More Related Content
Similar to การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
Similar to การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว (20)
การทำกระบวยตักน้ำจากมะพร้าว
- 2. ชื่ อโครงงาน การทาแก้วด้วยกะลามะพร้าว
หลักการและเหตุผล
ในหมู่บา นมีกะลามะพร้าวที่ใช้แล้วทิ้ งเกลื่อนเต็มไปหมด นาไปสู่ขยะเมื่อฝนตกลงมาก็กลายเป็ นภาชนะใส่
้
น้ า เป็ นที่ไ ข่ของยุ งลาย ทาให้ทุกคนอาจเกิดโรคไข้เลือดออกเป็ นส่วนมาก เพราะน้ า ชอบขังในกะลามะพร้า ว
กลุ่มของข้าพเจ้าจึงอยากจะอนุ รักษ์ของใช้สิ่งแวดล้อมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มากกว่าโทษและนามาทาให้เกิด
ความสวยงามให้น่า ดู น่ า ชม น่ า ใช้ ให้ไ ด้ประโยชน์ ดังนั้ นกลุ่มของข้าพเจ้าจึงทาโครงงานนี้ ขึ้ น
วัตถุ ประสงค์
1.เป็ นประโยชน์ ต่อการดารงชีวิตของนั กศึกษาและชุมชน
2.เกิดความสามัคคีในหมู่คณะในกิจกรรมนั้นๆ
3.สามารถนาของใช้แล้วมาใช้เป็ นประโยชน์
- 3. เปาหมาย
้
เพื่ออนุ รัก ษ์ สิ่งแวดล้อม และพัฒนากระบวยตัก น้ าของเดิม ให้มีรูป แบบแปลกใหม่
ขอบเขตของการศึกษา
ศึก ษาเรื่องการทาแก้วไวน์ ด้วยกะลามะพร้าว
ระยะเวลาการดาเนินงาน
1 พฤศจิก ายน 2556 ถึง 30 มกราคม 2557
ขั้นตอน วิธีการ แผนงาน การจัดทาโครงการ
1. ประชุม กลุ่ม โครงงานที่จะทา
2. แบ่งหน้าที่โครงงานที่รับ ผิดชอบ
3. หาข้อมูลของงาน
4. วางแผนงานที่จะทา
5. จัดทาชิ้ นงาน
6.
จัดเรียบเรียงงาน เอกสารต่างๆ
7. พิม พ์เอกสารโครงงานประกอบการเรียน
8. จัดป ายนิ เทศ
้
9. นาเสนอโครงงานพร้อมเอกสารและป ายนิ เทศ
้
- 4. ผลที่คาดว่ าจะได้รับจากการทาโครงงาน
1 นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
2 มีประโยชน์ ต่อการใช้งาน
3 เป็ นการนาของเหลือใช้มาทาให้เกิดประโยชน์
4 ได้รับความรู้
5. เป็ นการอนุ รักษ์สิ่งแวดล้อม
ที่ปรึกษาโครงงาน
นางสาว เยาวลักษณ์ ศิลาทะ
สถานศึกษา
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองอุบลราชธานี
ปี การศึกษา
2556
- 5. บทคัดย่อ
โครงงานเรื่ อง การทาแก้วด้วยกะลามะพร้าวจัดทาขึ้ นเพื่อพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่เดิมให้มีความ
หลากหลายให้กับสินค้าและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ทาให้มีรายได้เพิ่มขึ้ นนอกจากนี้ ยังสามารถนาไป
