More Related Content
More from ธิติพงศ์ กุลภา College of Local Administration,KhonKaen University
More from ธิติพงศ์ กุลภา College of Local Administration,KhonKaen University (15)
สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์บอสเนีย
- 3. ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของปัญหาความขัดแย้ง(ต่อ)
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง นายพลโจเซฟบรอส ตีโต้ ต่อสู้กับ
เยอรมันและอิตาลีจนชนะ จึงขับไล่ชาวเยอรมันและอิตาลีออก
จากดินแดน แล้วก่อตั้ง สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ใน
ปี 1946 อันประกอบไปด้วย 6 สาธารณรัฐกับอีก 2 จังหวัด
ได้แก่ เซอร์เบีย (Serbia)
โครเอเชีย (Croatia)
สโลวีเนีย (Slovenia)
บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา (Bosnia and Herzegovina)
มอนเตเนโกร (Montenegro)
มาซีโดเนีย (Macedonia)
และอีก 2 จังหวัด คือ วอยวอดินา (Vojvodina) และโคโซโว (Kosovo)
- 4. ค.ศ.1946
วิวัฒนาการความขัดแย้ง
• หลังสงครามโลกครั้งที2 ก่อตั้งสหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย
่
• พรรคความมิวนิสต์ยูโกสลาเวียเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ค.ศ.1948
• นายพลตีโต้สามารถสยบการลุกฮือของชนชาติต่างๆ ไว้ได้
ค.ศ. • เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของยุโรปตะวันออก พรรคคอมมิวนิสต์ยูโกสลาเวียถูกกดดันจากประชาชนให้
1980 – 1990 ยุติบทบาทการครอบครองประเทศและยินยอมให้มีการเลือกตั้ง
• พรรคคอมมิวนิสต์ชนะการเลือกตั้งเฉพาะใน เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร เท่านั้น
• สาธารณรัฐอื่นๆแยกตัวจากรัฐบาลกลางที่กรุงเบลเกรด
ค.ศ. 1992
• บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ๆได้รับความเห็นชอบจาก ปชช.ส่วนมาก ให้แยกตัวเป็นเอกราช เป็นจุดเริ่มต้นของ
ค.ศ. การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
1991-1995 • เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยชาวเซิร์บเข่นฆ่าชาวบอสเนียที่นับถือ มุสลิม ทาให้สหประชาชาติ
ต้องเข้ามายุติและทาสนธิสัญญาเดย์ตันรวมกันของชาวบอสเนีย
- 8. รายละเอียดความรุนแรงจานวนผูเสียชีวิต
้
และผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
จากการพยายามแบ่งแยกดินแดงเพื่อตั้งตัวเป็นเอกราช ประชากรส่วนที่มี
อานาจในฐานะผู้นาต้องเข้าห่าหั่นปราบปรามกระทั้งนามาสู่การฆ่าอย่างโหดเหี้ยม การ
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตอนับแสนคน และกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแบบแห่งปัญหา
ที่พยายามหาทางออกอย่างสันติวิธี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อด้านต่างๆดังนี้คือ
รัตโก มลาดิก
ผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมสงครามบอสเนีย
- 9. ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ
1. บอสเนียฯ เป็นประเทศยากจนเป็นอันดับสองรองจากมาซิโดเนีย ในอดีต
บอสเนียฯ เป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมทางทหารของยูโกสลาเวีย ปัจจุบัน
บอสเนียฯ ต้องนาเข้าอาหาร โดยเฉพาะเขตมุลลิมยังต้องอาศัยความช่วยเหลือ
ด้านมนุษยธรรมจากองค์การระหว่างประเทศเป็นหลัก
2. ภาคการเกษตรส่วนใหญ่แม้จะเป็นของเอกชนแล้วแต่ขนาดของกิจการค่อนข้าง
เล็กและไม่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีการจ้างงานเกินความ
ต้องการ สาหรับภาคเกษตรกรรมที่สาคัญ ได้แก่ การผลิตข้าวสาลี ข้าวโพด
ผลไม้ ผัก ปศุสัตว์ ส่วนภาคอุตสาหกรรมที่สาคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมไม้ แร่และ
โลหะ เคมีภัณฑ์และยา ผลิตภัณฑ์สิ่งทอหนัง การแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม
- 10. ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ(ต่อ)
