SlideShare a Scribd company logo
1 of 42
Download to read offline
นักสนับสนุน
(โครงสร้ างอิทธิพล)
เข้ าใจความรู้ สึกของคนอืน
่
จงรักภักดี ทาตัวตามสบาย
เผิงโหย่ ว
บุคลิกภาพ
บทนา
นักสนับสนุน (โครงสร้ างอิทธิพล)
เราอาจกล่าวถึ งคนโครงสร้ างอิทธิ พลได้อย่างดี ที่สุดว่าเป็ นนักสนับสนุ น พวกเขาเกื้ อกูล
ผูคน คุ ณค่า หลักการ หรื อนโยบายต่างๆ ด้วยชั้นเชิ งแบบนักการทูตและการทาตัวตามสบายอย่าง
้
เป็ นธรรมชาติ เราอาจกล่าวถึ งพวกเขาได้อย่างดี ที่สุดว่าพวกเขาเป็ น “คนดี ” ของที่ทางานทุ กแห่ ง
หรื อของทุกกลุ่ม พวกเขาเป็ นมิตรและกระตือรื อร้นที่จะเอาใจ น่ าคบและไม่รุกรานใครเสมอ พวก
เขาทางานได้ดีในสถานการณ์ที่ ราบรื่ นและมีเสถียรภาพ มุ่งมันที่จะลดความขัดแย้งกับคนอื่นให้อยู่
่
ในระดับที่นอยที่สุด และให้แน่ใจว่าทุกคนเข้ากันได้ดี
้
คนโครงสร้างอิทธิ พลเก่งในการทาตามแผนที่มีรายละเอียดและโครงสร้าง ถ้าให้โครงการที่
เหมาะสม พวกเขาจะส่ งมอบผลงาน (มักเป็ นผลงานที่ยอดเยี่ยม) ให้ พวกเขายังเป็ นคนกลางในอุดม
คติ ของคนที่ ขดแย้งกันอี กด้วย ไม่ว่าจะเป็ นเพื่อนๆ ครอบครั ว หรื อเพื่อนร่ วมงาน พวกเขาจะไม่
ั
่
เหยียบหัวใครเพื่อก้าวขึ้นไปอยูจุดสู ง แต่จะทุ่มเทพยายามทางานอย่างสงบสุ ข ร่ วมกับคนอื่นเพื่อให้
งานเสร็ จ และไม่สนใจที่จะเป็ นคู่แข่ง เรื่ องหลักที่ พวกเขาให้ความสาคัญคื อ ความใส่ ใจและการ
ปกป้ องความรู้สึกของคนอื่น พวกเขาเป็ นนักประสานความร่ วมมือในอุดมคติ ไม่เสแสร้งและสงบ
เสงี่ยม
อย่างไรก็ตาม ในด้านที่ไม่ค่อยดีน้ น คนโครงสร้ างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะขาดความริ เริ่ ม
ั
และแรงขับเคลื่อน คอยคาสั่งก่อนที่จะลงมือทาอะไร เก่งในการทางานให้สาเร็ จตามแผน ไม่ชอบ
การเปลี่ยนแปลงหรื อการแก้ไขในนาทีสุดท้าย พวกเขาไม่ชอบตาแหน่งที่มีอานาจและการเป็ นผูนาที่
้
ต้องทาการตัดสิ นใจ และการตัดสิ นใจทาให้พวกเขาอึดอัดเพราะอาจต้องล่วงเกินคนอื่น
ด้ านดี
อารมณ์ เย็น
“ผ่ อนคลายและทาตัวสบายๆ”

คนโครงสร้างอิทธิ พลเป็ นคนที่เข้ากับใครๆ ได้ง่ายมาก มีแนวโน้มที่จะมีเพื่อนมากเพราะมี
ธรรมชาติที่ไม่ล่วงเกินระรานใครเป็ นปกติวสัย ทั้งยังเป็ นคนน่าคบและจิตใจดีเพราะใส่ ใจความรู ้สึก
ิ
ของคนอื่น และระมัดระวังที่จะไม่ทาร้ายความรู ้สึกของคนเหล่านั้น
ธรรมชาติที่ไม่สุดโต่งของคนโครงสร้างอิทธิ พลหมายความว่าพวกเขาเดินทางสายกลางได้
ดีที่สุด พวกเขาเป็ นกลางโดยธรรมชาติ และมุ่งไปสู่ ความไม่สุดโต่งเสมอ พวกเขาเพลิดเพลินกับการ
เฝ้ ามองผูคน และพบว่าการเรี ยนรู ้ พฤติกรรมและบุคลิ กภาพที่แปลกๆ ของผูคนเป็ นสิ่ งที่น่าสนใจ
้
้
ดังนั้นใครๆ จึงมักชอบมาคลุกคลีหอมล้อม
้
คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่สร้างเงื่อนไขไร้สาระกับเพื่อนๆ ไม่เหมือนคนโครงสร้างอื่น บาง
โครงสร้ างที่ตองการความใส่ ใจและชอบเป็ นจุดสนใจเสมอ คนโครงสร้ างอิทธิ พลพอใจกับการได้
้
อยู่ขางหลัง เฝ้ ามองเพื่อนๆ ทอประกายสุ กใส ด้วยเหตุ น้ ี มิตรภาพของพวกเขากับคนอื่ นๆ จึ งมัก
้
ปราศจากความชิงชังเคลือบแฝง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่ล่วงเกินระรานใคร
 ไม่สุดโต่ง
 น่าคบและเป็ นมิตร
 ไม่เรี ยกร้ อง
นักฟังที่ดี
“ใส่ ใจรับฟังปัญหาของเพือน”
่
เพื่อนที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลเป็ นนักฟั งที่ดีมาก พวกเขากังวลสนใจอยากรู ้ เสมอว่า
จริ งๆ แล้วเพื่อนๆ คิดอย่างไร จึงมักถามไถ่เรื่ องราวของเพื่อนด้วยความระมัดระวัง ที่สาคัญกว่านั้น
คือพวกเขายังอยากรู้คาตอบด้วย พวกเขาไม่เหมือนคนโครงสร้ างอื่นบางโครงสร้ างที่พอฟั งไปได้
สักพักก็ หันไปสนใจเรื่ องของตัวเอง แต่ พวกเขาอยากรู ้ อยากเห็ นอย่า งแท้จริ ง นัก ฟั ง ที่ ตื่นตัวซึ่ ง
ซึ มซับทุ กอย่างที่ เพื่อนพูด โดยหวังว่าจะสามารถทาให้เพื่อนบอกเล่ าเรื่ องทุ กข์ร้อนที่ ล้ าลึ กที่ สุ ด
ให้ฟังได้
ดังนั้นเพื่อนที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงเป็ นบุคคลในอุดมคติที่ใครๆ จะหันไปหาพร้อม
การระบายความทุกข์ทุ กเรื่ อง พวกเขาอดทนอย่างยิ่ง และจะไม่ ตดสิ นคนที่ อยากคร่ าครวญหรื อ
ั
ระบายความทุ ก ข์ พวกเขาเข้า ใจความต้อ งการของเพื่ อ นที่ จ ะหาทางระบายอารมณ์ ที่ ปลอดภัย
จึงทาให้พวกเขาเป็ นนักฟั งที่ดี เพราะพวกเขาไม่ขดจังหวะหรื อเอาแต่แสดงความเห็นที่ไม่ได้เรื่ อง
ั
ของตัวเองตลอดเวลา
นอกจากนั้นคนโครงสร้างอิทธิ พลยังไม่อยากอยู่ใต้แสงไฟเวที หรื อไม่อยากเป็ นจุดสนใจ
พวกเขาพอใจกับการอยู่เบื้องหลัง และไม่ช่วงชิ งความโดดเด่นเป็ นจุดสนใจกับเพื่อนๆ ยกเว้นถ้า
เพื่อนๆ อยากให้พวกเขารับฟั ง นันแหละเป็ นสิ่ งที่พวกเขาจะทา พวกเขาไม่เหมื อนคนโครงสร้าง
่
ผลผลิตที่ฟังได้แค่สักสองสามนาทีก็เบื่อ รวมทั้งนึ กค้นอยากเล่าเรื่ องของตัวเองแทน แถมยังอยาก
เป็ นจุดสนใจอีก
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ใส่ ใจและอยากรู ้อยากเห็น
 ไม่แทรกแซง
 มีพ้ืนที่ให้เพื่อนได้แสดงออก
 ไม่ตดสิ นหรื อขัดจังหวะ
ั
รวยอารมณ์ ขน
ั
“ทาให้ คนอืนพอใจด้ วยมุกตลกอารมณ์ ขน”
่
ั

ภายนอกของคนโครงสร้ างอิ ทธิ พลมักดูสงบนิ่ งและอารมณ์ ราบเรี ยบ คนส่ วนใหญ่นึกว่า
พวกเขาเป็ นคนที่อ่อนหวานนุ่มนวลมาก และยิงรู ้สึกแบบนั้นมากขึ้นไปอีกจากการที่พวกเขาไม่ชอบ
่
ระรานใคร และให้คุณค่าเรื่ องความสุ ภาพและมารยาท อย่างไรก็ตาม สิ่ งที่พวกเขาซ่ อนเร้นไว้มิดชิ ด
คืออารมณ์ขนหลักแหลมที่ทาให้แสบๆ คันๆ เมื่อมันปรากฏละก็ ระวังให้ดี ลักษณะนี้ มกเห็นได้ชด
ั
ั
ั
่ ั
ขึ้นเมื่อพวกเขารู ้สึกสบายใจเวลาอยูกบใครและเริ่ มเชื่อใจคนเหล่านั้น
คนโครงสร้างอิทธิ พลเข้ากับผูคนได้ดีเพราะอารมณ์ขน พวกเขามักเฝ้ าสังเกตและเฝ้ ามอง
้
ั
ั
และเกิ ดอารมณ์ขนได้กบทุกสิ่ งที่เห็ นและรับรู ้ อันที่จริ งไม่มีอะไรที่พวกเขาเพลิดเพลินมากไปกว่า
ั
การได้หวเราะเต็มเสี ยงกับเพื่อนๆ
ั
คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลสุ ภาพมากพอที่จะรู ้ ว่าจะหัวเราะตัวเองเมื่อไรในยามที่สถานการณ์
แบบนั้นมาถึง บางคนชอบทาตลกเสี ยดสี ตวเองเสี ยจนทาให้การหัวเราะตัวเองเป็ นการใช้เวลาว่างที่
ั
โปรดปรานที่สุ ด อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ไ ด้ท าแบบอึก ทึก ครึ กโครมหรื อตลกโปกฮาแบบคน
โครงสร้ างผลผลิต อารมณ์ ขนของพวกเขาซ่ อนความรู ้ สึกมากกว่าและหลักแหลมกว่า ต้องอาศัย
ั
ความคิดลึกซึ้ งสักหน่อยจึงจะเข้าใจได้

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ซ่ อนความหลักแหลมไว้เงียบๆ
 อารมณ์ขนที่แสบๆ คันๆ
ั
 มีความสามารถที่จะหัวเราะทุกสิ่ งทุกอย่าง
 ชอบทาตลกเสี ยดสี ตวเอง
ั
กรุณา
“มักคานึงว่ าคนอืนรู้ สึกอย่ างไร”
่

ั
คนโครงสร้ างอิทธิ พลนั้นเป็ นที่รู้กนดี ว่ามีความกรุ ณาอย่างยิ่ง เพราะความสามารถในการ
เข้าใจความรู้สึกของผูอื่นเป็ นลักษณะอย่างหนึ่ งที่พวกเขามีเป็ นปกติวิสัยในการเข้าใจความต้องการ
้
และเรื่ องเดือดร้อนของเพื่อน สามารถคิดและรู้สึก ราวกับเป็ นคนเหล่านั้นเสี ยเอง ซึ่ งทาให้พวกเขา
่
เข้าใจได้วาเพื่อนกาลังทุกข์ร้อนกับเรื่ องอะไรอยู่ พวกเขาแสวงหาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด อบอุ่นและ
ยังยืน
่
่
คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่มีวนละเลยที่จะถามไถ่ความเป็ นอยูของเพื่อนๆ ไม่มีวนเป็ นคนที่
ั
ั
สนใจแต่ “ฉัน ฉัน ฉัน” พวกเขารู ้สึกว่าควรพูดถึงปั ญหาของตัวเองก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าเพื่อนๆ ไม่มี
ปั ญหาเดือดร้อนใดๆ พวกเขาเผือแผ่ตวเองสู่ คนอื่น เพราะอยากทาให้คนอื่นๆ พอใจและมีความสุ ข
่
ั
ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้ างอิทธิ พลจึงได้ใจเพื่อนมากมาย และมักมีเพื่อนที่ภกดีและเสี ยสละ
ั
่
เพื่อนๆ ส่ วนใหญ่รู้วาความเป็ นห่ วงใยของพวกเขาไม่มีวนมาจากความเห็นแก่ตวหรื อความต้องการ
ั
ั
ทางวัตถุ อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจแกล้งยอมแม้จะไม่ได้ต้ งใจยอม ก็เพียงเพราะว่าอ่อนไหวต่อ
ั
ความรู ้สึกของคนอื่น พยายามที่จะไม่ทาร้ายคนอื่นถ้ารู ้ และเท่าที่จะทาได้อีกด้วย

