More Related Content More from Thida Noodaeng (14) แรงจูงใจในการทำงาน5. ควำมหมำยของกำรจูงใจ
แรงจูงใจ (Motive) เป็นคำที่มำจำกคำภำษำละติน ที่ว่ำ Movere ซึ่ง
หมำยถึง เคลื่อนไหว (Move) ดังนั้น คำว่ำแรงจูงใจจึงมีกำรให้ควำมหมำยไว้ต่ำง ๆ กัน
ดังนี้
แรงจูงใจ หมำยถึง บำงสิ่งบำงอย่ำงที่อยู่ภำยในตัวของบุคคลที่มีผลทำให้
บุคคลต้องกระทำ หรือเคลื่อนไหว หรือมีพฤติกรรมในลักษณะที่มีเป้ำหมำย (โนว่ำแอ็ค.
2550: ออนไลน์ อ้ำงอิงจำก Walters.1978: 218) หรือกล่ำวอีกนัยหนึ่งก็คือ แรงจูงใจ
เป็นเหตุผลของกำรกระทำ นั่นเอง
แรงจูงใจ หมำยถึง สภำวะที่อยู่ภำยในตัวที่เป็นพลัง ทำให้ร่ำงกำยมีกำร
เคลื่อนไหวไปในทิศทำงที่มีเป้ำหมำย ที่ได้เลือกไว้แล้ว ซึ่งมักจะเป็นเป้ำหมำยที่มีอยู่ใน
สิ่งแวดล้อม (โนว่ำแอ็ค. 2550: ออนไลน์ อ้ำงอิงจำก Loundon and Bitta.1988:
368)
6. ส่วนกำรจูงใจ (Motivation) เป็นเงื่อนไขของกำรได้รับกำรกระตุ้น ซึ่งมี
ผู้ให้ควำมหมำยของคำว่ำ กำรจูงใจไว้ ดังนี้
กำรจูงใจ หมำยถึง แรงขับเคลื่อนที่อยู่ภำยในของบุคคล ที่กระตุ้นให้
บุคคลมีกำรกระทำ(โนว่ำแอ็ค. 2550: ออนไลน์ อ้ำงอิงจำก Schiffman and Kanuk.
1991: 69)
กำรจูงใจ เป็นภำวะภำยในของบุคคลที่ถูกกระตุ้นให้กระทำพฤติกรรม
อย่ำงมีทิศทำงและต่อเนื่อง (โนว่ำแอ็ค. 2550: ออนไลน์ อ้ำงอิงจำก Anita E.
Woolfolk. 1995)
จำกคำอธิบำยและควำมหมำยดังกล่ำว จึงสรุปได้ว่ำ กำรจูงใจ
เป็นกระบวนกำรที่บุคคลถูก กระตุ้นจำกสิ่งเร้ำโดยจงใจ ให้กระทำหรือดิ้นรนเพื่อให้
บรรลุวัตถุประสงค์บำงอย่ำง ซึ่งจะเห็นได้ว่ำ พฤติกรรมที่เกิดจำกกำรจูงใจ เป็น
พฤติกรรมที่มิใช่เป็นเพียงกำรตอบสนองสิ่งเร้ำปกติธรรมดำ แต่ ต้องเป็นพฤติกรรม
ที่มีควำมเข้มข้น มีทิศทำงจริงจัง มีเป้ำหมำยชัดเจนว่ำต้องกำรไปสู่จุดใด และ
พฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมำจำก แรงผลักดัน หรือ แรงกระตุ้น ที่เรียกว่ำ
แรงจูงใจ ด้วย
7. ทฤษฎีควำมต้องกำรตำมลำดับขั้น
ทฤษฎีควำมต้องกำรตำมลำดับขั้น ซึ่งรู่จักกันในชื่อว่ำทฤษฎีควำม
ต้องกำรของ Maslow เป็นทฤษฎีที่แบ่งควำมต้องกำรของมนุษย์เป็น 2 ระดับ คือ
ควำมต้องกำรในระดับต่ำ และควำมต้องกำรในระดับสูง โดยที่มนุษย์มีควำม
ต้องกำรในระดับหนึ่งแล้วควำมต้องกำรนั้นได้รับกำรตอบสนองแล้ว มนุษย์ก็จะมี
ควำมต้องกำรในระดับสูงขึ้นต่อไปจนถึงควำมต้องกำรในระดับที่สูงที่สุดมี 5 ลำดับ
ขั้น
1.ควำมต้องกำรทำงด้ำนร่ำงกำย (physical need)
2.ควำมต้องกำรควำมปลอดภัย (safety need)
3.ควำมต้องกำรทำงสังคม (social need)
