More Related Content
Similar to ป้อมแนนที่รัก (20)
ป้อมแนนที่รัก
- 1. คำำสอย เป็นคำำกล่ำวของหมอลำำกลอน หรือผู้ฟังหมอลำำในสมัย
ก่อน ลักษณะคำำสอยมีสัมผัสคล้องจองกันในแต่ละบทแตะละ
สำำนวน ถือเป็นโคลงกลอนชำวบ้ำนเพรำะมีขนำดสั้น กล่ำวตรงไป
ตรงมำ มีควำมหมำยชัดเจนเข้ำใจได้ทันที อำจถือเป็นวรรณกรรม
อำรมณ์ขัน ส่วนใหญ่กล่ำวถึงผู้หญิง ผู้ชำย สภำพเป็นไปของ
สภำพบ้ำนเมือง ผู้คน สิ่งแวดล้อมในแต่ละยุค โดยมุ่งหมำยใช้คำำ
สอยเพิ่มรสชำติกำรฟังหมอลำำกลอน หรือกำรอื่น ๆ ให้สนุกสนำน
เป็นสำำคัญ ผู้ทสะสมและสำมำรถจำำคำำสอยได้มำก ช่ำงพูด และ
ี่
สร้ำงอำรมณ์ขันให้กับผู้ฟังได้เก่งนั้น เรียกว่ำ หมอสอย
ในสมัยก่อน คำำสอย มักนำำไปใช้กล่ำวเวลำที่มีหมอลำำกลอนของ
ภำคอีสำน มำเล่นเป็นมหรสพในงำนบุญหรืองำนประเพณีต่ำง ๆ
ตำมจำรีตประเพณี เทศกำลเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันสังคม
เปลี่ยนแปลงไป คำำสอย ได้ประยุกต์ไปใช้ในห้องอำหำรตำม
โรงแรมต่ำง ๆ หรือวงดนตรีลูกทุ่งของคนอีสำน ที่มีนักร้องเป็นคน
อีสำน หรือได้รับกำรถ่ำยทอดวรรณกรรมคำำสอยจำกคนอีสำนอีก
ทอดหนึ่งนั่นเอง
ตัวอย่ำงคำำสอย
สอย…สอย เฒ่ำสิตำย ตำยซำ้ำ นี่…กะสอย
สอย….สอย ไข่เอยไข่ ไข่นกเขำกะเอิ้นไข่นก ไข่เป็ดเขำกะเอิ้น
ไข่เป็ด ไข่ไก่เขำกะเอิ้นไข่ไก่บัดไข่คน มำจังไร สังมำเอิ้นไข่หำำ
นี่ ....กะสอย
ถอดควำมได้ดังนี้ ไข่เอ๋ยไข่ ไข่นกก็เรียกว่ำไข่นก ไข่เป็ดก็เรียก
ว่ำไข่เป็ด ไข่ไก่ก็เรียกว่ำไข่ไก่ แต่ว่ำไข่คนกลับจัญไร ใช้ต่ำงไป
ว่ำ ไข่หำำ
สอย… สอย นกแตดแต้ บินข้ำมกงเกวียน ผู้สำวนักเรียน ลำครู
ไปเล่นบ่ำว นี่ …กะสอย
คำำสอยบทนี้สะท้อน สภำพนักเรียนชั้นประถม ในชนบทที่อำยุ
มำกและตัวโต ถึงขั้นมีคนรักได้แล้ว ลำครูไปพบผู้บ่ำวหรือคนรัก
นอกจำกนี้ คำำสอยที่แสดงถึงควำมสำมำรถในกำรเลือกคำำ กำรใช้
ภำษำและแนวคิด ควำมเป็นคนช่ำงสังเกต แสดงออกได้ดีจนถึง
ขั้นมีวรรณศิลป์ทีเดียว แม้หลำยท่ำนอำจเห็นว่ำเป็นเรื่องลำมก ไร้
สำระก็ตำม ลองพิจำรณำไตร่ตรองดูคำำพูดสอยบทต่อไป คือ
