SlideShare a Scribd company logo
1 of 30
เครื่องใช้ไฟฟ้า  หมายถึง  เครื่องมือที่เปลี่ยน
พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปต่างๆทีต้องการ
                                       ่
 เช่น พลังงานความร้อน พลังงานเสียง พลังงาน
กล พลังงานเคมี และช่วยให้ความเป็นอยูของ    ่
คนในบ้าน ในชุมชน ในสังคม   มีความสุข และ
สะดวกสบาย แต่ถ้าใช้กันอย่างไม่ถูกต้อง  หรือไม่
เหมาะสม  ก็จะส่งผลกรทบต่อสภาพแวดล้อม  เช่น
การสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทำาให้เนือที่ ้
ป่าถูกทำาลายทั้งสัตว์ต่างๆ ทีดำารงชิวิตอยู่ใน
                             ่
บริเวณนั้นหรือการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง
 ก็ส่งผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ  และ
ทางนำาได้ 
             ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
- ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง
ระมัดระวัง
- หมันตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่
       ่
ในสภาพทีใช้ได้ดีและปลอดภัย
              ่
- ถ้าไม่มีความรู้จริง อย่าแก้หรือซ่อมแซมเครื่อง
ใช้ไฟฟ้าเองเป็นอันขาด
           ผลเสียทีจะเกิดขึ้น เมือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
                   ่             ่
 อย่างไม่ระมัดระวัง
 - ถูกไฟฟ้าช็อต  เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือ
 ไฟฟ้ารั่ว
 - เกิดเพลิงไหม้  เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือ
 ไฟฟ้ารั่ว
     อุปกรณ์ทเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสง
              ี่
ได้แก่ หลอดไฟฟ้า หลอดฟลูออเรสเซนต์ และหลอด
ไฟโฆษณา โธมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva
Edison) นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ได้ประดิษฐ์หลอด
ไฟฟ้า ขึ้นเป็นครั้งแรกเมือ พ.ศ. 2422 โดยใช้
                         ่
คาร์บอนเส้นเล็กๆเป็นไส้หลอดและต่อมาได้มการ
                                         ี
พัฒนาขึ้น จนเป็นหลอดไฟฟ้าทีใช้ในปัจจุบัน 
                               ่
   หลอดไฟฟ้า  เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีมใช้ในทุก
                                   ่ ี
บ้านที่มการใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นเครื่องใช้ที่
        ี
เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ไปเป็นพลังงานแสง หลอด
ไฟฟ้าที่ใช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ
             ั่
1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา
     หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา  มีการเปลี่ยนรูป
พลังงานจากพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน
แล้วจึงเปลี่ยนเป็นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้าแบบ
ธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วน
ประกอบดังนี้
       1.1 ไส้หลอด ทำาด้วยโลหะทีมจุดหลอดเหลวสูง
                                     ่ ี
   ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง  เช่น ทังสเตน
          1.2 หลอดแก้วทำาจากแก้วทีทนความร้อนได้ดี
                                   ่
   ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุก๊าซ
   ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทำา้
   ปฏิกิริยายาก ช่วยป้องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่
   หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้า
   บรรจุก๊าซออกซิเจนจะทำาปฏิกริยากับไส้หลอด ซึ่ง
                                ิ
   ทำาให้ไส้หลอดขาดง่าย
      เนืองจากหลอดไฟฟ้าประเภทนี้
           ่
ให้แสงสว่างได้ด้วยการเปลี่ยน ต่อวงจรไฟฟ้า มี 2 แบบ
         1.3 ขั้วหลอดไฟ เป็นจุด
พลัองานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน
   คื ง แบบเขี้ยวและแบบเกลียว
ก่อนทีจะให้แสงสว่างออกมา จึงทำาให้
         ่
สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟ้ามากกว่า
หลอดชนิดอื่น ในขนาดกำาลังไฟฟ้า
หลัก การทำา งานของหลอดไฟฟ้า ธรรมดา
     การทีหลอด ไฟฟ้าให้แสงสว่างได้เป็นไปตาม
           ่
หลักการดังนี้ เมือกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอด
                 ่
ซึงมีความต้านทานสูง พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยน
  ่
เป็นพลังงานความร้อน ทำาให้ไส้หลอดร้อนจัดจน
เปล่งแสง ออกมาได้ ซึ่งมีการเปลี่ยนรูปพลังงาน
ดังนี้ 
          พลังงานไฟฟ้า ----> พลังงานความร้อน
----> พลังงานแสง 
 2.หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรส
เซนต์(Fluorescent Lamp)
   หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์
(Fluorescent Lamp) ทำาด้วยหลอดแก้วที่สบ ู
อากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มี
ไส้ที่ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรืองแสงอาจทำา
เป็นหลอดตรง หรือครึ่งวงกลมก็ได้  ส่วนประกอบ
และการทำางานของหลอดเรืองแสง มีดังนี้
            2.1 ตัวหลอด  ภายในสูบอากาศออกจนหมด
แล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย  ผิวด้าน
ในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆ
แล้วแต่ความต้องการให้เรืองแสงเป็นสีใด เช่น ถ้า
ต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซิลิเคต
แสงสีขาวแกมฟ้าฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสง
สีชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็นต้น
           2.2 ไส้หลอด ทำาด้วยทังสเตนหรือวุลแฟรมอยู่
ทีปลายทังสองข้าง เมือกระแสไฟฟ้าผ่านไส้หลอดจะ
  ่          ้        ่
ทำาให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ความร้อนทีเกิดขึ้นจะทำาให้ไอ
                                  ่
ปรอททีบรรจุไว้ในหลอดกลายเป็นไอมากขึ้น แต่ขณะ
           ่
นั้นกระแสไฟฟ้ายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอท
ยังเป็นไอน้อยทำาให้ความต้านทานของหลอดสูง
          
