More Related Content
Similar to 2562 final-projectpongpat40-190923163452 (20)
2562 final-projectpongpat40-190923163452
- 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงานภัยร้ายของโรคความดันโลหิตสูง
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ พงศ์ภัทร์ทิพวัยเลขที่ 40 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ห้อง 15
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นายพงศ์ภัทร์ ทิพวัยเลขที่ 40
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย) : ภัยร้ายจากความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงงาน(ภาษาอังกฤษ) : Threatfrom Hypertension
ประเภทโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน: นายพงศ์ภัทร์ ทิพวัยเลขที่ 40
ชื่อที่ปรึกษา: ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 1-2ปีการศึกษา 62
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน(อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สาคัญทางสาธารณสุขที่ควรได้รับการเอาใจใส่ดูแล
เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ
โรคหลอดเลือดสมองและโรคไตวายระยะสุดท้าย พื้นฐานการดูแลสุขภาพที่สาคัญสาหรับการควบคุมความ
ดันโลหิตสูง
ได้แก่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาพของตนเองและการรักษาโดยการรับประทานยา การดูแลสุขภา
พดังกล่าวจะทาให้ผู้มีภาวะความดันโลหิตสูงมีสุขภาพที่ดีและสามารถอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุข
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง
2. เพื่อใช้เป็นสื้อในการศึกษาสาหรับผู้ที่สนใจในเรื่องโรคความดันโลหิตสูง
3. เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนาความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
ขอบเขตโครงงาน(คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่องภัยร้ายจากความดันโลหิตสูง ผ่านสื่อเว็บไซต์ www.blogger.com
- 3. หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
1)ความดันโลหิตสูงคืออะไร
ความดันโลหิต
ความดันโลหิต หมายถึง แรงดันของกระแสเลือดที่กระทบต่อผนังหลอดเลือดแดงซึ่งเกิดจากการสูบฉีดของหัวใจ
(คล้ายแรงลมที่ดันผนังของยางรถเมื่อเราสูบลมเข้า) ซึ่งสามารถวัดได้โดยการใช้เครื่องวัดความดัน
(Sphygmomanometer) วัดที่แขน และมีค่าที่วัดได้ 2ค่า คือ
1. ความดันช่วงบน หรือ ความดันซิสโตลี (Systolic blood pressure) หมายถึง
แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจบีบตัว ซึ่งอาจจะสูงตามอายุ
และความดันช่วงบนของคนคนเดียวกันอาจมีค่าแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ตามท่าของร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และปริมาณของการออกกาลังาย
2. ความดันช่วงล่าง หรือ ความดันไดแอสโตลี (Diastolic blood pressure) หมายถึง
แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจคลายตัว
ในปัจจุบันได้มีการกาหนดค่าความดันโลหิตปกติและระดับความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูงสาหรับ
ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
2)ความดันโลหิตสูงส่งผลกระทบอย่างไร
อาการความดันโลหิตสูง
ในรายที่เป็นความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ (พบได้เป็นส่วนใหญ่)
ส่วนใหญ่จะมีไม่อาการแสดงแต่อย่างใด และมักตรวจพบได้โดยบังเอิญจากการตรวจคัดกรองโรคหรือเมื่อมาพบแ
พทย์ด้วยปัญหาอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
มีส่วนน้อยที่อาจมีอาการปวดมึนท้ายทอย ตึงที่ต้นคอ เวียนศีรษะ ซึ่งมักจะเป็นตอนตื่นนอนใหม่ๆ
พอตอนสายอาการจะทุเลาไปเอง
บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะตุบ ๆแบบไมเกรน
ส่วนในรายที่เป็นมานาน ๆหรือมีความดันโลหิตสูงมาก ๆอาจจะมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
ใจสั่น นอนไม่หลับ ตามัว มือเท้าชา หรือมีเลือดกาเดาไหล
หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆโดยไม่ได้รับการรักษา อาจแสดงอาการของภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น
หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก บวม แขนขาเป็นอัมพาต เป็นต้น
ส่วนในรายที่เป็นความดันโลหิตสูงชนิดทราบสาเหตุ (พบได้เป็นส่วนน้อย)
อาจมีอาการแสดงของโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น มีระดับความดันโลหิตแกว่งขึ้น ๆ ลง ๆร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ
ใจสั่น และเหงื่อออกเป็นพัก ๆ(อาจเป็นเนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา), นอนกรนผิดปกติ
(อาจเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ), ต้นแขนและขาอ่อนแรงเป็นพัก ๆ