4.ควำมต้องกำรกำรยกย่อง (esteem need)
5.ควำมต้องกำรควำมสำเร็จในชีวิต (self-actualization need)
9. ทฤษฎีควำมต้องกำรแสวงหำหรือแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ของ McClelland
แมคเคิลแลนด์ กล่ำวว่ำ บุคคลมีควำมต้องกำรแตกต่ำงกันและเป็นสิ่งที่
ต้องเรียนรู้ไม่ใช่ถ่ำยทอดทำงพันธุกรรม โดยแบ่งควำมต้องกำร
ออกเป็น 3 ประกำร ดังนี้
1. ควำมต้องกำรประสบควำมสำเร็จใน
ชีวิต (Need forachievement: NACH)
2. ควำมต้องกำรควำมผูกพัน (Need for affiliation: NAFF)
3. ควำมต้องกำรอำนำจ (Need for power: NPOW)
จำกคำอธิบำยข้ำงต้นจึงขอสรุปว่ำ แรงจูงใจสำมำรถเกิดขึ้นได้กับ
ทุกบุคคล ซึ่งเกิดจำกทฤษฎีควำมต้องกำร กำรแสวงหำ เพื่อให้ได้มำซึ่งสิ่งที่เรำได้
ตั้งเป้ำหมำยไว้ และเพื่อให้สะดวดต่อกำรที่เรำจะนำแนวคิดเหล่ำนี้มำใช้เพื่อ
วิเครำะห์เกี่ยวกับสิ่งต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้นได้
12. Uchiyamada Takachi
รองประธำนคณะกรรมกำร
คอร์ปอเรชั่นโตโยต้ำมอเตอร์
Takechi Uchiyamada เกิด 17 สิงหำคม 1946 เขำจบ
กำรศึกษำจำกมหำวิทยำลัยนำโกย่ำด้วยปริญญำในสำขำฟิสิกส์ประยุกต์
มีนำคม 1969 และเข้ำร่วม Toyota Motor Corporation (TMC) ใน
เดือนเมษำยนปีเดียวกันในเดือนมกรำคมปี 1994 นำย Uchiyamada
กลำยเป็นโครงกำรผู้จัดกำรทั่วไปของศูนย์พัฒนำยำนพำหนะ 2 เขำ
กลำยเป็นหัวหน้ำวิศวกรของศูนย์ที่ซึ่งกำรพัฒนำ Prius-ครั้งแรกของ
โลกมวลผลิตน้ำมันเบนซินไฟฟ้ำรถไฮบริด
13. หลังจำกได้รับกำรเสนอชื่อให้คณะกรรมกำร บริษัท ในเดือนมิถุนำยนปี
1998 นำย Uchiyamada คุมยำนพำหนะศูนย์พัฒนำ 3 ในเดือนมิถุนำยนปี
2000 เขำได้กลำยเป็นหัวหน้ำเจ้ำหน้ำที่ของศูนย์พัฒนำยำนพำหนะที่ 2 และใน
เดือนมิถุนำยน 2001 กรรมกำรผู้จัดกำรและประธำนเจ้ำหน้ำที่บริหำรของกำร
ดำเนินงำนศูนย์บริกำรลูกค้ำในต่ำงประเทศที่ศูนย์
นำย Uchiyamada ได้ถูกทำให้กรรมกำรผู้จัดกำรอำวุโสและได้รับกำร
แต่งตั้งยังเจ้ำหน้ำที่หัวหน้ำของกลุ่มวิศวกรรมยำนพำหนะในเดือนมิถุนำยน
2003 ในเดือนมิถุนำยนปี 2004 เขำได้กลำยเป็นหัวหน้ำเจ้ำหน้ำที่ของกำร
ควบคุมกำรผลิตและโลจิสติกกลุ่มและในเดือนมิถุนำยนปี 2005 เขำก็กลำยเป็น
รองประธำนบริหำรและสมำชิกของคณะ นำย Uchiyamada ได้รับกำรแต่งตั้ง
รองประธำนคณะกรรมกำรในเดือนมิถุนำยน 2012
16. 1.ควำมต้องกำรประสบควำมสำเร็จในชีวิต นำย
Uchiyamada Takachi เป็นผู้ที่ต้องกำรกำรประสบควำมสำเร็จในชีวิต เรำจะ
เห็นได้จำกที่เขำเป็นคนที่ชอบทำสิ่งต่ำง ๆ อย่ำงเต็มที่ ชอบกำรแข่งขัน ควำมท้ำ
