More Related Content Similar to การสื่อสาร (20) การสื่อสาร1. รายงาน
เรื อง การสื อสารข้อมูล
จัดทําโดย
นางสาวโยษิตา เนตรบุตร
เลขที 14 ชัน ม.4/1
เสนอ
คุณครู จุฑารัตน์ ใจบุญ
ปี การศึกษา 2556
โรงเรี ยนรัษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
2. คํานํา
รายงานฉบับนีเป็ นส่วนหนึงของรายวิชา การงานอาชีพ และเทคโนโลยี จัดทําขึนเพือเป็ นสือการเรียน การสอน
ให้ แก่ผ้ ทีสนใจในเนือหาสาระของเรือง การสือสารข้ อมูล โดยมีเนือหา ความหมายของการส่งข้ อมูล องค์ประกอบขัน
ู
พืนฐานของระบบ วัตถุประสงค์หลักของการนําการสือการข้ อมูลมาประยุกต์ใช้ ในองค์การประกอบ ข่ายการสือสารข้ อมูล
ประโยชน์ของการสือสารข้ อมูล เป็ นต้ น หวังว่ารายงานฉบับนีคงเป็ นประโยชน์ ให้ แก่ผ้ ทีสนใจในเนือหาสาระ เรือง การ
ู
สือสารข้ อมูลไม่มากก็น้อย
หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ทีนี
ผู้จดทํา
ั
4. การสือสารข้ อมูล
การติดต่อสือสารเป็ นสิงทีเกิดขึนควบคู่มากับมนุษย์ เนืองจากมนุษย์ต้องอยู่รวมกันเป็ นกลุมเป็ นก้ อน โดยมนุษย์ใช้
่
ภาษาเป็ นสือในการส่งข้ อมูล แลกเปลียนข้ อมูลซึงกันและกัน โดยมีอากาศเป็ นตัวกลาง ซึงในภาษาทีมนุษย์ใช้ สอสารกัน
ื
นัน จะต้ องมีข้อตกลงกันว่าแต่ละสัญลักษณ์ หรือคําพูด แทนหรือหมายถึงสิงใด มนุษย์ได้ คิดค้ นวิธีการและเครืองมือทีใช้
ในการติดต่อสือสารกันมาตังแต่สมัยโบราณแล้ ว ยกตัวอย่างเช่น การใช้ สญญาณควันไฟของชาวอินเดียแดง หรือการใช้ ม้า
ั
เร็วในการส่งสาส์น จนกระทังพัฒนามาเป็ นการใช้ โทรเลข วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ และอินเทอร์ เน็ต
ความหมายของการสือสารข้ อมูล เกิดจากคําสองคํา คือ การสือสาร (Communication) ซึงหมายถึง การส่งเนือหา
จากฝ่ ายหนึงไปยังอีกฝ่ ายหนึง และคําว่าข้ อมูล (Data) หมายถึง ข้ อเท็จจริงหรือสิงทีถือหรือยอมรับว่าเป็ นข้ อเท็จจริง
สําหรับใช้ เป็ นหลักอนุมานหาความจริ งหรือการคํานวณ ซึงในทีนีเราจะหมายถึงข้ อมูลทีเกิดขึนจากเครืองคอมพิวเตอร์ ใน
รูปตัวเลข 0 หรือ 1 ต่อเนืองกันไป ซึงเป็ นค่าทีเครืองคอมพิวเตอร์ เข้ าใจ นันคือ การสือสารข้ อมูล หมายถึง การส่งเนือหาที
อยู่ในรูปตัวเลขฐานสองทีเกิดจากอุปกรณ์หรือเครืองคอมพิวเตอร์ ตังแต่ 2 เครืองขึนไป โดยมีจดประสงค์เพือต้ องการติดต่อ
ุ
แลกเปลียนข้ อมูลข่าวสาร ตลอดจนแบ่งปั นการใช้ ทรัพยากรทีมีอยู่ให้ เกิดประโยชน์ สงสุด
ู
การสือสารข้ อมูล (Data Communication)
การสือสารข้ อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลียนข้ อมูลกันระหว่างผู้ส่ง
และผู้รับ โดยผ่านช่องทางสือสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์ เป็ นตัวกลางในการส่งข้ อมูล เพือให้ ผ้ สง