- 4. (อาจเป็นภาวะแอลโดสเตอโรนสูงชนิดปฐมภูมิ), ปวดหลังร่วมกับปัสสาวะขุ่นแดง (อาจเป็นนิ่วไต), รูปร่างอ้วนฉุ
หน้าอูม มีไขมัน (หนอกควาย) ที่หลังคอ และมีประวัติการรับประทานยาสเตียรอยด์ ยาชุด หรือยาลูกกลอนมาก่อน
(อาจเป็นโรคคุชชิง) เป็นต้น
3)ภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูง
หากไม่ได้รับการักษาหรือปล่อยให้ความโลหิตสูงเป็นเวลานาน ๆ
ผู้ป่วยมักจะเกิดความผิดปกติของอวัยวะที่สาคัญต่าง ๆ ตามมา เช่น สมอง ประสาทตา หัวใจ ไต
หลอดเลือดแดงใหญ่ และหลอดเลือดแดงส่วนปลาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความพิการและเสียชีวิตได้
เนื่องจากความดันโลหิตสูงจะทาให้หลอดเลือดแดงแทบทุกส่วนของร่างกายเสื่อม เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง
(Atherosclerosis) หลอดเลือดตีบ เลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่ได้ โดยภาวะแทรกซ้อนที่สาคัญนั้น ได้แก่
สมอง อาจเกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก
กลายเป็นโรคอัมพาตครึ่งซีกซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย
บางรายถ้าเป็นเรื้อรังอาจกลายเป็นโรคความจาเป็นเสื่อม สมาธิลดลง นอกจากนี้
ในรายที่มีหลอดเลือดฝอยในสมองส่วนสาคัญแตกก็อาจทาให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
หรือในรายที่มีความดันโลหิตสูงรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันก็อาจทาให้เกิดอาการปวดศีรษะ ซึม เพ้อชัก
หรือหมดสติได้ ซึ่งเรียกว่า “Hypertensive encephalopathy”
หัวใจ จะทาให้หัวใจห้องล่างซ้ายโต (LVH)
ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นมากขึ้นจะทาให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอื่น ๆ เกี่ยวกับหัวใจตามมาได้
และโรคนี้ยังอาจทาให้หลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจตีบกลายเป็นโรคหัวใจขาดเลือด มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก
ซึ่งถ้าเป็นรุนแรงอาจเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย นอกจากนี้ ยังอาจทาให้เกิดภาวะหัวใจวาย
ซึ่งจะทาให้มีอาการบวม หอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ ส่วนในรายที่มีความดันโลหิ ตสูงรุนแรง
อาจตรวจพบหัวใจเต้นมากกว่า 120 ครั้งต่อนาที และจังหวะไม่สม่าเสมอจากหัวใจห้องบนเต้นแผ่นระรัว
ตา จะเกิดภาวะเสื่อมของหลอดเลือดแดงภายในลูกตาอย่างช้า ๆในระยะแรกหลอดเลือดจะตีบ
แต่ต่อมาอาจแตกมีเลือดออกที่ตา ทาให้ประสาทตาเสื่อม ตามัวลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตาบอดได้
ไต อาจเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง เนื่องจากหลอดเลือดแดงแข็ง เลือดไปเลี้ยงไตไม่พอ
ซึ่งไตที่วายจะยิ่งทาให้ความโลหิตของผู้ป่วยสูงขึ้น กลายเป็นวงจรที่เลวร้าย
หลอดเลือดแดงใหญ่และหลอดเลือดแดงส่วนปลาย หลอดเลือดแดงใหญ่เกิดภาวะหลอดเลือดแดง
แข็ง ทาให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง และภาวะเลือดเซาะผนังหลอดเลือดแดงใหญ่
ซึ่งอาจทาให้เกิดอันตรายถึงเสียชีวิตได้ นอกจากนี้
หลอดเลือดแดงส่วนที่มาเลี้ยงขาและปลายเท้าอาจเกิดภาวะแข็งตัวและตีบได้
(โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีการสูบบุหรี่ร่วมด้วย) ทาให้เลือดไปเลี้ยงที่ขาและปลายเท้าได้น้อย
อาจเป็นตะคริวบ่อย หรือปวดน่องขณะเดินมาก ๆ
- 6. ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง
2. สามารถนาความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวประจาวันได้
3. นาความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ให้แก่ผู้อื่น
4. ผู้ที่สนใจบทความสามารถนาความรู้ไปใช้ได้จริง
สถานที่ดาเนินการ : โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1. หนังสือตาราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2. “ความดันโลหิตสูง (Hypertension)”. (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุ
ภาพ). หน้า680-691.
2. หาหมอดอทคอม. “ความดันโลหิตสูง (Hypertension)”. (ศ.เกียรติคุณ พญ.พวงทอง
ไกรพิบูลย์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: haamor.com. [03 ต.ค. 2017].
3. พบแพทย์. “ความดันโลหิตสูง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.pobpad.com. [05 ต.ค. 2017].
สานักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. “ประเด็นสารรณรงค์วันความดันโลหิตสูงโลก 2556”. (ธาริณี
พังจุนันท์, นิตยาพันธุเวทย์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.thaincd.com. [05 ต.ค. 2017]
1 คิดหัวข้อโครงงาน /
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / /
3 จัดทาโครงร่างงาน /
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน /
5 ปรับปรุงทดสอบ /
6 การทาเอกสารรายงาน /
7 ประเมินผลงาน /
8 นาเสนอโครงงาน /