3. หลังจากการสู้รบได้ยุติลง เศรษฐกิจบอสเนียฯ
ได้รับการพัฒนาอย่างมาก อย่างไรก็ตาม อัตรา
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงมีความผัน
ผวน ภาระที่เร่งด่วนของรัฐบาลยังคงเป็นเรื่องการ
ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจาเป็นต้องมีสภาวะแวดล้อม
ทางเศรษฐกิจที่เอื้ออานวยต่อการลงทุนของ และ
เป็นระบบเศรษฐกิจแบบการตลาด ซึ่งปัจจุบัน
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างล่าช้า อัตรา
การว่างงานยังคงสูง
- 11. วิธีการแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการแก้ไขปัญหา
ทางสหประชาชาติได้ลงมติคว่าบาตรยูโกสลาเวีย
และดาเนินการระงับการสู้รบ โดยจัดตั้งกองกาลัง
ป้องกันสหประชาชาติหรืออันโพรฟอร์ (United
Nations Protection Force - UNPROFOR) มี
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยช่วยเหลือประชาชนที่ลี้ภัย
สหรัฐฯจึงทาหน้าที่เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหา
เชิญทุกฝ่ายมาเจรจาตกลงกันที่เมืองเดย์ตัน รัฐ
โอไฮโอ โดยมี รัฐมนตรีกระทรวงการ
ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ ไกล่เกลี่ยกรณี
พิพาท ข้อตกลงมีดังนี้
- 12. วิธีการแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการแก้ไขปัญหา(ต่อ)
1. ดินแดนบอสเนีย- เฮอร์เซโกวีนายังคงเป็นประเทศเดียว มีกรุงซาราเจโวเป็นเมืองหลวง อยู่ภายใต้
รัฐบาลกลางดาเนินนโยบายต่างประเทศ การคลังและประชากร มีประธานาธิบดีเป็นฝ่ายบริหาร
สูงสุด
2. ห้ามกลุ่มชนชาติใดชนชาติหนึ่งที่ประกอบเป็นประชากรบอสเนียแยกตัวเป็นเอกราช (กลุ่มชน
เซิร์บ ชาวมุสลิม และชาวโคแอต)
3. กาหนดเขตแดนภายในรัฐให้แน่นอน ย้ายประชากรตามเขตต่างๆมารวมไว้ตามเขต เชื้อชาติ
ของตนทางภูมิศาสตร์และประชากรศาสตร์แยกเป็น 2 ส่วน สหพันธุ์บอสเนีย- โคแอต (มุสลิมรวม
กับโคแอต) ครอบครองพื้นที่ 51 % สาธารณรัฐบอสเนีย- เซิร์บ (กลุ่มชาวเซิร์บ)ครอบครองพื้นที่
49% ให้ผู้ลี้ภัยเดินทางกลับถิ่นฐานเดิมของตนและสามารถเดินทางไป มาอย่างเสรีทั่ว
ราชอาณาจักร
4. กาหนดเลือกตั้งประธานาธิบดีภายในทั้ง 2 รัฐรวมทั้งสภาระดับชาติภายใน 14 ก.ย. 1996 ผู้ที่
ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคือ นายอาลิยา อิเซ็ต เบโกวิชเป็นมุสลิมบอสเนีย
- 13. อุปสรรคในการแก้ไขปัญหา
• ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลมาจากมิติทาง
ด้านศาสนา เนื่องจากสาธารณรัฐ
บอสเนีย- เฮอร์เซโกวินา มีประชากร
นับถือศาสนาที่ต่างกันได้แก่
ศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์
ศาสนามุสลิม และศาสนาคริสต์นิกาย
คาทอลิก ทาให้อาจจะมีความคิดเห็นด้านศาสนาที่ไม่ตรงกัน ทาให้เป็นอุปสรรคในการ แก้ไขปัญหา
• โครงสร้างทางการเมืองของบอสเนียฯ ยังคงแบ่งตามกลุ่มเชื้อชาติอยู่ โดยมีคณะประธานาธิบดี
ประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนาจะมีการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นดารงตาแหน่งประธานทุกๆ 8 เดือน
ระหว่างตัวแทนชาวเซิร์บ ชาวบอสเนีย และชาวโครแอท มีเพียงศาลสูงและธนาคารกลางที่ใช้
ร่วมกันร่วมกัน
- 14. ความสาเร็จและความล้มเหลว
ความสาเร็จ
องค์การสหประชาชาติเข้ามาช่วยไกล่เกลียโดยมี สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพในการไกล่เกลีย
่ ่
และได้บันทึกข้อตกลงร่วมกัน เรียกว่า ข้อตกลงเดย์ตน ั
ความล้มเหลว
1. ปัญหาสงครามกลางเมืองยังคงอยู่ กระทบต่อความสัมพันธ์ เพราะ ผู้นาประเทศเซอร์เบีย
ยังคงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวบอสเนีย มุสลิมในเมืองเซเบรนิกา อยู่
2. สาธารณรัฐเซิร์บในบอสเนียและเฮอร์เซโกวินาไม่ยอมรับการประกาศอิสรภาพของรัฐโคโซ
โวที่แยกตัวออกจากเซอร์เบีย เพราะเป็นการต่อต้านข้อตกลงเดย์ตน ดังนั้น
ั
สาธารณรัฐเซิร์บจึงนาสถานการณ์ดังกล่าวมาเพื่อใช้แยกตัวออกจากบอสเนีย