SlideShare a Scribd company logo
การพูดเพื่อนาเสนอ
          การพูดเพื่อนาเสนอ เป็นการพูดที่มีความสาคัญมากในปัจจุบัน เราทุกคนต่างก็เป็นนักนาเสนอ เพียงแต่
ใครจะเป็นผู้นาเสนอได้ดีและมีประสิทธิภาพกว่ากัน เช่น เด็กๆ ต้องพูดนาเสนอเพื่อขอเงินผู้ปกครองไปซื้อสิ่งของที่
ตนเองต้องการ , นักขายพูดนาเสนอขายสินค้าแก่ลูกค้า , ผู้ให้บริการต้องพูดนาเสนอการให้บริการที่ประทับใจแก่
ผู้รับบริการ , นักการเมืองต้องพูดเพื่อนาเสนอนโยบายแก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตนเข้าไป
บริหารประเทศ, ผู้เผยแพร่ศาสนาต้องพูดนาเสนอเพื่อให้ผู้ฟังเชื่อถือ ศรัทธาและนาไปปฏิบัติ ฯลฯ
                ในบทความนี้ใคร่ขอแนะนาเทคนิคบางประการที่จะทาให้การพูดเพื่อนาเสนอให้เป็นที่สนใจและดึงดูด
ใจผู้ฟัง ดังนี้
                1.ต้องวิเคราะห์ผู้ฟัง การพูดนาเสนอที่ดีและประสบความสาเร็จ สิ่งที่ผู้พูดควรคานึงถึงอันดับแรก คือ
ต้องรู้จักวิเคราะห์ผู้ฟัง ต้องรู้ว่าผู้ฟังคือใคร มีเพศใด มีอายุเท่าไร สถานภาพของผู้ฟังเป็นอย่างไร ทางานอาชีพอะไร
ความรู้การศึกษาของผู้ฟังอยู่ระดับไหน ผู้ฟังนับถือ ศาสนา มีวัฒนธรรม มีประเพณีอะไร แล้วผู้ฟังมีความต้องการ
อะไร รักชอบอะไร การวิเคราะห์ผู้ฟังและการพูดในสิ่งที่ผู้ฟังมีความต้องการจะทาให้ผู้พูด สามารถพูดนาเสนอเพื่อ
เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ฟังได้ ทั้งนี้การวิเคราะห์ผู้ฟังยังรวมไปถึง เรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ของผู้ฟังในขณะฟังผู้พูด
พูดอีกด้วย
                  2.ต้องเตรียมเนื้อหาที่จะพูด ควรมีองค์ประกอบตามโครงสร้าง คือ คาขึ้นต้น เนื้อเรื่อง และสรุป
จบ อีกทั้งต้องทาให้ทั้ง 3 ส่วน มีความสอดคล้อง กลมกลืนไปในทิศทางหรือเนื้อหาเดียวกัน ดังตัวอย่าง
                    2.1.การขึ้นต้นการพูดที่ดีเราต้องรู้จักสร้างความสนใจ สร้างความตื่นเต้น สร้างความอยากที่จะฟัง
                    แก่ผู้ฟัง ซึ่งการขึ้นต้นมีเทคนิคหลายอย่าง เช่น
                    - การขึ้นต้นโดยตั้งคาถาม (ท่านผู้ฟังครับ ท่านผู้ฟังอยากมีเงินล้านภายใน 1 ปี หรือเปล่าครับ
                    การขึ้นต้นประโยคดังกล่าว จะทาให้ผู้ฟังอยากที่จะฟังเรื่องราวของผู้พูด ว่าทาอย่างไรถึงจะมีเงิน
                    ล้านภายใน 1 ปี ได้ )
                    - การขึ้นต้นด้วยการสร้างความสงสัย ( ท่านเชื่อไหมว่าเราสามารถอายุยืนนานถึง 110 ปี)
                    - การขึ้นต้นด้วยการพาดหัวข่าว( แม่แจ้งจับพระใช้ไฮไฟว์ลวง ม.3 เข้ากุฏิ)
                    - การขึ้นต้นด้วยการอ้างอิง ( มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า สมุนไพรไทยรักษาโรคได้เกือบทุกชนิด)
                    สาหรับการขึ้นต้นมีความสาคัญมากสาหรับการพูดนาเสนอ หากเราขึ้นต้นได้ดี ก็จะทาให้ผู้ฟัง
