SlideShare a Scribd company logo
1 of 31
Download to read offline
๑
แบบทดสอบ Pre O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2554
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๒
คาชี้แจงแบบทดสอบภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
๑. แบบทดสอบฉบับนี้มี ๘๐ ข๎อ คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน
๒. แบบทดสอบจะแบํงเป็น ๒ สํวน ดังนี้
ส่วนที่ ๑ แบบปรนัย ๕ ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
จํานวน ๗๐ ข๎อ ข๎อ ๑ – ๒๐ ข๎อละ ๒ คะแนน ข๎อ ๒๑ – ๘๐
ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๙๐ คะแนน
ส่วนที่ ๒ แบบเลือกคําตอบจากแตํละกลุํมที่มีความสัมพันธ๑กัน ให๎เลือกคําตอบตามลักษณะ
ที่กําหนดในหมวด ก และ ข ให๎ถูกต๎อง จํานวน ๑๐ ข๎อ ข๎อ ๗๑– ๘๐
ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๑๐ คะแนน
ส่วนที่ ๑ แบบปรนัย ๕ ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน ๗๐ ข๎อ ข๎อ ๑ – ๒๐
ข๎อละ ๒ คะแนน ข๎อ ๒๑ – ๘๐ ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๙๐ คะแนน
๑. ข๎อใดเป็นจุดประสงค๑ของผู๎เขียนข๎อความตํอไปนี้
โลกมีลักษณะคล๎าย หนังสือ
อยูํกับบ๎านเปรียบถือ นิ่งไว๎
เริ่มทํองเที่ยวนั่นคือ เริ่มอําน
เที่ยวหนึ่งหน๎าหนึ่งให๎ เรื่องรู๎ตํางกัน
ก. สํงเสริมให๎รักการอําน
ข. เปรียบเทียบโลกกับหนังสือ
ค. สนับสนุนให๎เดินทางทํองเที่ยว
ง. ให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับการทํองเที่ยว
จ. ให๎มีวิสัยทัศน๑ในการเลือกอํานหนังสือ
๓
๒. “ในการทําอะไรลงไปควรทําด๎วยปัญญา อยําทําไปด๎วยอํานาจกิเลสตัณหา ถ๎าเป็นคนที่ศึกษาก็ศึกษาด๎วยรู๎สึก
ผิดชอบชั่วดี วํามันเป็นการสมควรอยํางยิ่งที่จะต๎องศึกษา ถ๎าประกอบการงานก็ต๎องมีความรู๎สึกผิดชอบชั่วดีวํา
เป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทําและทําให๎ดีที่สุดด๎วยความเยือกเย็น ถ๎าทําด๎วยอํานาจปัญญาควบคุมอยูํจะไมํใจร๎อนเลย”
ใจความสําคัญของข๎อความนี้คือข๎อใด
ก. ควรทําทุกสิ่งทุกอยํางด๎วยปัญญา
ข. ควรมีความรู๎สึกผิดชอบชั่วดี
ค. ควรใช๎ปัญญาจะได๎ใจเย็น
ง. กิเลสตัณหาทําให๎ใจร๎อน
จ. มีปัญ ญาเหมือนมีทรัพย๑อยูํนับแสน
๓. “ความรู๎สึกชอบกับรู๎สึกชัง ถือวําเป็นความทุกข๑เทํากัน ความชอบทําให๎ใจฟู ความชังทําให๎ใจแฟบ การดีใจ
และเสียใจ เป็นการทําให๎จิตเหน็ดเหนื่อยเทํากัน ทําให๎เกิดหวั่นไหวทางจิตเทํากันเรียกวํายึดเวทนาเป็นตัวตน”
การอธิบายชนิดนี้จัดอยูํในรูปแบบใด
ก. ตีความ
ข. วิเคราะห๑
ค. สังเคราะห๑
ง. ประเมินคํา
จ. แปลความ
๔. ข๎อใดเป็นใจความสําคัญของข๎อความตํอไปนี้
ความตายเป็นเพียงการเดินทาง ไปสูํบ๎านหลังใหมํไมํมีใครเคย “ตาย” ไปจากหัวใจของคนที่รัก ตราบใด
ที่เรายังระลึกถึง คนที่เรารักก็ยังคง “มีชีวิต” อยูํตราบนั้น ไมํมีวันแตกดับไปตามกาลเวลา
ก. ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต๎องพบ
ข. การตายเป็นการเปลี่ยนที่อยูํใหมํ
ค. ผู๎ตายยังคงอยูํในใจของผู๎ที่รักเขา
ง. ผู๎ตายแล๎วยังมีผู๎ระลึกถึงอยูํเสมอ
จ. ความตายต๎องมีการแตกดับไปตามกาลเวลา
๔
อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคาถาม ข้อ ๕
“ความคิดที่วําผู๎หญิงเป็นเพศที่ละเอียดอํอนกวําผู๎ชาย รักสวยรักงาม ไมํคํอยใช๎เหตุผล แตํมีญาณหยั่งรู๎
อะไรบางอยํางที่ดีกวําผู๎ชาย ฯลฯ ล๎วนเป็นความคิดที่ได๎มาจากบทบาททางสังคมและเศรษฐกิจของผู๎หญิงใน
สมัยกํอนเสียเป็นสํวนใหญํ ฉะนั้น “ธาตุแท๎ ของผู๎หญิงตามความเข๎าใจของคนทั่วไปนั้น เอาจริงก็เป็นวัฒนธรรม
นั่นก็คือ เป็นสิ่งที่มนุษย๑สร๎างขึ้นมาเอง จะมีในธรรมชาติความเป็นผู๎หญิงจริง ๆ หรือเปลําก็ไมํทราบได๎”
๕. ข๎อใดอนุมานได๎วําเป็นความคิดของผู๎เขียน
ก. หญิงเกํงกวําชายทางด๎านบทบาททางสังคม
ข. ผู๎หญิงแตกตํางจากผู๎ชายเพราะมีหน๎าที่และบทบาทตํางกัน
ค. หญิงชายมีความรู๎สึกและพฤติกรรมเนื่องจากสภาพแวดล๎อม
ง. โดยแท๎จริงแล๎วผู๎หญิงก็เป็นวัฒนธรรมที่มนุษย๑สร๎างขึ้นนั่นเอง
จ. หญิงชายเกิดมาเหมือนกัน แตํแตกตํางกันเพราะมีเพศเป็นตัวกําหนด
๖. ข๎อใดเป็นจุดประสงค๑ของผู๎แตํงบทประพันธ๑ตํอไปนี้
บ๎านเมืองลําบากยากเข็ญ หนุํมสาวยังเลํนขายข๎าวของ
บ๎านเมืองเรํงหาปัญญาครอง หนุํมสาวยังฉลองไมํเลิกรา
ขึ้นอุดมศึกษายังทารก โลกแขํงขันสกปรกไมํรอทํา
พวกกินเมืองยํอมยินดีปรีดา เมืองนี้นักศึกษาไมํยอมโต
ก. ต๎องการให๎นักศึกษาพัฒนาประเทศ
ข. ชี้ให๎เห็นปัญหาการฉ๎อราษฎร๑บังหลวง
ค. ต๎องการเห็นนักศึกษาเป็นปัญญาชนที่แท๎จริง
ง. ชี้ให๎เห็นวําปัจจุบันบ๎านเมืองอยูํในภาวะวิกฤต
จ. ต๎องการให๎นักศึกษาเห็นความสําคัญของกิจกรรม
๗. ข๎อใดไมํอาจอนุมานได๎จากข๎อความของผู๎เขียน
ก. มนุษย๑คือปุถุชนมีทั้งดีและเลวปนกัน
ข. คนดีบางคนอาจจะไมํใชํคนดีที่แท๎จริง
ค. มนุษย๑อาจมีทั้งความดีและความเลวอยูํในตัว
ง. เวลาเป็นสิ่งที่ชํวยตัดสินความดีเลวของคนได๎
จ. คนเรามีโอกาสทําความเลวได๎มากกวําทําความดี
๕
๘. ข๎อใดเป็นแนวคิดสําคัญของข๎อความนี้
“เหนือบรรพตสดใสนําใหลหลง กวีลงสรงสนานในธารศิลป์
โปรยสุคนธ๑ปนมาในวาริน อบอวลกลิ่นหอมกรุํนถึงรุํนเรา
ใครได๎ลงสรงสนานในธารนี้ คงชีวีกี่กัปไมํอับเฉา
กลิ่นกลํอมโลกโศกสรํางลงบางเบา เชิญรับเอาอายสุคันธ๑ทั่วกันเอย ”
ก. ชีวิตกับบทกวี
ข . อิทธิพลของงานกวี
ค. อานุภาพของงานศิลป์
ง. ความรื่นรมย๑ของมวลกวี
จ. ความเย๎ายวนของธารศิลป์
๙. ข๎อใดสะท๎อนความรู๎สึกของผู๎แตํงคําประพันธ๑ตํอไปนี้ได๎ตรงที่สุด
“เมื่อเมืองคนคั่งคับด๎วยคนป่า คนดีก็ด๎อยคําเหมือนกรวดหิน
เมื่อสัตว๑ป่าสร๎างป่าไว๎หากิน สัตว๑เมืองก็ต๎องสิ้นวิสัยเมือง ”
ก. โกรธแค๎น
ข. สมเพช
ค. ท๎อแท๎
ง. อนาถใจ
จ. เสียใจ
อ่านบทเพลงต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑๐-๑๑
เพลง ดอกหญ้าในป่าปูน
“หัวใจติดดินสวมกางเกงยีนส๑เกํา ๆ ใสํเสื้อตัวร๎อยเก๎าเก๎า กอดกระเป๋าใบเดียวติดกายกราบลาแมํพํอ หลังจากเรียนจบ
ม.ปลาย ลาทุํงดอกคูนไสว ไปอาศัยชายคาป่าปูน เอาแรงเป็นทุน แลกกับเงินเดือนต่ํา ๆ เก็บเงินเข๎าเรียนภาคค่ํา
กํอความหวังบนทางเปื้อนฝุ่น สังคมเมืองใหญํขาดแคลนน้ําใจเจือจุน ใช๎ความอดทนเติมทุน ให๎ยืนสู๎ไหวทุกวัน
อยูํเมืองสวรรค๑แตํเป็นคนชั้นติดดิน เป็นผู๎รับใช๎จนชิน หูได๎ยินแตํคําสั่งงาน แตํยังยิ้มได๎ หัวใจเหมือนดอกหญ๎าบาน
ถึงอยูํในที่ต่ําชั้นแตํก็บานได๎ทุกเวลา หัวใจติดดินสวมกางเกงยีนส๑เกํา ๆ ใสํเสื้อตัวร๎อยเก๎าเก๎า แตํใจสาวบํด๎อยราคา
หวังไว๎วันหนึ่งเรียบจบชั้นที่เฝ้ารอมา จะสวมมงกุฎดอกหญ๎า ถํายรูปปริญญาหวนมาบ๎านเรา”
๖
๑๐. คําวํา ดอกหญ้าในป่าปูน มีความหมายตรงกับข๎อใด
ก. หญิงสาวโรงงาน
ข. ผู๎หญิงทํางานตอนกลางคืน
ค. ผู๎หญิงที่มีอาชีพเป็นคนรับใช๎
ง. หญิงสาวชาวบ๎านที่มีฐานะยากจน
จ. หญิงสาวตํางจังหวัดทํางานในเมืองหลวง
๑๑. เนื้อหาของเพลงนี้ต๎องการสะท๎อนให๎เห็นสิ่งใด
ก. ชีวิตของผู๎หญิงในเมืองกรุง
ข. การถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ๎างแตํก็ยังทนได๎
ค. ถึงแม๎จะยากจนก็อาจจะเรียบจบระดับปริญญาได๎
ง. การใช๎ชีวิตของคนเมืองหลวงที่ต๎องตํอสู๎เพื่อความอยูํรอด
จ. ผู๎หญิงคนหนึ่งที่มีความพยายามตํอสู๎อุปสรรคเพื่อความสําเร็จ
๑๒. ชายคนหนึ่งนั่งดื่มเหล๎าทั้งวัน พร่ําพูดแตํคําวํา.............จน เครียด กินเหล๎า จน เครียด กินเหล๎า จน เครียด
กินเหล๎า...........เลิกเหล๎า เลิกจน เริ่มต๎นเข๎าพรรษานี้..........
จากโฆษณานี้นักเรียนคิดวําข๎อใดคือปัญหาสําคัญของชายคนนี้
ก. เหล๎า
ข. ความจน
ค. ความเครียด
ง. เลิกเหล๎าไมํได๎
จ. ปัญหาครอบครัว
อํานข๎อความตํอไปนี้แล๎วตอบคําถามข๎อ ๑๓-๑๔
๑. สิ่งนั้นคือความรักของผู๎คน
๒. คนเราอาจขึ้นสูํความสําเร็จได๎ด๎วยความสามารถ
๓. แตํจะอยูํได๎นานมั่นคงและมีความสุขก็ต๎องมีมือวิเศษโอบอุ๎ม
๔. ความรักจะเกิดได๎ตํอเมื่อมีบุคลิกต๎องตา วาจาต๎องใจ ภายในล้ําเลิศ พฤติกรรมมีเสนํห๑
๗
๑๓. จงเรียงลําดับข๎อความให๎เหมาะสม
ก. ๑ ๒ ๓ ๔
ข. ๒ ๓ ๔ ๑
ค. ๒ ๓ ๑ ๔
ง. ๔ ๒ ๓ ๑
จ. ๔ ๓ ๒ ๑
๑๔. ข๎อใดเป็นใจความสําคัญของข๎อความข๎างต๎น
ก. ความสําเร็จเกิดจากความสามารถ
ข. ความรักบันดาลให๎เกิดความสําเร็จ
ค. คนเราจะสําเร็จได๎ต๎องมีคนมาชํวยเหลือ
ง. ความรักเกิดจากการบริหารกาย วาจา ใจ ให๎มีเสนํห๑
จ. ความสําเร็จที่มั่นคงและทําให๎มีความสุขเกิดจากความรัก
๑๕. “คนเราถึงจะเป็นใหญํปานใดก็ดี ยังคงมีผู๎อื่นหรือสิ่งอื่นที่ใหญํกวํา ซึ่งถ๎าเป็นผู๎มีความคิดชอบก็จะต๎องเคารพ
นับถือ แม๎พระบรมศาสดาที่เรานิยมวําประเสริฐกวํามนุษย๑ทั้งปวง ก็ยังทรงแสดงคารวะตํอพระธรรม”
ข๎อใดไมํอาจอนุมานได๎วําเป็นบุคลิกภาพของผู๎เขียน
ก. มีคุณธรรม
ข. อํอนน๎อมถํอมตน
ค. มีความคิดเฉียบคม
ง. มีความรู๎ทางวิชาการสูง
จ. ปฏิบัติศีล ๕ อยํางเครํงครัด
๑๖. ในข๎อความตํอไปนี้ “หัวใจของธุรกิจนี้” มีความหมายตามข๎อใด
“หัวใจของธุรกิจนี้แตกตํางจากที่อื่น ซึ่งอาจจะสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ๑ที่ดีเลิศบ๎าง ขยายเครือขําย
อยํางกว๎างขวางบ๎าง สํวนเราต๎องยืนหยัดให๎ได๎ทํามกลางความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล๎อม”
ก. ความมั่นคงขององค๑กร
ข. คุณภาพของสินค๎า
ค. ความมีสัมพันธภาพที่ดี
ง. การเติบโตของธุรกิจ
จ. ความก๎าวหน๎าของธุรกิจ
๘
๑๗. ข๎อใดไมํอาจอนุมานได๎จากข๎อความตํอไปนี้
“การไมํกินอาหารเช๎าจะทําให๎รํางกายขาดพลังงาน และจะมีผลตํอการเรียนรู๎และความจํา เพราะสารอาหาร
หลักที่ให๎พลังงานคือกลูโคสจากอาหาร ดังนั้นการกินอาหารเช๎าจึงทําให๎สมองทํางานได๎ดี โดยเฉพาะเด็กนักเรียน
จะชํวยให๎มีสมาธิในการเรียน”
ก. ผู๎ใหญํอาจงดอาหารเช๎าได๎เพราะไมํได๎อยูํในวัยเรียน
ข. อาหารเช๎ามีประโยชน๑เพราะทําให๎รํางกายได๎รับพลังงาน
ค. ทุกคนควรกินอาหารเช๎าเพราะจะชํวยการทํางานของสมอง
ง. นักเรียนควรกินอาหารเช๎าเพราะจะชํวยให๎เรียนหนังสือได๎ดีขึ้น
จ. ในวัยเด็กหรือผู๎ใหญํก็ต๎องทานอาหารเช๎าเพราะจะชํวยในการทํางานของสมอง
๑๘. ข๎อใดไมํมีน้ําเสียงประชด
ก. หมํอมฉันมิบังอาจนั่งรํวมบัลลังก๑อาสน๑กับสมเด็จพระอัยกาได๎ เพราะหมํอมฉันเป็นเพียงสามัญชน
ข. ถึงพี่จะรุํงเรืองไปเบื้องหน๎า ก็ไมํพึ่งวาสนาอยําอวดอ๎าง ดีแตํจะมาพานรานทางไมํอดสูใจบ๎างหรืออยํางไร
ค. จึงออกมาวํากับลูกสาว ชํางทําความงามฉาวอีคนชั่ว เสียยศเสียศักดิ์ไมํรัก ตัวเลือกผัวได๎เงาะเห็นเหมาะใจ
ง. อันผัวพี่ดีเหลือเป็นเนื้อหนํอ เห็นตํอจะบุญหนักศักดิ์ใหญํ รูปรํางน๎อยจ๎อยอรํอยใจ จงกอดไว๎เถิดคํะ
อยําละวาง
จ. เออคํะกระนั้นและจริงอยูํ รูปรํางผัวกูไมํสู๎เหมาะที่ไหนจะงามพร๎อมเหมือนหมํอมเงาะ ใครเห็นก็หัวเราะ
วํารูปงาม
๑๙. ข๎อใดแสดงเจตนาที่ชัดเจนที่สุดของข๎อความตํอไปนี้
ขวานไทยไมํมีด๎ามนําไปใช๎ยํอมไร๎พลัง คนไทยไมํเคยแบํงข๎างไทย แขก จีน ฝรั่งที่เกิดเมืองไทยใต๎รํม
บรมโพธิสมภาร พระเจ๎าอยูํหัว พระราชินีทรงหํวงใย ลูกเอยหลานเอยล๎วนคนไทย มาสร๎างฝันวันใหมํ
ให๎ขวานไทยใจหนึ่งเดียว
ก . เตือนให๎คนไทยรักสามัคคี
ข. กระตุ๎นให๎คนไทยมีความหวัง
ค.. ย้ําให๎สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ง. คนไทยควรมีจิตสํานึกและรักความเป็นไทย
จ. ชี้ให๎เห็นความสําคัญของแผํนดินไทยทุกสํวน
๙
๒๐. ผู๎กลําวข๎อความตํอไปนี้มีจุดประสงค๑ตามข๎อใด
ต๎นไม๎น๎อย ๆ ยังให๎ออกซิเจนแกํโลก ดอกไม๎น๎อย ๆ ยังให๎ความเพลินตาแกํมนุษย๑ ผีเสื้อและนกกา
บินไปมายังให๎ความสบายตาแกํผู๎พบเห็น เราเกิดมาชาติหนึ่งจะไมํให๎อะไรแกํแผํนดินที่เราเกิดมาบ๎างหรือ
ก. ให๎เห็นคุณคําของทรัพยากรของโลก
ข. ให๎รู๎จักบุญคุณของธรรมชาติ
ค. ให๎ทําตนให๎มีประโยชน๑ตํอสํวนรวม
ง. ให๎เห็นประโยชน๑ของสรรพสิ่งในโลก
จ. ให๎รํวมกันอนุรักษ๑และพัฒนาสิ่งแวดล๎อม
๒๑. “แดดยามบํายเริ่มอํอนแสงลง เราจอดรถหน๎าพระพุทธรูปยืนขนาดใหญํที่สลักบนแผํนผาเบื้องใต๎พระบาท
ตรงหน๎าเรียงรายไปด๎วยต๎นลั่นทม ซึ่งกําลังออกดอกสีขาวนวลสะพรั่ง ดั่งดอกไม๎บูชารูปรอยที่คนสมัยหนึ่ง
ได๎ขึ้นไปถึงศิลปะแหํงการรังสรรค๑ ทั้งในด๎านพลังอารมณ๑สุนทรียภาพ และจินตนาการแหํงศรัทธา”
ก. บรรยายโวหารและพรรณนาโวหาร
ข. พรรณนาโวหารและอุปมาโวหาร
ค. พรรณนาโวหารและสาธกโวหาร
ง. บรรยายโวหารและอุปมาโวหาร
จ. บรรยายโวหารและสาธกโวหาร
๒๒. ข๎อใดเรียงลําดับข๎อความแบบข๎อคิดเห็น-ข๎อเท็จจริง
ก. ปัจจุบันคนไทยในเมืองหลวงไมํคํอยรู๎จักระด๎งกันแล๎ว นอกจากชาวชนบท
ข. กระด๎งที่เคยใช๎ฝัดข๎าวก็แทบหมดความหมายเมื่อมีเทคโนโลยีมาใช๎ คือ โรงสีข๎าว
ค. นํากระด๎งมาเป็นอุปกรณ๑ในการตากอาหารที่ต๎องการถนอมชาวชนบทจึงต๎องมีไว๎ใช๎
ง. กระด๎งเป็นเครื่องมือใช๎ประจําครัวเรือนในชนบทนํามาใช๎ประโยชน๑มากมายหลายด๎าน
จ. คนภูไทจังหวัดสกลนครยังจักสานกระด๎งเป็นอาชีพนํารายได๎สูํหมูํบ๎านปีละ 2 - 3 ล๎านบาท
๒๓. ข๎อความตํอไปนี้โน๎มน๎าวใจด๎วยวิธีใด
“แผํนดินนี้เป็นของไทย บรรพบุรุษของเราได๎อุทิศชีวิตเป็นชาติพลีเพื่อปกป้องแผํนดินนี้เอาไว๎ เราจัดต๎อง
รักษา แผํนดินนี้สืบไป จะไมํยอมให๎ผู๎ใดมาแยํงชิง แผํนดินนี้ของเราไป
ก. อ๎างคนสํวนใหญํ ข. อ๎างบุคคลหรือสถาบัน ค. กลําวแตํสิ่งทีเป็นประโยชน๑แกํตน
ง. การกลําวรวม ๆ ด๎วยถ๎อยคําหรูหรา จ. กลําวรวม ๆ ด๎วยถ๎อยคําเร๎าอารมณ๑
๑๐
๒๔. ข๎อใดใช๎ภาษาในการเขียนรายงานทางวิชาการได๎เหมาะสมที่สุด
ก. ตึกระฟ้าทั้งหลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให๎ลมพัดเข๎าสูํตัวเมือง
ข. ถ๎าคุณเป็นไข๎ ระดับปรอท ในหลอดแล๎วสวํางจะคํอย ๆ สูงขึ้นทีละนิด
ค. ฝุ่นที่เกิดจากการกํอสร๎าง และควันจากโรงงานลอยอยูํทั่วไปในอากาศ
ง. ถ๎ายังมีฝุ่นและควันมากเชํนนี้ กรุงเทพฯ ก็คงมิใชํเมืองฟ้าอมรอีกตํอไป
จ. สิ่งกํอสร๎างเหลํานี้เป็นตัวการสําคัญ ที่สกัดกั้น ไมํให๎ฝุ่นละอองกระจายไปในมุมกว๎าง
๒๕. ข๎อใดเว๎นวรรคตอนได๎ดีที่สุดในการเขียน
ก. คําวํา/ปรัชญา/หมายถึง/บัตรที่แสดงวิทยฐานะ/ของผู๎สําเร็จการศึกษาขั้นปรัญญาแล๎ว