บูร ณาการกับวิชาเศรษฐกิจพอเพียง ในเรื่ องของการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ มค่า ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด
้
และยังนาไปบูรณาการได้อีกหลายวิชาจากการศึกษาพบว่าการทาแก้วไวน์ และแก้วกาแฟจากกะลามะพร้าวมี
ขนาดกะทัดรัดสามารถจัดเก็บได้ง่ายไม่เหมือนกระบวยตักน้ า ซึ่งมีดามยาว
้
แนวคิดและที่มาของโครงงาน
เนื่ องจากในแต่ละชุมชนมีกะลามะพร้าวที่ใช้แล้วทิ้ งเกลื่อนกลาดเมื่อฝนตกลงมาก็เป็ นภาชนะใส่น้ าเป็ นที่
วางไข่ของยุ งลายซึ่ งในแต่ละปี มีผู้ป่วยเป็ นไข้เลือดออกเป็ นจานวนมากกลุ่มของข้า พเจ้าจึงคิดว่า น่ าจะนา
กะลามะพร้า วที่ใช้แล้วมาทาให้เกิดประโยชน์ และเป็ นการอนุ รักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยประจวบกับครอบครัวของ นาย
ธวัชชัย ดวงแก้ว สมาชิกในกลุ่มของข้า พเจ้าทากระบวยตักน้ า จากกะลามะพร้าวขายเป็ นอาชีพเสริ ม มีลูกค้า
ติดต่อขอซื้ อไม่มากนั กเนื่ องจากรูปแบบยังเก่าอยู่และราคาขายได้ค่อนข้างถูก กลุ่ม ของข้าพเจ้าได้ไปดูวิธีการทา
กระบวยตักน้ า ที่บานนายธวัชชัย จึงได้มีแนวคิด กะลามะพร้าวที่มีรูปร่ างขนาดเล็กน่ าจะมาทาเป็ นแก้วที่มี
้
รูปร่ า งสวยงามน่ าจะขายได้ร าคาแพงขึ้ นและเป็ นที่นิยมของตลาด จึงได้ไ ปตระเวนดูตามตลาดนั ดและร้า นค้า
ต่า งๆก็ย ังไม่เจอรูปแบบที่แปลกใหม่เป็ นที่สะดุ ดตามากนั กจึงตกลงกับเพื่อนในกลุ่มว่าน่ าจะลองทาแก้วไวน์จาก
กะลามะพร้า วดูโดยขอความอนุ เคราะห์สถานที่และเครื่ องมือบางชนิ ดจากคุ ณพ่อของนายธวัชชัยโดยมีนางสาว
เยาวลักษณ์ ศิลาทะเป็ นผู้คอยให้คาปรึกษาแนะนา
- 7. เรื่องเกี่ยวกับมะพร้าว
มะพร้าวเป็ นพืชยืนต้นชนิ ดหนึ่ งที่เรารูจักกันดี อยู่ในตระกุลปาล์ม เราใช้ประโยชน์จากมะพร้าวได้หลายทาง
้
เช่น น้ า และเนื้ อมะพร้าวอ่อนใช้รับประทาน เนื้ อในผลแก่นาไปขูดและคั้นทากะทิ กะลานาไปประดิษฐ์สิ่งของ
ต่า งๆ เช่น กระบวย โคมไฟ จานรองแก้ว กระดุ ม ฯลฯ นอกจากนี้ มะพร้าวจัดเป็ นไม้มงคลชนิ ดหนึ่ ง ตามตารา
พรหมชาติฉบับหลวง ได้กาหนดให้ปลูกมะพร้า วไว้ทางทิศตะวันออกของบ้านเพื่อความเป็ นสิริมงคล
ลักษณะทั ่วไป
มะพร้าวเป็ นพืชยืนต้น ใบมีลักษณะเป็ นใบประกอบแบบขนนก ผลประกอบด้วยเอพิคาร์ป (epicarp) คือ