                    อยากติดตามเรื่องราวที่จะนาเสนอในส่วนของเนื้อเรื่อง แต่ถ้าหากขึ้นต้นไม่มี ไม่ดึงดูดใจผู้ฟัง ก็จะ
                    ทาให้ผู้ฟังไม่อยากฟังเรื่องราวในส่วนของเนื้อหาต่อไป
                    2.2.เนื้อเรื่อง เป็นส่วนของเนื้อหาที่ต้องสอดคล้องกับคาขึ้นต้น เป็นส่วนที่มีเนื้อหามากกว่า ส่วน
                    ขึ้นต้นและสรุปจบ อาจพูดได้ว่ามีสัดส่วนดังนี้( คาขึ้นต้น 5-10 เปอร์เซ็นต์ เนื้อเรื่อง 80-90
                    เปอร์เซ็นต์และสรุปจบ 5-10 เปอร์เซ็นต์) เช่น
                    - เรียงตามลาดับ เวลา สถานที่ เช่น เรียงลาดับอดีต ปัจจุบัน และอนาคต , เรียงจากจังหวัดเหนือ
                    สุดไปใต้สุด ฯลฯ
                    - ใช้ตัวอย่างประกอบ ตัวอย่างจะทาให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เพราะเรื่องราวบางอย่างอาจจะเป็น
                    นามธรรม แต่การยกตัวอย่างจะทาให้เห็นเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น
- เน้นจุดมุ่งหมายเดียว การพูดในส่วนเนื้อหาที่ดี ควรให้อยู่ในจุดมุ่งหมายหรือประเด็นเดียว ไม่
                  ควรพูดหลายประเด็น จนผู้ฟังฟังแล้วเกิดความสับสนว่าผู้พูดต้องการนาเสนออะไรกันแน่
                  2.3.สรุปจบ เป็นส่วนสุดท้าย ท้ายสุด การสรุปจบที่ดี ควรทาให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจ ตรึงใจ
                  เช่น
                            - ฝากแง่คิด เป็นการพูดเพื่อฝากให้ผู้ฟังนาไปคิดต่อไป
                            - เรียกร้อง เชิญชวน เป็นการสรุปจบแบบ ขอร้อง เชิญชวน ให้ผู้ฟังกระทาสิ่งที่ผู้พูด
                            ต้องการ เช่น เชิญชวนให้เลิกบุหรี่ สุรา ยาเสพติด เชิญชวนให้ผู้ฟังได้ออกกาลังกาย
         3.หาประสบการณ์ เทคนิคข้อนี้มีความสาคัญเป็นอันมาก คนที่มักไม่มีความมั่นใจในการนาเสนอของตน ก็
เนื่องจากขาดประสบการณ์ การหาประสบการณ์ในการพูดนาเสนอจะทาให้ ผู้พูดนาเสนอเกิดความมั่นใจในตนเอง
มากขึ้น อีกทั้งจะทาให้รู้ว่าตนเองควร ปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเองอย่างไรบ้าง
         4.อย่าออกตัว การพูดนาเสนอที่ดี ผู้พูดไม่ควรออกตัว การออกตัวหรือกล่าวคาขอโทษผู้ฟัง จะทาให้ผู้ฟัง
เกิดความไม่มั่นใจ และทาให้ผู้ฟังขาดความศรัทธา ความเชื่อถือ ในตัวผู้พูด เช่น พูดว่าเรื่องที่จะนาเสนอนี้กระผมไม่
ค่อยมีความรู้สักเท่าไร , การนาเสนอในครั้งนี้กระผมไม่ค่อยได้เตรียมตัวมาต้องขอโทษผู้ฟังด้วย ถ้าหากกระผมพูด
อะไรผิดพลาด ฯลฯ
         ดังนั้น การพูดเพื่อนาเสนอ จึงมีความสาคัญ สาหรับผู้ที่ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ความก้าวหน้าใน
การทางาน อีกทั้งยังทาให้ท่านเกิดความได้เปรียบกว่าคนที่ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้ฝึกฝน ในการพูดนาเสนอ