สอย...…สอย
นมบ่ให้ว่ำนม ให้ว่ำหลักจับสี้
หีบ่ให้ว่ำหี ให้ว่ำถำ้ำเสี้ยงโคย
โคยบ่ให้ว่ำโคย ให้ว่ำไม้ค้อนหำำ
หำำบ่ให้ว่ำหำำ ให้ว่ำลูกตุ้มดำก
- 2. ดำกบ่ให้ว่ำดำก ให้ว่ำเฝียนบีบข้ำวปุ้นหมำ
หมำบ่ให้ว่ำหมำ ให้ว่ำเทศบำลเมี้ยนขี้
นี่ ….......สอย
คำำสอยบทข้ำงต้น แม้ไม่ต้องอธิบำยเพิ่มเติมอีก ก็คงเป็นที่เข้ำใจได้
ไม่ยำกนัก ถึงกำรเลือกคำำ เลือกชื่ออวัยวะบำงชื่อแล้วโยงใยไปถึง
สัตว์ที่ใกล้ชิดกับคน จนถึงผู้มีหน้ำที่ดูแลควำมสะอำดของท้องถิ่น
อย่ำงไรก็ตำมทัศนะของคนทั่วไป ยังมองวรรณกรรมคำำ
สอยแตกต่ำงกันไป แล้วแต่อำชีพ เพศ วัย และประสบกำรณ์ของ
แต่ละคน ซึ่งสำมำรถประมวลทัศนะของคนแต่ละกลุ่มต่อคำำสอย
ได้จำกบทสรุปที่ปรำกฏในงำนปึ้ม (เล่ม) คำำสอยของ ท้ำวคำำป้อม
เชื้อจำำปำศักดิ์ (๒๕๓๓: ปกหลัง) ดังนี้
คำำสอยเป็นของมักผู้เฒ่ำ ของเก่ำหมอลำำ
ของขะลำำเจ้ำหัว ของนัวผู้บ่ำว
ของผู้สำวอยำกอำย ของฮ้ำยผู้ฮั่งมี
ของดีไทบ้ำน นี่ … กะสอย
6 1041 สำำนวนเมืองเลย
สำำนวน หมำยถึง ภำษิต คำำพูดที่กระชับ หรือถ้อยคำำที่มิได้มีควำม
หมำยตรงไปตรงมำตำมตัวอักษร หรือแปลตำมรำกศัพท์ แต่เป็น
ถ้อยคำำที่มีควำมหมำยเป็นอย่ำงอื่น คือ เป็นเชิงชวนให้คิดมีทั้งใน
เชิงเปรียบเทียบ เชิงเปรย เชิงกระทบ เชิงประชดประชัน ซึ่งเกิด
จำกควำมรู้สึกนึกคิดของมนุษย์เกี่ยวกับธรรมชำติ กำรกระทำำ
เครื่องแวดล้อมและอื่น ๆ กำรใช้สำำนวนผู้ใช้มักนำำมำใช้พูดให้เข้ำ
กับบุคคล กำลเทศะ สถำนกำรณ์ หรือเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ ให้เหมำะ
สำำนวน จึงเปลี่ยนแปลงไปตำมยุคสมัย แตกต่ำงกันไปในแต่ละท้อง
ถิ่น เช่น สำำนวนของคนอีสำน
“หนังหัวเกียน” เป็นสำำนวนภำษำมีที่มำจำกชีวิตคนอีสำน ที่ใช้หนัง
วัว หรือหนังควำยทำำเป็นเส้นเชือกมัดหรือผูกส่วนหัวของเกวียน
ทำำให้แน่นเหนียวมั่นคงมำก สำำนวนนี้นำำมำเปรียบเทียบกับคนที่ขี้
เหนียว หวงของ ไม่ยอมเสียอะไรง่ำย ๆ เช่น คนที่ชอบกินของคน
อื่นซื้อมำ แต่ตนเองไม่ค่อยจ่ำยหรือพยำยำมเลี่ยงกำรจ่ำย