เปลือกนอก ถัดไปข้า งในจะเป็ นมีโ ซคาร์ป (mesocarp) หรื อใยมะพร้าว ถัดไปข้างในเป็ นส่วนเอนโดคาร์ป
(endocarp) หรื อกะลามะพร้าว ซึ่ งจะมีรูสีคล้าอยู่ 3 รูสาหรับงอก ถัดจากส่วนเอนโดคาร์ปเข้า ไปจะเป็ นส่วน
เอนโดสเปิ ร์ม (endosperm) หรื อที่เรี ยกว่าเนื้ อมะพร้าว ภายในมะพร้าวจะมีน้ ามะพร้า ว ซึ่ งเมื่อมะพร้าวแก่
เอนโสเปิ ร์มก็จะดูดน้ า มะพร้าวไปหมดขณะที่มะพร้าวยังอ่อน ชั้นเอนโดสเปิ ร์ม (เนื้ อมะพร้าว) ภายในมีลกษณะ
ั
บางและอ่อนนุ่ ม ภายในมีน้ ามะพร้า ว ซึ่ งในระยะนี้ เรามักจะสอยมะพร้าวลงมารับประทานน้ าและเนื้ อ เมื่อ
มะพร้าวแก่ ซึ่ งสังเกตได้จากการที่เปลือกนอกเริ่มเปลี่ยนเป็ นสีน้ าตาล ชั้นเอนโดสเปิ ร์ม ก็จะหนาและแข็งขึ้ น จน
ในที่สุดมะพร้าวก็หล่นลงจากต้น
- 8. ประโยชน์
มะพร้า วสามารถใช้ป ระโยชน์ ไ ด้หลายอย่า ง เช่น
ในผลมะพร้า วอ่ อนจะมี น้ า อยู่ภายใน เรี ยกว่ า น้ า มะพร้าว ใช้เ ป็ นเครื่ อ งดื่ ม เกลื อแร่ ไ ด้เนื่ องจากอุ ดมไปด้วย โพแทสเซี ยม นอกจากนี้ น้ า มะพร้า วยัง มี คุณสมบั ติ
ปลอดเชื้ อโรค และเป็ นสารละลายไอโซโทนิ ก (สารละลายที่ มี ความเข้ม ข้นเท่ ากั บภายในเซลล์ ซึ่ ง ไม่ ทาให้เ ซลล์ เสี ยรู ปทรง) ซึ่ ง ด้ว ยเหตุ นี้จึ ง สามารถนาน้ า
มะพร้า วไปใช้ฉีดเข้า หลอดเลื อ ดเวน (หลอดเลื อ ดดา) ในผู ้ป่วยที่ มี อ าการขาดน้ า หรื อปริ มาณเลื อดลดผิ ดปกติ
- น้ า มะพร้า วสามารถนาไปทาวุ ้นมะพร้า วได้ โดยการเจื อ กรดอ่อ นเล็ กน้อ ยลงในน้ า มะพร้า ว
- เนื้ อในของมะพร้า วแก่ นาไปทากะทิ ไ ด้ โดยการขู ดเนื้ อในเป็ นเศษเล็ ก ๆ และบี บเอาน้ า กะทิ อ อก
- กากที่ เ หลื อจากการคั้นกะทิ ยัง สามารถนาไปทาเป็ นอาหารสัตว์ ไ ด้
-ยอดอ่ อ นของมะพร้าว หรื อ เรี ยกอี ก ชื่ อว่า หัว ใจมะพร้า ว (coconut’s heart) สามารถ
นาไปใช้ทาอาหารได้ ซึ่ ง ยอดอ่ อ นมี ร าคาแพงมาก เพราะการเก็ บ ยอดอ่ อนทาให้ตนมะพร้า วตาย ด้ว ยเหตุ นี้จึ ง มั ก เรี ยกยายอดอ่ อนมะพร้า วว่ า ‘สลั ดเจ้า สัว ’
้
(millionaire’s salad)
-ใยมะพร้า ว นาไปใช้ยัดฟู ก ทาเสื่ อ หรื อ นาไปใช้ใ นการเกษตร
-น้ า มั นมะพร้า ว ได้จ ากการบี บ หรื อ ต้ม กากมะพร้า วบด นาไปใช้ใ นการปรุ ง อาหารหรื อ
