SlideShare a Scribd company logo
1 of 39
Download to read offline
นักสร้ างสรรค์
(โครงสร้ างผลผลิต)
ช่ างประดิษฐ์ คดค้ น รักสนุก
ิ
ชอบแสดงออก

~1~
เผิงโหย่ว
บุคลิกภาพ
บทนา
นักสร้ างสรรค์ (โครงสร้ างผลผลิต)
บุคลิ กภาพของโครงสร้ างผลผลิ ตคืออะไร พวกเขาคือนักสร้ างสรรค์ กล่าวโดยสรุ ปได้ว่า
พวกเขาเป็ นนักสร้ างแนวคิด นักร่ ายมนตร์ และนักสร้ างวิสัยทัศน์ พวกเขามี แรงดึ งดูดและเสน่ ห์
อย่างยิ่งในฐานะนักสร้ างสรรค์ พวกเขาเป็ นผูคิดแผนการและโครงสร้ างและสร้ างสรรค์เรื่ องราว
้
เบื้องหลัง พวกเขามีความสามารถพิเศษและฉลาดในงานบุกเบิกสร้างสรรค์ เป็ นนักเล่าเรื่ องและเป็ น
ศูนย์กลางความสนใจ มักเป็ นดาวเด่นของการแสดงอย่างไม่ตองสงสัย
้
คนโครงสร้างผลผลิตมีอารมณ์ขน ไหวพริ บ และความสามารถสู งในการแสดงออก พวก
ั
เขาใช้ชีวิตกับความสุ ขในปั จจุบน มีพลังงานล้นเหลื อ กระตือรื อร้ นอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด และมีความ
ั
มุ่งมันในโครงการหรื อสิ่ งที่ดึงดูดความสนใจ พวกเขาสนุ กกับความโดดเด่ นและแตกต่าง มักคิ ด
่
นอกกรอบและมี ความคิ ดสดใหม่ เราจะพบคนโครงสร้ างผลผลิ ตท่องไปตามเส้นทางใหม่ๆ หรื อ
แนวคิ ดใหม่ ๆ มี พ รสวรรค์ใ นการแสดงออกด้วยถ้อยค าและการพูด จาฉาดฉานและเก่ ง ในการ
แสดงออกด้วยกิริยาท่าทาง
บางครั้ ง คนโครงสร้ างผลผลิ ตก็ อาจพูดเกิ นจริ งมากไป และเป็ นราชิ นี (หรื อราชา) แห่ ง
การแสดง มี แนวโน้มที่ จะทาตัวประหลาดและตื่นเต้นง่ าย รวมทั้งมี แนวโน้มชอบโฆษณาตัวเอง
่
ซึ่ งสนใจเฉพาะสิ่ งใหม่ๆ สิ่ งที่ดีเลิ ศ หรื อสิ่ งที่น่าสนใจ นอกนั้นล้วนไม่อยูในสายตา ถึงแม้พวกเขา
จะไม่ใช่คนเห็นแก่ตว แต่ก็อาจแสวงประโยชน์จากคนอื่นเพื่อตัวเอง
ั

~2~
ด้ านดี
เป็ นธรรมชาติ
“ไวต่ อแรงกระตุ้นและสนุกสนาน”
คนโครงสร้ างผลผลิตคือคนกระฉับกระเฉงที่เต็มไปด้วยอารมณ์สนุ กสนานอย่างล้นเหลื อ
สนุกกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นตรงหน้า และมักพร้อมที่จะแล่นไปตามแรงกระตุนของตน เพราะพวกเขา
้
ไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนี ยมและเฝ้ ามองออกไปค้นหาเหตุการณ์ ผูคน แนวคิดและสิ่ งต่างๆ ที่สด
้
ใหม่เสมอ
คนโครงสร้างผลผลิตมีบุคลิกภาพดึงดูดใจอย่างยิ่ง และคอยหาวิธีที่จะทอประกายฉายแสง
พวกเขาต้องการความละลานตา การแสดง และความลึกลับ เมื่อบวกกับอารมณ์สนุ กสนานของพวก
เขาแล้วก็ทาให้พวกเขาเป็ นคนที่ ใครๆ ก็อยากมาห้อมล้อม พวกเขาร่ าเริ งและเบิกบาน เปี่ ยมด้วย
พลังงานและความกระตือรื อร้นสาหรับแผนการที่ดีที่สุด
สานึกแห่งความอยากรู ้อยากเห็นยังทาให้คนโครงสร้างผลผลิตสดชื่ น คอยแสวงหาสิ่ งที่น่า
ตื่นใจอยูเ่ สมอ พวกเขาชอบตั้งคาถาม มีชีวตอยูกบปั จจุบน และแพร่ สิ่งเหล่านี้ ไปสู่ ผคนรอบตัวในวง
ิ ่ ั
ั
ู้
่
กว้าง พวกเขาไม่ชอบความจาเจ สิ่ งที่คาดเดาได้และคงที่อยูอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่ค่อยน่าเบื่อ
 ไวต่อแรงกระตุน
้
 กระตือรื อร้นกับสิ่ งใหม่ๆ
 จดจ่อกับความน่าตื่นเต้นที่สดใหม่

~3~
ชอบสั งคม
“ทั้งโลกเป็ นผู้ชมของพวกเขา”
คนโครงสร้ างผลผลิ ตมีธรรมชาติ ที่ชอบใส่ ใจกับสิ่ งภายนอกมากที่ สุด พวกเขาชอบผูคน
้
ั ้
และเพลิ ดเพลิ นกับการคลุ กคลี กบผูคน เป็ นเพื่อนกับผูคนได้ง่าย โดยเฉพาะหลังจากที่ คนคนนั้น
้
กระตุนความสนใจของพวกเขา พวกเขาเพลิดเพลินกับการรวบรวมผูคนที่มีสติปัญญา ความสามารถ
้
้
พิเศษ คนที่มีไหวพริ บปฏิภาณ และคนที่แตกต่างไว้รอบตัว และอันที่จริ งพวกเขาก็เป็ นคนประเภทที่
มีกลุ่มแฟนเล็กๆ ห้อมล้อมรอบตัวด้วยเช่นกัน
พรสวรรค์และความมี ชีวิตชี วาตามธรรมชาติของคนโครงสร้างผลผลิตทาให้ พวกเขาเป็ น
่
แขกรับเชิญที่เก่งในการสร้างความบันเทิงและมีผคนห้อมล้อมมากมาย พวกเขาต้องการอยูในที่ที่เต็ม
ู้
ไปด้วยกิ จกรรม และเพลิ ดเพลิ นกับช่ วงเวลาแห่ งความสนุ กที่ยิ่งกว่านั้นคือเป็ นการใช้เวลาร่ วมกับ
ผูคน ไม่ใช่อยู่ตามลาพัง พวกเขามักได้รับเสี ยงปรบมือและมีเสี ยงหัวเราะรอบตัว และจะสร้างสาน
้
มนุษยสัมพันธ์เพื่อที่จะได้มีสิ่งเหล่านี้อยูเ่ สมอ
ั
คนโครงสร้างผลผลิตมีความสามารถพิเศษในการพูด เป็ นที่รู้กนว่าพวกเขาสามารถเสกสรร
เรื่ องราวที่ เรี ยกเสี ยงหัวเราะได้ตลอดเวลา เก่ งในการดึ งคนที่หมกมุ่นแต่เรื่ องของตัวเองให้หันมา
สนใจโลกภายนอกบ้าง และสามารถทาให้คน “ขี้ อาย” หายเขินและหัวเราะได้ ความสามารถใน
การมองด้านดี ของสิ่ งต่างๆ ยังทาให้พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็ นคนมี คุณค่าสู งในฐานะผูร่วม
้
สมคบคิด ผูร่วมนาเชียร์ และในฐานะเพื่อนและเพื่อนร่ วมงานด้วย
้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เป็ นมิตร
 ชอบสังคม
 เก่งดึงคน
 ชอบรู ้จกกับผูคนเยอะๆ
ั
้
 ชอบใช้เวลาร่ วมกับคนอื่น

~4~
กระตือรือร้ น
“แพร่ กระจายพลังงานทีดี”
่
คนโครงสร้างผลผลิตมักถูกผูคนที่ชื่นชอบพวกเขาจดจาได้ทนที ไม่มีช่วงเวลาแห่ งความจืด
้
ั
่
ชืดน่าเบื่อเมื่ออยูท่ามกลางคนเหล่านั้น เพราะพลังงานที่สูงยิ่งของพวกเขานั้นสามารถส่ งผลกระทบ
ต่อเนื่องผ่านไปที่คนอื่นๆ ได้จริ ง ผูคนจะรู ้สึกสดชื่ นและอิ่มเอิบเมื่อได้ห้อมล้อมพวกเขา เพราะพวก
้
เขารู ้วธีทาให้เรื่ องราวต่างๆ น่าสนใจ มีชีวตชีวาและรู ้วธีสร้างบรรยากาศที่ดี
ิ
ิ
ิ
คนโครงสร้างผลผลิตยังชอบส่ งผ่านความกระตือรื อร้นของพวกเขาไปสู่ ผคนที่ชื่นชอบด้วย
ู้
พวกเขาสามารถแสดงความรั กและอารมณ์ ได้อ ย่างอิ ส ระ ชอบกอดเพื่ อนๆ หรื อเล่ นผมของพี่ ๆ
น้องๆ อยู่ตลอดเวลา ท่าทางดูเหมือนเป็ นคนค่อนข้างขี้กลัวหรื อไร้เดียงสา แต่นี่เป็ นแค่ผลข้างเคียง
ตามธรรมชาติของความอยากรู ้อยากเห็นที่เร่ าร้อนของพวกเขาเท่านั้น พวกเขามีชีวิตชี วามาก และมัก
แสดงความรู้สึกออกมาทางสี หน้า
เรื่ องราวในกระแสความสนใจและแม้เรื่ องซุ บซิ บเป็ นสิ่ งเติ มเชื้ อไฟให้แก่ คนโครงสร้ าง
ผลผลิ ต พวกเขาสนุ กกับการได้รู้เรื่ องวงในและการได้มีส่วนร่ วมเพราะพวกเขาเป็ นผูมีส่วนร่ วมที่
้
ตื่นตัวในเกมชี วิต ไม่ใช่ ผเู ้ ฝ้ ามองหรื อผูสังเกตการณ์ พลังงานและความหลงใหลในสิ่ งที่ทาก็ทาให้
้
พวกเขาเป็ นคนฉลาดและมีความรู้มากด้วย ที่จริ งคนโครงสร้างผลผลิตมักเฉี ยบแหลมตื่นตัว และมี
่
ความสามารถในทุกเรื่ องที่พวกเขาสนใจอยูในขณะนั้น
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เปี่ ยมด้วยพลังงาน
 กระตือรื อร้นมาก
 เป็ นที่รักของคนอื่น
 อยากรู ้อยากเห็นและทันต่อเหตุการณ์
 ให้แรงบันดาลใจในทางบวกแก่คนอื่น

~5~
ด้ านไม่ ดี
ต้ องการความใส่ ใจ
“ไม่ มีใครเป็ นทีชื่นชอบมากกว่าฉัน”
่
เมื่อคุณลักษณะต่างๆ ของคนโครงสร้างผลผลิตเริ่ มแสดงออกในทางลบ แนวโน้มของพวก
เขาที่ชอบเป็ นศูนย์กลางความสนใจจะทาให้พวกเขา เป็ นคนแสวงหาความสนใจมากเกินไป อย่างไร
ก็ตาม พวกเขาให้คุณค่าสู งต่อความสนใจและคุณภาพของความสนใจที่พวกเขาทาให้เกิดขึ้น
เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้ างผลผลิ ตจึงเพลิ ดเพลิ นกับแสงสี กลางเวที มากเกิ นไป และมักไม่
ตระหนักเมื่อหลงระเริ งกับมันมากเกินไป พวกเขาอยากให้ใครๆ เห็นว่าพวกเขานั้นมีเอกลักษณ์โดด
เด่นและแตกต่าง ดังนั้นเมื่อไม่ได้รับความสนใจก็จะเก็บมาเป็ นอารมณ์ พวกเขาค่อนข้างชอบการ
ประชันขันแข่ง และมีแนวโน้มที่จะมองว่าการได้รับความชื่ นชอบก็เป็ นส่ วนหนึ่ งของการแข่งขัน
ด้วยเช่นกัน
คนโครงสร้ างผลผลิ ตยังชอบแสดงลี ลาท่าทางเกิ นจริ ง และบางครั้ งก็แสดงออกเกิ นจริ ง
เพราะต้องการให้คนมาสนใจ ดังนั้นพวกเขาจึงยึดมันในเรื่ องแบบนี้ มากเกิ นไปหน่ อยในบางครั้ ง
่
และพลังแห่งการยึดมันนี้ก็อาจมากมายเกินกว่าที่คนอื่นๆ จะรับไหว
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ต้องเป็ นศูนย์กลางของทุกสิ่ ง
 กระหายความชื่นชอบ
 อยากเป็ นคนโดดเด่นและอยากให้ใครๆ คิดว่าตนเองเป็ นคนพิเศษ
 ทาตัวเป็ นนางเอก

~6~
ยืนกราน
“อยากเดินไปบนเส้ นทางของตัวเอง”
ด้วยบุคลิกภาพที่เข้มแข็ง คนโครงสร้างผลผลิตจึงชอบครอบงาในด้านสัมพันธภาพ พวกเขา
ชอบการเป็ นคนที่ใครๆ ยอมรับนับถือ ชอบเป็ นคนที่ใครๆ หันมาหาเสมอ ชอบที่จะรู ้สึกว่าตัวเองมี
ประโยชน์และเป็ นที่ตองการ แต่ที่มากกว่านั้นคือ พวกเขาจะต้องรู ้ จกว่าคาพูดและคาแนะนาของ
้
ั
พวกเขานั้นได้รับการนาไปใช้และปฏิบติตาม
ั
ดังนั้นคนโครงสร้างผลผลิตจึงค่อนข้างยืนกรานในการทาอะไรๆ ตามวิธีของตน ปกติแล้ว
่
ถ้าพวกเขาให้คาแนะนาอะไรแก่ใคร ก็มกคาดหวังว่าผูคนจะทาตามนั้นไม่วาจะเป็ นการตัดสิ นใจว่า
ั
้
จะไปกินข้าวกันที่ไหน หรื อจะดูหนังเรื่ องอะไร พวกเขาคาดหวังให้คาพูดของตนเป็ นคาชี้ ขาดเสมอ
อีกทั้งยังหวังว่าคาแนะนาเหล่านั้นจะได้รับการปฏิ บติตามเสมอด้วย ไอเดี ยของพวกเขาต้องทาให้
ั
คนอื่นรู ้สึกตื่นเต้นได้ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่ค่อยมีความสุ ข
ลักษณะเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าคนโครงสร้างผลผลิตชอบใช้คนอื่น มันเป็ นแค่ธรรมชาติ
ความอยากรู ้อยากเห็นของพวกเขาเองที่ทาให้ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับชี วิตคนอื่น พวกเขาไม่เข้าใจว่า
ท าไมคนอื่ นไม่ อยากมาขอค าปรึ ก ษา และมัก เก็ บ มาเป็ นอารมณ์ หากเพื่ อนๆ ไม่ เห็ นคุ ณค่ า ของ
ั
คาปรึ กษาราคาย่อมเยาที่มอบให้ บางครั้งอาจรู ้สึกว่าเป็ นการสบประมาท และถือว่าไม่ให้เกียรติกน
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อยากเป็ นผูนาของกลุ่ม
้
 ชอบให้คาแนะนา
 คาดหวังว่าคาแนะนาจะได้รับการปฏิบติตาม
ั
 อยากบอกคนอื่นๆ ว่าควรทาอย่างไร

~7~
ความคิดแปรปรวน
“โอนเอนง่ ายด้ วยไอเดียใหม่ ๆ ก็น่าตื่นเต้ นกว่า”
เรื่ องน่ าแปลกของคนโครงสร้ างผลผลิ ตซึ่ งโดยธรรมชาติ แล้วเป็ นคนกล้าและเชื่ อมันคื อ
่
ความคิ ดค่อนข้างแปรปรวน พวกเขาเปลี่ ยนใจค่ อนข้างบ่ อยและเอาแน่ นอนไม่ค่อยได้ในแต่ล ะ
ั
ช่วงเวลา เช่น ตอนนี้กบพรุ่ งนี้ ความคิดก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ที่เป็ นเช่นนี้ส่วนใหญ่ก็เพราะธรรมชาติที่อยากรู ้อยากเห็นของพวกเขา ความคิดของพวกเขา
เหมือนตะแกรง มันประมวลข้อมูลทุกประเภท เพราะความอยากรู ้จริ งๆ ในทุกสิ่ งที่สนใจ พวกเขามี
่
แนวโน้มที่จะตกอยูภายใต้อิทธิ พลของความตื่นเต้นและความสดใหม่ ดังนั้นถ้าไม่เห็นว่ามีอะไรน่ า
ตื่นเต้นหรื อน่าสนใจ ก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะไม่ให้ความสาคัญกับเรื่ องนั้น
ในหัวของคนโครงสร้ างผลผลิ ตเต็มไปด้วยไอเดี ยและความคิ ดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ด้วย
เหตุน้ ี บางครั้งไอเดียวของพวกเขาจึงไม่คงเส้นคงวาและเอาแน่เอานอนไม่ได้ คนอื่นๆ ตามพวกเขา
ไม่ค่อยทันเพราะเปลี่ยนความคิดบ่อยมาก คนอื่นๆ จะทาความเข้าใจกับสิ่ งที่พวกเขาพูดถึงได้ยาก
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
่
 ตกอยูภายใต้อิทธิ พลของแนวคิดที่สดใหม่กว่าได้ง่าย
 เปลี่ยนใจง่าย
 อะไรไม่สาคัญสาหรับพวกเขาแล้วละก็ ลืมมันไปได้เลย
 อาจละเลยข้อเท็จจริ งและเหตุการณ์สาคัญๆ

~8~
บุคลิกภาพในฐานะพ่ อแม่
ด้ านดี
พ่อแม่ ทเี่ ป็ นเพือน
่
“ เป็ นพ่อแม่ ที่ “ทันสมัย” ”
ในเรื่ องของลู กๆ นั้น คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะเลี้ ยงดู ลูกโดยใช้ความสนุ กสนานและการ
หยอกล้อกันเล่นแบบเดี ยวกับที่พวกเขาทาในชี วิตปกติ พวกเขาทาตัวเป็ นเพื่อนกับลูกมากกว่าเป็ น
พ่อแม่หรื อผูดูแลเด็ก ไม่ทาให้เด็กๆ รู ้ สึกแปลกแยกด้วยขอบเขตที่ เคร่ งครัดซึ่ งกี ดกั้นปฏิ สัมพันธ์
้
ตามธรรมชาติ
ั
ในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กบลูก คนโครงสร้างผลผลิตไม่ยึดติดในขอบเขตเคร่ งครัดที่
จะทาให้ลูกๆ เหิ นห่ างแปลกแยก พวกเขาอยากทุ่มเทชี วิตจิตใจทั้งหมดให้แก่ลูกๆ และจะทาทุกสิ่ ง
เพื่อให้เป็ นเช่นนั้น และเพื่อให้ใครๆ เห็นว่าพวกเขาเป็ นพ่อแม่สุดเจ๋ งที่เล่นสนุ กกับลูกๆ ได้ พวกเขา
จะเบิกบานใจถ้าลูกๆ สนิทกับพ่อแม่มากกว่าเพื่อนๆ
ั
ด้วยเหตุ น้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างผลผลิ ตจึงมีความสัมพันธ์ ที่ดีกบลูกๆ และด้วยเหตุ น้ ี
่
เช่นกัน เพื่อนๆ ของลูกก็จะชอบมาอยูใกล้ๆ ล้อมหน้าล้อมหลังพวกเขาด้วย อันที่จริ งเพื่อนๆ ของลูก
อาจรู ้ สึ กว่าเล่ นกับ พ่อแม่ข องเพื่ อนสนุ กกว่าเล่ นกับ ลู ก ๆ ของพวกเขา (ซึ่ ง เป็ นเพื่ อนของตัวเอง)
ด้วยซ้ า
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เข้าถึงได้ง่าย
 ไม่ชอบมีขอบเขตกั้นระหว่างพ่อแม่/ลูก
 เปิ ดรับลูกๆ ของพวกเขา
 ไม่ให้ความสาคัญกับพิธีการ