ทำย มีควำมสำมำรถในกำรวำงแผนและมีควำมรับผิดชอบสูง จำกลักษณะนิสัย
เหล่ำนี้จึงทำให้เขำมีแรงจูงใจเพื่อผลกำรสัมฤทธิ์ที่ตนได้ตั้งเป้ำหมำยไว้
2.ควำมต้องกำรควำมผูกพัน กำรมีควำมสัมพันธ์และควำมผูกพันที่ดี
ต่อเพื่อนร่วมงำน ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ Uchiyamada Takachi มีซึ่งลักษณะเหล่ำนี้ก็
คือแนวทำงที่เขำจะต้องใช้จูงใจบุคคลอื่น ๆ ให้คล้อยตำมควำมคิดและดำเนินกำร
ต่ำง ๆ ในแนวทำงที่เขำต้องกำรจะให้ดำเนินจำกกำรหมอบหมำยงำนที่เขำวำง
แผนกำรไว้
3.ควำมต้องกำรอำนำจ จำกกำรที่เขำได้รับกำรยอมรับจำกผู้อื่น และได้ก้ำว
เข้ำสู่เส้นทำงของผู้บริหำรแล้วนั้นซึ่งก็คือเขำได้อำนำจในกำรบริหำรจัดกำรต่ำง ๆ
แต่กำรได้อำนำจมำนั้นจะต้องมีควำมเป็นผู้นำที่พร้อมจะกล้ำตัดสินในกำร
ดำเนินกำรต่ำง ๆ เรำได้วำงแผนงำนเอำไว้ด้วย
19. นอกจำก กำรบริหำรองค์กรให้ดีแล้วนั้น ยังต้องมีกำรดูแลลูกน้อง
พนักงำนในองค์กรของเรำให้ดียิ่งขึ้นด้วยโดยจะใช้หลักกำรต่ำง ๆที่มีจำเป็นต่อ
ควำมสุขในกำรทำงำนของพนักงำน เพื่อให้พนักงำนได้มีกำลังใจในกำร
สร้ำงสรรค์ผลงำนให้ออกมำได้ดียิ่งขึ้นโดยจูงใจให้พนักงำนนั้น มีควำมต้องกำรที่
จะแสวงหำสิ่งที่ดีกว่ำเช่นตัวเรำ
ข้อเสนอแนะ
ผู้บริหำรที่ดีนั้นจะต้องมีควำมทะเยอทะยำนสูง ชอบในกำรพัฒนำ
เพื่อที่จะได้เริ่มกำรพัฒนำในบริษัทหรือองค์กรของตนเองได้รับกำรพัฒนำเพื่อให้
เจอแต่สิ่งที่ดี ๆยิ่งขึ้นไป โดยเริ่มจำกกำรบริหำรตนเองก่อน แล้วจึงค่อยพัฒนำ
ต่อไปยังกลุ่ม พนักงำน และคนภำยในองค์กร โดยกำรแสดงเป้ำหมำยเละ
เจตนำรมณ์ของบริษัทหรือองค์กรให้ชัดเจน เพื่อจะให้เป็นแนวทำงแก่พนักงำน
ได้นำไปปรับใช้ปฏิบัติ เพื่อให้เกิดควำมน่ำเชื่อถือต่อลูกค้ำที่จะติดต่อทำกำรค้ำ
กับบริษัทของพวกเรำ ซึ่งก็สอดคล้องอยู่กับหลักควำมต้องกำร ที่ต้องกำรทั้ง
ควำมมั่นคงในด้ำนกำรทำธุรกิจ ต้องกำรควำมสำเร็จในกำรประกอบกิจกำรจน
เจริญรุ่งเรือง แต่ก็ไม่ลืมเรื่องของพนักงำนภำยในที่จะต้องดูแลสวัสดิกำรต่ำง ๆ
ของตัวพนักงำนเอง
21. รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม
54410204 นำงสำว ธิดำ หนูแดง
54410273 นำงสำว ดำรุณี ดีระดำ
54410282 นำงสำว สรัญญำ เจริญผล
54410424 นำงสำว กรรวี ระบกเวีย
54410435 นำย จตุรงค์ สิริวชิรภำพ
54410514 นำย สุภรำช พวงธนสำร
54410641 นำงสำว วลัยลักษณ์ รุประมำณ
นิสิตสำขำวิชำ กำรบริหำรทั่วไปชั้นปีที่ 2 คณะวิทยำศำสตร์และ
สังคมศำสตร์ มหำวิทยำลัยบูรพำ วิทยำเขตสำรสนเทศสระแก้ว