2.3 สตาร์ตเตอร์ ทำาหน้าที่เป็นสวิตซ์ไฟฟ้าอัตโนมัติของ
วงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทำาด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุ
ก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคู่ทงอตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน  เมื่อ
                            ี่
กระแสไฟฟ้าผ่านก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อน
ขึ้น ทำาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทำาให้กลายเป็นวงจรปิด
ทำาให้กระแสไฟฟ้าผ่านแผ่น โลหะได้ครบวงจร   ก๊าซนีออนที่
ติดไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกันทำาให้
เกิดความต้านทานสูงขึ้นอย่างทันทีซึ่งขณะ เดียวกันกระแส
ไฟฟ้าจะผ่านไส้หลอดได้มากขึ้นทำาให้ไส้หลอดร้อนขึ้นมาก
 ปรอทก็จะเป็นไอมากขึ้นจนพอที่นำากระแสไฟฟ้าได้
     2.4 แบลลัสต์  เป็นขดลวดที่พันอยู่บนแกนเหล็ก  ขณะ
กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนำาแม่เหล็กไฟฟ้าทำาให้
เกิดแรงเคลื่อน ไฟฟ้าเหนี่ยวนำาขึ้น เมื่อแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ต
เตอร์แยกตัวออกจากกันนั้นจะเกิดวงจรเปิดชั่วขณะ    แรง
เคลือนไฟฟ้าเหนี่ยวนำาที่เกิดขึ้นในแบลลัสต์จึงทำาให้เกิดความ
     ่
ต่าง ศักย์ระหว่างไส้หลอดทั้งสองข้างสูงขึ้นเพียงพอที่จะทำาให้
กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ไอปรอทจากไส้หลอดข้างหนึ่งไปยังไส้
หลัก การทำา งานของหลอดฟลูอ อเรสเซนต์ 
       เมือกระแสไฟฟ้าผ่านไอปรอท จะคายพลังงาน
          ่
ไฟฟ้าให้แก่ไอปรอท ซึ่งจะทำาให้อะตอม ของไอ
ปรอทอยูในสภาวะถูกกระตุ้น (exited state) เป็น
            ่
ผลให้อะตอมปรอทคายพลังงานออกมาเพื่อ ลดระดับ
พลังงานในตัวเองในรูปของรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่ง
มองไม่เห็น เมือรังสีชนิดนีไปกระทบกับสารวาวแสง
                ่         ้
ทีฉาบไว้ที่ผิวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์ สาร
  ่
เหล่านี้จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสีต่างๆตามชนิด
ของสารวาวแสงทีฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น ซิงค์
                   ่                   ้
ซิลิเคท (Zinc silicate) ให้แสงสีเขียว ซิงค์
เบริลเลียมซิลิเคท (Zinc Beryllium silicate) ให้
แสงสีเหลืองนวล นอกจากนี้ยงอาจผสมสารวาวแสง
                               ั
เหล่านี้ เพือให้ได้แสงสีผสมทีแตกต่างกันออกไปได้
              ่              ่
อีกด้วย
3.หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
   หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน  เป็นหลอดแก้วที่
ถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็นรูปหรือตัวอักษร ไม่มไส้หลอด
                                           ี
แต่ทปลายทังสองข้างจะมีขั้วไฟฟ้าทำาด้วยโลหะ ต่อ
     ี่       ้
กับแหล่งกำาเนิดไฟฟ้า  ทีมความต่างศักย์สูงประมาณ
                        ่ ี
10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมด
แล้วใส่กาซบางชนิดทีให้แสงสีต่างๆออกมาเมือมี
          ๊          ่                       ่
กระแสไฟฟ้าผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสีแดงหรือส้ม
ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู  ความต่างศักย์ทสูงมากๆ จะ
                                        ี่
ทำาให้ก๊าซทีบรรจุไว้ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็น
            ่
นีออน และนำาไฟฟ้าได้ เมือกระแสไฟฟ้าผ่านก๊าซ
                          ่
เหล่านีจะทำาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสีต่างๆได้
        ้       ๊
      เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน  เป็นเครื่อง
                        ่
ใช้ทเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน โดย
      ี่
ใช้หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนำา
ทีมความต้านทานสูงๆ ลวดตัวนำานันจะร้อนจนสามารถ
  ่ ี                             ้
นำาความร้อนออกไปใช้ประโยชน์ได้ เนืองจากเป็น
                                      ่
เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อนมาก จึงสิ้น
                  ่
เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ามากเมือเปรียบกับการใช้เครื่องใช้
                             ่
ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เมือใช้ในเวลาทีเท่ากัน   ฉะนั้นขณะ
                      ่             ่
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานความร้อนจึงควรใช้ด้วย
ความระมัดระวัง ตัวอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงาน
                                        ่
ความร้อน เช่น เตารีด หม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า กาต้ม
นำ้า เครื่องต้มกาแฟ เตาไฟฟ้า ฯลฯ
ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน
                                 ่
มีดังนี้
            1. ขดลวดความร้อน หรือแผ่นความร้อน มัก
ทำาจากโลหะผสมระหว่างนิเกิลกับโครเมียม เรียกว่า
นิโครม ซึงมีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความ
            ่
ร้อนได้สูงเมือมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆจึงไม่ขาด และมี
              ่
ความต้านทานสูงมาก
            2. เทอโมสตาร์ท หรือสวิตซ์ความร้อน
อัตโนมัติ ทำาหน้าทีควบคุมอุณหภูมไม่ให้ร้อนเกินไป มี
                    ่                  ิ
ส่วนประกอบเป็นโลหะต่างชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน
เมือได้รับความร้อนจะขยายตัวได้ไม่เท่ากัน เช่น เหล็ก
   ่
กับทองเหลือง  โดยให้แผ่นโลหะทีขยายตัวได้
                                   ่
น้อย(เหล็ก)อยู่ดานบน ส่วนโลหะทีจะขยายตัวได้
                  ้                  ่
มาก(ทองเหลือง)อยู่ดานล่าง เมือกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
                      ้        ่
      3. แผ่นไมกา หรือ แผ่นใยหิน ซึ่งเป็นฉนวน
ไฟฟ้า ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงาน     ความ
                           ่
ร้อนบางชนิด เช่นเตารีด หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า จะ
มีแผ่นไมกา หรือใยหิน เพือป้องกันไม่ให้ขดลวด
                         ่
หลอมละลาย และป้องกันไฟฟ้ารั่วขณะใช้งาน   
ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงาน
                                        ่
ความร้อน
      เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อนจะ
                                ่
มีกระแสไฟฟ้าปริมาณมากไหลผ่าน มากกว่าเครื่องใช้
ประเภทอื่นๆ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังดังนี้
         - หมันตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ
                ่
ให้อยูในสภาพเรียบร้อยไม่ชำารุด
       ่
         - เมือเลิกใช้งานต้องถอดเต้าเสียบออกจาก
              ่
เต้ารับทุกครั้งไม่ควรเสียบทิงไว้ 
                             ้
     