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 จริ งใจและใจดี
 ถามไถ่ทุกข์สุขของเพื่อน
 เข้าใจความรู ้สึกของผูอื่น
้
 ไม่ได้ทาด้วยความเห็ นแก่ตว
ั
ด้ านไม่ ดี
ไม่ ยดหยุ่น
ื
“ต่ อต้ านการเปลียนแปลง”
่
่
โดยรวมแล้วอาจกล่าวได้วาคนโครงสร้างอิทธิ พลค่อนข้างต่อต้านการเปลี่ยนแปลงและการ
เปลี่ ยนแปลงขนานใหญ่ พวกเขาชอบชี วิตที่ เป็ นกิ จวัตรและเสถี ยรภาพของคน จะรู ้ สึกดี กว่าเมื่ อ
อะไรๆ ดาเนินไปตามจังหวะก้าวและในทิศทางที่พวกเขารู ้สึกสบายใจ พวกเขาไม่ชอบก้าวออกจาก
อาณาเขตแห่งความสบายใจของตน ปกติแล้วพวกเขาไม่ใช่นกเสี่ ยง เพราะมันทาลายความรู้สึกสงบ
ั
สุ ขของพวกเขา
ด้วยธรรมชาติน้ ี บางครั้งคนโครงสร้ างอิทธิ พลจึ งบันทอนจิตใจของเพื่อนได้ เพราะชอบ
่
กิ จ กรรมที่ อ ยู่ บ นพื้ น ฐานกิ จ วัต รประจ าของตนเองมากกว่ า การต่ อ ต้า นสิ่ ง ใหม่ ข องพวกเขา
หมายความว่าพวกเขาชอบไปกิ น ดื่ ม และเที่ยวในที่เดิ มๆ ทั้งยังไม่ตื่นเต้นสนใจกิ จกรรมต่างๆ ที่มี
ความหลากหลายด้วย เป็ นคนประเภทชอบปลอดภัยไว้ก่อน
คนโครงสร้ างอิทธิ พลชอบทาสิ่ งเดี ยวกันซ้ าแล้วซ้ าอีก ไม่ตองสงสัยเลยว่าเพื่อนๆ บางคน
้
่ ้
อาจรู้สึกว่าสิ่ งที่พวกเขาชอบนั้นน่ าเบื่ออยูบาง จะยังมีความสดใหม่น่าตื่นเต้นอะไรสาหรับคนที่คุณ
รู ้อยู่แล้วว่าอยากได้อะไรและกาลังจะทาอะไร การที่พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมออกจากสภาพที่เคยชิ น
นั้นทาให้เพื่อนๆ อึดอัดใจได้มาก
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ต่อต้านความเปลี่ยนแปลง
่
 อยูแต่ในอาณาเขตแห่งความสบายใจของตัวเอง
 ชอบทาตามกิจกวัตร
 อาจนาไปสู่ การใช้ชีวิตที่ซ้ าซากจาเจ
เฉยเมย
“หลีกเลียงการกระตือรือร้ นเกินไป”
่
บางครั้งทั้งหมดที่มิตรภาพต้องการคือ ความตื่นเต้นและพลังงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างไรก็ตาม
อย่าหวังว่าคนโครงสร้ างอิทธิ พลจะมี สิ่งนี้ ให้แก่เพื่อนๆ อย่างที่บอกไปแล้วแต่ตนว่าพวกเขาชอบ
้
สารวจเส้ นทางที่ รู้จก ดี อยู่แล้วมากกว่า และไม่ ย อมทดลองทาอะไรใหม่ ๆ รวมทั้งยัง สามารถท า
ั
เฉยเมยอย่างดื้อรั้นด้วย
ด้วยเหตุน้ ีคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงอาจลดทอนความกระตือรื อร้นต่อกิจกรรมหรื อโครงการ
ใดๆ ก็ตามที่ เพื่อนของพวกเขาเกี่ ยวข้องด้วย พวกเขามี แนวโน้มเป็ นคนเงี ยบขรึ ม ที่ ไม่อยากร่ วม
กิจกรรมสนุกๆ ในงานปาร์ ต้ ี เมื่อมีใครบางคนคิดทาอะไรบางอย่าง และพวกเขาไม่ชอบ พนันได้เลย
ว่าพวกเขาจะปฏิเสธไม่ยอมมีส่วนร่ วมด้วยเพราะไม่นึกสนุก
แทนที่คนโครงสร้างอิทธิ พลจะบอกผูคนว่าพวกเขาจะไม่ทาอะไรและไม่ชอบอะไร พวก
้
เขาอาจใช้วธีนิ่งเสี ยแต่แรกเพื่อหลีกเลี่ยงการกวนโทสะคนอื่น แต่เมื่อสิ่ งเหล่านั้นดาเนิ นไป พวกเขา
ิ
จะปลีกตัวออกไปนังข้างนอกและไม่เข้าไปมีส่วนร่ วม ซึ่ งก็เท่ากับเป็ นการทาลายบรรยากาศของคน
่
อื่น
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ลดทอนความกระตือรื อร้น
 ทาให้หมดสนุก
 งดเว้นจากการเข้าไปมีส่วนร่ วม
 ขาดความตื่นเต้น
ช่ างเหน็บแนม
“มีวาจาแหลมคม”
ในแผนภูมิปาจื่อที่ ไม่ดีหรื อสุ ดโต่งมากๆ นั้น คนโครงสร้ างอิทธิ พลมักมีวาจาที่แหลมคม
มาก มีแนวโน้มที่จะใช้การเหน็บแนมผูคนเป็ นเครื่ องมือปกป้ องตัวเอง ด้วยเหตุน้ ี บางครั้งอารมณ์ขน
้
ั
ของพวกเขาจึงหวนกลับมาทาให้ตวเองหงุ ดหงิ ดขึ้นไปอีก การกระเซ้าเล่นสนุ กๆ ในตอนแรกอาจ
ั
กลายเป็ นการโจมตีหรื อ ใส่ ร้ายเพื่อนได้อย่างรวดเร็ ว ในขณะที่พวกเขาพยายามทาที ว่าเหน็บแนม
ของพวกเขานั้นเป็ นอารมณ์ขน แต่มนก็อาจทาร้ายคนอื่นอยูเ่ รื่ อยๆ
ั
ั
เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลใช้ไหวพริ บปฏิ ภาณมาก บางครั้งจึงยุ่งยากใจที่จะบอกคนอื่น
ให้แยกแยะเรื่ องตลกที่หลักแหลมออกจากการเหน็บแนมให้เจ็บใจ การเหน็บแนมไม่ใช่สิ่งเลวร้ าย
แต่เมื่อประกอบกับความชิงชังที่ถูกเก็บงาไว้ของพวกเขา มันก็สามารถกลายเป็ นอาวุธที่ทรงพลังได้
คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่มีธรรมชาติที่ชอบทาร้ายคนอื่น แต่เมื่อตกเป็ นฝ่ ายรับ หรื อรู ้สึกว่า
ถูกต้อนเข้ามุม ธรรมชาติของความช่างถากถางเหน็บแนมก็จะเข้าครอบงา บางครั้งพวกเขาอาจทาให้
เรื่ องตลกที่ไร้พิษภัยและไม่ล่วงเกินใครในตอนต้นกลายเป็ นเรื่ องบานปลายได้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เย้ยหยัน
 เยาะเย้ยและถากถาง
 บางครั้งมีอารมณ์ขนที่ใจร้าย
ั
 ทาให้เพื่อนรู ้สึกแย่ดวยการกระเช้าเย้าแหย่
้
ชอบตัดสิน
“ต้ องทาวิธีนี”
้
คนโครงสร้างอิทธิ พลมีหลักความประพฤติและการปฏิ บติที่ค่อนข้างเคร่ งครัดอยู่ชุดหนึ่ ง
ั
หรื อยึดถื อหลักการและคุ ณค่า ทางศี ลธรรมต่างๆ ปกติ แล้วพวกเขาเป็ นคนซื่ อตรงที่ ให้คุ ณค่าแก่
กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ และมักยึดมันในกฎหมายและกฎเกณฑ์เหล่านั้น โดยถื อว่าอารยธรรม
่
สร้างขึ้นบนกฎหมายที่ได้รับการเห็นชอบจากสังคม
แต่บางครั้ งคนโครงสร้ างอิทธิ พลก็อาจบังคับใช้คุณค่าและหลักการต่างๆ ของตนกับคน
อื่นๆ ถ้าคนอื่นไม่ทาตาม พวกเขาก็จะวิพากษ์วิจารณ์ พวกเขาชอบให้คนอื่นมองโลกในแบบที่พวก
เขามองมากกว่า พวกเขาเชิดชูกฎหมายและมีปฏิกิริยารุ นแรงต่อผูคนหรื อเหตุการณ์ที่ต่อต้านมัน
้
ส่ วนใหญ่เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลให้คุณค่าแก่เพื่อนๆ ดังนั้นจึงมักเชิดชูคนเหล่านั้นขึ้น
สู่ มาตรฐานที่อาจสู งส่ งเกินจริ ง แต่หากเมื่อไรที่เลิกปลื้ มเพื่อนแล้ว ก็จะเหมือนที่ทากับคนอื่นๆ คือ
พวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อนในด้านลบรุ นแรงยิ่งกว่าปกติ สาหรับพวกเขาแล้ว มิตรภาพและ
ความสัมพันธ์ ไม่อยู่เหนื อกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ พวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ ตวเองอย่างหนัก
ั
ถ้าไม่ทาตามกฎเกณฑ์และก็จะตัดสิ นคนอื่นบนพื้นฐานของบรรดากฎเกณฑ์ที่กาหนดไว้น้ ีเช่นกัน
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ช่างวิพากษ์วจารณ์
ิ
 กาหนดมาตรฐานทางศีลธรรมเอาไว้สูง
 คาดหวังคนอื่นให้ยดมันกับมาตรฐานต่างๆ ของตัวเอง
ึ ่
 ด่วนตัดสิ นคนอื่น
บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่
ด้ านดี
เอาใจใส่
“ยอมรับด้ านดีและด้ านไม่ ดี”
คนโครงสร้างอิทธิ พลเป็ นพ่อแม่ที่ดีมาก เพราะพวกเขาเอาใจใส่ ชีวิตของลูกๆ มากพยายาม
อย่า งหนัก ที่ จะเจี ย ดเวลาให้ลู ก และท าให้แน่ ใ จว่า มี เวลาให้ลู ก มากที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะท าได้ มี ค วาม
รับผิดชอบในความเป็ นพ่อแม่ และเข้าใจเต็มเปี่ ยมว่าตนเองเป็ นพ่อแม่ตลอดช่วงเวลาที่ยาวนาน
ด้วยเหตุ น้ ี พ่อแม่ ที่เป็ นโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลจึ งมัก รู ้ ว่า ลู ก ๆ อยู่ที่ไ หนเมื่ อไร หรื อรู ้ ว่า ลู ก ๆ
่
ชอบหรื อไม่ชอบอะไร รู ้วาเพื่อนๆ ของลูกเป็ นใคร ไม่ค่อยมีแง่มุมใดในชี วิตของลูกๆ ที่พวกเขาไม่รู้
แม้จนกระทังลูกๆ โตเป็ นวัยรุ่ น
่
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิ ท ธิ พลเก่ งในการจัดสรรเวลาและทุ่มเทความพยายามที่ดีใ น
การดูแลลูกๆ ความผูกพันที่พวกเขามีต่อลูกๆ นั้นแข็งแกร่ งมันคงมาก และเป็ นแบบฉบับของพ่อแม่
่
ที่ยอมสละทุกสิ่ งเพื่อเอาใจใส่ ครอบครัวเป็ นสิ่ งแรก พวกเขาผูกพันห่ วงใยชี วิตของลูกเป็ นที่สุด และ
ต้องให้แน่ใจว่ารู ้จกทุกๆ ด้านของชีวตลูก
ั
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีความรับผิดชอบ
 พ่อแม่ที่ห่วงใยใส่ ใจ
 เลี้ยงลูกเก่ง
 มุ่งมันที่จะมีส่วนร่ วมในชี วตของลูก
ิ
่
อดทน
“หนักแน่ นมันคงผ่ านเรื่องดีร้าย”
่
เด็ ก ๆ ต้อ งการคนที่ อ ดทนมากๆ ใครจะรั บ มื อ กับ เรื่ อ งนี้ ได้ดี ไ ปกว่ า พ่ อ แม่ ที่ เ ป็ นคน
โครงสร้างอิทธิพล พวกเขามีธรรมชาติที่สามารถอดกลั้นและระงับใจได้ ดังนั้นจึงอดทนมากกว่าคน
ส่ วนใหญ่อยู่สักหน่อย ในฐานะพ่อแม่ คุณลักษณะเหล่านี้ ส่งผลดี ต่อพวกเขา โดยปกติแล้วพวกเขา
สามารถรับมือการอาละวาดและการก่อกวนของลูกได้ทุกรู ปแบบ
พ่อแม่ ที่ เ ป็ นโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลอดกลั้นต่ อการท าตัวแย่ๆ ของลู ก ๆ ด้ว ยการใช้ไ ม้อ่อ น
แทนที่จะตะโกนใส่ ลูกหรื อตีลูกเพื่อแก้ไขปั ญหาแบบเร็ วๆ พวกเขากลับเต็มใจที่จะพูดกับลูกอย่าง
เปิ ดเผย และสามารถหาเวลาเพื่อช่วยให้ลูกได้เรี ยนรู ้เรื่ องศีลธรรมจรรยาอันดี พวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ที่
“สู ญเสี ยการควบคุมอารมณ์ตวเอง” ในทุกสถานการณ์
ั
ด้วยเหตุ น้ ี ลูกๆ ของคนโครงสร้ างอิ ทธิ พลจึงมักรู้สึกปลอดภัย และสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลเต็มใจที่จะตอบคาถามและข้อสงสัยไม่รู้จบเกี่ยวกับธรรมชาติของ
โลก และคาถาม “ทาไม” ที่ไม่มีวนหมดของเด็กๆ พวกเขาไม่ชอบเร่ งให้ลูกๆ โตเร็ วๆ และจะไม่พูด
ั
่
ว่า “เร็ วๆ เข้า” ทุกครั้งที่ลูกๆ รั้งท้ายหรื อใช้เวลาตามสบาย ดังนั้นจึงทาให้ลูกๆ รู ้สึกสงบและอยูใน
โลกอย่างมีสันติสุขด้วยความอดทนและอดกลั้น ซึ่ งเป็ นผลที่สะท้อนมาจากพฤติกรรมของพวกเขา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อดกลั้น
 ใช้ไม้อ่อน
 ตอบสนองความต้องการของลูก
 ไม่เร่ งรัดให้ลูกโตเร็ วๆ
 ช่วยให้ลูกๆ รู ้สึกมันคงและจิตใจเยือกเย็น
่
สมดุล
“อารมณ์ และนิสัยใจคอไม่สุดโต่ ง”

พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลเก่งในการรับมือสถานการณ์ คบขันทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น
ั
พร้ อมกับความเป็ นพ่อแม่ แนวโน้มตามธรรมชาติของพวกเขาคื อความไม่สุดโต่ง บุคลิกภาพของ
พวกเขาคื อ ไม่คุนเคยกับความสุ ดโต่งที่ เกิ ดขึ้ นปุ บ ปั บและอารมณ์ ที่แกว่ง ไปแกว่ง มา นี่ เป็ นการ
้
เตรี ยมพวกเขาอย่างดีมากให้พร้อมรับความเปลี่ ยนแปลงปุบปั บที่เกิดขึ้นในโลกของการเป็ นพ่อแม่
คนโครงสร้างอิทธิพลเป็ นคนที่มีความสมดุลอย่างยิง และเป็ นพ่อแม่ที่เป็ นธรรมอย่างยิง
่
่
เพราะเหตุน้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลจึงเป็ นผูพิพากษาที่ดีเยี่ยมซึ่ งไม่ลาเอียงเมื่อ
้
ลูกๆ ทะเลาะกัน พวกเขาไม่เข้าข้างหรื อแสดงว่ารั กลูกคนไหนเป็ นพิเศษและจะไม่มีวนตัดสิ นลู ก
ั
อย่างไม่เป็ นธรรม ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังปฏิ บติต่อลู กในลักษณะเดี ยวกันคือ เป็ นธรรม และไม่ใช้
ั
อานาจไปเสี ยหมดทุกเรื่ องเพียงเพราะตัวเองเป็ นพ่อแม่
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลเก่งในการทาให้ลูกๆ แยกแยะความถูกผิดได้โดยการทา
่
ตัวเป็ นตัวอย่าง รักษาอารมณ์ไม่ให้ข้ ึนๆ ลงๆ หรื อไม่ปล่อยให้ความวุนวายทางอารมณ์มามีอิทธิ พล
ต่อวิธีที่ปฏิบติต่อลูก พวกเขาพยายามรักษาความเที่ยงธรรมกับลูกและไม่ปล่อยให้ตวเองอารมณ์เสี ย
ั
ั
มากเกินไปหรื อง่ายเกิ นไป พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลเป็ นมืออาชี พในการรับมือกับสิ่ งที่ดี
และสิ่ งที่เลวร้ายด้วยความสมดุล
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เป็ นธรรมและไม่ลาเอียง
 ให้ความนับถือแก่ลูกของตัวเอง
 ไม่ปล่อยให้อารมณ์มีอิทธิ พลต่อการเป็ นพ่อแม่
 พยายามอย่างหนักที่จะยุติธรรมในการรับมือกับลูก
 ไม่เข้าข้างหรื อลาเอียงรักลูกคนไหนเป็ นพิเศษ
ด้ านไม่ ดี
ผ่อนคลายเกินไป
“หวังว่ าบ้ านจะจัดระเบียบตัวมันเองได้ ”

เนื่ องจากคนโครงสร้างอิทธิ พลมีพ้ืนฐานเป็ นคนสบายๆ และผ่อนคลาย จึงไม่ค่อยวางแผน
หรื อวางเป้ าหมายเพื่อชี วิตของตัวเอง แม้ขณะทางานพวกเขาอาจยึดมันในวิธีการ แต่ในด้านการใช้
่
ชี วิ ต ส่ ว นตัว นั้ น พวกเขามี แ นวโน้ ม จะท าอะไรไปที ล ะวัน และมี ค วามคิ ด แบบ “ท าไปตาม
่
สถานการณ์” ชอบใช้ชีวตไปเรื่ อยๆ โดยไม่ทาเรื่ องป่ วนหรื อหาเรื่ องวุนวายมากกว่า
ิ
ั
โชคไม่ดีที่แนวโน้มแบบนี้ ไปกันไม่ค่อยได้กบบทบาทของพวกเขาในฐานะพ่อแม่ บางครั้ง
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลก็หละหลวมกับกฎเกณฑ์และกฎระเบียบเกินไป แม้แต่ในขณะที่
คาดหวังให้ลูกๆ ยึดมันกับความประพฤติที่ดีเยี่ยม นี่ เป็ นสาเหตุแห่ งความอึดอัดและผิดหวังของทุก
่
คนที่เกี่ ยวข้อง เพราะในขณะที่พวกเขาเด็ดขาดกับกฎเกณฑ์ต่างๆ นั้น พวกเขากลับไม่เด็ดขาดกับ
การบังคับใช้ ผลก็คือพฤติกรรมที่ขดแย้งกันในทางตรงข้าม และบางครั้งก็ก่อให้เกิดความสับสน
ั
ถ้ามีปัญหาเกิ ดขึ้น พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะหวังให้ปัญหาพวกนี้
ปลิวหายไปตามสายลมเอง พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้ชีวิตตามสบาย และมองข้ามเรื่ องบางเรื่ องใน
บ้าน หรื อมองข้ามความตึงเครี ยดบางเรื่ องที่ตองจัดการแก้ไข ด้วยเหตุน้ ี จึงอาจละเลยปั ญหาร้ายแรง
้
บางอย่างด้วยความพลั้งเผลอ ไม่ใช่ไม่ใส่ ใจแต่เพราะพวกเขาคลายใจมากเกินไป
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 คลายใจเกินไป
 หวังว่าปั ญหาจะแก้ไขได้เอง
 ไม่ใช้มาตรการเชิ งรุ ก
 อาจมองข้ามปั ญหาร้ายแรงต่างๆ
ไร้ ระบบระเบียบ
“ไม่ เข้ าใจระบบ”
่
คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ชอบใช้ชีวตท่ามกลางความยุงเหยิง พวกเขาไม่เก่งในการบังคับใช้
ิ
่
การจัดระเบียบภายในบ้านเพื่อป้ องกันไม่ให้เกิดความยุงเหยิง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะ
เป็ นพ่อแม่ในบ้านไร้ ระบบระเบี ยบอย่างยิง ทั้งยังมี แนวโน้มที่ จะหวังให้ผูคนมาจัดระเบี ยบแทน
้
ตนเองเสี ยก่อน
พ่อแม่ ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิ ท ธิ พ ลมี แนวโน้ม ที่ ไ ม่ค่ อยรู ้ กิ จกรรมและก าหนดการต่ า งๆ
ของลู ก จึ ง อาจนัด หมายซ้อ นในก าหนดการของลู ก หรื อ ลื ม การประชุ ม ส าคัญ ของลู ก บางครั้ ง
ถ้าสถานการณ์เลวร้าย อาจเกิดหายนะภายในบ้านได้
ส่ วนสาคัญของปั ญหาคือ คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลขาดความรับผิดชอบที่จะปรับปรุ งความ
ไร้ ระบบระเบี ยบของตัวเองให้ดีข้ ึ น ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาไม่ริเริ่ มที่จะจัดระเบียบบ้านของตน
ให้เหมาะสม หรื อไม่ทาให้ลูกมี สานึ กพื้นฐานในเรื่ องธรรมดาทัวๆ ไป เช่ น การกรอกตัวเลขบิ ล
่
ค่า ใช้จ่ายของบ้าน การเก็ บ เอกสารทางการแพทย์ไ ว้ใ นที่ ที่ หยิบได้ง่ า ย และการบริ หารเวลาที่ ดี
ด้วยเหตุน้ ีการขาดสานึกเกี่ยวกับการจัดระเบียบของพวกเขาจึงทาให้ชีวิตของลูกปั่ นป่ วนเป็ นบางครั้ง

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ขาดโครงสร้าง
 ไม่จดลาดับความสาคัญของระบบระเบียบ
ั
 ชอบทิ้งเรื่ องนี้ ไว้ให้คนอื่นทามากกว่า
 ไม่เริ่ มแก้ไขปั ญหา
ผ่อนปรนเกินไป
“ให้ เสรีภาพแก่ลูกมากเกินไป”
บางครั้งการใช้ชีวิตอย่างคลายใจของคนโครงสร้ างอิทธิ พลอาจกลายเป็ นสิ่ งเลวร้ ายในแง่
ของการเป็ นพ่อแม่ พวกเขาพบว่าการใช้ระบบเป็ นเรื่ องยาก เพราะตนเองนั้นชอบทาตามโครงสร้าง
ในหลายๆ ครอบครัว โดยเฉพาะครอบครั วของชาวเอเชี ย ซึ่ ง ผูคนยึดมันกับขนบธรรมเนี ยมและ
้
่
แนวทางต่างๆ อย่างเคร่ งครัด พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะทาได้ดี แต่ถาพวก
้
เขาต้องทาโดยการบีบบังคับ ก็จะลงเอยด้วยการกลัวว่าจะกดดันลูกมากเกินไป ดังนั้นจึงผ่อนปรนให้
ลูกๆ มากเกินไป
บางครั้งความใจดี ของคนโครงสร้างอิทธิ พลหรื ออาการ “ฉันรู ้สึกไม่ดี” ของคนโครงสร้าง
อิทธิพลอาจคุกคามจนกลายเป็ นการบังคับ ดังนั้นพวกเขาจึงมักผ่อนปรนให้ลูกๆ สาหรับพฤติกรรม
แย่ๆ แทนที่ จะทาให้ลูกรู ้ สึกตัวว่าทาไม่ถูกและวางเกณฑ์พ้ืนฐานบางอย่างให้ลูก พ่อแม่ที่เป็ นคน
โครงสร้างอิทธิพลไม่มีวนรู ้วาเมื่อไรควรพูดคาว่าหยุด และไม่รู้วธีกาหนดขอบเขตที่เหมาะสมให้ลูก
ั ่
ิ
อย่างไรก็ตาม เมื่อคนโครงสร้างอิทธิ พลนึกอยากบังคับใช้ระเบียบขึ้นมา พวกเขาก็สามารถ
ทาได้ดวยวิธีที่ทาให้ลูกๆ เบื่อและเหนื่อยล้า ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะจูจ้ ี และอธิ บายกฎเกณฑ์ซ้ าแล้วซ้ า
้
้
เล่า หรื อถามลูกๆ ซ้ าๆ ซากๆ ว่า “ทาไมลูกถึงได้ทาอย่างนี้” จนกว่าลูกๆ จะทาตามที่พวกเขาพูด
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ผ่อนปรนเกินไป
 ไม่กาหนดกฎเกณฑ์พ้ืนฐาน
 มีแนวโน้มที่จะตามใจลูกจนเสี ยคน
 ปล่อยให้ความใจดีที่มากเกินไปสร้างปั ญหา
ภาพสรุปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างอิทธิพล