~9~
สนุกสนาน
“เจ้ าแห่ งโรงละครสั ตว์ประจาบ้ าน”
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิ ตไม่ได้ดูแลบ้านของตนเองตามวิธีเดิ มๆ พวกเขาอยากให้
บ้านเป็ นพื้นที่แห่งความสุ ขสนุกสนานและการเล่นสนุก อันที่จริ งมันแสดงถึงจุดแข็งของพวกเขาใน
ฐานะผูมีวสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ ซึ่ งก้าวข้ามธรรมเนี ยมปฏิบติประเพณี และพิธีการที่เคร่ งขรึ มคร่ าครึ
้ ิ
ั
ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาชอบให้ชีวตของลูกๆ เปี่ ยมด้วยความรู ้สึกสนุกสนาน
ิ
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตจึงมักโลดแล่นไปทัวบ้านเล่นสนุกกับลูกๆ ทั้งวัน ส่ งเสี ยง
่
เอะอะมะเทิ่งหรื อเล่าเรื่ องตลก คลุกคลีตีโมงและเล่นสนุ กมอมแมมกับลูกๆ พวกเขาชอบให้บานมี
้
บรรยากาศสนุ กสนาน และอยากเห็ นลูกๆ สนุ กมากกว่าที่จะยึดถื อกฎเกณฑ์เคร่ งครัด ในบ้านของ
พวกเขาจะไม่มีคาว่า “เด็กๆ ต้องอยูเ่ ฉยๆ ห้ามส่ งเสี ยงดัง”
คนโครงสร้ างผลผลิ ตยังชอบจัดกิ จกรรมสร้ างความบันเทิงให้ลูกๆ อีกด้วย ชี วิตของลูกๆ
ในบ้านพวกเขาไม่เคยจืดชืดน่าเบื่อ แต่ละวันมักเต็มไปด้วยกิจกรรมตั้งแต่เช้าจรดค่า และเพราะพวก
เขาชอบสนใจโลกภายนอกและชอบมีส่วนร่ วมในทุกอย่างที่โลกหยิบยื่นให้ จึงชอบให้ลูกๆใช้ชีวิต
แบบเดียวกันด้วย

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ชอบเล่นสนุก
 ไมมีช่วงเวลาน่าเบื่อ
 ซุกซนเหมือนเด็ก
 ไม่ใช่คนเจ้าระเบียบเคร่ งครัด

~ 10 ~
มีอารมณ์ขัน
“ใช้ อารมณ์ ขันเป็ นอาวุธทีดีที่สุดของพวกเขา”
่
ความสนุกสนานและอารมณ์ขนที่มีมากมายเหลือเชื่อเป็ นอาวุธที่ดีที่สุดของพ่อแม่ที่เป็ นคน
ั
โครงสร้างผลผลิต ซึ่ งก็สอดคล้องกับนิ สัยรักสนุ กและขี้เล่นของพวกเขา พวกเขาให้ลูกๆ ได้สนุ ก
กับการใช้สติปัญญาและความสนุกสนานทั้งหลายทั้งปวงในชีวตตั้งแต่ตนวัย
ิ
้
สิ่ งนี้ เป็ นเรื่ องดี เพราะบ้านของคนโครงสร้างผลผลิตจะเต็มไปด้วยเสี ยงหัวเราะเสมอ พวก
เขาส่ งเสริ มให้ลูกมองเห็ นด้านสนุ กสนานของชี วิต ซึ่ งถ้ามองหาให้มากพอ ก็จะพบว่ามันอยู่ที่นน
ั่
เสมอมา ด้วยเหตุน้ ีพวกเขาจึงชอบที่จะเปลี่ยนเรื่ องร้ายๆ และหายนะทั้งหลายให้เป็ นเรื่ องน่าขัน ลูกๆ
ของพวกเขาจะไม่ค่อยร้องไห้ฟูมฟายกับนมที่หกไปแล้ว และในไม่ชาลูกๆ ของพวกเขาก็จะหัวเราะ
้
ขบขันทรงของนมบนพื้นที่ดูตลก
่
เพราะเหตุน้ ีพอแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตจึงมีแนวโน้มที่จะปลูกฝังสานึ กแห่ งการปรับ
่
จิตใจให้แก่ลูกๆ ไม่วาพวกเขาจะรู ้ตวหรื อไม่ก็ตาม ความสามารถในการหัวเราะเยาะโลกและตัวเอง
ั
โดยไม่เอาจริ งเอาจังกับสิ่ งต่างๆ จนเกินไปนี้เองที่ทาให้ลูกๆ ของพวกเขาเติบโตโดยมีทศนคติที่ดี
ั
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ใช้อารมณ์ขนรับมือกับเรื่ องเลวร้าย
ั
 พูดตลก
 ชอบหัวเราะ
 พูดให้เป็ นเรื่ องขาในช่วงเวลาที่ยากลาบาก

~ 11 ~
มองโลกในแง่ ดี
“หาเส้ นสี เงินที่ขอบเมฆพบเสมอ”
ควบคู่ไปกับความรักอารมณ์ขนของพวกเขา พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตเป็ นคนมอง
ั
โลกในแง่ดีเสมอ พวกเขาไม่ใช่ คนประเภทที่เอาแต่นงบีบมือด้วยความกลัดกลุ มกังวล หม่นหมอง
ั่
้
ั
เศร้าสร้อยกับเคราะห์กรรมและเน้นย้ าอยู่กบสิ่ งที่เลวร้ายในชี วิต ซึ่ งทาให้ลูกๆ เห็ นการทาตัวหดหู่
บูดบึ้ง พวกเขาเป็ นนักมองโลกในแง่ดีและพยายามมองหาด้านดีของชีวตมากกว่า
ิ
เมื่อใดที่เกิ ดอะไรผิดพลาดขึ้นมาก คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะสอนลูกๆ ให้คนหาเส้ นสี เงิ น
้
ั
ที่ขอบเมฆทุ กก้อน พวกเขาส่ งเสริ มให้ลูกมองด้านบวกและหลี กเลี่ ยงการเอาแต่หดหู่ กบด้านลบ
ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาช่วยให้ลูกมองเห็นว่าความถดถอยต่างๆ เป็ นแค่ดานลบเพียงชัวครั้งชัวคราว
้
่
่
เท่านั้น
ดังนั้นโดยทัวไปคนโครงสร้างผลผลิตจึงพยายามเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็ นคนร่ าเริ งไม่ใช่วิธีคิด
่
แบบ “อดทนและยิ้ม สู ้ ” แต่ เป็ นแบบ “มองให้ดีแล้วลู ก จะพบบางอย่า งที่ ท าให้ยิ้มได้” มากกว่า
อารมณ์ ขนและการมองโลกในแง่ ดีน้ ี จะช่ วยให้ลูกๆ ของพวกเขาสามารถแก้ปัญหาและรับมื อกับ
ั
เรื่ องเลวร้ายต่างๆ ในชีวตได้เป็ นอย่างดี
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มองด้านดี
่ ั
 หลีกเลี่ยงการหมกมุ่นอยูกบด้านลบ
 ใช้การมองโลกในแง่ดีเป็ นทรัพยากร
 เน้นไปที่การเรี ยนรู ้บางสิ่ งบางอย่างจากสิ่ งดีๆ

~ 12 ~
ด้ านไม่ ดี
ยุ่งเหยิง
“บ้ านแบบ “อะไรก็ได้ ” ”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้างผลผลิตไม่ใช่คนที่บารุ งดูแลรักษาบ้านอย่างดี ซึ่ งก็สอดคล้อง
่
กับบุคลิกภาพแบบคนธรรมดาๆ ของพวกเขานั้นแหละ พวกเขามีแนวโน้มเป็ นคนที่ค่อนข้างยุงเหยิง
่
วุนวาย บ้านของพวกเขาก็ค่อนข้างโกลาหลและเต็มไปด้วยสารพัดเรื่ อง
่
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตไม่ได้เป็ นคนยุงเหยิงและไม่มีระเบียบมาตั้งแต่ตน แต่เป็ น
้
เพราะพวกเขาสนใจทุ กสิ่ งทุ กอย่างรอบตัว จึ งชอมสะสมข้าวของซึ่ งมีแนวโน้มทาให้บานรกและ
้
่
ทาให้รู้สึกว่าบ้านสกปรกเลอะเทอะและยุงเหยิงไปหมด
่ ่ ั
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตไม่คิดว่าตัวเองจะวุนอยูกบการทาความสะอาดและความ
เป็ นระเบี ยบเรี ยบร้ อยได้ ดัง นั้นถ้าลู ก ของพวกเขาทาเรื่ องนี้ แทนได้ก็ย่อมช่ วยได้มาก ในทานอง
เดี ยวกัน ด้วยเหตุ ที่คนโครงสร้ างผลผลิ ตมีหัวใจเป็ นเด็กเสมอ ดังนั้นบางครั้งลู กๆ จึงต้องสวมบท
เป็ นผูใหญ่ที่โตแล้วแทน
้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่เรี ยบร้อย
 ไม่มีระเบียบ
 ข้าวของเกลื่อนเต็มบ้าน

~ 13 ~
ขีหลงขีลม
้
้ื
“อุ๊ย ลืมลูกไว้ กบหมอฟัน”
ั
ลักษณะคลาสสิ กตามธรรมชาติ ของบุคลิ กภาพของคนโครงสร้ างผลผลิ ตคือความขี้หลงขี้
ลืมในการดาเนิ นชี วิตปกติทวไป ผูคนไม่ควรถือโทษหากพวกเขาลืมชื่ อและนัดหมายต่างๆ ที่นดไว้
ั่
้
ั
พวกเขาไม่ ได้ต้ งใจให้เป็ นแบบนั้น เพี ยงแต่หัวสมองของพวกเขานั้นเหมื อนเครื่ องกรองเวลาที่
ั
ประมวลข้อมูลหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน ก็จะสนใจแต่ขอเท็จจริ งสาคัญๆ เท่านั้น ส่ วนเรื่ องจิปาถะ
้
รายละเอียดยิบย่อยว่าใครชื่ออะไร และนัดกินมื้อเย็นกันที่ไหน ก็จะถูกลืมไปหมด
ในทานองเดียวกัน พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตก็ข้ ีหลงขี้ลืมเป็ นบางครั้ง ไม่ถึงกับลืม
ชื่ อลู ก เพียงแต่ลืมไปว่าลู กอยู่ที่ไหนกับใคร มี แนวโน้มที่ จะติ ดนิ สัยลื มนัดของลู ก และมักพบว่า
ตัวเองไม่ค่อยรับลูกที่โรงเรี ยน แทนที่จะเป็ นที่สนามเทนนิส
คนโครงสร้างผลผลิตยังมีกิจกรรมมากมายเกินไปในปฏิทินนัดหมายของตัวเองและของลูก
ดังนั้นจึงมีปัญหาเรื่ องนี้ แต่เหตุผลหลักคือ พวกเขามีแนวโน้มที่จะลืมเรื่ องที่ รู้สึกว่าน่ าเบื่อหรื อไม่
คุมค่ากับความสนใจของพวกเขา ดังนั้นงานบ้านที่เป็ นกิ จวัตรหรื อเหตุการณ์ ต่างๆ อย่างเช่ น “การ
้
นัดหมอ” และเรื่ องทานองนี้ จึงมีแนวโน้มที่จะหายหกตกหล่นไปจากความทรงจา ก็เพราะมันไม่ได้
่
อยูในความคิดลาดับต้นๆ ของพวกเขานันเอง
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่จาเรื่ องที่น่าเบื่อ
่
 ไม่มีที่วางในหัวสาหรับเรื่ องเวลาและชื่อ
 สับสนเรื่ องตารางเวลากิจกรรม
 หมกมุ่นกับเรื่ องอื่นๆ

~ 14 ~
ไร้ ระบบระเบียบ
“ชี วตทีย่ งเหยิงวุ่นวาย”
ิ ุ่
ในฐานะพ่ อ แม่ คนโครงสร้ า งผลผลิ ต ยัง ขาดทัก ษะการบริ หารเวลา และไม่ รู้ วิ ธี จ ัด
โครงสร้ า งชี วิ ต ของลู ก ด้ว ย ดัง นั้น อะไรต่ อ อะไรจึ ง สุ ม ซ้ อ นกัน ไปเรื่ อ ยๆ กิ จ กรรมต่ า งๆ ใน
ตารางเวลาประจาวันไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และทาให้ประสาทเสี ยได้บ่อยๆ
โดยทัวไปคนโครงสร้างผลผลิตไม่สามารถจัดระบบระเบียบและไม่มีระเบียบวิธีในทุกสิ่ ง
่
ที่ทา แม้แต่ในชีวตประจาวัน พวกเขาก็ชอบปล่อยเรื่ องการจัดระบบระเบียบให้คนอื่นทา และเพราะ
ิ
ั
พวกเขาไม่ค่อยนาทักษะการจัดระบบระเบี ยบมาใช้กบตัวเองจึ งกลายเป็ นพ่อแม่ที่ไม่สามารถจัด
ระบบระเบียบในชีวตของลูกๆ ได้
ิ
ส่ วนใหญ่คนโครงสร้ างผลผลิ ต พบว่าการัดระบบระเบียบเป็ นเรื่ องไม่น่าตื่นเต้นดูเหมือน
งานหยุมหยิมน่ าเบื่อ “ที่ตองทา” และดูดซับพลังงานในชี วิตประจาวันของพวกเขาไปจนหมดสิ้ น
้
ดังนั้นแม้แต่ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาก็ใช้ชีวตกับปั จจุบนขณะมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะมีความคิด
ิ
ั
แบบทาอะไรวันต่อวัน หรื อทาเมื่ อถึ งเวลาต้องทาเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วการที่พวกเขาเป็ นคนที่
มองแต่ภาพใหญ่ จึงมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่มีโครงสร้าง
 ไร้ระเบียบวินย
ั
 ไม่ตื่นเต้นกับแนวคิดเรื่ องการจัดระเบียบ
 ไม่ใส่ ใจรายละเอียด
 ใช้ชีวตกับขณะปั จจุบน
ิ
ั

~ 15 ~
ด่ วนสรุ ป
“ไม่ ฟังเรื่องราวทั้งหมดก่อน”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ า งผลผลิ ตเอาแต่ ฟั ง เสี ย งตัวเอง บางครั้ งอาจถึ ง กับ ท าความ
เสี ยหายให้แก่ลูกๆ ไม่ใช่เพราะความใจร้ ายที่ไม่สนใจฟั งลูก ที่จริ งพวกเขาส่ วนใหญ่ไม่รู้ตวด้วยซ้ า
ั
ไปว่ากาลังทาแบบนั้น เพียงแต่พวกเขาเคยชินกับการฟังแต่เสี ยงของตัวเองมาเนิ่ นนานต่างหาก
เพราะคนโครงสร้างผลผลิตชอบฟั งแต่เสี ยงตัวเอง ในฐานะพ่อแม่ จึงมองข้ามเรื่ องราวของ
คนอื่น แม้แต่ของลูกตัวเอง พวกเขาไม่มองว่าตัวเองกาลังใจร้ าย แต่ลูกๆ ของพวกเขาอาจรู ้ สึกจาก
มุมมองแตกต่างออกไป
ดังนั้นลูกๆ ของคนโครงสร้างผลผลิตจึงอาจสื่ อความกับพ่อแม่ได้ค่อนข้างลาบาก ถ้าปล่อย
ให้เป็ นอย่างนี้ต่อไป ก็จะนาไปสู่ ปัญหาการสื่ อสารที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยลูกพูดเรื่ องหนึ่ ง แต่พ่อแม่พูด
อีกเรื่ องหนึ่ ง ซึ่ งเป็ นคนละเรื่ องกันโดยสิ้ นเชิ ง พวกเขาไม่ได้ต้ งใจที่ จะแยกสองเรื่ องออกจากกัน
ั
แต่เพราะมีเรื่ องที่ร้ายกว่าหรื อน่าสนใจกว่ายึดความสนใจของพวกเขาไปเสี ยก่อน
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ตัดเรื่ องราวของลูกทิ้ง
 พูดแทรก
 พยายามรี บด่วนสรุ ป
 ไม่ปล่อยให้ลูกพูดจนจบ
 มุ่งเน้นแต่ในสิ่ งที่ตนเองสนใจเท่านั้น

~ 16 ~
ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างผลผลิต
ด้ านสว่ าง
 สร้ างสรรค์ ความบันเทิง
คุณเป็ นดาราแห่งโลกการแสดงโดยแท้ คุณเป็ นคนที่มีชีวิตชีวาและเปี่ ยมด้วยพลังงาน
่
คุณควรเฉิ ดฉายในแสงไฟสปอร์ ตไลท์ดวยเหตุผลที่วาคุณเก่งในการสร้างสรรค์ความบันเทิง
้
คุณสนุกกับคาชื่นชมสรรเสริ ญและเพลิดเพลินกับการเป็ นที่อิจฉาของคนอื่น
 มีอารมณ์ขัน
คุณเป็ นเจ้าของอารมณ์ขนตัวจริ ง เพราะคุณชอบหัวเราะตัวเองและโลก ไม่มีอะไรพ้นไป
ั
จากรัศมีเรดาร์ ความร่ าเริ งของคุณได้ คุณเพลิดเพลินกับการใช้ไหวพริ บปฏิภาณ ความหลัก
แหลม และการเหน็บแนมให้แสบๆ คันๆ ทั้งหมดนี้ทาให้อารมณ์ขนของคุณแหลมคมยิงขึ้น
ั
่
 สร้ างสรรค์
คุณเป็ นนักฝันที่สร้างสรรค์ผสามารถคิดแผนการและไอเดียต่างๆ ที่ทาให้ทุกคนถึงกับลืม
ู้
หายใจ คุณเก่งในการสร้างแนวคิดที่คนอื่นได้แต่ฝันถึง คุณเพลิดเพลินกับการสร้างความ
ประทับใจให้คนอื่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
 เชื่อมั่น
คุณสามารถสร้างชื่อหรื อแบรนด์ให้ตวเองด้วยความสามารถพิเศษ ทักษะ และ
ั
ความสามารถของคุณในขณะที่คนอื่นสงสัยว่า “จะทาอะไรกับชีวตดี” คุณจะเดินไป
ิ
ข้างหน้าด้วยความกระฉับกระเฉงและความเชื่อมัน คุณเฉลียวฉลาดและมีเอกลักษณ์
่
ที่โดดเด่น รวมทั้งได้รับความนับถือจากคนอื่นเพราะความมันใจตัวเองของคุณ
่