ข. คุณยายคนนี้อายุ 90 กวํา/แล๎วแตํแข็งแรงมี/เดินเหินคลํองแคลํวไมํเคยเจ็บป่วยเป็นอะไรเลย
ค. กาลยํอมลํวงไป/ราตรียํอมผํานไปวันและวัยยํอมลํวงลําดับไป/ผู๎เห็นภัยแหํงมรณะฟังทําบุญอันนําสุขมาให๎
ง. ในวาระขึ้นปีใหมํนี้/ขอให๎ทํานและครอบครัวจงเจริญด๎วยจตุรพิธพร/คือ/อายุ/วรรณะ/สุขะ/พละ/เป็นนิตย๑เทอญ
จ. บริษัทการบินสํารองที่นั่งไว๎เผื่อบุคคลสําคัญที่/มีความจําเป็นจะต๎องเดินทางอยํางกะทันหัน/และไมํได๎จองที่นั่งไว๎ลํวงหน๎า
๒๖. ข๎อใดควรเป็นคํานําของเรียงความเรื่อง “เกาะพีพี”
ก . เกาะพีพีมีถ้ําไวกิ้งที่สวยงาม
ข . เกาะพีพีเป็นหมูํเกาะที่สวยที่สุดแหํงหนึ่ง
ค . เกาะพีพีเป็นเกาะที่มีน้ําทะเลใสสะอาดมาก
ง . เกาะพีพีเป็นเกาะที่มีทิวทัศน๑โดยรอบงดงาม
จ . เกาะพีพีสมควรได๎รับการยกยํองวําสวยงามที่สุด
๒๗. ข๎อใดมีการอธิบายจากผลไปหาเหตุ
ก . ใครจะเอาเป็นผัวเขากลัวอาย หัวหูเหมือนควายที่ตกปลัก
ข. ด๎วยเดชะพระเวทวิเศษประสิทธิ์ เผอิญคิดรักใครํพระทัยอํอน
ค . ด๎วยขุนช๎างอ๎างวํารับสั่งให๎ ใครจะขัดขืนไว๎ก็กลัวผิด
ง . ขุนช๎างชิงนางออกจากห๎อง ข๎าจึงลักวันทองเข๎าป่าใหญํ
จ . ใครจะควรสูํสมอยูํกลมเกลียว ให๎เด็ดเดี่ยวรู๎กันแตํวันนี้
๒๘. ข๎อใดมีประโยคภาษาตํางประเทศ
ก. ทุก ๆ วันฉันจะไปโรงเรียนแตํเช๎าเพื่อไปรอเข๎าแถวเคารพธงชาติ “ฉันรักประเทศไทย”
ข . สองสามเดือนตํอมา จําแหวนมากระซิบกระซาบกับผมในลานจอดรถอีกวําเป็นโรคกระเพาะ
และขณะนี้อาการกําเริบ
๑๑
ค. ฉันเปิดประตูห๎องพักแล๎วออกมายืนที่ระเบียง ในเวลานั้นเองทํามกลางความสลัวรางของมํานฝน
ฉันเห็นมันคํอย ๆ เอนตัวลงมาช๎า ๆ
ง. ครอบครัวนริศเหมือนครอบครัวเขา ประหนึ่งถอดออกจากพิมพ๑เดียวกันคือพํอเป็นผู๎นําก็จริงแตํเป็น
เมืองขึ้นของแมํโดยตลอด
จ. เมื่อสุดสาคร อายุ ๓ ปี ได๎พบสัตว๑ประหลาดตัวหนึ่งอยูํในถ้ํา ตัวเป็นม๎าสีดําแตํหน๎าเหมือนมังกร
และหางเหมือนพญานาคมีเขี้ยวเป็นเพชร เกล็ดเป็นนิล ลิ้นเป็นปาน
๒๙. ข๎อใดไมํมีการเปรียบ
ก. แมลงภูํคูํเคียงวําย เห็นคล๎ายคล๎ายนําเชยชม
ข. ปลาทุกทุกข๑อกกรม เหมือนทุกข๑พี่ที่จากนาง
ค. งามทรงวงดั่งวาด งามมารยาทนาดกรกราย
ง. สร๎อยทองยํองเยื้องชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร
จ. สรมุขมุขสี่ด๎าน เพียงพิมานผํานเมฆา
๓๐. ข๎อใดขาดสัมพันธภาพในการเขียน
ก. พิษณุโลกเป็นเมืองที่นําอยูํ ผู๎คนก็มีอัธยาศัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผํ
ข. นอกจากได๎ทํองเที่ยวดูธรรมชาติริมคลองแล๎วทุกคนยังได๎กินก๐วยเตี๋ยวเรือที่ขายในคลองอีกด๎วย
ค. ถึงแม๎น้ําประปาของไทยจะมีคุณภาพดี แตํก็ยังต่ํากวํามาตรฐานน้ําดื่มขององค๑การอนามัยโลก
ง. หากผู๎ใดเกิดมาในครอบครัวที่เลี้ยงดูด๎วยความรัก ก็จะทําให๎ผู๎นั้นเติบโตอยํางมีความสุข มีจิตใจที่มั่นคง
จ. รัฐบาลแถลงการณ๑ปราบปรามผู๎ลักลอบขนสินค๎าหนีภาษีแกํสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ เพื่อสํงเสริมจริยธรรม
ของสังคม
๓๑. การเขียนเรียงความเรื่อง “น้ําดีน้ําเสีย”ควรจัดลําดับโครงเรื่องเนื้อหาตามข๎อใด
๑. น้ําเสียมีโทษอยํางไร
๒. วิธีกําจัดน้ําเสียและรักษาน้ําดีอยํางไร
๓. น้ําดีคืออะไร มีประโยชน๑อยํางไร
๔. น้ําดีกลายเป็นน้ําเสียเพราะอะไร
๕. น้ําเสียมีกี่ประเภท อะไรบ๎าง
ก. ๑ ๒ ๓ ๕ ๔
ข. ๕ ๑ ๒ ๓ ๔
ค. ๔ ๑ ๒ ๓ ๕
ง. ๓ ๔ ๕ ๑ ๒
จ. ๓ ๔ ๕ ๒ ๑
๑๒
๓๒. รายงานทางวิชาการสํวนใดใช๎ภาษาไมํเหมาะสม
๑) การเข้าพักอาศัยอยู่กับคนในหมู่บ้านทาให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนเหล่านั้น / ๒) นักวิจัยพบว่า
ต้องทาตัวเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย คลุกคลีตีโมงกับชาวบ้านเพื่อสร้างความสนิทสนมคุ้นเคย / ๓) ปฏิบัติตาม
กฎระเบียบของหมู่บ้าน เคารพสิทธิของเจ้าของพื้นที่ / ๔) ไม่ทาสิ่งที่ขัดแย้งกับข้อปฏิบัติของชุมชน และ
ไม่ลบหลู่ความเชื่อของคนในท้องถิ่น
ก. สํวนที่ ๑
ข. สํวนที่ ๒
ค. สํวนที่ ๓
ง. สํวนที่ ๔
จ. สํวนที่ ๑ และสํวนที่ ๒
๓๓. ข๎อความสํวนใดเหมาะจะใช๎ในจดหมายกิจธุระ
๑) พร้อมกันนี้ผมขออนุญาตส่งเอกสารเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้ามาให้ดูเผื่อจะเป็นประโยชน์กับสมาชิก /
๒) ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องดาเนินการผลิตตามหลักการใหม่นี้จึงจะส่งสินค้ามาขายได้ /
๓) รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการพัฒนาสินค้ามีอยู่อีกมากที่ศูนย์ฯ ถ้าท่านจะแวะไปก็ยินดีต้อนรับ /
๔) หากท่านมีข้อข้องใจสามารถติดต่อได้ในเวลาทาการ ตามหมายเลขโทรศัพท์ท้ายจดหมายนี้
ก. สํวนที่ ๑
ข. สํวนที่ ๒
ค. สํวนที่ ๓
ง. สํวนที่ ๔
จ. สํวนที่ ๓ และ สํวนที่ ๔
๓๔. ข๎อความตํอไปนี้เหมาะจะเป็นสํวนใดของเรียงความเรื่อง “อุดมการณ๑ของชาวจีนในเมืองไทย”
ในบรรดากลุ่มชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองไทยดังกล่าว ชาวจีนแต้จิ๋วนับเป็นกลุ่มที่มีจานวน
มากที่สุด รองลงมาเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน รองลงมาอีกคือชาวจีนไหหลาและชาวจีนกวางตุ้ง ส่วนชาวจีนแคระ
นั้นมีจานวนน้อยที่สุด
ก. สํวนนําเรื่อง
ข. สํวนสรุปเรื่อง
ค. การยกตัวอยําง
ง. สํวนขยายความ
จ. ประเด็นสําคัญของเรื่อง
๑๓
๓๕. ข๎อใดไมํจําเป็นต๎องอ๎างถึงในการเขียนบรรณานุกรมทั้ง ๒ รายการ รศ.ดร.นววรรณ พันธุเมธา. ๒๕๔๙.
คลังคา. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพฯ : บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่งจากัด(มหาชน). ๑๑๓๔ หน้า.
ก. สํานักพิมพ๑ และ จํานวนหน๎า
ข. ครั้งที่พิมพ๑ และ สํานักพิมพ๑
ค. นําหน๎าชื่อผู๎แตํง และ สํานักพิมพ๑
ง. คํานําหน๎าชื่อผู๎แตํง และ ครั้งที่พิมพ๑
จ. คํานําหน๎าชื่อผู๎แตํง และ จํานวนหน๎า
๓๖. ข๎อใดใช๎ภาษาเขียนที่ถูกต๎อง
ก. การออกกําลังกายมีประโยชน๑ทําให๎หุํนเพรียวลมสมสํวน
ข. การฉายภาพยนตร๑โทรทัศน๑เรื่องเดิม ๆ ซ้ํา ๆ ทําให๎คนดูเบื่อ
ค. มัคคุเทศก๑พาคณะนักทํองเที่ยวนั่งรถชมวิวกํอนขึ้นภูกระดึง
ง. นักแขํงจักรยานทีมชาติไทยประสบอุบัติเหตุในการแขํงขันทัวร๑ออฟไทยแลนด๑
จ . การคบคนดีเป็นศรีแกํตัว ทั้งที่พูดอยํางนี้คนที่ขาดปัญญาและขาดสติก็ยังหลงไปคบกับคนที่เลวอยูํได๎
๓๗. ข๎อใดไมํมีลักษณะการเขียนแบบนิราศ
ก. สาลิกามาตามคูํ ชมกันอยูํสูํสมสมร
ข. เห็นฝูงยูงรําฟ้อน คิดบังอรรํอนรํากราย
ค. สร๎อยทองยํองเยื้องชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร
ง. นางนวลนวลนํารัก ไมํนวลพักตร๑เหมือนทรามสงวน
จ. คับแคจับแคสันโดษเดี่ยว เหมือนเปลําเปลี่ยวคับใจในไพรกว๎าง
๓๘. ข๎อใดใช๎โวหารการเขียนตํางกับข๎ออื่น
ก. เสียงผู๎คนตะโกนไปทั่ววํา“ทรงพระเจริญ”แสงแดดที่แผดกล๎ากลับรู๎สึกอบอุํนมีสายลมเย็นๆ แผํวผํานมา
ข . เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น พร๎อมกับเสียงที่ทุกคนเปลํงออกมาวํา “ทรงพระเจริญ”
ก็ดังก๎องไปทั่วบริเวณ
ค. มองไปทางไหนเห็นแตํสีเหลืองอรํามสะพรั่งไปทั่วบริเวณ อาจมีสีอื่นบ๎างจากรํมกั้นกางกันแดด
ดูเป็นสีกระดํากระดํางแซมปนอยูํ
ง. เสียงเหํเรือก๎องกังวานตามผืนน้ํา ทํามกลางแสงอาทิตย๑ยามเย็นก็สาดแสงสีเหลืองทองจับเป็น
ประกายบริเวณหมูํยอดเจดีย๑
๑๔
จ. ทั่วราวป่าสงัดเงียบจนนํากลัว เขาไมํกล๎าแม๎จะขยับตัวไลํยุงที่บินหวูํหวี่อยูํข๎างหูกํอนที่จะเกาะ
กัดและกินเลือดของเขาจนอิ่ม
๓๙. ข๎อใดไมํนําจะเป็นสาเหตุที่ทําให๎มีการพูดประโยคตํอไปนี้
“นําจะดีนะ เราจะได๎ชํวยกันรักษาสิ่งแวดล๎อมด๎วย”
ก. การอนุญาตให๎ค๎าขายบนทางเท๎าได๎โดยไมํมีวันหยุด
ข. การณรงค๑ให๎ใช๎เตาเผาขยะแบบไร๎ควันพิษในโรงงาน
ค. การประกาศให๎นิคมอุตสาหกรรมเป็นเขตปลอดมลพิษ
ง. การเปลี่ยนสถานี ขนสํง เป็นสวนสาธารณะกลางเมือง
จ. นักเรียนชํวยกันปลูกต๎นไม๎สองข๎างทางถนนของโรงเรียน
๔๐. สํานวนในข๎อใดไม่เกี่ยวกับการพูด
ก. พอก๎าวขาก็ลาโรง
ข. ปากหวานก๎นเปรี้ยว
ค. ละเลงขนมเบื้องด๎วยปาก
ง. ไปไหนมาสามวาสองศอก
จ. น้ําร๎อนปลาเป็น น้ําเย็นปลาตาย
๔๑. ข๎อใดเป็นสถานการณ๑ที่แสดงวําการฟังไมํเกิดประสิทธิผล
ก. พิชิตสรุปเนื้อหาที่ฟังได๎ทุกตอน
ข. พิจารณ๑บันทึกข๎อคิดที่ได๎จากการฟัง
ค. พิชัยเลําเรื่องที่ฟังให๎เพื่อนเข๎าใจชัดเจน
ง. พิสุทธิ์ขบคิดวิธีแก๎ปัญหาเรื่องที่กําลังฟัง
จ. พิเชษฐ๑บอกน้ําเสียงของผู๎พูดและตีความได๎
๔๒. บุคคลในข๎อใดขาดมารยาทในการฟัง
ก . สุชาดาสบตาอาจารย๑ขณะฟังบรรยาย
ข . มารตีจดบันทึกหัวข๎อสําคัญที่ได๎จากการฟัง
ค. ขณะฟังบรรยายมาลีมักจะซักถามตลอดเวลา
ง. เมื่อวิทยากรเริ่มบรรยายสิรินาก็นั่งฟังอยํางตั้งใจ
จ. กรองกาญจน๑ปรบมือเสียงดังหลังจากพิธีกรแนะนําผู๎บรรยาย
๑๕
๔๓. ข๎อใดเป็นคําพูดที่เหมาะสมที่สุดของประธานในที่ประชุม
ก. ผมเป็นคนพูดจริง ทําจริง เพราะฉะนั้นกิจกรรมนี้ผมจะเป็นคนดูแลเอง
ข. ผมขอมอบให๎คุณสมชายเป็นฝ่ายเหรัญญิก คุณสมชายจะขัดข๎องไหม
ค. เลขานุการของสมาคมขอลาออก ผมขอให๎ที่ประชุมเสนอชื่อผู๎ที่จะทําหน๎าที่นี้ เพื่อจะได๎มีมติแตํงตั้ง
ตํอไป
ง. ผมขอให๎ที่ประชุมพิจารณาเรื่องสถานที่ที่จะไปทัศนศึกษาและผมเสนอวําเราควรไปเขาค๎อ ผมเคย
ไปมาแล๎วอากาศดีมาก
จ . ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท๑ให๎จัดการประชุมวิชาการ เนื่องในโอกาส 72 พรรษา ผมจะทําโครงการเอง
นะครับ จะได๎ตั้งงบประมาณได๎เร็ว
๔๔. ข๎อใดไม่มีคําสมาส
ก. บทความบางเรื่องมีแผนภูมิประกอบ
ข. คณะนาฎศิลป์ไทยไปแสดงตํางประเทศ
ค. หนังสือที่มีอายุครบ 50 ปีแล๎วไมํมีคําลิขสิทธิ์
ง. ทหารที่สละชีพเพื่อชาติได๎รับการยกยํองให๎เป็นวีรบุรุษ
จ. นักเรียนไทยมีภูมิปัญญาสู๎ชาวตํางชาติได๎สบาย
๔๕. พยางค๑สุดท๎ายของคําในข๎อใดมีลักษณะเป็นพยางค๑ปิดทั้งหมด
ก. ระเรื่อ ผ๎าไหม ลําน้ํา
ข. ชําแหละ ดื่มด่ํา คันไถ
ค. เสียใจ จําใจ ทุกข๑ใจ
ง . สมาธิ ล๎มเหลว เกมโชว๑
จ . ใจเบา สร๎างสรรค๑ หวั่นไหว
๔๖. ภรรยา : ไปเที่ยวทะเลกันนะคะ
สามี : วันอะไรดี
ภรรยา : นําไปซะศุกร๑นี้แหละ
สามี : ก็ต๎องตระเตรียมของ
คําสนทนานี้ หากนํามาจัดวรรคใหมํ จะได๎คําประพันธ๑ตามข๎อใด
๑๖
ก. กลอน
ข . รํายยาว
ค. กาพย๑ยานี
ง. โคลงสี่สุภาพ
จ . อินทรวิเชียรฉันท๑
๔๗. กลุํมคําในข๎อใดเป็นนามวลีทั้งหมด
ก. สุดสายป่าน รักในมํานเมฆ คูํกรรม
ข. โรงเรียนของเรา สูงเทียมฟ้า วิมานดิน
ค. ฟ้าเพียงดิน สุดแดนสยาม เด็กเลี้ยงแกะ
ง. นกบนต๎นไม๎ วิ่งออกกําลังกาย ข๎างหลังภาพ
จ . ผู๎บริหารโรงเรียน นายกสมาคม ทหารประจําการ
๔๘. คําภาษาอังกฤษในข๎อใดใช๎คําไทยแทนไมํได๎
ก. จินดาทําข๎อสอบหลายวันจนรู๎สึกเบลอไปหมด
ข. จิตเสมอ ไปหาหมอเพื่อใช๎แสงเลเซอร๑รักษาผิวหน๎า
ค . จินตหรา เป็นดีไซเนอร๑ประจําห๎องเล็กที่มีชื่อเสียง
ง. จงใจเป็นวิสัญญีแพทย๑ระดับอินเตอร๑ของโรงพยาบาลนี้
จ. นักฟุตบอลไทยได๎โค๎ชจากตัวประเทศทําให๎เลํนดีขึ้น
๔๙. ข๎อความในข๎อใดมีเสียงสระประสมอยูํด๎วย
ก. เสือสั่งฟ้า
ข. รักปาฏิหาริย๑
ค. กุหลาบซาตาน
ง. มงกุฎไร๎หนาม
จ. สุดแตํใจจะไขวํคว๎า
๕๐. เสียงของพยางค๑ในข๎อใดมีโครงสร๎างตํางกับข๎ออื่น
ก. ฝูง
ข. เลย
ค. บอด
ง. ควาน จ. หลาก
๑๗
๕๑. ข๎อใดมีคําที่แสดงวัจนภาษา
ก. แม๎มากผิกิ่งไม๎ ผิวใครจะใครํลอง
มัดกํากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน
ข. นิ่งเงียบสงบงํา บมิทําประการใด
ปรากฏประหนึ่งใน บุรวํางและร๎างคน
ค. ปรึกษาหารือกัน ไฉนนั้นก็ทําเนา
จักเรียกชุมนุมเรา บแลเห็นประโยชน๑เลย
ง. ลูกขํางประดาทา รกกาลขว๎างไป
หมุนเลํนสนุกไฉน ดุจกันฉะนั้นหนอ
จ. บงเนื้อก็เนื้อเต๎น พิศเส๎นสรีรัว
ทั่วรํางและทั้งตัว ก็ระริกระริวไหว
๕๒. ข๎อใดใช๎ภาษาระดับทางการ
ก. ปีใหมํปีนี้ดูๆ แล๎วบรรยากาศเงียบเหงานะ
ข . วิถีชีวิตไทยริมสองฝั่งน้ํากลับมาคึกคักอีกครั้ง
ค. ถนนการลงทุนทุกสายตํางเรํงปัดฝุ่นเศรษฐกิจฟื้นจุดขาย
ง . เมื่อกระบวนเหํเรือพระราชพิธีในแมํน้ําเจ๎าพระยาปิดฉากลง
จ. กระทรวงการทํองเที่ยวและกีฬาสํงเสริมการทํองเที่ยวเชิงอนุรักษ๑
๕๓. ข๎อใดไมํมีคําราชาศัพท๑
ก. ผมเปลือยเลื้อยประลงจนบํา งามปลายเกศาดูสมศรี
ข. พระตรัสถามความอยํางราษฎร ฮ๎าเฮ๎ยดูกํอนอีวันทอง
ค . จะกลําวถึงพระองค๑ผู๎ทรงเดช เสด็จคืนนิเวศน๑พอจวนค่ํา
ง. ทอดพระเนตรมาเห็นขุนนางเฝ้า เออใครเอาฟ้องมันไปไว๎ไหน
จ. มันก็จะสอดแนมแกมเท็จ ไปกราบทูลสมเด็จพระพันวษา
๕๔. ข๎อใดเป็นการแสดงทรรศนะ
ก. ฉันได๎พบเรื่องขันอันแปลกยิ่ง แตํมิใชํเรื่องจริงดอกหนาทําน
ข. ขอตอกย้ําการกระทําเหนือคําพูด ขอพิสูจน๑ตัวตนของคนแกรํง
ค. เปลก็ไกวดาบก็แกวํงแข็งหรือไมํ ไมํอวดหยิ่งหญิงไทยมิใชํชั่ว
ง. โจรผู๎ร๎ายหมายใจจะได๎ทรัพย๑ โปรดให๎สับทิ้งซากตากสถาน
จ. ฝ่ายขุนนางกรมทําวํากระไร ละครในรําช๎าช๎าเป็นทําทาง
๑๘
๕๕. ข๎อใดควรเป็นประเด็นหลักของการโต๎แย๎งในหัวข๎อ “ ขุดเจ๎าพระยา ๒ เพื่อป้องกันน้ําทํวมกรุงเทพฯ”
ก. ป้องกันน้ําทํวมได๎จริงหรือ
ข. ขุดคลองเจ๎าพระยาเพื่อใคร
ค. ผลได๎ผลเสียจะคุ๎มกันหรือไมํ
ง. เราขี่ช๎างจับตั๊กแตนกันหรือเปลํา
จ. ควรตั้งชื่อคลองที่ขุดใหมํวําอะไร
๕๖. ข๎อใดมีคําประสมทุกคํา
ก. ติดลม ติดใจ ติดขัด
ข. น้ําไหล น้ํามือ น้ําตา
ค. คําขาด คําคม คําราม
ง. น้ําป่า น้ําไหล น้ํามือ
จ. เดินแต๎ม เดินรถ เดินสะพัด
๕๗. ข๎อใดใช๎คําลักษณะนามไมํถูกต๎อง
ก. รัฐบาลมีปัญหาเรํงดํวนที่ต๎องรีบแก๎ไขหลายเรื่อง
ข. เขาสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของหนํวยงานได๎ครบทุกข๎อ
ค. คณะกรรมการกําลังพิจารณาคําขวัญที่สํงเข๎าประกวด ๕๐ บท
ง. นักวิชาการเสนอข๎อคิดเห็นไว๎ในบทสรุปของรายงานหลายประการ
จ. บุญมาอํานหนังสือเรียนทุกวัน เขาอยากเข๎าเรียนในมหาวิทยาลัยให๎ได๎
๕๘. ข๎อความตํอไปนี้มีบุพบทและสันธานกี่คํา
คนไทยสมัยโลกาภิวัตน๑ได๎เปรียบคนไทยรุํนกํอนในด๎านที่มีความรู๎กว๎างขวาง เพราะสามารถแสวงหา
ความรู๎ได๎จากแหลํงตํางๆ ทั้งหนังสือ วิทยุ โทรทัศน๑ และคอมพิวเตอร๑
ก. บุพบท ๑ คํา สันธาน ๓ คํา
ข. บุพบท ๒ คํา สันธาน ๓ คํา
ค. บุพบท ๑ คํา สันธาน ๔ คํา
