More Related Content
PDF
PDF
PDF
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล PDF
PDF
PDF
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล PPT
PDF
What's hot
PDF
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล PPT
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล PPTX
PDF
ลักษณะของข้อมูลที่ดีและการจัดเก็บข้อมูล PPTX
PPTX
PPTX
PPTX
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล PPT
PDF
ระบบสารสนเทศและข้อมูลข่าวสาร MIS PDF
PDF
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฐานข้อมูล PPT
PDF
PPT
ธันยพร นกศิริ ม409 เลขที่2 PDF
PDF
การจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์2 PDF
PDF
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล Viewers also liked
PDF
PDF
PPT
Blood donation motivation DOCX
Internal quality control in blood bank testing PDF
Technology Abstraction Eases Silicon Intellectual Property Portability PDF
PDF
Yogi goddess ii 2013 linkedin PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก PPTX
Dr. David Guillespie - Identificación de dianas de daño en el DNA en la terap... PPTX
PPTX
Esercizi per addominali - la verità PPSX
Similar to การจัดการฐานข้อมูล
PDF
PDF
PDF
บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล PDF
PDF
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล PDF
PPT
PDF
บทที่ 3 ฐานข้อมูลและการค้นคืน DOCX
Bacic MySql & script Sql for jhcis PDF
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐานข้อมูล PDF
PDF
PDF
PPT
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล PPT
DOC
PPT
PPT
PDF
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล PPT
More from Yongyut Nintakan
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก PDF
PDF
ซีอีโอยาฮูเตรียมออกระเบียบบังคับให้พนักงานต้องเข้ามาทำงานในสำนักงาน ห้ามรีโมท PDF
PDF
ซีอีโอยาฮูเตรียมออกระเบียบบังคับให้พนักงานต้องเข้ามาทำงานในสำนักงาน ห้ามรีโมท PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก PDF
DOCX
DOCX
DOCX
DOCX
การจัดการฐานข้อมูล
- 1.
- 2.
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล(DatabaseManagement) คือ การบริ หาร
แหล่งข้อมูลที่ถกเก็บรวบรวมไว้ที่ศนย์กลาง เพื่อตอบสนองต่อการใช้ของ
ู ู
โปรแกรมประยุกต์อย่างมีประสิ ทธิ ภาพและลดการซ้ าซ้อนของข้อมูล รวมทั้ง
ความขัดแย้งของข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในองค์การ
- 3.
โครงสร้างฐานข้อมูล
1. บิต (Bit)
บิต หมายถึง หน่วยเก็บข้อมูลที่เล็กที่สุดในเครื่ องคอมพิวเตอร์ ที่เป็ นสัญญาณดิจิตล ซึ่ ง
ั
ประกอบด้วยสัญญาณไฟฟ้ า 2 สถานะ ได้แก่ 0 กับ 1 หรื อ เปิ ดกับปิ ด หรื อ จริ งกับเท็จ
2.ไบต์ (Byte)
ไบต์ หมายถึง การนาค่าบิตจานวน 8 บิต มาเรี ยงต่อกันตามมาตรฐานรหัส ASCII จะแทนค่าตัว
อักขระได้ 1ตัวอักษร เช่น01000001แทนตัวอักษร“A”เป็ นต้น แต่ตามมาตรฐาน Unicode จะใช้
จานวน 16 บิต
- 4.
3. เขตข้ อมูล (Field)
ั
เขตข้อมูล หมายถึง อักขระที่สมพันธ์กนจานวนตั้งแต่ 1 อักขระเป็ นต้นไป มารวมกันแล้วเกิด
ั
ความหมาย แสดงลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง จากตารางที่ ข้อมูลในแถวที่ 1 มีค่า A- ประกอบด้วยตัว
อักขระ 2 ตัวคือ A และ – มีความหมายว่า หมู่โลหิ ต A ชนิด Rh Negative เป็ นต้น เขตข้อมูลบางครั้ง
เรี ยกอีกอย่างหนึ่งว่า แอตทริ บิวต์
ตารางที่ แสดงแฟ้ มข้อมูลรายชื่อผูบริ จาคโลหิต
้
- 5.