หลัก การทำา งานของเครื่อ งใช้ไ ฟฟ้า ทีใ ห้ค วาม
                                         ่
ร้อ น 
     เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้ความร้อนมีหลักการคือเมือมี
                      ่                         ่
กระแสไฟฟ้าไหลผ่านความ ต้านทานไฟฟ้าสูง
พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ดังนัน   ้
จึงให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดนิโครมหรือแผ่น
ความร้อนซึ่งมีความต้านทานไฟฟ้า สูง พลังงานไฟฟ้า
จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนมากแล้วถ่ายเท
พลังงานความร้อนไป ยังภาชนะ 
     เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน ใช้พลังงาน
                        ่
ไฟฟ้ามากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นหลายเท่า กระแส
ไฟฟ้าทีผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านีมปริมาณมากจึงต้อง
          ่                      ้ ี
ใช้ด้วยความ ระมัดระวัง เช่น คอยตรวจสอบสภาพของ
สายไฟ และเต้าเสียบให้อยูในสภาพดีอยูเสมอเพือ
                           ่           ่      ่
เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล
                     ่
                เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล  มีการ
                                 ่
เปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล โดยอาศัย
หลักการเหนียวนำาแม่เหล็กไฟฟ้า ด้วยอุปกรณ์ ที่
                ่
เรียกว่า มอเตอร์ และ เครื่องควบคุมความเร็ว ซึ่งเป็น
อุปกรณ์หลักในเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล
                                   ่
ตัวอย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล เช่น
                            ่
เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น พัดลม เครื่อง
ซักผ้า เครื่องปั่นนำ้าผลไม้ ฯลฯ
ส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล
                                 ่
     1. มอเตอร์
      มอเตอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงาน
                                   ่
ไฟฟ้าเป็นพลังงานกล  ประกอบด้วยขดลวดทีพันรอบ  ่
แกนโลหะทีวางอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก โดยเมือผ่าน
          ่                                ่
กระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดทีอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก
                              ่
จะทำาให้ขดลวดหมุนไปรอบแกน และเมือสลับขั้วไฟฟ้า
                                      ่
การหมุนของขดลวดจะหมุนกลับทิศทางเดิม
         ประเภทของมอเตอร์มี 2 ประเภท คือ
 มอเตอร์กระแสตรง และมอเตอร์กระแสสลับ
            - มอเตอร์กระแสตรง เป็นมอเตอร์ทต้องใช้
                                            ี่
 ไฟฟ้ากระแสตรงผ่านเข้าไปในขดลวดอาร์เมเจอร์
 เพือทำาให้ เกิดการดูดและผลักกันของแม่เหล็ก
      ่
 ถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าทีเกิดจากขดลวด มอเตอร์
                         ่
 จึงหมุนได้
            - มอเตอร์กระแสสลับ เป็นมอเตอร์ที่ต้อง
 ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับ โดยใช้หลักการดูดและ
      ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีมมอเต
                                           ่ ี
 ผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าจากขด
อรเป็นส่วนประกอบ คือ ห้ามใช้เครื่องใช้ประเภทนี้
 ลวดมาทำาให้ เกิดการหมุนของมอเตอร์
ในช่วงทีไฟตก หรือแรงดันไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์
           ่
เนืองจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทำาให้เกิดกระแส
    ่
ไฟฟ้าดันกลับ จะทำาให้ขดลวดร้อนจัดจนเกิดไหม้
เสียหายได้
2.
หลักการทำางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล
                                 ่
   เครื่องใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็น
                         ่
พลังงานเสียง ได้แก่  เครื่องรับวิทยุ เครื่องขยายเสียง
เครื่องบันทึกเสียง ฯลฯ
     1.เครื่องรับวิทยุ   เป็นอุปกรณ์ทเปลี่ยนพลังงาน
                                     ี่
 ไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง โดยรับคลื่นวิทยุ จากสถานี
 ส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียง
 ทีมอยู่ในรูปของ สัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้นเมือผ่าน
   ่ ี                                          ่
 สัญญาณไฟฟ้านี้ไปยังลำาโพงจะทำาให้ลำาโพงสั่น
 สะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงทีสามารถรับฟังได้ ดัง
                              ่
                   ข ยา
 แผนผัง                ย
   เสา            สัญ         ลำาโ          เสียง
                    ญาณ            พง
   อาก   าศ
     แผนผังการเปลียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงาน
                    ่
     เสียงของเครื่องรับวิทยุ
2. เครื่องขยายเสียง(Amplifier)   คือ เครื่อง
ใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง
            ่
โดยรับสัญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟน  หัวเทป
หรือจาก เครื่องกำาเนิดสัญญาณไฟฟ้าจากเสียง
ต่างๆ มาขยายสัญญาณไฟฟ้าจนมีกำาลังมากพอจึง
         ส่วนประกอบของเครื่องขยายเสียง
ส่งออกสู่ลำาโพงเสียง
  1. ไมโครโฟน เปลี่ยนพลังงานเสียงให้เป็น
  สัญญาณไฟฟ้า
  2. เครื่องขยายสัญญาณไฟฟ้า ขยาย
  สัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้น

