More Related Content
Similar to นักจัดการ (Manager) (20)
More from Sunny Stong (7)
นักจัดการ (Manager)
- 3. บุคลิกภาพ
บทนา
นักจัดการ (โครงสร้ างมั่งคัง)
่
คนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง รู ้ จ ัก กัน ในนาม นัก จัด การ เป็ นหนึ่ ง ในบรรดาผูที่ เ ปี่ ยมด้ว ยพลัง
้
ขับ เคลื่ อ นและมุ่ ง ผลลัพ ธ์ รวมทั้ง ทะเยอทะยาน ชอบแข่ ง ขัน และมี ค วามมัน ใจสู ง คนที่ มี
่
โครงสร้ างนี้ มก มี แรงขับเคลื่ อนและชอบมุ่ งเน้นไปที่ ภารกิ จในมื อ พวกเขาแก้ปัญหาและความ
ั
ท้าทายต่างๆ ได้ดี และจะยิงแสดงความสามารถที่ดีได้โดดเด่นมากขึ้นไปอีกเมื่อมีอุปสรรคกีดขวาง
่
พูดอีกนัยหนึ่งคือ อุปสรรคและความยากลาบากทาให้พวกเขายิ่งฮึกเหิ ม พวกเขาต้องการอิสระที่จะ
ทาตามวิธีแก้ปัญหาของตนเองและใช้ความสามารถในการควบคุม
คนโครงสร้างมังคังชอบควบคุมทุกคนและทุกสิ่ งทุกอย่าง เพราะพวกเขาเชื่ อว่าตนเองรู้วิธี
่ ่
ที่ถูกต้องหรื อวิธีที่ดีที่สุดในการกระทาอะไรบางอย่าง เมื่อทาอะไรด้วยพลังเต็มเปี่ ยม พวกเขามี
แนวโน้มที่จะเป็ นคนทะเยอทะยานซึ่ งมี มาตรฐานสู ง และคาดหวังคนอื่นว่าจะทาได้เทียบเท่าพวก
เขาพร้อมเสมอที่จะรับผิดชอบในฐานะหัวเรื อใหญ่ และเป็ นนักคิดอิสระที่มีสมรรถนะในการแก้ไข
เกือบทุกปัญหาที่ถูกโยนมาให้
~3~
- 4. อย่างไรก็ตาม เมื่อแผนภูมิโครงสร้ างมังคังไม่ได้สมดุ ลหรื อไม่ดี พวกเขามีแนวโน้มที่จะ
่ ่
กลายเป็ นพวกตัวประหลาดจอมบงการ ใช้กลวิธีที่เร่ งเร้าดุดนเพื่อเร่ งให้สิ่งต่างๆ เร็ วขึ้น และเร่ งรัด
ั
ผลลัพธ์ ที่เร็ วกว่าและดี กว่า บางครั้ งก็กระโดดข้ามรายละเอี ยดสาคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ เหล่ านั้น
พวกเขายังไม่ยอมทนต่อความโง่คนอื่ นด้วย และบางครั้ งก็แสดงอารมณ์ ร้ายหรื อความหงุ ดหงิ ด
ออกมาเมื่ อต้องตอบคาถามเดี ยวกันซ้ าแล้วซ้ าอี ก หรื อเมื่ อถู กบังคับให้ตองทาภารกิ จเดี ยวกันซ้ า
้
โดยไม่มีอะไรดีข้ ึน หรื อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
~4~
- 5. ด้ านดี
แสงนาทาง
“ฉันจะบอกวิธีให้ คุณ...”
คนโครงสร้ างมังคังสนุกกับการทาอะไรน่ะหรื อ? ก็สนุ กกับการบอกผูคนให้ทาโน่นทานี่
้
่ ่
ไง และแน่ นอน ต้องทาตามวิธีน้ นเป๊ ะๆ เลยนะ! พวกเขามักเป็ นฝ่ ายริ เริ่ มและอยากรู้ไปหมดทุก
ั
เรื่ อง เพื่อที่จะได้ตดสิ นใจอย่างดีที่สุด ดังนั้นความเชื่ อมันอย่างแรงกล้าในความรู้ของตัวเองจึงทา
ั
่
ให้พวกเขามุ่งมันที่จะคอยแนะนาคนอื่น เพื่อที่คนอื่นๆ จะสามารถทาสิ่ งที่ถูกต้องเช่นกัน
่
ั
คนโครงสร้ างมังคังยังอยากให้อะไรๆ ดาเนิ นไปด้วยดี พวกเขาทนไม่ได้กบแผนการที่
่ ่
ครึ่ งๆ กลางๆ หรื อความหย่อนยานไร้ ประสิ ทธิ ภาพ พวกเขาอยากก้าวเข้าไปช่ วยคนอื่นทาอะไรๆ
ด้วยวิธี ที่ เป็ นประโยชน์และมี ป ระสิ ทธิ ภาพมากขึ้ น ความสนใจมุ่ งมันของพวกเขาที่ จะบริ หาร
่
จัดการและแนะนาผูคนนั้นแตกแขนงมาจากความต้องการนี้
้
พวกเขาเป็ นคนที่ผคนจะไปหาในยามที่ตองการความคิดเห็นหรื อ เสี ยงสะท้อนที่จริ งใจและ
ู้
้
ซื่ อ สั ต ย์ ถ้า อยากได้รั บ ค ายกยอปอปั้ นแล้ว ละก็ ไม่ ค วรมองหาจากคนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง คน
โครงสร้ างมังคังอยากแสดงให้คนอื่นเห็ นวิธีทาอะไรๆ บนพื้นฐานวิธีการของพวกเขาเอง เพราะ
่ ่
พวกเขาเชื่ออย่างแท้จริ งว่าตัวเองรู้ดีที่สุด ด้วยเหตุที่ได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อค้นหามันมาแล้ว
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ชอบแนะนาเพื่อนๆ
ให้ความคิดเห็นที่ซื่อสัตย์
อยากปรับปรุ งประสิ ทธิ ภาพของคนอื่นให้ดีข้ ึน
ชอบที่จะบริ หารจัดการให้ทุกอย่างดาเนิ นไปด้วยดี
~5~
- 6. ขอเอียวด้ วยคน
่
“ติดหล่ม”
คนโครงสร้ างมังคังอาจถูกมองว่าใจกว้างโดยธรรมชาติ เพราะความที่อยากบอกคนอื่นว่า
่ ่
ให้ทาอะไรๆ พวกเขาไม่ชอบนังเฉยๆ แล้วเอาแต่มองดูคนอื่นล้มเหลวด้วยความเหลาะแหละ อันที่
่
่
จริ งบางคน อาจพบว่าคนโครงสร้างมังคังแทรกแซงหรื อวุนวายเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป แต่นนเป็ น
ั่
่ ่
วิธีแสดงความเป็ นห่วงเป็ นใยของพวกเขา
ดังนั้นคนโครงสร้างมังคังจึงมักเล่นบท “เจ๊ใหญ่” หรื อ “พี่เบิ้ม” ในหมู่เพื่อน พวกเขาอาจ
่ ่
เป็ นคนที่ใครๆ อยากมาปรึ กษาเรื่ องโน้นเรื่ องนี้ เช่น จะไปกินอาหารค่าที่ไหนดีหรื อจะหาช่างตัด
เสื้ อที่ดีที่สุดได้ที่ไหน และเพราะเหตุที่พวกเขาชอบแข่งขันและมีการวางตัวดีน่าเชื่ อถือ ผูคนจึงพา
้
กันหันไปหาพวกเขา เพื่อขอคาแนะนาทางธุ รกิจหรื อทางการเงิน อาทิ ลงทุนอะไรดี ซื้ อทรัพย์สิน
ที่ดีที่สุดได้ที่ไหน ฯลฯ
ทีแรกคนโครงสร้ างมังคังอาจดูเย็นชาและชอบบังคับมากเกิ นไป รวมทั้งอาจขู่ขวัญคนที่
่ ่
คิดว่าพวกเขาวางตัวเหิ นห่ าง แต่คนโครงสร้ างมังคังชอบควบคุม รวมทั้งเป็ นนักปฏิ บติที่ตื่นตัว
ั
่ ่
กระฉับกระเฉงและทางานเก่ง พวกเขาจะเข้าไปเกี่ ยวข้องกับเรื่ องราวของคนอื่ นๆ เพื่อพยายาม
ขับเคลื่อนให้คนเหล่านั้นมุ่งไปสู่ สิ่งที่ดีที่สุด และทาสิ่ งต่างๆ ด้วยวิธีที่ให้ผลสู งสุ ดหรื อด้วยวิธีที่ดี
ที่สุด
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
อาจถูกมองว่าเป็ นคนใจกว้าง
ชอบเข้าไปมีส่วนร่ วม
ลงไปลุยเอง
ชอบเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่ องของคนอื่น
~6~
- 7. นักเสี่ยง
“ทะยานไปเพือให้ ได้ สิ่งทีดีทสุด”
่
่ ี่
คนโครงสร้ างมังคังมีแรงขับเคลื่ อนรุ นแรงสาหรั บการเปลี่ ยนแปลง พวกเขาทนกับเรื่ อง
่ ่
เดิ ม ๆ ที่ น่า เบื่ อไม่ไ ด้ จึ งมักมุ่ง มันที่ จะหยิบเรื่ องนั้นเรื่ องนี้ ม าผสมมาเขย่าเพื่ อให้ผลลัพธ์ ใ หม่ ๆ