ด้ านสว่ าง


ให้ ความร่ วมมือ
คุณมักเต็มใจทางานร่ วมกับคนอื่น และอันที่จริ งได้พยายามอย่างหนักที่จะบรรลุ เป้ าหมาย
ระยะยาวและเติมเต็มประสิ ทธิ ภาพ คุณเก่งในการทาตามคาสั่งต่างๆ ที่ถูกมอบหมายให้ทีม
หรื อกลุ่ม และทาให้องค์กรที่มีการจัดโครงสร้างไว้แล้วสมบูรณ์ข้ ึน



ไว้วางใจได้
คุ ณเป็ นคนที่ พ่ ึ ง พาได้ใ นการท าสิ่ ง ต่ า งๆ ให้แล้วเสร็ จเสมอ คุ ณจะไม่ มี วนทิ้ ง เรื่ องหรื อ
ั
สิ่ งต่างๆ ค้างคาไว้แล้วหนี หายไป คุ ณรับผิดชอบต่อทุกสิ่ งที่ คุณทา ทาภารกิ จเสร็ จด้วยดี
ก่อนเวลา และสามารถรับผิดชอบต่องานที่รับมาภายในขอบเขตที่กาหนด



เห็นอกเห็นใจ
คุ ณเป็ นคนที่ ใ ครๆ มาหาพร้ อมด้ว ยปั ญหาเสมอ ถ้า คุ ณพบว่า ตัวเองมัก บ่ น ว่า มี แ ต่ ผูค น
้
ดาหน้ามาหาพร้ อมปั ญหาและสารพัดเรื่ องที่คนเหล่านั้นนึ กได้ การให้พวกเขาได้รู้โดยตรง
ถึงความรู ้สึกที่ไม่ค่อยดีนกของคุณอาจเป็ นสิ่ งที่ดีที่สุดก็ได้
ั



มีช้ ั นเชิ งแบบนักการทูต
คุณเป็ นผูตดสิ นซึ่ งเป็ นที่ตองการมากในสภาพแวดล้อมแห่งการทางาน ซึ่ งเต็มไปด้วยผูคนที่
้ั
้
้
พยายามแข่งกันเพื่อไปให้ถึงจุดสู งสุ ด การเมืองที่ดุเดือดในองค์กรไม่ใช่สไตล์ของคุณถ้ามัน
หมายความว่าต้องโค่นล้มคนอื่น คุณอยากพยายามทาให้อะไรๆ สงบลงและเล่นบทผูสร้าง
้
สันติภาพมากกว่า


คิดถึงใจเขาใจเรา
การคิดถึงใจเขาใจเราเป็ นลักษณะที่บ่งบอกความเป็ นตัวตนของคุณ แต่ลองคิดดูว่าการเป็ น
คนคิ ดถึ งใจเขาใจเราทาร้ ายคุ ณอย่างไรบ้าง คุ ณยุ่งวุ่นวายกับการเอาใจใส่ ความรู ้ สึกของ
คนอื่น แต่คุณรู ้หรื อเปล่าว่าตัวเองรู ้สึกอย่างไร



ทาตัวตามสบาย
ไม่ มี อ ะไรท าให้ คุ ณ ตกใจได้ง่ า ยๆ คุ ณ ชอบคิ ด ว่า ทุ ก อย่า งมี ที่ ท างและเวลาของมัน เอง
มากกว่า ดัง นั้น ที่ สุ ดแล้ว ทุ กสิ่ ง ทุ กอย่า งก็จะเข้า ที่ ท างของมันเอง คุ ณไม่ค่ อยตะโกนสั่ ง
หรื อแผดเสี ยงใส่ คนทาผิด คุ ณรั กษามุ มมองของคุ ณในสิ่ งเหล่านี้ และรั บมือกับเรื่ องต่างๆ
ทีละเรื่ อง



คิดหน้ าคิดหลัง
คุ ณไม่ค่อยอยู่ใต้แสงสี บนเวที หรื อเป็ นคนที่ พูดเสี ยงดัง ที่ สุด คุ ณเป็ นคนค่อนข้างเก็บตัว
ชอบที่ จะปล่ อยให้ค นอื่ นใช้เวลาตามสบาย และจะหรี่ แสงไฟสปอตไลท์ล งก่ อนแสดง
ความเห็นของคุณ



อารมณ์ราบเรียบ
คุณไม่ค่อยมีอารมณ์แปรปรวนสุ ดโต่ง คุ ณเดิ นสายกลางและนาเสนอโลกทัศน์ที่สมดุล ต่อ
ทุกคน คนอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะพบว่าคุ ณเป็ นจุดสงบในกึ่ งกลางพายุ หรื อเป็ นโอเอซี สใน
ทะเลทรายอยูเ่ สมอ



อดกลั้น
คุณไม่ใช่ คนประเภทขี้หงุ ดหงิดที่รีบเร่ งทาอะไรๆ ในนาทีสุดท้ายและเรี ยกร้องสิ่ งที่ “ต้อง
เสร็ จตั้งแต่เมื่อวานนี้ ” จากคนอื่น คุณมีความอดทนและแม่พระ คุณยอมรับว่าบางครั้งเรื่ อง
ดีๆ ก็ตองใช้เวลา คุ ณอดกลั้นมากและจะทาสิ่ งต่างๆ ให้เสร็ จถ้าต้องทา ในที่ทางาน คุ ณจะ
้
่
อยูทางานล่วงเวลาถ้าจาเป็ น
ด้ านมืด


ยอมแพ้ง่าย
อย่าปล่ อยให้คนอื่ นคิ ดว่าคุ ณขาดความกล้า มันเป็ นวิธีที่ได้ผลในการทาให้คนประเภทที่
โหดเหี้ ยมที่สุดเหยียบย่าคุณทุกเมื่อและทุกที่ที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสม ถ้าบางครั้งคุณรู ้สึก
ว่าตัวเองขาดความกล้า ตอนนี้คือเวลาที่จะต้องมีมนแล้วละ
ั



ไม่ ใช่ ค่ ูแข่ ง
ในขณะที่คุณอาจรู ้ สึกว่าการไม่เป็ นคู่แข่งกับใครก็ดีแล้วคุ ณจาเป็ นต้องเรี ยนรู ้ ว่าบางครั้ ง
ความก้าวหน้าหมายถึ งการแซงหน้าคนอื่น เรื่ องแบบนี้ ไม่จาเป็ นว่าต้องทาให้คุณเป็ นคน
น่าขยะแขยงไปโดยปริ ยาย คุณมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวในการบรรลุความฝันของคุณเพราะ
หลีกเลี่ยงการแข่งขันในทุกสนาม



ตัดสิ นใจไม่ เด็ดขาด
คุณเป็ นคนที่พดว่า “ที่ไหนก็ได้” เมื่อผูคนกาลังตัดสิ นใจว่าจะไปกินอะไรกันที่ไหน ถึงเวลา
ู
้
ทวงสิ ทธิ ของคุ ณที่จะพูดว่า “ไม่เอา ฉันเกลี ยดแฮมเบอร์ เกอร์ ” แล้วและลองผจญภัยด้วย
การตัด สิ น ใจหรื อ การแสดงความเห็ น ที่ ไ ม่ เ สี ย หาย ผูค นจะนับ ถื อ คุ ณ มากขึ้ น เมื่ อ คุ ณ
้
เรี ยกร้องสิ่ งที่คุณต้องการจริ งๆ



เข้ มงวด
ถ้าคุ ณยึดถื อ “แผนการ” อยู่เสมอ อาจถึ งเวลาถอยหลังสักก้าวและหยุดยึดถื อมันได้แล้ว
คุ ณจะไม่มีวนรู ้ ว่าคุ ณสามารถทาอะไรได้บางจนกว่าคุ ณจะออกผจญภัยนอกอาณาบริ เวณ
ั
้
ที่คุนเคยและคาดหมายได้ บางครั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็ละเมิดได้นะ
้


หลบเลียง
่
่
คุณมักหลีกเลี่ยงการต้องบอกเรื่ องที่ไม่น่าพอใจต่อหน้าพวกเขา แต่วิธีน้ ี ใช่วาจะได้ผลเสมอ
ไป จงหัดพูดสิ่ งที่คุณไม่ชอบจริ งๆ กับผูคนอย่างไม่ออมค้อมไม่สาคัญหรอกว่าพวกเขาแคร์
้
้
คุณหรื อไม่ เพราะคุณไม่ได้แคร์ ในสิ่ งที่พวกเขาคิด



ผัดวันประกันพรุ่ ง
ความเอื่อยเฉื่ อยนั้นไม่เป็ นไรหรอกถ้าคุณตั้งใจทาแบบนั้น อย่างเช่นตอนที่คุณหยุดพักร้อน
่
แต่คุณรู ้วาคุณต้องรี บเมื่อมีเรื่ อง “ฉุกเฉิน” บางอย่างขึ้นมาในขณะที่คุณกาลังจิบกาแฟ และ
เพลิดเพลินกับการกินโดนัทเป็ นอาหารเช้า



ยุติธรรม
คุ ณเป็ นคนมีวินยมากและมี มาตรฐานต่างๆ ยึดถื ออยู่อย่างไรก็ตาม คุ ณมีแนวโน้มที่จะใช้
ั
ั
่
มาตรฐานเดียวกันนี้ กบคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่วาทุกคนจะอยากเหมือนกันหมด และผูคนต่างก็มี
้
เหตุผลที่แตกต่างกันในสิ่ งที่พวกเขาทา
สื้อเยีย
่

บุคลิกภาพในทีทางาน
่
ด้ านดี
นักสร้ างสันติภาพ
“คนดีของทีทางาน”
่
คนโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลเป็ นคนดี เ สมอต้น เสมอปลายของที่ ท างาน หรื อ เป็ นคนท างาน
เบื้ องหลัง ที่ เป็ นมิ ตร พวกเขาหาวิธี ที่ จะชอบคนอื่ นเสมอ ผลคื อพวกเขามัก เป็ นที่ รักในที่ ท างาน
โดยทัวไปเรื่ องหลักที่พวกเขาให้ความสาคัญคือ การสร้ างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสมัครสมานกลม
่
่
เกลียว หรื อเหมือนในละครซิ ทคอมเรื่ อง เชี ยร์ ส ที่โด่งดังในทศวรรษที่ 1980 ที่วา “ที่ซ่ ึ งใครๆ ก็รู้ชื่อ
คุณ”
คนโครงสร้างอิทธิ พลมีช้ นเชิงแบบนักการทูต พวกเขาจะพยายามมองหาจุดที่เป็ นกลางของ
ั
สถานการณ์ จึงถูกมองว่าเป็ นนักสร้างสันติภาพ เนื่ องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะลดความขัดแย้งกับ
คนอื่นและระหว่างคนอื่นด้วยกันให้เหลือน้อยที่สุด ดังนั้นในสานักงานที่เต็มไปด้วยคนอัตตาสู งที่
คอยแต่จะเหยียบหัวคนอื่ นนั้น พวกเขาจึ งเป็ นเหมื อนลมหายใจสดชื่ นที่ คานึ งถึ งทุกคน ไม่ใช่ แค่
ตัวเองเท่านั้น
คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลเป็ นคนที่ เหมาะที่ จะรั บมื อกับคนเจ้าปั ญหาและขี้ บ่นที่ สุด โดยใช้
ความเห็นพ้องเป็ นตัวขับเคลื่อน หาวิธีลดความแตกต่างให้เหลือน้อยที่สุด และทาให้เกิดลักษณะร่ วม
หรื อความเป็ นสากลให้ ม ากที่ สุ ด รวมทั้ง จะไม่ ท าอะไรในแบบสุ ด โต่ ง ที่ ท าลายความประสาน
กลมกลื นกันของที่ทางาน หรื อไม่ พยายามแสดงความสามารถพิเศษของตนเองด้วยวิธีที่ทาให้คน
่
อื่นรู ้สึกว่าเป็ นการคุกคาม ทั้งหมดนี้เป็ นเรื่ องของการไม่สร้างความวุนวายนันเอง
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 กลมกลืน
 เป็ นมิตร
 ขับเคลื่อนด้วยการเห็นพ้อง
 มีช้ นเชิงแบบนักการทูต
ั
มั่นคง
“ฉันคือหินผา”

่
คนโครงสร้างอิทธิพลไม่ใช่คนเปราะบางหรื อแตกสลายง่ายซึ่ งอารมณ์แปรปรวนอยูทุกนาที
ในที่ทางาน คุณรู ้เสมอว่าจะหาพวกเขาพบได้ที่ไหน พวกเขามันคงดุจก้อนหิ นในทุกสิ่ งที่ทา และไม่
่
ค่อยก้าวออกนอกเส้นเพียงเพื่อจะพิสูจน์อะไรหรื อเพื่อทาให้ใครราคาญใจ เป็ นคนประเภทที่ไว้ใจได้
เต็มที่ในการให้รับผิดชอบทาอะไรๆ จนสาเร็ จลุล่วง
่
ผูคนมักพบว่าคนโครงสร้างอิทธิ พลอยูตรงนั้นในที่ทางานเพื่อช่ วยใครต่อใครคนเหล่านั้น
้
จึงมักเข้าไปหาเพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ใช่คนที่มีนิสัยใจ
คอและอารมณ์ที่สุดโต่ง รวมทั้งไม่ค่อยระบายอารมณ์ใส่ ผคนรอบข้าง
ู้
ขอให้แน่ ใจได้ว่า คนโครงสร้ างอิ ทธิ พ ลไม่ ได้มีทศ นคติ แบบขอเป็ นนางเอกเพีย งเพื่ อจะ
ั
แสวงประโยชน์ดวยความเห็นแก่ตว พวกเขารอบคอบและชัดเจนมากในวิธีการและการกระทาของ
้
ั
ตน จึงสร้ างความรู ้ สึกหนักแน่ นมันคงในหมู่ผูคนที่ห้อมล้อมได้ พวกเขาละเอียดถี่ ถวนและค่อยๆ
้
้
่
ใช้เวลาในการเข้าถึงหัวใจของเรื่ องก่อนลงมือทาอะไร

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไว้วางใจได้
 ไม่สร้างความปั่ นป่ วน
 ชัดเจน
 รอบคอบและละเอียดถี่ถวน
้
เข้ าใจความรู้สึกของคนอืน
่
“อ่อนไหวต่ อความรู้ สึกของคนอืน”
่

คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ใช่คนไร้หวใจ โหดเหี้ ยม และชอบแก่งแย่งแข่งขันประเภทที่ตอง
ั
้
กาจัดทุกคนให้พนทาง แท้จริ งนั้นเพราะการขาดความได้เปรี ยบในการแข่งขัน พวกเขาจึงมักคานึ ง
้
และคิดถึงคนอื่น และให้ความสาคัญแก่ประโยชน์ของคนอื่นเหนื อกว่าของตัวเอง ด้วยเหตุน้ ี ผคนจึง
ู้
พบว่าพวกเขาเป็ นคนประเภทที่คานึงถึงคนอื่น และอ่อนไหวต่อความต้องการของคนอื่น
ในสภาพแวดล้อมแห่ งการแข่งขัน คนโครงสร้างอิทธิ พลระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ทาร้าย
ความรู ้ สึกของคนอื่น หรื อไม่ทาให้คนอื่นรู้ สึก ด้อยกว่าหรื อไร้ คุณค่าในทางใดๆ ทั้งสิ้ น แบบนั้น
ไม่ใช่สไตล์ของพวกเขาเลย ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงมักปล่อยให้คนอื่นชนะหรื อแซงหน้าไปเพื่อรักษา
มิตรภาพหรื อความสัมพันธ์ทางอาชีพการงาน
คนโครงสร้างอิทธิ พลยึดคนเป็ นศูนย์กลาง สภาพแวดล้อมแห่ งการทางานที่ดีสาหรับพวก
เขาคือที่ที่ผคนรู ้สึกมันคง มีความสุ ข และพึงพอใจ ไม่ใช่ที่ทุกคนรู ้สึกกระสับกระส่ าย ไม่มนคง และ
ู้
ั่
่
พร้อมที่จะต่อสู ้ทาลายกัน ฟังดูอาจเหมือนความปรารถนาธรรมดาๆ แต่ก็มีผคนมากมายที่ไปได้ดีใน
ู้
สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอัตตาที่เปราะบางและความรู ้สึกเจ็บซ้ า ทว่าคนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ใช่
หนึ่งในคนพวกนั้น ดังนั้นจึงมักได้รับการจดจาหรื อระลึกถึงว่าเป็ นคนใจดีและช่างคิด

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ห่วงใยใส่ ใจ
 มีทศนคติที่ให้ความสาคัญแก่คนก่อน
ั
 ไม่ชอบทาร้ายความรู ้สึกของคนอื่น
 ไม่เห็นแก่ตว
ั
ช่ วยเหลือเกือกูล
้
“แบกรับนาหนักของทีทางาน”
้
่