~ 17 ~
 ชอบประดิษฐ์ คิดค้ น
คุณมักเป็ นคนที่ช่วยคิดวิธีแก้ไขปั ญหาได้หรื อคิดไอเดียได้ในขณะที่คนอื่นๆ ในทีมคิด
อะไรไม่ออก หรื อเอาแต่นึกถึงสิ่ งเดียวกันกับเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว คุณมุ่งมันกับการปรับปรุ งให้
่
โครงงานเดิมๆ ดีข้ ึนเสมอ และที่ดีกว่านั้นคือคุณสามารถคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาได้จาก
จุดเริ่ มต้นที่ไม่มีอะไรเลย
 เป็ นนักแสดง
คุณเกิดมาเป็ นนักแสดงโดยธรรมชาติ จะมัวเกาะกลุ่มในมุมมืดซุ บซิ บไอเดียต่างๆ กันอยู่
ทาไม ในเมื่อคุณสามารถตะโกนดังๆ บนเวที ร้องเป็ นเพลง หรื อแม้กระทังขึ้นไปยืนบนโต๊ะ
่
่
แล้วแสดงปาฐกถาได้ คุณไม่เชื่อในการทางานแฝงเร้นอยูหลังฉาก คุณเพลิดเพลินกับความ
สนอกสนใจของผูคน และสามารถสังมันได้ รวมทั้งทาให้ผคนเคลิ้มตามได้
้
ู้
่
 กระตือรือร้ น
คุณเปี่ ยมด้วยพลังงานและกระตือรื อร้นอย่างยิงในสิ่ งที่คุณสนใจ ซึ่ งนันหมายถึงเกือบ
่
่
่
ทุกอย่าง ไม่มีใครสามารถพูดได้วาคุณเป็ นคนจืดชื ดน่าเบื่อหรื อหดหู่ คุณมักหมกมุ่นกับ
การซึ มซับสิ่ งสาคัญในชีวต และทาสิ่ งนั้นด้วยการมองในแง่ดีเต็มเปี่ ยม
ิ

~ 18 ~
ด้ านมืด
 ปมเขื่อง
บางครั้งคุณต้องยอมรับว่าคุณคิดว่าตัวเองเหนื อกว่าหรื อดีกว่าคนอื่นๆ แต่นี่เป็ นสิ่ งที่คุณต้อง
ระวังไม่ให้เกิดขึ้นอย่างที่เขาพูดกันว่าความทะนงตนมักนามาซึ่งความตกต่า คุณมีแนวโน้ม
ที่จะลื่นไถล เดินสะดุด หรื อทาผิดพลาดมากขึ้น ถ้ายังคิดอยูเ่ รื่ อยว่าคนอื่นไม่มีคุณค่าอะไร
ให้คุณ
 รังเกียจคนอื่น
คุณมักไม่สนใจคาแนะนาของคนอื่นเพราะมันธรรมดาเกินไป ซึ่ งทาให้คุณพลาดเพชร
ในตมได้ง่ายๆ เพราะคุณไม่ชายตามองเอาเสี ยเลย คุณใช้การดูถูกเป็ นเครื่ องมือที่ดีที่สุดใน
การปกป้ องตัวเองจากความไร้สติและความโง่เขลา แต่คุณไม่เห็นว่าคุณทาให้คนอื่นเกิด
ความรู ้สึกแปลกแยกและไม่ยอมรับไอเดียดีๆ ของคุณ
 ขาดพลังอึด
คุณเหมือนม้าแข่งที่ออกตัวและวิงได้ดีมาก แต่คุณต่างจากม้าแข่งตรงที่คุณขาดพลังอึดใน
่
การทาอะไรๆ ให้ตลอดรอดฝั่งจนเสร็ จ ทั้งนี้ เพราะความทะนงตัวของคุณ ทว่าแม้แต่มาแข่ง
้
ก็ยงต้องวิงรอบสนามก่อนที่จะแข่งจบนี่เป็ นคุณค่าที่คุมกับการนาไปใช้ในชีวตของคุณเอง
ั
้
ิ
่
 อัตตาสู ง
เพราะใครๆ มักบอกว่าคุณเก่งที่สุด บางครั้งคุณจึงหลงตัวเอง มาเผชิ ญหน้ากับมันดีกว่า คุณ
เก่งที่สุดเพราะพลังและแรงขับเคลื่อนของคุณ แต่ถาคุณเอาแต่อิ่มอกอิ่มใจและหลงลาพอง
้
ในตัวเอง ก็จะไม่มีใครชอบหน้าคุณ
 ถูกตามใจจนเสี ยคน
ในเทพปกรณัมโรมัน เทพีจูโนส่ งตัวเหลือบไปทรมานนางไอโอจนทนไม่ไหวฉันใด คุณก็
ทนไม่ได้ในยามที่คิดว่าถูกขัดขวางฉันนั้น คุณสามารถออกฤทธิ์ อาละวาดแบบเด็กๆ เวลาที่
ถูกขัดใจ และเล่นบทนางร้ายที่ตีบทแตกจนนางร้ายตัวจริ งในละครก็ยงต้องอาย
ั

~ 19 ~
 เอะอะมะเทิง
่
คุณเพลินกับเสี ยงตัวเองมากไปหน่อย ซึ่ งอาจก่อให้เกิดปั ญหาได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณผูกขาด
การสนทนาในการติดต่อธุ รกิจหรื อในงานปาร์ ต้ ีม้ือคา ทาให้คนอื่นๆ ที่มีเรื่ องอยากพูดไม่มี
โอกาสได้พด
ู
 ขาดวุฒิภาวะ
ถูกแล้ว คุณมักทาตัวเป็ นเด็กที่ไม่ยอมโต ด้วยการทาซื่ อไร้เดียงสา อารมณ์แปรปรวน และ
เจ้าอารมณ์

สื้อเยีย
่

~ 20 ~
บุคลิกภาพในทีทางาน
่
ด้ านดี
สร้ างสรรค์
“นักฝัน นักสร้ างภาพ นักวิสัยทัศน์ ”
คุณรู ้จกคนประเภทน่าราคาญที่ชอบทาท่าประมาณว่า “คิดออกแล้ว” อยูเ่ รื่ อยบ้างหรื อเปล่า
ั
นันละคนโครงสร้างผลผลิต คนโครงสร้างนี่ เป็ นที่สร้างสรรค์มาก พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจและ
่
แรงกระตุนจากความสามารถในการคิดสิ่ งใหม่ๆ และไอเดียต่างๆ ที่เกือบไม่มีใครเคยคิด แม้คนที่ฝัน
้
ถึงมันก็ยงมีนอยลงไปอีก
ิ่ ้
คนโครงสร้ างผลผลิ ตช่ างประดิ ษฐ์คิดค้น และเพลิ ดเพลิ นกับการปรับปรุ งสิ่ งเก่ าให้ดีข้ ึ น
สาหรับพวกเขาแล้วอะไรๆ ก็ไม่เคยดี พอ มันต้องดี กว่าที่เคยเป็ นมาสิ พวกเขามีความสามารถที่จะ
มองเห็ นภาพใหญ่หรื อแนวคิดต่างๆ และมีวิธีใหม่ๆ ในการเดิ นทางจากที่หนึ่ งไปสู่ อีกที่หนึ่ ง ในที่
ทางาน พวกเขาเปี่ ยมด้วยพลังแห่ งความกระตือรื อร้ น พลังงาน และแรงขับเคลื่ อนที่ตองการปฏิรูป
้
เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนสภาพ ปรับตัว และปฏิวติ
ั
พนันได้เลยว่าคนโครงสร้ างผลผลิตเป็ นพวกแรกที่คิดทาน้ ามะนาวจากมะนาว พวกเขาไม่
่
ชอบการทาอะไรไปเรื่ อยๆ โดยพอใจแค่ “สิ่ งที่มนเป็ นอยูแล้ว” พวกเขาลงทุนความคิดและพลังงาน
ั
ในการจับนั่นผสมนี่ และทาสิ่ งที่ ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอี ก พวกเขาสนุ กกับการทาให้ไอเดี ยต่างๆ
ของพวกเขาออกมาเป็ นภาพ และนึกถึงแผนการตามมา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีแรงบันดาลใจเสมอ
 ช่างจินตนาการ
 สามารถมองเห็นสิ่ งต่างๆ แตกต่างออกไป
 ชอบคิดค้นสิ่ งใหม่และหัวก้าวหน้า
 สนุกกับการเปลี่ยนแปลง

~ 21 ~
ชอบแสดงออก
“ดาวเด่ นแห่ งการแสดง”
่
คนโครงสร้างผลผลิต มีความสามารถพิเศษในด้านการแสดง และเกิดมาเพื่อที่จะอยูใต้แสง
สี บ นเวที พวกเขามัก สื่ อไอเดี ย ใหม่ ๆ ได้อย่า งน่ า ตื่ นเต้น ด้วยค าพูดที่ เ ร้ า ใจและการออกท่ า ทาง
ประกอบ และอาจไปประจวบกับบางสิ่ งที่ใกล้เคียงกับความพยายามที่จะแสดงความเป็ นตัวตนของ
พวกเขา พวกเขามี พรสวรรค์ในการแสดงความเป็ นตัวเอง ดัง นั้นจึ งไม่ มีปัญหาในการสื่ อไอเดี ย
หรื อความคิดต่างๆ ออกมา
คนโครงสร้างผลผลิต มักเป็ นดาวเด่นของการแสดง และชอบเป็ นศูนย์กลางแห่ งความสนใจ
ในการระดมสมองหรื อการประชุ ม พวกเขาเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูคนที่ทุกคนพากันจับตามอง และ
้
ด้ว ยแนวโน้ม ตามธรรมชาติ ข องพวกเขาที่ ม ัก โดดเด่ นเป็ นที่ ส นใจ พวกเขาจึ ง มี ค วามสามารถ
ที่จะสาธิ ตและสอนคนอื่ นๆ ถึ งวิธีทาสิ่ งต่างๆ พวกเขาเชื่ อมันและไม่ค่อยลังเลหรื อรู ้ สึกไม่มนคง
ั่
่
เกี่ยวกับไอเดียและแผนต่างๆ ของตน
คนโครงสร้างผลผลิต รักที่จะขึ้นไปยืนพูดบนลังสบู่ หรื อเป็ นผูนาในการนาเสนอ หรื อขาย
้
แนวคิดใหม่ๆ แก่ลูกค้าและเจ้านายของพวกเขาเอง พวกเขาเป็ นคนสนุกสนานและทาให้ปาร์ ต้ ีหรื อที่
ทางานมีชีวิตชีวา พวกเขารู้วิธีเรี ยกร้องความสนใจและดึงมันไว้ได้นานพอที่จะสื่ อประเด็นของตน
ที่จริ งยิงพวกเขาได้รับความสนใจมากเท่าใดก็จะยิงมีแรงกระตุนมากเท่านั้น พวกเขาไม่ใช่คนทางาน
้
่
่
่
ประเภทที่ถ่อมตัว ยอมเหนื่อยอยูหลังฉาก เป็ นคนที่ไม่มีใครพูดถึงหรื อเก็บเนื้อเก็บตัวสงบเสงี่ยม
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เก่งในการแสดงและเจ้าบทบาท
 พูดจาคล่องแคล่วและฉาดฉาน
 ชอบตื่นเต้นและสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้
 มีความเชื่อมัน
่

~ 22 ~
รู้ จักตัวเอง
“มีทกษะในการสร้ างแบรนด์ ส่วนตัว”
ั
คนโครงสร้ า งผลผลิ ต ให้ ค วามส าคัญ ต่ อ การสร้ า งแบรนด์ รู ้ วิ ธี ส ร้ า งชื่ อ ให้ ต ัว เองผ่า น
ความสามารถพิเศษและความสามารถที่พวกเขามีอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงรู ้จกตัวเองดี มีแนวคิดที่ชดเจน
ั
ั
เกี่ ยวกับพรสวรรค์และความสามารถพิเศษของตัวเองตั้งแต่เป็ นหนุ่ มสาว และรู ้ ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะ
ทาให้มีชื่อเสี ยงเป็ นที่รู้จกคือ ต้องเน้นที่ความสามารถพิเศษและพรสวรรค์เหล่านั้น
ั
คนโครงสร้างผลผลิตแสดงทักษะของตนผ่านทางไอเดียหรื อการกระทา หรื อเปลี่ยนไอเดีย
ของตนให้กลายเป็ นโครงการที่ทาได้จริ ง อันนามาซึ่ งการยอมรับและชื่อเสี ยงพวกเขาเชี่ ยวชาญใน
การสร้างแบรนด์หรื อชื่ อเสี ยงให้เป็ นที่รู้จก ไม่ว่าจะทาในนามของตัวเองในฐานะบุ คคลคนหนึ่ ง
ั
หรื อในฐานะส่ วนหนึ่งขององค์กรหรื อบริ ษทที่พวกเขาทางานให้ก็ตาม
ั
เมื่ อสิ่ งนี้ ผสานเข้ากับความสามารถของคนโครงสร้ างผลผลิ ตในการปั้ นโครงการใหม่ๆ
และการคิดไอเดี ยใหม่ๆ จึงมักนาไปสู่ ผลแบบ “จุ ดชนวนคิด พลิ กสถานการณ์ (tipping point)”
พวกเขามักเป็ นผูสร้ างกระแสและแฟชัน และเป็ นผูนากระแสนิ ยมล่าสุ ดด้วยไอเดี ยใหม่แกะกล่อง
้
้
่
บางอย่าง ความเชื่ อมันและพลังงานระดับสู งของพวกเขายังนามาซึ่ งความสนุ กสนานเพราะความ
่
พยายามในการสร้างแบรนด์ของพวกเขามักแพร่ กระจายไปสู่ ใครๆ โดยไม่อาจต่อต้านได้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เก่งในการทาการตลาดให้ตวเอง
ั
 สร้างชื่อเสี ยงด้วยทักษะและความสามารถพิเศษต่างๆ
 สร้างไอเดียที่เป็ นที่นิยม
 เชื่อมันในความสามารถของตัวเอง
่

~ 23 ~
กล้าได้ กล้าเสี ย
“แข็งข้ อด้ วยเหตุผล”
ั
คนโครงสร้างผลผลิตทาอะไรตามเหตุผลของตัวเองเสมอ พวกเขาแข็งข้อต่อสู ้กบโลกเสมอ
ไม่ใช่ ในความหมายของการโค่นล้มทุ กคน แต่เป็ นการนาเอาสิ่ งที่มีอยู่ก่อนแล้วมาทาให้มนเต็มที่
ั
มากขึ้นกว่าเดิม หรื อไม่อย่างนั้นก็จะมองเห็นความเย้ายวนใจของการเริ่ มต้นจากจุดที่ไม่มีอะไรเลย
แล้วสร้างผลสาเร็ จที่ดงเปรี้ ยงปร้างด้วยความร่ าเริ งอย่างแท้จริ ง พวกเขาไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าทา
ั
อะไรได้และทาอะไรไม่ได้ พวกเขามักต่อต้านสิ่ งที่เป็ นบรรทัดฐานหรื อธรรมเนี ยมปฏิบติ เพราะเชื่อ
ั
เสมอว่ามีวธีอื่นที่ดีกว่า และก็มกเป็ นฝ่ ายถูกมากกว่าผิดเสี ยด้วย
ิ
ั
คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะไม่ใช้เส้นทาง “ทดสอบ-และ-ตรวจสอบ” ซึ่ งนาไปสู่ ขอสรุ ปแบบ
้
“ทดสอบ-และ-พิสูจน์แล้ว” พวกเขาแน่ใจตัวเองมาก และมีแนวโน้มที่จะพุ่งไปทาสิ่ งที่คนอื่นถือว่า
ั
เป็ นความเสี่ ยงและยังไม่มีใครทา อันที่จริ งพวกเขาเปรี ยบได้กบนักบุ กเบิ กดิ นแดนอันกว้างใหญ่
ไพศาลของอเมริ กา พวกเขามองว่าตัวเองเป็ นนักสารวจและผูคนพบไอเดียใหม่ๆ วิธีใหม่ๆ
้
คนโครงสร้างผลผลิ ตตื่นเต้นกับการคิดข้อสรุ ปบางอย่างได้ หรื อการคิดกลยุทธ์ที่โดดเด่น
ไม่เหมือนใครโดยสิ้ นเชิ ง ซึ่ งนาไปสู่ ทิศทางใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีคนคิดมาก่อน สิ่ งนี้ ตองอาศัยวิธีคิดที่มี
้
ความกล้า ซึ่งต้องเป็ นคนที่กล้ารับทุกความเสี่ ยงบนเส้นทางของความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
พวกเขามีวธีคิดแบบนี้อย่างมันคงแน่นหนา ดังนั้นจึงไม่มีวนใดที่พวกเขาใช้ชีวตอย่างจืดชืด
ิ
ั
ิ
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 รักความท้าทาย
 กระหายความเสี่ ยง
 ต่อต้านวิธีเดิมๆ
 ฉุ นเฉี ยวกับกฎระเบียบข้อจากัดต่างๆ

~ 24 ~
ด้ านไม่ ดี
ดือรั้น
้
“เป็ นเด็กหัวแข็ง...แต่ กแค่ เด็ก”
็
ด้านตรงข้ามของคนเชื่ อมันที่สุดโต่งของคนโครงสร้ างผลผลิ ตคื อ มี แนวโน้มที่จะดื้ อรั้ น
่
เพราะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ เป็ นธรรมดาที่ไม่มีใครเป็ นฝ่ ายถูกอยู่ตลอด ใครๆ ในโลกก็รู้ท้ งนั้น แต่
ั
ั
หากใครคิดจะสื่ อสิ่ งนี้กบพวกเขาก็ขอให้โชคดีก็แล้วกัน เพราะมีแนวโน้มที่จะถูกตอกกลับจนหัวทิ่ม
ความจริ งของเรื่ องนี้ คือไม่มีใครเป็ นฝ่ ายถูกได้ตลอดเวลา แต่คนโครงสร้ างผลผลิ ตมีความ
อ่อนน้อมน้อยเกินกว่าที่จะยอมรับความผิดพลาด ที่เลวร้ ายกว่านั้นคือพวกเขาไม่มีกลวิธีของตัวเอง
่ ั
ในการยอมรับความล้มเหลว เมื่อใดที่เชื่ อว่าสิ่ งที่ตนเองทาอยูน้ นเป็ นเพียงวิธีเดียวในการทาสิ่ งต่างๆ
หรื อแนวคิดของตนเป็ นแนวคิดเดียวที่ใช้ได้ พวกเขาก็จะปฏิเสธคาแนะนาของคนอื่น
ในสถานการณ์กลุ่ม อาจต้องใช้คนหรื อเพื่อนร่ วมงานหลายคนมารวมกันก่อนคนโครงสร้าง
ผลผลิตจึงจะยอมรับความพ่ายแพ้ เรื่ องนี้ ยงเกี่ยวข้องอย่างมากกับการไม่เต็มใจที่จะ “เสี ยหน้า” ด้วย
ั
และเพราะพวกเขามักมีอตราความสาเร็ จสู ง วิธีเดี ยวที่พวกเขารู ้ ใ นการรั บมื อกับ สิ่ งที่ ไม่ประสบ
ั
้
ความสาเร็ จคือ การปั กหลักสู ้และไม่ยอมถอยแม้แต่กาวเดียว ใครก็ตามที่คิดจะกระเทาะกาแพงความ
ดื้อรั้นหลายชั้นของพวกเขาเข้าไปเพื่อพูดประเด็นสาคัญให้เข้าใจ ก็จะพบว่าเป็ นเรื่ องยากจริ งๆ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 หัวแข็ง
 เชื่อว่าตนเองถูกเสมอ
 ไม่รับคาแนะนาของคนอื่น
 มักโต้แย้งด้วยประเด็นของตนเสมอ