ง. บุพบท ๒ คํา สันธาน ๔ คํา
จ. บุพบท ๓ คํา สันธาน ๔ คํา
๕๙. ข๎อใดเป็นประโยคความซ๎อน
ก. สุภาพสตรีผู๎รักสวยรักงามก็ต๎องศึกษาข๎อมูลทางอินเทอร๑เน็ตกํอน
ข. ปัจจุบันระบบอินเทอร๑เน็ตมีบทบาทอยํางมากทั้งในหมูํวัยรุํนและวัยผู๎ใหญํ
๑๙
ค. ทุกวันนี้เราจะสังเกตเห็นวํามีอินเทอร๑เน็ตคาเฟ่แฝงอยูํในธุรกิจหลายประเภท
ง. โลกของอินเทอร๑เน็ตมีสารประโยชน๑ ความบันเทิง ความรู๎ และการสื่อสารมากมาย
จ. ในร๎านอาหาร โรงแรม สปา ห๎างสรรพสินค๎า และโรงพยาบาลบางแหํงมีมุมของอินเทอร๑เน็ตคาเฟ่ทั้งนั้น
๖๐. ข๎อใดมีเสียงพยัญชนะท๎ายพยางค๑ทุกคํา
ก. ฉันจะไปเที่ยวทะเลในวันหยุด
ข. เขาทํางานจนภารโรงปิดห๎อง
ค. คุณยายเป็นลมเมื่ออํานจดหมายจบ
ง. ต๎นกล๎วยริมรั้วลวดหนามออกเครือแล๎ว
จ. ภาคใต๎ได๎รับความเสียหายจากคลื่นยักษ๑
๖๑. ข๎อใดไมํมีคําพ๎องความหมาย
ก . ไอยรา ราชสีห๑ กุญชร
ข . ลําธาร ชลาสินธุ๑ มัจฉา
ค . เทเวศร๑ อัจฉรา สุรารักษ๑
ง . สิงขร เวหาสน๑ วนาดร
จ . อนงค๑ กัลยา ดรุณี
๖๒. ข๎อใดเขียนคําทับศัพท๑ภาษาอังกฤษได๎ถูกต๎องทุกคํา
ก. เปอร๑เซ็น พลาสติค คลินิก
ข. ซอส เต็นท๑ เบ็นซิน
ค. กร๏าฟ ช๎อค สปริง
ง. สวิตซ๑ เชิ๊ต ดีเปรสชั่น
จ. โน๎ต แสตมป์ เค๎ก
๖๓. “สัมพันธภาพระหวํางเขากับเธอถึงจุด...................กันเสียแล๎ว”
ก. แตกร๎าว
ข. แตกหัก
ค. แตกดับ
ง. แตกยับ
จ. แตกแยก
๒๐
๖๔. “ถึงยากจนอยํางไรก็ไมํวํา แตํพร๎าขัดหลังมาจะยกให๎
อุตสําห๑ทํามาหากินไป รู๎ทํารู๎ได๎ด๎วยงํายดาย ”
ผู๎กลําวข๎อความนี้เป็นคนอยํางไร
ก. ชอบคนจน
ข. ชอบคนวํางําย
ค. ชอบคนมีความรู๎
ง. ชอบคนขยันทํามาหากิน
จ. ชอบคนที่มีอุปกรณ๑ในการทํามาหากิน
๖๕. พายุกระพือโหม คระโครมโครมทุกคืนค่ํา
กล๎ายืนแลกล๎าย่ํา จึ่งรู๎กลวิธียืน
คําประพันธ๑นี้ชี้ให๎เห็นทรรศนะของผู๎เขียนวําคนที่สามารถดํารงชีวิตให๎ดีอยูํได๎นั้นจะต๎องมีบุคลิกลักษณะ
เชํนไร
ก. มีความแข็งแกรํง
ข. มีความแข็งขัน
ค. มีความแข็งแรง
ง. มีความแข็งกล๎า
จ. มีความแข็งกร๎าว
๖๖. ข๎อใดใช๎คําเลียนเสียงธรรมชาติได๎ชัดเจนที่สุด
ก. รอนรอนสุริยโอ๎ อัสดง
เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ําแล๎ว
ข. เรียมร่ําน้ําเนตรถ๎วม ถึงพรหม
พาหมูํสัตว๑จํอมจม ชีพม๎วย
ค. ครืนครืนใชํฟ้าร๎อง เรียมครวญ
หึ่งหึ่งใชํลมหวน พี่ไห๎
ง. สุริยจันทร๑ขจาย จากโลก ไปฤๅ
ไฟแลํนล๎างสี่หล๎า หํอนล๎างอาลัย
๒๑
จ. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมูํ
ตัวเดียวมาพลัดคูํ เหมือนพี่อยูํเพียงเอกา
๖๗. ข๎อใดไมํใชํการแสดงภาพพจน๑ด๎วยวิธีอุปลักษณ๑
ก. เป็นเวรกรรมจึงจําจากขอฝาก ขอฝากม าหยารัศมี
ข . แม๎เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง
ค. เจ๎าเป็นถ้ําอําไพของให๎พี่ เป็นราชสีห๑สิงสูํเป็นคูํสอง
ง. แม๎เนื้อเย็นเป็นห๎วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
จ. จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคูํครองพิศวาสทุกชนิดไป
๖๘. ข๎อใดมีคําอัพภาส
ก. เย็นเยียบทุกถิ่นทั่ว ณ ยามพัสสะโปรยปราย
ข . พระพายรําเพยพัดมารี่เรื่อยอยูํเฉื่อยฉิว
ค. พระทัยนางให๎หวั่นหวาดพะวงหลัง
ง. เหมือนหนึ่งน้ําพลอยพร๎อยอยูํพรายพราย
จ. ยะเหยาะเหยําทุกฝียํางไมํหยํอนหยุด
๖๙. บทกวีตํอไปนี้ เดํนที่สุดในด๎านใด
มีสองขามายืนบนผืนภพ มีตาครบคูํสมองมาสํองหน
มีสองมือถือพิทักษ๑รักคําตน มีกมลมาเพื่อเชื่อตนเอง
ก . แนวคิด
ข . อารมณ๑
ค. โวหาร
ง. จิตนาการ
จ. ความคิดสร๎างสรรค๑
๗๐. ข๎อใดแสดงความเชื่อต่างจากข๎ออื่น
ก. ใต๎เตียงเสียงหนูก็กุกกก แมงมุมทุํมอกที่ริมฝา
ข. จับดาบเคยปราบณรงค๑รบ เสร็จครบบริกรรมคาถา
ค. แล๎วทําผงอิทธิเจเข๎าเจิมพักตร๑ คนเห็นคนทักรักทุกหน๎า
ง. สีขี้ผึ้งสีปากกินหมากเวทย๑ ซึ่งวิเศษสารพัดแก๎ขัดสน
จ. ที่ทําแค๎นกูจะแทนให๎ทันตา ขอษมาแมํแล๎วก็ขับพราย
๒๒
ส่วนที่ ๒ แบบเลือกคําตอบจากแตํละกลุํมที่มีความสัมพันธ๑กัน ให๎เลือกคําตอบตามลักษณะ ที่กําหนดในหมวด
ก และ ข ให๎ถูกต๎อง จํานวน ๑๐ ข๎อ ข๎อ ๗๑ – ๘๐ ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๑๐ คะแนน
๗๑. เรียงลําดับข๎อความตํอไปนี้แล๎วตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข.
๑) ในสมัยโบราณผู๎พูดภาษาเดียวกันมีจํานวนน๎อย
๒) และอยูํรวมกันเป็นกลุํมเดียวอาจเป็นเพราะจํานวนพลเมืองมีมากขึ้น
๓) หรือหนีภัยธรรมชาติ หรือเกิดโรคระบาด
๔) ตํอมามีเหตุตํางๆ ทําให๎คนที่พูดภาษาเดียวกันนั้นต๎องแยกย๎ายไปอยูํตํางถิ่น
๕) เมื่อเวลาผํานไปนานเข๎า ภาษาของคนที่อยูํในแตํละถิ่นจึงเปลี่ยนแปลงไป
กลุํม ก
เมื่อเรียงลําดับแล๎ว ข๎อใดเป็นลําดับที่ ๒
กลุํม ข
เมื่อเรียงลําดับแล๎ว ข๎อใดเป็นลําดับสุดท๎าย
ก. ข๎อ ๑
ข. ข๎อ ๒
ค. ข๎อ ๓
ง. ข๎อ ๔
จ. ข๎อ ๕
ก. ข๎อ ๑
ข. ข๎อ ๒
ค. ข๎อ ๓
ง. ข๎อ ๔
จ. ข๎อ ๕
๗๒. จงเลือกคําในข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ที่เหมาะสมจะเติมลงในชํองวํางตามลําดับ
ในตอนต๎นของพิธี อธิการบดี__ก.__ เกี่ยวกับการผลิตบัณฑิตประจําปี ในตอนท๎ายของพิธีสมเด็จพระนางเจ๎า ฯ
พระบรมราชินีนาถ __ข.__ แกํบัณฑิตในหอประชุม
กลุํม ก กลุํม ข
ก. กราบทูลรายงาน
ข. กราบทูลถวายรายงาน
ค. กราบบังคมทูลรายงาน
ง. กราบบังคมทูลถวายรายงาน
จ. กราบถวายบังคมทูลรายงาน
ก. พระราชทานพระราชดํารัส
ข. พระราชทานพระราชเสาวนีย๑
ค. พระราชทานพระราโชวาท
ง. พระราชทานพระบรมราโชวาท
จ. พระราชทานพระบรมราชเสาวนีย๑
๒๓
๗๓. จงเลือกคําในข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ที่เหมาะสมจะเติมลงในชํองวํางตามลําดับ
หลังจากกรรมการมาครบ __ก__ แล๎ว ประธานขอให๎ที่ประชุมพิจารณา __ข.__ ครั้งที่แล๎ว เมื่อไมํมี
การแก๎ไขที่ประชุมมีมติรับรอง
กลุํม ก กลุํม ข
ก. ตามรายชื่อ
ข. จํานวน
ค. องค๑ประชุม
ง. องค๑คณะ
จ. ประชุม
ก. เอกสารการประชุม
ข. รายงานการประชุม
ค. หัวข๎อการประชุม
ง. ระเบียบวาระการประชุม
จ. บันทึกการประชุม
๗๔. ใช๎ข๎อความตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข.
ได๎ฟังหลานทํานยําน้ําตาตก สะอื้นอกอาดูรวําทูนหัว
กลุํม ก
ข๎อความข๎างต๎นมีพยางค๑ที่ปรากฏเสียงพยัญชนะ
ท๎ายกี่พยางค๑
กลุํม ข
ข๎อความข๎างต๎นมีคําที่รูปวรรณยุกต๑ไมํตรงกับ
เสียงวรรณยุกต๑กี่คํา
ก. ๙ พยางค๑
ข. ๑๐ พยางค๑
ค. ๑๑ พยางค๑
ง. ๑๒ พยางค๑
จ. ๑๓ พยางค๑
ก. ๓ คํา
ข. ๔ คํา
ค. ๕ คํา
ง. ๖ คํา
จ. ๗ คํา
๒๔
๗๕. ใช๎ข๎อความตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข.
๑. พระอุตสําห๑เงือดงดสะกดจิต
๒. มิได๎คิดมุํงมาดปรารถนา
๓. แกล๎งทําสํารวมหลับตา
๔. ก๎มหน๎านิ่งอยูํไมํดูไป
๕. บ๎านเมืองเรํงหาปัญญาครอง
กลุํม ก
ข๎อใดประกอบด๎วยคําหรือพยางค๑ที่ขึ้นต๎นด๎วย
เสียงพยัญชนะต๎นเดี่ยวทั้งหมด
กลุํม ข
ข๎อใดมีเสียงสระประสม
ก. ข๎อ ๑
ข. ข๎อ ๒
ค. ข๎อ ๓
ง. ข๎อ ๔
จ. ข๎อ ๕
ก. ข๎อ ๑ และ ข๎อ ๒
ข. ข๎อ ๓ และ ข๎อ ๔
ค. ข๎อ ๑ และ ข๎อ ๓
ง. ข๎อ ๒ และ ข๎อ ๔
จ. ข๎อ ๔ และ ข๎อ ๕
๗๖. ใช๎ข๎อมูลบรรณานุกรมตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข.
รศ. ดร.สุนันท๑ อัญชลีนุกูล. 2548. ระบบคําภาษาไทย. พิมพ๑ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ:โครงการ
เผยแพรํผลงานวิชาการ คณะอักษรศาสตร๑ จุฬาลงกรณ๑มหาวิทยาลัย.
กลุํม ก
ข๎อใดไมํจําเป็นต๎องใสํไว๎ในการเขียน
บรรณานุกรมข๎างต๎น
กลุํม ข
ในการเรียงลําดับบรรณานุกรม ชื่อผู๎แตํงในข๎อ
ใดควรเรียงตํอจากบรรณานุกรมข๎างต๎น
ก. คํานําหน๎าชื่อผู๎แตํง
ข. ครั้งที่พิมพ๑
ค. ปีที่พิมพ๑
ง. หนํวยงานที่พิมพ๑เผยแพรํ
จ. ชื่อหนังสือ
ก. รัชนีย๑ญา กลิ่นน้ําหอม._________
ข. รุจนี วิรานันท๑.________
ค. สุวคนธ๑ จงตระกูล._______
ง. สุนารี ภวภูตานนท๑ฯ._______
จ. รัชนีวรรณ สวงโท.______
๒๕
๗๗. ข๎อใดเหมาะจะเติมลงชํองวํางในโคลงสองสุภาพ ๒ บทนี้
ความเจ็บกายบอบช้ํา บวมเบํงบ๎างเขียว ___ก.___
ดั่งบ๎ายหมึกมอม
รํางกาย ____ข.____เหือดแห๎ง เขําขัดเหยียดขาแข๎ง
ขัดข๎องกีดขวาง
กลุํม ก กลุํม ข
ก. เข๎ม
ข. ขํา
ค. คล้ํา
ง. แกํ
จ. เป่ง
ก. ซูบ
ข. ผอม
ค. เหี่ยว
ง. พร๎อม
จ. เซียว
๗๘. ๑)ปัจจุบันหัตถกรรมที่ผลิตจากกระดาษเส๎นใยพืชกําลังได๎รับความนิยมอยํางกว๎างขวางนอกจากกระดาษสา
แล๎ว ยังมีเส๎นใยจากพืชอื่น ๆ อีก เชํน ใยสับปะรด กาบกล๎วย เปลือกข๎าวโพด มูลช๎าง ฟางข๎าว ผักตบชวา ฯลฯ
๒) เพราะเป็นผลิตภัณฑ๑ที่แลเห็นความสวยงามของเส๎นใยจากธรรมชาติ ๓) วัสดุจากธรรมชาติเหลํานี้มีอยูํ
มากมายในเมืองไทย เป็นการเพิ่มมูลคําด๎วยวิธีงําย ๆ จากภูมิปัญญาท๎องถิ่น ๔) ลงทุนน๎อย เกิดประโยชน๑
ตํอสิ่งแวดล๎อม มีการสร๎างงานสร๎างรายได๎ให๎แกํท๎องถิ่น
กลุํม ก
สาระสําคัญของข๎อความ
กลุ่ม ข
ผู๎เขียนมุํงจะสนับสนุนการพัฒนาในด๎านใด
ก. ส่วนที่ ๑ และ ๒
ข. ส่วนที่ ๒ และ ๓
ค. ส่วนที่ ๓ และ ๔
ง. ส่วนที่ ๑ และ ๔
จ. ส่วนที่ ๒ และ ๔
ก. ศิลปะของงานหัตถกรรม
ข. การผลิตกระดาษจากเส๎นใยธรรมชาติ
ค. ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ง. อาชีพของชุมชน
จ. ปลูกพืชที่ได๎รับความนิยมจากทั่วโลก
๒๖
๗๙. ใช๎ข๎อความตํอไปนี้ตอบคําถาม
๑ พระอาจารย๑ถวายพระอักษรพระเจ๎าลูกเธอในรัชกาลที่ ๒ และเป็นกวีในราชสํานักที่พระองค๑โปรดมาก
๒ กวีผู๎เป็นเลิศในการแตํงกลอนแปด มีผลงานทั้งประเภทนิราศ นิทาน บทละคร บทเสภาและสุภาษิต
๓ เกิดในรัชกาลที่ ๑ บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน๎อย ในปัจจุบัน ถวายตัวเป็นข๎าในกรมพระราชวังหลัง
ตั้งแตํยังเด็ก
๔ ในรัชกาลตํอมาไมํได๎รับราชการจึงออกบวช ได๎รับพระอุปการะจากสมเด็จฯ เจ๎าฟ้ากรมขุนอิศเรศ
รังสรรค๑ ชํวงนี้แตํงวรรณคดีไว๎หลายเรื่อง
๕ องค๑การยูเนสโกประกาศยกยํองให๎เป็นบุคคลสําคัญที่มีผลงานดีเดํนทางด๎านวัฒนธรรมระดับโลก
กลุ่ม ก
ข๎อใดเป็นการเรียงลําดับข๎อมูลที่เหมาะสมสําหรับ
เรียงความเรื่อง “สุนทรภูํกวีเอกของโลก”
กลุ่ม ข
ข๎อมูลสํวนใดมีความสําคัญน๎อยที่สุดสําหรับเรียงความ
เรื่อง “สุนทรภูํ กวีเอกของโลก”
ก. ๓ - ๕ - ๒ - ๑ - ๔
ข. ๒ - ๓ - ๑ - ๔ - ๕
ค. ๒ - ๕ - ๓ - ๑ - ๔
ง. ๓ - ๑ - ๔ - ๒ – ๕
จ. ๔ – ๑ – ๒ – ๕ – ๓
ก. สํวนที่ ๑
ข. สํวนที่ ๓
ค. สํวนที่ ๔
ง. ส่วนที่ ๕
จ. ส่วนที ๒
๘๐. อํานคําประพันธ๑ตํอไปนี้ แล๎วตอบคําถาม
งานก็ต๎องถูกงด น้ําตาทํวมรถที่ผํอนมาหลายปี
มองปิ๊กอัพถูกยึด รถเครื่องถูกยึดบ๏ายบายเพื่อนซี้
วันหลังถ๎ามีเวลา จะซื้อเอ็งกลับมาอีกที
กลุํม ก
คําประพันธ๑ข๎างต๎นใช๎ภาพพจน๑ตามข๎อใด
กลุํม ข
คําประพันธ๑ข๎างต๎นไมํสะท๎อนปัญหาด๎านใด
ก. อติพจน๑ และ บุคคลวัต
ข. สัญลักษณ๑ และ อุปลักษณ๑
ค. บุคคลวัต และ สัญลักษณ๑
ง. อุปลักษณ๑ และ อติพจน๑
จ. สัญลักษณ์ และ อติพจน์
ก. สังคม
ข. แรงงาน
ค. ครอบครัว
ง. เศรษฐกิจ
จ. การเมือง
๒๗
ข้อสอบ Pre O-net ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย
................................................................................................................
โครงสร้างข้อสอบ
กรอบโครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
สาระที่ มาตรฐาน
รูปแบบข้อสอบ
รวมเลือกตอบ กลุ่มสัมพันธ์
ข้อที่ จานวน ข้อที่ จานวน
๑. การอําน ท๑.๑ ๑ – ๒๐ ๒๐ ๗๑,๗๘ ๒ ๒๒
๒. การเขียน ท๒.๑ ๒๑ – ๓๘ ๑๘ ๗๓,๗๖,๗๙ ๓ ๒๑
๓. การฟัง การดูและการพูด ท๓.๑ ๓๙ – ๔๓ ๕ ๐ ๐ ๕
๔. หลักการใช๎ภาษา ท๔.๑
ท๔.๒
๔๔ – ๖๒
๖๓ – ๖๕
๑๙
๓
๗๒,๗๔,๗๕,๗๗
๐
๔
๐
๒๓
๓
๕. วรรณคดีและวรรณกรรม ท๕.๑ ๖๖ – ๗๐ ๕ ๘๐ ๑ ๖
รวม ๗๐ ๑๐ ๘๐
๒๘
เฉลยข้อสอบ Pre O-net ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย
ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย
๑ ค ๒๑ ข ๔๑ ง ๖๑ ง
๒ ก ๒๒ ข ๔๒ ค ๖๒ จ
๓ ง ๒๓ จ ๔๓ ค ๖๓ ข
๔ ค ๒๔ ค ๔๔ ก ๖๔ ง
๕ ข ๒๕ ง ๔๕ จ ๖๕ ง
๖ ง ๒๖ ข ๔๖ จ ๖๖ ค
๗ จ ๒๗ ก ๔๗ จ ๖๗ ก
๘ ข ๒๘ ค ๔๘ ข ๖๘ จ
๙ ค ๒๙ ก ๔๙ ง ๖๙ ก
๑๐ จ ๓๐ จ ๕๐ ง ๗๐ ก
๑๑ จ ๓๑ ง ๕๑ ค ๗๑ ง,จ
๑๒ ก ๓๒ ข ๕๒ จ ๗๒ ค,ค
๑๓ ค ๓๓ ง ๕๓ ก ๗๓ ค,ข
๑๔ จ ๓๔ ง ๕๔ ค ๗๔ ข,ข
๑๕ ง ๓๕ จ ๕๕ ก ๗๕ ง,ค
๑๖ ก ๓๖ ง ๕๖ จ ๗๖ ก,ง
๑๗ ก ๓๗ ก ๕๗ ค ๗๗ ค,ข
๑๘ ข ๓๘ ข ๕๘ ข ๗๘ ง,ข
๑๙ ก ๓๙ ก ๕๙ ค ๗๙ ข,ข
๒๐ ค ๔๐ ก ๖๐ ข ๘๐ ก,ค
๒๙
ทดสอบ Pre O-net ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๙
ชื่อ.......................................................นามสกุล............................................เลขที่............................ห๎อง ม.๖/............
โรงเรียน.......................................................อําเภอ...................................................จังหวัด.........................................
......................................................................................................................................................................................
ส่วนที่ ๑ แบบปรนัย ๕ ตัวเลือก
ข๎อ ก ข ค ง จ ข๎อ ก ข ค ง จ ข๎อ ก ข ค ง จ ข๎อ ก ข ค ง จ
๑ ๒๑ ๔๑ ๖๑
๒ ๒๒ ๔๒ ๖๒
๓ ๒๓ ๔๓ ๖๓
๔ ๒๔ ๔๔ ๖๔
๕ ๒๕ ๔๕ ๖๕
๖ ๒๖ ๔๖ ๖๖
๗ ๒๗ ๔๗ ๖๗
๘ ๒๘ ๔๘ ๖๘
๙ ๒๙ ๔๙ ๖๙
๑๐ ๓๐ ๕๐ ๗๐
๑๑ ๓๑ ๕๑
๑๒ ๓๒ ๕๒
๑๓ ๓๓ ๕๓
๑๔ ๓๔ ๕๔
๑๕ ๓๕ ๕๕
๑๖ ๓๖ ๕๖
๑๗ ๓๗ ๕๗
๑๘ ๓๘ ๕๘
๑๙ ๓๙ ๕๙
๒๐ ๔๐ ๖๐
๓๐
ส่วนที่ ๒ แบบเลือกคาตอบจากแต่ละกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กัน
ข้อ ๗๑
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๕
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๙
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๒
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๖
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๘๐
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๓
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๗
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๔
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
ข้อ ๗๘
กลุ่ม ก กลุ่ม ข
ก ก
ข ข
ค ค
ง ง
จ จ
๓๑