ถ้า คนโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลสนับ สนุ น ความเป็ นเหตุ เ ป็ นผล บุ ค คลหรื อ บริ ษ ัท เต็ม ร้ อ ย
เปอร์ เซ็นต์ พวกเขาจะทุ่มทั้งตัวในงานของพวกเขา และจะช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างดีเหมือนเสาที่ค้ ายัน
หลัง คาเอาไว้ในจุ ดที่ ควรค้ า เพื่อไม่ ให้หลัง คาถล่ ม ลงมาบนพื้น พวกเขามุ่งเน้นไปยังสิ่ งที่ ดีที่สุ ด
สาหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น
ด้วยเหตุน้ ีคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงเป็ นผูสนับสนุ นที่สมบูรณ์แบบ และให้ความร่ วมมือดียิ่ง
้
ในการทาให้เป้ าหมายของบริ ษทหรื อของโครงการบรรลุผลสาเร็ จ เพราะพวกเขาใส่ ใจผูคนจึงให้
ั
้
คุ ณ ค่ า แก่ ค วามหลั ก แหลมและการสนั บ สนุ น ของที ม งาน รวมทั้ง พยายามที่ สุ ดที่ จ ะสร้ า ง
่
สภาพแวดล้อมที่ทาให้ทุกคนสบายใจ พวกเขาอดทนเหลือเชื่อ และบางครั้งก็ผอนปรนเกินไปในการ
รอคอยเป็ นเวลานานๆ เพื่อให้คนอื่นทางานเสร็ จ
เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นและเห็นอกเห็นใจคนอื่นมาก
พวกเขาจึงได้รับความภักดีและความสนับสนุนมากมายเหลือเชื่อจากผูคนที่เชื่ อถือ ด้วยเหตุน้ ี บรรดา
้
เจ้านายและผูจดการจึ งอาจพบว่าพวกเขามี ประโยชน์ในการเกลี้ ยกล่ อมคนอื่ นๆ ให้เห็ นชอบใน
้ั
บางเรื่ องบางประเด็นที่มีปัญหาความเห็นขัดแย้งกัน ด้วยธรรมชาติของการเป็ นผูประสาน พวกเขาจะ
้
หาทางท างานร่ วมกับคนอื่ น เพราะสั ญชาตญาณของพวกเขาคื อการทางานร่ วมกันไม่ใ ช่ ทางาน
อย่างไม่ลงรอยกันหรื อขัดแย้งกัน
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อานวยความสะดวก
 ยึดทีมงานเป็ นศูนย์กลาง
 ไม่ล้ าเส้น
 ให้ความร่ วมมือและมุ่งมัน
่
ด้ านไม่ ดี
เฉื่อยเนือย
“บอกสิ ว่าจะให้ ทาอะไร แล้วฉันจะทาให้ ”

ในอีกด้าน เมื่อคุณลักษณะสาคัญของคนโครงสร้างอิทธิ พลเป็ นด้านลบ พวกเขาจะทาทุก
อย่างด้วยความเฉื่ อยเนือยอย่างน่าตกใจและน่าราคาญ หมายความว่าพวกเขาจะทาสิ่ งที่ตองทา (จาได้
้
หรื อไม่ว่าพวกเขาไม่เคยก่อความวุ่นวายขนานใหญ่) แต่จะไม่ประดิ ษฐ์คิดค้นหรื อทาเกิ นกว่าสิ่ งที่
คาดหวังให้ทาตั้งแต่แรก
คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลเก่ งในการทาตามกฎและคาสั่ง พวกเขาจะทาสิ่ งที่ ได้รับการขอให้
ทาหรื อถูกสั่งให้ทา แต่จะไม่ริเริ่ มคิ ดหาแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปั ญหา หรื อไม่แบกรั บความ
รับผิดชอบต่อสิ่ งผิดธรรมดาที่ไม่คุนเคย ซึ่ งหมายความว่าการให้พวกเขาเริ่ มต้นทาอะไรบางอย่าง
้
ด้วยตนเองนั้นเป็ นเรื่ องยาก
เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้ างอิทธิ พลจึงทางานที่ให้คาแนะนาได้ง่าย แต่ให้แรงบันดาลใจแก่
คนอื่นหรื อถูกกระตุนให้นาคนได้ยาก พวกเขาตอบสนองแผนงานที่มีรายละเอียดได้ดีมาก แต่การ
้
หวังให้พวกเขาทาสิ่ งต่างๆ ให้เสร็ จด้วยตัวเองโดยไม่มีการแนะนาก็เท่ากับการแพ้รบ พวกเขาจะเริ่ ม
่
ทางานก็ต่อเมื่อมีภาพร่ างของแผนที่ชดเจนอยูแล้วหรื อเป็ นภารกิจที่มีคาอธิ บายอย่างชัดเจนตั้งแต่ตน
ั
้
จนจบ

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ขาดความริ เริ่ ม
 ตามมากกว่านา
 ต้องได้รับการแนะนา
 ยอมแพ้ง่าย
ทาลับๆ ล่อๆ
“ไม่ ทาต่ อหน้ า แต่ ทาลับหลัง”

การท าลับ ๆ ล่ อ ๆ อาจไม่ เ ข้า กับ คุ ณลัก ษณะใจดี และค านึ ง ถึ ง คนอื่ นของคนโครงสร้ า ง
อิทธิ พล แต่นี่เป็ นสุ ดปลายอีกข้างหนึ่งของคลื่นแสง นันคือเมื่อความเป็ นคนดีของพวกเขาเลยเถิดไป
่
หรื อสุ ดโต่ง พวกเขาจะใส่ ใจเกินไปกับการอยากรักษาความผูกพันที่ดีเอาไว้ และวิตกเกินไปกับการ
ปกป้ องคนอื่นหรื อการไม่ทาให้คนอื่นอารมณ์เสี ย พวกเขาเกลียดความขัดแย้ง
ด้วยเหตุน้ ี ถาคนโครงสร้างอิทธิ พลไม่มีความสุ ขกับอะไรบางอย่าง ก็จะบ่นถึงสถานการณ์
้
นั้นลับหลังคุณ ไม่ใช่ ต่อหน้า พวกเขาไม่ค่อยเดิ นมาหาคุ ณและบอกว่ามีอะไรผิดพลาด ไม่ยอมรับ
การไม่มีความสุ ขหรื อที่มาแห่ งความขัดแย้งของตน และพบว่าการอ้อมผ่านปั ญหาไปนั้นง่ ายกว่า
จัดการกับ ปั ญหา นี่ คื อคนที่พ ร้ อมจะแกล้ง ทาเป็ นว่าช้า งสี ม่ วงตัวใหญ่ ที่ อยู่ก ลางห้องนั่ง เล่ นนั้น
่
ไม่มีอยูจริ ง
ทัศนคติน้ ี สามารถทาให้คนอื่นอึดอัดใจ โดยเฉพาะคนที่เถรตรงและคนตรงซึ่ งชอบความ
เปิ ดเผย แต่พวกเขาอยากปกปิ ดมันไว้มากกว่าที่ จะอยากพัวพันกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อหรื อที่อาจ
จะเกิ ดขึ้ น ซึ่ งพวกเขารู ้ สึกว่ามันจะก่ อให้เกิ ดความวุ่นวาย สร้ างความปั่ นป่ วนหรื อให้ใครบางคน
ขุ่นเคือง นี่เป็ นเรื่ องต้องห้ามสาคัญของพวกเขา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
่ ้
 คนประเภทหลบอยูขางหลัง
 ไม่ใช่คนตรง
 กลัวการเผชิญหน้า
 กลัวการล่วงเกินคนอื่น
ขาดความรีบเร่ ง
“มีอะไรต้ องรีบหรือ”

คนโครงสร้างอิทธิ พลยังมีปัญหาสาคัญในการบริ หารเวลาอีกด้วย พวกเขากังวลมากไปกับ
การทาให้แน่ใจว่าอะไร ดาเนินไปอย่างถูกต้อง จนกระทังบางครั้งเสี ยจุดสนใจไปกับการมัวแต่ทาให้
่
แน่ ใจว่าภารกิ จของตัวเองกาลังดาเนิ นไปอย่างถูกต้อง ที่สาคัญกว่านั้นคื อ พวกเขาขาดสานึ กแห่ ง
ความเร่ ง ด่ วนและมี แนวโน้ม จะเหมื อ นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรในแง่ ข องความละเอี ย ดถี่ ถ้ว น
รวมทั้งการเคร่ งครัดกับระเบียบวิธีและความถูกต้อง
ด้วยเหตุน้ ีคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงไม่ใช่คนที่คุณควรหันไปหาในยามที่ตองการความเร่ งรี บ
้
ในเรื่ องบางอย่าง พวกเขาอาจสัญญาที่จะส่ งมอบงานให้ แต่แล้วกลับใช้วธีถ่วงเวลาเพื่อแช่เรื่ องต่อไป
ิ
่
อีก เพราะรู ้วาไม่สามารถทาให้เสร็ จทันเวลาได้
สาเหตุหลักของเรื่ องนี้คือ สานึกที่ย่าแย่ในเรื่ องการบริ หารเวลา เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พล
ไม่ริเริ่ มที่จะปรับปรุ งอะไรๆ ให้ดีข้ ึน มีแนวโน้มที่จะทาอะไรๆ ด้วยวิธีเดิ มๆ และด้วยลูกเล่นเดิมๆ
ลักษณะแบบนี้อาจทาให้พวกเขาเดือดร้อนได้ในยามที่จาเป็ นต้องปรับตัวให้เข้ากับวิธีใหม่หรื อสลับ
สับเปลี่ยนอะไรๆ เสี ยใหม่ แต่แล้วก็พบว่าตัวเองไม่สามารถทาได้

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ขาดการบริ หารเวลา
 มองไม่เห็นความจาเป็ น
 มีแนวโน้มที่จะยึดมันกับวิธีที่เคร่ งครัด
่
 ไม่ปรับปรุ งวิธีการให้ดีข้ ึน
ชอบตัดสินไม่ เด็ดขาด
“หรือทีจริงคือกลัวการตัดสิ นใจเด็ดขาด”
่

ข้อบกพร่ องส าคัญ อี ก อย่า งหนึ่ ง ของคนโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลคื อ ขาดความกล้า หาญที่ จ ะ
ตัดสิ นใจ ส่ วนหนึ่ งของลัก ษณะนี้ แตกแขนงมาจากความอยากเอาใจของพวกเขา การตัดสิ นใจ
หมายถึ ง มี จุดยืน และการมี จุด ยืนหมายถึ ง การท าให้ใ ครบางคนขุ่น เคื อ งในขณะที่ ค นอื่ น พอใจ
แล้วสิ่ งที่พวกเขาทาไม่ได้คืออะไร ก็คือการทาให้ใครบางคนขุ่นเคืองไงล่ะ
่
ถ้าคนโครงสร้างอิทธิพลเรี ยนรู ้วาไม่มีใครสามารถทาให้ทุกคนถูกใจได้ พวกเขาจะตัดสิ นใจ
ได้เด็ดขาดมากขึ้น และจะสามารถนาคนอื่นและมีจุดยืนที่ดีข้ ึน แต่พวกเขามักติ ดอยู่ในกับดักของ
การอยากเอาใจคนอื่นและไม่อยากล่วงเกินใคร ซึ่ งเป็ นการทาลายตัวเองโดยปริ ยาย เพราะไม่มีใคร
สามารถเอาใจทุกคนได้ตลอดเวลา การจะตัดสิ นใจเด็ดขาดได้ คนๆ นั้นต้องลดความกังวลใส่ ใจใน
สิ่ งต่างๆ ลงบ้างและนิ่งให้มากขึ้น
การขอคาแนะนาที่ตรงไปตรงมาหรื อมีวิจารณญาณจากคนโครงสร้ างอิทธิ พลนั้นไม่ค่อย
ได้ผล เพราะจะไม่ค่อยได้รับ พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้คาหวานในการพยายามให้คาแนะนาที่จืดชืด
และไม่ต่อต้านใคร แต่ไม่ค่อยเป็ นประโยชน์หรื อสร้ างสรรค์อะไรนัก ดังนั้นการทางานร่ วมกับคน
โครงสร้างอิทธิ พลจึงหมายความว่าต้องเตรี ยมพร้อมสาหรับการตรวจสอบประเด็นเดียวกันซ้ าๆ

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ละล้าละลังในการตัดสิ นใจ
 ไม่ค่อยมีจุดยืน
 ให้คาแนะนาและความเห็นด้วยคาหวาน
 ไม่อยากรับผิดชอบ / ไม่อยากนา
อาชีพการงานทีเ่ หมาะสม


การบังคับใช้ กฎหมาย
คนโครงสร้างอิทธิ พลกาหนดและทาตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้เป็ นเลิศ การเคารพบรรทัดฐาน
ทางสังคมและขนบธรรมเนี ยมต่างๆ และที่ สาคัญกว่านั้นคือความเคารพต่อกฎหมายและ
กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ปกครองชุมชนใดๆ ซึ่ งเป็ นธรรมชาติและปกติวิสัยของพวกเขา คือจุดแข็ง
ที่เฉี ยบขาด เมื่อพวกเขาทางานที่ เกี่ ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็ นบทบาท
ของหัวหน้างานหรื อเจ้าหน้าที่ที่บงคับใช้กฎหมาย พวกเขาไม่จาเป็ นต้องได้รับการอบรม
ั
่
หรื อการสอนให้เคารพกฎหมาย เพราะพวกเขาเป็ นอย่างนั้นอยูแล้ว ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงนา
เกียรติภูมิที่สูงส่ งมาสู่ งานของพวกเขา



บริหารจัดการและอานวยการ
คนโครงสร้างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะรักษาสิ่ งต่างๆ ให้มีโครงสร้างและการจัดระเบียบที่ดี
ซึ่ งทาให้พวกเขาเป็ นตัวเลือกในอุดมคติสาหรับบทบาทการบริ หารจัดการหรื ออานวยการ
ในองค์ก ร เมื่ อ มี แ ผนที่ ชัด เจนให้ ยึ ด ถื อ พวกเขาจะท าให้ แ น่ ใ จว่ า ทุ ก คนท าตามแผน
นอกจากนั้นแล้ว ความสามารถของพวกเขาที่จะเล่นบทคนดีและเป็ นนักสร้างสันติภาพผูมี
้
ชั้นเชิ งทางการทูตเป็ นหลักประกันได้ว่าพวกเขามี ความรั บผิดชอบที่ จะปฏิ บติต่อทุ กคน
ั
อย่า งเป็ นธรรม และรั กษาสภาพแวดล้อมในการท างานให้มี ความปลอดภัยและสะดวก
สบายสาหรับทุกคน และไม่ค่อยถูกจูงใจด้วยความโลภส่ วนตัว ความเห็นแก่ตว หรื อความ
ั
ทะเยอทะยานทางการเมือง


งานด้ านทรัพยากรมนุษย์
เพราะเหตุที่ความสนใจและแรงจูงใจหลักของคนโครงสร้างอิทธิ พลคือ คน ดังนั้นเส้นทาง
ของงานบริ หารจัดการทรัพยากรมนุ ษย์จึงเหมาะกับความสามารถพิเศษและทักษะของพวก
เขา พวกเขาแสวงหาพื้นที่แห่ งสันติและเป็ นกลางให้แก่บรรดาลูกจ้างในที่ทางานได้อย่าง
เป็ นธรรมชาติ โดยที่ ไม่ตองละทิ้งกฎเกณฑ์และนโยบายต่างๆ ของนายจ้าง นอกจากนั้น
้
ความสามารถเข้าใจความรู ้ สึกของคนอื่นและความอ่อนไหวของพวกเขา พวกเขาเป็ นตัว
แทนที่ดี ด้วยแนวโน้มตามธรรมชาติด้านความชัดเจน วิธีการและการกระทาที่รอบคอบ
ทาให้พวกเขาเป็ นบุคคลในอุดมคติที่ผูคนในที่ทางานมุ่งไปขอความช่วยเหลื อในประเด็น
้
ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและประเด็นที่เกี่ยวกับพนักงาน



ครู นักการศึกษา
คนโครงสร้างอิทธิ พลมีความอดทนอย่างมากและทาตัวตามสบาย พวกเขาไม่หงุ ดหงิ ดที่
ต้องอธิ บายสิ่ งต่างๆ ซ้ าแล้วซ้ าอีก จึงสามารถเป็ นครู ที่ดีและเอื้ออารี และไม่ข่มขวัญลูกศิษย์
ของตนเอง นอกเหนื อจากความสามารถในการเข้าใจความรู้ สึกของคนอื่นและคานึ งถึ ง
ความต้องการของนักเรี ยนแล้ว พวกเขายังเป็ นคนที่ให้ความเอื้อเฟื้ อเกื้ อกูลและความเอาใจ
ใส่ อย่างมากมายเหลือเชื่อด้วย
บทบาทในงาน
และสภาพแวดล้ อมทีเ่ หมาะสม


ทาไปตามแผนการทีมีรายละเอียด
่
คนโครงสร้างอิทธิพลไม่ใช่คนประเภทที่ถูกจับโยนลงไปในน้ าลึกแล้วจะว่ายน้ าเป็ นได้เอง
พวกเขาต้องมีอุป กรณ์ ช่วยพยุงเตรี ยมไว้ให้ ในท านองเดี ยวกัน ในที่ ทางานก็อย่าหวังว่า
พวกเขาจะสามารถทาอะไรไปตามสถานการณ์หรื อเลื่อนไหลไปตามกระแสได้ พวกเขา
อยากได้คาแนะนาที่ละเอียดที่ช่วยให้พวกเขาสามารถปฏิบติและบรรลุผลสาเร็ จได้ ความ
ั
ต้องการที่ จะรอบคอบ ละเอี ยดถี่ ถ้วน และแน่ ชัดของพวกเขานั้นทาให้ก ารเปลี่ ยนแปลง
ปุบปั บและเรื่ องไม่คาดฝันในนาทีสุดท้ายไม่มีวนเกิดขึ้นได้
ั



แข่ งขันให้ น้อย ร้ องเพลงรอบกองไฟให้ มาก
ก็ไม่ตองถึ งขนาดนั้นหรอกนะ ในขณะที่ไม่มีความจาเป็ นที่จะต้องกาหนดชัวโมงเล่นกอง
้
่
ไฟให้บรรดาพนักงานมานังล้อมวง จับมือกัน และร้ องเพลงประสานเสี ยงกี ตาร์ น้ น สิ่ งที่
ั
่
สาคัญคือ สภาพแวดล้อมในการทางานที่ กลมกลื นและสงบสุ ข คนโครงสร้ างอิทธิ พลมี
จุดแข็งและความสามารถพิเศษในระดับสู งสุ ดสาหรับเรื่ องนี้ นาไปสู่ ผลที่ได้คือ ผูคนเข้ากัน
้
ได้ และไม่มีการเมืองที่ต่อสู ้แข่งขันกันอย่างรุ นแรงในสานักงาน การทางานในสถานที่ ที่
อัตตาตัวตนสาคัญยิงใหญ่กว่างานเป็ นต้นเหตุแห่งความหดหู่ใจสาหรับพวกเขา
่
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)

More Related Content

Similar to นักสนับสนุน (Supporter)

การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่นการสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่นSarid Tojaroon
 
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักการจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักSarid Tojaroon
 
Tourist Behavior: International tourist behavior
Tourist Behavior: International tourist behaviorTourist Behavior: International tourist behavior
Tourist Behavior: International tourist behaviorSomyot Ongkhluap
 
สิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิง
สิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงสิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิง
สิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงNhui Srr
 
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69Taraya Srivilas
 
6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)
6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)
6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)อัมพร ศรีพิทักษ์
 

Similar to นักสนับสนุน (Supporter) (8)

การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่นการสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
การสร้างมิตรไมตรีกับผู้อื่น
 