่
หรื อการเปลี่ ยนแปลงแม้เล็กๆ น้อยๆ ก็ยงดี พวกเขาอยากเห็นการพัฒนา และอยากให้แน่ ใจว่า
ั
ผลสุ ดท้ายที่เกิดขึ้นนั้นมีประโยชน์และคุมค่า
้
ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้างมังคังจึงเต็มใจเสี่ ยงที่จะทาให้ตนเองได้รับสิ่ งที่ดีที่สุด หรื อแน่ ใจ
่ ่
่
ได้วาจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิ ทธิ ผลที่สุด พวกเขาจะไม่ลงเลในการตัดสิ นใจแม้จะเป็ นทางเลือกที่ยาก
ั
ก็ตาม คนโครงสร้ างมังคังเป็ นพวกที่ทาอะไรก็จะทาจนถึ งที่สุด พวกเขามุ่งมันกับการยอมเหนื่ อย
่ ่
่
ยากเพิมขึ้นเพื่อให้เพื่อนได้พฒนาก้าวหน้าและทาสิ่ งต่างๆ ได้ดีข้ ึน
ั
่
คนโครงสร้ างมังคังมองโลกในแง่ ดี เชื่ อว่าทุ ก สิ่ งสามารถเปลี่ ยนแปลงได้ และควรถู ก
่ ่
เปลี่ยนแปลงให้ดีข้ ึน พวกเขาจะไม่เอาแต่นงเอกเขนกเสนอทางเลือกแย่ๆ หรื อย้อนแย้งในทางลบ
ั่
พวกเขาไม่ ใ ช่ ค นนิ่ ง ดู ดาย และเพราะถู ก ขับ เคลื่ อ นด้ว ยความต้องการที่ จะท าอะไรๆ ให้ ดีข้ ึ น
จึงเหมาะที่จะเสี่ ยงทาอะไรสักอย่างสองอย่าง เพื่อให้รู้ว่าตัวเองอยู่ ณ จุดไหนและทาความฝันของ
ตนเองให้เป็ นจริ งขึ้นมา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
มีแรงผลักดันที่จะเปลี่ยนแปลง
อยากให้สิ่งต่างๆ ดีข้ ึน
มุ่งมันกับการสารวจดาแดนใหม่ที่ยงไม่มีใครเข้าถึง
ั
่
ยอมเสี่ ยงเพื่อให้อะไรๆ ดีข้ ึน
~7~
- 8. ด้ านไม่ ดี
ครอบงา
“ภาคภูมใจกับการเป็ นคนชอบออกคาสั่ งโดยธรรมชาติ”
ิ
เนื่องจากคนโครงสร้างมังคังสนุ กกับการบอกผูคนให้ทาโน่ นทานี่ ลักษณะเช่นนี้ จะแสดง
้
่ ่
ตัวในรู ปของความเจ้ากี้เจ้าการหรื อความก้าวร้าว เมื่อแผนภูมิมีลกษณะไม่ดีหรื อไม่สมดุล บางครั้ง
ั
คนโครงสร้างมังคังลืมว่ามีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างการโน้มน้าวจูงใจหรื อการให้กาลังใจคนบางคน
่ ่
ให้ทาตามสิ่ งที่พวกเขาบอกให้ทา กับการบังคับพวกเขาให้ทา
บางครั้งคนโครงสร้ างมังคังอาจค่อนข้างทาตัวแบบ “รู้ดีไปหมด” ในยามที่พวกเขาทาให้
่ ่
เกิ ดความอยากรู ้ ซึ่ ง ทาให้พวกเขามี อานาจและพลัง ในการตัดสิ นใจที่ ดีที่สุด และกระตุนให้เกิ ด
้
การเปลี่ยนแปลงนั้น พวกเขาก็อาจไม่ตระหนักว่าได้ทาให้คนอื่นรู ้สึกอึดอัดคับข้องใจกันไปทัวหน้า
่
ถึงแม้ผคนจะไม่มาขอคาแนะนาหรื อความเห็ น แต่คนโครงสร้ างมังคังก็จะไม่สามารถยืน
ู้
่ ่
เฉยๆ ดูใครบางคนทาผิดพลาด หรื อทาอะไรช้าๆ และไร้ประสิ ทธิ ภาพได้ พวกเขาเป็ นต้องยื่นมือ
เข้า ไปเกี่ ย วข้องและเริ่ ม ผลักดัน ให้คนพวกนั้นท าหรื อแสดงพฤติ ก รรมอะไรสั ก อย่า ง และเป็ น
ธรรมดาอยูเ่ องที่บางครั้งการทาแบบนี้ก็ตองขัดอกขัดใจคนอื่นบ้าง
้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ก้าวร้าว
ตัดสิ นใจแทนคนอื่น
อาจบังคับให้คนอื่นทาโน่ นทานี่
อยากเป็ นคนชี้ ขาด
~8~
- 9. เป็ นเจ้ าข้ าวเจ้ าของ
“เธอเป็ นของฉัน...ตลอดกาล”
ในแผนภู มิ ที่ไ ม่ดีหรื อไม่ สมดุ ล คนโครงสร้ างมัง คังบางคนอาจก้า วร้ า วได้มาก เพราะ
่ ่
แรงขับ เคลื่ อนและการมุ่ ง เน้น งานของพวกเขา ท าให้พ วกเขาไม่ ค่ อยมี เวลาและแนวโน้มที่ จ ะ
เอนอิ ง พิ งหลังพัก ผ่อน พวกเขามี เพื่ อนไม่ มากนัก เพราะความเป็ นคนชอบความสมบูรณ์ แบบ
แถมยัง เที่ ย วคาดหวัง คนอื่ นให้เป็ นคนสมบู รณ์ แบบเหมื อนตัวเอง รวมทั้ง มี ปัญหาเรื่ องไม่ ย อม
ไว้ใจใครง่ายๆ อีกด้วย
ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาหาเพื่อนได้ ก็จะมีแนวโน้มที่จะแสดงความเป็ นเจ้าข้าวเจ้าของ
และเกาะติด แต่โดยทัวไปแล้วคนโครงสร้ างมังคังมักไม่ใช่ คนประเภทโอนอ่อนผ่อนตาม แต่มี
่
่ ่
แนวโน้มที่จะบังคับเพื่อนให้ติดตามพวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง
คนโครงสร้ า งมั่ง คั่ง ยัง เคยชิ น ที่ จ ะติ ด ต่ อ กับ ผู ้ค นแบบตรงไปตรงมาและอย่ า งทื่ อ ๆ
ั
(โดยเฉพาะในเรื่ องงาน) จนกระทังอาจพลอยทาแบบเดี ยวกันนี้ กบเพื่อนๆ ด้วย โดยละเลยวิธี
่
ปฏิบติที่อ่อนโยนกว่าและใส่ ใจกับอารมณ์มากขึ้น ซึ่ งอาจทาให้ชนะใจเพื่อนได้ดีข้ ึน แต่กลับหลง
ั
ทิ ศ ผิด ทางโดยท าให้ เ พื่ อ นรู ้ สึ ก ผิ ดหรื อบงการให้เ พื่ อนมาติ ดอยู่ก ับ ตัว เองจนอาจท าให้ เ พื่ อ นๆ
หนีห่างโดยไม่ได้ต้ งใจ
ั
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ชอบควบคุม
อยากได้รับความสนใจทั้งหมดจากเพื่อน
ไม่เป็ นที่ชื่นชอบ ดังนั้นจึงเกาะติดเพื่อน
พยายามหาเพื่อนด้วยการบังคับเอา
~9~
- 10. เจ้ าเล่ห์
“ใช้ คนอืนด้ วยเพทุบาย”
่
่
สิ่ งหนึ่งที่คนโครงสร้างมังคังลงทุนกับมันมากที่สุดคืออะไร? คือผลลัพธ์ ไม่วาจะทาอะไร
่ ่
พวกเขาอยากท าให้ดี และเชื่ อ มันว่า ตนเองท าได้ดีก ว่า คนอื่ น พวกเขามี เป้ าหมายบางอย่า งที่
่
ั
พยายามจะทาให้สาเร็ จอยู่เสมอ และสิ่ งนี้ ผกพันพวกเขาไว้กบมาตรฐานของนักนิยมความสมบูรณ์
ู
แบบของตนเอง
ดัง นั้นบางครั้ ง คนโครงสร้ า งมัง คัง จึ ง มี แนวโน้ม ที่ จะมองคนอื่ นว่าเป็ นคุ ณค่ า อย่า งหนึ่ ง
่ ่
่ ั
สาหรับพวกเขาแล้ว คุ ณค่าผูกอยูกบผลลัพธ์ ถ้าไม่มีคุณค่าให้เห็ น ก็ถือว่าไม่มีผลหรื อประโยชน์
บางครั้งในกรณี สุดโต่ง คนโครงสร้างมังคังบางคนอาจเลือกที่จะยุติความเป็ นเพื่อนที่ไม่ได้มีคุณค่า
่ ่
ให้
คนโครงสร้างมังคังมักไม่ค่อยมองเห็นว่าบางครั้งความสนใจของตนเองนั้นอาจไม่ใช่ความ
่ ่
สนใจของคนอื่น พวกเขามีแนวโน้มที่จะคาดหวังว่าเป้ าหมายของคนอื่นเป็ นเป้ าหมายเดียวกับของ
พวกเขา เพราะเหตุ น้ ี จึงอาจหลอกใช้คนอื่นเพื่อบรรลุ ผลสุ ดท้ายเหล่านั้นโดยไม่ได้ต้ งใจ โดยไม่
ั
ตระหนักว่าอาจทาให้คนอื่นๆ หันมาต่อต้านตนเอง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
