แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน...วิทยาศาสตร์การกีฬา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายนคเรศ จอมปินทอง เลขที่8 ชั้นม.6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาการดาเนินงานภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นายนคเรศ จอมปินทอง เลขที่ 8ชั้น ม.6 ห้อง 6
คาชี้แจงให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย) วิทยาศาสตร์การกีฬา
ชื่อโครงงาน(ภาษาองักฤษ) Sportscience
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายนคเรศจอมปินทอง
ชื่อครูที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม นายภัทรวีร์ ชาวผ้าขาว
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
วิทายศาสตร์การกีฬา คือ การนาเทคโนโลยี เครื่องมือ หรือความรู้ด้านต่างๆ
ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในด้านกีฬา การออกกาลังกายในกิจกรรมต่างๆ
โดยประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับเทคนิคเฉพาะทาง
เพื่อดึงศักยภาพของนักกีฬาให้ออกมามากที่สุด ทั้งในด้าน ความฟิต ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
เทคนิคอื่นๆอีกมากมาย วิทยาศาสตร์การกีฬามีอยู่หลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น ด้านกายวิภา
ศึกษาโครงสร้างของร่างกาย กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หัวใจ ด้านโภชนาการ ศึกษาอาหารแต่ละชนิด
และรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬา และด้านอื่นๆอีกมากมาย
รามทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการออกกาลังกาย
เราคนปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างถูกวิธี
ในปัจจุบันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในด้านกีฬามากมาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาชนิดใดก็ตาม
รวมไปถึงการออกกาลังกายกับครอบครัว ก็อาจเกิดอุบัติเหตุจากการออกกาลังกายได้
ดังนั้นเราควรรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้อต้นได้ วิทยาศาสตร์ กับ กีฬา จึงควรศึกษาและพัฒนาไปพร้อมๆกัน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาว่าวิทยาศาสตร์การกีฬาคืออะไร
2.เพื่อเรียนรู้ วิทยาศาสตร์การกีฬาในด้านต่างๆ
3.เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ผู้ที่สนใจเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา
4.เพื่อให้เห็นคุณค่าทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
ขอบเขตการทางาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง วิทยาศาสตร์การกีฬา
จัดทาขึ้นมาเพื่อศึกษาและเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์กากีฬาในประเทศไทย
หลักการและทฤษฎี
วิทยาศาสตร์การกีฬา (อังกฤษ: Sportscience)
เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าถึงผลของการมีส่วนร่วมในการเล่นกีฬาหรือกา
รออกกาลังกายในกิจกรรมต่างๆ โดยประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับเทคนิคเฉพาะทาง
เพื่อพัฒนาศักยภาพร่างกายของนักกีฬา ให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยอาศัยหลักวิชาทางด้านสรีรวิทยา จิตวิทยา สังคมวิทยา หรืออื่นๆ
ดังนั้นวิทยาศาสตร์การกีฬาจึงเป็นการรวมวิชาต่างๆมากมายหรือที่เรียกว่า สหวิทยาการ
ที่มีเนื้อหารสาระครอบคลุมในสาขาวิชาต่างๆ เช่น สรีรวิทยาการกีฬา จิตวิทยาการกีฬา
สังคมวิทยาการกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา โภชนาการการกีฬา เทคโนโลยีการกีฬา วิทยาวิธีทางกีฬา
วิทยาการการจัดการการกีฬา อื่นๆ
วิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ โดยนาหลักวิชาต่างๆ เช่นกายวิภาคศาสตร์
สรีรวิทยาการออกกาลังกาย การแพทย์ โภชนาการ จิตวิทยา วิทยาศาสตร์การเทคโนโลยีต่างๆ
มาประยุกต์ใช้ในการออกกาลังกาย การฝึกซ้อมกีฬา การแข่งขันกีฬา
ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างเป็นขั้นตอน
วิทยาศาสตร์การกีฬาเรียนอะไรบ้าง
ต้องบอกก่อนว่าหลักสูตรแต่ละมหาลัยไม่เหมือนกันแต่จะคล้ายกัน ซึ่งคือปี 1 จะเรียนพวก
วิชาพื้นฐานปกติ ฟิสิกส์ เคมีชีวะ แล้วก็แลปทั้ง 3 วิชานั้นบางมหาลัยจะได้เรียน
กายวิภาคศาสตร์ตั้งแต่ ปี1 เลย คือเรียนเกี่ยวกับระบบในร่างกายทั้งหมดว่างเป็นอย่างไรบ้าง