ู่
และผู้รับเกิดความเข้ าใจซึงกันและกัน
วิธีการส่งข้ อมูล จะแปลงข้ อมูลเป็ นสัญญาณ หรือรหัสเสียก่อนแล้ วจึงส่งไปยังผู้รับ และเมือถึงปลายทางหรือ ผู้รับก็
จะต้ องมีการแปลงสัญญาณนัน กลับมาให้ อยู่ในรูปทีมนุษย์ สามารถทีจะเข้ าใจได้ ในระหว่างการส่งอาจจะมีอปสรรค์ที
ุ
เกิดขึนก็คือ สิงรบกวน (Noise) จากภายนอกทําให้ ข้อมูลบางส่วนเสียหาย หรือผิดเพียนไปได้ ซึงระยะทางก็มีสวนเกียวข้ อง
่
ด้ วยเพราะถ้ าระยะทางในการส่งยิงมากก็อาจจะทําให้ เกิดสิงรบกวนได้ มากเช่นกัน จึงต้ องมีหาวิธีลดสิงรบกวน
เหล่านี โดยการพัฒนาตัวกลางในการสือสารทีจะทําให้ เกิดการรบกวนน้ อยทีสุด
5. องค์ ประกอบขันพืนฐานของระบบ
องค์ประกอบขันพืนฐานของระบบสือสารโทรคมนาคม สามารถจําแนกออกเป็ นส่วนประกอบได้ ดงต่อไปนี
ั
1. ผู้สงข่าวสารหรือแหล่งกําเนิดข่าวสาร (source)
่
อาจจะเป็ นสัญญาณต่าง ๆ เช่น สัญญาณภาพ
ข้ อมูล และเสียงเป็ นต้ น ในการติดต่อสือสารสมัยก่อนอาจจะใช้ แสงไฟ ควันไฟ หรือท่าทางต่าง ๆ ก็นบว่าเป็ นแหล่งกําเนิด
ั
ข่าวสาร จัดอยู่ในหมวดหมู่นีเช่นกัน
2. ผู้รับข่าวสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสาร (sink) ซึงจะรับรู้จากสิงทีผู้สงข่าวสาร หรือแหล่งกําเนิด
่
ข่าวสารส่งผ่านมาให้ ตราบใด
ทีการติดต่อสือสารบรรลุวตถุประสงค์ ผู้รับสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสารก็จะได้ รับข่าวสารนัน ๆ ถ้ าผู้รับสาร
ั
หรือ จุดหมายปลายทางไม่ได้ รับ
ข่าวสาร ก็แสดงว่าการสือสารนันไม่ประสบความสําเร็ จ กล่าวคือไม่มีการสือสารเกิดขึนนันเอง
3. ช่องสัญญาณ (channel)
ในทีนีอาจจะหมายถึงสือกลางหรือตัวกลางทีข่าวสารเดินทางผ่าน อาจจะเป็ น
อากาศ สายนําสัญญาณต่าง ๆ หรือแม้ กระทังของเหลว เช่น นํา นํามัน เป็ นต้ น เปรียบเสมือนเป็ นสะพานทีจะให้
ข่าวสารข้ ามจากฝั งหนึงไปยังอีกฝั งหนึง
4. การเข้ ารหัส (encoding)
เป็ นการช่วยให้ ผ้ ูสงข่าวสารและผู้รับข่าวสารมีความเข้ าใจตรงกันในการสือ
่
ความหมาย จึงมีความจําเป็ นต้ องแปลง
6. ความหมายนี การเข้ ารหัสจึงหมายถึงการแปลงข่าวสารให้ อยู่ในรู ปพลังงาน ทีพร้ อมจะส่งไปในสือกลาง ทางผู้สงมีความ
่
เข้ าใจต้ องตรงกันระหว่าง ผู้สงและผู้รับ หรือมีรหัสเดียวกัน การสือสารจึงเกิดขึนได้
่
5. การถอดรหัส (decoding)
หมายถึงการทีผู้รับข่าวสารแปลงพลังงานจากสือกลางให้ กลับไปอยู่ในรูปข่าวสาร
ทีส่งมาจากผู้สงข่าวสาร โดยมีความเข้ าในหรือรหัสตรงกัน
่
6. สัญญาณรบกวน (noise)
เป็ นสิงทีมีอยู่ในธรรมชาติ มักจะลดทอนหรือรบกวนระบบ อาจจะเกิดขึนได้ ทัง
ทางด้ านผู้ส่งข่าวสาร ผู้รับข่าวสาร และช่องสัญญาณ แต่ในการศึกษาขันพืนฐานมักจะสมมติให้ ทางด้ านผู้สงข่าวสาร
่