วิสัยทัศน์คบแคบมองด้านเดียว
ั
หยาบกระด้าง
มุ่งเน้นคุณค่าที่จะได้จากเพื่อน
ห่วงผลลัพธ์มากเกินไป
ไม่คานึงถึงความรู ้สึก
~ 10 ~
- 11. นักท่ องไพรผู้โดดเดียว
่
“ปัดป้ องผู้คนรอบตัวให้ ออกห่ าง”
คนโครงสร้างมังคังรักอิสระอย่างยิง ส่ วนใหญ่เป็ นเพราะพวกเขามีปัญหาไม่ยอมวางใจใคร
่
่ ่
ง่ายๆ เพียงเพราะไม่คิดว่าคนอื่นก็สามารถทางานได้เหมือนที่ตวเองทา เพราะเหตุน้ ี พวกเขาจึงริ เริ่ ม
ั
ทาอะไรๆ เอง และก้าวมุ่งไปข้างหน้าอย่างอิสระไม่พ่ ึงพาใคร
การเป็ นอิสระและการเป็ นตัวของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่ องผิด แต่คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้ม
่ ่
ที่จะมีบรรยากาศน่ าอึดอัดอยู่รอบตัว รวมทั้งชอบฝ่ าฟั นอุปสรรคต่างๆ และต้านทานลมแรงเพียง
ลาพังด้วยความทรหดโดยไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเขาได้
เพราะเหตุ ที่คนโครงสร้ างมังคังแสดงออกทางอารมณ์ ไม่เป็ น และไม่ยอมให้คนอื่ นเห็ น
่ ่
จุดอ่อนของตน ผูคนจึงรู้ สึกราวกับว่าไม่มีวนที่จะรู ้ จกคนโครงสร้ างมังคังได้แท้จริ ง พวกเขายังมี
้
ั
ั
่ ่
ปั ญหาในการพูดคาว่าเสี ยใจ คนโครงสร้างมังคังไม่ค่อยหันไปขอคาแนะนาคนอื่น เพราะไม่อยาก
่ ่
รบกวนเพื่อน และไม่อยากจะเสี ยเวลามากขึ้นผ่านช่ องทางอื่นในเมื่อก็สามารถทาได้ดวยตัวเองอยู่
้
แล้ว
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
เป็ นอิสระอย่างเด็ดเดี่ยว
รักษาระยะห่างจากเพื่อน
ไม่ยอมรับจุดอ่อนหรื อความผิดพลาด
มีปัญหาในการพูดคาว่าเสี ยใจ
ไม่อยากรบกวนคนอื่นหรื อไม่อยากเสี ยเวลาเปล่า
~ 11 ~
- 12. บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่
ด้ านดี
หัวหน้ าครอบครัว
“เข้ าควบคุมสถานการณ์ ”
ในบทบาทของการเป็ นพ่อแม่ คนโครงสร้ า งมัง คั่ง มี ท้ ง ประสิ ท ธิ ภาพและการควบคุ ม
ั
่
พอๆ กัน พวกเขาเป็ นพ่อแม่ แบบผูนาและเป็ นคนตัดสิ นใจเรื่ องเป้ าหมายต่ า งๆ พึ่ ง พาตนเอง
้
มากอย่างไม่ น่าเชื่ อ และไม่ย อมให้คุ ณค่าและเป้ าหมายของครอบครั วหายหกตกหล่ นไปเพราะ
ความปล่อยปละหละหลวมหรื อสบายๆ เกินไป สิ่ งสาคัญพวกเขาคือ ลูกๆ ของพวกเขาต้องเติบโต
เป็ นคนที่เห็นคุณค่าของเวลาและทรัพยากร รวมทั้งรู ้และเข้าใจเรื่ องการทางานหนัก
ดังนั้น คนโครงสร้างมังคังจึงเป็ นพ่อแม่ประเภทที่ชอบควบคุมทั้งหมด เมื่อใดก็ตามที่เกิด
่ ่
เรื่ อ งขึ้ น ในครอบครั ว ไม่ ว่ า จะเป็ นเรื่ อ งร้ า ยแรงหรื อ เรื่ องเล็ ก น้ อ ย พวกเขาจะเข้า สู่ ส ภาวะ
“การ-ทา-งาน” และคิดหาทางแก้ไขปั ญหาอย่างรวดเร็ ว พวกเขาไม่ใช่คนประเภทที่เอาแต่นงบีบมือ
ั่
อย่างกระวนกระวายใจ และตั้งคาถามไม่รู้จกจบจักสิ้ นว่า “ทาไมต้องเป็ นฉันด้วย?”
ั
คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะแสดงวิธีทาสิ่ งต่างๆ ให้ลูกเห็ น และแนะแนวพวกเขา
่ ่
ให้มุ่งสู่ การบรรลุ ความสาเร็ จ พวกเขาควบคุมสถานการณ์ และสอนลูกว่าจะทาอย่างไรจึงจะได้ใน
สิ่ งที่ตองการ ในกรณี น้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังเก่งในการเป็ นผูนาโดยทาตัวเป็ นแบบอย่าง
้
้
่ ่
พวกเขาตั้งเป้ าหมายและช่วยลูกให้จดโครงสร้างชีวตเพื่อไปสู่ การประสบความสาเร็ จ
ั
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ตั้งเป้ าหมาย
กาหนดแนวทางสาหรับครอบครัว
นาลูกโดยทาตัวเป็ นแบบอย่าง
ควบคุมสถานการณ์
~ 12 ~
- 13. เป็ นพลังขับเคลือน
่
“ปลูกฝังทัศนคติ ‘ทาได้ ’ ให้ ลูก”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้างมังคังเป็ นนักจูงใจตัวยง พวกเขาส่ งเสริ มลูกให้เพลิดเพลิ น
่ ่
กับการแสวงหาความรู ้และทากิจกรรมอยูเ่ สมอ รวมทั้งสอนลูกว่าในทุกสิ่ งทุกอย่างที่ลูกทาได้ดีน้ น
ั
ยังสามารถทาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้ สิ่ งสาคัญสาหรับคนโครงสร้ างมังคังคือ ลูกๆ ของพวกเขาเกิ ด
่ ่
แรงบันดาลใจและมีแรงจูงใจที่จะทาให้ดียงๆ ขึ้นไป
ิ่
คนโครงสร้างมังคังมักพยายามอย่างหนักที่จะทาเช่นนี้ ดวยการทาตัวเป็ นแบบอย่างพวกเขา
้
่ ่
จูงใจให้ครอบครัวลงมือทาอะไรๆ อยูเ่ สมอ และไม่สนับสนุ นการอยูเ่ ฉยๆ เรื่ อยเปื่ อยไปวันๆ พวก
เขาวางแผนร่ วมกันทาโน่นทานี่ โดยสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วก็จดการกับมันจนมันทางานได้
ั
ถ้ามีคาแนะนาอะไรที่ตองทาตาม หรื อมีอะไรที่ตองทาให้เสร็ จ คนโครงสร้างมังคังจะเป็ นคนแรกที่
้
้
่ ่
ริ เริ่ มลงมือทา
ดังนั้น พวกเขาจึงมักถูกมองว่าเคร่ งครัดเรื่ องระเบียบ หรื อเข้มงวดกับภารกิจและไม่ปล่อย
ให้ เ วลาผ่ า นไปอย่ า งสู ญ เปล่ า รวมทั้ง ไม่ อ ดกลั้น ต่ อ ความหย่อ นยานหรื อ ความเฉื่ อ ยเนื อ ยใน
การพยายามทาให้ครอบครัวของพวกเขามุ่งหน้าไปสู่ ทิศทางที่ถูกต้อง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ปลูกฝังให้ลูกสานึกถึงความเป็ นเลิศ
เจ้าระเบียบ
พยายามจูงใจด้วยการทาตัวเป็ นแบบอย่าง
ผลักดันครอบครัวให้ลงมือทา
~ 13 ~
- 14. จัดระเบียบเก่ง
“ทาให้ แน่ ใจว่ าทุกอย่ างในบ้ านเป็ นไปอย่างราบรื่น”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างมังคังจัดระเบียบเก่งและเคร่ งครัดในวิธีการ พวกเขามีวินย
ั
่ ่
ในการดาเนิ นชี วิต ในขณะเดี ยวกันก็ส่งเสริ มให้ลูกมีสานึ กเรื่ องโครงสร้างของชี วิต พวกเขาให้
่
่
คุณค่าเองการบริ หารเวลาและสานึ กแห่ งความเป็ นระเบียบ ไม่ชอบให้อะไรๆ ยุงเหยิงวุนวาย ไม่มี
่
่
อะไรทาให้พอแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังราคาญมากไปกว่าวันเวลาที่ผานไปเสี ยเปล่าโดยไม่ได้ทา
่ ่
อะไร!
