More Related Content
Similar to Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
Similar to Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า (20)
Sideshare เรื่องการใช้ไฟฟ้า
- 2. จัดทำโดย
เด็กหญิง วิมลรัตน์ วรรกำร เลขที่ 37
เด็กหญิง ศิรินพร เต็มใจ เลขที่ 38
เด็กหญิง สมัชญำ ค้ำสม เลขที่ 39
เด็กหญิง สุ ดำรัตน์ อินโต เลขที่ 40
- 3. คำนำ
รายงานเล่มนี ้เป็ นส่วนหนึงของวิชา วิทยาศาสตร์ จัดทาขึ ้นเพื่อประกอบการศึกษา
่
วิชา วิทยาศาสตร์ วิชานี ้ที่ต้องการให้ ผ้ เู รี ยนได้ เรี ยนรู้ เกี่ยวกับเครื่ องใช้ ไฟฟาในบ้ าน
้
เพื่อให้ ผ้ อานได้ รับข้ อมูลอย่างถูกต้ อง และหวังเป็ นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี ้จะเป็ น
ู่
ประโยชน์ตอผู้อานไม่มากก็น้อย
่ ่
ถ้ าหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี ้ด้ วย
คณะผู้จดทา
ั
- 4. เครื่องใช้ ไฟฟ้ า
เครื่องใช้ ไฟฟ้ า คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำเป็ นพลังงำนรู ปอื่น
เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่
1. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้แสงสว่ำง
2. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้ควำมร้อน
3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนกล
4. เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำที่ให้พลังงำนเสี ยง
- 5. ประเภทของหลอดไฟ
1. หลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ มีไส้หลอดที่ทำด้วยลวดโลหะที่มีจุดหลอมเหลวสู ง เช่น
ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอำไว้เหมือนขดลวดสปริ งภำยในหลอดแก้วสู บอำกำศออก
หมดแล้วบรรจุก๊ำซเฉื่ อย เช่น อำร์กอน (AR) ไว้ ก๊ำซนี้ช่วยป้ องกันไม่ให้หลอด
ไฟฟ้ ำดำ ลักษณะของหลอดไฟเป็ นดังรู ป
หลักการทางานของหลอดไฟฟาธรรมดา
้
กระแสไฟฟ้ ำไหลผ่ำนไส้หลอดซึ่ งมีควำมต้ำนทำนสู ง พลังงำนไฟฟ้ ำจะเปลี่ยนเป็ น
พลังงำนควำมร้อน ทำให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมำได้ กำรเปลี่ยน
พลังงำนเป็ นดังนี้
พลังงำนไฟฟ้ ำ >>>พลังงำนควำมร้อน >>>พลังงำนแสง
- 6. 2. หลอดเรื่ องแสง หรื อ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงำน
ไฟฟ้ ำเป็ นพลังงำนแสงสว่ำง ซึ่ งมีกำรประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดยมีรูปร่ ำงหลำยแบบ อำจ
ทำเป็ นหลอดตรง สั้น ยำว ขดเป็ นวงกลมหรื อครึ่ งวงกลม เป็ นต้น