สำมำรถเรียกคนนั้นว่ำ “หนังหัวเกียน”
“ชิ้นสองต่อน” เป็นสำำนวนที่คนอีสำน นำำคำำที่เคยใช้ในชีวิตประจำำ
วัน เคยเห็นเนื้อสองชิ้น ก็มำเปรียบกับคำำว่ำ “เนื้อคู่” ในภำษำไทย
กลำง ซึ่งชื่อเพลงเนื้อคู่ของวงดนตรีสุนทรำภรณ์ ก็สะท้อนลักษณะ
สำำนวนคำำนี้ได้เป็นอย่ำงดี และคำำนี้ปรำกฏอีกครั้งในเนื้อเพลง “สำ
วเวียง หนุ่มไทย” ของจินตรำ พูลลำภ ในปี พ.ศ.๒๕๓๒ ที่ว่ำ…
เฮำเป็นชิ้นสองต่อน… สำำนวนดังกล่ำวนี้ น่ำจะมีควำมหมำยว่ำ
- 3. เนื้อคู่ คู่ครอง เป็นต้น
สำำนวนของจังหวัดเลยที่รวบรวมไว้ แบ่งเป็นประเภทต่ำง ๆ ตำมสิ่ง
ที่นำำมำเปรียบเทียบหรืออ้ำงอิงถึงได้ ดังนี้
ประเภทสัตว์ นิยมเอำชื่อสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ที่พบเห็นบ่อย ๆ มำ
เปรียบเทียบเป็นสำำนวนที่ใช้สื่อสำรกันในท้องถิ่น มุ่งกำรอบรมสั่ง
สอนให้คติ แนวทำงกำรประพฤติปฏิบัติตนในสังคมและรู้จักนำำ
สำำนวนมำขบคิดให้เกิดประโยชน์ เช่น
อ้ำงถึง สำำนวน ควำมหมำย
กั๊บแก้ ลำยปำนกั๊บแก้ ลวดลำยมำก, เล่ห์เหลี่ยมจัด
อึ่ง ปำนอึ่งยืน เตี้ยม่อต้อ,อ้วนเตี้ย
เกีย ไวปำนเกีย ทำำสิ่งใดรวดเร็ว,หลีบหลบเก่ง
ควำย ไถนำตำงควำย ลำำบำก ,เหน็ดเหนื่อย
หมำ หมำบ่อเห่ำมันจังกัด ทำำจริง, ไม่พูดมำก, เอำจริง
หมำ ตดล่อหมำ หลอกลวง, กลลวง
ไก่ แล่นเป็นไก่ตำแตก ดิ้นรน,เดือดร้อน,หมดทำงสู้
เอี่ยน เอื่ยนลงตม เปิดช่องให้ศัตรู,ให้โอกำส
หอย หอยลอยนำำครำด ไม่เป็นตัวของตัวเอง
เฮือด สมนำ้ำหน้ำเฮือด สำสมใจ,สะใจ
ฯลฯ
ประเภทพืช นิยมนำำชื่อของพืชผักสวนครัว ที่เคยปลูก เคยกิน เคย
เห็น มำจัดเป็นสำำนวน แสดงถึงควำมฉลำดที่สำมำรถศึกษำเรียนรู้
ลักษณะเด่น หรือลักษณะเฉพำะของพืชแต่ละชนิดมำสอนคนใน
สังคมได้ เช่น
อ้ำงถึง สำำนวน ควำมหมำย
ฮำกไม้ กินฮำกไม้ อดอยำก,ยำกจน
ผักกะเดำ ผักกะเดำเซำขม เป็นไปได้ยำก,ตระกูลสูง
โพ เชื้อชำติโพ สูงศักดิ์, ตระกูลสูง
พร้ำว เชื้อชำติพร้ำว ไร้ศักดิ์ศรี, ธรรมดำ
ผักอี่ตู้ ผักอี่ตู้เตี้ย ขั้นตำ่ำ,ไพร่, คนจน
บักหุ่ง ขีฮ้ำยบักหุ่งสุก ดีแต่ไม่สวย