พ่อแม่ที่ เป็ นคนโครงสร้ างมัง คัง ดู แลบ้านเรื อนได้เรี ยบร้ อย และทาตามตารางกิ จกรรม
่ ่
ประจาบ้านอย่างเรี ยบร้ อยด้วยเช่นกัน พวกเขาใส่ ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยความพิถีพิถน
ั
และทาให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรมาขัดกับกิจวัตรของลูกๆ และกิจกรรมประจาวันของที่บาน พวกเขา
้
ยึดมันจริ งจังกับการทาตามตารางกิจกรรมในบ้าน ไม่ชอบความล่าช้าและความเปลี่ยนปุบปั บที่ไม่
่
รู ้ตวล่วงหน้า
ั
่
คนโครงสร้างมังคังยังไม่ชอบอยูในสภาวะที่ตองวุนวายตลอดเวลา ดังนั้นจึงพยายามทาให้
้ ่
่ ่
่
บรรยากาศในบ้านและการใช้ชีวิตของลูกๆ อยูในสภาพที่สะอาดสะอ้านและเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตและใช้ความคิดในสภาพแวดล้อมที่รกรุ งรังหรื อไร้ระเบียบชอบให้ทุก
อย่างดาเนิ นไปอย่างราบรื่ น พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังค่อนข้างจะเป็ นพวกตัวประหลาดที่
่ ่
ชอบความเนี้ยบ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ยึดมันกับวิธีการ
่
วางโครงสร้างชีวตของลูก
ิ
ไม่ชอบปล่อยเวลาเสี ยเปล่า
ชอบสภาพแวดล้อมที่สะอาดและเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
~ 14 ~
- 15. รู้มาก
“มีคาตอบของทุกคาถาม”
ตลอดชี วิตของพ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งมัง คัง พวกเขาต้องการเป็ นฝ่ ายถู ก เสมอและ
่ ่
มี แ นวโน้ ม ที่ จ ะรวบรวมความรู ้ ไ ว้ก ับ ตัว ค่ อ นข้า งมาก ไม่ ว่ า จะเป็ นความรู ้ ที่ ไ ด้จ ากหนัง สื อ
่
หรื อความรู ้ ที่เก็บตกจากท้องถนน คนโครงสร้างมังคังที่ไม่รู้วาจะทาอะไรดีน้ นค่อนข้างหาได้ยาก
ั
่ ่
่
พวกเขามีสมรรถนะสู งและเก่งจัดสรรทรัพยากรรู ้วาจะหาอะไรได้จากไหน ถ้ามีช่องโหว่ที่ตองหา
้
ให้เจอ พนันได้เลยว่าคนโครงสร้างมังคังต้องหาเจอจนได้
่ ่
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ า งมัง คัง สอนลู ก เก่ ง พวกเขาจะสอนลู ก ให้พ่ ึ งตัวเอง โดย
่ ่
ปลูกฝังคุณค่าของการยืนบนลาแข้งตัวเองให้ลูก และสอนลูกให้แสวงหาสิ่ งต่างๆ ในลักษณะที่เป็ น
ประโยชน์และมีประสิ ทธิภาพ
พวกเขายังเก่งในการบริ หารจัดการลูกของตัวเองอีกด้วย เด็กๆ ต้องการความเป็ นผูนาที่
้
เข้มแข็งจากพ่อแม่ นี่ เป็ นสิ่ งที่ดี การมีพ่อแม่ที่มีความรู ้ และมันใจในความรู ้ ของตนจะทาให้ลูกมี
่
โครงสร้างและระเบียบชีวตในระดับที่เหมาะสม
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
รู ้คาตอบของเกือบทุกคาถาม
รู ้มากเป็ นที่สุด
มีความสามารถและเก่งจัดสรรทรัพยากร
ส่ งเสริ มลูกให้เรี ยนรู ้ดวยตนเอง
้
~ 15 ~
- 16. ด้ านไม่ ดี
จอมบงการ
“ไม่ ว่าพ่อแม่ บอกอะไร...ทาซะ”
่
ตอนนี้ เรารู ้แล้วว่าคนโครงสร้างมังคังรักแนวคิดที่วาตัวเองเป็ นฝ่ ายควบคุม การมีพลังและ
่ ่
อานาจทาให้พวกเขามีความสุ ขมาก และพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มา พวกเขาอยากให้ทุกสิ่ ง
สาเร็ จด้วยวิธีของพวกเขา เพราะคิดว่าวีของพวกเขาเป็ นวิธีที่ดีที่สุด!
อย่างไรก็ตาม ในฐานะพ่อแม่ บางครั้งลักษณะเช่นนี้ สามารถให้ผลทางลบได้ พวกเขาอาจ
เป็ นพ่อแม่จอมบงการหรื อจอมครอบงา และเพราะเหตุที่ถือว่าตัวเองเป็ นผูมีอานาจ จึงคาดหวังว่า
้
ทุกคาสังและทุกความต้องการของตนจะได้รับการเชื่อฟัง
่
ภาษิตจีนโบราณที่ ว่า “พ่อแม่กินเกลื อมากกว่าเจ้ากิ นข้าว” (คล้ายๆ กับสานวนไทยที่ ว่า
“พ่อแม่อาบน้ าร้อนมาก่อนลูก” -- ผูแปล) แสดงถึงทัศนะคติต่อลูกของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้าง
้
มังคังได้ดีที่สุด พวกเขาเชื่ อว่าเพราะตนเองทามาแล้วมากกว่าและมีประสบการณ์มากกว่า มุมมอง
่ ่
และการรับรู ้ของพวกเขาจึงเป็ นประโยชน์มากกว่า และควรได้รับการเชื่อฟัง
่ ั
ดังนั้นบางครั้งการอยูกบพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังจึงน่าเหน็ดเหนื่ อย พวกเขาบริ หาร
่ ่
จัดการลูกใน “ระดับรายละเอียด” ด้วยวิธีเดียวกับที่ทากับลูกจ้างในที่ทางาน โดยคอยสอดส่ องลูก
ทุกฝี ก้าว และตะเบ็งเสี ยงสั่งในยามที่เห็นว่าเหมาะสม พวกเขาเห็ นว่าการบงการและสั่งการว่าลูก
ควรกินอะไร และควรแต่งตัวอย่างไรเป็ นสิ่ งที่เหมาะสม
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ครอบงา
เป็ นผูมีอานาจ
้
ออกกฎ
ต้องการการเชื่ อฟัง
~ 16 ~
- 17. ชอบความสมบูรณ์ แบบ
“คาดหวังความไม่ ผดพลาดในทุกขณะ”
ิ
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังห่วงเรื่ องผลลัพธ์สุดท้ายเอามากๆ จึงมักกังวลกับการมีลูกที่
่ ่
สมบูรณ์แบบ ซึ่ งเป็ น “ความสมบูรณ์แบบ” ตามอุดมคติของพวกเขาเอง อันที่จริ งพวกเขาเองนัน
่
แหละที่เป็ นพวกชอบความสมบูรณ์แบบ และคาดหวังสิ่ งที่ดีที่สุดจากทุกสิ่ งทุกอย่าง รวมทั้งลูกๆ
ของตัวเองด้วย ซึ่ งบางครั้งก็อาจมากเกินไปจนมองข้ามความรู้สึกของลูก
ดังนั้นพวกเขาอาจตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินจะทาได้ และเรี ยกร้องจากลูกมากเกินไป เมื่อลูก
แสดงลักษณะบุคลิกภาพในทางลบ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคังก็จะหมกมุ่นกับการเฝ้ าค้นหา
่ ่
ความผิดพลาด พวกเขาคาดหวังสู ง และต้องการแค่ความสมบูรณ์แบบเท่านั้น ซึ่ งเป็ นอุดมคติที่สูง
เกินไป
่ ้
เพราะเหตุน้ ี ลูกๆ ของพวกเขาจึงอาจรู ้สึกถูกกดดันอยูบาง พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างมังคัง
่ ่
มีแนวโน้มที่มุ่งเน้นผลลัพธ์มากเกินไป และให้ความสาคัญน้อยเกิ นไปกีบการเดินทางสู่ เป้ าหมาย
พวกเขาอาจรู ้สึกกลัวหรื อกังวลเรื่ องลูก เพราะความต้องการที่จะดาเนิ นชี วิตตามความคาดหวังที่สูง
เหลือเชื่ออยูเ่ สมอนี้เอง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
ตั้งมาตรฐานไว้สูง
คาดหวังมากเกินไป
อยากให้ลูกสมบูรณ์แบบ
มีแนวคิดที่ไม่เป็ นจริ งเกี่ยวกับสิ่ งที่ยอมรับได้
มุ่งเน้นผลลัพธ์สุดท้ายมากเกินไป
~ 17 ~
- 18. เรียกร้ องทางอารมณ์
“บางครั้งมากเกินไปก็ยงไม่ พอ”
ั
เมื่อแผนภูมิของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ดีหรื อไม่สมดุ ล พวกเขามีแนวโน้มที่
่ ่
จะเป็ นช่ างเรี ยกร้องเอามากๆ ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างมังคังคาดหวังและอยากได้จากลูกมาก
่ ่
เกินไปจนถึงจุดที่น่าอึดอัดอย่างยิง รวมทั้งไม่ค่อยข่มอารมณ์หรื อผ่อนคลาย
่
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ค่อยมีความสามารถที่จะแสดงออกทางอารมณ์ ว่าพวก
่ ่
เขารู ้สึกอย่างไร ดังนั้นจึงแสดงความเป็ นห่วงลูกด้วยการเอาแต่หมกมุ่นกับเป้ าหมายและวิถีชีวิตของ
ลูก ใส่ ใจกับลูกโดยหวังให้ลูกมีความปรารถนาที่จะประสบชัยชนะและความสาเร็ จแบบเดียวกับตน
โดยไม่ตระหนักว่าลูกๆ อาจมุ่งหวังความสาเร็ จในด้านอื่นหรื อในจังหวะก้าวที่แตกต่างออกไป