ทายนิสัย
ทายนิสัยทายนิสัย
ทายนิสัย
 
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักการจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
 
Affective2
Affective2Affective2
Affective2
 
Tourist Behavior: International tourist behavior
Tourist Behavior: International tourist behaviorTourist Behavior: International tourist behavior
Tourist Behavior: International tourist behavior
 
สิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิง
สิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงสิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิง
สิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิง
 
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
 
6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)
6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)
6 การพูดเพื่อติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน(188-208)
 

More from Sunny Stong

More from Sunny Stong (7)

Phonetics: Consonants
Phonetics: ConsonantsPhonetics: Consonants
Phonetics: Consonants
 
Coffee 25022557
Coffee 25022557Coffee 25022557
Coffee 25022557
 
Takayama 2
Takayama 2 Takayama 2
Takayama 2
 
Timeline of life 1
Timeline of life 1 Timeline of life 1
Timeline of life 1
 
Tall
Tall Tall
Tall
 
Differences 1
Differences 1 Differences 1
Differences 1
 
Takayama Vocabs
Takayama VocabsTakayama Vocabs
Takayama Vocabs
 

นักสนับสนุน (Supporter)

  • 1. นักสนับสนุน (โครงสร้ างอิทธิพล) เข้ าใจความรู้ สึกของคนอืน ่ จงรักภักดี ทาตัวตามสบาย
  • 3. บุคลิกภาพ บทนา นักสนับสนุน (โครงสร้ างอิทธิพล) เราอาจกล่าวถึ งคนโครงสร้ างอิทธิ พลได้อย่างดี ที่สุดว่าเป็ นนักสนับสนุ น พวกเขาเกื้ อกูล ผูคน คุ ณค่า หลักการ หรื อนโยบายต่างๆ ด้วยชั้นเชิ งแบบนักการทูตและการทาตัวตามสบายอย่าง ้ เป็ นธรรมชาติ เราอาจกล่าวถึ งพวกเขาได้อย่างดี ที่สุดว่าพวกเขาเป็ น “คนดี ” ของที่ทางานทุ กแห่ ง หรื อของทุกกลุ่ม พวกเขาเป็ นมิตรและกระตือรื อร้นที่จะเอาใจ น่ าคบและไม่รุกรานใครเสมอ พวก เขาทางานได้ดีในสถานการณ์ที่ ราบรื่ นและมีเสถียรภาพ มุ่งมันที่จะลดความขัดแย้งกับคนอื่นให้อยู่ ่ ในระดับที่นอยที่สุด และให้แน่ใจว่าทุกคนเข้ากันได้ดี ้ คนโครงสร้างอิทธิ พลเก่งในการทาตามแผนที่มีรายละเอียดและโครงสร้าง ถ้าให้โครงการที่ เหมาะสม พวกเขาจะส่ งมอบผลงาน (มักเป็ นผลงานที่ยอดเยี่ยม) ให้ พวกเขายังเป็ นคนกลางในอุดม คติ ของคนที่ ขดแย้งกันอี กด้วย ไม่ว่าจะเป็ นเพื่อนๆ ครอบครั ว หรื อเพื่อนร่ วมงาน พวกเขาจะไม่ ั ่ เหยียบหัวใครเพื่อก้าวขึ้นไปอยูจุดสู ง แต่จะทุ่มเทพยายามทางานอย่างสงบสุ ข ร่ วมกับคนอื่นเพื่อให้ งานเสร็ จ และไม่สนใจที่จะเป็ นคู่แข่ง เรื่ องหลักที่ พวกเขาให้ความสาคัญคื อ ความใส่ ใจและการ ปกป้ องความรู้สึกของคนอื่น พวกเขาเป็ นนักประสานความร่ วมมือในอุดมคติ ไม่เสแสร้งและสงบ เสงี่ยม อย่างไรก็ตาม ในด้านที่ไม่ค่อยดีน้ น คนโครงสร้ างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะขาดความริ เริ่ ม ั และแรงขับเคลื่อน คอยคาสั่งก่อนที่จะลงมือทาอะไร เก่งในการทางานให้สาเร็ จตามแผน ไม่ชอบ การเปลี่ยนแปลงหรื อการแก้ไขในนาทีสุดท้าย พวกเขาไม่ชอบตาแหน่งที่มีอานาจและการเป็ นผูนาที่ ้ ต้องทาการตัดสิ นใจ และการตัดสิ นใจทาให้พวกเขาอึดอัดเพราะอาจต้องล่วงเกินคนอื่น
  • 4. ด้ านดี อารมณ์ เย็น “ผ่ อนคลายและทาตัวสบายๆ” คนโครงสร้างอิทธิ พลเป็ นคนที่เข้ากับใครๆ ได้ง่ายมาก มีแนวโน้มที่จะมีเพื่อนมากเพราะมี ธรรมชาติที่ไม่ล่วงเกินระรานใครเป็ นปกติวสัย ทั้งยังเป็ นคนน่าคบและจิตใจดีเพราะใส่ ใจความรู ้สึก ิ ของคนอื่น และระมัดระวังที่จะไม่ทาร้ายความรู ้สึกของคนเหล่านั้น ธรรมชาติที่ไม่สุดโต่งของคนโครงสร้างอิทธิ พลหมายความว่าพวกเขาเดินทางสายกลางได้ ดีที่สุด พวกเขาเป็ นกลางโดยธรรมชาติ และมุ่งไปสู่ ความไม่สุดโต่งเสมอ พวกเขาเพลิดเพลินกับการ เฝ้ ามองผูคน และพบว่าการเรี ยนรู ้ พฤติกรรมและบุคลิ กภาพที่แปลกๆ ของผูคนเป็ นสิ่ งที่น่าสนใจ ้ ้ ดังนั้นใครๆ จึงมักชอบมาคลุกคลีหอมล้อม ้ คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่สร้างเงื่อนไขไร้สาระกับเพื่อนๆ ไม่เหมือนคนโครงสร้างอื่น บาง โครงสร้ างที่ตองการความใส่ ใจและชอบเป็ นจุดสนใจเสมอ คนโครงสร้ างอิทธิ พลพอใจกับการได้ ้ อยู่ขางหลัง เฝ้ ามองเพื่อนๆ ทอประกายสุ กใส ด้วยเหตุ น้ ี มิตรภาพของพวกเขากับคนอื่ นๆ จึ งมัก ้ ปราศจากความชิงชังเคลือบแฝง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่ล่วงเกินระรานใคร  ไม่สุดโต่ง  น่าคบและเป็ นมิตร  ไม่เรี ยกร้ อง
  • 5. นักฟังที่ดี “ใส่ ใจรับฟังปัญหาของเพือน” ่ เพื่อนที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลเป็ นนักฟั งที่ดีมาก พวกเขากังวลสนใจอยากรู ้ เสมอว่า จริ งๆ แล้วเพื่อนๆ คิดอย่างไร จึงมักถามไถ่เรื่ องราวของเพื่อนด้วยความระมัดระวัง ที่สาคัญกว่านั้น คือพวกเขายังอยากรู้คาตอบด้วย พวกเขาไม่เหมือนคนโครงสร้ างอื่นบางโครงสร้ างที่พอฟั งไปได้ สักพักก็ หันไปสนใจเรื่ องของตัวเอง แต่ พวกเขาอยากรู ้ อยากเห็ นอย่า งแท้จริ ง นัก ฟั ง ที่ ตื่นตัวซึ่ ง ซึ มซับทุ กอย่างที่ เพื่อนพูด โดยหวังว่าจะสามารถทาให้เพื่อนบอกเล่ าเรื่ องทุ กข์ร้อนที่ ล้ าลึ กที่ สุ ด ให้ฟังได้ ดังนั้นเพื่อนที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงเป็ นบุคคลในอุดมคติที่ใครๆ จะหันไปหาพร้อม การระบายความทุกข์ทุ กเรื่ อง พวกเขาอดทนอย่างยิ่ง และจะไม่ ตดสิ นคนที่ อยากคร่ าครวญหรื อ ั ระบายความทุ ก ข์ พวกเขาเข้า ใจความต้อ งการของเพื่ อ นที่ จ ะหาทางระบายอารมณ์ ที่ ปลอดภัย จึงทาให้พวกเขาเป็ นนักฟั งที่ดี เพราะพวกเขาไม่ขดจังหวะหรื อเอาแต่แสดงความเห็นที่ไม่ได้เรื่ อง ั ของตัวเองตลอดเวลา นอกจากนั้นคนโครงสร้างอิทธิ พลยังไม่อยากอยู่ใต้แสงไฟเวที หรื อไม่อยากเป็ นจุดสนใจ พวกเขาพอใจกับการอยู่เบื้องหลัง และไม่ช่วงชิ งความโดดเด่นเป็ นจุดสนใจกับเพื่อนๆ ยกเว้นถ้า เพื่อนๆ อยากให้พวกเขารับฟั ง นันแหละเป็ นสิ่ งที่พวกเขาจะทา พวกเขาไม่เหมื อนคนโครงสร้าง ่ ผลผลิตที่ฟังได้แค่สักสองสามนาทีก็เบื่อ รวมทั้งนึ กค้นอยากเล่าเรื่ องของตัวเองแทน แถมยังอยาก เป็ นจุดสนใจอีก ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ใส่ ใจและอยากรู ้อยากเห็น  ไม่แทรกแซง  มีพ้ืนที่ให้เพื่อนได้แสดงออก  ไม่ตดสิ นหรื อขัดจังหวะ ั
  • 6. รวยอารมณ์ ขน ั “ทาให้ คนอืนพอใจด้ วยมุกตลกอารมณ์ ขน” ่ ั ภายนอกของคนโครงสร้ างอิ ทธิ พลมักดูสงบนิ่ งและอารมณ์ ราบเรี ยบ คนส่ วนใหญ่นึกว่า พวกเขาเป็ นคนที่อ่อนหวานนุ่มนวลมาก และยิงรู ้สึกแบบนั้นมากขึ้นไปอีกจากการที่พวกเขาไม่ชอบ ่ ระรานใคร และให้คุณค่าเรื่ องความสุ ภาพและมารยาท อย่างไรก็ตาม สิ่ งที่พวกเขาซ่ อนเร้นไว้มิดชิ ด คืออารมณ์ขนหลักแหลมที่ทาให้แสบๆ คันๆ เมื่อมันปรากฏละก็ ระวังให้ดี ลักษณะนี้ มกเห็นได้ชด ั ั ั ่ ั ขึ้นเมื่อพวกเขารู ้สึกสบายใจเวลาอยูกบใครและเริ่ มเชื่อใจคนเหล่านั้น คนโครงสร้างอิทธิ พลเข้ากับผูคนได้ดีเพราะอารมณ์ขน พวกเขามักเฝ้ าสังเกตและเฝ้ ามอง ้ ั ั และเกิ ดอารมณ์ขนได้กบทุกสิ่ งที่เห็ นและรับรู ้ อันที่จริ งไม่มีอะไรที่พวกเขาเพลิดเพลินมากไปกว่า ั การได้หวเราะเต็มเสี ยงกับเพื่อนๆ ั คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลสุ ภาพมากพอที่จะรู ้ ว่าจะหัวเราะตัวเองเมื่อไรในยามที่สถานการณ์ แบบนั้นมาถึง บางคนชอบทาตลกเสี ยดสี ตวเองเสี ยจนทาให้การหัวเราะตัวเองเป็ นการใช้เวลาว่างที่ ั โปรดปรานที่สุ ด อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ไ ด้ท าแบบอึก ทึก ครึ กโครมหรื อตลกโปกฮาแบบคน โครงสร้ างผลผลิต อารมณ์ ขนของพวกเขาซ่ อนความรู ้ สึกมากกว่าและหลักแหลมกว่า ต้องอาศัย ั ความคิดลึกซึ้ งสักหน่อยจึงจะเข้าใจได้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ซ่ อนความหลักแหลมไว้เงียบๆ  อารมณ์ขนที่แสบๆ คันๆ ั  มีความสามารถที่จะหัวเราะทุกสิ่ งทุกอย่าง  ชอบทาตลกเสี ยดสี ตวเอง ั
  • 7. กรุณา “มักคานึงว่ าคนอืนรู้ สึกอย่ างไร” ่ ั คนโครงสร้ างอิทธิ พลนั้นเป็ นที่รู้กนดี ว่ามีความกรุ ณาอย่างยิ่ง เพราะความสามารถในการ เข้าใจความรู้สึกของผูอื่นเป็ นลักษณะอย่างหนึ่ งที่พวกเขามีเป็ นปกติวิสัยในการเข้าใจความต้องการ ้ และเรื่ องเดือดร้อนของเพื่อน สามารถคิดและรู้สึก ราวกับเป็ นคนเหล่านั้นเสี ยเอง ซึ่ งทาให้พวกเขา ่ เข้าใจได้วาเพื่อนกาลังทุกข์ร้อนกับเรื่ องอะไรอยู่ พวกเขาแสวงหาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด อบอุ่นและ ยังยืน ่ ่ คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่มีวนละเลยที่จะถามไถ่ความเป็ นอยูของเพื่อนๆ ไม่มีวนเป็ นคนที่ ั ั สนใจแต่ “ฉัน ฉัน ฉัน” พวกเขารู ้สึกว่าควรพูดถึงปั ญหาของตัวเองก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าเพื่อนๆ ไม่มี ปั ญหาเดือดร้อนใดๆ พวกเขาเผือแผ่ตวเองสู่ คนอื่น เพราะอยากทาให้คนอื่นๆ พอใจและมีความสุ ข ่ ั ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้ างอิทธิ พลจึงได้ใจเพื่อนมากมาย และมักมีเพื่อนที่ภกดีและเสี ยสละ ั ่ เพื่อนๆ ส่ วนใหญ่รู้วาความเป็ นห่ วงใยของพวกเขาไม่มีวนมาจากความเห็นแก่ตวหรื อความต้องการ ั ั ทางวัตถุ อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจแกล้งยอมแม้จะไม่ได้ต้ งใจยอม ก็เพียงเพราะว่าอ่อนไหวต่อ ั ความรู ้สึกของคนอื่น พยายามที่จะไม่ทาร้ายคนอื่นถ้ารู ้ และเท่าที่จะทาได้อีกด้วย ข้ อเท็จจริงสาคัญ  จริ งใจและใจดี  ถามไถ่ทุกข์สุขของเพื่อน  เข้าใจความรู ้สึกของผูอื่น ้  ไม่ได้ทาด้วยความเห็ นแก่ตว ั
  • 8. ด้ านไม่ ดี ไม่ ยดหยุ่น ื “ต่ อต้ านการเปลียนแปลง” ่ ่ โดยรวมแล้วอาจกล่าวได้วาคนโครงสร้างอิทธิ พลค่อนข้างต่อต้านการเปลี่ยนแปลงและการ เปลี่ ยนแปลงขนานใหญ่ พวกเขาชอบชี วิตที่ เป็ นกิ จวัตรและเสถี ยรภาพของคน จะรู ้ สึกดี กว่าเมื่ อ อะไรๆ ดาเนินไปตามจังหวะก้าวและในทิศทางที่พวกเขารู ้สึกสบายใจ พวกเขาไม่ชอบก้าวออกจาก อาณาเขตแห่งความสบายใจของตน ปกติแล้วพวกเขาไม่ใช่นกเสี่ ยง เพราะมันทาลายความรู้สึกสงบ ั สุ ขของพวกเขา ด้วยธรรมชาติน้ ี บางครั้งคนโครงสร้ างอิทธิ พลจึ งบันทอนจิตใจของเพื่อนได้ เพราะชอบ ่ กิ จ กรรมที่ อ ยู่ บ นพื้ น ฐานกิ จ วัต รประจ าของตนเองมากกว่ า การต่ อ ต้า นสิ่ ง ใหม่ ข องพวกเขา หมายความว่าพวกเขาชอบไปกิ น ดื่ ม และเที่ยวในที่เดิ มๆ ทั้งยังไม่ตื่นเต้นสนใจกิ จกรรมต่างๆ ที่มี ความหลากหลายด้วย เป็ นคนประเภทชอบปลอดภัยไว้ก่อน คนโครงสร้ างอิทธิ พลชอบทาสิ่ งเดี ยวกันซ้ าแล้วซ้ าอีก ไม่ตองสงสัยเลยว่าเพื่อนๆ บางคน ้ ่ ้ อาจรู้สึกว่าสิ่ งที่พวกเขาชอบนั้นน่ าเบื่ออยูบาง จะยังมีความสดใหม่น่าตื่นเต้นอะไรสาหรับคนที่คุณ รู ้อยู่แล้วว่าอยากได้อะไรและกาลังจะทาอะไร การที่พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมออกจากสภาพที่เคยชิ น นั้นทาให้เพื่อนๆ อึดอัดใจได้มาก ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ต่อต้านความเปลี่ยนแปลง ่  อยูแต่ในอาณาเขตแห่งความสบายใจของตัวเอง  ชอบทาตามกิจกวัตร  อาจนาไปสู่ การใช้ชีวิตที่ซ้ าซากจาเจ