More Related Content

What's hot

บทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรี
บทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรีบทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรี
บทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรีBlackrab Chiba
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อKruthai Kidsdee
 
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์ธนิสร ยางคำ
 
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553Yutthana Sriumnaj
 
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงvanida juntapoon
 
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบthnaporn999
 
เครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจPannatut Pakphichai
 
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสงประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสงThanyamon Chat.
 
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติโครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติbeauntp
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานKanistha Chudchum
 
ผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลงผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลงพัน พัน
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)Napadon Yingyongsakul
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในamixdouble
 
การผูกผ้า
การผูกผ้าการผูกผ้า
การผูกผ้าThakorn Yimtae
 
เรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อ
เรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อเรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อ
เรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อCherry Lay
 
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อมผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อมNATTAWANKONGBURAN
 
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรมคำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรมniralai
 

What's hot (20)

บทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรี
บทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรีบทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรี
บทวิเคราะห์ร่ายยาวเวสสันดรมหาชาดก กัณฑ์มัทรี
 
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อแบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
แบบทดสอบอาเซียน 30 ข้อ
 
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
แบบฝึกหัดเศรษฐศาสตร์
 
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553
 
คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.5
คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.5คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.5
คำศัพท์พื้นฐานชั้น ป.5
 
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
 
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
 
เครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เครื่องชี้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
 
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสงประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
ประวัติการสังเคราะห์ด้วยแสง
 
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติโครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
โครงงานแผ่นซับเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ
 
หน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงานหน้าปกโครงงาน
หน้าปกโครงงาน
 
ผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลงผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลง
 
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
 
การผูกผ้า
การผูกผ้าการผูกผ้า
การผูกผ้า
 
ใบ000
ใบ000ใบ000
ใบ000
 
เรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อ
เรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อเรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อ
เรื่อง ขจัดรอยเปื้อนหมึกบนเสื้อ
 
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อมผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิ่งแวดล้อม
 
คำประสม
คำประสมคำประสม
คำประสม
 
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรมคำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
คำกล่าวเปิดค่ายจริยธรรม
 

Similar to Pre o-net thai6

ข้อสอบPre o-net thai6
ข้อสอบPre o-net thai6ข้อสอบPre o-net thai6
ข้อสอบPre o-net thai6fahsudarrat
 
เผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคี
เผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคีเผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคี
เผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคีcomed
 
วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...
วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...
วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...Kruthai Kidsdee
 
ข้อสอบO netไทย ม.๓
ข้อสอบO netไทย ม.๓ข้อสอบO netไทย ม.๓
ข้อสอบO netไทย ม.๓teera11
 
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรมบทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรมsawed kodnara
 

Similar to Pre o-net thai6 (8)

ข้อสอบPre o-net thai6
ข้อสอบPre o-net thai6ข้อสอบPre o-net thai6
ข้อสอบPre o-net thai6
 
เผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคี
เผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคีเผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคี
เผยแพร่ Sar25ุ59 บ้านโคกสามัคคี
 
วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...
วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...
วิชาภาษาไทย ประถมศึกษา ปีที่ 6 – วิเคราะห์ข้อสอบ-โลกแห่งการเรียนรู้ – โลกแห่ง...
 
