More Related Content
More from supaporn20146 (12)
P bl1
- 1. แบบบันทึกการศึกษาค้นคว้าและการแก้ปัญหา
โจทย์ปัญหา PBL …1…. เรื่อง ………ประวัติและขั้นตอนการเขียนโปรแกรม……..
รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น ง30201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สมาชิกในกลุ่ม
1. นาย กนกศักดิ์ เรือนทอง เลขที่ 2
2. นางสาว กรองกานต์ ชะอุ่มพันธ์ เลขที่ 18
3. นางสาว สุภาภรณ์ แถมศรี เลขที่ 19
ภารกิจ
1. กลุ่มของนักเรียนพบปัญหาจากสถานการณ์นี้มีสาเหตุมาจากสิ่งใด และต้องแก้ปัญหานี้อย่างไร
(1 คะแนน)
2. จากสถานการณ์ปัญหา ที่กล่าวมาแล้วนั้น นักเรียนสามารถอธิบายถึงประวัติและจุดเด่นของ
ภาษาซี (2 คะแนน)
3. กรณีที่นักเรียนจะเลือกเป็นตัวแปลภาษา นักเรียนควรเริ่มต้นจากศึกษาตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
แบบคอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์ก่อน แล้วจึงเลือกเป็นตัวแปลภาษา พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ (2
คะแนน)
- 2. ตอนที่ 1
หัวข้อปัญหา ..............ประวัติและขั้นตอนการเขียนโปรแกรม........................
ทาความเข้าใจปัญหา ......ศึกษาข้อมูลตามที่สถานการณ์กาหนดให้ เพื่อใช้ตอบคาถามในภารกิจ.......
- สิ่งที่ต้อ งการรู้ ...ประวัติของภาษาซีและความแตกต่างระหว่างตัวแปลภาษาคอมพิ วเตอร์แบบ
คอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์...
- วิธีการหาคาตอบ ...ค้นคว้าในอินเตอร์เน็ต...
- แหล่งข้อมูล .... http://www.dekdev.com - วันที่ 10 สิงหาคม 2555....
http://www.lks.ac.th/kuanjit/Program_C/ProgramC_10.htm - วันที่ 10 สิงหาคม
2555
หนังสือเรียนคอมพิวเตอร์พื้นฐาน
คุณครูผู้สอน
การศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหา
ชื่อสมาชิก การแบ่งหน้าที่ แหล่งข้อมูล/อ้างอิง
นาย กนกศักดิ์ เรือนทอง ค้นหาข้อมูล http://www.dekdev.com
นางสาวกรองกานต์ ชะอุ่มพันธ์ จัดทาเอกสาร http://www.lks.ac.th/kuanjit/Program_C
นางสาว สุภาภรณ์ แถมศรี จัดทาเอกสาร http://www.dekdev.com
ตอนที่ 2 สรุปผลการศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหาตามภารกิจ
1. กลุ่มของนักเรียนพบปัญหาจากสถานการณ์นี้มีสาเหตุมาจากสิ่งใด และต้องแก้ปัญหานี้อย่างไร
ตอบ ปัญหาที่เกิดคือ ไม่สามารถดาเนินงานได้ตามวัตถุประสงค์ของคุณครู เกิดจากความ
ไม่เข้าในคาสั่งและสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพราะการสอบถามกับคุณครูทั้งด้วยตนเองและผ่านทางSocial
Network
2. จากสถานการณ์ปัญหา ที่กล่าวมาแล้วนั้น นักเรียนสามารถอธิบายถึงประวัติและจุดเด่นของ
ภาษาซี
ตอบ กาเนิดภาษาซี-ภาษาซีเกิดขึ้นในปี ค . ศ .1972 ผู้คิดค้นคือนายเดนนีส ริทชี (Dennis
Ritchi) การศึกษาภาษาซีถือว่าเป็นพื้นฐานในการศึกษาภาษาใหม่ ๆ ได้
จุดเด่นในภาษาซีคือ
1. เป็นภาษาที่มีลักษณะเป็นโครงสร้างจึงเขียนโปรแกรมง่าย โปรแกรมที่เขียน
ขึ้นจะทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง สั่งงานคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ
2. สั่งงานอุปกรณ์ในระบบคอมพิวเตอร์ได้เกือบทุกส่วนของฮาร์ดแวร์ซึ่ง
ภาษาระดับสูงภาษาอื่นทางานดังกล่าวได้น้อยกว่า
- 3. 3. คอมไพเลอร์ ภ าษาซี ทุก โปรแกรมในท้ อ งตลาดจะท างานอ้ า งอิ ง มาตรฐาน