ส่ วนประกอบของหลอดเรืองแสง
่
ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยูที่ปลำยทั้ง 2 ข้ำง ของหลอดแก้ว ซึ่ งผิวภำยในของหลอด
ฉำบด้วยสำรเรื่ องแสง อำกำศในหลอดแก้วถูกสู บออกจนหมดแล้วใส่ ไอปรอทไว้เล็กน้อย
ดังรู ป
- 7. อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้หลอดเรื องแสงทำงำน
1. สตำร์ตเตอร์ (starter) ทำหน้ำที่เป็ นสวิตซ์อตโนมัติในขณะหลอด
ั
เรื องแสง ยังไม่ติดและหยุดทำงำนเมื่อหลอดติดแล้ว
2. แบลลัสต์ (Ballast) ทำหน้ำที่เพิมควำมต่ำงศักย์ เพื่อให้หลอดไฟเรื อง
่
แสงติดในตอนแรกและทำหน้ำที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ ำที่ผำนหลอด ให้่
ลดลงเมื่อหลอดติดแล้ว
- 9. หลักการทางานของหลอดเรืองแสง
เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนไส้หลอดจะทำให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ควำมร้อนที่เกิดทำให้ปรอทที่บรรจุ
ไว้ในหลอดกลำยเป็ นไอมำกขึ้น เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนไอปรอทได้จะคำยพลังงำนไฟฟ้ ำให้
่
ไอปรอท ทำให้อะตอมของไอปรอทอยูในภำวะถูกกระตุน และอะตอมปรอทจะคำยพลังงำน
้
ออกมำเพื่อลดระดับพลังงำนของตนในรู ปของรังสี อลตรำไวโอเลต เมื่อรังสี ดงกล่ำวกระทบ
ั ั
สำรเรื องแสงที่ฉำบไว้ที่ผิวในของหลอดเรื องแสงนั้นก็จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสี ต่ำงๆ
ตำมชนิดของสำรเรื องแสงที่ฉำบไว้ภำยในหลอดนั้น เช่น แคดเมียมบอเรทจะให้แสงสี ชมพู
ซิ งค์ซิลิเคทให้แสงสี เขียว แมกนีเซี ยมทังสเตนให้แสงสี ขำวอมฟ้ ำ และยังอำจผสมสำรเหล่ำนี้
เพื่อให้ได้สีผสมที่แตกต่ำงออกไปอีกด้วย
ข้ อดีของหลอดเรืองแสง
1. มีประสิ ทธิ ภำพสู งกว่ำหลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ เสี ยค่ำไฟฟ้ ำเท่ำกัน แต่ได้ไฟที่สว่ำงกว่ำ
2. ให้แสงที่เย็นตำ กระจำยไปทัวหลอด ไม่รวมเป็ นจุดเหมือนหลอดไฟฟ้ ำธรรมดำ
่
3. อำจจัดสี ของแสงแปรเปลี่ยนได้ โดยกำรเปลี่ยนชนิดสำรเรื องแสง
4. อุณหภูมิของหลอดเรื องแสงไม่สูงเท่ำกับหลอดไฟธรรมดำขณะทำงำน
- 10. 3. หลอดนีออน หรื อหลอดไฟโฆษณำ เป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่เปลี่ยนพลังงำนไฟฟ้ ำเป็ น
แสงสว่ำง มีลกษณะเป็ นหลอดแก้วที่ถกลนไฟ ดัดเป็ นรู ปหรื ออักษรต่ำงๆ สูบอำกำศ
ั ู
ออกเป็ นสุ ญญำกำศ แล้วใส่ ก๊ำซบำงชนิ ดที่ให้แสงสี ตำงๆ ออกมำได้ เมื่อมีกระแสไฟฟ้ ำ
่
่
ผ่ำนหลอดชนิดนี้ไม่มีไส้หลอดไฟ แต่ใช้ข้ วไฟฟ้ ำทำด้วยโลหะติดอยูที่ปลำย