4. ระเบียน(Record)
ระเบียนหมายถึง กลุ่มของเขตข้อมูล ตั้งแต่ 1 เขตข้อมูลขึ้นไป มีความสัมพันธ์
ประกอบขึ้นมาจากข้อมูลพื้นฐานต่างประเภทกันรวมขึ้นมาเป็ น 1 ระเบียน ระเบียน
่
ประกอบด้วยเขตข้อมูล ต่างประเภทกันอยูรวมกันเป็ นชุด
5. แฟ้ มข้อมูล (File)
แฟ้ มข้อมูล หมายถึง ตารางสาหรับการจัดเก็บข้อมูลหรื อชุดของข้อมูลที่มีความ
เกี่ยวข้องกัน จัดอยูรวมกันอย่างมีระเบียบ ในรู ปแบบแถวและสดมภ์
่
- 6.
- 7.
การออกแบบข้อมูล
การจาลองข้อมูลในระบบการจัดการฐานข้อมูล มีวตถุประสงค์เพื่อเป็ นเครื่ องมือ
ั
สื่ อสารระหว่างผูใช้ขอมูลสนเทศกับผูออกแบบฐานข้อมูล และผูออกแบบฐานข้อมูล
้ ้ ้ ้
กับโปรแกรมเมอร์ ให้เข้าใจตรงกัน การจาลองข้อมูลใช้เทคนิคการใช้รูปภาพ
ไดอะแกรมแทน ความหมาย การจาลองข้อมูลมี 3 ชนิด
- 8.
1. ฐานข้ อมูลเชิงสัมพันธ์(Relational Database)
เป็ นการเก็บข้อมูลในรู ปแบบที่เป็ นตาราง (Table) หรื อเรี ยกว่า รี เลชัน (Relation) มีลกษณะเป็ น 2
่ ั
มิติ คือเป็ นแถว (row) และเป็ นคอลัมน์ (column) การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตาราง จะเชื่อมโยงโดย
ใช้แอททริ บิวต์ (attribute) หรื อคอลัมน์ที่เหมือนกันทั้งสองตารางเป็ นตัวเชื่อมโยงข้อมูล ฐานข้อมูล
เชิงสัมพันธ์น้ ีจะเป็ นรู ปแบบของฐานข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบน ดังตัวอย่าง
ั
รหัสพนักงาน ชื่อพนักงาน ทีอยู่
่ เงินเดือ รหัส
น แผนก
12501535 นายสมพงศ์ กรุ งเทพ 12000 VO
12534568 นายมนตรี นครปฐม 12500 VN
12503452 นายเอก กรุ งเทพ 13500 VO
12356892 นายบรรทัด นนทบุรี 11500 VD
15689730 นายราชัน สมุทรปราการ 12000 VA
- 9.
2. ฐานข้ อมูลแบบเครือข่าย (Network Database)
ฐานข้อมูลแบบเครื อข่ายจะเป็ นการรวมระเบียนต่าง ๆ และความสัมพันธ์ระหว่างระเบียนแต่จะ
ต่างกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คือ ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะแฝงความสัมพันธ์เอาไว้ โดยระเบียนที่
มีความสัมพันธ์กนจะต้องมีค่าของข้อมูลในแอททริ บิวต์ใดแอททริ บิวต์หนึ่งเหมือนกัน แต่ฐานข้อมูล
ั
แบบเครื อข่าย จะแสดงความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น
- 10.
3. ฐานข้ อมูลแบบลาดับชั้น(Hierarchical Database)
ฐานข้อมูลแบบลาดับชั้น เป็ นโครงสร้างที่จดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบพ่อ-ลูก
ั
(Parent-Child Relationship Type : PCR Type) หรื อเป็ นโครงสร้างรู ปแบบต้นไม้ (Tree) ข้อมูลที่จดเก็บ
ั
ในที่น้ ี คือ ระเบียน (Record) ซึ่งประกอบด้วยค่าของเขตข้อมูล (Field) ของเอนทิต้ ีหนึ่ง ๆ
- 11.
ประเภทของระบบฐานข้อมูล
แบ่งออกเป็ น 4ประเภทใหญ่ ตามชนิด ต่าง ๆ ดังนี้
1.แบ่ งตามจานวนของผู้ใช้
การแบ่งโดยใช้จานวนผูใช้เป็ นหลัก สามารถแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทได้แก่
้
1.1 ผูใช้คนเดียวเป็ นระบบฐานข้อมูลที่ใช้ภายในองค์กรขนาดเล็ก เช่น ระบบ Point of sale
้
ของร้านสะดวกซื้อ หรื อระบบบัญชีของร้านเล็ก ๆ ทัวไป เป็ นต้น มีเครื่ องคอมพิวเตอร์เพียงเครื่ อง
่
้ ั ้
เดียวและผูใช้เพียงคนเดียว ไม่มีการแบ่งฐานข้อมูลร่ วมกันใช้กบผูอื่น ถ้าผูใช้คนอื่นต้องการใช้ระบบ
้
นี้จะต้องรอให้ผใช้คนแรกเลิกใช้ก่อนจึงจะใช้ได้
ู้
- 12.