More Related Content

Similar to การพูดเพื่อนำเสนอ

ถอดเทปโครงการศิลปะการพูด
ถอดเทปโครงการศิลปะการพูดถอดเทปโครงการศิลปะการพูด
ถอดเทปโครงการศิลปะการพูด
pyopyo
 
การพูดประเภทต่าง ๆ
การพูดประเภทต่าง ๆการพูดประเภทต่าง ๆ
การพูดประเภทต่าง ๆSirirat Pongpid
 
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)อัมพร ศรีพิทักษ์
 
South thailand conflict
South thailand conflictSouth thailand conflict
South thailand conflict
Teeranan
 
ทรรศนะ2
ทรรศนะ2ทรรศนะ2
ทรรศนะ2krubuatoom
 
การนำเสนอ
การนำเสนอการนำเสนอ
การนำเสนอ
Suphol Sutthiyutthasenee
 
ทรรศนะ2
ทรรศนะ2ทรรศนะ2
ทรรศนะ2krubuatoom
 
การออกแบบและการนำเสนอ
การออกแบบและการนำเสนอการออกแบบและการนำเสนอ
การออกแบบและการนำเสนอ
Wichit Chawaha
 
Consult
ConsultConsult
Consult
kamyui_49
 
สรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพ
สรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพสรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพ
สรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพnunaka
 
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าวการสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
sriburin
 
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าวการสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
sriburin
 
Concept VS Theme
Concept VS ThemeConcept VS Theme
Concept VS Theme
siriporn pongvinyoo
 
Facilitator รุ่นที่ 2
Facilitator รุ่นที่ 2Facilitator รุ่นที่ 2
Facilitator รุ่นที่ 2
Taraya Srivilas
 

Similar to การพูดเพื่อนำเสนอ (20)

ถอดเทปโครงการศิลปะการพูด
ถอดเทปโครงการศิลปะการพูดถอดเทปโครงการศิลปะการพูด
ถอดเทปโครงการศิลปะการพูด
 
Speak
SpeakSpeak
Speak
 
Speak
SpeakSpeak
Speak
 
การพูดประเภทต่าง ๆ
การพูดประเภทต่าง ๆการพูดประเภทต่าง ๆ
การพูดประเภทต่าง ๆ
 
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
 
Work32 27-28
Work32 27-28Work32 27-28
Work32 27-28
 
South thailand conflict
South thailand conflictSouth thailand conflict
South thailand conflict
 
ทรรศนะ2
ทรรศนะ2ทรรศนะ2
ทรรศนะ2
 
การนำเสนอ
การนำเสนอการนำเสนอ
การนำเสนอ
 
การพูดประเภทต่าง ๆ
การพูดประเภทต่าง ๆการพูดประเภทต่าง ๆ
การพูดประเภทต่าง ๆ
 
ทรรศนะ2
ทรรศนะ2ทรรศนะ2
ทรรศนะ2
 
การออกแบบและการนำเสนอ
การออกแบบและการนำเสนอการออกแบบและการนำเสนอ
การออกแบบและการนำเสนอ
 
Consult
ConsultConsult
Consult
 
สรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพ
สรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพสรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพ
สรุปทักษะการสื่อสารและการประสานงานอย่างมืออาชีพ
 