ข้อสอบO netไทย ม.๓
ข้อสอบO netไทย ม.๓ข้อสอบO netไทย ม.๓
ข้อสอบO netไทย ม.๓
 
Thai
ThaiThai
Thai
 
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรมบทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
บทที่ 1 ลำดับและอนุกรม
 
บทที่ 1 ใหม่
บทที่ 1 ใหม่บทที่ 1 ใหม่
บทที่ 1 ใหม่
 
บทที่ 1 ใหม่
บทที่ 1 ใหม่บทที่ 1 ใหม่
บทที่ 1 ใหม่
 

More from Iceeci Flatron

More from Iceeci Flatron (20)

เฉลยข อสอบว ชาคณ_ตศาส_ 54
เฉลยข อสอบว ชาคณ_ตศาส_ 54เฉลยข อสอบว ชาคณ_ตศาส_ 54
เฉลยข อสอบว ชาคณ_ตศาส_ 54
 
Math54 o n
Math54 o nMath54 o n
Math54 o n
 
เฉลย Onet 50สุขศึกษา
เฉลย Onet 50สุขศึกษาเฉลย Onet 50สุขศึกษา
เฉลย Onet 50สุขศึกษา
 
ข้อสอบ O net50 สุขศึกษา ม 6
ข้อสอบ O net50 สุขศึกษา ม 6ข้อสอบ O net50 สุขศึกษา ม 6
ข้อสอบ O net50 สุขศึกษา ม 6
 
เฉลย2554
เฉลย2554เฉลย2554
เฉลย2554
 
56+9
56+956+9
56+9
 
ปี2554
ปี2554ปี2554
ปี2554
 
เฉลย2553
เฉลย2553เฉลย2553
เฉลย2553
 
ปี2553
ปี2553ปี2553
ปี2553
 
เฉลย2552
เฉลย2552เฉลย2552
เฉลย2552
 
ปี2552
ปี2552ปี2552
ปี2552
 
เฉลย2551
เฉลย2551เฉลย2551
เฉลย2551
 
ปี2551
ปี2551ปี2551
ปี2551
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
ใบงานท 9-16
ใบงานท   9-16ใบงานท   9-16
ใบงานท 9-16
 
ใบงานท 9-16
ใบงานท   9-16ใบงานท   9-16
ใบงานท 9-16
 
Http
HttpHttp
Http
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 
แนวข้อสอบอนุกรม
แนวข้อสอบอนุกรมแนวข้อสอบอนุกรม
แนวข้อสอบอนุกรม
 