(ANSI= American National Standards Institute) เกือบทั้งหมด จึงทาให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาซี
สามารถนาไปใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ทุกรุ่นที่มาตรฐาน ANSI รับรอง
4. โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาซีสามารถนาไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้
ซีพียูต่างเบอร์กันได้ หรือกล่าวได้ว่าโปรแกรมมีความยืดหยุ่น (portabiliy) สูง
5. สามารถนาภาษาซีไปใช้ในการเขียนโปรแกรมประยุกต์ได้หลายระดับเช่น เขียน
โปรแกรมจัดระบบงาน (OS) คอมไพเลอร์ของภาษาอื่น โปรแกรมสื่อสารข้อมูลโปรแกรมจัดฐานข้อมูล
โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์(AI = Artificial Inteeligent) รวมทั้งโปรแกรมคานวณงานทางด้านวิทยาศาสตร์
และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น
6. มีโปรแกรมช่วย (tool box) ที่ช่วยในการเขียนโปรแกรมมาก และราคาไม่แพง
หาซื้อได้ง่าย เช่น vitanin c หรืออื่น ๆ
7. สามารถประกาศข้อมูลได้หลายชนิดและหลายรูปแบบ ทาให้สะดวกรวดเร็วต่อ
การพัฒนาโปรแกรมตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้8. ประยุกต์ใช้ในงานสื่อสารข้อมูล และงานควบคุมที่ต้องการ
ความแม่นยาในเรื่องเวลา (real time application) ได้ดีกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ หลาย ๆ ภาษา9. สามารถเขียน
โปรแกรมด้วยเทคนิคแบบโอโอพี (OOP = Object Oriented Programming) ได้หากใช้ภาษาซีรุ่น TURBO
C++ ขึ้นไป ทาให้สามารถพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เพื่อใช้งานได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
3. กรณีที่นักเรียนจะเลือกเป็นตัวแปลภาษา นักเรียนควรเริ่มต้นจากศึกษาตัวแปล
ภาษาคอมพิวเตอร์แบบคอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์ก่อน แล้วจึงเลือกเป็นตัวแปลภาษา พร้อมทั้งให้
เหตุผลประกอบ
ตอบ เมื่อได้ศึกษาถึงรายละเอียดและความสามารถในการทางานของตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์แบบ
คอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์แล้ว สามารถสรุปได้เป็นตาราง ดังนี้
อินเตอร์พรีเตอร์ คอมไพเลอร์
1. แปล source code ทีละคาสั่ง และทาตาม 1. แปล source code ต้นฉบับให้เสร็จก่อน ค่อย
คาสั่งนั้นทันที ทาตามคาสั่งในโปรแกรม
2. ทางานในรูปแบบวนทางานซ้า ๆ และจะ 2. การทางานลักษณะวนทางานซ้า ๆ จะทางาน
ทาให้ทางานช้า เพราะจะต้องแปลทีละคาสั่งทีละ เร็ว เพราะจะเอาออปเจ็กโปรแกรมที่ผ่านการคอมไพล์
รอบ แล้วไปใช้
3. ใช้เนื้อที่ในหน่วยความจาน้อย 3. ใช้เนื้อที่ในหน่วยความจามาก
4. เมื่อพบข้อผิดพลาดต้องแก้ไขทีละคาสั่ง 4. เมื่อพบข้อผิดพลาดจะแสดงข้อผิดพลาด
ถึงจะทางานต่อได้ ทั้งหมดหลังคอมไพล์เสร็จสิ้น
5. ใช้กับภาษา พีเอชพี (PHP) เอพีแอล 5. ใช้กับภาษาซี (C) ซีชาร์ฟ(C#) โคบอล
- 4. (APL) เบสิก (BASIC) เป็นต้น (COBOL)
ที่มาตาราง : http://www.dekdev.com
กลุ่มของข้าพเจ้าเลือกที่เป็นตัวแปลภาษาแบบ คอมไพเลอร์ (Compiler) เพราะ มีความ
รวดเร็วในการทางาน สามารถแสดงข้อผิดพลาดทั้งหมดออกมาได้ โดยที่ไม่ต้องแก้ไขไปทีละตัวและน่าจะมี
ความยืดหยุ่นในการเข้ากับภาษาอื่นได้ดีกว่า ถึงแม้จะมีพื้นที่ในหน่วยความจามากก็ตาม