  3. ลำาโพง เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็น
  พลังงานเสียง 
3. เครื่องบันทึกเสียง (Tape recorder) ขณะ
บันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่งจะเปลี่ยน
พลังงานเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วบันทึกลงใน
แถบบันทึกเสียงซึ่งฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของ
สัญญาณแม่เหล็ก ดังแผนผัง
เสียง                 สัญญ
                 รโฟ ไฟฟ าณ                บันทกเป็น หล็ก
            ไมโค         ้า                    ึ
                                                      ม่เ
             น                             ส ัญญาณแ
         แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่อง  ลง บ น
         บันทึกเสียงขณะบันทึก               แถบบ  ันทึกเสียง
เมือนำาแถบบันทึกเสียงที่บันทึกได้มาเล่น
       ่
สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลี่ยนกลับเป็นสัญญาณ
ไฟฟ้า และสัญญาณนี้จะถูกขยายให้แรงขึ้นด้วย
อุปกรณ์ไฟฟ้าจนทำาให้ลำาโพงสันสะเทือนเป็น
                                ่
เสียงขึ้นอีกครั้งหนึง ดังแผนผัง
                    ่
                   สัญ
                       ญา
                  ไฟฟ ณ                     ขยาย
สัญญาณแม่เหล็กจาก     ้า
                                            สัญญาณ


                                     โ พง
               เสีย            ลำา
              ง
        แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่องบันทึกเสียง
        ขณะเล่น
ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานเสียง
                               ่
พวก วิทยุ หรือเครื่องเสียงประเภทต่างๆ ส่วนใหญ่สนิ้
เปลืองพลังงานไฟฟ้าไม่มาก แต่ทงนีขึ้นอยู่กบ กำาลัง
                                 ั้ ้     ั
ไฟฟ้า ของเครื่องเสียงนันๆ และขึ้นอยู่กบความดัง
                        ้             ั
ของเสียงในการเปิดฟังด้วย
     ป.ล. ในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด
ต้องพิจารณาถึงคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า  รู้จัก
วิธีใช้ทถูกต้อง รู้จักวิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว
        ี่
และไฟฟ้าลักวงจรและตรวจดูแลอุปกรณ์อยูเสมอ    ่
งานคูแหวว.Pdf
งานคูแหวว.Pdf

More Related Content

What's hot

เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่อง  เครื่องใช้ไฟฟ้าเรื่อง  เครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าRattanapron Tacomdee
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3SUPAPIT3033
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiriporn Somkrue
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าufonon
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอwantnan
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf0841766393
 
หลักการเครื่องใช่ไฟฟ้า
หลักการเครื่องใช่ไฟฟ้าหลักการเครื่องใช่ไฟฟ้า
หลักการเครื่องใช่ไฟฟ้าChanukid Chaisri
 
งานวิทยาศาสตร์
งานวิทยาศาสตร์งานวิทยาศาสตร์
งานวิทยาศาสตร์sugareyes
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1thanawan302
 

What's hot (15)

เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่อง  เครื่องใช้ไฟฟ้าเรื่อง  เครื่องใช้ไฟฟ้า
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3เครื่องใช้ไฟฟ้า3
เครื่องใช้ไฟฟ้า3
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
 