  • 9. เฉยเมย “หลีกเลียงการกระตือรือร้ นเกินไป” ่ บางครั้งทั้งหมดที่มิตรภาพต้องการคือ ความตื่นเต้นและพลังงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างไรก็ตาม อย่าหวังว่าคนโครงสร้ างอิทธิ พลจะมี สิ่งนี้ ให้แก่เพื่อนๆ อย่างที่บอกไปแล้วแต่ตนว่าพวกเขาชอบ ้ สารวจเส้ นทางที่ รู้จก ดี อยู่แล้วมากกว่า และไม่ ย อมทดลองทาอะไรใหม่ ๆ รวมทั้งยัง สามารถท า ั เฉยเมยอย่างดื้อรั้นด้วย ด้วยเหตุน้ ีคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงอาจลดทอนความกระตือรื อร้นต่อกิจกรรมหรื อโครงการ ใดๆ ก็ตามที่ เพื่อนของพวกเขาเกี่ ยวข้องด้วย พวกเขามี แนวโน้มเป็ นคนเงี ยบขรึ ม ที่ ไม่อยากร่ วม กิจกรรมสนุกๆ ในงานปาร์ ต้ ี เมื่อมีใครบางคนคิดทาอะไรบางอย่าง และพวกเขาไม่ชอบ พนันได้เลย ว่าพวกเขาจะปฏิเสธไม่ยอมมีส่วนร่ วมด้วยเพราะไม่นึกสนุก แทนที่คนโครงสร้างอิทธิ พลจะบอกผูคนว่าพวกเขาจะไม่ทาอะไรและไม่ชอบอะไร พวก ้ เขาอาจใช้วธีนิ่งเสี ยแต่แรกเพื่อหลีกเลี่ยงการกวนโทสะคนอื่น แต่เมื่อสิ่ งเหล่านั้นดาเนิ นไป พวกเขา ิ จะปลีกตัวออกไปนังข้างนอกและไม่เข้าไปมีส่วนร่ วม ซึ่ งก็เท่ากับเป็ นการทาลายบรรยากาศของคน ่ อื่น ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ลดทอนความกระตือรื อร้น  ทาให้หมดสนุก  งดเว้นจากการเข้าไปมีส่วนร่ วม  ขาดความตื่นเต้น
  • 10. ช่ างเหน็บแนม “มีวาจาแหลมคม” ในแผนภูมิปาจื่อที่ ไม่ดีหรื อสุ ดโต่งมากๆ นั้น คนโครงสร้ างอิทธิ พลมักมีวาจาที่แหลมคม มาก มีแนวโน้มที่จะใช้การเหน็บแนมผูคนเป็ นเครื่ องมือปกป้ องตัวเอง ด้วยเหตุน้ ี บางครั้งอารมณ์ขน ้ ั ของพวกเขาจึงหวนกลับมาทาให้ตวเองหงุ ดหงิ ดขึ้นไปอีก การกระเซ้าเล่นสนุ กๆ ในตอนแรกอาจ ั กลายเป็ นการโจมตีหรื อ ใส่ ร้ายเพื่อนได้อย่างรวดเร็ ว ในขณะที่พวกเขาพยายามทาที ว่าเหน็บแนม ของพวกเขานั้นเป็ นอารมณ์ขน แต่มนก็อาจทาร้ายคนอื่นอยูเ่ รื่ อยๆ ั ั เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลใช้ไหวพริ บปฏิ ภาณมาก บางครั้งจึงยุ่งยากใจที่จะบอกคนอื่น ให้แยกแยะเรื่ องตลกที่หลักแหลมออกจากการเหน็บแนมให้เจ็บใจ การเหน็บแนมไม่ใช่สิ่งเลวร้ าย แต่เมื่อประกอบกับความชิงชังที่ถูกเก็บงาไว้ของพวกเขา มันก็สามารถกลายเป็ นอาวุธที่ทรงพลังได้ คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่มีธรรมชาติที่ชอบทาร้ายคนอื่น แต่เมื่อตกเป็ นฝ่ ายรับ หรื อรู ้สึกว่า ถูกต้อนเข้ามุม ธรรมชาติของความช่างถากถางเหน็บแนมก็จะเข้าครอบงา บางครั้งพวกเขาอาจทาให้ เรื่ องตลกที่ไร้พิษภัยและไม่ล่วงเกินใครในตอนต้นกลายเป็ นเรื่ องบานปลายได้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เย้ยหยัน  เยาะเย้ยและถากถาง  บางครั้งมีอารมณ์ขนที่ใจร้าย ั  ทาให้เพื่อนรู ้สึกแย่ดวยการกระเช้าเย้าแหย่ ้
  • 11. ชอบตัดสิน “ต้ องทาวิธีนี” ้ คนโครงสร้างอิทธิ พลมีหลักความประพฤติและการปฏิ บติที่ค่อนข้างเคร่ งครัดอยู่ชุดหนึ่ ง ั หรื อยึดถื อหลักการและคุ ณค่า ทางศี ลธรรมต่างๆ ปกติ แล้วพวกเขาเป็ นคนซื่ อตรงที่ ให้คุ ณค่าแก่ กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ และมักยึดมันในกฎหมายและกฎเกณฑ์เหล่านั้น โดยถื อว่าอารยธรรม ่ สร้างขึ้นบนกฎหมายที่ได้รับการเห็นชอบจากสังคม แต่บางครั้ งคนโครงสร้ างอิทธิ พลก็อาจบังคับใช้คุณค่าและหลักการต่างๆ ของตนกับคน อื่นๆ ถ้าคนอื่นไม่ทาตาม พวกเขาก็จะวิพากษ์วิจารณ์ พวกเขาชอบให้คนอื่นมองโลกในแบบที่พวก เขามองมากกว่า พวกเขาเชิดชูกฎหมายและมีปฏิกิริยารุ นแรงต่อผูคนหรื อเหตุการณ์ที่ต่อต้านมัน ้ ส่ วนใหญ่เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลให้คุณค่าแก่เพื่อนๆ ดังนั้นจึงมักเชิดชูคนเหล่านั้นขึ้น สู่ มาตรฐานที่อาจสู งส่ งเกินจริ ง แต่หากเมื่อไรที่เลิกปลื้ มเพื่อนแล้ว ก็จะเหมือนที่ทากับคนอื่นๆ คือ พวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อนในด้านลบรุ นแรงยิ่งกว่าปกติ สาหรับพวกเขาแล้ว มิตรภาพและ ความสัมพันธ์ ไม่อยู่เหนื อกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ พวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ ตวเองอย่างหนัก ั ถ้าไม่ทาตามกฎเกณฑ์และก็จะตัดสิ นคนอื่นบนพื้นฐานของบรรดากฎเกณฑ์ที่กาหนดไว้น้ ีเช่นกัน ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ช่างวิพากษ์วจารณ์ ิ  กาหนดมาตรฐานทางศีลธรรมเอาไว้สูง  คาดหวังคนอื่นให้ยดมันกับมาตรฐานต่างๆ ของตัวเอง ึ ่  ด่วนตัดสิ นคนอื่น
  • 12. บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่ ด้ านดี เอาใจใส่ “ยอมรับด้ านดีและด้ านไม่ ดี” คนโครงสร้างอิทธิ พลเป็ นพ่อแม่ที่ดีมาก เพราะพวกเขาเอาใจใส่ ชีวิตของลูกๆ มากพยายาม อย่า งหนัก ที่ จะเจี ย ดเวลาให้ลู ก และท าให้แน่ ใ จว่า มี เวลาให้ลู ก มากที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะท าได้ มี ค วาม รับผิดชอบในความเป็ นพ่อแม่ และเข้าใจเต็มเปี่ ยมว่าตนเองเป็ นพ่อแม่ตลอดช่วงเวลาที่ยาวนาน ด้วยเหตุ น้ ี พ่อแม่ ที่เป็ นโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลจึ งมัก รู ้ ว่า ลู ก ๆ อยู่ที่ไ หนเมื่ อไร หรื อรู ้ ว่า ลู ก ๆ ่ ชอบหรื อไม่ชอบอะไร รู ้วาเพื่อนๆ ของลูกเป็ นใคร ไม่ค่อยมีแง่มุมใดในชี วิตของลูกๆ ที่พวกเขาไม่รู้ แม้จนกระทังลูกๆ โตเป็ นวัยรุ่ น ่ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิ ท ธิ พลเก่ งในการจัดสรรเวลาและทุ่มเทความพยายามที่ดีใ น การดูแลลูกๆ ความผูกพันที่พวกเขามีต่อลูกๆ นั้นแข็งแกร่ งมันคงมาก และเป็ นแบบฉบับของพ่อแม่ ่ ที่ยอมสละทุกสิ่ งเพื่อเอาใจใส่ ครอบครัวเป็ นสิ่ งแรก พวกเขาผูกพันห่ วงใยชี วิตของลูกเป็ นที่สุด และ ต้องให้แน่ใจว่ารู ้จกทุกๆ ด้านของชีวตลูก ั ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีความรับผิดชอบ  พ่อแม่ที่ห่วงใยใส่ ใจ  เลี้ยงลูกเก่ง  มุ่งมันที่จะมีส่วนร่ วมในชี วตของลูก ิ ่
  • 13. อดทน “หนักแน่ นมันคงผ่ านเรื่องดีร้าย” ่ เด็ ก ๆ ต้อ งการคนที่ อ ดทนมากๆ ใครจะรั บ มื อ กับ เรื่ อ งนี้ ได้ดี ไ ปกว่ า พ่ อ แม่ ที่ เ ป็ นคน โครงสร้างอิทธิพล พวกเขามีธรรมชาติที่สามารถอดกลั้นและระงับใจได้ ดังนั้นจึงอดทนมากกว่าคน ส่ วนใหญ่อยู่สักหน่อย ในฐานะพ่อแม่ คุณลักษณะเหล่านี้ ส่งผลดี ต่อพวกเขา โดยปกติแล้วพวกเขา สามารถรับมือการอาละวาดและการก่อกวนของลูกได้ทุกรู ปแบบ พ่อแม่ ที่ เ ป็ นโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลอดกลั้นต่ อการท าตัวแย่ๆ ของลู ก ๆ ด้ว ยการใช้ไ ม้อ่อ น แทนที่จะตะโกนใส่ ลูกหรื อตีลูกเพื่อแก้ไขปั ญหาแบบเร็ วๆ พวกเขากลับเต็มใจที่จะพูดกับลูกอย่าง เปิ ดเผย และสามารถหาเวลาเพื่อช่วยให้ลูกได้เรี ยนรู ้เรื่ องศีลธรรมจรรยาอันดี พวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ที่ “สู ญเสี ยการควบคุมอารมณ์ตวเอง” ในทุกสถานการณ์ ั ด้วยเหตุ น้ ี ลูกๆ ของคนโครงสร้ างอิ ทธิ พลจึงมักรู้สึกปลอดภัย และสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลเต็มใจที่จะตอบคาถามและข้อสงสัยไม่รู้จบเกี่ยวกับธรรมชาติของ โลก และคาถาม “ทาไม” ที่ไม่มีวนหมดของเด็กๆ พวกเขาไม่ชอบเร่ งให้ลูกๆ โตเร็ วๆ และจะไม่พูด ั ่ ว่า “เร็ วๆ เข้า” ทุกครั้งที่ลูกๆ รั้งท้ายหรื อใช้เวลาตามสบาย ดังนั้นจึงทาให้ลูกๆ รู ้สึกสงบและอยูใน โลกอย่างมีสันติสุขด้วยความอดทนและอดกลั้น ซึ่ งเป็ นผลที่สะท้อนมาจากพฤติกรรมของพวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อดกลั้น  ใช้ไม้อ่อน  ตอบสนองความต้องการของลูก  ไม่เร่ งรัดให้ลูกโตเร็ วๆ  ช่วยให้ลูกๆ รู ้สึกมันคงและจิตใจเยือกเย็น ่
  • 14. สมดุล “อารมณ์ และนิสัยใจคอไม่สุดโต่ ง” พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลเก่งในการรับมือสถานการณ์ คบขันทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น ั พร้ อมกับความเป็ นพ่อแม่ แนวโน้มตามธรรมชาติของพวกเขาคื อความไม่สุดโต่ง บุคลิกภาพของ พวกเขาคื อ ไม่คุนเคยกับความสุ ดโต่งที่ เกิ ดขึ้ นปุ บ ปั บและอารมณ์ ที่แกว่ง ไปแกว่ง มา นี่ เป็ นการ ้ เตรี ยมพวกเขาอย่างดีมากให้พร้อมรับความเปลี่ ยนแปลงปุบปั บที่เกิดขึ้นในโลกของการเป็ นพ่อแม่ คนโครงสร้างอิทธิพลเป็ นคนที่มีความสมดุลอย่างยิง และเป็ นพ่อแม่ที่เป็ นธรรมอย่างยิง ่ ่ เพราะเหตุน้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลจึงเป็ นผูพิพากษาที่ดีเยี่ยมซึ่ งไม่ลาเอียงเมื่อ ้ ลูกๆ ทะเลาะกัน พวกเขาไม่เข้าข้างหรื อแสดงว่ารั กลูกคนไหนเป็ นพิเศษและจะไม่มีวนตัดสิ นลู ก ั อย่างไม่เป็ นธรรม ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังปฏิ บติต่อลู กในลักษณะเดี ยวกันคือ เป็ นธรรม และไม่ใช้ ั อานาจไปเสี ยหมดทุกเรื่ องเพียงเพราะตัวเองเป็ นพ่อแม่ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลเก่งในการทาให้ลูกๆ แยกแยะความถูกผิดได้โดยการทา ่ ตัวเป็ นตัวอย่าง รักษาอารมณ์ไม่ให้ข้ ึนๆ ลงๆ หรื อไม่ปล่อยให้ความวุนวายทางอารมณ์มามีอิทธิ พล ต่อวิธีที่ปฏิบติต่อลูก พวกเขาพยายามรักษาความเที่ยงธรรมกับลูกและไม่ปล่อยให้ตวเองอารมณ์เสี ย ั ั มากเกินไปหรื อง่ายเกิ นไป พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลเป็ นมืออาชี พในการรับมือกับสิ่ งที่ดี และสิ่ งที่เลวร้ายด้วยความสมดุล ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เป็ นธรรมและไม่ลาเอียง  ให้ความนับถือแก่ลูกของตัวเอง  ไม่ปล่อยให้อารมณ์มีอิทธิ พลต่อการเป็ นพ่อแม่  พยายามอย่างหนักที่จะยุติธรรมในการรับมือกับลูก  ไม่เข้าข้างหรื อลาเอียงรักลูกคนไหนเป็ นพิเศษ
  • 15. ด้ านไม่ ดี ผ่อนคลายเกินไป “หวังว่ าบ้ านจะจัดระเบียบตัวมันเองได้ ” เนื่ องจากคนโครงสร้างอิทธิ พลมีพ้ืนฐานเป็ นคนสบายๆ และผ่อนคลาย จึงไม่ค่อยวางแผน หรื อวางเป้ าหมายเพื่อชี วิตของตัวเอง แม้ขณะทางานพวกเขาอาจยึดมันในวิธีการ แต่ในด้านการใช้ ่ ชี วิ ต ส่ ว นตัว นั้ น พวกเขามี แ นวโน้ ม จะท าอะไรไปที ล ะวัน และมี ค วามคิ ด แบบ “ท าไปตาม ่ สถานการณ์” ชอบใช้ชีวตไปเรื่ อยๆ โดยไม่ทาเรื่ องป่ วนหรื อหาเรื่ องวุนวายมากกว่า ิ ั โชคไม่ดีที่แนวโน้มแบบนี้ ไปกันไม่ค่อยได้กบบทบาทของพวกเขาในฐานะพ่อแม่ บางครั้ง พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างอิทธิ พลก็หละหลวมกับกฎเกณฑ์และกฎระเบียบเกินไป แม้แต่ในขณะที่ คาดหวังให้ลูกๆ ยึดมันกับความประพฤติที่ดีเยี่ยม นี่ เป็ นสาเหตุแห่ งความอึดอัดและผิดหวังของทุก ่ คนที่เกี่ ยวข้อง เพราะในขณะที่พวกเขาเด็ดขาดกับกฎเกณฑ์ต่างๆ นั้น พวกเขากลับไม่เด็ดขาดกับ การบังคับใช้ ผลก็คือพฤติกรรมที่ขดแย้งกันในทางตรงข้าม และบางครั้งก็ก่อให้เกิดความสับสน ั ถ้ามีปัญหาเกิ ดขึ้น พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะหวังให้ปัญหาพวกนี้ ปลิวหายไปตามสายลมเอง พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้ชีวิตตามสบาย และมองข้ามเรื่ องบางเรื่ องใน บ้าน หรื อมองข้ามความตึงเครี ยดบางเรื่ องที่ตองจัดการแก้ไข ด้วยเหตุน้ ี จึงอาจละเลยปั ญหาร้ายแรง ้ บางอย่างด้วยความพลั้งเผลอ ไม่ใช่ไม่ใส่ ใจแต่เพราะพวกเขาคลายใจมากเกินไป ข้ อเท็จจริงสาคัญ  คลายใจเกินไป  หวังว่าปั ญหาจะแก้ไขได้เอง  ไม่ใช้มาตรการเชิ งรุ ก  อาจมองข้ามปั ญหาร้ายแรงต่างๆ
  • 16. ไร้ ระบบระเบียบ “ไม่ เข้ าใจระบบ” ่ คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ชอบใช้ชีวตท่ามกลางความยุงเหยิง พวกเขาไม่เก่งในการบังคับใช้ ิ ่ การจัดระเบียบภายในบ้านเพื่อป้ องกันไม่ให้เกิดความยุงเหยิง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะ เป็ นพ่อแม่ในบ้านไร้ ระบบระเบี ยบอย่างยิง ทั้งยังมี แนวโน้มที่ จะหวังให้ผูคนมาจัดระเบี ยบแทน ้ ตนเองเสี ยก่อน พ่อแม่ ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิ ท ธิ พ ลมี แนวโน้ม ที่ ไ ม่ค่ อยรู ้ กิ จกรรมและก าหนดการต่ า งๆ ของลู ก จึ ง อาจนัด หมายซ้อ นในก าหนดการของลู ก หรื อ ลื ม การประชุ ม ส าคัญ ของลู ก บางครั้ ง ถ้าสถานการณ์เลวร้าย อาจเกิดหายนะภายในบ้านได้ ส่ วนสาคัญของปั ญหาคือ คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลขาดความรับผิดชอบที่จะปรับปรุ งความ ไร้ ระบบระเบี ยบของตัวเองให้ดีข้ ึ น ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาไม่ริเริ่ มที่จะจัดระเบียบบ้านของตน ให้เหมาะสม หรื อไม่ทาให้ลูกมี สานึ กพื้นฐานในเรื่ องธรรมดาทัวๆ ไป เช่ น การกรอกตัวเลขบิ ล ่ ค่า ใช้จ่ายของบ้าน การเก็ บ เอกสารทางการแพทย์ไ ว้ใ นที่ ที่ หยิบได้ง่ า ย และการบริ หารเวลาที่ ดี ด้วยเหตุน้ ีการขาดสานึกเกี่ยวกับการจัดระเบียบของพวกเขาจึงทาให้ชีวิตของลูกปั่ นป่ วนเป็ นบางครั้ง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ขาดโครงสร้าง  ไม่จดลาดับความสาคัญของระบบระเบียบ ั  ชอบทิ้งเรื่ องนี้ ไว้ให้คนอื่นทามากกว่า  ไม่เริ่ มแก้ไขปั ญหา