~ 25 ~
เล่นละครมากไป
“ทาตัวเป็ นนางเอกอยู่เรื่อย”
เพราะคนโครงสร้ างผลผลิตอยู่ใต้แสงสี บนเวทีบ่อยมากจนคุ นเคยกับ “รสชาติ” ของความ
้
โด่งดัง ไม่ว่าพวกเขาจะมีชื่อเสี ยงจริ งหรื อแค่มีกิตติศพท์ว่าเป็ นคนเอะอะมะเทิ่งและรั้นก็ตาม ในที่
ั
ทางานพวกเขามักมีทศนคติแบบนางเอก ซึ่งทาให้คนที่ตองร่ วมงานด้วยรู ้สึกลาบากใจ
ั
้
คนโครงสร้างผลผลิตมีพรสวรรค์ในการเล่นละคร แต่เมื่ออะไรๆ พังไม่เป็ นท่า แนวโน้มที่
ทาทุกอย่างแบบเล่นละครก็เริ่ มอึกทึกและน่ าเบื่อสาหรับทุกคนที่เกี่ ยวข้องเหมือนเด็กที่กระทืบเท้า
ั
เร่ าๆ ด้วยความโกรธเพราะไม่ได้อย่างใจ เป็ นที่รู้กนว่าพวกเขามีชื่อในการแผลงฤทธิ์ อาละวาดแบบ
“ผูใหญ่”
้
เมื่ อสถานการณ์ แบบนี้ เกิ ดขึ้ น คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะเถี ยงคอเป็ นเอ็นและเรี ยกร้ องสู ง
จึงต้องระวังพายุอารมณ์ที่คุมคลังน่ารังเกียจของพวกเขาเอาไว้ให้ดี เมื่อผนวกกับแนวโน้มความเป็ น
้ ่
คนดื้อรั้นด้วยแล้ว พวกเขาจึงมักกระทืบเท้าด้วยความขัดเคืองและมักหวังว่าคนอื่นๆ จะทนกล้ ากลืน
ความเจ็บปวดโดยไม่ส่งเสี ยงครางสักแอะ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อารมณ์รุนแรง
 มีแนวโน้มอารมณ์แปรปรวนจัด
 อยากให้อะไรๆ เป็ นไปแบบที่ตองการ
้
 ไม่ค่อยยอมใคร
 เรี ยกร้องสู ง

~ 26 ~
ไม่ มีวนัย
ิ
“ไม่ ค่อยมุ่งมั่นจริงจังในการทางาน”
ความยุ่ง ยากในบุ คลิ ก ภาพของคนโครงสร้ า งผลผลิ ตคื อ พวกเขาส่ วนใหญ่ มีวิสัย ทัศ น์ ที่
ยิ่งใหญ่และฝั นถึ งสิ่ งที่ยิ่งใหญ่ ไม่อยากทาสิ่ งที่เป็ นไอเดี ยเล็กๆ ที่เป็ นลูกไม้เก่าๆ ถ้าพวกเขาจะทา
อะไรสักอย่าง สิ่ งสาคัญคือมันต้องเป็ นแนวคิดใหม่ถอดด้ามหรื อช็อกวงการกันไปเลย สาหรับพวก
เขาแล้ว แค่โยกต้นไม้เบาๆ ให้มีลมโชยนั้นไม่พอหรอก มันต้องเขย่าให้ตนไม้ราบไปทั้งป่ าเลยถึง
้
จะดี
ทว่าการจะประสบความสาเร็ จตามแนวคิดที่ยิงใหญ่น้ นต้องการเวลา ความรับผิดชอบและ
ั
่
ความพากเพียรอุตสาหะ โชคร้ ายที่ในขณะที่คนโครงสร้ างผลผลิ ตเริ่ มต้นด้วยดีและทาตามแนวคิด
ด้วยพรสวรรค์และไหวพริ บของตนนั้น พอทาไปสักพัก ไฟของพวกเขาก็มกจะมอดลง พวกเขาเก่ง
ั
ในการเริ่ มต้น แต่ไม่เก่งในการทาให้มนเสร็ จและนาไปสู่ ผลสุ ดท้ายที่น่าพอใจ
ั
คนโครงสร้ างผลผลิ ตขาดวินยที่จาเป็ นต่อการทาอะไรนานๆ จนมันแล้วเสร็ จ และเพราะ
ั
พวกเขาชอบเรี ยกร้องการเอาอกเอาใจ จึงไม่อาจบอกตัวเองให้ยดมันกับสิ่ งนั้นจนถึงที่สุด พวกเขาไม่
ึ ่
เหมาะกับงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้างานนั้นไม่ทาให้พวกเขาได้รับความสนใจ หรื อไม่ทาให้
พวกเขาโดดเด่นกลางแสงไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะขาดความเคร่ งครัดและความใส่ ใจที่
จาเป็ นในการเป็ นคนพิถีพิถนและใส่ ใจในรายละเอียด ทั้งนี้ เพราะพวกเขาเป็ นคนประเภทที่มองแต่
ั
“ภาพใหญ่” นันเอง
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 รักความท้าทาย
 กระหายความเสี่ ยง
 ต่อต้านวิธีเดิมๆ
 ฉุ นเฉี ยวกับกฎระเบียบข้อจากัดต่างๆ

~ 27 ~
รู้ ดีไปหมด
“เดือดร้ อนจากภาพลวงตาของความยิงใหญ่ ”
่
คนโครงสร้ างผลผลิ ตมักมี ปมอย่างหนึ่ งในตัว ซึ่ งเรี ยกว่าปมเขื่อง ในขณะที่คนอื่ นเอาแต่
่
่
สงสัยว่าตัวเองดีพอหรื อเปล่า พวกเขารู ้ วาตัวเองดีพอ (หรื อเป็ นไปได้วาดีกว่า) แม้ในขณะที่ปรากฏ
ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เป็ นอย่างนั้น ดังนั้นคนที่ ตองรั บมื อกับพวกเขาจึ งมักต้องเผชิ ญกับภาวะกลื น
้
ไม่เข้าคายไม่ออก
่
คนโครงสร้างผลผลิตมักยึดติดความเชื่ อที่วาวิสัยทัศน์ของพวกเขาเท่านั้นที่ดีที่สุดหรื อโดด
เด่นเป็ นเลิศ แม้มกเป็ นความจริ ง แต่ก็ไม่ได้เป็ นอย่างนั้นเสมอไป แต่พวกเขาลงจากวิมานในอากาศ
ั
ได้ยากในยามที่จาเป็ นต้องลง ที่บ่อยกว่านั้นคือพวกเขายังคงล่องลอยเพ้อฝันอยู่ แม้ในขณะที่คนอื่น
่
ทุกคนลงมายืนอยูบนพื้นดินที่หนักแน่นและเดินหน้าต่อไปอย่างมันคงตั้งนานแล้ว
่
เมื่อคนโครงสร้างผลผลิตเชื่อว่าตนเองถูก ก็จะไม่มีทางจูงใจพวกเขาให้คิดเป็ นอย่างอื่น เว้น
แต่คนเหล่านั้นจะมีบุคลิกภาพที่เข้มแข็งทัดเทียมกัน ซึ่ งสามารถทาให้พวกเขากลับเข้าที่เข้าทางของ
่
่
ตัวเอง ในที่สุดเมื่อพวกเขารู ้วาตัวเองผิดหรื อหลงผิดทางไปแล้ว พวกเขาก็จะกลับมาอยูบนโลกด้วย
วิธีที่ สาหัสสากรรจ์ นั่นคื อดิ่ ง พสุ ธ าลงมากระแทกพื้น และความจริ งแล้วต้องถู กกระทุงเสี ย บ้าง
้
ก่ อนที่ จะลุ ก ขึ้ นมายืนบนเท้า ของตัวเองได้อีก และเพราะมี ธ รรมชาติ เป็ นคนสวนกระแส จึ งมัก
ั
เสี ยเวลาและความพยายามโดยเปล่าประโยชน์ในการต่อสู ้กบข้อกล่าวหาว่าพวกเขาผิดเพียงเพราะคิด
ว่าตัวเองรู ้ดีกว่าคนอื่นทุกคน
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีปมเขื่องแบบ “ข้าคือผูยงใหญ่”
้ ิ่
 ไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้
 เชื่อว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นเกือบทุกคน
 ไม่ยอมรับว่าเป็ นฝ่ ายผิด

~ 28 ~
อาชีพการงานที่เหมาะสม
 ศิลปะ ศิลปะการแสดง ความบันเทิง
งานในด้านศิลปะการแสดงหรื ออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใดๆ ล้วนต้องการความสามารถ
พิเศษและทักษะที่คนโครงสร้างผลผลิตมีมากมาย งานเหล่านี้ ยงต้องการความเชื่ อมันตัวเอง
ั
่
ระดับสู งที่เชื่อในความสามารถพิเศษเหล่านั้น และอยากแบ่งปั นมันให้แก่โลก ซึ่ งพวกเขามี
่
ทั้งสองลักษณะนี้เต็มเปี่ ยมเช่นกันลองคิดดูวา นักเขียนต้องรู ้สึกว่าสิ่ งที่พวกเขากาลังเขียนอยู่
่
นั้นคุ มค่ากับการเขียนถึง นักแสดงต้องรู ้ว่าตัวเองเกิ ดมาเพื่อที่จะอยูบนเวที นอกเหนื อจาก
้
นั้นพวกเขายังมักมีพรสวรรค์และพลังงานที่จะแสดงมันออกมา การสามารถสร้างสรรค์ภาพ
โครงเรื่ องหรื อแนวคิดที่ยงใหญ่ หรื อใช้ทรัพยากรแห่งความมังคังของตนผ่านความสามารถ
ิ่
่ ่
พิเศษเหล่านั้น ย่อมหมายความว่าพวกเขาก็จะสามารถประสบความสาเร็ จในฐานะผูกากับ
้
ภาพยนตร์ นักเขียนบท หรื อในฐานะพ่อครัวที่โด่งดัง นักกีฬา นักตกแต่ง ฯลฯ ได้ดวย
้
 การตลาด การขาย การแสดงแบรนด์ และการโฆษณา
โลกได้พบเห็ นหลากหลายไอเดี ยที่ น่าเบื่ อมาแล้วครั้ งแล้วครั้ งเล่ า ด้วยการที่ สาธารณชน
ผูบ ริ โ ภคยุค ดิ จิ ท ล เติ บ โตอย่า งรวดเร็ ว มี บ ทบาทส าคัญในขณะนี้ ความสามารถในการ
้
ั
สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยม และการมองเห็นภาพผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ คือ สิ่ งประเสริ ฐ
ที่พระเจ้าประทานให้แก่สาธารณชนซึ่ งต้องการอะไรใหม่ๆ การตลาดและการสร้างแบรนด์
ยังต้องการความสามารถที่แท้จริ งในการคิดนอกรอบด้วย คนโครงสร้างผลผลิตสามารถพูด
่
กับผูคน โปรยเสน่ห์ให้คนชอบ และอยูที่แถวหน้าซึ่ งหมายถึงงานขาย ดังนั้นพวกเขาจึงเป็ น
้
นักขายที่ยงใหญ่ดวย
ิ่
้

~ 29 ~
 กฎหมาย การทางานด้ านกฎหมาย การเมือง
คนโครงสร้างผลผลิตมักพูดเก่งและสันทัดในการใช้ถอยคา พวกเขามีพรสวรรค์ที่น่าอิจฉา
้
ในการพูดจาคล่ องแคล่ วฉาดฉาน สามารถสื่ อความคิ ดและไอเดี ยต่ างๆ สู่ ผูช มและผูฟั ง
้
้
่
จานวนมากในขณะที่อยูใต้แสงไฟบนเวทีหรื ออยู่ที่แท่นพูด เมื่อผนวกกับแนวโน้มกล้าได้
กล้าเสี ย ซึ่ งกล้าเสี่ ยงกับการถูกตาหนิ ติเตียนเพื่อค้นหาความไม่สอดคล้องกันของประเด็น
ใดๆ ทาให้พวกเขาเป็ นบุคคลในอุดมคติสาหรับวงการกฎหมายและการเมือง หรื อแม้แต่ใน
กิจกรรมที่ตองใช้ขีดความสามารถระดับสู ง
้
 ผู้ประกอบการหรือธุรกิจดิจิทล
ั
คนโครงสร้ า งผลผลิ ต มี ค วามสามารถพิ เ ศษส าหรั บ ตลาดและสร้ า งแบรนด์ ใ ห้ แ ก่
ความสามารถพิ เ ศษ ความถนัด และทัก ษะของตัวเองหรื อ ของคนอื่ น เพื่ อ ค้น หาตลาด
ผูบริ โภคใหม่ๆ ผ่านการประดิ ษฐ์คิ ดค้นบรรจุ ภณฑ์และการโฆษณา ในโลกออนไลน์ ที่
้
ั
การแข่งขันสู ง ความเชี่ ยวชาญของพวกเขาสามารถช่ วยให้การลงทุนที่มีความเสี่ ยงในโลก
ดิจิทลและธุ รกิจที่เริ่ มต้นใหม่มีกาไรดีได้
ั

~ 30 ~
บทบาทในงานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
 ตาแหน่ งทีควบคุมโครงการ
่
คนโครงสร้างผลผลิตเหมาะกับการทางานที่ตวเองเป็ นหัวหน้าคณะกรรมการวางแผน พวก
ั
เขาไม่ใช่คนประเภทที่เพลินกับการทางานเบื้องหลัง เอาแต่วิเคราะห์และทางานประจาวันที่
ต้องการรายละเอียดหรื อความถูกต้องแม่นยา พวกเขาทาได้ดีกว่าในการสร้างสรรค์แคมเปญ
่
หรื อโครงการใหม่ๆ แล้วไปอยูต่อหน้าผูคนเพื่อบอกถึงวิธีทาอะไรบางอย่าง ซึ่ งบังเอิญเป็ น
้
สิ่ งที่พวกเขาคิดขึ้นมา
 พึงหลีกเลียง : การทาตามคาสั่ งและถูกบีบจนหายใจไม่ ออก
่
คนโครงสร้างผลผลิตจะไม่ประสบความสาเร็ จในงานจาเจ ซ้ าซาก หรื อต้องฟั งคนอื่นแล้ว
ทาตามคาสั่งหรื อทางานเฉพาะเจาะจงที่รับคาสั่งมา ถ้าพวกเขาไม่สามารถร่ วมสร้างสรรค์
ไอเดี ยหรื อเอาไอเดี ยหรื อวิธีการต่างๆ ที่มีอยู่แล้วมาช่ วยประดิ ษฐ์คิดค้นเสี ยใหม่ ก็จะเฉา
และอ่อนแอลงเหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้รับแสงแดดและอากาศ
คนโครงสร้างผลผลิตจาเป็ นต้องมีพ้ืนที่และเสรี ภาพที่จะคิดอย่างอิสระ และมีความคิดของ
ตัวเอง หาไม่มนจะเหมือนกับการผลาญความคิดสร้างสรรค์อนเป็ นทรัพยากรธรรมชาติที่ดี
ั
ั
ที่ สุ ด ของคนคนหนึ่ ง ให้ สู ญ เปล่ า ความหัวกบฏของพวกเขายัง แตกแขนงมาจากความ
ต้องการที่จะสร้างแนวคิดที่แตกต่าง และการมองสิ่ งต่างๆ แตกต่างไปจากคนอื่น
การถูกคาดหวังให้ทาตามคาสั่งและการทากฎเกณฑ์ย่อมน่ าอึดอัดเป็ นธรรมดา และทาให้
พวกเขาขุ่นเคือง ลักษณะของพวกเขาไม่เหมาะกับงานประจาที่ซ้ าซากจาเจและพื้นที่ทางาน
่
ที่เป็ นคอกปิ ด การนังจับเจ่าทางานประจาอยูหลังโต๊ะตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นไม่ใช่สิ่ง
่
ที่พวกเขาชอบ พวกเขาจะเฉาอย่างรวดเร็ วในบรรยากาศแบบนั้น

~ 31 ~
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)
นักสร้างสรรค์ (Creator)

More Related Content

What's hot

เผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญา
เผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญาเผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญา
เผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญาSophinyaDara
 
แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4Chutima Muangmueng
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานNuchy Geez
 
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์Jindarat JB'x Kataowwy
 
หน่วยที่ 4 เรื่องที่ 2 คำสรรพนาม ป.4.pdf
หน่วยที่ 4 เรื่องที่  2 คำสรรพนาม ป.4.pdfหน่วยที่ 4 เรื่องที่  2 คำสรรพนาม ป.4.pdf
หน่วยที่ 4 เรื่องที่ 2 คำสรรพนาม ป.4.pdfPloykarn Lamdual
 
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิกใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิกคีตะบลู รักคำภีร์
 
2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccskrurutsamee
 
ใบงานรูปเรขาคณิต
ใบงานรูปเรขาคณิตใบงานรูปเรขาคณิต
ใบงานรูปเรขาคณิตLittle Eye
 
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)Nook Jutima Prachachay
 
เลขยกกำลังม.4
เลขยกกำลังม.4เลขยกกำลังม.4
เลขยกกำลังม.4KruGift Girlz
 
ใบงานประมาณค่า
ใบงานประมาณค่าใบงานประมาณค่า
ใบงานประมาณค่าkanjana2536
 
แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1 เขียนเรื่องจากคำ
แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1  เขียนเรื่องจากคำแบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1  เขียนเรื่องจากคำ
แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1 เขียนเรื่องจากคำRung Kru
 
ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์
ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์
ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์พัน พัน
 
เอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลาย
เอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลายเอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลาย
เอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลายpeter dontoom
 
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่านวิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่านASI403 : Arsomsilp Institue of the Arts
 

What's hot (20)

เผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญา
เผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญาเผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญา
เผยแพร่แผนการจัดการเรียนรู้วิชาหลักภาษาไทย ม.5 โดยครูโสภิญญา
 
แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4แนวข้อสอบ ป.4
แนวข้อสอบ ป.4
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
 
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
วิธีสอนโดยการใช้มิติสัมพันธ์
 
หน่วยที่ 4 เรื่องที่ 2 คำสรรพนาม ป.4.pdf
หน่วยที่ 4 เรื่องที่  2 คำสรรพนาม ป.4.pdfหน่วยที่ 4 เรื่องที่  2 คำสรรพนาม ป.4.pdf
หน่วยที่ 4 เรื่องที่ 2 คำสรรพนาม ป.4.pdf
 
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิกใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก
 
2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs
 
การสกัดด้วยตัวทำละลาย
การสกัดด้วยตัวทำละลายการสกัดด้วยตัวทำละลาย
การสกัดด้วยตัวทำละลาย
 
ใบงานรูปเรขาคณิต
ใบงานรูปเรขาคณิตใบงานรูปเรขาคณิต
ใบงานรูปเรขาคณิต
 
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)
โครงการปันน้ำใจให้ผู้ป่วย(บทที่1)
 
เลขยกกำลังม.4
เลขยกกำลังม.4เลขยกกำลังม.4
เลขยกกำลังม.4
 
ภุชงคประยาคฉันท์ 12
ภุชงคประยาคฉันท์ 12ภุชงคประยาคฉันท์ 12
ภุชงคประยาคฉันท์ 12
 
ใบงานประมาณค่า
ใบงานประมาณค่าใบงานประมาณค่า
ใบงานประมาณค่า
 
Music
MusicMusic
Music
 
แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1 เขียนเรื่องจากคำ
แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1  เขียนเรื่องจากคำแบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1  เขียนเรื่องจากคำ
แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2.1 เขียนเรื่องจากคำ
 
ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์
ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์
ตัวละครโขนที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์
 
วรรณคดี
วรรณคดีวรรณคดี
วรรณคดี
 
เอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลาย
เอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลายเอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลาย
เอกสารประกอบการเรียนทัศนศิลป์ม.ปลาย
 