Pat7.4
Pat7.4Pat7.4
Pat7.4
 

Pre o-net thai6

  • 1. ๑ แบบทดสอบ Pre O-NET กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2554 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  • 2. ๒ คาชี้แจงแบบทดสอบภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ๑. แบบทดสอบฉบับนี้มี ๘๐ ข๎อ คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน ๒. แบบทดสอบจะแบํงเป็น ๒ สํวน ดังนี้ ส่วนที่ ๑ แบบปรนัย ๕ ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน ๗๐ ข๎อ ข๎อ ๑ – ๒๐ ข๎อละ ๒ คะแนน ข๎อ ๒๑ – ๘๐ ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๙๐ คะแนน ส่วนที่ ๒ แบบเลือกคําตอบจากแตํละกลุํมที่มีความสัมพันธ๑กัน ให๎เลือกคําตอบตามลักษณะ ที่กําหนดในหมวด ก และ ข ให๎ถูกต๎อง จํานวน ๑๐ ข๎อ ข๎อ ๗๑– ๘๐ ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๑๐ คะแนน ส่วนที่ ๑ แบบปรนัย ๕ ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน ๗๐ ข๎อ ข๎อ ๑ – ๒๐ ข๎อละ ๒ คะแนน ข๎อ ๒๑ – ๘๐ ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๙๐ คะแนน ๑. ข๎อใดเป็นจุดประสงค๑ของผู๎เขียนข๎อความตํอไปนี้ โลกมีลักษณะคล๎าย หนังสือ อยูํกับบ๎านเปรียบถือ นิ่งไว๎ เริ่มทํองเที่ยวนั่นคือ เริ่มอําน เที่ยวหนึ่งหน๎าหนึ่งให๎ เรื่องรู๎ตํางกัน ก. สํงเสริมให๎รักการอําน ข. เปรียบเทียบโลกกับหนังสือ ค. สนับสนุนให๎เดินทางทํองเที่ยว ง. ให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับการทํองเที่ยว จ. ให๎มีวิสัยทัศน๑ในการเลือกอํานหนังสือ
  • 3. ๓ ๒. “ในการทําอะไรลงไปควรทําด๎วยปัญญา อยําทําไปด๎วยอํานาจกิเลสตัณหา ถ๎าเป็นคนที่ศึกษาก็ศึกษาด๎วยรู๎สึก ผิดชอบชั่วดี วํามันเป็นการสมควรอยํางยิ่งที่จะต๎องศึกษา ถ๎าประกอบการงานก็ต๎องมีความรู๎สึกผิดชอบชั่วดีวํา เป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทําและทําให๎ดีที่สุดด๎วยความเยือกเย็น ถ๎าทําด๎วยอํานาจปัญญาควบคุมอยูํจะไมํใจร๎อนเลย” ใจความสําคัญของข๎อความนี้คือข๎อใด ก. ควรทําทุกสิ่งทุกอยํางด๎วยปัญญา ข. ควรมีความรู๎สึกผิดชอบชั่วดี ค. ควรใช๎ปัญญาจะได๎ใจเย็น ง. กิเลสตัณหาทําให๎ใจร๎อน จ. มีปัญ ญาเหมือนมีทรัพย๑อยูํนับแสน ๓. “ความรู๎สึกชอบกับรู๎สึกชัง ถือวําเป็นความทุกข๑เทํากัน ความชอบทําให๎ใจฟู ความชังทําให๎ใจแฟบ การดีใจ และเสียใจ เป็นการทําให๎จิตเหน็ดเหนื่อยเทํากัน ทําให๎เกิดหวั่นไหวทางจิตเทํากันเรียกวํายึดเวทนาเป็นตัวตน” การอธิบายชนิดนี้จัดอยูํในรูปแบบใด ก. ตีความ ข. วิเคราะห๑ ค. สังเคราะห๑ ง. ประเมินคํา จ. แปลความ ๔. ข๎อใดเป็นใจความสําคัญของข๎อความตํอไปนี้ ความตายเป็นเพียงการเดินทาง ไปสูํบ๎านหลังใหมํไมํมีใครเคย “ตาย” ไปจากหัวใจของคนที่รัก ตราบใด ที่เรายังระลึกถึง คนที่เรารักก็ยังคง “มีชีวิต” อยูํตราบนั้น ไมํมีวันแตกดับไปตามกาลเวลา ก. ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต๎องพบ ข. การตายเป็นการเปลี่ยนที่อยูํใหมํ ค. ผู๎ตายยังคงอยูํในใจของผู๎ที่รักเขา ง. ผู๎ตายแล๎วยังมีผู๎ระลึกถึงอยูํเสมอ จ. ความตายต๎องมีการแตกดับไปตามกาลเวลา
  • 4. ๔ อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคาถาม ข้อ ๕ “ความคิดที่วําผู๎หญิงเป็นเพศที่ละเอียดอํอนกวําผู๎ชาย รักสวยรักงาม ไมํคํอยใช๎เหตุผล แตํมีญาณหยั่งรู๎ อะไรบางอยํางที่ดีกวําผู๎ชาย ฯลฯ ล๎วนเป็นความคิดที่ได๎มาจากบทบาททางสังคมและเศรษฐกิจของผู๎หญิงใน สมัยกํอนเสียเป็นสํวนใหญํ ฉะนั้น “ธาตุแท๎ ของผู๎หญิงตามความเข๎าใจของคนทั่วไปนั้น เอาจริงก็เป็นวัฒนธรรม นั่นก็คือ เป็นสิ่งที่มนุษย๑สร๎างขึ้นมาเอง จะมีในธรรมชาติความเป็นผู๎หญิงจริง ๆ หรือเปลําก็ไมํทราบได๎” ๕. ข๎อใดอนุมานได๎วําเป็นความคิดของผู๎เขียน ก. หญิงเกํงกวําชายทางด๎านบทบาททางสังคม ข. ผู๎หญิงแตกตํางจากผู๎ชายเพราะมีหน๎าที่และบทบาทตํางกัน ค. หญิงชายมีความรู๎สึกและพฤติกรรมเนื่องจากสภาพแวดล๎อม ง. โดยแท๎จริงแล๎วผู๎หญิงก็เป็นวัฒนธรรมที่มนุษย๑สร๎างขึ้นนั่นเอง จ. หญิงชายเกิดมาเหมือนกัน แตํแตกตํางกันเพราะมีเพศเป็นตัวกําหนด ๖. ข๎อใดเป็นจุดประสงค๑ของผู๎แตํงบทประพันธ๑ตํอไปนี้ บ๎านเมืองลําบากยากเข็ญ หนุํมสาวยังเลํนขายข๎าวของ บ๎านเมืองเรํงหาปัญญาครอง หนุํมสาวยังฉลองไมํเลิกรา ขึ้นอุดมศึกษายังทารก โลกแขํงขันสกปรกไมํรอทํา พวกกินเมืองยํอมยินดีปรีดา เมืองนี้นักศึกษาไมํยอมโต ก. ต๎องการให๎นักศึกษาพัฒนาประเทศ ข. ชี้ให๎เห็นปัญหาการฉ๎อราษฎร๑บังหลวง ค. ต๎องการเห็นนักศึกษาเป็นปัญญาชนที่แท๎จริง ง. ชี้ให๎เห็นวําปัจจุบันบ๎านเมืองอยูํในภาวะวิกฤต จ. ต๎องการให๎นักศึกษาเห็นความสําคัญของกิจกรรม ๗. ข๎อใดไมํอาจอนุมานได๎จากข๎อความของผู๎เขียน ก. มนุษย๑คือปุถุชนมีทั้งดีและเลวปนกัน ข. คนดีบางคนอาจจะไมํใชํคนดีที่แท๎จริง ค. มนุษย๑อาจมีทั้งความดีและความเลวอยูํในตัว ง. เวลาเป็นสิ่งที่ชํวยตัดสินความดีเลวของคนได๎ จ. คนเรามีโอกาสทําความเลวได๎มากกวําทําความดี
  • 5. ๕ ๘. ข๎อใดเป็นแนวคิดสําคัญของข๎อความนี้ “เหนือบรรพตสดใสนําใหลหลง กวีลงสรงสนานในธารศิลป์ โปรยสุคนธ๑ปนมาในวาริน อบอวลกลิ่นหอมกรุํนถึงรุํนเรา ใครได๎ลงสรงสนานในธารนี้ คงชีวีกี่กัปไมํอับเฉา กลิ่นกลํอมโลกโศกสรํางลงบางเบา เชิญรับเอาอายสุคันธ๑ทั่วกันเอย ” ก. ชีวิตกับบทกวี ข . อิทธิพลของงานกวี ค. อานุภาพของงานศิลป์ ง. ความรื่นรมย๑ของมวลกวี จ. ความเย๎ายวนของธารศิลป์ ๙. ข๎อใดสะท๎อนความรู๎สึกของผู๎แตํงคําประพันธ๑ตํอไปนี้ได๎ตรงที่สุด “เมื่อเมืองคนคั่งคับด๎วยคนป่า คนดีก็ด๎อยคําเหมือนกรวดหิน เมื่อสัตว๑ป่าสร๎างป่าไว๎หากิน สัตว๑เมืองก็ต๎องสิ้นวิสัยเมือง ” ก. โกรธแค๎น ข. สมเพช ค. ท๎อแท๎ ง. อนาถใจ จ. เสียใจ อ่านบทเพลงต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑๐-๑๑ เพลง ดอกหญ้าในป่าปูน “หัวใจติดดินสวมกางเกงยีนส๑เกํา ๆ ใสํเสื้อตัวร๎อยเก๎าเก๎า กอดกระเป๋าใบเดียวติดกายกราบลาแมํพํอ หลังจากเรียนจบ ม.ปลาย ลาทุํงดอกคูนไสว ไปอาศัยชายคาป่าปูน เอาแรงเป็นทุน แลกกับเงินเดือนต่ํา ๆ เก็บเงินเข๎าเรียนภาคค่ํา กํอความหวังบนทางเปื้อนฝุ่น สังคมเมืองใหญํขาดแคลนน้ําใจเจือจุน ใช๎ความอดทนเติมทุน ให๎ยืนสู๎ไหวทุกวัน อยูํเมืองสวรรค๑แตํเป็นคนชั้นติดดิน เป็นผู๎รับใช๎จนชิน หูได๎ยินแตํคําสั่งงาน แตํยังยิ้มได๎ หัวใจเหมือนดอกหญ๎าบาน ถึงอยูํในที่ต่ําชั้นแตํก็บานได๎ทุกเวลา หัวใจติดดินสวมกางเกงยีนส๑เกํา ๆ ใสํเสื้อตัวร๎อยเก๎าเก๎า แตํใจสาวบํด๎อยราคา หวังไว๎วันหนึ่งเรียบจบชั้นที่เฝ้ารอมา จะสวมมงกุฎดอกหญ๎า ถํายรูปปริญญาหวนมาบ๎านเรา”
  • 6. ๖ ๑๐. คําวํา ดอกหญ้าในป่าปูน มีความหมายตรงกับข๎อใด ก. หญิงสาวโรงงาน ข. ผู๎หญิงทํางานตอนกลางคืน ค. ผู๎หญิงที่มีอาชีพเป็นคนรับใช๎ ง. หญิงสาวชาวบ๎านที่มีฐานะยากจน จ. หญิงสาวตํางจังหวัดทํางานในเมืองหลวง ๑๑. เนื้อหาของเพลงนี้ต๎องการสะท๎อนให๎เห็นสิ่งใด ก. ชีวิตของผู๎หญิงในเมืองกรุง ข. การถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ๎างแตํก็ยังทนได๎ ค. ถึงแม๎จะยากจนก็อาจจะเรียบจบระดับปริญญาได๎ ง. การใช๎ชีวิตของคนเมืองหลวงที่ต๎องตํอสู๎เพื่อความอยูํรอด จ. ผู๎หญิงคนหนึ่งที่มีความพยายามตํอสู๎อุปสรรคเพื่อความสําเร็จ ๑๒. ชายคนหนึ่งนั่งดื่มเหล๎าทั้งวัน พร่ําพูดแตํคําวํา.............จน เครียด กินเหล๎า จน เครียด กินเหล๎า จน เครียด กินเหล๎า...........เลิกเหล๎า เลิกจน เริ่มต๎นเข๎าพรรษานี้.......... จากโฆษณานี้นักเรียนคิดวําข๎อใดคือปัญหาสําคัญของชายคนนี้ ก. เหล๎า ข. ความจน ค. ความเครียด ง. เลิกเหล๎าไมํได๎ จ. ปัญหาครอบครัว อํานข๎อความตํอไปนี้แล๎วตอบคําถามข๎อ ๑๓-๑๔ ๑. สิ่งนั้นคือความรักของผู๎คน ๒. คนเราอาจขึ้นสูํความสําเร็จได๎ด๎วยความสามารถ ๓. แตํจะอยูํได๎นานมั่นคงและมีความสุขก็ต๎องมีมือวิเศษโอบอุ๎ม ๔. ความรักจะเกิดได๎ตํอเมื่อมีบุคลิกต๎องตา วาจาต๎องใจ ภายในล้ําเลิศ พฤติกรรมมีเสนํห๑
  • 7. ๗ ๑๓. จงเรียงลําดับข๎อความให๎เหมาะสม ก. ๑ ๒ ๓ ๔ ข. ๒ ๓ ๔ ๑ ค. ๒ ๓ ๑ ๔ ง. ๔ ๒ ๓ ๑ จ. ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๔. ข๎อใดเป็นใจความสําคัญของข๎อความข๎างต๎น ก. ความสําเร็จเกิดจากความสามารถ ข. ความรักบันดาลให๎เกิดความสําเร็จ ค. คนเราจะสําเร็จได๎ต๎องมีคนมาชํวยเหลือ ง. ความรักเกิดจากการบริหารกาย วาจา ใจ ให๎มีเสนํห๑ จ. ความสําเร็จที่มั่นคงและทําให๎มีความสุขเกิดจากความรัก ๑๕. “คนเราถึงจะเป็นใหญํปานใดก็ดี ยังคงมีผู๎อื่นหรือสิ่งอื่นที่ใหญํกวํา ซึ่งถ๎าเป็นผู๎มีความคิดชอบก็จะต๎องเคารพ นับถือ แม๎พระบรมศาสดาที่เรานิยมวําประเสริฐกวํามนุษย๑ทั้งปวง ก็ยังทรงแสดงคารวะตํอพระธรรม” ข๎อใดไมํอาจอนุมานได๎วําเป็นบุคลิกภาพของผู๎เขียน ก. มีคุณธรรม ข. อํอนน๎อมถํอมตน ค. มีความคิดเฉียบคม ง. มีความรู๎ทางวิชาการสูง จ. ปฏิบัติศีล ๕ อยํางเครํงครัด ๑๖. ในข๎อความตํอไปนี้ “หัวใจของธุรกิจนี้” มีความหมายตามข๎อใด “หัวใจของธุรกิจนี้แตกตํางจากที่อื่น ซึ่งอาจจะสนใจพัฒนาผลิตภัณฑ๑ที่ดีเลิศบ๎าง ขยายเครือขําย อยํางกว๎างขวางบ๎าง สํวนเราต๎องยืนหยัดให๎ได๎ทํามกลางความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล๎อม” ก. ความมั่นคงขององค๑กร ข. คุณภาพของสินค๎า ค. ความมีสัมพันธภาพที่ดี ง. การเติบโตของธุรกิจ จ. ความก๎าวหน๎าของธุรกิจ
  • 8. ๘ ๑๗. ข๎อใดไมํอาจอนุมานได๎จากข๎อความตํอไปนี้ “การไมํกินอาหารเช๎าจะทําให๎รํางกายขาดพลังงาน และจะมีผลตํอการเรียนรู๎และความจํา เพราะสารอาหาร หลักที่ให๎พลังงานคือกลูโคสจากอาหาร ดังนั้นการกินอาหารเช๎าจึงทําให๎สมองทํางานได๎ดี โดยเฉพาะเด็กนักเรียน จะชํวยให๎มีสมาธิในการเรียน” ก. ผู๎ใหญํอาจงดอาหารเช๎าได๎เพราะไมํได๎อยูํในวัยเรียน ข. อาหารเช๎ามีประโยชน๑เพราะทําให๎รํางกายได๎รับพลังงาน ค. ทุกคนควรกินอาหารเช๎าเพราะจะชํวยการทํางานของสมอง ง. นักเรียนควรกินอาหารเช๎าเพราะจะชํวยให๎เรียนหนังสือได๎ดีขึ้น จ. ในวัยเด็กหรือผู๎ใหญํก็ต๎องทานอาหารเช๎าเพราะจะชํวยในการทํางานของสมอง ๑๘. ข๎อใดไมํมีน้ําเสียงประชด ก. หมํอมฉันมิบังอาจนั่งรํวมบัลลังก๑อาสน๑กับสมเด็จพระอัยกาได๎ เพราะหมํอมฉันเป็นเพียงสามัญชน ข. ถึงพี่จะรุํงเรืองไปเบื้องหน๎า ก็ไมํพึ่งวาสนาอยําอวดอ๎าง ดีแตํจะมาพานรานทางไมํอดสูใจบ๎างหรืออยํางไร ค. จึงออกมาวํากับลูกสาว ชํางทําความงามฉาวอีคนชั่ว เสียยศเสียศักดิ์ไมํรัก ตัวเลือกผัวได๎เงาะเห็นเหมาะใจ ง. อันผัวพี่ดีเหลือเป็นเนื้อหนํอ เห็นตํอจะบุญหนักศักดิ์ใหญํ รูปรํางน๎อยจ๎อยอรํอยใจ จงกอดไว๎เถิดคํะ อยําละวาง จ. เออคํะกระนั้นและจริงอยูํ รูปรํางผัวกูไมํสู๎เหมาะที่ไหนจะงามพร๎อมเหมือนหมํอมเงาะ ใครเห็นก็หัวเราะ วํารูปงาม ๑๙. ข๎อใดแสดงเจตนาที่ชัดเจนที่สุดของข๎อความตํอไปนี้ ขวานไทยไมํมีด๎ามนําไปใช๎ยํอมไร๎พลัง คนไทยไมํเคยแบํงข๎างไทย แขก จีน ฝรั่งที่เกิดเมืองไทยใต๎รํม บรมโพธิสมภาร พระเจ๎าอยูํหัว พระราชินีทรงหํวงใย ลูกเอยหลานเอยล๎วนคนไทย มาสร๎างฝันวันใหมํ ให๎ขวานไทยใจหนึ่งเดียว ก . เตือนให๎คนไทยรักสามัคคี ข. กระตุ๎นให๎คนไทยมีความหวัง ค.. ย้ําให๎สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ง. คนไทยควรมีจิตสํานึกและรักความเป็นไทย จ. ชี้ให๎เห็นความสําคัญของแผํนดินไทยทุกสํวน
  • 9. ๙ ๒๐. ผู๎กลําวข๎อความตํอไปนี้มีจุดประสงค๑ตามข๎อใด ต๎นไม๎น๎อย ๆ ยังให๎ออกซิเจนแกํโลก ดอกไม๎น๎อย ๆ ยังให๎ความเพลินตาแกํมนุษย๑ ผีเสื้อและนกกา บินไปมายังให๎ความสบายตาแกํผู๎พบเห็น เราเกิดมาชาติหนึ่งจะไมํให๎อะไรแกํแผํนดินที่เราเกิดมาบ๎างหรือ ก. ให๎เห็นคุณคําของทรัพยากรของโลก ข. ให๎รู๎จักบุญคุณของธรรมชาติ ค. ให๎ทําตนให๎มีประโยชน๑ตํอสํวนรวม ง. ให๎เห็นประโยชน๑ของสรรพสิ่งในโลก จ. ให๎รํวมกันอนุรักษ๑และพัฒนาสิ่งแวดล๎อม ๒๑. “แดดยามบํายเริ่มอํอนแสงลง เราจอดรถหน๎าพระพุทธรูปยืนขนาดใหญํที่สลักบนแผํนผาเบื้องใต๎พระบาท ตรงหน๎าเรียงรายไปด๎วยต๎นลั่นทม ซึ่งกําลังออกดอกสีขาวนวลสะพรั่ง ดั่งดอกไม๎บูชารูปรอยที่คนสมัยหนึ่ง ได๎ขึ้นไปถึงศิลปะแหํงการรังสรรค๑ ทั้งในด๎านพลังอารมณ๑สุนทรียภาพ และจินตนาการแหํงศรัทธา” ก. บรรยายโวหารและพรรณนาโวหาร ข. พรรณนาโวหารและอุปมาโวหาร ค. พรรณนาโวหารและสาธกโวหาร ง. บรรยายโวหารและอุปมาโวหาร จ. บรรยายโวหารและสาธกโวหาร ๒๒. ข๎อใดเรียงลําดับข๎อความแบบข๎อคิดเห็น-ข๎อเท็จจริง ก. ปัจจุบันคนไทยในเมืองหลวงไมํคํอยรู๎จักระด๎งกันแล๎ว นอกจากชาวชนบท ข. กระด๎งที่เคยใช๎ฝัดข๎าวก็แทบหมดความหมายเมื่อมีเทคโนโลยีมาใช๎ คือ โรงสีข๎าว ค. นํากระด๎งมาเป็นอุปกรณ๑ในการตากอาหารที่ต๎องการถนอมชาวชนบทจึงต๎องมีไว๎ใช๎ ง. กระด๎งเป็นเครื่องมือใช๎ประจําครัวเรือนในชนบทนํามาใช๎ประโยชน๑มากมายหลายด๎าน จ. คนภูไทจังหวัดสกลนครยังจักสานกระด๎งเป็นอาชีพนํารายได๎สูํหมูํบ๎านปีละ 2 - 3 ล๎านบาท ๒๓. ข๎อความตํอไปนี้โน๎มน๎าวใจด๎วยวิธีใด “แผํนดินนี้เป็นของไทย บรรพบุรุษของเราได๎อุทิศชีวิตเป็นชาติพลีเพื่อปกป้องแผํนดินนี้เอาไว๎ เราจัดต๎อง รักษา แผํนดินนี้สืบไป จะไมํยอมให๎ผู๎ใดมาแยํงชิง แผํนดินนี้ของเราไป ก. อ๎างคนสํวนใหญํ ข. อ๎างบุคคลหรือสถาบัน ค. กลําวแตํสิ่งทีเป็นประโยชน๑แกํตน ง. การกลําวรวม ๆ ด๎วยถ๎อยคําหรูหรา จ. กลําวรวม ๆ ด๎วยถ๎อยคําเร๎าอารมณ๑