และผู้รับข่าวสารไม่มีความผิดพลาด ตําแหน่งทีใช้ วิเคราะห์ มักจะเป็ นทีตัวกลางหรือช่องสัญญาณ เมือไรทีรวมสัญญาณ
รบกวนด้ านผู้สงข่าวสารและด้ านผู้รับข่าวสาร ในทางปฎิบติมักจะใช้ วงจรกรอง (filter)
่
ั
กรองสัญญาณแต่ต้นทาง เพือให้ การสือสารมีคุณภาพดียิงขึนแล้ วค่อยดําเนินการ เช่น การเข้ ารหัสแหล่งข้ อมูล เป็ นต้ น
ข่ ายการสือสารข้ อมูล
หมายถึง การรับส่งข้ อมูลหรือสารสนเทศจากทีหนึงไปยังอีกทีหนึง โดยอาศัยระบบการส่งข้ อมูล ทางคลืนไฟฟา
้
หรือแสง อุปกรณ์ทีประกอบเป็ นระบบการสือสารข้ อมูลโดยทัวไปเรียกว่า
ข่ายการสือสารข้ อมูล (Data Communication Networks)
องค์ประกอบพืนฐาน
หน่วยส่งข้ อมูล (Sending Unit)
ช่องทางการส่งข้ อมูล (Transmisstion Channel)
หน่วยรับข้ อมูล (Receiving Unit)
7. วัตถุประสงค์
1.เพือรับข้ อมูลและสารสนเทศจากแหล่งกําเนิดข้ อมูล
2.เพือส่งและกระจายข้ อมูลได้ อย่างรวดเร็ว
3.เพือลดเวลาการทํางาน
4.เพือการประหยัดค่าใช้ จ่ายในการส่งข่าวสาร
5.เพือช่วยขยายการดําเนินการองค์ การ
6.เพือช่วยปรับปรุงการบริหารขององค์การ
ประโยชน์ ของการสือสารข้ อมูล
1) การจัดเก็บข้ อมูลได้ ง่ายและสือสารได้ รวดเร็ว การจัดเก็บซึอยู่ในรูปของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ สามารถจัดเก็บไว้
ในแผ่นบันทึกทีมีความหนาแน่นสูง
แผ่นบันทึกแผ่นหนึงสามารถบันทึกข้ อมูลได้ มากกกว่า 1 ล้ านตัวอักษร สําหรับการสือสารข้ อมูลนัน ถ้ าข้ อมูลผ่าน
สายโทรศัพท์ได้ ในอัตรา 120 ตัวอักษร
ต่อวินาทีแล้ ว จะส่งข้ อมูล 200 หน้ าได้ ในเวลา 40 นาที โดยไม่ต้องเสียเวลานังปอนข้ อมูลเหล่านันซําใหม่อีก
้
2) ความถูกต้ องของข้ อมูล โดยปกติวิธีสงข้ อมูลด้ วยสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ จากจุดหนึงไปยังอีกจุดหนึงด้ วยระบบ
่
ดิจิตอล วิธีการส่งข้ อมูลนันมีการตรวจสอบ
สภาพของข้ อมูล หากข้ อมูลผิดพลาดก็จะมีการรับรู้ และพยายามหาวิธีแก้ ไขให้ ข้อมูลทีได้ รับมีความถูกต้ อง โดยอาจให้ ทํา
การส่งใหม่ หรือกรณีทีผิดพลาด
ไม่มากนัก ฝ่ ายผู้รับอาจใช้ โปรแกรมของตนแก้ ไขข้ อมูลให้ ถกต้ องได้
ู
3) ความเร็วของการทํางาน โดยปกติสญญาณทางไฟฟาจะเดินทางด้ วยความเร็วเท่าแสง ทําให้ การใช้ คอมพิวเตอร์ สง
ั
้
่
ข้ อมูลจากซีกโลกหนึง ไปยังอีกซีกโลกหนึง หรือค้ นหาข้ อมูลจากฐานข้ อมูลขนาดใหญ่ สามารถทําได้ รวดเร็ว ความรวดเร็ว
ของระบบทําให้ ผ้ ใช้ สะดวกสบายยิงขึน เช่น บริษัทสายการบินทุกแห่งสามารถทราบข้ อมูลของทุกเทียวบินได้ อย่างรวดเร็ว
ู
ทําให้ การจองทีนังของสายการบินสามารถทําได้ ทนที
ั
8. 4) ต้ นทุนประหยัด การเชือมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ าหากันเป็ นเครือข่าย เพือส่งหรือสําเนาข้ อมูล ทําให้ ราคาต้ นทุนของการ