ใบความรู้ ปริศนาคำทาย
ใบความรู้ ปริศนาคำทายใบความรู้ ปริศนาคำทาย
ใบความรู้ ปริศนาคำทาย
 
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่านวิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
วิธีบันทึกข้อมูลจากการอ่าน
 

Similar to นักสร้างสรรค์ (Creator)

นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)Sunny Stong
 
นักเชื่อมโยง (Connector)
นักเชื่อมโยง (Connector)นักเชื่อมโยง (Connector)
นักเชื่อมโยง (Connector)Sunny Stong
 
อาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟอาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟNing Rommanee
 
อาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟอาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟNing Rommanee
 
อาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟอาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟNing Rommanee
 
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69Taraya Srivilas
 
Need respect,self esteem
Need respect,self esteemNeed respect,self esteem
Need respect,self esteemMett Raluekchat
 
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)Sunny Stong
 
การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3
การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3
การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3ssuser524e07
 
หนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมือง
หนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมืองหนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมือง
หนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมืองFURD_RSU
 
ทำงานให้สำเร้จ ทีม มนุษยสัมพันธ์, พค54
ทำงานให้สำเร้จ  ทีม  มนุษยสัมพันธ์, พค54ทำงานให้สำเร้จ  ทีม  มนุษยสัมพันธ์, พค54
ทำงานให้สำเร้จ ทีม มนุษยสัมพันธ์, พค54KASETSART UNIVERSITY
 
Part 31
Part 31Part 31
Part 31Aaesah
 
หลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูร
หลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูรหลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูร
หลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูรRayoon Singchlad
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1Yota Bhikkhu
 
ทรรศนะ2
ทรรศนะ2ทรรศนะ2
ทรรศนะ2krubuatoom
 
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรมความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรมalibaba1436
 
หน่วยที่๖
หน่วยที่๖หน่วยที่๖
หน่วยที่๖panjit
 
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรniralai
 

Similar to นักสร้างสรรค์ (Creator) (20)

นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)นักสนับสนุน (Supporter)
นักสนับสนุน (Supporter)
 
นักเชื่อมโยง (Connector)
นักเชื่อมโยง (Connector)นักเชื่อมโยง (Connector)
นักเชื่อมโยง (Connector)
 
อาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟอาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟ
 
อาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟอาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟ
 
อาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟอาชีพครีเอทีฟ
อาชีพครีเอทีฟ
 
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
Need respect,self esteem
Need respect,self esteemNeed respect,self esteem
Need respect,self esteem
 
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
 
การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3
การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3
การอ่านเพื่อการวิเคราะห์และวิจารณ์ มัธยมศึกษาปีที่3
 
หนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมือง
หนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมืองหนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมือง
หนังสือ ความคิดและข้อเสนอในการขับเคลื่อนความเป็นเมือง
 
ทำงานให้สำเร้จ ทีม มนุษยสัมพันธ์, พค54
ทำงานให้สำเร้จ  ทีม  มนุษยสัมพันธ์, พค54ทำงานให้สำเร้จ  ทีม  มนุษยสัมพันธ์, พค54
ทำงานให้สำเร้จ ทีม มนุษยสัมพันธ์, พค54
 
Part 31
Part 31Part 31
Part 31
 
หลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูร
หลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูรหลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูร
หลักสูตรศิลปะมัธยม อ.ระยูร
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียน 7.1
 
ทรรศนะ2
ทรรศนะ2ทรรศนะ2
ทรรศนะ2
 
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรมความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
 
หน่วยที่๖
หน่วยที่๖หน่วยที่๖
หน่วยที่๖
 
Get job hop to success
Get job hop to successGet job hop to success
Get job hop to success
 
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
 

More from Sunny Stong

Phonetics: Consonants
Phonetics: ConsonantsPhonetics: Consonants
Phonetics: ConsonantsSunny Stong
 
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)Sunny Stong
 
Timeline of life 1
Timeline of life 1 Timeline of life 1
Timeline of life 1 Sunny Stong
 

More from Sunny Stong (8)

Phonetics: Consonants
Phonetics: ConsonantsPhonetics: Consonants
Phonetics: Consonants
 
Coffee 25022557
Coffee 25022557Coffee 25022557
Coffee 25022557
 
นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)นักจัดการ (Manager)
นักจัดการ (Manager)
 
Takayama 2
Takayama 2 Takayama 2
Takayama 2
 
Timeline of life 1
Timeline of life 1 Timeline of life 1
Timeline of life 1
 
Tall
Tall Tall
Tall
 
Differences 1
Differences 1 Differences 1
Differences 1
 
Takayama Vocabs
Takayama VocabsTakayama Vocabs
Takayama Vocabs
 

นักสร้างสรรค์ (Creator)