ั
ทั้ง 2 ข้ำง แล้วต่อกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้ ำที่มีควำมต่ำงศักย์สูงประมำณ 10,000 โวลต์ ซึ่ งมี
๊
ควำมต่ำงศักย์ที่สูงมำก จะทำให้กำซที่บรรจุไว้ในหลอดเกิดกำรแตกตัวเป็ นนีออนและ
นำไฟฟ้ ำได้เมื่อกระแสไฟฟ้ ำผ่ำนก๊ำซเหล่ำนี้จะทำให้ก๊ำซร้อนติดไฟให้แสงสี ต่ำงๆ ได้
ตัวอย่ำงก๊ำซชนิ ดต่ำงๆ ที่บรรจุในหลอดโฆษณำ
- ก๊ำซนีออน ให้แสงสี แดง
- ก๊ำซฮีเลียม ให้แสงสี ชมพู
- ก๊ำซอำร์ กอน ให้แสงสี ขำวอมน้ ำเงิน และถ้ำใช้ก๊ำซต่ำงๆ ผสมกันก็จะได้สีต่ำงๆ
ออกไป
- 11. ข้ อแนะนำกำรใช้ หลอดไฟอย่ ำงประหยัด
1. ใช้หลอดเรื องแสงจะให้แสงสว่ำงมำกกว่ำหลอดธรรมดำประมำณ 4 เท่ำ เมื่อใช้พลังงำน
ไฟฟ้ ำเท่ำกัน และอำยุกำรใช้งำนจะทนกว่ำประมำณ 8 เท่ำ
2.ใช้แสงสว่ำงให้เหมำะกับกำรใช้งำนที่ใดต้องกำรแสงสว่ำงไม่มำกนักควรติดไฟน้อยดวง
3. ทำควำมสะอำดโป๊ ะไฟ จะให้แสงสว่ำงเต็มที่
4. ปิ ดไฟทุกครั้งที่ไม่จำเป็ นต้องใช้
- 12. พัดลมไฟฟา
้
พัดลมไฟฟ้ ำเป็ นผลิตภัณฑ์อำนวยควำมสะดวกชนิ ดหนึ่ง ที่ช่วยบรรเทำควำมร้อน
จำกสภำพภูมิอำกำศ พัด ไฟฟ้ ำในปั จจุบนมีหลำยชนิ ดคือ ชนิดตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น ติดผนัง
ั
แขวนเพดำนและส่ ำยรอบตัว
- 13. พัดลมไฟฟ้ ามาตรฐาน
่ ั ้
พัดลมไฟฟ้ ำซึ่ งมีอยูมำกมำยในท้องตลำด อำจจะทำควำมลำบำกให้กบผูซ้ื อ เพรำะไม่รู้วำจะ ่
เลือกซื้ อยีหอไหนดี สิ่ งที่จะช่วยท่ำนได้ คือกำรสังเกตเครื่ องหมำยมำตรฐำนที่แสดงบน
่ ้
่
ผลิตภัณฑ์ เพรำะเป็ นพัดลมไฟฟ้ ำที่ผำนกำรรับรองคุณภำพจำกสำนักงำนมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม ซึ่ งมีขอดีหลำยประกำร คือ
้
1. มีระบบกำรป้ องกันไฟฟ้ ำช็อกที่ไว้ใจได้
2. มีกำรป้ องกันกำรสัมผัสโดยตรงกับส่ วนที่มีกระแสไฟฟ้ ำอย่ำงไว้ใจได้
3. พัดลมไม่ไหม้เสี ยหำยจำกอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เพรำะจะไม่สูงเกินค่ำที่กำหนดไว้
4. กระแสไฟฟ้ ำรั่วได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิแอมแปร์ ทำให้ไม่มีอนตรำยแก่ผใช้
ั ู้
- 14. ตู้เย็น เป็ นเครื่ องใช้ ไฟฟาที่ทาความเย็นโดยประกอบด้ วยสองส่วนหลัก ๆ คือ ส่วน
้
ฉนวนปองกันความร้ อน (ปองกันไม่ให้ ความร้ อนไหลเข้ ามา) และ ส่วนทาความเย็น
้ ้
(ปั๊ มที่นาความร้ อนออกไปสูภายนอกซึงมีอณหภูมิต่ากว่า) คนส่วนใหญ่ใช้ ต้ เู ย็น
่ ่ ุ
เก็บอาหาร เพื่อปองกันการเน่าเสีย เนื่องจากแบคทีเรี ยเติบโตช้ ากว่าในอุณหภูมิต่า