  • 17. ผ่อนปรนเกินไป “ให้ เสรีภาพแก่ลูกมากเกินไป” บางครั้งการใช้ชีวิตอย่างคลายใจของคนโครงสร้ างอิทธิ พลอาจกลายเป็ นสิ่ งเลวร้ ายในแง่ ของการเป็ นพ่อแม่ พวกเขาพบว่าการใช้ระบบเป็ นเรื่ องยาก เพราะตนเองนั้นชอบทาตามโครงสร้าง ในหลายๆ ครอบครัว โดยเฉพาะครอบครั วของชาวเอเชี ย ซึ่ ง ผูคนยึดมันกับขนบธรรมเนี ยมและ ้ ่ แนวทางต่างๆ อย่างเคร่ งครัด พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะทาได้ดี แต่ถาพวก ้ เขาต้องทาโดยการบีบบังคับ ก็จะลงเอยด้วยการกลัวว่าจะกดดันลูกมากเกินไป ดังนั้นจึงผ่อนปรนให้ ลูกๆ มากเกินไป บางครั้งความใจดี ของคนโครงสร้างอิทธิ พลหรื ออาการ “ฉันรู ้สึกไม่ดี” ของคนโครงสร้าง อิทธิพลอาจคุกคามจนกลายเป็ นการบังคับ ดังนั้นพวกเขาจึงมักผ่อนปรนให้ลูกๆ สาหรับพฤติกรรม แย่ๆ แทนที่ จะทาให้ลูกรู ้ สึกตัวว่าทาไม่ถูกและวางเกณฑ์พ้ืนฐานบางอย่างให้ลูก พ่อแม่ที่เป็ นคน โครงสร้างอิทธิพลไม่มีวนรู ้วาเมื่อไรควรพูดคาว่าหยุด และไม่รู้วธีกาหนดขอบเขตที่เหมาะสมให้ลูก ั ่ ิ อย่างไรก็ตาม เมื่อคนโครงสร้างอิทธิ พลนึกอยากบังคับใช้ระเบียบขึ้นมา พวกเขาก็สามารถ ทาได้ดวยวิธีที่ทาให้ลูกๆ เบื่อและเหนื่อยล้า ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะจูจ้ ี และอธิ บายกฎเกณฑ์ซ้ าแล้วซ้ า ้ ้ เล่า หรื อถามลูกๆ ซ้ าๆ ซากๆ ว่า “ทาไมลูกถึงได้ทาอย่างนี้” จนกว่าลูกๆ จะทาตามที่พวกเขาพูด ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ผ่อนปรนเกินไป  ไม่กาหนดกฎเกณฑ์พ้ืนฐาน  มีแนวโน้มที่จะตามใจลูกจนเสี ยคน  ปล่อยให้ความใจดีที่มากเกินไปสร้างปั ญหา
  • 18. ภาพสรุปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างอิทธิพล ด้ านสว่ าง  ให้ ความร่ วมมือ คุณมักเต็มใจทางานร่ วมกับคนอื่น และอันที่จริ งได้พยายามอย่างหนักที่จะบรรลุ เป้ าหมาย ระยะยาวและเติมเต็มประสิ ทธิ ภาพ คุณเก่งในการทาตามคาสั่งต่างๆ ที่ถูกมอบหมายให้ทีม หรื อกลุ่ม และทาให้องค์กรที่มีการจัดโครงสร้างไว้แล้วสมบูรณ์ข้ ึน  ไว้วางใจได้ คุ ณเป็ นคนที่ พ่ ึ ง พาได้ใ นการท าสิ่ ง ต่ า งๆ ให้แล้วเสร็ จเสมอ คุ ณจะไม่ มี วนทิ้ ง เรื่ องหรื อ ั สิ่ งต่างๆ ค้างคาไว้แล้วหนี หายไป คุ ณรับผิดชอบต่อทุกสิ่ งที่ คุณทา ทาภารกิ จเสร็ จด้วยดี ก่อนเวลา และสามารถรับผิดชอบต่องานที่รับมาภายในขอบเขตที่กาหนด  เห็นอกเห็นใจ คุ ณเป็ นคนที่ ใ ครๆ มาหาพร้ อมด้ว ยปั ญหาเสมอ ถ้า คุ ณพบว่า ตัวเองมัก บ่ น ว่า มี แ ต่ ผูค น ้ ดาหน้ามาหาพร้ อมปั ญหาและสารพัดเรื่ องที่คนเหล่านั้นนึ กได้ การให้พวกเขาได้รู้โดยตรง ถึงความรู ้สึกที่ไม่ค่อยดีนกของคุณอาจเป็ นสิ่ งที่ดีที่สุดก็ได้ ั  มีช้ ั นเชิ งแบบนักการทูต คุณเป็ นผูตดสิ นซึ่ งเป็ นที่ตองการมากในสภาพแวดล้อมแห่งการทางาน ซึ่ งเต็มไปด้วยผูคนที่ ้ั ้ ้ พยายามแข่งกันเพื่อไปให้ถึงจุดสู งสุ ด การเมืองที่ดุเดือดในองค์กรไม่ใช่สไตล์ของคุณถ้ามัน หมายความว่าต้องโค่นล้มคนอื่น คุณอยากพยายามทาให้อะไรๆ สงบลงและเล่นบทผูสร้าง ้ สันติภาพมากกว่า
  • 19.  คิดถึงใจเขาใจเรา การคิดถึงใจเขาใจเราเป็ นลักษณะที่บ่งบอกความเป็ นตัวตนของคุณ แต่ลองคิดดูว่าการเป็ น คนคิ ดถึ งใจเขาใจเราทาร้ ายคุ ณอย่างไรบ้าง คุ ณยุ่งวุ่นวายกับการเอาใจใส่ ความรู ้ สึกของ คนอื่น แต่คุณรู ้หรื อเปล่าว่าตัวเองรู ้สึกอย่างไร  ทาตัวตามสบาย ไม่ มี อ ะไรท าให้ คุ ณ ตกใจได้ง่ า ยๆ คุ ณ ชอบคิ ด ว่า ทุ ก อย่า งมี ที่ ท างและเวลาของมัน เอง มากกว่า ดัง นั้น ที่ สุ ดแล้ว ทุ กสิ่ ง ทุ กอย่า งก็จะเข้า ที่ ท างของมันเอง คุ ณไม่ค่ อยตะโกนสั่ ง หรื อแผดเสี ยงใส่ คนทาผิด คุ ณรั กษามุ มมองของคุ ณในสิ่ งเหล่านี้ และรั บมือกับเรื่ องต่างๆ ทีละเรื่ อง  คิดหน้ าคิดหลัง คุ ณไม่ค่อยอยู่ใต้แสงสี บนเวที หรื อเป็ นคนที่ พูดเสี ยงดัง ที่ สุด คุ ณเป็ นคนค่อนข้างเก็บตัว ชอบที่ จะปล่ อยให้ค นอื่ นใช้เวลาตามสบาย และจะหรี่ แสงไฟสปอตไลท์ล งก่ อนแสดง ความเห็นของคุณ  อารมณ์ราบเรียบ คุณไม่ค่อยมีอารมณ์แปรปรวนสุ ดโต่ง คุ ณเดิ นสายกลางและนาเสนอโลกทัศน์ที่สมดุล ต่อ ทุกคน คนอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะพบว่าคุ ณเป็ นจุดสงบในกึ่ งกลางพายุ หรื อเป็ นโอเอซี สใน ทะเลทรายอยูเ่ สมอ  อดกลั้น คุณไม่ใช่ คนประเภทขี้หงุ ดหงิดที่รีบเร่ งทาอะไรๆ ในนาทีสุดท้ายและเรี ยกร้องสิ่ งที่ “ต้อง เสร็ จตั้งแต่เมื่อวานนี้ ” จากคนอื่น คุณมีความอดทนและแม่พระ คุณยอมรับว่าบางครั้งเรื่ อง ดีๆ ก็ตองใช้เวลา คุ ณอดกลั้นมากและจะทาสิ่ งต่างๆ ให้เสร็ จถ้าต้องทา ในที่ทางาน คุ ณจะ ้ ่ อยูทางานล่วงเวลาถ้าจาเป็ น
  • 20. ด้ านมืด  ยอมแพ้ง่าย อย่าปล่ อยให้คนอื่ นคิ ดว่าคุ ณขาดความกล้า มันเป็ นวิธีที่ได้ผลในการทาให้คนประเภทที่ โหดเหี้ ยมที่สุดเหยียบย่าคุณทุกเมื่อและทุกที่ที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสม ถ้าบางครั้งคุณรู ้สึก ว่าตัวเองขาดความกล้า ตอนนี้คือเวลาที่จะต้องมีมนแล้วละ ั  ไม่ ใช่ ค่ ูแข่ ง ในขณะที่คุณอาจรู ้ สึกว่าการไม่เป็ นคู่แข่งกับใครก็ดีแล้วคุ ณจาเป็ นต้องเรี ยนรู ้ ว่าบางครั้ ง ความก้าวหน้าหมายถึ งการแซงหน้าคนอื่น เรื่ องแบบนี้ ไม่จาเป็ นว่าต้องทาให้คุณเป็ นคน น่าขยะแขยงไปโดยปริ ยาย คุณมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวในการบรรลุความฝันของคุณเพราะ หลีกเลี่ยงการแข่งขันในทุกสนาม  ตัดสิ นใจไม่ เด็ดขาด คุณเป็ นคนที่พดว่า “ที่ไหนก็ได้” เมื่อผูคนกาลังตัดสิ นใจว่าจะไปกินอะไรกันที่ไหน ถึงเวลา ู ้ ทวงสิ ทธิ ของคุ ณที่จะพูดว่า “ไม่เอา ฉันเกลี ยดแฮมเบอร์ เกอร์ ” แล้วและลองผจญภัยด้วย การตัด สิ น ใจหรื อ การแสดงความเห็ น ที่ ไ ม่ เ สี ย หาย ผูค นจะนับ ถื อ คุ ณ มากขึ้ น เมื่ อ คุ ณ ้ เรี ยกร้องสิ่ งที่คุณต้องการจริ งๆ  เข้ มงวด ถ้าคุ ณยึดถื อ “แผนการ” อยู่เสมอ อาจถึ งเวลาถอยหลังสักก้าวและหยุดยึดถื อมันได้แล้ว คุ ณจะไม่มีวนรู ้ ว่าคุ ณสามารถทาอะไรได้บางจนกว่าคุ ณจะออกผจญภัยนอกอาณาบริ เวณ ั ้ ที่คุนเคยและคาดหมายได้ บางครั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็ละเมิดได้นะ ้
  • 21.  หลบเลียง ่ ่ คุณมักหลีกเลี่ยงการต้องบอกเรื่ องที่ไม่น่าพอใจต่อหน้าพวกเขา แต่วิธีน้ ี ใช่วาจะได้ผลเสมอ ไป จงหัดพูดสิ่ งที่คุณไม่ชอบจริ งๆ กับผูคนอย่างไม่ออมค้อมไม่สาคัญหรอกว่าพวกเขาแคร์ ้ ้ คุณหรื อไม่ เพราะคุณไม่ได้แคร์ ในสิ่ งที่พวกเขาคิด  ผัดวันประกันพรุ่ ง ความเอื่อยเฉื่ อยนั้นไม่เป็ นไรหรอกถ้าคุณตั้งใจทาแบบนั้น อย่างเช่นตอนที่คุณหยุดพักร้อน ่ แต่คุณรู ้วาคุณต้องรี บเมื่อมีเรื่ อง “ฉุกเฉิน” บางอย่างขึ้นมาในขณะที่คุณกาลังจิบกาแฟ และ เพลิดเพลินกับการกินโดนัทเป็ นอาหารเช้า  ยุติธรรม คุ ณเป็ นคนมีวินยมากและมี มาตรฐานต่างๆ ยึดถื ออยู่อย่างไรก็ตาม คุ ณมีแนวโน้มที่จะใช้ ั ั ่ มาตรฐานเดียวกันนี้ กบคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่วาทุกคนจะอยากเหมือนกันหมด และผูคนต่างก็มี ้ เหตุผลที่แตกต่างกันในสิ่ งที่พวกเขาทา
  • 23. ด้ านดี นักสร้ างสันติภาพ “คนดีของทีทางาน” ่ คนโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลเป็ นคนดี เ สมอต้น เสมอปลายของที่ ท างาน หรื อ เป็ นคนท างาน เบื้ องหลัง ที่ เป็ นมิ ตร พวกเขาหาวิธี ที่ จะชอบคนอื่ นเสมอ ผลคื อพวกเขามัก เป็ นที่ รักในที่ ท างาน โดยทัวไปเรื่ องหลักที่พวกเขาให้ความสาคัญคือ การสร้ างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสมัครสมานกลม ่ ่ เกลียว หรื อเหมือนในละครซิ ทคอมเรื่ อง เชี ยร์ ส ที่โด่งดังในทศวรรษที่ 1980 ที่วา “ที่ซ่ ึ งใครๆ ก็รู้ชื่อ คุณ” คนโครงสร้างอิทธิ พลมีช้ นเชิงแบบนักการทูต พวกเขาจะพยายามมองหาจุดที่เป็ นกลางของ ั สถานการณ์ จึงถูกมองว่าเป็ นนักสร้างสันติภาพ เนื่ องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะลดความขัดแย้งกับ คนอื่นและระหว่างคนอื่นด้วยกันให้เหลือน้อยที่สุด ดังนั้นในสานักงานที่เต็มไปด้วยคนอัตตาสู งที่ คอยแต่จะเหยียบหัวคนอื่ นนั้น พวกเขาจึ งเป็ นเหมื อนลมหายใจสดชื่ นที่ คานึ งถึ งทุกคน ไม่ใช่ แค่ ตัวเองเท่านั้น คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลเป็ นคนที่ เหมาะที่ จะรั บมื อกับคนเจ้าปั ญหาและขี้ บ่นที่ สุด โดยใช้ ความเห็นพ้องเป็ นตัวขับเคลื่อน หาวิธีลดความแตกต่างให้เหลือน้อยที่สุด และทาให้เกิดลักษณะร่ วม หรื อความเป็ นสากลให้ ม ากที่ สุ ด รวมทั้ง จะไม่ ท าอะไรในแบบสุ ด โต่ ง ที่ ท าลายความประสาน กลมกลื นกันของที่ทางาน หรื อไม่ พยายามแสดงความสามารถพิเศษของตนเองด้วยวิธีที่ทาให้คน ่ อื่นรู ้สึกว่าเป็ นการคุกคาม ทั้งหมดนี้เป็ นเรื่ องของการไม่สร้างความวุนวายนันเอง ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  กลมกลืน  เป็ นมิตร  ขับเคลื่อนด้วยการเห็นพ้อง  มีช้ นเชิงแบบนักการทูต ั
  • 24. มั่นคง “ฉันคือหินผา” ่ คนโครงสร้างอิทธิพลไม่ใช่คนเปราะบางหรื อแตกสลายง่ายซึ่ งอารมณ์แปรปรวนอยูทุกนาที ในที่ทางาน คุณรู ้เสมอว่าจะหาพวกเขาพบได้ที่ไหน พวกเขามันคงดุจก้อนหิ นในทุกสิ่ งที่ทา และไม่ ่ ค่อยก้าวออกนอกเส้นเพียงเพื่อจะพิสูจน์อะไรหรื อเพื่อทาให้ใครราคาญใจ เป็ นคนประเภทที่ไว้ใจได้ เต็มที่ในการให้รับผิดชอบทาอะไรๆ จนสาเร็ จลุล่วง ่ ผูคนมักพบว่าคนโครงสร้างอิทธิ พลอยูตรงนั้นในที่ทางานเพื่อช่ วยใครต่อใครคนเหล่านั้น ้ จึงมักเข้าไปหาเพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ใช่คนที่มีนิสัยใจ คอและอารมณ์ที่สุดโต่ง รวมทั้งไม่ค่อยระบายอารมณ์ใส่ ผคนรอบข้าง ู้ ขอให้แน่ ใจได้ว่า คนโครงสร้ างอิ ทธิ พ ลไม่ ได้มีทศ นคติ แบบขอเป็ นนางเอกเพีย งเพื่ อจะ ั แสวงประโยชน์ดวยความเห็นแก่ตว พวกเขารอบคอบและชัดเจนมากในวิธีการและการกระทาของ ้ ั ตน จึงสร้ างความรู ้ สึกหนักแน่ นมันคงในหมู่ผูคนที่ห้อมล้อมได้ พวกเขาละเอียดถี่ ถวนและค่อยๆ ้ ้ ่ ใช้เวลาในการเข้าถึงหัวใจของเรื่ องก่อนลงมือทาอะไร ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไว้วางใจได้  ไม่สร้างความปั่ นป่ วน  ชัดเจน  รอบคอบและละเอียดถี่ถวน ้
  • 25. เข้ าใจความรู้สึกของคนอืน ่ “อ่อนไหวต่ อความรู้ สึกของคนอืน” ่ คนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ใช่คนไร้หวใจ โหดเหี้ ยม และชอบแก่งแย่งแข่งขันประเภทที่ตอง ั ้ กาจัดทุกคนให้พนทาง แท้จริ งนั้นเพราะการขาดความได้เปรี ยบในการแข่งขัน พวกเขาจึงมักคานึ ง ้ และคิดถึงคนอื่น และให้ความสาคัญแก่ประโยชน์ของคนอื่นเหนื อกว่าของตัวเอง ด้วยเหตุน้ ี ผคนจึง ู้ พบว่าพวกเขาเป็ นคนประเภทที่คานึงถึงคนอื่น และอ่อนไหวต่อความต้องการของคนอื่น ในสภาพแวดล้อมแห่ งการแข่งขัน คนโครงสร้างอิทธิ พลระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ทาร้าย ความรู ้ สึกของคนอื่น หรื อไม่ทาให้คนอื่นรู้ สึก ด้อยกว่าหรื อไร้ คุณค่าในทางใดๆ ทั้งสิ้ น แบบนั้น ไม่ใช่สไตล์ของพวกเขาเลย ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงมักปล่อยให้คนอื่นชนะหรื อแซงหน้าไปเพื่อรักษา มิตรภาพหรื อความสัมพันธ์ทางอาชีพการงาน คนโครงสร้างอิทธิ พลยึดคนเป็ นศูนย์กลาง สภาพแวดล้อมแห่ งการทางานที่ดีสาหรับพวก เขาคือที่ที่ผคนรู ้สึกมันคง มีความสุ ข และพึงพอใจ ไม่ใช่ที่ทุกคนรู ้สึกกระสับกระส่ าย ไม่มนคง และ ู้ ั่ ่ พร้อมที่จะต่อสู ้ทาลายกัน ฟังดูอาจเหมือนความปรารถนาธรรมดาๆ แต่ก็มีผคนมากมายที่ไปได้ดีใน ู้ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอัตตาที่เปราะบางและความรู ้สึกเจ็บซ้ า ทว่าคนโครงสร้างอิทธิ พลไม่ใช่ หนึ่งในคนพวกนั้น ดังนั้นจึงมักได้รับการจดจาหรื อระลึกถึงว่าเป็ นคนใจดีและช่างคิด ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ห่วงใยใส่ ใจ  มีทศนคติที่ให้ความสาคัญแก่คนก่อน ั  ไม่ชอบทาร้ายความรู ้สึกของคนอื่น  ไม่เห็นแก่ตว ั