  • 10. ๑๐ ๒๔. ข๎อใดใช๎ภาษาในการเขียนรายงานทางวิชาการได๎เหมาะสมที่สุด ก. ตึกระฟ้าทั้งหลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให๎ลมพัดเข๎าสูํตัวเมือง ข. ถ๎าคุณเป็นไข๎ ระดับปรอท ในหลอดแล๎วสวํางจะคํอย ๆ สูงขึ้นทีละนิด ค. ฝุ่นที่เกิดจากการกํอสร๎าง และควันจากโรงงานลอยอยูํทั่วไปในอากาศ ง. ถ๎ายังมีฝุ่นและควันมากเชํนนี้ กรุงเทพฯ ก็คงมิใชํเมืองฟ้าอมรอีกตํอไป จ. สิ่งกํอสร๎างเหลํานี้เป็นตัวการสําคัญ ที่สกัดกั้น ไมํให๎ฝุ่นละอองกระจายไปในมุมกว๎าง ๒๕. ข๎อใดเว๎นวรรคตอนได๎ดีที่สุดในการเขียน ก. คําวํา/ปรัชญา/หมายถึง/บัตรที่แสดงวิทยฐานะ/ของผู๎สําเร็จการศึกษาขั้นปรัญญาแล๎ว ข. คุณยายคนนี้อายุ 90 กวํา/แล๎วแตํแข็งแรงมี/เดินเหินคลํองแคลํวไมํเคยเจ็บป่วยเป็นอะไรเลย ค. กาลยํอมลํวงไป/ราตรียํอมผํานไปวันและวัยยํอมลํวงลําดับไป/ผู๎เห็นภัยแหํงมรณะฟังทําบุญอันนําสุขมาให๎ ง. ในวาระขึ้นปีใหมํนี้/ขอให๎ทํานและครอบครัวจงเจริญด๎วยจตุรพิธพร/คือ/อายุ/วรรณะ/สุขะ/พละ/เป็นนิตย๑เทอญ จ. บริษัทการบินสํารองที่นั่งไว๎เผื่อบุคคลสําคัญที่/มีความจําเป็นจะต๎องเดินทางอยํางกะทันหัน/และไมํได๎จองที่นั่งไว๎ลํวงหน๎า ๒๖. ข๎อใดควรเป็นคํานําของเรียงความเรื่อง “เกาะพีพี” ก . เกาะพีพีมีถ้ําไวกิ้งที่สวยงาม ข . เกาะพีพีเป็นหมูํเกาะที่สวยที่สุดแหํงหนึ่ง ค . เกาะพีพีเป็นเกาะที่มีน้ําทะเลใสสะอาดมาก ง . เกาะพีพีเป็นเกาะที่มีทิวทัศน๑โดยรอบงดงาม จ . เกาะพีพีสมควรได๎รับการยกยํองวําสวยงามที่สุด ๒๗. ข๎อใดมีการอธิบายจากผลไปหาเหตุ ก . ใครจะเอาเป็นผัวเขากลัวอาย หัวหูเหมือนควายที่ตกปลัก ข. ด๎วยเดชะพระเวทวิเศษประสิทธิ์ เผอิญคิดรักใครํพระทัยอํอน ค . ด๎วยขุนช๎างอ๎างวํารับสั่งให๎ ใครจะขัดขืนไว๎ก็กลัวผิด ง . ขุนช๎างชิงนางออกจากห๎อง ข๎าจึงลักวันทองเข๎าป่าใหญํ จ . ใครจะควรสูํสมอยูํกลมเกลียว ให๎เด็ดเดี่ยวรู๎กันแตํวันนี้ ๒๘. ข๎อใดมีประโยคภาษาตํางประเทศ ก. ทุก ๆ วันฉันจะไปโรงเรียนแตํเช๎าเพื่อไปรอเข๎าแถวเคารพธงชาติ “ฉันรักประเทศไทย” ข . สองสามเดือนตํอมา จําแหวนมากระซิบกระซาบกับผมในลานจอดรถอีกวําเป็นโรคกระเพาะ และขณะนี้อาการกําเริบ
  • 11. ๑๑ ค. ฉันเปิดประตูห๎องพักแล๎วออกมายืนที่ระเบียง ในเวลานั้นเองทํามกลางความสลัวรางของมํานฝน ฉันเห็นมันคํอย ๆ เอนตัวลงมาช๎า ๆ ง. ครอบครัวนริศเหมือนครอบครัวเขา ประหนึ่งถอดออกจากพิมพ๑เดียวกันคือพํอเป็นผู๎นําก็จริงแตํเป็น เมืองขึ้นของแมํโดยตลอด จ. เมื่อสุดสาคร อายุ ๓ ปี ได๎พบสัตว๑ประหลาดตัวหนึ่งอยูํในถ้ํา ตัวเป็นม๎าสีดําแตํหน๎าเหมือนมังกร และหางเหมือนพญานาคมีเขี้ยวเป็นเพชร เกล็ดเป็นนิล ลิ้นเป็นปาน ๒๙. ข๎อใดไมํมีการเปรียบ ก. แมลงภูํคูํเคียงวําย เห็นคล๎ายคล๎ายนําเชยชม ข. ปลาทุกทุกข๑อกกรม เหมือนทุกข๑พี่ที่จากนาง ค. งามทรงวงดั่งวาด งามมารยาทนาดกรกราย ง. สร๎อยทองยํองเยื้องชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร จ. สรมุขมุขสี่ด๎าน เพียงพิมานผํานเมฆา ๓๐. ข๎อใดขาดสัมพันธภาพในการเขียน ก. พิษณุโลกเป็นเมืองที่นําอยูํ ผู๎คนก็มีอัธยาศัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผํ ข. นอกจากได๎ทํองเที่ยวดูธรรมชาติริมคลองแล๎วทุกคนยังได๎กินก๐วยเตี๋ยวเรือที่ขายในคลองอีกด๎วย ค. ถึงแม๎น้ําประปาของไทยจะมีคุณภาพดี แตํก็ยังต่ํากวํามาตรฐานน้ําดื่มขององค๑การอนามัยโลก ง. หากผู๎ใดเกิดมาในครอบครัวที่เลี้ยงดูด๎วยความรัก ก็จะทําให๎ผู๎นั้นเติบโตอยํางมีความสุข มีจิตใจที่มั่นคง จ. รัฐบาลแถลงการณ๑ปราบปรามผู๎ลักลอบขนสินค๎าหนีภาษีแกํสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ เพื่อสํงเสริมจริยธรรม ของสังคม ๓๑. การเขียนเรียงความเรื่อง “น้ําดีน้ําเสีย”ควรจัดลําดับโครงเรื่องเนื้อหาตามข๎อใด ๑. น้ําเสียมีโทษอยํางไร ๒. วิธีกําจัดน้ําเสียและรักษาน้ําดีอยํางไร ๓. น้ําดีคืออะไร มีประโยชน๑อยํางไร ๔. น้ําดีกลายเป็นน้ําเสียเพราะอะไร ๕. น้ําเสียมีกี่ประเภท อะไรบ๎าง ก. ๑ ๒ ๓ ๕ ๔ ข. ๕ ๑ ๒ ๓ ๔ ค. ๔ ๑ ๒ ๓ ๕ ง. ๓ ๔ ๕ ๑ ๒ จ. ๓ ๔ ๕ ๒ ๑
  • 12. ๑๒ ๓๒. รายงานทางวิชาการสํวนใดใช๎ภาษาไมํเหมาะสม ๑) การเข้าพักอาศัยอยู่กับคนในหมู่บ้านทาให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนเหล่านั้น / ๒) นักวิจัยพบว่า ต้องทาตัวเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย คลุกคลีตีโมงกับชาวบ้านเพื่อสร้างความสนิทสนมคุ้นเคย / ๓) ปฏิบัติตาม กฎระเบียบของหมู่บ้าน เคารพสิทธิของเจ้าของพื้นที่ / ๔) ไม่ทาสิ่งที่ขัดแย้งกับข้อปฏิบัติของชุมชน และ ไม่ลบหลู่ความเชื่อของคนในท้องถิ่น ก. สํวนที่ ๑ ข. สํวนที่ ๒ ค. สํวนที่ ๓ ง. สํวนที่ ๔ จ. สํวนที่ ๑ และสํวนที่ ๒ ๓๓. ข๎อความสํวนใดเหมาะจะใช๎ในจดหมายกิจธุระ ๑) พร้อมกันนี้ผมขออนุญาตส่งเอกสารเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้ามาให้ดูเผื่อจะเป็นประโยชน์กับสมาชิก / ๒) ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องดาเนินการผลิตตามหลักการใหม่นี้จึงจะส่งสินค้ามาขายได้ / ๓) รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการพัฒนาสินค้ามีอยู่อีกมากที่ศูนย์ฯ ถ้าท่านจะแวะไปก็ยินดีต้อนรับ / ๔) หากท่านมีข้อข้องใจสามารถติดต่อได้ในเวลาทาการ ตามหมายเลขโทรศัพท์ท้ายจดหมายนี้ ก. สํวนที่ ๑ ข. สํวนที่ ๒ ค. สํวนที่ ๓ ง. สํวนที่ ๔ จ. สํวนที่ ๓ และ สํวนที่ ๔ ๓๔. ข๎อความตํอไปนี้เหมาะจะเป็นสํวนใดของเรียงความเรื่อง “อุดมการณ๑ของชาวจีนในเมืองไทย” ในบรรดากลุ่มชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองไทยดังกล่าว ชาวจีนแต้จิ๋วนับเป็นกลุ่มที่มีจานวน มากที่สุด รองลงมาเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน รองลงมาอีกคือชาวจีนไหหลาและชาวจีนกวางตุ้ง ส่วนชาวจีนแคระ นั้นมีจานวนน้อยที่สุด ก. สํวนนําเรื่อง ข. สํวนสรุปเรื่อง ค. การยกตัวอยําง ง. สํวนขยายความ จ. ประเด็นสําคัญของเรื่อง
  • 13. ๑๓ ๓๕. ข๎อใดไมํจําเป็นต๎องอ๎างถึงในการเขียนบรรณานุกรมทั้ง ๒ รายการ รศ.ดร.นววรรณ พันธุเมธา. ๒๕๔๙. คลังคา. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพฯ : บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่งจากัด(มหาชน). ๑๑๓๔ หน้า. ก. สํานักพิมพ๑ และ จํานวนหน๎า ข. ครั้งที่พิมพ๑ และ สํานักพิมพ๑ ค. นําหน๎าชื่อผู๎แตํง และ สํานักพิมพ๑ ง. คํานําหน๎าชื่อผู๎แตํง และ ครั้งที่พิมพ๑ จ. คํานําหน๎าชื่อผู๎แตํง และ จํานวนหน๎า ๓๖. ข๎อใดใช๎ภาษาเขียนที่ถูกต๎อง ก. การออกกําลังกายมีประโยชน๑ทําให๎หุํนเพรียวลมสมสํวน ข. การฉายภาพยนตร๑โทรทัศน๑เรื่องเดิม ๆ ซ้ํา ๆ ทําให๎คนดูเบื่อ ค. มัคคุเทศก๑พาคณะนักทํองเที่ยวนั่งรถชมวิวกํอนขึ้นภูกระดึง ง. นักแขํงจักรยานทีมชาติไทยประสบอุบัติเหตุในการแขํงขันทัวร๑ออฟไทยแลนด๑ จ . การคบคนดีเป็นศรีแกํตัว ทั้งที่พูดอยํางนี้คนที่ขาดปัญญาและขาดสติก็ยังหลงไปคบกับคนที่เลวอยูํได๎ ๓๗. ข๎อใดไมํมีลักษณะการเขียนแบบนิราศ ก. สาลิกามาตามคูํ ชมกันอยูํสูํสมสมร ข. เห็นฝูงยูงรําฟ้อน คิดบังอรรํอนรํากราย ค. สร๎อยทองยํองเยื้องชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร ง. นางนวลนวลนํารัก ไมํนวลพักตร๑เหมือนทรามสงวน จ. คับแคจับแคสันโดษเดี่ยว เหมือนเปลําเปลี่ยวคับใจในไพรกว๎าง ๓๘. ข๎อใดใช๎โวหารการเขียนตํางกับข๎ออื่น ก. เสียงผู๎คนตะโกนไปทั่ววํา“ทรงพระเจริญ”แสงแดดที่แผดกล๎ากลับรู๎สึกอบอุํนมีสายลมเย็นๆ แผํวผํานมา ข . เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น พร๎อมกับเสียงที่ทุกคนเปลํงออกมาวํา “ทรงพระเจริญ” ก็ดังก๎องไปทั่วบริเวณ ค. มองไปทางไหนเห็นแตํสีเหลืองอรํามสะพรั่งไปทั่วบริเวณ อาจมีสีอื่นบ๎างจากรํมกั้นกางกันแดด ดูเป็นสีกระดํากระดํางแซมปนอยูํ ง. เสียงเหํเรือก๎องกังวานตามผืนน้ํา ทํามกลางแสงอาทิตย๑ยามเย็นก็สาดแสงสีเหลืองทองจับเป็น ประกายบริเวณหมูํยอดเจดีย๑
  • 14. ๑๔ จ. ทั่วราวป่าสงัดเงียบจนนํากลัว เขาไมํกล๎าแม๎จะขยับตัวไลํยุงที่บินหวูํหวี่อยูํข๎างหูกํอนที่จะเกาะ กัดและกินเลือดของเขาจนอิ่ม ๓๙. ข๎อใดไมํนําจะเป็นสาเหตุที่ทําให๎มีการพูดประโยคตํอไปนี้ “นําจะดีนะ เราจะได๎ชํวยกันรักษาสิ่งแวดล๎อมด๎วย” ก. การอนุญาตให๎ค๎าขายบนทางเท๎าได๎โดยไมํมีวันหยุด ข. การณรงค๑ให๎ใช๎เตาเผาขยะแบบไร๎ควันพิษในโรงงาน ค. การประกาศให๎นิคมอุตสาหกรรมเป็นเขตปลอดมลพิษ ง. การเปลี่ยนสถานี ขนสํง เป็นสวนสาธารณะกลางเมือง จ. นักเรียนชํวยกันปลูกต๎นไม๎สองข๎างทางถนนของโรงเรียน ๔๐. สํานวนในข๎อใดไม่เกี่ยวกับการพูด ก. พอก๎าวขาก็ลาโรง ข. ปากหวานก๎นเปรี้ยว ค. ละเลงขนมเบื้องด๎วยปาก ง. ไปไหนมาสามวาสองศอก จ. น้ําร๎อนปลาเป็น น้ําเย็นปลาตาย ๔๑. ข๎อใดเป็นสถานการณ๑ที่แสดงวําการฟังไมํเกิดประสิทธิผล ก. พิชิตสรุปเนื้อหาที่ฟังได๎ทุกตอน ข. พิจารณ๑บันทึกข๎อคิดที่ได๎จากการฟัง ค. พิชัยเลําเรื่องที่ฟังให๎เพื่อนเข๎าใจชัดเจน ง. พิสุทธิ์ขบคิดวิธีแก๎ปัญหาเรื่องที่กําลังฟัง จ. พิเชษฐ๑บอกน้ําเสียงของผู๎พูดและตีความได๎ ๔๒. บุคคลในข๎อใดขาดมารยาทในการฟัง ก . สุชาดาสบตาอาจารย๑ขณะฟังบรรยาย ข . มารตีจดบันทึกหัวข๎อสําคัญที่ได๎จากการฟัง ค. ขณะฟังบรรยายมาลีมักจะซักถามตลอดเวลา ง. เมื่อวิทยากรเริ่มบรรยายสิรินาก็นั่งฟังอยํางตั้งใจ จ. กรองกาญจน๑ปรบมือเสียงดังหลังจากพิธีกรแนะนําผู๎บรรยาย
  • 15. ๑๕ ๔๓. ข๎อใดเป็นคําพูดที่เหมาะสมที่สุดของประธานในที่ประชุม ก. ผมเป็นคนพูดจริง ทําจริง เพราะฉะนั้นกิจกรรมนี้ผมจะเป็นคนดูแลเอง ข. ผมขอมอบให๎คุณสมชายเป็นฝ่ายเหรัญญิก คุณสมชายจะขัดข๎องไหม ค. เลขานุการของสมาคมขอลาออก ผมขอให๎ที่ประชุมเสนอชื่อผู๎ที่จะทําหน๎าที่นี้ เพื่อจะได๎มีมติแตํงตั้ง ตํอไป ง. ผมขอให๎ที่ประชุมพิจารณาเรื่องสถานที่ที่จะไปทัศนศึกษาและผมเสนอวําเราควรไปเขาค๎อ ผมเคย ไปมาแล๎วอากาศดีมาก จ . ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท๑ให๎จัดการประชุมวิชาการ เนื่องในโอกาส 72 พรรษา ผมจะทําโครงการเอง นะครับ จะได๎ตั้งงบประมาณได๎เร็ว ๔๔. ข๎อใดไม่มีคําสมาส ก. บทความบางเรื่องมีแผนภูมิประกอบ ข. คณะนาฎศิลป์ไทยไปแสดงตํางประเทศ ค. หนังสือที่มีอายุครบ 50 ปีแล๎วไมํมีคําลิขสิทธิ์ ง. ทหารที่สละชีพเพื่อชาติได๎รับการยกยํองให๎เป็นวีรบุรุษ จ. นักเรียนไทยมีภูมิปัญญาสู๎ชาวตํางชาติได๎สบาย ๔๕. พยางค๑สุดท๎ายของคําในข๎อใดมีลักษณะเป็นพยางค๑ปิดทั้งหมด ก. ระเรื่อ ผ๎าไหม ลําน้ํา ข. ชําแหละ ดื่มด่ํา คันไถ ค. เสียใจ จําใจ ทุกข๑ใจ ง . สมาธิ ล๎มเหลว เกมโชว๑ จ . ใจเบา สร๎างสรรค๑ หวั่นไหว ๔๖. ภรรยา : ไปเที่ยวทะเลกันนะคะ สามี : วันอะไรดี ภรรยา : นําไปซะศุกร๑นี้แหละ สามี : ก็ต๎องตระเตรียมของ คําสนทนานี้ หากนํามาจัดวรรคใหมํ จะได๎คําประพันธ๑ตามข๎อใด
  • 16. ๑๖ ก. กลอน ข . รํายยาว ค. กาพย๑ยานี ง. โคลงสี่สุภาพ จ . อินทรวิเชียรฉันท๑ ๔๗. กลุํมคําในข๎อใดเป็นนามวลีทั้งหมด ก. สุดสายป่าน รักในมํานเมฆ คูํกรรม ข. โรงเรียนของเรา สูงเทียมฟ้า วิมานดิน ค. ฟ้าเพียงดิน สุดแดนสยาม เด็กเลี้ยงแกะ ง. นกบนต๎นไม๎ วิ่งออกกําลังกาย ข๎างหลังภาพ จ . ผู๎บริหารโรงเรียน นายกสมาคม ทหารประจําการ ๔๘. คําภาษาอังกฤษในข๎อใดใช๎คําไทยแทนไมํได๎ ก. จินดาทําข๎อสอบหลายวันจนรู๎สึกเบลอไปหมด ข. จิตเสมอ ไปหาหมอเพื่อใช๎แสงเลเซอร๑รักษาผิวหน๎า ค . จินตหรา เป็นดีไซเนอร๑ประจําห๎องเล็กที่มีชื่อเสียง ง. จงใจเป็นวิสัญญีแพทย๑ระดับอินเตอร๑ของโรงพยาบาลนี้ จ. นักฟุตบอลไทยได๎โค๎ชจากตัวประเทศทําให๎เลํนดีขึ้น ๔๙. ข๎อความในข๎อใดมีเสียงสระประสมอยูํด๎วย ก. เสือสั่งฟ้า ข. รักปาฏิหาริย๑ ค. กุหลาบซาตาน ง. มงกุฎไร๎หนาม จ. สุดแตํใจจะไขวํคว๎า ๕๐. เสียงของพยางค๑ในข๎อใดมีโครงสร๎างตํางกับข๎ออื่น ก. ฝูง ข. เลย ค. บอด ง. ควาน จ. หลาก
  • 17. ๑๗ ๕๑. ข๎อใดมีคําที่แสดงวัจนภาษา ก. แม๎มากผิกิ่งไม๎ ผิวใครจะใครํลอง มัดกํากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน ข. นิ่งเงียบสงบงํา บมิทําประการใด ปรากฏประหนึ่งใน บุรวํางและร๎างคน ค. ปรึกษาหารือกัน ไฉนนั้นก็ทําเนา จักเรียกชุมนุมเรา บแลเห็นประโยชน๑เลย ง. ลูกขํางประดาทา รกกาลขว๎างไป หมุนเลํนสนุกไฉน ดุจกันฉะนั้นหนอ จ. บงเนื้อก็เนื้อเต๎น พิศเส๎นสรีรัว ทั่วรํางและทั้งตัว ก็ระริกระริวไหว ๕๒. ข๎อใดใช๎ภาษาระดับทางการ ก. ปีใหมํปีนี้ดูๆ แล๎วบรรยากาศเงียบเหงานะ ข . วิถีชีวิตไทยริมสองฝั่งน้ํากลับมาคึกคักอีกครั้ง ค. ถนนการลงทุนทุกสายตํางเรํงปัดฝุ่นเศรษฐกิจฟื้นจุดขาย ง . เมื่อกระบวนเหํเรือพระราชพิธีในแมํน้ําเจ๎าพระยาปิดฉากลง จ. กระทรวงการทํองเที่ยวและกีฬาสํงเสริมการทํองเที่ยวเชิงอนุรักษ๑ ๕๓. ข๎อใดไมํมีคําราชาศัพท๑ ก. ผมเปลือยเลื้อยประลงจนบํา งามปลายเกศาดูสมศรี ข. พระตรัสถามความอยํางราษฎร ฮ๎าเฮ๎ยดูกํอนอีวันทอง ค . จะกลําวถึงพระองค๑ผู๎ทรงเดช เสด็จคืนนิเวศน๑พอจวนค่ํา ง. ทอดพระเนตรมาเห็นขุนนางเฝ้า เออใครเอาฟ้องมันไปไว๎ไหน จ. มันก็จะสอดแนมแกมเท็จ ไปกราบทูลสมเด็จพระพันวษา ๕๔. ข๎อใดเป็นการแสดงทรรศนะ ก. ฉันได๎พบเรื่องขันอันแปลกยิ่ง แตํมิใชํเรื่องจริงดอกหนาทําน ข. ขอตอกย้ําการกระทําเหนือคําพูด ขอพิสูจน๑ตัวตนของคนแกรํง ค. เปลก็ไกวดาบก็แกวํงแข็งหรือไมํ ไมํอวดหยิ่งหญิงไทยมิใชํชั่ว ง. โจรผู๎ร๎ายหมายใจจะได๎ทรัพย๑ โปรดให๎สับทิ้งซากตากสถาน จ. ฝ่ายขุนนางกรมทําวํากระไร ละครในรําช๎าช๎าเป็นทําทาง
  • 18. ๑๘ ๕๕. ข๎อใดควรเป็นประเด็นหลักของการโต๎แย๎งในหัวข๎อ “ ขุดเจ๎าพระยา ๒ เพื่อป้องกันน้ําทํวมกรุงเทพฯ” ก. ป้องกันน้ําทํวมได๎จริงหรือ ข. ขุดคลองเจ๎าพระยาเพื่อใคร ค. ผลได๎ผลเสียจะคุ๎มกันหรือไมํ ง. เราขี่ช๎างจับตั๊กแตนกันหรือเปลํา จ. ควรตั้งชื่อคลองที่ขุดใหมํวําอะไร ๕๖. ข๎อใดมีคําประสมทุกคํา ก. ติดลม ติดใจ ติดขัด ข. น้ําไหล น้ํามือ น้ําตา ค. คําขาด คําคม คําราม ง. น้ําป่า น้ําไหล น้ํามือ จ. เดินแต๎ม เดินรถ เดินสะพัด ๕๗. ข๎อใดใช๎คําลักษณะนามไมํถูกต๎อง ก. รัฐบาลมีปัญหาเรํงดํวนที่ต๎องรีบแก๎ไขหลายเรื่อง ข. เขาสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของหนํวยงานได๎ครบทุกข๎อ ค. คณะกรรมการกําลังพิจารณาคําขวัญที่สํงเข๎าประกวด ๕๐ บท ง. นักวิชาการเสนอข๎อคิดเห็นไว๎ในบทสรุปของรายงานหลายประการ จ. บุญมาอํานหนังสือเรียนทุกวัน เขาอยากเข๎าเรียนในมหาวิทยาลัยให๎ได๎ ๕๘. ข๎อความตํอไปนี้มีบุพบทและสันธานกี่คํา คนไทยสมัยโลกาภิวัตน๑ได๎เปรียบคนไทยรุํนกํอนในด๎านที่มีความรู๎กว๎างขวาง เพราะสามารถแสวงหา ความรู๎ได๎จากแหลํงตํางๆ ทั้งหนังสือ วิทยุ โทรทัศน๑ และคอมพิวเตอร๑ ก. บุพบท ๑ คํา สันธาน ๓ คํา ข. บุพบท ๒ คํา สันธาน ๓ คํา ค. บุพบท ๑ คํา สันธาน ๔ คํา ง. บุพบท ๒ คํา สันธาน ๔ คํา จ. บุพบท ๓ คํา สันธาน ๔ คํา ๕๙. ข๎อใดเป็นประโยคความซ๎อน ก. สุภาพสตรีผู๎รักสวยรักงามก็ต๎องศึกษาข๎อมูลทางอินเทอร๑เน็ตกํอน ข. ปัจจุบันระบบอินเทอร๑เน็ตมีบทบาทอยํางมากทั้งในหมูํวัยรุํนและวัยผู๎ใหญํ