้
ตู้เย็นมีหลายประเภทตังแต่แบบที่มอณหภูมิสงกว่าจุดเยือกแข็ง (ช่องธรรมดา)
้ ี ุ ู
แบบที่อณหภูมิต่ากว่าจุดเยือกแข็งเล็กน้ อย (ช่องแช่แข็ง, ช่องฟรี ซ) ก่อนที่จะมี
ุ
ตู้เย็นประเทศในเขตหนาวใช้ กล่องน ้าแข็ง (icebox) ในการรักษาอาหาร
- 15. คาแนะนาวิธีใช้ ไฟฟาอย่ างประหยัด
้
่
ควรปิ ดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยูในห้อง
- เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมำะสมกับ
กำรใช้งำน
- สำหรับบริ เวณที่ตองกำรควำมสว่ำงมำก
้
ภำยในอำคำรควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์
ส่ วนภำยนอกอำคำรควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม
และหลอดไอปรอท
- ควรใช้ฝำครอบดวงโคมแบบใสหำกไม่มีปัญหำ
เรื่ องแสงจ้ำ และหมันทำควำมสะอำดอยูเ่ สมอ
่
- พิจำรณำใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงำนที่ตองกำร
้
แสงสว่ำงจุดเดียว
ทีวี วิทยุ
- ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่ได้ดู
- ควรถอดปลักเมื่อไม่ใช้เป็ นเวลำนำน
๊
- 17. เตำรี ด
เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทให้ควำมร้อน ซึ่งในกำรรี ดแต่ละครั้งจะกินไฟมำก ดังนั้นจึงควรรู้จด
ั
วิธีใช้อย่ำงประหยัดและปลอดภัย
่ ่
- ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูวำเตำรี ดอยูในสภำพพร้อม
ที่จะใช้งำนหรื อไม่ เช่น สำย ตัวเครื่ อง เป็ นต้น
- ตั้งปุ่ มปรับควำมร้อนให้เหมำะสมกับชนิดของผ้ำ
- อย่ำพรมน้ ำจนเปี ยกแฉะ
- ดึงเต้ำเสี ยบออกก่อนจะรี ดเสร็จประมำณ 2-3 นำที แล้วรี ดต่อไปจนเสร็ จ
- ควรพรมน้ ำพอสมควร เตำรี ด
- ถอดปลักออกเมื่อไม่ได้ใช้
๊
- ควรรี ดผ้ำครำวละมำกๆ ติดต่อกันจนเสร็จ
- ควรเริ่ มรี ดผ้ำบำง ๆ ก่อน ขณะเตำรี ดยังไม่ร้อน
- ควรดึงปลักออกก่อนรี ดเสร็จเพรำะยังร้อนอีกนำน
๊
- ควรซักและตำกผ้ำโดยไม่ตองบิด จะทำให้รีดง่ำยขึ้น
้
- 18. พัดลม
- เปิ ดควำมเร็วลมพอควร
- เปิ ดเฉพำะเวลำใช้งำน
- ควรเปิ ดหน้ำต่ำงใช้ลมธรรมชำติแทนถ้ำทำได้
เครื่ องเป่ าผม
- เช็ดผมก่อนใช้เครื่ อง
- ควรขยี้และสำงผมไปด้วยขณะเป่ ำ
เครื่ องดูดฝุ่ น
- ควรเอาฝุ่ นในถุงทิ ้งทุกครังที่ใช้ แล้ วจะได้ มีแรงดูดดี ไม่เปลืองไฟ
้
- 19. ตูเ้ ย็น ตูแช่
้
- ตั้งอุณหภูมิพอสมควร
- นำของที่ไม่ร้อนใส่ ตเู้ ย็น
- ปิ ดประตูตเู้ ย็นทันทีเมื่อนำของใส่ หรื อออก
- ปิ ดประตูตเู้ ย็นให้สนิท
- หำกยำงขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข
- เลือกตูเ้ ย็นหรื อตูแช่ชนิดมีประสิ ทธิภำพสูง
้
- ควรใช้ตเู้ ย็นขนำดเหมำะกับครอบครัว
- ควรตั้งตูเ้ ย็นให้ห่ำงจำกแหล่งควำมร้อน ให้หลังตูห่ำงจำกฝำ
้
เกิน 15 ซ.ม. เพื่อระบำยควำมร้อนได้สะดวก ไม่เปลื่องไฟฟ้ ำ
- ควรหมันทำควำมสะอำดแผงระบำยควำมร้อน
่
- ควรเก็บเฉพำะอำหำรเท่ำที่จำเป็ น
- กำรเลือกซื้ อตูเ้ ย็น, ตูแช่ มีคำแนะนำให้ท่ำนพิจำรณำก่อนซื้อดังนี้
้
- เลือกขนำดให้พอเหมำะกับควำมต้องกำรของครอบครัว
- ตูเ้ ย็นแบบประตูเดียวกินไฟน้อยกว่ำแบบ 2 ประตู
- ควรวำงตูเ้ ย็นให้อำกำศถ่ำยเทได้สะดวก
- ตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิให้เหมำะกับจำนวนของที่ใส่
- อย่ำเปิ ดตูเ้ ย็นทิ้งไว้นำน ๆ และอย่ำนำของร้อนมำแช่
- 20. - หมันละลำยน้ ำแข็งเมื่อเห็นว่ำน้ ำแข็งเกำหนำมำก
่
หม้ อหุงข้ าวไฟฟา
้
หำกใช้อย่ำงถูกต้องสำมำรถประหยัดพลังงำนไฟฟ้ ำได้มำก ซึ่ งมีขอแนะนำดังนี้
้
ั
- ควรหุงข้ำวให้พอดีกบจำนวนผูรับประทำน
้
- ควรดังเต้ำเสี ยบออกเมื่อข้ำวสุ กแล้ว
- ใช้ขนำดที่เหมำะสมกับจำนวนสมำชิกในครอบครัว
๊ ั ั
- ควรดึงปลักออกเมื่อข้ำวสุ กพอแล้ว ปัจจุบนหม้อหุงข้ำวไฟฟ้ ำมีใช้กนมาก
้
- อย่ำทำให้กนหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ขำวสุ กช้ำ
้
- หมันตรวจบริ เวณแท่นควำมร้อนในหม้อ อย่ำให้เม็ดข้ำวเกำะติด จะทำให้ข่ำวสุ กช้ำและเปลืองไฟหม้ อต้ มน ้า
่
หม้ อต้ มกาแฟ
- ใส่ น้ ำให้มีปริ มำณพอควร
- ควรปิ ดฝำให้สนิทขณะต้ม
- ควรปิ ดสวิตช์ทนทีเมื่อน้ ำเดือด
ั
- 21. เครื่ องสูบน ้า
- ควรติดตั้งอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำในถัง
ั
- และหมันปรับตั้งให้ถูกต้องเสมอ
่
- ติดตั้งท่อน้ ำให้มีขนำดเหมำะสมกับขนำดปั้ม
- ควรตรวจแก้ไขจุดรั่วในระบบน้ ำ
- ควรใช้น้ ำอย่ำงประหยัด
- ควรติดตั้งถังเก็บน้ ำในตำแหน่งที่ไม่สูงเกินไป
เครื่ องสูบน้ ำเป็ นอุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่อำนวยควำมสะดวกอย่ำงยิงซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้ ำในกำรสูบน้ ำไปยังถังเก็บหรื อ
่
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ซ่ ึงมีวธีกำรใช้อย่ำงประหยัดดังนี้
ิ
- ควรติดตั้งอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำในถังเก็บ และดูแลรักษำ
ั
ให้ทำงำนได้อยูเ่ สมอ
- ตรวจสอบรอยรั่วตำมข้อต่อต่ำง ๆ หำกพบควรรับซ่อมแซมแก้ไขโดยเร็ ว
- หำกตัวถังเก็บน้ ำไม่มีอุปกรณ์อตโนมัติควบคุมระดับน้ ำ ควรดูแล
ั