1.2 ผูใช้หลายคน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย ๆ ได้แก่ ผูใช้เป็ นกลุ่ม หรื อ Workgroup database
้ ้
และประเภทฐานข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่หรื อ Enterprise database
ผูใช้เป็ นกลุ่ม เป็ นฐานข้อมูลที่มีผใช้หลายกลุ่มหรื อหลายแผนก และแต่ละกลุ่มอาจมีผใช้หลายคน
้ ู้ ู้
่
มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันหรื ออาจจะใช้ฐานข้อมูลเดียวกันก็ได้ แต่จะอยูในองค์กรเดียวกันเท่านั้น
ั
องค์การขนาดใหญ่ เป็ นระบบฐานข้อมูลที่ใช้กบองค์กรขนาดใหญ่ที่มีสาขาหลายสาขา ทั้งใน
ประเทศหรื อมีสาขาในต่างประเทศ จะใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ มีระบบสารอง การรักษาความ
ปลอดภัยเป็ นอย่างดี
- 13.
2. แบ่ งโดยใช้ขอบเขตของงาน
การแบ่งโดยใช้ขอบเขตของงาน แบ่งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประเภทผูใช้คนเดียว ประเภท
้
ผูใช้เป็ นกลุ่มและประเภทองค์การขนาดใหญ่ ดังได้กล่าวรายละเอียดในตอนต้นแล้ว
้
3. แบ่ งตามสถานทีต้ัง
่
การแบ่งตามสถานที่ต้ง แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประเภท ศูนย์กลาง และประเภท
ั
กระจาย ทั้งสองประเภทมีรายละเอียดดังนี้
3.1 ประเภทศูนย์กลาง เป็ นระบบฐานข้อมูลที่นาเอามาเก็บไว้ในตาแหน่งศูนย์กลาง ผูใช้ทุกแผนก
้
ทุกคนจะต้องมาใช้ขอมูลร่ วมกัน ตามสิ ทธิ์ของผูใช้แต่ละกลุ่มหรื อแต่ละคน
้ ้
- 14.
3.2 ประเภทกระจาย เป็นระบบฐานข้อมูลที่เก็บฐานข้อมูลไว้ ณ ตาแหน่งใด ๆ ของแผนก และแต่ละ
แผนกใช้ฐานข้อมูลร่ วมกันโดยผูมีสิทธิ์ใช้ตามสิ ทธิ์ที่ได้กาหนดจากผูมีอานาจ การเข้าถึงข้อมูล เช่น
้ ้
ฐานข้อมูลของฝ่ ายบุคคลเก็บไว้ที่แผนกทรัพยากรบุคคล ยอมให้ฝ่ายบัญชีนารายชื่อของพนักงานไป
ใช้ร่วมกับฐานข้อมูลการจ่ายโบนัส และในขณะเดียวกันฝ่ ายบัญชีมีฐานข้อมูลเก็บเงินเดือน สวัสดิการ
และรายจ่ายต่าง ๆ ของพนักงานเพื่อให้แผนกอื่นๆ เข้ามาใช้ได้เช่นกัน
4.แบ่ งตามการใช้ งาน
การแบ่งตามการใช้งานแบ่งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ฐานข้อมูลสาหรับงานประจาวัน
ฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสิ นใจ และเพื่อเป็ นคลังข้อมูล
4.1 ฐานข้อมูลสาหรับงานประจาวัน เป็ นระบบฐานข้อมูลที่ใช้ในงานประจาวันของพนักงาน
ระดับปฏิบติการป้ อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ เช่น งานสิ นค้าคงคลัง งานระบบซื้อมาขายไป สาหรับร้าน
ั
สะดวกซื้อ หรื อระบบงานขายของร้านค้าทัวไป เป็ นต้น ฐานข้อมูลประเภทนี้มีการนาข้อมูลเข้า
่
เปลี่ยนแปลงและลบออกตลอดทั้งวัน จึงทาให้ขอมูลเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
้
- 15.