ใช้ ข้อมูลประหยัดขึน เมือเทียบกับการจัดส่งแบบวิธีอืน สามารถส่งข้ อมูลให้ กนและกันผ่านทางสายโทรศัพท์ได้
ั
ชนิดของการสือสารข้ อมูล
วิธีการสือสารข้ อมูล (DATA TRANSMISSION)
ลักษณะของการสือสารข้ อมูล มี 2 รูปแบบคือ การสือสารแบบอนุกรม (serial data transmission) และการสือสารแบบขนาน
(parallel data transmission) การสือสารแต่ละรูปแบบมีรายละเอียดดังนี
1. การสือสารข้ อมูลแบบอนุกรม (serail data transmission)
เป็ นการส่งข้ อมูลครังละ 1 บิต ไปบนสัญญาณจนครบจํานวนข้ อมูลทีมีอยู่ สามารถนําไปใช้ กบสือนําข้ อมูลทีมีเพียง1
ั
ช่องสัญญาณได้ สือนําข้ อมูลทีมี 1 ช่องสัญญาณนีจะมีราคาถูกกว่าสือนําข้ อมูลทีมีหลายช่องสัญญาณ และเนืองจากการสือสาร
แบบอนุกรมมีการส่งข้ อมูล
ได้ ครังละ 1 บิตเท่านัน การส่งข้ อมูลประเภทนีจึงช้ ากว่าการส่งข้ อมูลครังละหลายบิต
2. การสือสารข้ อมูลแบบขนาน (parallel data transmission)
เป็ นการส่งข้ อมูลครังละหลายบิตขนานกันไปบนสือนําข้ อมูลทีมีหลายช่องสัญญาณ วิธีนีจะเป็ นวิธีการส่งข้ อมูลทีเร็วกว่าการ
ส่งข้ อมูลแบบอนุกรมจากรูป เป็ นการแสดงการสือสารข้ อมูลระหว่างอุปกรณ์ 2 ตัว ทีมีการส่งข้ อมูลแบบขนาน โดยส่งข้ อมูลครังละ
8 บิตพร้ อมกัน
9. รู ปแบบการสือสารข้ อมูล (MODES OF DATA TRANSMISSION)
รูปแบบการสือสารข้ อมูล แบ่งได้ เป็ น 2 ประเภท คือ
1.การส่ งข้ อมูลแบบไม่ ประสานจังหวะ (asynchronous transmission)
เป็ นวิธีการส่งข้ อมูลไปบนสือนําข้ อมูล โดยข้ อมูลทีส่งไปนันไม่มีจงหวะการส่งข้ อมูล แต่จะส่งเป็ นชุดๆมีช่องว่าง (gap) อยู่
ั
ระหว่างข้ อมูล แต่ละชุดเพือใช้ แบ่งข้ อมูลออกเป็ นชุดๆเมือเริ มต้ นส่งข้ อมูลแต่ละชุดจะมีสญญาณบอกจุดเริมต้ นของข้ อมูลขนาด 1
ี
บิต (start bit) และมีสญญาณบอกจุดสินสุดของข้ อมูลขนาด 1 บิต (stop bit) ตัวอย่างเช่น ถ้ าขนาดข้ อมูลแต่ละชุดมีขนาด 8
ั
บิต ลักษณะของการส่งข้ อมูล
จะมีลาดับ ดังนีคือ สัญญาณบอกจุดเริ มต้ นขนาด 1 บิตข้ อมูล 8 บิต และสัญญาณบอกจุดสินสุด 1 บิต ตัวอย่างการส่งข้ อมูล
ํ
แบบไม่ประสาน
จังหวะ เช่น การส่งข้ อมูล ของแปนพิมพ์ และโมเด็ม เป็ นต้ น
้
2.การส่ งข้ อมูลแบบประสานจังหวะ (synchronous transmission)
เป็ นการส่งข้ อมูลไปบนสือนําข้ อมูลทีมีลกษณะเป็ นกลุมของข้ อมูลทีต่อเนืองกันอย่างเป็ นจังหวะ โดยใช้ สญญาณนาฬิ กาเป็ น
ั
่
ั
ตัวบอกจังหวะ เหล่านันการส่งข้ อมูลวิธีนีจะไม่มีช่องว่าง(gap) ระหว่างข้ อมูลแต่ละชุดและไม่มีสญญาณบอกจุดเริมต้ นและ
ั
จุดสินสุดการส่งข้ อมูลแบบประสานจังหวะนิยมใช้ กบการส่งข้ อมูล ของระบบคอมพิวเตอร์ ทีมีการส่งข้ อมูล ปริมาณมากๆ ด้ วย
ั
ความเร็ วสูง