อย่ำให้น้ ำล้นถัง
- เครื่ องสูบน้ ำแบบใช้สำยพำนต้องตรวจสอบไม่ให้หย่อนหรื อตึงเกินไป
- 22. เครื่ องซักผ้ำ
- ควรใส่ ผำแต่พอเหมำะ ไม่นอยเกินไป และไม่มำกจนเกิน
้ ้
มอเตอร์ไฟฟ้ ำ
- ควรตรวจสอบแก้ไข และอัดจำรบีตำมวำระ
- ปรับปรุ งสำยพำนมอเตอร์ เช่น ปรับควำมตึง
เตำอบ เตำไฟฟ้ ำ
เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้ ใช้ควำมร้อนมำทำให้อำหำรสุ กหำกให้ควำมร้อนสูญเสี ยไปโดยกำรใช้ไม่ถูกวิธี ทำ
ให้อำหำรสุ กช้ำลง กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีขอแนะนำกำรใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำประเภทนี้อย่ำงประหยัดคือ
้
- ควรเตรี ยมเครื่ องปรุ งในกำรประกอบอำหำรให้พร้อมก่อนใช้เตำ
- ควรใช้ภำชนะก้นแบนและเป็ นโลหะจะทำให้รับควำมร้อน
จำกเตำได้ดี
ั
- ในกำรหุนต้มอำหำรควรใส่ น้ ำให้พอดีกบจำนวนอำหำร
้
- ในระหว่ำงอบอำหำรอย่ำเปิ ดตูอบบ่อย ๆ
้
- ถอดเต้ำเสี ยบทันทีเมื่อปรุ งอำหำรเสร็จเรี ยบร้อย
- ควรหรี่ ไฟและปิ ดฝำหม้อในกรณี ที่ตองเคี่ยว
้
- ควรเตรี ยมเครื่ องปรุ งให้พร้อมก่อนใช้เตำ
- 23. - ควรใช้เตำชนิดมองไม่เห็นขดลวดซึ่งไม่เสี ยควำมร้อน
สูญเปล่ำมำก และปลอดภัยกว่ำ
้
- ควรใช้พำหนะก้นแบนขนำดพื้นที่กนเหมำะกับพื้นที่หน้ำเตำ
ั ่
และใช้พำหนะที่มีเนื้อโลหะรับควำมร้อนได้ดี หำกเป็ นไปได้ให้ใช้กบเตำไฟฟ้ ำซึ่งมีขำยทัวไปอยูแล้ว
่
- ควรปิ ดฝำภำชนะให้สนิทขณะตั้งเตำ
เครื่ องทาน ้าอุน
่
วิธีกำรใช้เครื่ องทำน้ ำอุ่นให้ประหยัดและปลอดภัย
- ปรับปุ่ มควำมร้อนให้เหมำะสมกับร่ ำงกำย
- ปิ ดวำล์วทันทีเมื่ครื่องขนำดพอสมควร
- ใช้ เอไม่ใช้งำน
- หำกมีรอยรั-่วควรรี บงควำมร้ อนไม่ ให้ รที นเกินควำมจำเป็ น
ปรั บปรุ
ทำกำรแก้ไขทัน ้ อ
- ต่อสำยลงดิ-นปิ ดก๊ อกทุกครังใเมื่อไม่ ใช้ งำนงทำน้ ำอุ่น
ในจุดที่จดไว้้ ห้ของเครื่ อ
ั
- ในฤดูร้อนไม่ จำเป็ นต้ องใช้ นำร้ อน หรือนำอุ่น
้ ้
- ปิ ดสวิชต์ไฟฟ้ ำของเครื่ องทำน้ ำอุ่นเมื่อไม่ใช้
- ควรใช้ นำอุ่นที่ได้ ควำมร้ อนจำกแสงอำทิตย์
้
- ปฏิบติตำมคำแนะนำที่แนบมำกับเครื่ อง
ั
- ใช้เครื่ องขนำดพอสมควร
- ปรับปรุ งควำมร้อนไม่ให้ร้อนเกินควำมจำเป็ น
- ปิ ดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งำน
- ในฤดูร้อนไม่จำเป็ นต้องใช้น้ ำร้อน หรื อน้ ำอุ่น
- ควรใช้น้ ำอุ่นที่ได้ควำมร้อนจำกแสงอำทิตย์
- 24. เครื่ องปรับอากาศ
กำรใช้เครื่ องปรับอำกำศให้มีควำมเย็นที่สบำยต่อร่ ำงกำย จะประหยัดค่ำไฟฟ้ ำอย่ำงได้ผล ซึ่ งควรปฏิบติดงนี้