อาจจะมี สรีรวิทยาด้วย มันคือวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาระบบการ"ทางาน" ของสื่งมีชีวิต
เช่นพวกการเคลื่อนไหว ในชั้นปี 2-4ก็จะเริ่มเรียนวิชาของคณะตรงๆมากขึ้น เช่นพวก
โภชนการกีฬาการบาบัดทางกีฬา , วิชากีฬาต่างๆ , เทคโนโลยีการกีฬา , ชีวกลศาสตร์
โดยถ้าเป็นที่ มหาลัยแถวๆ MBK จะเลือกเอกได้คือ
 วิทยาศาสตร์การกีฬา (SportsScience)
 การจัดการการกีฬา (Sports Management)
 วิทยาการส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion Science)
 การจัดการนันทนาการและการท่องเที่ยว (Management of Recreation and
Tourism)
ประเภทการศึกษา
1. กายวิภาคศาสตร์
คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย
ที่ประกอบขึ้นเป็นรูปร่างสัดส่วนของร่างกายนักกีฬาแต่ละคน ได้แก่กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น
ข้อต่อ หัวใจ ปอด หลอดเลือด เม็ดเลือดแดง เซลล์ประสาท เป็นต้น
2. สรีรวิทยา
คือ
ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทางานหรือการทาหน้าที่ของอวัยวะระบบต่างๆของร่างกาย
ซึ่งสามารถกระตุ้นและพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น
ได้ด้วยระบบการฝึกที่ถูกต้องเหมาะสมกับประเภทกีฬาและนักกีฬาแต่ละบุคคล เช่น
ความสามารถในการทางานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
ความอดทนของระบบหายใจและไหลเวียนเลือดและระบบพลังงานที่ใช้ในการแข่งขัน
แต่ละประเภทกีฬา เป็นต้น
รวมทั้งสาเหตุที่นาไปสู่การเสื่อมสภาพของระบบการทางานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกา
ย
3. ชีวกลศาสตร์
คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยการทางานของกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และข้อต่อ
เพื่อนาไปสู่การใช้แรง ในการเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติทักษะ
อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในแต่ละชนิดหรือประเภทกีฬา
ซึ่งนาไปสู่การพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านเทคนิคทักษะกีฬาแต่ละบุคค
ลได้อย่างกลมกลืนกับระดับความสามารถที่เป็นจริงของนักกีฬาผู้นั้นมิใช้ต้องทาตามหรือเ
ลียนแบบแชมป์ โดยที่มิได้เรียนรู้สภาพพื้นฐาน
การฝึกซ้อมและความแตกต่างของร่างกายในแต่ละบุคคล
4. ทักษะและการฝึกซ้อมกีฬา
คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้หลักการในการในการกาหนดความหนักเบา
รูปแบบวิธีการฝึก
เข้าไว้ในโปรแกรมการฝึกซ้อมได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละบุคคล
โดยจะต้องพิจารณาและคานึงถึงอายุ เพศวัย ประสบการณ์ ความแตกต่างระหว่างบุคคล
รวมทั้งระบบพลังงานสมรรถภาพทางกาย เฉพาะประเภทกีฬา
ความสามารถในการเรียนรู้รับรู้ของนักกีฬาแต่ละบุคคล
เพื่อนาไปสู่การวางแผนการฝึกซ้อมในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับนักกีฬาแ
ต่ละบุคคล
5. โภชนาการทางการกีฬา
คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณค่าของอาหารแต่ละชนิด
และรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง ได้สัดส่วนทั้งในด้านปริมาตร
และคุณภาพในแต่ละช่วงของการฝึกซ้อมและแข่งขันซึ่งจะมีผลต่อการใช้พลังงานในการเค
ลื่อนไหวการเก็บสารองพลังงานไว้ในกล้ามเนื้อ
การชดเชยพลังงานในระหว่างการฝึกซ้อมและแข่งขันและภายหลังการฝึกซ้อมแข่งขันซึ่งจ
ะช่วยเสริมโครงร่างและความสามารถของร่างกายให้คงสภาพแข่งแกร่งยิ่งขึ้น
6. จิตวิทยาการกีฬา
คือ
ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดการควบคุมทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกีฬ
ารวมถึงการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์
ของการฝึกซ้อมและแข่งขันได้อย่างถูกต้องเป็นผลดีต่อเกมส์การแข่งขันและการแสดงออก
ซึ่งทักษะและความสามารถของนักกีฬาได้อย่างสอดคล้อง สัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
7. เวชศาสตร์การกีฬา
คือศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้ องกัน บาบัดรักษา และฟื้นฟู
สภาพร่างกายให้กับนักกีฬาทั้งในสภาวะปกติและในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อช่วยเสริมให้ส
มรรถภาพทางกายอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งานได้ดีที่สุด
8. เทคโนโลยีทางการกีฬา
คือ
ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประดิษฐ์การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยสนับสนุนในการพัฒ
นาส่งเสริมตลอดจนการแก้ไขปัญหา
ข้อบกพร่องให้กับนักกีฬาเพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพให้กับผู้ฝึกสอนกีฬาและนักกี
ฬารวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวทางด้านเทคนิคทักษะ
การประเมินผลและรายงานผลการแข่งขันที่เป็นประโยชน์ถูกต้องรวดเร็วให้กับผู้ฝึกสอนกี
ฬานักกีฬา และผู้ชม
แหล่งอ้างอิง
 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B
8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%
E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8
%B2
 http://www.dek-d.com/board/view/3472770/
วิธีดาเนินงาน
แนวทาการดาเนินงาน
1. กาหนดหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
2. ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3.จัดทาโครงร่างโครงงาน
4. ตรวจสอบงาน
5. ปรับปรุงและแก้ไข
6.นาเสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. กระดาษ
3. ดินสอยางลบ
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-
ขั้นคอนและแผนดาเนินงาน
ลำดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดำห์ที่ ผู้รับผิดช
อบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
17
1 คิดหัวข้อโครงงำน
2 ศึกษำและค้นคว้ำข้อ
มูล
3 จัดทำโครงร่ำงงำน
4 ปฏิบัติกำรสร้ำงโคร
งงำน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 กำรทำเอกสำรรำยงำ
น
7 ประเมินผลงำน
8 นำเสนอโครงงำน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้อ่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬาว่าคืออะไร
2. ผู้ที่สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาสามารถไปต่อยอดความรู้ได้อีก
3. เจ้าใจสิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้น
สถานที่ดาเนินงาน
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้
1. วิทยาศาสตร์
2.พลศึกษา
3.สุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง
 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2
%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3
%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B5
%E0%B8%AC%E0%B8%B2
 http://www.dek-d.com/board/view/3472770/

งานคอม

  • 1.
    แบบเสนอโครงร่างโครงงาน รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร6 ปีการศึกษา 2558 ชื่อโครงงาน...วิทยาศาสตร์การกีฬา ชื่อผู้ทาโครงงาน นายนคเรศ จอมปินทอง เลขที่8 ชั้นม.6 ห้อง 6 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาการดาเนินงานภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต34
  • 2.
    ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม นายนคเรศ จอมปินทอง เลขที่8ชั้น ม.6 ห้อง 6 คาชี้แจงให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย) วิทยาศาสตร์การกีฬา ชื่อโครงงาน(ภาษาองักฤษ) Sportscience ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นายนคเรศจอมปินทอง ชื่อครูที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม นายภัทรวีร์ ชาวผ้าขาว ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือน ที่มาและความสาคัญของโครงงาน วิทายศาสตร์การกีฬา คือ การนาเทคโนโลยี เครื่องมือ หรือความรู้ด้านต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในด้านกีฬา การออกกาลังกายในกิจกรรมต่างๆ โดยประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อดึงศักยภาพของนักกีฬาให้ออกมามากที่สุด ทั้งในด้าน ความฟิต ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เทคนิคอื่นๆอีกมากมาย วิทยาศาสตร์การกีฬามีอยู่หลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น ด้านกายวิภา ศึกษาโครงสร้างของร่างกาย กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หัวใจ ด้านโภชนาการ ศึกษาอาหารแต่ละชนิด และรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬา และด้านอื่นๆอีกมากมาย รามทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการออกกาลังกาย เราคนปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างถูกวิธี
  • 3.
    ในปัจจุบันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในด้านกีฬามากมาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาชนิดใดก็ตาม รวมไปถึงการออกกาลังกายกับครอบครัวก็อาจเกิดอุบัติเหตุจากการออกกาลังกายได้ ดังนั้นเราควรรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้อต้นได้ วิทยาศาสตร์ กับ กีฬา จึงควรศึกษาและพัฒนาไปพร้อมๆกัน วัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาว่าวิทยาศาสตร์การกีฬาคืออะไร 2.เพื่อเรียนรู้ วิทยาศาสตร์การกีฬาในด้านต่างๆ 3.เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ผู้ที่สนใจเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา 4.เพื่อให้เห็นคุณค่าทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ขอบเขตการทางาน โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง วิทยาศาสตร์การกีฬา จัดทาขึ้นมาเพื่อศึกษาและเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์กากีฬาในประเทศไทย หลักการและทฤษฎี วิทยาศาสตร์การกีฬา (อังกฤษ: Sportscience) เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าถึงผลของการมีส่วนร่วมในการเล่นกีฬาหรือกา รออกกาลังกายในกิจกรรมต่างๆ โดยประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาศักยภาพร่างกายของนักกีฬา ให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยหลักวิชาทางด้านสรีรวิทยา จิตวิทยา สังคมวิทยา หรืออื่นๆ ดังนั้นวิทยาศาสตร์การกีฬาจึงเป็นการรวมวิชาต่างๆมากมายหรือที่เรียกว่า สหวิทยาการ ที่มีเนื้อหารสาระครอบคลุมในสาขาวิชาต่างๆ เช่น สรีรวิทยาการกีฬา จิตวิทยาการกีฬา สังคมวิทยาการกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา โภชนาการการกีฬา เทคโนโลยีการกีฬา วิทยาวิธีทางกีฬา วิทยาการการจัดการการกีฬา อื่นๆ วิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ โดยนาหลักวิชาต่างๆ เช่นกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยาการออกกาลังกาย การแพทย์ โภชนาการ จิตวิทยา วิทยาศาสตร์การเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการออกกาลังกาย การฝึกซ้อมกีฬา การแข่งขันกีฬา ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างเป็นขั้นตอน
  • 4.
    วิทยาศาสตร์การกีฬาเรียนอะไรบ้าง ต้องบอกก่อนว่าหลักสูตรแต่ละมหาลัยไม่เหมือนกันแต่จะคล้ายกัน ซึ่งคือปี 1จะเรียนพวก วิชาพื้นฐานปกติ ฟิสิกส์ เคมีชีวะ แล้วก็แลปทั้ง 3 วิชานั้นบางมหาลัยจะได้เรียน กายวิภาคศาสตร์ตั้งแต่ ปี1 เลย คือเรียนเกี่ยวกับระบบในร่างกายทั้งหมดว่างเป็นอย่างไรบ้าง อาจจะมี สรีรวิทยาด้วย มันคือวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาระบบการ"ทางาน" ของสื่งมีชีวิต เช่นพวกการเคลื่อนไหว ในชั้นปี 2-4ก็จะเริ่มเรียนวิชาของคณะตรงๆมากขึ้น เช่นพวก โภชนการกีฬาการบาบัดทางกีฬา , วิชากีฬาต่างๆ , เทคโนโลยีการกีฬา , ชีวกลศาสตร์ โดยถ้าเป็นที่ มหาลัยแถวๆ MBK จะเลือกเอกได้คือ  วิทยาศาสตร์การกีฬา (SportsScience)  การจัดการการกีฬา (Sports Management)  วิทยาการส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion Science)  การจัดการนันทนาการและการท่องเที่ยว (Management of Recreation and Tourism) ประเภทการศึกษา 1. กายวิภาคศาสตร์ คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย ที่ประกอบขึ้นเป็นรูปร่างสัดส่วนของร่างกายนักกีฬาแต่ละคน ได้แก่กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หัวใจ ปอด หลอดเลือด เม็ดเลือดแดง เซลล์ประสาท เป็นต้น 2. สรีรวิทยา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทางานหรือการทาหน้าที่ของอวัยวะระบบต่างๆของร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นและพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น ได้ด้วยระบบการฝึกที่ถูกต้องเหมาะสมกับประเภทกีฬาและนักกีฬาแต่ละบุคคล เช่น ความสามารถในการทางานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ความอดทนของระบบหายใจและไหลเวียนเลือดและระบบพลังงานที่ใช้ในการแข่งขัน แต่ละประเภทกีฬา เป็นต้น
  • 5.