4.2 ฐานข้อมูลเพื่อการตัดสิ นใจระบบฐานข้อมูลประเภทนี้มีไว้เพื่อใช้ในการสนับสนุนการ
ตัดสิ นใจของผูใช้ระดับผูบริ หารระดับกลางขึ้นไป ข้อมูลที่นาเข้ามาในระบบได้จากการป้ อน
้ ้
ข้อมูลงานประจาวันของฐานข้อมูลสาหรับงานประจาวัน ส่ วนใหญ่ฐานข้อมูลประเภทนี้
นาไปใช้ในงานวางแผนกลยุทธ์ในองค์กร
4.3 ฐานข้อมูลเพื่อเป็ นคลังข้อมูล ฐานข้อมูลประเภทนี้เกิดจากการนาข้อมูลเข้ามาในระบบ
ทุก ๆ วันจึงทาให้เกิดมีขอมูลขนาดใหญ่ จึงนาเอาข้อมูลที่มีประโยชน์มาสร้างฟั งก์ชนหรื อ
้ ั
สมการต่างเพื่อประมวลผลหาผลลัพธ์ต่าง ๆ ให้เป็ นประโยชน์กบองค์กร
ั
- 16.
หน้าที่ของระบบการจัดการฐานข้อมูล
1.หน้ าทีจัดการพจนานุกรมข้ อมูล
่
ในการออกแบบฐานข้อมูลโดยปกติ ผูออกแบบได้เขียนพจนานุกรมข้อมูลในรู ปของเอกสารให้กบ
้ ั
โปรแกรมเมอร์ โปรแกรมเมอร์จะใช้ซอฟต์แวร์ระบบการจัดการฐานข้อมูลสร้างพจนานุกรมข้อมูล
ต่อไป และสามารถกาหนดความสัมพันธ์ระหว่างตาราง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อมูล
จาเป็ นต้องเปลี่ยนที่พจนานุกรมข้อมูลด้วย โปรแกรมเมอร์สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อมูลได้
ทันที ต่อจากนั้นจึงให้พจนานุกรมข้อมูลพิมพ์รายงาน พจนานุกรมข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วเป็ น
เอกสารได้เลยทันที่ โดยไม่ตองแก้ไขที่เอกสาร
้
- 17.
2.หน้ าทีจัดการแหล่ งจัดเก็บข้อมูล
่
ระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ทนสมัยจะไม่ทาหน้าที่เพียงจัดการแหล่งจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่
ั
ยังเพิมหน้าที่ที่เกี่ยวกับการสร้างฟอร์มป้ อนข้อมูลเข้าหรื อกาหนดแบบจอภาพ แบบรายงาน
่
หรื อแม้แต่การตรวจสอบข้อมูลนาเข้าว่าถูกต้องหรื อไม่ และจัดการเรื่ องอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
3.จัดการด้ านความปลอดภัยของข้ อมูล
ระบบจัดการฐานข้อมูลทาหน้าที่รักษาความมันคง ความปลอดภัยของข้อมูล การไม่ยนยอม
่ ิ
เข้าถึงข้อมูลจากผูใช้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้ฐานข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิงฐานข้อมูลประเภทผูใช้
้ ่ ้
หลายคน นอกจากนี้ยงสามารถกาหนดสิ ทธิ์ให้ผใช้แต่ละคนใช้คาสัง เพิ่ม หรื อลบ ปรับปรุ ง
ั ู้ ่
ข้อมูลได้เป็ นรายคนหรื อรายกลุ่ม
- 18.
4.ควบคุมการเข้ าถึงข้ อมูลของผู้ใช้
การควบคุมการเข้าถึงข้อมูล เป็ นการทาหน้าที่ให้ผใช้เข้าใช้ได้หลาย ๆ คนในเวลาเดียวกันโดยไม่ทา
ู้
ให้เกิดขัดข้องของข้อมูล ซึ่งจะเน้นกฎความสมบูรณ์ของข้อมูลและการใช้ขอมูลพร้อมกัน
้
5.การเปลียนรู ปแบบและการแสดงผลข้ อมูล
่
การเปลี่ยนรู ปแบบและการแสดงผลข้อมูล เป็ นหน้าที่สาหรับเปลี่ยนข้อมูลที่ถูกป้ อนเข้าไปเป็ น
่ ่
โครงสร้างข้อมูลจะจัดเก็บ ซึ่งอยูในมุมมองทางกายภาพ หรื ออาจจะกล่าวได้วา ระบบจัดการ
ฐานข้อมูลทาข้อมูลให้เป็ นอิสระจากโปรแกรมประยุกต์ได้
- 19.