ั ั
- ปิ ดเครื่ องทุกครั้งเมื่อไม่อยู่
- ปิ ดประตูหน้ำต่ำงและผ้ำม่ำนกันควำมร้อนจำกภำยนอก
- ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่ำ 26 องศำเซลเซียส
- ควรใช้เครื่ องขนำดเหมำะสมกับขนำดห้อง
- ควรเลือกเครื่ องปรับอำกำศที่มีประสิ ทธิภำพสูง
- ควรติดตั้งเครื่ องระดับสูงพอเหมำะ และให้อำกำศร้อนระบำยออกด้ำนหลังเครื่ องได้สะดวก
- ควรบุผนังห้อง และหลังคำด้วยฉนวนกันควำมร้อน
- ควรบำรุ งรักษำเครื่ องให้มีสภำพดีตลอดเวลำ
- ควรหมันทำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศ
่
และแผงระบำยควำมร้อน
- ในฤดูหนำวขณะที่อำกำศไม่ร้อนมำกเกินไป ไม่ควรเปิ ด
เครื่ องปรับอำกำศ
- ปิ ดประตู หน้ำต่ำงให้มิดชิดไม่ให้ควำมเย็นรั่วไหล
- พิจำรณำติดตั้งบังแสงหรื อกันแดด เพื่อลดภำระกำรทำงำนของเครื่ อง
- ควรเลือกใช้ขนำดที่เหมำะสมกับขนำดของห้อง
- 25. - ควรใช้ผำม่ำนกั้นประตูหน้ำต่ำง เพื่อป้ องกันควำมร้อนจำกภำยนอก
้
- ตั้งปุ่ มปรับอุณหภูมิให้เหมำะสมต่อร่ ำงกำย(ประมำณ 26 องศำเซลเซียส)
- หมันทำควำมสะอำดแผ่นกรองอำกำศ
่
- ปฏิบติตำมคำแนะนำที่แนบมำกับเครื่ องปรับอำกำศ
ั
กำรใช้ กำรตรวจสอบ และกำรดูแลอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำ
สำยไฟ
-สำยไฟฟ้ ำเก่ำหรื อหมดอำยุใช้งำน สังเกตได้จำกฉนวนจะแตกหรื อแห้งกรอบบวม
- ฉนวนสำยไฟชำรุ ด อำจเกิดจำกหนูหรื อแมลงกัดแทะหรื อวำงของหนักทับ เดินสำยไฟใกล้แหล่งควำมร้อน
ถูกของมีคมบำด
- จุดต่อสำยไฟต้องให้แน่น หน้ำสัมผัสให้ดี พันฉนวนให้เรี ยบร้อย
- ขนำดของสำยไฟฟ้ ำ ใช้ขนำดของสำยให้เหมำะสมกับปริ มำณกระแสที่ไหลในสำย หรื อให้เหมำะสมกับ
เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำในวงจรนั้น
- สำยไฟฟ้ ำต้องไม่เดินอยูใกล้แหล่งควำมร้อน สำรเคมี หรื อถูกของหนักทับ เพรำะทำให้ฉนวนชำรุ ดได้ง่ำย
่
และเกิดกระแสไฟฟ้ ำลัดวงจรขึ้นได้
- สำยไฟฟ้ ำต้องไม่พำดบนโครงเหล็ก รั้วเหล็ก รำวเหล็ก หรื อส่ วนที่เป็ นโลหะต้องเดินสำยไฟฟ้ ำโดยใช้พก ุ
ประกับ หรื อร้อยท่อให้เรี ยบร้อย เพื่อป้ องกันกระแสไฟฟ้ ำรั่วลงบนโครงโลหะ ซึ่ งจะเกิดอันตรำยขึ้นได้
- 26. เต้ ารับ-เต้ าเสียบ
- เต้ำรับ เต้ำเสี ยบ ต้องไม่แตกร้ำว และไม่มีรอยไหม้
- กำรต่อสำยที่เต้ำรับและเต้ำเสี ยบ ต้องให้แน่น และใช้ขนำดสำยให้ถูกต้อง
- เต้ำเสี ยบ เมื่อเสี ยบใช้งำนกับเต้ำรับต้องแน่น
- เต้ำรับ ต้องติดตั้งในที่แห้ง ไม่เปี ยกชื้นหรื อมีน้ ำท่วม และควรติดให้พนมือเด็กเล็กที่อำจ