้
แตง แตงกะจำ ทำำอะไรไม่ดี
ฯลฯ
ประเภทธรรมชำติ นิยมนำำชื่อของที่พบเห็นตำมธรรมชำติมำใช้
เปรียบเทียบเป็นสำำนวนคำำ เช่น ฟ้ำ นำ้ำ ไฟ ดิน ลม จะถูกนำำมำใช้
บ่อยในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ เสมอ นับเป็นกำรสอนธรรมชำติวิทยำ
ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ได้แก่
อ้ำงถึง สำำนวน ควำมหมำย
- 4. ฟ้ำ บ่ฮู้ฟ้ำ สับสน, ไม่รู้เรื่อง
ฟ้ำ คุงฟ้ำฟำกพรหม ที่สูงที่ไกล
ฟ้ำ-ไฟ บ่ฟังฟ้ำบ่ฟังไฟ ด่วนตัดสินใจ
ทีป ไททั่วทีป ไปอย่ำงไม่หยุดยั้ง
นำ้ำ ป่ำนนำ้ำเอ่อฝำย เต็มเกือบล้น
ทรำย ทรำยไหลแล้ง มำกมหำศำล, ร้อนแรง
ฯลฯ
ประเภทเครื่องใช้ สิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์คิดสร้ำงขึ้นมำใช้ในชีวิต
ประจำำวัน ก็สำมำรถนำำมำใช้เป็นสำำนวนเปรียบเทียบสื่อสำรให้คน
ได้เข้ำใจ ได้ชัดเจนมำกขึ้น เพรำะเครื่องใช้ที่นำำมำกล่ำวเป็นสิ่ง
ใกล้ตัว ได้พบเห็นและใช้อยู่ประจำำ ได้แก่
อ้ำงถึง สำำนวน ควำมหมำย
ถ้วย ล้ำงถ้วย รับของเหลือเดน,ทำำสิ่งใดทีหลังคนอื่น
เตำ กล้ำนอกเตำ เก่งผิดที่ , เก่งแต่พูด
ข้อง ปลำลดตื่นข้อง ตกใจกลัวในสิ่งแปลกใหม่
ไซ ไซหลังคำ มำทีหลัง, ทำำทีหลัง
ซิง ติดซิง ติดกับ, ตกที่นั่งลำำบำก
เสียม เสียมเหี้ยน ไร้ค่ำ, หมดรำคำ
ฯลฯ
นอกจำกที่ยกมำกล่ำวแล้ว ยังมีสำำนวนอีกจำำนวนมำกที่ไม่
สำมำรถจัดเข้ำกับกำรแบ่งประเภทสำำนวนทั้ง ๔ ประเภท เพรำะ
เป็นลักษณะตำมโครงสร้ำง กำรใช้คำำ กำรเล่นคำำ เพื่อเน้นควำม
หมำย บำงประกำรซึ่งมีอยู่มำก เช่น
จิกหลิก จอกหลอก มีควำมหมำยว่ำ เล็กน้อย, ไม่มีสำระ
จี๊ปิ๊ด จี๊ปี่ มีควำมหมำยว่ำ เล็กน้อย, เบ็ดเตล็ด
ซุอย่ำง ซุแนว มีควำมหมำยว่ำ ทุกอย่ำง, ทุกประกำร
หยับย้ำย ซ้ำยสวย มีควำมหมำยว่ำ ขยับ
ขยำย,ปลี่ยนใหม่
ใหญ่กล้ำหน้ำบำน มีควำมหมำยว่ำ เติบโต, เจริญขึ้น
อย่ำงไรก็ตำมเป็นที่น่ำสังเกตว่ำ สำำนวนกำรใช้คำำ เล่นคำำ เหล่ำนี้
มักเป็นคำำวิเศษณ์ ๔ พยำงค์ เสียเป็นส่วนใหญ่ เพื่อใช้ประกอบ
หรือขยำยคำำต่ำง ๆ ในประโยคก็ได้