นาไปทาเครื่ อ งสาอางได้ และในปั จจุ บั นยัง มี ก ารผลิ ตไบโอดี เซลจากน้ า มั นมะพร้า วอี ก ด้วย
-กะลามะพร้า ว นาไปใช้ทาสิ่ ง ประดิ ษ ฐ์ ต่า ง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ กระดุ ม ซออู ้ ฯลฯ
-ก้า นใบ หรื อ ทางมะพร้า ว ใช้ทาไม้ก วาดทางมะพร้า ว
-จั ่นมะพร้า ว (ช่อ ดอกมะพร้า ว) ให้น้ า ตาล
-จาวมะพร้า วใช้นามาเป็ นอาหารได้
-น้ า มะพร้า วและเนื้ อมะพร้า วใช้ถ่า ยพยาธิ ไ ด้
-เปลื อ กหุ มรากมะพร้า วใช้รั กษาโรคคอตี บ ได้
้
-น้ า มั นจากกะลามะพร้า วใช้รั กษาโรคผิ วหนั ง ได้
- 9. เนื้ อหาที่ เกี่ ยวข้องกับวิ ชา ช่องทางการขยายอาชี พ
1.สร้า งอาชีพให้กบชุมชน
ั
2.พัฒ นาสินค้ารูปแบบเดิมให้มีความหลากหลายมากขึ้ น
3.นาวัสดุ ที่เหลือใช้มาสร้างอาชีพ
วิ ธีการดาเนิ นงาน
. วัส ดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ได้แก่
- ช้อนกลาง- กระดาษทราย- กะลามะพร้าว
- ไม้กานลาน
้
- กาวร้อน
- เลื่ อยฉลุ หรือเลื่ อยตัดเหล็ ก
- แลคเกอร์
- มี ดพร้า
- มอเตอร์เจีย
- โพดอม
- 11. สรุ ปผลการดาเนิ นงาน
การทาแก้วไวน์ จากกะลามะพร้าวเมื่อนามาเปรี ยบเทียบกับการทากระบวยตักน้ าและแก้วแบบมีหูแล้วทั้ง
เครื่ องมือ ขั้นตอนและใช้เวลาในการทาไม่แตกต่างกันมากนั ก เมื่อทาเสร็ จแล้วนามาเปรียบเทียบกันดูพบว่า แก้ว
ไวน์ มีรูปร่ างที่แปลกใหม่สวยงาม ลองนาไปขายดูแล้วก็เป็ นที่ตองการของตลาดและได้ร าคาที่ดีกว่า กระบวยตัก
้
น้ า แต่ขอเสียคือ กะลามะพร้าวที่จะนามาทาแก้วไวน์ ตองมีขนาดเล็กจะหายาก ต่า งจากการทากระบวยซึ่งใช้กะลา
้
้
ขนาดไหนก็ได้
ข้อเสนอแนะ
1.ควรใช้ไ ม้อย่างอื่นที่ไม่ใช่ไม้กา นลานมาทาขาแก้วเพราะไม้กานลานหายาก อาจเป็ น
้
้
ไม้เนื้ อแข็งหรือไม้ประดู่ก็ได้
2. ควรมีการแกะสลักใส่ตัวแก้วเพื่อเพิ่มความสวยงาม
3. นากะลามะพร้าวประดิษฐ์เป็ นของใช้อื่นๆ
ประโยชน์ที่ได้รบ
ั
1.ได้รับความรู้ในเรื่องการทาแก้วจากะลามะพร้า ว
2.สามารถพัฒนารูปแบบให้แปลกใหม่มีความสวยงามและทันสมัยมากขึ้ น
3.ทาให้มีความสามัคคีในกลุ่ม
- 17. ขอขอบคุณ
คุ ณพ่อเตรียม บุญเติม ชุม ชนดอนปู่ เจ้าทองแดง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองอุบลราชธานี
ที่อนุ ญาตให้นาโครงงาน เรื่ อง การทาแก้วด้วยกะลามะพร้าว มาเป็ นตัวอย่างโครงงาน
เพื่อประโยชน์ ทางการศึกษา