  • 1. นักสร้ างสรรค์ (โครงสร้ างผลผลิต) ช่ างประดิษฐ์ คดค้ น รักสนุก ิ ชอบแสดงออก ~1~
  • 2. เผิงโหย่ว บุคลิกภาพ บทนา นักสร้ างสรรค์ (โครงสร้ างผลผลิต) บุคลิ กภาพของโครงสร้ างผลผลิ ตคืออะไร พวกเขาคือนักสร้ างสรรค์ กล่าวโดยสรุ ปได้ว่า พวกเขาเป็ นนักสร้ างแนวคิด นักร่ ายมนตร์ และนักสร้ างวิสัยทัศน์ พวกเขามี แรงดึ งดูดและเสน่ ห์ อย่างยิ่งในฐานะนักสร้ างสรรค์ พวกเขาเป็ นผูคิดแผนการและโครงสร้ างและสร้ างสรรค์เรื่ องราว ้ เบื้องหลัง พวกเขามีความสามารถพิเศษและฉลาดในงานบุกเบิกสร้างสรรค์ เป็ นนักเล่าเรื่ องและเป็ น ศูนย์กลางความสนใจ มักเป็ นดาวเด่นของการแสดงอย่างไม่ตองสงสัย ้ คนโครงสร้างผลผลิตมีอารมณ์ขน ไหวพริ บ และความสามารถสู งในการแสดงออก พวก ั เขาใช้ชีวิตกับความสุ ขในปั จจุบน มีพลังงานล้นเหลื อ กระตือรื อร้ นอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด และมีความ ั มุ่งมันในโครงการหรื อสิ่ งที่ดึงดูดความสนใจ พวกเขาสนุ กกับความโดดเด่ นและแตกต่าง มักคิ ด ่ นอกกรอบและมี ความคิ ดสดใหม่ เราจะพบคนโครงสร้ างผลผลิ ตท่องไปตามเส้นทางใหม่ๆ หรื อ แนวคิ ดใหม่ ๆ มี พ รสวรรค์ใ นการแสดงออกด้วยถ้อยค าและการพูด จาฉาดฉานและเก่ ง ในการ แสดงออกด้วยกิริยาท่าทาง บางครั้ ง คนโครงสร้ างผลผลิ ตก็ อาจพูดเกิ นจริ งมากไป และเป็ นราชิ นี (หรื อราชา) แห่ ง การแสดง มี แนวโน้มที่ จะทาตัวประหลาดและตื่นเต้นง่ าย รวมทั้งมี แนวโน้มชอบโฆษณาตัวเอง ่ ซึ่ งสนใจเฉพาะสิ่ งใหม่ๆ สิ่ งที่ดีเลิ ศ หรื อสิ่ งที่น่าสนใจ นอกนั้นล้วนไม่อยูในสายตา ถึงแม้พวกเขา จะไม่ใช่คนเห็นแก่ตว แต่ก็อาจแสวงประโยชน์จากคนอื่นเพื่อตัวเอง ั ~2~
  • 3. ด้ านดี เป็ นธรรมชาติ “ไวต่ อแรงกระตุ้นและสนุกสนาน” คนโครงสร้ างผลผลิตคือคนกระฉับกระเฉงที่เต็มไปด้วยอารมณ์สนุ กสนานอย่างล้นเหลื อ สนุกกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นตรงหน้า และมักพร้อมที่จะแล่นไปตามแรงกระตุนของตน เพราะพวกเขา ้ ไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนี ยมและเฝ้ ามองออกไปค้นหาเหตุการณ์ ผูคน แนวคิดและสิ่ งต่างๆ ที่สด ้ ใหม่เสมอ คนโครงสร้างผลผลิตมีบุคลิกภาพดึงดูดใจอย่างยิ่ง และคอยหาวิธีที่จะทอประกายฉายแสง พวกเขาต้องการความละลานตา การแสดง และความลึกลับ เมื่อบวกกับอารมณ์สนุ กสนานของพวก เขาแล้วก็ทาให้พวกเขาเป็ นคนที่ ใครๆ ก็อยากมาห้อมล้อม พวกเขาร่ าเริ งและเบิกบาน เปี่ ยมด้วย พลังงานและความกระตือรื อร้นสาหรับแผนการที่ดีที่สุด สานึกแห่งความอยากรู ้อยากเห็นยังทาให้คนโครงสร้างผลผลิตสดชื่ น คอยแสวงหาสิ่ งที่น่า ตื่นใจอยูเ่ สมอ พวกเขาชอบตั้งคาถาม มีชีวตอยูกบปั จจุบน และแพร่ สิ่งเหล่านี้ ไปสู่ ผคนรอบตัวในวง ิ ่ ั ั ู้ ่ กว้าง พวกเขาไม่ชอบความจาเจ สิ่ งที่คาดเดาได้และคงที่อยูอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่ค่อยน่าเบื่อ  ไวต่อแรงกระตุน ้  กระตือรื อร้นกับสิ่ งใหม่ๆ  จดจ่อกับความน่าตื่นเต้นที่สดใหม่ ~3~
  • 4. ชอบสั งคม “ทั้งโลกเป็ นผู้ชมของพวกเขา” คนโครงสร้ างผลผลิ ตมีธรรมชาติ ที่ชอบใส่ ใจกับสิ่ งภายนอกมากที่ สุด พวกเขาชอบผูคน ้ ั ้ และเพลิ ดเพลิ นกับการคลุ กคลี กบผูคน เป็ นเพื่อนกับผูคนได้ง่าย โดยเฉพาะหลังจากที่ คนคนนั้น ้ กระตุนความสนใจของพวกเขา พวกเขาเพลิดเพลินกับการรวบรวมผูคนที่มีสติปัญญา ความสามารถ ้ ้ พิเศษ คนที่มีไหวพริ บปฏิภาณ และคนที่แตกต่างไว้รอบตัว และอันที่จริ งพวกเขาก็เป็ นคนประเภทที่ มีกลุ่มแฟนเล็กๆ ห้อมล้อมรอบตัวด้วยเช่นกัน พรสวรรค์และความมี ชีวิตชี วาตามธรรมชาติของคนโครงสร้างผลผลิตทาให้ พวกเขาเป็ น ่ แขกรับเชิญที่เก่งในการสร้างความบันเทิงและมีผคนห้อมล้อมมากมาย พวกเขาต้องการอยูในที่ที่เต็ม ู้ ไปด้วยกิ จกรรม และเพลิ ดเพลิ นกับช่ วงเวลาแห่ งความสนุ กที่ยิ่งกว่านั้นคือเป็ นการใช้เวลาร่ วมกับ ผูคน ไม่ใช่อยู่ตามลาพัง พวกเขามักได้รับเสี ยงปรบมือและมีเสี ยงหัวเราะรอบตัว และจะสร้างสาน ้ มนุษยสัมพันธ์เพื่อที่จะได้มีสิ่งเหล่านี้อยูเ่ สมอ ั คนโครงสร้างผลผลิตมีความสามารถพิเศษในการพูด เป็ นที่รู้กนว่าพวกเขาสามารถเสกสรร เรื่ องราวที่ เรี ยกเสี ยงหัวเราะได้ตลอดเวลา เก่ งในการดึ งคนที่หมกมุ่นแต่เรื่ องของตัวเองให้หันมา สนใจโลกภายนอกบ้าง และสามารถทาให้คน “ขี้ อาย” หายเขินและหัวเราะได้ ความสามารถใน การมองด้านดี ของสิ่ งต่างๆ ยังทาให้พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็ นคนมี คุณค่าสู งในฐานะผูร่วม ้ สมคบคิด ผูร่วมนาเชียร์ และในฐานะเพื่อนและเพื่อนร่ วมงานด้วย ้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เป็ นมิตร  ชอบสังคม  เก่งดึงคน  ชอบรู ้จกกับผูคนเยอะๆ ั ้  ชอบใช้เวลาร่ วมกับคนอื่น ~4~
  • 5. กระตือรือร้ น “แพร่ กระจายพลังงานทีดี” ่ คนโครงสร้างผลผลิตมักถูกผูคนที่ชื่นชอบพวกเขาจดจาได้ทนที ไม่มีช่วงเวลาแห่ งความจืด ้ ั ่ ชืดน่าเบื่อเมื่ออยูท่ามกลางคนเหล่านั้น เพราะพลังงานที่สูงยิ่งของพวกเขานั้นสามารถส่ งผลกระทบ ต่อเนื่องผ่านไปที่คนอื่นๆ ได้จริ ง ผูคนจะรู ้สึกสดชื่ นและอิ่มเอิบเมื่อได้ห้อมล้อมพวกเขา เพราะพวก ้ เขารู ้วธีทาให้เรื่ องราวต่างๆ น่าสนใจ มีชีวตชีวาและรู ้วธีสร้างบรรยากาศที่ดี ิ ิ ิ คนโครงสร้างผลผลิตยังชอบส่ งผ่านความกระตือรื อร้นของพวกเขาไปสู่ ผคนที่ชื่นชอบด้วย ู้ พวกเขาสามารถแสดงความรั กและอารมณ์ ได้อ ย่างอิ ส ระ ชอบกอดเพื่ อนๆ หรื อเล่ นผมของพี่ ๆ น้องๆ อยู่ตลอดเวลา ท่าทางดูเหมือนเป็ นคนค่อนข้างขี้กลัวหรื อไร้เดียงสา แต่นี่เป็ นแค่ผลข้างเคียง ตามธรรมชาติของความอยากรู ้อยากเห็นที่เร่ าร้อนของพวกเขาเท่านั้น พวกเขามีชีวิตชี วามาก และมัก แสดงความรู้สึกออกมาทางสี หน้า เรื่ องราวในกระแสความสนใจและแม้เรื่ องซุ บซิ บเป็ นสิ่ งเติ มเชื้ อไฟให้แก่ คนโครงสร้ าง ผลผลิ ต พวกเขาสนุ กกับการได้รู้เรื่ องวงในและการได้มีส่วนร่ วมเพราะพวกเขาเป็ นผูมีส่วนร่ วมที่ ้ ตื่นตัวในเกมชี วิต ไม่ใช่ ผเู ้ ฝ้ ามองหรื อผูสังเกตการณ์ พลังงานและความหลงใหลในสิ่ งที่ทาก็ทาให้ ้ พวกเขาเป็ นคนฉลาดและมีความรู้มากด้วย ที่จริ งคนโครงสร้างผลผลิตมักเฉี ยบแหลมตื่นตัว และมี ่ ความสามารถในทุกเรื่ องที่พวกเขาสนใจอยูในขณะนั้น ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เปี่ ยมด้วยพลังงาน  กระตือรื อร้นมาก  เป็ นที่รักของคนอื่น  อยากรู ้อยากเห็นและทันต่อเหตุการณ์  ให้แรงบันดาลใจในทางบวกแก่คนอื่น ~5~
  • 6. ด้ านไม่ ดี ต้ องการความใส่ ใจ “ไม่ มีใครเป็ นทีชื่นชอบมากกว่าฉัน” ่ เมื่อคุณลักษณะต่างๆ ของคนโครงสร้างผลผลิตเริ่ มแสดงออกในทางลบ แนวโน้มของพวก เขาที่ชอบเป็ นศูนย์กลางความสนใจจะทาให้พวกเขา เป็ นคนแสวงหาความสนใจมากเกินไป อย่างไร ก็ตาม พวกเขาให้คุณค่าสู งต่อความสนใจและคุณภาพของความสนใจที่พวกเขาทาให้เกิดขึ้น เพราะเหตุน้ ี คนโครงสร้ างผลผลิ ตจึงเพลิ ดเพลิ นกับแสงสี กลางเวที มากเกิ นไป และมักไม่ ตระหนักเมื่อหลงระเริ งกับมันมากเกินไป พวกเขาอยากให้ใครๆ เห็นว่าพวกเขานั้นมีเอกลักษณ์โดด เด่นและแตกต่าง ดังนั้นเมื่อไม่ได้รับความสนใจก็จะเก็บมาเป็ นอารมณ์ พวกเขาค่อนข้างชอบการ ประชันขันแข่ง และมีแนวโน้มที่จะมองว่าการได้รับความชื่ นชอบก็เป็ นส่ วนหนึ่ งของการแข่งขัน ด้วยเช่นกัน คนโครงสร้ างผลผลิ ตยังชอบแสดงลี ลาท่าทางเกิ นจริ ง และบางครั้ งก็แสดงออกเกิ นจริ ง เพราะต้องการให้คนมาสนใจ ดังนั้นพวกเขาจึงยึดมันในเรื่ องแบบนี้ มากเกิ นไปหน่ อยในบางครั้ ง ่ และพลังแห่งการยึดมันนี้ก็อาจมากมายเกินกว่าที่คนอื่นๆ จะรับไหว ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ต้องเป็ นศูนย์กลางของทุกสิ่ ง  กระหายความชื่นชอบ  อยากเป็ นคนโดดเด่นและอยากให้ใครๆ คิดว่าตนเองเป็ นคนพิเศษ  ทาตัวเป็ นนางเอก ~6~
  • 7. ยืนกราน “อยากเดินไปบนเส้ นทางของตัวเอง” ด้วยบุคลิกภาพที่เข้มแข็ง คนโครงสร้างผลผลิตจึงชอบครอบงาในด้านสัมพันธภาพ พวกเขา ชอบการเป็ นคนที่ใครๆ ยอมรับนับถือ ชอบเป็ นคนที่ใครๆ หันมาหาเสมอ ชอบที่จะรู ้สึกว่าตัวเองมี ประโยชน์และเป็ นที่ตองการ แต่ที่มากกว่านั้นคือ พวกเขาจะต้องรู ้ จกว่าคาพูดและคาแนะนาของ ้ ั พวกเขานั้นได้รับการนาไปใช้และปฏิบติตาม ั ดังนั้นคนโครงสร้างผลผลิตจึงค่อนข้างยืนกรานในการทาอะไรๆ ตามวิธีของตน ปกติแล้ว ่ ถ้าพวกเขาให้คาแนะนาอะไรแก่ใคร ก็มกคาดหวังว่าผูคนจะทาตามนั้นไม่วาจะเป็ นการตัดสิ นใจว่า ั ้ จะไปกินข้าวกันที่ไหน หรื อจะดูหนังเรื่ องอะไร พวกเขาคาดหวังให้คาพูดของตนเป็ นคาชี้ ขาดเสมอ อีกทั้งยังหวังว่าคาแนะนาเหล่านั้นจะได้รับการปฏิ บติตามเสมอด้วย ไอเดี ยของพวกเขาต้องทาให้ ั คนอื่นรู ้สึกตื่นเต้นได้ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่ค่อยมีความสุ ข ลักษณะเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าคนโครงสร้างผลผลิตชอบใช้คนอื่น มันเป็ นแค่ธรรมชาติ ความอยากรู ้อยากเห็นของพวกเขาเองที่ทาให้ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับชี วิตคนอื่น พวกเขาไม่เข้าใจว่า ท าไมคนอื่ นไม่ อยากมาขอค าปรึ ก ษา และมัก เก็ บ มาเป็ นอารมณ์ หากเพื่ อนๆ ไม่ เห็ นคุ ณค่ า ของ ั คาปรึ กษาราคาย่อมเยาที่มอบให้ บางครั้งอาจรู ้สึกว่าเป็ นการสบประมาท และถือว่าไม่ให้เกียรติกน ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อยากเป็ นผูนาของกลุ่ม ้  ชอบให้คาแนะนา  คาดหวังว่าคาแนะนาจะได้รับการปฏิบติตาม ั  อยากบอกคนอื่นๆ ว่าควรทาอย่างไร ~7~
  • 8. ความคิดแปรปรวน “โอนเอนง่ ายด้ วยไอเดียใหม่ ๆ ก็น่าตื่นเต้ นกว่า” เรื่ องน่ าแปลกของคนโครงสร้ างผลผลิ ตซึ่ งโดยธรรมชาติ แล้วเป็ นคนกล้าและเชื่ อมันคื อ ่ ความคิ ดค่อนข้างแปรปรวน พวกเขาเปลี่ ยนใจค่ อนข้างบ่ อยและเอาแน่ นอนไม่ค่อยได้ในแต่ล ะ ั ช่วงเวลา เช่น ตอนนี้กบพรุ่ งนี้ ความคิดก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ที่เป็ นเช่นนี้ส่วนใหญ่ก็เพราะธรรมชาติที่อยากรู ้อยากเห็นของพวกเขา ความคิดของพวกเขา เหมือนตะแกรง มันประมวลข้อมูลทุกประเภท เพราะความอยากรู ้จริ งๆ ในทุกสิ่ งที่สนใจ พวกเขามี ่ แนวโน้มที่จะตกอยูภายใต้อิทธิ พลของความตื่นเต้นและความสดใหม่ ดังนั้นถ้าไม่เห็นว่ามีอะไรน่ า ตื่นเต้นหรื อน่าสนใจ ก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะไม่ให้ความสาคัญกับเรื่ องนั้น ในหัวของคนโครงสร้ างผลผลิ ตเต็มไปด้วยไอเดี ยและความคิ ดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ด้วย เหตุน้ ี บางครั้งไอเดียวของพวกเขาจึงไม่คงเส้นคงวาและเอาแน่เอานอนไม่ได้ คนอื่นๆ ตามพวกเขา ไม่ค่อยทันเพราะเปลี่ยนความคิดบ่อยมาก คนอื่นๆ จะทาความเข้าใจกับสิ่ งที่พวกเขาพูดถึงได้ยาก ข้ อเท็จจริงสาคัญ ่  ตกอยูภายใต้อิทธิ พลของแนวคิดที่สดใหม่กว่าได้ง่าย  เปลี่ยนใจง่าย  อะไรไม่สาคัญสาหรับพวกเขาแล้วละก็ ลืมมันไปได้เลย  อาจละเลยข้อเท็จจริ งและเหตุการณ์สาคัญๆ ~8~
  • 9. บุคลิกภาพในฐานะพ่ อแม่ ด้ านดี พ่อแม่ ทเี่ ป็ นเพือน ่ “ เป็ นพ่อแม่ ที่ “ทันสมัย” ” ในเรื่ องของลู กๆ นั้น คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะเลี้ ยงดู ลูกโดยใช้ความสนุ กสนานและการ หยอกล้อกันเล่นแบบเดี ยวกับที่พวกเขาทาในชี วิตปกติ พวกเขาทาตัวเป็ นเพื่อนกับลูกมากกว่าเป็ น พ่อแม่หรื อผูดูแลเด็ก ไม่ทาให้เด็กๆ รู ้ สึกแปลกแยกด้วยขอบเขตที่ เคร่ งครัดซึ่ งกี ดกั้นปฏิ สัมพันธ์ ้ ตามธรรมชาติ ั ในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กบลูก คนโครงสร้างผลผลิตไม่ยึดติดในขอบเขตเคร่ งครัดที่ จะทาให้ลูกๆ เหิ นห่ างแปลกแยก พวกเขาอยากทุ่มเทชี วิตจิตใจทั้งหมดให้แก่ลูกๆ และจะทาทุกสิ่ ง เพื่อให้เป็ นเช่นนั้น และเพื่อให้ใครๆ เห็นว่าพวกเขาเป็ นพ่อแม่สุดเจ๋ งที่เล่นสนุ กกับลูกๆ ได้ พวกเขา จะเบิกบานใจถ้าลูกๆ สนิทกับพ่อแม่มากกว่าเพื่อนๆ ั ด้วยเหตุ น้ ี พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างผลผลิ ตจึงมีความสัมพันธ์ ที่ดีกบลูกๆ และด้วยเหตุ น้ ี ่ เช่นกัน เพื่อนๆ ของลูกก็จะชอบมาอยูใกล้ๆ ล้อมหน้าล้อมหลังพวกเขาด้วย อันที่จริ งเพื่อนๆ ของลูก อาจรู ้ สึ กว่าเล่ นกับ พ่อแม่ข องเพื่ อนสนุ กกว่าเล่ นกับ ลู ก ๆ ของพวกเขา (ซึ่ ง เป็ นเพื่ อนของตัวเอง) ด้วยซ้ า ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เข้าถึงได้ง่าย  ไม่ชอบมีขอบเขตกั้นระหว่างพ่อแม่/ลูก  เปิ ดรับลูกๆ ของพวกเขา  ไม่ให้ความสาคัญกับพิธีการ ~9~
  • 10. สนุกสนาน “เจ้ าแห่ งโรงละครสั ตว์ประจาบ้ าน” พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิ ตไม่ได้ดูแลบ้านของตนเองตามวิธีเดิ มๆ พวกเขาอยากให้ บ้านเป็ นพื้นที่แห่งความสุ ขสนุกสนานและการเล่นสนุก อันที่จริ งมันแสดงถึงจุดแข็งของพวกเขาใน ฐานะผูมีวสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ ซึ่ งก้าวข้ามธรรมเนี ยมปฏิบติประเพณี และพิธีการที่เคร่ งขรึ มคร่ าครึ ้ ิ ั ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาชอบให้ชีวตของลูกๆ เปี่ ยมด้วยความรู ้สึกสนุกสนาน ิ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตจึงมักโลดแล่นไปทัวบ้านเล่นสนุกกับลูกๆ ทั้งวัน ส่ งเสี ยง ่ เอะอะมะเทิ่งหรื อเล่าเรื่ องตลก คลุกคลีตีโมงและเล่นสนุ กมอมแมมกับลูกๆ พวกเขาชอบให้บานมี ้ บรรยากาศสนุ กสนาน และอยากเห็ นลูกๆ สนุ กมากกว่าที่จะยึดถื อกฎเกณฑ์เคร่ งครัด ในบ้านของ พวกเขาจะไม่มีคาว่า “เด็กๆ ต้องอยูเ่ ฉยๆ ห้ามส่ งเสี ยงดัง” คนโครงสร้ างผลผลิ ตยังชอบจัดกิ จกรรมสร้ างความบันเทิงให้ลูกๆ อีกด้วย ชี วิตของลูกๆ ในบ้านพวกเขาไม่เคยจืดชืดน่าเบื่อ แต่ละวันมักเต็มไปด้วยกิจกรรมตั้งแต่เช้าจรดค่า และเพราะพวก เขาชอบสนใจโลกภายนอกและชอบมีส่วนร่ วมในทุกอย่างที่โลกหยิบยื่นให้ จึงชอบให้ลูกๆใช้ชีวิต แบบเดียวกันด้วย ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ชอบเล่นสนุก  ไมมีช่วงเวลาน่าเบื่อ  ซุกซนเหมือนเด็ก  ไม่ใช่คนเจ้าระเบียบเคร่ งครัด ~ 10 ~
  • 11. มีอารมณ์ขัน “ใช้ อารมณ์ ขันเป็ นอาวุธทีดีที่สุดของพวกเขา” ่ ความสนุกสนานและอารมณ์ขนที่มีมากมายเหลือเชื่อเป็ นอาวุธที่ดีที่สุดของพ่อแม่ที่เป็ นคน ั โครงสร้างผลผลิต ซึ่ งก็สอดคล้องกับนิ สัยรักสนุ กและขี้เล่นของพวกเขา พวกเขาให้ลูกๆ ได้สนุ ก กับการใช้สติปัญญาและความสนุกสนานทั้งหลายทั้งปวงในชีวตตั้งแต่ตนวัย ิ ้ สิ่ งนี้ เป็ นเรื่ องดี เพราะบ้านของคนโครงสร้างผลผลิตจะเต็มไปด้วยเสี ยงหัวเราะเสมอ พวก เขาส่ งเสริ มให้ลูกมองเห็ นด้านสนุ กสนานของชี วิต ซึ่ งถ้ามองหาให้มากพอ ก็จะพบว่ามันอยู่ที่นน ั่ เสมอมา ด้วยเหตุน้ ีพวกเขาจึงชอบที่จะเปลี่ยนเรื่ องร้ายๆ และหายนะทั้งหลายให้เป็ นเรื่ องน่าขัน ลูกๆ ของพวกเขาจะไม่ค่อยร้องไห้ฟูมฟายกับนมที่หกไปแล้ว และในไม่ชาลูกๆ ของพวกเขาก็จะหัวเราะ ้ ขบขันทรงของนมบนพื้นที่ดูตลก ่ เพราะเหตุน้ ีพอแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตจึงมีแนวโน้มที่จะปลูกฝังสานึ กแห่ งการปรับ ่ จิตใจให้แก่ลูกๆ ไม่วาพวกเขาจะรู ้ตวหรื อไม่ก็ตาม ความสามารถในการหัวเราะเยาะโลกและตัวเอง ั โดยไม่เอาจริ งเอาจังกับสิ่ งต่างๆ จนเกินไปนี้เองที่ทาให้ลูกๆ ของพวกเขาเติบโตโดยมีทศนคติที่ดี ั ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ใช้อารมณ์ขนรับมือกับเรื่ องเลวร้าย ั  พูดตลก  ชอบหัวเราะ  พูดให้เป็ นเรื่ องขาในช่วงเวลาที่ยากลาบาก ~ 11 ~