การไร้ ค วามสามารถที่ จะมองเห็ นว่า ลู ก ๆ แตกต่ า งไปจากตนเองและเป็ นคนละคนกับ
ตนเอง รวมทั้งความเป็ นเจ้าข้าวเจ้า ของซึ่ งเป็ นปกติวิสัย ของพวกเขา ทาให้พวกเขาเป็ นคนช่ า ง
เรี ยกร้องสู ง บางครั้งความกดดันไม่ผ่อนปรนและความมุ่งมันทางอารมณ์ที่มีต่อลูกอาจเป็ นสาเหตุ
่
ทาให้ลูกๆ ของพวกเขาหดหู่และมีความเครี ยดแบบอ่อนๆ ในบางรู ปแบบได้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
แสดงออกทางอารมณ์ได้ไม่ดี
แสดงความเป็ นห่ วงมากเกินไป
คาดหวังสิ่ งตอบแทนมากเกินไป
ไม่แยกแยะว่าลูกแตกต่างจากตนเอง
~ 18 ~
- 19. บ้ างาน
“มีธุระยุ่งวุ่นวายอยู่เสมอ”
อย่างที่พอเดาได้นนแหละ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างมังคังไม่ค่อยรู ้ จกแบ่งเวลาพักผ่อน
ั่
ั
่ ่
่ ่
่
ชีวตพวกเขามีธุระยุงวุนวายยุงเหยิงด้วยการไล่ตามแต่ละเป้ าหมายในรายการเป้ าหมายทั้งหลายแหล่
ิ
ของตน แถมยัง มองว่า การมี เวลาว่า งเป็ นจุ ดอ่ อนเสี ย อี ก นี่ คื อคนประเภทที่ ไ ม่ คุ ้นเคยกับ ค าว่า
“ช่วงพัก”
เมื่อคนโครงสร้างมังคังเป็ นพ่อแม่ ก็มกยุงตัวเป็ นเกลียว เป็ นพวกทาอะไรพร้อมกันทีเดียว
ั ่
่ ่
หลายๆ อย่าง และตื่นเต้นกับการสามารถโผจากเรื่ องหนึ่ งไปทาอีกเรื่ องได้ ทาอะไรๆ พร้ อมกัน
ทีเดียวได้หลายอย่างเหมือนผูเ้ ชี่ยวชาญ แต่ไม่ตระหนักว่าสิ่ งที่ลูกๆ อยากได้คือความใส่ ใจทั้งหมด
จากพ่อแม่ ไม่ใช่แค่เจียดเศษเสี้ ยวเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีมาให้
่ ่
ดังนั้นคนโครงสร้างมังคังจึงมักเป็ นพ่อแม่ประเภทหายตัวไปเพราะมีธุระยุงวุนวายอยูเ่ สมอ
่ ่
จึงอาจพลาดโอกาสที่ จะมีส่วนร่ วมในเหตุ การณ์ ครั้งสาคัญของชี วิตลูก พวกเขาไม่ได้เจตนาที่จะ
ละเลยเช่ น นั้น แต่ ก ารหายตัว ไปนั้น มี ผ ลกระทบในระดับ พื้ น ฐานต่ อชี วิต ลู ก พ่อ แม่ ที่ เ ป็ นคน
โครงสร้ า งมังคัง รั ก ลู ก ๆ ก็จริ ง แต่ ไ ม่ ถนัดที่ จะให้เวลามากๆ กับลู ก พวกเขากลับ ชอบเน้นที่
่ ่
คุณภาพของเวลาที่ให้แทน ทว่าบางครั้งลูกๆ ก็อาจเข้าใจผิดหรื อมองไม่เห็นแง่มุมนี้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
่ ่
มีธุระยุงวุนวายเกินกว่าจะมีเวลาให้ลูก
่
ไปยุงกับหลายๆ เรื่ องมากเกินไป
ั
ไม่ให้เวลาเต็มที่กบลูกๆ
ความคิดมักแซงหน้าไปหาเรื่ องอื่นๆ
ไม่มีช่วงเวลาที่จะว่างได้นานๆ
~ 19 ~
- 20. ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างมังคัง
่ ่
ด้ านสว่ าง
มุ่งมั่น
ไม่มีเรื่ องไหนที่คนอื่นทาได้แล้วคุณทาให้ดีกว่าไม่ได้! คุณเชื่ อในเรื่ องนี้ แบบสุ ดใจขาดดิ้น
ดัง นั้นคุ ณจึ ง สามารถพัฒนาปรั บ ปรุ ง รู ป แบบวิธีท าสิ่ ง ต่ างๆ ที่ มี อยู่แล้วให้ดีข้ ึ น เพื่ อให้
สิ่ งนั้นสาเร็ จลุล่วงอย่างถูกต้องเหมาะสม คุณเชื่ อว่าทุกสิ่ งทุกอย่างจะกลับดีข้ ึนได้ถาทาด้วย
้
วิธีของคุณ โดยเฉพาะถ้าทาทันที
เชื่อมั่น
คุณเชื่ อมันในตัวเองอย่างมหาศาล และไม่ตองการนังเฉยๆ รอใครมาประทับตราให้ความ
้
่
่
เห็ นชอบให้ ถ้าคุ ณเชื่ อตัวเองและคิดว่ากาลังทาสิ่ งที่ ถูกต้อง นันแหละคือความเห็ นชอบ
่
ทั้งหมดที่คุณต้องการ
ตัดสิ นใจเด็ดขาด
คุ ณ ไม่ ใ ช่ ค นลัง เลที่ ช อบถามตัว เองว่ า “ใช่ ?” หรื อ “ไม่ ใ ช่ ?” “เอา ?” หรื อ “ไม่ เ อา ?”
คุ ณตัดสิ นใจเร็ วแล้วคุ ณก็ยึดมันกับมัน คุ ณเข้าใจคุ ณค่าของเวลา เข้าใจอานาจของการ
่
ตัดสิ นใจที่ดีและรวดเร็ ว คุณไม่ค่อยเข้าใจว่าทาไมผูคนจึงดูเหมือนไม่รู้ใจตัวเอง!
้
~ 20 ~
- 21.
เปี่ ยมด้ วยพลวัต
่
คุณเป็ นคนที่ใครๆ ก็รู้วาชอบทาโน่นทานี่ ไม่หยุดมากที่สุดคนหนึ่ ง คุณไม่ใช่ คนประเภท
ที่ เอาแต่นั่ง นิ่ ง ๆ และปล่ อยเวลาผ่านไปวันๆ สิ่ งสาคัญสาหรั บ คุ ณคื อการลงมื อทาและ
ลงไปคลุ กกับมัน ในขณะที่คุณต้องการความสมบูรณ์ แบบ คุ ณก็ไม่กลัวที่ จะตรงเข้าไป
ลุยงานด้วยตัวเอง
มีเหตุผล
คุณไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ตวเองถูกพัดพาไปด้วยพลังของอารมณ์และความอ่อนไหว คุณรู ้
ั
กาละและเทศะสาหรับทุกๆ เรื่ อง และชอบคิดหาเหตุผลของเรื่ องราวต่างๆ โดยไม่ด่วนสรุ ป
คุณไม่ใช่คนประเภทที่ตอบสนองด้วยอารมณ์รุนแรงสุ ดโต่ง
มีวสัยทัศน์
ิ
คุณมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่ งในการเติมเต็มสิ่ งที่คุณต้องการ คุ ณมุ่งมันที่จะบอกคนอื่นให้ทา
่
โน่นทานี่และแนะแนวพวกเขา ถ้าจะมีสักบทบาทหนึ่ งที่ไม่เหมาะกับตัวคุณมันคือการเป็ น
ผูตามที่ ย อมสยบหรื อเฉื่ อยเนื อย คุ ณไม่ ช อบยึดติ ดกับ ทิ ศทางของคนอื่ นในเมื่ อคุ ณรู ้ ว่า
้
ทิศทางของคุณดีกว่าเยอะ
ปรับตัวเก่ง
คุ ณ อดไม่ ไ ด้ที่ จ ะอยากเปลี่ ย นแปลงทุ ก อย่ า งที่ คุ ณ ท า คุ ณ จึ ง พร้ อ มที่ จ ะท าสิ่ ง ทุ ก อย่า ง
เมื่อลูกบอลถูกตีโด่งจากทิศไหนก็ไม่รู้มาทางคุณ คุณก็จะเอื้อมไปคว้ามันไว้ได้อย่างง่ายดาย
คุณมีความยืดหยุ่นสู งและไม่ค่อยต่อต้านแนวคิดที่แตกต่างหรื อไอเดี ยใหม่ๆ อันที่จริ งคุณ
ยินดีตอนรับมันด้วยซ้ า เพราะความจาเจซ้ าซากเป็ นเรื่ องน่าเบื่อย่างยิงสาหรับคุณ
้
่
ชอบแข่ งขัน
เมื่ อใดก็ตามที่ มีใครบอกคุ ณว่าอะไรบางอย่างทาไม่ได้ มันจะทาให้คุณอยู่เฉยไม่ได้ ต้อง
ออกไปข้างนอกและทามันให้เสร็ จไปเลย คุณสนุ กกับความท้ายทายและเพลิดเพลินกับการ
ทาอะไรค้านความเชื่ อที่คิดกันไปเองเพื่อพิสูจน์ว่าคนอื่ นผิด คุ ณเป็ นคนมุ่งเป้ าหมายและ
ทะเยอทะยานมากและจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะบรรลุผลสาเร็ จ
~ 21 ~
- 22. ด้ านมืด
ครอบงา
่
คุณชอบให้สิ่งต่างๆ อยูภายใต้การควบคุม ไม่ค่อยไว้วางใจคนอื่นๆ และความสามารถของ
พวกเขาที่จะทางานให้เสร็ จ เพราะเหตุน้ ี คุณจึงไม่เป็ นที่ชื่นชอบ และอาจทาให้คนอื่นถอย
ห่างโดยไม่ต้ งใจ
ั
จุกจิก
คุ ณกระหายความสมบูรณ์ แบบและอยากให้ทุ กสิ่ งส าเร็ จลงด้วยวิธีของคุ ณ เพราะเหตุ น้ ี
บางครั้ ง คุ ณจึ ง เข้าไปจุ กจิ ก กับคนอื่ นแม้ใ นเรื่ องหยุมหยิมที่ สุ ด คุ ณไม่ ไ ว้ใจว่า คนอื่ นจะ
ทางานให้เสร็ จได้ดีเท่า คุ ณ ดัง นั้นจึ ง รู ้ สึก ว่า ต้องคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลาและเข้าไป
จัดการสิ่ งที่พวกเขาทาเสมอ
หงุดหงิดง่ าย
การทาอะไรไม่รู้จกหยุดของคุ ณมี แนวโน้มที่ จะทาให้เกิ ดสารพัดปั ญหาความเครี ยดทาง
ั
จิตใจและปั ญหาสุ ขภาพปล่อยสบายกับเรื่ องราวต่างๆ สักพัก คุณบีบคั้นตัวเองและคนอื่น
มากเสี ยจนบางครั้งลืมที่จะนังพักและผ่อนคลายเสี ยบ้าง
่
เรียกร้ องจัด
คุ ณ รู ้ ว่า คุ ณ มี แ นวโน้ม ที่ จ ะต าหนิ ห รื อ ดุ ด่ า ว่ า กล่ า วคนที่ ไ ม่ ป ฏิ บ ัติ ต ามมาตรฐานความ
สมบูรณ์ แ บบของคุ ณ จงคิ ดถึ งความรู ้ สึก ของคนอื่ นบ้าง เป็ นครั้ ง คราวก็ย งดี ไม่ ใช่ ว่า
ั
ทุกคนจะเก่งเหมือนคุณในการแยกเยอะอารมณ์จากเหตุผล และความเป็ นมืออาชีพจากชีวิต
ส่ วนตัว คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เรี ยกร้องมากจนเกินไป
~ 22 ~
- 23.