หลักการเครื่องใช่ไฟฟ้า
หลักการเครื่องใช่ไฟฟ้าหลักการเครื่องใช่ไฟฟ้า
หลักการเครื่องใช่ไฟฟ้า
 
งานวิทยาศาสตร์
งานวิทยาศาสตร์งานวิทยาศาสตร์
งานวิทยาศาสตร์
 
งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1งานวิทย์ 1
งานวิทย์ 1
 
งาน
งานงาน
งาน
 

Similar to งานคูแหวว.Pdf

ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าPanatsaya Jakkheaw
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2thanawan302
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2thanawan302
 
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้างานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้าPhachakorn Khrueapuk
 
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์jee2002
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.PdfKanoknat Kaosim
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า1
เครื่องใช้ไฟฟ้า1เครื่องใช้ไฟฟ้า1
เครื่องใช้ไฟฟ้า1Keatisak TAtanarua
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอBoyz Bill
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
M 303 group 6
M 303 group 6M 303 group 6
M 303 group 6orohimaro
 

Similar to งานคูแหวว.Pdf (20)

ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2
 
งานว ทย 2
งานว ทย 2งานว ทย 2
งานว ทย 2
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้างานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
 
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า1
เครื่องใช้ไฟฟ้า1เครื่องใช้ไฟฟ้า1
เครื่องใช้ไฟฟ้า1
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
Vvv
VvvVvv
Vvv
 
