พวกเขา พวกเขาไม่ ช อบการสอนซ้ า ๆ ซากๆ และการสั่ ง ซ้ า แล้วซ้ า อี ก ไม่ ช อบตอบปั ญหา เดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นจึงช่างวิพากษ์วจารณ์และดูถูกคนที่พวกเขาคิดว่าด้อยกว่า ิ เป็ นการยากที่จะทางานกับคนรู ้มากที่ชอบตัดสิ นคนอื่น โดยเฉพาะเป็ นคนที่มีมาตรฐานที่ ไม่สมเหตุสมผล ยิงกว่านั้นการเป็ นคนชอบตัดสิ นและชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเป็ นที่สุดนี้ ยงส่ งผล ั ่ กระทบต่อขวัญและกาลังใจในที่ทางาน รวมทั้งกัดกร่ อนความไว้วางใจและบรรยากาศการทางาน เป็ นทีมด้วย เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้างมังคังที่แสดงลักษณะของแนวโน้มเหล่านี้ มากสุ ดโต่งจึงอาจ ่ ่ ทาให้เกิ ดบรรยากาศที่ตึงเครี ยดและน่ าอึดอัดอย่างมาก และมีแนวโน้มที่คนอื่ นจะเกลี ยดขี้หน้าได้ มาก การเป็ นคนชอบตัดสิ นคนอื่นมากเกินไปยังขวางกั้นพวกเขาจากการเปิ ดใจรับฟังคาแนะนา และพิจารณาวิธีแก้ไขปั ญหาที่คนอื่ นเสนอแนะด้วย ถึ งแม้พวกเขาจะมีความสามารถ ทว่าก็ไม่ได้ เชี่ยวชาญไปหมดทุกด้าน ดังนั้นการช่างวิพากษ์วิจารณ์หรื อเรี ยกร้ องมากเกินไปจึงกีดขวางพวกเขา ไม่ให้เปิ ดกว้างและรับแนวคิดซึ่ งนาเสนอโดยคนในทีมหรื อผูใต้บงคับบัญชาของพวกเขาเอง สิ่ งนี้ ยง ้ ั ั ส่ งผลกระทบต่อคุณภาพของงานและผลผลิตของพวกเขาในระยะยาวอีกด้วย ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เยาะเย้ยถากถางความคิดของคนอื่น  ทนความโง่ของคนอื่นไม่ได้  ไม่ชอบสอนซ้ าซาก  อาจคอย “ตรวจจับ” คนที่ทางานไม่ได้มาตรฐาน ~ 32 ~