ไม่ อดทน
คุณไม่อดทนเพราะคุ ณอยากได้ผลลัพธ์เร็ วๆ และไม่ชอบที่จะต้องคอยเฝ้ ารอผลแห่ งความ
พยายามของคุณ ประสิ ทธิภาพสาหรับคุณหมายถึงการทาสิ่ งต่างๆ อย่างรวดเร็ ว แต่บางครั้ง
การไม่อดทนก็หมายความว่าคุณไม่สนใจความผิดพลาด ซึ่ งอาจกลับทาให้อะไรๆ ช้าลงใน
ระยะยาวโดยที่คุณไม่ได้ต้ งใจ
ั
โดดเดี่ยว
คุณภาคภูมิใจกับความสามารถที่จะทาอะไรๆ ให้เสร็ จด้วยตัวเอง คุ ณไม่ได้ต้ งใจอย่างนั้น
ั
แต่คนอื่นยากที่จะตามทันคุณ คุณพยายามมอบหมายงานให้คนอื่นทาก็จริ งแต่สุดท้ายมักลง
เอยด้วยการตรากตราทาเอง คุณมักขึ้นไปสู่ จุดสู งสุ ด แต่ที่นนเงียบเหงา เนื่ องจากไม่ค่อยมี
ั่
คนเข้าใจคุณหรื อคุยกับคุณรู ้เรื่ อง
อารมณ์ร้าย
เมื่ ออะไรๆ ไม่เป็ นไปอย่า งที่ คิ ดไว้ คุ ณจะหงุ ดหงิ ดและโมโห อารมณ์ ของคุ ณอาจเป็ น
จุ ดอ่อนอย่างหนึ่ งของคุ ณเช่ นเดี ยวกับความหุ นหันพลันแล่ นของคุ ณ คุ ณอาจพูดหรื อทา
อะไรบ้างอย่างที่ ตองมานึ กเสี ยใจทีหลัง เป็ นไปได้ว่าคุ ณมีแนวโน้มที่จะชอบบังคับ และ
้
ครอบง ามากเกิ นไปและเมื่ อผูคนปฏิ เสธที่ จะท าตามคาสั่ ง คุ ณก็ไ ม่ ส ามารถที่ จะรั บมื อ
้
กับสถานการณ์ได้อย่างสง่างาม
~ 23 ~
- 25. ด้ านดี
รักอิสระ
“แผ้ วถางเส้ นทางของตัวเอง”
คนโครงสร้ างมังคังรักอิสระและเป็ นตัวของตัวเอง จึงไม่ค่อยยอมรับคาสั่งของใคร ถ้าคุ ณ
่ ่
อยากรับคาสั่งจากใครสักคน คุณต้องรู ้จกและไว้ใจว่าคนคนนั้นฉลาดกว่าและมีคุณค่าสาหรับการที่
ั
จะทาตามคาสั่งนั้น คนโครงสร้างมังคังรู ้วาตัวเองอยากได้อะไรและพยายามทุกวิถีทางที่จะคว้ามัน
่ ่ ่
มาให้ได้ ด้วยความเชี่ ย วชาญในงานที่ ทา หากเขาอยากจะได้อะไรสักอย่างจึ งมักไม่ใช่ เรื่ องยาก
คนโครงสร้างมังคังมักเป็ นผูกาหนดจังหวะก้าว ไม่ใช่รอให้คนอื่นเป็ นผูกาหนด
้
้
่ ่
พวกเขามีมาตรฐานที่ สูงมากเกี่ ยวกับวิธีทางานให้เสร็ จ ด้วยเหตุน้ ี จึงทนทางานกับคนโง่
ไม่ ไ ด้และไม่ ต้อ งการตกอยู่ใ นสภาพที่ ต้อ งพึ่ ง พาใครในการท าอะไรๆ ให้เสร็ จ พวกเขาเชื่ อว่า
“วิธีเดียวที่จะทาอะไร ให้เสร็ จคือการลงมือทาเอง” พวกเขามีเจตจานงแรงกล้า และจะไม่ยอมให้
สิ่ งใดมากีดขวางเส้นทางของตน
คุ ณ (คนโครงสร้ า งมั่ง คัง ) ยัง สนุ ก กับ การต่ อ ต้า นและความท้า ทายต่ า งๆ อี ก ด้ว ย จึ ง มี
่
แนวโน้ม ที่ จะท าสิ่ ง ต่ า งๆ ด้ว ยวิธี ของตัวเอง และด้วยเหตุ น้ ี คุ ณจึ ง เป็ นคนมุ่ ง เน้น เป้ าหมายและ
แสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่ทาได้จริ งอยูเ่ สมอ รวมทั้งมักมีแผนการที่ชดเจนว่าดาเนิ นการอย่างไร แล้วก็
ั
อยากจะมุ่งไปตามนั้น
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
เป็ นอิสระ
ไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าต้องทาอะไร
มันใจในตนเอง
่
พึ่งตัวเองและดูแลตัวเองได้
~ 25 ~
- 26. มีประสิทธิภาพ
“เหมือนเครื่องจักร...แต่ แท้ จริงแล้วพวกเขาเป็ นคน”
ในบรรดาโครงสร้ างทุ กประเภท คนโครงสร้ างมังคังเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูคนทั้งหลายที่
้
่ ่
ลงทุนกับแนวคิดเรื่ องประสิ ทธิ ภาพมากที่สุด ไม่มีอะไรทาให้พวกเขาเป็ นบ้าได้มากไปกว่าแนวคิด
่
ที่วาให้นงเฉยๆ และปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ หรื อทาอะไรครึ่ งๆ กลางๆ ซึ่ งไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่
ั่
ปรารถนา คนโครงสร้างมังคังมุ่งเน้นเรื่ องผลลัพธ์มาก รวมทั้งการขยายผลลัพธ์น้ นให้เกิดผลสู งสุ ด
ั
่ ่
และทาให้มนมีผลิตภาพสู งสุ ดเท่าที่จะเป็ นไปได้
ั
ถ้าจะพูดด้วยคาๆ เดี ยว คานั้นก็คือประสิ ทธิ ภาพ คนโครงสร้ างมังคังมีความสามารถใน
่ ่
การใช้ประโยชน์จากเวลา ทรัพยากร และแรงงานด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่เป็ นไปได้ (และเป็ นวิธีที่
ฉลาดที่สุดด้วย) เป็ นคนมีความสามารถและเก่งจัดสรรทรัพยากร
มองเห็นปั ญหาเป็ นความท้าทายเป็ นอีกอุปสรรคที่ตองฝ่ าฟั น เป็ นอีกรั้วที่ตองกระโดดข้าม
้
้
่
พวกเขาจึงไม่รู้สึกยุงยากหรื องุนงงสับสนกับประเด็นหรื อปั ญหาใด การเผชิ ญกับปั ญหาที่ตองแก้ก็
้
เหมือนเอากระดูกไปวางไว้หน้า
เจ้าตูบ เพราะคนโครงสร้ างมังคังก็จะแค่พบว่าตัวเองน้ าลาย
่ ่
สออยากคิดหา “วิธีแก้ปัญหา” ที่ดีที่สุด