  • 12. มองโลกในแง่ ดี “หาเส้ นสี เงินที่ขอบเมฆพบเสมอ” ควบคู่ไปกับความรักอารมณ์ขนของพวกเขา พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตเป็ นคนมอง ั โลกในแง่ดีเสมอ พวกเขาไม่ใช่ คนประเภทที่เอาแต่นงบีบมือด้วยความกลัดกลุ มกังวล หม่นหมอง ั่ ้ ั เศร้าสร้อยกับเคราะห์กรรมและเน้นย้ าอยู่กบสิ่ งที่เลวร้ายในชี วิต ซึ่ งทาให้ลูกๆ เห็ นการทาตัวหดหู่ บูดบึ้ง พวกเขาเป็ นนักมองโลกในแง่ดีและพยายามมองหาด้านดีของชีวตมากกว่า ิ เมื่อใดที่เกิ ดอะไรผิดพลาดขึ้นมาก คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะสอนลูกๆ ให้คนหาเส้ นสี เงิ น ้ ั ที่ขอบเมฆทุ กก้อน พวกเขาส่ งเสริ มให้ลูกมองด้านบวกและหลี กเลี่ ยงการเอาแต่หดหู่ กบด้านลบ ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาช่วยให้ลูกมองเห็นว่าความถดถอยต่างๆ เป็ นแค่ดานลบเพียงชัวครั้งชัวคราว ้ ่ ่ เท่านั้น ดังนั้นโดยทัวไปคนโครงสร้างผลผลิตจึงพยายามเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็ นคนร่ าเริ งไม่ใช่วิธีคิด ่ แบบ “อดทนและยิ้ม สู ้ ” แต่ เป็ นแบบ “มองให้ดีแล้วลู ก จะพบบางอย่า งที่ ท าให้ยิ้มได้” มากกว่า อารมณ์ ขนและการมองโลกในแง่ ดีน้ ี จะช่ วยให้ลูกๆ ของพวกเขาสามารถแก้ปัญหาและรับมื อกับ ั เรื่ องเลวร้ายต่างๆ ในชีวตได้เป็ นอย่างดี ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มองด้านดี ่ ั  หลีกเลี่ยงการหมกมุ่นอยูกบด้านลบ  ใช้การมองโลกในแง่ดีเป็ นทรัพยากร  เน้นไปที่การเรี ยนรู ้บางสิ่ งบางอย่างจากสิ่ งดีๆ ~ 12 ~
  • 13. ด้ านไม่ ดี ยุ่งเหยิง “บ้ านแบบ “อะไรก็ได้ ” ” ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้างผลผลิตไม่ใช่คนที่บารุ งดูแลรักษาบ้านอย่างดี ซึ่ งก็สอดคล้อง ่ กับบุคลิกภาพแบบคนธรรมดาๆ ของพวกเขานั้นแหละ พวกเขามีแนวโน้มเป็ นคนที่ค่อนข้างยุงเหยิง ่ วุนวาย บ้านของพวกเขาก็ค่อนข้างโกลาหลและเต็มไปด้วยสารพัดเรื่ อง ่ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตไม่ได้เป็ นคนยุงเหยิงและไม่มีระเบียบมาตั้งแต่ตน แต่เป็ น ้ เพราะพวกเขาสนใจทุ กสิ่ งทุ กอย่างรอบตัว จึ งชอมสะสมข้าวของซึ่ งมีแนวโน้มทาให้บานรกและ ้ ่ ทาให้รู้สึกว่าบ้านสกปรกเลอะเทอะและยุงเหยิงไปหมด ่ ่ ั พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตไม่คิดว่าตัวเองจะวุนอยูกบการทาความสะอาดและความ เป็ นระเบี ยบเรี ยบร้ อยได้ ดัง นั้นถ้าลู ก ของพวกเขาทาเรื่ องนี้ แทนได้ก็ย่อมช่ วยได้มาก ในทานอง เดี ยวกัน ด้วยเหตุ ที่คนโครงสร้ างผลผลิ ตมีหัวใจเป็ นเด็กเสมอ ดังนั้นบางครั้งลู กๆ จึงต้องสวมบท เป็ นผูใหญ่ที่โตแล้วแทน ้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่เรี ยบร้อย  ไม่มีระเบียบ  ข้าวของเกลื่อนเต็มบ้าน ~ 13 ~
  • 14. ขีหลงขีลม ้ ้ื “อุ๊ย ลืมลูกไว้ กบหมอฟัน” ั ลักษณะคลาสสิ กตามธรรมชาติ ของบุคลิ กภาพของคนโครงสร้ างผลผลิ ตคือความขี้หลงขี้ ลืมในการดาเนิ นชี วิตปกติทวไป ผูคนไม่ควรถือโทษหากพวกเขาลืมชื่ อและนัดหมายต่างๆ ที่นดไว้ ั่ ้ ั พวกเขาไม่ ได้ต้ งใจให้เป็ นแบบนั้น เพี ยงแต่หัวสมองของพวกเขานั้นเหมื อนเครื่ องกรองเวลาที่ ั ประมวลข้อมูลหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน ก็จะสนใจแต่ขอเท็จจริ งสาคัญๆ เท่านั้น ส่ วนเรื่ องจิปาถะ ้ รายละเอียดยิบย่อยว่าใครชื่ออะไร และนัดกินมื้อเย็นกันที่ไหน ก็จะถูกลืมไปหมด ในทานองเดียวกัน พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างผลผลิตก็ข้ ีหลงขี้ลืมเป็ นบางครั้ง ไม่ถึงกับลืม ชื่ อลู ก เพียงแต่ลืมไปว่าลู กอยู่ที่ไหนกับใคร มี แนวโน้มที่ จะติ ดนิ สัยลื มนัดของลู ก และมักพบว่า ตัวเองไม่ค่อยรับลูกที่โรงเรี ยน แทนที่จะเป็ นที่สนามเทนนิส คนโครงสร้างผลผลิตยังมีกิจกรรมมากมายเกินไปในปฏิทินนัดหมายของตัวเองและของลูก ดังนั้นจึงมีปัญหาเรื่ องนี้ แต่เหตุผลหลักคือ พวกเขามีแนวโน้มที่จะลืมเรื่ องที่ รู้สึกว่าน่ าเบื่อหรื อไม่ คุมค่ากับความสนใจของพวกเขา ดังนั้นงานบ้านที่เป็ นกิ จวัตรหรื อเหตุการณ์ ต่างๆ อย่างเช่ น “การ ้ นัดหมอ” และเรื่ องทานองนี้ จึงมีแนวโน้มที่จะหายหกตกหล่นไปจากความทรงจา ก็เพราะมันไม่ได้ ่ อยูในความคิดลาดับต้นๆ ของพวกเขานันเอง ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่จาเรื่ องที่น่าเบื่อ ่  ไม่มีที่วางในหัวสาหรับเรื่ องเวลาและชื่อ  สับสนเรื่ องตารางเวลากิจกรรม  หมกมุ่นกับเรื่ องอื่นๆ ~ 14 ~
  • 15. ไร้ ระบบระเบียบ “ชี วตทีย่ งเหยิงวุ่นวาย” ิ ุ่ ในฐานะพ่ อ แม่ คนโครงสร้ า งผลผลิ ต ยัง ขาดทัก ษะการบริ หารเวลา และไม่ รู้ วิ ธี จ ัด โครงสร้ า งชี วิ ต ของลู ก ด้ว ย ดัง นั้น อะไรต่ อ อะไรจึ ง สุ ม ซ้ อ นกัน ไปเรื่ อ ยๆ กิ จ กรรมต่ า งๆ ใน ตารางเวลาประจาวันไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และทาให้ประสาทเสี ยได้บ่อยๆ โดยทัวไปคนโครงสร้างผลผลิตไม่สามารถจัดระบบระเบียบและไม่มีระเบียบวิธีในทุกสิ่ ง ่ ที่ทา แม้แต่ในชีวตประจาวัน พวกเขาก็ชอบปล่อยเรื่ องการจัดระบบระเบียบให้คนอื่นทา และเพราะ ิ ั พวกเขาไม่ค่อยนาทักษะการจัดระบบระเบี ยบมาใช้กบตัวเองจึ งกลายเป็ นพ่อแม่ที่ไม่สามารถจัด ระบบระเบียบในชีวตของลูกๆ ได้ ิ ส่ วนใหญ่คนโครงสร้ างผลผลิ ต พบว่าการัดระบบระเบียบเป็ นเรื่ องไม่น่าตื่นเต้นดูเหมือน งานหยุมหยิมน่ าเบื่อ “ที่ตองทา” และดูดซับพลังงานในชี วิตประจาวันของพวกเขาไปจนหมดสิ้ น ้ ดังนั้นแม้แต่ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาก็ใช้ชีวตกับปั จจุบนขณะมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะมีความคิด ิ ั แบบทาอะไรวันต่อวัน หรื อทาเมื่ อถึ งเวลาต้องทาเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วการที่พวกเขาเป็ นคนที่ มองแต่ภาพใหญ่ จึงมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่มีโครงสร้าง  ไร้ระเบียบวินย ั  ไม่ตื่นเต้นกับแนวคิดเรื่ องการจัดระเบียบ  ไม่ใส่ ใจรายละเอียด  ใช้ชีวตกับขณะปั จจุบน ิ ั ~ 15 ~
  • 16. ด่ วนสรุ ป “ไม่ ฟังเรื่องราวทั้งหมดก่อน” ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ า งผลผลิ ตเอาแต่ ฟั ง เสี ย งตัวเอง บางครั้ งอาจถึ ง กับ ท าความ เสี ยหายให้แก่ลูกๆ ไม่ใช่เพราะความใจร้ ายที่ไม่สนใจฟั งลูก ที่จริ งพวกเขาส่ วนใหญ่ไม่รู้ตวด้วยซ้ า ั ไปว่ากาลังทาแบบนั้น เพียงแต่พวกเขาเคยชินกับการฟังแต่เสี ยงของตัวเองมาเนิ่ นนานต่างหาก เพราะคนโครงสร้างผลผลิตชอบฟั งแต่เสี ยงตัวเอง ในฐานะพ่อแม่ จึงมองข้ามเรื่ องราวของ คนอื่น แม้แต่ของลูกตัวเอง พวกเขาไม่มองว่าตัวเองกาลังใจร้ าย แต่ลูกๆ ของพวกเขาอาจรู ้ สึกจาก มุมมองแตกต่างออกไป ดังนั้นลูกๆ ของคนโครงสร้างผลผลิตจึงอาจสื่ อความกับพ่อแม่ได้ค่อนข้างลาบาก ถ้าปล่อย ให้เป็ นอย่างนี้ต่อไป ก็จะนาไปสู่ ปัญหาการสื่ อสารที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยลูกพูดเรื่ องหนึ่ ง แต่พ่อแม่พูด อีกเรื่ องหนึ่ ง ซึ่ งเป็ นคนละเรื่ องกันโดยสิ้ นเชิ ง พวกเขาไม่ได้ต้ งใจที่ จะแยกสองเรื่ องออกจากกัน ั แต่เพราะมีเรื่ องที่ร้ายกว่าหรื อน่าสนใจกว่ายึดความสนใจของพวกเขาไปเสี ยก่อน ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ตัดเรื่ องราวของลูกทิ้ง  พูดแทรก  พยายามรี บด่วนสรุ ป  ไม่ปล่อยให้ลูกพูดจนจบ  มุ่งเน้นแต่ในสิ่ งที่ตนเองสนใจเท่านั้น ~ 16 ~
  • 17. ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างผลผลิต ด้ านสว่ าง  สร้ างสรรค์ ความบันเทิง คุณเป็ นดาราแห่งโลกการแสดงโดยแท้ คุณเป็ นคนที่มีชีวิตชีวาและเปี่ ยมด้วยพลังงาน ่ คุณควรเฉิ ดฉายในแสงไฟสปอร์ ตไลท์ดวยเหตุผลที่วาคุณเก่งในการสร้างสรรค์ความบันเทิง ้ คุณสนุกกับคาชื่นชมสรรเสริ ญและเพลิดเพลินกับการเป็ นที่อิจฉาของคนอื่น  มีอารมณ์ขัน คุณเป็ นเจ้าของอารมณ์ขนตัวจริ ง เพราะคุณชอบหัวเราะตัวเองและโลก ไม่มีอะไรพ้นไป ั จากรัศมีเรดาร์ ความร่ าเริ งของคุณได้ คุณเพลิดเพลินกับการใช้ไหวพริ บปฏิภาณ ความหลัก แหลม และการเหน็บแนมให้แสบๆ คันๆ ทั้งหมดนี้ทาให้อารมณ์ขนของคุณแหลมคมยิงขึ้น ั ่  สร้ างสรรค์ คุณเป็ นนักฝันที่สร้างสรรค์ผสามารถคิดแผนการและไอเดียต่างๆ ที่ทาให้ทุกคนถึงกับลืม ู้ หายใจ คุณเก่งในการสร้างแนวคิดที่คนอื่นได้แต่ฝันถึง คุณเพลิดเพลินกับการสร้างความ ประทับใจให้คนอื่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคุณ  เชื่อมั่น คุณสามารถสร้างชื่อหรื อแบรนด์ให้ตวเองด้วยความสามารถพิเศษ ทักษะ และ ั ความสามารถของคุณในขณะที่คนอื่นสงสัยว่า “จะทาอะไรกับชีวตดี” คุณจะเดินไป ิ ข้างหน้าด้วยความกระฉับกระเฉงและความเชื่อมัน คุณเฉลียวฉลาดและมีเอกลักษณ์ ่ ที่โดดเด่น รวมทั้งได้รับความนับถือจากคนอื่นเพราะความมันใจตัวเองของคุณ ่ ~ 17 ~
  • 18.  ชอบประดิษฐ์ คิดค้ น คุณมักเป็ นคนที่ช่วยคิดวิธีแก้ไขปั ญหาได้หรื อคิดไอเดียได้ในขณะที่คนอื่นๆ ในทีมคิด อะไรไม่ออก หรื อเอาแต่นึกถึงสิ่ งเดียวกันกับเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว คุณมุ่งมันกับการปรับปรุ งให้ ่ โครงงานเดิมๆ ดีข้ ึนเสมอ และที่ดีกว่านั้นคือคุณสามารถคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาได้จาก จุดเริ่ มต้นที่ไม่มีอะไรเลย  เป็ นนักแสดง คุณเกิดมาเป็ นนักแสดงโดยธรรมชาติ จะมัวเกาะกลุ่มในมุมมืดซุ บซิ บไอเดียต่างๆ กันอยู่ ทาไม ในเมื่อคุณสามารถตะโกนดังๆ บนเวที ร้องเป็ นเพลง หรื อแม้กระทังขึ้นไปยืนบนโต๊ะ ่ ่ แล้วแสดงปาฐกถาได้ คุณไม่เชื่อในการทางานแฝงเร้นอยูหลังฉาก คุณเพลิดเพลินกับความ สนอกสนใจของผูคน และสามารถสังมันได้ รวมทั้งทาให้ผคนเคลิ้มตามได้ ้ ู้ ่  กระตือรือร้ น คุณเปี่ ยมด้วยพลังงานและกระตือรื อร้นอย่างยิงในสิ่ งที่คุณสนใจ ซึ่ งนันหมายถึงเกือบ ่ ่ ่ ทุกอย่าง ไม่มีใครสามารถพูดได้วาคุณเป็ นคนจืดชื ดน่าเบื่อหรื อหดหู่ คุณมักหมกมุ่นกับ การซึ มซับสิ่ งสาคัญในชีวต และทาสิ่ งนั้นด้วยการมองในแง่ดีเต็มเปี่ ยม ิ ~ 18 ~
  • 19. ด้ านมืด  ปมเขื่อง บางครั้งคุณต้องยอมรับว่าคุณคิดว่าตัวเองเหนื อกว่าหรื อดีกว่าคนอื่นๆ แต่นี่เป็ นสิ่ งที่คุณต้อง ระวังไม่ให้เกิดขึ้นอย่างที่เขาพูดกันว่าความทะนงตนมักนามาซึ่งความตกต่า คุณมีแนวโน้ม ที่จะลื่นไถล เดินสะดุด หรื อทาผิดพลาดมากขึ้น ถ้ายังคิดอยูเ่ รื่ อยว่าคนอื่นไม่มีคุณค่าอะไร ให้คุณ  รังเกียจคนอื่น คุณมักไม่สนใจคาแนะนาของคนอื่นเพราะมันธรรมดาเกินไป ซึ่ งทาให้คุณพลาดเพชร ในตมได้ง่ายๆ เพราะคุณไม่ชายตามองเอาเสี ยเลย คุณใช้การดูถูกเป็ นเครื่ องมือที่ดีที่สุดใน การปกป้ องตัวเองจากความไร้สติและความโง่เขลา แต่คุณไม่เห็นว่าคุณทาให้คนอื่นเกิด ความรู ้สึกแปลกแยกและไม่ยอมรับไอเดียดีๆ ของคุณ  ขาดพลังอึด คุณเหมือนม้าแข่งที่ออกตัวและวิงได้ดีมาก แต่คุณต่างจากม้าแข่งตรงที่คุณขาดพลังอึดใน ่ การทาอะไรๆ ให้ตลอดรอดฝั่งจนเสร็ จ ทั้งนี้ เพราะความทะนงตัวของคุณ ทว่าแม้แต่มาแข่ง ้ ก็ยงต้องวิงรอบสนามก่อนที่จะแข่งจบนี่เป็ นคุณค่าที่คุมกับการนาไปใช้ในชีวตของคุณเอง ั ้ ิ ่  อัตตาสู ง เพราะใครๆ มักบอกว่าคุณเก่งที่สุด บางครั้งคุณจึงหลงตัวเอง มาเผชิ ญหน้ากับมันดีกว่า คุณ เก่งที่สุดเพราะพลังและแรงขับเคลื่อนของคุณ แต่ถาคุณเอาแต่อิ่มอกอิ่มใจและหลงลาพอง ้ ในตัวเอง ก็จะไม่มีใครชอบหน้าคุณ  ถูกตามใจจนเสี ยคน ในเทพปกรณัมโรมัน เทพีจูโนส่ งตัวเหลือบไปทรมานนางไอโอจนทนไม่ไหวฉันใด คุณก็ ทนไม่ได้ในยามที่คิดว่าถูกขัดขวางฉันนั้น คุณสามารถออกฤทธิ์ อาละวาดแบบเด็กๆ เวลาที่ ถูกขัดใจ และเล่นบทนางร้ายที่ตีบทแตกจนนางร้ายตัวจริ งในละครก็ยงต้องอาย ั ~ 19 ~
  • 20.  เอะอะมะเทิง ่ คุณเพลินกับเสี ยงตัวเองมากไปหน่อย ซึ่ งอาจก่อให้เกิดปั ญหาได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณผูกขาด การสนทนาในการติดต่อธุ รกิจหรื อในงานปาร์ ต้ ีม้ือคา ทาให้คนอื่นๆ ที่มีเรื่ องอยากพูดไม่มี โอกาสได้พด ู  ขาดวุฒิภาวะ ถูกแล้ว คุณมักทาตัวเป็ นเด็กที่ไม่ยอมโต ด้วยการทาซื่ อไร้เดียงสา อารมณ์แปรปรวน และ เจ้าอารมณ์ สื้อเยีย ่ ~ 20 ~
  • 21. บุคลิกภาพในทีทางาน ่ ด้ านดี สร้ างสรรค์ “นักฝัน นักสร้ างภาพ นักวิสัยทัศน์ ” คุณรู ้จกคนประเภทน่าราคาญที่ชอบทาท่าประมาณว่า “คิดออกแล้ว” อยูเ่ รื่ อยบ้างหรื อเปล่า ั นันละคนโครงสร้างผลผลิต คนโครงสร้างนี่ เป็ นที่สร้างสรรค์มาก พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจและ ่ แรงกระตุนจากความสามารถในการคิดสิ่ งใหม่ๆ และไอเดียต่างๆ ที่เกือบไม่มีใครเคยคิด แม้คนที่ฝัน ้ ถึงมันก็ยงมีนอยลงไปอีก ิ่ ้ คนโครงสร้ างผลผลิ ตช่ างประดิ ษฐ์คิดค้น และเพลิ ดเพลิ นกับการปรับปรุ งสิ่ งเก่ าให้ดีข้ ึ น สาหรับพวกเขาแล้วอะไรๆ ก็ไม่เคยดี พอ มันต้องดี กว่าที่เคยเป็ นมาสิ พวกเขามีความสามารถที่จะ มองเห็ นภาพใหญ่หรื อแนวคิดต่างๆ และมีวิธีใหม่ๆ ในการเดิ นทางจากที่หนึ่ งไปสู่ อีกที่หนึ่ ง ในที่ ทางาน พวกเขาเปี่ ยมด้วยพลังแห่ งความกระตือรื อร้ น พลังงาน และแรงขับเคลื่ อนที่ตองการปฏิรูป ้ เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนสภาพ ปรับตัว และปฏิวติ ั พนันได้เลยว่าคนโครงสร้ างผลผลิตเป็ นพวกแรกที่คิดทาน้ ามะนาวจากมะนาว พวกเขาไม่ ่ ชอบการทาอะไรไปเรื่ อยๆ โดยพอใจแค่ “สิ่ งที่มนเป็ นอยูแล้ว” พวกเขาลงทุนความคิดและพลังงาน ั ในการจับนั่นผสมนี่ และทาสิ่ งที่ ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอี ก พวกเขาสนุ กกับการทาให้ไอเดี ยต่างๆ ของพวกเขาออกมาเป็ นภาพ และนึกถึงแผนการตามมา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีแรงบันดาลใจเสมอ  ช่างจินตนาการ  สามารถมองเห็นสิ่ งต่างๆ แตกต่างออกไป  ชอบคิดค้นสิ่ งใหม่และหัวก้าวหน้า  สนุกกับการเปลี่ยนแปลง ~ 21 ~
  • 22. ชอบแสดงออก “ดาวเด่ นแห่ งการแสดง” ่ คนโครงสร้างผลผลิต มีความสามารถพิเศษในด้านการแสดง และเกิดมาเพื่อที่จะอยูใต้แสง สี บ นเวที พวกเขามัก สื่ อไอเดี ย ใหม่ ๆ ได้อย่า งน่ า ตื่ นเต้น ด้วยค าพูดที่ เ ร้ า ใจและการออกท่ า ทาง ประกอบ และอาจไปประจวบกับบางสิ่ งที่ใกล้เคียงกับความพยายามที่จะแสดงความเป็ นตัวตนของ พวกเขา พวกเขามี พรสวรรค์ในการแสดงความเป็ นตัวเอง ดัง นั้นจึ งไม่ มีปัญหาในการสื่ อไอเดี ย หรื อความคิดต่างๆ ออกมา คนโครงสร้างผลผลิต มักเป็ นดาวเด่นของการแสดง และชอบเป็ นศูนย์กลางแห่ งความสนใจ ในการระดมสมองหรื อการประชุ ม พวกเขาเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูคนที่ทุกคนพากันจับตามอง และ ้ ด้ว ยแนวโน้ม ตามธรรมชาติ ข องพวกเขาที่ ม ัก โดดเด่ นเป็ นที่ ส นใจ พวกเขาจึ ง มี ค วามสามารถ ที่จะสาธิ ตและสอนคนอื่ นๆ ถึ งวิธีทาสิ่ งต่างๆ พวกเขาเชื่ อมันและไม่ค่อยลังเลหรื อรู ้ สึกไม่มนคง ั่ ่ เกี่ยวกับไอเดียและแผนต่างๆ ของตน คนโครงสร้างผลผลิต รักที่จะขึ้นไปยืนพูดบนลังสบู่ หรื อเป็ นผูนาในการนาเสนอ หรื อขาย ้ แนวคิดใหม่ๆ แก่ลูกค้าและเจ้านายของพวกเขาเอง พวกเขาเป็ นคนสนุกสนานและทาให้ปาร์ ต้ ีหรื อที่ ทางานมีชีวิตชีวา พวกเขารู้วิธีเรี ยกร้องความสนใจและดึงมันไว้ได้นานพอที่จะสื่ อประเด็นของตน ที่จริ งยิงพวกเขาได้รับความสนใจมากเท่าใดก็จะยิงมีแรงกระตุนมากเท่านั้น พวกเขาไม่ใช่คนทางาน ้ ่ ่ ่ ประเภทที่ถ่อมตัว ยอมเหนื่อยอยูหลังฉาก เป็ นคนที่ไม่มีใครพูดถึงหรื อเก็บเนื้อเก็บตัวสงบเสงี่ยม ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เก่งในการแสดงและเจ้าบทบาท  พูดจาคล่องแคล่วและฉาดฉาน  ชอบตื่นเต้นและสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้  มีความเชื่อมัน ่ ~ 22 ~