ตัวอย่างโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล
โปรแกรม DBase
เป็ นโปรแกรมจัดการฐานข้ อมูลที่ทางานบน DOS เป็ นโปรแกรมที่ใช้ งานง่าย มี
เครื่ องมืออานวยความสะดวกต่อการเขียนโปรแกรม เช่น Report, Screen และ Label เป็ นต้ น
และข้ อมูลรายงานที่อยู่ในไฟล์บน Dbase จะสามารถประมวลผลในโปรแกรม Word
Processor ได้ รวมถึง Excel ก็สามารถอ่านไฟล์ .DBF ที่สนร้ างขึ ้นโดยโปรแกรม Dbase ได้
ด้ วย
- 20.
โปรแกรม Microsoft Access
เป็ นโปรแกรมที่ใช้ จดการกับฐานข้ อมูล สามารถจัดการกับข้ อมูลปริ มาณมากๆ ได้
ั
อย่างง่ายดาย ทังในแง่การจัดเก็บข้ อมูล การค้ นหาข้ อมูล การจัดทารายงานข้ อมูล
้
การสารองข้ อมูล สามารถสร้ างแบบฟอร์ มที่ต้องการเรี ยกดูในฐานข้ อมูล หลังจากบันทึก
ข้ อมูลในฐานข้ อมูลเรี ยบร้ อยแล้ ว สามารถค้ นหาหรื อเรี ยกดูข้อมูลใดก็ได้ นอกจากนี ้
ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้ อมูล โดยการกาหนดรหัสผ่านเพื่อปองกันความ ้
ปลอดภัยของข้ อมูลในระบบได้ ด้วย
- 21.
โปรแกรม Microsoft SQLServer
เป็ นโปรแกรมจัดการฐานข้ อมูลเชิงสัมพันธ์ ใช้ ช่วยงานผู้บริ หารงานระบบ
ฐานข้ อมูลให้ ทางานได้ ง่ายขึ ้น และรองรับการทางานกับระบบงานขนาดใหญ่ได้ อย่างมี
ประสิทธิภาพ สามารถจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่มความยืดหยุ่นต่อการนาไปใช้ จึง
ี่
เป็ นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่วาจะเป็ นองค์กรธุรกิจขนาดกลาง หรื อขนาดใหญ่ทว
่ ั่
โลก ซึงโปรแกรม Microsoft SQL Server นัน มีหลายเวอร์ ชนตามลักษณะการใช้ งาน
่ ้ ั่
- 22.
โปรแกรม FoxPro
เป็ นโปรแกรมฐานข้ อมูลที่มีผ้ ใช้ งานมากที่สด เนื่องจากใช้ ง่ายทังวิธีการเรี ยกจากเมนูของ
ู ุ ้
FoxPro และประยุกต์โปรแกรมขึ ้นใช้ งาน โปรแกรมที่เขียนด้ วย FoxPro จะสามารถใช้ กลับ
dBase คาสังและฟั งก์ชนต่าง ๆ ใน dBase จะสามารถใช้ งานบน FoxPro ได้ นอกจากนี ้ใน
่ ั่
FoxPro ยังมีเครื่ องมือช่วยในการเขียนโปรแกรม เช่น การสร้ างรายงาน
- 23.
โปรแกรม Oracle
Oracle คือ โปรแกรมจัดการฐานข้ อมูล ผลิตโดยบริ ษัทออราเคิล ซึงเป็ นโปรแกรม
่
จัดการฐานข้ อมูลเชิงสัมพันธ์ หรื อ DBMS (Relational Database Management
System) ตัวโปรแกรมนี ้จะทาหน้ าที่เป็ นตัวกลางคอยติดต่อ ประสาน ระหว่างผู้ใช้ และ
ฐานข้ อมูล ทาให้ ผ้ ใช้ งานสามารถใช้ งานฐานข้ อมูลได้ สะดวกขึ ้น เช่นการค้ นหาข้ อมูลต่างๆ
ู
ภายในฐานข้ อมูลที่ง่ายและสะดวก โดยผู้ใช้ ไม่จาเป็ นต้ องทราบถึงโครงสร้ างภายในของ
ฐานข้ อมูลก็สามารถเข้ าใช้ ฐานข้ อมูลนันได้
้
- 24.
- 25.
จัดทาโดย
นาย ยงยุทธนิลทกาญจน์ เลขที่ 9
นางสาว ปฐมพร จิรวุฒิวรนาถ เลขที่15
นางสาว พรทิพย์ ทิมทอง เลขที่ 16
นางสาว รินพร เสดวงชัย เลขที่ 17
นาย ศรัณย์ ศิรินิคม เลขที่ 27
นาย พีรพล รัตนผล เลขที่ 35
ชันมัธยมศึกษาปี ที่ 5/3
้