พวกเขาหัวเสี ยกับการผลาญเวลา ทรัพย์สินเงิ นทอง ทรัพยากรและแรงงานไปอย่างเปล่า
่
ประโยชน์ เรื่ องแบบนี้ ปล่อยให้คนโครงสร้ างมังคังจัดการก็จะมันใจได้วาพวกเขาจะพลิกก้อนหิ น
่ ่
่
ทุ กก้อนขึ้ นมาสารวจตรวจสอบ ทดสอบด้วยทุ กกรรมวิธี ด้วยความหวังที่ จะค้นพบวิธีบรรลุ ผล
สาเร็ จของผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริ ง
พวกเขารับมือกับประเด็นต่างๆ ด้วยรู ปแบบวิธีคิดที่ ทาได้จริ ง และไม่ปล่อยให้ความคิ ด
ไขว้เขวหรื ออารมณ์ต่างๆ เข้ามาเป็ นอุปสรรคขัดขวาง เพราะเหตุน้ ีพวกเขาจึงเก่งในการแยกเรื่ องงาน
ออกจากชี วิตด้วยเช่ นกัน เป็ นไปได้ว่านี่ เป็ นหนึ่ งในจุ ดแข็งของพวกเขาที่ ช่วยให้พวกเขาทางาน
ต่างๆ ได้อย่างเป็ นระบบและด้วยความละเอียดถี่ถวน
้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
มีความสามารถ
เก่งจัดสรรทรัพยากร
ไม่ชอบผลาญเวลาและแรงงานโดยเปล่าประโยชน์
ไม่ไร้สาระ
ยอมรับความเป็ นจริ ง
~ 26 ~
- 27. เล่นบทนา
“แสดงวิธีแก่คนอืน”
่
คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะสนุ กกับการออกคังและจัดการเรื่ องต่างๆ พวกเขาเป็ น
่ ่
่
นักจัดการที่มีประสิ ทธิภาพ และอยากเป็ นผูแนะนาสั่งการมากกว่าที่จะฟั งคนอื่น หากเขาจะยอมรับ
้
ใครสักคนในฐานผูนา พวกเขาก็จะต้องมีความนับถือในตัวคนคนนั้นเสี ยก่อน
้
พวกเขามีแนวโน้มที่จะก้าวพรวดเข้ามาและรับผิดชอบไปหมดทุกเรื่ อง โดยเฉพาะในยามที่
เห็นว่าคนอื่นเงอะงะหรื อทาอะไรๆ อย่างเชื่ องช้า คนโครงสร้ างมังคังให้คุณค่าแก่ความสาคัญของ
่ ่
เวลาและแทนที่จะรอคอยให้คนอื่นเป็ นคนคุม พวกเขาจะทาหน้าที่สาคัญในการควบคุมเรื อและเป็ น
กัปตันเรื อเสี ยเอง
คนโครงสร้างมังคังเป็ นคนชอบลงมือทา ไม่ใช่คนที่เอาแต่คิดใคร่ ครวญและใช้เวลาหลาย
่ ่
ชัวโมงคิดทบทวนซ้ าไปซ้ ามากับเรื่ องอะไรสักอย่าง พวกเขามันใจมากพอที่จะเสี่ ยงและลงมือใน
่
่
จังหวะที่เหมาะ ไม่มีอะไรที่ทาให้พวกเขาสนุกมากไปกว่าการบอกผูคนให้ทาโน่นทานี่ โดยเฉพาะ
้
ถ้าคนเหล่านั้นไม่รู้ความนัยหรื อหัวช้า
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
เป็ นจ่าฝูง
แสดงวิธี
บอกให้คนอื่นทาโน่นทานี่
ชอบควบคุม
~ 27 ~
- 28. ตัดสินใจเด็ดขาด
“ไม่ มการเงอะงะซุ่มซ่ ามสาหรับคนโครงสร้ างมังคัง”
ี
่ ่
ในขณะที่ ค นอื่ นๆ ในโลกพากันถอนใจและครุ่ นคิ ด พิ นิจพิ จารณาและไตร่ ตรองราพึ ง
ราพันและกัง ขา คนโครงสร้ า งมัง คัง จะอยู่ที่ ก ลางแถวหน้า กล้า ตัดสิ นใจเด็ ดขาด พวกเขาไม่ มี
่ ่
แนวโน้ม ที่ จะหนี เข้าสู่ โลกแห่ ง ความคิ ดฟุ้ งฝั น หรื อเอาแต่ นัง ซึ ม กระทื อเป็ นชั่วโมงๆ เมื่ อต้อง
่
ตัดสิ นใจ คนโครงสร้ างมังคังจะทากับมันเหมือนเป็ นปั ญหาอีกเรื่ องที่ตองแก้ พวกเขาจะลงมือทา
้
่ ่
และตัดสิ นใจ และมี แนวโน้ม ที่ จะท าอย่า งรวดเร็ วด้วย เพราะพวกเขาคิ ดว่าการเอาแต่ ล ังเลไม่
ตัดสิ นใจก็เป็ นแค่การเสี ยเวลาและพลังงานอีกรู ปแบบหนึ่งเท่านั้น
บ่อยครั้ งที่ พวกเขาตัดสิ นใจถูกเพราะรู้ ทางเลื อกทั้งหมดและรู ้ ผลลัพธ์ ที่จะตามมาอยู่แล้ว
เพราะพวกเขาไม่ใช่คนไร้สาระ แต่มีประสบการณ์และมีความเชื่อมันที่จะคิดอย่างแน่วแน่
่
พวกเขาไม่ปล่อยให้ตวเองคิดมากเกินไป เพราะการคิดมากเกินไปอาจนาไปสู่ การไม่ลงมือ
ั
ทา ด้วยความรู้ ที่สามารถทาได้จริ งที่พวกเขามีอยู่ พวกเขาก็เพียงแค่บุกตะลุยไปข้างหน้า แล้วค่อย
คิดเรื่ อง “ถ้าหาก...” ทีหลัง
พวกเขามีวิธีคิดแบบ “ค่อยเป็ นค่อยไปทีละขั้น” ค่อนข้างมาก และไม่มวกังวลกับผลที่จะ
ั
เกิดขึ้นตามมาจากการตัดสิ นใจจนกว่าจะเผชิญกับมัน ดังนั้นจึงไม่ปล่อยให้ความกลัวและความรู ้สึก
ไม่มนคงในจินตนาการมาสกัดกั้น พวกเขามีเจตจานงแรงกล้า และไม่ปล่อยให้ความเห็นหรื อคา
ั่
วิพ ากษ์วิจ ารณ์ ข องคนอื่ น มาท าให้ เกิ ด ความพะวงสงสั ย คนโครงสร้ า งมั่ง คัง ไม่ ค่ อ ยใส่ ใ จกับ
่
ความรู้สึกหรื อความคิดของคนอื่น แต่ใสใจกับผลลัพธ์สุดท้ายมากกว่า วิสัยทัศน์ที่คบแคบแบบนี้
ั
ช่วยพวกเขาได้ดีมากในยามที่จาเป็ นต้องตัดสิ นใจ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
มีความสามารถ
ไม่ละล้าละลัง
ไม่คิดมากจนเกิดไป
ยึดมันกับการลงมือทา
่
มีเจตจานงแรงกล้า
~ 28 ~
- 29. ด้ านไม่ ดี
ชอบควบคุม
“ทาตามทีฉันบอก ไม่ ง้ันก็...”