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าวการสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
 
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าวการสัมภาษณ์แหล่งข่าว
การสัมภาษณ์แหล่งข่าว
 
Concept VS Theme
Concept VS ThemeConcept VS Theme
Concept VS Theme
 
Facilitator รุ่นที่ 2
Facilitator รุ่นที่ 2Facilitator รุ่นที่ 2
Facilitator รุ่นที่ 2
 
Mainidea
MainideaMainidea
Mainidea
 
เรียงความ
เรียงความเรียงความ
เรียงความ
 

More from Rattana Wongphu-nga

เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์Rattana Wongphu-nga
 
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอRattana Wongphu-nga
 
เทคนิคการนำเสนอ
เทคนิคการนำเสนอเทคนิคการนำเสนอ
เทคนิคการนำเสนอRattana Wongphu-nga
 
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1Rattana Wongphu-nga
 
แบบทดสอบก่อนเรียน New
แบบทดสอบก่อนเรียน Newแบบทดสอบก่อนเรียน New
แบบทดสอบก่อนเรียน NewRattana Wongphu-nga
 
ข้อสอบหน่วย2
ข้อสอบหน่วย2ข้อสอบหน่วย2
ข้อสอบหน่วย2Rattana Wongphu-nga
 
สถาณการณ์ที่ 5
สถาณการณ์ที่ 5สถาณการณ์ที่ 5
สถาณการณ์ที่ 5Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5Rattana Wongphu-nga
 
แบบทดสอบโครงงาน
แบบทดสอบโครงงานแบบทดสอบโครงงาน
แบบทดสอบโครงงานRattana Wongphu-nga
 
แบบทดสอบหน่วย4
แบบทดสอบหน่วย4แบบทดสอบหน่วย4
แบบทดสอบหน่วย4Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5Rattana Wongphu-nga
 

More from Rattana Wongphu-nga (20)

เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
เค้าโครงข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเสนอ
 
เทคนิคการนำเสนอ
เทคนิคการนำเสนอเทคนิคการนำเสนอ
เทคนิคการนำเสนอ
 
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1
แบบทดสอบประจำหน่วยที่ 1
 
แบบทดสอบก่อนเรียน New
แบบทดสอบก่อนเรียน Newแบบทดสอบก่อนเรียน New
แบบทดสอบก่อนเรียน New
 
สอบปลายภาค
สอบปลายภาคสอบปลายภาค
สอบปลายภาค
 
ข้อสอบหน่วย2
ข้อสอบหน่วย2ข้อสอบหน่วย2
ข้อสอบหน่วย2
 
ใบงาน 2.1
ใบงาน 2.1ใบงาน 2.1
ใบงาน 2.1
 
ใบงาน 2.1
ใบงาน 2.1ใบงาน 2.1
ใบงาน 2.1
 
สถาณการณ์ที่ 5
สถาณการณ์ที่ 5สถาณการณ์ที่ 5
สถาณการณ์ที่ 5
 
ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
 
ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5
 
แบบทดสอบโครงงาน
แบบทดสอบโครงงานแบบทดสอบโครงงาน
แบบทดสอบโครงงาน
 
แบบทดสอบหน่วย4
แบบทดสอบหน่วย4แบบทดสอบหน่วย4
แบบทดสอบหน่วย4
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
 
ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4
 
ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5ใบความรู้ที่5
ใบความรู้ที่5
 