M 303 group 6
M 303 group 6M 303 group 6
M 303 group 6
 

งานคูแหวว.Pdf

  • 1.
  • 2. เครื่องใช้ไฟฟ้า  หมายถึง  เครื่องมือที่เปลี่ยน พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปต่างๆทีต้องการ ่  เช่น พลังงานความร้อน พลังงานเสียง พลังงาน กล พลังงานเคมี และช่วยให้ความเป็นอยูของ ่ คนในบ้าน ในชุมชน ในสังคม   มีความสุข และ สะดวกสบาย แต่ถ้าใช้กันอย่างไม่ถูกต้อง  หรือไม่ เหมาะสม  ก็จะส่งผลกรทบต่อสภาพแวดล้อม  เช่น การสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทำาให้เนือที่ ้ ป่าถูกทำาลายทั้งสัตว์ต่างๆ ทีดำารงชิวิตอยู่ใน ่ บริเวณนั้นหรือการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง  ก็ส่งผลกระทบ โดยเกิดมลภาวะทางอากาศ  และ ทางนำาได้ 
  • 3.              ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า - ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง ระมัดระวัง - หมันตรวจดูแลสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ ่ ในสภาพทีใช้ได้ดีและปลอดภัย ่ - ถ้าไม่มีความรู้จริง อย่าแก้หรือซ่อมแซมเครื่อง ใช้ไฟฟ้าเองเป็นอันขาด           ผลเสียทีจะเกิดขึ้น เมือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ่ ่ อย่างไม่ระมัดระวัง - ถูกไฟฟ้าช็อต  เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ไฟฟ้ารั่ว - เกิดเพลิงไหม้  เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ไฟฟ้ารั่ว
  • 4.      อุปกรณ์ทเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสง ี่ ได้แก่ หลอดไฟฟ้า หลอดฟลูออเรสเซนต์ และหลอด ไฟโฆษณา โธมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ได้ประดิษฐ์หลอด ไฟฟ้า ขึ้นเป็นครั้งแรกเมือ พ.ศ. 2422 โดยใช้ ่ คาร์บอนเส้นเล็กๆเป็นไส้หลอดและต่อมาได้มการ ี พัฒนาขึ้น จนเป็นหลอดไฟฟ้าทีใช้ในปัจจุบัน  ่
  • 5.    หลอดไฟฟ้า  เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีมใช้ในทุก ่ ี บ้านที่มการใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นเครื่องใช้ที่ ี เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ไปเป็นพลังงานแสง หลอด ไฟฟ้าที่ใช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ ั่ 1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา      หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา  มีการเปลี่ยนรูป พลังงานจากพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนเป็นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้าแบบ ธรรมดามี 2 แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วน ประกอบดังนี้
  • 6.        1.1 ไส้หลอด ทำาด้วยโลหะทีมจุดหลอดเหลวสูง ่ ี ทนความร้อนได้มาก มีความทานสูง  เช่น ทังสเตน        1.2 หลอดแก้วทำาจากแก้วทีทนความร้อนได้ดี ่ ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจนหมดภายในบรรจุก๊าซ ไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนีทำา้ ปฏิกิริยายาก ช่วยป้องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่ หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้า บรรจุก๊าซออกซิเจนจะทำาปฏิกริยากับไส้หลอด ซึ่ง ิ ทำาให้ไส้หลอดขาดง่าย       เนืองจากหลอดไฟฟ้าประเภทนี้ ่ ให้แสงสว่างได้ด้วยการเปลี่ยน ต่อวงจรไฟฟ้า มี 2 แบบ       1.3 ขั้วหลอดไฟ เป็นจุด พลัองานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน คื ง แบบเขี้ยวและแบบเกลียว ก่อนทีจะให้แสงสว่างออกมา จึงทำาให้ ่ สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟ้ามากกว่า หลอดชนิดอื่น ในขนาดกำาลังไฟฟ้า
  • 7. หลัก การทำา งานของหลอดไฟฟ้า ธรรมดา      การทีหลอด ไฟฟ้าให้แสงสว่างได้เป็นไปตาม ่ หลักการดังนี้ เมือกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอด ่ ซึงมีความต้านทานสูง พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยน ่ เป็นพลังงานความร้อน ทำาให้ไส้หลอดร้อนจัดจน เปล่งแสง ออกมาได้ ซึ่งมีการเปลี่ยนรูปพลังงาน ดังนี้            พลังงานไฟฟ้า ----> พลังงานความร้อน ----> พลังงานแสง 
  • 8.  2.หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรส เซนต์(Fluorescent Lamp) หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทำาด้วยหลอดแก้วที่สบ ู อากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มี ไส้ที่ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรืองแสงอาจทำา เป็นหลอดตรง หรือครึ่งวงกลมก็ได้  ส่วนประกอบ และการทำางานของหลอดเรืองแสง มีดังนี้
  • 9.             2.1 ตัวหลอด  ภายในสูบอากาศออกจนหมด แล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอน เล็กน้อย  ผิวด้าน ในของหลอดเรืองแสงฉาบด้วยสารเรืองแสงชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรืองแสงเป็นสีใด เช่น ถ้า ต้องการให้เรืองแสงสีเขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซิลิเคต แสงสีขาวแกมฟ้าฉาบด้วยมักเนเซียมทังสเตน แสง สีชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็นต้น            2.2 ไส้หลอด ทำาด้วยทังสเตนหรือวุลแฟรมอยู่ ทีปลายทังสองข้าง เมือกระแสไฟฟ้าผ่านไส้หลอดจะ ่ ้ ่ ทำาให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ความร้อนทีเกิดขึ้นจะทำาให้ไอ ่ ปรอททีบรรจุไว้ในหลอดกลายเป็นไอมากขึ้น แต่ขณะ ่ นั้นกระแสไฟฟ้ายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอท ยังเป็นไอน้อยทำาให้ความต้านทานของหลอดสูง           