  • 26. ช่ วยเหลือเกือกูล ้ “แบกรับนาหนักของทีทางาน” ้ ่ ถ้า คนโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลสนับ สนุ น ความเป็ นเหตุ เ ป็ นผล บุ ค คลหรื อ บริ ษ ัท เต็ม ร้ อ ย เปอร์ เซ็นต์ พวกเขาจะทุ่มทั้งตัวในงานของพวกเขา และจะช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างดีเหมือนเสาที่ค้ ายัน หลัง คาเอาไว้ในจุ ดที่ ควรค้ า เพื่อไม่ ให้หลัง คาถล่ ม ลงมาบนพื้น พวกเขามุ่งเน้นไปยังสิ่ งที่ ดีที่สุ ด สาหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น ด้วยเหตุน้ ีคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงเป็ นผูสนับสนุ นที่สมบูรณ์แบบ และให้ความร่ วมมือดียิ่ง ้ ในการทาให้เป้ าหมายของบริ ษทหรื อของโครงการบรรลุผลสาเร็ จ เพราะพวกเขาใส่ ใจผูคนจึงให้ ั ้ คุ ณ ค่ า แก่ ค วามหลั ก แหลมและการสนั บ สนุ น ของที ม งาน รวมทั้ง พยายามที่ สุ ดที่ จ ะสร้ า ง ่ สภาพแวดล้อมที่ทาให้ทุกคนสบายใจ พวกเขาอดทนเหลือเชื่อ และบางครั้งก็ผอนปรนเกินไปในการ รอคอยเป็ นเวลานานๆ เพื่อให้คนอื่นทางานเสร็ จ เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พลเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นและเห็นอกเห็นใจคนอื่นมาก พวกเขาจึงได้รับความภักดีและความสนับสนุนมากมายเหลือเชื่อจากผูคนที่เชื่ อถือ ด้วยเหตุน้ ี บรรดา ้ เจ้านายและผูจดการจึ งอาจพบว่าพวกเขามี ประโยชน์ในการเกลี้ ยกล่ อมคนอื่ นๆ ให้เห็ นชอบใน ้ั บางเรื่ องบางประเด็นที่มีปัญหาความเห็นขัดแย้งกัน ด้วยธรรมชาติของการเป็ นผูประสาน พวกเขาจะ ้ หาทางท างานร่ วมกับคนอื่ น เพราะสั ญชาตญาณของพวกเขาคื อการทางานร่ วมกันไม่ใ ช่ ทางาน อย่างไม่ลงรอยกันหรื อขัดแย้งกัน ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อานวยความสะดวก  ยึดทีมงานเป็ นศูนย์กลาง  ไม่ล้ าเส้น  ให้ความร่ วมมือและมุ่งมัน ่
  • 27. ด้ านไม่ ดี เฉื่อยเนือย “บอกสิ ว่าจะให้ ทาอะไร แล้วฉันจะทาให้ ” ในอีกด้าน เมื่อคุณลักษณะสาคัญของคนโครงสร้างอิทธิ พลเป็ นด้านลบ พวกเขาจะทาทุก อย่างด้วยความเฉื่ อยเนือยอย่างน่าตกใจและน่าราคาญ หมายความว่าพวกเขาจะทาสิ่ งที่ตองทา (จาได้ ้ หรื อไม่ว่าพวกเขาไม่เคยก่อความวุ่นวายขนานใหญ่) แต่จะไม่ประดิ ษฐ์คิดค้นหรื อทาเกิ นกว่าสิ่ งที่ คาดหวังให้ทาตั้งแต่แรก คนโครงสร้ างอิ ทธิ พลเก่ งในการทาตามกฎและคาสั่ง พวกเขาจะทาสิ่ งที่ ได้รับการขอให้ ทาหรื อถูกสั่งให้ทา แต่จะไม่ริเริ่ มคิ ดหาแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปั ญหา หรื อไม่แบกรั บความ รับผิดชอบต่อสิ่ งผิดธรรมดาที่ไม่คุนเคย ซึ่ งหมายความว่าการให้พวกเขาเริ่ มต้นทาอะไรบางอย่าง ้ ด้วยตนเองนั้นเป็ นเรื่ องยาก เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้ างอิทธิ พลจึงทางานที่ให้คาแนะนาได้ง่าย แต่ให้แรงบันดาลใจแก่ คนอื่นหรื อถูกกระตุนให้นาคนได้ยาก พวกเขาตอบสนองแผนงานที่มีรายละเอียดได้ดีมาก แต่การ ้ หวังให้พวกเขาทาสิ่ งต่างๆ ให้เสร็ จด้วยตัวเองโดยไม่มีการแนะนาก็เท่ากับการแพ้รบ พวกเขาจะเริ่ ม ่ ทางานก็ต่อเมื่อมีภาพร่ างของแผนที่ชดเจนอยูแล้วหรื อเป็ นภารกิจที่มีคาอธิ บายอย่างชัดเจนตั้งแต่ตน ั ้ จนจบ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ขาดความริ เริ่ ม  ตามมากกว่านา  ต้องได้รับการแนะนา  ยอมแพ้ง่าย
  • 28. ทาลับๆ ล่อๆ “ไม่ ทาต่ อหน้ า แต่ ทาลับหลัง” การท าลับ ๆ ล่ อ ๆ อาจไม่ เ ข้า กับ คุ ณลัก ษณะใจดี และค านึ ง ถึ ง คนอื่ นของคนโครงสร้ า ง อิทธิ พล แต่นี่เป็ นสุ ดปลายอีกข้างหนึ่งของคลื่นแสง นันคือเมื่อความเป็ นคนดีของพวกเขาเลยเถิดไป ่ หรื อสุ ดโต่ง พวกเขาจะใส่ ใจเกินไปกับการอยากรักษาความผูกพันที่ดีเอาไว้ และวิตกเกินไปกับการ ปกป้ องคนอื่นหรื อการไม่ทาให้คนอื่นอารมณ์เสี ย พวกเขาเกลียดความขัดแย้ง ด้วยเหตุน้ ี ถาคนโครงสร้างอิทธิ พลไม่มีความสุ ขกับอะไรบางอย่าง ก็จะบ่นถึงสถานการณ์ ้ นั้นลับหลังคุณ ไม่ใช่ ต่อหน้า พวกเขาไม่ค่อยเดิ นมาหาคุ ณและบอกว่ามีอะไรผิดพลาด ไม่ยอมรับ การไม่มีความสุ ขหรื อที่มาแห่ งความขัดแย้งของตน และพบว่าการอ้อมผ่านปั ญหาไปนั้นง่ ายกว่า จัดการกับ ปั ญหา นี่ คื อคนที่พ ร้ อมจะแกล้ง ทาเป็ นว่าช้า งสี ม่ วงตัวใหญ่ ที่ อยู่ก ลางห้องนั่ง เล่ นนั้น ่ ไม่มีอยูจริ ง ทัศนคติน้ ี สามารถทาให้คนอื่นอึดอัดใจ โดยเฉพาะคนที่เถรตรงและคนตรงซึ่ งชอบความ เปิ ดเผย แต่พวกเขาอยากปกปิ ดมันไว้มากกว่าที่ จะอยากพัวพันกับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อหรื อที่อาจ จะเกิ ดขึ้ น ซึ่ งพวกเขารู ้ สึกว่ามันจะก่ อให้เกิ ดความวุ่นวาย สร้ างความปั่ นป่ วนหรื อให้ใครบางคน ขุ่นเคือง นี่เป็ นเรื่ องต้องห้ามสาคัญของพวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ ่ ้  คนประเภทหลบอยูขางหลัง  ไม่ใช่คนตรง  กลัวการเผชิญหน้า  กลัวการล่วงเกินคนอื่น
  • 29. ขาดความรีบเร่ ง “มีอะไรต้ องรีบหรือ” คนโครงสร้างอิทธิ พลยังมีปัญหาสาคัญในการบริ หารเวลาอีกด้วย พวกเขากังวลมากไปกับ การทาให้แน่ใจว่าอะไร ดาเนินไปอย่างถูกต้อง จนกระทังบางครั้งเสี ยจุดสนใจไปกับการมัวแต่ทาให้ ่ แน่ ใจว่าภารกิ จของตัวเองกาลังดาเนิ นไปอย่างถูกต้อง ที่สาคัญกว่านั้นคื อ พวกเขาขาดสานึ กแห่ ง ความเร่ ง ด่ วนและมี แนวโน้ม จะเหมื อ นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรในแง่ ข องความละเอี ย ดถี่ ถ้ว น รวมทั้งการเคร่ งครัดกับระเบียบวิธีและความถูกต้อง ด้วยเหตุน้ ีคนโครงสร้างอิทธิ พลจึงไม่ใช่คนที่คุณควรหันไปหาในยามที่ตองการความเร่ งรี บ ้ ในเรื่ องบางอย่าง พวกเขาอาจสัญญาที่จะส่ งมอบงานให้ แต่แล้วกลับใช้วธีถ่วงเวลาเพื่อแช่เรื่ องต่อไป ิ ่ อีก เพราะรู ้วาไม่สามารถทาให้เสร็ จทันเวลาได้ สาเหตุหลักของเรื่ องนี้คือ สานึกที่ย่าแย่ในเรื่ องการบริ หารเวลา เพราะคนโครงสร้างอิทธิ พล ไม่ริเริ่ มที่จะปรับปรุ งอะไรๆ ให้ดีข้ ึน มีแนวโน้มที่จะทาอะไรๆ ด้วยวิธีเดิ มๆ และด้วยลูกเล่นเดิมๆ ลักษณะแบบนี้อาจทาให้พวกเขาเดือดร้อนได้ในยามที่จาเป็ นต้องปรับตัวให้เข้ากับวิธีใหม่หรื อสลับ สับเปลี่ยนอะไรๆ เสี ยใหม่ แต่แล้วก็พบว่าตัวเองไม่สามารถทาได้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ขาดการบริ หารเวลา  มองไม่เห็นความจาเป็ น  มีแนวโน้มที่จะยึดมันกับวิธีที่เคร่ งครัด ่  ไม่ปรับปรุ งวิธีการให้ดีข้ ึน
  • 30. ชอบตัดสินไม่ เด็ดขาด “หรือทีจริงคือกลัวการตัดสิ นใจเด็ดขาด” ่ ข้อบกพร่ องส าคัญ อี ก อย่า งหนึ่ ง ของคนโครงสร้ า งอิ ท ธิ พ ลคื อ ขาดความกล้า หาญที่ จ ะ ตัดสิ นใจ ส่ วนหนึ่ งของลัก ษณะนี้ แตกแขนงมาจากความอยากเอาใจของพวกเขา การตัดสิ นใจ หมายถึ ง มี จุดยืน และการมี จุด ยืนหมายถึ ง การท าให้ใ ครบางคนขุ่น เคื อ งในขณะที่ ค นอื่ น พอใจ แล้วสิ่ งที่พวกเขาทาไม่ได้คืออะไร ก็คือการทาให้ใครบางคนขุ่นเคืองไงล่ะ ่ ถ้าคนโครงสร้างอิทธิพลเรี ยนรู ้วาไม่มีใครสามารถทาให้ทุกคนถูกใจได้ พวกเขาจะตัดสิ นใจ ได้เด็ดขาดมากขึ้น และจะสามารถนาคนอื่นและมีจุดยืนที่ดีข้ ึน แต่พวกเขามักติ ดอยู่ในกับดักของ การอยากเอาใจคนอื่นและไม่อยากล่วงเกินใคร ซึ่ งเป็ นการทาลายตัวเองโดยปริ ยาย เพราะไม่มีใคร สามารถเอาใจทุกคนได้ตลอดเวลา การจะตัดสิ นใจเด็ดขาดได้ คนๆ นั้นต้องลดความกังวลใส่ ใจใน สิ่ งต่างๆ ลงบ้างและนิ่งให้มากขึ้น การขอคาแนะนาที่ตรงไปตรงมาหรื อมีวิจารณญาณจากคนโครงสร้ างอิทธิ พลนั้นไม่ค่อย ได้ผล เพราะจะไม่ค่อยได้รับ พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้คาหวานในการพยายามให้คาแนะนาที่จืดชืด และไม่ต่อต้านใคร แต่ไม่ค่อยเป็ นประโยชน์หรื อสร้ างสรรค์อะไรนัก ดังนั้นการทางานร่ วมกับคน โครงสร้างอิทธิ พลจึงหมายความว่าต้องเตรี ยมพร้อมสาหรับการตรวจสอบประเด็นเดียวกันซ้ าๆ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ละล้าละลังในการตัดสิ นใจ  ไม่ค่อยมีจุดยืน  ให้คาแนะนาและความเห็นด้วยคาหวาน  ไม่อยากรับผิดชอบ / ไม่อยากนา
  • 31. อาชีพการงานทีเ่ หมาะสม  การบังคับใช้ กฎหมาย คนโครงสร้างอิทธิ พลกาหนดและทาตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้เป็ นเลิศ การเคารพบรรทัดฐาน ทางสังคมและขนบธรรมเนี ยมต่างๆ และที่ สาคัญกว่านั้นคือความเคารพต่อกฎหมายและ กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ปกครองชุมชนใดๆ ซึ่ งเป็ นธรรมชาติและปกติวิสัยของพวกเขา คือจุดแข็ง ที่เฉี ยบขาด เมื่อพวกเขาทางานที่ เกี่ ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็ นบทบาท ของหัวหน้างานหรื อเจ้าหน้าที่ที่บงคับใช้กฎหมาย พวกเขาไม่จาเป็ นต้องได้รับการอบรม ั ่ หรื อการสอนให้เคารพกฎหมาย เพราะพวกเขาเป็ นอย่างนั้นอยูแล้ว ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงนา เกียรติภูมิที่สูงส่ งมาสู่ งานของพวกเขา  บริหารจัดการและอานวยการ คนโครงสร้างอิทธิ พลมีแนวโน้มที่จะรักษาสิ่ งต่างๆ ให้มีโครงสร้างและการจัดระเบียบที่ดี ซึ่ งทาให้พวกเขาเป็ นตัวเลือกในอุดมคติสาหรับบทบาทการบริ หารจัดการหรื ออานวยการ ในองค์ก ร เมื่ อ มี แ ผนที่ ชัด เจนให้ ยึ ด ถื อ พวกเขาจะท าให้ แ น่ ใ จว่ า ทุ ก คนท าตามแผน นอกจากนั้นแล้ว ความสามารถของพวกเขาที่จะเล่นบทคนดีและเป็ นนักสร้างสันติภาพผูมี ้ ชั้นเชิ งทางการทูตเป็ นหลักประกันได้ว่าพวกเขามี ความรั บผิดชอบที่ จะปฏิ บติต่อทุ กคน ั อย่า งเป็ นธรรม และรั กษาสภาพแวดล้อมในการท างานให้มี ความปลอดภัยและสะดวก สบายสาหรับทุกคน และไม่ค่อยถูกจูงใจด้วยความโลภส่ วนตัว ความเห็นแก่ตว หรื อความ ั ทะเยอทะยานทางการเมือง
  • 32.  งานด้ านทรัพยากรมนุษย์ เพราะเหตุที่ความสนใจและแรงจูงใจหลักของคนโครงสร้างอิทธิ พลคือ คน ดังนั้นเส้นทาง ของงานบริ หารจัดการทรัพยากรมนุ ษย์จึงเหมาะกับความสามารถพิเศษและทักษะของพวก เขา พวกเขาแสวงหาพื้นที่แห่ งสันติและเป็ นกลางให้แก่บรรดาลูกจ้างในที่ทางานได้อย่าง เป็ นธรรมชาติ โดยที่ ไม่ตองละทิ้งกฎเกณฑ์และนโยบายต่างๆ ของนายจ้าง นอกจากนั้น ้ ความสามารถเข้าใจความรู ้ สึกของคนอื่นและความอ่อนไหวของพวกเขา พวกเขาเป็ นตัว แทนที่ดี ด้วยแนวโน้มตามธรรมชาติด้านความชัดเจน วิธีการและการกระทาที่รอบคอบ ทาให้พวกเขาเป็ นบุคคลในอุดมคติที่ผูคนในที่ทางานมุ่งไปขอความช่วยเหลื อในประเด็น ้ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและประเด็นที่เกี่ยวกับพนักงาน  ครู นักการศึกษา คนโครงสร้างอิทธิ พลมีความอดทนอย่างมากและทาตัวตามสบาย พวกเขาไม่หงุ ดหงิ ดที่ ต้องอธิ บายสิ่ งต่างๆ ซ้ าแล้วซ้ าอีก จึงสามารถเป็ นครู ที่ดีและเอื้ออารี และไม่ข่มขวัญลูกศิษย์ ของตนเอง นอกเหนื อจากความสามารถในการเข้าใจความรู้ สึกของคนอื่นและคานึ งถึ ง ความต้องการของนักเรี ยนแล้ว พวกเขายังเป็ นคนที่ให้ความเอื้อเฟื้ อเกื้ อกูลและความเอาใจ ใส่ อย่างมากมายเหลือเชื่อด้วย
  • 33. บทบาทในงาน และสภาพแวดล้ อมทีเ่ หมาะสม  ทาไปตามแผนการทีมีรายละเอียด ่ คนโครงสร้างอิทธิพลไม่ใช่คนประเภทที่ถูกจับโยนลงไปในน้ าลึกแล้วจะว่ายน้ าเป็ นได้เอง พวกเขาต้องมีอุป กรณ์ ช่วยพยุงเตรี ยมไว้ให้ ในท านองเดี ยวกัน ในที่ ทางานก็อย่าหวังว่า พวกเขาจะสามารถทาอะไรไปตามสถานการณ์หรื อเลื่อนไหลไปตามกระแสได้ พวกเขา อยากได้คาแนะนาที่ละเอียดที่ช่วยให้พวกเขาสามารถปฏิบติและบรรลุผลสาเร็ จได้ ความ ั ต้องการที่ จะรอบคอบ ละเอี ยดถี่ ถ้วน และแน่ ชัดของพวกเขานั้นทาให้ก ารเปลี่ ยนแปลง ปุบปั บและเรื่ องไม่คาดฝันในนาทีสุดท้ายไม่มีวนเกิดขึ้นได้ ั  แข่ งขันให้ น้อย ร้ องเพลงรอบกองไฟให้ มาก ก็ไม่ตองถึ งขนาดนั้นหรอกนะ ในขณะที่ไม่มีความจาเป็ นที่จะต้องกาหนดชัวโมงเล่นกอง ้ ่ ไฟให้บรรดาพนักงานมานังล้อมวง จับมือกัน และร้ องเพลงประสานเสี ยงกี ตาร์ น้ น สิ่ งที่ ั ่ สาคัญคือ สภาพแวดล้อมในการทางานที่ กลมกลื นและสงบสุ ข คนโครงสร้ างอิทธิ พลมี จุดแข็งและความสามารถพิเศษในระดับสู งสุ ดสาหรับเรื่ องนี้ นาไปสู่ ผลที่ได้คือ ผูคนเข้ากัน ้ ได้ และไม่มีการเมืองที่ต่อสู ้แข่งขันกันอย่างรุ นแรงในสานักงาน การทางานในสถานที่ ที่ อัตตาตัวตนสาคัญยิงใหญ่กว่างานเป็ นต้นเหตุแห่งความหดหู่ใจสาหรับพวกเขา ่