  • 19. ๑๙ ค. ทุกวันนี้เราจะสังเกตเห็นวํามีอินเทอร๑เน็ตคาเฟ่แฝงอยูํในธุรกิจหลายประเภท ง. โลกของอินเทอร๑เน็ตมีสารประโยชน๑ ความบันเทิง ความรู๎ และการสื่อสารมากมาย จ. ในร๎านอาหาร โรงแรม สปา ห๎างสรรพสินค๎า และโรงพยาบาลบางแหํงมีมุมของอินเทอร๑เน็ตคาเฟ่ทั้งนั้น ๖๐. ข๎อใดมีเสียงพยัญชนะท๎ายพยางค๑ทุกคํา ก. ฉันจะไปเที่ยวทะเลในวันหยุด ข. เขาทํางานจนภารโรงปิดห๎อง ค. คุณยายเป็นลมเมื่ออํานจดหมายจบ ง. ต๎นกล๎วยริมรั้วลวดหนามออกเครือแล๎ว จ. ภาคใต๎ได๎รับความเสียหายจากคลื่นยักษ๑ ๖๑. ข๎อใดไมํมีคําพ๎องความหมาย ก . ไอยรา ราชสีห๑ กุญชร ข . ลําธาร ชลาสินธุ๑ มัจฉา ค . เทเวศร๑ อัจฉรา สุรารักษ๑ ง . สิงขร เวหาสน๑ วนาดร จ . อนงค๑ กัลยา ดรุณี ๖๒. ข๎อใดเขียนคําทับศัพท๑ภาษาอังกฤษได๎ถูกต๎องทุกคํา ก. เปอร๑เซ็น พลาสติค คลินิก ข. ซอส เต็นท๑ เบ็นซิน ค. กร๏าฟ ช๎อค สปริง ง. สวิตซ๑ เชิ๊ต ดีเปรสชั่น จ. โน๎ต แสตมป์ เค๎ก ๖๓. “สัมพันธภาพระหวํางเขากับเธอถึงจุด...................กันเสียแล๎ว” ก. แตกร๎าว ข. แตกหัก ค. แตกดับ ง. แตกยับ จ. แตกแยก
  • 20. ๒๐ ๖๔. “ถึงยากจนอยํางไรก็ไมํวํา แตํพร๎าขัดหลังมาจะยกให๎ อุตสําห๑ทํามาหากินไป รู๎ทํารู๎ได๎ด๎วยงํายดาย ” ผู๎กลําวข๎อความนี้เป็นคนอยํางไร ก. ชอบคนจน ข. ชอบคนวํางําย ค. ชอบคนมีความรู๎ ง. ชอบคนขยันทํามาหากิน จ. ชอบคนที่มีอุปกรณ๑ในการทํามาหากิน ๖๕. พายุกระพือโหม คระโครมโครมทุกคืนค่ํา กล๎ายืนแลกล๎าย่ํา จึ่งรู๎กลวิธียืน คําประพันธ๑นี้ชี้ให๎เห็นทรรศนะของผู๎เขียนวําคนที่สามารถดํารงชีวิตให๎ดีอยูํได๎นั้นจะต๎องมีบุคลิกลักษณะ เชํนไร ก. มีความแข็งแกรํง ข. มีความแข็งขัน ค. มีความแข็งแรง ง. มีความแข็งกล๎า จ. มีความแข็งกร๎าว ๖๖. ข๎อใดใช๎คําเลียนเสียงธรรมชาติได๎ชัดเจนที่สุด ก. รอนรอนสุริยโอ๎ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ําแล๎ว ข. เรียมร่ําน้ําเนตรถ๎วม ถึงพรหม พาหมูํสัตว๑จํอมจม ชีพม๎วย ค. ครืนครืนใชํฟ้าร๎อง เรียมครวญ หึ่งหึ่งใชํลมหวน พี่ไห๎ ง. สุริยจันทร๑ขจาย จากโลก ไปฤๅ ไฟแลํนล๎างสี่หล๎า หํอนล๎างอาลัย
  • 21. ๒๑ จ. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมูํ ตัวเดียวมาพลัดคูํ เหมือนพี่อยูํเพียงเอกา ๖๗. ข๎อใดไมํใชํการแสดงภาพพจน๑ด๎วยวิธีอุปลักษณ๑ ก. เป็นเวรกรรมจึงจําจากขอฝาก ขอฝากม าหยารัศมี ข . แม๎เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง ค. เจ๎าเป็นถ้ําอําไพของให๎พี่ เป็นราชสีห๑สิงสูํเป็นคูํสอง ง. แม๎เนื้อเย็นเป็นห๎วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา จ. จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคูํครองพิศวาสทุกชนิดไป ๖๘. ข๎อใดมีคําอัพภาส ก. เย็นเยียบทุกถิ่นทั่ว ณ ยามพัสสะโปรยปราย ข . พระพายรําเพยพัดมารี่เรื่อยอยูํเฉื่อยฉิว ค. พระทัยนางให๎หวั่นหวาดพะวงหลัง ง. เหมือนหนึ่งน้ําพลอยพร๎อยอยูํพรายพราย จ. ยะเหยาะเหยําทุกฝียํางไมํหยํอนหยุด ๖๙. บทกวีตํอไปนี้ เดํนที่สุดในด๎านใด มีสองขามายืนบนผืนภพ มีตาครบคูํสมองมาสํองหน มีสองมือถือพิทักษ๑รักคําตน มีกมลมาเพื่อเชื่อตนเอง ก . แนวคิด ข . อารมณ๑ ค. โวหาร ง. จิตนาการ จ. ความคิดสร๎างสรรค๑ ๗๐. ข๎อใดแสดงความเชื่อต่างจากข๎ออื่น ก. ใต๎เตียงเสียงหนูก็กุกกก แมงมุมทุํมอกที่ริมฝา ข. จับดาบเคยปราบณรงค๑รบ เสร็จครบบริกรรมคาถา ค. แล๎วทําผงอิทธิเจเข๎าเจิมพักตร๑ คนเห็นคนทักรักทุกหน๎า ง. สีขี้ผึ้งสีปากกินหมากเวทย๑ ซึ่งวิเศษสารพัดแก๎ขัดสน จ. ที่ทําแค๎นกูจะแทนให๎ทันตา ขอษมาแมํแล๎วก็ขับพราย
  • 22. ๒๒ ส่วนที่ ๒ แบบเลือกคําตอบจากแตํละกลุํมที่มีความสัมพันธ๑กัน ให๎เลือกคําตอบตามลักษณะ ที่กําหนดในหมวด ก และ ข ให๎ถูกต๎อง จํานวน ๑๐ ข๎อ ข๎อ ๗๑ – ๘๐ ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๑๐ คะแนน ๗๑. เรียงลําดับข๎อความตํอไปนี้แล๎วตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ๑) ในสมัยโบราณผู๎พูดภาษาเดียวกันมีจํานวนน๎อย ๒) และอยูํรวมกันเป็นกลุํมเดียวอาจเป็นเพราะจํานวนพลเมืองมีมากขึ้น ๓) หรือหนีภัยธรรมชาติ หรือเกิดโรคระบาด ๔) ตํอมามีเหตุตํางๆ ทําให๎คนที่พูดภาษาเดียวกันนั้นต๎องแยกย๎ายไปอยูํตํางถิ่น ๕) เมื่อเวลาผํานไปนานเข๎า ภาษาของคนที่อยูํในแตํละถิ่นจึงเปลี่ยนแปลงไป กลุํม ก เมื่อเรียงลําดับแล๎ว ข๎อใดเป็นลําดับที่ ๒ กลุํม ข เมื่อเรียงลําดับแล๎ว ข๎อใดเป็นลําดับสุดท๎าย ก. ข๎อ ๑ ข. ข๎อ ๒ ค. ข๎อ ๓ ง. ข๎อ ๔ จ. ข๎อ ๕ ก. ข๎อ ๑ ข. ข๎อ ๒ ค. ข๎อ ๓ ง. ข๎อ ๔ จ. ข๎อ ๕ ๗๒. จงเลือกคําในข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ที่เหมาะสมจะเติมลงในชํองวํางตามลําดับ ในตอนต๎นของพิธี อธิการบดี__ก.__ เกี่ยวกับการผลิตบัณฑิตประจําปี ในตอนท๎ายของพิธีสมเด็จพระนางเจ๎า ฯ พระบรมราชินีนาถ __ข.__ แกํบัณฑิตในหอประชุม กลุํม ก กลุํม ข ก. กราบทูลรายงาน ข. กราบทูลถวายรายงาน ค. กราบบังคมทูลรายงาน ง. กราบบังคมทูลถวายรายงาน จ. กราบถวายบังคมทูลรายงาน ก. พระราชทานพระราชดํารัส ข. พระราชทานพระราชเสาวนีย๑ ค. พระราชทานพระราโชวาท ง. พระราชทานพระบรมราโชวาท จ. พระราชทานพระบรมราชเสาวนีย๑
  • 23. ๒๓ ๗๓. จงเลือกคําในข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ที่เหมาะสมจะเติมลงในชํองวํางตามลําดับ หลังจากกรรมการมาครบ __ก__ แล๎ว ประธานขอให๎ที่ประชุมพิจารณา __ข.__ ครั้งที่แล๎ว เมื่อไมํมี การแก๎ไขที่ประชุมมีมติรับรอง กลุํม ก กลุํม ข ก. ตามรายชื่อ ข. จํานวน ค. องค๑ประชุม ง. องค๑คณะ จ. ประชุม ก. เอกสารการประชุม ข. รายงานการประชุม ค. หัวข๎อการประชุม ง. ระเบียบวาระการประชุม จ. บันทึกการประชุม ๗๔. ใช๎ข๎อความตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ได๎ฟังหลานทํานยําน้ําตาตก สะอื้นอกอาดูรวําทูนหัว กลุํม ก ข๎อความข๎างต๎นมีพยางค๑ที่ปรากฏเสียงพยัญชนะ ท๎ายกี่พยางค๑ กลุํม ข ข๎อความข๎างต๎นมีคําที่รูปวรรณยุกต๑ไมํตรงกับ เสียงวรรณยุกต๑กี่คํา ก. ๙ พยางค๑ ข. ๑๐ พยางค๑ ค. ๑๑ พยางค๑ ง. ๑๒ พยางค๑ จ. ๑๓ พยางค๑ ก. ๓ คํา ข. ๔ คํา ค. ๕ คํา ง. ๖ คํา จ. ๗ คํา
  • 24. ๒๔ ๗๕. ใช๎ข๎อความตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข. ๑. พระอุตสําห๑เงือดงดสะกดจิต ๒. มิได๎คิดมุํงมาดปรารถนา ๓. แกล๎งทําสํารวมหลับตา ๔. ก๎มหน๎านิ่งอยูํไมํดูไป ๕. บ๎านเมืองเรํงหาปัญญาครอง กลุํม ก ข๎อใดประกอบด๎วยคําหรือพยางค๑ที่ขึ้นต๎นด๎วย เสียงพยัญชนะต๎นเดี่ยวทั้งหมด กลุํม ข ข๎อใดมีเสียงสระประสม ก. ข๎อ ๑ ข. ข๎อ ๒ ค. ข๎อ ๓ ง. ข๎อ ๔ จ. ข๎อ ๕ ก. ข๎อ ๑ และ ข๎อ ๒ ข. ข๎อ ๓ และ ข๎อ ๔ ค. ข๎อ ๑ และ ข๎อ ๓ ง. ข๎อ ๒ และ ข๎อ ๔ จ. ข๎อ ๔ และ ข๎อ ๕ ๗๖. ใช๎ข๎อมูลบรรณานุกรมตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ ก. และ ข๎อ ข. รศ. ดร.สุนันท๑ อัญชลีนุกูล. 2548. ระบบคําภาษาไทย. พิมพ๑ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ:โครงการ เผยแพรํผลงานวิชาการ คณะอักษรศาสตร๑ จุฬาลงกรณ๑มหาวิทยาลัย. กลุํม ก ข๎อใดไมํจําเป็นต๎องใสํไว๎ในการเขียน บรรณานุกรมข๎างต๎น กลุํม ข ในการเรียงลําดับบรรณานุกรม ชื่อผู๎แตํงในข๎อ ใดควรเรียงตํอจากบรรณานุกรมข๎างต๎น ก. คํานําหน๎าชื่อผู๎แตํง ข. ครั้งที่พิมพ๑ ค. ปีที่พิมพ๑ ง. หนํวยงานที่พิมพ๑เผยแพรํ จ. ชื่อหนังสือ ก. รัชนีย๑ญา กลิ่นน้ําหอม._________ ข. รุจนี วิรานันท๑.________ ค. สุวคนธ๑ จงตระกูล._______ ง. สุนารี ภวภูตานนท๑ฯ._______ จ. รัชนีวรรณ สวงโท.______
  • 25. ๒๕ ๗๗. ข๎อใดเหมาะจะเติมลงชํองวํางในโคลงสองสุภาพ ๒ บทนี้ ความเจ็บกายบอบช้ํา บวมเบํงบ๎างเขียว ___ก.___ ดั่งบ๎ายหมึกมอม รํางกาย ____ข.____เหือดแห๎ง เขําขัดเหยียดขาแข๎ง ขัดข๎องกีดขวาง กลุํม ก กลุํม ข ก. เข๎ม ข. ขํา ค. คล้ํา ง. แกํ จ. เป่ง ก. ซูบ ข. ผอม ค. เหี่ยว ง. พร๎อม จ. เซียว ๗๘. ๑)ปัจจุบันหัตถกรรมที่ผลิตจากกระดาษเส๎นใยพืชกําลังได๎รับความนิยมอยํางกว๎างขวางนอกจากกระดาษสา แล๎ว ยังมีเส๎นใยจากพืชอื่น ๆ อีก เชํน ใยสับปะรด กาบกล๎วย เปลือกข๎าวโพด มูลช๎าง ฟางข๎าว ผักตบชวา ฯลฯ ๒) เพราะเป็นผลิตภัณฑ๑ที่แลเห็นความสวยงามของเส๎นใยจากธรรมชาติ ๓) วัสดุจากธรรมชาติเหลํานี้มีอยูํ มากมายในเมืองไทย เป็นการเพิ่มมูลคําด๎วยวิธีงําย ๆ จากภูมิปัญญาท๎องถิ่น ๔) ลงทุนน๎อย เกิดประโยชน๑ ตํอสิ่งแวดล๎อม มีการสร๎างงานสร๎างรายได๎ให๎แกํท๎องถิ่น กลุํม ก สาระสําคัญของข๎อความ กลุ่ม ข ผู๎เขียนมุํงจะสนับสนุนการพัฒนาในด๎านใด ก. ส่วนที่ ๑ และ ๒ ข. ส่วนที่ ๒ และ ๓ ค. ส่วนที่ ๓ และ ๔ ง. ส่วนที่ ๑ และ ๔ จ. ส่วนที่ ๒ และ ๔ ก. ศิลปะของงานหัตถกรรม ข. การผลิตกระดาษจากเส๎นใยธรรมชาติ ค. ภูมิปัญญาท้องถิ่น ง. อาชีพของชุมชน จ. ปลูกพืชที่ได๎รับความนิยมจากทั่วโลก
  • 26. ๒๖ ๗๙. ใช๎ข๎อความตํอไปนี้ตอบคําถาม ๑ พระอาจารย๑ถวายพระอักษรพระเจ๎าลูกเธอในรัชกาลที่ ๒ และเป็นกวีในราชสํานักที่พระองค๑โปรดมาก ๒ กวีผู๎เป็นเลิศในการแตํงกลอนแปด มีผลงานทั้งประเภทนิราศ นิทาน บทละคร บทเสภาและสุภาษิต ๓ เกิดในรัชกาลที่ ๑ บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน๎อย ในปัจจุบัน ถวายตัวเป็นข๎าในกรมพระราชวังหลัง ตั้งแตํยังเด็ก ๔ ในรัชกาลตํอมาไมํได๎รับราชการจึงออกบวช ได๎รับพระอุปการะจากสมเด็จฯ เจ๎าฟ้ากรมขุนอิศเรศ รังสรรค๑ ชํวงนี้แตํงวรรณคดีไว๎หลายเรื่อง ๕ องค๑การยูเนสโกประกาศยกยํองให๎เป็นบุคคลสําคัญที่มีผลงานดีเดํนทางด๎านวัฒนธรรมระดับโลก กลุ่ม ก ข๎อใดเป็นการเรียงลําดับข๎อมูลที่เหมาะสมสําหรับ เรียงความเรื่อง “สุนทรภูํกวีเอกของโลก” กลุ่ม ข ข๎อมูลสํวนใดมีความสําคัญน๎อยที่สุดสําหรับเรียงความ เรื่อง “สุนทรภูํ กวีเอกของโลก” ก. ๓ - ๕ - ๒ - ๑ - ๔ ข. ๒ - ๓ - ๑ - ๔ - ๕ ค. ๒ - ๕ - ๓ - ๑ - ๔ ง. ๓ - ๑ - ๔ - ๒ – ๕ จ. ๔ – ๑ – ๒ – ๕ – ๓ ก. สํวนที่ ๑ ข. สํวนที่ ๓ ค. สํวนที่ ๔ ง. ส่วนที่ ๕ จ. ส่วนที ๒ ๘๐. อํานคําประพันธ๑ตํอไปนี้ แล๎วตอบคําถาม งานก็ต๎องถูกงด น้ําตาทํวมรถที่ผํอนมาหลายปี มองปิ๊กอัพถูกยึด รถเครื่องถูกยึดบ๏ายบายเพื่อนซี้ วันหลังถ๎ามีเวลา จะซื้อเอ็งกลับมาอีกที กลุํม ก คําประพันธ๑ข๎างต๎นใช๎ภาพพจน๑ตามข๎อใด กลุํม ข คําประพันธ๑ข๎างต๎นไมํสะท๎อนปัญหาด๎านใด ก. อติพจน๑ และ บุคคลวัต ข. สัญลักษณ๑ และ อุปลักษณ๑ ค. บุคคลวัต และ สัญลักษณ๑ ง. อุปลักษณ๑ และ อติพจน๑ จ. สัญลักษณ์ และ อติพจน์ ก. สังคม ข. แรงงาน ค. ครอบครัว ง. เศรษฐกิจ จ. การเมือง
  • 27. ๒๗ ข้อสอบ Pre O-net ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย ................................................................................................................ โครงสร้างข้อสอบ กรอบโครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สาระที่ มาตรฐาน รูปแบบข้อสอบ รวมเลือกตอบ กลุ่มสัมพันธ์ ข้อที่ จานวน ข้อที่ จานวน ๑. การอําน ท๑.๑ ๑ – ๒๐ ๒๐ ๗๑,๗๘ ๒ ๒๒ ๒. การเขียน ท๒.๑ ๒๑ – ๓๘ ๑๘ ๗๓,๗๖,๗๙ ๓ ๒๑ ๓. การฟัง การดูและการพูด ท๓.๑ ๓๙ – ๔๓ ๕ ๐ ๐ ๕ ๔. หลักการใช๎ภาษา ท๔.๑ ท๔.๒ ๔๔ – ๖๒ ๖๓ – ๖๕ ๑๙ ๓ ๗๒,๗๔,๗๕,๗๗ ๐ ๔ ๐ ๒๓ ๓ ๕. วรรณคดีและวรรณกรรม ท๕.๑ ๖๖ – ๗๐ ๕ ๘๐ ๑ ๖ รวม ๗๐ ๑๐ ๘๐
  • 28. ๒๘ เฉลยข้อสอบ Pre O-net ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย ๑ ค ๒๑ ข ๔๑ ง ๖๑ ง ๒ ก ๒๒ ข ๔๒ ค ๖๒ จ ๓ ง ๒๓ จ ๔๓ ค ๖๓ ข ๔ ค ๒๔ ค ๔๔ ก ๖๔ ง ๕ ข ๒๕ ง ๔๕ จ ๖๕ ง ๖ ง ๒๖ ข ๔๖ จ ๖๖ ค ๗ จ ๒๗ ก ๔๗ จ ๖๗ ก ๘ ข ๒๘ ค ๔๘ ข ๖๘ จ ๙ ค ๒๙ ก ๔๙ ง ๖๙ ก ๑๐ จ ๓๐ จ ๕๐ ง ๗๐ ก ๑๑ จ ๓๑ ง ๕๑ ค ๗๑ ง,จ ๑๒ ก ๓๒ ข ๕๒ จ ๗๒ ค,ค ๑๓ ค ๓๓ ง ๕๓ ก ๗๓ ค,ข ๑๔ จ ๓๔ ง ๕๔ ค ๗๔ ข,ข ๑๕ ง ๓๕ จ ๕๕ ก ๗๕ ง,ค ๑๖ ก ๓๖ ง ๕๖ จ ๗๖ ก,ง ๑๗ ก ๓๗ ก ๕๗ ค ๗๗ ค,ข ๑๘ ข ๓๘ ข ๕๘ ข ๗๘ ง,ข ๑๙ ก ๓๙ ก ๕๙ ค ๗๙ ข,ข ๒๐ ค ๔๐ ก ๖๐ ข ๘๐ ก,ค
  • 29. ๒๙ ทดสอบ Pre O-net ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๙ ชื่อ.......................................................นามสกุล............................................เลขที่............................ห๎อง ม.๖/............ โรงเรียน.......................................................อําเภอ...................................................จังหวัด......................................... ...................................................................................................................................................................................... ส่วนที่ ๑ แบบปรนัย ๕ ตัวเลือก ข๎อ ก ข ค ง จ ข๎อ ก ข ค ง จ ข๎อ ก ข ค ง จ ข๎อ ก ข ค ง จ ๑ ๒๑ ๔๑ ๖๑ ๒ ๒๒ ๔๒ ๖๒ ๓ ๒๓ ๔๓ ๖๓ ๔ ๒๔ ๔๔ ๖๔ ๕ ๒๕ ๔๕ ๖๕ ๖ ๒๖ ๔๖ ๖๖ ๗ ๒๗ ๔๗ ๖๗ ๘ ๒๘ ๔๘ ๖๘ ๙ ๒๙ ๔๙ ๖๙ ๑๐ ๓๐ ๕๐ ๗๐ ๑๑ ๓๑ ๕๑ ๑๒ ๓๒ ๕๒ ๑๓ ๓๓ ๕๓ ๑๔ ๓๔ ๕๔ ๑๕ ๓๕ ๕๕ ๑๖ ๓๖ ๕๖ ๑๗ ๓๗ ๕๗ ๑๘ ๓๘ ๕๘ ๑๙ ๓๙ ๕๙ ๒๐ ๔๐ ๖๐
  • 30. ๓๐ ส่วนที่ ๒ แบบเลือกคาตอบจากแต่ละกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กัน ข้อ ๗๑ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๕ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๙ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๒ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๖ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๘๐ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๓ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๗ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๔ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ ข้อ ๗๘ กลุ่ม ก กลุ่ม ข ก ก ข ข ค ค ง ง จ จ