การพูดเพื่อนำเสนอ

  • 1. การพูดเพื่อนาเสนอ การพูดเพื่อนาเสนอ เป็นการพูดที่มีความสาคัญมากในปัจจุบัน เราทุกคนต่างก็เป็นนักนาเสนอ เพียงแต่ ใครจะเป็นผู้นาเสนอได้ดีและมีประสิทธิภาพกว่ากัน เช่น เด็กๆ ต้องพูดนาเสนอเพื่อขอเงินผู้ปกครองไปซื้อสิ่งของที่ ตนเองต้องการ , นักขายพูดนาเสนอขายสินค้าแก่ลูกค้า , ผู้ให้บริการต้องพูดนาเสนอการให้บริการที่ประทับใจแก่ ผู้รับบริการ , นักการเมืองต้องพูดเพื่อนาเสนอนโยบายแก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตนเข้าไป บริหารประเทศ, ผู้เผยแพร่ศาสนาต้องพูดนาเสนอเพื่อให้ผู้ฟังเชื่อถือ ศรัทธาและนาไปปฏิบัติ ฯลฯ ในบทความนี้ใคร่ขอแนะนาเทคนิคบางประการที่จะทาให้การพูดเพื่อนาเสนอให้เป็นที่สนใจและดึงดูด ใจผู้ฟัง ดังนี้ 1.ต้องวิเคราะห์ผู้ฟัง การพูดนาเสนอที่ดีและประสบความสาเร็จ สิ่งที่ผู้พูดควรคานึงถึงอันดับแรก คือ ต้องรู้จักวิเคราะห์ผู้ฟัง ต้องรู้ว่าผู้ฟังคือใคร มีเพศใด มีอายุเท่าไร สถานภาพของผู้ฟังเป็นอย่างไร ทางานอาชีพอะไร ความรู้การศึกษาของผู้ฟังอยู่ระดับไหน ผู้ฟังนับถือ ศาสนา มีวัฒนธรรม มีประเพณีอะไร แล้วผู้ฟังมีความต้องการ อะไร รักชอบอะไร การวิเคราะห์ผู้ฟังและการพูดในสิ่งที่ผู้ฟังมีความต้องการจะทาให้ผู้พูด สามารถพูดนาเสนอเพื่อ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ฟังได้ ทั้งนี้การวิเคราะห์ผู้ฟังยังรวมไปถึง เรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ของผู้ฟังในขณะฟังผู้พูด พูดอีกด้วย 2.ต้องเตรียมเนื้อหาที่จะพูด ควรมีองค์ประกอบตามโครงสร้าง คือ คาขึ้นต้น เนื้อเรื่อง และสรุป จบ อีกทั้งต้องทาให้ทั้ง 3 ส่วน มีความสอดคล้อง กลมกลืนไปในทิศทางหรือเนื้อหาเดียวกัน ดังตัวอย่าง 2.1.การขึ้นต้นการพูดที่ดีเราต้องรู้จักสร้างความสนใจ สร้างความตื่นเต้น สร้างความอยากที่จะฟัง แก่ผู้ฟัง ซึ่งการขึ้นต้นมีเทคนิคหลายอย่าง เช่น - การขึ้นต้นโดยตั้งคาถาม (ท่านผู้ฟังครับ ท่านผู้ฟังอยากมีเงินล้านภายใน 1 ปี หรือเปล่าครับ การขึ้นต้นประโยคดังกล่าว จะทาให้ผู้ฟังอยากที่จะฟังเรื่องราวของผู้พูด ว่าทาอย่างไรถึงจะมีเงิน ล้านภายใน 1 ปี ได้ ) - การขึ้นต้นด้วยการสร้างความสงสัย ( ท่านเชื่อไหมว่าเราสามารถอายุยืนนานถึง 110 ปี) - การขึ้นต้นด้วยการพาดหัวข่าว( แม่แจ้งจับพระใช้ไฮไฟว์ลวง ม.3 เข้ากุฏิ) - การขึ้นต้นด้วยการอ้างอิง ( มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า สมุนไพรไทยรักษาโรคได้เกือบทุกชนิด) สาหรับการขึ้นต้นมีความสาคัญมากสาหรับการพูดนาเสนอ หากเราขึ้นต้นได้ดี ก็จะทาให้ผู้ฟัง อยากติดตามเรื่องราวที่จะนาเสนอในส่วนของเนื้อเรื่อง แต่ถ้าหากขึ้นต้นไม่มี ไม่ดึงดูดใจผู้ฟัง ก็จะ ทาให้ผู้ฟังไม่อยากฟังเรื่องราวในส่วนของเนื้อหาต่อไป 2.2.