  • 23. รู้ จักตัวเอง “มีทกษะในการสร้ างแบรนด์ ส่วนตัว” ั คนโครงสร้ า งผลผลิ ต ให้ ค วามส าคัญ ต่ อ การสร้ า งแบรนด์ รู ้ วิ ธี ส ร้ า งชื่ อ ให้ ต ัว เองผ่า น ความสามารถพิเศษและความสามารถที่พวกเขามีอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงรู ้จกตัวเองดี มีแนวคิดที่ชดเจน ั ั เกี่ ยวกับพรสวรรค์และความสามารถพิเศษของตัวเองตั้งแต่เป็ นหนุ่ มสาว และรู ้ ว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะ ทาให้มีชื่อเสี ยงเป็ นที่รู้จกคือ ต้องเน้นที่ความสามารถพิเศษและพรสวรรค์เหล่านั้น ั คนโครงสร้างผลผลิตแสดงทักษะของตนผ่านทางไอเดียหรื อการกระทา หรื อเปลี่ยนไอเดีย ของตนให้กลายเป็ นโครงการที่ทาได้จริ ง อันนามาซึ่ งการยอมรับและชื่อเสี ยงพวกเขาเชี่ ยวชาญใน การสร้างแบรนด์หรื อชื่ อเสี ยงให้เป็ นที่รู้จก ไม่ว่าจะทาในนามของตัวเองในฐานะบุ คคลคนหนึ่ ง ั หรื อในฐานะส่ วนหนึ่งขององค์กรหรื อบริ ษทที่พวกเขาทางานให้ก็ตาม ั เมื่ อสิ่ งนี้ ผสานเข้ากับความสามารถของคนโครงสร้ างผลผลิ ตในการปั้ นโครงการใหม่ๆ และการคิดไอเดี ยใหม่ๆ จึงมักนาไปสู่ ผลแบบ “จุ ดชนวนคิด พลิ กสถานการณ์ (tipping point)” พวกเขามักเป็ นผูสร้ างกระแสและแฟชัน และเป็ นผูนากระแสนิ ยมล่าสุ ดด้วยไอเดี ยใหม่แกะกล่อง ้ ้ ่ บางอย่าง ความเชื่ อมันและพลังงานระดับสู งของพวกเขายังนามาซึ่ งความสนุ กสนานเพราะความ ่ พยายามในการสร้างแบรนด์ของพวกเขามักแพร่ กระจายไปสู่ ใครๆ โดยไม่อาจต่อต้านได้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เก่งในการทาการตลาดให้ตวเอง ั  สร้างชื่อเสี ยงด้วยทักษะและความสามารถพิเศษต่างๆ  สร้างไอเดียที่เป็ นที่นิยม  เชื่อมันในความสามารถของตัวเอง ่ ~ 23 ~
  • 24. กล้าได้ กล้าเสี ย “แข็งข้ อด้ วยเหตุผล” ั คนโครงสร้างผลผลิตทาอะไรตามเหตุผลของตัวเองเสมอ พวกเขาแข็งข้อต่อสู ้กบโลกเสมอ ไม่ใช่ ในความหมายของการโค่นล้มทุ กคน แต่เป็ นการนาเอาสิ่ งที่มีอยู่ก่อนแล้วมาทาให้มนเต็มที่ ั มากขึ้นกว่าเดิม หรื อไม่อย่างนั้นก็จะมองเห็นความเย้ายวนใจของการเริ่ มต้นจากจุดที่ไม่มีอะไรเลย แล้วสร้างผลสาเร็ จที่ดงเปรี้ ยงปร้างด้วยความร่ าเริ งอย่างแท้จริ ง พวกเขาไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าทา ั อะไรได้และทาอะไรไม่ได้ พวกเขามักต่อต้านสิ่ งที่เป็ นบรรทัดฐานหรื อธรรมเนี ยมปฏิบติ เพราะเชื่อ ั เสมอว่ามีวธีอื่นที่ดีกว่า และก็มกเป็ นฝ่ ายถูกมากกว่าผิดเสี ยด้วย ิ ั คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะไม่ใช้เส้นทาง “ทดสอบ-และ-ตรวจสอบ” ซึ่ งนาไปสู่ ขอสรุ ปแบบ ้ “ทดสอบ-และ-พิสูจน์แล้ว” พวกเขาแน่ใจตัวเองมาก และมีแนวโน้มที่จะพุ่งไปทาสิ่ งที่คนอื่นถือว่า ั เป็ นความเสี่ ยงและยังไม่มีใครทา อันที่จริ งพวกเขาเปรี ยบได้กบนักบุ กเบิ กดิ นแดนอันกว้างใหญ่ ไพศาลของอเมริ กา พวกเขามองว่าตัวเองเป็ นนักสารวจและผูคนพบไอเดียใหม่ๆ วิธีใหม่ๆ ้ คนโครงสร้างผลผลิ ตตื่นเต้นกับการคิดข้อสรุ ปบางอย่างได้ หรื อการคิดกลยุทธ์ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใครโดยสิ้ นเชิ ง ซึ่ งนาไปสู่ ทิศทางใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีคนคิดมาก่อน สิ่ งนี้ ตองอาศัยวิธีคิดที่มี ้ ความกล้า ซึ่งต้องเป็ นคนที่กล้ารับทุกความเสี่ ยงบนเส้นทางของความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ พวกเขามีวธีคิดแบบนี้อย่างมันคงแน่นหนา ดังนั้นจึงไม่มีวนใดที่พวกเขาใช้ชีวตอย่างจืดชืด ิ ั ิ ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  รักความท้าทาย  กระหายความเสี่ ยง  ต่อต้านวิธีเดิมๆ  ฉุ นเฉี ยวกับกฎระเบียบข้อจากัดต่างๆ ~ 24 ~
  • 25. ด้ านไม่ ดี ดือรั้น ้ “เป็ นเด็กหัวแข็ง...แต่ กแค่ เด็ก” ็ ด้านตรงข้ามของคนเชื่ อมันที่สุดโต่งของคนโครงสร้ างผลผลิ ตคื อ มี แนวโน้มที่จะดื้ อรั้ น ่ เพราะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ เป็ นธรรมดาที่ไม่มีใครเป็ นฝ่ ายถูกอยู่ตลอด ใครๆ ในโลกก็รู้ท้ งนั้น แต่ ั ั หากใครคิดจะสื่ อสิ่ งนี้กบพวกเขาก็ขอให้โชคดีก็แล้วกัน เพราะมีแนวโน้มที่จะถูกตอกกลับจนหัวทิ่ม ความจริ งของเรื่ องนี้ คือไม่มีใครเป็ นฝ่ ายถูกได้ตลอดเวลา แต่คนโครงสร้ างผลผลิ ตมีความ อ่อนน้อมน้อยเกินกว่าที่จะยอมรับความผิดพลาด ที่เลวร้ ายกว่านั้นคือพวกเขาไม่มีกลวิธีของตัวเอง ่ ั ในการยอมรับความล้มเหลว เมื่อใดที่เชื่ อว่าสิ่ งที่ตนเองทาอยูน้ นเป็ นเพียงวิธีเดียวในการทาสิ่ งต่างๆ หรื อแนวคิดของตนเป็ นแนวคิดเดียวที่ใช้ได้ พวกเขาก็จะปฏิเสธคาแนะนาของคนอื่น ในสถานการณ์กลุ่ม อาจต้องใช้คนหรื อเพื่อนร่ วมงานหลายคนมารวมกันก่อนคนโครงสร้าง ผลผลิตจึงจะยอมรับความพ่ายแพ้ เรื่ องนี้ ยงเกี่ยวข้องอย่างมากกับการไม่เต็มใจที่จะ “เสี ยหน้า” ด้วย ั และเพราะพวกเขามักมีอตราความสาเร็ จสู ง วิธีเดี ยวที่พวกเขารู ้ ใ นการรั บมื อกับ สิ่ งที่ ไม่ประสบ ั ้ ความสาเร็ จคือ การปั กหลักสู ้และไม่ยอมถอยแม้แต่กาวเดียว ใครก็ตามที่คิดจะกระเทาะกาแพงความ ดื้อรั้นหลายชั้นของพวกเขาเข้าไปเพื่อพูดประเด็นสาคัญให้เข้าใจ ก็จะพบว่าเป็ นเรื่ องยากจริ งๆ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  หัวแข็ง  เชื่อว่าตนเองถูกเสมอ  ไม่รับคาแนะนาของคนอื่น  มักโต้แย้งด้วยประเด็นของตนเสมอ ~ 25 ~
  • 26. เล่นละครมากไป “ทาตัวเป็ นนางเอกอยู่เรื่อย” เพราะคนโครงสร้ างผลผลิตอยู่ใต้แสงสี บนเวทีบ่อยมากจนคุ นเคยกับ “รสชาติ” ของความ ้ โด่งดัง ไม่ว่าพวกเขาจะมีชื่อเสี ยงจริ งหรื อแค่มีกิตติศพท์ว่าเป็ นคนเอะอะมะเทิ่งและรั้นก็ตาม ในที่ ั ทางานพวกเขามักมีทศนคติแบบนางเอก ซึ่งทาให้คนที่ตองร่ วมงานด้วยรู ้สึกลาบากใจ ั ้ คนโครงสร้างผลผลิตมีพรสวรรค์ในการเล่นละคร แต่เมื่ออะไรๆ พังไม่เป็ นท่า แนวโน้มที่ ทาทุกอย่างแบบเล่นละครก็เริ่ มอึกทึกและน่ าเบื่อสาหรับทุกคนที่เกี่ ยวข้องเหมือนเด็กที่กระทืบเท้า ั เร่ าๆ ด้วยความโกรธเพราะไม่ได้อย่างใจ เป็ นที่รู้กนว่าพวกเขามีชื่อในการแผลงฤทธิ์ อาละวาดแบบ “ผูใหญ่” ้ เมื่ อสถานการณ์ แบบนี้ เกิ ดขึ้ น คนโครงสร้ างผลผลิ ตจะเถี ยงคอเป็ นเอ็นและเรี ยกร้ องสู ง จึงต้องระวังพายุอารมณ์ที่คุมคลังน่ารังเกียจของพวกเขาเอาไว้ให้ดี เมื่อผนวกกับแนวโน้มความเป็ น ้ ่ คนดื้อรั้นด้วยแล้ว พวกเขาจึงมักกระทืบเท้าด้วยความขัดเคืองและมักหวังว่าคนอื่นๆ จะทนกล้ ากลืน ความเจ็บปวดโดยไม่ส่งเสี ยงครางสักแอะ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อารมณ์รุนแรง  มีแนวโน้มอารมณ์แปรปรวนจัด  อยากให้อะไรๆ เป็ นไปแบบที่ตองการ ้  ไม่ค่อยยอมใคร  เรี ยกร้องสู ง ~ 26 ~
  • 27. ไม่ มีวนัย ิ “ไม่ ค่อยมุ่งมั่นจริงจังในการทางาน” ความยุ่ง ยากในบุ คลิ ก ภาพของคนโครงสร้ า งผลผลิ ตคื อ พวกเขาส่ วนใหญ่ มีวิสัย ทัศ น์ ที่ ยิ่งใหญ่และฝั นถึ งสิ่ งที่ยิ่งใหญ่ ไม่อยากทาสิ่ งที่เป็ นไอเดี ยเล็กๆ ที่เป็ นลูกไม้เก่าๆ ถ้าพวกเขาจะทา อะไรสักอย่าง สิ่ งสาคัญคือมันต้องเป็ นแนวคิดใหม่ถอดด้ามหรื อช็อกวงการกันไปเลย สาหรับพวก เขาแล้ว แค่โยกต้นไม้เบาๆ ให้มีลมโชยนั้นไม่พอหรอก มันต้องเขย่าให้ตนไม้ราบไปทั้งป่ าเลยถึง ้ จะดี ทว่าการจะประสบความสาเร็ จตามแนวคิดที่ยิงใหญ่น้ นต้องการเวลา ความรับผิดชอบและ ั ่ ความพากเพียรอุตสาหะ โชคร้ ายที่ในขณะที่คนโครงสร้ างผลผลิ ตเริ่ มต้นด้วยดีและทาตามแนวคิด ด้วยพรสวรรค์และไหวพริ บของตนนั้น พอทาไปสักพัก ไฟของพวกเขาก็มกจะมอดลง พวกเขาเก่ง ั ในการเริ่ มต้น แต่ไม่เก่งในการทาให้มนเสร็ จและนาไปสู่ ผลสุ ดท้ายที่น่าพอใจ ั คนโครงสร้ างผลผลิ ตขาดวินยที่จาเป็ นต่อการทาอะไรนานๆ จนมันแล้วเสร็ จ และเพราะ ั พวกเขาชอบเรี ยกร้องการเอาอกเอาใจ จึงไม่อาจบอกตัวเองให้ยดมันกับสิ่ งนั้นจนถึงที่สุด พวกเขาไม่ ึ ่ เหมาะกับงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้างานนั้นไม่ทาให้พวกเขาได้รับความสนใจ หรื อไม่ทาให้ พวกเขาโดดเด่นกลางแสงไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะขาดความเคร่ งครัดและความใส่ ใจที่ จาเป็ นในการเป็ นคนพิถีพิถนและใส่ ใจในรายละเอียด ทั้งนี้ เพราะพวกเขาเป็ นคนประเภทที่มองแต่ ั “ภาพใหญ่” นันเอง ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  รักความท้าทาย  กระหายความเสี่ ยง  ต่อต้านวิธีเดิมๆ  ฉุ นเฉี ยวกับกฎระเบียบข้อจากัดต่างๆ ~ 27 ~
  • 28. รู้ ดีไปหมด “เดือดร้ อนจากภาพลวงตาของความยิงใหญ่ ” ่ คนโครงสร้ างผลผลิ ตมักมี ปมอย่างหนึ่ งในตัว ซึ่ งเรี ยกว่าปมเขื่อง ในขณะที่คนอื่ นเอาแต่ ่ ่ สงสัยว่าตัวเองดีพอหรื อเปล่า พวกเขารู ้ วาตัวเองดีพอ (หรื อเป็ นไปได้วาดีกว่า) แม้ในขณะที่ปรากฏ ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เป็ นอย่างนั้น ดังนั้นคนที่ ตองรั บมื อกับพวกเขาจึ งมักต้องเผชิ ญกับภาวะกลื น ้ ไม่เข้าคายไม่ออก ่ คนโครงสร้างผลผลิตมักยึดติดความเชื่ อที่วาวิสัยทัศน์ของพวกเขาเท่านั้นที่ดีที่สุดหรื อโดด เด่นเป็ นเลิศ แม้มกเป็ นความจริ ง แต่ก็ไม่ได้เป็ นอย่างนั้นเสมอไป แต่พวกเขาลงจากวิมานในอากาศ ั ได้ยากในยามที่จาเป็ นต้องลง ที่บ่อยกว่านั้นคือพวกเขายังคงล่องลอยเพ้อฝันอยู่ แม้ในขณะที่คนอื่น ่ ทุกคนลงมายืนอยูบนพื้นดินที่หนักแน่นและเดินหน้าต่อไปอย่างมันคงตั้งนานแล้ว ่ เมื่อคนโครงสร้างผลผลิตเชื่อว่าตนเองถูก ก็จะไม่มีทางจูงใจพวกเขาให้คิดเป็ นอย่างอื่น เว้น แต่คนเหล่านั้นจะมีบุคลิกภาพที่เข้มแข็งทัดเทียมกัน ซึ่ งสามารถทาให้พวกเขากลับเข้าที่เข้าทางของ ่ ่ ตัวเอง ในที่สุดเมื่อพวกเขารู ้วาตัวเองผิดหรื อหลงผิดทางไปแล้ว พวกเขาก็จะกลับมาอยูบนโลกด้วย วิธีที่ สาหัสสากรรจ์ นั่นคื อดิ่ ง พสุ ธ าลงมากระแทกพื้น และความจริ งแล้วต้องถู กกระทุงเสี ย บ้าง ้ ก่ อนที่ จะลุ ก ขึ้ นมายืนบนเท้า ของตัวเองได้อีก และเพราะมี ธ รรมชาติ เป็ นคนสวนกระแส จึ งมัก ั เสี ยเวลาและความพยายามโดยเปล่าประโยชน์ในการต่อสู ้กบข้อกล่าวหาว่าพวกเขาผิดเพียงเพราะคิด ว่าตัวเองรู ้ดีกว่าคนอื่นทุกคน ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีปมเขื่องแบบ “ข้าคือผูยงใหญ่” ้ ิ่  ไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้  เชื่อว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นเกือบทุกคน  ไม่ยอมรับว่าเป็ นฝ่ ายผิด ~ 28 ~
  • 29. อาชีพการงานที่เหมาะสม  ศิลปะ ศิลปะการแสดง ความบันเทิง งานในด้านศิลปะการแสดงหรื ออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใดๆ ล้วนต้องการความสามารถ พิเศษและทักษะที่คนโครงสร้างผลผลิตมีมากมาย งานเหล่านี้ ยงต้องการความเชื่ อมันตัวเอง ั ่ ระดับสู งที่เชื่อในความสามารถพิเศษเหล่านั้น และอยากแบ่งปั นมันให้แก่โลก ซึ่ งพวกเขามี ่ ทั้งสองลักษณะนี้เต็มเปี่ ยมเช่นกันลองคิดดูวา นักเขียนต้องรู ้สึกว่าสิ่ งที่พวกเขากาลังเขียนอยู่ ่ นั้นคุ มค่ากับการเขียนถึง นักแสดงต้องรู ้ว่าตัวเองเกิ ดมาเพื่อที่จะอยูบนเวที นอกเหนื อจาก ้ นั้นพวกเขายังมักมีพรสวรรค์และพลังงานที่จะแสดงมันออกมา การสามารถสร้างสรรค์ภาพ โครงเรื่ องหรื อแนวคิดที่ยงใหญ่ หรื อใช้ทรัพยากรแห่งความมังคังของตนผ่านความสามารถ ิ่ ่ ่ พิเศษเหล่านั้น ย่อมหมายความว่าพวกเขาก็จะสามารถประสบความสาเร็ จในฐานะผูกากับ ้ ภาพยนตร์ นักเขียนบท หรื อในฐานะพ่อครัวที่โด่งดัง นักกีฬา นักตกแต่ง ฯลฯ ได้ดวย ้  การตลาด การขาย การแสดงแบรนด์ และการโฆษณา โลกได้พบเห็ นหลากหลายไอเดี ยที่ น่าเบื่ อมาแล้วครั้ งแล้วครั้ งเล่ า ด้วยการที่ สาธารณชน ผูบ ริ โ ภคยุค ดิ จิ ท ล เติ บ โตอย่า งรวดเร็ ว มี บ ทบาทส าคัญในขณะนี้ ความสามารถในการ ้ ั สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยม และการมองเห็นภาพผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ คือ สิ่ งประเสริ ฐ ที่พระเจ้าประทานให้แก่สาธารณชนซึ่ งต้องการอะไรใหม่ๆ การตลาดและการสร้างแบรนด์ ยังต้องการความสามารถที่แท้จริ งในการคิดนอกรอบด้วย คนโครงสร้างผลผลิตสามารถพูด ่ กับผูคน โปรยเสน่ห์ให้คนชอบ และอยูที่แถวหน้าซึ่ งหมายถึงงานขาย ดังนั้นพวกเขาจึงเป็ น ้ นักขายที่ยงใหญ่ดวย ิ่ ้ ~ 29 ~
  • 30.  กฎหมาย การทางานด้ านกฎหมาย การเมือง คนโครงสร้างผลผลิตมักพูดเก่งและสันทัดในการใช้ถอยคา พวกเขามีพรสวรรค์ที่น่าอิจฉา ้ ในการพูดจาคล่ องแคล่ วฉาดฉาน สามารถสื่ อความคิ ดและไอเดี ยต่ างๆ สู่ ผูช มและผูฟั ง ้ ้ ่ จานวนมากในขณะที่อยูใต้แสงไฟบนเวทีหรื ออยู่ที่แท่นพูด เมื่อผนวกกับแนวโน้มกล้าได้ กล้าเสี ย ซึ่ งกล้าเสี่ ยงกับการถูกตาหนิ ติเตียนเพื่อค้นหาความไม่สอดคล้องกันของประเด็น ใดๆ ทาให้พวกเขาเป็ นบุคคลในอุดมคติสาหรับวงการกฎหมายและการเมือง หรื อแม้แต่ใน กิจกรรมที่ตองใช้ขีดความสามารถระดับสู ง ้  ผู้ประกอบการหรือธุรกิจดิจิทล ั คนโครงสร้ า งผลผลิ ต มี ค วามสามารถพิ เ ศษส าหรั บ ตลาดและสร้ า งแบรนด์ ใ ห้ แ ก่ ความสามารถพิ เ ศษ ความถนัด และทัก ษะของตัวเองหรื อ ของคนอื่ น เพื่ อ ค้น หาตลาด ผูบริ โภคใหม่ๆ ผ่านการประดิ ษฐ์คิ ดค้นบรรจุ ภณฑ์และการโฆษณา ในโลกออนไลน์ ที่ ้ ั การแข่งขันสู ง ความเชี่ ยวชาญของพวกเขาสามารถช่ วยให้การลงทุนที่มีความเสี่ ยงในโลก ดิจิทลและธุ รกิจที่เริ่ มต้นใหม่มีกาไรดีได้ ั ~ 30 ~
  • 31. บทบาทในงานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม  ตาแหน่ งทีควบคุมโครงการ ่ คนโครงสร้างผลผลิตเหมาะกับการทางานที่ตวเองเป็ นหัวหน้าคณะกรรมการวางแผน พวก ั เขาไม่ใช่คนประเภทที่เพลินกับการทางานเบื้องหลัง เอาแต่วิเคราะห์และทางานประจาวันที่ ต้องการรายละเอียดหรื อความถูกต้องแม่นยา พวกเขาทาได้ดีกว่าในการสร้างสรรค์แคมเปญ ่ หรื อโครงการใหม่ๆ แล้วไปอยูต่อหน้าผูคนเพื่อบอกถึงวิธีทาอะไรบางอย่าง ซึ่ งบังเอิญเป็ น ้ สิ่ งที่พวกเขาคิดขึ้นมา  พึงหลีกเลียง : การทาตามคาสั่ งและถูกบีบจนหายใจไม่ ออก ่ คนโครงสร้างผลผลิตจะไม่ประสบความสาเร็ จในงานจาเจ ซ้ าซาก หรื อต้องฟั งคนอื่นแล้ว ทาตามคาสั่งหรื อทางานเฉพาะเจาะจงที่รับคาสั่งมา ถ้าพวกเขาไม่สามารถร่ วมสร้างสรรค์ ไอเดี ยหรื อเอาไอเดี ยหรื อวิธีการต่างๆ ที่มีอยู่แล้วมาช่ วยประดิ ษฐ์คิดค้นเสี ยใหม่ ก็จะเฉา และอ่อนแอลงเหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้รับแสงแดดและอากาศ คนโครงสร้างผลผลิตจาเป็ นต้องมีพ้ืนที่และเสรี ภาพที่จะคิดอย่างอิสระ และมีความคิดของ ตัวเอง หาไม่มนจะเหมือนกับการผลาญความคิดสร้างสรรค์อนเป็ นทรัพยากรธรรมชาติที่ดี ั ั ที่ สุ ด ของคนคนหนึ่ ง ให้ สู ญ เปล่ า ความหัวกบฏของพวกเขายัง แตกแขนงมาจากความ ต้องการที่จะสร้างแนวคิดที่แตกต่าง และการมองสิ่ งต่างๆ แตกต่างไปจากคนอื่น การถูกคาดหวังให้ทาตามคาสั่งและการทากฎเกณฑ์ย่อมน่ าอึดอัดเป็ นธรรมดา และทาให้ พวกเขาขุ่นเคือง ลักษณะของพวกเขาไม่เหมาะกับงานประจาที่ซ้ าซากจาเจและพื้นที่ทางาน ่ ที่เป็ นคอกปิ ด การนังจับเจ่าทางานประจาอยูหลังโต๊ะตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นไม่ใช่สิ่ง ่ ที่พวกเขาชอบ พวกเขาจะเฉาอย่างรวดเร็ วในบรรยากาศแบบนั้น ~ 31 ~