  • 10. 2.3 สตาร์ตเตอร์ ทำาหน้าที่เป็นสวิตซ์ไฟฟ้าอัตโนมัติของ วงจรโดยต่อขนานกับหลอด ทำาด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุ ก๊าซนีออนและแผ่นโลหะคู่ทงอตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน  เมื่อ ี่ กระแสไฟฟ้าผ่านก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะติดไฟเกิดความร้อน ขึ้น ทำาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทำาให้กลายเป็นวงจรปิด ทำาให้กระแสไฟฟ้าผ่านแผ่น โลหะได้ครบวงจร   ก๊าซนีออนที่ ติดไฟอยู่จะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกันทำาให้ เกิดความต้านทานสูงขึ้นอย่างทันทีซึ่งขณะ เดียวกันกระแส ไฟฟ้าจะผ่านไส้หลอดได้มากขึ้นทำาให้ไส้หลอดร้อนขึ้นมาก  ปรอทก็จะเป็นไอมากขึ้นจนพอที่นำากระแสไฟฟ้าได้      2.4 แบลลัสต์  เป็นขดลวดที่พันอยู่บนแกนเหล็ก  ขณะ กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนำาแม่เหล็กไฟฟ้าทำาให้ เกิดแรงเคลื่อน ไฟฟ้าเหนี่ยวนำาขึ้น เมื่อแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ต เตอร์แยกตัวออกจากกันนั้นจะเกิดวงจรเปิดชั่วขณะ    แรง เคลือนไฟฟ้าเหนี่ยวนำาที่เกิดขึ้นในแบลลัสต์จึงทำาให้เกิดความ ่ ต่าง ศักย์ระหว่างไส้หลอดทั้งสองข้างสูงขึ้นเพียงพอที่จะทำาให้ กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ไอปรอทจากไส้หลอดข้างหนึ่งไปยังไส้
  • 11. หลัก การทำา งานของหลอดฟลูอ อเรสเซนต์    เมือกระแสไฟฟ้าผ่านไอปรอท จะคายพลังงาน ่ ไฟฟ้าให้แก่ไอปรอท ซึ่งจะทำาให้อะตอม ของไอ ปรอทอยูในสภาวะถูกกระตุ้น (exited state) เป็น ่ ผลให้อะตอมปรอทคายพลังงานออกมาเพื่อ ลดระดับ พลังงานในตัวเองในรูปของรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่ง มองไม่เห็น เมือรังสีชนิดนีไปกระทบกับสารวาวแสง ่ ้ ทีฉาบไว้ที่ผิวด้านในของหลอดฟลูออเรส เซนต์ สาร ่ เหล่านี้จะเปล่งแสงได้ โดยให้แสงสีต่างๆตามชนิด ของสารวาวแสงทีฉาบไว้ภายในหลอดนัน เช่น ซิงค์ ่ ้ ซิลิเคท (Zinc silicate) ให้แสงสีเขียว ซิงค์ เบริลเลียมซิลิเคท (Zinc Beryllium silicate) ให้ แสงสีเหลืองนวล นอกจากนี้ยงอาจผสมสารวาวแสง ั เหล่านี้ เพือให้ได้แสงสีผสมทีแตกต่างกันออกไปได้ ่ ่ อีกด้วย
  • 12. 3.หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน    หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน  เป็นหลอดแก้วที่ ถูกลนไฟแล้วดัดให้เป็นรูปหรือตัวอักษร ไม่มไส้หลอด ี แต่ทปลายทังสองข้างจะมีขั้วไฟฟ้าทำาด้วยโลหะ ต่อ ี่ ้ กับแหล่งกำาเนิดไฟฟ้า  ทีมความต่างศักย์สูงประมาณ ่ ี 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมด แล้วใส่กาซบางชนิดทีให้แสงสีต่างๆออกมาเมือมี ๊ ่ ่ กระแสไฟฟ้าผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสีแดงหรือส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู  ความต่างศักย์ทสูงมากๆ จะ ี่ ทำาให้ก๊าซทีบรรจุไว้ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็น ่ นีออน และนำาไฟฟ้าได้ เมือกระแสไฟฟ้าผ่านก๊าซ ่ เหล่านีจะทำาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสีต่างๆได้ ้ ๊
  • 13.       เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน  เป็นเครื่อง ่ ใช้ทเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน โดย ี่ ใช้หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนำา ทีมความต้านทานสูงๆ ลวดตัวนำานันจะร้อนจนสามารถ ่ ี ้ นำาความร้อนออกไปใช้ประโยชน์ได้ เนืองจากเป็น ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อนมาก จึงสิ้น ่ เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ามากเมือเปรียบกับการใช้เครื่องใช้ ่ ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เมือใช้ในเวลาทีเท่ากัน   ฉะนั้นขณะ ่ ่ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานความร้อนจึงควรใช้ด้วย ความระมัดระวัง ตัวอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงาน ่ ความร้อน เช่น เตารีด หม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า กาต้ม นำ้า เครื่องต้มกาแฟ เตาไฟฟ้า ฯลฯ
  • 14. ส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน ่ มีดังนี้             1. ขดลวดความร้อน หรือแผ่นความร้อน มัก ทำาจากโลหะผสมระหว่างนิเกิลกับโครเมียม เรียกว่า นิโครม ซึงมีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความ ่ ร้อนได้สูงเมือมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆจึงไม่ขาด และมี ่ ความต้านทานสูงมาก             2. เทอโมสตาร์ท หรือสวิตซ์ความร้อน อัตโนมัติ ทำาหน้าทีควบคุมอุณหภูมไม่ให้ร้อนเกินไป มี ่ ิ ส่วนประกอบเป็นโลหะต่างชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน เมือได้รับความร้อนจะขยายตัวได้ไม่เท่ากัน เช่น เหล็ก ่ กับทองเหลือง  โดยให้แผ่นโลหะทีขยายตัวได้ ่ น้อย(เหล็ก)อยู่ดานบน ส่วนโลหะทีจะขยายตัวได้ ้ ่ มาก(ทองเหลือง)อยู่ดานล่าง เมือกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ้ ่
  • 15.       3. แผ่นไมกา หรือ แผ่นใยหิน ซึ่งเป็นฉนวน ไฟฟ้า ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงาน     ความ ่ ร้อนบางชนิด เช่นเตารีด หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า จะ มีแผ่นไมกา หรือใยหิน เพือป้องกันไม่ให้ขดลวด ่ หลอมละลาย และป้องกันไฟฟ้ารั่วขณะใช้งาน   
  • 16. ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงาน ่ ความร้อน       เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อนจะ ่ มีกระแสไฟฟ้าปริมาณมากไหลผ่าน มากกว่าเครื่องใช้ ประเภทอื่นๆ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังดังนี้          - หมันตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสียบ ่ ให้อยูในสภาพเรียบร้อยไม่ชำารุด ่          - เมือเลิกใช้งานต้องถอดเต้าเสียบออกจาก ่ เต้ารับทุกครั้งไม่ควรเสียบทิงไว้  ้      