้
เล่นถึงได้
แผงสวิตช์ไฟฟา
้
- ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปี ยกชื้นและสู งพอควร ห่ำงไกลจำกสำรเคมีและสำรไวไฟต่ำง ๆ
่ ่
- ตรวจสอบดูวำมี มด แมลงเข้ำไปทำรังอยูหรื อไม่ หำกพบว่ำมี ให้ดำเนินกำรกำจัด
- อย่ำวำงสิ่ งกีดขวำงบริ เวณแผงสวิตช์
่
- ควรมีผงวงจรไฟฟ้ ำโดยสังเขปติดอยูที่แผงสวิตช์ เพื่อให้ทรำบว่ำแต่ละวงจรจ่ำยไฟไปที่
ั
ใด
- แผงสวิตช์ที่เป็ นตูโลหะควรทำกำรต่อสำยลงดิน
้
- 27. สวิตช์ตดตอนชนิดคัดเอาท์
ั
- ตัวคัทเอำท์และฝำครอบต้องไม่แตก
- ใส่ ฟิวส์ให้ถกขนำดและมีฝำครอบปิ ดให้มิดชิด
ู
- ห้ำมใช้วสดุอ่ืนใส่ แทนฟิ วส์
ั
- ขั้วต่อสำยที่คทเอำท์ตองแน่นและใช้ขนำดสำยให้ถูกต้อง
ั ้
- ใบมีดของตัทเอำท์เมื่อสับใช้งำนต้องแน่น
เบรกเกอร์
- ตรวจสอบฝำครอบเบรคเกอร์ตองไม่แตกร้ำว
้
- ต้องมีฝำครอบปิ ดเบรคเกอร์ให้มิดชิด
- ต้องติดตั้งในที่แห้งไม่เปี ยกชื่นและห่ำงไกลจำกสำรเคมีสำรไวไฟต่ำง ๆ
- เลือกเบรคเกอร์ที่มีขนำดเหมำะสมกับอุปกรณ์เครื่ องใช้ไฟฟ้ ำ
- 28. 1 หน่วย คือ อะไร
วัตต์หรื อแรงเทียนคือพลังไฟฟ้ ำหรื อกำลังไฟฟ้ ำ อุปกรณ์ไฟฟ้ ำที่มีวตต์มำกก็กินไฟมำกกว่ำ
ั
ที่มีวตต์นอย (ในเวลำเท่ำกัน)
ั ้
1 กิโลวัตต์ คือ 1,000 วัตต์
1 หน่วย หรื อ 1 ยูนิต หรื อ 1 กิโลวัตต์-ชัวโมง คือพลังงำนไฟฟ้ ำของอุปกรณ์ไฟฟ้ ำ
่
ขนำด 1,000 วัตต์ เปิ ดนำน 1 ชัวโมง
่
ตัวอย่ำง : หลอดไฟหลอดละ 100 วัตต์ จำนวน 10 หลอด
รวม 100 x 10 = 1,000 วัตต์
ถ้ำเปิ ดนำน 2 ชัวโมง ทั้ง 10 หลอด จะเปลืองไฟฟ้ ำ
่
รวม = 1,000 วัตต์ x 2 ชัวโมง = 2,000 วัตต์-ชัวโมง
่ ่
หรื อ = 2 กิโลวัตต์-ชัวโมง หรื อ = 2 หน่วย หรื อ 2 ยูนิต
่
- 29. เครื่ องใช้ ของท่านกินไฟประมาณกี่วตต์
ั
- พัดลมตั้งพื้น 45-75 วัตต์
- พัดลมเพดำน 70-104 วัตต์
- หม้อหุงข้ำวไฟฟ้ ำ 500-1,000 วัตต์
- ตูเ้ ย็น 2-12 คิว (ลบ.ฟุต) 53-194 วัตต์
- เครื่ องปรับอำกำศ 680-3,300 วัตต์
- เครื่ องดูดฝุ่ น 625-1,000 วัตต์
- เตำรี ดไฟฟ้ ำ 430-1,600 วัตต์
- เครื่ องทำน้ ำร้อนในห้องน้ ำ 900-4,800 วัตต์
- เครื่ องปิ้ งขนมปัง 600-1,000 วัตต์
- เครื่ องเป่ ำผม 300-1,300 วัตต์
- เครื่ องซักผ้ำ 250-2,000 วัตต์
- เครื่ องซักผ้ำแบบมีเครื่ องอบผ้ำ หรื อ เครื่ องตั้งอุณหภูมิของน้ ำ 250-2,000 วัตต์
- เตำไฟฟ้ ำ (เดี่ยว) 300-1,500 วัตต์
- โทรทัศน์ ขำว-ดำ 24-30 วัตต์
- โทรทัศน์สี 43-95 วัตต์
- วีดีโอ 30-50 วัตต์
- เครื่ องอบผ้ำแห้ง 650-2,500 วัตต์