่
อีกด้านหนึ่ งของแนวโน้มแห่ งความเป็ นผูนาของคนโครงสร้ างมังคังคือ ความโน้มเอียง
้
่ ่
ในทางชอบควบคุ ม คนโครงสร้ างมังคัง ชอบเป็ นคนรั บผิดชอบในฐานะหัวเรื อใหญ่ ในทุกเรื่ อง
่ ่
อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจไม่ได้ถูกเสมอไป และสิ่ งนี้อาจนาไปสู่ ปัญหาได้
ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของพวกเขาคือ เข้าควบคุมทุกสิ่ งทุกอย่างเพราะคนอื่นกีดขวาง
เส้นทางของพวกเขา ที่จริ งแล้วเมื่อลักษณะที่ดีของพวกเขาเริ่ มอ่อนแอลงและกลายเป็ นลักษณะที่ไม่
ดี พวกเขาจะมี ค วามเป็ นผูนาน้อยลง และกลายเป็ นคนเจ้า กี้ เจ้า การที่ รู้ดีไปหมดทุ ก เรื่ อง หรื อที่
้
เลวร้ายกว่านั้นคือเป็ นพวกหัวกบฏที่ชอบสั่งในการควบคุมที่เบ็ดเสร็ จเด็ดขาด
พวกเขามีแนวโน้มที่จะลบล้างคาแนะนาต่างๆ ของคนอื่นๆ ซึ่ งที่จริ งแล้วอาจพิสูจน์ได้ว่า
น่าจะเป็ นประโยชน์หรื อสร้างสรรค์ นอกจากนี้ พวกเขายังไม่มอบหมายงานและอาจแบกรับทุกสิ่ ง
ทุกอย่างไว้เอง ซึ่ งเป็ นสู ตรสาเร็ จแห่งความหายนะ
คนโครงสร้างมังคังทางานกับคนที่เชื่องช้าหรื อคนคิดช้าได้ไม่ดีนก ขาดความอดทนที่จะรอ
ั
่ ่
“รอดูไปก่อน” พวกเขาพบว่าเป็ นเรื่ องยากที่จะร่ วมมือกับคนที่ไม่ยึดมันในแผนการ แน่นอนเว้นแต่
่
คนเหล่านั้นจะมีแผนการที่ดีกว่า
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
อยากเป็ นซูเปอร์ ผจดการ
ู้ ั
ควบคุมวิธีทางานของคนอื่น
มอบหมายงานไม่เป็ น
เป็ นนักนิยมความสมบูรณ์แบบที่สุดโต่ง
~ 29 ~
- 30. ก้าวร้ าว
“ใช้ กลยุทธ์ ระรานในบางครั้ง”
่
ตอนนี้ไม่จาต้องบอกก็ได้วาคนอื่นๆ คิดว่าคนโครงสร้างมังคังก้าวร้าว ซึ่ งอันที่จริ งก็ถูกของ
่ ่
ั ่
เขา เป็ นที่รู้กนดีวาคนโครงสร้างมังคังชอบใช้วธีบงคับด้วยเจตจานงแรงกล้า ในยามที่อะไรๆ เป็ นไป
ิ ั
่ ่
ด้วยดี ก็มกถูกแปลความว่าเป็ นความสามารถในการตัดสิ นใจและสมรรถนะของพวกเขา แต่เวลาที่
ั
อะไรๆ ไม่เป็ นไปอย่างที่ตองการ พวกเขาก็จะก้าวร้าวและหงุดหงิดขึ้นมาทันที
้
วิธีที่เจ้ากี้ เจ้าการบังคับสามารถทาให้ผูคนกลัวจนถอยหนี หรื อขู่ขวัญให้นิ่งเงี ยบสยบยอม
้
แต่ก็ด้วยความชิ งชัง คนโครงสร้ างมังคังอาจแปลกแยกกับคนอื่ นเพราะพวกเขาไม่เห็ นประโยชน์
่ ่
หรื อความคุมค่าใดในการแก้ไขปั ญหาเดียวเป็ นเวลายาวนาน และความซ้ าซากจาเจใดๆ ที่ไม่มีการ
้
พัฒนาไปในทางที่ดีข้ ึนก็ทาให้พวกเขาจะเป็ นบ้าตาย
นอกจากนั้นแนวโน้มความเป็ นคนก้าวร้าวของคนโครงสร้างมังคังยังกีดกันให้เขาหรื อเธอ
่ ่
อยู่นอกวงของสิ่ ง ที่ ก าลังเกิ ดขึ้ นอย่างแท้จริ ง ผูคนจะไม่ เข้ามาหาเพื่อบอกปั ญหา สิ่ งที่ อาจเป็ น
้
อุปสรรค ประเด็นต่างๆ ซึ่ งขยายไปถึงข้อมูลข่าวสาร การใช้วิธีบงคับและหยาบกระด้างกับคนอื่น
ั
ทาให้ผคนเหิ นห่ างและทาให้เกิดสุ ญญากาศแห่ งความรู ้ ข้ ึนรอบตัวพวกเขา โดยที่ ความรู้ น้ ี มีแต่คน
ู้
อื่นเท่านั้นที่สามารถให้ได้
พฤติกรรมของพวกเขาอาจทาให้คนอื่นรู้สึก อึดอัดคับข้อง พวกเขาอาจแปลกแยกหรื อผลัก
ั
ไสคนอื่น เพราะเหตุที่กงวลเรื่ องตรรกะของสิ่ งต่างๆ มากเกินไป
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
เจ้ากี้เจ้าการและชอบบังคับเอามากๆ
อาจเป็ นคน “แข็ง” มาก
แปลกแยกกับคนอื่นเพราะชอบต่อสู ้เอาชนะ
ต่อต้านคนอื่น
~ 30 ~
- 31. หุนหันพลันแล่น
“ไม่ อดทนต่ อข้ อผิดพลาด”
คนโครงสร้างมังคังไม่ชอบที่ถูกทาให้ตองรอ และลักษณะแบบนี้เป็ นตัวอย่างของแผนภูมิที่
้
่ ่
เป็ นลบสุ ดโต่งหรื อแผนภูมิที่ไม่ดีของคนโครงสร้างมังคัง นี่คือคนประเภทที่จะขอให้คนอื่นทางาน
่ ่
ให้ทนที เป็ นคนประเภท “อยากให้มนเสร็ จตั้งแต่เมื่อวาน” ดังนั้นความอดทนจึงไม่ใช่ จุดแข็งของ
ั
ั
พวกเขา พวกเขาห่วงเรื่ องผลลัพธ์เป็ นหลักและต้องได้ผลลัพธ์เร็ วๆ ด้วย
พวกเขาจึ ง มี แ นวโน้ม ที่ จะเป็ นคนหุ นหันพลันแล่ น และจะรี บ รุ ด เข้า หาสิ่ ง ต่ า งๆ อย่า ง
บ้าระห่ าและรี บร้ อน ซึ่ งนาไปสู่ โอกาสที่จะทาผิดพลาดในรู ปแบบต่างๆ เพราะความสะเพร่ าหรื อ
การมองข้า มไป ซึ่ ง เมื่ อผสมผสานกับความเชื่ อมันที่ เ กื อบจะเป็ นความยโสของพวกเขาแล้ว ยิ่ง
่
ทาให้พวกเขารู ้สึกว่าตนเองอยูเ่ หนือการตรวจสอบหรื อการแก้ไขในทุกกรณี
เนื่องจากคนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่จะวัดคุณค่าของทุกสิ่ งด้วยผลลัพธ์ จึงทุ่มเทความ
่ ่
สนใจทั้งหมดไปที่ผลลัพธ์โดยไม่คานึ งถึ งสิ่ งอื่นใดทั้งสิ้ น ในขณะที่คนอื่นอาจใช้เวลามากกว่าใน
การบรรลุผลสาเร็ จบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ งประสบการณ์การเรี ยนรู ้ที่ดีที่สุดนั้น คนโครงสร้างมังคัง
่ ่
มัก ยุ่ง วุ่นวายอยู่ก ับ ความเสี ย หายของคุ ณภาพที่ แท้จริ ง ของงานหรื อผลลัพ ธ์ ข องตน พวกเขาไม่
สามารถรอคอยได้ และจะร้อนใจและโมโหมาก เมื่ออะไรๆ ไม่เป็ นไปตามแผนหรื อกรอบเวลาของ
พวกเขา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
รี บร้ อนและรี บเร่ ง
วัดผลลัพธ์เชิงปริ มาณ ไม่ใช่คุณภาพ
การลงมือทาที่รวดเร็ วเท่านั้นที่เป็ นการลงมือทา
ขาดเครื่ องวัดและความชัดเจน
หุ นหันพลันแล่นและไม่รอบคอบ
~ 31 ~
- 32. ชอบตัดสินคนอืน
่
“ช่ างวิพากษ์ วจารณ์ คนอืนเป็ นทีสุด”
ิ
่
่
ในบรรดาโครงสร้างทุกประเภท คนโครงสร้างมังคังมีแนวโน้มที่ชอบตัดสิ นมากที่สุดเวลา
่ ่
ใครทาอะไรไม่ได้ตามมาตรฐานของพวกเขาก็มกจะเก็บเอามาเป็ นอารมณ์ นอกจากนั้นยังทนความ
ั
โง่ของคนอื่นไม่ได้ และดังนั้นทุกคนจึงดูเป็ นคนโง่ไปหมด เพราะไม่สามารถเข้าใจอะไรๆ ได้เร็ ว
เท่ า พวกเขา พวกเขาไม่ ช อบการสอนซ้ า ๆ ซากๆ และการสั่ ง ซ้ า แล้วซ้ า อี ก ไม่ ช อบตอบปั ญหา
เดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นจึงช่างวิพากษ์วจารณ์และดูถูกคนที่พวกเขาคิดว่าด้อยกว่า
ิ
เป็ นการยากที่จะทางานกับคนรู ้มากที่ชอบตัดสิ นคนอื่น โดยเฉพาะเป็ นคนที่มีมาตรฐานที่
ไม่สมเหตุสมผล ยิงกว่านั้นการเป็ นคนชอบตัดสิ นและชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเป็ นที่สุดนี้ ยงส่ งผล
ั
่
กระทบต่อขวัญและกาลังใจในที่ทางาน รวมทั้งกัดกร่ อนความไว้วางใจและบรรยากาศการทางาน
เป็ นทีมด้วย เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้างมังคังที่แสดงลักษณะของแนวโน้มเหล่านี้ มากสุ ดโต่งจึงอาจ
่ ่
ทาให้เกิ ดบรรยากาศที่ตึงเครี ยดและน่ าอึดอัดอย่างมาก และมีแนวโน้มที่คนอื่ นจะเกลี ยดขี้หน้าได้
มาก
การเป็ นคนชอบตัดสิ นคนอื่นมากเกินไปยังขวางกั้นพวกเขาจากการเปิ ดใจรับฟังคาแนะนา
และพิจารณาวิธีแก้ไขปั ญหาที่คนอื่ นเสนอแนะด้วย ถึ งแม้พวกเขาจะมีความสามารถ ทว่าก็ไม่ได้
เชี่ยวชาญไปหมดทุกด้าน ดังนั้นการช่างวิพากษ์วิจารณ์หรื อเรี ยกร้ องมากเกินไปจึงกีดขวางพวกเขา
ไม่ให้เปิ ดกว้างและรับแนวคิดซึ่ งนาเสนอโดยคนในทีมหรื อผูใต้บงคับบัญชาของพวกเขาเอง สิ่ งนี้ ยง
้ ั
ั
ส่ งผลกระทบต่อคุณภาพของงานและผลผลิตของพวกเขาในระยะยาวอีกด้วย
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
เยาะเย้ยถากถางความคิดของคนอื่น
ทนความโง่ของคนอื่นไม่ได้
ไม่ชอบสอนซ้ าซาก
อาจคอย “ตรวจจับ” คนที่ทางานไม่ได้มาตรฐาน
~ 32 ~