    รวมทั้งสาเหตุที่นาไปสู่การเสื่อมสภาพของระบบการทางานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกา ย 3. ชีวกลศาสตร์ คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยการทางานของกล้ามเนื้อกระดูก เอ็น และข้อต่อ เพื่อนาไปสู่การใช้แรง ในการเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติทักษะ อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในแต่ละชนิดหรือประเภทกีฬา ซึ่งนาไปสู่การพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านเทคนิคทักษะกีฬาแต่ละบุคค ลได้อย่างกลมกลืนกับระดับความสามารถที่เป็นจริงของนักกีฬาผู้นั้นมิใช้ต้องทาตามหรือเ ลียนแบบแชมป์ โดยที่มิได้เรียนรู้สภาพพื้นฐาน การฝึกซ้อมและความแตกต่างของร่างกายในแต่ละบุคคล 4. ทักษะและการฝึกซ้อมกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้หลักการในการในการกาหนดความหนักเบา รูปแบบวิธีการฝึก เข้าไว้ในโปรแกรมการฝึกซ้อมได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละบุคคล โดยจะต้องพิจารณาและคานึงถึงอายุ เพศวัย ประสบการณ์ ความแตกต่างระหว่างบุคคล รวมทั้งระบบพลังงานสมรรถภาพทางกาย เฉพาะประเภทกีฬา ความสามารถในการเรียนรู้รับรู้ของนักกีฬาแต่ละบุคคล เพื่อนาไปสู่การวางแผนการฝึกซ้อมในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับนักกีฬาแ ต่ละบุคคล 5. โภชนาการทางการกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณค่าของอาหารแต่ละชนิด และรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง ได้สัดส่วนทั้งในด้านปริมาตร และคุณภาพในแต่ละช่วงของการฝึกซ้อมและแข่งขันซึ่งจะมีผลต่อการใช้พลังงานในการเค ลื่อนไหวการเก็บสารองพลังงานไว้ในกล้ามเนื้อ การชดเชยพลังงานในระหว่างการฝึกซ้อมและแข่งขันและภายหลังการฝึกซ้อมแข่งขันซึ่งจ ะช่วยเสริมโครงร่างและความสามารถของร่างกายให้คงสภาพแข่งแกร่งยิ่งขึ้น 6. จิตวิทยาการกีฬา
  • 6.
    คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดการควบคุมทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกีฬ ารวมถึงการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ ของการฝึกซ้อมและแข่งขันได้อย่างถูกต้องเป็นผลดีต่อเกมส์การแข่งขันและการแสดงออก ซึ่งทักษะและความสามารถของนักกีฬาได้อย่างสอดคล้อง สัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 7. เวชศาสตร์การกีฬา คือศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน บาบัดรักษา และฟื้นฟู สภาพร่างกายให้กับนักกีฬาทั้งในสภาวะปกติและในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อช่วยเสริมให้ส มรรถภาพทางกายอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งานได้ดีที่สุด 8. เทคโนโลยีทางการกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประดิษฐ์การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยสนับสนุนในการพัฒ นาส่งเสริมตลอดจนการแก้ไขปัญหา ข้อบกพร่องให้กับนักกีฬาเพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพให้กับผู้ฝึกสอนกีฬาและนักกี ฬารวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวทางด้านเทคนิคทักษะ การประเมินผลและรายงานผลการแข่งขันที่เป็นประโยชน์ถูกต้องรวดเร็วให้กับผู้ฝึกสอนกี ฬานักกีฬา และผู้ชม แหล่งอ้างอิง  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B 8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C% E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8 %B2  http://www.dek-d.com/board/view/3472770/ วิธีดาเนินงาน แนวทาการดาเนินงาน
  • 7.
    1. กาหนดหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 2. ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3.จัดทาโครงร่างโครงงาน 4.ตรวจสอบงาน 5. ปรับปรุงและแก้ไข 6.นาเสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. คอมพิวเตอร์ 2. กระดาษ 3. ดินสอยางลบ คอมพิวเตอร์ งบประมาณ - ขั้นคอนและแผนดาเนินงาน ลำดั บ ที่ ขั้นตอน สัปดำห์ที่ ผู้รับผิดช อบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 1 2 1 3 1 4 1 5 1 6 17 1 คิดหัวข้อโครงงำน 2 ศึกษำและค้นคว้ำข้อ มูล 3 จัดทำโครงร่ำงงำน
  • 8.
    4 ปฏิบัติกำรสร้ำงโคร งงำน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6กำรทำเอกสำรรำยงำ น 7 ประเมินผลงำน 8 นำเสนอโครงงำน ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้อ่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬาว่าคืออะไร 2. ผู้ที่สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาสามารถไปต่อยอดความรู้ได้อีก 3. เจ้าใจสิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้น สถานที่ดาเนินงาน โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ 1. วิทยาศาสตร์ 2.พลศึกษา 3.สุขศึกษา แหล่งอ้างอิง  https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2 %E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3
  • 9.