  • 17. หลัก การทำา งานของเครื่อ งใช้ไ ฟฟ้า ทีใ ห้ค วาม ่ ร้อ น       เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้ความร้อนมีหลักการคือเมือมี ่ ่ กระแสไฟฟ้าไหลผ่านความ ต้านทานไฟฟ้าสูง พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ดังนัน ้ จึงให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดนิโครมหรือแผ่น ความร้อนซึ่งมีความต้านทานไฟฟ้า สูง พลังงานไฟฟ้า จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนมากแล้วถ่ายเท พลังงานความร้อนไป ยังภาชนะ       เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานความร้อน ใช้พลังงาน ่ ไฟฟ้ามากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นหลายเท่า กระแส ไฟฟ้าทีผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านีมปริมาณมากจึงต้อง ่ ้ ี ใช้ด้วยความ ระมัดระวัง เช่น คอยตรวจสอบสภาพของ สายไฟ และเต้าเสียบให้อยูในสภาพดีอยูเสมอเพือ ่ ่ ่
  • 18. เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล ่                 เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล  มีการ ่ เปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล โดยอาศัย หลักการเหนียวนำาแม่เหล็กไฟฟ้า ด้วยอุปกรณ์ ที่ ่ เรียกว่า มอเตอร์ และ เครื่องควบคุมความเร็ว ซึ่งเป็น อุปกรณ์หลักในเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล ่ ตัวอย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล เช่น ่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น พัดลม เครื่อง ซักผ้า เครื่องปั่นนำ้าผลไม้ ฯลฯ
  • 19. ส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานกล ่ 1. มอเตอร์ มอเตอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงาน ่ ไฟฟ้าเป็นพลังงานกล  ประกอบด้วยขดลวดทีพันรอบ ่ แกนโลหะทีวางอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก โดยเมือผ่าน ่ ่ กระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดทีอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก ่ จะทำาให้ขดลวดหมุนไปรอบแกน และเมือสลับขั้วไฟฟ้า ่ การหมุนของขดลวดจะหมุนกลับทิศทางเดิม
  • 20.   ประเภทของมอเตอร์มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และมอเตอร์กระแสสลับ            - มอเตอร์กระแสตรง เป็นมอเตอร์ทต้องใช้ ี่ ไฟฟ้ากระแสตรงผ่านเข้าไปในขดลวดอาร์เมเจอร์ เพือทำาให้ เกิดการดูดและผลักกันของแม่เหล็ก ่ ถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าทีเกิดจากขดลวด มอเตอร์ ่ จึงหมุนได้            - มอเตอร์กระแสสลับ เป็นมอเตอร์ที่ต้อง ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับ โดยใช้หลักการดูดและ       ข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีมมอเต ่ ี ผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าจากขด อรเป็นส่วนประกอบ คือ ห้ามใช้เครื่องใช้ประเภทนี้ ลวดมาทำาให้ เกิดการหมุนของมอเตอร์ ในช่วงทีไฟตก หรือแรงดันไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์ ่ เนืองจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทำาให้เกิดกระแส ่ ไฟฟ้าดันกลับ จะทำาให้ขดลวดร้อนจัดจนเกิดไหม้ เสียหายได้
  • 21. 2.
  • 23.    เครื่องใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็น ่ พลังงานเสียง ได้แก่  เครื่องรับวิทยุ เครื่องขยายเสียง เครื่องบันทึกเสียง ฯลฯ 1.เครื่องรับวิทยุ   เป็นอุปกรณ์ทเปลี่ยนพลังงาน ี่ ไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง โดยรับคลื่นวิทยุ จากสถานี ส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียง ทีมอยู่ในรูปของ สัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้นเมือผ่าน ่ ี ่ สัญญาณไฟฟ้านี้ไปยังลำาโพงจะทำาให้ลำาโพงสั่น สะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงทีสามารถรับฟังได้ ดัง ่ ข ยา แผนผัง ย เสา สัญ ลำาโ เสียง ญาณ พง อาก าศ แผนผังการเปลียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงาน ่ เสียงของเครื่องรับวิทยุ
  • 24. 2. เครื่องขยายเสียง(Amplifier)   คือ เครื่อง ใช้ไฟฟ้าทีเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง ่ โดยรับสัญญาณไฟฟ้าจากไมโครโฟน  หัวเทป หรือจาก เครื่องกำาเนิดสัญญาณไฟฟ้าจากเสียง ต่างๆ มาขยายสัญญาณไฟฟ้าจนมีกำาลังมากพอจึง ส่วนประกอบของเครื่องขยายเสียง ส่งออกสู่ลำาโพงเสียง 1. ไมโครโฟน เปลี่ยนพลังงานเสียงให้เป็น สัญญาณไฟฟ้า 2. เครื่องขยายสัญญาณไฟฟ้า ขยาย สัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้น 3. ลำาโพง เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็น พลังงานเสียง 
  • 25. 3. เครื่องบันทึกเสียง (Tape recorder) ขณะ บันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่งจะเปลี่ยน พลังงานเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วบันทึกลงใน แถบบันทึกเสียงซึ่งฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของ สัญญาณแม่เหล็ก ดังแผนผัง เสียง สัญญ รโฟ ไฟฟ าณ บันทกเป็น หล็ก ไมโค ้า ึ ม่เ น ส ัญญาณแ แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่อง ลง บ น บันทึกเสียงขณะบันทึก แถบบ ันทึกเสียง
  • 26. เมือนำาแถบบันทึกเสียงที่บันทึกได้มาเล่น ่ สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลี่ยนกลับเป็นสัญญาณ ไฟฟ้า และสัญญาณนี้จะถูกขยายให้แรงขึ้นด้วย อุปกรณ์ไฟฟ้าจนทำาให้ลำาโพงสันสะเทือนเป็น ่ เสียงขึ้นอีกครั้งหนึง ดังแผนผัง ่ สัญ ญา ไฟฟ ณ ขยาย สัญญาณแม่เหล็กจาก ้า สัญญาณ โ พง เสีย ลำา ง แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่องบันทึกเสียง ขณะเล่น
  • 27. ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีให้พลังงานเสียง ่ พวก วิทยุ หรือเครื่องเสียงประเภทต่างๆ ส่วนใหญ่สนิ้ เปลืองพลังงานไฟฟ้าไม่มาก แต่ทงนีขึ้นอยู่กบ กำาลัง ั้ ้ ั ไฟฟ้า ของเครื่องเสียงนันๆ และขึ้นอยู่กบความดัง ้ ั ของเสียงในการเปิดฟังด้วย
  • 28.      ป.ล. ในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ต้องพิจารณาถึงคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า  รู้จัก วิธีใช้ทถูกต้อง รู้จักวิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ี่ และไฟฟ้าลักวงจรและตรวจดูแลอุปกรณ์อยูเสมอ ่