เนื้อเรื่อง เป็นส่วนของเนื้อหาที่ต้องสอดคล้องกับคาขึ้นต้น เป็นส่วนที่มีเนื้อหามากกว่า ส่วน ขึ้นต้นและสรุปจบ อาจพูดได้ว่ามีสัดส่วนดังนี้( คาขึ้นต้น 5-10 เปอร์เซ็นต์ เนื้อเรื่อง 80-90 เปอร์เซ็นต์และสรุปจบ 5-10 เปอร์เซ็นต์) เช่น - เรียงตามลาดับ เวลา สถานที่ เช่น เรียงลาดับอดีต ปัจจุบัน และอนาคต , เรียงจากจังหวัดเหนือ สุดไปใต้สุด ฯลฯ - ใช้ตัวอย่างประกอบ ตัวอย่างจะทาให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เพราะเรื่องราวบางอย่างอาจจะเป็น นามธรรม แต่การยกตัวอย่างจะทาให้เห็นเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น
  • 2. - เน้นจุดมุ่งหมายเดียว การพูดในส่วนเนื้อหาที่ดี ควรให้อยู่ในจุดมุ่งหมายหรือประเด็นเดียว ไม่ ควรพูดหลายประเด็น จนผู้ฟังฟังแล้วเกิดความสับสนว่าผู้พูดต้องการนาเสนออะไรกันแน่ 2.3.สรุปจบ เป็นส่วนสุดท้าย ท้ายสุด การสรุปจบที่ดี ควรทาให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจ ตรึงใจ เช่น - ฝากแง่คิด เป็นการพูดเพื่อฝากให้ผู้ฟังนาไปคิดต่อไป - เรียกร้อง เชิญชวน เป็นการสรุปจบแบบ ขอร้อง เชิญชวน ให้ผู้ฟังกระทาสิ่งที่ผู้พูด ต้องการ เช่น เชิญชวนให้เลิกบุหรี่ สุรา ยาเสพติด เชิญชวนให้ผู้ฟังได้ออกกาลังกาย 3.หาประสบการณ์ เทคนิคข้อนี้มีความสาคัญเป็นอันมาก คนที่มักไม่มีความมั่นใจในการนาเสนอของตน ก็ เนื่องจากขาดประสบการณ์ การหาประสบการณ์ในการพูดนาเสนอจะทาให้ ผู้พูดนาเสนอเกิดความมั่นใจในตนเอง มากขึ้น อีกทั้งจะทาให้รู้ว่าตนเองควร ปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเองอย่างไรบ้าง 4.อย่าออกตัว การพูดนาเสนอที่ดี ผู้พูดไม่ควรออกตัว การออกตัวหรือกล่าวคาขอโทษผู้ฟัง จะทาให้ผู้ฟัง เกิดความไม่มั่นใจ และทาให้ผู้ฟังขาดความศรัทธา ความเชื่อถือ ในตัวผู้พูด เช่น พูดว่าเรื่องที่จะนาเสนอนี้กระผมไม่ ค่อยมีความรู้สักเท่าไร , การนาเสนอในครั้งนี้กระผมไม่ค่อยได้เตรียมตัวมาต้องขอโทษผู้ฟังด้วย ถ้าหากกระผมพูด อะไรผิดพลาด ฯลฯ ดังนั้น การพูดเพื่อนาเสนอ จึงมีความสาคัญ สาหรับผู้ที่ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ความก้าวหน้าใน การทางาน อีกทั้งยังทาให้ท่านเกิดความได้เปรียบกว่าคนที่ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้ฝึกฝน ในการพูดนาเสนอ